Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เฉลยข้อสอบสัมภาษณ์ พระอภิธรรม ชั้น มหาอาภิธรรมมิกะโท

เฉลยข้อสอบสัมภาษณ์ พระอภิธรรม ชั้น มหาอาภิธรรมมิกะโท

Published by WATKAO, 2021-01-12 01:42:14

Description: ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๔๓-๒๕๖๑
อภิธรรมโชติกะวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ชั้น มหาอาภิธรรมมิกะโท

Keywords: มหาอาภิธรรมมิกะโท

Search

Read the Text Version

เฉลยขอสอบสมั ภาษณพ ระอภิธรรม ภาคเรยี นท่ี ๒ ปก ารศึกษา ๒๕๔๒-๖๑ อภธิ รรมโชตกิ ะวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั ช้นั มหาอาภิธรรมมกิ ะโท สอบวนั อาทติ ย ท่ี ...... ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕....... วิชา : อายตนยมกะ, ธาตยุ มกะ และสจั จยมกะ ๖ ขอ ๓๐ คะแนน เวลา ๑๕ นาที. (วันท่ี ๓) อายตนยมกะ และ ธาตยุ มกะ ๑. ตามกี ่ีอยาง คืออะไรบา ง ? และตาปญญามีก่ีอยา ง คืออะไรบาง ? ใหบอกมาดวยความหมาย ? 42 ตอบ ตา มี ๖ อยา ง คือ ปญญาจกั ขุ ตาปญญามี ๕ มังสจักขุ ตาเน้ือมี ๑ ไดแก ประสาทตาของสตั วทั้งหลาย รวมเปน ๖ ตาปญญามี ๕ คอื ๑. พทุ ธฺ จกฺขุ ไดแ ก อาสยานสุ สยญาณ อนิ ทริยปโรปรยิ ตั ตญิ าณ อาสยานุสสยญาณ รอู ธั ยาศยั ความเปนไปของ สตั วทง้ั หลาย เหมือนบวั สเี่ หลา และทรงทราบอัชฌาสยั ของสัตวเ หลา นน้ั วา ผูน้คี วรแสดงธรรมบท ใดท่ีจะถูกตอ งตอจริตของสัตวน้ัน เชน ทรงทราบอชั ฌาสยั ของ พระจูฬปน ถกลกู ศิษยข องพระสารี บุตร และสจั จนิครนถ เปน ตน วาจะตอ งทรงโตตอบวาทะอยา งนี้ๆ อนิ ทริยปโรปริยัตติญาณ รู อนิ ทรียข องสตั วที่แกกลา และยงั ไมแ กกลา ๒. สมนฺตจกฺขุ ทรงรรู อบคอบทุกอยาง ไดแ ก สัพพญั ุตญาณ คอื ปญ ญาเจตสกิ ที่ในมหากิรยิ าญาณสัมปยตุ ตจิต ดวงที่ ๑ (เญยธรรมทัง้ ๕) ๓. ญาณจกขฺ ุ ไดแก อรหัตตมรรคญาณ (รูท าง ๗ สาย กอ นจะถงึ อรหตั ตมรรค รูประโยชน ๓) ๔. ธมมฺ จกขฺ ุ ดวงตา คือ พระธรรม ไดแ ก มรรคญาณเบ้อื งต่ํา ๓ ๕. ทพิ พฺ จกขฺ ุ อภญิ ญาทงั้ ๒ ไดแก รปู ปญ จมฌานกุศล ๑ กิรยิ าจิต ๑ ๑. จงแสดงองคธรรมของคําดงั ตอไปนี้ ? 42(4), 46(3), 49, 54, 55, 56, 59 ปฐมวชิ าญาณ ทุติยวิชาญาณ ตติยวิชาญาณ รปู กาย นามกาย ปญญาคนั ธะ อรรถรส ธรรมรส วิมุตติรส ? 42, 49, 54, 59, 60 รปู กาย นามกาย ปญญาคนั ธะ อรรถรส ธรรมรส ? 55, 56 ตอบ ปฐมวิชาญาณ ไดแ ก ปพุ เพนวิ าสญาณ ปญญาคันธะ ไดแก สัมมาทฏิ ฐิ สมั มาสังกปั ปะ ทตุ ยิ วชิ าญาณ ไดแก ทิพพจักขญุ าณ อรรถรส ไดแ ก ผลจติ ตปุ บาท ๔ ตตยิ วชิ าญาณ ไดแ ก อาสวกั ขยญาณ ธรรมรส ไดแก มรรคจิตตปุ บาท ๔ รูปกาย ไดแ ก รูป ๒๘ วมิ ุตตริ ส ไดแ ก นพิ พาน นามกาย ไดแ ก จิต ๘๙ เจตสกิ ๕๒ นพิ พาน ๑. ก. กายมีก่ีอยาง คืออะไรบาง ? จงบอกมาพรอมดวยองคธรรม ? 50, 53, 57, 58, 61 ตอบ ก. กาย มี ๔ อยา ง คือ ๑. นามกาย ไดแก จิต ๘๙ เจตสกิ ๕๒ นิพพาน ๒. รปู กาย ไดแก รปู ๒๘ ๓. บัญญัติกาย ไดแก สมหู บญั ญตั ิ เชนกองชาง กองมา กองทพั เปน ตน ๔. กายปสาท ไดแก กายายตนะ ๑. ก. คาํ วา “รปู ” องคธรรมไดแ กอ ะไร ? แตกตางจากองคธ รรมของรปู ายตนะ ท่ตี รงไหน ? 45 ตอบ ก. รปู องคธรรมไดแก ปย รูป สาตรูป คือ โลกียจิต ๘๑ เจตสิก ๕๒ รูป ๒๘ ซ่ึงเปนที่นารกั นายนิ ดีและ เปน อารมณข องตัณหาได แตกตา งจากองคธ รรมของรปู ายตนะท่ี โลกียจิต ๘๑ เจตสิก ๕๒ รูป ๒๗ (เวน รปู ารมณ) ๑. ก. คนั ธะมกี ี่อยาง คอื อะไรบา ง ? จงบอกมาพรอมความหมาย ? 51, 61(ข) ตอบ ก. คนั ธะ มี ๔ อยา ง คือ สีลคันธะ สมาธิคนั ธะ ปญ ญาคันธะ, อายตนะคันธะ

อายตนยมกะ, ธาตุยมกะ และสัจจยมกะ 69 ใน ๔ อยางน้ี เวน อายตนคันธะเสยี แลว คนั ธะท้งั ๓ นน้ั มิใชเปนตัว “กล่ิน” แตเ รียกวากลิ่นนน้ั เพราะหอ มฟุงขจรทวั่ ไปท้ังตามลม และทวนลม สว นอายตนคนั ธะน้ัน เปน ตัวกลิ่น ๑. ข. คนั ธะ มกี ี่อยาง คืออะไรบา ง ? จงบอกมาพรอ มดวยองคธรรม ? 43(ก), 50, 53, 57, 58 ตอบ ข. คนั ธะ มี ๔ อยา ง คือ ๑. สีลคนั ธะ คอื สัมมาวาจา สมั มากมั มันตะ สมั มาอาชีวะ ๒. สมาธิคนั ธะ คือ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สมั มาสมาธิ ๓. ปญ ญาคนั ธะ คอื สมั มาทฏิ ฐิ สมั มาสงั กัปปะ ๔. คนั ธารมณ ๑. ข. จงวิสชั นาเปน ภาษาไทย และบอกองคธรรมในคาํ ปจุ ฉาน้ี คนฺโธ, คนธฺ ายตนนตฺ ิ ? 45 ตอบ ข. วิสชั นา สลี คนั ธะ สมาธิคนั ธะ ปญ ญาคนั ธะ ชอื่ วา คนั ธะ แตไ มช อ่ื วา คนั ธายตนะ, คันธายตนะชอ่ื วาคนั ธะก็ใช ชอื่ วา คันธายตนะก็ใช ใน อนุ.ป.ุ อ.สัน. ไดแก สีลคันธะ คอื สัมมวาจา สัมมากมั มันตะ สัมมาอาชีวะ สมาธิคันธะ คือ สมั มาวายามะ สมั มาสติ สัมมาสมาธิ ปญ ญาคนั ธะ คอื สัมมาทิฏฐิ สมั มาสงั กปั ปะ และคนั ธารมณ อ.สงั .ไดแก คันธารมณ เทานัน้ ฯ ๑. ข. รสะ มีกี่อยาง คอื อะไรบา ง ? จงบอกมาพรอมความหมาย ? 43, 51 ตอบ ข. รสะ มี ๔ อยาง คือ อรรถรสะ, ธรรมรสะ, วิมุตติรสะ อายตนรสะใน ๔ อยางนี้ อรรถรสะ ธรรมรสะ วมิ ตุ ติรสะ ทเี่ รยี กวารสะนน้ั เพราะพระอริยเจาทง้ั หลายมคี วามยินดีพอใจในธรรมเหลา น้ี ๑. ค. รสะ มกี ่ีอยางคืออะไรบา ง ? จงบอกมาพรอมดว ยองคธรรม ? 50, 53, 57, 58, 61 ตอบ ค. รสะ มี ๔ อยา ง คือ ๑. อรรถรสะ คอื ผลจติ ตปุ ปาท ๔ ๒. ธรรมรสะ คอื มรรคจิตตุปปาท ๔ ๓. วิมตุ ติรสะ คือ พระนพิ พาน ๔. รสารมณ ๑. จงบอกองคธ รรมของคําถามดังตอ ไปน้ี ? 52 อรรถรสะ ธรรมรสะ วิมตุ ตริ สะ ช่ือวารสะ แตไ มชือ่ วารสายตนะ, รสายตนะชือ่ วา รสะกใ็ ช ชอ่ื วา รสายตนะก็ใช ตอบ องคธ รรมไดแก อรรถรสะ คือ ผลจิตตปุ บาท ๔ ธรรมรสะ คอื มรรคจิตตปุ บาท ๔ วิมตุ ติรสะ คอื พระ นพิ พาน หรอื อกี นยั หนงึ่ อรรถรสะ คอื ปรมตั ถธรรม มีกศุ ลธรรม อกุศลธรรม เปน ตน (เวน รสารมณ) ธรรมรสะ คอื วจเี ภทสัททะ มี กสุ ลา ธมฺมา อกุสลา ธมมฺ า เปนตน วิมตุ ตริ สะ คือพระนพิ พาน และ รสารมณ ๑. ค. จงวสิ ัชนา แปล และบอกองคธรรมในปจุ ฉาดงั ตอ ไปนี้ = น ธมฺโม, น ธมมฺ ายตนนตฺ ิ ? 51 ๑. ค. จงวิสชั นา แปล และบอกองคธ รรมในปุจฉาดงั ตอ ไปนี้ น ธมฺโม น ธมฺมายตนนฺติ ของปทโสธนวาระ ? 43 ตอบ ค. ว.ิ อามนตฺ า ใช ใน อนุ.ป.ุ อ.สัน.และอ.สงั ไดแ ก เอกเทสบญั ญัติ เชนบอ นาํ้ ถ้าํ , ตา หู ตน โพธ์ิ ตน ไทร เปนตน ๒. ในอายตนยมกะ ธาตยุ มกะ สัจจยมกะ มีวาระใหญๆ อยูก ี่วาระ คืออะไรบา ง บอกมาพรอ มความหมาย ? 42 ตอบ มวี าระใหญๆ อยู ๓ วาระ คอื ๑. ปณ ณตั ตวิ าระ แสดงเพ่ือใหรู ปรยิ ตั ตญิ าณ ๒. ปวตั ติวาระ แสดงเพอื่ ใหรู วิปส สนาญาณ ๓. ปรญิ ญาวาระ แสดงเพ่ือใหรู มัคคญาณ  ดาวนโหลดขอมูลตา งๆที่ ขอความเพม่ิ เตมิ Youtube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ที่แปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

อายตนยมกะ, ธาตยุ มกะ และสัจจยมกะ 70 ๒. จงบอกองคธ รรมของคําถามตอไปนี้ ? 48, 57, 59, 60(3) ก. ภมู ทิ จี่ ักขายตนะกาํ ลงั เกิด แตกายายตนะไมเคยเกดิ มีก่ภี มู ิ คอื ภมู อิ ะไรบาง ? 48, 57, 59, 61 ข. ภมู ทิ ีร่ ูปธาตุเคยเกดิ แตร สธาตุจักไมเ กิด มกี ่ภี มู ิ คอื ภูมอิ ะไรบา ง ? 48, 57, 59, 61 ค. ภมู ทิ ร่ี ปู ายตนะเคยเกิด แตก ายายตนะจักไมเกิด มีก่ภี ูมิ คอื ภมู ิอะไรบาง ? 48, 57, 59, 61 ง. ภูมิที่คนั ธายตนะก็จกั เกิด รสายตนะกจ็ ักเกดิ มกี ี่ภูมิ คอื ภมู ิอะไรบา ง ? 48, 57, 59, 61 ตอบ ก. มี ๑๕ ภมู ิ คือ รปู ภมู ิ ๑๕ (เวนอสัญญสัตตภมู ิ ๑) ค. มี ๑๖ ภมู ิ คือ รปู ภูมิ ๑๖ ข. มี ๑๖ ภมู ิ คือ รูปภูมิ ๑๖ ง. มี ๑๑ ภูมิ คือ กามภมู ิ ๑๑ ๓. จงวิสัชนา (พรอ มคาํ แปล) และแสดงองคธรรมในปุจฉา ดังตอ ไปนี้ ? 43, 44(2), 45, 50, 52, 54, 57, 58(2) ก. จักขายตนะเคยเกิดในภูมิใด, โสตายตนะกเ็ คยเกิดในภมู ิน้นั ใชไ หม ? ข. จกั ขายตนะไมเ คยเกิดในภูมใิ ด, โสตายตนะกจ็ กั ไมเ กิดในภูมนิ ั้นใชไหม ? ค. มนายตนะไมใ ชกาํ ลังเกดิ แกบุคคลใด, ธัมมายตนะก็ไมเคยเกดิ แกบุคคลนน้ั ใชไหม ? ตอบ ก. วิสัชนา อามนฺตา ใช องคธรรมของ สนั .และสงั . ไดแ ก ปญจโวการภูมิ ๒๖ ข.วิสัชนา อามนฺตา ใช องคธ รรมของสัน.และสงั .ไดแ ก อสญั ญสตั ตภมู ิ ๑ อรูปภมู ิ ๔ ค. วสิ ชั นา อุปปฺ ชฺชิตถฺ เคยเกดิ ใน อนุ.ป.ุ องคธ รรมของสันนฏิ ฐานบท ไดแ ก ปุ ๔ ผล ๔ ซง่ึ กาํ ลงั ตายใน ๓๑ ภูมิ ที่เรียกวา ภงั คักขณะสมังคขี อง จุติจิต ๑๙ เจตสิก ๓๕ กัมมชรปู ชีวติ นวกกลาป ทีด่ ับครง้ั สดุ ทา ย สุ ๑ ซงึ่ กาํ ลังเกดิ ในอสญั ญสตั ตภมู ิ ทเ่ี รยี กวา อปุ ปาทขณะสมงั คีของชีวิตนวกกลาป ทเ่ี กิดในขณะแรก องคธรรมของสงั สยบท ไมม ี ๒. ก. ภมู ทิ ี่ รูปายตนะกาํ ลังเกดิ แตกายายตนะไมเคยเกดิ มกี ่ภี ูมิ คือภมู ิใดบาง ? 50 ข. ภูมิที่ มนายตนะก็กําลังดับ ธมั มายตนะก็กาํ ลังดับ มกี ่ภี ูมิ คือภมู ิใดบาง ? 50 ค. ภูมิท่ี ทกุ ขสัจจะจกั เกดิ แตสมทุ ยสจั จะจักไมด ับ มกี ีภ่ มู ิ คือภมู ิใดบา ง ? 50 ง. ภมู ิที่ ทุกขสจั จะจักไมเ กดิ แตส มุทยสัจจะจกั เกดิ มีก่ีภมู ิ คือภูมใิ ดบา ง ? 50 ตอบ ก. มี ๑๖ ภูมิ คอื รูปภมู ิ ๑๖ ค. มี ๑ ภมู ิ คอื อสญั ญสัตตภูมิ ๑ ข. มี ๓๐ ภมู ิ คือ จตโุ วการภมู ิ ๔ ปญ จโวการภมู ิ ๒๖ ง. ไมมี ๒. จงวสิ ัชนา พรอมคําแปล แสดงองคธรรมไมต อ งจาํ แนกโกฏฐาสะ ในยมกะดงั ตอไปน้ี ? 46, 51, 55, 56(3) ก. ยตถฺ วา ปน ฆานายตนํ อปุ ปฺ ชชฺ ติ ถฺ , ตตฺถ จกขฺ ายตนํ อปุ ปฺ ชชฺ ติ ฺถาติ ? 51, 55, 56(3) ข. ยตถฺ จกฺขายตนํ นปุ ปฺ ชชฺ ติ ถฺ , ตตฺถ ธมฺมายตนํ นุปฺปชชฺ ติ ถฺ าติ ? 51, 55, 56(3) ค. ยตถฺ มนายตนํ นปุ ฺปชชฺ ต,ิ ตตฺถ ธมฺมายตนํ นปุ ฺปชชฺ ตีติ ? 51, 55, 56(3) ง. ยตฺถ วา ปน ธมมฺ ายตํ นุปฺปชชฺ สิ ฺสต,ิ ตตฺถ มนายตนํ นปุ ปฺ ชฺชติ ฺถาติ ? 46 จ. ยตฺถ วา ปน รปู ายตนํ นปุ ปฺ ชชฺ ิสฺสต,ิ ตตถฺ จกขฺ ายตนํ นปุ ปฺ ชฺชสิ สฺ ตีติ ? 46 ตอบ ก. วสิ ัชนา อามนฺตา ใช ในปฏิโลมปุจฉา องคธรรมของสันนฏิ ฐานบท ไดแ ก กามภมู ิ ๑๑ // องคธ รรมของสังสยบท เหมอื นกนั ตอบ ข. วิสชั นา อปุ ปฺ ชชฺ ิตถฺ เคยเกดิ ในอนุโลมปจุ ฉา องคธ รรมของสันนฏิ ฐานบท ไดแก อสญั ญสัตตภมู ิ ๑ อรูปภมู ิ ๔ // องคธ รรมของสงั สยบท ไมมี ตอบ ค. วิสัชนา อุปปฺ ชชฺ ติ กําลงั เกิด องคธรรมของสันนฏิ ฐานบท ไดแ ก อสญั ญสตั ตภมู ิ ๑ // องคธ รรมของสงั สยบท ไมม ี ตอบ ง. วิสชั นา นตฺถิ ไมมี องคธรรมของสันนฏิ ฐานบท ไมม ี เมื่อองคธรรมของสนั นิษฐานบทไมมแี ลว // อ.ธ. สัง ก็ไมม ีเหมือนกนั ตอบ จ. วิสัชนา อามนฺตา ใช  ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆท่ี ขอความเพ่ิมเติมYoutube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

