29 3.3.4.1 หนว่ ยความจาชว่ั คราวแบง่ ออกเปน็ 2 ประเภทใหญ่ ดงั น้ี 1) DRAM หรือ (Dynamic RAM) เป็นหน่วยความจาท่ีประกอบดว้ ยเซลล์ท่ีใช้เกบ็ ข้อมูลทใ่ี ช้อัด ประจไุ ฟฟ้าเข้าไปเกบ็ ไวใ้ นตวั capacitor เปน็ ระยะอยเู่ สมอเพื่อท่จี ะไดส้ ามารถเก็บรักษาขอ้ มูลเอาไวไ้ ด้ และแม้วา่ เซลลข์ อง DRAM จะถูกนามาใช้ในการเกบ็ ขอ้ มูลดจิ ิตอลเพียงบติ เดยี วทม่ี คี ่าเป็น “0” หรอื “1” กต็ ามแตก่ จ็ ัดไดว้ ่า เปน็ อุปกรณป์ ระเภทอะนาล็อก รูป Dynamic RAM 2) SRAM หรือ (Static RAM) จะทางานแตกตา่ งจาก Dynamic RAM และจดั ว่าเป็นอปุ กรณ์ ดจิ ิตอล ทีม่ ีการจดั เรยี งอปุ กรณ์ภายในเปน็ ลกั ษณะเดียวกบั โครงสร้างของโปรเซสเซอร์ ใน SRAM คา่ ไบนารี่ “0” หรือ“1” จะถูกเกบ็ ไว้ดว้ ย flip-flop logic gate ซึ่งสามารถเกบ็ ค่าไวใ้ นตัวเองไดน้ านตราบเทา่ ทม่ี ีพลงั งานไฟฟ้า ปอ้ นให้อย่างต่อเน่อื ง โดยไมต่ ้องอาศยั การถา่ ยเทประจุไฟฟ้าเหมือนกับทเี่ กิดขน้ึ ใน DRAM รูป Static RAM ถา้ เราเปรยี บเทียบระหว่าง DRAM กบั SRAM ท้ัง Dynamic และ Static แรมสามารถเก็บข้อมลู ไดเ้ พียงชั่วคราว คอื จะต้องมพี ลงั งานไฟฟ้าสง่ เขา้ มาอย่างต่อเน่ืองเพือ่ จะได้เก็บข้อมูลเอาไว้ได้ DRAM นั้นจะมี โครงสรา้ งทีง่ ่ายกวา่ และมีขนาดเล็กกว่า สามารถบรรจุจานวนเซลลต์ ่อพนื้ ท่ีได้มากกว่า ทาใหม้ ีราคาถกู กว่า SRAM ทม่ี ีขนาดความจุเท่าๆกัน แตอ่ ยา่ งไรก็ตาม DRAM จาเป็นจะต้องมวี งจรสาหรับการกระต้นุ (refresh cycle) เป็นระยะๆ อย่างสมา่ เสมอ ซ่ึงการทางานทีเ่ พม่ิ ข้ึนในส่วนนเี้ ปรียบเทยี บเป็นตน้ ทุนคงทีไ่ มว่ า่ หนว่ ยความจา DRAM จะมี ปรมิ าณน้อยหรือน้อยเทา่ ใดก็ตาม ทาให้นิยมนา DRAM มาใช้ในปริมาณท่ีมาก
30 สว่ น SRAM นนั้ มคี วามเรว็ ในการทางานสงู กว่า ด้วยข้อดีและข้อเสียดังทีก่ ลา่ วนี้ ระบบ คอมพวิ เตอรส์ ว่ นใหญจ่ ึงนา DRAM มาใช้เป็นหนว่ ยความจาหลัก และนา SRAM มาใช้เป็นหน่วยความจา cache ทั้งชนดิ on-chip และ off-chip 6.3.4.2 หน่วยความจาชวั่ คราวแบ่งออกเป็น 2 โมดูล ดังน้ี 1) SIMM หรือ Single In-line Memory Module โดยท่ี Module ชนิดน้ี จะรองรบั data path 32 bit โดยทงั้ สองด้านของ circuit board จะใหส้ ัญญาณ เดยี วกนั 2) DIMM หรอื Dual In-line Memory Module โดย Module นีม้ ี data path ถงึ 64 บิต ท้งั สองดา้ นของ circuited board จะใหส้ ัญญาณที่ตา่ งกนั ตง้ั แต่ CPU ตระกลู Pentium เป็นตน้ มา ไดม้ ีการ ออกแบบให้ใชง้ านกับ data path ทม่ี ากว่า 32 bit เพราะฉะนัน้ เราจึงพบวา่ เวลาจะใส่ SIMM RAM บน slot RAM จะตอ้ งใสเ่ ป็นคู่ ใสโ่ ดด ๆ แผง เดียวไม่ได้ Memory Module ปจั จบุ นั มีอยู่ 3 รปู แบบคอื 30-pin, 72-pin, 168-pin ท่ีนิยมใช้ในเวลานีค้ ือ 168-pin 6.3.5 หน่วยความจาหลักแบบอ่านไดอ้ ยา่ งเดยี ว (Read Only Memory : ROM) หน่วยความจา หลักแบบอ่านได้อยา่ งเดยี ว (ROM) เปน็ หน่วยความจาทีม่ คี ุณสมบตั ใิ นการเก็บข้อมลู ไวไ้ ด้ ตลอดโดยไมต่ ้องใชไ้ ฟฟา้ หลอ่ เลย้ี ง แมจ้ ะปดิ เคร่อื งไปแล้วเม่อื เปิดเครอื่ งใหม่ข้อมลู ในรอมกย็ ังอยู่เหมือนเดิม นิยม ใช้เปน็ หน่วยความจาสาหรับเกบ็ ชุดคาส่ังในการเร่มิ ต้นระบบ หรอื ชุดคาส่งั ทสี่ าคัญๆ ของคอมพวิ เตอร์ ขอ้ เสยี ของ รอมคือจะไมส่ ามารถแกไ้ ขหรือเพ่ิมเตมิ ชุดคาสั่งไดใ้ นภายหลัง รวมทงั้ ความเร็วในการทางานชา้ กว่าหน่วยความจา แบบแรม นอกจากนป้ี จั จุบันยังมรี อมทีเ่ ปน็ ชิพพิเศษ เช่น PROM , EPROM, EEPROM และ Flash memory ซง่ึ นยิ มนามาใช้เก็บ BIOS ในเคร่ืองรุ่นใหมๆ่ รูป ROM 3.3.6 หน่วยความจาสารอง 1) ฮารด์ ดสิ ก์ (Hard disk) รูปแบบของหน่วยความจาที่ถกู ท่ีสดุ และใชก้ นั อย่างกว้างขวางทุก วนั น้ีคอื ฮารด์ ดสิ ก์ มีหลักการทางานคลา้ ยกับฟลอปปีดิสก์ แตฮ่ ารด์ ดสิ ก์ทามาจากแผน่ โลหะแขง็ เรยี กวา่ Platters ทาใหเ้ กบ็ ข้อมูลไดม้ ากและทางานได้รวดเร็ว ส่วนมากจะถูกยึดตดิ อยภู่ ายในเครื่องคอมพวิ เตอร์ แตม่ บี างรุน่ ทเ่ี ป็น
31 แบบเคลื่อนยา้ ยได้ โดยจะเปน็ แผน่ แม่เหล็กเพียงแผ่นเดยี วอย่ใู นกล่องพลาสตกิ บางๆ สามารถเก็บขอ้ มลู ได้ตั้งแต่ 1 กิกะไบต์ขึน้ ไป A. ชนดิ ของ Hard Disk แบ่งตามการเชอ่ื มตอ่ (Interface) I. แบบ IDE (Integrate Drive Electronics) Hard Disk แบบ IDE เป็นอินเทอร์เฟซรุน่ เก่าท่ี การเชอื่ มต่อโดยใช้สายแพขนาด 40 เส้น โดยสายแพ 1 เสน้ สามารถท่ีจะตอ่ Hard Disk ได้ 2 ตวั บนเมนบอรด์ นั้น จะมขี ัว้ ต่อ IDE อยู่ 2 ข้วั ดว้ ยกนั ทาให้สามารถพ่วงต่อ Hard Disk ได้สงู สุด 4 ตวั ความเรว็ สูงสุดในการถา่ ยโอน ขอ้ มูลอยทู่ ่ี 8.3 เมกะไบต์/ วนิ าที สาหรบั ขนาดความจุก็ยงั นอ้ ยอีกด้วย เพยี งแค่ 504 MB รปู Hard disk แบบ IDE II. แบบ E-IDE (Enhanced Integrated Drive Electronics) Hard Disk แบบ E-IDE พัฒนามาจากประเภท IDE ด้วยสายแพขนาด 80 เสน้ ผา่ นคอนเน็คเตอร์ 40 ขา เชน่ เดยี วกันกับ IDE ซ่งึ ช่วยเพม่ิ ศักยภาพ ในการทางานใหม้ ากข้นึ โดย Hard Disk ท่ีทางานแบบ EIDE นัน้ จะมีขนาดความจทุ สี่ งู กวา่ 504 MB และความเรว็ ในการถา่ ยโอนข้อมูลทีส่ ูงข้นึ โดยสงู ถงึ 133 เมกะไบต์/ วนิ าที รปู Hard disk แบบ E-IDE วิธกี ารรับส่งข้อมูลของ Hard Disk แบบ E-IDE แบ่งออกเป็น 2 โหมด คือ PIO และ DMA โหมด PIO (Programmed Input Output) เปน็ การรบั ส่งขอ้ มลู โดยผา่ นการประมวลผลของ ซีพียู คือรบั ขอ้ มูล จาก Hard Disk เข้ามายังซีพียู หรือสง่ ข้อมลู จากซีพยี ไู ปยัง Hard Disk การทางานในโหมดนจ้ี ะเนน้ การทางานกบั ซีพียู ดังนั้นจงึ ไมเ่ หมาะกบั งานทีต่ อ้ งการเข้าถงึ ข้อมลู ใน Hard Disk บ่อยคร้ังหรือการทางานหลาย ๆ งานพร้อมกนั
32 ในเวลาเดยี วทเี่ รยี กว่า Multitasking environment โหมด DMA (Direct Memory Access) จะอนุญาตให้ อุปกรณ์ตา่ ง ๆ ส่งผ่านขอ้ มูลหรือติดต่อไปยังหน่วยความจาหลัก (RAM) ได้โดยตรงโดยไม่ต้องติดต่อไปทซ่ี ีพยี ูก่อน เหมือนกระบวนการทางานปกติ ทาใหซ้ ีพยี ูจดั การงานไดร้ วดเรว็ ข้ึน III. แบบ SCSI (Small Computer System Interface)Hard Disk แบบ SCSI เป็น Hard Disk ที่มีอนิ เทอร์เฟซท่แี ตกต่างจาก E-IDE โดย Hard Disk แบบ SCSI จะมีการด์ สาหรับควบคมุ การทางาน โดยเฉพาะ เรียกวา่ การ์ด SCSI สาหรับการ์ด SCSI น้ี สามารถที่จะควบคุมการทางานของอุปกรณ์ทมี่ ีการทางาน แบบ SCSI ไดถ้ ึง 7 ช้นิ อปุ กรณ์ ผ่านสายแพแบบ SCSI อตั ราความเรว็ ในการ ถา่ ยโอนข้อมูลของ แบบ SCSI มี ความเรว็ สูงสดุ 320 เมกะไบต์/วินาที กาลงั รอบในการหมุนของจานดิสกป์ ัจจบุ นั แบง่ เป็น 10,000 และ 15,000 รอบตอ่ นาที ซึ่งมีความเร็วท่ีมากกวา่ ประเภท E-IDE ดังน้นั Hard Disk แบบ SCSI จะนามาใช้กับงานด้านเครือขา่ ย (Server) เทา่ นั้น รูปแบบการเช่อื มตอ่ Hard disk แบบ SCSI สาหรับเครื่อง Mac IV. แบบ Serial ATA Hard Disk แบบ Serial ATA เป็น อินเทอรเ์ ฟซทีก่ าลังไดร้ ับความนยิ ม มากในปัจจบุ ัน เมื่อการเช่ือมตอ่ ในลักษณะParallel ATA หรือ E-IDE เจอทางตนั ในเรื่องของความเรว็ ที่มีความเรว็ เพียง 133 เมกะไบต์/วินาทสี ว่ นเทคโนโลยีเช่อื มตอ่ รปู แบบ แบบใหม่ท่เี รียกวา่ Serial ATA ให้อัตราความเร็วใน การ ถ่ายโอนข้อมูลขนั้ แรกสงู สดุ ถงึ 150 เมกะไบต์/วินาที โดยเทคโนโลยี Serial ATA น้ถี ูกคาดหวังวา่ จะสามารถ ขยายชอ่ งสญั ญาณ (Bandwidth) ในการสง่ ผา่ นข้อมูลได้เพิ่มข้นึ ถึง 2-3 เท่า และยงั รองรบั ขอ้ มลู ได้มากย่ิงขึ้น ไมเ่ ฉพาะ Hard Disk เพยี งเท่านัน้ ที่จะมีการเชือ่ มต่อในรปู แบบน้ี แต่ยงั รวมไปถึง อุปกรณ์ตวั อืน่ ๆ อยา่ ง CDRW หรอื DVD
33 รปู Hard disk แบบ Serial ATA 2) ออปตคิ สั ดสิ ก์ (Optical Disk) มหี ลักการทางานคลา้ ยกบั การเลน่ ซดี เี พลงคือใชเ้ ทคโนโลยี ของแสงเลเซอร์ ทาให้สามารถเกบ็ ข้อมูลไดจ้ านวนมหาศาลในราคาไมแ่ พงมากนกั ในปัจจุบนั มีอย่หู ลายแบบซ่ึงใช้ เทคโนโลยีตา่ งกนั ไป เช่น a. CD-ROM อา่ นข้อมลู ได้เพียงอย่างเดยี ว ไมส่ ามารถแก้ไข หรือลบข้อมลู ในแผ่น CD ได้ b. CD-R เป็น CD ทส่ี ามารถเขยี นข้อมูลหรอื write ท่ีเรยี กวา่ การ burning ไดค้ รง้ั เดยี วสามารถอา่ นได้ หลายคร้ัง แตไ่ ม่สามารถลบข้อมูลได้ ปัจจบุ ันมคี วามจตุ ้งั แต่ 650 MB ขน้ึ ไป c. CD-RW คลา้ ยกับ CD-R ต่างกันตรงท่ีสามารถเปล่ียนแปลงขอ้ มลู ได้คือสามารถอ่านเขียนขอ้ มลู เพ่ิมได้ หลายครั้ง d. DVD สามารถบันทึกข้อมูลได้สงู ถงึ 4.7 GB ข้ึนไป ซึง่ ปัจจุบันสามารถบนั ทึกข้อมูลได้ถึง 17 GB
Search