Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บุคคลสำคัญ เล่ม๒

บุคคลสำคัญ เล่ม๒

Published by nongyok357, 2021-02-27 15:28:54

Description: จัดทำเพื่อการศึกษา

Search

Read the Text Version

บุคคลสาํ คญั Group B1 M.5.2 เสนอ ครูวฒุ ิชัย เชือ่ มประไพ โรงเรยี นมธั ยมวดั หนองแขม สาํ นกั งานพ้นื ท่กี ารศกึ ษาเขต ๑

บุคคลสาํ คญั เสนอ คณุ ครวู ฒุ ิชัย เชือมประไพ จดั ทาํ โดย นางสาวนิรดา ปลืมถนอม เลขที ๒๐ นางสาวปวันรตั น์ ปะวะโก เลขที ๒๑ นางสาวปาณิสรา ทองเทพ เลขที ๒๒ นางสาวพรชนิตว์ อปุ สรรค์ เลขที ๒๓ นางสาวพชั มัย ทองชยั เลขที ๒๔ นางสาวพูนทรัพย์ สขุ สมจิต เลขที ๒๗ นางสาวภัค อทิ ธกิ ญุ ช์ เลขที ๒๘ นางสาววิชุฎา บญุ ทวี เลขที ๓๑ นางสาวสชุ ญั ญา ชงั จอหอ เลขที ๓๔ นางสาวสธุ าสนิ ี แซล่ อ้ เลขที ๓๕ ชันมัธยมศึกษาปที ๕.๒ โรงเรียนมธั ยมวดั หนองแขม สํานักงานพืนทกี ารศึกษาเขต ๑

ก คํานํา รายงานฉบบั นีเปนสว่ นหนึงของรายวิชาประวัตศิ าสตร์ (ส๓๒๑๐๔) ในระดบั ชันมธั ยมศึกษาปที ๕ โดยมีจุดปะสงค์ เพือการศึกษาความรู้เกียวกบั บุคคลสาํ คญั ในประเทศไทย ทงั นี ในรายงานฉบับนีมเี นือหาซงึ ประกอบด้วย ประวตั ิความเปนมา และ ความสําคัญต่างๆ เกียวกับประเทศไทย เพอื ศึกษาทําความเข้าใจ และเปนประโยชน์ตอ่ การเรยี น คณะผูจ้ ัดทําหวงั ว่าหนังสอื เลม่ นีจะเปนประโยชน์ต่อผู้อา่ นทมี าศกึ ษา หาข้อมูลในเรอื งนี หากมขี อ้ มลู ผิดพลาดประการใด คณะผู้จดั ทําขออภัย ณ ทนี ีดว้ ย คณะผ้จู ัดทํา ๒๕ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๔

ข สารบญั

๑ พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล้าเจา้ อยหู่ ัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ใหต้ ราพระราชบัญญัตคิ ลังออมสิน เพอื ให้ประชาชนรจู้ ักออมทรัพย์และเพอื ความมันคงในดา้ นเศรษฐกิจ ของประเทศ อกี ทังยังทรงรเิ ริมกอ่ ตังบรษิ ทั ปูนซเิ มนต์ไทยขึนและทรงจดั ตังกองลูกเสือกองแรกขนึ ทโี รงเรยี นมหาดเล็กหลวง (วชริ าวธุ วิทยาลยั ในปจจบุ นั ) ด้านการฝกสอนระบอบประชาธิปไตย ทรงทดลองตงั \"เมืองมัง\" หลังพระตําหนักจิตรลดาเดมิ ทรงจดั ใหเ้ มอื งมงั มีระบอบ การปกครองของตนเองตามวถิ ีทางประชาธปิ ไตย รวมถึงเมืองจําลอง \"ดสุ ติ ธานี\" ในพระราชวงั ดสุ ิต

๒ พระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ สนับสนุนให้สรา้ งโรงภาพยนตร์ที ทนั สมยั สาํ หรบั ฉายภาพยนตรเ์ สียงแห่งแรกของประเทศในวโรกาส เฉลิมฉลองพระนครครบรอบ ๑๕๐ ป พระราชทานนามว่า “ศาลา เฉลมิ กรงุ ” อีกทัง พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอย่หู วั เสด็จออก ณ พระทนี ังอนันตสมาคม ประทับเหนือพระทนี ังพดุ ตานกาญ- จนสิงหาสน์บนพระราชบัลลังก์ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรง พระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับถาวรฉบับแรก แห่งราชอาณาจักรสยามแก่ปวงชนชาวไทย

