สมุดบันทึกการเรียนรู้ วิชาแนวทางการศึกษาวรรณคดีไทย

สารบัญ หนา้ เร่ือง ก ข คานา ๑ ประวตั ิส่วนตวั ๒-๓ สัปดาห์ที่ ๑ ปฐมนเิ ทศ ๔-๕ สปั ดาห์ที่ ๒ ความหมายและองค์ประกอบของวรรณคดีไทย ๖ สัปดาหท์ ่ี ๓ ปัจจยั ทม่ี ีอทิ ธิพลต่อการสร้างสรรคว์ รรณคดี (เกร็ดความรูว้ รรณคดไี ทยกลุ่มที่ ๑) ๗-๙ สปั ดาห์ท่ี ๔ หยดุ วนั เฉลมิ พระชนมพรรษา พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ร.๑๐ ๑๐-๑๑ สปั ดาหท์ ่ี ๕ ยคุ สมัยของวรรณคดี (เกรด็ ความรู้วรรณคดไี ทยกลุ่มที่ ๒) ๑๒-๑๓ สปั ดาห์ท่ี ๖ ขนบวรรณคดไี ทย (เกร็ดความรู้วรรณคดีไทยกลุ่มที่ ๓) ๑๔ สัปดาหท์ ี่ ๗ นาเสนองาน ตัวละครในแบบฉบับวรรณคดไี ทย ๑๕-๑๖ สปั ดาหท์ ี่ ๘ สอบกลางภาค ๑๗-๑๘ สปั ดาหท์ ่ี ๙ วรรณคดีกับชวี ิต (เกร็ดความรู้วรรณคดไี ทยกลมุ่ ที่ ๔) ๑๙-๒๐ สัปดาหท์ ่ี ๑๐ นาเสนองาน วรรณคดีไทยไม่ใชเ่ รอื่ งไกลตัว ๒๑-๒๒ สัปดาห์ที่ ๑๑ บทบาทและคณุ ค่าของวรรณคดีไทย (เกร็ดความรู้วรรณคดีไทยกล่มุ ที่ ๕) ๒๓ สปั ดาห์ท่ี ๑๒ วธิ กี ารศึกษาวรรณคดีไทย (เกรด็ ความร้วู รรณคดีไทยกลมุ่ ที่ ๖) ๒๔ สปั ดาห์ที่ ๑๓ นาเสนอความก้าวหน้าของงาน ๒๕ สัปดาหท์ ่ี ๑๔ เตรียมงานนาเสนอ ๒๖ สปั ดาห์ที่ ๑๕ หยคุ วนั คล้ายวนั สวรรคต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ร.๙ สัปดาหท์ ่ี ๑๖ นาเสนองาน สร้างสรรคผ์ ลงานท่ีได้รับแรงบนั ดาลใจจากวรรณคดีไทย

ก คานา สมุดบันทึกกการเรยี นรเู้ ล่มนีจ้ ดั ทาขึน้ เพ่ือบนั ทึกความรู้ ท่ีข้าพเจ้าได้ศกึ ษาในรายวิชาแนวทางการศึกษาวรรณคดี ไทยเก่ียวกับเนอื้ หาสาระและเกรด็ ความรู้ต่างๆท่เี ปน็ ประโยชน์สามารถนามาประกอบการเรยี นรู้ความเขา้ ใจใน วรรณคดีไดม้ ากยิง่ ขึน้ การจดั ทาสมดุ บนั ทึกการเรยี นรู้เลม่ น้ี ไดบ้ นั ทึกการถ่ายทอดความรู้โดยอาจารยป์ ระจาวิชา แนวทางการศกึ ษาวรรณคดีไทยขอขอบพระคุณทา่ น อาจารย์พฤฒชิ า นาคะผวิ เป็นอย่างสูงผู้จดั ทาคาดหวังเป็น อย่างยิ่งว่าสมดุ การบนั ทกึ กรเรียนรูเ้ ลม่ นจี้ ะมีข้อมลู ทเ่ี ป็น ประโยชนต์ อ่ ผ้ทู ี่สนใจศึกษาวรรณคดหี ากมีข้อผิดพลาด ประการใดตอ้ งขออภยั มา ณ ที่น้ี แพรวนภา ผู้จดั ทา

ข ประวตั ิส่วนตัว ชือ่ นางสาวแพรวนภา ลืออานาจ ช่อื เลน่ แพรว รหสั นกั ศึกษา : ๖๔๑๑๕๒๔๕๑๐๕ หมเู่ รยี นท่ี๑ สาขาวชิ าการสอนภาษาไทย คณะครุศาสตร์ ชัน้ ปีที่ ๑ มหาวิทยาลยั ราชภฏั สกลนคร วนั /เดือน/ปีเกดิ : ๓๐ มกราคม ๒๕๔๕ สญั ชาติ : ไทย เช้อื ชาติ : ไทย ศาสนา : พทุ ธ ทอิี่ ยปู่ ัจจุบนั : ๙/๓๒ หมู่ ๕ บ้านบะหวา้ แสก ต.ทา่ เรือ อ.นาหวา้ จ.นครพนม ๔๘๑๘๐ จบจาก : โรงเรยี นภูดนิ แดงวทิ ยา ต.หนองสนม อ. วานรนวิ าส จ.สกลนคร ความสามารถพเิ ศษ : กลา่ วสนุ ทรพจนภ์ าษาไทย งานอดิเรก : ดซู รี ีย์ ฟังเพลง คติประจาใจ :ความพยายามคอื หนทางแห่งความสาเรจ็ เบอร์โทร : ๐๖๑๕๙๒๒๒๕๗

สปั ดาห์ที่ ๑ ๑ ปฐมนิเทศ จดุ มงุ่ หมายของรายวชิ า กิจกรรมภายในคาบ -นักศกึ ษาสามารถสบื คน้ วเิ คราะห์ความรู้พนื้ ฐานทางวรรณคดีไทยได้ -อาจารยแ์ นะนาเนอื้ หาท่จี ะเรียนในรายวิชา -นกั ศกึ ษามคี วามรูพ้ ้ืนฐานเกีย่ วกบั การจาแนกประเภทวรรณคดี -อาจารยแ์ นะนารายละเอียดวธิ กี ารเรียนการสอนและ -นกั ศกึ ษาสามารถอธิบายหลกั การวเิ คราะห์วรรณคดแี ละนาไป การวัดผล ประยุกตใ์ ช้ได้ -กิจกรรมทาความรจู้ กั เพอ่ื นรว่ มชั้น -นกั ศึกษามีทศั นคติทด่ี ีตอ่ วรรณคดีไทย เห็นคณุ คา่ และความสาคญั - อาจารยม์ อบหมายงานเกรด็ ความรู้ ของวรรณคดไี ทย วรรณคดไี ทย ข้อพึงปฏิบตั ิรว่ มกนั คอลัมนใ์ นใจฉนั -เข้าเรยี นเวลา ๑๓.00-๑๖.00 น. ความรูส้ กึ : ตน่ื เตน้ ท่ีได้รู้จกั เพอ่ื นๆ -เช็กชือ่ ในรปู แบบออนไลน์ คาถาม/ขอ้ สัย:เรียนวรรณคดไี ปเพ่อื อะไร -ลาป่วยเขยี นใบลาสง่ ทีหลังได้ ลากิจตอ้ งเขยี นใบลาสง่ ลว่ งหน้า การนาไปประยุกต์ : นาไปใชแ้ นวทางในการเรยี น ๒-๓ วัน ปัญหาและอปุ สรรค : ใช้แอพ zoom ยงั ไมค่ ลอ่ ง ประเมินตนเอง: ๓ คะแนน

สปั ดาห์ที่ ๒ ๒ ความหมายและองค์ประกอบของวรรณคดไี ทย วรรณคดี หมายถึงบทประพันธ์ท่ีไดร้ ับการยกยอ่ งวา่ แต่งดีมีคุณคา่ ลักษณะเฉพาะของวรรณคดไี ทย ทางวรรณศลิ ป์เชน่ รามเกียรต์ิ ลลิ ติ พระลอ วรรณคดไี ทยในระยะแรกจะมีลกั ษณะเฉพาะ คือ ๑. มลี ักษณะเปน็ ไปตามนสิ ัยรักอสิ ระและชอบดัดแปลงของคนไทย วรรณกรรม หมายถึงงานหนังสือบทประพนั ธ์ทกุ ชนดิ ๒. มีราชสานกั เป็นศนู ยก์ ลางของวรรณคดี ๓. มีประเพณีเลยี นแบบครู ทงั้ รอ้ ยแก้วและรอ้ ยกรอง เชน่ นิทานเวตาล สี่แผน่ ดิน ๔. เนน้ ศลิ ปะการเรียบเรียงถอ้ ยคามากกว่าความคดิ วตั ถุประสงค์การแต่งวรรณคดี ๑.เพอื่ แสดงความรู้สกึ นกึ คดิ ๒.เพอื่ ให้ความร้หู รอื บทวชิ าการ ๓.เพ่อื ประโยชนด์ ้านบันเทิง องค์ประกอบของวรรณคดี มี ๖ ประการ ดังนี้ ๑. โครงเร่ือง ๒. แก่นเร่ือง ๓. ตัวละคร ๔. บทสนทนา ๕. เวลาและสถานที่ ๖. มมุ มอง

๓ ประเภทของวรรณคดไี ทย ๓.จาแนกตามเนื้อหา วรรณคดพี ุทธศาสนา วรรณคดคี าสอน ๑.แบง่ ตามลักษณะที่แตง่ วรรณคดปี ระเภทพธิ กี รรม วรรณคดบี นั เทงิ -ร้อยแก้ว วรรณกรรมท่ไี ม่กาหนดบังคับคาหรอื ฉนั ทลกั ษณ์ วรรณคดปี ระวตั ิศาสตร เปน็ ความเรียงทว่ั ไป -รอ้ ยกรอง วรรณกรรมที่การเขียนมีการบงั คบั รปู แบบด้วย ๔.จาแนกตามหลักฐานท่ไี ด้มา ฉนั ทลักษณ์ตา่ งๆเชน่ โคลงฉนั ทก์ าพยก์ ลอนรา่ ย วรรณคดลี ายลกั ษณ์อักษรมีการจดบนั ทกึ เปน็ ลายลกั ษณ์ อกั ษรจารกึ ไวใ้ นใบลาน ศิลาจารกึ ฯลฯ ๒. แบง่ ตามความมุ่งหมายสาคญั วรรณคดมี ขุ ปาฐะเปน็ การจดจาสบื ตอ่ กนั มาโดยถา่ ยทอด วรรณคดีบรสิ ุทธเ์ิ ปน็ วรรณคดีที่ผแู้ ตง่ เรื่องดา้ นความ ดว้ ยปาก เช่น บทเหก่ ล่อม นิทานพนื้ บา้ น บนั เทงิ ไม่มีจดุ มุ่งหมายอนื่ วรรณคดปี ระยุกตเ์ ป็นวรรณคดีทแ่ี ต่งขน้ึ เพอ่ื ประโยชน์ ทางอื่นทไ่ี ม่ใช่ความบนั เทงิ คอลมั นใ์ นใจฉัน ความร้สู ึก : สนกุ คาถาม/ข้อสัย:วรรณคดมี ีความสาคัญกบั เราหรอื ไม่ การนาไปประยกุ ต์ : นาไปใช้ในการเรียนตอ่ ไป ปญั หาและอปุ สรรค : อินเทอรเ์ น็ตขัดขอ้ ง ประเมนิ ตนเอง: ๔ คะแนน

๔ สปั ดาหท์ ี่ ๓ ปัจจยั ท่มี อี ิทธิพลต่อการสร้างสรรค์วรรณคดไี ทย สงั คมและวัฒนธรรม อิทธิพลวรรณกรรมพื้นบ้าน อทิ ธพิ ล วรรณกรรมตะวันออก การเปลยี่ นแปลงตามเหตกุ ารณท์ างดา้ น เป็นประเภทมขุ ปาฐะ คอื การเลา่ ปากต่อ ทปี่ รากฏในวรรณกรรมไทยได้แก่ ประวตั ศิ าสตร์ การปกครอง สงั คม ปาก เช่น ตานาน พงศาวดารของการ วรรณกรรมอนิ เดียเปอรเ์ ซยี ชวา จนี ประเพณี วัฒนธรรม การย้ายราชธานีทา สร้างเมือง โดยส่วนมากพระบาทสมเดจ็ มอญ มขี อ้ สงั เกตวา่ คนไทยนิยมรับเร่ือง ให้เกิดการชาระวรรณคดี ความสนใจของ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยหู่ ัวเปน็ ผ้พู ระราช ประเภทนทิ านของวรรณคดีของชวา คนในสงั คมนน้ั ๆและประโยชน์ นพิ นธ์ดดั แปลงทาเปน็ ละคร เช่น ลลิ ิต ตะวนั ออกมาดัดแปลงเป็น เปลยี่ นแปลงตามเศรษฐกิจและการเมือง พระลอ ทา้ วแสนปม และสว่ นใหญ่จะอยู่ วรรณคดไี ทยมากทสี่ ดุ ทางภาคเหนือ

๕ ด้านวรรณกรรมตะวนั ตก ผู้สรา้ งสรรคว์ รรณคดี พ.ศ.๒๔๔๓-๒๔๔๖ มีการออกแบบนิตยสารและ เป็นปจั จยั ท่ีมอี ิทธพิ ลตอ่ การสร้างสรรค์ มีนวนยิ ายเรอื่ งสัน้ ตะวนั ตก พ.ศ.๒๔๔๗-๒๕๕๐ วรรณคดมี ากทีส่ ุดกวหี รอื ผปู้ ระพนั ธ์นา รัชกาลที่ ๖ ได้ทรงออกนิตยสารเร่ือง ทวีปัญญา ประสบการณ์ที่ประทบั ใจของตนมา ซ่งึ พระองคไ์ ดแ้ ปลนวนิยายสบื สวนภาษาองั กฤษ นพิ นธ์ขนึ้ เป็นวรรณคดที ่ีปรุงแต่งดว้ ย เรื่อง เชอร์ลอคโฮลม์ เป็นนวนิยายไทยเรือ่ ง ภาษาภมู ิหลังและลักษณะนสิ ัย นิทานนายทองอิน และเกดิ การแสดงละคร ของกม็ ตี ลอดจนสงั คมและวฒั นธรรม ดกึ ดาบรรพแ์ บบโอเปรา่ และยังไดร้ ับอทธพิ ล วรรณกรรมประเภทชวี ประวัติและอัตชวี ประวตั ิ คอลมั น์ในใจฉัน ของกวีคนสาคญั ความรสู้ ึก : สนุกสนานกับการเรยี น เกรด็ ความรวู้ รรณคดีไทย คาถาม/ขอ้ สัย: มอี ทิ ธพิ ลอ่ืนนอกจากทไ่ี ดก้ ล่าวมาม้ยั กลมุ่ ท่ี ๑ การนาไปประยกุ ต์ : นาไปประยกุ ตใ์ ช้ในการเรียน ปญั หาและอปุ สรรค : ไม่มี ลักษณะนิสัยนางในวรรณคดี ประเมนิ ตนเอง: ๕ คะแนน

สปั ดาหท์ ่ี ๔ ๖ หยุด วนั เฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทร รามาธิบดีศรีสินทรมหาวชริ าลงกรณ พระวชิรเกลา้ เจา้ อยู่หัว

๗ สปั ดาห์ท่ี ๕ ยคุ สมัยของวรรณคดไี ทย วรรณคดีสมยั สุโขทยั วรรณคดีสมัยกรุงศรอี ยธุ ยา วรรณคดสี มยั กรงุ สโุ ขทัยเท่าทปี่ รากฏหลักฐานมอี ยู่เพียง ๒ รัชสมยั คือ แบ่งยุคสมยั ของวรรณกรรมไทยสมยั อยุธยาไว้เป็น ๓ ยคุ ดังน้ี สมยั พ่อขุนรามคาแหงมหาราช และสมัยพระมหาธรรมราชาที่ ๑ (พระยาลิ ๑.สมยั อยุธยาตอนต้น ไท) มีวรรณคดีทีส่ าคัญ คือ ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระรามาธบิ ดีท่ี ๑ จนถึงสมัยพระเจา้ ทรงธรรมชว่ ง ๑. ศิลาจารึกหลักท่ี ๑ (ศิลาจารกึ ของพ่อขุนรามคาแหง) ระหว่าง พ.ศ.๑๘๙๓ ถึง พ.ศ. ๒๑๗๑ รวมเวลา ๒๗๘ ปี มี ๒. สภุ าษติ พระร่วง (บญั ญตั พิ ระร่วง) ไมป่ รากฏนามผ้แู ตง่ วรรณคดี ๕ เรอ่ื ง ดังน้ี ๓. เตรภูมิกถา (ไตรภูมิพระร่วง) ผู้แตง่ คอื พญาลไิ ท ๑ ลิลิตโองการแช่งน้า ๔. นางนพมาศ (ตารับทา้ วศรจี ุฬาลักษณ์) ผแู้ ต่งคอื นางนพมาศ ๒ มหาชาติคาหลวง ๓ ลิลิตพระลอ ๔ ลิลติ ยวนพ่าย ๕ กาพยม์ หาชาติ

๘ ๒.สมยั อยธุ ยาตอนกลาง ๓.สมัยอยธุ ยาตอนปลาย ต้ังแตส่ มยั สมเด็จพระเจ้าบรมโกศ จนถึงสมเดจ็ พระเจ้าเอกทศั ช่วง ตง้ั แตส่ มัยสมเด็จพระเจา้ ปราสาททอง จนถงึ สมยั สมเด็จพระ นารายณม์ หาราช ช่วงระหวา่ ง พ.ศ. ๒๑๗๒ จนถงึ พ.ศ.๒๒๓๑ รวม ระหวา่ ง พ.ศ.๒๒๗๕ ถึง พ.ศ. ๒๓๑๐ รวมเวลา ๓๕ ปี ในสมยั นี้กถ็ อื เวลา ๕๙ ปี ในสมัยนีอ้ ยธุ ยาตอนกลางถอื ว่าเป็นยคุ ทองของวรรณคดี เปน็ ยุคทองของวรรณคดีเชน่ กัน ซึง่ มีวรรณคดที ่สี าคญั ดงั นี้ เลยทเี ดยี ว ซึง่ มีวรรณคดที ่ีสาคัญๆ ดงั นี้ โคลงนิราศเจา้ ฟา้ อภัย -โคลงพาลีสอนนอ้ ง พระมาลยั คาหลวง -สมทุ รโฆษคาฉนั ท์ กาพยเ์ หเ่ รือ -จินดามณี โคลงนริ าศพระบาท -อนริ ุทธคาฉันท์ บทละครเรื่องอิเหนา -กาพยห์ ่อโคลง กลบทสริ บิ ลุ กิติ -โคลงอักษรสามหมู่ บทละครเรอื่ งดาหลงั -โคลงนริ าศนครสวรรค์ บทละครนอก -พงศาวดารกรงุ ศรอี ยธุ ยาฉบบั หลวงประเสรฐิ อักษรมติ ิ

๙ วรรณคดสี มยั ธนบรุ ี วรรณคดีสมยั กรุงรตั นโกสินทร์ (พ.ศ.๒๓๑๐-๒๓๒๕) วรรณคดีสมัยกรงุ ธนบรุ ี ท่ีสาคัญมี ๖ วรรณคดีสมัยกรุงรตั นโกสนิ ทร์ แบง่ ออกเปน็ ๒ ยุค ด้วยกนั คือ เรอื่ ง คอื ๑.รามเกียรต์ิ ผู้แตง่ สมเดจ็ พระเจา้ กรุงธนบรุ ี ๑.วรรณคดีสมยั รัตนโกสินทร์ตอนตน้ (พ.ศ๒๓๒๕-๒๓๙๔) ระหวา่ งรชั กาล ๒.ลิลิตเพชรมงกุฎ ผแู้ ตง่ หลวงสรวิชติ หรือเจ้าพระยาคลัง (หน) พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช จนถงึ รชั กาลพระบาทสมเดจ็ ๓.โคลงยอพระเกียรติสมเดจ็ พระเจ้ากรงุ ธนบรุ ี ๔.อเิ หนาคาฉนั ท์ ผู้แตง่ เจ้าพระยาพระคลงั (หน) พระนั่งเกล้าเจ้าอยหู่ วั ๕.กฤษณาสอนน้องคาฉันท์ ผู้แต่ง พระภิกษุอนิ ๖.นริ าศพระ ยามหานุภาพไปเมืองจนี ผแู้ ต่ง พระมหานภุ าพ ตวั อยา่ งวรรณคดสี าคัญ เชน่ คอลัมน์ในใจฉัน -รามเกียรติ์ -อิเหนา ความรู้สึก : รสู้ กึ เหนอื่ ยๆ -สามกก๊ -กาพยเ์ ห่ชมเครอ่ื งคาวหวาน คาถาม/ขอ้ สัย:กวคี นแรกของไทยคือใคร การนาไปประยุกต์ : สามารถนาไปเลา่ ใหผ้ อู้ ื่นฟงั ได้ -ขุนชา้ งขุนแผน -นิราศนรินทร์ ปัญหาและอุปสรรค : หิวขา้ ว ประเมินตนเอง:๔ คะแนน -ลิลติ ตะเลงพ่าย -โคลงโลกนิติ ๒. วรรณคดสี มัยรตั นโกสนิ ทรต์ อนกลาง (พ.ศ.๒๓๙๔-๒๔๖๘) ระหว่าง รชั กาลพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจ้าอยู่หัว จนถึงรชั กาลพระบาทสมเดจ็ พระ มงกฎุ เกล้าเจ้าอยู่หวั ตัวอยา่ งวรรณคดีสาคญั เช่น พระราชพธิ สี บิ สองเดอื น ไกลบา้ น เงาะปา่ ความพยาบาท มทั นะพาธา เวนิสวาณิช สกนุ ตลา นิทานเวตาล กามนิต เกรด็ ความรวู้ รรณคดไี ทย กลุ่มท่ี ๒ เร่ือง รู้หรอื ไม่.....ใครยน่ื หน่ึง

สัปดาห์ท่ี ๖ ๑๐ ขนบวรรณคดไี ทย ขนบ หมายถึง แบบแผนทก่ี ระทากันมา มักใชว้ า่ ขนบธรรมเนียมประเพณี ซึง่ หมายถงึ ทง้ั ธรรมเนยี มและประเพณที ี่ถอื ปฏบิ ัตติ าม ๆ กันมาโดยทัว่ ๆ ไป ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นอะไรแน่. ปจั จุบนั คาว่า ขนบ มกั จะหมายถงึ แบบแผนในการประพันธ์ เชน่ ขนบในการแตง่ นริ าศ จะตอ้ งกลา่ วถึงการเดินทางไป ยังสถานท่ีใดทห่ี นง่ึ มักต้งั ชอื่ นริ าศตามสถานทท่ี เี่ ปน็ จดุ หมาย เช่น นริ าศภเู ขาทอง นิราศพระบาท นริ าศลอนดอน ระหวา่ งเดนิ ทางเมื่อพบสถานที่ พรรณไม้ สตั ว์ หรอื สง่ิ ทน่ี า่ สนใจ ผ้แู ต่งจะโยงชื่อสถานท่หี รอื ส่งิ ทพี่ บเหน็ นัน้ กับหญงิ ท่รี กั เชน่ เหน็ ดอกนางแย้มก็นึกถึงการแย้มยมิ้ ของนาง. ขนบในวร รณคดีไทย ต้องเรม่ิ ด้วย บทประณามพจน์ แปลว่า คาแสดงการนอ้ มไหว้ เปน็ การสรรเสรญิ เทพยดา ครูผู้มีพระคณุ และพระมหากษตั ริย์ ขนบทางวรรณกรรม ๑. ขนบในการแต่ง ( ขอ้ กาหนดของคาประพันธ์แตล่ ะประเภท ) ๒. ขนบคาประณามพจน์และการลงทา้ ย ไดแ้ ก่ คาประณามพจน,์ สง่ิ ศกั ด์สิ ิทธิ์,พระมหากษัตริย์,การลงทา้ ย,ผแู้ ต่ง,ผบู้ ันทึก, วนั เวลาท่แี ตง่ ,สาเหตทุ ่ีแตง่ , ให้พร,ขอพร/ความประสงค์ของกวี,( ชาดก ) ใครกลับชาตมิ าเกิดเป็นใคร/อะไรบา้ ง,ออกตวั ใหช้ ่วยแกไ้ ขผลงาน ๓. ขนบการพรรณนาความไดแ้ ก่ บทชมโฉม,ชมธรรมชาติ,บทสระสรงทรงเครอ่ื ง,บทชมบ้านชมเมอื ง,บทเก้ยี วพาราสี/เขา้ พระเข้านาง,บทอศั จรรย์ ๔. ขนบดา้ นแนวเร่ือง ๕. ขนบดา้ นแบบฉบับของตัวเอก ๖. ขนบดา้ นการเลียนแบบ ( ประดิษฐกรรมเสริมแบบ VS ประดิษฐกรรมนฤมิตร ) ๗. ขนบนยิ มอารมณ์หรรษา

๑๑ ประโยชน์ของการศกึ ษาขนบทางวรรณคดไี ทย ๑.เข้าใจลักษณะสาคญั ของวรรณคดีไทย (สีสนั ของวรรณคดี) ๒. เขา้ ใจแนวคิดการสรา้ งสรรคง์ านของกวใี นแตล่ ะยุคสมัย (สืบทอด+สร้างสรรค์) ๓. แสดงให้เห็นอจั ฉรยิ ภาพของกวี ๔. เปน็ ความรูพ้ ้ืนฐานสาคัญทม่ี ีประโยชน์ต่อการวจิ ักษ์ วจิ ารณ์ วิจัย วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทย เกรด็ ความรวู้ รรณคดไี ทย คอลมั นใ์ นใจฉนั กลมุ่ ที่ ๓ ความร้สู กึ : รู้สึกไม่ตืน่ ตัว เร่ือง วรรคทองในวรรณคไทย คาถาม/ข้อสัย:ขนบวรรณคดเี กดิ ขึ้นตง้ั แต่เม่ือไร การนาไปประยกุ ต์ : นาไปใช้ประโยชน์ใน การวจิ กั ษ์ วจิ ารณไ์ ด้ ปญั หาและอปุ สรรค : ง่วงนอน ประเมินตนเอง:๔ คะแนน

สัปดาหท์ ี่ ๗ ๑๒ นาเสนองาน ตัวละครในแบบฉบบั วรรณคดไี ทย กลุ่มท่ี ๑ กลมุ่ ท่ี ๒ กลุ่มท่ี ๓ นางเอกแบบฉบบั วรรณคดไี ทย พระเอกแบบฉบบั วรรณคดไี ทย ฝ่ายปฏปิ กั ษใ์ นวรรณคดไี ทย -มีรปู รา่ งและใบหนา้ งดงาม -รูปงาม -เป็นตวั ต่อต้านตวั ละครหลัก -มารยาทงามวาจาดี -มจี ิตวญิ ญาณผจญภยั -ตวั โกงหรอื ตัวรา้ ย -มีความซอ่ื สัตยจ์ งรกั ภักดีและรกั เดียวใจเดียว -การครองดนิ แดน ครองทรัพย์สนิ ยกตวั อยา่ ง เชน่ -มคี วามขยันเก่งงานบ้านงานเรือน -การออกไปใช้ชีวิตเพอ่ื แสวงหาอัตลกั ษณ์ -ขนุ ช้าง -มีจติ ใจเมตตา -เกง่ กาจวชิ า -ทศกัณฐ์ -มีความกตญั ญู -มคี วามสามารถในการรบ ยกตัวอยา่ ง เชน่ -มคี าถาวชิ า พลังพเิ ศษ -นางรจนา -เจา้ ชู้ หลายเมีย -นางสีดา ยกตัวอย่าง เช่น -พระสงั ข์ -อเิ หนา

๑๓ กลุ่มท่ี ๔ กลมุ่ ที่ ๕ นางเอกนอกขนบวรรณคดไี ทย พระเอกนอกขนบวรรณคดไี ทย -รูปร่างหนา้ ตาอัปลกั ษณ์ -รปู งาม บอบบาง รปู รา่ งอรชรอ้อนแอน้ เอวบาง -เป็นหญงิ หลายใจ คบช้สู ่ชู าย -ไม่เก่งเรื่องการสรู้ บ -มปี ญั ญาความรู้ เปน็ ผนู้ า -มคี วามสามารถด้านอน่ื -มลี กั ษณะเป็นผู้กระทา ยกตวั อยา่ ง เชน่ ยกตัวอย่าง เชน่ -พระป่ินทอง -นางผเี สื้อสมุทร -พระอภัยมณี -นางกากี -มะกะโท -นางเมรี คอลัมนใ์ นใจฉนั ความร้สู กึ : รูส้ ึกเพลยี ๆ เหมือนจะไมส่ บาย คาถาม/ขอ้ สยั :ขนบวรรณคดีมีความสาคัญตอ่ กวีมากนอ้ ยเพียงใด การนาไปประยกุ ต์ : สามารถนาความร้ไู ปวิเคราะห์ตัวละครได้ ปญั หาและอุปสรรค : ง่วงนอน ประเมนิ ตนเอง:๔ คะแนน

๑๔ สปั ดาหท์ ่ี ๘ สอบกลางภาค

สัปดาห์ท่ี ๙ ๑๕ วรรณคดีกบั ชีวติ วรรณคดกี ับชีวิต มักจะแสดงสภาพชวี ิตของคนในสมัยที่มกี ารประพันธ์วรรณคดเี รื่องน้ันๆวรรณคดเี ปรียบไดก้ ับกระจกเงาท่ีสอ่ ง สะท้อนบางแง่มมุ ของสภาพสงั คมและวฒั นธรรม เรื่องราว ความเป็นมา ความคดิ และคา่ นิยมของคนในสงั คมใน แต่ละสมยั และเขา้ ใจคุณค่าของศลิ ปวัฒนธรรมของไทย มรดกวรรณคดี คอื ตวั เรอ่ื ง ตัวบท รูปแบบศิลปะที่ถา่ ยทอด วรรณคดเี รอื่ งน้ีมาแต่โบราณ ยังคงได้รบั การสืบทอด และตกทอดมาถงึ ปัจจบุ นั และยงั คงอยู่ในการรบั ร้ขู องคนยุคน้ี มรดกวรรณคดมี ีชีวติ คอื วรรณคดีไม่ไดต้ กทอด ดารงอยู่แบบไม่มีการเปลย่ี นแปลง แบบไรช้ ีวิต แต่ว่าตกทอดมาแล้วเป็นทส่ี นใจ ของผคู้ น จนมี การนามาดัดแปลง พลิกแพลง ที่มคี วามนาเสนอ ในลักษณะตา่ ง ๆ อย่างหลากหลาย สะท้อนใหเ้ ห็นมมุ มอง อารมณ์ของผู้คนต่างๆ ของผู้คนที่มี ตอ่ วรรณคดี มีการเปลีย่ นแปลงมกี ารถกู กลา่ วถงึ มกี ารนาไปปรับใช้ เช่น ๓.ด้านศลิ ปะอนื่ ๆจติ รกรรมฝาผนัง การแกะสลัก การปน้ั ตัวละครตา่ งๆ ๒. การแสดงโขน ละคร หนังใหญ่ ๓.ดา้ นอ่ืนๆ โลโกผ้ ลิตภณั ฑ์ เพลง

๑๖ เกร็ดความรู้วรรณคดีไทย กลุ่มท่ี ๔ เรื่อง นางในวรรณคดผี ทู้ ม่ี ี ชะตาอาภพั คอลมั นใ์ นใจฉัน ความรู้สึก :สนุกสนาน คาถาม/ขอ้ สัย:ปัจจุบันมีวรรณคดีเกิดขึ้นมาใหม่หรอื ไม่ การนาไปประยุกต์ : นาไปปรับใชในการเรียน ปญั หาและอปุ สรรค :ไมม่ ี ประเมนิ ตนเอง: ๕ คะแนน

สัปดาห์ท่ี ๑๐ ๑๗ กลุ่มท่ี ๑ สตั วใ์ นป่าหิมพานต์ นาเสนองาน วรรณคดีไทยไมใ่ ชเ่ รื่องไกลตัว กลมุ่ ที่ ๒ มสิ ยูนิเวริ ์สกับวรรณคดไี ทย กล่มุ ที่ ๓ วรรณคดีไทยใน The Mask ศึกษาเนอื้ หารปู แบบของคลปิ วิดโี อ ศกึ ษาเน้อื หาได้ทีน่ ี่ ศกึ ษาเน้อื หาได้ท่นี ี่

๑๘ กลมุ่ ท่ี ๔ ขนุ ช้างขนุ แผนในวถิ ีไทย กลุ่มที่ ๕ พระอภยั มณใี นวถิ ไิ ทย ศึกษาเนื้อหาได้ท่นี ี่ ศึกษาเน้อื หาไดท้ น่ี ี่ คอลมั น์ในใจฉัน ความรสู้ ึก :สนุกและต่ืนเตน้ คาถาม/ขอ้ สัย: ไมม่ ี การนาไปประยกุ ต์ : นาความรทู้ ี่ไดก้ ไปประยูกต์ในการเรียน ปัญหาและอปุ สรรค : ไมม่ ี ประเมนิ ตนเอง: ๕ คะแนน

สัปดาห์ท่ี ๑๑ ๑๙ บทบาทและคุณคา่ ของวรรณคดไี ทย บทบาทของวรรณคดไี ทย ศลิ ปะการประพนั ธใ์ นวรรณคดไี ทย การใชภ้ าพพจน์ คือการใชถ้ ้อยคาเพ่อื สร้าง จนิ ตนาการ(ภาพในใจ) แกผ่ ้อู า่ นโดยการเรียบเรียง -เปน็ เคร่อื งบันเทงิ ใจ การเล่นคา คือการสรรคามาเรียงรอ้ ย ในคา ถอ้ ยคาดว้ ยวธิ ีการตา่ งๆ ภาพพจน์ท่ีจะกลา่ วถงึ ใน -ใช้ประกอบการแสดง ไดแ้ ก่ รามเกยี รตอ์ิ เิ หนา ดา ประพนั ธ์โดยพลกิ แพลงใหเ้ กิดความหมาย ท่ีน้ีได้แก่ หลงั และอณุ รทุ -การเลน่ คาพอ้ ง คอื การนาคาพ้องมาใชค้ ู่กันใหเ้ กดิ -อปุ มา คือการเปรยี บวา่ สง่ิ หน่ึงเหมอื นกับอกี ส่งิ หนึ่ง -วรรณคดีมไี วส้ ง่ั สอน ไดแ้ กโ่ คลงโลกนติ สิ ุภาษิตสอน ความหมายท่ีสมั พนั ธก์ ัน -อุปลักษณ์ คือการเปรียบวา่ ส่ิงหนงึ่ เป็นอีกสิ่งหนึง่ หญิง -การเล่นคาซา้ คอื การนาคาคาเดยี วมาใช้ซา้ ๆทใ่ี กล้ -บุคคลวตั คือการสมมตสิ ง่ิ ทไี่ ม่มีชวี ติ พชื สัตวห์ รือ -วรรณคดมี ีไว้ส่งสาร ไดแ้ ก่ ราชาธริ าช สามก๊ก โคลน ใกล้กนั เพื่อย้าความหมาย ความคดิ ทเ่ี ปน็ นามธรรมให้มคี วามคิด ความรูสึก ติดลอ้ -การเลน่ เชงิ คาถาม คือการเรียงรอ้ ยถ้อยคาให้เป็น และแสดงออกเย่ียงมนษุ ย์ -วรรณคดเี ปน็ สว่ นหนง่ึ ของพิธตี า่ งๆ ไดแ้ ก่ลิลติ ประโยคเชิงคาถามแต่เจตนาท่จี รงิ ไม่ -สัทพจน์ คือการเลยี นเสยี งธรรมชาติ โองการแช่งนา้ ประชมุ กาพยเ์ หเ่ รอื พธิ สี ตั ปฏิญาณ ต้องการคาตอบ คุณค่าของวรรณคดไี ทย การเลน่ เสียง คอื การสรรหาคาให้มีเสียสัมผัสเป็น พิเศษกว่าปกติเพ่อื ใหเ้ กดิ ทานองเสียงไพเราะนา่ ฟงั วรรณคดีไทยชว่ ยนาเสนอภาพสังคมบางแงม่ มุ -การเล่นเสียงพยญั ชนะ คือ การใช้พยัญชนะเดยี วกนั วรรณคดีไทยช่วยยกระดับจิตใจของผูอ้ า่ น หลายพยางค์ตดิ ๆกัน วรรณคดีไทยแสดงใหเ้ ห็นภมู ิปญั ญาไทยทาง -การเลน่ เสียงสระ คือการใชส้ ัมผัสสระเดียวกนั หลาย ภาษาและวฒั นธรรมของคนไทย พยางคต์ ิดๆกัน -การเล่นเสยี งวรรณยุกต์ คือ การใชค้ าทไ่ี ลร่ ะดบั เสียง ๒ หรอื ๓ ระดับเปน็ ชดุ ๆไป

๒๐ เกรด็ ความรูว้ รรณคดีไทย กลมุ่ ท่ี ๕ เรื่อง สัตว์ในปา่ หมิ พานต์ คอลัมน์ในใจฉนั ความร้สู กึ :สนกุ มคี วามสขุ กบั การเรียน คาถาม/ขอ้ สัย:ไมม่ ี การนาไปประยกุ ต์ : นาไปปรบั ใช้ในการเรยี น ปญั หาและอุปสรรค : ไม่มี ประเมนิ ตนเอง: ๕ คะแนน

สัปดาห์ท่ี ๑๒ ๒๑ วิธีการศกึ ษาวรรณคดีไทย การอ่านวรรณคดไี ทย การวิเคราะหว์ รรณคดแี ละวรรณกรรม การอา่ นวรรณคดี ต้องกาหนดจุดมุ่งหมายในการอา่ น เพอ่ื ให้ การวิเคราะห์ หมายถงึ การพิจารณาตรวจตรา แยกแยะและประเมินคา่ การอา่ นแต่ละครง้ั ประสบความสาเรจ็ และเกดิ ประโยชนม์ ากทสี่ ุด สาหรบั จดุ ม่งุ หมายในการอ่านวรรณคดี สามารถแบง่ ได้ดังนี้ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อผู้วเิ คราะห์ในการนาไปแสดงความคิดเหน็ อภิปราย ๑. อา่ นเพ่ือความเพลดิ เพลนิ ทางอารมณ์ ๒. อา่ นเพราะชอบว่าเปน็ เรอื่ งท่ีถูกกบั นสิ ยั ของตน ขอ้ เทจ็ จรงิ ใหผ้ ู้อ่ืนทราบ ๓. อ่านเพราะเป็นเรือ่ งทแ่ี ปลกและตา่ งกับทีต่ นเคยประสบมา ๔. อา่ นยงั เพง่ เล็งข้อเท็จจรงิ แนวในการวเิ คราะหว์ รรณกรรม ๕. อา่ นเพอ่ื เพ่ิมพนู ประสบการณช์ ีวติ ๖.อา่ นเพอ่ื รบั รสความงามความไพเราะของบทประพันธ์ -ความเปน็ มาหรอื ประวัติของหนังสอื และผ้แู ต่ง -ลักษณะคาประพนั ธ์ การวจิ กั ษ์วรรณคดี -เรือ่ งยอ่ -เนื้อเรอ่ื ง วจิ ักษ์ = การอา่ นวรรณคดอี ยา่ งรอบดา้ น -แนวคดิ -คุณคา่ ของวรรณกรรม = ความเข้าใจ + ตระหนกั คุณคา่ = เข้าใจและตระหนักถึงคุณค่าของศิลปกรรมและ การวิเคราะหค์ ณุ ค่าของวรรณคดแี ละวรรณกรรม วรรณกรรมความนิยม ซาบซ้งึ มี ๔ ดา้ นดงั น้ี วรรณคดีวจิ ักษ์ หมายถงึ การทาความเขา้ ใจถึงวรรณคดที แุ งม่ มุ เกดิ ความรู้ ความคดิ และความเขา้ ใจ ๑.คณุ ค่าด้านวรรณศิลป์ ๒.คุณค่าดา้ นเนื้อหาสาระ ๓.คุณคา่ ดา้ นสังคม ๔.การนาไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาวนั

๒๒ เกรด็ ความรู้วรรณคดีไทย กลุ่มท่ี ๖ เรื่อง เปดิ Timelineการเป่าปีใ่ น เรอ่ื งพระอภยั มณี คอลัมน์ในใจฉนั ความรู้สึก : ร้สู กึ หวิ และเหน่ือย คาถาม/ขอ้ สยั : ไมม่ ี การนาไปประยกุ ต์ :สามารถนาไปใช้วิเคราะห์วรรณคดแี ละ วรรมกรรมได้ ปัญหาและอปุ สรรค :หิวข้าว ประเมินตนเอง: ๔ คะแนน

สปั ดาห์ท่ี ๑๓ ๒๓ นาเสนอความกา้ วหน้าของงานกับอาจารย์ เร่ือง สร้างสรรค์ผลงานทไี่ ด้รับแรง บันดาลใจจากวรรณคดีไทย

สปั ดาห์ท่ี ๑๔ ๒๔ เตรียมงานนาเสนอ เรื่อง สร้างสรรคผ์ ลงานที่ได้รับแรง บนั ดาลใจจากวรรณคดไี ทย

สปั ดาห์ท่ี ๑๕ ๒๕ หยคุ วันคล้ายวนั สวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิ เบศร มหาภมู ิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

สปั ดาห์ท่ี ๑๕ ๒๖ กล่มุ ท่ี ๑ นางสบิ สอง นาเสนองาน สร้างสรรคผ์ ลงานท่ี ได้รับแรงบันดาลใจจากวรรณคดไี ทย ไดร้ ับแรงบันดาลใจจากวรรณคดี เรอื่ ง นางสิบสอง โดยการเปรียบเทยี บขา่ วกับ กลมุ่ ที่ ๒ ศกึ แห่งศกั ดศ์ิ รี กลุ่มที่ ๓ พระเอกในวรรณคดี ตัวละครในเนอื้ เรือ่ ง และมีการเลา่ เร่ือง ROV ในดนิ แดนหิมพานต์ เกดิ เป็นโอปปา้ เกาหลี นางสิบสอง ผา่ นบทเพลง ความรักทาให้ คนตาบอด นางสิบสองสอนใจ ได้รับแรงบนั ดาลใจจากตวั ละครใน แรงดนั ดาลใจมาจากพระเอกใน วรรณคดี โดยการนามาสรา้ งตัว วรรณคดี เปน็ การเปรียบลักษณะเด่น ศกึ ษาเนื้อหาไดท้ นี่ ่ี ละครสถานทตี่ ่อส้ใู นเกม ROV ให้มี โดยรวมของพระเอกในวรรณคดกี ับ ความแปลกใหม่ นา่ สนใจ พระเอกในซรี ียเ์ กาหลี ศกึ ษาเนอ้ื หาไดท้ ี่น่ี ศึกษาเนื้อหาได้ที่น่ี

กลมุ่ ที่ ๕ Makeup เเกว้ หน้าม้า& มณี ๒๗ รตั นาสวยไมม่ ากทา่ ยากหนูเยอะ ๒๐๒๑ กล่มุ ที่ ๔ ทุกขร์ ะทมปมความรกั ได้รับแรงบนั ดาลใจมาจาก นางแก้วหน้า ได้รบั แรงบนั ดาลใจจาก บทละครพูดคา ม้า โดยการเปรียบการแตง่ หน้าเหมอื นม้า ฉันท์ เร่อื ง มัทนะพาธา โดยการเล่า เรอื่ ง กบั การแต่งหนา้ ใหส้ วยในคนคนเดียว ผ่านบทเพลง เพลงทุกขร์ ะทมปมความ รัก ศกึ ษาเน้ือหาได้ทนี่ ี่ ศึกษาเน้ือหาได้ท่ีนี่ คอลมั น์ในใจฉัน ความรู้สกึ :ตื่นเต้นและดใี จมากท่ีไดค้ ะแนนเต็ม ๑๕ แลว้ ก็เศร้าทจ่ี ะไมไ่ ด้ เรยี นกบั อาจารย์อีกแล้วถึงแม้จะเรยี นกับอาจารย์แค่ ๑ เทอมแต่กร็ ูส้ กึ ผูกพนั รกั และคิดถงึ อาจารยน์ ะคะ คาถาม/ข้อสัย:ไม่มี การนาไปประยกุ ต์ : ปรบั ใชใ้ นการสร้างผลงานในอนาคต ปญั หาและอปุ สรรค : ไมม่ ี ประเมนิ ตนเอง: ๕ คะแนน