อายตนยมกะ, ธาตยุ มกะ และสจั จยมกะ 71 องคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบท อรปู ภมู ิ ๔ // องคธรรมของสังสยบท เหมือนกนั ๑. จงแสดงบุคคลทอ่ี ายตนะบกพรองไดแ ละไมไดม าตามลําดับ ? 42, 46 ๒. จงแสดงบุคคลที่อายตนะบกพรอ งได และไมไ ดมาตามลําดับ ขอ ๑ ถึง ๕ ? 52 /ขอ ๑ ถึงขอ ๖ ? 54 ตอบ ๑. บุคคลท่มี จี กั ขุ และโสตะบกพรองได แตอายตนะทเี่ หลอื ๙ บกพรอ งไมไ ดน น้ั ไดแ ก ทคุ คติอเหตุกบคุ คล ท่เี ปนโอปปาติกะจําพวกเดยี วเทานนั้ ๒. บคุ คลทม่ี ี จักขุ โสตะ ฆานะ ท้ัง ๓.บกพรองได แตอายตนะทีเ่ หลอื ๘ บกพรองไมไ ดน น้ั ไดแก ทุคคติอเหตุกบคุ คล ๑ สคุ ตอิ เหตกุ บคุ คล๑ ทีเ่ ปน สงั เสทชะ และคพั ภเสยยกะจําพวกเดยี วเทานนั้ ๓. ผจู ะตายในระหวา งอายตนะทัง้ ๔ คอื จักขุ โสตะ ฆานะ ชวิ หา ยังเกดิ ไมครบนนั้ ไดแก ทุคคตอิ เหตุกบคุ คล ๑ สุคติอเหตกุ บคุ คล ๑ ทีเ่ ปน คัพภเสยยกะ ซง่ึ กําลังเกดิ จาํ พวกเดยี วเทา นน้ั ๔. รปู าวจรอุปปชชนั ตบคุ คล (เวน อสัญญสัตตพรหม) อายตนะทง้ั ๕ คอื จักขุ โสตะ รปู ะ มนะ ธมั มะกาํ ลัง เกดิ อายตนะทีเ่ หลอื ๖ ไมใ ชกาํ ลงั เกิด (52) ๕. อสญั ญสตั ตอุปปช ชันตบุคคล รูปะ และ ธมั มะท้ังสองกําลังเกิด อายตนะทเ่ี หลอื ๙ ไมใชก ําลงั เกิด (54) ๖. อรปู าวจรอปุ ปช ชันตบคุ คล มนะและธมั มะ ทง้ั สองกําลงั เกิด อายตนะทเ่ี หลอื ๙ ไมใชกาํ ลงั เกดิ ๗. กามาวจรอปุ ปชชนั ตบุคคล อายตนะ ๑๑ กาํ ลังเกดิ (เวนสทั ทะ) ๘. จวันตบคุ คลทั้งหมด อายตนะ ๑๑ (เวนสัททะ) ไมใ ชกําลงั เกดิ ๙. กามธาตุยํ ปน อฆานโก โอปปาติโก นตถฺ ิ สว นในกามภมู ิ ผทู ่ีปฏิสนธิเปน โอปปาติกะนั้น ฆานปสาทบกพรองยอ มไมม ี ๓. จงบอกถึงผทู ่ีมีอายตนะบกพรอ งไดและไมได ดงั ตอ ไปน้ี โดยบคุ คลาธิษฐาน และธัมมาธษิ ฐาน ? ก. ผทู ีม่ จี ักขุ โสตะ ฆานะ ท้ัง ๓ บกพรอ งไดแตอ ายตนะทีเ่ หลอื ๘ บกพรองไมได ? ข. ผทู ่ีอายตนะทั้ง ๕ คือ จกั ขุ โสตะ รูปะ มนะ ธัมมะ กาํ ลังเกิด อายตนะ ทเี่ หลือ ๖ ไมใ ชกําลังเกิด ? 43(2), 44(1), 47, 48, 49(2), 55 ตอบ ก. ผูท ่มี จี ักขุ โสตะ ฆานะ ท้งั ๓ บกพรองได แตอายตนะทเ่ี หลอื ๘ บกพรอ งไมไ ด โดยปคุ คลาธิษฐาน ไดแ ก ทุคคตอิ เหตกุ บคุ คล ๑ สคุ ตอิ เหตกุ บุคคล ๑ ที่เปน สงั เสทชะ คพั ภเสยยกะ อนั จักขุ หรือโสตะ ฆานะ เกิดไมไ ด ซงึ่ กาํ ลังเกิดในกามภมู ิ โดยธัมมาธิษฐาน ไดแ ก ทเ่ี รยี กวาอุปปาทกั ขณะสมงั คขี องอเหตุกปฏิสนธจิ ิต ๒ เจตสกิ ๑๐ กมั มชกลาป ๓-๖ ตอบ ข. ผูท อ่ี ายตนะท้งั ๕ คือ จักข,ุ โสตะ, รูปะ, มนะ, ธมั มะ กาํ ลงั เกิด อายตนะท่ีเหลอื ๖ ไมใชกาํ ลงั เกิด โดยปคุ คลาธิษฐาน ไดแก ตเิ หตุกบุคคล ๑ ผลเสกขบคุ คล ๓ ซง่ึ กําลงั เกดิ ในรูปภูมิ โดยธัมมาธษิ ฐาน ไดแ ก ที่เรยี กวาอปุ ปาทกั ขณะสมงั คขี องรปู าวจรปฏิสนธจิ ิต ๕ เจตสกิ ๓๕ กมั มชกลาป ๔ กาล๑ ๒. บคุ คลเชน ไร ในภมู ไิ หน ? จกั ขายตนะกไ็ มใชกาํ ลังเกิด กายายตนะกไ็ มใชก ําลงั เกิด ? 51(3), 56, 59, 60 ๒. บุคคลเชน ไร ในภมู ิไหน ? โสตายตนะก็ไมใ ชก าํ ลังเกิด กายายตนะก็ไมใชกาํ ลงั เกิด ? 45 ตอบ ป.ุ ๔ ผล. ๔ ซง่ึ กาํ ลงั ตายใน ๓๑ ภมู ิ ทีเ่ รียกวา ภงั คักขณะสมังคีของจตุ จิ ิต ๑๙ เจตสกิ ๓๕ กมั มชรปู ชวี ิตนวกกลาปทดี่ ับครั้งสดุ ทา ย กบั ๓๑ ภมู ิ ส.ุ ๑ ติ. ๑ ผลเสกขบคุ คล ๓ ซง่ึ กาํ ลงั เกิดในอสญั ญสตั ตภูมิ อรูปภมู ิ ทเ่ี รียกวา อุปปาทกั ขณะสมงั คีของ อรปู าวจรปฏสิ นธจิ ติ ๔ เจตสิก ๓๐ ชวี ิตนวกกลาปที่เกดิ ในขณะแรก กับอสญั ญสัตตภมู ิ ๑ อรูปภูมิ ๔ กาล ๒ ๒. จงวิสชั นาพรอ มคําแปล และแสดงองคธ รรมในปจุ ฉาดงั ตอไปน้ี ? 47, 53, 58, 61 ก. ยสสฺ จกฺขายตนํ อปุ ปฺ ชชฺ ติ ถฺ , ตสฺส โสตายตนํ อปุ ปฺ ชชฺ ติ ถฺ าติ ? 47, 53, 58, 61 ข. ยสฺส จกขฺ ายตนํ นุปปฺ ชฺชติ ถฺ , ตสสฺ โสตายตนํ นปุ ฺปชชฺ ติ ถฺ าติ ? 47, 53, 58, 61  ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆท่ี ขอความเพมิ่ เตมิ Youtube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

อายตนยมกะ, ธาตยุ มกะ และสจั จยมกะ 72 ตอบ ก. วิสชั นา อามนฺตา ใช (ในอนุโลม ปจุ ฉา องคธ รรมของสันนษิ ฐานบท และองคธ รรมของสังสยบท/) องคธ รรมของสันนฏิ ฐานบทและสงั สยบท ไดแ ก ป.ุ ๔ ผลบคุ คล ๔ ซงึ่ กาํ ลังเกดิ และกาํ ลงั ตายใน ๓๑ ภูมิ ข. วสิ ชั นา นตถฺ ิ ไมม.ี (ในอนุโลม ปจุ ฉา/) องคธ รรมของสันนฏิ ฐานบท ไมม ี เมอ่ื องคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบทไมมีแลว องคธ รรมของสังสยบท ก็ไมม เี หมอื นกนั ๓. จงแสดงวสิ ัชนา พรอมทง้ั คําแปลและองคธรรมในขอ ปุจฉาภาษาไทย ดังตอไปน้ี ? 42, 44 ก. ฆานายตนะเคยเกิดแกบคุ คลใดในภูมิใด, ธัมมายตนะก็เคยเกิดแกบ คุ คลนน้ั ในภมู ิน้นั ใชไ หม ? 42, 44 ตอบ แสดงวิสัชนา พรอ มทั้งคําแปลและองคธ รรมดังน้ี ก. ว.ิ อามนตฺ า ใช ใน อนุ.ป.ุ องคธรรมของสันนฏิ ฐานบทไดแ ก ปถุ ุชน ๔ ผลบคุ คล ๔ ซง่ึ กาํ ลงั เกิดและกาํ ลงั ตายในกามภูมิ กบั กามภูมิ ๑๑ // องคธรรมของสงั สยบท เหมือนกนั ๓. จงแสดงวิสัชนา พรอ มท้ังคําแปลและองคธรรมในขอปุจฉาภาษาไทยดงั ตอ ไปนี้ ? 44, 50 หรือวา มนายตนะเคยเกิดแกบ คุ คลใดในภมู ิใด, ฆานายตนะก็เคยเกดิ แกบ คุ คลนัน้ ในภมู นิ ้นั ใชไ หม ? 44, 50 ตอบ แสดงวิสชั นา พรอ มท้งั คาํ แปลและองคธ รรมดงั น้ี ว.ิ รูปาวจรานํ อรปู าวจรานํ เตสํ ตตฺถ มนายตนํ อปุ ปฺ ชชฺ ิตฺถ โน จ เตสํ ตตถฺ ฆานายตนํ อุปปฺ ชชฺ ิตฺถ, กามาวจรานํ เตสํ ตตฺถ มนายตนจฺ อปุ ปฺ ชชฺ ติ ฺถ ฆานายตนฺจ อปุ ปฺ ชชฺ ิตถฺ . แปล เมือ่ บคุ คลเหลา นั้นเกิดอยูในรปู ภมู ิ อรปู ภูมิ ในภูมนิ นั้ มนายตนะเคยเกดิ แตฆานายตนะ ไมเ คยเกิดแกบ คุ คล เหลา น้นั ในภมู ิน้นั เมอื่ บุคคลเหลา นนั้ เกิดอยูในกามภมู ใิ นภมู ินั้น มนายตนะกเ็ คยเกิด ฆานายตนะ ก็เคยเกดิ ในปฏิ.ปุ. องคธ รรมของสันนฏิ ฐานบทไดแ ก ติเหตุกปถุ ชุ น ๑ ผลบคุ คล ๔ ซง่ึ กาํ ลงั เกิดและกําลังตายในรปู ภมู ิ อรปู ภมู ิ กับรปู ภูมิ ๑๐ อรูปภมู ิ ๔ (เวน สทุ ธาวาสภมู ิ ๕ อสัญญสตั ตภมู ิ ๑) และ ปถุ ชุ น ๔ ผลบุคคล ๔ ซง่ึ กําลงั เกดิ และกาํ ลงั ตายในกามภูมิกบั กามภูมิ ๑๑ องคธ รรมของสงั สยบทไดแก องคธ รรมหมวดหลงั เทา นั้น กาล ๓ ๓. จงวิสชั นา และแสดงองคธรรมในปจุ ฉาดังตอไปน้ี ? 47 ก. ยสฺส วา ปน ยตถฺ ธมฺมายตนํ อุปปฺ ชฺชิสสฺ ต,ิ ตสสฺ ตตถฺ รปู ายตนํ อุปปฺ ชชฺ ิสฺสตตี ิ ? 47 ตอบ ก. ว.ิ อรปู านํ เตสํ ตตถฺ ธมฺมายตนํ อปุ ฺปชชฺ สิ สฺ ติ โน จ เตสํ ตตฺถ รปู ายตนํ อุปฺปชชฺ สิ สฺ ต,ิ ปฺจโวการานํ อสฺ สตตฺ านํ เตสํ ตตถฺ ธมมฺ ายตนจฺ อปุ ฺปชชฺ สิ ฺสติ รูปายตนฺจ อุปปฺ ชฺชสิ สฺ ต.ิ ในปฏิโลมปจุ ฉา อ.สัน. ไดแ ก ติ ๑ ผลเสกข ๓ ซ่ึงกาํ ลงั เกดิ และกําลงั ตายในอรูปภมู ิ และจะเกิดในภูมิทต่ี นเกิดอยอู กี กบั อรูปภมู ิ ๔ และ ป.ุ ๔ ผลเสกข ๓ ซ่ึงกําลังเกิดและกําลังตายในปญจโวการภูมิ และจะเกิดในภมู ิท่ตี นเกิดอยูอีก กับปญจโว- การภูมิ ๒๑ (เวน สุทธาวาสภมู ิ ๕) ส.ุ ๑ ซ่ึงกําลังเกดิ และกาํ ลงั ตายในอสญั ญสตั ตภูมิ และจะเกดิ ในอสญั ญสตั ตภมู ิอีก กับอสัญญสัตตภูมิ ๑ องคธ รรมของสงั สยบท ไดแก องคธ รรมหมวดหลงั เทา นนั้ ๓. จงวิสัชนา และแสดงองคธรรมในปจุ ฉาดงั ตอ ไปน้ี ? 47 ข. ยสสฺ ยตฺถ มนายตนํ อุปปฺ ชชฺ ิสสฺ ติ, ตสสฺ ตตถฺ ธมมฺ ายตนํ อปุ ฺปชชฺ สิ สฺ ตีติ ? 47 ตอบข. ว.ิ อามนฺตา ใช อ.สนั และ อ.สัง ไดแก ป.ุ ๔ ผลเสกขะ ๓ ซ่งึ กําลงั เกิดและกําลงั ตายในจตโุ วการภูมิ ปญ จโวการภมู แิ ละจะเกิดในภูมิท่ตี นเกดิ อยูอกี กับจตโุ วการภูมิ ๔ ปญจโวการภูมิ ๒๑ (เวน สทุ ธาวาสภมู ิ ๕) กาล ๔ / กาล ๕ / กาล ๖ สจั จยมกะ  ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆที่ ขอความเพ่มิ เตมิ Youtube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่ีแปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

อายตนยมกะ, ธาตยุ มกะ และสัจจยมกะ 73 ๔. จงบอกองคธรรมของคาํ วา ทุกฺข,ํ มคฺโค ? 50 ๔. จงบอกองคธรรมของคาํ วา ทุกฺขํ, นโิ รโธ, มคโฺ ค ฯ ? 45, 58 ๔. จงบอกองคธ รรมของคําวา สมทุ โย, มคฺโค ? 56 ๓. คาํ วา สมุทโย, นโิ รโธ, มคโฺ ค องคธรรมไดแ กอะไรบาง ? 44(4), 48 ๔. จงบอกองคธรรมของคําวา นิโรโธ, มคฺโค ? 53, 55, 60, 61 ตอบ ทุกขฺ ํ องคธรรมไดแ ก กายกิ ทกุ ข คอื เวทนาเจตสิกทใี่ นทุกขสหคตกายวญิ ญาณจิต ๑ เจตสกิ ทกุ ข คอื เวทนาเจตสกิ ท่ใี นโทสมลู จิต ๒ ตอบ สมุทโย องคธ รรมไดแ ก สมุทยั สามญั คอื กิเลส ๙ (เวนโลภะ) อกุศล ๑๒ จติ ตปุ บาททเี่ กิดพรอมดวยกเิ ลส ๙ โลกียกศุ ล ๑๗ จิตตปุ บาททีเ่ ปน อารมณของอกุศลจิตตุปบาท และ สมทุ ยสจั จะ คอื ตณั หา ตอบ นิโรโธ องคธ รรมไดแ ก นโิ รธสามัญ มี ตทงั คนโิ รธ คอื ความไมม ีภาวะแหง กิเลสท่ีไดถ ูกประหาณดวยกามกุศล, วกิ ขมั ภนนโิ รธ คอื ความไมม ภี าวะแหง นวิ รณท ่ีไดถกู ประหาณดว ยมหัคคตกศุ ล, สมุจเฉทนิโรธ คือ ความไมมีภาวะแหง กเิ ลสที่ไดถกู ประหาณดวยมรรค, ปฏิปสสทั ธนิ โิ รธ คอื ความไมมีภาวะแหงกิเลสท่ีไดถกู ประหาณดวยผล, ขณะนิโรธ คอื ภังคกั ขณะของจติ เจตสกิ และ นโิ รธสัจจะ คอื นิพพาน มคโฺ ค องคธรรมไดแ ก มรรคสามญั คือ ปญ จังคิกมรรคท่ีในมหาวิบาก มหากิริยา และมหัคคตจิต, อัฏฐงั คกิ มรรคท่ี ในมหากุศล และผลจติ , มจิ ฉามรรคทั้ง ๔ มมี จิ ฉาทฏิ ฐมิ รรค เปน ตน, ชังคมรรค คอื ทางเทา , สกฏมรรค คือ ทางเกวียน เปน ตน และ มรรคสจั จะ คอื อรยิ มรรคมีองค ๘ ที่ในมรรคจิต ๔ ๔. ก. คําวา นิโรธะ ทแ่ี ปลวา ความดับนน้ั มีกปี่ ระเภท คืออะไรบา ง จงบอกโดยไมตอ งแสดงบาลี ? 46, 49, 50, 57 ตอบ ก. มีอยู ๒ ประการคอื ๑. นโิ รธสามญั ๒. นโิ รธสจั จะ ความดบั โดยแนน อน เรยี กวา มขุ ยนิโรธ ไดแก นโิ รธสัจจะ ความดบั โดยไมแ นนอน เรยี กวา สามัญนิโรธ ไดแก ตทงั คนิโรธ วกิ ขัมภนนโิ รธ สมจุ เฉทนิโรธ ปฏปิ สสทั ธนิ โิ รธ และ ขณะนิโรธ ๕. จงวิสชั นา ไมตองแปล ไมต องแสดงองคธรรม ในปุจฉาดังตอไปนี้ ? 47 ก. สจจฺ า, มคฺคสจฺจนตฺ ิ ? 47 ข. น มคฺโค, น สจจฺ นตฺ ิ ? 47 ตอบ ก. ว.ิ มคฺคสจจฺ ํ สจจฺ เฺ จว มคคฺ สจจฺ จฺ , อวเสสา สจฺจา น มคฺคสจฺจํ ข. ว.ิ มคฺคํ เปตวฺ า อวเสสา สจจฺ า น มคโฺ ค สจจฺ า, มคฺคจฺ สจฺจฺจ เปตฺวา อวเสสา น เจว มคฺโค น จ สจฺจา. ๖. ข. “สจฺจา, ทกุ ฺขสจจฺ นฺต.ิ ” ปฏโิ ลมปุจฉานเ้ี ปนวาระอะไรไดบาง ? 47(4), 51(4ข), 55(5ข), 56 ตอบ ข. ปฏ.ิ ปุ. เปน วาระได ๓ วาระ คอื ๑. ปทโสธนมูลจักกวาระ ๒. สทุ ธสจั จวาระ ๓. สทุ ธสจั จมลู จักกวาระ โอกาสวาระ กาล ๑-๖ ๔. ก. ทกุ ขสัจจะกําลังเกิด แตสมุทยสัจจะไมเคยเกดิ ในภมู ิใด ? 43 ข. ทุกขสจั จะเคยเกดิ แตมรรคสจั จะจักไมด ับ ในภมู ใิ ด ? 43 ค. สมทุ ยสจั จะจกั เกดิ แตม รรคสจั จะจักไมด ับ ในภูมใิ ด ? 43 ตอบ ก. ทุกขสจั จะกําลงั เกดิ แตสมทุ ยสัจจะไมเ คยเกิด ในอสญั ญสัตตภมู ิ ข. ทุกขสจั ะเคยเกดิ แตม รรคสจั จะจักไมด บั ในอบายภูมิ ๔ อสญั ญสตั ตภูมิ ๑ ค” สมทุ ยสจั จะจกั เกิด แตม รรคสจั จะจกั ไมด ับ ในอบายภูมิ ๔ ๕. จงแสดงองคธ รรมของคาํ ถามตอ ไปนี้ ? 48, 54 ๑๗ ธ.ค. ๖๑  ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆท่ี ขอ ความเพิ่มเตมิ Youtube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่แี ปะไว)

อายตนยมกะ, ธาตุยมกะ และสจั จยมกะ 74 ก. ภมู ิที่มรรคสัจจะเคยเกดิ แตท กุ ขสัจจะจักไมเ กดิ มกี ภี่ มู ิ คือภูมอิ ะไรบา ง ? 48, 54 ข. ภูมทิ ่ีมรรคสจั จะก็เคยเกิด สมุทยสจั จะก็จักเกดิ มกี ีภ่ มู ิ คือภมู ิอะไรบา ง ? 48, 54 ค. ภูมิท่ีทุกขสจั จะกําลงั เกิด แตมรรคสจั จะไมเ คยเกิด มีกีภ่ ูมิ คือภูมอิ ะไรบาง ? 48, 54 ง. ภูมทิ ่ีสมุทยสัจจะกจ็ ักเกดิ ทกุ ขสัจจะกจ็ ักเกดิ มกี ่ีภมู ิ คือภูมิอะไรบา ง ? 48, 54 ตอบ ก. นตถฺ ิ ไมมี ข. มี ๒๖ ภูมิ คอื จตุโวการภูมิ ๔ ปญจโวการภูมิ ๒๒ (เวน อบายภูมิ ๔) ค. มี ๕ ภูมิ คือ อสญั ญสัตตภมู ิ ๑ อบายภูมิ ๔ ง. มี ๓๐ ภูมิ คอื จตโุ วการภมู ิ ๔ ปญ จโวการภมู ิ ๒๖ ๕. จงแสดงภมู ิที่สัจจะเกดิ ได และไมได ? 52(4), 53(3), 56, 61 ก. ภมู ทิ ่ีทุกขสัจจะ เกดิ ไมได ข. ภมู ทิ สี่ มทุ ยสจั จะ เกิดไมได ค. ภูมทิ ี่มัคคสจั จะ เกิดไมได ง. ภมู ทิ ่ีทุกขสจั จะ และมรรคสัจจะ เกดิ ได ตอบ ก. ไมมี ข. มี ๑ ภมู ิ คอื อสญั ญสตั ตภูมิ ค. มี ๕ ภูมิ คือ อบายภมู ิ ๔ อสัญญสตั ตภมู ิ ๑ ง. มี ๒๖ ภูมิ คือ จตุโวการภูมิ ๔ ปญจโวการภมู ิ ๒๒ (เวน อบายภูมิ ๔) ๔. ข. จงบอกองคธ รรมของบาลี ดังตอไปน้ี ? 46, 49, 50, 57 ๑. อคฺคมคคฺ สมงคฺ ี ๒. ยสสฺ จิตตฺ สสฺ อนนตฺ รา อคฺคมคฺคํ ปฏลิ ภิสฺสนฺต.ิ นัยโดยตรง ? ตอบ ข. ๑. องคธ รรมไดแก อรหัตตมรรคบคุ คล ๑ คือ ในขณะทถ่ี ึงพรอมดว ยการเกิดขนึ้ แหง อรหตั ตมคั คจติ ๑ เจตสิก ๓๖ ๒. องคธ รรมไดแก อนาคามผิ ลบุคคล ๑ คือ ในขณะทถี่ งึ พรอมดวยการเกิดขนึ้ แหงขณะทั้ง ๓ ของ โวทานทใี่ นอรหตั ตมรรควถิ ี ๔. จงวิสชั นา (ไมต อ งแปล) และแสดงองคธ รรมในปุจฉาดงั ตอไปน้ี ? (ว อุนิ 1 โอ) ก. ยตฺถ ทุกฺขสจฺจํ อุปฺปชชฺ ต,ิ ตตฺถ มคคฺ สจจฺ ํ อปุ ปฺ ชฺชตตี ิ ? 48 ว อ/ุ น/ิ อุนิ อนุโลม ปจ จนกิ ตอบ ก. วิ. อปาเย อสฺสตฺเต ตตฺถ ทุกฺขสจฺจํ อุปฺปชฺชติ โน จ ตตฺถ ๑-๖ โอ ทุ สส ทุทุ สส ทุ มคฺคสจฺจํ อุปฺปชฺชติ, อวเสเส จตุโวกาเร ปฺจโวกาเร ตตฺถ ทุกฺขสจฺจฺจ บ4 4  อุปปฺ ชฺชติ มคฺคสจฺจจฺ อุปปฺ ชชฺ ต.ิ ปญ 22  องคธ รรมของสนั . ไดแ ก อบายภูมิ ๔ อสัญญสตั ตภูมิ ๑ อรปู 4  และจตโุ วการภมู ิ ๔ ปญจโวการภมู ิ ๒๒ (เวน อบายภมู ิ ๔)  1   องคธรรมของสงั . ไดแก องคธ รรมหมวดหลงั เทานนั้ กาล ๑ ๕. จงวสิ ชั นา พรอมคาํ แปล แสดงองคธ รรมไมตองจําแนกโกฏฐาสะ ในยมกะดังตอไปนี้ ? 50, 53, 57, 61 ยสสฺ ทุกขฺ สจจฺ ํ นุปฺปชฺชต,ิ ตสฺส สมุทยสจจฺ ํ นปุ ปฺ ชชฺ ตตี ิ ? 46, 50, 53, 57, 61 ตอบ วิสชั นา อามนตฺ า ใช. อ.สนั . และ สงั . ไดแก ป.ุ ๔ ผลบคุ คล ๔ ซงึ่ กาํ ลังตายใน ๓๑ ภมู ิ คอื ในขณะทถี่ ึงพรอ มดว ยการดับแหงจตุ จิ ิต ๑๙ เจตสิก ๓๕ กมั มชรูป ชวี ติ นวกกลาปทีด่ บั คร้ังสดุ ทา ย ป.ุ ๔ อรยิ บคุ คล ๘ ที่เปน ไปในปวัตติกาล คือ ในขณะที่ถงึ พรอมดว ยการดับแหง จิต ๘๙ เจตสกิ ๕๒ (เวน จุติจิต) มรรคบุคคลเบ้อื งบน ๓ ผลบคุ คล ๔ ทเี่ ปนไปในปวตั ตกิ าลในอรูปภูมิ คอื ในขณะทถ่ี งึ พรอมดวยการเกดิ ข้ึน แหง มรรคจติ เบอ้ื งบน ๓ ผลจิต ๔ เจตสกิ ๓๖ ๕. จงวสิ ัชนา แปล แสดงองคธ รรมในปุจฉาตอไปน้ี ? 43, 45, 49, 58(ก), 59, 60  ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆท่ี ขอ ความเพม่ิ เตมิ Youtube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

อายตนยมกะ, ธาตยุ มกะ และสัจจยมกะ 75 ยสฺส ทุกฺขสจฺจํ อุปปฺ ชฺชต,ิ ตสสฺ สมุทยสจจฺ ํ นริ ุชฌฺ ตีติ ? 43, 45, 49, 58(ก), 59, 60 ตอบ วิสชั นา โน ไมใช องคธรรมของสันนฏิ ฐานบทไดแ ก ปุ ๔ ผลเสกข ๓ ซง่ึ กาํ ลงั เกดิ ใน ๓๑ ภมู ิ คอื ในขณะท่ถี ึงพรอ มดวยการเกิดขนึ้ แหง ปฏสิ นธิจิต ๑๙ เจตสกิ ๓๕ กมั มชกลาป ๓-๗-๔ ชวี ิตนวกกลาปท่ีเกดิ ในขณะแรก ปุ ๔ อริยบคุ คล ๘ เปน ไปในปวตั ตกิ าล ในปญ จโวการภมู ิ คือ ในขณะทถี่ งึ พรอ มดวยการเกดิ ขน้ึ แหงจติ ๘๕ เจตสกิ ๕๒ จิตตชรปู (เวน อรูปวิปากจิต ๔) ติ ๑ ผลบุคคล ๔ ทเ่ี ปนไปในปวตั ิกาลในจตโุ วการภมู ิ คอื ในขณะที่ถึงพรอมดว ยการเกดิ ขนึ้ แหง โลภมลู จิต ๘ โมหมลู จิต ๒ มโนทวาราวัชชนจิต ๑ มหากุศลจิต ๘ มหากริ ิยาจิต ๘ อรปู าวจรจิต ๑๒ เจตสิก ๔๓ องคธ รรมของสงั สยบท ไมม ี ๕. ใหแ ปลและแสดงองคธ รรม ของวภิ ังคบาลี ดงั ตอ ไปน้ี “สพฺเพสํ จติ ตฺ สฺส ภงคฺ กขฺ เณ ตณฺหาวิปฺปยตุ ตฺ มคฺควปิ ฺปยตุ ฺต จติ ตฺ สฺส อปุ ฺปาทกฺขเณ นิโรธสมาปนนฺ านํ อสฺ สตตฺ านํ เตสํ สมุทยสจจฺ จฺ นปุ ปฺ ชฺชติ มคคฺ สจจฺ จฺ นุปปฺ ชชฺ ต.ิ ” ? 44 ตอบ แปลวา “ในภังคักขณะแหงจิตของบุคคลเหลานน้ั ทง้ั หมดก็ดี ในอุปปาทกั ขณะแหง ตณั หาวิปปยุตต มรรควปิ ปยุตตจิต ของบคุ คลเหลา นนั้ ก็ดี บคุ คลเหลา นนั้ กําลังเขา นิโรธสมาบัตอิ ยูกด็ ี อสญั ญสตั ตบุคคลเหลา นนั้ กด็ ี สมุทยสจั จะกไ็ มใชกําลงั เกดิ มรรคสัจจะก็ไมใชก ําลงั เกิด องคธ รรมไดแก ปุ ๔ อรยิ บคุ คล ๘ คือ ในขณะท่ีถงึ พรอมดว ยการดับแหง จิต ๘๙ เจตสกิ ๕๒ นับตั้งแตปฏสิ นธจิ ิตเปนตนมาจนถงึ จตุ จิ ิต ป.ุ ๔ ผล.๔ คือ ในขณะทีถ่ ึงพรอ มดวยการเกดิ ข้ึนแหง ตัณหาวิปปยตุ ต มรรควปิ ปยตุ ตจิต ๗๗ เจตสกิ ๔๙ อนาคามผิ ลบคุ คล ๑ อรหัตตผลบคุ คล ๑ ในขณะท่เี ขานโิ รธสมาบัตอิ ยู ส.ุ ๑ ซง่ึ กําลงั เกดิ และกาํ ลงั ตายในอสญั ญสตั ตภมู ิ ๔. จงวิสัชนา (ไมตองแปล) และแสดงองคธ รรมในปจุ ฉาดงั ตอไปน้ี? 48 ข. ยตฺถ วาปน มคฺคสจฺจํ นปุ ฺปชชฺ ติ, ตตถฺ สมุทยสจจฺ ํ นปุ ปฺ ชชฺ ตีติ ? ตอบ ข. ว.ิ อปาเย ตตถฺ มคคฺ สจฺจํ นุปปฺ ชฺชติ โน จ ตตถฺ สมุทยสจจฺ ํ นุปปฺ ชชฺ ต,ิ อสฺ สตเฺ ต ตตถฺ มคฺคสจจฺ จฺ นปุ ปฺ ชฺชติ สมุทยสจฺจฺจ นุปปฺ ชชฺ ต.ิ อ.สัน. ไดแก อบายภมู ิ ๔ และ อสญั ญสัตตภูมิ ๑ อ.สงั . ไดแ ก อสัญญสตั ตภูมิ ๑ เทา นั้น กาล ๒ ๕. จงวิสัชนา แปล แสดงองคธ รรมในปจ ฉาตอ ไปน้ี ? 43, 45, 58, 59 ข. ยสฺส ทุกขฺ สจฺจํ อุปปฺ ชชฺ ิตฺถ, ตสฺส สมุทยสจจฺ ํ อปุ ปฺ ชชฺ ติ ถฺ าติ ? 43, 45, 58, 59 ตอบ ข. วิสัชนา อามนฺตา ใช องคธรรมของสนั นฏิ ฐานบทและสงั สยบทไดแก ปุ ๔ อริยบุคคล ๘ (ซ่งึ กาํ ลงั เกิดและกําลงั ตายใน ๓๑ ภมู )ิ ๔. จงแสดงองคธ รรมของคาํ วสิ ัชนาภาษาไทย ดังตอไปนี้ ? 54 ข. เมื่อบุคคลเหลา น้นั เขาถงึ ความเปนผเู คยรอู ริยสัจ ๔ มาแลว ทกุ ขสัจจะ ก็เคยเกดิ มรรคสจั จะกเ็ คยเกดิ ? 54 ตอบ ข. องคธรรมไดแ ก มรรคบคุ คลเบอื้ งบน ๓ ผลบคุ คล ๔ ซึ่งเขา ถงึ ความเปน ผูเคยรูอรยิ สจั ๔ มาแลว นบั ตงั้ แตโสดาปต ตผิ ลจติ เปนตนมา จนถงึ ปจ ฉิมจติ คอื ปรนิ พิ พาน (โสดาปตตมิ รรคานนั ตรผลจิต) ๔. จงแสดงองคธรรมของคาํ วิสัชนาภาษาไทย ดังตอ ไปน้ี ? 54 ก. เม่ือบคุ คลเหลา น้นั ยังไมเขาถงึ ความเปนผเู คยรูอริยสัจ ๔มานน้ั ทุกขสัจจะเคยเกิด แตม รรคสัจจะไมเคยเกิด แกบุคคลเหลาน้นั ? 54  ดาวนโ หลดขอมลู ตา งๆที่ ขอความเพมิ่ เตมิ Youtube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ท่ีแปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

อายตนยมกะ, ธาตยุ มกะ และสัจจยมกะ 76 ตอบ ก. องคธ รรมไดแ ก ปถุ ชุ น ๔ โสดาปตตมิ รรคบุคคล ๑ ซง่ึ ยงั ไมเ ขาถงึ ความเปนผูเคยรอู ริยสัจ ๔ นบั ตั้งแตเวยี นวา ยตายเกิดเปน ตนมา ที่หาเบอื้ งตน มไิ ด จนถงึ โสดาปต ติมรรคจติ เกิด ๕. จงบอกองคธ รรมของคําวิสชั นา ภาษาไทย ดังตอไปน้ี ? 52 เมื่อบคุ คลเหลาน้นั ยงั ไมเ ขา ถึงความเปน ผเู คยรูอริยสัจ ๔ มานัน้ ทกุ ขสัจจะเคยดับ แตม ัคคสัจจะไมเคยดับ แกบคุ คลเหลา น้นั , เมอื่ บคุ คลเหลานนั้ เขา ถึงความเปน ผูเคยรูอ ริยสัจ ๔ มาแลว ทุกขสจั จะก็เคยดบั มรรค สัจจะก็เคยดับ ตอบ ใน อนุ.ปุ.อ.สนั . ไดแ ก ป.ุ ๔ โสดาปต ตมิ รรคบคุ คล ๑ ซง่ึ ยงั ไมเขา ถงึ ความเปน ผเู คยรูอริยสจั ๔ นับตง้ั แต เวียนวายตายเกิดมาท่หี าเบ้อื งตน มิไดจ นถงึ โสดาปต ตมิ รรคจิตเกิด และ มรรคบคุ คลเบื้องบน ๓ ผลบคุ คล ๔ ซึ่งเขา ถงึ ความเปนผเู คยรูอรยิ สจั ๔ มาแลว นับตงั้ แตโ สดาปตตผิ ลจิตเปนตน จนถึงปจ ฉมิ จติ อ.สัง. ไดแ กองคธ รรมหมวดหลงั เทานนั้ ๕. จงบอกองคธ รรมของคําถามดงั ตอไปนี้ ? 50 ก. เมื่อบคุ คลเหลานั้น ยังไมเ ขาถึงความเปน ผเู คยรูอรยิ สัจจะ ๔ มานั้น ทกุ ขสจั จะเคยดบั แตมรรคสจั จะไม เคยดบั แกบุคคลเหลาน้ัน ตอบ ก. องคธรรมไดแก ป.ุ ๔ โสดาปตตมิ รรคบคุ คล ๑ ซึ่งยงั ไมเ ขา ถึงความเปนผเู คยรูอรยิ สจั จ ๔ นับตงั้ แต เวียนวา ยตายเกดิ มาทห่ี าเบ้ืองตน มิได จนถงึ โสดาปต ตมิ รรคจิตเกดิ ๕. จงบอกองคธ รรมของคําถามดงั ตอไปน้ี ? 50 ข. เม่อื บคุ คลเหลานนั้ เขา ถงึ ความเปนผเู คยรอู ริยสจั จะ ๔ มาแลว ทุกขสัจจะก็เคยดับ มรรคสจั จะก็เคยดบั ตอบ ข. องคธ รรมไดแก มรรคบคุ คลเบ้ืองบน ๓ ผลบคุ คล ๔ ซึ่งเขา ถงึ ความเปนผเู คยรอู รยิ สัจจ ๔ มาแลว นับต้งั แตโ สดาปตตผิ ลจิตเปน ตน จนถึงปจ ฉิมจติ คือ พระนิพพาน กาล ๓ / กาล ๓/๔ กาล ๕ /กาล ๖ ปณณัตติวาระ ปวัตตวิ าระ และปรญิ ญาวาระ ๖. ก. สัจจะท่ที รงแสดงไวใ นปณณัตตวิ าระ ปวัตตวิ าระ และปรญิ ญาวาระ นนั้ แสดงไววาระละกสี่ จั จะ คืออะไรบาง ? 51(4ก), 55(5ก), 56 ตอบ ก. สจั จะท่แี สดงไวใ นปณ ณัตตวิ าระ มี ๔ สจั จะ คอื ทกุ ขสัจจะ สมทุ ยสจั จะ นโิ รธสจั จะ มคั คสจั จะ สจั จะท่ีทรงแสดงไวใ นปวตั ตวิ าระ มี ๓ สจั จะ คือ ทกุ ขสัจจะ สมทุ ยสจั จะ มคั คสจั จะ สจั จะทท่ี รงแสดงไวใ นปริญญาวาระมี ๒ สจั จะ คือ ทุกขสจั จะ สมทุ ยสจั จะ ๖. ก. เพราะเหตไุ ร นโิ รธสัจจะ และมรรคสจั จะ ในปริญญาวาระจงึ ไมทรงแสดง ? 50, 51 ตอบ ก. เพราะวา นิโรธสจั จะ และมรรคสัจจะท้ังสองน้ี เปนโลกุตตรธรรม ธรรมท่ีจะเปน ปริญญากิจไดน ้ันจะตอ งเปน โลกยี ธรรมเทานั้น กาล ๑ ๒ ๓ วสิ ชั นา อามนฺตา ใช อนุโลมนยั อธ.ไดแก อรม.๑ / อรผ.๑ / ๗ = ภัพ.๑ มต.๓ ผต. ๓ ปจ จนิกนัย อธ.ไดแก ๙ (-อรม) / ๙ (-อรผ) / ๓ = อภพั .๑ อรม.๑ อรผ.๑ ๖. จงบอกองคธรรมของบุคคลตอไปนี้ ? 48, 55 ก. บุคคลท่ีไมใชกําลังรูรอบทุกขสจั จะ ? 48, 55 ข. บุคคลทีจ่ กั ไมร ูรอบทุกขสัจจะ ? 48, 55 ค. บคุ คลที่เคยรูร อบทกุ ขสัจจะ ? 48, 55 ง. หรือวาบคุ คลทจ่ี กั ละสมทุ ยสัจจะ ? 48, 55 ตอบ ก. องคธ รรมไดแ ก ภพั พปุถชุ น ๑ อภพั พปุถชุ น ๑ อรยิ บคุ คล ๗ (เวน อรหัตตมรรคบคุ คล ๑) ข. องคธรรมไดแ ก อภัพพปถุ ุชน ๑ อรหัตตมรรคบคุ คล ๑ อรหตั ตผลบคุ คล ๑ ค. อรหตั ตผลบคุ คล ๑  ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆที่ ขอ ความเพิ่มเติมYoutube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

อายตนยมกะ, ธาตยุ มกะ และสจั จยมกะ 77 ง. ภพั พปุถุชน ๑ มรรคบุคคลเบ้ืองตา่ํ ๓ ผลบคุ คลเบอื้ งต่าํ ๓ ๖. จงบอกขก..อบบงุคุคคคคธ ลลรใใรดดมไจมักขใไอชมงกรคาํรู๓ําลอป(งับ๙ุจ-รท๗ฉรู(ุก-)อาอขบดรสทงัมัจตกุ.๑จอข)ะไส,ปัจนจ้ี ะ?,4บบ6ุคคุ, 5คค0ลล(6นนขั้นน้ั )ก,ก5จ็ไ็ 5มกั ,ใไ5ชม8กลาํะลสงั มลทุ ะยสสมจั ทุ จยะสใจัชจไหะใมช?ไ ห4ม6, ? 46, 55, 58 กาล ๑ 55, 58 กาล ๓ ตอบ ก. องคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแ ก ภพั พปุถุชน ๑ อภัพพปถุ ชุ น ๑ อริยบุคคล ๗ (เวนอรหัตตมรรคบคุ คล ๑) องคธ รรมของสงั สยบท เหมือนกัน. ข. องคธรรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแก อภัพพปุถุชน ๑ อรหตั ตมรรคบุคคล ๑ อรหตั ตผลบุคคล ๑ องคธ รรมของสงั สยบท เหมือนกนั . ๖. จงวิสชั นาเปน บาลีคาํ แปล และองคธ รรมในปจุ ฉาดงั ตอไปน้ี ข. โย วา ปน สมทุ ยสจจฺ ํ นปฺปชหิสฺสต,ิ โส ทกุ ฺขสจฺจํ น ปรชิ านสิ สฺ ตีติ ? (ญ ๓ จ ปฏิ.) ตอบ ข. วิสัชนา อามนตฺ า = ใช อ.สนั .ไดแกอภพั พปุถุชน ๑ อรหัตตมรรคบคุ คล ๑ อรหตั ตผลบคุ คล ๑ // อ.สงั . เหมือนกนั กาล ๔, ๕, ๖ อนุโลมนัย วสิ ัชนา “โน” ไมใช (ท้ังหมด) กาล ๔ ๕ ๖ อนโุ ลมนยั วิสชั นา โน ไมใ ช อธ.สัน.ไดแ ก อรม.๑ /อรผ.๑ /(๗=)ภัพ.๑ มต.๓ ผต. ๓ อธ.สงั . ไมมี ๖. จงวิสัชนาเปน บาลคี ําแปล และองคธ รรมในปจุ ฉาดังตอไปน้ี ก. โย ทุกฺขสจฺจํ ปรชิ านาต,ิ โส สมุทยสจฺจํ ปชหติ ฺถาติ ? (ญ ๔ นุ อนุ.) ตอบ ก. วสิ ชั นา โน = ไมใ ช อ.สัน.ไดแกอรหัตตมรรคบคุ คล ๑ // อ.สงั . ไมม ี ๖. จงบอกองคธ รรม ของคอําปรผุจ.๑ฉา ดังตอ ไปนี้ ? 46, 50(6ข), 55, 58 ๑) / คง..หบรุคอื ควลาใบดคุเคคยลรใรูดอจ๗บกั ทล(-กุะ๓สข)มสทุัจจยะส,ัจจะ, บคุ คลนน้ั กจ็ ักละสมุทยสัจจะใชไหม ? 46, 50, 55, 58 กาล ๖ ๒) / บคุ คลนั้นกเ็ คยรรู อบทกุ ขสัจจะใชไหม ? 46, 50, 55, 58 กาล ๖ ตอบ ๑) ค. องคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแก อรหตั ตผลบุคคล ๑ // องคธ รรมของสงั สยบท ไมม.ี ๒) ง. องคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแก ภัพพปถุ ชุ น ๑ มรรคบคุ คลเบอื้ งตํา่ ๓ ผลบคุ คลเบอ้ื งตาํ่ ๓ องคธรรมของสงั สยบท ไมมี. กาล ๔ ปจจนกิ นยั อน.ุ ปุ. อธ.ไดแ ก ๙ (-อรม) => √Xหา √√คญิ (๘= ๑ ๑ ๓ ๓) กาล ๔ ปจ จนิกนยั ปฏ.ิ ปุ. อธ.ไดแก ๙ (-อรผ) => √Xคี √√คิญ (๘= ๑ ๑ ๓ ๓) ๖. จงแกส.ดบงุคอคงคลธทรี่ไรมมใ ชขกอํางลคังาํ รถูราอมบดทงั ตุก๙อข(ไส-ปัจอนจร้ีมะ?.๑4)4 แตเ คอยรลผะ.๑สมทุ ทยสัจจะ? 44, 59 (ญ ๔ จ อน.ุ ) ข. บคุ คลทไี่ มใชก าํ ลังรรู อบทุกขสัจจะ และไมเคยละสมุทยสัจจะ? 44, 59 (ญ ๔ จ อน.ุ ) ตอบ ก. องคธ รรมไดแก อรหัตตผลบุคคล ๑ ข. องคธรรมไดแก ภัพพปุถชุ น ๑ อภพั พปุถชุ น ๑ มรรคบุคคลเบอ้ื งตาํ่ ๓ ผลบุคคลเบ้อื งตา่ํ ๓ ๖. จงบอกองคธ รรมของคาํ วิสชั นาภาษาไทย ดังตอไปน้ี ? 42, 43, 47 ก. ออรรหหัตันตตมเสรรยี คแบลุคว คบลุคไมคเลคทย่ีเลหะลสือมนุทอยกสนัจนั้ จไะมเแคตยก ลําะลสงั มรุทรู อยบสจัทจกุ ะขสแัจลจะะไม, ยใชกกเวาํ นลอังรรูรหอัตบตทมุกรขรคสบจั (จคุญะค๔?ล4จแ2ล,ป4ะฏ7พิ.)ระ ข. พระอรหนั ตไ มใ ชกาํ ลังรรู อบทกุ ขสัจจะ แไตมเใคชยกลาํ ะลสังมรูรุทอยบสทจั กุจขะส, ัจยจกะเวนแอลระหไมตั เ ตคมยรลระคสบม(คุุทญคย๔ลสัจจแจอละน?ะพ.ุ4)7ระ อรหันตเ สียแลว บุคคลทีเ่ หลือนอกนนั้  ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆที่ ขอ ความเพมิ่ เติมYoutube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ที่แปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑

อายตนยมกะ, ธาตยุ มกะ และสัจจยมกะ 78 ตอบ ก. องคธรรมของสันนิษฐานบทไดแก อรหัตตมรรคบุคคล ๑ และ ภัพพปุถุชน ๑ อภัพพปุถุชน ๑ มรรคบคุ คลเบือ้ งตาํ่ ๓ ผลบคุ คลเบ้อื งตํ่า ๓ องคธรรมของสังสยบทไดแก องคธ รรมหมวดหลังเทานัน้ ข. องคธ รรมของสันนฏิ ฐานบทไดแ ก อรหัตตผลบคุ คล ๑ และ ภัพพปุถุชน ๑ อภัพพปถุ ชุ น ๑ มรรค บคุ คลเบื้องตํา่ ๓ ผลบุคคลเบอ้ื งต่าํ ๓ องคธ รรมของสงั สยบทไดแ ก องคธรรมหมวดหลงั เทา นั้น ๖. จงแปล และแสดงองคธรรม ของวภิ ังคบาลดี ังตอไปน้ี ? 49, 54 (ญ ๔ จ อน.ุ ) อคคฺ มคฺคสมงฺคิฺจ อรหนฺตจฺ เปตวฺ า อวเสสา ปคุ ฺคลา ทกุ ขฺ สจจฺ ฺจ น ปริชานนฺติ สมทุ ยสจจฺ ฺจ นปปฺ ชหิตฺถ. ตอบ แปล ยกเวน อรหตั ตมรรคบคุ คล และพระอรหันตเสียแลว บคุ คลท่เี หลอื นอกน้นั ไมใ ชกาํ ลังรรู อบทุกขสจั จะ และไมเคยละสมทุ ยสจั จะ องคธรรมไดแ ก ภพั พปุถุชน ๑ อภัพพปถุ ุชน ๑ มรรคบคุ คลเบอ้ื งตา่ํ ๓ ผลบคุ คลเบ้ืองตํ่า ๓ กาล ๕ ปจจนิกนัย อน.ุ ปุ. อธ.ไดแ ก ๙ (-อรม) => √Xเยมฏิ (๗=๑ ๓ ๓) √√หา เยจปมุ นฏิ (๒) กาล ๕ ปจ จนิกนยั ปฏ.ิ ปุ. อธ.ไดแ ก ๓ (อภัพ.๑ อรม.๑ อรผ.๑) => √Xคี √√หา เยจปุมนฏิ (๒) ๖. จงแสดงองคธ รรมของคาํ วสิ ชั นาภาษาไทย ดงั ตอไปนี้ ? 42(6ข), 45, 57, 60 (ญ ๕ จ อน.ุ ) บคุ คลเหลาใดจะไดมรรค บคุ คลเหลาน้นั ไมใ ชก าํ ลงั รูรอบทุกขสัจจะ แตจ กั ละสมทุ ยสัจจะ พระอรหันตท ั้งหลาย ก็ดี ปุถุชนเหลา ใดจักไมไดม รรค ปุถุชนเหลานนั้ กด็ ี ไมใชกําลังรรู อบทุกขสจั จะ และจกั ไมล ะสมุทยสัจจะ ก. บุคคลเหลา ใดจะไดม รรค บุคคลเหลา นน้ั ไมใชก ําลังรรู อบทกุ ขสจั จะ แตจ ักละสมุทยสจั จะ ? 60 ข. พระอรหันตทง้ั หลายก็ดี ปุถชุ นเหลาใดจักไมไดมรรค ปถุ ชุ นเหลานัน้ กด็ ี ไมใ ชก าํ ลังรูรอบทุกขสจั จะ และจกั ไมละสมุทยสจั จะ ? 60 ตอบ องคธรรม ไดแก ภพั พปถุ ุชน ๑ มรรคบคุ คลเบื้องต่าํ ๓ ผลบคุ คลเบ้ืองตาํ่ ๓ และ อรหัตตผลบุคคล ๑ อภพั พปถุ ชุ น ๑ กาล ๖ ปจจนิกนยั อน.ุ ปุ. อธ.ไดแก ๙ (-อรผ) => √Xเยมฏิ (๗=๑ ๓ ๓) √√คี เยจปุมนฏิ (๒) กาล ๖ ปจ จนิกนัย ปฏิ.ปุ. อธ.ไดแก ๓ (อภัพ.๑ อรม.๑ อรผ.๑) => √Xหา √√คี เยจปุมนฏิ (๒ ------------------------------------------------------ สงิ่ ที่สาํ คัญคือการเขาศกึ ษากับอาจารยผ สู อน เพ่อื ความรคู วาม เขาใจท่ีถูกตอง แจมแจง หากสงสยั จะไดสอบถามทนั ที การรวบรวม ขอสอบทเ่ี คยออกมาแลวน้ี เปนเพยี งแนวทางสาํ หรบั ผูศกึ ษานํามาเนน+ ทรงจาํ ไว (หากสามารถทรงจําไดมากหรอื ท้ังหมดจักดอี ยางยง่ิ เพราะช่ือวา สุตะดวยดี เพอื่ การจินตาและภาวนาตอไป) การสอบไมใ ชท ส่ี ดุ ของชวี ิต แตข อใหต งั้ จติ ศึกษาและทรงจาํ เพ่อื ธาํ รงและ รกั ษาไวซ่ึงพระศาสนา รอู รรถะและพยญั ชนะ ทงั้ เขา ใจและเขาใหถึงธรรมะ แมย งั มิ บรรลุคณุ ธรรมอนั สงู ถึงขั้นอริยะ ก็ขอจงเปน ผรู ูธรรมะ (ตามสมควร) และจงเปนผูมี ธรรมะ วายเมเถว ปรุ โิ ส ยาว อตถฺ สสฺ นิปปฺ ทา เกดิ เปน คนควรจะพยายาม จนกวาจะประสบความสําเร็จ สําเนาประกอบการเรยี นหรอื แจกไดโ ดยไมตองขออนุญาต (สงวนสทิ ธิ์ในการนาํ ไปจาํ หนาย) ผดิ -ตกขออภัย และกรณุ าแจงที่ 081-860-2466 (Line ID), fb: Kanrasi Sengking E-mail: [email protected], [email protected] (จกั ขอบพระคณุ อยางสงู ) ขออนโุ มทนาในการศึกษาธรรมะ และทุกๆกุศลท่ีทานกระทําไวด แี ลว และท่ีจะกระทําในอนาคต ใหเรานั้นมปี จ จัยถงึ พรอ มเพื่อการทํากุศลใหสาํ เรจ็ โดยสะดวก งา ยดาย และเร็วไว จนถงึ มคั คกุศล โดยเรว็ พลันเทอญ ฝก ทาํ + ฝกเขยี น +ทรงจํา (สู ส)ู อยากได ตองทําเอง  ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆท่ี ขอ ความเพม่ิ เตมิ Youtube, Post, fb: Kanrasi Sengking, Line ID: 081 860 2466 (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๑๗ ธ.ค. ๖๑


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook