7 การออกแบบการจัดการเรยี นรู้ รหัสวิชา 2000-1601 ชอื่ วิชา พลศกึ ษาเพือ่ พฒั นาสขุ ภาพ ----------------------------------------------------------------- หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 หลกั การเสรมิ สร้างสมรรถภาพทางกาย เวลาเรยี น 4 ชัว่ โมง สัปดาห์ท่ี 1-2 เรอ่ื ง หลักการเสรมิ สร้างสมรรถภาพทางกาย เวลาเรยี น 4 ชวั่ โมงความคดิ รวบยอด/ความเข้าใจทคี่ งทน การเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย เป็นการปรับปรุงสภาวะของร่างกายให้มีประสิทธิภาพในการทาหน้าท่ีและประสานงานกับระบบต่างๆ ของร่างกายได้เป็นอย่างดี การเป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์จะทาให้ชี วิตมีความสุข มีโอกาสประสบความสาเร็จ ผู้ท่ีมีสุขภาพดีจะมองโลกในแง่ดีสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและสงั คมได้สาระการเรียนรู้ 1. ความหมายและความสาคญั ของสมรรถภาพทางกาย (หนังสือเรียน หนา้ 11) 2. ปจั จัยที่เก่ยี วกับการเสรมิ สร้างสมรรถภาพทางกาย (หนังสือเรยี น หนา้ 12) 3. ประเภทของสมรรถภาพทางกายและการทดสอบสมรรถภาพทางกาย (หนงั สือเรียน หนา้ 12-14) 4. ประเภทของการออกกาลงั กายเพ่ือเสริมสรา้ งสมรรถภาพทางกาย (หนงั สือเรียน หน้า 15-16) 5. หลักการฝึกเพ่ือเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย (หนังสือเรยี น หน้า 16-18)สมรรถนะประจาหน่วย 1. แสดงความร้เู กีย่ วกับหลักการเสรมิ สร้างสมรรถภาพทางกาย 2. ออกกาลังกายเพ่ือพัฒนาบคุ ลิกภาพและสมรรถภาพตามหลักการและกระบวนการ 3. ใชช้ วี ิตร่วมกับผอู้ ่ืนได้อย่างมคี วามสุข 4. ค้นหาคุณคา่ ของตนเองและเลือกดาเนินชีวิตให้สอดคล้องอย่างมีความสุขจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความหมาย ความสาคัญและความจาเปน็ ในการเสริมสรา้ งสมรรถภาพทางกายได้ 2. บอกประเภทของการเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายและการทดสอบสมรรถภาพทางกายได้ 3. บอกประเภทของการออกกาลังกายเพื่อเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกาย 4. อธิบายหลกั การฝึกเพอ่ื เสรมิ สร้างสมรรถภาพทางกายและยกตวั อย่างประกอบได้ 5. เสริมสร้างสมรรถภาพทางกายไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสมกบั ร่างกาย 6. มีเจตคติที่ดีในการเรียนเร่ืองหลักการเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย และรักษ์ค่านิยมหลัก 12 ประการของไทย
8ภาระงาน/ชนิ้ งาน/การแสดงออกของผเู้ รยี น ภาระงาน/ช้นิ งานระหวา่ งเรยี น 1. ผังกราฟกิ แสดงการเกบ็ รวบรวมข้อมลู เกย่ี วกบั หลกั การเสรมิ สร้างสมรรถภาพทางกาย 2. ผังกราฟิกสรุปความรูค้ วามเข้าใจเก่ยี วกับหลกั การเสริมสรา้ งสมรรถภาพทางกาย 3. การนาเสนอผลการสรปุ ความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกับหลักการเสรมิ สร้างสมรรถภาพทางกาย ภาระงาน/ชิน้ งานรวบยอดในหน่วยการเรยี นรู้ 1. ผลการปฏบิ ัติกิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ 2. ผลการปฏิบตั ิกจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรู้ 3. ผลการประเมินตนเอง 4. คะแนนผลการทดสอบการประเมินผลจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ภาระงาน/ชิน้ งาน/ วิธีประเมนิ /เครื่องมอื เกณฑ์ การแสดงออก1. อธิบายความหมาย ความสาคัญ ผลงานแบบบันทึก ผังกราฟิกแสดง ตรวจผลงานแบบบันทึก ผังกราฟิก ตามท่ีกาหนดในแบบตรวจและความจาเป็นในการเสริมสร้าง ความหมาย ความส าคั ญและ แสดงความหมาย ความสาคัญและ และประเมินผลงานสมรรถภาพทางกายได้ ความจาเป็นในการเสริมสร้าง ความจาเป็นในการเสริมสร้าง สมรรถภาพทางกาย สมรรถภาพทางกาย2. บอกประเภทของการเสริมสร้าง ผลงานแบบบันทึก ผังกราฟิกแสดง ตรวจผลงานแบบบันทึก ผังกราฟิก ตามที่กาหนดในแบบตรวจสมรรถภ าพทางกายแล ะ ประเภทของการเสริ มสร้ าง แสดงประเภทของการเสริมสร้าง และประเมนิ ผลงานการทดสอบสมรรถภาพทางกายได้ สมรรถภาพทางกายและการทดสอบ สมรรถภาพทางกายและการทดสอบ สมรรถภาพทางกาย สมรรถภาพทางกาย3. บอกประเภทของการออกกาลังกาย ผลงานแบบบันทึก ผังกราฟิกแสดง ตรวจผลงานแบบบันทึก ผังกราฟิก ตามท่ีกาหนดในแบบตรวจเพอื่ เสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกาย ประเภทของการออกกาลังกาย แสดงประเภทของการออกกาลังกาย และประเมนิ ผลงาน เพ่อื เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย เพอื่ เสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกาย4. อธิบายหลักการฝึกเพ่ือเสริมสร้าง ผลงานแบบบันทึก ผังกราฟิกแสดง ตรวจผลงานแบบบันทึก ผังกราฟิก ตามท่ีกาหนดในแบบตรวจสมรรถภ าพทางกายแล ะ หลั กการฝึ กเพื่ อเสริ มสร้ าง แสดงหลักการฝึกเพื่อเสริมสร้าง และประเมนิ ผลงานยกตัวอย่างประกอบได้ สมรรถภาพทางกายและยกตัวอย่าง สมรรถภาพทางกายและยกตัวอย่าง ประกอบ ประกอบ
9จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ภาระงาน/ชน้ิ งาน/ วธิ ปี ระเมิน/เครื่องมอื เกณฑ์ การแสดงออก5. เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย ผลงานแบบบันทึก ผังกราฟิกแสดง ตรวจผลงานแบบบันทึก ผังกราฟิก ตามท่ีกาหนดในแบบตรวจได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม การเสริมสร้างสมรรถภาพ แสดงการเสริมสร้างสมรรถภาพ และประเมนิ ผลงานกบั รา่ งกาย ทางกายได้อย่างถูกต้องและ ทางกายได้อย่างถูกต้องและ เหมาะสมกบั รา่ งกาย เหมาะสมกับรา่ งกาย6. มีเจตคติท่ีดีในการเรียนเรื่อง พฤติกรรมการปฏิบัติตนในการร่วม สังเกตและประเมิ นพฤติกรรม ตามที่กาหนดในแบบบันทึกหลักการเสริมสร้างสมรรถภาพ ปฏิ บั ติ กิจกรรมของบทเรี ยน การปฏิบัติตนในการร่วมปฏิบัติ และแบบประเมินพฤติกรรมทางกาย และรักษ์ค่านิยมหลัก กจิ กรรมกลุ่มและกจิ กรรมรายบุคคล กจิ กรรมของบทเรียน12 ประการของไทยหมายเหตุ : 1. การประเมนิ แผนการจดั การเรยี นรู้ ประเมินตามภาระงาน/ชิน้ งาน/การแสดงออกตามกิจกรรมในแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ีสอดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ให้คะแนนตามเกณฑ์ประเมิน 2. การประเมินเจตคติในการเรียน ประเมินต่อเนื่องในทุกกิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้ แล้วนาผลไปสรุปรวมในแผนสุดท้ายของเรือ่ ง/หน่วยการเรยี นรู้ เกณฑป์ ระเมินจุดประสงค์การเรยี นรู้จากภาระงาน/ชิน้ งาน/การแสดงออกของผเู้ รยี นระดบั คณุ ภาพ ดีมาก ดี ปานกลาง ปรับปรงุจดุ ประสงค์ (4) (3) (2) (1)การเรียนรู้1. อธิบายความหมาย อ ธิ บ า ย ค ว า ม ห ม า ย อ ธิ บ า ย ค ว า ม ห ม า ย อ ธิ บ า ย ค ว า ม ห ม า ย อธิบายความหมายความสาคัญและ ความสาคัญและความจาเป็น ค ว า ม ส า คั ญ แ ล ะ ค ว า ม ส า คั ญ แ ล ะ ความส าคั ญและความจ าเป็ นใน ในการเสริมสร้างสมรรถภาพ ค ว า ม จ า เ ป็ น ใ น ค ว า ม จ า เ ป็ น ใ น ค ว า ม จ า เ ป็ น ใ นการ เส ริ มส ร้ า ง ท า ง ก า ย ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง การเสริมสร้างสมรรถภาพ การเสริมสร้างสมรรถภาพ ก า ร เ ส ริ ม ส ร้ า งส ม ร ร ถ ภ า พ ค ร อ บ ค ลุ ม ต ร ง ต า ม ท า ง ก า ย ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง ท า ง ก า ย ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง สมรรถภาพทางกายทางกายได้ หลักวิชา เรียบเรียงด้วย ค ร อ บ ค ลุ ม ต ร ง ต า ม ตรงตามหลักวิชาบางส่วน ได้ เล็ กน้ อย ยั งไม่ ภาษาของตนเอง หลักวิชา ด้วยข้อความที่ ด้วยข้อความท่ีคัดลอก ถูกต้องครอบคลุม เข้าใจง่าย คัดลอกจากผอู้ ื่นหรอื ตารา จากผอู้ ื่นหรือตารา ตรงตามหลกั วชิ า2. บอกประเภทของ บ อ ก ป ร ะ เ ภ ท ข อ ง บ อ ก ป ร ะ เ ภ ท ข อ ง บ อ ก ป ร ะ เ ภ ท ข อ ง บอกประเภทของการเสริ มสร้ าง การเสริมสร้างสมรรถภาพ การเสริมสร้างสมรรถภาพ การเสริมสร้างสมรรถภาพ ก า ร เ ส ริ ม ส ร้ า งสมรรถภาพทางกาย ทางกายและการทดสอบ ทางกายและการทดสอบ ทางกายและการทดสอบ สมรรถภาพทางกาย สมรรถภาพทางกายได้ถูกต้อง สมรรถภาพทางกายได้ถูกต้อง สมรรถภาพทางกายได้ถูกต้อง และการทดสอบและการทดสอบ ค ร อ บ ค ลุ ม ต ร ง ต า ม ค ร อ บ ค ลุ ม ต ร ง ต า ม ตรงตามหลักวิชาบางส่วน สมรรถภาพทางกายสมรรถภาพ หลักวิชา เรียบเรียงด้วย หลักวิชา ด้วยข้อความที่ ด้ ว ย ข้ อ ค ว า ม ที่ คั ด ล อ ก ได้ เล็ กน้ อย ยั งไม่ทางกายได้ ภาษาของตนเอง คัดลอกจากผอู้ ื่นหรือตารา จากผู้อ่ืนหรือตารา ถู กต้ องค ร อ บ ค ลุ ม เขา้ ใจง่าย ตรงตามหลักวิชา
10ระดบั คุณภาพ ดมี าก ดี ปานกลาง ปรับปรุงจุดประสงค์ (4) (3) (2) (1)การเรยี นรู้3. บอกประเภทของ บ อ ก ป ร ะ เ ภ ท ข อ ง บ อ ก ป ร ะ เ ภ ท ข อ ง บ อ ก ป ร ะ เ ภ ท ข อ ง บ อ ก ป ร ะ เ ภ ท ข อ งการออกกาลังกาย ก า ร อ อ ก ก า ลั ง ก า ย ก า ร อ อ ก ก า ลั ง ก า ย ก า ร อ อ ก ก า ลั ง ก า ย ก า ร อ อ ก ก า ลั ง ก า ยเพื่ อเสริ มสร้ าง เพื่อเสริมสร้างสมรรถภาพ เพ่ือเสริมสร้างสมรรถภาพ เพ่ือเสริมสร้างสมรรถภาพ เพื่อเสริมสร้างสมรรถภาพ ท า ง ก า ย ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง ท า ง ก า ย ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง ทางกายได้ถูกต้องตรงตาม ทางกายได้เล็กน้อย ยังไม่สมรรถภาพทางกาย ค ร อ บ ค ลุ ม ต ร ง ต า ม ค ร อ บ ค ลุ ม ต ร ง ต า ม ห ลั ก วิ ช า บ า ง ส่ ว น ถู ก ต้ อ ง ค ร อ บ ค ลุ ม หลักวิชา เรียบเรียงด้วย หลักวิชา ด้วยข้อความที่ ด้วยข้อความที่คัดลอก ตรงตามหลักวิชา ภ า ษ า ข อ ง ต น เ อ ง คั ด ล อ ก จ า ก ผู้ อ่ื น จากผู้อ่ืนหรือตารา เข้าใจง่าย หรอื ตารา4. อธิบายหลักการฝึก อ ธิ บ า ย ห ลั ก ก า ร ฝึ ก อ ธิ บ า ย ห ลั ก ก า ร ฝึ ก อ ธิ บ า ย ห ลั ก ก า ร ฝึ ก อ ธิ บ า ย ห ลั ก ก า ร ฝึ กเพื่ อเสริ มสร้ าง เพ่ือเสริมสร้างสมรรถภาพ เพื่อเสริมสร้างสมรรถภาพ เพื่อเสริมสร้างสมรรถภาพ เพ่ือเสริมสร้างสมรรถภาพสมรรถภาพทางกาย ทางกายและยกตัวอย่าง ทางกายและยกตัวอย่าง ทางกายและยกตัวอย่าง ทางกายและยกตัวอย่างและยกตั วอย่ าง ป ร ะ ก อบ ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง ป ร ะ ก อ บ ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง ป ร ะ ก อ บ ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง ประกอบได้ เล็ กน้ อยประกอบได้ ค ร อ บ ค ลุ ม ต ร ง ต า ม ค ร อ บ ค ลุ ม ต ร ง ต า ม ต ร ง ต า ม ห ลั ก วิ ช า ยังไม่ถูกต้องครอบคลุม หลักวิชา เรียบเรียงด้วย หลักวิชา ด้วยข้อความท่ี บางส่วน ด้วยข้อความที่ ตรงตามหลักวิชา ภ า ษ า ข อ ง ต น เ อ ง คั ด ล อ ก จ า ก ผู้ อ่ื น คั ด ล อ ก จ า ก ผู้ อ่ื น เขา้ ใจงา่ ย หรอื ตารา หรอื ตารา5. เ ส ริ ม ส ร้ า ง เสริ มสร้ างสมรรถภาพ เสริ มสร้ างสมรรถภาพ เสริ มสร้ างสมรรถภาพ เสริ มสร้ างสมรรถภาพสมรรถภาพทางกาย ทางกายได้อย่างถูกต้อง ทางกายได้อย่างถูกต้อง ทางกายได้อย่างถูกต้อง ทางกายได้อย่างถูกต้องได้อย่างถูกต้องและ และเหมาะสมกับร่างกาย และเหมาะสมกับร่างกาย และเหมาะสมกับร่างกาย และเหมาะสมกับร่างกายเหมาะสมกบั ร่างกาย ค ร อ บ ค ลุ ม ต ร ง ต า ม ค ร อ บ ค ลุ ม ต ร ง ต า ม ต ร ง ต า ม ห ลั ก วิ ช า ไ ด้ เ ล็ ก น้ อ ย ยั ง ไ ม่ หลักวิชา เรียบเรียงด้วย หลักวิชา ด้วยข้อความท่ี บางส่วน ด้วยข้อความท่ี ค ร อ บ ค ลุ ม ต ร ง ต า ม ภ า ษ า ข อ ง ต น เ อ ง คั ด ล อ ก จ า ก ผู้ อื่ น คั ด ล อ ก จ า ก ผู้ อ่ื น หลกั วชิ า เข้าใจงา่ ย หรือตารา หรือตารา
11 เกณฑ์ประเมินจุดประสงค์การเรียนรู้จากการแสดงออกของผูเ้ รยี นตามภาระงาน การแสดงออกของผ้เู รยี นตามภาระงาน การปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มและการปฏิบัติงานรายบุคคลตามที่กาหนดในกิจกรรมการเรยี นรแู้ ตล่ ะข้ันตอน จุดประสงค์การเรียนรู้ ข้อ 6 มีเจตคติที่ดีในการเรียนเร่ืองหลักการเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย และรักษ์ค่านยิ มหลัก 12 ประการของไทย ประเมินโดยใช้เกณฑ์เชงิ คณุ ภาพแบบจาแนกองค์ประกอบดังตารางระดบั คุณภาพ ดมี าก ดี ปานกลาง ปรับปรุงองค์ประกอบ (4) (3) (2) (1)ทีป่ ระเมิน1. การปฏิบัติกิจกรรมกลุ่ม ร่วมมือกับกลุ่มปฏิบัติงาน ร่วมมือกับกลุ่มปฏิบัติงาน ร่วมมือกับกลุ่มปฏิบัติงาน ร่วมมือกับกลุ่มปฏิบัติงานตามท่ีกาหนดในกิจกรรม ท่ไี ด้รบั มอบหมายอย่างเต็ม ทีไ่ ดร้ บั มอบหมายอย่างเต็ม ท่ไี ดร้ บั มอบหมายอย่างเต็ม ท่ีได้รับมอบหมายเล็กน้อยการเรียนรู้แตล่ ะขน้ั ตอน ความสามารถเป็นประจา ความสามารถ ริ เริ่ ม ความสามารถเป็นบางครั้ง ไม่เสนอตนเป็นผู้ริเริ่ม ริเริ่มประสานงานอยู่เสมอ ประสานงานเป็นส่วนใหญ่ นานๆ คร้ังจะเสนอตนเป็น ประสานงานในกลมุ่ มีความกระตอื รือร้นสูงมาก มีความกระตือรือรน้ ดี ผู้รเิ ริม่ ประสานงาน2. การปฏิบัติงานรายบุคคล ตั้งใจปฏิบัติงานที่ได้รับ ต้ังใจปฏิบัติงานท่ีได้รับ ต้ังใจปฏิบัติงานที่ได้รับ ป ฏิ บั ติ ง า น ที่ ไ ด้ รั บตามท่ีกาหนดในกิจกรรม มอบหมายอย่ างเต็ ม มอบหมายอย่ างเต็ ม มอบหมายอย่ างเต็ ม ม อ บ ห ม า ย ไ ม่ เ ต็ มการเรียนรแู้ ต่ละขนั้ ตอน ความสามารถเสมอ ผลงาน ความสามารถเป็นส่วนใหญ่ ความสามารถเป็นบางคร้ัง ความสามารถ ต้องตักเตือน เสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ ผลงานเสร็จสมบูรณ์ตาม ผลงานเสร็จสมบูรณ์ตาม ผลงานจึงเสรจ็ สมบูรณ์ ตามที่กาหนดทกุ รายการ ทก่ี าหนดเกือบทกุ รายการ ที่กาหนดบางรายการ3. การนาเสนอผลการสรุป จัดสื่ออุปกรณ์ วิธีนาเสนอ จัดสื่ออุปกรณ์ วิธีนาเสนอ จัดสื่ออุปกรณ์ วิธีนาเสนอ จัดส่ืออุปกรณ์ วิธีนาเสนอความรคู้ วามเขา้ ใจ ได้ อย่ างสร้ างสรรค์ ได้อย่างน่าสนใจ ได้สาระ ได้ น่าสนใจพอสมควร ไม่น่าสนใจ ได้สาระตาม น่าสนใจมาก ได้ สาระ ตามเป้าหมายที่กาหนด ได้สาระตามเป้าหมายที่ เป้ าห มา ยที่ ก า หนด ครอบคลุมครบถ้วนตาม เป็นสว่ นใหญ่ กาหนดปานกลาง เล็กนอ้ ยบางส่วน เปา้ หมายทกี่ าหนดกจิ กรรมการเรยี นรู้ Step 1 Gathering (ขนั้ รวบรวมขอ้ มูล) 1. ผู้สอนแบง่ กล่มุ ผู้เรยี นเป็น 3 กลุม่ เพอื่ ศึกษาแสวงหาความรูจ้ ากแหลง่ ตา่ งๆ ดงั นี้ กลุ่มท่ี 1 ศึกษาความรู้เรอื่ งปัจจยั ท่เี กีย่ วขอ้ งกับการเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย กลมุ่ ที่ 2 ศกึ ษาความรเู้ รอื่ งประเภทของสมรรถภาพทางกายและแบบการทดสอบสมรรถภาพ กลมุ่ ท่ี 3 ศึกษาความรเู้ รอื่ งหลักการฝกึ เพ่ือเสริมสรา้ งสมรรถภาพทางกาย 2. ผู้สอนตง้ั คาถามให้ผูเ้ รียนเสนอข้อมูลจากประสบการณ์และการศกึ ษาหาความรู้ในเรอื่ ง 2.1 ปจั จยั ท่เี กย่ี วขอ้ งกับการเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายตามหัวข้อท่ีกาหนดดังนี้ 2.1.1 ถา้ ผูเ้ รยี นมสี มรรถภาพทางกายทไ่ี ม่ดี ผูเ้ รียนจะปฏบิ ัติตนอยา่ งไร
12 2.1.2 การสบู บุหร่ีหรือด่มื แอลกอฮอลม์ ผี ลต่อสมรรถภาพทางกายอย่างไร 2.1.3 อาหารส่งผลตอ่ การมสี มรรถภาพทางกายท่ดี ีอย่างไร 2.1.4 การที่เขา้ ฟติ เนสหรือเล่นโยคะจะเกดิ ผลต่อสมรรถภาพอย่างไร 2.1.5 เม่ือมีสมรรถภาพทางกายท่ดี ี ส่งิ ท่ดี ที ตี่ ามมาจะมอี ะไรบา้ ง 2.2 ประเภทของสมรรถภาพทางกายและแบบการทดสอบสมรรถภาพตามหวั ขอ้ ทก่ี าหนดดังนี้ 2.2.1 ท่าทใี่ ชใ้ นการทดสอบสมรรถภาพทางกายแบบสากลนิยมได้แกท่ า่ ใดบา้ ง 2.2.2 การออกกาลังกายแบบไอโซเมติกและแบบไอโซโทนกิ มีความแตกตา่ งกนั อย่างไร 2.2.3 การออกกาลังกายแบบใชอ้ อกซเิ จนและไม่ใช้ออกซเิ จนตา่ งกันอย่างไร 2.2.4 การออกกาลังกายแบบใช้แรงต้านความเร็วคงที่ เช่น ว่ิงบนลู่วิ่ง เป็นการออกกาลังกาย รูปแบบใด 2.2.5 การวดั สมรรถภาพของหวั ใจและปอดปฏบิ ัติได้อยา่ งไร 2.3 หลักการฝึกเพือ่ เสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกายตามหัวข้อทีก่ าหนดดงั นี้ 2.3.1 การออกกาลงั กายเพ่ือเสริมสมรรถภาพทางกาย ควรใช้เวลาในการฝกึ อย่างไร 2.3.2 การฝกึ เพือ่ เพิม่ ความเรว็ นิยมใชแ้ บบฝึกชนิดใด 2.3.3 แบบฝกึ เพื่อเสรมิ สร้างสมรรถภาพทางกายมีแบบใดบา้ ง 2.3.4 แบบฝกึ เพอ่ื บริหารรา่ งกายใหก้ ล้ามเนอ้ื แขง็ แรงมีแบบใดบ้าง 2.3.5 การฝกึ แบบวงจร เปน็ การฝกึ เพอ่ื การประสานงานของการทางานของระบบใดในร่างกาย 3. ใหแ้ ต่ละกลุ่มนาความรทู้ ีไ่ ด้จากการศึกษาตามหัวข้อท่ีกาหนดบันทึกลงในผังกราฟิก (เลือกออกแบบและใช้ผงั กราฟกิ ให้เหมาะสมกบั ลักษณะของข้อมูล) ดังตัวอยา่ ง ผงั ปจั จัยทเ่ี ก่ยี วข้องกับการเสรมิ สร้างสมรรถภาพทางกาย Step 2 Processing (ขัน้ คดิ วเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความรู้) 4. ผเู้ รียนร่วมกันอภิปรายถึง กลมุ่ ท่ี 1 เร่ืองปจั จัยทีเ่ กีย่ วขอ้ งกับการเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกายตามประเดน็ ต่อไปนี้ - เปรียบเทียบถึงสมรรถภาพทางกายของบุคคลทั่วไปกับสมรรถภาพทางกายของบุคคลท่ี เปน็ นักกฬี าหรือผ้ทู ่ีออกกาลังกายสม่าเสมอ
13 - ระบปุ จั จัยที่ทาให้บุคคลมคี วามตา่ งกนั ในดา้ นสมรรถภาพทางกาย กลุ่มที่ 2 เร่ืองประเภทของสมรรถภาพทางกายและแบบการทดสอบสมรรถภาพตามประเด็นต่อไปนี้ - จาแนกคุณลักษณะของบุคคลที่มีสมรรถภาพทางกายด้านกลไกพิเศษมาอย่างน้อย 5 ด้าน - ระบคุ วามแตกตา่ งของการออกกาลงั กายแบบไอโซโทนกิ และแบบไอโซคเิ นติก กลุม่ ท่ี 3 เรือ่ งหลกั การฝึกเพอ่ื เสริมสร้างสมรรถภาพทางกายตามประเดน็ ตอ่ ไปนี้ - ลาดับความสาคญั ของการพัฒนาเพ่ือเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกาย - เปรยี บเทียบแบบการฝกึ เพ่อื เสริมสร้างสมรรถภาพทางกายกับการฝึกเพ่ือการแข่งขัน 5. ให้ผู้เรียนร่วมกันเช่ือมโยงความคล้ายคลึง/แตกต่างของข้อมูลที่นามาอภิปราย เปรียบเทียบ จาแนกจัดกลุ่ม จัดประเภท จัดลาดับ แสดงเหตุผล และร่วมกันสรุปความรู้ตามหัวข้ออภิปราย แสดงเป็นความคิดรวบยอดหรอื หลกั การของกลมุ่ ของตนเองทัง้ 3 เร่อื ง โดยแต่ละเรื่องสรปุ ในรปู แบบทีแ่ ตกต่างกันตามความคิดของกลุ่ม 6. ผูเ้ รยี นบันทกึ ผลข้อสรปุ เป็นความเขา้ ใจของกลมุ่ และรายบคุ คล Step 3 Applying and Constructing the Knowledge (ขนั้ ปฏบิ ัตแิ ละสรปุ ความรู้หลังการปฏิบตั )ิ 7. ผู้เรียนนาข้อสรุปความรู้ความเข้าใจที่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันมานาเสนอหน้าช้ันเรียน ใช้เวลากลุม่ ละ 5-10 นาที โดยผ้สู อนและผู้เรยี นรว่ มกันตรวจสอบเตมิ เตม็ ความรู้ให้ครบถ้วนตามหัวขอ้ ตอ่ ไปนี้ เร่อื งปัจจยั ท่ีเก่ยี วขอ้ งกับการเสรมิ สร้างสมรรถภาพทางกาย - ให้ผู้เรียนวิเคราะห์ว่ามีปัจจัยด้านใดบ้างที่ทาให้คนเรามีสมรรถภาพทางร่างกายท่ีแตกต่างกันและเปรียบเทียบถึงสมรรถภาพทางกายของผู้ที่ออกกาลังกายสม่าเสมอกับบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้ออกกาลังกายจะมีความแตกตา่ งกนั ในด้านใดบา้ ง เรอ่ื งประเภทของสมรรถภาพทางกายและแบบการทดสอบสมรรถภาพ - ให้ผู้เรียนนามาอภิปรายกันถึงความแตกต่างของการออกกาลังกายในรูปแบบไอโซโทนิกและแบบไอโซคิเนติกว่ามคี วามต่างกนั อย่างไร มปี ระโยชน์ตอ่ ส่วนใดของร่างกาย ตลอดจนสามารถจาแนกคุณลักษณะของบุคคลท่มี ีสมรรถภาพทางกายด้านกลไกพเิ ศษได้ เร่ืองหลกั การฝกึ เพ่ือเสรมิ สร้างสมรรถภาพทางกาย - ให้ผู้เรียนนารูปแบบการฝึกเพอื่ เสริมสร้างสมรรถภาพทางกายกับรูปแบบการฝึกเพื่อการแข่งขันมาอภิปรายเปรยี บเทียบกนั แล้วจดั ลาดบั ความสาคญั ของการฝึกเพื่อเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกาย 8. ผู้เรียนในกลุ่มร่วมกันอภิปรายตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ของการฝึกเพ่ือเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายและใหผ้ เู้ รียนนาไปฝึกปฏิบัติ และรว่ มกนั ทากจิ กรรมสง่ เสริมการเรียนรู้ (หนังสือเรียน หน้า 21) 9. ผเู้ รียนแตล่ ะคนทากิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ (หนังสือเรียน หนา้ 20) Step 4 Applying the Communication Skill (ขน้ั สอ่ื สารและนาเสนอ) 10. ผูเ้ รยี นแต่ละกลุม่ ออกแบบหรือหาวิธนี าเสนอและส่อื สารให้ผอู้ ื่นรับรไู้ ด้อยา่ งมีประสิทธภิ าพโดยการสาธิตและปฏิบัติให้เหมาะสมกบั เน้ือหาของกลุ่ม กล่มุ ที่ 1 เรื่องปัจจัยทีเ่ กยี่ วข้องกบั การเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกาย นาเสนอในรูปแบบผังกราฟิก
14 กลุ่มท่ี 2 เร่ืองประเภทของสมรรถภาพทางกายและแบบการทดสอบสมรรถภาพ นาเสนอในรูปแบบอภิปรายและสาธิต กลมุ่ ที่ 3 เร่อื งหลักการฝึกเพอื่ เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย นาเสนอในรูปแบบการนาปฏิบัติวิธีการเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายอย่างง่าย 11. ผู้สอนสุ่มกลุ่มผู้เรียนนาเสนอผลการสรุปความรู้ความเข้าใจ ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันประเมินผลการนาเสนอตามเกณฑ์ทกี่ าหนด Step 5 Self–Regulating (ข้นั ประเมนิ เพื่อเพ่ิมคณุ ค่าบริการสงั คมและจติ สาธารณะ) 12. ผู้เรียนแต่ละกลุ่มและรายบุคคลตรวจสอบความรู้ความเข้าใจของตนเองหลังจากรับฟังการนาเสนอของสมาชิกกลุ่มอ่ืน ปรับปรุงช้ินงานของกลุ่มตนเองให้สมบูรณ์และบันทึกเพ่ิมเติม ประเมินความรู้ความเข้าใจตามแบบประเมนิ ทก่ี าหนด ทาแบบทดสอบ (หนงั สอื เรียน หน้า 26-28) แลกเปลยี่ นกันตรวจให้คะแนน 13. ผูเ้ รียนนาเสนอผลการปฏิบตั ิงานแสดงในป้ายนเิ ทศหรอื เผยแพรส่ ่หู อ้ งเรียนอื่นหรอื ทสี่ าธารณะ การบูรณาการกิจกรรมการเรยี นรู้สมรรถนะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 การทางานเป็นทีม1 ทมี ละ 5-6 คน ฝึกการคิดวเิ คราะห์ การแกป้ ัญหาการเรียนรสู้ ูอ่ าเซยี น เรียนรู้คาศัพท์ภาษาอังกฤษท่ีเกี่ยวข้องกับเน้ือหาในบทเรียนตามเอกสารหนังสือเรียน โดยฝึกใช้คาศัพท์ดงั กลา่ วในการนาเสนอผลงานในขน้ั ที่ 4ทกั ษะชีวติ การประยกุ ต์หลักการเสริมสรา้ งสมรรถภาพทางกายเพื่อใช้ในชีวติ ประจาวันและการรักษาสุขภาพท่ดี ีคา่ นยิ มหลัก 12 ประการ - รู้จักดารงตนอยู่โดยใชห้ ลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง - ใฝห่ าความรู้ หมนั่ ศกึ ษาเลา่ เรยี นท้ังทางตรงและทางอ้อม - ซ่ือสตั ย์ เสียสละ อดทน มีอดุ มการณใ์ นส่งิ ท่ดี งี ามเพ่ือสว่ นรวมกิจกรรมท้าทาย กิจกรรมส่งเสรมิ การเรยี นรหู้ น่วยการเรียนรทู้ ี่ 1_______________________________________1 ทมี หรือกล่มุ เปน็ คาสาหรับสมรรถนะผเู้ รยี นในศตวรรษท่ี 21
15 แผนการจดั การเรียนรหู้ นว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 หลักการเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกาย สปั ดาห์ท่ี 1-2 เรอื่ ง หลกั การเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกาย เวลาเรยี น 4 ช่วั โมงสาระสาคญั การเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย เป็นการปรับปรุงสภาวะของร่างกายให้มีประสิทธิภาพในการทาหน้าท่ีและประสานงานกับระบบต่างๆ ของร่างกายได้เป็นอย่างดี การเป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์จะทาให้ชีวิตมีความสุข มีโอกาสประสบความสาเร็จ ผู้ที่มีสุขภาพดีจะมองโลกในแง่ดีสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและสังคมได้สาระการเรยี นรู้ 1. ความหมายและความสาคัญของสมรรถภาพทางกาย 2. ปจั จัยที่เกีย่ วกับการเสรมิ สร้างสมรรถภาพทางกาย 3. ประเภทของสมรรถภาพทางกายและการทดสอบสมรรถภาพทางกาย 4. ประเภทของการออกกาลังกายเพ่ือเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกาย 5. หลักการฝึกเพือ่ เสริมสรา้ งสมรรถภาพทางกายสมรรถนะประจาหน่วย 1. แสดงความรู้เกยี่ วกบั หลักการเสริมสรา้ งสมรรถภาพทางกาย 2. ออกกาลงั กายเพือ่ พัฒนาบุคลิกภาพและสมรรถภาพตามหลักการและกระบวนการ 3. ใช้ชีวติ ร่วมกับผู้อน่ื ไดอ้ ย่างมคี วามสุข 4. คน้ หาคุณค่าของตนเองและเลอื กดาเนนิ ชีวติ ให้สอดคล้องอย่างมีความสขุจุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายความหมาย ความสาคญั และความจาเป็นในการเสรมิ สร้างสมรรถภาพทางกายได้ 2. บอกประเภทของการเสรมิ สร้างสมรรถภาพทางกายและการทดสอบสมรรถภาพทางกายได้ 3. บอกประเภทของการออกกาลังกายเพื่อเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกาย 4. อธิบายหลกั การฝึกเพื่อเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายและยกตวั อย่างประกอบได้ 5. เสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกายได้อย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสมกับร่างกาย 6. มีเจตคติท่ีดีในการเรียนเร่ืองหลักการเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย และรักษ์ค่านิยมหลัก 12 ประการของไทย
16กิจกรรมการเรียนรู้ ปฐมนิเทศก่อนเรม่ิ เรยี น ก่อนเรมิ่ กิจกรรมตามสาระการเรียนรู้ในบทเรยี น ผู้สอนจัดปฐมนิเทศผู้เรียนถึงวิธีการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาเนน้ บทบาท และพฤติกรรมของผู้เรยี นทีส่ าคัญ ได้แก่ การปฏิบัติตนในการทากิจกรรมกลุ่ม ต้องให้ความร่วมมือในการทากิจกรรมกลุ่มตามบทบาทหน้าท่ีทีไ่ ด้รับมอบหมาย ต้งั ใจปฏิบตั ิเพอ่ื ผลดแี กก่ ลุ่ม และจะมกี ารเปล่ียนกลมุ่ ทกุ หนว่ ยการเรยี นรู้ การปฏิบัติงานในเอกสารชุดกิจกรรมการเรียนรู้ในหน่วยการเรียนรู้แต่ละหน่วย ต้องจัดทาให้เรียบร้อยถกู ตอ้ ง ส่งงานตามทก่ี าหนดทกุ ครั้ง จะมกี ารประเมินและเก็บคะแนนตามแบบในเอกสารทา้ ยหนว่ ยการเรียนรู้ การประเมินพฤติกรรมการแสดงออก จะมีการประเมินโดยผู้สอน และผู้เรียนประเมินตนเอง รวมท้ังมีการประเมินเพ่ือนร่วมชั้นเรียนในพฤติกรรมการแสดงออกตามท่ีจุดประสงค์การเรียนรู้กาหนดในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ ตามเกณฑ์การประเมิน (Rubrics) ในหน่วยการเรียนรู้แต่ละหน่วย นาคะแนนมารวมกับการจัดทาเอกสารชดุ กจิ กรรมและคะแนนผลการทดสอบ (ให้ผเู้ รยี นสังเกตรายละเอยี ดตามเอกสารตวั อยา่ ง เม่อื ผู้เรียนเข้าใจดีแล้วจึงเร่ิมกจิ กรรม) นาเข้าส่บู ทเรยี น ผูส้ อนสนทนากับผู้เรียนเก่ียวกับหลักการเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายท่ีผู้เรียนเคยได้รับรู้จากประสบการณ์ของแต่ละคน กระตุ้นและเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง แล้วดาเนินกิจกรรมตามขั้นตอนดงั น้ี ขัน้ สอน ข้นั ที่ 1 ข้นั รวบรวมขอ้ มลู (Gathering) 1. ผสู้ อนแบ่งกลมุ่ ผเู้ รียนเป็น 3 กลุ่ม เพ่ือศกึ ษาแสวงหาความรู้จากแหลง่ ตา่ งๆ ดังน้ี กลุม่ ที่ 1 