๓ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอฐั มรามาธบิ ดินทร เสด็จพระราชดาํ เนินทอดพระเนตรกจิ การของหอสมุดแหง่ ชาติ รวมทงั เสด็จ พระราชดาํ เนินไปทรงเยยี มสถานศึกษาหลายแห่ง เชน่ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั โรงเรียนเทพศิรนิ ทร์ ซงึ เปนโรงเรยี นทีทรงศึกษาขณะทรงพระเยาว์ นอกจากนี พระองคย์ ังไดเ้ สด็จพระราชดาํ เนินพระราชทานปริญญาบัตรเปนครังแรกของ พระองค์ ณ หอประชมุ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัยและอีกครังที หอประชมุ ราชแพทยา- ลัย ศิรริ าชพยาบาล มหาวทิ ยาลยั แพทยศาสตร์ เมือวันที ๒๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๙ โดยในการพระราชทานปรญิ ญาบัตรครังนี มีพระราชปรารภใหม้ ีการผลติ แพทย์เพมิ มากขึน เพอื ใหเ้ พียงพอทจี ะชว่ ยเหลอื ประชาชน โรงเรยี นแพทย์แห่งที ๒ จงึ ไดถ้ อื กําเนิดขึนทีโรงพยาบาลจฬุ าลงกรณ์ ซงึ ในปจจบุ นั คือ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย หลังจากนัน ในวันที ๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๙ พระองค์ทรงหว่านขา้ ว ณ แปลง สาธติ ของมหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ ซงึ ถอื เปนพระราชกรณียกิจสดุ ทา้ ย กอ่ นเสด็จ สวรรคต

๔ พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมพิ ลอดุลยเดช รัชกาลที ๙ ทรง พระกรณุ าโปรดเกล้าโปรดกระหมอ่ มพระราชทานพระราชทรพั ยส์ ่วน พระองค์จัดตงั มูลนิธิอานันทมหิดล ในป พ.ศ. ๒๕๐๒ เพอื ใหน้ ิสิตนักศกึ ษา ทีมผี ลการเรียนดีเด่น ได้มีโอกาสไปศกึ ษาหาความรชู้ ันสงู ในต่างประเทศ และนําองค์ความรทู้ ไี ดม้ าชว่ ยพัฒนาประเทศต่อไปและยังทรง พระราชทานแนวพระราชดาํ ริเรอื งเกษตรทฤษฎีใหม่ โดยเปนตวั อย่างการ ใชห้ ลกั เศรษฐกจิ พอเพยี งในขนั ต้น โดยการทําเกษตรทฤษฎใี หมน่ ี แบ่ง ออกเปน ๓ ขนั ไดแ้ ก่ ขนั ตน้ คอื การแบง่ พืนทีออกเปน ๔ ส่วน ตามอัตรา ๓๐-๓๐-๓๐-๑๐ เพือขดุ เปนสระกกั เก็บนํา ๓๐% ปลกู ขา้ วในฤดูฝน ๓๐% ปลูกไมผ้ ล ไมย้ ืนต้น พชื ผักสมุนไพร ๓๐% และเปนทีอยู่อาศัยอกี ๑๐%

๕ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส ทรงรบั ราชการในกรมราชเลขา จนกระทัง พ.ศ. ๒๔๒๒ พระชนมายุ ๒๐ พรรษาบริบรู ณ์ทรงผนวชเปนพระภิกษุ และเมือทรง ผนวชได้ ๓ พรรษา ทรงเขา้ แปลพระปรยิ ตั ธิ รรมสนามหลวง ได้ ๕ ประโยคสมเด็จพระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส ไดท้ รงรับ สถาปนาเฉลิมพระยศตามลาํ ดับ จนกระทงั พ.ศ. ๒๔๕๓ พระชนมายุ ๕๑ พรรษา ทรงรบั มหาสมณตุ มาภเิ ษก เปนสมเดจ็ พระมหาสมณะ

๖ พระเจา้ บรมวงศ์เธอกรมหลวงวงศาธริ าชสนิท ผลงานของพระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธริ าชสนิท มดี ังนี ผลงานดา้ นวรรณกรรมและการศึกษา ได้แก่ นิราศพระประธม เพลงยาว สามชาย เพลงยาวกลบทสงิ โตเลน่ หาง พงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา ทที รงนิพนธ์ขึนตามพระราชบัญชาพระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ ัว หนังสือจนิ ดามณีฉบับพระนิพนธ์กรมหลวงวงษาธริ าชสนิท หรอื ประถม จินดามณี เลม่ ๒

๗ สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาเทวะวงศว์ โรปการ ทรงมีบทบาทสาํ คญั ในการพฒั นาภารกิจดา้ นการตา่ งประเทศหลายประการ อาทิ ทรงจดั และปรบั ปรงุ รปู แบบกรมกองใหท้ นั สมัย ทรงขอพระราชทาน ทีทําการ เพือใหเ้ ปน “ศาลาว่าการต่างประเทศ” ซงึ นับวา่ เปนกระทรวงแรกที มีศาลาวา่ การกระทรวงเปนทที ําการแทนการใช้บ้านเสนาบดเี ปนทที าํ การ ทรงเปดสํานักงานผู้แทนทางการทูตของไทยในตา่ งประเทศ เชน่ สถานทูต ไทย ณ สํานักเซนต์ เจมส์ ซงึ ตังอยู่ ณ กรุงลอนดอน นอกจากการปรับปรงุ วิธีการทาํ งานและการบรหิ ารราชการ แลว้ สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมพระยา เทวะวงศว์ โรปการทรงเอา พระทัยใส่ในคณุ ภาพของบุคลากร ทรงส่งเสรมิ การพัฒนาความรแู้ ละ ทกั ษะของขา้ ราชการกระทรวงการตา่ งประเทศอยา่ งจริงจงั

๘ สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดาํ รงราชานุภาพ พระองค์ทรงงานในด้านตา่ งๆ อย่างเต็มที จนเปนทไี วว้ างพระ- ราชหฤทัยในพระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รชั กาลที ๕ และทรงงานเพือช่วยพัฒนาประเทศให้เจรญิ กา้ วหน้ามาโดยตลอด กระทัง พ.ศ. ๒๔๗๒ ในรัชสมยั ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้า- อยู่หัว รชั กาลที ๗ ได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระอสิ รยิ ยศเปน “สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดาํ รงราชานุภาพ” ซงึ นับว่า เปนตําแหน่งสูงทีสดุ สําหรับพระบรมวงศานุวงศ์

๙ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟากรมพระยานริศรานุวดั ติ สมเด็จพระเจา้ บรมวงศ์เธอ เจา้ ฟากรมพระยานริศรานุวัดตวิ งศ์ เปนเจ้าฟาผทู้ รงพระปรชี าสามารถในวิชาการหลายแขนง ทรงเปนปราชญ์ ทางอักษรศาสตร์ ประวัตศิ าสตร์ ดนตรี และงานชา่ ง พระองค์มีพระนาม เดิมว่า พระองคเ์ จา้ จติ รเจรญิ เปนพระราชโอรสในพระบาทสมเดจ็ - พระจอมเกล้าเจา้ อย่หู วั กบั หม่อมเจา้ หญงิ พรรณราย ประสูตทิ ีตาํ หนักใน พระบรมมหาราชวัง เมอื วันที ๒๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๐๖ ทรงไดร้ บั การ ศึกษาขันต้นทโี รงเรยี นคะเดต็ ทหาร จากนันผนวชเปนสามเณรอยทู่ ีวัด บวรนิเวศวหิ าร หลงั จากนันทรงศึกษาวชิ าการตา่ ง ๆ และราชประเพณี

๑๐ สมเดจ็ พระศรสี วรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอยั ยิกาเจ้า พระองค์ ทรงรับอภิบาลพระราชโอรสและพระราชธดิ าใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หวั ทกี ําพร้าพระมารดาอีก ๔ พระองค์ นันคอื พระเจา้ ลกู เธอ พระองคเ์ จ้าเยาวภาพงษส์ นิท พระเจา้ ลกู ยาเธอ พระองคเ์ จา้ รงั สติ ประยูรศกั ดิและพระองค์ทรง สนับสนุนศิรริ าชพยาบาล ในปพ.ศ. ๒๔๓๑ ตงั แตเ่ ริมกอ่ ตงั เรอื ยมา ตราบจนพระองค์เสดจ็ สวรรคต อีกทังพระองค์ได้พระราชทานทรัพย์ เพือบาํ รุงโรงเรยี นตา่ ง ๆ ทงั ในส่วนกลางและส่วนภมู ิภาค อาทเิ ชน่ โรงเรียนราชนิ ี โรงเรยี นวรนารเี ฉลมิ จงั หวดั สงขลา โรงเรยี นวฒั โน ทัยพายพั จังหวดั เชียงใหม่ โรงเรียนเจา้ ฟาสร้าง จังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยา เปนตน้

๑๑ เจ้าพระยาโกษาธบิ ดี (ปาน) ในปลายสมยั ของพระนารายณ์มคี วามรสู้ ึกต่อต้านชาวต่างชาติ (โดยเฉพาะอย่างยิงฝรงั เศส)ในหมู่ขุนนางไทยและพระสงฆ์ พระเพท- ราชา กรมเจา้ ชา้ ง (ซึงต่อมาเปนกษตั ริย์องค์ที ๒๙ ของอยุธยา) ทรง เปนผู้นําในการตอ่ ตา้ นครังนี โกษาปานได้เขา้ เปนฝายของพระเพทราชา เมอื พระเพทราชาปราบดาภิเษกขนึ เปนกษัตริย์ โกษาปานไดร้ ับหมอบ หมายใหเ้ ปนผ้เู จรจากบั นายพลฝรังเศสทีคุมปอมอยูท่ ี เมืองบางกอกให้ ถอนทหารออกไปจากอาณาจักรไทยได้สาํ เรจ็ ในสมัยของพระเพทราชาโกษาปานไดร้ ับเลอื นใหเ้ ปนเจา้ พระยาศรี ธรรมราช แตไ่ ดฆ้ า่ ตวั ตาย พ.ศ. 2243 เพราะถกู สงสัยว่าเปนผแู้ ยง่ ชิง ราชสมบัติ

๑๒ หม่อมราโชทยั (หมอ่ มราชวงศก์ ระต่าย อิศรางกรู ) หม่อมราโชทัย นามเดมิ หมอ่ มราชวงค์กระตา่ ย อิศรางกูร เปนบตุ ร ของกรมหมนื เทวานุรกั ษ์พระราชนิ ีในรชั กาลที ๒ เปนปนัดดาของสมเดจ็ - เจา้ ฟากรมพระศรีสดุ ารกั ษ์ ซึงเปนพระพนี างในพระบาทสมเดจ็ พระพุทธ- ยอดฟาจุฬาโลกมหาราชหมอ่ มราชวงศ์กระต่ายเกดิ เมือวันที ๑๒ มถิ ุนายน พุทธศักราช ๒๓๖๓ เมือเจรญิ วยั บิดาได้นําไปถวายตวั อยกู่ ับ พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจา้ อย่หู ัวเมือครังยังดํารงพนะอิสริยยศเปน เจา้ ฟามงกฎุ สมมตุ เิ ทวาวงศ์พงศาอศิ วรกระษตั ริย์ขตั ติยราชกุมาร หม่อมราชวงคก์ ระต่ายได้อยรู่ ับใชใ้ นพระองคท์ า่ นตลอดมาด้วยเปนญาติ ใกลช้ ดิ ทางพระราชมารดาในเจา้ ฟามงกฎุ

๑๓ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุรยิ วงศ์ (ช่วง บนุ นาค) สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีวงศ์มีนามเดิมวา่ ช่วง บนุ นาค เปนบุตรชายคน ใหญข่ องสมเด็จเจา้ พระยาบรมมหาประยรู วงศ์ (ดศิ บุนนาค) กบั ทา่ นผหู้ ญิงจันทร์ เกิดเมอื ปมะโรง วันศุกร์ เดือนยี ขึน ๗ คํา ตรงกบั วนั ที ๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๓๕๑ มพี ี น้องรว่ มบิดามารดาเดยี วกนั ๙ คน แต่ในสดุ เหลอื ท่านกับน้องอกี ๔ คน คือ เจ้าคุณ- หญิงแข เจา้ คณุ หญิงปุก เจ้าคุณหญิงหร่นุ และพระยามนตรีสุริยวงศ์ (ชุ่ม) เทา่ นันที เติบโตเปนผู้ใหญม่ าดว้ ยกัน ตอนเยาวว์ ยั เด็กชายช่วง บุนนาค ไดร้ ับการศึกษาจากวัดพอประมาณ ไมไ่ ด้เลา่ เรียนอกั ขรสมัยอย่างลกึ ซึง แตไ่ ด้อา่ นและเรยี นตําราต่างๆ จากสมเด็จเจา้ พระยา- บรมมหาประยูรวงศ์ ซงึ มีตําแหน่งเปนทเี สนาบดกี ลาโหมและเสนาบดีกระทรวงตา่ ง ประเทศหรือกรมท่า ทาํ ให้ไดท้ ราบเรืองราวตา่ งๆ เกยี วกบั การเมอื งมากขนึ มีความ เฉลียวฉลาด ปฏิภาณไหวพรบิ ทวีขึนเปนลาํ ดับ โดยเฉพาะในกระบวนการเมืองและการ ติดต่อกับต่างประเทศ และภายหลังทีรับราชการในกรมมหาดเลก็ กศ็ กึ ษาภาษาองั กฤษ และวิชาช่างจากมิชชนั นารี จนสามารถตอ่ เรือรบ (เรือกาํ ปน) ใช้ในราชการได้

๑๔ ซมี ง เดอ ลา ลแู บร์ ซมี ง เดอ ลา ลแู บร์ เปนราชทตู ของพระเจา้ หลยุ ส์ที ๑๔ แห่งฝรงั เศส ได้เดนิ ทางเข้ามาในประเทศไทยในรชั สมยั สมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช เพอื เจรญิ สัมพนั ธไมตรกี ับไทย โดยเดินทางมาทกี รงุ ศรอี ยธุ ยาพรอ้ มกบั เจ้าพระยาโกษาธบิ ดี (ปาน) และทหารของฝรังเศสประมาณ ๖๐๐ คน ลา ลแู บร์ ไดร้ บั การแตง่ ตังให้เปนหัวหน้าคณะทตู ฝรังเศสร่วมกับ กล๊อด เซเบอเรต็ ดูว์ บเู ล (Claude Céberet du Boullay) เดินทางมาอยธุ ยาเพือ เจรจาเรืองศาสนาและการค้าของฝรงั เศสในอาณาจกั รอยธุ ยาเมอื พ.ศ. ๒๒๓๐ ในการเจรจานันอยุธยาไม่สจู้ ักยนิ ยอมรับขอ้ เสนอของฝรังเศส ทําให้เสยี เวลาในการเจรจาหลายสปั ดาห์ ในทสี ดุ ฝายไทยกย็ นิ ยอมรับขอ้ เสนอตามความประสงคข์ องฝรังเศสและทังสองฝายไดล้ งนามในสญั ญา การค้าทเี มืองลพบรุ เี มือวันที ๑๑ ธันวาคม

๑๕ พระสังฆราชปลเลอกวั ซ์ พระสงั ฆราชปลเลอกัวซเ์ กดิ เมือวันที ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๓๔๘ ที เมืองโกต-ดอร์ ประเทศฝรังเศส เมือท่านอายุได้ ๒๓ ป ทา่ นก็ไดต้ ัดสินใจ บวชเปนบาทหลวง เมอื วนั ที ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๗๑ ทีเซมนิ ารขี อง คณะมิสซงั ตา่ งประเทศแหง่ กรงุ ปารสี จากนันทา่ นกไ็ ด้รับมอบหมายใหไ้ ป เผยแผ่ศาสนาคริสต์ทอี าณาจักรสยาม ไดอ้ อกเดนิ ทางเมือวนั ที ๓๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๓๗๑ ถงึ สยามเมอื วนั ที ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๓๗๒ ในป พ.ศ. ๒๓๘๑ ทา่ นไดร้ ับตาํ แหน่งอธิการวดั คอนเซป็ ชญั ท่านได้ ปรับปรุงโบสถแ์ หง่ นี ซึงสร้างขนึ ตังแต่ พ.ศ. ๒๒๑๗ ในสมัยสมเด็จพระ นารายณ์มหาราช แลว้ จากถกู ทิงรา้ งมานานแลว้ ยา้ ยไปอยทู่ โี บสถ์อสั สัมชญั ในป พ.ศ. ๒๓๘๑

๑๖ หมอบรัดเลย์ หรือ แดน บชี แบรดลยี ์ เมือวนั ที ๑ กรกฎาคม ๒๓๗๗ หมอบรดั เลยอ์ อกเดินทางจากบอสตันมุ่งหน้าสู่ สยาม โดยเรือ \"แคชเมียร\"์ ใช้เวลารอนแรมในทะเลเปนเวลา ๖ เดือน หมอบรัดเลยก์ ็มา ถงึ สงิ คโปร์ในวันที ๑๒ มกราคม ๒๓๗๘ และแวะพกั อยู่ทสี ิงค์โปร์อีก ๖ เดอื น กอ่ นจะเดิน ทางเขา้ สสู่ ยามในวนั ที 18 กรกฎาคม ๒๓๗๘ ซงึ ตรงกบั วนั เกดิ ปที ๓๑ ปพอดี โดยมาถงึ พรอ้ มภรรยา เอมิลี เข้ามาทํางานในคณะกรรมธิการพันธกจิ ครสิ ตจักรโพ้นทะเล ตงั แต่ เดอื นกรกฎาคม พ.ศ. ๒๓๗๙ ในสมัยรชั กาลที ๓ พกั อาศัยอยู่แถววัดเกาะ สาํ เพ็ง หรอื วัดสมั พนั ธวงศ์ ในสมยั นี โดยอาศัยพักรวมกบั ครอบครวั ของศาสนาจารย์สตเี ฟน จอห์นสัน หมอบรัดเลย์เปดโอสถศาลาขนึ เปนทีแรกในสยาม เพือทําการรกั ษา จา่ ยยา และหนังสือเกียวกบั ศาสนาใหก้ บั คนไข้ แต่เนืองจากในย่านนันมีชาวจนี อาศัยอยู่ กิจการนี จงึ ถูกเพ่งเล็งว่าอาจทําให้ชาวจนี กระดา้ งกระเดืองตอ่ รฐั บาลสยามได้ จึงกดดันให้ เจ้าของทีดินคอื นายกลิน ไมใ่ หม้ ิชชันนารเี ช่าอกี ตอ่ ไป ตอ่ มาจงึ ยา้ ยไปอยู่แถวกุฎีจนี ทเี ปนยา่ นของชาวโปรตุเกส เช่าบ้านทีปลกู ใหฝ้ รัง เชา่ ของเจ้าพระยาพระคลงั ซงึ ต่อมาคือสมเดจ็ พระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ บนุ นาค) บรเิ วณหน้าวดั ประยรุ วงศาวาส โดยหมอบรัดเลยแ์ ละคณะมิชชันนารีดดั แปลงบ้านเชา่ ทพี ักแหง่ ใหม่นีเปน โอสถศาลา เปดทาํ การเมอื ๓๐ ตุลาคม ๒๓๗๘

๑๗ พระยารัษฎานุประดิษฐม์ หิศรภกั ดี (คอซิมบี ณ ระนอง) พระยารษั ฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซมิ บี ณ ระนอง) ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๐๐ – ๑๐ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๖ เปนขา้ ราชการชาวไทย ระหวา่ งเปนเจา้ เมืองตรงั ได้พฒั นา เมืองใหเ้ จริญก้าวหน้าจนกลายเปนเมอื งเกษตรกรรม จึงได้เลือนตาํ แหน่งเปนสมุห- เทศาภิบาลสาํ เร็จราชการมณฑลภูเก็ต และเปนผไู้ ด้รบั พระราชทานนามสกลุ ณ ระนอง คอซมิ บี ณ ระนอง เกดิ ทจี ังหวัดระนองเมือวันพธุ เดอื นห้า ปมะเส็ง ตรงกับเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๐๐ เปนบตุ รคนสดุ ท้องของพระยาดาํ รงสจุ ริตมหศิ รภกั ดี (คอซเู จยี ง ณ ระนอง) ซงึ เปนชาวจีนฮกเกยี นทีอพยพมาอยู่เมอื งไทยตังแตร่ ัชกาลที ๓ และนางกิม ชอื \"ซิมบี\" เปนภาษาฮกเกียน แปลวา่ \"ผมู้ ีจิตใจดงี าม\" เมืออายไุ ด้ ๙ ป ไดต้ ดิ ตามบดิ า เดินทางกลบั ไปประเทศจีนและอาศยั อยู่ทีนันเปนเวลา ๒ ป ทําให้ไดเ้ รยี นร้สู ิงต่าง ๆ และได้ ดแู ลกิจการแทนบดิ า ทัง ๆ ทมี ไิ ด้เรยี นหนังสอื มีความรู้หนังสือเพยี งแคล่ งลายมอื ชือตน ไดเ้ ท่านัน แต่มีความสามารถพดู ไดถ้ งึ ๙ ภาษา บดิ าจึงหวังจะให้สืบทอดกิจการการค้า แทนตน มไิ ด้ประสงค์จะให้รับราชการเลย

๑๘ พระยากลั ยาณไมตรี (ฟรานซสิ บ.ี แซร)์ พระยากลั ยาณไมตรี เกดิ เมือ พ.ศ. ๒๔๒๘ ทมี ลรัฐเพนซลิ วาเนีย สหรฐั อเมรกิ า สําเร็จการศึกษาจากมหาวทิ ยาลยั ฮาร์วารด์ และไดเ้ ปน ศาสตราจารย์วชิ ากฎหมายของมหาวิทยาลัยแหง่ นี กอ่ นทีจะเขา้ มารบั ราชการ ในประเทศไทยในตําแหน่งทีปรกึ ษากระทรวงการตา่ งประเทศ ตังแต่ พ.ศ. ๒๔๖๖ ถึง พ.ศ. ๒๔๖๘ ดร.แซร์ มีบทบาทสาํ คญั ในการปลดเปลืองข้องผกู พนั ตามสนธสิ ญั ญาเบาว์ ริงทไี ทยทําไว้กับประเทศองั กฤษในสมยั รัชกาลที ๔ และสนธิสัญญาลกั ษณะ เดยี วกันทีไทยทาํ ไวก้ ับประเทศอืน ๆ ซงึ ฝายไทยเสยี เปรยี บมากในเรืองทคี นใน บงั คับตา่ งชาตไิ ม่ตอ้ งขึนศาลไทย และไทยจะเก็บภาษจี ากต่างประเทศเกินรอ้ ยละ ๓ ไม่ได้ ประเทศไทยพยายามหาทางแกไ้ ขสนธสิ ัญญาเสยี เปรยี บนีมาโดยตลอด ตังแตส่ มยั รัชกาลที ๕ มาจนถึงสมยั รัชกาลที ๖ ปรากฏวา่ มเี พียง ๒ ประเทศที ยอมแก้ไขให้โดยยงั มีข้อแม้บางประการ ไดแ้ ก่ สหรฐั อเมริกาเปนประเทศแรกที ยอมแก้ไขใน พ.ศ. ๒๔๓๖ และญปี ุนยอมแกไ้ ขใน พ.ศ. ๒๔๖๖

๑๙ ศิลป พีระศรี ศาสตราจารย์ศลิ ป พรี ะศรี เดิมชือ CORRADO FEROCI เกิดเมือวันที ๑๕ กนั ยายน พ.ศ.๒๔๓๕ ตาํ บลซานยโิ อวานนี เมอื งฟลอเรนซ์ ประเทศอติ าลี บิดาชอื นายอารท์ ูโด มารดาชอื นางซันตนิ า มอี าชีพทําธรุ กิจการค้า ท่านได้สมรสกับนาง FANNI VIVIANI มบี ุตรด้วยกนั ๒ คน บุตรหญิงชืออิซาเบลลา ปจจบุ นั เปนนัก ธุรกิจ บตุ รชายชือ โรมาโน เปนสถาปนิก ศาสตราจารย์ศลิ ป พีระศรี เปนชาวฟลอเรนซ์ เมอื งทีเต็มไปด้วยศลิ ปะ เมอื เยาว์วยั ทา่ นชืนชมผลงานศลิ ปกรรมของไมเคลิ แองเจโล ประติมากรเอกของโลก ชาวฟลอเรนซ์ เมอื โตขึนจงึ ได้เข้าศกึ ษาศลิ ปะทีราชวทิ ยาลยั ศลิ ปะแหง่ นคร ฟลอเรนซ์ จบการศกึ ษาตงั แตอ่ ายุยังน้อยเพยี ง ๒๓ ปเทา่ นัน ไดร้ บั ประกาศนียบัตร ชา่ งเขียนชา่ งปนและเขา้ สอบชิงตําแหน่งศาสตราจารย์ได้รับเกียรตนิ ิยมอันดบั หนึง ผลงานในวยั หนุ่มทีได้รับยกยอ่ งและมชี ือเสียงโดง่ ดังในฐานะของศลิ ปน คอื ได้รบั รางวัลชนะการประกวดออกแบบอนุสาวรีย์หลายครงั

๒๐ บรรณานุกรม “กรมพระยาดาํ รงราชานุภาพ” บคุ คลสําคญั ของโลก. (ม.ป.ป.). [ออนไลน]์ . ได้จากhttps://www.pineapplenewsagency.com/th/c302/“กรมพระยา ดํารงราชานุภาพ” +บคุ คลสาํ คัญของโลก [สบื คน้ เมือ ๒๒ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๔]. เจา้ ฟากรมพระยานริศรานุวดั ตวิ งศ์ (๒๕๕๙). [ออนไลน]์ . ได้จากhttps://kwankamonaon.blogspot.com/p/blog-page_2759. [สบื คน้ เมอื ๒๒ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๔]. เจ้าพระยาโกษาธบิ ดี (ปาน) (ม.ป.ป.). [ออนไลน์]. ไดจ้ ากhttp://www.oceansmile.com/K/Ayuttaya/Kosapan.htm [สืบคน้ เมือ ๒๓ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๔]. ซีมง เดอ ลา ลแู บร์ (ม.ป.ป.). [ออนไลน์]. ได้จากhttps://historyofthailand1.blogspot.com/p/14-600-claude- ceberet-du-boullay.html[สบื คน้ เมอื ๒๔ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๔. พระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนทิ . (ม.ป.ป.). [ออนไลน์]. ได้จากhttps://dvifa.mfa.go.th/th/page/ประวัตสิ มเด็จพระเจา้ บรมวงศ์เธอ [สบื ค้นเมือ ๒๒ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๔]. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธริ าชสนิท. (ม.ป.ป.). [ออนไลน์]. ได้จากhttps://sites.google.com/site/nunookty/phracea-brm-wngs- thex-krm-hl-wng-wngsathi-rach-snith? [สืบค้นเมือ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔].

๒๑ บรรณานุกรม พระยากัลยาณไมตรี(ฟรานซิส บี. แซร์)(ม.ป.ป.). [ออนไลน์]. ไดจ้ ากhttp://www.thaigoodview.com/node/84545 [สบื ค้นเมอื ๒๕ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๔]. พระยารัษฎานุประดษิ ฐม์ หิศรภักด(ี คอซมิ บี ณ ระนอง)(ม.ป.ป.). [ออนไลน]์ . ไดจ้ ากhttps://th.wikipedia.org/wiki/พระยารัษฎานปุ ระดิษฐม์ หศิ ร ภกั ดี_(คอซมิ บี_ณ_ระนอง)[สืบคน้ เมือ ๒๕ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๔]. พระราชกรณยี กจิ ของรชั กาลที ๘. (ม.ป.ป.). [ออนไลน]์ . ได้จาก: https://sites.google.com/site/biographyofkingbysung /rachkal-thi-8[สบื ค้นเมอื ๒๑ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๔]. พระราชประวัตพิ ระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจา้ อยู่หวั . (ม.ป.ป.). [ออนไลน]์ . ไดจ้ าก:https://library.stou.ac.th/odi/rama-7 [สบื ค้นเมอื ๒๑ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๔]. พระสังฆราชปลเลอกวั ซ์ (ม.ป.ป.). [ออนไลน์]. ไดจ้ ากhttps://www.wikiwand.com/th/ฌ็อง-บาติสต์ ปาลกัว [สืบค้นเมือ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔. รัชกาลที ๖. (ม.ป.ป.). [ออนไลน์]. ไดจ้ าก: https://sites.google.com/site/rachkalthi6 [สืบคน้ เมอื ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔].

๒๓ บรรณานุกรม ศลิ ป พีระศร(ี ม.ป.ป.). [ออนไลน์]. ได้จากhttps://www.kroobannok.com/2448 [สืบคน้ เมอื ๒๕ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๔]. สมเดจ็ เจ้าพระยาบรมมหาศรสี รุ ิยวงศ(์ ช่วง บุนนาค)(ม.ป.ป.). [ออนไลน]์ . ได้จากhttps://www.baanjomyut.com/library_2/extension- 1/chung_boonnak/index.html [สืบค้นเมือ ๒๓ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๔. สมเด็จพระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส. (ม.ป.ป.). [ออนไลน์]. ได้จากhttps://sites.google.com/site/jutapron1012/hnwy-thi-4 [สบื ค้นเมอื ๒๑ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๔]. สมเดจ็ พระศรสี วรินทริ าบรมราชเทวี พระพนั วสั สาอยั ยกิ าเจ้า(ม.ป.ป.). [ออนไลน]์ . ได้จากhttps://www.konruksriracha.in.th/15416001/ สมเดจ็ พระศรีสวริ นทริ าบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยกิ าเจา้ [สบื คน้ เมอื ๒๒ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๔]. ๑๐ พระราชกรณียกจิ อนั โดดเดน่ ในพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวภมู พิ ลอดลุ ยเดช รชั กาลที ๙. (ม.ป.ป.). [ออนไลน์]. ไดจ้ ากhttps://hilight.kapook.com/view/143392 [สืบค้นเมือ ๒๑ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๔].

๒๔ บรรณานุกรม หมอบรัดเลย์ หรอื แดน บีช แบรดลยี ์(ม.ป.ป.). [ออนไลน]์ . ได้จากhttp://www.tnews.co.th/contents/338197 [สืบคน้ เมอื ๒๔ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๔]. หม่อมราโชทัย(หม่อมราชวงศก์ ระต่าย อศิ รางกรู ) (ม.ป.ป.). [ออนไลน]์ . ได้จากhttp://www.panyathai.or.th/ [สบื ค้นเมือ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔].

คณะผู้จดั ทาํ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook