Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เฉลยข้อเขียน/สัมภาษณ์ พระอภิธรรม ชั้น มัชฌิมอาภิธรรมิกะตรี

เฉลยข้อเขียน/สัมภาษณ์ พระอภิธรรม ชั้น มัชฌิมอาภิธรรมิกะตรี

Published by WATKAO, 2021-01-10 02:09:12

Description: ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๔๓-๒๕๖๓
อภิธรรมโชติกะวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ชั้น มัชฌิมอาภิธรรมิกะตรี

Search

Read the Text Version

เฉลยขอ สอบขอเขยี นพระอภธิ รรม ภาคเรยี นที่ ๒ ปก ารศึกษา ๒๕๔๓-๒๕๖๓ อภธิ รรมโชตกิ ะวิทยาลยั มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั ชนั้ มชั ฌมิ อาภธิ รรมมกิ ะตรี สอบวนั เสาร ที่ ...... ธันวาคม พ.ศ. ๒๕....... วชิ า : กรรมจตกุ กะ-มรณปุ ปต ตจิ ตุกกะ ๗ ขอ ๗๐ คะแนน เวลา ๔ ชว่ั โมง. (วนั ที่ ๒) ขอ ๑ (ที่เคยออกสอบแตล ะป) ๑. ก. คาํ วา กรรม ในกมั มจตกุ กะนี้ หมายความวาอยา งไร ? ใหยกวจนตั ถะแสดง พรอ มความหมายและองคธ รรม ? 49, 53, 54 แสดงวจนตั ถะวา อยา งไร และองคธ รรมไดแ กอะไร ? [P009-10] 50, 51, 53, 55, 57, 60, 62 ตอบ ก. คาํ วา กรรม (ในกัมมจตกุ กะน้ี) หมายความวา การกระทาํ ทเ่ี ก่ยี วดว ยกาย วาจา ใจ ทง้ั ทางดี และไมดี ชือ่ วา กรรม หรือ ธรรมชาตทิ ี่ใหส าํ เร็จการกระทาํ นน้ั ๆ ช่ือวา กรรม ดงั มีวจนัตถะวา “กรณํ กมมฺ ํ วา กโรนตฺ ิ เอเตนาติ กมมฺ ”ํ การกระทาํ ชือ่ วากรรม หรือสตั วท ้งั หลายยอ มกระทาํ โดยอาศัยธรรมชาตนิ ้นั ฉะนัน้ ธรรมชาตทิ ี่เปนเหตใุ หสาํ เรจ็ การกระทําเหลา น้นั ช่อื วากรรม องคธรรมไดแ ก เจตนาเจตสกิ ที่ในอกศุ ลจติ ๑๒ และ โลกยี กศุ ลจติ ๑๗ ๑. ข. กมั มจตกุ กะน้ี พระอนุรุทธาจารยแ สดงกรรมแบง ออกเปน กห่ี มวด คอื อะไรบาง ? และหมวดไหนแสดงตาม สตุ ตันตนยั หมวดไหนแสดงตามอภิธรรมนยั จงแสดงมาตามลาํ ดบั ? [P010] 50, 51, 53, 55, 57, 60, 62 ตอบ ข. พระอนุรุทธาจารยแ สดงกมั มจตกุ กะนี้ แบงออกเปน ๔ จตกุ กะ คอื ๑. กจิ จจตกุ กะ วา โดยกิจมี ๔ ๒. ปากทานปรยิ ายจตุกกะ วา โดยลาํ ดับแหงการใหผ ลมี ๔ ๓. ปากกาลจตกุ กะ วา โดยเวลาทใ่ี หผลมี ๔ ๔. ปากฎั ฐานจตกุ กะ วาโดยฐานะท่ีใหผ ลมี ๔ ในจตกุ กะทง้ั ๔ เหลานี้ ปากัฎฐานจตุกกะอยางเดยี วทแ่ี สดงตามอภิธมั มนัย คือ เปนนัยทก่ี ลาวไดแนนอน สว น จตกุ กะท้ัง ๓ ทเ่ี หลอื แสดงตามสตุ ตนั ตนยั คอื เปน นยั ที่กลาวไดไ มแ นน อน เพยี งแตเปน ไปโดยสว นมากเทาน้นั ๑. ในกัมมจตกุ กะท้งั ๔ เหลา น้ที แ่ี สดงตามสตุ ตนั ตนยั มกี จ่ี ตกุ กะ ? คืออะไรบาง ? และแตล ะจตกุ กะ นน้ั ๆ มกี่ อี่ ยา ง ? จงแสดงความหมายพรอมทง้ั องคธ รรม ? [P001++] 59 ๑. จงแสดงความหมาย พรอ มทง้ั แสดงองคธ รรมของกรรมทงั้ ๑๒ มาโดยลาํ ดบั ? 56 (ปล. โจทย ป ๕๖ ตอบ ไลล าํ ดับ ๑-๑๒ ดงั ซา ยมือ โดยไมต อ งระบุหัวเร่ือง เชน กจิ จจตุกะ วา โดย.... ) ตอบ (59) ในกมั มจตุกกะทง้ั ๔ เหลาน้ี ท่แี สดงตามสตุ ตนั ตนยั มี ๓ จตกุ กะ คือ (59) ๑. กจิ จจตกุ กะ ๒. ปากทานปริยายจตุกกะ ๓.ปากกาลจตกุ กะ (56) (59) กจิ จจตกุ กะ วา โดยกิจมี ๔ อยาง คือ ๑. ๑. ชนกกรรม กรรมท่ียอมทาํ ใหวบิ ากนามขนั ธแ ละกมั มชรปู เกดิ ขนึ้ องคธรรมไดแ ก อกศุ ลกรรม ๑๒, โลกยี กุศลกรรม ๑๗ ๒. ๒. อปุ ต ถมั ภกกรรม กรรมท่ยี อมชวยอดุ หนนุ กรรมอื่นๆ

วิถีสังคหะ, ภมู ิจตุกกะ, ปฏสิ นธิจตุกกะ 35 องคธ รรมไดแ ก อกุศลกรรม ๑๒ มหากุศลกรรม ๘ ๓. ๓. อปุ ปฬกกรรม กรรมท่ยี อ มเขา ไปเบยี ดเบยี นกรรมอ่นื ๆ องคธ รรมไดแ ก อกุศลกรรม ๑๒ มหากุศลกรรม ๘ ๔. ๔. อปุ ฆาตกกรรม กรรมที่ยอ มเขา ไปตัดรอนกรรมอนื่ ๆ หรอื ตดั รอนผลของกรรมอนื่ ๆ องคธรรมไดแก อกุศลกรรม ๑๒, กศุ ลกรรม ๒๑ (59) ปากทานปริยายจตกุ กะ วาโดยลําดับแหงการใหผลมี ๔ อยาง คอื ๕. ๑. ครุกกรรม กรรมอยางหนักทกี่ รรมอน่ื ๆ ไมส ามารถจะหา มได องคธ รรมไดแก ทิฏฐิคตสมั ปยตุ ต ๔ ทีเ่ ก่ียวกับนยิ ตมิจฉาทฏิ ฐกิ รรม ๑ โทสมูลจิต ๒ ท่เี ก่ยี วกับปญจานันตริยกรรม ๕ และมหคั คตกุศลกรรม ๙ ๖. ๒. อาสนั นกรรม กรรมทท่ี าํ ไวเ ม่ือใกลจ ะตาย องคธ รรมไดแก อกุศลกรรม ๑๒ (เวน นยิ ตมจิ ฉาทฏิ ฐิ กรรม และปญจานนั ตรยิ กรรม) มหากุศลกรรม ๘ ๗. ๓. อาจณิ ณกรรม กรรมทีเ่ คยทาํ ไวเ สมอ ๆ องคธ รรมไดแ ก อกุศลกรรม ๑๒, มหากุศลกรรม ๘ ๘. ๔. กฏตั ตากรรม กรรมทที่ าํ ไวพ อประมาณ ไมเ ทาถึงกรรมทั้ง ๓ น้นั หรือกรรมทเ่ี คยทาํ ไวในอดตี ชาติ องคธรรมไดแก อกุศลกรรม ๑๒ มหากุศลกรรม ๘ (59) ปากกาลจตกุ กะ วาโดยเวลาใหผ ล มี ๔ อยา ง คือ ๙. ๑. ทิฏฐธมั มเวทนยี กรรม กรรมท่ีใหไดร บั ผลในปจ จุบนั ชาตนิ ้ี องคธ รรมไดแ ก อกศุ ลกรรม ๑๒ มหากุศลกรรม ๘ เจตนาท่ีในชวนะดวงท่ี ๑ ๑๐. ๒. อุปปช ชเวทนียกรรม กรรมทใี่ หไดร บั ผลในชาตทิ ่ี ๒ องคธ รรมไดแ ก อกุศลกรรม ๑๒ มหากศุ ลกรรม ๘ เจตนาท่ใี นชวนะดวงท่ี ๗ ๑๑. ๓. อปราปรยิ เวทนยี กรรม กรรมที่ใหไดร ับผลในชาตทิ ี่ ๓ เปน ตนไป จนกวาจะถึงพระนิพพาน องคธ รรม ไดแก อกุศลกรรม ๑๒ มหากศุ ลกรรม ๘ เจตนาที่ในชวนะดวงที่ ๒ ถงึ ดวงที่ ๖ ๑๒. ๔. อโหสกิ รรม กรรมท่ีไมใ หผล องคธ รรมไดแ ก เจตนากรรม ๒๙ ทลี่ วงเลยการใหผ ลไปแลว ๒. จงแสดงความหมายของคาํ เหลา นี้ พรอ มทง้ั องคธ รรม ? 57 ค. ครกุ กรรม ก. อปุ ต ถมั ภกกรรม ข. อปุ ฆาตกกรรม ง. อาจณิ ณกรรม จ. ทิฏฐธัมมเวทนยี กรรม ฉ. อโหสกิ รรม ตอบ เลอื กตอบ ความหมายและองคธรรม โดยระบขุ อ ก.-ฉ. ตามสมควร (ตามขอ มลู ดา นบน)...... ๑. จงแสดงกรรม ๑๖ โดยแบง เปน ๔ หมวด มาพรอมทงั้ ความหมาย (ไมต อ งบอกองคธรรม) ? [P001] 50, 52, 55, 60, 61, 63 ๑. ในกัมมจตุกกะท้ัง ๔ เหลา นี้ ท่ีแสดงตามสตุ ตนั ตนยั มกี ี่จตุกกะ ? คอื อะไรบาง ? และแตละจตกุ กะ(หมวด) นัน้ ๆ มี่กอี่ ยา ง ? จงแสดงพรอมความหมายมาโดยลําดบั (ไมต อ งบอกองคธรรม) ? [P001] 47, 48, 58 ตอบ (50, 52, 55, 60, 61) แสดงกรรม ๑๖ โดยแบง เปน ๔ หมวด พรอมท้งั ความหมาย ดงั น้ี ตอบ (47, 48, 58) ในกมั มจตกุ กะท้งั ๔ เหลานี้ ทีแ่ สดงตามสตุ ตันตนยั มี ๓ จตกุ กะ คอื ดาวนโหลดขอ มลู ตา งๆไดจาก ขอ ความเพ่ิมเติมท่ี youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วิถีสงั คหะ, ภมู จิ ตุกกะ, ปฏสิ นธจิ ตกุ กะ 36 ๑. กจิ จจตกุ กะ ๒. ปากทานปรยิ ายจตกุ กะ ๓.ปากกาลจตุกกะ (50, 52, 55, 60, 61) ๑. กจิ จจตกุ กะ วา โดยกจิ มี ๔ อยาง คอื (47, 48, 58) กรรมวา โดยกจิ มี ๔ อยา ง คอื ๑. ชนกกรรม กรรมท่ียอมทาํ ใหว ิบากเกิดขึ้น ๒. อุปต ถัมภกกรรม กรรมทย่ี อมชว ยอดุ หนุนกรรมอื่น ๆ ๓. อุปปฬ กกรรม กรรมท่ยี อมเขา ไปเบียดเบยี นกรรมอืน่ ๆ ๔. อุปฆาตกกรรมกรรม ทย่ี อมเขาไปตดั รอนกรรมอืน่ ๆ หรอื ตัดรอนผลของกรรมอืน่ ๆ (50, 52, 55, 60, 61) ๒. ปากทานปริยายจตกุ กะ วา โดยลาํ ดบั แหง การใหผ ลมี ๔ อยาง คือ (47, 48, 58) กรรมวาโดยลาํ ดบั แหงการใหผ ลมี ๔ อยาง คือ ๑. ครกุ กรรม กรรมอยางหนกั ที่กรรมอ่ืน ๆ ไมส ามารถจะหา มได ๒. อาสนั นกรรม กรรมที่ทาํ ไวเ มอ่ื ใกลจะตาย ๓. อาจณิ ณกรรม กรรมทเี่ คยทาํ ไวเ สมอๆ ๔. กฏตั ตากรรม กรรมท่ที ําไวพอประมาณ ไมเทา ถงึ กรรมทง้ั ๓ น้นั หรอื กรรมท่เี คยทาํ ไวในอดตี ชาติ (50, 52, 55, 60, 61) ๓. ปากกาลจตกุ กะ วา โดยเวลาท่ใี หผ ลมี ๔ อยาง คอื (47, 48, 58) กรรมวา โดยเวลาใหผลมี ๔ อยา ง คือ ๑. ทิฏฐธมั มเวทนยี กรรม กรรมทใี่ หผ ลในปจจุบนั ชาตนิ ี้ ๒. อปุ ปช ชเวทนยี กรรม กรรมทใี่ หผ ลในชาตทิ ่ี ๒ ๓. อปราปรยิ เวทนยี กรรม กรรมทใี่ หผ ลในชาตทิ ่ี ๓ เปนตน ไปจนกวา จะถึงพระนพิ พาน ๔. อโหสิกรรม กรรมทไี่ มใ หผ ล (50, 52, 55, 60, 61) ๔. ปากฏั ฐานจตกุ กะ วา โดยฐานะท่ใี หผ ลมี ๔ อยา ง คอื ๑. อกศุ ลกรรม กรรมท่เี ปน อกศุ ล ๒. กามาวจรกศุ ลกรรม กรรมทีเ่ ปน กุศลกรรมฝา ยกามาวจร ๓. รูปาวจรกุศลกรรม กรรมทเี่ ปน รูปาวจรกุศล ๔. อรปู าวจรกศุ ลกรรม กรรมท่ีเปนอรูปาวจรกุศล ๑. ข. กรรมเมอ่ื วา โดยภมู ิอนั เปน ทใี่ หผ ลเกดิ ขนึ้ นนั้ มกี อี่ ยา ง คอื อะไรบา ง ? [P070] 54 ตอบ ข. กรรมเมอื่ วา โดยภมู ิอนั เปนทีใ่ หผลเกดิ ขน้ึ นนั้ มี ๔ อยา ง คอื ๑. อกศุ ลกรรม ไดแ ก เจตนาท่ีอยูใน อกศุ ลจติ ๑๒ ๒. กามาวจรกศุ ลกรรม ไดแ ก เจตนาทอ่ี ยใู น มหากศุ ลจิต ๘ ๓. รปู าวจรกศุ ลกรรม ไดแ ก เจตนาทอ่ี ยูใ นรปู าวจรกุศลจติ ๕ ๔. อรูปาวจรกศุ ลกรรม ไดแก เจตนาที่อยูในอรูปาวจรกุศลจิต ๔ ขอ ๒ (ท่เี คยออกสอบแตละป) ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆไดจาก ขอ ความเพ่ิมเตมิ ที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วิถสี งั คหะ, ภมู ิจตกุ กะ, ปฏิสนธิจตกุ กะ 37 ๒. ก. อปุ ตถมั ภกกรรมนเี้ มอื่ วา โดยประเภทใหญแ ลว มเี ทา ไร ? คอื อะไรบา ง ? [P011-23] 47, 48, 51 ตอบ ก. อุปต ถัมภกกรรมนีเ้ มือ่ วาโดยประเภทใหญแ ลว มี ๓ ประเภท คือ ๑. ชวยอดุ หนนุ ชนกกรรมที่ยังไมม โี อกาสใหผ ล ใหมโี อกาสสง ผล ๒. ชว ยอุดหนนุ ชนกกรรมท่ีกาํ ลังมโี อกาสใหผล ใหม กี าํ ลังในการใหผ ลน้ันบรบิ รู ณย ิง่ ข้ึน ๓. ชว ยอดุ หนุนรูปนามทีเ่ ปนวบิ ากของชนกกรรมใหเ จรญิ และตั้งอยไู ดน าน ๒. ก. อปุ ปฬ กกรรมหมายความวา อะไร ? ใหแ สดงองคธ รรมดว ย ? และเมือ่ สรปุ โดยประเภทใหญๆ แลว มกี อี่ ยา ง ? คอื อะไรบา ง ? [P024-26] 54 ๒. ก. การเบยี ดเบยี นของอปุ ปฬ กกรรมเมอื่ สรุปโดยประเภทใหญๆ แลว มกี อี่ ยา ง คอื อะไรบา ง ? [P024-26] 47, 48, 53, 62 ตอบ (54) ก. อปุ ปฬ กกรรม กรรมที่ยอ มเขา ไปเบยี ดเบียนกรรมอนื่ ๆ องคธ รรมไดแก อกุศลกรรม ๑๒ มหากุศลกรรม ๘ เมอ่ื สรุปโดยประเภทใหญ ๆ แลวมี ๓ อยาง คือ ตอบ (47, 48, 53, 62) ก. การเบยี ดเบียนของอุปปฬ กกรรม เมอ่ื สรุปโดยประเภทใหญแลว มี ๓ อยาง คือ ๑. อุปปฬกกรรม ทีเ่ บยี ดเบียนชนกกรรมอ่ืน ๆ เพื่อไมใ หม โี อกาสสงผล ๒. อุปปฬ กกรรม ทเ่ี บียดเบยี นชนกกรรมอน่ื ๆ ทม่ี โี อกาสสง ผลอยูแลว ใหมกี ําลงั ลดนอ ยลง ๓. อปุ ปฬกกรรม ทเี่ บียดเบยี นรูปนามทเี่ กดิ จากชนกกรรมนั้น ๆ ๒. ค. การตดั ของอปุ ฆาตกกรรมน้ี ทา นแสดงไวก อี่ ยา ง ? คืออะไรบา ง ? [P027] 47, 48 ๒. ก. การตดั ของอปุ ฆาตกกรรม มกี อี่ ยา ง ? คอื อะไรบา ง ? (ไมต อ งแสดงบาล)ี ? [P027] 63 ตอบ ค. การตัดของอปุ ฆาตกกรรมนี้ ทา นแสดงไวมี ๒ อยา ง คือ ๑. ตดั ชนกกรรมอ่นื ๆ เพอื่ มิใหม ีโอกาสสง ผลตลอดไป (กมฺมนตฺ ร อปุ ฆาตก) ๒. ตดั รปู นามท่ีเกิดจากชนกกรรมนน้ั ๆ ใหเสยี ไป (กมฺมนิพฺพตฺต ขนธฺ สนฺตาน อุปฆาตก) ๒. ก. อปุ ปฬ กกรรม กบั อปุ ฆาตกกรรม มสี ภาพใหผ ลตา งกนั อยา งไร ? 61 ตอบ ก. อุปฆาตกกรรม กบั อุปปฬกกรรม มสี ภาพใหผลตา งกนั ดงั นี้ อปุ ปฬ กกรรมนั้น เปน กรรมทเี่ พียงแตเ บยี ดเบียนกรรมอนื่ ๆ และวิบาก ซงึ่ ไดแกอ วยั วะรา งกายไมใหเกดิ ขนึ้ หรือไมใ หเจริญขึน้ ไมไ ดเปน กรรมชนิดทท่ี าํ ใหเด็ดขาดลงไป สว นอุปฆาตกกรรม เปน กรรมชนดิ ท่ีตัดอยา งเดด็ ขาด คอื ถา ตดั กรรมแลว กรรมนนั้ ไมส ามารถใหผ ลเกดิ ขึ้นได เลยตลอดไป ถาตัดวิบากของกรรมแลว หมายถงึ รา งกายหรืออวัยวะสวนใดสว นหนึ่งของ ผนู ้ันยอ มเสยี ไปจนตลอดชวี ิตหรอื มิฉะน้ัน กรรมนนั้ ก็ตัดเอาชวี ติ ของผูน น้ั เสยี เลย ๒. ข. จงแสดงความแตกตา งกันในระหวา งการใหผลของอกศุ ลครกุ กรรม กบั กศุ ลครุกกรรม ? [P035] 53, 62 ตอบ ข. แสดงความแตกตางกันในระหวา ง การใหผลของอกศุ ลครกุ กรรม กบั กุศลครุกกรรมดังนี้ อกุศลครกุ กรรมนั้นแมวา ตนจะไมมโี อกาสเปนผสู ง ผล แตก ็มีฐานะเปน อุปต ถัมภกกรรมได สวนกุศลครกุ กรรมน้ัน เมอื่ ตนไมมีโอกาสไดส งผลแลวก็เปนอโหสิกรรมไป ไมมีฐานะเปน อุปตถัมภกกรรมได ดว ยเหตุผลดังกลาวมานี้ อกุศลครุกกรรม จงึ มชี ่อื เรยี กเปนพเิ ศษวา ปญ จานนั ตรยิ กรรม และนิยตมิจฉาทฏิ ฐิ ดาวนโ หลดขอ มูลตา งๆไดจ าก ขอความเพมิ่ เติมท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วิถสี ังคหะ, ภูมิจตุกกะ, ปฏิสนธิจตกุ กะ 38 กรรม สําหรบั กศุ ลครุกกรรมนนั้ ไมม ีชอื่ เรยี กเปนพเิ ศษ ๒. ข. ปญ จานนั ตรยิ กรรมเมอ่ื แยกบทแลว ไดก บี่ ท? แตล ะบทหมายถงึ อะไร? เมื่อรวมบทแลวแปลวา อยา งไร? [P035] 58 ตอบ ข. ปญจานันตรยิ กรรมเมื่อแยกบทแลว ได๔ บท ไดแก ปจฺ +อนนตฺ ร+อยิ +กมมฺ [ปจฺ = ๕, อนนตฺ ร = ภพท่ีไมม รี ะหวางค่นั ในลาํ ดับแหงจุต,ิ อยิ = ใหผ ล, กมฺม= การกระทาํ ] เมือ่ รวมบทแลว เปน ปญ จานันตริยกรรม แปลวา การกระทาํ ๕ อยาง ท่ีใหผ ลโดยไมม ีระหวา งคั่นในลําดับแหง จุติ ๒. ก. ถา สมมตวิ า ผใู ดทาํ ปญจานนั ตรยิ กรรมครบทงั้ ๕ อยา งแลว เม่ือวา โดยการใหผ ลตา งกนั อยา งไรบา ง ? ใหแสดงมาตามลาํ ดบั พรอ มเหตผุ ลเปนเครอ่ื งตดั สินในกรณเี สมอกัน? 58 ตอบ ก. ในปญ จานันตรยิ กรรม ๕ อยางน้นั สงั ฆเภทกกรรมหนักท่ีสุด ถาสมมตวิ า ผูใ ดทาํ ปญ จานันตริยกรรม ครบทง้ั ๕ อยา งแลว สังฆเภทกกรรมจะเปนผสู ง ผลแกผนู น้ั สว นกรรมท่ีเหลอื ก็เปน กรรมผชู ว ยสนับสนนุ ในการ ใหผลของสังฆเภทกกรรมไป กรรมท่ีหนกั รองลงมาจากสังฆเภทกกรรมนัน้ ไดแ กโ ลหิตุปบาท ตอจากโลหิตุป บาทกไ็ ดแ ก อรหนั ตฆาตกกรรมยอ มหนกั กวา กรรมทเ่ี หลือ ๒ สวนมาตฆุ าตกกรรมกบั ปต ฆุ าตกกรรมทง้ั ๒ นี้ ตองแลว แตคณุ สมบัติคือถาบิดาเปนผูมศี ลี ธรรม มารดาไมม ศี ีลธรรม ปต ุฆาตกกรรมยอ มหนกั กวา ถามารดามี ศีลธรรมบดิ าไมม ศี ลี ธรรมมาตุฆาตกกรรมยอมหนักกวา ถา บดิ าและมารดาทง้ั ๒ มีศีลธรรมเสมอกันหรือไมม ี ศลี ธรรมเสมอกันแลว มาตุฆาตกกรรมยอ มหนกั กวา และใหผ ลกอ น เพราะวา มารดานนั้ เปนผรู ับภาระหนกั อัน กระทําไดโ ดยยาก และเปน ผมู ีอุปการคณุ ตอ บตุ รทงั้ หลาย ๒. ข. โลกตุ ตรกศุ ลกรรม จดั เปนครกุ กรรมไดห รอื ไม และครกุ กรรมในกมั มจตกุ กะนี้ ทา นหมายเอากรรมชนดิ ไหน ? 54, 58(4ก), 60(5ก), 63 ตอบ ข. โลกุตตรกศุ ลกรรมนนั้ เปนครกุ กรรมไดก จ็ ริง แตในทน่ี ้ตี อ งการแตกรรมท่จี ะสงผลใหเ กดิ ในภพท่ี ๒ สว นโลกตุ ตรกุศลน้นั ไมม หี นาทีท่ าํ ใหเ กิดภพชาติ แตม หี นาทที่ าํ ลายการเกดิ ตามสมควรแกกาํ ลงั ของตนเทาน้ัน และกรรมทีช่ อื่ วา ครกุ กรรมในที่นี้ หมายถึง เปน กรรมทหี่ นกั แนน สามารถสงผลใหเ กิดในชาติที่ ๒ ตอ กนั โดย แนนอน กรรมอืน่ ๆ ไมส ามารถก้ันไวได ๒. ค. ทฏิ ฐธมั มเวทนยี กรรม มกี ่อี ยา ง คอื อะไรบา ง ? จงบอกมาตามลาํ ดบั พรอ มทง้ั ความหมาย ? [P043] 53, 62 ตอบ ค. ทิฏฐธัมมเวทนยี กรรม มี ๒ อยา ง คอื ๑. ปรปิ กกทฏิ ฐธมั มเวทนยี กรรม กรรมทจี่ ะใหไดร ับผลในปจจุบันภพน้ี เขา ถงึ ความแกกลา แลวคอื ใหผลภายใน ๗ วนั ๒. อปรปิ กกทฏิ ฐธัมมเวทนียกรรม กรรมท่จี ะใหผลในปจ จุบนั ภพนี้ ยงั ไมเขา ถึงความแกก ลา คือ ใหผ ลภายหลัง ๗ วันไปแลว ๒. ก. จงแสดงเหตทุ ท่ี าํ ใหผ ลของทานกศุ ลปรากฏไดในภพน้ี จะตอ งประกอบดว ยหลกั กปี่ ระการ คอื อะไรบา ง ? 56 ๒. ข. สาเหตทุ ที่ าํ ใหผ ลของทานกศุ ลทีเ่ ปนทฏิ ฐธมั มเวทนยี กรรมปรากฏไดใ นภพน้ี มกี อี่ ยา ง อะไรบา ง ? 51 ๓. ข. ทานกุศลทจ่ี ะสง ผลใหไดเปน ทิฏฐธมั มเวทนยี กรรมนน้ั จะตอ งประกอบดว ยองคก ี่อยา ง ? คืออะไรบา ง ? [P047-49]58, 59, 61, 63(5ก) ดาวนโหลดขอ มูลตา งๆไดจาก ขอความเพิ่มเตมิ ที่ youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วถิ ีสงั คหะ, ภมู จิ ตกุ กะ, ปฏิสนธิจตุกกะ 39 ตอบ ก. สาเหตุท่ีทําใหผ ลของทานกศุ ลท่ีเปน ทฏิ ฐธมั มเวทนียกรรมปรากฏไดใ นภพนี้มี ๔ อยา ง คอื ตอบ ข. (สําหรับ) ทานกศุ ลท่ีจะสงผลใหไดเปน ทิฏฐธมั มเวทนียกรรมนัน้ จะตองประกอบดวยองค ๔ อยา ง คอื ๑. วตั ถสุ มั ปทา ปฏคิ าหกผูร ับทานนัน้ เปนพระอนาคามหี รอื พระอรหนั ต ๒. ปจ จยสมั ปทา วตั ถสุ ง่ิ ของที่นํามาถวายน้นั เปนส่ิงทีไ่ ดม าดว ยความบรสิ ทุ ธ์ิ ๓. เจตนาสมั ปทา ผถู วายทานถึงพรอมดวยเจตนาอนั แรงกลา ๔. คุณาตเิ รกสมั ปทา พระอนาคามหี รอื พระอรหันต ผรู บั ทานนั้น ไดพ รอ มดว ยคณุ อนั พเิ ศษ กลา วคอื พึง่ ออกจากนโิ รธสมาบตั ิ (56, 63) เมือ่ ครบองคท งั้ ๔ ประการ ดังกลาวน้แี ลว ทานของผูนั้นก็สาํ เรจ็ เปน ทิฏฐธัมมเวทนียกรรม และใหไ ดรับผลในปจจุบนั ทนั ที ๒. ค. อโหสิกรรมมีชอื่ เรยี กได กอ่ี ยา ง ? คืออะไรบาง ? [P050] 51, 59, 61(7ค) ตอบ ค. อโหสิกรรมมีชอื่ เรยี กได ๓ อยาง คอื ๑. นาโหสิ กมฺมวปิ าโก ชอ่ื วา กรรมทย่ี งั ไมใหผ ล ๒. น ภวสิ ฺสติ กมมฺ วปิ าโก ชอื่ วา กรรมทจ่ี ะไมใหผ ล ๓. นตถฺ ิ กมมฺ วปิ าโก ชอื่ วา กรรมท่ีไมมีผล ๔. ก. มหคั คตกศุ ลกรรมจดั เขา ในกรรมชนดิ ไหน และตา งกนั กบั กามาวจรกรรมอยา งไร ? [P068] 55(3ก), 59, 61, 63(ค) ๔. ก. จงแสดงถึงการสง ผลของมหัคคตกุศลกับกามาวจรกศุ ลวาตา งกนั อยา งไร และอปุ มาเปรยี บเทยี บใหเหน็ ดว ย ? 50 ตอบ (59, 61) ก. ผูทีไ่ ดฌาน ถา ฌานน้นั ไมเสื่อม เมอ่ื ตายจากภพน้ียอ มไปเกดิ ในพรหมโลกตามฐานะแหง ฌานที่ตนไดใ นภพท่ี ๒ โดยแนน อน ไมม กี ารรอคอยไปสง ผลในภพที่ ๓ เปน ตน เลย เหมอื นกบั เจตนาที่อยใู น ชวนะดวงที่ ๗ ฉะนน้ั (61) มหคั คตกุศลกรรมจึงจัดเขาอยใู น อุปปช ชเวทนยี กรรม และมหคั คตกศุ ลกรรม ตาง กับกามาวจรกรรม คือ ..... ตอบ (50) ก. การสงผลของมหัคคตกุศล กบั กามาวจรกุศล ตา งกัน คอื ..... [P069] ตอบ (63) ค. มหคั คตกุศลกรรมเหมอื นกบั เจตนาทอ่ี ยูในชวนะดวงที่ ๗ ฉะน้ัน มหัคคตกศุ ลกรรมนี้ จงึ จัดเขา อยใู น อปุ ปชชเวทนยี กรรม มหคั คตกุศลกรรมตางกับกามาวจรกรรม คือ ..... มหัคคตกุศลกรรมยอ มสงผลไดแตเ ฉพาะในภพที่ ๒ เทา นน้ั ถา ไมมีโอกาสสงผลในภพที่ ๒ กต็ องเปน อโหสิกรรมไป เหมือนกับขาวสุกท่เี ก็บไวน านวันไมได ถาไมก นิ ขา วสกุ นน้ั ก็บดู เสยี ไป สวนกามาวจรกรรมนัน้ ยกเวนเจตนาทอี่ ยใู นชวนะดวงที่ ๑ และดวงที่ ๗ แลว นอกนัน้ ยอ มสงผลไดเ รอ่ื ยๆ ถา มโี อกาสไมม ีการเปน อโหสกิ รรมจนกวาผูน้ันจะเขา ถึงพระนิพพาน เปรียบเหมือนกับขาวเปลอื กท่ีเกบ็ ไวน านๆ ไดไ มเสยี ๒. ข. คาํ วา “กรรมทวาร” เมอื่ แยกบทแลว ไดก บ่ี ท? แตล ะบทหมายถงึ อะไรเม่อื รวมกันแลว หมายความวาอยา งไร ? และกรรมทวารมกี อี่ ยา ง ? คอื อะไรบา ง ? ใหบ อกมาพรอ มความหมาย และองคธ รรม ? 61(2ก), 62(3ก) และมโนทวารเกย่ี วกบั อกศุ ลกรรมนั้นไดแ กจ ติ กด่ี วง? คืออะไรบา ง ? [P070] 50(3ก), 52(ก), 56, 60 ตอบ ข. คาํ วา “กรรมทวาร” เมอื่ แยกบทแลว ได ๒ บท คือ กมมฺ + ทวฺ าร กมมฺ หมายถงึ การกระทํา, ทวฺ าร หมายถงึ เปนเหตใุ หเกิด รวม ๒ บทเขาแลว เปน กมมฺ ทฺวาร ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆไดจ าก ขอความเพ่มิ เตมิ ที่ youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วิถสี ังคหะ, ภูมิจตกุ กะ, ปฏสิ นธิจตุกกะ 40 หมายความวา เปนเหตใุ หเกดิ การกระทํา และกรรมทวาร มี ๓ อยาง คือ ๑) กายทวาร กายเปน เหตใุ หเ กิดการกระทํา ไดแก กายวิญญตั ตริ ปู ๒) วจที วาร วาจาเปน เหตใุ หเ กดิ การกระทํา ไดแ ก วจีวญิ ญตั ตริ ปู ๓) มโนทวาร ใจเปน เหตใุ หเ กดิ การกระทํา ไดแ ก จติ ทง้ั หมด [50(3ก), 52(ก), 56, 60] และมโนทวารเกยี่ วกับอกศุ ลกรรมนั้นไดแกจิต ๑๐ ดวง คือ อกศุ ลจติ ๑๐ (เวนโมหมลู จติ ๒) ขอ ๓ (ทเ่ี คยออกสอบแตละป) ๓. ก. ปจ จยั เปน พเิ ศษที่ทาํ การชว ยอปุ การะแกก ศุ ลทฏิ ฐธมั มเวทนยี กรรม ทเ่ี รยี กวา “สมั ปต ต”ิ นน้ั มีกอ่ี ยา ง ? คืออะไรบา ง ? จงแสดงมาพรอ มความหมาย ? [P047] 58 ๓. ก.คาํ วา สมั ปตติ มกี อี่ ยา ง อะไรบา ง ? [P047] 52 ตอบ ก. ปจจัยเปน พิเศษทีท่ าํ การชว ยอปุ การะแกกุศลทิฏฐธัมมเวทนยี กรรม ท่ีเรียกวา “สมั ปตต”ิ น้นั มี ๔ อยา ง คอื ตอบ ก. คําวา สัมปตติ มี ๔ อยา งคอื ๑. คตสิ มั ปต ติ หมายถึง บุคคลท่ีไดเกิดอยใู นสุคตภิ ูมิ มมี นษุ ย เทวดา และพรหม ๒. กาลสมั ปต ติ หมายถึง สมัยใดที่บุคคลไดอ ยูใ นประเทศ ที่มีพระราชาเปนสมั มาทฏิ ฐบิ คุ คลปกครอง บานเมืองอยู และพระพทุ ธศาสนากย็ ังมีอยู ยงั ไมสญู สิ้นไป ๓. อปุ ธิสมั ปต ติ หมายถงึ บุคคลท่ไี ดเ กิดมาแลว มี อวัยวะใหญน อย คือ ตา หู เปน ตน นน้ั ครบถว น บรบิ รู ณ ไมขาดตกบกพรอ ง ๔. ปโยคสมั ปตติ หมายถึง บุคคลท่อี าศัยความเพยี รถกู และความคดิ ที่ถกู แลวทํากายกรรม วจกี รรม มโนกรรม ท่เี ปน สจุ รติ ไมผดิ กฎหมายของบา นเมอื ง และไมผ ิดหลักธรรมในพระพุทธศาสนา ๓. ก. จงแสดงความแตกตา งกนั ระหวา ง เจตนากบั กรรมโดยยอ มาดู? [P071-72] 48 ตอบ ก. ความแตกตา งกันระหวาง เจตนากับกรรม คือ เจตนาเปนปพุ พภาคธรรม คอื ธรรมทเี่ กิดกอ น กรรมเปนปจ ฉาภาคธรรม คอื ธรรมทีเ่ กดิ ภายหลงั เจตนา น้เี ปน การแสดงโดยอเภทกนยั คือไมไ ดแ สดง แยกประเภท ดงั น้ันทา นพระมหาพทุ ธโฆษาจารยจ งึ ไดแ สดงไวอ บุ าลีสตู ร แหงมชั ฌมิ ปณณาสกอรรถกถาวา “กสฺมา เจตนา กมมฺ นฺติ วตุ ตฺ า เจตนา มลู กตตฺ า กมมฺ สสฺ ” เพราะเหตุใดพระผมู ีพระภาคเจา ทรงกลาววา เจตนาชอื่ วากรรม ก็เพราะการกระทําทีส่ าํ เร็จลงน้นั มเี จตนาเปน มูล” ๓. ก. ปาณาติบาต ทกี่ า วลว งกรรมบถไดน ้ัน จะตอ งมอี งคป ระกอบอยา งละเทา ไร ? อะไรบา ง ? ใหบ อกมาพรอ มความหมาย ? [P076] 48, 54, 57 ๒. ค. การกระทาํ ปาณาติบาตทีเ่ ปนการกา วลวงกรรมบถนนั้ จะตอ งประกอบดว ย องคก อ่ี ยา ง ? คอื อะไรบา ง ? 59 ตอบ ก. การกาวลวงกรรมบถ ของปาณาติบาตนัน้ ตอ งประกอบดว ยองค ๕ คือ ๑. ปาโณ สัตวมีชวี ติ ๔. ปโยโค ทําความเพียรเพอื่ ใหต าย ๒. ปาณสฺ ต า รูว าสตั วนน้ั มชี ีวติ ๕. เตน มรณํ สตั วน ั้นตายลงดว ยความเพยี รนนั้ ดาวนโ หลดขอมูลตางๆไดจาก ขอความเพมิ่ เตมิ ท่ี youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วิถีสังคหะ, ภมู ิจตุกกะ, ปฏสิ นธิจตกุ กะ 41 ๓. วธกจติ ตฺ ํ มจี ติ คิดจะฆา ๔. ข. คาํ วา อทนิ นาทาน น้ี เมอื่ แยกบทแลว ไดก ีบ่ ท ? คอื อะไรบา ง ? แตล ะบทหมายความวา อยา งไร ? และเม่อื รวมกนั แลว แปลวา อยา งไร ? ไดแกอ ะไร ? [P092] 59 ตอบ ข. คําวา อทนิ นาทาน น้ี เมื่อแยกบทแลว ได ๓ บท คอื อ + ทนิ ฺน + อาทาน อ เปน คําปฏเิ สธ ทนิ ฺน = วตั ถุสิง่ ของที่เจา ของอนุญาตให อาทาน = ยดึ ถอื เอา เมื่อรวมกันแลวเปน อทินนาทาน แปลวา ยึดถอื เอาวตั ถสุ งิ่ ของทเ่ี จา ของไมไดอ นุญาตใหห รือที่เจาของหวงแหนไดแ ก เถยยเจตนา คอื เจตนาทเ่ี ปนเหตแุ หง การลักทรพั ย ๓. ข. การทําอกศุ ลชนิดอทินนาทาน ทเ่ี ปนการกา วลว งกรรมบถนนั้ ตอ งประกอบดว ยองคเทา ไร ? คืออะไรบา ง ? จง แสดงมาพรอ มองคป โยคะ ? [P093] 51(ก), 54, 58(4ข), 60(5ข) ตอบ ข. การทําอทนิ นาทาน ท่ีกาวลว งกรรมบถนน้ั ตองประกอบดวย องค 5 คอื 1. ปรปริคคฺ หติ ํ วัตถสุ ง่ิ ของทเ่ี จา ของเกบ็ รักษาไว 2. ปรปริคฺคหติ สฺ ตา รวู าวัตถสุ ิ่งของน้นั มเี จาของเก็บรกั ษาไว 3. เถยยฺ จติ ตํ มจี ิตคิดจะลัก 4. ปโยโค ทําความเพียรเพอื่ ลัก 5. อวหาโร ไดสง่ิ ของน้ันมาดว ยความเพียรนนั้ ๓. ข. การดมื่ สรุ าเมรยั น้ัน อนโุ ลมเขา ในอกุศลกรรมบถขอ ใดไดเ พราะเหตุใด ? และการดมื่ สรุ านกี้ ระทาํ ใหส าํ เร็จกจิ ไดกอี่ ยา ง ? คอื อะไรบา ง ? [P120, 122] 50 ตอบ ข. การดื่มสุราเมรยั นัน้ อนุโลมเขา ในกาเมสมุ ิจฉาจาร เพราะมีสภาพเหมอื นกับกาเมสุมิจฉาจาร และอนุโลมเขา ในอกศุ ลกรรมบถ ๑๐ ดวย เพราะเปนการชวยอปุ การะใหอ กศุ ลกรรมบถ ๑๐ สาํ เร็จลง และการด่มื สรุ านีก้ ระทาํ ใหสําเร็จกิจได ๒ อยา ง คอื ๑) ปฏิสนธชิ นนกจิ กิจทท่ี ําใหเ กิดในนิรยภูมิ ๒) กัมมชนนกจิ กิจทที่ ําใหก ารกระทาํ ทุจรติ สาํ เรจ็ ลง ๓. ข. วาจามกี อี่ ยา ง ไดแกอ ะไรบา ง ? [P131-] 55, 61(4) ตอบ ข. วาจามี ๔ อยาง คอื ๑. สทั ทวาจา ไดแก เสยี งทพี่ ดู ข้นึ ๒. วริ ตวี าจา ไดแ ก การเวนจากวจที จุ ริต ๓. เจตนาวาจา ไดแก เจตนาทท่ี ําใหว จีวิญญัตริ ปู เกดิ ๔. โจปนวาจา ไดแ ก กริ ยิ าอาการพเิ ศษทเ่ี ปนไปอยูใ นคาํ พูดซ่งึ สามารถทาํ ให ผฟู ง รตู ามความประสงคของตนได ๓. ข. วจที จุ ริต มเี ทา ไร ? อะไรบา ง ? แสดงพรอ มคาํ แปล ? [P131-] 51 ตอบ ข. มี ๔ คือ ๑. มสุ าวาท คําพดู ทไ่ี มตรงกับความเปนจริง ๒. ปส ณุ วาจา คาํ พดู ที่บดความสามัคคใี หแตกแยกกระจัดกระจาย ดาวนโ หลดขอ มลู ตา งๆไดจ าก ขอความเพ่มิ เตมิ ที่ youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วิถีสงั คหะ, ภูมิจตุกกะ, ปฏิสนธิจตกุ กะ 42 ๓. ผรสุ วาจา คาํ พูดทหี่ ยาบ ไดแก การดา การแชง ๔. สมั ผปั ปลาปะ การกลา ววาจาทีท่ าํ ลายประโยชนแ ละความสขุ ๔. ก. องคแ หงมสุ าวาท มกี อี่ ยาง ๆ คืออะไรบา ง ? [P132] 47 ตอบ ก. องคแ หง มุสาวาทมี ๔ อยา ง คอื ๑. อตถวตถฺ ุ สิ่งของหรอื เร่ืองราวที่ไมจ รงิ อยา งหน่งึ ๒. วิสวํ าทนจติ ตฺ ตา มจี ิตคดิ จะมสุ าอยา งหนง่ึ ๓. ปโยโค พยายามมสุ าดวยกายหรือวาจาตามความประสงคของตนอยางหนึง่ ๔. ตทตถฺ วชิ านนํ ผอู ืน่ มีความเชื่อตามเนือ้ ความที่มุสานั้น ๔. ข. ปโยคะ คอื ความพยายามในการมสุ า มกี อ่ี ยา ง อะไรบา ง ? [P132] 50, 52(3ข) ตอบ ข. ปโยคะ คือ ความพยายามในการมสุ าน้ี มี ๔ อยาง คอื ๑. สาหตั ถิกะ พยายามมุสาดว ยตนเอง ๒. อาณตั ตกิ ะ ใชใ หคนอน่ื มสุ า ๓. นสิ สคั คยิ ะ เขียนเรื่องท่ไี มจรงิ แลว ท้ิงไปใหค นอนื่ เขาใจผดิ เชน ทงิ้ จดหมาย หรอื โฆษณาทางวทิ ยุ ๔. ถาวระ เขยี นเรอื่ งท่ไี มจ ริง แลว ปดประกาศไวหรอื จารกึ ไว หรอื พิมพเ ปน ตัวหนงั สือขนึ้ หรอื อัดเสยี งไว ๓. จงแสดงสมฏุ ฐานทเ่ี ปน เหตใุ หเ กิดอกศุ ลกรรมบถ ๑๐ มาทง้ั บาลี และคาํ แปล ? [P003, 167] 49, 53 ตอบ แสดงสมุฏฐานทเี่ ปนเหตใุ หเ กิดอกศุ ลกรรมบถ ๑๐ - เตสุ ปาณาตปิ าโต ผรสุ วาจา พยฺ าปาโท จ โทสมเู ลน ชายนตฺ ิ ฯ ในอกุศลกรรมบถ ๑๐ นั้น ปาณาตบิ าต ๑ ผรสุ วาท ๑ พยาบาท ๑ กรรมทง้ั ๓ น้ี เกิดขึน้ เพราะโทสมลู จิต - กาเมสุมจิ ฉฺ าจาโร อภิชฌฺ า มจิ ฉฺ าทฏิ   จ โลภมเู ลน ฯ กาเมสุมจิ ฉาจาร ๑ อภชิ ฌา ๑ มิจฉาทฎิ ฐิ ๑ กรรมทง้ั ๓ น้ยี อมเกดิ ขน้ึ เพราะโลภมูลจิต - เสสานิ จตตฺ ารปิ  ทฺวหี ิ มเู ลหิ สมฺภวนฺติ ฯ อกุศลกรรมบถท่ีเหลืออีก ๔ คอื อทินนาทาน ๑ มุสาวาท ๑ ปส ุณวาจา ๑ สัมผัปปลาปะ ๑ ยอมเกดิ ขึ้นเพราะโลภมลู จติ หรือ โทสมลู จิต ขอ ๔ (ท่ีเคยออกสอบแตละป) ๔. ก. จงแสดงการเกดิ ขน้ึ ของทจุ รติ ตางๆ โดยอาศยั มโนทจุ รติ เปน เหตุ ? [P161] 51, 62(3ข) ตอบ ก. แสดงการเกดิ ขึ้นของทุจรติ ตา งๆ โดยอาศัยมโนทจุ รติ เปนเหตุ อภชิ ฌา เปนตนเหตใุ ห อทนิ นาทาน กาเมสุมิจฉาจาร มสุ าวาท ปส ณุ วาจา สัมผัปปลาปะ มจิ ฉาทฏิ ฐิ เกดิ ขนึ้ ได พยาบาท เปน ตน เหตใุ ห ปาณาตบิ าต อทนิ นาทาน มุสาวาท ปส ณุ วาจา สัมผปั ปลาปะเกดิ ขึน้ ได มจิ ฉาทฏิ ฐิ เปน ตนเหตุใหทุจริตทง้ั ๑๐ ขอ เกดิ ข้นึ ได ๔. ข. อกศุ ลกรรมนเ้ี มอื่ วา โดยอํานาจแหง การเกดิ ขน้ึ ของจติ แลว มเี ทา ไร อะไรบา ง ? 51 ตอบ ข. อกุศลกรรมนน้ั เมอ่ื วาโดยอํานาจแหง การเกดิ ข้ึนของจติ แลว แมโดยประการใดกต็ ามยอ มมี ๑๒ ดาวนโหลดขอมลู ตางๆไดจ าก ขอความเพิ่มเติมที่ youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วิถีสงั คหะ, ภูมิจตุกกะ, ปฏสิ นธจิ ตุกกะ 43 กลา วคือ ธรรมทเ่ี ปนตน เหตุใหเกดิ ทุจริตไดนนั้ กไ็ ดแกจิต 12 ดวง เทานัน้ คือ จิตท่มี โี ลภะเปน ประธาน มี ๘ ดวง ชอื่ วา โลภมลู จติ จติ ท่มี โี ทสะเปนประธาน มี ๒ ดวง ช่อื วา โทสมูลจิต จติ ท่มี โี มหะเปนประธาน มี ๒ ดวง ชือ่ วา โมหมลู จิต ไมวาจะเปนอกุศลกรรมชนิดใดก็ตาม ก็ยอมไมพนไปจากอกุศลจิตตปุ บาท ๑๒ ดวงน้ี ๔. กามาวจรกศุ ลกรรม เมอ่ื วา โดยทวารแลว มเี ทา ไหร คอื อะไรบาง ? และแตล ะทวารไดแ กอ ะไรบา ง จงแสดงมาพรอ มความหมาย (ไมต อ งแสดงโดยพสิ ดาร) ? [P2-3, 172] 52, 59(3), 61(3) , 63(3) ตอบ กามาวจรกศุ ลกรรม เม่ือวาโดยทวารแลว มี ๓ อยาง คอื ๑. กายกรรม ท่ีเกิดในกายทวาร ๒. วจกี รรม ทีเ่ กดิ ในวจที วาร ๓. มโนกรรม ทเ่ี กิดในมโนทวาร กามาวจรกุศลกรรม ในแตละทวารมดี งั นี้ กายกรรม มี ๓ ไดแ ก ๑. ปาณาตปิ าตวริ ติ เวน จากการฆาสตั ว ๒. อทนิ นาทานวิรติ เวนจากการลกั ทรัพย ๓. กาเมสมุ จิ ฉาจารวริ ติ เวนจากการผดิ กาเม วจกี รรม มี ๔ ไดแ ก ๑. มสุ าวาทวริ ติ เวน จากการกลา วคาํ เท็จ ๒. ปส ณุ วาจาวิรติ เวน จากการกลาววาจาสอ เสียด ๓. ผรสุ วาจาวริ ติ เวน จากการกลาววาจาหยาบรา ย ๔. สมั ผปั ปลาปวริ ติ เวนจากการกลา ววาจาท่ไี มเ ปนประโยชน มโนกรรม มี ๓ ไดแก ๑. อนภชิ ฌา มกี ารสังวรเพอื่ ไมใ หอภิชฌาเกิด ๒. อพยาบาท มกี ารสงั วรเพ่ือไมใ หพ ยาบาทเกดิ ๓. สมั มาทฏิ ฐิ มีความเห็นถกู ตอง ๔. ค. กามาวจรกุศลกรรม หรอื กุศลกรรมบถ ๑๐ หรอื สจุ รติ ๑๐ เม่ือนบั โดยพสิ ดารแลวมี ๓๐ นน้ั มวี ธิ ีนบั อยางไร ? [P173] 60 ตอบ ค. นับโดยพิสดารนัน้ คือ การกระทําสุจรติ อยางหนง่ึ ๆ จะตองประกอบดวยเจตนา ทงั้ ๓ คอื ๑. ปพุ พเจตนา เจตนาทีเ่ กิดกอนกระทาํ ๒. มญุ จเจตนา เจตนาทเ่ี กิดข้นึ ในขณะกระทาํ ๓. อปรเจตนา เจตนาทีเ่ กิดข้ึนในเมอื่ กระทาํ ไปแลว ฉะนั้น สจุ รติ ๑๐ คูณดว ย เจตนา ๓ จงึ เปน สจุ ริต ๓๐ ๔. ก. จงแสดงองคธ รรมของกามาวจรกศุ ลกรรม ๑๐ ? [P173] 55 ๘ ม.ค. ๖๔ ตอบ ก. แสดงองคธรรมของกามาวจรกศุ ลกรรม ๑๐ ดังนี้ กายกรรม ๓ หรือ กายสจุ รติ ๓ องคธ รรมไดแ ก สมั มากัมมันตเจตสิก และ สมั มาอาชวี เจตสกิ วจกี รรม ๔ หรือ วจีสจุ รติ ๔ องคธ รรมไดแก สมั มาวาจาเจตสกิ และ สัมมาอาชีวเจตสิก มโนกรรม ๓ หรอื มโนสจุ รติ ๓ ประกอบดว ย อนภิชฌา องคธรรมไดแก อโลภเจตสกิ ดาวนโหลดขอ มูลตา งๆไดจ าก ขอ ความเพม่ิ เติมที่ youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว)

วิถีสงั คหะ, ภมู ิจตุกกะ, ปฏิสนธจิ ตกุ กะ 44 อพยาบาท องคธรรมไดแ ก อโทสเจตสิก สัมมาทฏิ ฐิ องคธรรมไดแ ก ปญ ญาเจตสกิ ๔. ก. คําวา บญุ กริ ยิ าวัตถุ เมอื่ แยกบทแลว ไดก บี่ ท ? คอื อะไรบา ง ? แตล ะบทหมายความวา อยา งไร ? ใหแสดงวจนตั ถะของคาํ วา “ปุญญะ” มาทงั้ บาลแี ละคาํ แปล ? [P179] 47, 53, 54, 56(3ก), 57 (52ส), 63 ตอบ ก. บญุ กริ ยิ าวตั ถุ น้เี ปน ภาษาบาลี แปลวา ความดที คี่ วรทําเพราะเปน เหตเุ ปนทีต่ ้ังแหง ผลดีเกดิ ขน้ึ เมอ่ื แยกบทแลวได ๓ บท คอื ปุ ฺ + กรฺ ยิ + วตถฺ ุ ปุ ฺ หมายความวา การงานท่ดี ีทีส่ ําหรบั ชาํ ระความเศราหมอง เรา รอ น กรฺ ยิ หมายความวา ควรทาํ วตถฺ ุ หมายความวา เปนเหตุเปน ท่ตี งั้ แหง ผลดี ดังมีวจนัตถะ แสดงวา “อตตฺ โน สนตฺ านํ ปนุ าติ โสเธตตี ิ ปุ ฺ ” การกระทาํ ใดยอ มชําระสันดานของตนให สะอาด ฉะน้ัน การกระทาํ น้นั ช่ือวา ปญุ ญะ” (58) ไดแ ก การบรจิ าคทาน รักษาศลี เจริญภาวนา เปน ตน ๓. ข. คาํ วา บญุ กริ ยิ าวตั ถนุ ้ี (เปน ภาษาบาล)ี แปลวาอยา งไร ? มเี ทา ไร ? คืออะไรบา ง ? จงบอกมาโดยลาํ ดบั พรอ มความหมาย ? [P004] 53, 56 (50ส), 60, 62(4), 63(4) ตอบ ข. คาํ วา บญุ กริ ยิ าวตั ถุ แปลวา ความดที ค่ี วรทําเพราะเปน เหตุ เปนท่ีตัง้ แหง ผลดีเกดิ ขึ้น มี ๑๐ อยาง คือ ๑. ทาน การใหท าน ๒. ศีล การรักษาศีล ๓. ภาวนา การเจรญิ สมถะ วิปส สนา ๔. อปจายนะ การประพฤตอิ อนนอ มดว ยกาย หรอื ดวยวาจาแกผ ูม คี ณุ วุฒิ และวยั วฒุ ิ ๕. เวยยาวจั จะ การปฏบิ ตั ิการงานชว ยเหลือแกบคุ คลหรือสถานทีท่ ่สี มควร ๖. ปต ตทิ าน การแผสวนบุญ ๗. ปต ตานโุ มทนา การอนุโมทนาในสว นบญุ ๘. ธมั มสั สวนะ การฟงธรรม ๙. ธมั มเทศนา การแสดงธรรม ๑๐. ทฏิ ชุ ุกรรม การทําความเหน็ ใหตรง ๔. ข. ทานใน ปญุ ญกริ ิยาวตั ถุ ทา นแสดงไวห ลายหมวด แตอ ยากทราบวา ววิ ฏฏ นสิ สฺ ติ ทาน วฏฏ นสิ สฺ ติ ทาน หมายความวาอยางไร ? และทานประเภทไหน จดั เปนบารมี อยา งไหนเปน ทานสามญั ? [P184] 57 ตอบ ข. ววิ ฎฎ นสิ สฺ ิตทาน การทาํ บญุ ที่ไมมคี วามปรารถนา ในโภคสมบัติ และภวสมบัติ ปรารถนาแตสมั มา สมั โพธญิ าณ ปจ เจกโพธิญาณ อัครสาวกโพธญิ าณ มหาสาวกโพธญิ าณ และปกตสิ าวก โพธญิ าณ อยา งใดอยางหนงึ่ เทานัน้ วฏฏ นสิ สฺ ติ ทาน การทําบุญดว ยความปรารถนาในโภคสมบัติ คอื ปรารถนาใหรํา่ รวยเปนเศรษฐี มหา เศรษฐี และปรารถนาภวสมบตั ิ คอื ตอ งการใหเกดิ เปนมนษุ ย เปนเทวดา เปน พรหม วัฏฏนสิ สติ ทาน ไมเรยี กวา ทานบารมี เปนทานกุศลสามัญ เมอื่ เวลาสง ผลก็ใหม ีความสขุ เพียงแคมนษุ ย ดาวนโหลดขอ มลู ตา งๆไดจ าก ขอ ความเพ่ิมเติมที่ youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วิถีสังคหะ, ภูมิจตกุ กะ, ปฏสิ นธิจตกุ กะ 45 เทวดาเทา นั้น มอิ าจทจี่ ะชว ยใหถึง มรรค ผล โดยเร็วได สว นวิวฏฏ นสิ สฺ ิตทาน เรยี กวา ทานบารมี เมื่อเวลาสงผล ก็สง ผลใหเสวยความสขุ ในมนุษย และเทวดา และ สามารถใหถ งึ มรรค ผล นิพพานไดโดยเรว็ ๔. ข. ศลี มกี ป่ี ระเภท ? ไดแกอ ะไรบา ง ? จงแสดงมาใหค รบถวน ? [P193] 55, 59(5ก) ตอบ ข. ศลี มี ๔ ประเภท คอื ๑. ภกิ ขศุ ลี ไดแ ก สกิ ขาบท ๒๒๗ ทแี่ สดงไวในภิกขุปาฏโิ มกข ๒. ภกิ ขณุ ีศลี ไดแก สกิ ขาบท ๓๑๑ ที่แสดงไวในภกิ ขุณีปาฏโิ มกข ๓. สามเณรศลี ไดแก สกิ ขาบท ๑๐ มปี าณาตปิ าตาเวรมณี เปน ตน จนถงึ ชาตรปู รชตปฏิคคหณาเวรมณี เปนท่ีสดุ และเสขยี สิกขาบท ๗๕ ๔. คฤหัสถศลี ไดแ ก สกิ ขาบท ๕ ขอ คอื ปญจศลี ๔. ก. อปจายนะมกี อ่ี ยา ง ? คอื อะไรบา ง ? จงแสดงโดยละเอยี ด ? [P208] 47, 49 ข. บคุ คลที่ควรเคารพนอบนบนน้ั มอี ยกู ปี่ ระเภท ? คอื อะไรบา ง ? [P209] 47, 49 ตอบ ก. อปจายนะมี ๒ อยา ง คอื ๑. สามัญญอปจายนะ ๒. วเิ สสอปจายนะ ๑. สามญั ญอปจายนะ คือ การแสดงความเคารพนอบนบออ นนอ มตอ บดิ า มารดา ปู ยา ตา ยาย ครอู าจารย โดยมาระลึกนกึ วาเรามีหนาทท่ี จ่ี ะตอ งทาํ การเคารพนอบนบแดท า นเหลา น้ี เพราะ ทา นเปน ญาตผิ ใู หญและครูอาจารยข องเรา ๒. วเิ สสอปจายนะ คือ การแสดงความเคารพนอบนบออ นนอ มในพระรตั นตรัย ดวยการระลึกนึกถงึ พระคณุ ตา ง ๆ มอี รหํ เปนตน ดว ยอํานาจแหงมหากศุ ลจิตทปี่ ระกอบดว ยศรทั ธา ปญญา โดยเปลงวาจาวา พทุ ธฺ ํ สรณํ คจฺฉามิ เปนตน ข. บุคคลท่คี วรเคารพนอบนบนัน้ มอี ยู ๓ ประเภท คือ ๑. คุณวฒุ บิ คุ คล เปนผูใหญดวยอาํ นาจแหงศลี คณุ สมาธิคณุ ปญญาคุณ ๒. วยั วฒุ ิบคุ คล เปนผูใหญดว ยอํานาจแหงอายุ ๓. ชาตวิ ฒุ บิ ุคคล เปนผใู หญดวยอํานาจแหงวงศสกุล ๔. ค. จงสรปุ บญุ กริ ยิ าวตั ถุ ๑๐ ลงในทาน ศลี ภาวนา ? [P224] 48, 55, 59(5ข) ตอบ ค. ในบญุ กิริยาวตั ถุ ๑๐ ประการน้นั ปต ตทิ านและปต ตานโุ มทนะ ๒ อยางนี้ นับสงเคราะหเ ขาในทานกศุ ล ชื่อวา ทานมยั อยา งหน่ึง อปจยนะและเวยยาวจั จะ ๒ อยางนี้ นับสงเคราะหเ ขา ในศลี กศุ ล ชอ่ื วาศลี มยั อยา งหน่ึง ธัมมสวนะ ธมั มเทศนา และ ทิฎชุ กุ ัมมะ ๓ อยางนี้ นบั สงเคราะหเ ขาในภาวนากุศล ชือ่ วา ภาวนามยั อยา งหนึง่ บญุ กริ ิยาวัตถุ ๑๐ สรปุ ลงเปน ๓ ดว ยประการฉะนี้ ขอ ๕ (ท่เี คยออกสอบแตล ะป) ๕. ก. ธรรมทเี่ ปน ปจ จยั ของ กมั มสกตาญาณ นมี้ อี ยกู ป่ี ระการ ? คืออะไรบา ง ? 48(2ข), 49(1ข), 52(2ข), 57(3ข) ดาวนโ หลดขอมลู ตา งๆไดจาก ขอความเพมิ่ เตมิ ท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วถิ สี งั คหะ, ภมู จิ ตกุ กะ, ปฏสิ นธิจตุกกะ 46 พรอ มแสดงความหมาย ? [P219] 54(4ข), 58 /55ส, 63(ข) ตอบ ก. / ข. ธรรมทเ่ี ปน ปจ จัยของ กัมมัสสกตาญาณนี้ มีอยู ๓ ประการ คือ ๑. สตุ มยปญ ญา ปญญาท่เี กดิ จากการศกึ ษาเลา เรยี น เปน เหตเุ ปนปจจยั ใหเกดิ กมั มสั สกตาญาณ ๒. จนิ ตามยปญ ญา ปญญาท่เี กดิ จากการคดิ นึกพิจารณาในความเปนอยูข องสตั วท ้งั หลายโดยความมโี รค ไมม ีโรค ความฉลาด ความโง สขุ ทกุ ข อายยุ ืน อายสุ น้ั ยากจนมัง่ มี เหลาน้เี ปน ตน เปน เหตเุ ปน ปจ จยั ใหเ กดิ กมั มสั สกตาญาณ ๓. ภาวนามยปญ ญา ปญญาที่เกดิ จากการเจรญิ วปิ ส สนา เปน เหตุเปน ปจจยั ใหเกดิ กมั มสั สกตาญาณ ๕. ข. ทรพั ยทีพ่ ึงฝากไว ในขนั ธสันดานของตน เพอื่ จะไดเปน เสบยี งเขา สพู ระนิพพานทไี่ ดช อ่ื วา อปุ นธิ ภิ ณั ฑ มเี ทา ไร? คอื อะไรบา ง? 60(4ข) ใหแ สดงรายละเอียดเฉพาะบารมี ? [P227-] 58, 47ส ตอบ ข. ทรัพยท ี่พึงฝากไวในขันธสนั ดานของตน เพือ่ จะไดเ ปน เสบียงเขา สูพ ระนิพพานที่ได ชื่อวา อปุ นธิ ภิ ณั ฑ มี ๙๐ คอื สจุ รติ ๓๐ บุญกิรยิ าวตั ถุ ๓๐ และบารมี ๓๐ รวมเปน ๙๐ อธบิ ายเฉพาะบารมี ๓๐ ไดแก หีนบารมี ๑๐ มชั ฌมิ บารมี ๑๐ ปณีตบารมี ๑๐ รวมเปน ๓๐ บารมีที่สําเรจ็ ดว ยฉันทะ วริ ิยะ จิต ปญญา ที่มกี ําลังออ น ชื่อวา หนี บารมี บารมที สี่ าํ เรจ็ ดวยฉนั ทะ วริ ยิ ะ จิต ปญ ญา ทม่ี ีกาํ ลงั แกกลา พอประมาณ ชอื่ วา มชั ฌิมบารมี บารมีทีส่ ําเรจ็ ดว ยฉันทะ วริ ยิ ะ จิต ปญ ญา ที่มีกําลังแกก ลา อยา งสงู สุด ชื่อวา ปณีตบารมี ๕. ก. อปุ นิธภิ ณั ฑ คอื อะไร ? และมอี ยูกปี่ ระการ ? คืออะไรบา ง ? [P227] 57 ตอบ ก. อุปนธิ ิภณั ฑ คอื ทรพั ยท พี่ ึงฝากไวในขนั ธสนั ดานของตนเพอ่ื จะไดเ ปนเสบียงเขา สูพ ระนพิ พาน และมอี ยู ๙๐ ประการ คอื สจุ รติ ๓๐ บุญญกรยิ าวตั ถุ ๓๐ และ บารมี ๓๐ รวมเปน ๙๐ ๔. จงจาํ แนกตเิ หตกุ กศุ ล และทวเิ หตกุ กศุ ล โดยอกุ กัฏฐและโอมกะ และจําแนกอกุ กฏั ฐกศุ ล และโอมกกุศล โดยอปราปรเจตนามาตามลาํ ดบั ? [P240] 48, 53 ๕. ข. เมอื่ จะจาํ แนกตเิ หตกุ อกุ กฎั ฐกศุ ล และโอมกกศุ ล ทวเิ หตกุ อกุ กฏั ฐกศุ ล และโอมกกุศล ๔ อยา งน้ี โดยอปราปรเจตนาแลว มีเทา ไร ? คอื อะไรบา ง ? [P242] 57 ตอบ จําแนกติเหตุกกศุ ล และทวเิ หตุกกุศล โดยอุกกัฏฐและโอมกะ ไดจาํ แนกออกอยา งละ ๒ คือ ติเหตุกกศุ ล ชนิดอุกกฏั ฐะ คอื ช้ันสงู อยา งหนึง่ ตเิ หตุกกุศล ชนดิ โอมกะ คอื ช้นั ต่าํ อยางหนึง่ ทวิเหตุกกศุ ล ชนิดอุกกฏั ฐะ คือชน้ั สงู อยางหนง่ึ ทวิเหตุกกศุ ล ชนดิ โอมกะ คือช้ันตํา่ อยา งหน่ึง จาํ แนกติเหตกุ กุศลอุกกฏั ฐและโอมกะกศุ ล ทวเิ หตกุ กศุ ล อุกกัฏฐและโอมกะกุศล ทั้ง ๔ น้ี เมอื่ จําแนกโดย อปราปรเจตนาแลว ยอ มมี ๘ คือ ....... ตอบ (57) ข. จาํ แนกติเหตุกอุกกฎั ฐกุศล และโอมกกศุ ล ทวิเหตุกอุกกฏั ฐกุศล และโอมกกุศล โดยอปราปรเจตนาแลว มี ๘ คือ ๑. ตเิ หตกุ อกุ กัฏุกกัฏฐกุศล ๒. ตเิ หตกุ อุกกัฏโฐมกกศุ ล ๓. ตเิ หตุกโอมกุกกัฏฐกุศล ๔. ตเิ หตุกโอมโกมกกุศล ดาวนโหลดขอมูลตางๆไดจ าก ขอ ความเพิม่ เตมิ ที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วถิ ีสงั คหะ, ภูมิจตกุ กะ, ปฏิสนธิจตกุ กะ 47 ๕. ทวิเหตุกอุกกัฏุกกัฏฐกศุ ล ๖. ทวิเหตกุ อุกกัฏโฐมกกศุ ล ๗. ทวเิ หตกุ โอมกกุ กัฏฐกุศล ๘. ทวิเหตุกโอมโกมกกุศล ขอ ๖ (ที่เคยออกสอบแตละป) ๖. ก. คาํ วา กรรมนมิ ติ หมายความวา อยา งไร ? มกี อ่ี ยา ง/ชนดิ ไดแ ก/คอื อะไรบา ง ? 49, 51, 54, 56(4ก), 60(7), 61(7), 62(5ก) พรอมจําแนกฝา ยอกศุ ล ปาณาตบิ าตมาใหด ู ? 58 ๗. คาํ วา กรรมนมิ ติ หมายความวา อยา งไร ? มกี อี่ ยา ง ? คืออะไรบา ง ? พรอ มทง้ั ยกขอ อปุ มาเปรยี บเทียบมาใหเ หน็ สกั หนงึ่ อยา งดว ย? 48 (ฝา ยกศุ ล) ? 47(6) (ฝา ยกศุ ล หรอื อกศุ ลก็ได) ? 50 ตอบ ก. คําวา กรรมนิมติ หมายความวา อารมณท ่เี ปนเหตุของการกระทํา หรอื เครอ่ื งหมายของกรรม มี ๒ ชนดิ คอื ๑. อปุ ลทั ธกรรมนิมิต ๒. อุปกรณกรรมนมิ ติ ๑. อปุ ลทั ธกรรมนมิ ิต ไดแก อารมณ ๖ ทตี่ นไดประสบพบเห็นเปนประธานในขณะทีก่ ระทาํ ๒. อุปกรณกรรมนมิ ติ ไดแ ก อารมณ ๖ ทตี่ นไดประสบพบเห็น แตมใิ ชเ ปนประธาน เพียงแตเ ปน เคร่อื ง อุดหนนุ ประกอบในขณะทกี่ ระทาํ (47, 48, 50) อุปมาเปรยี บเทยี บฝา ยกศุ ลเกีย่ วกบั ทานการเลยี้ งพระ ใสบ าตร ทอดกฐนิ สรางสถานท่ีศกึ ษาวดั วา อารามนั้น อาหารหวานคาว ภกิ ษุสามเณร เปน อปุ ลทั ธกรรมนิมติ , พระพทุ ธรปู ดอกไม ธูปเทยี น ถว ยชาม เสอ่ื สาด อาสนะ โตะ เกา อี้ พรอมดว ยผทู ่ีชว ยเหลอื ขนั ถาด เปน ตน เปนอุปกรณกรรมนิมติ ดังนี้ (58) ฝา ยอกุศล ปาณาติบาต สัตวท ี่ถูกฆา ถูกตี กริ ยิ าอาการของตนเปนอปุ ลทั ธกรรมนิมติ , สถานที่ เครอื่ งใชต างๆ ที่เกย่ี วกับการฆา หนงั กระดูก เนอื้ เปนตน เปนอุปกรณกรรมนิมิต ๖. ข. คาํ วา คตนิ มิ ติ หมายความวา อยา งไร ? มกี อ่ี ยา ง คอื อะไรบา ง ? 51, 54, 56(4ข), 60(7), 62(5ข), 63(7ข) จาํ แนกผจู ะไปเกดิ ในเทวโลกมาใหดู ? 58 พรอ มทง้ั ยกขอ อปุ มาเปรยี บ-เทยี บมาใหเ หน็ สกั หนง่ึ อยา ง (อปุ มาฝา ยกุศล) ? 53(7) ตอบ ข. คําวา คตนิ มิ ติ หมายความวา อารมณข องภพชาตทิ ่จี ะพึงถงึ กลา วคอื อารมณท ่ีจะไดพ บไดเ สวยใน ภพทสี่ อง ชือ่ วา คตินมิ ติ มี ๒ อยา ง คอื ๑. อปุ ลภิตพั พคตินิมิต ๒. อุปโภคภตู คตินิมติ ๑. อปุ ลภติ พั พคตนิ มิ ติ หมายความวา อารมณ ๖ ของภพชาติทจี่ ะพงึ พบเหน็ ๒. อุปโภคภตู คตินมิ ติ หมายความวา อารมณ ๖ ของภพชาตทิ จ่ี ะพึงไดเสวย (53) อปุ มาเปรยี บเทียบฝายกุศล เชน (58) ถา ผูนั้นจะไปเกดิ ในเทวโลก เห็นราชรถ วิมาน เทพบตุ ร เทพธดิ า เคร่ืองประดบั สวน สระเหลาน้ี เปน อปุ ลภติ ัพพคตนิ มิ ิต ถารูสกึ วาตนเองไดนั่งไปในราชรถกด็ ี กาํ ลงั เทย่ี วไปในสถานท่ีตางๆ ดว ยความสนกุ สนานเบิกบานใจ บรโิ ภคสทุ ธาโภชนรวมดว ยเทพบุตรเทพธิดา สวมใสเ ครอื่ งทิพยอาภรณก ็ดเี หลา นี้ เปน อุปโภคภูตคตินมิ ติ ๖. นมิ ติ ทีป่ รากฏแกบ คุ คลทจี่ ะเกดิ ในกามภมู ิ รูปภูมิ ๑๕ (เวน อสญั ญสัตตภูมิ) อสัญญสตั ตภมู ิ และอรปู ภมู โิ ดยเฉพาะๆ แตล ะประเภทของภมู นิ นั้ มกี อี่ ยางคอื อะไรบา ง ? และนมิ ติ น้ันๆ เปน ธรรมประเภทไหน ? 50, 52, 55, 59(7) ตอบ นมิ ติ ทปี่ รากฏแกบุคคลที่จะเกิดในกามภมู ิ มีนมิ ติ ๓ อยา ง คอื กรรมอารมณ กรรมนิมติ อารมณ คตินิมติ อารมณ และนิมิตทง้ั ๓ นเี้ ปน กามธรรมอยา งเดยี ว ดาวนโ หลดขอ มลู ตา งๆไดจ าก ขอ ความเพ่มิ เติมท่ี youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วิถสี ังคหะ, ภูมจิ ตกุ กะ, ปฏสิ นธิจตุกกะ 48 © บคุ คลที่จะเกดิ ในรปู ภมู ิ ๑๕ (เวนอสัญญสัตตภูมิ) มีนมิ ติ อยางเดยี ว คือ กรรมนิมติ อารมณ และนมิ ิตน้ันเปน บญั ญัตธิ รรมารมณ ©บุคคลท่ีจะเกิดในอสัญญสตั ตภมู ิ มนี มิ ิตอยา งเดยี ว คอื กรรมนมิ ติ อารมณ และนิมติ นนั้ เปนบญั ญัติ ธรรมารมณ © บุคคลทจี่ ะเกิดในอรูปภูมิ มีนมิ ิตอยา งเดยี ว คอื กรรมนมิ ติ อารมณและกรรมนมิ ิตนั้น แบงออกเปน ๒ ประการ คอื มหัคคตกรรมนิมิต และบัญญัตกิ รรมนมิ ิต ตามสมควรแกภมู ิ ๗. ก. จงบอกอารมณข องกามปฏสิ นธิ, รปู ปฏสิ นธิ, อรปู ปฏสิ นธิ ? 47 (51ส, 54ส) ตอบ ก. อารมณข องกามปฏสิ นธิ ไดแก อารมณ ๖ ทเี่ รยี กวา กรรมอารมณ กรรมนิมิตอารมณ หรอื คตนิ มิ ติ อารมณ อารมณข องรูปปฏิสนธิ ไดแก บัญญัตกิ รรมนมิ ิตธรรมารมณ อารมณข องอรูปปฏิสนธิ ไดแ ก บญั ญตั กิ รรมนิมติ หรอื มหคั คตกรรมนิมติ ธรรมารมณ ๕. ก. แสดงปฏสิ นธทิ เี่ กดิ ตอ จากจตุ จิ ติ ตอไปนี้ ? 49, 52, 55, 56 ๑. อรปู าวจรจตุ ิจติ ๔ ดวง ๒. รปู าวจรจตุ จิ ติ ๕ ดวง ๓. กามตเิ หตกุ จตุ จิ ติ ๔ ดวง ๔. ทวเิ หตกุ จตุ จิ ติ ๔ ดวง และอเหตกุ จุติจิต ๒ ดวง ตอบ ก. ๑. หลงั จากอรูปาวจรจตุ ิจิต ๔ ดวงเกิด มีปฏสิ นธิจติ เกดิ ตอ ได ๘ ดวง คอื อรูปาวจรปฏสิ นธิจติ ๔ (เวน อรูปาวจรปฏิสนธิจติ เบ้ืองตาํ่ ) และกามติเหตกุ ปฏิสนธจิ ิต ๔ ๒. หลงั จากรปู าวจรจตุ จิ ิต ๕ ดวงเกิด มปี ฏสิ นธิจิตเกดิ ตอได ๑๗ ดวง (เวน อเหตกุ ปฏิสนธจิ ติ ๒) ๓. หลังจากกามติเหตกุ จุตจิ ิต ๔ ดวงเกิด มีปฏสิ นธิเกิดตอไดท ง้ั หมด คอื นามปฏสิ นธิ ๑๙ และรปู ปฏสิ นธิ ๑ ๔. หลงั จากทวเิ หตุกจุตจิ ิต ๔ และอเหตุกจตุ ิจติ ๒ เกดิ มีปฏสิ นธิจติ เกิดตอ คอื กามปฏิสนธจิ ิต ๑๐ เทา นัน้ ๕. ข. การท่มี ขี อ จาํ กดั วา บคุ คลทจี่ ะไปเกิดในสทุ ธาวาสภมู ไิ ดน ัน้ จะตอ งมคี ณุ สมบตั ิ คอื ตอ งเปน พระอนาคามดี ว ย ตอ งสาํ เร็จปญ จมฌานดว ยและตอ งมอี นิ ทรยี ทง้ั ๕ อยา งใดอยา งหนง่ึ แกกลาเปน พิเศษดว ย ทเี่ ปน เชน นเี้ พราะ เหตใุ ด ? และในอกนฏิ ฐาภมู นิ ัน้ มีอะไรทพี่ เิ ศษกวา สทุ ธาวาสภูมอิ นื่ ๆ อกี ? 56 ตอบ ข. เพราะในสทุ ธาวาสภูมนิ ี้ มีคณุ สมบตั ิเปนท่ีแนนอนอยู ๔ อยา ง คอื ๑. บุคคลทไ่ี ปเกดิ ในสทุ ธาวาสภูมิ ๆ ใดภมู ิหนึง่ แลว ยอ มไมไ ปเกดิ ในรูปภูมิอื่น ๆ หรือในอรูปภูมิ ๒. ยอมไมเ กิดซ้ําภูมิทต่ี นเกดิ อยูอ ีก ๓. เมือ่ ตายจากสุทธาวาสภมู ิทต่ี นเกิดอยแู ลว ยอ มไมไ ปเกดิ ในภูมทิ ีต่ ํา่ กวายอ มไปเกิดในภูมิที่สงู กวา ๔. ตอ งไดส าํ เรจ็ เปน พระอรหนั ต ภายในสุทธาวาสภูมินั้นเอง และสาํ หรับในอกนฏิ ฐาภมู ิน้ันมีคณุ สมบตั พิ ิเศษอกี ขอ หนงึ่ คอื พระอนาคามที ีอ่ ยูในสุทธาวาสภมู นิ ้ี จะตอ งไดส ําเรจ็ เปนพระอรหนั ตในภพนัน้ เอง ขอ ๗ (ทเ่ี คยออกสอบแตล ะป) ๕. คาํ วา มรณุปปฺ ตตฺ จิ ตกุ กฺ แยกเปน กี่บท ? คอื อะไรบา ง ? พรอมทงั้ แสดงความหมาย และวจนัตถะดว ย. ดาวนโหลดขอมูลตา งๆไดจาก ขอ ความเพิ่มเตมิ ที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วิถีสงั คหะ, ภูมิจตุกกะ, ปฏสิ นธจิ ตกุ กะ 49 และจงแสดงเหตทุ ที่ าํ ใหค วามตายปรากฏ ๔ อยา งดว ย ? [P266] 48, 52, 55 ๖. ก. คําวา มรณปุ ปฺ ตตฺ จิ ตกุ กฺ แปลวา อยา งไร เมื่อแยกบทแลวไดกบี่ ท ? คอื อะไรบา ง พรอ มทง้ั แสดงความหมาย และวจนัตถะดว ย ? [P266] 56, 61(5ก) ตอบ ก. คําวา มรณปุ ฺปตตฺ จิ ตกุ ฺก เมือ่ แยกบทแลว ได ๓ บท คือ มรณ+อปุ ปฺ ตฺติ+จตกุ ฺก มรณ=ความตาย, อปุ ฺปตฺต=ิ การเกดิ ขึ้น, จตกุ กฺ =มี ๔ เม่ือรวมแลว เปน มรณปุ ปฺ ตฺตจิ ตกุ กฺ แปลวา การเกิดข้นึ แหงความตาย มี ๔ อยา ง หมายถงึ เหตุที่ใหค วามตายปรากฏข้ึน ๔ อยางนนั้ เอง ดงั แสดงวจนตั ถะวา “มรณสสฺ อปุ ปฺ ตตฺ ิ = มรณุปปฺ ตตฺ ิ ความเปนไปแหง ความตาย ชอ่ื วา มรณุปปตติ จตนุ นฺ ํ สมาหาโร = จตกุ กฺ ํ การรวมของ ๔ อยา งชือ่ วา จตกุ กะ (55) และ แสดงเหตทุ ใี่ หค วามตายปรากฏขนึ้ ๔ อยา งนนั้ คือ ๑. อายุกขฺ ยมรณ (ตาย) เพราะสิ้นอายุ ๒. กมฺมกขฺ ยมรณ (ตาย) เพราะส้ินกรรม ๓. อุภยกขฺ ยมรณ (ตาย) เพราะสิน้ อายุและสนิ้ กรรมทงั้ สอง ๔. อปุ จเฺ ฉทกมรณ (ตาย) เพราะประสพอุปท วเหตุ อายแุ ละกรรมยงั ไมสน้ิ ๗. จงแสดงเหตทุ ที่ าํ ใหความตายปรากฏ ๔ อยา ง ? 56(6ข), ดว ย ? 61(4ข) พรอ มท้ังแสดงอปุ มาเปรยี บเทียบมาโดยละเอยี ด ? [P266] 58, 59(6) ๖. จงแสดงเหตทุ ท่ี าํ ใหความตายปรากฏเกดิ ขึน้ มกี อ่ี ยา ง คอื อะไรบาง ? พรอ มทงั้ แสดงอปุ มาเปรยี บเทยี บ, ดวงประทปี มาใหเ หน็ ดว ย ? 57, 62 / มาโดยละเอยี ด ? [P266] 63 ๕. เหตแุ หง การตายมกี อ่ี ยาง คอื อะไรบา ง และใหยกอปุ มาเปรยี บเทยี บการตายของสตั วท ง้ั หลายดวย ? [P266] 49, 51, 53, 54, 60(6) ๗. จงอปุ มาเปรยี บเทยี บการตายของสตั วท ง้ั หลายทเ่ี หมอื นดวงประทปี ยอมดบั ลงดว ยเหตุ ๔ อยา ง มาดโู ดยละเอยี ด ? [P266] 56 ตอบ แสดงเหตุท่ีทําใหความตายปรากฏเกดิ ขึน้ มี ๔ อยา ง คอื  ถาจะ (56->) อปุ มาเปรยี บเทียบการตายของสัตวท งั้ หลายแลว ก็เหมอื นหน่งึ ดวงประทปี ทีจ่ ดุ ไว ดวง ประทีปนี้ ยอ มดับลงดว ยเหตุ ๔ อยาง ๆ ใดอยา งหนงึ่ ดับลงดวยไสห มดอยางหนึง่ . ดับลงดว ยนาํ้ มันหมดอยาง หนึง่ , ดบั ลงดวยไสแ ละน้ํามันทง้ั สองหมดอยา งหนึง่ ดับลงดวยถกู ลมพดั หรือถูกเปา ใหดับลงอยางหน่ึง ดวงประทปี น้ันเปรยี บเหมอื นชีวิตของสตั วท ง้ั หลาย ความดบั ของดวงประทีปน้นั เปรยี บเสมือนความ ดับลงของชวี ติ ท่สี ิ้นสดุ ลงเฉพาะภพหนึ่งๆ ฉะนั้น © ผทู ส่ี ้ินชวี ติ ลงโดยหมดอายขุ ยั ก็เหมอื นกับดวงประทีปท่ีดับลง โดยเนอ่ื งจากไสห มดแตน้ํามันยังอยู © ผูท่ีส้นิ ชวี ติ ลงโดยหมดกรรมนน้ั ก็เหมอื นกับดวงประทีปท่ีดับลง โดยเนอ่ื งจากนา้ํ มันหมด แตไสยังอยู © ผูท่ีส้ินชีวิตลงโดยหมดทง้ั อายุและกรรมนั้น ก็เหมือนกับดวงประทีปท่ดี บั ลง โดยเนอื่ งจากไสและนํ้ามนั หมด ทั้งสองอยาง © ผูทส่ี ้ินชวี ติ ลงโดยประสพกบั อุปท วเหตุตา งๆ นั้น ก็เหมือนกบั ดวงประทปี ที่ดับลง โดยเนอื่ งจากถกู ลมพดั หรือ ถกู เปา ใหดับ โดยท่ีไส และนาํ้ มนั ยงั อยู ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆไดจ าก ขอความเพม่ิ เติมที่ youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วถิ สี ังคหะ, ภมู ิจตุกกะ, ปฏิสนธจิ ตกุ กะ 50 ๖. ข. จงแสดงอปุ มาเปรยี บเทยี บการตายของสตั วท งั้ หลาย เพราะการสนิ้ อายุ และสน้ิ กรรม ? 61 ตอบ ข. อุปมาเปรียบเทียบการตายของสัตวทั้งหลาย เพราะการส้ินอายุ เปรียบเหมือนดวงประทีปที่ดับลงดวยไส หมด แตน้าํ มันยังอยู การสน้ิ กรรม เปรียบเหมอื นดวงประทปี ทดี่ ับลงดวยนา้ํ มนั หมด แตไ สยังอยู ๗. ข. คาํ วา กรรม ในกมั มขยมรณะ หมายถงึ กรรมชนดิ ไหน ? 47 ๗. ก. กมมฺ กขฺ ย ความสนิ้ สดุ แหง กรรม คําวา กรรม ในทน่ี ้ี หมายถงึ กรรมอะไร มีหนา ท่ีอยา งไร ? 51, 54, 61(6ก) ข. หลงั จากอรปู าวจรจุตจิ ติ ๔ ดวงเกดิ มีปฏสิ นธจิ ิตเกดิ ตอ ไดกด่ี วง อะไรบา ง ? 51, 54 ค. หลงั จากรปู าวจรจตุ จิ ติ ๕ ดวงเกดิ มปี ฏสิ นธจิ ติ เกดิ ตอ ไดก ด่ี วง อะไรบา ง ? 51, 54 ง. หลงั จากทีก่ ามตเิ หตกุ จตุ จิ ติ ๔ ดวงเกดิ มปี ฏสิ นธจิ ิตเกดิ ตอ ไดเ ทาไร คอื อะไรบา ง ? 51, 54 จ. หลงั จากทีท่ วเิ หตกุ จตุ จิ ติ ๔ ดวง และอเหตกุ จตุ จิ ติ ๒ ดวงเกดิ มปี ฏสิ นธจิ ติ เกดิ ไดเ ทา ไร? คืออะไรบา ง? 51, 54 ตอบ ข/ก. คาํ วา กรรม ในทีน่ ้ี หมายถึง ชนกกรรม ท่ีมหี นาท่ีสง ผลใหเกดิ ปฏิสนธิในภพน้นั ๆ และ อปุ ต ถมั ภกกรรม ท่มี หี นาทช่ี วยอดุ หนนุ ใหรปู นามที่เกิดจากชนกกรรม ใหตั้งอยูไดในภพนัน้ การสิ้นสุดแหง กรรมทง้ั สองดังกลาวนี้แหละ ชือ่ วา กมั มกั ขยะ ข. หลงั จากอรูปาวจรจตุ จิ ิต ๔ ดวงเกดิ มปี ฏิสนธจิ ิตเกิดตอ ได ๘ ดวง คือ อรูปาวจรปฏสิ นธิจติ ๔ (เวน อรูปาจรปฏสิ นธจิ ิตเบอื้ งตํา่ )และ กามติเหตุกปฏสิ นธิจิต ๔ ค. หลังจาก รปู าวจรจุติจิต ๕ ดวงเกิด มปี ฏิสนธจิ ิตเกิดตอ ได ๑๗ ดวง (เวน อเหตปุ ฏสิ นธจิ ติ ๒) ง. หลงั จาก กามตเิ หตุกจุติจิต ๔ ดวงเกดิ มีปฏิสนธิเกดิ ตอ ไดทงั้ หมด คือ นามปฏสิ นธิ ๑๙ และรปู ปฏสิ นธิ ๑ จ. หลงั จาก ทวเิ หตกุ จุตจิ ติ ๔ และอเหตุกจตุ ิจิต ๒ เกดิ มีปฏิสนธิจติ เกดิ ตอ คอื กามปฏิสนธิจติ ๑๐ เทาน้ัน ๗. ก. เหตุทท่ี าํ ใหความตายปรากฏขนึ้ ท้ัง ๔ นนั้ เหตอุ ยา งไหนจดั เปน การตายโดยกาลมรณะ และอกาลมรณะ ? [P269] 63 ตอบ ก. ในเหตแุ หง การตายทัง้ ๔ นั้นการตายโดยกาลมรณะ มี ๓ คอื อายกุ ขฺ ยมรณะ กมั มักขยมรณะ และ อภุ ยกั ขยมรณะ การตายโดยอกาลมรณะ มี ๑ คอื อุปจ เฉทกมรณะ ๗. ค. มรณาสนั นวิถชี นดิ ปจจาสนั นมรณวิถมี กี ว่ี ถิ ี คอื อะไรบาง ? [P297] 47, 49, 62 ตอบ ค. มรณาสันนวิถชี นดิ ปจจาสันนมรณวถิ ีมี ๔ ประเภท คือ ๑. ชวนะ ชวนะ ชวนะ ชวนะ ชวนะ ตทารัมมณะ ตทารัมมณะ จุติ ๒. ชวนะ ชวนะ ชวนะ ชวนะ ชวนะ จุติ ๓. ชวนะ ชวนะ ชวนะ ชวนะ ชวนะ ตทารัมมณะ ตทารัมมณะ ภวังค ฯลฯ จุติ ๔. ชวนะ ชวนะ ชวนะ ชวนะ ชวนะ ภวังค ฯลฯ จตุ ิ ๗. ข. สตั วทชี่ อื่ วา “สมภฺ เวส”ี ไดแกใ คร ? ทีเ่ ปน ดงั นเ้ี พราะเหตใุ ด ? [P307] 61 ตอบ ข. สตั วท่ีชอ่ื วา “สมภฺ เวส”ี ไดแก ปถุ ชุ น ๔ พระเสกขบุคคล ๓ ทีเ่ ปนดังนเ้ี พราะ บุคคลเหลาน้ีมคี วามเกิดยังไมสนิ้ สุดตอ งแสวงหาภพชาติตอๆ ไปอีกนั้นเอง ๗. ค. คาํ วา กตกรรม และ อปุ จติ กรรม หมายความวา อยา งไร ? เพราะเหตุใดเจตนาทอ่ี ยใู นฉทวารกิ มรณา ดาวนโหลดขอมูลตา งๆไดจ าก ขอความเพิ่มเติมท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วถิ ีสงั คหะ, ภูมจิ ตุกกะ, ปฏสิ นธิจตุกกะ 51 สนั นชวนะจงึ เปน ชนกกรรมไมไ ด ? [P319] 63 ตอบ ค. คาํ วา กตกรรม หมายความวา กศุ ล อกุศลท่เี กิดขน้ึ ครง้ั แรก คาํ วา อปุ จติ กรรม หมายความวา กุศล อกศุ ลทีเ่ กดิ ข้ึนติดตอ กนั กศุ ล อกุศล เจตนาทใี่ นฉทวาริกมรณาสนั นชวนะนั้น แมความเปน กตกรรมไดเ กิดขึ้นกจ็ ริง แตก็ไมไ ด เขา ถงึ ความเปนอปุ จติ กรรม ทัง้ ขาดความเปน อารมณของตณั หา คอื ความยนิ ดพี อใจตอกรรมน้กี ม็ ไิ ดเกดิ ขึน้ การท่เี ปนดังนก้ี ็เพราะวา เมอ่ื ส้ินสุดแหงมรณาสนั นวถิ แี ลว จุติจิตกเ็ กดิ ดังน้นั กุศล อกศุ ล เจตนาทอ่ี ยูในฉทวา รกิ มรณาสันนชวนะจึงเปนชนกกรรมไมได ๗. จงแสดงบาลี และ คาํ แปล จิต ๓ อยา งทม่ี อี งคธ รรมและอารมณอ ยา งเดียวกนั เฉพาะชาตเิ ดยี ว ? [P329] 55 ตอบ บาลที แ่ี สดงจิต ๓ อยา งคอื ปฏิสนฺธภิ วงฺคจฺ ตถา จวนมานสํ เอกเมว ตเถเวก วสิ ยเฺ จกชาตยิ ํ ในชาตหิ นึ่งนน้ั ปฏสิ นธิจิต ภวังคจิต และจุตจิ ติ รวม ๓ อยา งน้ี เปนจติ อยางเดียวกัน และอารมณของปฏสิ นธิจิต ภวังคจิต และจุตจิ ติ ก็ตอ งเปน อยางเดยี วกนั *************************** สิง่ ท่สี ําคัญคือการเขาศกึ ษากับอาจารยผ สู อน เพื่อความรคู วามเขาใจท่ีถูกตอ ง แจม แจง หากสงสัยจะไดสอบถามทนั ที การรวบรวมขอสอบที่เคยออกมาแลว นี้ เปนเพียง แนวทางสําหรบั ผูศ ึกษา นํามาเนน +ทรงจําไว (เมื่อไดช อื่ วาศึกษาแลว ก็ควรทรงจาํ ให ไดมากท่ีสดุ หรือทัง้ หมด จงึ จะชอ่ื วา สุตะดว ยดี เพ่อื การจินตาและภาวนาตอ ไป) การสอบไมใ ชทสี่ ดุ ของชวี ติ แตข อใหตง้ั จติ ศกึ ษาและทรงจํา เพื่อธํารงและรักษาไว ซ่งึ พระศาสนา รูอรรถะและพยญั ชนะ ทั้งเขาใจและเขา ใหถ ึงธรรมะ แมยงั มบิ รรลุคุณธรรม อันสูงถงึ ขั้นอริยะ กข็ อจงเปนผูรธู รรมะ (ตามสมควร) และจงเปน ผูม ีธรรมะ วายเมเถว ปรุ โิ ส ยาว อตฺถสฺส นิปปฺ ทา เกิดเปนคนควรจะพยายาม จนกวา จะประสบความสาํ เรจ็ สําเนาประกอบการเรียนหรอื แจกไดโดยไมตองขออนญุ าต (สงวนสทิ ธ์ใิ นการนําไปจําหนา ย) ผิด-ตกขออภัย และกรณุ าแจงที่ 081-860-2466, E-mail: [email protected], [email protected] (จักขอบพระคุณอยา งสงู ) ขออนโุ มทนาในการศึกษาธรรมะ และทกุ ๆกศุ ลท่ีทา นกระทาํ ไวดแี ลว และทจ่ี ะกระทําในอนาคต ใหเรานน้ั มปี จจัยถงึ พรอ มเพ่ือการทํากุศลใหส าํ เรจ็ โดยสะดวก งา ยดาย และเรว็ ไว จนถึงมคั คกศุ ล โดยเรว็ พลันเทอญ ในสวนตวั แมต นเองจะรวบรวมขอ สอบ แตก็ไดศึกษาเขา ฟง การบรรยาย ทง้ั ไดอ า นบนั ทกึ เสียงไวดว ย (ทั้งเลม พรอ มทองจาํ จดุ ท่อี อกสอบ) เพราะเห็นวาเปนสิ่งทน่ี า ศกึ ษา ทรงจํา ... และสามารถนาํ ไปใชไดจ ริงในชวี ิตประจาํ วนั (พรอ มบม เพาะ) และวัฏฏะดว ย ดาวนโหลดขอ มลู ตา งๆไดจ าก ขอความเพ่มิ เติมท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