ศึกษาความรูเ้ รือ่ งปจั จัยทีเ่ กี่ยวข้องกับการเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกาย กลุ่มที่ 2 ศึกษาความรู้เรือ่ งประเภทของสมรรถภาพทางกายและแบบการทดสอบสมรรถภาพ กลมุ่ ที่ 3 ศกึ ษาความรู้เรอ่ื งหลกั การฝึกเพื่อเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย 2. ผสู้ อนตัง้ คาถามใหผ้ เู้ รียนเสนอขอ้ มลู จากประสบการณ์และการศึกษาหาความรู้ในเรื่อง 2.1 ปัจจยั ท่ีเกยี่ วข้องกบั การเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายตามหวั ขอ้ ท่ีกาหนดดงั นี้ 2.1.1 ถ้าผเู้ รียนมสี มรรถภาพทางกายทไ่ี ม่ดี ผู้เรียนจะปฏบิ ัตติ นอย่างไร 2.1.2 การสูบบหุ ร่หี รือดมื่ แอลกอฮอล์มีผลตอ่ สมรรถภาพทางกายอยา่ งไร 2.1.3 อาหารส่งผลตอ่ การมสี มรรถภาพทางกายท่ีดีอยา่ งไร 2.1.4 การที่เขา้ ฟติ เนสหรือเล่นโยคะจะเกดิ ผลตอ่ สมรรถภาพอยา่ งไร 2.1.5 เมือ่ มสี มรรถภาพทางกายท่ีดี สง่ิ ท่ดี ที ตี่ ามมาจะมอี ะไรบ้าง 2.2 ประเภทของสมรรถภาพทางกายและแบบการทดสอบสมรรถภาพตามหวั ขอ้ ท่ีกาหนดดงั น้ี 2.2.1 ท่าท่ีใช้ในการทดสอบสมรรถภาพทางกายแบบสากลนิยมได้แก่ทา่ ใดบา้ ง
17 2.2.2 การออกกาลงั กายแบบไอโซเมติกและแบบไอโซโทนกิ มีความแตกต่างกนั อย่างไร 2.2.3 การออกกาลังกายแบบใช้ออกซเิ จนและไมใ่ ช้ออกซเิ จนต่างกนั อย่างไร 2.2.4 การออกกาลังกายแบบใช้แรงต้านความเร็วคงท่ี เช่น ว่ิงบนลู่ว่ิง เป็นการออกกาลังกาย รูปแบบใด 2.2.5 การวัดสมรรถภาพของหวั ใจและปอดปฏิบตั ไิ ด้อยา่ งไร 2.3 หลกั การฝึกเพ่ือเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกายตามหวั ข้อทกี่ าหนดดังนี้ 2.3.1 การออกกาลงั กายเพอ่ื เสรมิ สมรรถภาพทางกาย ควรใชเ้ วลาในการฝึกอยา่ งไร 2.3.2 การฝกึ เพื่อเพม่ิ ความเร็วนิยมใช้แบบฝกึ ชนดิ ใด 2.3.3 แบบฝกึ เพ่ือเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกายมีแบบใดบ้าง 2.3.4 แบบฝึกเพอ่ื บรหิ ารรา่ งกายใหก้ ล้ามเนอื้ แข็งแรงมแี บบใดบา้ ง 2.3.5 การฝกึ แบบวงจร เป็นการฝึกเพ่ือการประสานงานของการทางานของระบบใดในรา่ งกาย 3. ใหแ้ ต่ละกลุม่ นาความร้ทู ไ่ี ด้จากการศกึ ษาตามหัวข้อที่กาหนดบันทึกลงในผังกราฟิก (เลือกออกแบบและใช้ผงั กราฟิกใหเ้ หมาะสมกับลักษณะของขอ้ มูล) ดงั ตวั อยา่ ง ผงั ปจั จัยทเี่ กี่ยวข้องกบั การเสริมสรา้ งสมรรถภาพทางกาย ขั้นท่ี 2 ข้ันคิดวิเคราะหแ์ ละสรุปความรู้ (Processing) 4. ผู้เรียนร่วมกนั อภิปรายถึง กลุ่มท่ี 1 เรอื่ งปจั จัยท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การเสรมิ สร้างสมรรถภาพทางกายตามประเด็นต่อไปน้ี - เปรียบเทียบถึงสมรรถภาพทางกายของบุคคลท่ัวไปกับสมรรถภาพทางกายของบุคคลท่ี เปน็ นกั กีฬาหรอื ผทู้ ่อี อกกาลงั กายสม่าเสมอ - ระบปุ จั จยั ท่ที าใหบ้ คุ คลมีความตา่ งกนั ในดา้ นสมรรถภาพทางกาย กลุ่มท่ี 2 เร่ืองประเภทของสมรรถภาพทางกายและแบบการทดสอบสมรรถภาพตามประเด็นตอ่ ไปน้ี - จาแนกคุณลักษณะของบุคคลท่ีมีสมรรถภาพทางกายด้านกลไกพิเศษมาอย่างน้อย 5 ด้าน - ระบคุ วามแตกตา่ งของการออกกาลังกายแบบไอโซโทนิกและแบบไอโซคเิ นติก
18 กลมุ่ ท่ี 3 เรือ่ งหลกั การฝึกเพ่อื เสริมสร้างสมรรถภาพทางกายตามประเดน็ ต่อไปน้ี - ลาดบั ความสาคญั ของการพัฒนาเพื่อเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย - เปรยี บเทียบแบบการฝกึ เพ่ือเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายกบั การฝึกเพื่อการแข่งขนั 5. ให้ผู้เรียนร่วมกันเชื่อมโยงความคล้ายคลึง/แตกต่างของข้อมูลท่ีนามาอภิปราย เปรียบเทียบ จาแนกจัดกลุ่ม จัดประเภท จัดลาดับ แสดงเหตุผล และร่วมกันสรุปความรู้ตามหัวข้ออภิปราย แสดงเป็นความคิดรวบยอดหรือหลักการของกลุ่มของตนเองท้ัง 3 เรอ่ื ง โดยแตล่ ะเรอ่ื งสรปุ ในรูปแบบท่ีแตกต่างกนั ตามความคดิ ของกลุ่ม 6. ผ้เู รียนบนั ทกึ ผลขอ้ สรุปเปน็ ความเขา้ ใจของกลมุ่ และรายบคุ คล ขน้ั ที่ 3 ขน้ั ปฏบิ ัตแิ ละสรุปความรหู้ ลงั การปฏบิ ัติ (Applying and Constructing the Knowledge) 7. ผู้เรียนนาข้อสรุปความรู้ความเข้าใจท่ีได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันมานาเสนอหน้าช้ันเรียน ใช้เวลากลุ่มละ 5-10 นาที โดยผู้สอนและผู้เรยี นร่วมกนั ตรวจสอบเตมิ เตม็ ความรูใ้ หค้ รบถ้วนตามหวั ขอ้ ตอ่ ไปนี้ เรอื่ งปัจจยั ทเ่ี กยี่ วข้องกบั การเสรมิ สร้างสมรรถภาพทางกาย - ให้ผู้เรียนวิเคราะห์ว่ามีปัจจัยด้านใดบ้างท่ีทาให้คนเรามีสมรรถภาพทางร่างกายที่แตกต่างกันและเปรียบเทียบถึงสมรรถภาพทางกายของผู้ที่ออกกาลังกายสม่าเสมอกับบุคคลทั่วไปท่ีไม่ได้ออกกาลังกายจะมคี วามแตกตา่ งกันในดา้ นใดบ้าง เรื่องประเภทของสมรรถภาพทางกายและแบบการทดสอบสมรรถภาพ - ให้ผู้เรียนนามาอภิปรายกันถึงความแตกต่างของการออกกาลังกายในรูปแบบไอโซโทนิกและแบบไอโซคเิ นตกิ ว่ามีความตา่ งกันอยา่ งไร มปี ระโยชนต์ ่อส่วนใดของร่างกาย ตลอดจนสามารถจาแนกคุณลักษณะของบคุ คลทมี่ สี มรรถภาพทางกายด้านกลไกพิเศษได้ เรื่องหลักการฝกึ เพือ่ เสรมิ สร้างสมรรถภาพทางกาย - ให้ผู้เรียนนารูปแบบการฝึกเพื่อเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายกับรูปแบบการฝึกเพ่ือการแข่งขันมาอภิปรายเปรยี บเทียบกนั แล้วจัดลาดับความสาคญั ของการฝึกเพอื่ เสรมิ สร้างสมรรถภาพทางกาย 8. ผู้เรียนในกลุ่มร่วมกันอภิปรายตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ของการฝึกเพื่อเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายและใหผ้ ูเ้ รียนนาไปฝกึ ปฏิบตั ิ และร่วมกันทากจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรู้ (หนังสือเรยี น หนา้ 21) 9. ผเู้ รียนแต่ละคนทากิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ (หนังสือเรยี น หนา้ 20) ขน้ั ที่ 4 ขน้ั สอื่ สารและนาเสนอ (Applying the Communication Skill) 10. ผเู้ รียนแต่ละกลมุ่ ออกแบบหรอื หาวิธีนาเสนอและสอ่ื สารให้ผอู้ ่นื รับรไู้ ด้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพโดยการสาธิตและปฏิบตั ิใหเ้ หมาะสมกบั เนอ้ื หาของกลุ่ม กลมุ่ ที่ 1 เรอ่ื งปจั จยั ท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั การเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย นาเสนอในรปู แบบผังกราฟิก กลุ่มที่ 2 เรื่องประเภทของสมรรถภาพทางกายและแบบการทดสอบสมรรถภาพ นาเสนอในรูปแบบอภิปรายและสาธิต กลุม่ ที่ 3 เรอ่ื งหลักการฝกึ เพื่อเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย นาเสนอในรูปแบบการนาปฏิบัติวิธีการเสรมิ สร้างสมรรถภาพทางกายอยา่ งง่าย
19 11. ผู้สอนสุ่มกลุ่มผู้เรียนนาเสนอผลการสรุปความรู้ความเข้าใจ ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันประเมินผลการนาเสนอตามเกณฑ์ท่กี าหนด ขน้ั ที่ 5 ขั้นประเมนิ เพอ่ื เพิ่มคุณคา่ บรกิ ารสงั คมและจติ สาธารณะ (Self–Regulating) 12. ผู้เรียนแต่ละกลุ่มและรายบุคคลตรวจสอบความรู้ความเข้าใจของตนเองหลังจากรับฟังการนาเสนอของสมาชิกกลุ่มอ่ืน ปรับปรุงชิ้นงานของกลุ่มตนเองให้สมบูรณ์และบันทึกเพิ่มเติม ประเมินความรู้ความเข้าใจตามแบบประเมินทีก่ าหนด ทาแบบทดสอบ (หนงั สอื เรียน หนา้ 26-28) แลกเปลยี่ นกันตรวจใหค้ ะแนน 13. ผู้เรียนนาเสนอผลการปฏิบตั ิงานแสดงในปา้ ยนิเทศหรือเผยแพรส่ ู่หอ้ งเรียนอนื่ หรอื ทส่ี าธารณะสื่ออปุ กรณ์และแหล่งเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี นวชิ าพลศึกษาเพื่อพัฒนาสุขภาพของสานักพิมพ์ บรษิ ทั พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จากดั 2. แบบบันทกึ ผงั กราฟกิ แบบตา่ งๆ 3. PowerPoint วิชาพลศึกษาเพื่อพฒั นาสุขภาพของสานกั พมิ พ์ บริษทั พฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.) จากัด 4. AR code (motion graphic) วิชาพลศึกษาเพื่อพัฒนาสุขภาพของสานักพิมพ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.) จากดั
20การวัดและประเมินผล ภาระงาน/ชน้ิ งาน/การแสดงออกตามกิจกรรมในแผนการจดั การเรียนรู้ แหล่งข้อมลู (ภาระงาน/ชน้ิ งานระหวา่ งเรยี น) จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ผังกราฟิกแสดง ผังกราฟิกสรุป พฤตกิ รรมการเรียนรู/้ รวมคะแนนใน แผนการจดั การเรียนรู้1. อธิบายความหมาย ความสาคัญและ การเกบ็ รวบรวม ความรคู้ วามเข้าใจ การทางานร่วมกบั กล่มุ ความจาเป็นในการเสริมสร้างสมรรถภาพ 12 ทางกายได้ ข้อมูล และงานรายบุคคล 122. บอกประเภทของการเสริ มสร้ าง 44 4 สมรรถภาพทางกายและการทดสอบ สมรรถภาพทางกายได้ 44 43. บอกประเภทของการออกกาลังกายเพื่อ 4 4 4 12 เสริมสรา้ งสมรรถภาพทางกาย4. อธิบายหลักการฝึกเพ่ือเสริมสร้าง 4 4 4 12 สมรรถภาพทางกายและยกตัวอย่าง ประกอบได้5. เสริมสร้างสมรรถภาพทางกายได้อย่าง 4 4 4 12 ถกู ตอ้ งและเหมาะสมกบั รา่ งกาย6. มีเจตคติท่ีดีในการเรียนเร่ืองหลักการ - - 4 4 เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย และรักษ์ คา่ นิยมหลัก 12ประการของไทยรวม 20 20 24 64หมายเหตุ : 1. การประเมินแผนการจดั การเรยี นรู้ ประเมินตามภาระงาน/ช้นิ งาน/การแสดงออกตามกิจกรรมในแผนการจัดการเรยี นรู้ทสี่ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ใหค้ ะแนนตามเกณฑ์ประเมิน 2. การประเมินเจตคติในการเรียน ประเมินต่อเนื่องในทุกกิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้ แล้วนาผลไปสรุปรวมในแผนสุดท้ายของเรอ่ื ง/หน่วยการเรยี นรู้
21ภาระงาน/ชนิ้ งานรวบยอดในหน่วยการเรยี นรู้ แหลง่ ข้อมลู (ภาระงาน/ชน้ิ งานระหวา่ งเรยี น)จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ กจิ กรรม กิจกรรม การประเมนิ แบบทดสอบ รวมคะแนน ตรวจสอบ ส่งเสรมิ ตนเอง ในหน่วยการเรยี นรู้ ความเข้าใจ การเรียนรู้ 61. อธิบายความหมาย ความสาคัญและ 2 2 - 2 6ความจาเป็นในการเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายได้2. บอกประเภทของการเสริ มสร้ าง 2 2 - 2สมรรถภาพทางกายและการทดสอบสมรรถภาพทางกายได้3. บอกประเภทของการออกกาลังกายเพ่ือ 2 2 - 2 6 เสริมสรา้ งสมรรถภาพทางกาย4. อธิบายหลักการฝึกเพื่อเสริมสร้าง 2 2 - 2 6 สมรรถภาพทางกายและยกตัวอย่าง ประกอบได้5. เสริมสร้างสมรรถภาพทางกายได้อย่าง 2 2 - 2 6 ถกู ต้องและเหมาะสมกบั ร่างกาย6. มีเจตคติที่ดีในการเรียนเร่ืองหลักการ - - 6- 6 เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย และรักษ์ คา่ นยิ มหลัก 12ประการของไทย รวม 10 10 6 10 36หมายเหตุ : 1. การประเมินแผนการจดั การเรียนรู้ ประเมนิ ตามภาระงาน/ชน้ิ งาน/การแสดงออกตามกจิ กรรมในแผนการจัดการเรียนรู้ทสี่ อดคล้องกบั จุดประสงค์การเรยี นรู้ ให้คะแนนตามเกณฑ์ประเมนิ 2. การประเมินเจตคติในการเรียน ประเมินต่อเนื่องในทุกกิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้ แล้วนาผลไปสรุปรวมในแผนสุดท้ายของเร่ือง/หน่วยการเรียนรู้
22บนั ทึกหลังสอน ความพรอ้ มก่อนดาเนินกิจกรรม (สอ่ื วัสดอุ ปุ กรณ์ การเข้าช้ันเรียน พ้นื ฐานความรูเ้ ดิมของผเู้ รียน ฯลฯ)......................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................. ............................................................ บรรยากาศการเรียนรู้ (ความสนใจ ปฏสิ ัมพนั ธใ์ นหอ้ ง ความราบรนื่ ในการดาเนินกจิ กรรมการเรียนร)ู้............................................................................................................................. ......................................................................................................................................................................................... ............................................................ ผลการเรยี นรู้ (จานวนผูเ้ รยี นทม่ี ีผลงานระหวา่ งเรียนและผลการประเมินบรรลวุ ัตถปุ ระสงค์แต่ละระดบัผูเ้ รียนท่เี ปน็ ผ้นู า ผู้เรยี นท่ตี อ้ งใหค้ วามสนใจเพ่มิ เติม)............................................................................................................................. ......................................................................................................................................................................................... ............................................................ แนวทางการพฒั นาในคร้งั ต่อไป (สงิ่ ที่ต้องยตุ ิ สงิ่ ที่นามาใชต้ อ่ สิ่งท่ีตอ้ งปรับปรงุ เพม่ิ เติม)............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. .....................................................(ผสู้ อนเลือกบันทึกในสว่ นที่สาคัญ ปรากฏชดั เจน และเป็นจุดวิกฤตหิ รือจุดสาเร็จในการจัดกิจกรรมการเรียนร้แู ต่ละแผน)
23ตารางสรุปคะแนนการประเมนิ จดุ ประสงคก์ ารเรียนร้แู ละสมรรถนะประจาหน่วย หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 หลกั การเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกาย คะแนนตาม จปส. รายหนว่ ยการเรยี นรู้ ช้นิ งาน/การแสดงออก 1. อ ิธบายความหมาย ความสาคัญและความจาเป็นในการเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายได้ รวมทีก่ าหนดในหนว่ ยการเรียนรหู้ รอื หนว่ ยย่อย 2. บอกประเภทของการเสริมส ้รางสมรรถภาพทางกายและการทดสอบสมรรถภาพทางกายไ ้ด 3. บอกประเภทของการออกกาลังกายเ ืพ่อเส ิรมสร้างสมรรถภาพทางกาย 4. อธิบายหลักการฝึกเพ่ือเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายและยกตัวอ ่ยางประกอบไ ้ด 5. เสริมสร้างสมรรถภาพทางกายได้อ ่ยาง ูถก ้ตองและเหมาะสม ักบร่างกาย 6. ีมเจตคติ ี่ทดีในการเรียนเ ่รืองหลักการเส ิรมสร้างสมรรถภาพทางกาย และรักษ์ค่า ินยมหลัก 12 ประการของไทยภาระงาน/ช้ินงานระหว่างเรยี น 4 4 44 4 - 201. ผังกราฟิกแสดงการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับหลักการเสริมสร้าง 4 4 44 4 - 20 สมรรถภาพทางกาย2. ผังกราฟิกสรุปความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับหลักการเสริมสร้าง 4 4 44 4 4 24 สมรรถภาพทางกาย 2 2 22 2 - 103. การนาเสนอผลการสรุปความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการเสริมสร้าง 2 2 22 2 - 10 - - -- - 66 สมรรถภาพทางกาย 2 2 22 2 - 10การประเมนิ รวบยอด 18 18 18 18 18 10 1001. ผลการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ2. ผลการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรู้3. ผลการประเมนิ ตนเอง4. คะแนนผลการทดสอบ รวม
18 18 18 18 18 10 100 เลขที่ ชอื่ -นามสกลุ 24 1 1. อธิบายความหมาย ความสาคัญและความจาเป็นในการเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกายได้ ตารางบนั ทกึ คะแนนการประเมนิ จดุ ประสงคก์ ารเรียนร้แู ละสมรรถนะประจาหนว่ ย 2 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 หลกั การเสริมสรา้ งสมรรถภาพทางกาย 3 2. บอกประเภทของการเสริมสรา้ งสมรรถภาพทางกายและการทดสอบสมรรถภาพทางกายได้ 4 3. บอกประเภทของการออกกาลงั กายเพอ่ื เสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกาย คะแนนตาม จปส. รายหน่วยการเรยี นรู้ 5 4. อธิบายหลกั การฝกึ เพื่อเสริมสรา้ งสมรรถภาพทางกายและยกตวั อยา่ งประกอบได้ 6 5. เสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกายได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกบั ร่างกาย 7 6. มีเจตคตทิ ่ีดใี นการเรยี นเรอื่ งหลกั การเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกาย และรักษ์ค่านยิ มหลัก 8 12 ประการของไทย 9 10 รวม 11 12ฯลฯ
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: