รวมเฉลยขอ สอบขอ เขยี น/สัมภาษณ พระอภธิ รรม ภาคเรยี นที่ ๒ ปการศกึ ษา ๒๕๔๓-๖๓ อภธิ รรมโชตกิ ะวทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั ชน้ั มหาอาภธิ รรมมกิ ะตรี สอบขอ เขียน วนั แรก วันศุกรท.ี่ ......ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕.... วชิ า : มูลยมกะ ปณ ณตั ติวาระในขันธยมกะ ๗ ขอ ๗๐ คะแนน เวลา ๔ ชม. สอบขอ เขียน วนั ทสี่ อง วนั เสารที่.......ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕.... วิชา : ปวัตตวิ าระ ปรญิ ญาวาระ ๗ ขอ ๗๐ คะแนน เวลา ๔ ชม. สอบสัมภาษณ วันทส่ี าม วนั อาทิตยท่ี.......ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕.... วชิ า : มลู ยมกะ ปณณตั ตวิ าระในขันธยมกะ ปวัตติวาระ ปริญญาวาระ ๖ ขอ ๓๐ คะแนน เวลา ๑๕ นาที สาํ เนาหรือแจกได โดยไมต อ งขออนญุ าต (สงวนสทิ ธห์ิ ากนาํ ไปจาํ หนาย) ผิดตกขออภัยและกรณุ าแจง (จกั ขอบพระคณุ ) ท่ี 081-860-2466 (Line ID), E-mail: [email protected], [email protected] ดาวนโ หลดขอมูลไดจ ากขอความเพิ่มเติมท่ี youtube หรอื ที่ fb : Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) การสอบไมใ ชทสี่ ดุ ของชีวิต แตข อใหตัง้ จติ ศกึ ษาและทรงจาํ เพอื่ ธํารงและรักษาไวซ ึง่ พระศาสนา รูอรรถะและพยญั ชนะ ท้ังเขาใจและ เขา ใหถ งึ ธรรมะ แมย ังมบิ รรลุคณุ ธรรมอันสงู ถงึ ขัน้ อรยิ ะ ก็ขอจงเปนผูร ธู รรมะ (ตามสมควร) และจงเปนผูมีธรรมะ ขออนโุ มทนาในการศกึ ษาธรรมะ และทุกๆกศุ ลทที่ านกระทําไวดีแลว และทจ่ี ะกระทาํ ในอนาคต ใหเราน้นั มีปจ จยั ถงึ พรอมเพื่อการทาํ กศุ ลใหสาํ เรจ็ โดยสะดวก งา ยดาย และเรว็ ไว จนถงึ มัคคกศุ ล โดยเร็วพลนั เทอญ
มลู ยมก ปณ ณตั ิวาระในขนั ธยมกะ (วันแรก) 1 รวมเฉลยขอ สอบขอ เขยี นพระอภธิ รรม ภาคเรยี นที่ ๒ ปก ารศกึ ษา ๒๕๔๓-๖๓ อภธิ รรมโชตกิ ะวทิ ยาลัย มหาวิทยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั ชนั้ มหาอาภธิ รรมมกิ ะตรี สอบวนั ศกุ รท ี่ .......... ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕....... วชิ า : มลู ยมกะ ปณณตั ตวิ าระในขนั ธยมกะ ๗ ขอ ๗๐ คะแนน เวลา ๔ ช.ม. (วนั แรก) มลู ยมกะ ขอ ๑ (บทนํา) ๑. ก. ใหแ ปลบาลดี งั ตอ ไปน้ี เกนฏเน ยมกนตฺ ิ ยคุ ฬฏเน ยคุ ฬหฺ ิ ยมกนตฺ ิ วจุ จฺ ต.ิ และจงแสดงวจนตั ถะของ ยมกํ นยั ที่ ๑ ? [P.1] 43, 46, 56, 60 ตอบ ก. แปล ท่ีเรยี กวา ยมกะ เพราะอรรถวา กระไร ? แกว า ดวยอรรรถวาเปนคูก ัน, จรงิ ดังนนั้ สง่ิ ทีเ่ ปน คูกนั ทา นจงึ เรยี กวา “ยมกะ” แสดงวจนัตถะของ “ยมก”ํ นัยที่ ๑ ยมสสฺ ราชสสฺ วสิ ยํ กมติ อตกิ กฺ มติ เอเตนาติ = ยมกํ ปกรณช ่ือวา “ยมกะ” เพราะอรรถวา เปนเครื่องกา วลว งวสิ ัย ของพระยายมเสยี ได ๑. ก. ใหแ ปลบาลี ? [P.1] 48, 52, 53, 63 ๑. เกนฏเน ยมกนตฺ ิ ยคุ พฏเน ยคุ ฬหฺ ิ ยมกนตฺ ิ วจุ จฺ ต.ิ ๒. ยมสสฺ ราชสสฺ วสิ ยํ กมติ อตกิ กฺ มติ เอเตนาติ = ยมกํ ๓. ยจฺ ตํ มฺจ กจฺ าติ = ยมกํ ๑. ก. จงแสดงวจนตั ถะของคาํ วา “ยมกะ” ทงั้ บาลแี ละคาํ แปล ? 45, 52, 55, 57, 59, 62 ๑. ก. จงแสดงวจนตั ถะดงั ตอ ไปนี้ ยมก,ํ ย,ํ ม,ํ กํ ? 51 ๑. ก. ยมสสฺ ราชสสฺ วสิ ยํ กมติ อติกฺกมติ เอเตนาติ = “ยมกํ”พระบาลนี ้ี แปลวา อะไร ? 61 ๑. ก. ยจฺ ตํ มฺจ กจฺ าติ = ยมกํ จงแปลวจนตั ถะน้ี มาใหถ กู ตอ ง ? 47 ตอบ (48, 52, 53) ก. แปล ทเี่ รยี กวา ยมกะ เพราะอรรถวากระไร แกวา ดวยอรรถวาเปน คูก นั , จรงิ ดงั นนั้ สงิ่ ท่เี ปนคกู ัน ทา นจึงเรยี กวา “ยมกะ” ตอบ (45, 52, 55, 57, 62) ก. วจนตั ถะของคาํ วา ยมกะ มีดังนี้ คือ ยมสสฺ ราชสสฺ วสิ ยํ กมติ อตกิ ฺกมติ เอเตนาติ = ยมกํ ปกรณช อ่ื วา ยมกะ เพราะอรรถวา เปนเครื่องกาวลว งวสิ ยั ของพระยายมเสยี ได หรือ ๑. นพิ พฺ านํ ยนตฺ ิ คจฉฺ นฺติ เอเตนาติ = ยํ ปกรณช ื่อวา ยํ เพราะเปนเคร่ืองบรรลุพระนิพพาน ๒. มนนฺติ ชานนฺติ ปรมตฺถธมฺมํ เอเตนาติ = มํ ปกรณช ือ่ วา มํ เพราะอรรถวา เปน เคร่อื งรปู รมตั ถธรรมของเวไนยสตั ว ๓. กมติ อติกกฺ มติ วิจกิ จิ ฉฺ ํ เอเตนาติ = กํ ปกรณช ่อื วา กํ เพราะอรรถวา เปนเครอ่ื งกา วลวงวิจกิ ิจฉาของเวไนยสัตว ๔. ยจฺ ตํ มฺจ กฺจาติ = ยมกํ ดาวนโ หลดขอมูลจากขอ ความเพ่ิมเตมิ ที่ youtube หรอื ท่ี Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มลู ยมก ปณ ณตั ิวาระในขนั ธยมกะ (วันแรก) 2 ปกรณช ือ่ วา ยมกะ เพราะอรรถวา เปน เครือ่ งบรรลุพระนิพพาน เปนเครื่องรปู รมตั ถธรรม และเปน เครอ่ื งกาวลวงวิจกิ ิจฉาของเวไนยสัตว ๑. ข.ในอธบิ ายทา ยเลม ยมกปกรณ คาํ วา ปกรณทชี่ ่อื วา ยมกะเพราะอรรถวา เปน เครอ่ื งกา วลวงวสิ ัยของพระยา ยมเสยี ไดน ้ัน คาํ วา พระยายมนน้ั ไดแ กอ ะไร ? พระองคท รงแสดงแกใ คร? คาํ วา โลกๆ นน้ั พระองคท รงมงุ หมายถงึ อะไร จงอธบิ าย ? [P.397] 61 ตอบ ข. คาํ วา พระยายม ไดแ กค วามตายน้เี อง พระองคท รงแสดงแกทานโมฆราช คําวา โลก ๆ นั้น พระองคทรงมงุ หมายเอาขันธโลก คอื อุปาทานขันธ อันไดแ กรา งกายที่มีใจครอง มีเวทนา สัญญา ของเรา ทานทม่ี คี วามยาวหนงึ่ วา หนาหนง่ึ คบื กวางหนงึ่ ศอกนี้แหละ เปน “โลก” มิไดท รงหมายถึง ดิน ฟา อากาศ ภเู ขา ตน ไม ทะเล มหาสมทุ รท่เี ปน โอกาสโลกแตประการใด ๑. ก. อยากทราบวา ทา นเรยี นยมกะเพอื่ ประโยชนอ ะไร ? (ใหต อบตามคาํ แปลของวจนัตถะคาํ วา ยมกํ) ? 50 ตอบ ก. เพอื่ ประโยชน ๔ อยา ง คือ ๑. เพอ่ื เปนเครื่องกาวลวงวสิ ัยของพระยายมเสียได ๓. เพื่อเปน เครือ่ งรูปรมัตถธรรมของเวไนยสัตว ๒. เพือ่ เปนเครอ่ื งบรรลุพระนิพพาน ๔. เพอ่ื เปนเครอื่ งกา วลวงวจิ ิกิจฉาของเวไนยสตั ว ๑. ข. ในยมกปกรณน มี้ ปี ญ หาอยกู อ่ี ยา ง คอื อะไรบา ง ใหแสดงพรอ มทง้ั ความหมาย ? 44(1ก), 4(1ข), 58, 61, 63 และปญ หาชนดิ ไหนคกู บั วสิ ัชนาอะไร ? 43, 46, 50, 52, 53, 56, 59, 62 ตอบ ข. ในยมกปกรณน ้ีมีปญ หาอยู ๔ อยา ง คอื ๑. ปุเรปญหา หมายถึง เปน คาํ ถามท่มี อี งคธ รรมตา งกัน คอื องคธรรมของสนั นฏิ ฐานบทนัน้ ตางกันกบั องคธรรมของสังสยบท ๒. ปจ ฉาปญ หา หมายถึง เปนคําถามท่ีมอี งคธรรมเหมอื นกัน คอื องคธ รรมของสันนิฏฐานบทกบั องคธรรมของสังสยบทนน้ั เหมอื นกนั ๓. ปรปิ ุณณปญหา หมายถงึ เปน คาํ ถามทม่ี อี งคธรรมตางกันก็มี องคธ รรมทเ่ี หมือนกนั กม็ ี คือ องคธ รรมของสันนฏิ ฐานบทบางอยา งก็ตา งกนั กบั องคธ รรมของสังสยบท และ บางอยา งก็เหมือนกันกบั องคธรรมของสังสยบท หมายความวา มที ้ังปุเรปญ หา และปจ ฉาปญ หา พรอ มอยูใ นปญ หาน้ี ๔. โมฆปญ หา โมฆปญหานี้ มีอยูสองประการ คอื ๔.๑. เปนคําถามที่ถามถึงองคธรรมของสันนฏิ ฐานบท ซงึ่ องคธ รรมของสันนิฏฐานบทนน้ั ไมม ี ฉะนน้ั คําถามประเภทนี้จงึ เปน โมฆะไป ๔.๒. เปนคาํ ถามทถ่ี ามถึงองคธรรมของสันนิฏฐานบท แตส งั สยบทท่เี ปนบทถามนน้ั ไมมอี งคธรรม ฉะน้ัน คําถามนีก้ เ็ ปน โมฆะเชน เดยี วกนั [(43, 46, 50, 52, 53, 56) และ ปุเรปญญาคูกับปาฬิคติวิสัชนา ปจฉาปญหาคูกับปฏิวจนวิสัชนา ปริปณุ ณปญ หาคูกับสรปู ทสั สนวสิ ัชนา โมฆปญ หาคูกับปฏิกเขปวิสชั นา หรือ ปฏเิ สธวสิ ชั นา] ดาวนโ หลดขอ มูลจากขอความเพิ่มเติมท่ี youtube หรือที่ Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มูลยมก ปณ ณตั วิ าระในขนั ธยมกะ (วนั แรก) 3 ๑. ข. ในยมกะปกรณน ม้ี ปี ญ หาและวิสชั นา ฝา ยละกอ่ี ยา ง คอื อะไรบา ง ? (ไมต อ งแสดงความหมาย) และปญ หาไหนคกู บั วสิ ชั นาอะไร ? 45, 48, 55 ตอบ ข. ในยมกะปกรณน ้ีมปี ญหาอยู ๔ อยางคือ ๑. ปเุ รปญ หา ๒. ปจฉาปญ หา ๓. ปรปิ ุณณปญ หา ๔. โมฆปญหา ธรรมที่เปน ฝายวสิ ชั นามี ๕ อยาง คือ ๑. สรปู ทัสสนวิสัชนา ๒. ปฏิวจนวสิ ชั นา ๓. ปาฬคิ ตวิ สิ ัชนา ๔. ปฏกิ เขปวสิ ัชนา ๕. ปฏิเสธวสิ ัชนา และ ปุเรปญญาคูกับปาฬิคติวิสัชนา ปจฉาปญหาคูกับปฏิวจนวิสัชนา ปริปณุ ณปญหาคูกับสรปู ทัสสนวิสัชนา โมฆปญ หาคกู บั ปฏิกเขปวสิ ัชนา หรือ ปฏิเสธวสิ ชั นา ๒. สรปู ทสั สนวสิ ชั นา ทม่ี วี ภิ งั คโ ดยตรง และทมี่ วี ภิ งั คโ ดยออม ตา งกนั อยา งไร จงแสดงไมต อ งยกตวั อยา ง และ ทม่ี วี ภิ งั คโ ดยตรง ทานแสดงวา องคธรรมของสงั สยบทไดแ กอ งคธ รรมหมวดหลังเทา นนั้ ไมสงสยั สว นทม่ี ี วภิ งั คโ ดยออ มจะแสดงวา องคธรรมของสงั สยบทไดแ กอ งคธ รรมหมวดหลงั เทา นนั้ เชน น้ี ไดหรอื ไม เพราะ เหตไุ ร ? 52 ตอบ การแสดงวสิ ัชนา โดยยกธรรมท่ีเปนองคธ รรมของสันนฏิ ฐานบทไดบ ทเดียวขน้ึ ตงั้ เปนธรรมหมวด แรก แลวยกธรรมที่เปน องคธรรมของสันนิฏฐานบทและสงั สยบทไดท ้งั สอง ขึน้ ต้ังเปนธรรมหมวด หลัง เรียกวา สรปู ทสั สนวิสชั นาท่ีมวี ภิ ังคโ ดยตรง ดังน้ี การแสดงวสิ ชั นา โดยยกธรรมที่เปนองคธ รรมของสันนิฏฐานบทและสังสยบทไดท ้ังสอง ขึน้ ต้งั เปนธรรมหมวดแรก แลว ยกธรรมที่เปนองคธ รรมของสันนฏิ ฐานบทไดบ ทเดียว ขึ้นตั้งเปน ธรรม หมวดหลัง เรยี กวา สรปู ทสั สนวสิ ชั นาทม่ี ีวภิ งั คโ ดยออ ม ดงั น้ี เปนตน สวนสรูปทสั สนวสิ ชั นาท่มี ีวภิ ังคโ ดยออมนน้ั จะแสดงวา องคธรรมของสังสยบท ไดแก องคธ รรม หมวดหลงั เทานนั้ เชนนี้ไมไ ด เพราะการจําแนกโกฏฐาสะ แสดงไวช ดั เจนวา พระองคท รงยกเอา ธรรมท่ีเปน องคธรรมของสันนิฏฐานบทไดบ ทเดียว ขึ้นไวใ นปจ ฉิมโกฏฐาสะ มกี ารปฏิเสธสังสยบท หมายความวา องคธรรมของธรรมหมวดหลงั เปน องคธรรมของสนั นฏิ ฐานบทไดบ ทเดยี วเทานน้ั ดงั น้ันธรรมที่เปนองคธ รรมของธรรมหมวดหลัง จึงเปนองคธ รรมของสังสยบทไมได ๑. ก. ยมกปกรณ เปน คมั ภรี ท เี่ ทา ไร ในบรรดาอภิธรรม ๗ คมั ภรี และในยมกปกรณ มยี มกะอยกู อ่ี ยา ง คอื อะไรบา ง ? 49, 54, 58 ๑. ข. ยมกปกรณม ยี มกะกอ่ี ยา ง ? คอื อะไรบา ง ? และในกศุ ลบทมนี ัยกนี่ ยั ? คอื อะไรบา ง ? 44 ๑. ค.ในยมกะปกรณม ียมกะอยกู อ่ี ยา ง คืออะไรบา ง ? 61 ตอบ ก./ข. ยมกปกรณ เปน คมั ภรี ท่ี ๖ ในยมกปกรณม ียมกะอยู ๑๐ อยา ง คอื ตอบ ค. มียมกะอยู ๑๐ อยาง คอื ๑. มูลยมกะ ๒. ขันธยมกะ ๓. อายตนยมกะ ๔. ธาตุยมกะ ๕. สัจจยมกะ ๖. สังขารยมกะ ๗. อนสุ สยยมกะ ๘. จิตตยมกะ ๙. ธัมมยมกะ ๑๐. อินทริยยมกะ (44) และในกุศลบทมนี ัย ๔ คือ มลู นัย มูลมลู นยั มลู กนัย มูลมูลกนัย ดาวนโ หลดขอมูลจากขอความเพ่ิมเตมิ ท่ี youtube หรือท่ี Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มลู ยมก ปณ ณตั วิ าระในขนั ธยมกะ (วันแรก) 4 ๑. ข. กสุ ลตกิ ะนิทเทส มวี าระกอ่ี ยา ง คืออะไรบา ง มหี ลกั ฐานบาลรี บั รองวา อยา งไร ? 49, 51, 54, 57, 60 ตอบ ข. กุสลติกะนทิ เทส มีวาระ ๑๐ อยาง คือ ๑. มูลวาระ ๒. เหตวุ าระ ๓. นิทานวาระ ๔. สัมภววาระ ๕. ปภววาระ ๖. สมฏุ ฐานวาระ ๗. อาหารวาระ ๘. อารัมมณวาระ ๙. ปจจยวาระ ๑๐. สมทุ ยวาระ มีหลักฐานบาลรี บั รองวา มลู ํ เหตุ นทิ านจฺ สมฺภโว ปภเวน จ สมฏุ านาหารารมมฺ ณํ ปจจฺ โย สมทุ เยน จาต.ิ สรุปวิสชั นา (คาํ ยอ) ขอ ๒ (กสุ ลบท) ออ ม ตรง ออม มลู ยมกะ1 2 มลู ยมกะ3 4 เอกมลู ยมกะ อัญญมญั ญ มลู นยั มลู เอกมลู อญั ญมญั ญ 3 กสุ ล ตเี ณว :อวเสสา อามนฺตา มลู านิ :อวเสสา 3กกุ.สุ ธกลม2ุ ม1ฺ +ลู๒3า๑5=+(-๓3)๘ ก2ุ 1+38 21+35(-3) จ1ิ 7 อามนฺตา ก-ุ รปู : กสุ ลํ อามนตฺ า กุ.เอก ๒๑+๓๘ กุ.จ.ิ ร.ุ ๑๗ กุ. อฺ กจุ ริ 1ุ 7 21+38 อกสุ ล ตเี ณว :อวเสสา อเหตกุ ํ : สเหตกุ ํ มลู านิ :อวเสสา อกุ. ธมฺ ๑๒+๒๗ โม๒ 12+27(-๒) 3 (-โม๒) อามนตฺ า อก-ุ รูป : อกสุ ลํ อามนตฺ า 3อกอุสกล1ุ ม2+ลู 2า4(=-3) 12+27(-๒) จ1ิ 7 ๑๒+๒๗(-โม๒) อกุจิรุ.๑๗ (-โม->๒) อกจุ ริ 1ุ 7 12+27(-๒) อพฺ ตเี ณว :อวเสสา อเหตกุ ํ : สเหตุกํ มลู านิ :อวเสสา ๓๖+๒๐+๓๘ 28 นิพ สว1๒ิ 0๑ขอ้,สก๑ิ 4๗ขอ+้ ๓๘, สวิ 3 ยากต อามนตฺ า อามนตฺ า อามนตฺ า 4อขพอ้ ฺ (อ-3)ฺ อพฺยกตมลู า3 36,20+35(-3) นพิ สกจิ ิร4๑ุขอ๗้ ,สปกํ-ที่..ปญ = นาม นเวว :อวเสสา อเหตกุ ํ : สเหตุกํ มลู านิ :อวเสสา ๘๙+๕๒ นิพ สจิร๑ุ ๗ท่ี..ปญ, ปญ -สปกํ 9(-โม๒) อามนตฺ า นาม-รปู : นามํ อามนตฺ า 9นา8ม9+ม4ลู 6า(-9=) นพิ 71+46(-9) 17-ปัญ (ป-ัญโม-ก-ํ>๒) สเสสห7จ๗1ริ 1ุ+๑75+-2ป๕(ัญ-๒โมป(-๒ัญโ)ม-ก-ํ>๒) กสุ ลา ธมมฺ า (ท่เี ปนกุศล/เปน กุศล) = กุ.๒๑+เจ.๓๘ อ18+12(-ฉัน) โม๒ นพิ ส71+52(-โม๒) อัญญ ัมญญฯ เอกมูลยมกะ ูมลยมกะ (มูลนยั ) กสุ ลมลู า (ชื่อวา กุศลมูล) = อโลภะ อโทสะ อโมหะ/ กุศลมูล ๓ (มลู มูลนยั ) กสุ ลมูลมูลา (ช่ือวามลู ทเี่ ปนกุศลมูล) (มลู กนัย) กสุ ลมูลกา (มมี ูลทีเ่ ปนกศุ ล) = กุ.๒๑+เจ.๓๘ (มลู มูลกนยั ) กสุ ลมูลมูลกา (มมี ูลทเี่ ปนกุศลมูล) (และ) กุ.จ.ิ ร.ุ ๑๗ (มลู นยั ) กสุ ลมเู ลน เอกมูลา (มมี ูลเปนอันเดียวกันกับกุศลมลู ) (มลู มูลนยั ) กสุ ลมเู ลน เอกมูลมูลา (มมี ูลทเี่ รียกวาเปนมูลอันเดยี วกนั กับกุศลมูล) (มูลกนยั ) กุสลมเู ลน เอกมลู กา (มมี ูลเปน อันเดียวกันกับกุศลมูล) (มูลมลู กนยั ) กสุ ลมเู ลน เอกมลู มลู กา (มมี ูลท่ีเรยี กวาเปนมูลอันเดียวกันกับกุศลมลู ) (มูลนัย) กสุ ลมเู ลน อฺ มฺ มลู า (ชือ่ วา เปนมูลซ่งึ กนั และกนั กับกุศลมูล) (มลู มลู นัย) กสุ ลมเู ลน อฺ มฺ มลู มูลา (ชอ่ื วา มลู ทีเ่ รียกวา เปน มูลซึ่งกนั และกันกับกศุ ลมูล) (มลู กนยั ) กสุ ลมเู ลน อฺ มฺ มลู กา (มมี ลู ซงึ่ กนั และกนั กับกุศลมลู ) = กุศลมลู ๓ (มูลมูลกนยั ) กสุ ลมเู ลน อฺ มฺ มลู มลู กา (มมี ูลท่ีเรยี กวาเปนมลู ซง่ึ กนั และกนั กบั กศุ ลมูล) ๒. ในบาลดี งั ตอ ไปน้ี คาํ แปลและองคธ รรม ไดแกอ ะไรบา ง ? 48 ค. ตเี ณว กุสลมลู มลู านิ ก. เยเกจิ กุสลา ธมมฺ า ข. สพเฺ พ เต กุสลมลู มลู า ง. อวเสสา กุสลา ธมมฺ า น กุสลมลู มลู า จ. เยเกจิ กุสลมเู ลน เอกมลู มูลกา ธมมฺ า ตอบ ก. เยเกจิ กุสลา ธมมฺ า ธรรมเหลา ใดเหลาหนง่ึ ทีเ่ ปนกศุ ลมีอยู องคธ รรมไดแก กศุ ลจติ ๒๑ เจตสกิ ๓๘ ดาวนโ หลดขอมูลจากขอ ความเพ่ิมเติมท่ี youtube หรอื ที่ Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มลู ยมก ปณ ณตั วิ าระในขนั ธยมกะ (วันแรก) 5 ข. สพฺเพ เต กุสลมลู มลู า ธรรมเหลานนั้ ทงั้ หมด ชือ่ วามลู ท่เี ปน กศุ ลมูล องคธ รรมไดแก กศุ ลมูล ๓ เทา น้ัน ค. ตเี ณว กสุ ลมลู มูลานิ อโลภะ, อโทสะ, อโมหะ เพียง ๓ เทานั้น ชื่อวา มูลท่ีเปนกุศลมูล องคธรรมไดแก กุศลมลู ๓ ง. อวเสสา กุสลา ธมมฺ า น กุสลมลู มลู า กุศลธรรมทเี่ หลือนอกนน้ั ไมช ื่อวา มูลท่เี ปนกศุ ลมูล องคธรรมไดแก กศุ ลจิต ๒๑ เจตสกิ ๓๕ (เวนกุศลมูล ๓) จ. เยเกจิ กสุ ลมเู ลน เอกมลู มูลกา ธมมฺ า ธรรมเหลาใดเหลาหน่ึงมีมูลที่เรียกวา เปนมลู อันเดยี วกันกบั กุศลมูลมอี ยู องคธรรมไดแ ก กศุ ลจติ ๒๑ เจตสกิ ๓๘ และกุศลจติ ตชรปู ๑๗ มลู วาระ : กุสลบท + มลู นยั / มลู มลู นัย + มลู ยมกะ (น.๖-๗, ๙-๑๐) อนโุ ลมปจุ ฉสาันนิฏฐเายกนุ.เ๒บกท๑จ+(ทิ๓อี่ ๕กา(ศ-สุ 3ัย)ล/บาทตธ้ัง>/มสงมฺ สอายั โ),ลภสะพสอังฺเโสพทยสบะทเตอ(ผโมอู าห.ศ.ะ.ัย..).........ติ ? (มูลนัย)*61, 63 (ที่เปนกศุ ล) มูลยมกะ กุสลมลู า (ช่อื วากุศลมลู ) (มูลมลู นัย)**51, 56, 61 กุสลมลู มลู า (ชื่อวา มลู ทเี่ ปนกุศลมลู ) ธรรมเหลา ใดเหลา หนงึ่ ท่ีเปนกศุ ล มีอย,ู ธรรมเหลา นน้ั ทง้ั หมด .......... ใชไ หม ? สนั .=กุ.๒๑+เจ.๓๘ อธ.สัน.>(มากกวา )สงั .จึงมีทัง้ อธ.บทเดียว และ๒บท สงั .= ปุรมิ โกฏฐาส (อธ.๒บทแสดงกอน)/ปจ ฉมิ โกฏฐาส กุ.๒๑+๓๕ (-) ปริปุณณปญหา / สรปู ทัสสนวิสชั นา (ทม่ี ีวภิ งั คโ ดย) ออ ม ว.ิ อโลภะ อโทสะ อโมหะ ตปรุ เี มิ ณโกวฏฐาสกสุ กลุ. ๒ม๑ูลา+น๓ิ, ๕(-3) อวเสสาปกจฉุสิมลโกาฎฐธาสมมฺ า นX กุสลมูลา. ตเี ณว กุสลมูลมลู านิ, อวเสสา กสุ ลา ธมมฺ า นX กุสลมูลมูลา.** อโลภะ อโทสะ กุ.๒๑+๓๕ อโมหะ (-3) อโลภะ อโทสะ อโมหะ เพยี ง ๓ เทา นนั้ ..........., กุศลธรรมท่ีเหลือนอกนน้ั ไม. ............. ๒. จงแปลปจุ ฉาและวสิ ชั นาในบทดงั ตอ ไปน้ี พรอมทง้ั แสดงองคธ รรม และจาํ แนกโกฏฐาส ๒. จงวสิ ัชนาในคาํ ปจุ ฉาดงั ตอไปนเ้ี ปนบาลี พรอ มทงั้ คาํ แปล แสดงองคธ รรม และจําแนกโกฏฐาส เยเกจิ กสุ ลา ธมมฺ า, สพเฺ พ เต กสุ ลมลู าติ ? 63 ๒. จงวสิ ัชนาในคาํ ปจุ ฉาดงั ตอ ไปนเี้ ปน บาลี พรอมทงั้ คาํ แปล แสดงองคธ รรม และจําแนกโกฏฐาสดว ย ธรรมเหลาใดเหลา หนง่ึ ทเี่ ปน กุศลมอี ยู , ธรรมเหลา นนั้ ทงั้ หมดชอื่ วา กศุ ลมลู ใชไ หม ? 61 ตอบ (63) แปล ธรรมเหลาใดเหลาหนึ่งท่ีเปน กศุ ลมอี ยู, ธรรมเหลา น้ันท้งั หมดชอ่ื วา กุศลมลู ใชไหม ? ตอบ วสิ ัชนา ตีเณว กสุ ลมลู าน,ิ อวเสสา กุสลา ธมฺมา น กุสลมลู า. อโลภะ อโทสะ อโมหะ เพยี ง ๓ เทานัน้ ชือ่ วากุศลมลู , กุศลธรรมท่เี หลือนอกน้นั ไมช อ่ื วา กุศลมูล. แสดงองคธรรมและการจาํ แนกโกฏฐาส ในอนุโลมปุจฉา เยเกจิ กุสลา ธมมฺ า เปน สนั นิฏฐานบท // สพเฺ พ เต กสุ ลมลู า เปน สังสยบท องคธรรมของสันนิฏฐานบท ไดแ ก กุศลจติ ๒๑ เจตสกิ ๓๘ องคธ รรมของสงั สยบท ไดแก กุศลมลู ๓ เทานั้น ดาวนโ หลดขอ มูลจากขอ ความเพิ่มเติมท่ี youtube หรอื ที่ Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มลู ยมก ปณ ณตั วิ าระในขนั ธยมกะ (วันแรก) 6 ฉะนนั้ คาํ ถามบทนีเ้ ปนปรปิ ุณณปญ หาถามวา ธรรมเหลา ใดเหลา หน่ึงที่เปน กุศลมอี ย,ู ธรรม เหลานน้ั ทงั้ หมดชอื่ วา กศุ ลมลู ใชไ หม ? พระองคจ ึงทรงแกด ว ยการยกเอา กุศลมลู ๓ ซ่งึ เปน องคธรรมของ สนั นิฏฐานบทและสังสยบทไดทัง้ สองข้นึ ไวใ นปรุ ิมโกฏฐาส ไมมกี ารปฏเิ สธสังสยบท ดงั แสดงวา ตเี ณว กุสลมลู านิ แลว ทรงยกเอา กศุ ลจติ ๒๑ เจตสิก ๓๕ (เวน กุศลมูล ๓) ซงึ่ เปน องคธรรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดบทเดียวข้นึ ไวในปจฉิมโกฏฐาส มกี ารปฏเิ สธสงั สยบท ดงั แสดงวา อวเสสา กุสลา ธมมฺ า น กุสลมลู า คาํ วิสัชนาในอนุโลมปจุ ฉาน้ี เปนสรูปทสั สนวสิ ชั นาท่ีมวี ภิ งั คโ ดยออม ๒. เยเกจิ กสุ ลา ธมมฺ า, สพฺเพ เต กุสลมลู มลู าติ ? คาํ ปจุ ฉาน้ี วสิ ัชนาเปน บาลี แปลเปน ไทยวา อยา งไร ใหแ สดงองคธ รรมจาํ แนกโกฏฐาสดว ย ? (องคธ รรมของสงั สยบทใหต อบวา ไดแกอ งคธรรมหมวดแรกเทา น้ัน หรอื องคธ รรมหมวดหลงั เทา น้ัน) ? 51 ๒. จงวสิ ชั นาในปุจฉา ดงั ตอ ไปน้ี เปน ภาษาบาลี ไทย แสดงองคธ รรมและการจําแนกโกฏฐาส ? 56 เยเกจิ กสุ ลา ธมมฺ า, สพเฺ พ เต กสุ ลมลู มลู าต.ิ ? 56 ตอบ วสิ ชั นา ตเี ณว กุสลมลู มลู าน,ิ อวเสสา กสุ ลา ธมมฺ า น กุสลมลู มูลา. อโลภะ, อโทสะ, อโมหะ, เพียง ๓ เทา น้ัน ช่อื วามูลทเี่ ปน กุศลมูล, กุศลธรรมที่เหลือนอกน้นั ไมช ่ือวามูลท่เี ปนกศุ ลมลู แสดงองคธรรมและการจําแนกโกฏฐาส ในอนุโลมปจุ ฉา เยเกจิ กุสลา ธมมฺ า เปน สนั นฏิ ฐานบท // สพเฺ พ เต กสุ ลมลู มลู า เปน สังสยบท องคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแ ก กศุ ลจติ ๒๑ เจตสกิ ๓๘ องคธ รรมของสงั สยบท ไดแ ก กศุ ลมูล ๓ เทา นน้ั (ป 51) แสดงเหมอื นกัน ยกเวน “องคธรรม” สนั . สัง. ตองแสดงดังน้ี องคธรรมของสันนฏิ ฐานบท ไดแก กุศลมูล ๓ และ กศุ ลจติ ๒๑ เจตสกิ ๓๕ (เวน กศุ ลมลู ๓) หรือ กศุ ลจติ ๒๑ เจตสกิ ๓๘ องคธรรมของสังสยบท ไดแ ก องคธ รรมหมวดแรก เทาน้ัน หมายเหตุ ในสงั สยบทนัน้ ท่แี สดงเชนน้ี เพราะเปน คาํ วิสชั นาท่ีมวี ิภงั คโ ดยออม ฉะนัน้ คําถามบทนเ้ี ปนปรปิ ุณณปญ หา ถามวา ธรรมเหลาใดเหลาหนงึ่ ทเี่ ปน กศุ ลมอี ย,ู ธรรม เหลา นน้ั ท้งั หมดชอื่ วามลู ทเี่ ปน กุศลมลู ใชไหม ? พระองคจ ึงทรงแกดวยการยกเอา กศุ ลมลู ๓ ซ่ึงเปนองค ธรรมของสันนฏิ ฐานบท และสงั สยบทไดท ้งั สองข้ึนไวใ นปรุ มิ โกฏฐาส ไมม กี ารปฏเิ สธสงั สยบท ดงั แสดงวา ตเี ณว กุสลมลู มลู านิ แลวทรงยกเอา กศุ ลจติ ๒๑ เจตสกิ ๓๕ (เวน กศุ ลมูล ๓) ซ่ึงเปนองคธรรมของสนั นิฏฐานบทไดบ ทเดียวข้ึนไวใน ปจฉิมโกฏฐาส มกี ารปฏเิ สธสังสยบท ดังแสดงวา อวเสสา กสุ ลา ธมมฺ า น กุสลมลู มลู า คําวิสชั นาในอนโุ ลมปุจฉานเ้ี ปน สรปู ทสั สนวสิ ัชนา ท่ีมีวภิ ังคโดยออ ม สัน สัง ปฏโิ ลมปจุ ฉา เย วา ปน .............., สพฺเพ เต ธมฺมา กสุ ลาติ ? กุศลมลู ๓ (มูลนยั ) เปนกุศล มูลยมกะ กสุ ลมลู า (ช่ือวากุศลมลู ) (มูลมลู นยั ) กุสลมลู มลู า (ช่ือวามูลทเ่ี ปนกศุ ลมลู ) ดาวนโหลดขอ มูลจากขอความเพ่ิมเตมิ ที่ youtube หรอื ท่ี Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มูลยมก ปณ ณัติวาระในขนั ธยมกะ (วนั แรก) 7 หรอื วา ธรรมเหลาใด .................มีอยู, ธรรมเหลา นนั้ ทง้ั หมด เปน กศุ ล ใชไ หม ? กุศลมลู ๓ เหมอื นกนั ปจฉาปญ หา ปฏจิ วนวสิ ชั นา (รบั รอง อ.ธ. สนั นฏิ ฐานบท) ว.ิ อามนตฺ า ใช มลู วาระ : กสุ ลบท + มูลกนยั / มลู มูลกนัย + มลู ยมกะ (น.๑๒-๑๓, ๑๕-๑๖) อนุ.ปุ เยกเกสุ.๒นัจ๑ิ +ก๓สุ ๘ลสงัามธลูมวมฺ าาร,(ะน.:๗ก-เ๘สุ ห,ลมส๑บือพท๐นเฺ ก-พ+๑ัน๑มกเ,ตลูุ.๒๑น.๑.๓ัย..+-..๑/๓..๔.๘ม..,ลู...๑มตลู๖[ิแน-?ล๑ยั ะ๗/ก)ุ.มจูลิ.รกุ ๑น๗ยั ไ/มไมดูลถามมูลถกึงน] ยั + เอกมลู ยมกะ (มลู กนัย) (ท่ีเปน กุศล) เอกมูลยมกะ มูลยมกะ กุสลมลู กา (มมี ลู ทเี่ ปน กุศล) (มูลมลู กนยั ) กสุ ลมลู มูลกา (มมี ลู ที่เปน กศุ ลมลู ) (มูลนยั ) กุ.๒๑+๓๘ กสุ ลมเู ลน เอกมูลา (มมี ูลเปนอันเดยี วกนั กับกศุ ลมลู ) (มูลมลู นยั ) กุสลมเู ลน เอกมูลมูลา (มมี ลู ทเ่ี รียกวา เปน มลู อนั เดียวกันกับกศุ ลมลู ) (มูลกนัย) กสุ ลมเู ลน เอกมลู กา (มมี ูลเปนอันเดียวกนั กบั กุศลมลู ) (มูลมลู กนัย)***53, 55 กสุ ลมเู ลน เอกมลู มลู กา (มมี ูลที่เรยี กวาเปนมูลอนั เดียวกนั กับกุศลมลู ) ธรรมเหลา ใดเหลา หนง่ึ ทเี่ ปน กุศล มอี ยู, ธรรมเหลา นนั้ ทงั้ หมด มมี ลู ที............... ใชไ หม ? กุ.๒๑+เจ. ๓๘ เหมอื นกัน = ปจฉาปญหา / ปฏิจวนวิสัชนา (รับรอง อ. สนั .) ว.ิ อามนตฺ า ใช กุ.๒๑+๓๘ ๒. จงต้ังปจุ ฉาวสิ ัชนาเปน บาลีไทยพรอ มแสดงองคธ รรมและการจําแนกโกฏฐาส ในกศุ ลบท มลู กนยั เอกมูลยมกะเฉพาะอนโุ ลมปจุ ฉา ? 59 ๒. จงตง้ั ปจุ ฉาวิสัชนาเปน บาลีไทย พรอ มทง้ั แสดงองคธ รรม และการจาํ แนกโกฏฐาส ในกศุ ลบท มลู มลู กนยั เอกมลู ยมกะ เฉพาะอนโุ ลมปจุ ฉา ? 53, 55 ตอบ (59) อนโุ ลมปุจฉา เยเกจิ กสุ ลา ธมมฺ า, สพเฺ พ เต กุสลมเู ลน เอกมลู กาติ ? ธรรมเหลา ใดเหลาหนึ่ง ที่เปนกศุ ลมีอยู, ธรรมเหลา นั้นท้งั หมด มีมลู เปนมลู อันเดียวกนั กับกุศลมูล ใชไหม ? ตอบ (53, 55) อนโุ ลมปุจฉา เยเกจิ กสุ ลา ธมมฺ า, สพฺเพ เต กสุ ลมเู ลน เอกมลู มลู กาติ ? ธรรมเหลาใดเหลาหนงึ่ ท่ีเปน กศุ ลมอี ยู, ธรรมเหลานนั้ ทั้งหมด มีมลู ท่เี รียกวาเปน มูลอนั เดียวกันกบั กุศลมลู ใชไ หม ? วิสชั นา อามนฺตา ใช. แสดงองคธ รรมและการจาํ แนกโกฏฐาส ในอนโุ ลมปจุ ฉา เยเกจิ กสุ ลา ธมมฺ า เปนสันนฏิ ฐานบท (59) สพฺเพ เต กสุ ลมเู ลน เอกมลู กา เปน สังสยบท (53, 55) สพฺเพ เต กุสลมูเลน เอกมลู มลู กา เปนสงั สยบท องคธรรมของสันนิฏฐานบท ไดแ ก = กศุ ลจติ ๒๑ เจตสิก ๓๘ // องคธรรมของสงั สยบท เหมือนกัน ฉะนนั้ คําถามบทนี้เปน ปจ ฉาปญ หา ถามวา ธรรมเหลาใดเหลาหนึ่งทีเ่ ปนกศุ ลมอี ย,ู (59) ธรรมเหลา นั้นทงั้ หมดมมี ลู เปน มลู อันเดียวกนั กบั กุศลมลู ใชไ หม ? / (53, 55) ธรรมเหลา นัน้ ทั้งหมดมีมูลทเี่ รยี กวา เปนมูลอนั เดยี วกนั กบั กศุ ลมลู ใชไหม ? พระองคจงึ ทรงแกโ ดยปฏวิ จนวสิ ชั นาวา อามนฺตา ซงึ่ เปนคาํ วิสชั นารับรององคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบท เพราะวา กศุ ลจติ ๒๑ เจตสิก ๓๘ ซ่งึ เปนองคธรรมของสนั นฏิ ฐานบทเหลา น้ัน ดาวนโหลดขอ มูลจากขอ ความเพิ่มเติมท่ี youtube หรือที่ Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มลู ยมก ปณ ณตั วิ าระในขนั ธยมกะ (วันแรก) 8 (59) กม็ มี ลู เปน มลู อันเดยี วกันกบั กุศลมลู ดว ย / (53, 55) กม็ มี ูลทเ่ี รียกวา เปน มลู อันเดยี วกนั กบั กศุ ลมลู ดวย มลู วาระ: กสุ ลบท+มลู กนยั /มลู มลู กนยั +มลู ยมกะ มลู วาระ: กสุ ลบท+มูลนยั /มลู มูลนัย/มูลกนัย/มลู มูลกนัย+เอกมลู ยมกะ ปกุ.ฏ๒.ิ ป๑.ุ +เ๓ย๘วาปแสนลนั ะ..ก..ุ..จ..ิ..ร..ุ .๑...๗......, สพ>เฺ พ เตกุ.สธงั๒ม๑ฺม+า ๓ก๘สุ ลาติ ? เปนกุศล เอกมูลยมกะ มูลยมกะ (มลู กนัย) กสุ ลมลู กา (มมี ลู ทเ่ี ปน กศุ ล) (มลู มลู กนยั ) กุสลมลู มูลกา (มมี ูลท่เี ปน กศุ ลมูล) (มูลนยั )*** กุสลมเู ลน เอกมลู า (มมี ลู เปน อันเดยี วกันกบั กศุ ลมลู ) (มูลมลู นัย)*** กสุ ลมเู ลน เอกมูลมูลา (มมี ลู ทเี่ รยี กวา เปนมูลอันเดียวกนั กบั กศุ ลมลู ) (มูลกนยั ) กุสลมเู ลน เอกมูลกา (มมี ูลเปน อันเดยี วกันกบั กุศลมลู ) (มูลมลู กนัย) กุสลมเู ลน เอกมูลมลู กา (มมี ูลทเ่ี รียกวา เปน มูลอันเดยี วกนั กับกศุ ลมูล) หรอื วา ธรรมเหลาใด ................ มีอยู, ธรรมเหลา นน้ั ทงั้ หมด เปนกุศล. ใชไ หม ? สัน.=กุ.๒๑+เจ.๓๘ และ กุ.จิ.ร.ุ ๑๗ อธ.สัน.>(มากกวา)สัง.จึงมที ั้งอธ.บทเดียว และ๒บท สัง.=กุ.๒๑+เจ. ๓๘ ปรุ มิ โกฏฐาส(บทเดยี วแสดงกอ น)/ปจฉิมโกฏฐาส ว.ิ กุ.จิ.ร.ุ ๑๗ ...ก..ุ..จ..ิ..ร..ปุ .๑.ร.ปิ๗..ุณ...ณ...ป..ญ. หนาX-สกรสุูปทลัส,ํ สนกวสุ ิสลัชํน.า.ก.,.ุ..ต.๒.ร.ง.๑...+..๓...๘.................. กสุ ลจฺ . กสุ ลสมุฏ านํ รปู กุ.จิ.รุ ๑๗ กสุ ลมลู กํ กุสลมลู กฺเจว กุ.๒๑+๓๘ กสุ ลมูลมลู กํ กุสลมลู มลู กเฺ จว 46(๒) กสุ ลมูเลน เอกมูลํ กุสลมูเลน เอกมลู ฺเจว 43, 44, 45, 50, 54(๒) กุสลมูเลน เอกมลู มลู ํ กุสลมูเลน เอกมูลมลู เฺ จว กสุ ลมูเลน เอกมูลกํ กุสลมูเลน เอกมลู กเฺ จว กุสลมูเลน เอกมลู มลู กํ กสุ ลมูเลน เอกมูลมลู กเฺ จว รปู ซง่ึ มีกศุ ลเปน สมฏุ ฐาน ........... แตไ มใ ชเ ปน กศุ ล, กศุ ลธรรม .......... ก็ใช เปน กศุ ลก็ใช ๒. จงวิสชั นาในคําถามดงั ตอ ไปนี้ เปน บาลี และพรอมท้งั แสดงองคธ รรมและจาํ แนกโกฏฐาสดว ย ? 46 เย วา ปน กสุ ลมเู ลน เอกมลู า, สพเฺ พ เต ธมมฺ า กุสลาติ ? ตอบ เปน บาลี กสุ ลสมฏุ านํ รูป กุสลมเู ลน เอกมลู ํ น กุสล,ํ กสุ ลํ กุสลมเู ลน เอกมลู ฺเจว กุสลจฺ . แสดงองคธ รรม องคธรรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแ ก กุศลจิต ๒๑ เจตสิก ๓๘ และ กุศลจติ ตชรูป ๑๗ องคธ รรมของสงั สยบท ไดแก กุศลจติ ๒๑ เจตสิก ๓๘ เทานน้ั จาํ แนกโกฏฐาส ฉะนั้นคําถามบทนเ้ี ปน ปริปุณณปญหา ถามวา ธรรมเหลา ใด มมี ลู เปนอนั เดยี วกนั กบั กศุ ลมลู มอี ยู ธรรมเหลา นน้ั ทงั้ หมด เปน กุศลใชไ หม ? พระองคจึงทรงแกดว ยการยกเอา กุศลจติ ตชรปู ๑๗ ซึง่ เปน องค ธรรมของสนั นิฏฐานบทไดบทเดยี วข้นึ ไวใ นปุรมิ โกฏฐาส มกี ารปฏิเสธสงั สยบทดงั แสดงวา กุสลสมฏุ านํ รูป กุสลมเู ลน เอกมลู ํ น กุสลํ แลว ทรงยกเอา กศุ ลจติ ๒๑ เจตสกิ ๓๘ ซงึ่ เปนองคธ รรมของสันนิฏฐาน บท และสังสยบทไดทั้งสอง ขึ้นไวใ นปจ ฉมิ โกฏฐาส ไมมกี ารปฏิเสธสังสยบทดังแสดงวา กสุ ลํ กสุ ลมูเลน เอกมลู ฺเจว กสุ ลจฺ คําวสิ ชั นาในปฏโิ ลมปุจฉานี้ เปนสรูปทัสสนวสิ ชั นาท่ีมวี ภิ งั คโดยตรง ๒. จงวสิ ชั นาบาลี คาํ แปล พรอ มทงั้ แสดงองคธรรมและจําแนกโกฏฐาส ในคาํ ปจุ ฉาตอ ไปน้ี ดาวนโหลดขอ มูลจากขอ ความเพิ่มเติมที่ youtube หรือท่ี Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มูลยมก ปณ ณัตวิ าระในขันธยมกะ (วันแรก) 9 หรอื วา ธรรมเหลา ใดมีมูลเปน อนั เดียวกันกบั กศุ ลมอี ย,ู ธรรมเหลา นน้ั ทงั้ หมดเปน กุศลใชไ หม ? 44 นา จะถามวา หรือวา ธรรมเหลาใดมมี ลู เปนอนั เดียวกนั กบั กุศลมลู มอี ยู ธรรมเหลา นัน้ ทง้ั หมดเปนกุศลใชไ หม ? ตอบ วิสชั นา กสุ ลสมุฏฐ านํ รูป กุสลมเู ลน เอกมูลํ น กสุ ลํ, กสุ ลํ กุสลมเู ลน เอกมลู เฺ จว กสุ ลฺจ. รูปซงึ่ มกี ศุ ลเปน สมฏุ ฐาน มมี ลู เปนอันเดยี วกันกับกุศลมลู แตไมใ ชเปนกุศล, 47, 49, 52, กุศลธรรมมีมลู เปนอนั เดยี วกนั กบั กศุ ลมลู ก็ใช เปน กศุ ลก็ใช แสดงองคธ รรมและการจาํ แนกโกฏฐาส ในปฏิโลมปุจฉา เยวา ปน กสุ ลมูเลน เอกมูลา เปนสนั นฏิ ฐานบท สพเพ เต ธมมา กสุ ลา เปน สงั สยบท องคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแ ก กุศลจิต ๒๑ เจตสกิ ๓๘ และ กศุ ลจติ ตชรปู ๑๗ องคธ รรมของสงั สยบท ไดแ ก กุศลจิต ๒๑ เจตสิก ๓๘ เทา นัน้ ฉะน้ันคําถามบทน้ีเปนปริปณุ ณปญ หา ถามวา หรือวา ธรรมเหลา ใดมมี ลู เปน อนั เดียวกันกบั กุศล มลู มีอยู ธรรมเหลา นน้ั ทั้งหมดเปน กศุ ลใชไ หม ? พระองคจ ึงทรงแกด ว ยการยกเอา กุศลจติ ตชรปู ๑๗ ซง่ึ เปน องคธ รรมของสนั นิฏฐานบทไดบ ทเดยี วข้นึ ไวในปรุ ิมโกฏฐาส มกี ารปฏเิ สธสงั สยบท ดงั แสดงวา กุสล สมฏุ านํ รปู กสุ ลมูเลน เอกมลู ํ น กุสลํ แลว ทรงยกเอา กุศลจติ ๒๑ เจตสกิ ๓๘ ซ่ึงเปนองคธรรมของ สันนิฏฐานบท และสงั สยบทไดท้งั สองข้นึ ไวในปจ ฉิมโกฏฐาส ไมมกี ารปฏเิ สธสังสยบท ดงั แสดงวา กสุ ลํ กุสลมเู ลน เอกมลู เฺ จว กุสลจฺ คําวิสัชนาในปฏิโลมปุจฉาน้เี ปน สรปู ทสั สนวสิ ชั นาทมี่ วี ิภังคโดยตรง ๒. จงปจุ ฉาและวสิ ชั นา (ทง้ั บาลแี ละไทย) พรอ มทั้งแสดงองคธ รรมและการจาํ แนกโกฏฐาส ในกศุ ลบท มลู มลู นัย เอกมลู ยมกะ เฉพาะปฏโิ ลมปจุ ฉา ฯ ? 43, 45, 50, 54 ตอบ ปฏิโลมปุจฉา เย วา ปน กสุ ลมเู ลน เอกมลู มลู า, สพเพ เต ธมมา กสุ ลาติ ? หรอื วา ธรรมเหลาใดมีมลู ทเี่ รียกวา เปนมลู อนั เดียวกนั กับกุศลมูล มอี ยู ธรรมเหลา น้นั ท้งั หมด เปน กุศล ใชไ หม ? วสิ ัชนา กสุ ลสมฏุ ฐ านํ รูป กุสลมเู ลน เอกมูลมูลํ น กสุ ลํ, กสุ ลํ กุสลมูเลน เอกมูลมูลฺเ จว กสุ ลฺจ. รูปซ่งึ มีกุศลเปนสมุฏฐาน มีมลู ท่เี รยี กวา เปน มูลอนั เดียวกันกบั กุศลมูล แตไ มใชเปนกศุ ล กศุ ลธรรมมีมลู ทีเ่ รยี กวาเปน มูลอนั เดียวกนั กบั กศุ ลมูลกใ็ ช เปน กศุ ลก็ใช. แสดงองคธ รรมและการจําแนกโกฏฐาส ในปฏิโลมปุจฉา เยวา ปน กุสลมเู ลน เอกมูลมูลา เปนสนั นิฏฐานบท สพเพ เต ธมมา กุสลา เปน สังสยบท องคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแก กุศลจิต ๒๑ เจตสิก ๓๘ และ กุศลจติ ตชรปู ๑๗ องคธรรมของสังสยบท ไดแก กศุ ลจติ ๒๑ เจตสิก ๓๘ เทา น้นั ฉะนั้นคําถามบทน้เี ปน ปรปิ ณุ ณปญ หา ถามวา หรอื วาธรรมเหลาใดมมี ูลทเี่ รยี กวา เปนมลู อัน ดาวนโหลดขอมูลจากขอ ความเพิ่มเติมท่ี youtube หรอื ที่ Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มลู ยมก ปณ ณตั วิ าระในขนั ธยมกะ (วันแรก) 10 เดียวกนั กบั กศุ ลมูลมอี ยู ธรรมเหลานน้ั ทง้ั หมดเปน กุศลใชไ หม ? พระองคจ ึงทรงแกดว ยการยกเอา กุศล จติ ตชรูป ๑๗ ซงึ่ เปนองคธรรมของสนั นฏิ ฐานบทไดบ ทเดียวขึ้นไวในปุรมิ โกฏฐาส มกี ารปฏิเสธสังสยบท ดังแสดงวา กสุ ลสมฏุ านํ รูป กสุ ลมูเลน เอกมลู มลู ํ น กสุ ลํ แลว ทรงยกเอา กุศลจติ ๒๑ เจตสิก ๓๘ ซึ่ง เปน องคธรรมของสันนฏิ ฐานบท และสังสยบทไดท ง้ั สองขนึ้ ไวใ นปจฉิมโกฏฐาส ไมมกี ารปฏิเสธสังสยบท ดังแสดงวา กุสลํ กสุ ลมเู ลน เอกมลู มลู ฺเจว กสุ ลจฺ คําวิสชั นาในปฏิโลมปุจฉานี้เปน สรูปทสั สนวสิ ชั นา ที่มวี ภิ ังคโ ดยตรง อน.ุ ป.ุ กุ. เส๒ยัน๑เก+จ๓ิ๕...แ.สม.ลัง.ล.ู ะ..ว.ก.า.ุ..รจ..ะิ..ร..ุ:.๑.ก.๗.(ุส.น.ล.๘บธม-ท๙มฺ +,+า๑,ม๑ูล-น๑ยั๒ส/,พ>ม๑เฺูล๔พม-ูล๑เตน๕เทัย,..า/.๑.นม.๗.นั้.ลู .-.ก๑..น.๘..ัย).../..ม...ูล..ม..ูล...ก.นตยั ิ ?+ อญั ญมญั ญมลู ยมกะ (มลู นัย)*** กุสลมเู ลน เอกมูลา กสุ ลมเู ลน อฺ มฺ มูลา (มีมลู เปน อนั เดยี วกัน/กบั กุศลมูล) (ช่ือวาเปนมูลซ่ึงกันและกัน/กับกุศลมูล) (มลู มลู นยั ) กุสลมเู ลน เอกมูลมลู า กุสลมเู ลน อฺ มฺ มูลมลู า (มีมูลท่เี รยี กวา เปนมูลอันเดยี วกัน/กับกศุ ลมลู ) (ชอื่ วา มูลทีเ่ รียกวา เปนมูลซง่ึ กนั และกัน/กบั กศุ ลมลู ) (มูลกนัย)*** กุสลมูเลน เอกมลู กา กุสลมเู ลน อฺ มฺ มูลกา* (มีมลู เปนอนั เดยี วกัน/กับกุศลมลู ) (มีมูลซงึ่ กันและกนั /กับกศุ ลมลู ) (มูลมลู กนยั ) กุสลมเู ลน เอกมลู มลู กา กสุ ลมเู ลน อฺ มฺ มูลมลู กา (มีมลู ทเี่ รยี กวาเปน มลู อันเดยี วกนั /กับกุศลมลู ) (มีมลู ท่ีเรยี กวา เปนมลู ซง่ึ กันและกนั /กบั กุศลมลู ) ธรรมเหลา ใดเหลา หนงึ่ มีมลู ........... มอี ย,ู ธรรมเหลา นนั้ ทงั้ หมด ............... ใชไ หม ? สัน.=กุ.๒๑+เจ.๓๘ กุ.จิ.ร.ุ ๑๗ อธ.สัน.>(มากกวา)สัง.จงึ มีทง้ั อธ.บทเดยี ว และ๒บท สัง.= ปุริมโกฏฐาส (อธ.๒บทแสดงกอน)/ปจ ฉิมโกฏฐาส กุ.๒๑+เจ ๓๕ (-) กุ.จ.ิ ร.ุ ๑๗ ปรปิ ณุ ณปญหา - สรูปทสั สนวสิ ัชนา (วิภงั ค ออม) ว.ิ มลู านิ ยานิ เอกโต อปุ ฺปชชฺ นตฺ ิ กสุ ลมูลานิ (เอกมูลาน)ิ เจว (อฺ มฺ มูลาน)ิ จ, อฺ มฺ มลู มลู านิ จ, กุศลมลู ๓ เอกมูลมูลานิ อฺ มฺ มูลกานิ จ, เอกมูลกานิ อฺ มฺ มูลมูลกานิ จ, เอกมลู มลู กานิ อวเสสา กสุ ลมูลสหชาตา ธมมฺ า กุสลมเู ลน (เอกมลู า) นX จ (อฺ มฺ มูลา). กุ. ๒๑+๓๕(-3), เอกมูลมูลา อฺ มฺ มลู มูลา. กุ.จิ.รุ. ๑๗ เอกมลู กา อฺ มฺ มูลกา. 4กศุ3ล, ม44ลู ,เห4ล7า ,ใ5ด1เก,5ิด3ขึน้ คราวเดียวกัน เอกมลู มูลกา อฺ มฺ มูลมลู กา. ก็ใช (ชื่อวา /ม)ี ..มูล........ซง่ึ กนั และกนั ก็ใช, กศุ ลมลู เหลานัน้ มีมูล.......เปน มูลอนั เดยี วกัน ธรรมท่ีเกิดพรอมกันกับกศุ ลมูลทเ่ี หลอื นอกนน้ั (มมี ลู .......อนั เดียวกนั กบั กศุ ลมูล แตไ ม/ ไมใ ช๓(ช่ือวา/มี)...มลู ........ซ่งึ กันและกัน. ๔. จงแปลในคาํ วสิ ชั นาดงั ตอ ไปน้ี ? 47(1/3), 51(1/3) ก. มลู านิ ยานิ เอกโต อปุ ปฺ ชชฺ นฺติ กุสลมลู านิ เอกมลู านิ เจว อฺ มฺ มลู านิ จ, อวเสสา กุสลมลู สหชาตา ธมมฺ า กุสลมเู ลน เอกมลู า น จ อฺ มฺ มลู า. ? 47(1/3), 51(1/3) ตอบ ก. มีคาํ แปลดังนี้ กุศลมูลเหลา ใดเกิดขึ้นคราวเดยี วกัน กุศลมลู เหลา นัน้ มมี ลู เปนอนั เดียวกนั กใ็ ช ชอื่ วา เปนมูลซึ่งกันและกันก็ใช, ธรรมทเ่ี กิดพรอมกนั กบั กศุ ลมูลท่ีเหลือนอกนั้น มีมลู เปนอันเดยี วกนั กับ กศุ ลมูล แตไ มช่อื วาเปน มูลซ่ึงกันและกัน ดาวนโ หลดขอมูลจากขอ ความเพิ่มเติมท่ี youtube หรือท่ี Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มลู ยมก ปณ ณตั วิ าระในขนั ธยมกะ (วนั แรก) 11 ๔. จงแปลและแสดงองคธ รรมในคาํ บาลีตอ ไปน้ี ? 43, 44, 47, 53 ก. อวเสสา กุสลมลู สหชาตา ธมมฺ า กสุ ลมเู ลน เอกมลู า น จ อฺ มฺ มูลา ? 43(4ก/ค), 44(4ก/ค), 47(1/3), 53(5ก/ง) ตอบ ก. ธรรมทเ่ี กิดพรอมกนั กบั กศุ ลมูลท่เี หลอื นอกนน้ั มีมลู เปน อันเดียวกนั กบั กศุ ลมลู แตไ มชือ่ วา เปนมูลซึ่ง กันและกนั องคธรรมไดแก กศุ ลจิต ๒๑ เจตสิก ๓๕ (เวนกุศลมลู ๓) กุศลจิตตชรปู ๑๗ ๒. จงวิสัชนาในคาํ ปจุ ฉาดงั ตอ ไปนเ้ี ปน บาลี (และ) พรอ มท้ังคาํ แปล แสดงองคธ รรมและการจาํ แนกโกฏฐาส (ดวย) เยเกจิ กสุ ลมเู ลน เอกมลู กา ธมมฺ า, สพเฺ พ เต กสุ ลมูเลน อฺ มฺ มลู กาติ ? 49, 52, 57, 62 ๒. จงวสิ ัชนา แปล พรอ มทงั้ แสดงองคธ รรมและการจาํ แนกโกฏฐาส ในคาํ ถามตอไปนี้ ? 47, 58, 60 ธรรมเหลา ใดเหลา หนง่ึ มมี ลู เปนอันเดยี วกนั กบั กศุ ลมลู มอี ย,ู ธรรมเหลา นนั้ ทัง้ หมด มมี ลู ซงึ่ กันและกนั กบั กศุ ลมูลใชไหม ? 47, 58, 60 ตอบ วสิ ชั นา มลู านิ ยานิ เอกโต อปุ ปฺ ชฺชนตฺ ิ กสุ ลมูลานิ เอกมูลกานิ เจว อฺ มฺ มลู กานิ จ, อวเสสา กุสลมลู สหชาตา ธมฺมา กุสลมเู ลน เอกมูลกา น จ อฺ มฺ มลู กา กศุ ลมลู เหลา ใดเกิดขึน้ คราวเดยี วกัน กุศลมูลเหลา นั้นมมี ูลเปนอันเดยี วกันก็ใช มีมลู ซึง่ กนั และกันกใ็ ช, ธรรมที่เกดิ พรอมกนั กบั กุศลมูลท่เี หลือนอกนั้น มีมูลเปน อนั เดยี วกนั กับกศุ ลมูล แตไมใ ชม ีมลู ซงึ่ กันและกนั (49, 52, 57, 62) แสดงองคธ รรมและการจาํ แนกโกฏฐาส / (47, 58, 60) แสดงองคธ รรม ในอนโุ ลมปุจฉา เยเกจิ กสุ ลมเู ลน เอกมูลกา ธมมฺ า เปนสนั นิฏฐานบท สพเฺ พ เต กุสลมเู ลน อฺ มฺ มูลกา เปน สังสยบท องคธรรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแก กุศลจิต ๒๑ เจตสิก ๓๘ และ กุศลจติ ตชรปู ๑๗ องคธ รรมของสังสยบท ไดแก กุศลมูล ๓ เทานัน้ (49, 52, 57, 62) ฉะนน้ั คําถามบทนีเ้ ปน ปริปณุ ณปญหา ถามวา ธรรมเหลา ใดเหลา หนง่ึ มมี ลู เปน อนั เดยี วกนั กับกุศลมูลมอี ย,ู ธรรมเหลา นนั้ ท้งั หมด มมี ลู ซง่ึ กนั และกนั กบั กุศลมลู ใชไ หม ? พระองคจ ึงทรงแก ดว ยการยกเอา กุศลมูล ๓ ซงึ่ เปนองคธรรมของสนั นิฏฐานบทและสงั สยบทไดทง้ั สองขึ้นไวใ นปุรโิ กฏฐาส ไมมกี ารปฏเิ สธสงั สยบท ดังแสดงวา มูลานิ ยานิ เอกโต อปุ ปฺ ชชฺ นฺติ กสุ ลมลู านิ เอกมูลกานิ เจว อฺ มฺ มลู กานิ จ แลว ทรงยกเอา กศุ ลจติ ๒๑ เจตสิก ๓๕ (เวน กศุ ลมูล ๓) กุศลจติ ตชรูป ๑๗ ซึ่งเปน องค ธรรมของสันนฏิ ฐานบทไดบ ทเดยี วขน้ึ ไปในปจ ฉิมโกฏฐาส มกี ารปฏเิ สธสงั สยบท ดังแสดงวา อวเสสา กุสลมลู สหชาตา ธมมฺ า กสุ ลมเู ลน เอกมลู กา น จ อฺ มฺ มลู กา คาํ วิสัชนาในอนโุ ลมปุจฉาน้ี เปน สรปู ทสั สนวสิ ชั นาท่ีมวี ิภังคโดยออม ปฏ.ิ ป.ุ เย วา ปนก.ุศ..ล...ม..สูล..นั .๓........., < สสกงั พุ. ๒เฺ พ๑ เ+ต๓ธ๕มมฺไมา่ไกดสถุ้ าลมาถตึงิ ?+ (มูลนยั ) กสุ ลมเู ลน อฺมฺ มูลา (ช่ือวา เปน มูลซึ่งกันและกันกับกุศลมูล) เปนกุศล (มูลมลู นยั ) กุสลมเู ลน อฺมฺ มูลมลู า (ชือ่ วามลู ทเ่ี รยี กวา เปนมลู ซ่ึงกันและกันกับกุศลมูล) (มูลกนัย) กุสลมเู ลน อฺมฺ มูลกา (มมี ลู ซึง่ กันและกนั กบั กุศลมูล) (มลู มูลกนยั ) กสุ ลมเู ลน อฺมฺ มูลมลู กา (มมี ูลที่เรยี กวา เปน มูลซึ่งกันและกนั กบั กุศลมลู ) ดาวนโ หลดขอมูลจากขอความเพิ่มเติมที่ youtube หรอื ที่ Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มลู ยมก ปณ ณตั วิ าระในขนั ธยมกะ (วันแรก) 12 หรอื วา ธรรมเหลาใด ............................ มอี ย,ู ธรรมเหลา นน้ั ทงั้ หมด เปน กศุ ล ใชไ หม ? เหมือนกนั = ปจ ฉาปญหา/ปฏจิ วนวิสชั นา (รบั รอง อ. สัน.) วิ. อามนตฺ า ใช ขอ ๓ (อกสุ ลบท) อกสุ ลา ธมมฺ า (ทเ่ี ปนอกุศล/เปนอกุศล) = อก.ุ ๑๒+เจ.๒๗ ัอญญ ัมญญฯ เอกมูลยมกะ มูลยมกะ (มลู นยั ) อกสุ ลมูลา (ชื่อวาอกุศลมูล) = โลภะ โทสะ โมหะ/ อกุศลมลู ๓ (มลู มลู นยั ) อกสุ ลมูลมูลา (ช่อื วามูลที่เปนอกุศลมลู ) (มูลกนยั ) อกสุ ลมูลกา (มมี ูลที่เปนอกศุ ล) (มูลมูลกนยั ) อกสุ ลมลู มูลกา (มมี ูลทเี่ ปนอกศุ ลมูล) (มูลนัย) อกสุ ลมเู ลน เอกมลู า (มมี ูลเปนอันเดียวกนั กับอกศุ ลมลู ) = อกุ.๑๒+เจ.๒๗ (มูลมูลนัย) อกสุ ลมเู ลน เอกมลู มูลา (มมี ลู ทเี่ รียกวาเปน มูลอันเดียวกันกับอกศุ ลมูล) (-โม->โม๒) (มูลกนัย) อกสุ ลมเู ลน เอกมลู กา (มมี ูลเปนอันเดียวกนั กับอกุศลมลู ) (และ) อกุ.จิ.ร.ุ ๑๗ (มูลมลู กนัย) อกสุ ลมเู ลน เอกมลู มูลกา (มมี ลู ทีเ่ รียกวา เปนมูลอนั เดยี วกันกบั อกศุ ลมูล) (มูลนยั ) อกสุ ลมเู ลน อฺ มฺ มลู า (ช่ือวาเปน มูลซ่ึงกันและกันกับอกุศลมลู ) (มูลมลู นยั ) อกสุ ลมเู ลน อฺ มฺ มลู มลู า(ชอ่ื วา มลู ท่ีเรียกวา เปนมูลซึ่งกันและกนั กับอกศุ ลมูล) =อกุศลมลู ๓ (มูลกนยั ) อกสุ ลมเู ลน อฺ มฺ มลู กา (มมี ูลซง่ึ กันและกันกับอกุศลมูล) (มลู มลู กนัย) อกสุ ลมเู ลน อฺ มฺ มลู มลู กา(มมี ลู ทเ่ี รียกวา เปนมูลซ่ึงกันและกันกับอกุศลมูล) (-โม>๒) มลู วาระ : อกสุ ลบท + มลู นยั / มูลมลู นยั + มลู ยมกะ (น.๑๘-๑๙, ๒๒-๒๓) อน.ุ ปุ อเยกเุ.๑ก๒จิ+ส๒อัน๔ก(สุ-3ล)+าธมมฺ า, ส>พฺเพโลเภตะ โ..ท..ส..ะ...โ.ม...ห.ะสตงั ?ิ เทานั้น (มลู นัย) (ที่เปนอกศุ ล) อกุสลมลู า (ชื่อวา อกศุ ลมูล) มูลยมกะ อกุสลมลู มลู า (ช่ือวามลู ทเ่ี ปนอกศุ ลมลู ) (มูลมลู นัย)*** 54 ธรรมเหลาใดเหลา หนง่ึ ท่ีเปน อกศุ ล มีอยู, ธรรมเหลา นนั้ ทงั้ หมด ......... ใชไ หม ? สนั .=อกุ.๑๒+เจ.๒๗ อธ.สัน.>(มากกวา )สงั .จึงมีทั้งอธ.บทเดยี ว และ๒บท สัน.= ปุริมโกฏฐาส (อธ.๒บทแสดงกอน) /ปจ ฉิมโกฏฐาส อกุ.๑๒+๒๔(-3) ปริปณุ ณปญ หา / สรปู ทัสสนวิสัชนา (ที่มีวิภงั คโ ดย) ออม วิ. ตเี ณว อกสุ ลมลู าน,ิ อวเสสา อกุสลา ธมมฺ า นX อกสุ ลมลู า. อกุ.๑๒+๒๔(-3) โลภะ โทสะ โมหะ ตเี ณว อกสุ ลมลู มลู าน,ิ อวเสสา อกสุ ลา ธมมฺ า นX อกสุ ลมลู มลู า. โลภะ โทสะ โมหะ เพยี ง ๓ เทา นน้ั ช่อื วา ..... อกศุ ลธรรมทเ่ี หลือนอกนน้ั ไมช อ่ื วา ....... ๓. จงแสดงองคธ รรมและการจาํ แนกโกฏฐาส ในคาํ ปุจฉาดงั ตอไปน้ี ? 54 เยเกจิ อกสุ ลา ธมมฺ า, สพเฺ พ เต อกสุ ลมลู มลู าติ ? 54 ตอบ แสดงองคธ รรมและการจําแนกโกฏฐาส ใน อนุโลมปจุ ฉา เยเกจิ อกุสลา ธมมฺ า เปน สันนิฏฐานบท สพเฺ พ เต อกสุ ลมลู มูลา เปน สังสยบท องคธรรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแก อกศุ ลจิต ๑๒ เจตสิก ๒๗ องคธ รรมของสังสยบท ไดแก อกุศลมลู ๓ เทาน้ัน ฉะนั้นคาํ ถามบทน้ีเปน ปริปุณณปญ หา ถามวา ธรรมเหลา ใดเหลาหน่งึ ทีเ่ ปน อกศุ ลมีอย,ู ธรรม เหลา นัน้ ทัง้ หมดชอื่ วา มลู ทเี่ ปนอกศุ ลมลู ใชไหม? พระองคจ งึ ทรงแกด ว ยการยกเอา อกศุ ลมลู ๓ ซึ่งเปน ดาวนโ หลดขอมูลจากขอความเพิ่มเตมิ ท่ี youtube หรอื ท่ี Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มูลยมก ปณ ณัตวิ าระในขันธยมกะ (วนั แรก) 13 องคธ รรมของสันนฏิ ฐานบทและสงั สยบทไดท ้ังสองข้ึนไวใ นปรุ ิมโกฏฐาส ไมมกี ารปฏิเสธสงั สยบท ดงั แสดงวา ตเี ณว อกสุ ลมลู มลู านิ แลว ทรงยกเอา อกศุ ลจติ ๑๒ เจตสกิ ๒๔ (เวน อกุศลมลู ๓) ซง่ึ เปน องค ธรรมของสนั นฏิ ฐานบทไดบ ทเดยี วข้ึนไวในปจฉิมโกฏฐาส มกี ารปฏิเสธสงั สยบท ดังแสดงวา อวเสสา อกุ สลา ธมมฺ า น อกุสลมูลมลู า คาํ วิสชั นาในอนุโลมปุจฉาน้ี เปนสรปู ทัสสนวสิ ชั นาท่มี ีวภิ งั คโ ดยออม สัน สงั ปฏ.ิ ป.ุ เย วา ปน .............., สพเฺ พ เต ธมฺมา อกสุ ลาติ ? (มลู นัย) อกสุ ลมลู า (ชื่อวา อกุศลมูล) อกุศลมูล ๓ เปนอกุศล (มูลมลู นยั ) อกสุ ลมลู มลู า (ชอ่ื วา มูลท่เี ปน อกศุ ลมูล) หรอื วา ธรรมเหลาใด ชอื่ วา..........มอี ยู, ธรรมเหลา นนั้ ทงั้ หมด เปนอกศุ ล ใชไหม ? เหมือนกัน ปจ ฉาปญหา / ปฏจิ วนวิสัชนา (รับรอง อ.ธ. สัน.) วิ. อามนตฺ า ใช มลู วาระ : อกสุ ลบท + มูลกนยั / มูลมลู กนัย + มลู ยมกะ (น.๒๕-๒๖, ๒๘-๒๙) อน.ุ ป.ุ อกุ.ส๑ัน ๒เ+ย๒เก๗จ-โสมิัง->อ๒กสุมลลู โ(าวมนา-.ร๑>ธะ๒๙ม:-มฺ๒อา๐ก,,สุ ๒ล>สบ๒พทอ-เฺ๒กพ+๓ุ.๑ม,๒เ๒ูลต+น๖๒.ัย-.๒๗../.๗-.โมม.,.-ล.ู>๒.๒.ม๙..ลู .-.น๓..ยั๐.แ.)ล/ตะม?ิ อลู กกุ.จนิ.รยั ุ / มลู มลู กนัย + เอกมลู ยมกะ ๑๗ ไมไดพูดถงึ ถงึ เอกมูลยมกะ มูลยมกะ (มูลกนยั )*** (ท่ีเปน อกุศล) อกสุ ลมูลกา (มมี ูลท่เี ปนอกุศล) (มลู มูลกนยั ) อกุสลมลู มูลกา (มมี ูลทเ่ี ปนอกศุ ลมูล) 49,(5ม0ูล,น5ัย1)*,*5* 3, อกสุ ลมเู ลน เอกมลู า (มมี ูลเปน อันเดยี วกันกับอกุศลมลู ) (มลู มลู นัย) อกุสลมเู ลน เอกมลู มูลา (มมี ลู ท่ีเรียกวาเปนมูลอันเดียวกันกับอกุศลมลู ) (มูลกนยั ) อกุสลมเู ลน เอกมลู กา (มมี ูลเปนอันเดียวกันกับอกุศลมูล) (มูลมลู กนัย) อกสุ ลมเู ลน เอกมูลมูลกา (มมี ลู ท่เี รยี กวาเปน มลู อนั เดยี วกนั กบั อกุศลมูล) ธรรมเหลา ใดเหลา หนงึ่ ท่ีเปนอกศุ ล มีอยู, ธรรมเหลา นนั้ ทงั้ หมด .............. ใชไ หม ? สนั .=อกุ.๑๒+เจ.๒๗ อธ.สนั .เทยี บ อธ.สงั . มีทัง้ อธ.บทเดยี ว และ๒บท สงั .=อกุ.๑๒+เจ.๒๗ (-โม->๒) ปรุ มิ โกฏฐาส (บทเดยี วกอ น)/ ปจ ฉิมโกฏฐาส โม.เจ -> โม ๒ ปริปุณณปญ หา / สรูปทสั สนวิสัชนา (ตรง) ว.ิ อเหตกุ ํ อกสุ ลํ นX (อกุสลมลู ก)ํ , สเหตกุ ํ อกสุ ลํ (อกุสลมลู ก)ํ . 49, 51, 52อ,ก5ุส3ล,มูล5ม5ลู ,ก5,ํ 6,57 อกุสลมูลมลู ก.ํ ว.ิ อเหตกุ ํ อกสุ ลํ อกสุ ลมเู ลน นX (เอกมลู )ํ , สเหตกุ ํ อกสุ ลํ อกสุ ลมเู ลน (เอกมลู )ํ . โม.เจ->โม ๒ เอกมูลมลู ,ํ อกุ.๑๒+เจ.๒๗ เอกมลู มูล.ํ เอกมลู ก,ํ (-โม.->โม ๒) เอกมูลก.ํ เอกมูลมลู ก,ํ เอกมูลมูลก.ํ อกศุ ลที่เปน อเหตกุ ะไมม มี ลู .....อกุศล(มลู ), อกศุ ลท่เี ปน สเหตกุ ะมมี ลู .....อกศุ ล(มลู ) ๓. จงวสิ ัชนาเปน บาลพี รอ มคําแปลแสดงองคธ รรมและการจาํ แนกโกฏฐาสในปจุ ฉาดังตอ ไปน้ี เยเกจิ อกุสลา ธมมฺ า, สพเฺ พ เต อกสุ ลมลู กาติ ? 52(4), 55, 56, 62 ตอบ วสิ ชั นา อเหตกุ ํ อกุสลํ น อกสุ ลมูลก,ํ สเหตุกํ อกุสลํ อกุสลมลู กํ. อกศุ ลทเ่ี ปนอเหตกุ ะ ไมมมี ูลท่ีเปน อกศุ ล, อกุศลที่เปน สเหตกุ ะ มมี ลู ท่ีเปนอกุศล แสดงองคธ รรมและการจาํ แนกโกฏฐาส ในอนุโลมปุจฉา เยเกจิ อกสุ ลา ธมมฺ า เปนสันนิฏฐานบท ดาวนโ หลดขอ มูลจากขอความเพิ่มเติมท่ี youtube หรอื ท่ี Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มูลยมก ปณ ณตั วิ าระในขันธยมกะ (วันแรก) 14 สพเฺ พ เต อกสุ ลมลู กา เปน สังสยบท องคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแ ก อกศุ ลจิต ๑๒ เจตสกิ ๒๗ ทัง้ หมด องคธ รรมของสงั สยบท ไดแก อกุศลจิต ๑๒ เจตสิก ๒๗ (เวน โมหเจตสิกทใี่ นโมหมูลจติ ๒) เทาน้ัน ฉะนนั้ คําถามบทนี้เปนปรปิ ณุ ณปญ หา ถามวา ธรรมเหลาใดเหลา หนงึ่ ทเ่ี ปน อกศุ ลมีอย,ู ธรรมเหลานนั้ ท้ังหมดมีมลู ทีเ่ ปน อกศุ ลใชไ หม? พระองคจงึ ทรงแกดว ยการยกเอา โมหเจตสกิ ทใี่ นโมหมลู จติ ๒ ซึ่งเปน องคธรรมของสนั นิฏฐานบทไดบทเดยี วข้นึ ไวในปุรมิ โกฏฐาส มีการปฏเิ สธสงั สยบท ดังแสดงวา อเหตกุ ํ อกุสลํ น อกสุ ลมลู กํ แลวทรงยกเอา อกศุ ลจิต ๑๒ เจตสกิ ๒๗ (เวน โมหเจตสิกท่ใี นโมหมลู จติ ๒) ซงึ่ เปน องคธ รรมของสันนฏิ ฐานบทและสงั สยบทไดทั้งสองขึ้นไวใ นปจฉิมโกฏฐาส ไมม ีการปฏเิ สธสังสยบท ดัง แสดงวา สเหตกุ ํ อกุสลํ อกสุ ลมลู กํ คาํ วิสัชนาในอนโุ ลมปุจฉานเ้ี ปน สรปู ทสั สนวสิ ชั นาท่ีมีวภิ งั คโดยตรง ๓. จงแสดง อนโุ ลมปจุ ฉา และ วสิ ัชนา ทงั้ บาลแี ละไทย พรอ มแสดงองคธรรม ไมต อ งจาํ แนกโกฏฐาส ในอกศุ ลบท มลู นยั เอกมลู ยมกะ ? 63 ๓. จงวสิ ชั นาบาลี คาํ แปล พรอ มทง้ั แสดงองคธ รรมในคาํ ปจุ ฉาตอ ไปน้ี ? 49, 51 ๓. จงวสิ ชั นาพรอ มทง้ั คาํ แปล แสดงองคธ รรม และ จาํ แนกโกฏฐาส ในคําปจุ ฉาดงั ตอ ไปน้ี ? 53, 57, 59 ๓. จงวสิ ชั นาเปน บาลแี ละแสดงองคธ รรมในคาํ ปจุ ฉาดงั ตอ ไปนี้ ? (ไมต อ งแปล) ? 50 (ก.) เยเกจิ อกสุ ลา ธมมฺ า, สพเฺ พ เต อกสุ ลมเู ลน เอกมลู าติ ? 49, 50, 51, 53, 57, 59 ตอบ (63) อนโุ ลมปุจฉา เยเกจิ อกสุ ลา ธมมฺ า, สพฺเพ เต อกุสลมูเลน เอกมลู าติ ?. ธรรมเหลาใดเหลา หนงึ่ ท่เี ปน อกศุ ลมีอย,ู ธรรมเหลานนั้ ท้งั หมดมมี ูลเปน อนั เดยี วกันกับอกุศลมูล ตอบ (ก.) วิสชั นา อเหตกุ ํ อกสุ ลํ อกสุ ลมเู ลน น เอกมูล,ํ สเหตุกํ อกสุ ลํ อกสุ ลมเู ลน เอกมลู .ํ (49, 51, 53, 57, 59) อกุศลทีเ่ ปน อเหตุกะไมม มี ลู เปนอันเดยี วกนั กับอกุศลมลู , อกศุ ลที่เปน สเหตุกะ มมี ูลเปนอนั เดยี วกันกับอกุศลมูล. (53, 57, 59) แสดงองคธ รรมและการจําแนกโกฏฐาส / (49, 50, 51) แสดงองคธ รรม ในอนโุ ลมปจุ ฉา (53, 57, 59) เยเกจิ อกุสลา ธมมฺ า เปนสันนฏิ ฐานบท (53, 57, 59) สพเฺ พ เต อกสุ ลมเู ลน เอกมูลา เปน สงั สยบท องคธ รรมของสันนิฏฐานบท ไดแก อกศุ ลจิต ๑๒ เจตสิก ๒๗ ทง้ั หมด องคธ รรมของสงั สยบท ไดแ ก อกุศลจติ ๑๒ เจตสกิ ๒๗ (เวน โมหเจตสกิ ทใ่ี นโมหมลู จติ ๒) เทาน้ัน (53, 57, 59) ฉะน้นั คาํ ถามบทนเ้ี ปนปริปณุ ณปญ หาถามวา ธรรมเหลาใดเหลา หนง่ึ ที่เปน อกุศลมีอย,ู ธรรม เหลานน้ั ทัง้ หมดมมี ูลเปน อันเดยี วกนั กบั อกศุ ลมลู ใชไ หม ? พระองคจึงทรงแกดว ยการยกเอา โมหเจตสกิ ทีใ่ นโมหมูลจติ ๒ ซง่ึ เปน องคธรรมของสันนฏิ ฐานบทไดบทเดยี วขึน้ ไวใ นปุริมโกฏฐาส มีการปฏิเสธสงั สย- บท ดังแสดงวา อเหตกุ ํ อกสุ ลํ อกุสลมูเลน น เอกมลู ํ แลวทรงยกเอา อกศุ ลจติ ๑๒ เจตสกิ ๒๗ (เวน โมหเจตสกิ ทใ่ี นโมหมลู จติ ๒) ซึง่ เปนองคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบทและสงั สยบทไดทงั้ สองขนึ้ ไวใ นปจฉิม โกฏฐาส ไมมกี ารปฏเิ สธสังสยบท ดังแสดงวา สเหตกุ ํ อกสุ ลํ อกุสลมูเลน เอกมลู ํ คาํ วสิ ัชนาในอนโุ ลม ปุจฉานี้ เปนสรปู ทสั สนวสิ ชั นาทม่ี ีวิภังคโดยตรง ดาวนโ หลดขอมูลจากขอ ความเพ่ิมเติมท่ี youtube หรือท่ี Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มลู ยมก ปณ ณัตวิ าระในขนั ธยมกะ (วันแรก) 15 ๓. จงแสดงอนุโลมปุจฉา วสิ ชั นา ทง้ั บาลแี ละไทย พรอมแสดงองคธ รรม ไมต อ งจาํ แนกโกฏฐาส ใน อกศุ ลบท มลู นยั คาํ ปุจฉาดงั ตอไปน้ี เยเกจิ อกุสลา ธมมฺ า, สพเฺ พ เต อกสุ ลมเู ลน เอกมลู กาต.ิ ? 60 ๓. จงวสิ ัชนาพรอ มคาํ แปล แสดงองคธ รรมและการจําแนกโกฏฐาส ในคาํ ปจุ ฉาดงั ตอ ไปน้ี เยเกจิ อกสุ ลา ธมมฺ า, สพเฺ พ เต อกสุ ลมเู ลน เอกมลู กาต.ิ ? 60 ตอบ (63) อนโุ ลมปุจฉา เยเกจิ อกสุ ลา ธมมฺ า, สพเฺ พเต อกสุ ลมเู ลน เอกมลู กาติ ? ธรรมเหลา ใตเหลาหนง่ึ ทีเ่ ปนอกุศลมีอย,ู ธรรมเหลานนั้ ทง้ั หมดมีมลู เปน อนั เดยี วกนั กับอกุศลมลู ใชไ หม ? ตอบ (60) วิสชั นา อเหตกุ ํ อกสุ ลํ อกสุ ลมเู ลน น เอกมลู ก,ํ สเหตกุ ํ อกสุ ลํ อกุสลมเู ลน เอกมลู กํ. อกุศลทเ่ี ปนอเหตุกะไมมีมลู เปนอนั เดยี วกนั กับอกุศลมูล, อกุศลทเ่ี ปน สเหตกุ ะมมี ูลเปนอันเดยี วกนั กบั อกุศลมูล. (60) แสดงองคธรรมและการจําแนกโกฏฐาส (63) แสดงองคธรรม ใน อนุโลมปุจฉา เยเกจิ อกุสลา ธมมฺ า เปนสันนิฏฐานบท สพเฺ พ เต อกสุ ลมูเลน เอกมลู กา เปน สังสยบท องคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแ ก อกุศลจิต ๑๒ เจตสิก ๒๗ ทง้ั หมด องคธรรมของสงั สยบท ไดแ ก อกุศลจติ ๑๒ เจตสกิ ๒๗ (เวนโมหเจตสกิ ที่ในโมหมลู จิต ๒) เทาน้นั (60) ฉะนัน้ คาํ ถามบทนี้เปนปริปณุ ณปญหา ถามวาธรรมเหลาใดเหลาหนึ่งท่ีเปนอกุศลมีอย,ู ธรรม เหลา นน้ั ทงั้ หมดมีมูลเปนอันเดยี วกนั กับอกุศลมลู ใชไ หม ? พระองคจงึ ทรงแกดวยการยกเอา โมหเจตสิก ทีใ่ นโมหมูลจิต ๒ ซึ่งเปน องคธรรมของสนั นฏิ ฐานบทไดบ ทเดยี วข้นึ ไวใ นปรุ มิ โกฏฐาส มกี ารปฏเิ สธสัง สยบทดงั แสดงวา อเหตกุ ํ อกสุ ลํ อกุสลมเู ลน น เอกมลู ก,ํ แลวทรงยกเอา อกศุ ลจติ ๑๒ เจตสิก ๒๗ (เวน โมหเจตสกิ ท่ีในโมหมูลจติ ๒) ซงึ่ เปน องคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบทและสังสยบท ไดท ง้ั สองขึ้นไวใ น ปจ ฉิมโกฏฐาสไมม ีการปฏเิ สธ สังสยบท ดงั แสดงวา สเหตกุ ํ อกุสลํ อกสุ ลมเู ลน เอกมลู ก.ํ คําวิสชั นาใน อนโุ ลมปจุ ฉาน้ี เปน สรูปทัสสนวิสชั นาที่มีวภิ ังคโดยตรง ปฏอ.ิกปุ.๑.ุ ๒+เ๒ย๗(ว-โาสมัน->ป๒น) ......แ..ล..ะ...อ..ก..ุ..จ..ิ..ร.ุ..๑..๗.., >สพอกฺเพุ.๑๒เ+ต๒๗ธ(ม-โมมฺ ส-า>งั ๒อ) กุสลาติ ? (มูลกนยั ) อกุสลมลู กา (มีมลู ทีเ่ ปนอกุศล) เปนอกุศล เอกมูลยมกะ มูลยมกะ (มลู มลู กนัย)*** อกสุ ลมลู มลู กา (มีมูลที่เปน อกศุ ลมลู ) 47, 51 (มูลนยั )*** อกุสลมเู ลน เอกมลู า (มีมลู เปนอนั เดยี วกันกบั อกุศลมูล) 43, 44, 47, 53 (มูลมลู นัย) อกสุ ลมเู ลน เอกมลู มลู า (มีมลู ทเี่ รียกวา เปน มูลอันเดยี วกันกบั อกุศลมูล) (มลู กนัย) อกุสลมเู ลน เอกมลู กา (มีมลู เปน อันเดยี วกนั กับอกศุ ลมลู ) (มูลมลู กนยั ) อกุสลมเู ลน เอกมลู มลู กา (มีมลู ที่เรยี กวาเปน มลู อันเดยี วกนั กับอกศุ ลมูล) หรือวา ธรรมเหลาใด .............. มีอยู, ธรรมเหลา นน้ั ทงั้ หมด เปนอกศุ ล ใชไหม ? สัน.=อกุ.๑๒+เจ.๒๗(-โม->๒) อกุ.จ.ิ ร.ุ ๑๗ สัน.เทียบ สัง. มีทัง้ อธ.บทเดียว และ๒บท สัง.=อกุ.๑๒+เจ. ๒๗(-โม->๒) ปรุ ิมโกฏฐาส (บทเดียวกอ น)/ ปจ ฉิมโกฏฐาส อกุ.จิ.รุ.๑๗ ปริปณุ ณปญหา / สรูปทัสสนวิสชั นา (ตรง) ดาวนโ หลดขอมูลจากขอความเพิ่มเตมิ ท่ี youtube หรอื ท่ี Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มูลยมก ปณ ณัติวาระในขนั ธยมกะ (วันแรก) 16 วิ. อกสุ ลสมฏุ านํ รปู อ .ก...ุ..จ..ิ..ร.ุ..๑..๗.......นX อกสุ ล,ํ อกอุ.๑ก๒ุสล+ํเ.จ.....๒..๗...(.-..โ.ม....เ.จอ->กโมสุ ล๒) จฺ . อกสุ ลมลู กํ อกุ. ๑๒ + เจ. ๒๗ อกุสลมลู กฺเจว อกุ.จิ.รุ ๑๗ อกสุ ลมลู มลู กํ (-โม.เจ->โม ๒) อกสุ ลมูลมลู กเฺ จว อกุสลมูเลน เอกมูลํ อกุสลมูเลน เอกมลู ฺเจว. อกุสลมูเลน เอกมูลมลู ํ 43, 44, 47, 53 อกสุ ลมูเลน เอกมลู มลู เฺ จว. อกสุ ลมูเลน เอกมูลกํ อกุสลมูเลน เอกมูลกฺเจว. อกสุ ลมูเลน เอกมลู มลู กํ อกสุ ลมูเลน เอกมลู มลู กเฺ จว. รปู ซง่ึ มอี กศุ ลเปน สมฏุ ฐาน ......... แตไ มใ ชเ ปน อกศุ ล, อกศุ ลธรรม ........ กใ็ ช เปน อกศุ ลกใ็ ช. ๓. จงแสดงปฏโิ ลมปจุ ฉาและวิสชั นา ทงั้ บาลแี ละไทย พรอ มทง้ั แสดงองคธ รรมและการจาํ แนกโกฏฐาส ใน อกศุ ลบท มลู มลู นัย เอกมลู ยมกะ ? 58 ตอบ ปฏโิ ลมปจุ ฉา เย วา ปน อกสุ ลมเู ลน เอกมลู มลู า, สพเฺ พ เต ธมมฺ า อกสุ ลาติ ? หรอื วา ธรรมเหลาใดมมี ลู ที่เรียกวา เปนมลู อนั เดยี วกันกับอกศุ ลมูลมีอยู, ธรรมเหลา นั้นทง้ั หมด เปนอกุศลใชไ หม ? วสิ ชั นา อกสุ ลสมฏุ ฐ ฃานํ รปู อกสุ ลมูเลน เอกมลู มลู ํ น อกสุ ล,ํ อกสุ ลํ อกุสลมเู ลน เอกมลู มลู เฺ จว อกสุ ลจฺ . รูปซ่งึ มอี กุศลเปน สมฏุ ฐาน มีมูลที่เรยี กวาเปนมลู อันเดยี วกันกบั อกุศลมูล แตไ มใ ชเ ปนอกศุ ล, อกศุ ลธรรมมมี ูลที่เรียกวา เปน มูลอนั เดียวกันกบั อกศุ ลมูลกใ็ ช เปนอกุศลก็ใช แสดงองคธรรมและการจาํ แนกโกฏฐาส ในปฏโิ ลมปุจฉา เย วา ปน อกุสลมเู ลน เอกมลู มูลา เปนสันนิฏฐานบท สพเฺ พ เต ธมมฺ า อกสุ ลา เปน สงั สยบท องคธรรมของสันนฏิ ฐานบท ไดแ ก อกศุ ลจิต ๑๒ เจตสกิ ๒๗ (เวน โมหเจตสิกที่ในโมหมูลจิต ๒) และ อกุศลจติ ตชรปู ๑๗ องคธรรมของสังสยบท ไดแก อกศุ ลจติ ๑๒ เจตสิก ๒๗ (เวน โมหเจตสิกทใี่ นโมหมลู จิต ๒) เทานน้ั ฉะนน้ั คาํ ถามบทน้ีเปนปรปิ ณุ ณปญหา ถามวา หรือวา ธรรมเหลาใดมีมลู ท่เี รียกวาเปน มลู อนั เดียวกนั กับอกุศลมูลมอี ยู, ธรรมเหลา นนั้ ทง้ั หมด เปน อกศุ ลใชไ หม ? พระองคจ งึ ทรงแกดว ยการยกเอา อกศุ ลจติ ตชรปู ๑๗ ซ่งึ เปนองคธรรมของสนั นฏิ ฐานบทไดบทเดียวขึน้ ไวในปุริมโกฏฐาส มกี ารปฏเิ สธสงั สยบท ดงั แสดงวา อกสุ ลสมุฏฐ านํ รูป อกสุ ลมูเลน เอกมลู มลู ํ น อกุสลํ แลว ทรงยกเอา อกศุ ลจติ ๑๒ เจตสิก ๒๗ (เวน โมหเจตสกิ ทใ่ี นโมหมลู จติ ๒) ซงึ่ เปน องคธ รรมของสันนฏิ ฐานบทและสังสยบทไดท ้งั สอง ขน้ึ ไวในปจ ฉิมโกฏฐาส ไมมกี ารปฏิเสธสงั สยบท ดังแสดงวา อกุสลํ อกสุ ลมเู ลน เอกมูลมูลเฺ จว อกสุ ลจฺ คําวิสัชนาในปฏิโลมปจุ ฉาน้ี เปน สรปู ทสั สนวสิ ัชนาทีม่ วี ภิ ังคโดยตรง ๓. จงตง้ั ปจุ ฉาวิสัชนาเปน บาลีไทยพรอ มทั้งแสดงองคธ รรมและการจําแนกโกฏฐาส ในอกุศลบท มลู กนยั เอกมลู ยมกะ เฉพาะปฏโิ ลมปจุ ฉา ? 61 ตอบ ปฏโิ ลมปจุ ฉา เย วา ปน อกสุ ลมเู ลน เอกมลู กา, สพเฺ พ เต ธมฺมา อกสุ ลาติ ? แปล หรือวา ธรรมเหลาใดมีมูลเปน อันเดียวกนั กับอกุศลมูลมอี ยู, ธรรมเหลา นนั้ ทั้งหมดเปน อกุศลใชไ หม ? ดาวนโหลดขอมูลจากขอ ความเพิ่มเติมที่ youtube หรือท่ี Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มูลยมก ปณ ณตั วิ าระในขันธยมกะ (วันแรก) 17 วสิ ชั นา อกุสลสมฏุ ฐฃานํ รูป อกุสลมูเลน เอกมูลกํ น อกุสล,ํ อกุสลํ อกุสลมูเลน เอกมลู กฺเจว อกุสลฺจ. แปล รปู ซึ่งมอี กศุ ลเปน สมุฏฐาน มีมูลเปน อนั เดียวกันกับอกุศลมูล แตไมใชเ ปน อกศุ ล, อกุศลธรรม มมี ลู เปนอันเดียวกันกับอกศุ ลมูลกใ็ ช เปนอกุศลก็ใช. แสดงองคธ รรมและการจาํ แนกโกฏฐาส ในปฏิโลมปุจฉา เย วา ปน อกุสลมูเลน เอกมลู กา เปนสนั นฏิ ฐานบท สพฺเพ เต ธมฺมา อกุสลา เปนสงั สยบท องคธ รรมของสันนฏิ ฐานบท ไดแก อกุศลจติ ๑๒ เจตสกิ ๒๗ (เวนโมหเจตสกิ ทใ่ี นโมหมลู จติ ๒) และ อกุศลจติ ตชรปู ๑๗ องคธรรมของสงั สยบท ไดแ ก อกุศลจิต ๑๒ เจตสิก ๒๗ (เวน โมหเจตสกิ ท่ใี นโมหมลู จิต ๒) เทานั้น ฉะน้ันคําถามบทน้ีเปนปริปณุ ณปญหา ถามวา หรือวา ธรรมเหลาใดมมี ลู เปนอนั เดียวกันกบั อกุศล มลู มีอยู , ธรรมเหลา นั้นท้งั หมดเปน อกุศลใชไหม ? พระองคจงึ ทรงแกด วยการยกเอา อกศุ ลจิตตชรูป ๑๗ ซ่ึงเปนองคธรรมของสนั นิฏฐานบทไดบทเดียวขน้ึ ไวใ นปุรมิ โกฏฐาส มกี ารปฏเิ สธสงั สยบท ดังแสดงวา อกสุ ลสมุฏฐ ฃานํ รูป อกุสลมเู ลน เอกมลู กํ น อกุสล,ํ แลวทรงยกเอา อกุศลจิต ๑๒ เจตสกิ ๒๗ (เวน โมหเจตสิกทีใ่ นโมหมลู จติ ๒) ซง่ึ เปน องคธรรมของสันนฏิ ฐานบทและสงั สยบทไดท้งั สอง ขึ้นไวในปจฉิม โกฏฐาส ไมม ีการปฏิเสธสังสยบท ดังแสดงวา อกสุ ลํ อกุสลมูเลน เอกมูลกเฺ จว อกสุ ลฺจ. คําวสิ ชั นาใน ปฏโิ ลมปุจฉานี้ เปนสรปู ทสั สนวสิ ัชนาที่มีวภิ งั คโ ดยตรง ๓. ก. อกสุ ลสมฏุ านํ รปู อกสุ ลมเู ลน เอกมลู ํ น อกสุ ล,ํ อกุสลํ อกสุ ลมเู ลน เอกมลู เฺ จว อกสุ ลจฺ . อยากทราบวา มีคาํ แปลวา อยา งไร ? 47 (1/3) ๔. จงแปลในคาํ วสิ ัชนาดงั ตอ ไปนี้ ? 47(5-2/3), 51(4-2/3) ข. อกสุ ลสมุฏ านํ รปู อกสุ ลมเู ลน เอกมลู กํ น อกสุ ล,ํ อกุสลํ อกสุ ลมเู ลน เอกมลู กเฺ จว อกสุ ลจฺ .? ตอบ ก/ข. มคี าํ แปลดังนี้ รูปซ่งึ มอี กศุ ลเปนสมฏุ ฐานมมี ลู เปน อันเดยี วกนั กับอกศุ ลมูล แตไมใ ชเ ปนอกุศล, อกุศลธรรมมมี ลู เปนอันเดียวกนั กับอกุศลมลู ก็ใช เปน อกศุ ลกใ็ ช. ๔. จงแปลและแสดงองคธ รรมในคาํ บาลตี อ ไปนี้ ? 43, 44, 47, 53 ข. อกสุ ลํ อกสุ ลมเู ลน เอกมลู มลู กเฺ จว อกสุ ลจฺ ? 43(4ข/ค), 44(4ข/ค), 47(1/3), 53(5ข/ง) ตอบ ข. อกศุ ลธรรมมีมลู ท่ีเรียกวา เปนมลู อนั เดยี วกันกบั อกศุ ลมูลก็ใช เปนอกศุ ลกใ็ ช องคธรรมไดแก อกศุ ลจติ ๑๒ เจตสกิ ๒๗ (เวน โมหเจตสิกทใี่ นโมหมลู จิต ๒) อนุ.ปอุกุ.เ๑ย๒ เ+ก๒จิ๔...แ.สม.ลัน.ลู.ะ.ว..อ.า.ก.ร.ุ.ะ.จ..ิ.(.ร:น.ุ.อ..๑๒..ก๗.๑.สุ.,ล๒บธ๔ทม-มฺ๒+า๕(-,มโ,มลู๒น-๗>ยั -๒ส๒)พ/๘เฺม,พลู๓มเ๐ตลู->๓น..๑.ัย..)./..อ.ม.ก..ลู ุศ..ก.สล.งัน.ม..ลูัย...๓./.(.-.มโ..มลู..ม.-.>.ูล.๒.ก..)นตยั ?ิ + อญั ญมญั ญมลู ยมกะ (มูลนัย) 44 อกสุ ลมเู ลน เอกมลู า อกสุ ลมเู ลน อฺมฺมูลา *** (มีมูลเปน อันเดียวกัน/กบั อกุศลมลู ) (ชื่อวาเปน มูลซงึ่ กนั และกนั /กบั อกุศลมูล) (มูลมูลนัย) อกุสลมเู ลน เอกมูลมูลา อกสุ ลมเู ลน อฺมฺมูลมลู า (มมี ลู ทีเ่ รยี กวาเปน มลู อนั เดยี วกัน/กบั อกุศลมูล) (ชอ่ื วามูลท่ีเรยี กวา เปน มูลซึ่งกันและกัน/กับอกุศลมูล) (มลู กนัย) อกุสลมเู ลน เอกมลู กา อกสุ ลมเู ลน อฺมฺมูลกา* (มมี ูลเปนอันเดียวกัน/กบั อกุศลมูล) (มมี ลู ซ่งึ กนั และกัน/กบั อกศุ ลมูล) ดาวนโ หลดขอมูลจากขอความเพ่ิมเติมท่ี youtube หรือท่ี Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มูลยมก ปณ ณัตวิ าระในขันธยมกะ (วนั แรก) 18 (มูลมูลกนัย) 47 อกสุ ลมเู ลน เอกมูลมูลกา อกุสลมเู ลน อฺมฺมูลมูลกา *** (มมี ูลทีเ่ รยี กวาเปนมลู อนั เดียวกัน/กับอกุศลมลู ) (มมี ูลทีเ่ รยี กวาเปน มลู ซ่งึ กันและกัน/กบั อกศุ ลมลู ) ธรรมเหลา ใดเหลา หนงึ่ ................ มีอย,ู ธรรมเหลา นนั้ ทง้ั หมด ................. ใชไ หม ? สัน.=อกุ.๑๒+เจ.๒๗(-โม->โม๒) อกุ.จิ.ร.ุ ๑๗ สนั .>(มาก)สัง. มีทั้งอธ.บทเดียว และ๒บท สัง.= (-โม->โม๒) ปุรมิ โกฏฐาส (๒บท-กอน)/ปจ ฉมิ โกฏฐาส อกุ.๑๒+เจ ๒๔(-) อกุ.จิ.ร.ุ ๑๗ ปริปณุ ณปญ หา - สรูปทัสสนวสิ ชั นา (ออม) ว.ิ มูลานิ ยานิ เอกโต อปุ ปฺ ชฺชนตฺ ิ อกสุ ลมลู านิ (เอกมลู าน)ิ เจว (อฺ มฺ มลู าน)ิ จ, อกุศลมลู ๓ (-โม.เจ->โม ๒) เอกมลู มลู านิ อฺ มฺ มลู มลู านิ เอกมลู กานิ อฺ มฺ มลู กานิ 47 เอกมลู มลู กานิ อฺ มฺ มลู มลู านิ อวเสสา อกสุ ลมลู สหชาตา ธมฺมา อกสุ ลมเู ลน (เอกมลู า) นX จ (อฺ มฺ มลู า). อกุ.๑๒+๒๔(-๓) เอกมลู มลู า อฺ มฺ มลู มลู า. อกุ.จิ.ร.ุ ๑๗ เอกมลู กา อฺ มฺ มลู กา. 47 เอกมลู มลู กา อฺ มฺ มลู มูลกา.44 (๓) อกุศลมูลเหลา ใดเกิดขน้ึ คราวเดียวกนั อกศุ ลมลู เหลาน้นั (มีมลู ..เปนอันเดยี วกัน) กใ็ ช (ชอ่ื วา /มี..มูล...ซ่งึ กันและกัน) กใ็ ช, ธรรมที่ เกดิ พรอมกนั กบั อกุศลมูลท่เี หลอื นอกนั้น (มมี ลู เปน อนั เดยี วกนั กับอกุศลมลู ) แตไม/ไมใ ช๓(ชือ่ วา/มี)..มูล...ซ่ึงกนั และกัน. ๓. จงวสิ ัชนาคาํ ถามดงั ตอ ไปนี้ เปน บาลี พรอ มทง้ั แสดงองคธ รรม (ไมตองจําแนกโกฏฐาส) ธรรมเหลา ใดเหลา หนง่ึ มมี ลู เปนอนั เดยี วกนั กบั อกุศลมลู มีอย,ู ธรรมเหลา นน้ั ทงั้ หมด มมี ลู ซงึ่ กันและกนั กบั อกุศล ใชไ หม ? 44 ตอบ มลู านิ ยานิ เอกโต อุปปฺ ชชฺ นตฺ ิ อกุสลมลู านิ เอกมลู กานิ เจว อฺมฺ มูลกานิ จ, อวเสสา อกุสลมูลสหชาตา ธมมฺ า อกสุ ลมเู ลน เอกมลู กา น จ อฺ มฺมูลกา. (วิสัชนาเปนบาลี) แสดงองคธรรม ในอนโุ ลมปจุ ฉา เยเกจิ อกสุ ลมเู ลน เอกมลู กา ธมมฺ า เปน สันนิฏฐานบท สพเฺ พ เต อกสุ ลมูเลน อฺ มฺ มลู กา เปนสังสยบท องคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแ ก อกศุ ลจติ ๑๒ เจตสิก ๒๗ (เวน โมหเจตสกิ ทีใ่ นโมหมูลจติ ๒) อกุศลจติ ตชรูป ๑๗, องคธรรมของสงั สยบท ไดแ ก อกศุ ลมูล ๓ (เวน โมหเจตสกิ ที่ในโมหมูลจติ ๒) เทา น้ัน ๓. ข. เยเกจิ อกสุ ลมเู ลน เอกมลู มลู กา ธมมฺ า, สพเฺ พ เต อกสุ ลมเู ลน อฺมฺ มูลมูลกาต.ิ จงแสดงองคธ รรมมาใหถ กู ตอ ง ? 47 (2/3) ตอบ ข. เยเกจิ อกุสลมูเลน เอกมลู มูลกา ธมมฺ า, สพฺเพ เต อกุสลมเู ลน อฺ มฺ มูลมูลกาติ ? องคธ รรมของสันนฏิ ฐานบท ไดแก อกศุ ลจติ ๑๒ เจตสิก ๒๗ (เวนโมหเจตสกิ ท่ีในโมหมลู จติ ๒) อกศุ ลจติ ตรปู ๑๗ องคธรรมของสงั สยบท ไดแ ก อกุศลมลู ๓ (เวน โมหเจตสิกทใ่ี นโมหมูลจิต ๒) เทาน้ัน ปฏ.ิ ป.ุ เย วา ปนอก.ุศ..ล..ม.ส.ลู .นั..๓.......(.-.โ..ม..-.>.โ..ม..๒..)........<...., (-โม->โม๒)+สอพสกงัุ.เฺ พ๑๒เต+ ๒ธ๔ม+มฺ โมา->อโมก๒สุ (ลไมาไตดิถ?ามถงึ ) *** อกุสลมเู ลน อฺญมฺญมลู า (ช่ือวาเปน มลู ซึ่งกนั และกนั กบั อกุศลมลู )50 เปน อกศุ ล อกุสลมเู ลน อญฺ มญฺ มูลมูลา (ชอื่ วามลู ท่เี รยี กวาเปน มลู ซ่ึงกนั และกันกับอกุศลมลู ) ดาวนโหลดขอมูลจากขอความเพิ่มเติมที่ youtube หรอื ที่ Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มลู ยมก ปณ ณัตวิ าระในขนั ธยมกะ (วนั แรก) 19 *** อกสุ ลมเู ลน อญฺ มฺญมูลกา (มีมูลซ่ึงกันและกนั กบั อกศุ ลมลู ) 47 อกุสลมเู ลน อฺญมญฺ มลู มลู กา (มีมลู ที่เรยี กวา เปน มูลซึง่ กนั และกันกับอกุศลมูล) หรอื วา ธรรมเหลา ใด ...........มูลซง่ึ กนั และกนั กบั อกศุ ลมลู มอี ยู, ธรรมเหลานน้ั ทั้งหมด เปนอกศุ ล ใชไ หม ? ว.ิ อามนตฺ า ใช 47, 50 อกศุ ลมลู ๓ (-โม.เจ->โม ๒) (-โม->โม๒) เหมอื นกัน ปจฉาปญหา -> ปฏวิ จนวิสัชนา รบั รอง อธ. ๓. จงวสิ ัชนาเปน บาลี และแสดงองคธ รรมในคาํ ปจุ ฉาดงั ตอ ไปนี้ (แตข อ ข. ตองจาํ แนกโกฏฐาส) ? 50 ข. เย วา ปน อกสุ ลมเู ลน อฺ มฺ มูลา, สพเฺ พ เต ธมมฺ า อกสุ ลาติ ? 50 ๓. ค. เย วา ปน อกสุ ลมเู ลน อฺ มฺ มูลมูลกา, สพเฺ พ เต ธมมฺ า อกุสลาติ. จงแสดงการจาํ แนกโกฏฐาส มาใหถ กู ตอ ง ? 47 (3/3) ตอบ ข./ค. อามนตฺ า ใช แสดงองคธ รรมในปฏโิ ลมปจุ ฉา องคธ รรมของสนั นิฏฐานบท ไดแ ก อกุศลมูล ๓ (เวน โมหเจตสกิ ท่ใี นโมหมลู จิต ๒) องคธรรมสังสยบท เหมือนกัน [47 (3/3) แสดงการจําแนกโกฏฐาส ในปฏิโลมปจุ ฉา] / (50) จาํ แนกโกฏฐาส ฉะนนั้ คําถามบทนี้เปนปจ ฉาปญ หา ถามวา หรอื วาธรรมเหลา ใด [(50)ช่ือวาเปนมลู ซง่ึ กันและกัน /(47) มมี ลู ท่ี เรียกวา เปนมูลซง่ึ กันและกัน] กบั อกุศลมูลมีอยู, ธรรมเหลานัน้ ทงั้ หมดเปน อกุศลใชไหม ? พระองคจ ึงทรงแก โดยปฏวิ จนวสิ ัชนาวา อามนตฺ า ซึ่งเปน คําวิสัชนารับรององคธ รรมของสนั นิฏฐานบท เพราะวา อกุศลมูล ๓ (เวน โมหเจตสิกที่ในโมหมูลจิต ๒) ซึ่งเปน องคธรรมของสนั นิฏฐานบทเหลานัน้ กเ็ ปนอกศุ ลดวย ขอ ๔ (อพยากตบท) อพยฺ ากตา ธมมฺ า (ทีเ่ ปน/เปนอพยากตะ) = วิ.๓๖, ก.ิ ๒๐+เจ.๓๘ รปู ๒๘ นิพพาน หรือ (๑๐ ขอ) = อเหตุ๑๘+อญั ๑๒(-ฉนั ), อเหจริ ,ุ อเหตุปฏิก,ํ กุ.อกุ.จิ.ร.ุ (ที่..ปญ ), พา, อุ, อา, สญั , ติ, นพิ * และ (๔ ขอ) และ สวิ๒๑, สกิ๑๗+๓๘, สวิ.สกจิ ิร๑ุ ๗, สปกํท่ี..ปญ** ูมลยมกะ (มลู นัย) อพยฺ ากตมูลา (ชอื่ วา อพยากตมูล) = อโลภะ อโทสะ อโมหะ/ (มูลมลู นัย) อพยฺ ากตมูลมูลา (ชอ่ื วามูลทเ่ี ปน อพยากตมูล) = อพยากตมลู ๓ (มลู กนยั ) อพยฺ ากตมลู กา (มมี ลู ที่เปนอพยากตะ) (มูลมูลกนัย) อพยฺ ากตมูลมลู กา (มมี ูลที่เปนอพยากตมูล) = สว.ิ ๒๑, อัญญ ัมญญฯ เอก ูมลยมกะ (มูลนัย) อพยฺ ากตมเู ลน เอกมลู า (มมี ลู เปน อันเดียวกนั กับอพยากตมูล) สกิ.๑๗+๓๘, (มูลมลู นยั ) อพยฺ ากตมเู ลน เอกมูลมูลา (มมี ูลทเ่ี รยี กวา เปน มลู อันเดยี วกนั กับอพยากตมลู ) สว.ิ สกิจิร๑ุ ๗, (มูลกนยั ) อพยฺ ากตมเู ลน เอกมูลกา (มมี ูลเปน อันเดียวกนั กับอพยากตมูล) ส.ปกํ-ท.ี่ .ปญ (มลู มลู กนยั ) อพยฺ ากตมเู ลน เอกมลู มลู กา (มมี ูลทีเ่ รยี กวาเปนมลู อนั เดยี วกันกับอพยากตมูล) (มูลนัย) อพยฺ ากตมเู ลน อฺ มฺ มูลา (ช่ือวา เปนมูลซง่ึ กันและกนั กับอพยากตมลู ) =อพยา- (มูลมูลนัย) อพยฺ ากตมเู ลน อฺ มฺ มูลมูลา (ชอื่ วามลู ทีเ่ รียกวา เปนมูลซ่ึงกันและกนั กับอพ.มลู ) กตมูล ๓ (มลู กนัย) อพยฺ ากตมเู ลน อฺ มฺ มูลกา (มมี ลู ซึง่ กนั และกันกับอพยากตมูล) (มูลมลู กนยั ) อพยฺ ากตมเู ลน อฺ มฺ มลู มลู กา (มมี ลู ท่ีเรียกวา เปนมลู ซ่ึงกันและกันกบั อพ.มูล) *อเหตุกจติ ๑๘ อัญญสมานเจตสิก ๑๒ (เวน ฉนั ทะ), อเหตุกจติ ตชรูป, อเหตุปฏิสนธกิ ัมมชรปู , กุศลอกศุ ลจิตตชรปู ทเ่ี กดิ ข้นึ เฉพาะแต ในปญจโวการภูม,ิ พาหริ รูป, อุตชุ รูป, อาหารชรูป, อสญั ญสตั ตปฏิสนธิกัมมชรปู , ปวัตติกัมชรุป, นิพพาน (กลุม ๑๐) **สเหตุกวิปากจิต ๒๑, สเหตุกกิรยิ าจติ ๑๗ เจตสิก ๓๘, สเหตกุ วิปากและสเหตุกกิรยิ าจิตตชรปู ๑๗, สเหตุกปฏิสนธกิ ัมมชรปู ที่ เกดิ ข้ึนเฉพาะแตใ นปญ จโวการภูมิ (กลมุ ๔) ดาวนโ หลดขอมูลจากขอ ความเพ่ิมเตมิ ท่ี youtube หรอื ที่ Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มูลยมก ปณ ณัติวาระในขนั ธยมกะ (วนั แรก) 20 มลู วาระ : อพยากตบท + มลู นัย / มลู มลู นัย + มลู ยมกะ (น.๓๑-๓๒, ๓๕-๓๖) ออนพ.ุ ยปาุ กตเบยวท.ิ ๓เก๖จกิ ิ.๒อ๐พ+ยฺ ๓าส๕กัน(ต-า )ธรมปู มฺ ๒า๘, นิพ >สองั สโลพภเฺ พะ อเโตทสะ...อ..โ.ม...ห..ะ...ติ ? (มูลนยั )***** (ที่เปน อพยากตะ) อพ4ยฺ 6า,ก4ตม8ูล, า49, 5(ช1ื่อ,ว5า 3อพ, ย5า5ก,ตมูล) 54 มูลยมกะ อพยฺ ากตมลู มูลา (ชือ่ วามลู ทเ่ี ปนอพยากตมูล) (มูลมลู นยั ) ธรรมเหลา ใดเหลา หนงึ่ (ทเี่ ปน อพยากตะ) มอี ย,ู ธรรมเหลา นนั้ ทัง้ หมด ....... ใชไ หม ? วิ.๓๖, ก.ิ ๒๐ เจ.๓๘ รูป๒๘ นิพพาน สนั .>สงั . จึงมีทงั อธ.บทเดียว และ๒บท ปุริมโกฏฐาส (๒บทก่อน)/ปัจฉิมโกฏฐาส วิ.๓๖, ก.ิ ๒๐+๓๕(-3) รูป๒๘ นิพ ปริปณุ ณปัญหา / สรูปทสั สนวสิ ชั นา (ออ้ ม) ว.ิ ตเีอณโลวภอะ พอโยฺ ทาสกะตอมโมลู หาะน,ิอวเสสวาิ.๓อ๖พ+ยฺกา.ิ ๒ก๐ต+า ๓ธ๕ม(ฺม-าน)X+อรพปู ๒ฺย๘าก+ตน4มิพ6ลู,า. 54(๔ข) อพยากต ว.ิ ๓๖, ก.ิ ๒๐+ ๓๕ มูล ๓ อพยฺ ากตมลู มลู าน,ิ (-3)+รปู ๒๘+นพิ 54 นX อพยฺ ากตมลู มลู า อโลภะ อโทสะ อโมหะ เพยี ง ๓ เทา น้นั ชอื่ วา ..., อพยากตธรรมทเ่ี หลอื นอกนน้ั ไมช ่อื วา .... ๔. จงแปลวภิ งั คบาลี และแสดงองคธ รรม ดังตอไปนี้ ? 54 ข. อวเสสา อพฺยากตา ธมมฺ า น อพฺยากตมลู า.? 54 ตอบ ข. อพยากตธรรมทเ่ี หลอื นอกน้นั ไมชือ่ วา อพยากตมูล. องคธ รรม ไดแ ก วิปากจิต ๓๖ กริ ิยาจิต ๒๐ เจตสิก ๓๕ (เวน อพยากตมลู ๓) รปู ๒๘ นพิ พาน ปฏ.ิ ปุ. อพเยยากวตามลู ป๓นส..นั .......<.....,+ว.ิ ๓๖+กสิ.๒พ๐เฺ +พ๓๕เต(-ธ)+มรมฺ ูปา๒๘+อนพิพสยฺ งั(ไามกไ ดตถาามตถิ ึง?) เปน อพยากตะ มูลยมกะ (มูลนยั ) อพยฺ ากตมูลา (ช่อื วา อพยากตมลู ) (มูลมลู นัย) อพยฺ ากตมลู มลู า (ชอ่ื วา มูลท่เี ปนอพยากตมูล) หรอื วา ธรรมเหลา ใด .........มอี ย,ู ธรรมเหลานนั้ ทง้ั หมด เปนอพยากตะ ใชไ หม ? อพยากตมลู ๓ เหมือนกนั ปัจฉาปัญหา ปฏิจวนวสิ ชั นา (รบั รอง อ.ธ. สนั นิฏฐานบท) อพยากตมลู ๓ ว.ิ อามนฺตา ใช มลู วาระ : อพยากตบท + มลู กนัย / มูลมูลกนยั + มลู ยมกะ (น.๓๘-๓๙, ๔๒-๔๓) อน.ุ ปุ มลูเยวาร1เ0ะกจข:อิอพอพยฺ ายฺแกาลสตะกนั บต4ท(านข+อ.๓ธม๒มลู -มฺ ๓น>า๔ยั ,,/๓ม๖ลู -๓ม๗ลู น, ส๓ัยพ๙/ฺเ-๔พม๐ูล,กเต๔น๓ยั ..4-./๔..ข๔.มอ..)ลูส.เ.ังมท..ลู.า.นก..้ัน.น..ยั.. +ต?ิ เอกมลู ยมกะ เอกมูลยมกะ มูลยมกะ (มลู กนัย)*** (ทีเ่ ปน อพยากตะ) อพฺยากตมูลกา (มมี ลู ทเี่ ปนอพยากตะ) (มลู มลู กนยั ) อพยฺ ากตมูลมูลกา (มมี ูลทเ่ี ปน อพยากตมูล) (มูลนัย)*** อพยฺ ากตมเู ลน เอกมูลา (มมี ลู เปนอันเดยี วกนั กบั อพยากตมลู ) 43, 53, 54 (มลู มลู นยั ) อพฺยากตมเู ลน เอกมลู มลู า (มมี ูลท่ีเรยี กวาเปนมลู อันเดียวกันกับอพยากตมลู ) (มลู กนัย) *** อพยฺ ากตมเู ลน เอกมูลกา (มมี ูลเปนอันเดยี วกันกบั อพยากตมลู ) 57 (มลู มูลกนัย)*** อพยฺ ากตมเู ลน เอกมลู มลู กา (มมี ูลที่เรยี กวา เปนมูลอันเดยี วกนั กบั อพยากตมลู ) 50 ธรรมเหลา ใดเหลา หนง่ึ ทเ่ี ปนอพยากตะ มีอย,ู ธรรมเหลา นนั้ ทง้ั หมด ......... ใชไ หม ? วิ ๓๖ + กิ ๒๐ + เจ. ๓๘ + รปู ๒๘ นพิ พาน ไมม เี หตุ (อเหตกุ ํ อพยากตํ = ๑๐ ขอ) มเี หตุ (สเหตุกํ อพยากต=ํ ๔ ขอ ) สว๒ิ ๑ สกิ๑๗+๓๘, สว.ิ สกิจิร๑ุ ๗, สปกทํ ่ี..ปญ เทา นั้น อเหตุ ๑๘+๑๒(-ฉัน), อเหจิร,ุ อเหตปุ ฏกิ ํ., กุ.อกุจิร(ุ ท.ี่ .ปญ ), พา, อ,ุ อา, สัญ ,ต,ิ นพิ และ ปุริมโกฏฐาส /ปจ ฉิมโกฏฐาส ดาวนโหลดขอมูลจากขอ ความเพิ่มเติมที่ youtube หรอื ท่ี Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มูลยมก ปณ ณัตวิ าระในขันธยมกะ (วนั แรก) 21 วสว.ิ ๒ิ ๑อ,เสห4กต6ิ๑กุ ,๗ํ 44+อ๓38พ๘,,ยฺ,44สา8กว9.ิต,ส,กํ55ิ.จ01ิร,๑ุ, 5๗5,33ส,,ปก5ํท5.่ี .,ปนนญXX ปริปณุ ณปญ หา / สรูปทสั สนวสิ ชั นา, ตรง อพยฺ ากตมลู ก,ํ สเหตกุ ํ อพยฺ ากตํ อพยฺ ากตมลู ก.ํ อพยฺ ากตมลู มูลก,ํ อพฺยากตมลู มลู ก.ํ ว.ิ อเหตกุ ํ อพยฺ ากตํ อพยฺ ากตมเู ลน นX เอกมลู ,ํ สเหตกุ ํ อพยฺ ากตํ อพยฺ ากตมเู ลน เอกมลู .ํ อเหต.๑๘+๑๒(-ฉัน)+อเหจิร,ุ อเห เอกมลู มล,ํ สว๒ิ ๑, สกิ๑๗+๓๘, สว.ิ สกจิ ิ เอกมูลมล.ํ เอกมลู ก,ํ ร๑ุ ๗, สปกทํ ่ี..ปญ เอกมูลก.ํ 57 ตุปฏกิ ํ. กุ.อกจุ ิรุ (ท.่ี .ปญ), พา, อุ, เอกมลู มูลก,ํ เอกมลู มลู ก.ํ 50 อา, สัญ, ต,ิ นิพ อพยากตะทเ่ี ปน อเหตกุ ะ ไมม มี ลู ..............., อพยากตะทเี่ ปน สเหตกุ ะ มมี ลู ท.ี่ .............. ๔. อพยากตบท มลู กนยั มลู ยมกะ มคี าํ ปจุ ฉาวสิ ชั นา เฉพาะอนโุ ลมปจุ ฉา พรอมคาํ แปลองคธ รรมวาอยางไร ? (ไมตองจําแนกโกฏฐาส) ? 48 ๓. ใหแ ปลและวสิ ัชนาในบทดังตอไปน้ี พรอ มแสดงองคธ รรม (ไมต องจําแนกโกฏฐาส) ? 53(4), 46, 61, 63 ๔. จงวสิ ัชนา แปลในปจุ ฉาดงั ตอ ไปนี้ พรอมทง้ั แสดงองคธ รรม ? 55(4ก), 56(4ก) ๔. จงวสิ ัชนา ในปจุ ฉาดงั ตอ ไปนี้ เปน ภาษาบาลี ไทย องคธ รรม (ไมต อ งจาํ แนกโกฏฐาส)? 58(4ก), 58 ๓. จงวสิ ัชนา(เปน บาลี) คาํ แปล พรอ มแสดงองคธ รรมในคาํ ปุจฉาดงั ตอ ไปนี้ ? 49, 51 ก./ข. เยเกจิ อพยฺ ากตา ธม4มฺ 3า,,4ส8พ,เฺ 5พ0เ,ต53อ,พยฺ ากตมลู กาติ ? 46(3ก), 49, 51, 53(4), 55(4), 58(4ก), 58, 63 ๔. จงแปลปจุ ฉา และจงวสิ ชั นา ในปุจฉาตอ ไปน้ี พรอ มทง้ั แสดงองคธ รรม (ไมตอ งจาํ แนกโกฏฐาส) เยเกจิ อพยฺ ากตา ธมมฺ า, สพเฺ พ เต อพยฺ ากตมูลกาติ ? 60 ตอบ ก. (46, 48) แปลวา ธรรมเหลาใดเหลาหน่ึงท่ีเปนอพยากตะมีอย,ู 46, 48, 49, 50, 51, ธรรมเหลา นั้นทัง้ หมดมมี ูลที่เปนอพยากตะใชไ หม ? วิสชั นา อเหตกุ ํ อพฺยากตํ น อพยฺ ากตมูลก,ํ สเหตุกํ อพยฺ ากตํ อพฺยากตมลู กํ. อพยากตะทเ่ี ปนอเหตกุ ะ ไมมีมลู ทเี่ ปน อพยากตะ, อพยากตะทเี่ ปนสเหตกุ ะ มมี ูลทเ่ี ปน อพยากตะ. (46, 48) แสดงองคธ รรมในอนโุ ลมปุจฉา เยเกจิ อพยฺ ากตา ธมฺมา เปนสันนฏิ ฐานบท สพเฺ พ เต อพฺยากตมลู กา เปนสังสยบท องคธรรมของสันนิฏฐานบท ไดแก อเหตุกจติ ๑๘ อัญญสมานเจตสิก ๑๒ (เวนฉนั ทะ) อเหตุกจิตตชรปู อเหตกุ ปฏิสนธกิ ัมมชรูป กุศลอกุศลจิตตชรปู (ท่ีเกดิ ข้ึนเฉพาะแตในปญจโวการภมู )ิ พาหริ รูป อุตชุ รูป อาหารชรปู อสัญญสตั ตปฏิสนธกิ มั มชรปู ปวัตตกิ มั มชรูป นพิ พาน และ สเหตุกวปิ ากจติ ๒๑ สเหตกุ กริ ิยาจติ ๑๗ เจตสกิ ๓๘ สเหตุกวปิ ากและสเหตกุ กิริยาจิตตช รูป ๑๗ สเหตกุ ปฏิสนธกิ ัมมชรปู ท่ีเกิดขน้ึ เฉพาะแตใ นปญจโวการภูมิ องคธรรมของสังสยบท ไดแก สเหตกุ วปิ ากจติ ๒๑ สเหตกุ กริ ยิ าจติ ๑๗ เจตสกิ ๓๘ สเหตกุ วปิ ากและ สเหตุกกิรยิ าจติ ตชรูป ๑๗ สเหตกุ ปฏสิ นธกิ มั มชรูป ที่เกิดขนึ้ เฉพาะแตใ นปญจโวการภมู ิ เทานนั้ (53, 58, 61) องคธรรมของสังสยบท ไดแ ก องคธรรมหมวดหลัง เทา นน้ั ๕. จงวสิ ัชนา พรอ มทง้ั คาํ แปล และแสดงองคธ รรมในขอ ปจุ ฉา ดงั ตอ ไปนี้ ? 43 เยเกจิ อพยากตา ธมมฺ า, สพเฺ พ เต อพยฺ ากตมเู ลน เอกมูลาติ ? 43 ๓. ก. อเหตกุ ํ อพยฺ ากตํ อพยากตมเู ลน น เอกมลู ,ํ ดาวนโ หลดขอ มูลจากขอ ความเพิ่มเตมิ ที่ youtube หรอื ที่ Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มลู ยมก ปณ ณัติวาระในขนั ธยมกะ (วันแรก) 22 สเหตกุ ํ อพยากตํ อพยฺ ากตมเู ลน เอกมลู ํ (จงแปลเปน ไทย) ? 43, 48 ๔. จงแปล (วภิ งั คบาลี) และแสดงองคธ รรม (ในคาํ บาล)ี ดังตอ ไปนี้ ? 53(๔ง/ง), 54 ก. สเหตุกํ อพยฺ ากตํ อพยฺ ากตมเู ลน เอกมูลก.ํ ? 54 ตอบ [43(5)] วสิ ัชนา อเหตกุ ํ อพยากตํ อพยากตมเู ลน น เอกมลู ,ํ สเหตุกํ อพยากตํ อพยากตมเู ลน เอกมลู ํ [43(3ก), 48, 54] อพยากตะท่เี ปน อเหตุกะ ไมมมี ูลเปนอนั เดียวกันกับอพยากตมลู , (54) อพยากตะทเี่ ปน สเหตกุ ะ มีมลู เปนอนั เดยี วกันกบั อพยากตมลู แสดงองคธรรม ในอนโุ ลมปุจฉา เยเกจิ อพยฺ ากตา ธมฺมา เปนสนั นฏิ ฐานบท สพเฺ พ เต อพยฺ ากตมูเลน เอกมลู า เปน สงั สยบท องคธรรมของสันนิฏฐานบท ไดแก อเหตุกจิต ๑๘ อัญญสมานาเจตสกิ ๑๒ (เวน ฉนั ทะ) อเหตกุ จติ ตชรปู อเหตุกปฏสิ นธกิ ัมมชรปู กุศลอกุศลจติ ตชรปู (ที่เกิดขึ้นเฉพาะแตในปญจโวการภูม)ิ พาหริ รูป อตุ ุชรูป อาหารชรปู อสญั ญสัตตปฏิสนธกิ ัมมชรปู ปวตั ติกมั มชรปู นพิ พาน และ สเหตุกวิปากจติ ๒๑ สเหตกุ กริ ิยาจิต ๑๗ เจตสกิ ๓๘ สเหตุกวบิ ากและสเหตกุ กิรยิ าจติ ตชรูป ๑๗ สเหตกุ ปฏิสนธิกัมมชรปู ท่เี กดิ ขึ้นเฉพาะแตใ นปญจโวการภูมิ องคธรรมของสงั สยบท ไดแ ก สเหตุกวิปากจิต ๒๑ สเหตกุ กิริยาจติ ๑๗ เจตสกิ ๓๘ สเหตกุ วิบากและ สเหตกุ กริ ิยาจติ ตชรูป ๑๗ สเหตุกปฏสิ นธกิ ัมมชรูปที่เกดิ ขึน้ เฉพาะแตในปญ จโวการภมู ิ เทานั้น (หรอื ) องคธรรมของสังสยบท ไดแก องคธรรมหมวดหลงั เทานั้น ๔. จงวสิ ัชนาในปุจฉาดงั ตอ ไปนี้ เปน ภาษาบาลี ไทย องคธ รรม (ไมต อ งจําแนกโกฏฐาส) ? 59 เยเกจิ อพยฺ ากตา ธมมฺ า, สพเฺ พ เต อพยฺ ากตมเู ลน เอกมูลมลู าต.ิ ? ๔. เยเกจิ อพยฺ ากตา ธมมฺ า, สพเฺ พ เต อพยฺ ากตมูเลน เอกมลู มลู าติ จงวสิ ชั นาบาลี ไทย องคธ รรม มาใหถ กู ตอง ? 57 ตอบ (57) วิสชั นา อเหตกุ ํ อพยากตํ อพยากตมูเลน น เอกมลู มลู ,ํ สเหตกุ ํ อพยากตํ อพยากตมูเลน เอกมลู มลู .ํ อพยากตะทเี่ ปนอเหตกุ ะ ไมมีมูลทเ่ี รียกวาเปนมูลอนั เดียวกันกบั อพยากตมูล, อพยากตะทเี่ ปนสเหตกุ ะ มมี ูลทีเ่ รียกวา เปน มลู อันเดียวกนั กบั อพยากตมูล. แสดงองคธรรม ในอนโุ ลมปจุ ฉา เยเกจิ อพยฺ ากตา ธมมฺ า เปนสนั นฏิ ฐานบท (57) สพเฺ พ เต อพยฺ ากตมูเลน เอกมลู มลู า เปนสังสยบท องคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแ ก // องคธรรมของสังสยบท ไดแก .......... ๔. จงวสิ ัชนาเปน บาลแี ละไทย พรอ มทงั้ องคธ รรมในคาํ ปุจฉาดงั ตอ ไปน้ี ? 50, 62 เยเกจิ อพยฺ ากตา ธมมฺ า, สพเฺ พ เต อพยฺ ากตมเู ลน เอกมลู มลู กาติ ? 50, 62 ตอบ วิสัชนา เปน บาลีและไทย พรอมท้งั แสดงองคธรรมดังนี้ วิสัชนา อเหตกุ ํ อพยฺ ากตํ อพยฺ ากตมูเลน น เอกมลู มลู ก,ํ สเหตกุ ํ อพฺยากตํ อพฺยากตมูเลน เอกมลู มูลก.ํ ดาวนโหลดขอ มูลจากขอความเพ่ิมเติมท่ี youtube หรอื ที่ Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มลู ยมก ปณ ณตั วิ าระในขนั ธยมกะ (วนั แรก) 23 อพยากตะทเ่ี ปน อเหตุกะไมม ีมลู ทีเ่ รยี กวาเปนมลู อันเดียวกันกบั อพยากตมูล, อพยากตะทเ่ี ปน สเหตุกะมีมูลทีเ่ รียกวา เปน มูลอันเดยี วกันกับอพยากตมูล. แสดงองคธรรม ในอนุโลมปจุ ฉา เยเกจิ อพยฺ ากตา ธมมฺ า เปน สันนิฏฐานบท สพเฺ พ เต อพยฺ ากตมเู ลน เอกมลู มลู กา เปนสงั สยบท องคธ รรมของสนั นิฏฐานบท ไดแ ก อเหตกุ จติ ๑๘ อัญญสมานเจตสกิ ๑๒ (เวนฉนั ทะ) อเหตกุ จติ ตชรูป อเหตกุ ปฏิสนธกิ ัมมชรปู กุศลอกุศลจติ ตชรปู (ท่ีเกดิ ขน้ึ เฉพาะแตใ นปญจโวการภมู )ิ พาหริ รูป อุตุชรปู อาหารชรปู อสญั ญสัตตปฏสิ นธกิ มั มชรูป ปวตั ตกิ มั มชรูป นิพพาน และ สเหตกุ วปิ ากจิต ๒๑ สเหตุกกิริยาจิต ๑๗ เจตสิก ๓๘ สเหตุกวิบากและสเหตุกกิริยาจติ ตชรูป ๑๗ สเหตกุ ปฏสิ นธกิ ัมมชรปู ท่เี กดิ ขึ้นเฉพาะแตในปญจโวการภูมิ องคธรรมของสงั สยบท ไดแก สเหตกุ วปิ ากจิต ๒๑ สเหตุกกริ ิยาจิต ๑๗ เจตสกิ ๓๘ สเหตุกวิบากและ สเหตุกกริ ยิ าจติ ตชรูป ๑๗ สเหตุกปฏิสนธกิ มั มชรปู ที่เกิดขึ้นเฉพาะแตในปญจโวการภมู ิ เทานนั้ ปฏ.ิ ป.ุ เย วา4สปันขนอ้ ......=.............., สัง สพเเฺหพมอื เนตกนัธมมฺ า ? อพยฺ ากตาติ (มลู กนยั +มลู ยมกะ) อพฺยากตมลู กา (มมี ูลทีเ่ ปนอพยากตะ) เปนอพยากตะ (มูลมลู กนัย+มลู ยมกะ)*****อพฺยากตมูลมูลกา (มมี ูลท่เี ปนอพยากตมลู ) (มูลนยั +เอกมลู ยมกะ)***** อพฺยากตมูเลน เอกมลู า (มมี ูลเปนอนั เดยี วกนั กบั อพยากตมลู ) (มูลมลู นัย+เอกมลู ยมกะ) อพฺยากตมเู ลน เอกมลู มลู า (มีมลู ทเี่ รียกวาเปนมูลอนั เดียวกนั กบั อพยากตมูล) (มลู กนยั +เอกมลู ยมกะ) อพยฺ ากตมูเลน เอกมลู กา (มมี ลู เปนอันเดยี วกันกับอพยากตมลู ) (มลู มลู กนัย+เอกมลู ฯ)***** อพฺยากตมูเลน เอกมลู มลู กา (มีมูลทเี่ รยี กวา เปนมูลอนั เดียวกันกบั อพยากตมูล) หรอื วา ธรรมเหลา ใด ............................ มอี ยู, ธรรมเหลา นน้ั ทงั้ หมด เปน อพยากตะ ใชไ หม ? สว๒ิ ๑, สก๑ิ ๗+๓๘, สว.ิ สกจิ ริ ๑ุ ๗, สปกํท่ี..ปญ เหมือนกัน สว๒ิ ๑, สก๑ิ ๗+๓๘, สว.ิ สกิ.จริ ุ ปจ ฉาปญ หา (คกู บั ) ปฏวิ จนวิสชั นา (รับรอง อ.ธ. สัน.) ๑๗, สปกํท.ี่ .ปญ วิ. อามนตฺ า ใช ๓. ใหแ ปลและวสิ ชั นาในบทดงั ตอไปนี้ พรอ มแสดงองคธ รรม (ไมต อ งจาํ แนกโกฏฐาส) ? 46, 58 ๔. ข. จงแปลคาํ ปุจฉาและวสิ ชั นาเปน บาลี ไทย แสดงองคธรรม ดงั ตอ ไปน้ี ? 56 เย วา ปน อพยฺ ากตมลู มลู กา, สพเฺ พ เต ธมฺมา อพยฺ ากตาติ ? 46, 56, 58 ตอบ ข. (56) หรอื วา ธรรมเหลา ใดมีมลู ท่ีเปนอพยากตมูลมีอย,ู ธรรมเหลานัน้ ทงั้ หมดเปน อพยากตะใชไหม ? วสิ ัชนา อามนตฺ า ใช แสดงองคธรรมในปฏิโลมปุจฉา เย วา ปน อพยฺ ากตมลู มลู กา เปน สนั นิฏฐานบท สพเฺ พ เต ธมฺมา อพยฺ ากตา เปนสังสยบท องคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแก สเหตกุ วิปากจติ ๒๑ สเหตุกกริ ิยาจิต ๑๗ เจตสิก ๓๘ สเหตุกวิบาก และ สเหตกุ กริ ยิ าจิตตชรปู ๑๗ สเหตกุ ปฏสิ นธกิ มั มชรูป ทีเ่ กดิ ข้นึ เฉพาะแตใ นปญจโวการภมู ิ องคธ รรมของสงั สยบท เหมอื นกนั ดาวนโ หลดขอ มูลจากขอ ความเพ่ิมเติมที่ youtube หรือท่ี Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มลู ยมก ปณ ณตั วิ าระในขนั ธยมกะ (วนั แรก) 24 ๓. ข. เย วา ปน อพยฺ ากตมเู ลน เอกมลู า, สพเฺ พ เต ธมมฺ า อพยฺ ากตาติ ? (จงวิสชั นาเปน บาลีและแสดงองคธ รรมจาํ แนกโกฏฐาสดว ย) ? 43, 48 ๔. จงวสิ ัชนา แปลในปจุ ฉาดงั ตอ ไปนี้ พรอมทัง้ แสดงองคธ รรม (จําแนกโกฏฐาสเฉพาะขอ ข.) ? 55 ข. เย วา ปน อพยฺ ากตมเู ลน เอกมลู า, สพเฺ พ เต ธมมฺ า อพยฺ ากตาติ ? 55 ตอบ (55) ข. วิสชั นา อามนตฺ า ใช แสดงองคธ รรมและการจาํ แนกโกฏฐาส ในปฏิโลมปุจฉา เย วา ปน อพฺยากตมเู ลน เอกมูลา เปน สันนิฏฐานบท สพเฺ พ เต ธมมฺ า อพยฺ ากตา เปน สังสยบท องคธ รรมของสันนิฏฐานบท ไดแก สเหตกุ วิปากจติ ๒๑ สเหตุกกิริยาจติ ๑๗ เจตสกิ ๓๘ สเหตกุ วบิ าก และสเหตกุ กริ ิยาจิตตชรปู ๑๗ สเหตุกปฏิสนธกิ ัมมชรูป ทเ่ี กดิ ขนึ้ เฉพาะแตในปญ จโวการภูมิ องคธรรมของสงั สยบท เหมอื นกนั ฉะนน้ั คําถามบทนีเ้ ปนปจ ฉาปญ หา ถามวา หรอื วาธรรมเหลา ใด มมี ูลเปนอันเดียวกนั กับ อพยากต มลู มีอย,ู ธรรมเหลานั้นทัง้ หมดเปนอพยากตะใชไหม ? พระองคจงึ ทรงแกโดยปฏิวจนวิสชั นาวา อามนตฺ า ซึ่งเปนคําวิสชั นารับรององคธรรมของสนั นิฏฐานบท เพราะวา สเหตุกวปิ ากจติ ๒๑ สเหตกุ กริ ยิ าจติ ๑๗ เจตสกิ ๓๘ สเหตุกวิบาก และสเหตุกกริ ิยาจิตตชรปู ๑๗ สเหตุกปฏิสนธิกมั มชรูป ที่เกิดข้นึ เฉพาะแต ในปญจโวการภมู ิ ซึง่ เปน องคธรรมของสนั นฏิ ฐานบทเหลา นนั้ ก็เปน อพยากตะดว ย มลู วาระ : อพยากตบท+มลู นยั /มลู มูลนัย/มลู กนยั /มลู มูลกนัย+อญั ญมญั ญมลู ยมกะ อนุ.ปุ เยสวเ๒ิก๑จ,ิ ส..สก.ัน.ิ๑...๗..+..๓...๕..(..-......), สธวม.ิ สมฺ กาิจ,ริ ุ๑๗,สปกทํ ี..ปัญ + > สพเฺ พ เต ...........ส..งั ................. ต?ิ (มลู นัย) อพฺยากตมูเลน เอกมูลา อพฺยากตมเู ลน อฺมฺ มลู า (มมี ลู เปนอนั เดียวกันกับอพยากตมลู ) (ชอ่ื วา เปน มลู ซึง่ กันและกนั กบั อพยากตมลู ) (มูลมลู นัย) ***** อพยฺ ากตมเู ลน เอกมูลมลู า อพยฺ ากตมูเลน อฺมฺ มลู มลู า (มมี ูลท่ีเรยี กวา เปน มลู อนั เดยี วกนั กับอพยากตมลู ) (ชอ่ื วามูลทีเ่ รยี กวา เปน มลู ซึง่ กันและกนั กับอพยากตมูล) (มลู กนยั ) อพยฺ ากตมูเลน เอกมลู กา อพยฺ ากตมูเลน อฺมฺ มลู กา (มีมลู เปน อนั เดียวกันกับอพยากตมูล) (มมี ลู ซง่ึ กันและกันกับอพยากตมลู ) (มูลมลู กนัย) อพฺยากตมเู ลน เอกมลู มูลกา อพฺยากตมูเลน อฺมฺ มลู มลู กา (มีมลู ท่เี รียกวา เปน มลู อนั เดียวกันกับอพยากตมลู ) (มีมลู ทเี่ รยี กวา เปน มลู ซงึ่ กนั และกนั กับอพยากตมูล) ธรรมเหลา ใดเหลา หนง่ึ ................. มอี ย,ู ธรรมเหลานน้ั ทงั้ หมด ................. ใชไ หม ? สว๒ิ ๑, สก๑ิ ๗+๓๘, สว.ิ สกจิ ริ ๑ุ ๗, สปกํท.่ี .ปญ อโลภะ อโทสะ อโมหะ เทา นน้ั ปรุ ิมโกฏฐาส (๒บทกอ น) / ปจฉมิ โกฏฐาส สว๒ิ ๑, สก๑ิ ๗+๓๕(-3), สว.ิ สกจิ ริ ๑ุ ๗, สปกํท.่ี .ปญ ปรปิ ณุ ณปญ หา - สรปู ทสั สนวสิ ชั นา ออม ว.ิ (มลู นยั ) มลู านิ ยานิ เอกโต อปุ ปฺ ชชฺ นตฺ ิ อพฺยากตมูลานิ เอกมูลานิ เจว อฺ มฺ มลู านิ จ, (มูลมลู นัย)*** อพยากตมูล ๓ อพฺยากตมูลานิ เอกมลู มลู านิ เจว อฺ มฺ มลู มูลานิ จ, (มูลกนยั ) อพฺยากตมลู านิ เอกมูลกานิ เจว อฺ มฺ มลู กานิ จ, (มูลมลู กนยั ) อพฺยากตมูลานิ เอกมูลมลู กานิ เจว อฺ มฺ มลู มลู กานิ จ, (มูลนยั ) อวเสสา อพยากตมลู สหชาตา ธมมฺ า อพฺยากตมเู ลน เอกมูลา น จ อฺ มฺ มลู า (มูลมลู นัย) **** สว๒ิ ๑, สกิ๑๗+๓๕(-), สว.ิ อพยฺ ากตมูเลน เอกมูลมลู า น จ อฺ มฺ มูลมลู า สกิจริ ๑ุ ๗, สปกํท่ี..ปญ ดาวนโหลดขอ มูลจากขอความเพ่ิมเติมที่ youtube หรอื ท่ี Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มลู ยมก ปณ ณตั วิ าระในขนั ธยมกะ (วนั แรก) 25 (มูลกนัย) อพฺยากตมเู ลน เอกมูลกา น จ อฺ มฺ มลู กา (มูลมลู กนัย) อพยฺ ากตมูเลน เอกมลู มลู กา น จ อฺ มฺ มลู มูลกา อพยากตมลู เหลาใดเกิดขน้ึ คราวเดยี วกนั อพยากตมลู เหลานน้ั ................กนั ก็ใช .................ซง่ึ กันและกัน กใ็ ช, ธรรมทเ่ี กดิ พรอ มกนั กบั อพยากตมลู ทเี่ หลอื นอกนน้ั ................อพยากตมูล แตไม( ใช๓ )........................ซึง่ กนั และกัน. ๔. จงแปลและแสดงองคธ รรมในคาํ วสิ ัชนาดงั ตอ ไปน้ี ? 46 ก. มลู านิ ยานิ เอกโต อปุ ปฺ ชชฺ นฺติ อพยฺ ากตมูลานิ เอกมูลมลู านิ เจว อฺมฺ มลู มลู านิ จ อวเสสา อพยากตมลู สหชาตา ธมมฺ า อพยฺ ากตมเู ลน เอกมลู มลู า น จ อฺ มฺ มลู มลู า ? 46 ตอบ ก. อพั ยากตมูลเหลาใดเกดิ ขึ้นคราวเดียวกนั อัพยากตมูลเหลา น้ันมีมูลท่เี รียกวา เปนมูลอนั เดยี วกันกใ็ ช ชอื่ วามูลที่เรียกวาเปนมูลซึ่งกนั และกนั ก็ใช, ธรรมท่เี กิดพรอ มกนั กบั อพั ยากตมลู ที่เหลอื นอกนัน้ มีมูลทีเ่ รยี กวา เปนมูลอนั เดยี วกันกบั อพั ยากตมูล แตไมช อ่ื วามลู ท่เี รยี กวา เปนมลู ซ่งึ กันและกัน องคธรรมของปุริมโกฏฐาส ไดแก สเหตุกวิปากจิต ๒๑ สเหตุกกิริยาจิต ๑๗ เจตสิก ๓๘ สเหตุกวิบาก และสเหตุกกริ ยิ าจิตตชรปู ๑๗ สเหตกุ ปฏิสนธกิ ัมมชรปู ที่เกิดขึ้นเฉพาะแตในปญจโวการภูมิ องคธรรมของปจฉิมโกฏฐาส ไดแก อพั ยากตมลู ๓ เทาน้นั ปฏ.ิ ป.ุ เย วา ปอนพ.ย..า..ก..ต..สม..นั.ูล...๓....., <เหมอื นกนั วิ.๓๖ ก.ิ ๒๐ + ๓๕(-3ส)พรฺเูปพ๒เ๘ตนธิพมมฺ ไมาสงั่ไอดพถ้ ยฺามากถตึง+าติ ? (มลู นยั ) อพฺยากตมูเลน อฺมฺ มลู า (ชื่อวาเปนมูลซึ่งกนั และกันกบั อพยากตมลู ) เปน อพยากต (มลู มลู นัย) อพฺยากตมูเลน อฺมฺ มูลมูลา (ช่ือวามูลที่เรยี กวา เปนมูลซ่ึงกันและกนั กบั อพยากตมลู ) (มลู กนัย)***** อพยฺ ากตมเู ลน อฺมฺ มลู กา (มมี ลู ซึง่ กนั และกนั กับอพยากตมลู ) (มลู มลู กนยั ) อพยฺ ากตมเู ลน อฺมฺ มลู มูลกา (มมี ูลทเ่ี รียกวาเปน มลู ซึ่งกันและกันกับอพยากตมูล) อพยากตมูล ๓ หรอื วา ธรรมเหลา ใด ................... มอี ย,ู ธรรมเหลา นนั้ ทงั้ หมด เปน กศุ ล ใชไ หม เหมือนกนั (ปจ ฉาปญหา – ปฏวิ จนวสิ ัชนา) วิ. อามนตฺ า ใช ๓. เยวา ปน อพยฺ ากตมเู ลน อฺ มฺ มลู มลู กา, สพฺเพ เต ธมมฺ า อพยฺ ากตาติ ? (จงวสิ ชั นา เปน บาลแี ละแสดงองคธ รรมและการจาํ แนกโกฏฐาสดว ย) ? 45 ตอบ อามนฺตา (วสิ ัชนาเปนบาล)ี องคธรรมของสันนิฏฐานบท ไดแ ก อพั ยากตมลู ๓ องคธรรมของสงั สยบท เหมอื นกัน ฉะน้ันคําถามบทน้ีเปนปจฉาปญหา ถามวาหรือวาธรรมเหลาใด ช่ือวามูลท่ีเรียกวา เปนมูลซ่ึงกันและกัน กับอพั ยกตามูลมีอยู ธรรมเหลานน้ั ทงั้ หมดเปน อัพยากตะใชไหม ? พระองคจ ึงทรงแกโดยปฏิวจนวิสัชนา วา อามนฺตา ซ่ึงเปนคําวิสัชนารับรององคธ รรมของสันนิฏฐานบท เพราะวา อัพยากตมูล ๓ ซึ่งเปนองค ธรรมของสนั นิฏฐานบทเหลาน้นั ก็เปน อพยากตดวย ขอ ๕ (นามบท) นามา ธมมฺ า (ทเี่ ปนนาม/เปนนาม) = จติ ๘๙+เจ.๕๒, นพิ พาน หรอื = อเหตุ.๑๘+๑๒(-ฉัน), โม->โม๒, นิพพาน และ สเหตุกจติ ๗๑+๕๒ (-โม->โม๒) ูมลยมกะ (มูลนยั ) นามมลู า = ก(ชุ.มอื่ ลู วา๓นาอมกมุ.ลูม)ูล ๓ อพ.มูล ๓ ดาวนโหลดขอมูลจากขอ ความเพ่ิมเติมท่ี youtube หรือที่ Lหiรnือe/=fbIDน: Kามaมnลูras๙i Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มูลยมก ปณ ณัติวาระในขนั ธยมกะ (วนั แรก) 26 (มลู มูลนยั ) นามมลู มูลา (ชอื่ วามูลท่เี ปนนามมูล) ๑๙ มี.ค. ๖๓ (มูลกนัย) นามมลู กา (มีมลู ทเ่ี ปนนาม มนี ามมูล) = ส.๗๑+๕๒(-โม->โม๒), ส.จิ.รุ.๑๗ (มูลมูลกนัย) นามมลู มูลกา (มมี ลู ท่ีเปนนามมูล) ท.ี่ .ปญ , ปญ -ส.ปกํ.***หรอื (มูลนัย) นามมเู ลน เอกมลู า (มมี ูลเปนอันเดยี วกนั กับนามมูล) = ส.๗๑+๔๖ (-๙), อัญญ ัมญญฯ เอกมูลยมกะ (มูลมูลนยั ) นามมเู ลน เอกมลู มลู า (มมี ลู ท่เี รยี กวา เปนมูลอนั เดียวกันกับนามมูล) ส.จิ.ร.ุ ๑๗ ท.่ี ..ปญ, (มูลกนยั ) นามมเู ลน เอกมลู กา (มมี ลู เปนอันเดียวกันกับนามมูล) ปญ-ส.ป.กํ. และ (มูลมูลกนัย) นามมเู ลน เอกมลู มลู กา (มมี ลู ทีเ่ รียกวา เปน มูลอนั เดยี วกนั กับนามมูล) นามมูล ๙(-โม->โม๒) (มลู นยั ) นามมเู ลน อฺ มฺ มลู า (ชื่อวา เปนมลู ซงึ่ กันและกันกับนามมูล) (มลู มูลนัย) นามมเู ลน อฺ มฺ มลู มูลา(ชอ่ื วา มลู ทเี่ รียกวาเปนมูลซึ่งกันและกนั กับนามมูล) =นามมูล ๙ 45((มม,ูลลู 4กม7นลู ก,ยั น)5ยั 1) ,นนาามมมมเูเู ลลนน อฺ มฺ มลู กา (มมี ลู ซ่งึ กันและกันกับนามม(-โลูม-)>โม๒) อฺ มฺ มลู มลู กา(มมี ลู ที่เรยี กวา เปน มูลซ่งึ กนั และกันกับนามมลู ) ***สเหตุกจิต ๗๑ +๕๒(-โม->๒), สเหตกุ จิตตชรปู ๑๗ ทเ่ี กดิ ข้นึ เฉพาะแตใ นปญจโวการภูมิ ปญ จโวการสเหตุกปฏิสนธกิ ัมมชรปู มลู วาระ : นามบท + มูลนัย / มูลมลู นยั + มลู ยมกะ (น.๔๕-๔๖, ๔๘-๔๙) อนุ.ปุ. เย เกจจิติ ๘น๙าม+า๔๖ธส(ม-ันมฺ า),,นพิ พสาพนเฺ พเต .....>....ก..ุ.๓.. อตก?ิ ุ ๓ อพ. ๓ สัง มูลยมกะ (มลู นัย)***55 (ทเี่ ปน นาม) นามมลู า (ชือ่ วานามมูล) (มลู มลู นยั )***47,51 นามมูลมูลา (ชอ่ื วามลู ที่เปนนามมลู ) ธรรมเหลาใดเหลา หนึ่ง ทเ่ี ปนนาม มีอย,ู ธรรมเหลา น้นั ทั้งหมด ...... ใชไ หม ? สัน=จิต ๘๙+เจ.๕๒ นพิ พาน อธ.สนั .>สงั . จึงมีทงั อธ.บทเดียว และ๒บท สงั = ปุรมิ โกฏฐาส (๒บทกอน) / ปจฉิมโกฏฐาส จิต ๘๙+เจ. ๔๖(-9) นพิ ปรปิ ณุ ณปญ หา / สรูปทสั สนวิสัชนา (ออ ม) ว.ิ นเวว นามมลู าน,ิ อวเสสา นามา ธมฺมา น นามมลู า 45, 47, 51,55 นามมลู มลู าน,ิ น นามมลู มลู า กุ.มลู ๓ อก.ุ มลู ๓ อพ.มลู ๓ รวม ๙ เทานนั้ ชื่อวา ...., นามธรรมทเี่ หลอื นอกนนั้ ไมช อื่ วา .... (มูลนัย) กุ.๓ อกุ.๓ (ชอ่ื วานามมูล) (มลู มลู นัย) อพ.๓ (ช่ือวา มลู ท่เี ปนนามมลู ) จติ ๘๙+๔๖(-), นพิ พาน ๕. จงวสิ ัชนาในปจุ ฉาดงั ตอ ไปนี้ เปน บาลไี ทย และแสดงองคธรรมพรอ มการจาํ แนกโกฏฐาส เฉพาะขอ ก. มาดใู หส มภูมิรขู องนกั ศกึ ษามหาอาภธิ รรมกิ ะตรี ? 55 ก. เยเกจิ นามา ธมฺมา, สพเฺ พ เต นามมูลาติ ? 55, 60 ๕. ก. เยเกจิ นามา ธมมฺ า, สพเฺ พ เต นามมลู าติ ? 59 จงวสิ ัชนาพรอ มทง้ั คาํ แปล แสดงองคธ รรมและการจาํ แนกโกฏฐาส ตอบ ก. วสิ ชั นา นเวว นามมลู าน,ิ อวเสสา นามา ธมมฺ า น นามมูลา. กศุ ลมูล ๓ อกุศลมลู ๓ อพยากตมูล ๓ รวม ๙ เทา นัน้ ช่อื วา นามมลู , นามธรรมทีเ่ หลือนอกนน้ั ไมชื่อวานามมูล แสดงองคธ รรมและการจาํ แนกโกฏฐาส ในอนุโลมปจุ ฉา เยเกจิ นามา ธมมฺ า เปนสนั นิฏฐานบท สพเฺ พ เต นามมลู า เปนสงั สยบท องคธรรมของสนั นิฏฐานบท ไดแ ก จิต ๘๙ เจตสิก ๕๒ นิพพาน ดาวนโ หลดขอมูลจากขอ ความเพิ่มเติมที่ youtube หรือท่ี Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว)
มลู ยมก ปณ ณตั วิ าระในขันธยมกะ (วนั แรก) 27 องคธ รรมของสังสยบท ไดแ ก นามมูล ๙ เทา น้ัน ฉะนัน้ คําถามบทนเี้ ปน ปริปณุ ณปญ หา ถามวา ธรรมเหลาใดเหลา หน่งึ ทเ่ี ปนนามมีอย,ู ธรรมเหลา นั้น ท้งั หมดชือ่ วา นามมูลใชไ หม ? พระองคจึงทรงแกดวยการยกเอา นามมูล ๙ ซง่ึ เปนองคธรรมของสนั นฏิ ฐานบทและสังสยบทไดท งั้ สองขึ้นไวใ นปรุ ิมโกฏฐาส ไมมกี ารปฏเิ สธสงั สยบท ดงั แสดงวา นเวว นามมลู านิ แลว ทรงยกเอา จติ ๘๙ เจตสกิ ๔๖ (เวน นามมูล ๙) นพิ พาน ซึ่งเปนองคธรรมของสนั นฏิ ฐานบทไดบท เดยี วข้ึนไวในปจฉิมโกฏฐาส มกี ารปฏิเสธสังสยบทดังแสดงวา อวเสสา นามา ธมมฺ า น นามมลู า คาํ วิสชั นาในอนโุ ลมปุจฉานี้ เปนสรปู ทัสสนวสิ ัชนาท่ีมวี ิภังคโดยออ ม ๔. จงแปลคาํ วสิ ชั นาดงั ตอ ไปน้ี เปน ภาษาไทยมาใหถ กู ตอ ง ? 45 ก. นเวว นามมลู าน,ิ อวเสสา นามา ธมมฺ า น นามมลู า ? 45(4ก/ค) ตอบ ก. กศุ ลมลู ๓ อกุศลมลู ๓ อพั ยากตมูล ๓ รวม ๙ เทา นน้ั ชื่อวานามมลู นามธรรมทเ่ี หลือนอกน้ัน ไมชือ่ วานามมลู ๕. จงแปลในคาํ วสิ ชั นาดงั ตอ ไปนี้ ? 47(3/3), 51(4ค3/3) ค. นเวว นามมลู มูลาน,ิ อวเสสา นามา ธมฺมา น นามมลู มูลา. ? 47(3/3), 51(4ค3/3) ตอบ ค. มีคาํ แปลดงั นี้ กุศลมลู ๓ อกศุ ลมูล ๓ อพยากตมลู ๓ รวม ๙ เทานน้ั ชอื่ วามูลทเี่ ปนนามมลู , นามธรรมท่ีเหลือนอกนัน้ ไมช่อื วามลู ทเี่ ปนนามมลู . สัน สงั ปฏ.ิ ป.ุ เย วา ปน .............., สพเฺ พ เต ธมมฺ า นามาติ ? (มูลนยั )*** นามมูลา (ชื่อวานามมูล) 55 เปนนาม มูลยมกะ (มลู มูลนยั ) นามมูลมูลา (ชื่อวามูลที่เปนนามมูล) หรอื วา ธรรมเหลาใด ...........มอี ยู, ธรรมเหลา นน้ั ทั้งหมด เปนนาม ใชไ หม ? เหมือนกนั ปจฉาปญ หา ปฏจิ วนวสิ ชั นา (รับรอง อ.ธ. สัน.) ว.ิ อามนตฺ า ใช 55 ๕. จงวิสัชนาในปจุ ฉาดงั ตอ ไปนี้ เปน บาลไี ทยและแสดงองคธ รรม มาดใู หส มภูมริ ขู องนกั ศกึ ษามหาอาภธิ รรมกิ ะตรี ? ข. เย วา ปน นามมลู า, สพฺเพ เต ธมมฺ า นามาติ ? 55(5ข), 60 ๕. ข. เย วา ปน นามมูลา, สพเฺ พ เต ธมมฺ า นามาต.ิ ? 59 จงวสิ ัชนาพรอมทัง้ คําแปล แสดงองคธ รรม ไมต อ งจาํ แนกโกฏฐาส ? ตอบ ข. วสิ ชั นา อามนฺตา ใช แสดงองคธรรมในปฏิโลมปุจฉา เย วา ปน นามมูลา เปนสนั นฏิ ฐานบท สพเฺ พ เต ธมมฺ า นามา เปน สังสยบท องคธรรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแก นามมลู ๙ องคธ รรมของสังสยบท เหมือนกนั ดาวนโหลดขอ มูลจากขอความเพิ่มเตมิ ท่ี youtube หรอื ท่ี Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มลู ยมก ปณ ณัตวิ าระในขนั ธยมกะ (วนั แรก) 28 มลู วาระ : นามบท + มูลกนยั / มลู มูลกนยั + มลู ยมกะ (น.๕๑-๕๒, ๕๕) อนุ.อปเ.ุห.๑๘สัน+เย๑๒(เ-กฉจนั สิ)ัง โมมนูล-า>(วม๒นาา.นร๔ะิพ๖ธ-:ม๔นมฺ ๗าาแ,ม,ล๔บะ๙ทส-.๕๗+๑๐สม+พ, ๕ลู๕เฺ พ๒น๒ัย(--๕เโตม/๓->ม.,.๒.ลู๕.).ม.๖..ลู .-.๕น...๗ยั..)../...ม.ส.ูล...๗.ก.๑.น.+ตยั ๕?ิ ๒/ มลู มลู กนัย + เอกมลู ยมกะ (-โม->๒) เอกมูลยมกะ มูลยมกะ (มลู กนัย)***57 (ท่เี ปนนาม) นามมลู กา (มมี ลู ทเี่ ปน นาม มนี ามมูล) (มูลมลู กนยั ) นามมลู มลู กา (มมี ลู ท่เี ปนนามมูล) (มลู นัย) นามมเู ลน เอกมูลา (มมี ูลเปนอันเดียวกนั กับนามมลู ) (มูลมลู นยั ) นามมเู ลน เอกมูลมลู า (มมี ูลทีเ่ รียกวาเปน มลู อนั เดียวกนั กบั นามมูล) (มูลกนัย) นามมเู ลน เอกมลู กา (มมี ูลเปน อันเดยี วกันกับนามมูล) (มลู มลู กนัย)***49 นามมเู ลน เอกมูลมูลกา (มมี ลู ที่เรียกวา เปน มูลอันเดยี วกนั กบั นามมลู ) 44, 49 ธรรมเหลา ใดเหลา หนงึ่ ทเี่ ปน นามมอี ย,ู ธรรมเหลา นน้ั ทงั้ หมด ........ ใชไ หม ? สัน=จิต ๘๙ + เจ. ๕๒ + นิพพาน อธ.สนั >สัง บทเดียวแสดงกอน ๒บททีหลงั ไมมีเหตุ (อเหตกุ ํ นาม)ํ มีเหตุ (สเหตกุ ํ นาม)ํ อเหตกุ ๑๘+๑๒(-ฉัน), โม->๒, นพิ และ ส.๗๑+๕๒ (-โม>โม๒) เทา นนั้ สงั =ส.๗๑+๕๒ (-โม->๒) ปรปิ ณุ ณปญ หา / สรปู ทัสสนวิสัชนา, ตรง ว.ิ 57 อเหตกุ ํ นามํ น นามมูลก,ํ สเหตุกํ นามํ นามมลู ก.ํ นามมูลมลู ก,ํ นามมูลมลู ก.ํ ว.ิ อเหตกุ ํ นามํ นามมเู ลน น เอกมลู ,ํ สเหตกุ ํ นามํ นามมเู ลน เอกมลู .ํ อเห๑๘+๑๒(-ฉนั ), เอกมูลมล,ํ ส.๗๑+๕๒ เอกมูลมล.ํ โม->๒, นิพพาน เอกมลู ก,ํ (-โม->๒) เอกมูลก.ํ 49 เอกมูลมลู ก,ํ เอกมลู มูลก.ํ นามธรรมทเ่ี ปน อเหตกุ ะไม( ม.ี .....), นามธรรมทเี่ ปน สเหตกุ ะ(ม.ี ....) 49, 57 แสดงองคธ รรมและการจาํ แนกโกฏฐาส ๕. ก. จงแสดงองคธ รรม นามธรรมทเี่ ปน อเหตกุ และ นามธรรมทเี่ ปน สเหตกุ ? 44 ตอบ ก. อเหตกุ จติ ๑๘ อัญญสมานาเจตสกิ ๑๒ (เวน ฉนั ทะ) โมหเจตสกิ ทใ่ี นโมหมูลจติ ๒ นิพพาน สเหตุกจิต ๗๑ เจตสิก ๕๒ (โมหเจตสิกทีใ่ นโมหมลู จิต ๒) ๔. จงแปลคาํ วิสัชนาดงั ตอ ไปน้ี เปน ภาษาไทยมาใหถกู ตอ ง ? 45 ค. อเหตุกํ นามํ นามมเู ลน น เอกมลู ก,ํ สเหตกุ ํ นามํ นามมเู ลน เอกมูลกํ ? 45(4ค/ค) ตอบ ค. นามธรรมที่เปนอเหตุกะ ไมม ีมูลเปนอันเดียวกันกบั นามมลู นามธรรมท่เี ปนสเหตุกะ มีมลู เปน อนั เดยี วกันกับนามมลู ๕. จงวสิ ัชนาในปจุ ฉาดงั ตอ ไปนเี้ ปน บาลไี ทยและแสดงองคธ รรม (ไมตอ งจําแนกโกฏฐาส) ? 57, 61 ก. เยเกจิ นามา ธมมฺ า, สพเฺ พ เต นามมลู กาติ ? 57, 61 ตอบ ก. วิสชั นา อเหตกุ ํ นามํ น นามมลู ก,ํ สเหตกุ ํ นามํ นามมลู กํ . นามธรรมท่เี ปน อเหตุกะ ไมมีนามมลู , นามธรรมที่เปน สเหตุกะ มีนามมูล. แสดงองคธ รรม ในอนโุ ลมปจุ ฉา เยเกจิ นามา ธมมฺ า เปนสันนฏิ ฐานบท สพเฺ พ เต นามมลู กา เปนสงั สยบท องคธ รรมของสันนิฏฐานบท ไดแก อเหตกุ จติ ๑๘ อญั ญสมานาเจตสิก ๑๒ (เวน ฉนั ทะ) โมหเจตสิกทใี่ น ดาวนโหลดขอ มูลจากขอ ความเพิ่มเติมที่ youtube หรือท่ี Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มูลยมก ปณ ณัติวาระในขันธยมกะ (วนั แรก) 29 โมหมลู จติ ๒ นิพพาน และ สเหตุกจิต ๗๑ เจตสกิ ๕๒ (เวน โมหเจตสกิ ท่ีใน โมหมลู จิต ๒) องคธ รรมของสังสยบท ไดแก สเหตกุ จติ ๗๑ เจตสกิ ๕๒ (เวน โมหเจตสกิ ที่ในโมหมูลจติ ๒) เทาน้ัน ๔. จงต้ังปจุ ฉาวสิ ัชนา ในมลู วาระ นามบท มลู มลู กนยั แหง เอกมลู ยมกะ เฉพาะอนโุ ลมปจุ ฉา ทง้ั บาลี คาํ แปล แสดงองคธ รรม (ไมต องจาํ แนกโกฏฐาส) ? 49 ตอบ เยเกจิ นามา ธมมฺ า, สพเฺ พ เต นามมูเลน เอกมูลมูลกาติ ? ธรรมเหลาใดเหลาหนึง่ ท่เี ปน นามมีอย,ู ธรรมเหลานน้ั ทงั้ หมดมมี ูลท่เี รียกวา เปน มูลอันเดยี วกันกับนามมูลใชไ หม ? วิสชั นา อเหตกุ ํ นามํ นามมูเลน น เอกมูลมลู ก,ํ สเหตกุ ํ นามํ นามมเู ลน เอกมลู มลู กํ. นามธรรมท่เี ปน อเหตุกะ ไมม มี ลู ท่เี รียกวา เปนมูลอนั เดียวกันกับนามมูล นามธรรมทเ่ี ปนสเหตกุ ะ มมี ลู ทีเ่ รยี กวา เปนมูลอันเดียวกนั กบั นามมลู แสดงองคธ รรมในอนโุ ลมปุจฉา เยเกจิ นามา ธมมฺ า เปน สันนฏิ ฐานบท สพเฺ พ เต นามมเู ลน เอกมูลมลู กา เปนสงั สยบท องคธรรมของสันนิฏฐานบท ไดแ ก อเหตกุ จิต ๑๘ อัญญสมานเจตสิก ๑๒ (เวนฉันทะ) โมหเจตสิกที่ใน โมหมูลจิต ๒ นพิ พาน และ สเหตุกจติ ๗๑ เจตสิก ๕๒ (เวน โมหเจตสทิ ใ่ี นโมหมลู จติ ๒) องคธรรมของสังสยบท ไดแ ก สเหตกุ จิต ๗๑ เจตสกิ ๕๒ (เวนโมหเจตสกิ ทีใ่ นโมหมูลจิต ๒) เทานน้ั ปฏ.ิ ป.ุ เยส.วจาิร.ุ ๑ป๗นท.่ี...ป..ญ....ป..ส.ญ.ัน..-.ส....ป..ก...ํ.., และ ส.๗๑+๕๒(ส-โพมเฺ-พ>๒)เตธมสมฺ .๗า๑+นส๕าัง๒มา(-ตโมิ ?->๒) เอกมูลยมกะ มูลยมกะ (มลู กนัย)*** นามมลู กา (มมี ลู ทีเ่ ปน นาม/มีนามมูล) 45, 48, 52, 54, 57 เปนนาม (มลู มลู กนยั ) นามมลู มูลกา (มมี ลู ทีเ่ ปน นามมลู ) (มลู นัย) *** นามมเู ลน เอกมลู า (มมี ูลเปน อันเดยี วกนั กบั นามมลู ) 43, 44, 53 (มูลมลู นยั ) *** นามมเู ลน เอกมูลมลู า (มมี ูลท่ีเรียกวาเปนมลู อันเดียวกนั กบั นามมลู ) 45 (มูลกนัย) นามมเู ลน เอกมูลกา (มมี ลู เปนอันเดียวกันกับนามมลู ) 46 (มูลมลู กนยั )*** นามมเู ลน เอกมูลมลู กา (มมี ลู ทเี่ รียกวา เปนมลู อนั เดยี วกันกบั นามมูล) 46 หรอื วา ธรรมเหลา ใด ....... มีอยู, ธรรมเหลา นน้ั ทงั้ หมด เปน นาม ใชไ หม ? สนั =ส.จริ ุ.๑๗ ท.่ี .ปญ ปญ-ส.ปกํ. และ ส.๗๑+๕๒(โม->๒) อธ.สัน>สัง มีทั้งอธ.บทเดียว/๒บท สนั = ส.๗๑+๕๒(โม->๒) บทเดียวแสดงกอน ๒บททหี ลงั ส.จิรุ.๑๗ ท.่ี .ปญ ปญ -ส.ปกํ. ปรปิ ณุ ณปญหา / สรปู ทสั สนวิสัชนา, ตรง ว.ิ นามสมฏุ านํ รปู นามมลู กํ น นาม,ํ นามํ นามมูลกเฺ จว นามจฺ . 45, 48, 52, 54, 57 นามมูลมูลกํ นามมูลมลู กฺเจว นามสมฏุ ฐานํ รูป นามมเู ลน เอกมูลํ น นาม,ํ นามํ นามมเู ลน เอกมลู เฺ จว นามจฺ . ส.จิ.ร.ุ ๑๗ ท่ี...ปญ, เอกมลู กํ ส.๗๑+๕๒ เอกมูลกฺเจว ปญ -ส.ป.กํ. เอกมูลมูลํ (-โม->๒) เอกมลู มูลฺเจว เอกมูลมูลกํ เอกมลู มูลกเฺ จว 46 รปู ซงึ่ มนี ามเปนสมฏุ ฐาน ....... แตไ มใ ชเ ปน นาม, นามธรรม ......กใ็ ช เปน ามกใ็ ช ๕. จงวสิ ัชนาพรอ มคาํ แปลและแสดงองคธ รรมในคาํ ปจุ ฉาดงั ตอ ไปน้ี (ไมต อ งจาํ แนกโกฏฐาส) ? 54 ดาวนโ หลดขอมูลจากขอ ความเพ่ิมเติมท่ี youtube หรือท่ี Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มูลยมก ปณ ณตั วิ าระในขนั ธยมกะ (วนั แรก) 30 ๕. จงวสิ ชั นาในปุจฉาดงั ตอ ไปน้ี เปน บาลี ไทย และแสดงองคธรรม (ไมต อ งจาํ แนกโกฏฐาส) ? 63 ๕. จงวสิ ัชนาพรอ มคําแปลและแสดงองคธ รรมของปรุ มิ โกฏฐาสและปจ ฉิมโกฏฐาสในคาํ ถามตอ ไปนี้ (ไมตอ งจําแนกโกฏฐาส) ? 48, 52 ก. เย วา ปน นามมลู กา, สพเฺ พ เต ธมมฺ า นามาติ ? 48, 52, 54, 62, 63 ตอบ ก. วสิ ชั นา นามสมฏุ านํ รปู นามมลู กํ น นาม,ํ นามํ นามมลู กเฺ จว นามจฺ . รปู ซง่ึ มนี ามเปนสมุฏฐาน มีนามมลู แตไ มใ ชเปนนาม, นามธรรมมนี ามมลู กใ็ ช เปน นามกใ็ ช. (54) แสดงองคธ รรมใน ปฏิโลมปุจฉา เย วา ปน นามมลู กา เปนสันนฏิ ฐานบท สพเฺ พ เต ธมมฺ า นามา เปน สังสยบท (54, 57) องคธ รรมของสันนฏิ ฐานบท / [(48, 52) แสดงองคธ รรมของปรุ มิ โกฏฐาส] ไดแ ก สเหตุกจติ ตชรปู ๑๗ ทีเ่ กิดข้นึ เฉพาะแตใ นปญจโวการภูมิ ปญจโวการสเหตุกปฏิสนธิ กมั มชรปู และ สเหตุกจติ ๗๑ เจตสกิ ๕๒ (เวน โมหเจตสกิ ทใ่ี นโมหมูลจติ ๒) (54, 57, 62) องคธรรมของสังสยบท / (48, 52) แสดงองคธ รรมของปจ ฉิมโกฏฐาส ไดแ ก สเหตกุ จิต ๗๑ เจตสกิ ๕๒ (เวนโมหเจตสิกที่ในโมหมลู จิต ๒) เทาน้ัน ๕. จงวสิ ัชนาพรอ มคําแปลและแสดงองคธ รรมในคําปจุ ฉาดงั ตอ ไปนี้ (ไมต องจาํ แนกโกฏฐาส) ? 57(5ข), 61 ข. เย วา ปน นามมลู มลู กา, สพเฺ พ เต ธมมฺ า นามาติ ? 57, 61, 63 ตอบ ข. วิสัชนา นามสมุฏ านํ รูป นามมลู มูลกํ น นาม,ํ นามํ นามมลู มูลกเฺ จว นามจฺ . รปู ซ่งึ มีนามเปนสมุฏฐาน มีมลู ท่ีเปนนามมลู แตไ มใชเปน นาม, นามธรรมมมี ูลที่เปน นามมูลก็ใช เปนนามก็ใช. แสดงองคธ รรมใน ปฏโิ ลมปุจฉา เย วา ปน นามมลู มลู กา เปนสนั นิฏฐานบท สพเฺ พ เต ธมฺมา นามา เปนสงั สยบท องคธรรมของสันนิฏฐานบท ไดแก // องคธรรมของสงั สยบท ไดแ ก ...... ๔. จงแปลและแสดงองคธ รรมในคาํ วิสชั นาดงั ตอ ไปนี้ ? 46 ข. นามสมฏุ านํ รูป นามมลู มลู กํ น นาม,ํ นามํ นามมลู มลู กเฺ จว นามฺจ ? 46 ตอบ ข. รปู ซงึ่ มนี ามเปนสมุฏฐานมีมลู ท่ีเปนนามมลู แตไ มใชเปน นาม, นามธรรมมมี ูลท่เี ปนนามมลู ก็ใช เปนนามก็ใช องคธรรมของปรุ มิ โกฏฐาส ไดแ ก สเหตุกจิตตชรูป ๑๗ ทเี่ กิดขนึ้ เฉพาะแตใ นปญจโวการภมู ิ ปญจโวการสเหตกุ ปฏิสนธกิ ัมมชรปู องคธ รรมของปจฉิมโกฏฐาส ไดแก สเหตกุ จติ ๗๑ เจตสิก ๕๒ (เวน โมหเจตสิกที่ในโมหมลู จิต ๒) ๔. จงแปลและแสดงองคธ รรมในคาํ บาลตี อ ไปนี้ ? 43, 44, 53 ๑๙ มี.ค. ๖๓ ค. นามสมฏุ านํ รปู นามมูเลน เอกมลู ํ น นามํ ? 43(4ค/ค) , 44(4ค/ค), 47(4ค/ค), 53(5ค/ง) ตอบ ค. รูปซึ่งมีนามเปน สมฏุ ฐาน มีมลู เปน อันเดยี วกนั กับนามมลู แตไ มใชเปนนาม องคธ รรมไดแ ก สเหตกุ จิตตชรูป ๑๗ ท่ีเกดิ ขึน้ เฉพาะแตใ นปญจโวการภมู ิ ปญ จโวการสเหตกุ ปฏสิ นธิกมั มชรปู ดาวนโหลดขอมูลจากขอ ความเพิ่มเติมท่ี youtube หรอื ที่ Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว)
มลู ยมก ปณ ณตั วิ าระในขันธยมกะ (วนั แรก) 31 ๔. จงแปลคาํ วสิ ชั นาดงั ตอ ไปน้ี เปน ภาษาไทยมาใหถ กู ตอ ง ? 45 ข. นามสมฏุ านํ รปู นามมูเลน เอกมลู มูลํ น นาม,ํ นามํ นามมูเลน เอกมลู มลู เฺ จว นามฺจ ? 45(4ข/ค) ตอบ ข. รูปซง่ึ มนี ามเปนสมุฏฐาน มีมลู ที่เรียกวาเปนมูลอันเดยี วกันกับนามมูล แตไมใ ชเปนนาม นามธรรม มมี ลู ท่ีเรียกวา เปน มูลอันเดยี วกนั กับนามมลู ก็ใช เปนามก็ใช มลู วาระ : นามบท + มูลนยั / มลู มูลนยั / มูลกนัย / มูลมูลกนัย + อญั ญมญั ญมลู ยมกะ อนุ.ปส.ุ.๗๑เย+๔เ๖ก(จ-9ิส).นั.ส....จ...ิร..ุ.๑...๗....ท..-่ี.ป...ญ . , ปธญมมฺ-สา.,ปกํ.สพเฺ พ(-เโตม-.>..๒...)........ส..งั.............. ต(?ิ-โม->๒) (มลู นัย) นามมเู ลน เอกมลู า (มมี ูลเปน อันเดียวกัน/กบั นามมลู ) นามมเู ลน อฺ มฺ มลู า (ช่ือวาเปนมูลซ่ึงกนั และกนั /กบั นามมลู ) 46, 48, 52, 54, 56 (มูลมลู นัย) นามมเู ลน เอกมลู มูลา (มมี ลู ทเ่ี รยี กวา เปนมลู อันเดยี วกนั /กบั นามมูล) นามมเู ลน อฺ มฺ มลู มูลา (ช่ือวา เปน มลู ท่เี รยี กวา เปนมลู ซงึ่ กนั และกัน/กบั นามมูล) (มลู กนยั ) นามมเู ลน เอกมลู กา (มมี ลู เปนอันเดียวกนั /กับนามมูล) นามมเู ลน อฺ มฺ มลู กา (มมี ูลซงึ่ กนั และกัน/กับนามมลู ) (มูลมูลกนัย) นามมเู ลน เอกมูลมูลกา (มมี ลู ทเ่ี รยี กวาเปน มลู อนั เดยี วกนั /กบั นามมลู ) 44, 49, 50, 51 *** นามมเู ลน อฺมฺ มลู มลู กา (มมี ูลทเี่ รียกวาเปนมลู ซง่ึ กนั และกัน/กับนามมูล) ธรรมเหลา ใดเหลาหนงึ่ .......... มีอย,ู ธรรมเหลา นน้ั ทง้ั หมด .......... ใชไ หม ? ส.๗๑+๕๒, ส.จริ .ุ ๑๗ ท่ี-ปญ, ปญ -ส.ป.กํ. อธ.สัน>สัง มีทงั้ อธ. ๒บท/บทเดยี ว (-โม-๒) ปรุ มิ โกฏฐาส (=๒บท)/ปจฉิมโกฏฐาส ส.๗๑+๔๖(-๙) ส.จริ ุ.๑๗ ท่ี-ปญ ปญ -ส.ปก.ํ ปรปิ ณุ ณปญหา/สรูปทสั สนวิสัชนา ออม ว.ิ มลู านิ ยานิ เอกโต อปุ ปฺ ชชฺ นตฺ ิ นามมลู านิ เอกมลู านิ เจว อฺมฺมูลานิ จ, (-โม->๒) เอกมลู มลู านิ อฺมฺ มลู มูลานิ เอกมลู กานิ อฺมฺ มูลกานิ เอกมูลมลู กานิ อฺมฺมลู มลู กานิ อวเสสา นามมลู สหชาตา ธมมฺ า นามมเู ลน เอกมูลา น จ อฺมฺ มลู า. 48, 52 ส.๗๑+๔๖(-9), เอกมลู มูลา อฺมฺมูลมูลา. ส.จิ.ร.ุ ๑๗ ที่...ปญ , เอกมูลกา อฺมฺ มลู กา. ปญ-ส.ป.กํ. เอกมูลมลู กา อฺมฺมลู มูลกา. นามมลู เหลา ใดเกดิ ขน้ึ คราวเดยี วกัน นามมูลเหลานัน้ .............กนั ก็ใช ..........ซง่ึ กนั และกัน ก็ใช, ธรรมทเี่ กดิ พรอ มกนั กบั นามมลู ทีเ่ หลอื นอกนนั้ .........นามมลู แตไม/ ไมใช๓ ............ซ่ึงกนั และกนั . ๕. เยเกจิ นามมเู ลน เอกมลู า ธมมฺ า, สพเฺ พ เต นามมเู ลน อฺ มฺ มลู าต.ิ ? ขอถามในภาษาบาลที ย่ี กมาน้ี ดังน้ี ? 58 ก. แปลเปน ภาษาไทยวาอยา งไร ข. องคธ รรมของสนั นิฏฐานบทไดแกอ ะไร ? ค. สว นสงั สยบทนน้ั จะแสดงวา องคธ รรมของสงั สยบทไดแ ก องคธ รรมหมวดหลงั เทา นั้น ซงึ่ เปน ไปใน ทาํ นองเดยี วกนั กบั ทแี่ สดงไวใ นปวตั ติวาระของขนั ธยมกนน้ั ไดห รอื ไมเพราะเหตใุ ด? ตอบ ก. ภาษาบาลที ย่ี กมาน้แี ปลวา ธรรมเหลาใดเหลา หน่ึงมีมลู เปน อนั เดียวกนั กบั นามมูล มอี ยู ธรรมเหลา นั้นทง้ั หมดช่ือวาเปนมูลซงึ่ กนั และกันกับนามมูลใชไ หม ? ข. องคธรรมของสันนิฏฐานบท ไดแ ก สเหตุกจติ ๗๑ เจตสกิ ๔๖ (เวน นามมลู ๙) สเหตุก จติ ตชรปู ๑๗ ทีเ่ กดิ ขึ้นเฉพาะแตในปญ จโวการภูมิ ปญจโวการสเหตุกปฏิสนธกิ มั มชรูป และนามมูล ๙ ดาวนโหลดขอมูลจากขอ ความเพิ่มเติมที่ youtube หรอื ท่ี Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มูลยมก ปณ ณตั วิ าระในขันธยมกะ (วันแรก) 32 (เวน โมหเจตสิกทีใ่ นโมหมูลจติ ๒) ค. จะแสดงวา องคธรรมของสังสยบท ไดแก องคธรรมหมวดหลังเทานั้น เชนนี้ไมไ ด เพราะคําถาม บทนเี้ ปน ปริปุณณปญ หา คาํ วสิ ัชนาของคาํ ถามนีเ้ ปนสรปู ทัสสนวสิ ัชนาทีม่ ีวิภังคโ ดยออมและองคธรรม หมวดหลงั ไมใ ชน ามมลู ๙ (ตามทแ่ี สดงวา องคธรรมของสังสยบทไดแ กองคธรรมหมวดหลงั เทาน้นั ) องค ธรรมหมวดหลังทถ่ี ูกตองกเ็ ปน องคธรรมของสงั สยบทไมไ ดโดยประการท้งั ปวง เพราะวา องคธ รรมหมวด หลงั เปนองคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบทไดบทเดียวเทานน้ั ดงั นน้ั การแสดงวา องคธรรมของสังสยบทไดแก องคธ รรมหมวดหลังเทานั้น จงึ ไมถ ูกตอง แตถาเปน ปรปิ ุณณปญ หา สรปู ทสั สนวสิ ชั นาทม่ี ีวภิ ังคโดยตรง แลว การแสดงวา องคธ รรมของสงั สยบทไดแก องคธรรมหมวดหลงั เทา นัน้ ยอมถกู ตอ งอยา งแนนอน เมอ่ื เปน เชน นี้ในขอ ค. น้ี องคธ รรมท่ีถกู ตอ งไดแ กอะไร กต็ องตอบวาองคธรรมของสงั สยบทไดแ ก องค ธรรมหมวดแรก คอื นามมูล ๙ (เวน โมหเจตสกิ ท่ีในโมหมูลจติ ๒) เทานั้น หรอื ตอบตามท่อี าจารย พระสัทธมั มโชติกะ ธัมมาจริยะแสดงไวในมลู ยมกกไ็ ดเ ชนเดยี วกนั ๕. จงวสิ ชั นาในปุจฉาดงั ตอ ไปน้ี เปน บาลไี ทย และแสดงองคธ รรม (ไมต องจําแนกโกฏฐาส) ? 63 ๕. จงวสิ ชั นาพรอ มคําแปล และแสดงองคธ รรมของปรุ มิ โกฏฐาสและปจ ฉมิ โกฏฐาส ในคําถามตอไปน้ี (ไมตอ งจาํ แนกโกฏฐาส) ? ข. เย เกจิ นามมูเลน เอกมลู า ธมมฺ า, สพฺเพ เต นามมเู ลน อฺ มฺ มูลาติ ? 48, 52, 63 ตอบ ข. วสิ ชั นา มลู านิ ยานิ เอกโต อปุ ฺปชชฺ นฺติ นามมลู านิ เอกมลู านิ เจว อฺ มฺ มูลานิ จ, อวเสสา นามมูลสหชาตา ธมฺมา นามมูเลน เอกมูลา น จ อฺ มฺ มูลา. นามมลู เหลา ใดเกิดข้นึ คราวเดยี วกัน นามมูลเหลานนั้ มมี ลู เปนอันเดยี วกนั ก็ใช ชอื่ วา เปนมูลซงึ่ กันและกันกใ็ ช, ธรรมทีเ่ กิดพรอมกันกับนามมลู ทีเ่ หลือนอกนน้ั มมี ลู เปนอันเดียวกันกับนามมูล แตไมชือ่ วา มมี ลู ซ่ึงกันและกนั . องคธรรมของปุริมโกฏฐาส ไดแ ก นามมูล ๙ (เวน โมหเจตสิก ทใี่ นโมหมูลจติ ๒) องคธ รรมของปจ ฉิมโกฏฐาส ไดแ ก สเหตุกจิต ๗๑ เจตสิก ๔๖ (เวน นามมลู ๙) สเหตุกจิตตชรูป ๑๗ ที่ เกดิ ขึ้นเฉพาะแตในปญจโวการภมู ิ ปญ จโวการสเหตุกปฏสิ นธิกมั มชรูป ๕. จงแปล วสิ ชั นาบาลไี ทย แสดงองคธ รรมและการจาํ แนกโกฏฐาสในคาํ ปจุ ฉาตอไปนี้ พรอมท้ังแสดงวา อยใู น วาระ, บท, นยั , ยมกะใด ? 46 ๕. จงวสิ ชั นาพรอ มคาํ แปลและแสดงองคธ รรมในคําปจุ ฉาดงั ตอ ไปนี้ (ไมต อ งจาํ แนกโกฏฐาส ? 54 ๕. จงวสิ ชั นาในปจุ ฉา ดังตอ ไปน้ี เปน ภาษาบาลี ไทย แสดงองคธ รรม (ไมต อ งจาํ แนกโกฏฐาส) ? 56 ข. เย เกจิ นามมูเลน เอกมูลกา ธมมฺ า, สพเฺ พ เต นามมเู ลน อฺ มฺ มลู กาติ ? 46, 54 ตอบ (46) แปลอนโุ ลมปจุ ฉา ธรรมเหลา ใดเหลาหนง่ึ มีมลู เปนอันเดียวกันกบั นามมูลมีอย,ู ธรรมเหลานัน้ ทง้ั หมดมมี ูลซ่ึงกนั และกันกับนามมลู ใชไ หม? วิสัชนา มูลานิ ยานิ เอกโต อุปปฺ ชชฺ นฺติ นามมูลานิ เอกมลู กานิ เจว อฺ มฺ มลู กานิ จ, อวเสสา นามมลู สหชาตา ธมฺมา นามมูเลน เอกมูลกา น จ อฺ มฺ มลู กา. ดาวนโหลดขอมูลจากขอความเพิ่มเตมิ ที่ youtube หรือที่ Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มูลยมก ปณ ณัตวิ าระในขันธยมกะ (วันแรก) 33 นามมูลเหลา ใดเกดิ ขนึ้ คราวเดยี วกัน นามมลู เหลา นั้นมีมลู เปน อันเดียวกันก็ใช มมี ูลซึง่ กันและกันก็ใช, ธรรมที่เกดิ พรอมกันกับนามมูลท่ีเหลอื นอกนั้น มีมูลเปน อนั เดียวกันกับนามมูล แตไ มใ ชมีมลู ซง่ึ กนั และกนั . แสดงองคธรรมและการจําแนกโกฏฐาส ในอนโุ ลมปจุ ฉา เย เกจิ นามมูเลน เอกมูลกา ธมฺมา เปนสนั นิฏฐานบาท สพฺเพ เต นามมูเลน อฺ มฺ มูลกา เปนสังสยบท องคธรรมของสนั นิฏฐานบท ไดแ ก สเหตุกจิต ๗๑ เจตสิก ๔๖ (เวนนามมูล ๙) สเหตุกจิตตชรูป ๑๗ ที่ เกิดข้ึนเฉพาะแตในปญ จโวการภมู ิ ปญ จโวการสเหตุกปฏสิ นธิกมั มชรปู และ นามมลู ๙ (เวน โมหเจตสิก ท่ีในโมหมลู จติ ๒) องคธรรมของสังสยบท ไดแก นามมูล ๙ (เวน โมหเจตสกิ ทใ่ี นโมหมูลจิต ๒) เทา นน้ั (46) ฉะน้นั คําถามบทน้ีเปนปรปิ ุณณปญ หา ถามวาธรรมเหลา ใดเหลา หนึ่งมีมูลเปน อันเดยี วกนั กบั นาม มลู มีอย,ู ธรรมเหลา น้นั ทัง้ หมดมมี ลู ซ่งึ กนั และกนั กับนามมูลใชไ หม ? พระองคจ งึ ทรงแกดว ยการยกเอา นามมลู ๙ (เวนโมหเจตสกิ ที่ในโมหมูลจิต ๒) ซ่งึ เปน องคธรรมของสันนฏิ ฐานบทและสังสยบทไดท ัง้ สอง ขึน้ ไวใ นปุรมิ โกฏฐาส ไมมีการปฏเิ สธสังสยบท ดงั แสดงวา มูลานิ ยานิ เอกโต อุปปฺ ชชฺ นฺติ นามมลู านิ เอก มลู กานิ เจว อฺ มฺ มลู กานิ จ แลวทรงยกเอา สเหตุกจติ ๗๑ เจตสกิ ๔๖ (เวน นามมูล ๙) สเหตกุ จิตตชรปู ๑๗ ทเี่ กิดขน้ึ เฉพาะแตในปญจโวการภูมิ ปญจโวการสเหตุกปฏสิ นธกิ มั มชรปู ซ่ึงเปน องคธ รรม ของสันนฏิ ฐานบทไดบทเดียวขึ้นไวใ นปจ ฉิมโกฏฐาส มกี ารปฏเิ สธสังสยบท ดังแสดงวา อวเสสา นาม- มลู สหชาตา ธมมฺ า นามมูเลน เอกมลู กา น จ อฺ มฺ มลู กา คําวิสัชนาในอนโุ ลมปจุ ฉานี้ เปนสรูปทสั สนวิสัชนาทมี่ วี ภิ งั คโ ดยออ ม และคําปุจฉานี้อยใู น มลู วาระ นามบท มูลกนยั อัญญมัญญมูลยมกะ ๕. จงแปลและแสดงองคธ รรมในวภิ งั คบาลี ดงั ตอ ไปนี้ พรอ มทงั้ แสดงวา ธรรมเหลา นอี้ ยูในวาระ, บท, นยั , ยมกะ, ใด ? 45 มลู านิ ยานิ เอกโต อุปปฺ ชฺชนตฺ ิ นามมลู านิ เอกมลู กานิ เจว อฺ มฺ มลู กานิ จ, อวเสสา นามมลู สหชาตา ธมมฺ า นามมเู ลน เอกมลู มลู กา น จ อฺ มฺ มลู มลู กา. ตอบ นามมูลเหลาใดเกิดขึ้นคราวเดยี วกนั นามมลู เหลา น้นั มมี ลู เปนอนั เดียวกันกใ็ ช มมี ูลซึ่งกันและกนั ก็ใช องคธ รรมไดแ ก นามมูล ๙ (เวน โมหเจตสกิ ที่ในโมหมลู จติ ๒) ธรรมเหลาน้ีอยูในมูลวาระ นามบท มูลกนยั อัญญมัญญมูลยมกะ ธรรมที่เกดิ พรอมกนั กับนามมลู ที่เหลือนอกนัน้ มีมูลท่ีเรยี กวาเปน มลู อนั เดยี วกนั กับนามมูล แตไมม ีมลู ท่เี รียกวา เปน มูลซ่งึ กนั และกัน องคธรรมไดแ ก สเหตุกจติ ๗๑ เจตสกิ ๔๖ (เวน นามมลู ๙) สเหตกุ จติ ตชรูป ๑๗ ที่เกิดขึน้ เฉพาะแตในปญจโวการภูมิ ปญจโวการสเหตกุ ปฏสิ นธกิ ัมมชรูป ธรรมเหลานอี้ ยใู น มูลวาระ นามบท มูลมูลกนัย อัญญมัญญมูลยมกะ ๕. จงวสิ ัชนาและแสดงองคธ รรมในปจุ ฉาดงั ตอ ไปน้ี ? 49, 50 (ไมต องจาํ แนกโกฏฐาส) ? 49, 50, 51 ก. เยเกจิ นามมเู ลน เอกมลู มลู กา ธมมฺ า, สพเฺ พ เต นามมเู ลน อฺมฺ มูลมลู กาติ ดาวนโหลดขอ มูลจากขอความเพ่ิมเตมิ ที่ youtube หรอื ท่ี Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มูลยมก ปณ ณัตวิ าระในขันธยมกะ (วนั แรก) 34 ๕. ข. เย เกจิ นามมเู ลน เอกมลู มลู กา ธมมฺ า, สพเฺ พ เต นามมเู ลน อฺ มฺ มลู มลู กาติ ? จงแสดงองคธ รรม (ไมตอ งจาํ แนกโกฐาส) ? 44 ตอบ ก. วิสชั นา มลู านิ ยานิ เอกโต อปุ ฺปชชฺ นฺติ นามมลู านิ เอกมลู มลู กานิ เจว อฺ มฺ มลู มลู กานิ จ, อวเสสา นามมลู สหชาตา ธมฺมา นามมูเลน เอกมลู มลู กา น จ อฺ มฺ มลู มลู กา. นามมูลเหลาใดเกดิ ขึ้นคราวเดียวกัน นามมูลเหลานั้นมีมลู ทเ่ี รียกวาเปนมลู อันเดียวกันกใ็ ช มีมูลที่ เรยี กวาเปนมลู ซ่งึ กนั และกันก็ใช ธรรมทีเ่ กิดพรอ มกันกบั นามมลู ที่เหลือนอกนั้น มมี ูลท่ีเรียกวาเปนมลู อัน เดียวกันกับนามมลู แตไมมมี ูลทเ่ี รียกวา เปนมลู ซง่ึ กันและกัน แสดงองคธ รรมในอนโุ ลมปจุ ฉา ตอบ ข. (44) ในอนุโลมปจุ ฉา เยเกจิ นามมูเลน เอกมลู มลู กา ธมมฺ า เปนสนั นิฏฐานบท สพเฺ พ เต นามมเู ลน อฺ มฺ มลู มลู กา เปน สังสยบท องคธรรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแ ก สเหตกุ จิต ๗๑ เจตสกิ ๔๖ (เวนนามมูล ๙) สเหตกุ จติ ตชรูป ๑๗ ที่เกิดขนึ้ เฉพาะแตในปญ จโวการภมู ิ ปญ จโวการสเหตกุ ปฏสิ นธิกมั มชรปู และ นามมลู ๙ (เวน โมหเจตสกิ ท่ใี นโมหมลู จิต ๒) องคธ รรมของสงั สยบท ไดแ ก นามมลู ๙ (เวนโมหเจตสกิ ทใี่ นโมหมูลจติ ๒) เทา นน้ั สนั สงั ปฏ.ิ ป.ุ เย วา ปน ...................., สพเฺ พ เต ธมฺมา นามาติ ? นามมเู ลน อฺมฺมูลา (ชือ่ วาเปน มลู ซ่ึงกันและกันกับนามมลู ) เปน นาม นามมเู ลน อฺมฺมูลมลู า (ชื่อวาเปนมูลท่เี รียกวา เปนมลู ซึ่งกันและกันกบั นามมูล) นามมเู ลน อฺมฺมูลกา (มมี ูลซ่ึงกันและกนั กับนามมลู ) นามมเู ลน อฺมฺมูลมลู กา (มมี ูลทเี่ รยี กวาเปนมูลซ่ึงกนั และกันกับนามมลู ) 49, 51 หรือวา ธรรมเหลาใด .......... มีอย,ู ธรรมเหลา นน้ั ทงั้ หมด เปน นาม ใชไ หม (-โม-๒) เหมือนกัน (ปจ ฉาปญ หา ปฏิวจนวสิ ัชนา) / รบั รอง (-โม->๒) วิ. อามนฺตา ใช 49, 51 ๕. จงวสิ ชั นาและแสดงองคธ รรมในปจุ ฉาดงั ตอ ไปน้ี ? 49 (ไมต อ งจาํ แนกโกฏฐาส) ? 51 ข. เย วา ปน นามมูเลน อฺ มฺ มลู มลู กา, สพเฺ พ เต ธมมฺ า นามาติ ? 49, 51 ตอบ ข. วิสัชนา อามนตฺ า ใช แสดงองคธรรม [(49) และการจําแนกโกฏฐาส] ในปฏิโลมปุจฉา ในปฏิโลมปุจฉา เย วา ปน นามมเู ลน อฺ มฺ มลู มลู กา เปน สนั นฏิ ฐานบท สพเฺ พ เต ธมฺมา นามา เปน สังสยบท องคธรรมของสันนฏิ ฐานบท ไดแ ก นามมูล ๙ (เวน โมหเจตสกิ ท่ใี นโมหมูลจติ ๒) องคธรรมของสงั สยบท เหมอื นกัน (49) ฉะน้นั คําถามบทน้เี ปน ปจฉาปญ หา ถามวา หรอื วา ธรรมเหลาใดมมี ลู ท่เี รียกวาเปนมูลซึ่งกัน และกันกบั นามมลู มีอย,ู ธรรมเหลาน้นั ทง้ั หมดเปน นามใชไ หม ? พระองคจ งึ ทรงแกโดยปฏิวจนวิสชั นาวา อามนตฺ า ซ่ึงเปนคําวิสชั นารบั รององคธ รรมของสนั นิฏฐานบท เพราะวา นามมูล ๙ (เวนโมหเจตสกิ ท่ใี นโม หมูลจติ ๒) ซึ่งเปน องคธ รรมของสันนฏิ ฐานบทเหลานั้น ก็เปน นามดวย ดาวนโ หลดขอ มูลจากขอความเพ่ิมเติมท่ี youtube หรือท่ี Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มูลยมก ปณ ณตั ิวาระในขันธยมกะ (วันแรก) 35 (ขนั ธยมก) ขอ ๖ (บทนาํ ) ๖. ก. ในขนั ธยมกะมวี าระ (มหาวาระ) กี่อยา ง คอื อะไรบา ง ใหอ ธบิ ายความหมายของวาระนน้ั มาดว ย ? [P60-61] 47, 43, 50, 52, 54, 56, 57, 58, 60, 62 ตอบ ก. ในขนั ธยมกะ มี (มหา) วาระ ๓ อยาง คือ ๑. ปณณตั ตวิ าระ ๒. ปวัตติวาระ ๓. ปริญญาวาระ ๑.ปณณตั ติวาระ เปน วาระทพี่ ระพทุ ธองคทรงแสดงโดยการจาํ แนกชอื่ ของขนั ธ อายตนะ ธาตุ เปน ตน เปน วาระทีท่ รงแสดงเพอื่ จะใหรูถงึ ปรยิ ตั ิญาณ ๒. ปวัตตวิ าระ เปนวาระท่พี ระพุทธองคทรงแสดงถงึ ความเปนไปของขันธ อายตนะ ธาตุ เปนตน โดย ความเกดิ ดบั (อุปาทะ, นิโรธ) เปน วาระท่ที รงแสดงเพอื่ จะใหรถู ึงวิปสสนาญาณ ๓. ปรญิ ญาวาระ เปน วาระที่พระพุทธองคท รงแสดงถงึ การกําหนดรู ขนั ธ อายตนะ ธาตุ เปนตน โดย ปรญิ ญาสาม คือ ๑. ญาตปรญิ ญา ๒. ตีรณปรญิ ญา ๓. ปหานปรญิ ญา เปนวาระท่ี ทรงแสดงเพ่อื จะใหรถู งึ มคั คญาณ ๖. ข. ในปณ ณตั ตวิ าระนทิ เทส (หรอื นยวาระ) มวี าระกอ่ี ยา ง คอื อะไรบา ง ให( อธิบาย/แสดงพรอ ม)ความหมาย(ของวาระนน้ั มาดว ย) ? [P60-61] 47, 50, 52, 54, 55, 56, 57, 58, 60, 63 ตอบ ข. ปณณตั ตวิ าระนทิ เทส มีวาระ ๔ อยา ง คอื (๑. ปทโสธนวาระ ๒. ปทโสธนมลู จักกวาระ ๓. สทุ ธขนั ธวาระ ๔. สทุ ธขนั ธมูลจกั กวาระ อธบิ ายความหมายของวาระท้งั ๔ ดังน)้ี ๑. ปทโสธนวาระ เปนวาระทพ่ี ระพทุ ธองคทรงแสดงโดยการชําระบทแหงขนั ธ ๕ เปนตน ๒. ปทโสธนมลู จกั กวาระ เปน วาระทีพ่ ระพทุ ธองคท รงแสดงโดยการชาํ ระบทแหง ขนั ธ ๕ แลวหมุนไป โดยความเปนมูละ, มูลี ๓. สทุ ธขนั ธวาระ เปน วาระทพ่ี ระพทุ ธองคท รงแสดงแยกขันธ ๕ ออกเปน บทๆ แลวทรงแสดง โดยเฉพาะ ไมปะปนกับขันธอ น่ื ๔. สทุ ธขนั ธมลู จักกวาระ เปน วาระท่ีพระพุทธองคทรงแสดงแยกขันธ ๕ ออกเปน บทหนึ่งๆ ไว โดยเฉพาะๆ แลว กท็ รงยกเอาขนั ธอืน่ ๆ มาจําแนกหมนุ ไปโดยความเปนมูละ, มูลี ๖. ข. คาํ วา ญาตปรญิ ญา ตรี ณปรญิ ญา ปหานปรญิ ญา หมายความวา อยางไร ? [P62] 43, 55, 63(ก) ตอบ ข. ญาตปรญิ ญา การกําหนดรู ลกั ขณะ รส ปจจุปฏ ฐาน ปทัฏฐาน ของรปู นาม ขนั ธ ๕ เปนตน ความเปนจรงิ ตรี ณปรญิ ญา การกาํ หนดรู รปู นาม ขันธ ๕ เปน ตน โดยความเปน อนิจจะ ทกุ ขะ อนัตตะ ปหานปรญิ ญา การประหาณฉันทราคะ คือ ความพอใจในรูป นาม ขันธ ๕ เปน ตน โดยอรหัตตมคั คญาณ (ขนั ธยมกะ) ขอ ๖ (ปณ ณตั ติวาระ) สรปุ ปณณตั ตวิ าระ ปทโสธนวาระ อนโุ ลม (ชดุ ๑๗ น.๖๓-๗๓) ...... ท่อี อกสอบ ยมกะ ปจุ สนั นฏิ ฐาน, สงั สย ว.ิ อนุ-รูป/สัญ/สงั ปรุ มิ โกฏฐาส, ปจ ฉมิ โกฏฐาส (สรปุ . ว.ิ ..ตรง) ดาวนโ หลดขอมูลจากขอ ความเพ่ิมเตมิ ที่ youtube หรอื ที่ Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มลู ยมก ปณ ณัติวาระในขนั ธยมกะ (วันแรก) 36 ๑. รปู รปู , รปู กขฺ นโฺ ธติ? ป ปย รปู สาตรปู รปู นX รูปกขฺ นฺโธ, รูปกฺขนโฺ ธ รูปฺเจว รูปกฺขนฺโธ จ. ๒. เว เวทนา, เวทนากขฺ นโฺ ธต?ิ อามนฺตา = เวทนาเจตสิก ๓. สญั สฺา, สฺ ากขฺ นโฺ ธต?ิ ทิ ทฏิ ส ฺ า สฺ า นX สฺ ากฺขนฺโธ, สฺ ากฺขนโฺ ธ สฺ าเจว สฺ ากขฺ นฺโธ จ. ๔. สงั อนุ สงฺขารา, สงขฺ ารกขฺ นโฺ ธต?ิ สงฺสงฺขารกขฺ นธฺ ํ เปตวา อวเสสา สงขฺ ารา นX สงขารกขฺ นโฺ ธ, สงขฺ ารกขฺ นโฺ ธ สงขฺ าราเจว สงขฺ ารกขฺ นโฺ ธ จ. ๕. วิญ วิ ฺ าณํ, วิฺ าณกขฺ นโฺ ธต?ิ อามนตฺ า = จติ ๘๙ ๑. รปู รปู กขฺ นโฺ ธ, รปู นตฺ ?ิ อามนตฺ า = รปู ขันธ คือ รปู ๒๘ ... / รูปขันธ คือ รูป ๒๘ ... (รปุ ปนลักขณะ) ๒. เว เวทนากขฺ นโฺ ธ, เวทนาต?ิ อามนฺตา = เวทนาเจตสิก ๓. สัญ ปฏิ สฺากขฺ นโฺ ธ, สฺ าต?ิ อามนตฺ า = สัญญาเจตสิก ทม่ี ีสญั ชานนลัก๘ณะ ๔. สงั สงฺขารกขฺ นโฺ ธ, สงขฺ าราติ? อามนตฺ า = เจตสิก ๕๐ ท่เี ปน สงั ขารขันธ ๕. วญิ วิ ฺ าณกขฺ นโฺ ธ, วิ ฺ าณนตฺ ?ิ อามนฺตา = จิต ๘๙ ปณ ณตั ิวาระ อนโุ ลมนยั ปฏิเสธสงั สยบทโดยใช “น” ปฏเิ สธ ๗. จงแสดงองคธ รรมในบาลดี งั ตอ ไปน้ี ? [P.77] 53 ก. น รปู ข. น เวทนา ค. น สฺ า ง. น สงขฺ ารา จ. น วิ ฺ าณํ ตอบ แสดงองคธรรมในบาลีดังนี้ ก. น รูป องคธรรมไดแก โลกุตตรจติ ๘ เจตสกิ ๓๖ นิพพาน บญั ญตั ิ ข. น เวทนา องคธ รรมไดแ ก จติ ๘๙ เจตสกิ ๕๑ (เวนเวทนาเจตสกิ ) รูป ๒๘ นพิ พาน บัญญัติ ค. น สฺ า องคธรรมไดแ ก จิต ๘๙ เจตสกิ ๕๐ (เวน ทฏิ ฐิเจตสิก และสัญญาเจตสกิ ) รปู ๒๘ นิพพาน บญั ญัติ ง. น สงขฺ ารา องคธรรมไดแ ก นิพพาน บัญญตั ิ จ. น วิ ฺ าณํ องคธรรมไดแก เจตสิก ๕๒ รูป ๒๘ นิพพาน บัญญตั ิ ๖. ก.จงวสิ ัชนาเปน บาลีและแปล พรอ มแสดงองคธ รรมในปจุ ฉาดงั ตอ ไปน้ี (ไมตอ งจาํ แนกโกฏฐาส) ? 43(7), 53 ๗. จงวสิ ชั นาในปจุ ฉาดงั ตอ ไปนี้ เปน บาลี แปลเปน ไทยพรอ มแสดงองคธ รรม (ไมต อ งจําแนกโกฏฐาส) ? 56 ๖. จงวสิ ัชนาพรอ มคําแปล แสดงองคธ รรมในปจุ ฉาดงั ตอ ไปน้ี (ไมต อ งจาํ แนกโกฏฐาส) ? 59, 63 ก. รปู , รปู กขฺ นโฺ ธติ ? [P.63-64] 43, 46(ก/ค), 50, 53(6ก), 56, 59, 60, 61, 63 ๖. จงวสิ ชั นาในคาํ ถามดงั ตอ ไปนี้ เปน บาลแี ละไทย (ไมต อ งแสดงองคธ รรมและการจาํ แนกโกฐาส) ? 44, 46 ก. ธรรมทช่ี อ่ื วา รปู , ชอื่ วา รปู ขนั ธใ ชไ หม ? [P.63-64] 44(6ก/ง), 46(3ก/ง) ตอบ ก. วสิ ัชนา ปยรปู สาตรูป รปู น รปู กฺขนฺโธ, รปู กขฺ นโฺ ธ รูปฺเจว รปู กขฺ นโฺ ธ จ. ปยรปู สาตรปู ช่ือวารูป แตไ มช ื่อวารปู ขนั ธ, รปู ขันธ ชอ่ื วา รูปก็ใช ช่อื วา รปู ขันธก ใ็ ช แสดงองคธรรม ในอนโุ ลมปจุ ฉา รูป เปน สันนฏิ ฐานบท // รปู กฺขนโฺ ธ เปน สงั สยบท องคธรรมของสันนิฏฐานบท ไดแ ก ปย รปู สาตรปู คอื โลกียจติ ๘๑ เจตสกิ ๕๒ รูป ๒๘ ที่รวมกนั อยู ซง่ึ เปนทนี่ า รกั นา ยินดีและเปน อารมณข องตณั หาได และ รปู ขันธ คอื รูป ๒๘ ท่ีอยโู ดยเฉพาะ ซ่งึ มลี กั ษณะเสอื่ มสิ้นแปรผันไป (รุปปนลกั ขณะ) องคธรรมของสงั สยบท ไดแก รปู ขันธ คอื รปู ๒๘ ทอ่ี ยูโ ดยเฉพาะ ซ่งึ มลี ักษณะเสอ่ื มส้ินแปรผันไป ดาวนโหลดขอมูลจากขอ ความเพ่ิมเตมิ ที่ youtube หรือท่ี Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มูลยมก ปณ ณัติวาระในขนั ธยมกะ (วันแรก) 37 (รปุ ปนลักขณะ) เทานัน้ หรอื อีกนัยหนง่ึ องคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแ ก ปยรปู สาตรปู คอื โลกยี จติ ๘๑ เจตสกิ ๕๒ ซง่ึ เปนทน่ี า รักนายนิ ดี และเปนอารมณข องตัณหาได และ รปู ขันธ คือ รปู ๒๘ ที่มลี กั ษณะ เส่ือมส้นิ แปรผนั ไป (รุปปนลักขณะ) องคธ รรมของสังสยบท ไดแก รปู ขนั ธ คือ รูป ๒๘ ทมี่ ลี กั ษณะเสอ่ื มสิน้ แปรผนั ไป (รปุ ปนลกั ขณะ) เทา น้นั ๖. จงวสิ ชั นา พรอ มคาํ แปล องคธ รรมในปจุ ฉา ดงั ตอ ไปนี้ ? น รปู (รปู ฺจ รปู กฺขนธฺ จฺ เปตวา อวเสสา) (ไมต อ งจาํ แนกโกฏฐาส) ? 46 โลกตุ . ๘+ ๓๖ นิพ. บญั ญตั ิ ข. รปู กขฺ นโฺ ธ, รปู นตฺ ิ ? [P.63-64] 46(ข/ค) (ปยรูป สาตรปู ) ตอบ ข. วสิ ัชนา อามนฺตา ใช ปยรปู สาตรปู คอื โลกยี จิต๘๑+๕๒ น รปู ๒๘ ท่ีรวมกนั อยูซง่ึ เปนทนี่ า รกั รปู ก-ฺ แสดงองคธ รรมในปฏิโลมปุจฉา นา ยนิ ดแี ละเปนอารมณข องตณั หา ขนฺโธ และ ๒๘ ทอี่ ยโู ดยเฉพาะ.. รปู ปยรูป สาตรปู คอื โลกยี จติ ๘๑+๕๒ รปู กขฺ นฺโธ เปน สนั นฏิ ฐานบท ซง่ึ เปน ทน่ี ารกั นา ยนิ ดแี ละเปน รูป เปน สังสยบท อารมณข องตณั หาได และ องคธ รรมของสนั นิฏฐานบท ไดแก รปู ขนั ธ คือ รูป ๒๘ ทอ่ี ยู รปู ขนั ธ คอื รปู ๒๘ (ทอ่ี ยโู ดยเฉพาะ รปู ก-ฺ โดยเฉพาะ ซึง่ มลี กั ษณะเสอ่ื มส้ิน ซงึ่ /ท)่ี +มีลกั ษณะเสอ่ื มสนิ้ แปรผนั ไป ขนโฺ ธ แปรผันไป (รปุ ปนลักขณะ) (รปุ ปนลกั ขณะ) (รปู กขฺ นโธ) หรอื อีกนยั หน่งึ รปู ขันธ คือ รปู ๒๘ ที่มีลกั ษณะเสอ่ื มส้นิ แปรผนั ไป (รปุ ปนลกั ขณะ) องคธรรมของสงั สยบท เหมือนกนั ๗. จงวสิ ัชนาเปน บาลี และแปล พรอ มแสดงองคธ รรมในปจุ ฉาดงั ตอ ไปน้ี (ไมตอ งจาํ แนกโกฏฐาส) เวทนา, เวทนากขฺ นโฺ ธติ ? [P.69] 43 ๖. จงวสิ ัชนาในคาํ ถามดงั ตอ ไปนี้ เปน บาลี และ ไทย พรอ มแสดงองคธ รรมมาดู ? 48 ค. ธรรมทชี่ อื่ วา เวทนา ชอ่ื วา เวทนาขนั ธใ ชไ หม ? [P69] 48(ค/ค) ตอบ (ค.) วิสัชนา = อามนตฺ า ใช เวทนา = เวทนากขฺ นโฺ ธ = เวทนาเจตสิก ในอนโุ ลมปุจฉา องคธรรมของสนั นิฏฐานบท ไดแก เวทนาเจตสกิ // องคธ รรมของสงั สยบท เหมือนกัน ๗. จงวสิ ชั นาในปจุ ฉาดงั ตอ ไปน้ี เปน บาลี แปลเปน ไทยพรอ มแสดงองคธ รรม (ไมต อ งจาํ แนกโกฏฐาส) ? 54 ๗. จงวสิ ัชนาพรอ มคําแปลในคาํ ถามดงั ตอไปน้ี และแสดงองคธ รรม (ไมต อ งจาํ แนกโกฏฐาส) ? 59 ก. สฺ า, สฺ ากขฺ นโฺ ธติ ? [P.70] 52, 54, 59 (ไมต อ งจําแนกโกฏฐาส) ? 49 ๖. ข. จงวสิ ชั นาบาลไี ทย และแสดงองคธ รรมในปจุ ฉาดงั ตอไปน้ี (ไมต อ งจาํ แนกโกฏฐาส) สฺ า, สฺ ากขนโฺ ธติ ? [P.70] 62 ๗. จงวสิ ัชนาในคาํ ถามดงั ตอ ไปน้ี เปน บาลแี ละไทย (ไมต องแสดงองคธรรมและการจําแนกโกฏฐาส) ? 51 ก. ธรรมทชี่ อ่ื วา สญั ญา, ช่ือวา สญั ญาขนั ธ ใชไ หม ? [P70] 48(ก/ค), 51(ก/ง) ตอบ ก. วสิ ัชนา ทฏิ สฺ า สฺ า น สฺ ากขฺ นโฺ ธ, สฺ ากขฺ นโฺ ธ สฺ า เจว สฺ ากขฺ นโฺ ธ จ. ทฏิ ฐสิ ัญญา ช่อื วาสญั ญา แตไ มช ือ่ วา สัญญาขนั ธ, ดาวนโ หลดขอ มูลจากขอความเพิ่มเติมที่ youtube หรือที่ Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มูลยมก ปณ ณัติวาระในขันธยมกะ (วนั แรก) 38 สัญญาขันธ ช่อื วา สญั ญาก็ใช ชือ่ วา สญั ญาขันธก ใ็ ช. น จติ . ๘๙+ ๕๐ (-ทิ.&สัญ.) น แสดงองคธ รรมในอนโุ ลมปุจฉา สฺ า เปนสันนิฏฐานบท สฺา รปู ๒๘ และ นพิ . บัญญัติ สฺาก- สฺ ากขฺ นโฺ ธ เปน สังสยบท สญั ญาคือทฏิ ฐิ เจ.Xและ ขนโฺ ธ องคธรรมของสันนิฏฐานบท ไดแก สัญญา คือ ทิฏฐิเจตสกิ และ สฺ า สญั ญา เจ. ที่มีสัญชานน สฺ าก- สญั ญาเจตสิก ที่มีสัญชานนลักขณะ ลักขณะ ขนโฺ ธ องคธ รรมของสังสยบท ไดแก สญั ญาเจตสกิ ทีม่ สี ัญชานนลักขณะ เทา น้ัน ๗. จงวสิ ชั นาในคาํ ถามตอ ไปนี้เปน บาลแี ละไทยพรอ มทงั้ แสดงองคธ รรม (ไมตองจาํ แนกโกฏฐาส) ? 45 ๗. จงวสิ ชั นาในปจุ ฉา ดงั ตอ ไปน้ี เปน บาลี ไทย แสดงองคธ รรม (ไมต องจาํ แนกโกฏฐาส) ? 57 ก. สงขฺ ารา, สงขฺ ารกขฺ นโฺ ธติ. ? [P.71] 45 (ก/ง), 57 ๖. จงวสิ ัชนาในคาํ ถามดงั ตอ ไปน้ี เปน บาลี และ ไทย พรอมแสดงองคธ รรมมาดู ? ข. ธรรมทช่ี อ่ื วา สงั ขาร ชอื่ วา สงั ขารขนั ธใ ชไหม ? [P.71] 48(ข/ค) ตอบ ก. วสิ ชั นา สงขฺ ารกขฺ นธฺ ํ เปตวฺ า อวเสสา สงขฺ ารา น สงขฺ ารกขฺ นโฺ ธ, สงขฺ ารกขฺ นโฺ ธ สงขฺ ารา เจว สงขฺ ารกขฺ นโฺ ธ จ. ยกเวน สังขารขันธเสียแลว ธรรมท่ีเหลือนอกน้ัน ช่อื น สงขฺ ารา นิพพาน บัญญัติ น สงฺขา- จติ ๘๙ เว. สญั . รปู ๒๘และ รกขฺ นฺโธ วาสงั ขาร แตไ มช ่อื วา สงั ขารขนั ธ, สงฺขารา เจ. ๕๐ ทเี่ ปน สงั ขารขนั ธ สังขารขนั ธ ชอื่ วาสงั ขารก็ใช ชอ่ื วา สังขารขันธก ็ใช. สงขฺ ารกขฺ นโฺ ธ แสดงองคธ รรมในอนโุ ลมปุจฉา สงขฺ ารา เปนสนั นฏิ ฐานบท // สงขฺ ารกขฺ นโฺ ธ เปนสังสยบท องคธรรมของสันนฏิ ฐานบท ไดแก จติ ๘๙ เวทนาเจตสกิ สญั ญาเจตสกิ รูป ๒๘ และ เจตสกิ ๕๐ ทเ่ี ปนสังขารขันธ องคธ รรมของสังสยบท ไดแ ก เจตสิก ๕๐ ที่เปนสังขารขนั ธ เทา น้นั สรุป ปณ ณตั ตวิ าระ ปทโสธนวาระ ปจ จนกิ (ชุด ๑๘ น.๗๓-๗๗) ...... ท่อี อกสอบ ยมกะ ปจุ สนั นฏิ ฐาน, สงั สย ว.ิ ปฏ-ิ รปู /สญั /สัง ปรุ มิ โกฏฐาส, ปจ ฉมิ โกฏฐาส (สรปุ . ว.ิ ..ตรง) ๑. รูป น รปู , น รปู กฺขนโฺ ธติ ? อามนฺตา = โลกตุ ๘+๓๖ นิพพาน บญั ญตั ิ ๒. เว น เวทนา, น เวทนากขฺ นโฺ ธติ ? อามนตฺ า = จิต ๘๙+๕๑ (-เว) รูป ๒๘ นิพพาน บญั ญัติ ๓. สญั อนุ น สฺ า, น สฺ ากขฺ นโฺ ธติ ? อามนฺตา = จิต ๘๙+๕๐ (-ทิ สญั ) รปู ๒๘ บัญญตั ิ ๔. สัง น สงฺขารา, น สงฺขารกขฺ นโฺ ธติ ? อามนตฺ า = นิพพาน บัญญตั ิ ๕. วญิ น วิ ฺ าณ,ํ น วิ ฺ าณกขฺ นโฺ ธติ ? อามนตฺ า = เจ ๕๒ รูป ๒๘ นิพพาน บญั ญัติ ๑. รูป น รปู กฺขนโฺ ธ, น รปู นตฺ ิ ? ป ปย รปู สาตรปู น รปู กฺขนโฺ ธ Xรูป, รปู ฺจ รปู กฺขนธฺ จฺ เปตวฺ า อวเสสา น เจว รูป น จ รปู กฺขนโฺ ธ. (๘๑+๕๒ ๒๘/๘๑+๕๒ ๘+๓๖ นิพ) ๒. เว น เวทนากฺขนโฺ ธ, น เวทนาติ ? ๓. สัญ ปฏิ น สฺ ากขฺ นโฺ ธ, น สฺ าติ ? อามนตฺ า = จิต ๘๙+๕๑ (-เว) รปู ๒๘ นพิ พาน บัญญัติ ทิ ทฏิ สฺา น สฺ ากฺขนฺโธ Xสฺ า, สฺ จฺ สฺ ากฺขนธฺ จฺ ทิ ๘๙+๕๐(-ท-ิ สญั ) ๒๘ นพิ บญั ) เปตวฺ า อวเสสา น เจว สฺ า น จ สฺ ากขฺ นโฺ ธ. ๔. สงั น สงขฺ ารกขฺ นโฺ ธ, น สงขฺ าราติ ? สงฺ สงขฺ ารกฺขนธฺ ํ เปตวา อวเสสา น สงขารกขฺ นฺโธ Xสงขฺ ารา, สงขฺ าเร จ (๘๙ เว สญั ๒๘ นพิ บัญ) สงขฺ ารกฺขนฺธจฺ เปตฺวา อวเสสา น เจว สงขฺ ารา น จ สงฺขารกขฺ นโฺ ธ. ๕. วิญ น วิ ฺ าณกขฺ นโฺ ธ, น วิ ฺ าณนตฺ ิ ? อามนฺตา = เจ ๕๒ รปู ๒๘ นิพพาน บัญญัติ ดาวนโหลดขอ มูลจากขอความเพ่ิมเตมิ ท่ี youtube หรือที่ Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มูลยมก ปณ ณตั วิ าระในขันธยมกะ (วนั แรก) 39 ปณณัตวิ าระ ปจ จนิกนยั ปฏิเสธสงั สยบทโดยยกเอา “น” ออก ๖. จงแสดงองคธ รรมในขอปจุ ฉาดงั ตอไปนี้ (ไมตอ งจาํ แนกโกฏฐาส) ? 45, 49, 51 ก. น รปู , น รปู กฺขนโฺ ธติ ? [P.73] 45(ก/ง), 49(ก/ง), 51(ก/ง) น รปู โลกตุ . ๘+ ๓๖ และ นพิ . บญั ญัติ ตอบ แสดงองคธ รรม ก. ในอนโุ ลมปจุ ฉา ปย รปู สาตรูป คอื โลกยี จติ ๘๑+๕๒ รปู ๒๘ ทร่ี วมกนั อยู ซงึ่ เปน ทน่ี ารกั น รปู เปนสันนฏิ ฐานบท // น รูปกฺขนโฺ ธ เปนสังสยบท นา ยนิ ดแี ละเปนอารมณข องตณั หา น และ ... ๒๘ ทอ่ี ยโู ดยเฉพาะ ซ่งึ มี.. รปู กฺ- องคธ รรมของสนั นิฏฐานบท ไดแ ก โลกุตตรจิต ๘ เจตสิก ๓๖ นิพพาน บัญญัติ รปู ปย รปู สาตรปู คอื โลกยี จติ ๘๑+๕๒ ขนโฺ ธ องคธ รรมของสงั สยบท เหมอื นกัน ซงึ่ เปน ทน่ี า รกั นายนิ ดแี ละเปน อารมณข องตณั หาได และ ๖. จงวสิ ัชนาในคาํ ถามดงั ตอ ไปน้ี เปน บาลแี ละไทย (ไมต อ งแสดง องคธรรมและการจาํ แนกโกฐาส) ? 44 รปู ขนั ธ คอื รปู ๒๘ (ทอี่ ยโู ดยเฉพาะ รปู ก-ฺ ง. ธรรมทไ่ี มช อ่ื วารปู ขนั ธ, ไมช อ่ื วารปู ใชไ หม ? [P.73] 44(6ง/ง) ซง่ึ /ท)่ี +มลี กั ษณะเสื่อมสิ้นแปรผนั ไป ขนโฺ ธ (รปุ ปนลกั ขณะ) ตอบ ง. ปย รูป สาตรปู น รูปกขฺ นโฺ ธ รปู , รูปจฺ รปู กฺขนธฺ จฺ เปตวฺ า อวเสสา น เจว รปู น จ รูปกขฺ นโฺ ธ. [P.73] ปยรปู สาตรปู ไมช ื่อวารูปขันธ แตช่อื วารูป, ยกเวน ปย รปู สาตรปู และรปู ขันธเ สยี แลว ธรรมท่ีเหลือนอกนนั้ ไมชอื่ วา รปู และ ไมช ่อื วา รูปขนั ธ ๖. จงวสิ ชั นาและแสดงองคธ รรม ในปจุ ฉาดงั ตอ ไปนี้ ? 49 ๖. จงวสิ ชั นา พรอ มคาํ แปล องคธ รรมในปจุ ฉา ดงั ตอ ไปนี้ ? (ไมตอ งจําแนกโกฏฐาส) ? 46 ๗. จงวสิ ัชนาบาลี ไทย และแสดงองคธ รรมในปุจฉาดงั ตอ ไปนี้ ? 52 ข. น สฺ า, น สฺ ากขฺ นโฺ ธติ ? [P.74] 46(ก/ค), 52 (จําแนกโกฏฐาส) ? 49 ตอบ ข. วิสชั นา อามนตฺ า ใช น สฺ า จติ ๘๙+ ๕๐ (-ท.ิ &สญั .) น แสดงองคธรรม ในอนุโลมปจุ ฉา รูป ๒๘ และ นิพ. บญั ญัติ สฺ าก- น สฺ า เปน สันนฏิ ฐานบท สฺา สญั ญาคอื ทฏิ ฐิ เจ. และ ขนฺโธ สญั . เจ.ทม่ี สี ัญชานนลกั ขณะ สฺากขนโฺ ธ น สฺ ากขฺ นโฺ ธ เปนสงั สยบท องคธรรมของสันนฏิ ฐานบท ไดแก จิต ๘๙ เจตสกิ ๕๐ (เวนทฏิ ฐเิ จตสกิ และสญั ญาเจตสิก) องคธรรมของสังสยบท รูป ๒๘ นิพพาน บัญญตั ิ เหมอื นกนั ๖. จงแสดงองคธ รรมในขอปุจฉาดงั ตอไปน้ี (ไมต อ งจําแนกโกฏฐาส) ? 49(ข/ง), 51 (ข/ง) ข. น สฺ ากขฺ นโฺ ธ, น สฺ าติ ? [P.75] 49(ข/ง), 51 (ข/ง) ตอบ ข. ในปฏโิ ลมปจุ ฉา น สฺ ากขฺ นโฺ ธ เปนสนั นิฏฐานบท // น สฺ า เปนสงั สยบท องคธ รรมของสนั นิฏฐานบท ไดแก สญั ญา คอื ทฏิ ฐิเจตสกิ และ จิต ๘๙ เจตสกิ ๕๐ (เวน ทฏิ ฐเิ จตสกิ และสัญญาเจตสิก) รูป ๒๘ นพิ พาน บัญญัติ ดาวนโหลดขอมูลจากขอ ความเพ่ิมเติมที่ youtube หรอื ที่ Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มูลยมก ปณ ณตั วิ าระในขันธยมกะ (วนั แรก) 40 องคธ รรมของสังสยบท ไดแ ก จติ ๘๙ เจตสกิ ๕๐ (เวนทฏิ ฐิเจตสกิ และสญั ญาเจตสิก) รปู ๒๘ นิพพาน บญั ญตั ิ เทานั้น ๗. จงวสิ ัชนาในคาํ ถามดงั ตอ ไปน้ี เปน บาลแี ละไทย (ไมต องแสดงองคธรรมและการจําแนกโกฏฐาส) ? 51 ง. ธรรมทไ่ี มช อ่ื วา สงั ขารขนั ธ, ไมช อ่ื วา สงั ขารใชไ หม ? [P.75] 48(ข/ค), 51(ง/ง) ตอบ ง. วสิ ัชนา สงขฺ ารกขฺ นฺธํ เปตวฺ า อวเสสา น สงฺขารกขฺ นโฺ ธ สงขฺ ารา, สงขฺ าเร จ สงขฺ ารกขฺ นธฺ จฺ เปตวฺ า อวเสสา น เจว สงขฺ ารา น จ สงฺขารกขฺ นโฺ ธ. (แปล =) ยกเวน สงั ขารขันธ เสียแลว ธรรมที่เหลอื นอกน้ันไมชอ่ื วาสงั ขารขันธแตช ื่อวาสังขาร, ยกเวน สงั ขารและสงั ขารขันธเ สียแลว ธรรมทเ่ี หลอื นอกนน้ั ไมชอื่ วาสงั ขาร และ ไมช อ่ื วา สงั ขารขนั ธ. ๗. จงแสดงองคธ รรมของบาลดี งั ตอ ไปน้ี ? 46 ก. น วิ ฺาณ,ํ น วิ ฺาณกขฺ นโฺ ธติ ? [P.76] 46(ก/ง) ตอบ แสดงองคธ รรม ก. องคธรรมของสันนฏิ ฐานบท ไดแก เจตสิก ๕๒ รูป ๒๘ นิพพาน บัญญตั ิ องคธรรมของสังสยบท เหมือนกนั สรุป ปณณตั ตวิ าระ สทุ ธขนั ธวาระ อนโุ ลม (ชดุ ๑๙ น.๙๕-๙๗) ...... ท่ีออกสอบ ยมกะ ปจุ สนั นฏิ ฐาน, สงั สย ว.ิ ปฏ.ิ ปรุ มิ โกฏฐาส, ปจ ฉมิ โกฏฐาส (สรปุ . ว.ิ ..ออม) ๑. รปู รปู , ขนโฺ ธติ ? อามนตฺ า => ปยรปู สาตรูป = ๘๑+๕๒, ๒๘.... รูปขันธ = ๒๘... (รปุ ปนลกฺขณ) ๒. เว เวทนา, ขนโฺ ธติ ? อามนตฺ า => เวทนาเจตสิก ๓. สญั อนุ สฺา, ขนโฺ ธติ ? อามนตฺ า => สัญญา = ทิฏฐ เิ จตสิก สญั ญาเจตสกิ ท่ีมสี ญั ชานนลักขณะ ๔. สงั สงขฺ ารา, ขนโฺ ธติ ? อามนตฺ า => ๘๙ เว สญั ๒๘ เจ.๕๐ ท่เี ปนสังขารขันธ (๘๙+๕๒, ๒๘) ๕. วญิ วิ ฺ าณ,ํ ขนโฺ ธติ ? อามนฺตา => จิต ๘๙ ๑. รปู ขนฺธา, รปู กขฺ นโฺ ธติ ? รปู รูปกขฺ นฺโธ ขนฺโธ เจว รปู กขฺ นโฺ ธ จ, อวเสสา ขนฺธา นX รูปกฺขนโฺ ธ. ๒. เว ขนฺธา, เวทนากขฺ นโฺ ธติ ? เว เวทนากขฺ นโฺ ธ ขนโฺ ธ เจว เวทนากขฺ นฺโธ จ, อวเสสา ขนธฺ า นX เวทนากฺขนฺโธ. ๓. สญั ปฏิ ขนฺธา, สฺ ากขฺ นโฺ ธติ ? สงฺ สฺ ากขฺ นโฺ ธ ขนฺโธ เจว สฺ ากฺขนโฺ ธ จ, อวเสสา ขนธฺ า นX สฺ ากฺขนโฺ ธ. ๔. สัง ขนฺธา, สงขฺ ารกขฺ นโฺ ธติ ? สฺ สงฺขารกขฺ นฺโธ ขนโฺ ธ เจว สงขฺ ารกฺขนโฺ ธ จ, อวเสสา ขนธฺ า นX สงขฺ ารกฺขนโฺ ธ. ๕. วญิ ขนฺธา, วิ ฺ าณกขฺ นโฺ ธติ ? วิ ฺ วิ ฺ าณกฺขนฺโธ ขนฺโธ เจว วิ ฺ ากขฺ นโฺ ธ จ, อวเสสา ขนธฺ า นX วิฺ ากฺขนโฺ ธ. ปณ ณัตวิ าระ อนุโลมนัย ปฏิเสธสงั สยบทโดยใช “น” ปฏเิ สธ ปฏโิ ลม อธ.สนั (ขนธฺ า) = ขนั ธ ๕ ทง้ั หมด, อธ.สงั = รปู -๒๘.../เว./สัญ./สงั ขารขนั ธ, จิต๘๙ ๗. จงวสิ ัชนาพรอ มคําแปล และแสดงองคธ รรม ในปจุ ฉา น รปู โลกตุ . ๘+ ๓๖ และ นิพ. บัญญัติ ดงั ตอ ไปนี้ (ไมต อ งจําแนกโกฏฐาส) ? 48 ปย รปู สาตรูป คอื โลกยี จติ ๘๑+๕๒ ๗. จงวสิ ัชนาในปจุ ฉาดงั ตอ ไปน้ี เปน บาลี แปลเปน ไทย พรอมแสดง รปู ๒๘ ทร่ี วมกนั อยู ซงึ่ เปน ทนี่ ารกั นา ยนิ ดแี ละเปน อารมณข องตณั หา น องคธ รรม ? (ไมต องจาํ แนกโกฏฐาส) ? 54 และ ... ๒๘ ทอ่ี ยโู ดยเฉพาะ ซง่ึ มี.. รปู กฺ- ขนฺโธ ข. รปู , ขนโฺ ธติ ? [P.95] 48(ก/ข), 54(ข/ข), 58(ก/ค) รปู ปย รปู สาตรูป คอื โลกยี จติ ๘๑+๕๒ ตอบ ข. วิสัชนา อามนฺตา ใช ซง่ึ เปน ทนี่ า รกั นา ยนิ ดแี ละเปน อารมณข องตณั หาได และ แสดงองคธรรมในอนุโลมปุจฉา รูป เปนสนั นิฏฐานบท // ขนโฺ ธ เปน สงั สยบท รปู ขนั ธ คอื รปู ๒๘ (ทอี่ ยโู ดยเฉพาะ รปู ก-ฺ ซ่ึง/ท)ี่ +มีลกั ษณะเสื่อมสิน้ แปรผนั ไป ขนโฺ ธ องคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแ ก ปยรปู สาตรูป คอื โลกีย (รปุ ปนลกั ขณะ) ดาวนโหลดขอมูลจากขอ ความเพิ่มเตมิ ที่ youtube หรอื ท่ี Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มลู ยมก ปณ ณัติวาระในขันธยมกะ (วันแรก) 41 จติ ๘๑ เจตสิก ๕๒ รปู ๒๘ ทีร่ วมกันอยู ซง่ึ เปน ท่ีนา รกั นายนิ ดี และเปน อารมณข องตณั หา, รปู ขนั ธ คอื รปู ๒๘ ท่อี ยูโดยเฉพาะ ซง่ึ มลี กั ษณะเสอ่ื มส้ินแปรผันไป (รปุ ปนลักขณะ) องคธรรมของสังสยบท เหมอื นกัน หรอื อีกนยั หน่งึ องคธรรมของสนั นิฏฐานบท ไดแ ก ปยรปู สาตรปู คอื โลกยี จิต ๘๑ เจตสกิ ๕๒ รูป ๒๘ ซึ่งเปน ท่นี า รัก นายนิ ดี และเปนอารมณของตณั หาได, องคธ รรมของสงั สยบท รปู ขนั ธ คือ รูป ๒๘ ทีม่ ลี ักษณะเสื่อมสิน้ แปรผันไป (รปุ ปนลักขณะ) เหมือนกัน ๗. จงวสิ ชั นาเปน บาลี และแปล พรอ มแสดงองคธ รรมในปจุ ฉาดงั ตอไปนี้ (ไมตองจาํ แนกโกฏฐาส) ขนธฺ า, รปู กขฺ นฺโธติ ? [P.95-96] 43 ๖. จงวสิ ชั นาในคาํ ถามดงั ตอ ไปน้ี เปน บาลแี ละไทย รูปขนั ธ รูปกฺขนโฺ ธ ขนธฺ า= เวทนาขนั ธ เวทนากขฺ นฺโธ (ไมต อ งแสดงองคธ รรมและการจาํ แนกโกฐาส) ? 44 ขนั ธ ๕ สัญญาขันธ สฺ ากฺขนโฺ ธ ข. ธรรมทชี่ อื่ วา ขนั ธ, ชอ่ื วา รปู ขนั ธใ ชไ หม ? 44(6ข/ง) ตอบ วิสชั นา รปู กขฺ นโฺ ธ ขนโฺ ธ เจว รปู กขฺ นโฺ ธ จ, ทงั้ หมด สังขารขันธ สงฺขารกฺขนฺโธ อวเสสา ขนฺธา น รปู กขฺ นโฺ ธ. วิญญาณขนั ธ วิฺ าณกขฺ นฺโธ น ขนฺธา นพิ บญั ญตั ิ -- รูปขันธ ชือ่ วาขนั ธก ็ใช ช่อื วา รูปขนั ธก ใ็ ช, ขนั ธท ี่เหลือนอกน้ัน ไมช อ่ื วา รูปขันธ (หรอื อกี นัยหน่ึง) สงั ขตธรรมท่เี หลอื นอกนน้ั ชอื่ วาขันธ แตไ มช ื่อวารูปขนั ธ) (44) ในปฏโิ ลมปุจฉา องคธรรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแ ก ขันธ ๕ ทัง้ หมด องคธ รรมของสังสยบท ไดแ ก รปู ขนั ธ คือ รูป ๒๘ ที่อยโู ดยเฉพาะ ซงึ่ มีลักษณะเสอ่ื มสน้ิ แปรผนั ไป หรอื อีกนัยหนงึ่ รปู ขนั ธ คอื รูป ๒๘ ซ่ึงมลี ักษณะเสื่อมสิ้นแปรผันไป เทานั้น ๖. จงวสิ ชั นาพรอ มคําแปล (แสดง)องคธ รรมในคําปจุ ฉาดงั ตอ ไปน้ี (ไมต องจาํ แนกโกฏฐาส) ? 53, 58, 59, 63 ข. ขนธฺ า, เวทนากขฺ นโฺ ธติ ? [P.96] 53, 58(ข/ค), 59] 61, 63 ๗. จงวสิ ัชนาในคาํ ถามดงั ตอ ไปน้ี เปน บาลแี ละไทย (ไมต อ งแสดงองคธรรมและการจาํ แนกโกฏฐาส) ? 51 ข. ธรรมทช่ี อ่ื วา ขนั ธ, ชอื่ วา เวทนาขนั ธใ ชไหม ? 51(ข/ง) ๗. จงแสดงปจุ ฉาของวสิ ชั นาตอ ไปน้ี บอกดว ยวา เปน อนโุ ลมปจุ ฉา หรอื ปฏโิ ลมปจุ ฉา พรอ มทัง้ แสดงองคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบทและสงั สยบท ? 55 ก. เวทนากขฺ นโฺ ธ ขนฺโธ เจว เวทนากฺขนโฺ ธ จ, อวเสสา ขนธฺ า น เวทนากขฺ นฺโธ [P.96] ตอบ (55) ก. ปฏโิ ลมปจุ ฉา ขนธฺ า, เวทนากขฺ นโฺ ธติ ? รปู ขันธ รปู กฺขนโฺ ธ ตอบ (51, 53, 59] 61) ข. วิสัชนา เวทนากขฺ นโฺ ธ ขนฺโธ เจว ขนธฺ า= เวทนาขนั ธ เวทนากขฺ นฺโธ ขันธ ๕ สญั ญาขนั ธ สฺ ากฺขนโฺ ธ เวทนากขฺ นโฺ ธ จ, อวเสสา ขนธฺ า น เวทนากขฺ นโฺ ธ. เวทนาขนั ธ ช่อื วาขนั ธก ใ็ ช ชื่อวา เวทนาขันธก ็ใช, ทัง้ หมด สังขารขนั ธ สงขฺ ารกขฺ นฺโธ ขันธท เ่ี หลือนอกนนั้ ไมช ื่อวาเวทนาขนั ธ หรอื แปลอีกนัยหนึง่ วญิ ญาณขนั ธ วิ ฺ าณกขฺ นโฺ ธ สงั ขตธรรมท่เี หลือนอกนนั้ ชื่อวาขนั ธ แตไ มช อื่ วาเวทนาขนั ธ น ขนฺธา นพิ บญั ญตั ิ -- ดาวนโหลดขอ มูลจากขอความเพ่ิมเติมท่ี youtube หรือที่ Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มูลยมก ปณ ณตั ิวาระในขนั ธยมกะ (วนั แรก) 42 (51, 53, 55) แสดงองคธ รรมในปฏโิ ลมปุจฉา ขนธฺ า เปนสันนิฏฐานบท // เวทนากขฺ นโฺ ธ เปนสงั สยบท องคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแก ขันธ ๕ ทัง้ หมด // องคธ รรมของสังสยบท ไดแ ก เวทนาขันธ เทานัน้ ๗. จงแสดงปจุ ฉาและวิสัชนา ทง้ั อนโุ ลมปจุ ฉา ปฏโิ ลมปจุ ฉา พรอ มทงั้ คาํ แปล แสดงองคธ รรม จาํ แนกโกฏฐาส (เฉพาะในปฏโิ ลมปจุ ฉา) ในสญั ญาขนั ธยมกะ แหง สทุ ธขันธวาระ อนโุ ลม ? 44 ๗. จงวสิ ัชนาในคาํ ถามตอ ไปนเี้ ปนบาลแี ละไทยพรอมทง้ั แสดงองคธ รรม (ไมตอ งจาํ แนกโกฏฐาส) ? 45 ค. สฺ า, ขนโฺ ธติ ? [P.96-97] 45 (ค/ง) ตอบ แสดงสญั ญาขันธยมกะ แหงสุทธขันธวาระ อนุโลม ดงั น้ี รปู ขันธ รูปกฺขนโฺ ธ ขนธฺ า= เวทนาขันธ เวทนากขฺ นฺโธ อนโุ ลมปจุ ฉา สฺ า ขนโฺ ธติ ? ขันธ ๕ สญั ญาขนั ธ สฺ ากฺขนฺโธ ธรรมที่ชื่อวา สัญญา ชอ่ื วา สญั ญาขันธใ ชไ หม ? ทัง้ หมด สงั ขารขันธ สงขฺ ารกฺขนโฺ ธ วิ ฺ าณกขฺ นโฺ ธ วสิ ชั นา อามนตฺ า ใช วญิ ญาณขนั ธ น ขนธฺ า นพิ บญั ญตั ิ -- แสดงองคธรรมในอนุโลมปุจฉา สัญญา เปนสนั นฏิ ฐานบท // ขนโฺ ธ เปนสงั สยบท องคธรรมของสนั นิฏฐานบท ไดแ ก สญั ญา คอื ทฏิ ฐเิ จตสกิ และสญั ญาเจตสกิ ที่มีสญั ชานนลักขณะ องคธ รรมของสงั สยบท เหมอื นกัน (44) ปฏิโลมปจุ ฉา ขนธฺ า, สฺ ากขฺ นโฺ ธติ ธรรมที่ชือ่ วาขนั ธชอ่ื วาสัญญาขนั ธใชไ หม ? วสิ ัชนา สฺ ากขฺ นโฺ ธ ขนโฺ ธ เจว สฺ ากขฺ นโฺ ธ จ, อวเสสา ขนธฺ า น สฺ ากขฺ นโฺ ธ. รปู ขนั ธ รูปกฺขนฺโธ ขนฺธา= เวทนาขนั ธ เวทนากฺขนฺโธ สญั ญาขันธ ช่ือวา ขันธก ็ใช ชอื่ วาสญั ญาขันธก ็ใช, ขนั ธ ๕ สญั ญาขันธ สฺ ากขฺ นฺโธ ขนั ธท่เี หลอื นอกน้ัน ไมช อ่ื วาสญั ญาขันธ ทัง้ หมด สงั ขารขันธ สงขฺ ารกขฺ นฺโธ แสดงองคธรรมและการจําแนกโกฏฐาส วญิ ญาณขันธ วิฺ าณกขฺ นโฺ ธ น ขนธฺ า นพิ บญั ญัติ -- ในปฏิโลมปจุ ฉา ขนฺธา เปน สันนฏิ ฐานบท // สฺ ากขฺ นโฺ ธ เปนสังสยบท *องคธ รรมของสนั นฏิ ฐานบท ไดแก ขันธ ๕ ทง้ั หมด // องคธ รรมของสงั สยบท ไดแก สญั ญาขันธ เทาน้นั ฉะนั้นคาํ ถามบทนี้เปน ปริปณุ ณปญหา ถามวา ธรรมท่ชี อื่ วาขนั ธ, ชอื่ วา สัญญาขนั ธ ใชไ หม ? พระองคจ งึ ทรงแกดวยการยกเอา สัญญาขนั ธ ซึ่งเปน องคธรรมของสันนิฏฐานบทและสงั สยบทไดท ้ังสอง ขน้ึ ไวในปุรมิ โกฏฐาส ไมม กี ารปฏิเสธสงั สยบท ดงั แสดงวา สฺ ากขฺ นโฺ ธ ขนฺโธ เจว สฺ ากขฺ นโฺ ธ จ แลว ทรงยกเอา ขนั ธ ๔ ที่เหลอื (คือ รปู ขนั ธ เวทนาขนั ธ สังขารขันธ วญิ ญาณขันธ* *) ซ่งึ เปน องคธ รรมของสันนิฏฐาน บทไดบ ทเดียวข้ึนไวในปจ ฉิมโกฏฐาส มกี ารปฏิเสธสงั สยบท ดงั แสดงวา อวเสสา ขนฺธา น สฺ ากขฺ นโฺ ธ คําวสิ ัชนาในปฏโิ ลมปจุ ฉานี้ เปน สรปู ทสั สนวสิ ชั นาท่ีมวี ภิ งั คโดยออ ม *ตา งจากเฉลย ปรบั รปู แบบตามการเรียน-การสอน **ไมม ใี นเฉลย แตเ พิม่ ตามท่ีเรยี นในชน้ั ปจจุบนั น้ี สรปุ ปณณัตตวิ าระ สทุ ธขนั ธวาระ ปจ จนกิ (ชดุ ๒๐ น.๙๘-๑๐๑) ยมกะ ปจุ สนั นฏิ ฐาน, สงั สย ว.ิ อน.ุ ปรุ มิ โกฏฐาส, ปจ ฉมิ โกฏฐาส (สรปุ . ว.ิ ..ตรง) ๑. รูป น รปู , น ขนฺโธติ ? รปู ................... เปตวฺ า อวเสสา ขนฺธา น ................... Xขนโฺ ธ, ๒. เว อนุ น เวทนา, น ขนโฺ ธติ ? เว รูป / เวทนํ / สฺ / - /วิ ฺ าณํ รูป / เวทนา / สฺ า / - /วิฺ าณํ ๓. สญั น สฺ า, น ขนโฺ ธติ ? สฺ ................... ขนเฺ ธ จ เปตวฺ า อวเสสา น เจว ................. น จ ขนโธ ดาวนโหลดขอ มูลจากขอ ความเพ่ิมเติมที่ youtube หรือท่ี Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มลู ยมก ปณ ณตั วิ าระในขนั ธยมกะ (วนั แรก) 43 ๔. สัง น สงฺขารา, น ขนฺโธติ ? อา รูปฺจ/เวทนฺจ/สฺ ฺจ/ - /วิฺ าณจฺ รูป/เวทนา/สฺ า/ - /วิฺ าณํ ๕. วิญ น วิ ฺ าณ,ํ น ขนโฺ ธติ ? วญิ ๔. สงั ขาร = อามนตฺ า ๑. รูป น ขนธฺ า, น รปู กขฺ นโฺ ธติ ? อามนตฺ า ...... ทอี่ อกสอบ ๒. เว น ขนธฺ า, น เวทนากขฺ นโฺ ธติ ? อามนตฺ า ๓. สญั ปฏิ น ขนฺธา, น สฺ ากขฺ นโฺ ธติ ? อามนฺตา อ.ธ. นิพพาน บัญญตั ิ ๔. สงั น ขนธฺ า, น สงฺขารกขฺ นโฺ ธติ ? อามนตฺ า ๕. วญิ น ขนธฺ า, น วิ ฺ าณกขฺ นโฺ ธติ ? อามนตฺ า ๗. จงวสิ ัชนาในคาํ ถามตอ ไปน้ีเปน บาลแี ละไทยพรอ มทง้ั แสดงองคธ รรม (ไมต อ งจาํ แนกโกฏฐาส) ? 45 (7ง/ง) ๖. จงแสดงองคธ รรมของปุจฉาบาลดี งั ตอ ไปนี้ (ไมต อ งจําแนกโกฏฐาส) ? 45 ข. น รปู น ขนโฺ ธติ ? 45(6ข/ง) ๗. จงแสดงองคธ รรมของบาลดี งั ตอ ไปน้ี ? 46(ค/ง) ค. น รปู น ขนโฺ ธติ ? 46(7ค/ง) ๗. จงวสิ ชั นาพรอ มคาํ แปลในคาํ ถามดงั ตอ ไปนี้ และแสดงองคธ รรม (ไมต อ งจาํ แนกโกฏฐาส) ? 59 ข. น รปู , น ขนโฺ ธต.ิ ? ๗. จงวสิ ชั นาในคาํ ถามดงั ตอ ไปน้ี เปน บาลแี ละไทย (ไมต อ งแสดงองคธ รรมและการจาํ แนกโกฏฐาส) ? 44(6ค/ง), 51 ค. ธรรมทไ่ี มช อ่ื วา รปู , ไมช อ่ื วา ขนั ธใ ชไหม ? 44(6ค/ง), 51(ค/ง) ตอบ ข/ค/ง. วสิ ชั นา รูป เปตฺวา อวเสสา ขนธฺ า น รูป ขนโฺ ธ, รูปจฺ ขนเฺ ธ จ เปตฺวา อวเสสา น เจว รูป น จ ขนโฺ ธ. ยกเวน รูปเสียแลว ขันธที่เหลอื นอกน้ัน ไมช ื่อวา รปู แตช อ่ื วา ขนั ธ, ยกเวน รปู และขันธท ้ังหลายเสยี แลว ธรรมท่เี หลือนอกนัน้ ไมช่อื วา รูป และไมชอ่ื วาขนั ธ. (แสดงองคธ รรม) ในอนุโลมปุจฉา น รปู เปนสนั นิฏฐานบท // น ขนฺโธ เปนสงั สยบท องคธ รรมของสันนฏิ ฐานบท ไดแก โลกตุ ตรจติ ๘ เจตสกิ ๓๖ และ นิพพาน บญั ญัติ องคธรรมของสงั สยบท ไดแ ก นิพพาน บัญญัติเทาน้ัน ๖.จงแสดงองคธ รรมในขอ ปจุ ฉาดงั ตอ ไปนี้ (ไมต องจําแนกโกฏฐาส) ? 49, 51 ค. น เวทนา, น ขนโฺ ธติ ? 49(ค/ง), 51(ค/ง) ตอบ ค. ในอนุโลมปุจฉา น เวทนา เปนสันนิฏฐานบท // น ขนโฺ ธ เปน สังสยบท องคธรรมของสนั นิฏฐานบท ไดแก จิต ๘๙ เจตสกิ ๕๑ (เวนเวทนาเจตสกิ ) รูป ๒๘ และ นพิ พาน บัญญัติ องคธรรมของสงั สยบท ไดแ ก นพิ พาน บญั ญตั ิ เทา นั้น ๗. จงแสดงปจุ ฉาของวสิ ชั นาตอ ไปน้ี บอกดว ยวา เปนอนโุ ลมปจุ ฉา หรอื ปฏโิ ลมปจุ ฉา พรอ มทง้ั แสดงองคธ รรม ของสนั นฏิ ฐานบทและสงั สยบท ? 55 ข. สฺ เปตวฺ า อวเสสา ขนธฺ า น สฺ า ขนโฺ ธ, สฺ จฺ ขนเฺ ธ จ เปตฺวา อวเสสา น เจว สฺ า น จ ขนโฺ ธ ๗. จงวสิ ัชนาพรอ มคาํ แปลและแสดงองคธ รรมในปจุ ฉาดงั ตอ ไปน้ี (ไมต อ งจําแนกโกฏฐาส) ? 48 ข. น สฺ า, น ขนฺโธติ ? 48 (ก/ข), 58(ค/ค) ตอบ (55) ข. อนุโลมปุจฉา น สฺญา, น ขนฺโธติ ? ดาวนโ หลดขอมูลจากขอ ความเพ่ิมเติมที่ youtube หรอื ท่ี Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มลู ยมก ปณ ณตั วิ าระในขันธยมกะ (วันแรก) 44 ตอบ (48) ข. วสิ ชั นา สฺ ํ เปตฺวา อวเสสา ขนธฺ า น สฺ า ขนโฺ ธ, สฺ จฺ ขนฺเธ จ เปตวฺ า อวเสสา น เจว สฺา น จ ขนโฺ ธ ยกเวน สญั ญาเสยี แลว ขันธท ี่เหลือนอกนน้ั ไมช ือ่ วา สญั ญา แตชอ่ื วา ขนั ธ, ยกเวนสญั ญาและขันธทงั้ หลายเสียแลว ธรรมที่เหลือนอกนั้น ไมช ื่อวา สญั ญา และไมช ่อื วา ขันธ (48, 55) แสดงองคธ รรมในอนโุ ลมปุจฉา น สฺ า เปน สนั นิฏฐานบท // น ขนฺโธ เปน สังสยบท องคธรรมของสันนฏิ ฐานบท ไดแก จิต ๘๙ เจตสิก ๕๐ (เวนทฏิ ฐเิ จตสิก สญั ญาเจตสิก) รปู ๒๘ และ นิพพาน บัญญตั ิ องคธรรมของสังสยบท ไดแ ก นพิ พาน บัญญัติ เทานน้ั ๖. จงแสดงองคธ รรมของปุจฉาบาลดี งั ตอไปน้ี (ไมตอ งจําแนกโกฏฐาส) ? 45 ค. น สงขฺ ารา, น ขนโฺ ธติ ? 45(ค/ง) ตอบ ค. องคธรรมของสันนิฏฐานบท ไดแ ก นพิ พาน บญั ญัติ // องคธรรมของสงั สยบท เหมอื นกัน ๗. จงวสิ ัชนาบาลคี ําแปลและแสดงองคธ รรมในปจุ ฉาดงั ตอไปน้ี (ไมต อ งจําแนกโกฏฐาส) ? 47 น วิ ฺ าณ,ํ น ขนโฺ ธติ ? 47 ๗. จงแสดงองคธ รรมของบาลดี งั ตอ ไปนี้ ? 46 ง. น วิ ฺ าณ,ํ น ขนโฺ ธติ ? 46(6ง/ง), 46(ง/ง) ๗. ก. จงตง้ั ปจุ ฉา และวสิ ชั นา ทงั้ บาลแี ละคําแปล แสดงองคธ รรม ในสทุ ธขนั ธวาระ ปจ จนกิ นยั แหง วญิ ญาณกั ขนั ธยมกะ เฉพาะอนโุ ลมปจุ ฉา (ไมต องจาํ แนกโกฏฐาส) ? 62 ตอบ (62) อนโุ ลมปุจฉา น วิ ฺ าณ,ํ น ขนฺโธติ ? ธรรมทไี่ มช่ือวา วิญญาณ, ไมช ือ่ วาขนั ธ ใชไหม ? ตอบ วิสชั นา วิฺ าณํ เปตวฺ า อวเสสา ขนฺธา น วิฺ าณํ ขนฺโธ, วิฺ าณจฺ ขนเฺ ธ จ เปตฺวา อวเสสา น เจว วิ ฺ าณํ น จ ขนฺโธ. ยกเวน วิญญาณเสียแลว ขันธท ่เี หลอื นอกนนั้ ไมช่ือวาวิญญาณ แตช อ่ื วาขนั ธ ยกเวน วญิ ญาณและขันธท งั้ หลายเสยี แลว ธรรมที่เหลอื นอกนนั้ ไมชอ่ื วา วิญญาณ และไมชอ่ื วาขันธ แสดงองคธรรมในอนโุ ลมปจุ ฉา น วิฺ าณํ เปน สันนฏิ ฐานบท // น ขนโฺ ธ เปนสังสยบท องคธ รรมของสันนิฏฐานบท ไดแก ขันธ ๔ คอื เจตสิก ๕๒ รูป ๒๘ และ นิพพาน บัญญัติ องคธ รรมของสังสยบท ไดแ ก นพิ พาน บัญญตั ิ เทา นั้น ๗. จงวสิ ัชนาในปจุ ฉาดงั ตอ ไปนี้ เปน บาลี แปลเปนไทยพรอมแสดงองคธรรม ? (ไมต อ งจาํ แนกโกฏฐาส) ? 50, 56 ข. น ขนธฺ า, น รปู กขฺ นโฺ ธติ ? 50, 56 ตอบ ข. วิสชั นา อามนตฺ า ใช แสดงองคธ รรมในปฏโิ ลมปุจฉา น ขนฺธา เปน สันนฏิ ฐานบท // น รปู กขฺ นโฺ ธ เปนสังสยบท องคธรรมของสันนิฏฐานบท ไดแก นิพพาน บญั ญัติ // องคธ รรมของสงั สยบท เหมอื นกัน ๖. จงแสดงองคธ รรมในขอ ปุจฉาดงั ตอ ไปน้ี (ไมตอ งจาํ แนกโกฏฐาส) ? 49, 51 ง. น ขนธฺ า, น สงฺขารกขฺ นโฺ ธติ ? 49(ง/ง), 51(ง/ง) ดาวนโ หลดขอ มูลจากขอความเพ่ิมเตมิ ท่ี youtube หรือท่ี Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
มูลยมก ปณ ณตั วิ าระในขันธยมกะ (วันแรก) 45 ตอบ ง. ในปฏโิ ลมปจุ ฉา น ขนธฺ า เปนสนั นฏิ ฐานบท // น สงขฺ ารกขฺ นโฺ ธ เปนสังสยบท องคธ รรมของสันนิฏฐานบท ไดแก นิพพาน บัญญัติ // องคธรรมของสงั สยบท เหมือนกัน ๗. จงแสดงองคธ รรมของบาลดี งั ตอ ไปน้ี ? 46 ข. น ขนฺธา, น วิ ฺาณกขฺ นโฺ ธติ ? 46(ข/ง) ตอบ ข. องคธ รรมของสนั นิฏฐานบท ไดแ ก นิพพาน บญั ญตั ิ // องคธรรมของสังสยบท เหมอื นกนั ๗. ข. องคธ รรมของจกั กวภิ าคนยั ในคาํ ถามดังตอ ไปน้ี ไดแ กอะไรบาง ? 62 ตอบ ก. ธรรมท่ีชื่อวา รปู ขันธ อยา งเดยี ว ไมช อื่ วา รปู ? ก. ไมมี ข. ธรรมทไ่ี มช อ่ื วา รปู , และ ไมช อ่ื วา รปู ขันธ ? ข. โลกตุ ตรจิต ๘ เจตสกิ ๓๖ นิพพาน บญั ญัติ ค. ธรรมทช่ี อ่ื วา เวทนาขนั ธอ ยา งเดยี ว ไมช อ่ื วา เวทนา ? ค. ไมมี ง. ธรรมทชี่ อื่ วา สญั ญาอยางเดยี ว ไมช ือ่ วา สญั ญาขนั ธ ? ง. ทิฏฐิเจตสิก จ. ธรรมทช่ี อื่ วา สงั ขาร และ ชอ่ื วา สงั ขารขนั ธ ? จ. เจตสกิ ๕๐ ท่ีเปนสังขารขันธ ฉ. ธรรมทชี่ อื่ วา วญิ ญาณขนั ธอ ยา งเดยี ว ไมช อื่ วาวญิ ญาณขนั ธ ? ฉ. ไมม ี **************************** สง่ิ ทส่ี ําคัญคอื การเขาเรียน-ศึกษากับอาจารยผูสอน เพ่ือความรู ความเขาใจที่ถกู ตอ ง แจม แจง หากสงสยั จะไดสอบถามทันที การรวบรวม ขอสอบที่เคยออกมาแลวน้ี เปน เพียงแนวทางสําหรบั ผูศึกษา นาํ มาเนน +ทรง จาํ ไว (หากความสามารถมากกวาน้ี หรือใสใ จ ก็ควรจะทรงจําใหไ ดทั้งหมด จึงจะช่อื วา สุตะดวยดี เพื่อการจนิ ตาและภาวนาตอไป) การสอบไมใ ชท ่ีสุดของชีวิต แตข อใหตั้งจิตศกึ ษาและทรงจาํ เพอ่ื ธํารงและรักษาไวซ ึ่งพระศาสนา รอู รรถะและพยญั ชนะ ท้งั เขา ใจและเขา ให ถงึ ธรรมะ แมยังมบิ รรลุคณุ ธรรมอันสูงถงึ ขน้ั อริยะ ก็ขอจงเปน ผูร ธู รรมะ (ตามสมควร) และจงเปนผูม ธี รรมะ วายเมเถว ปรุ โิ ส ยาว อตถฺ สสฺ นิปปฺ ทา เกดิ เปน คนควรจะพยายาม จนกวา จะประสบความสาํ เรจ็ สาํ เนาหรือแจกไดโ ดยไมต องขออนุญาต (สงวนสิทธิห์ ากนําไปจําหนา ย) ผดิ ตกขออภยั และกรณุ าแจง (จักขอบพระคณุ ) ที่ 081-860-2466 (Line ID), E-mail: [email protected], [email protected] ดาวนโ หลดขอ มลู จากขอ ความเพ่มิ เตมิ ที่ youtube หรือที่ Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว) ขออนุโมทนาในการศกึ ษาธรรมะ และทกุ ๆกศุ ลทที่ า นกระทําไวดีแลว และทีจ่ ะกระทาํ ในอนาคต ใหเรานั้นมีปจ จยั ถึงพรอมเพ่ือการทํากศุ ลใหสําเรจ็ โดยสะดวก งายดาย และเร็วไว จนถึงมัคคกศุ ล โดยเร็วพลันเทอญ ดาวนโหลดขอมูลจากขอความเพิ่มเตมิ ที่ youtube หรือท่ี Line/fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๑๙ มี.ค. ๖๓
Search
Read the Text Version
- 1 - 46
Pages: