Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore e-book ธิญาดา มิตสุวรรณ เลขที่3 ห้อง1 รหัส 6117701001007

e-book ธิญาดา มิตสุวรรณ เลขที่3 ห้อง1 รหัส 6117701001007

Published by tiyada1007.nur, 2020-06-10 01:16:08

Description: e-book ธิญาดา มิตสุวรรณ เลขที่3 ห้อง1 รหัส 6117701001007

Search

Read the Text Version

51 • -Couplet PVC -Triplet PVC • -R on T phemona ลกั ษณะของ PVC ทเ่ี ป็นอนั ตรายไดแ้ ก่ • -PVC มากกว่า 6 คร้ังตอ่ นาที • -Bigeminy PVC • -R on T phenpmena • -Multifocal PVC ลกั ษณะทางคลินกิ • -ถา้ พบ PVC นานๆ คร้งั จะไมม่ คี วามรุนแรง ผปู้ ่ วยอาจรูส้ ึกใจส่ัน แตค่ วรระมดั ระวงั ว่า PVC อาจ เปล่ยี นเป็น Ventricular tachycardia (VT) ได้ • -การตรวจคลื่นไฟฟ้าจะพบวา่ • -อตั ราการเตน้ ของหวั ใจปกติ • -จงั หวะการเตน้ ของหวั ใจสมา่ เสมอ • -ไม่มี P wave กอ่ นจงั หวะที่ผดิ ปกติ • -ไม่มี R-R interval • -QRS complex มกั จะกวา้ งมากกวา่ ปกติ (มากกว่า 0.12 วนิ าท)ี • 4.2 เวนตริเคิลเต้นเร็วกว่าปกติ (Ventricular tachycardia: VT) • เป็นภาวะหัวใจเตน้ ผิดปกติที่มีความรุนแรง เกดิ จากมีจุดกาเนิดไฟฟ้าในเวนตริเคลิ ทาหนา้ ท่ปี ลอ่ ย สญั ญาณไฟฟ้าแทน SA node ทาใหเ้ กิด PVC อย่างนอ้ ย 3 ตวั ติดต่อกนั ในแถว โดยมอี ตั ราการเตน้ มากกวา่ 100 คร้ังตอ่ นาที โดยมเี หตุเชน่ เดยี วกบั การเกดิ PVC ลกั ษณะทางคลนิ ิก • -ผปู้ ่ วยจะมีอาการเกิดข้นึ ทนั ทีทนั ใด • -หวั ใจเตน้ เร็ว ใจสั่น หายใจลาบาก เจ็บหนา้ อก ความดนั โลหิตต่า หมดสติ • -มอี าการของ Lt. Ventricular failure • -ถา้ ไมไ่ ดร้ ับการแกไ้ ขอาจจะเปลยี่ นเป็น Ventricular fibrillation • การตรวจคล่ืนไฟฟ้าหัวใจ จะพบว่า • -อตั ราการเตน้ ของหัวใจเอเตรียมวดั ไม่ได้ ส่วนเวนตริเคิลมากกวา่ 100 คร้งั ตอ่ นาที • -จงั หวะการเตน้ ของหวั ใจมกั จะสมา่ เสมอ บางคร้งั อาจไม่สม่าเสมอเลก็ นอ้ ย • -P wave อาจพบไดแ้ ตไ่ มส่ ัมพนั ธ์กบั QRS complex • -PR interval วดั ไม่ได้

52 • -QRS complex กวา้ งมากกว่า 0.10 วินาที 4.3 เวนตริคลู าร์ฟิ บริลเลชั่น (Ventricular fibrillation: VF) • เป็นภาวะหัวใจเตน้ ผดิ จงั หวะท่รี ้ายแรงมาก เน่ืองจากเวนตริเคิลจะไมบ่ บี ตวั หวั ใจหยดุ เตน้ (Cardiac arrest) ไม่มี CO ลักษณะทางคลินกิ • -ผปู้ ่ วยหมดสติ จบั ชพี จรไมไ่ ด้ วดั ความดนั ไม่ได้ หยุดหายใจ เขียว มา่ นตาขยาย ตวั เยน็ • การตรวจคลื่นไฟฟ้าหวั ใจ จะพบว่า • -อตั ราการเตน้ ของหัวใจเร็วมาก • -จงั หวะการเตน้ ของหวั ใจไม่สมา่ เสมอ • -คล่นื P,Q,R,S ไม่มี มแี ตค่ ล่นื ขยุกขยิกไม่สม่าเสมอ คลืน่ หยาบเรียก Coarse VF ซ่ึงตอบสนองต่อ การทา Defibrillation คล่ืนถีเ่ รียก Fine VF กอ่ นท่เี วนตริเคิลจะหยดุ เตน้ (Ventricular standstill or Asystole) EKG จะเป็นเสน้ ตรง Pulseless Electrical Activity; PEA • มคี ลน่ื ไม่มีชีพจร หรือ คล่ืนเตน้ ไม่มชี ีพจร หมายถึง ภาวะที่มคี ล่ืนไฟฟ้าหัวใจแตไ่ มม่ ชี ีพจร (pulseless electrical activity, PEA) นนั่ คอื คลน่ื ไฟฟ้าหวั ใจจะเตน้ ในจงั หวะ (rhythm) อะไรกไ็ ดท้ ี่ ไมใ่ ช่ VF/VT แต่กลา้ มเน้ือหัวใจไม่มแี รงบบี เพียงพอทีจ่ ะส่งเลอื ดออกจากหัวใจไดพ้ อทจ่ี ะทาให้ คลาชีพจรได้ ชนิดของภาวะหัวใจเต้นผดิ จังหวะ 5. ความผิดปกตทิ ี่ขัดขวางการนาสัญญาณไฟฟ้าจาก SA node ไป AV node • 5.1 การขดั ขวางสัญญาณจาก SA node ไป AV node ระดบั ที่ 1 (First-degree AV block) • จุดกาเนิดไฟฟ้ามาจาก SA node นาสัญญาณไฟฟ้าไปท่ี AV node ชา้ กว่าปกติ โดยทวั่ ไปพบใน ผสู้ ูงอายุ ผไู้ ดร้ บั ยา Quinidine, Procainamide การตรวจคลน่ื ไฟฟ้าหัวใจ จะพบวา่ • -อตั ราการเตน้ ของหัวใจ ส่วนใหญป่ กติ • -จงั หวะการเตน้ ของหวั ใจสม่าเสมอ • -P wave ปกติ นาหนา้ QRS ทกุ จงั หวะ • -PR interval มากกว่า 0.20 วนิ าที และยาวสมา่ เสมอทุกจงั หวะ • -QRS complex ปกติ

53 5.2 Second degree AV block • จดุ กาเนิดไฟฟ้ามาจาก SA node นาสญั ญาณไฟฟ้าไปที่ AV node บางจงั หวะผา่ นได้ บางจงั หวะถูก ขดั ขวางทาให้อตั ราการเตน้ ของเวนตริเคลิ นอ้ ยกวา่ เอเตรียม ความผดิ ปกตอิ ย่ทู ี่ AV node สาเหตุ • ส่วนใหญ่เกิดจากการตายของผนงั หวั ใจดา้ นลา่ ง ลกั ษณะทางคลนิ กิ สสจ • ข้นึ อยูก่ บั อตั ราการบีบตวั ของเวนตริเคิล จะมอี าการเมอื่ เวนตริเคลิ เตน้ ชา้ มาก คือ หายใจลาบาก เจบ็ หนา้ อก การตรวจคล่นื ไฟฟ้า จะพบว่า • -อตั ราการเตน้ ของหวั ใจชา้ กวา่ ปกติ • -จงั หวะการเตน้ เอเตรียมสมา่ เสมอ แต่การเตน้ ของเวนตริคลู าร์ไมส่ ม่าเสมอ • -P wave ปกตจิ านวน P wave มากกวา่ QRS complex • -PR interval ยาวข้นึ เร่ือยๆ จากจงั หวะหน่ึงไปอกี จงั หวะหน่ึงจนกระทง่ั ไมม่ ี • -QRS complex มกั จะปกติ • 5.2.2 Second degree AV block type I (Mobitz type I I) รุนแรงกวา่ ชนิดท่ี 1 มกั พบใน • - AMI • - โรคหลอดเลือดหัวใจอย่างรุนแรง ลกั ษณะทางคลนิ กิ • อาการของผปู้ ่ วยข้ึนอยู่กบั การบบี ตวั ของเวนตริเคิล ถา้ ชา้ กวา่ 50 นาทีตอ่ คร้งั จะมอี าการหายใจ ลาบาก เจ็บหนา้ อก สมองไดร้ บั เลอื ดไปเล้ียงไมเ่ พยี งพอ การตรวจคล่นื ไฟฟ้าหวั ใจ พบวา่ • -อตั ราการเตน้ ของเอเตรียม 60-100 คร้ังตอ่ นาที ส่วนเวนตริเคลิ ข้ึนอยู่กบั อตั ราการบีบตวั ของเอ เตรียม • -จงั หวะการเตน้ ของหวั ใจสม่าเสมอ บางจงั หวะ QRS complex หายไป • -P wave ปกตจิ านวน P wave มากกว่า QRS complex • -PR interval ปกติและคงท่ีตลอด • -QRS complex มกั จะปกติ

54 • 5.3 การขดั ขวางสัญญาณไฟฟ้าจาก SA node ไป AV node ระดับที่ 3 (Third-degree AV block or Complete heart block) • การขดั ขวางการนาสัญญาณอยา่ งสมบรู ณ์ทบ่ี ริเวณ AV node ทาให้สัญญาณจาก SA node ผา่ น AV node ไปเวนตริเคิลไมไ่ ด้ สาเหตุ • -ระบบนาสัญญาณไฟฟ้าบริเวณ AV node ขาดเลือด • -การกระตนุ้ ประสาทเวกสั อยา่ งรุนแรง • -พษิ จากยาดิจทิ าลสิ ลักษณะทางคลินิก • -ผปู้ ่ วยจะมอี าการเป็นลมชกั เนื่องจากสมองขาดเลอื ด • -อาจมีเวนตริเคิลซ้ายลม้ เหลว การตรวจคลน่ื ไฟฟ้า • -อตั ราการเตน้ ของหวั ใจ เอเตรียมและเวนตริเคลิ เป็นอสิ ระตอ่ กนั โดยเอเตรียมจะเตน้ 60-100 คร้ังตอ่ นาที เวนตริเคิลเตน้ ชา้ กวา่ 40 คร้งั ตอ่ นาที • -จงั หวะการเตน้ สมา่ เสมอ ท้งั ของเอเตรียมและเวนตริเคิล และเป็นอิสระตอ่ กนั • -P wave ปกตจิ านวน P wave มากกว่า QRS complex • -PR interval ไม่สมา่ เสมอ • -QRS complex ผดิ ปกตขิ ้นึ อยูก่ บั ตาแหน่งท่ีสญั ญาณไฟฟ้าถูกขดั ขวาง ผลของภาวะหวั ใจเต้นผดิ จังหวะต่อระบบไหลเวยี น • ภาวะหวั ใจเตน้ ผิดจงั หวะทาให้ปริมาณเลือดไปเล้ยี งส่วนต่างของร่างกายเปลี่ยนแปลง การเปล่ยี นแปลงของระบบไหลเวยี นเลือด ไดแ้ ก่ • - ผลตอ่ ปริมาณเลือดส่งออกจากหวั ใจ • - ผลต่อระบบประสาท • - ผลต่อหลอดเลือดโคโรนารี • - ผลตอ่ ไต 1. ผลต่อปริมาณเลอื ดส่งออกจากหวั ใจ • -ในภาวะ arrhythmia เอเตรียมทางานไม่สอดคลอ้ งกบั ventricle ทาให้ CO ลดลง

55 • -ผปู้ ่ วยท่หี ัวใจปกติอาจมอี าการไมม่ าก • -ผปู้ ่ วยทม่ี ีโรคหวั ใจทาให้ CO ลดลงอย่างมากอาจทาให้เกิดภาวะหวั ใจลม้ เหลวเฉียบพลนั ได้ 2. ผลต่อระบบประสาท • -ภาวะหัวใจเตน้ ผดิ จงั หวะทาใหเ้ ลอื ดไปเล้ียงสมองนอ้ ยลง • -ผปู้ ่ วยท่ีไมม่ โี รคหลอดเลอื ดสมองมกั ไมม่ ีอาการ • -ผปู้ ่ วยทีม่ ปี ัญหาโรคหลอดเลือดสมองอยู่แลว้ จะเกดิ อาการสมองขาดเลอื ด • -มนึ งง • -อ่อนเพลีย • -เป็นลม • -ชกั หรือเกดิ อมั พาตได้ 3. ผลต่อหลอดเลือดแดงโคโรนารี • -ภาวะหัวใจเตน้ ผิดจงั หวะที่มีอตั ราการเตน้ เร็ว ปริมาณเลือดไหลเวียนในหลอดเลอื ดโคโรนารีจะ ลดลง • -ในผปู้ ่ วยทมี่ ีปัญหาหลอดเลอื ดโคโรนารีตีบตนั อย่แู ลว้ อาจเกดิ หวั ใจลม้ เหลว • -มีอาการเจ็บหนา้ อกไดเ้ มอื่ หัวใจเตน้ เร็วเพียง 140 คร้ังต่อนาที 4. ผลต่อไต • -ภาวะหัวใจเตน้ ผิดจงั หวะทาใหเ้ ลอื ดไปเล้ยี งไตนอ้ ยลง หลอดเลอื ดไตจะหดเกร็งอยเู่ ป็นเวลานาน ท้งั ๆ ท่ีภาวะหวั ใจผดิ จงั หวะหายแลว้ • -เกดิ ความบกพร่องในหนา้ ทีข่ องไตเชน่ ไตวายเฉียบพลนั (ARF) การรักษาภาวะหัวใจเต้นผดิ จงั หวะ • -ลดสิ่งกระตุน้ ระบบประสาทซิมพาเทติค • -ใหย้ าตา้ นการเตน้ ของหวั ใจผดิ จงั หวะ • -การช็อคดว้ ยไฟฟ้า (Cardioversion or Defibrillation) • -การใส่เครื่องกระตนุ้ จงั หวะหวั ใจดว้ ยไฟฟ้า (pace maker) • 1. ลดสิ่งกระตนุ้ ระบบประสาทซิมพาเทตคิ • -ลดความเจ็บปวด • -การใชเ้ ทคนิคการผอ่ นคลาย • -การกระตนุ้ ประสาทเวกสั • -การนวดบริเวณคาโรตดิ ไซนสั (carotid sinus massage)

56 • -การกล้นั กายใจแลว้ เบ่งเตม็ ที่ (Valsalva maneuver) • (หา้ มทาในผปู้ ่ วยความดนั ในกะโหลกศรี ษะสูง) การรักษาภาวะหวั ใจเต้นผิดจงั หวะ Class I; Na Channel Blockers • -ไลโดเคน (Lidocaine, Xylocaine) • -ใชร้ ักษา PVC,VT เน่ืองจาก AMI • -มกั นิยมให้โดยการฉีดเขา้ ทางหลอดเลอื ดดาชา้ ๆ ผลข้างเคียง • -ระบบประสาทส่วนกลาง: ซึม ปวดศีรษะ ง่วงนอน วุ่นวาย กลา้ มเน้ือกระตกุ ชกั • -ระบบหัวใจและไหลเวียน: ยาขนาดสูงทาให้ความดนั โลหิตต่า หวั ใจเตน้ ชา้ ลงและหยดุ เตน้ • -การรักษาภาวะหวั ใจเตน้ ผิดจงั หวะ ผลข้างเคยี ง • ผลตอ่ หัวใจ: ทาให้หวั ใจเตน้ ผดิ จงั หวะไดเ้ ช่น PVC, PA with AVB, VF • ปฏิกิริยาการแพ:้ คนั ผน่ื หนา้ บวม มไี ข้ ปวดขอ้ เกร็ดเลือดตา่ 3. การช็อคด้วยไฟฟ้า • เป็นการปลอ่ ยกระแสไฟฟ้าผา่ นเขา้ กลา้ มเน้ือหวั ใจ มีผลให้ SA node กลบั มาทาหนา้ ท่ีใหม่ไดอ้ ยา่ ง ปกติ โดยใชเ้ ครื่องกระตนุ้ หัวใจดว้ ยไฟฟ้า (Defibrillator or Cardiovertor) ชนิดของการช็อคดว้ ย ไฟฟ้า มี 2 วธิ ี คือ • 1. Cardioversion or Synchronize cardioversion มกั ทาใน AF, SVT, VT • 2. Defibrillation มกั ทาในรายทม่ี ี VF, VT 4. การใส่เครื่องกระต้นุ จงั หวะหัวใจด้วยไฟฟ้า • ใส่ในผปู้ ่ วยท่หี วั ใจเตน้ ชา้ มาก และไมต่ อบสนองตอ่ การรกั ษาดว้ ยยา เชน่ CAVB • เคร่ืองกระตนุ้ หัวใจมอี งคป์ ระกอบ 2 ส่วนคอื • 1. ตวั เคร่ืองกระตนุ้ จงั หวะหวั ใจ (Pacemaker genarator) • 2. สายส่ือ (Electrode) วธิ ีการใส่เครื่องกระต้นุ หวั ใจ • -ทาไดท้ ้งั ท่หี ้องผ่าตดั หรือหอ้ งสวนหวั ใจ ที่มเี คร่ืองเอ็กซเรยพ์ เิ ศษ ( Fluoroscope )เพราะเป็นการ ผา่ ตดั เล็ก

57 • -ใชเ้ พยี งยาชาเฉพาะที่ • -มกั ใส่สายเขา้ ทางหลอดเลือดดาบริเวณใตก้ ระดกู ไหปลาร้า ฝ่งั ของแขนขา้ งท่ีไมถ่ นดั เช่น แขน ซ้าย • ตวั เคร่ืองฝงั ไวใ้ ตช้ ้นั ไขมนั ฝ่งั เดยี วกนั การพยาบาล • -Monitor EKG ใน 24 ชม.แรก • -จดั ทา่ ให้ผูป้ ่วยนอนหงายหรือนอนตะแคงขา้ งซา้ ย ห้ามยกแขนขา้ งที่ทา อาจทาใหส้ ายส่ือหลุดจาก ตาแหน่งท่ีฝงั ไวไ้ ด้ • -ติดตามวดั สัญญาณชีพโดยเฉพาะการจบั ชีพจร หรือการฟังอตั ราการเตน้ ของหวั ใจเทียบกบั อตั รา ของเคร่ืองทตี่ ้งั ไว้ โดยปกติจะไม่ต่ากวา่ เครื่องท่ีต้งั ไว้ • - ถา้ เป็นเครื่องกระตุน้ หวั ใจชนิดชวั่ คราว เครื่องจะอยูข่ า้ งนอก ระวงั เรื่องการติดเช้ือ การทาแผล การ เล่อื นหลดุ ของสาย 5. ถ้าเป็ นชนิดถาวร ควรให้ความรู้เกยี่ วกับการดแู ลตนเอง • -หลีกเลย่ี งอนั ตรายจากกระแสไฟฟ้าแรงสูง • -ถา้ ไปพบทนั ตแพทยต์ อ้ งบอกว่าใส่เครื่องกระตนุ้ จงั หวะหวั ใจ • -มาพบแพทยต์ ามนดั เพ่ือประเมนิ สภาพเป็นระยะ • - ถา้ เป็นชนิดถาวร ควรให้ความรูเ้ ก่ียวกบั การดแู ลตนเอง • -ตอ้ งมบี ตั รประจาตวั ทรี่ ะบโุ รค เคร่ืองกระตนุ้ จงั หวะหัวใจดว้ ยไฟฟ้า วนั ที่ทา รายละเอียดอน่ื ๆ • -สอนการจบั ชีพจร ถา้ จบั ไดต้ า่ กวา่ ท่เี ครื่องต้งั ไว้ หรือหวั ใจเตน้ เร็วผิดปกติ ใจสั่น หนา้ มดื เป็นลม ใหร้ ีบมาพบแพทย์ 5. การจดี้ ้วยไฟฟ้าผ่านคลื่นเสียงความถสี่ ูง (Electro Physiologic Study and Radiofrequency Ablation: RFCA) • -เพ่ือให้ผูป้ ่ วยไดร้ ับออกซิเจนอยา่ งเพยี งพอ • -จากดั กิจกรรม • -ดแู ลใหพ้ กั ผ่อน • -ดูแลใหไ้ ดร้ บั ออกซิเจนตามแผนการรักษา • -ส่งเสริมให้มกี ารแลกเปลยี่ นกา๊ ซอย่างเพียงพอ เชน่ การจดั ทา่ การดูแลทางเดินหายใจ • 2. ส่งเสริมการทางานของหวั ใจ และเฝ้าระวงั การเกดิ ภาวะวิกฤตจากหัวใจ • -เฝ้าระวงั การเปลี่ยนแปลงอยา่ งใกลช้ ิด วดั สญั ญาณชีพ ทกุ 1 ชม.

58 • -เฝ้าระวงั การเปลีย่ นของคล่ืนไฟฟ้าหวั ใจอย่างใกลช้ ิด • -เฝา้ ระวงั การเปลีย่ นแปลงของระบบไหลเวียนในผปู้ ่ วยท่มี ี invasive monitoring • -ดูแลใหไ้ ดร้ ับยา antiarrythmic, inotropic drug ตามแผนการรักษา รวมท้งั ติดตามอาการขา้ งเคยี ง • 3. รกั ษาความสมดลุ ของน้า และ อเิ ลค็ โตรลยั ท์ โดยเฉพาะในรายที่ไดร้ ับยาขบั ปัสสาวะ • 4. ดูแลใหไ้ ดร้ ับสารอาหารอยา่ งเพียงพอ • 5. ลดความวติ กกงั วลของผปู้ ่ วยและญาติ • 6. กรณีทผี่ ปู้ ่ วยจาเป็นตอ้ งไดร้ ับการรกั ษาดว้ ยการชอ็ คไฟฟ้า และผปู้ ่ วยรู้สึกตวั ดี พยาบาลควรให้ ความมนั่ ใจ และดูแลให้ผปู้ ่ วยไดร้ ับยากลอ่ มประสาทตามแผนการรักษา • หลงั การชอ็ คไฟฟ้าตอ้ งเฝ้าระวงั การเปลย่ี นแปลงของคล่ืนไฟฟ้าอยา่ งใกลช้ ิด การดแู ลแผลผา่ ตดั • หลีกเล่ยี งกจิ กรรมเกย่ี วกบั การยกของหนกั เพ่อื ป้องกนั แผลผา่ ตดั แยก • กรณีแพทยเ์ ยบ็ ดว้ ยลวดแพทยจ์ ะทาการเอาเลือดออกหลงั ผา่ ตดั 7 วนั ดงั น้นั หลงั เอาลวดออก 1 วนั ไมใ่ หแ้ ผลโดนน้า • แผลหายดีสามารถอาบน้าทุกวนั เพ่อื ให้ร่างกายสะอาด • อาการปวดแผลยงั มอี ยู่อาจลดปวดดว้ ยการผอ่ นคลายเช่นคอ่ ยๆเปลยี่ นถา้ เวลาตะแคง

59 บทท1่ี 0 การพยาบาลผ้ปู ่ วยท่มี ภี าวะวิกฤตระบบประสาทและไขสันหลัง

60

61 บทที1่ 1 การพยาบาลผ้ปู ่ วยทมี่ ีปัญหาในภาวะวิกฤตระบบทางเดนิ ปัสสาวะในระยะวกิ ฤต การบาดเจ็บของไตเฉียบพลันคอื อะไร เป็นความเสียหายของไตท่ีเกดิ ข้ึนภายในไม่กช่ี ว่ั โมงหรือ 2-3 วนั ทา ให้เกิดของเสียสะสมในเลือดและทาให้ไตยากท่ีจะรกั ษาสมดลุ ของเหลวในร่างกาย อาการและอาการแสดงของไตเฉียบพลัน จะมีอาการแตกต่างกนั ไปข้ึนอยู่กบั สาเหตุ เชน่ hypovolemia Engorged คอหลอดเลือดดา การขยายตวั ของ ตอ่ มลกู หมาก เป็นตน้ สาเหตทุ ่ที าให้เกดิ การบาดเจ็บของไตเฉียบพลนั • การไหลเวียนของเลือดไปยงั ไต • ความดนั โลหิตตา่ • หัวใจวาย หวั ใจลม้ เหลว นาไปสู่การทางานของหัวใจลดลง • กินยาแกป้ วด nsaids มากเกินไป 1pre-kidney เลอื ดมาเล้ียงไตลดลง 2post kidney การอุดตนั ของระบบทางเดนิ ปัสสาวะ 3intrinsic kidney lnjury จากพยาธิสภาพท่ีตายทาใหอ้ ตั ราการกรองลดลง ความเสียหายโดยตรงต่อไต การติดเช้ือท่ีรุนแรงและเป็นอนั ตรายถึงชีวติ เรียกว่า sepsis มะเร็งชนิดหน่ึงเรียกว่า multiple myeloma การแพ้ ยาบางชนิดเรียกว่า interstitial nephritis การอดุ ตนั ของทางเดินปัสสาวะ เกดิ จากกระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมากหรือมะเร็งปากมดลูกขยาย ตอ่ มลูกหมากมปี ัญหา กระเพาะปัสสาวะ และปัสสาวะ นิ่วในไตกอ้ นเลือดอุดตนั ในทางเดนิ ปัสสาวะ การทดสอบเพ่อื ค้นหาอาการบาดเจบ็ ทตี่ ายอย่างเฉียบพลัน ข้นึ อยกู่ บั สาเหตุของการบาดเจบ็ ของไตเฉียบพลนั ให้ผูป้ ่ วยดแู ลสุขภาพและทาการทดสอบตา่ งๆ CAPD ระยะปัสสาวะนอ้ ย คือหลอดเลือดไตเสื่อมสมรรถภาพปัสสาวะไมเ่ กนิ 400 ซีซีต่อวนั พบไดใ้ น shock

62 -ระยะที่1ปัสสาวะนอ้ ย การเสียสมดลุ ของน้าและโซเดียม • เสียสมดลุ กรดด่างเกดิ ภาวะกรดเกนิ • เสียสมดลุ โปแตสเซียม ทาใหโ้ พแทสเซียมในเลอื ดสูง • เสียสมดุลแคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม สูญเสียการขบั อเิ ล็กโทรไลต์ • การคง่ั ของยูเรีย • การตดิ เช้ือ -ระยะท่ี 2 ระยะปัสสาวะมาก ปัสสาวะมากกวา่ วนั ละ 400 ซีซีจนมากกวา่ 1500 cc ไตเริ่มฟ้ืนตวั -ระยะที่ 3 ระยะฟ้ืนตวั หลอดเลือดอย่ใู นเกณฑป์ กติ หลอดเลือดฝอยไตยงั ไมส่ มบูรณ์ ปัสสาวะเขม้ ขน้ และ เป็นกรดใชเ้ วลา 6 ถึง 12 เดอื น โรคแทรกซ้อน ของเสียคง่ั น้าเกนิ ความดนั โลหิตสูง เลอื ดเป็นกรด สมดุลกรดด่าง โลหิตจาง หัวใจลม้ เหลว ไตวายเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease/Chronic Renal Failure) ภาวะท่ีไตถูกทาลายจนส่วนท่เี หลือไม่สามารถทางานชดเชยได้ สาเหตุ • พยาธิสภาพทไ่ี ต • โรคของหลอดเลือด ความดนั โลหิตสูง • การตดิ เช้ือ กรวยไตอกั เสบ • ความผดิ ปกตแิ ต่กาเนิด • โรคอ่ืนๆเชน่ เบาหวาน • ขาดโปรแตสเซียมเร้ือรงั อาการและอาการแสดง อาการที่เกี่ยวข้อง • ซึม มึงงง คนั ตามตวั เบอื่ อาหาร คลืน่ ไส้ อาเจยี น น้าหนกั ลด อาการเตือนท่สี าคัญ • ปัสสาวะบอ่ ยกลางคืนหรือปัสสาวะนอ้ ย

63 • ปัสสาวะขดั สะดุด • ปัสสาวะมีเลือดปน • บวม ใบหนา้ หลงั เทา้ • ปวดบ้นั เอวหรือหลงั • ความดนั โลหิตสูง ผลกระทบจากไตวายเรื้อรัง • ระบบหลอดเลือดหวั ใจ ภาวะความดนั โลหิตสูง ภาวะหวั ใจลม้ เหลว ภาวะเย่อื หุ้มหัวใจอกั เสบ • ระบบทางเดินหายใจ น้าท่วมปอด ร่วมกบั หัวใจลม้ เหลว • ระบบประสาท อาการขา้ งเคยี งของของเสียส่งผลต่อการทางระบบประสาท • ระบบทางเดนิ อาหาร ภาวะ uremia ส่งผลใหค้ ล่ืนไส้ อาเจียน เบ่ืออาหาร • ระบบเลอื ด โลหิตจากผลจากการสร้าง Erythropoietin ลดลง เมด็ เลือดแดงอายุส้ันจากภาวะกรดใน ร่างกายและการหลง่ั พาราไทรอยด์มากจากการขาดแคลเซียมส่งผลให้ไขกระดูกฝ่อ กระทบการ สร้างเม็ดเลือดแดง • ระบบผวิ หนงั • ความไม่สมดุลของอิเลก็ โทรไลต์ • ตอ่ มไรท้ ่อ ธยั รอยด์ พาราธยั รอยด์ผดิ ปกติ การล้างไตทางช่องท้องแบบผ้ปู ่ วยนอกอย่างต่อเน่ือง: CAPD ข้อบ่งชี้ -ผปู้ ่ วย CKD ระยะท่ี 5 • มีอาการของUremia • ภาวะน้าเกินทีร่ ักษาไมไ่ ด้ • ภาวะทุพโภชนาการ • ตอ้ งการทา CAPD • ไมส่ ามารถทาทางออกของเลอื ดเพ่ือทา HD ได้ • ผปู้ ่ วยท่ีทนการทา HD ไมไ่ ด้ • ผปู้ ่ วยเดก็

64 ข้อห้ามในการทา CAPD • มีรอยโรคบริเวณผวิ หนงั หนา้ ทอ้ งทีไ่ มส่ ามารถวางสายได้ • มผี งั ผดื ภายในชอ่ งทอ้ งไม่สามารถวางสายได้ • มีสภาพจิตบกพร่องอยา่ งรุนแรง • มีสิ่งแปลกปลอมในช่องทอ้ ง • ไส้เล่ือน ชอ่ งตดิ ต่อระหวา่ งช่องทอ้ งกบั อวยั วะในช่องทอ้ ง • น้าหนกั มากกวา่ 90 กโิ ลกรมั • มขี อ้ จากดั ดา้ นรูปร่าง • โรคลาไส้อกั เสบเร้ือรัง • การตดิ เช้ือทีผ่ นงั ชอ่ งทอ้ งและผวิ หนงั บริเวณตาแหน่งทีจ่ ะทาการวางสาย • ลาไสใ้ หญ่ทะลุ • การใหอ้ าหารทางสายยางท่ีใส่ผา่ นหนา้ ทอ้ ง • ภาวะทุพโภชนาการรุนแรง • ไม่สามารถทนการใส่น้ายาในช่องทอ้ งได้ หลกั การทา CAPD • ใส่น้ายาเขา้ ชอ่ งทอ้ งใชเ้ วลาประมาณ 10 นาที • ทิง้ น้ายาไวใ้ นชอ่ งทอ้ งประมาณ 4-6 ชว่ั โมง • ปล่อยน้ายาในช่องทอ้ งออกใชเ้ วลาประมาณ 20 นาที • ของเสียในน้าส่วนเกินจากเลอื ดเขา้ สู่น้ายา กลไกของ Solute Transport -การซึมผ่าน คอื การเคลื่อนท่ขี องตวั ทาละลายจากทท่ี ม่ี คี วามเขม้ ขน้ นอ้ ยไปท่ที ีม่ ีความเขม้ ขน้ มาก -การแพร่ผ่าน คือการเคลอ่ื นที่ของสารละลายจากที่ทมี่ ีความเขม้ ขน้ มากไปทที่ มี่ คี วามเขม้ ขน้ นอ้ ย -การนาพา คอื การนาสารออกจากร่างกายโดยอาศยั คณุ สมบตั ิในการละลายของสารน้นั ในตวั ทาละลาย -การกรองนา้ คอื การดึงน้าส่วนเกินออกจากร่างกายผา่ นทางเยอื่ บุชอ่ งทอ้ งโดยอาศยั สารทีม่ ีคณุ สมบตั ใิ นการ ดดู น้า

65 ข้นั ตอนการล้างไตทางช่องท้องแบบต่อเน่ือง (CAPD) - ผปู้ ่ วยทาการลา้ งวนั ละ 3 ถงึ 6 คร้งั โดยการเปล่ียนถา่ ยน้ายา 3 ข้นั ตอน ทาต่อเน่ืองเป็นวงจร 1.การถา่ ยน้ายาออก ถ่ายน้ายาคา้ งไวใ้ นช่องทอ้ ง 20 นาที 2. ข้นั เตมิ น้ายาใหม่ แทนท่ีของเดิมนาน 10 ถึง 15 นาที 3. ข้นั การพกั ทอ้ ง การคงคา้ งน้ายา เพอื่ ให้เกิดการฟอก 4-6 ชว่ั โมง การล้างไตทางช่องท้องโดยการใช้เคร่ืองอตั โนมตั ิ - เป็นการเปลยี่ นถ่ายน้ายา 3 คร้งั โดยใชเ้ ครื่องอตั โนมตั ิแทนผูป้ ่ วย การเปล่ยี นถุงนา้ ยา - ปกติแพทยส์ ง่ั ทา 4-5 คร้ังต่อวนั โดยเร่ิม 06.00 น. 12.00 น. 18.00 น. 22.00 น.ทาเกิน 5 คร้ังใหเ้ ร่ิมท่ี 6.00 น. และทาจนครบตามแผนการรักษา สามารถทาไดท้ ่บี า้ นในพ้ืนท่ีสะอาด ไม่เสี่ยงต่อการติดเช้ือเปลย่ี นถงุ น้ายาใชเ้ วลา 30 นาทีตอ่ คร้งั การพยาบาล - ระยะพกั ทอ้ ง 1-2 สปั ดาห์ - ไมใ่ ห้แผลโดนน้า - ห้ามเปิ ดแผลเอง - ลดกจิ กรรมท่ีทาให้เหงือ่ ออก - งดใส่เส้ือผา้ รดั เกินไป - หากปวดบวมมีไขห้ รือบวมส่วนตา่ งๆของร่างกายใหไ้ ปพบแพทย์ - จากดั น้า - เลยี่ งกิจกรรมทเ่ี พิ่มแรงดนั ในช่องทอ้ ง - ตดั ไหม 7-10 วนั - หากมเี ลอื ดออกน้ารัว่ ซึมใหพ้ บแพทย์ การพยาบาลระยะหลงั พกั ท้อง

66 - หมน่ั ตรวจสอบสายทาความสะอาด - ตอ้ งไดร้ ับการยนื ยนั จากแพทยว์ ่าแผลแหง้ สนิทถึงจะอาบน้าได้ - หา้ มโดนแป้งหรือทาครีมบริเวณชอ่ งทอ้ งทางออกของสาย - ตดิ พลาสเตอร์เพือ่ ป้องกนั การดงึ ร้งั การพยาบาลระยะล้างไตทางช่อง - ทอ้ งมกั เริ่มลา้ งในสปั ดาห์ที่ส่ี - เนน้ การลา้ งมือ - ประเมินน้ายาไดจ้ ดบนั ทกึ - รกั ษาความสะอาดสิ่งแวดลอ้ ม - เฝา้ ระวงั อาการแทรกซอ้ น น้าออกนอ้ ย น้าเกิน ตดิ เช้ือ ความดนั โลหิตต่า บวม - ออกกาลงั กาย รับประทานอาหาร พกั ผอ่ น พบแพทยต์ ามนดั - แนะนาชง่ั น้าหนกั ทุกวนั ไม่ควรข้ึนเกิน 0.5 กโิ ลกรมั ต่อวนั - หา้ มยกของหนกั เกิน 6 กโิ ลกรัม การประเมินลกั ษณะของแผล Perfect exit site - สีเดียวกบั ผิวหนงั หรืออาจจะมีสีครามข้นึ พบคราบน้าเหลืองปริมาณเล็กนอ้ ยหลุดลอกง่าย นอ้ ยกวา่ สปั ดาห์ ละคร้ัง Good exit site - Exit site มสี ีเดียวกบั ผิวหนงั หรือสีคล้าหรือสีชมพูออ่ นความกวา้ งประมาณ 1ถงึ 2 มลิ ลิเมตร อาจพบคาบน้าเหลืองเกิดข้ึนไมเ่ กนิ สามคร้ังตอ่ สปั ดาห์ ไมม่ ีอาการปวดบวมแดงและไม่มี external exudates Equivocal exit site

67 - Exit site มสี ีชมพูเขม้ หรือสีแดงความกวา้ งประมาณ 2 ถงึ 3 มลิ ลิเมตรแตไ่ ม่เกิน 13 มลิ ลเิ มตร อาจพบคาบ น้าเหลอื งทุกหน่ึงถงึ สองวนั หรือมีสะเก็ดน้าเหลืองทบ่ี างคร้ังยากตอ่ การลอก ไม่มีอาการปวดบวมหรือหนอง ไหลออกจากแผล Acute infection exit site - มีอาการปวด บวม ร้อน ผวิ หนงั มสี ีแดง เสน้ ผ่าศูนยก์ ลางมากกวา่ 13 มิลลิเมตร ผวิ หนงั คลุมไซนสั นอ้ ยกว่า 25% อาจพบคราบเลอื ดหรือหนองไหลออกมาเองตดิ บนผา้ ก๊อซหรือกดออกมาได้ มีคราบน้าเหลืองยงั ตดิ แน่นลอกยาก อาจมตี ง่ิ เน้ือย่ืนออกมานอกไซนสั ระยะเวลาในการติดเช้ือนอ้ ยกว่า 4 สปั ดาห์ Chronic infection exit site - ระยะเวลาเป็นนานกวา่ 4 สัปดาห์อาจจะมอี าการปวดหรือไม่ปวดก็ได้ ผวิ หนงั มีสีแดงขายแต่สีจางกวา่ ถา้ มี อาการปวด บวม แดง รอ้ น แสดงวา่ มภี าวะ acute infection ร่วมดว้ ย การฟอกเลอื ดด้วยเครื่องไตเทียม ขอ้ บ่งช้ีทว่ั ไป - Cr มากกว่า mg/dL หรือ BUN มากกวา่ mg/dL - น้าเกินหรือน้าทว่ มปอด - ความดนั โลหิตสูงไม่ตอบสนองต่อยา - มภี าวะเลือดออกผิดปกติ - ภาวะ juremic pericarditis - N/V ตลอดเวลา การฟอกเลือดด้วยเคร่ืองไตเทียม ขอ้ บง่ ช้ีจากการทางานของไต Weekly renal Kt/V urea ต่ากว่า 20 เนื่องจากเสี่ยงตอ่ ภาวะทุพโภชนาการ - ในการเร่ิมทาในผูป้ ่ วยไตวายระยะสุดทา้ ยทุกโภชนาการที่มกี ารปรับปรุงการบริโภคโปรตีนและพลงั งาน แลว้ • Kt/V is a number used to quantify haemodialysis and peritoneal dialysis treatment adequacy.

68 • K – dialyzer clearance of urea • t – dialysis time • V – volume of distribution of urea, approximately equal to patient's total body water เส้นเลือดเพอ่ื การฟอกเลอื ด 1. เส้นฟอกชวั่ คราว double lumen catheter (DLC) หลอดเลอื ดดาทีค่ อ หรือขาหนีบ 2. เสน้ ฟอกเลือดถาวรแบ่งเป็นสามชนิด • Perm catheter สวนสายเขา้ ไปท่ี subclavian vein • Arteriovenous Fistula (AVF) • Arteriovenous graft (AVG) • AVF และAVG นิยมทาท่แี ขนทอ่ นบน ทอ่ นลา่ ง และตน้ ขา ข้อดีข้อเสียของการฟอกเลือดด้วยไตเทียม ขอ้ ดี - อปุ กรณ์ทางการแพทยใ์ นการรกั ษาพยาบาลพร้อมเพรียง - ผเู้ ช่ียวชาญใหก้ ารดูแลรกั ษาพยาบาลขณะทาฟอกเลือด - สร้างสังคมให้กบั ผปู้ ่ วยรู้จกั ผปู้ ่ วยรายอนื่ - สามารถขอคาแนะนาจากพยาบาลไดบ้ อ่ ยคร้งั จากกันนดั - สามารถลดปริมาณน้าส่วนเกิน ปรับสมดลุ เกลอื แร่ และกรดดา่ งไดอ้ ย่างรวดเร็ว ขอ้ เสีย - การฟอกเลือดตอ้ งมาตามเวลาและคิดตามกาหนด - จาเป็นตอ้ งจากดั น้า การรบั ประทานผกั ผลไมท้ ี่มี K สูง - เสียเวลาในการมาตามนดั บอ่ ยและตอ่ เน่ือง ค่าใชจ้ ่ายสูง สถานท่ีในบริการนอ้ ย การผ่าตดั ปลกู ถ่ายไต

69 การผา่ ตดั ปลูกถา่ ยไต คอื การผา่ ตดั ไตของผบู้ ริจาคทมี่ ีชีวิตหรือของผบู้ ริจาคทสี่ มองตาย แตไ่ ตยงั ทางานเป็น ปกตอิ ยู่มาใหแ้ กผ่ ปู้ ่ วยไตเร้ือรงั ระยะสุดทา้ ย โดยทไี่ ม่จาเป็นตอ้ งผ่าตดั นาไตเกา่ ของผูป้ ่ วยออก เพ่อื ทาหนา้ ที่ ขบั ของเสียทดแทนไตเดิม ดงั น้นั หลงั การผา่ ตดั ปลกู ถ่ายไตผูป้ ่ วยจะมีไตเพม่ิ ข้นึ จากเดิมอกี หน่ึงอนั การผ่าตดั ปลูกถ่ายไต เป็นการรักษาทีด่ ที ี่สุดสาหรบั ผปู้ ่ วยไตวายเร้ือรังระยะสุดทา้ ย เพราะประสบผลสาเร็จสูงเกินกว่ารอ้ ยละ 90 หรือ 80 ข้นึ อยกู่ บั ชนิดผูบ้ ริจาคไปและคุณภาพของไตที่ไดร้ บั การบริจาคต้งั ปิ ดการเปล่ียนป้ายผปู้ ่ วยสามารถ กลบั มามีชีวติ ใหม่ทีม่ ีคุณภาพชวี ิตเหมอื นปกติ การพยาบาลก่อนและหลงั ผ่าตดั ตามมาตรฐานการพยาบาลการดูแลใหไ้ ดร้ ับยากดภมู ติ า้ นทานของร่างกาย เพ่ือป้องกนั การปฏเิ สธไตทป่ี ลกู ถา่ ย และ Antibiotic

70 บทท่1ี 2 การพยาบาลผ้ปู ่ วยทมี่ ภี าวะช็อกและอวยั วะล้มเหลวหลายระบบ

71

72

73

74

75 บทท1ี่ 3 การฟื้ นคนื ชีพ ห่วงโซ่แห่งการรอดชีวิต (CHAIN OF SURVIVAL) ภาวะหวั ใจหยดุ ทางานทเี่ กิดขนึ้ ในโรงพยาบาล • การเฝา้ ระวงั และการป้องกนั , การรับรู้และการแจง้ ระบบตอบรบั ฉุกเฉิน , การนวดหัวใจผายปอดกู้ ชีพท่ีมีคุณภาพสูงอย่างทนั ที , การกระตนุ้ หัวใจดว้ ยไฟฟ้าอยา่ งรวดเร็ว ,การชว่ ยชีวติ ข้นั สูงและการ ดแู ลภายหลงั ภาวะหัวใจหยุดทางาน ภาวะหัวใจหยุดทางานทีเ่ กิดขนึ้ นอกโรงพยาบาล การรับรูแ้ ละการแจง้ ระบบตอบรบั ฉุกเฉิน , การนวดหวั ใจผายปอดกชู้ ีพทม่ี ีคณุ ภาพสูงอย่างทนั ที , การ กระตนุ้ หัวใจดว้ ยไฟฟ้าอยา่ งรวดเร็ว ,บริการการแพทยฉ์ ุกเฉินข้นั พ้นื ฐานและข้นั สูง , การช่วยชีวติ ข้นั สูง และการดูแลภายหลงั ภาวะหัวใจหยดุ ทางาน รู้ได้ว่าผ้ปู ่ วย Arrest/ ตามหน่วย EMS - ทา high quality CPR ทนั ที - กระตกุ หวั ใจอยา่ งรวดเร็ว - รีบให้ผูป้ ่วยไดร้ ับ Advanced EMS - การดูแลหลงั กชู้ ีพสาเร็จ How to do CPR D =Danger R = Response C =Call for help and & start Chest compression ปลุกก่อน คุณๆๆๆ แลว้ ตะโกนชว่ ยดว้ ย มีคนหมดสติช่วยโทร 1669 และขอเคร่ืองเออดี ีดว้ ยค่ะ Steps of BLS : C > A > B นง่ั คุกเขา่ ขา้ งผูป้ ่ วย C : Circulation

76 - คลา carotid pulse 10 sec (ยกเวน้ Hypothermia 30-60sec) - start CPR - วางสน้ มือขา้ งหน่ึงตรงกลางหนา้ อกผปู้ ่ วยบริเวณคร่ึงลา่ งของกระดกู หนา้ อก Positioning - แขนสองขา้ งเหยียดตรงในแนวดิ่งกดหนา้ อกลึกประมาณ 5 เซนติเมตร แตไ่ มเ่ กนิ 6 เซนติเมตร กดดว้ ย อตั ราเร็ว 100 ถึง 120 คร้งั ตอ่ นาที สลบั คนปั๊มตอนทีค่ รบหา้ ไซเคลิ ตอ้ งให้สัญญาณหรือประเมนิ ชีพจร * ทุกคร้ังที่กดหน้าอกเมื่อปล่อยแรงกดอย่าให้มือลอยจากกระดูกหน้าอก A : Airway Open airway - Non-Trauma Head tilt chin lift - Trauma Jaw thrust * B : Breathing เป่ าลมเขา้ ปอดท้งั สองขา้ งมองจากการเคล่ือนข้ึนลงของหนา้ อกใชเ้ วลา 1 วนิ าทีต่อคร้ังอั ตราการกดหนา้ อก การช่วยหายใจ 30 ตอ่ 2 Automatic External Defibrillator : AED 5 ป : เปิด – แปะ – แปล – เปร้ียง - ป๊ัม - ทนั ทที เ่ี ออดี ีมาถึงให้เริ่มเปิ ดสวติ ซท์ นั ที - ติดแผน่ กระตกุ หัวใจที่หนา้ อกของผปู้ ่ วย - เคร่ืองแนะนาใหช้ อ็ ค กดป่ มุ ชอ็ ค - เครื่องไมแ่ นะนาใหช้ ็อค ให้กดหนา้ อกตอ่ * จะต้องแน่ใจว่าไม่มใี ครสัมผสั ผ้ปู ่ วยขณะเคร่ืองทาการวเิ คราะห์หัวใจหรือกดป่ มุ ช็อค Adrenaline

77 กระตนุ้ α-adrenergic receptor มผี ลเพม่ิ ความดนั โลหิตจากการหดตวั ของหลอดเลอื ด กระตนุ้ β-adrenergic receptor มผี ลการกระตนุ้ การบบี ตวั ของหวั ใจและกระตนุ้ อตั ราการเตน้ ของหวั ใจ side effect:hypertension,tachycardia, Supraventricular tachycardia Cordarone(Amiodarone) กลไกการออกฤทธ์ิ Antiarrhythmic drug โดยลด automaticity ของ sinus nodeทาให้หัวใจเตน้ ชา้ ลง ข้อบ่งใช้ • Cardiac arrest and • Recurrent VT/VF ทไ่ี ม่ตอบสนองต่อ defibrillation เเละยา adrenaline ขนาดยา:300mg + 5%D/W 20ml IV *** Slow push ใน3นาที อาจพจิ ารณาใหซ้ ้า 150mg อีก 5นาทีต่อมา ข้อห้ามใช้ • Severe hypotension • Pregnancy • Heart block Side effects: Hypotension, Bradycardia, Prolong QT interval, Heart block , CHF, Phlebitis ข้อควรระวงั 1)ขณะdripไม่ควรไดร้ ับ Betablocker, digoxin, diltiazem: เพม่ิ risk bradycardia, AV block Warfarin : เพม่ิ risk bleeding 2) การการใหย้ าไม่ควรใหเ้ กนิ 2200mg ใน24ชว่ั โมง 3) ระดบั Kและ Mg ตอ้ งอยใู่ นเกณฑป์ กตเิ น่ืองจากอาจเกิด arrhythymia รูปแบบยา HCO3 8.92 mEq/50 ml 1)เป็นสารละลายมีฤทธ์ิเป็นดา่ ง มีส่วนประกอบคือโซเดียมใและไบคาร์บอเนต 2)เมื่อเขา้ สู้ร่างกายจะทาหนา้ ทเ่ี ป็นเพ่ิมความเป็นด่างในร่างกายและเพ่มิ โซเดยี มและไบคาร์บอเนต

78 3)เสริมกบั ไบคาร์บอเนตซ่ึงร่างกายสรา้ งข้ึนที่ไต 4)โซเดยี มไบคาร์บอเนตมีการขบั ออกทางปัสสาวะทาใหป้ ัสสาวะมคี วามเป็นด่างมากข้นึ

79

80

81

82 คุณภาพการทา CPR การทดลอง ROC PRIMED ออกจากภาวะหัวใจหยดุ เตน้ ในโรงพยาบาล 38 - 50 มม. ไม่มีขดี จากดั สูงสุด •ช่วงความลกึ ของการเอาชีวติ รอดสูงท่ีสุด 40.3 มม. - 55-3 มม. การอยูร่ อดสูงสุด 45.6 มม. (~ 1.8 น้ิว) อัตราที่เหมาะสมที่สุด? Rate 100-120 คร้ังตอ่ นาที • ROC PRIMED Study การศึกษาแบบสังเกตการณ์ OHCA หลงั จากการปรับสัดส่วนการกดหนา้ อกและ การเอาชีวิตรอดจากการกดหนา้ อกใหไ้ ดล้ ึกทส่ี ุดเมอ่ื อตั ราคือ ... 100 -119 ตอ่ นาที! ‘’อัตราการบีบอัด \"Push fast, push hard\" ชา้ เกินไป(ปี 2010)เเละชา้ เกนิ ไป(ปัจจุบนั ) 100-120/min

83 END TIDAL CO2 -ใชป้ ระเมนิ ตาแหน่ง ETT เขา้ Trache -ใชว้ ดั Quality CPR -บอกภาวะ ROSC Non invasive Cardiac Support Pump องค์ประกอบของการนวดหัวใจผายปอดก้ชู ีพทม่ี ีคณุ ภาพสูงสุดสาหรับผ้ใู ห้การช่วยชีวติ ข้นั พืน้ ฐาน องค์ประกอบ ความปลอดภยั ของสถานทีเ่ กดิ เหตุ ผ้ใู หญ่และวัยรุ่น,เด็กอายุ 1 ปี ถึงวยั รุ่นหน่มุ สาว,ทารกอายุน้อยกว่า 1 ปี ยกเว้นทารกแรกเกดิ =ไมแ่ น่ใจวา่ สภาพแวดลอ้ มปลอดภยั สาหรับผชู้ ว่ ยเหลือและผปู้ ่ วย องค์ประกอบ การรบั รู้ถึงภาวะหวั ใจหยดุ ทางาน ผ้ใู หญ่และวัยรุ่น,เดก็ อายุ 1 ปี ถึงวัยรุ่นหน่มุ สาว,ทารกอายนุ ้อยกว่า 1 ปี ยกเว้นทารกแรกเกิด=ตรวจสอบการ ตอบสนอง ไมห่ ายใจหรือมีเพยี งการหายใจเฮอื ก (ไมม่ ีการหายใจตามปกติ) ไมร่ ูส้ ึกถงึ ชีพจรทแ่ี น่นอน ภายใน 10 วนิ าที (สามารถดาเนินการตรวจสอบการหายใจและชีพจรท่เี กิดข้นึ พร้อมกนั ในเวลานอ้ ยกว่า 10 วินาที) องค์ประกอบ การแจง้ ระบบตอบรบั ฉุกเฉิน ผ้ใู หญ่และวยั รุ่น หากทา่ นอย่เู พยี งลาพงั และไมม่ โี ทรศพั ทม์ ือถอื ให้ปลอ่ ยผปู้ ่ วยไวเ้ พื่อทาการแจง้ ระบบตอบ รบั ฉุกเฉินและนาเครื่องกระตนุ้ หวั ใจดว้ ยไฟฟ้าจากภายนอกร่างกายแบบอตั โนมตั ิมาไว้ กอ่ นเร่ิมการนวด หวั ใจผายปอดกชู้ ีพ หรืออกี ทางหน่ึงส่งบคุ คลอ่ืนไปและเร่ิมการนวดหวั ใจผายปอดกชู้ ีพในทนั ที โดยใช้ เคร่ืองกระตนุ้ หัวใจดว้ ยไฟฟ้าจากภายนอกร่างกายแบบอตั โนมตั ิทนั ทเี มื่อไดเ้ คร่ืองมา เด็กอายุ 1 ปี ถึงวัยเร่ิมหน่มุ สาวและทารกอายุน้อยกว่า 1 ปี ยกเว้นทารกแรกเกดิ พบเหน็ การลม้ ลง ปฏบิ ตั ิตาม ข้นั ตอนสาหรบั ผใู้ หญ่และวยั รุ่นดา้ นซ้าย ไมพ่ บเห็นการลม้ ลง ทาการนวดหัวใจผายปอดกชู้ ีพ 2 นาที ปลอ่ ย ผปู้ ่ วยไวเ้ พ่ือทาการแจง้ ระบบตอบรบั ฉุกเฉินและนาเคร่ืองกระตนุ้ หวั ใจดว้ ยไฟฟ้าจากภายนอกร่างกายแบบ อตั โนมตั ิมาไว้ กลบั ไปยงั เด็กหรือทารกและเร่ิมการนวดหัวใจผายปอดกูช้ ีพ โดยใชเ้ ครื่องกระตนุ้ หวั ใจดว้ ย ไฟฟ้าจากภายนอกร่างกายแบบอตั โนมตั ทิ นั ทีเมือ่ ไดเ้ คร่ืองมา องค์ประกอบ อตั ราส่วนการกดตอ่ การชว่ ยหายใจท่ปี ราศจากอปุ กรณ์ชว่ ยหายใจ

84 ผ้ใู หญ่และวยั รุ่น ผชู้ ว่ ยเหลือ 1 หรือ 2 คน 30:2, เด็กอายุ 1 ปี ถึงวยั รุ่นหน่มุ สาวและทารกอายุน้อยกว่า 1 ปี ยกเว้นทารกแรกเกิด ผชู้ ว่ ยเหลือ 1 คน 30:2 ผชู้ ว่ ยเหลอื 2 คนหรือมากกวา่ 15:2 องค์ประกอบ อตั ราส่วนการกดต่อการชว่ ยหายใจทใ่ี ชอ้ ุปกรณ์ชว่ ยหายใจ ผ้ใู หญ่และวยั รุ่น,เด็กอายุ 1 ปี ถงึ วัยรุ่นหน่มุ สาว,ทารกอายุน้อยกว่า 1 ปี ยกเว้นทารกแรกเกดิ =การกดอยา่ ง ตอ่ เนื่องท่ีอตั ราเร็ว 100 ถงึ 120 คร้ังตอ่ นาที ผายปอด 1 คร้งั ทกุ 6 วินาที(10 คร้งั ต่อนาที) องค์ประกอบ ความลกึ ในการกด ผ้ใู หญ่และวยั รุ่น อย่างนอ้ ย 2 นิ้ว (5 cm),เด็กอายุ 1 ปี ถึงวัยรุ่นหน่มุ สาว อยา่ งนอ้ ย 1 ใน 3 ของเส้นผา่ น ศนู ยก์ ลางจากดา้ นหนา้ ไปหลงั ของหนา้ อกประมาณ 2 นิ้ว(5 cm),ทารกอายุน้อยกว่า 1 ปี ยกเว้นทารกแรกเกดิ อยา่ งนอ้ ย 1 ใน 3 ของเส้นผ่านศนู ยก์ ลางจากดา้ นหน้าไปหลงั ของหนา้ อกประมาณ 1 นิ้วคร่ึง(4 เซนติเมตร) องค์ประกอบ การวางมอื ผ้ใู หญ่และวัยรุ่น วาง 2 มอื ลงบนคร่ึงลา่ งของกระดูกหนา้ อก ,เดก็ อายุ 1 ปี ถงึ วัยรุ่นหน่มุ สาว วางมือท้งั สอง มอื หรือมอื 1 ขา้ ง(เป็นทางเลือกสาหรับเดก็ เล็กมาก)ลงบนคร่ึงลา่ งของกระดกู หนา้ อก,ทารกอายุน้อยกว่า 1 ปี ยกเว้นทารกแรกเกดิ ผชู้ ว่ ยเหลือ 1 คน วาง 2 น้ิวลงตรงกลางหนา้ อกใหต้ ่ากว่าเส้นหวั นมเล็กนอ้ ย ผชู้ ่วยเหลือ 2 คนหรือมากกว่า วางน้ิวหัวแมม่ อื สองน้ิว-โยกมอื ลงตรงกลางหนา้ อกให้ต่ากวา่ เส้นหัวนมเลก็ นอ้ ย องค์ประกอบ การขยายกลบั ของหนา้ อก ผ้ใู หญ่และวยั รุ่น,เด็กอายุ 1 ปี ถึงวัยรุ่นหน่มุ สาว,ทารกอายนุ ้อยกว่า 1 ปี ยกเว้นทารกแรกเกดิ =ปลอ่ ยให้ หนา้ อกขยายกลบั ไดเ้ ตม็ ที่หลงั การกดแตล่ ะคร้งั หา้ มพงิ บนหนา้ อกหลงั การกดแต่ละคร้งั องค์ประกอบ การเวน้ ระยะใหน้ อ้ ยท่สี ุด ผ้ใู หญ่และวัยรุ่น,เดก็ อายุ 1 ปี ถึงวยั รุ่นหน่มุ สาว,ทารกอายนุ ้อยกว่า 1 ปี ยกเว้นทารกแรกเกิด=จากดั การเวน้ ระยะในการกดหนา้ อกใหน้ อ้ ยกวา่ 10 วินาที ***ความลกึ ในการกดไม่ควรเกนิ 2.4 น้วิ (6 เซนติเมตร) ส่ิงท่ีควรทาและไม่ควรทาในการช่วยชีวิตข้นั พืน้ ฐานสาหรับการนวดหัวใจผายปอดก้ชู ีพท่มี คี ุณภาพสูงใน ผู้ใหญ่ ส่ิงทค่ี วรทา

85 -ดาเนินการกดหนา้ อกท่อี ตั ราเร็ว 100 ถึง 120 คร้ังต่อนาที -กดทค่ี วามลึกอยา่ งนอ้ ยที่สุด 2 น้ิว(5 cm) -ปล่อยให้หนา้ อกขยายกลบั ไดเ้ ตม็ ที่หลงั จากการกดแตล่ ะคร้ัง -เวน้ ระยะในการกดให้นอ้ ยที่สุด -ช่วยหายใจอยา่ งเพียงพอ(ผายปอด 2 คร้ังหลงั การกด 30 คร้ัง การผายปอดแต่ละคร้ังมากกว่า 1 วินาทแี ละ สามารถทาใหห้ นา้ อกยกตวั ข้นึ ไดใ้ นแตล่ ะคร้งั ) ส่ิงทไี่ ม่ควรทา -กดทีอ่ ตั ราเร็วท่ชี า้ กวา่ 100 คร้งั ตอ่ นาทหี รือเร็วกว่า 120 คร้งั ต่อนาที -กดทีค่ วามลึกนอ้ ยกว่า 2 นิ้ว(5 cm)หรือมากกว่า 2.4 น้ิว(6 เซนตเิ มตร) -พงิ บนหนา้ อกระหว่างการโปรด -เวน้ ระยะการกดเป็นเวลามากกว่า 10 วินาที -ชว่ ยหายใจมากเกินไป เช่น การผายปอดบ่อยคร้ังเกินไปหรือการผายปอดดว้ ยแรงทม่ี ากเกินไป ***สิ่งสาคญั สาหรับการนวดหัวใจผายปอด

86


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook