Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนประถมศึกษา หน่วยที่2 (แผนที่1)

แผนการสอนประถมศึกษา หน่วยที่2 (แผนที่1)

Published by srumsuk1980, 2020-05-31 18:54:36

Description: หน่วยที่2

Search

Read the Text Version

แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ กศน. แบบบรู ณาการ ตามรูปแบบ ONIE Model หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 หวั เรอ่ื ง แนวทางการพัฒนาอาชีพท่ดี ี หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ……….. ปกี ารศกึ ษา ……………. สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จงั หวัดกาญจนบรุ ี สานกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย สานักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ กระทรวงศึกษาธกิ าร

คานา ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอําเภอเมืองกาญจนบุรีได้ดําเนินการ จดั ทําแผนกจิ กรรมการเรยี นรู้ กศน.แบบบูรณาการ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 หวั เรื่อง แนวทางการพัฒนาอาชีพท่ีดี เพ่ือให้ครูผู้สอนใช้เป็นคู่มือในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพตาม หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ......... ปกี ารศึกษา .................... เอกสารประกอบการจัดทําแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กศน.แบบบูรณาการ หน่วยการ เรยี นรูท้ ี่ 2 หวั เรือ่ ง แนวทางการพัฒนาอาชีพทีด่ ี ประกอบด้วยแผนผังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กศน. แบบ ONIEModeแผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ กศน.แบบบูรณาการ ใบความรู้ แบบประเมินการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ แนวตอบ และแบบบันทกึ หลังการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ การดําเนินการจัดทําแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กศน.แบบบูรณาการ หลักสูตร การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ .......... ปีการศึกษา ............. ในคร้ังน้ี ประสบความสําเร็จได้ด้วยดี ต้องขอขอบพระคุณ นายศักดิ์ชัย นาคเอ่ียม ผู้อํานวยการ กศน.อําเภอเมืองกาญจนบุรี นางสาวชมพู จันทนะ ครูชํานาญการเป็นอย่างสูงท่ีเป็นผู้ให้ คําปรึกษา ในการดําเนินการจัดทําแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กศน.แบบบูรณาการหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 หัวเรอ่ื ง แนวทางการพัฒนาอาชีพที่ดี หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับประถมศึกษา ภาคเรียน ท่ี ………… ปีการศึกษา ………………… มาโดยตลอดทําให้การดําเนินการจัดทํา แผนการเรยี นรู้แบบบรู ณาการบรรลตุ ามวัตถปุ ระสงค์ จัดทาํ โดย กศน.อาํ เภอเมอื งกาญจนบรุ ี

สารบญั หนา้ เรอ่ื ง คานา สารบัญ แผนผังการจัดหน่วยการเรียนรู้ กศน.แบบบูรณาการ แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ กศน.แบบบรู ณาการตามรปู แบบ ONIE MODEL ใบความรทู้ ่ี 1 เร่อื งอาชีพในชมุ ชน ใบความรูท้ ี่ 2 เรือ่ งความเป็นไปได้ในการเข้าสูอ่ าชพี แบบประเมนิ การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ แนวตอบแบบประเมินการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ บันทกึ หลงั การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ บรรณานกุ รม คณะทางาน

แผนผงั หนว่ ยการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ กศน. แบบบูรณาการ หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั กา ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี …… รายวชิ า ช่องทางการเข้าสอู่ าชพี (อช11001) รายวชิ า ชอ่ งทางกา หัวเรอ่ื ง ตรวจสอบอ หวั เรอื่ ง ความเป็นไปได้ในการเขา้ สู่อาชีพ เน้ือหา เนอ้ื หา - ตรวจสอบความเป - ความจําเปน็ ในการมองเหน็ ชอ่ งทางการประกอบอาชพี - ความเป็นไปได้ในการเขา้ สอู่ าชีพ - การลาํ ดบั อาชีพและเหตุผล รายวิชา ชอ่ งทางการเข้าสูอ่ าชีพ (อช11001) หวั เรื่อง แนวทางกา หวั เรอื่ ง อาชีพในชุมชน สภาพปัญหา เนอื้ หา 1. ขาดความรูค้ วามเ 2. ขาดความร้คู วามเ - ความสาํ คัญและความจาํ เป็นในการประกอบอาชีพ 3. ขาดความรูค้ วามเ - อาชีพในชุมชน ท้องถิ่นตนเอง - การประกอบอาชพี ในภูมภิ าค 5 ทวีป 4. ขาดความรู้ ความ - ตดั สนิ ใจเข้าสอู่ าชพี ดว้ ยปรัชญาคิดเปน็ 5. การขาดวนิ ยั ในกา - การตดั สินใจเข้าสอู่ าชพี ด้วยการวิเคราะหศ์ ักยภาพ

ร หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 หวั เร่ือง แนวทางการพัฒนาอาชพี ที่ดี ารศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ……. ปกี ารศกึ ษา …………………….. ารเขา้ ส่อู าชพี (อช11001) รายวิชา การพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สงั คม (สค11003) อาชีพ หวั เรอ่ื ง พฒั นาตนเอง เน้ือหา ป็นไปได้ในการประกอบอาชีพ 1. หลักการพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สงั คม หน่วยท่ี 2 เน้อื หาเสริม (ภาษาไทย) ารพัฒนาอาชีพทด่ี ี - การฟงั การดู และการพดู - สรุปความ จับประเด็นใจความสําคัญที่ เข้าใจเรือ่ งการใช้ภาษาที่เหมาะสม เข้าใจเรือ่ งชุมชน,ทอ้ งถนิ่ และประเทศไทย ฟัง และดู เข้าใจเกยี่ วกับศาสนา วัฒนธรรม ประเพณใี น - วิเคราะหป์ ระโยชน์และคุณค่าของ มเข้าใจ หลักการพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สังคม วรรณคดแี ละวรรณกรรมในทอ้ งถิ่น ารใช้ชีวิตประจําวัน เนอ้ื หาเสริม (ทักษะการเรียนรู้) - การใชแ้ หล่งเรียนรูใ้ นชุมชน - การคดิ เปน็

ประเดน็ /ปญั หา/ส่งิ จาเป็นที่ตอ้ งเรยี นรู้ 1. ผูเ้ รียนขาดความรคู้ วามเข้าใจเรือ่ งการใชภ้ าษาทเ่ี หมาะสม 2. ผ้เู รียนขาดความรคู้ วามเข้าใจเร่ืองชมุ ชน,ทอ้ งถน่ิ และประเทศไทย 3. ผูเ้ รียนขาดความรู้ความเข้าใจเกย่ี วกับศาสนา วัฒนธรรม ประเพณใี น ทอ้ งถ่ินตนเอง 4. ผเู้ รียนขาดความรู้ ความเข้าใจ หลกั การพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม 5. ผเู้ รียนการขาดวินัยในการใช้ชวี ิตประจาํ วัน

การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ให้ผเู้ รียนสัมภาษณ์ผูน้ าํ ในชุมชนเรอ่ื งหลกั การพัฒนาชมุ ชนเพ่ือฝกึ ทกั ษะการใช้ภาษาท่ี เหมาะสมและนํามาสรปุ ใจความสาํ คญั และเล่าเรือ่ งให้เพือ่ นฟังท่ี กศน.ตําบล 2. ให้ผู้เรียนศึกษาคน้ ควา้ เรื่องการปฎิบตั ติ นตามวัฒนธรรม ประเพณขี องท้องถน่ิ จากห้องสมดุ แหลง่ เรยี นรู้ สือ่ ออนไลน์ สื่อ สิ่งพมิ พ์ แลว้ สรุปทาํ เปน็ รปู เล่มรายงานและ นํามาอธิบายแลกเปลย่ี นเรียนรกู้ บั เพือ่ นท่ี กศน.ตําบล 3. ใหผ้ ้เู รยี นคน้ คว้าเรื่องศาสนา วัฒนธรรม ประเพณใี นท้องถน่ิ ตนเองและนํามาแสดง บทบาทสมมตุ ริ ว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ และสรปุ ใจความสาํ คัญที่ กศน.ตําบล 4. ใหผ้ เู้ รียนสัมภาษณ์ผ้นู าํ ในชมุ ชนเร่อื งสิทธแิ ละหนา้ ทบ่ี ทบาทของการเป็นผู้นํา นํามาสรปุ องค์ความรู้และแลกเปลยี่ นความรู้รว่ มกนั ท่ี กศน.ตาํ บล 5. ใหผ้ ้เู รยี นแบง่ กลุ่มไปศกึ ษาคน้ คว้าเรอ่ื งการขาดวินัยในชวี ิตประจาํ วันของคนในชมุ ชนและ วธิ ีการสรา้ งวินยั ตนเองในชีวติ ประจาํ วันแล้วนาํ มาแสดงบทบาทสมมตุ ิ พรอ้ มสรุปใจความ สําคญั ท่ไี ด้จากการแลกเปล่ียนเรียนรู้กับเพือ่ น และรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ ท่ี กศน.ตําบล

แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ก หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 หัวเร่ือง หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั กา ระดบั ประ ภาคเรียนที่ .......... ปกี า คร้งั ที่ วนั /เดือน/ ปี ตัวชี้วัด เน้อื หาสาระการ หวั เร่ือ เรยี นรู้ มีทกั ษะในการ ปฏิบัติตน รายวชิ า ชอ่ ง หน่วยที่ 2 ทางการเข้าสู่อาชีพ แนวทางการพฒั (อช11001) อาชพี ทด่ี ี หวั เรอ่ื ง อาชีพใน สภาพปญั หา ชมุ ชน 1. ขาดความรู้ค เนอ้ื หา เขา้ ใจเรอื่ งการใ ท่ีเหมาะสม - ความสําคัญและ 2. ขาดความร้คู ความจาํ เปน็ ในการ เขา้ ใจเรือ่ งชุมช ประกอบอาชพี ทอ้ งถน่ิ และปร - อาชีพในชุมชน ไทย - การประกอบ 3. ขาดความรคู้ อาชพี ในภูมิภาค 5 เขา้ ใจเกย่ี วกับศ ทวปี วฒั นธรรม ประ - ตดั สนิ ใจเข้าสู่ ท้องถ่ินตนเอง อาชพี ดว้ ยปรัชญา คดิ เป็น

กศน. ตามรปู แบบ ONIE Model แนวทางการพัฒนาอาชีพทดี่ ี ารศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 ะถมศกึ ษา ารศึกษา ..................... อง ประเดน็ /ปญั หา/ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ หมายเหตุ ส่ิงจาเป็นทตี่ อ้ งเรยี นรู้ ฒนา 1. ผู้เรยี นขาดความรู้ การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ความ ใช้ภาษา ความเขา้ ใจเรอ่ื งการใช้ 1. ให้ผู้เรียนสมั ภาษณ์ผู้นาํ ใน ชมุ ชนเรอ่ื งหลกั การพฒั นา ความ ภาษาที่เหมาะสม ชุมชนเพ่อื ฝึกทักษะการใช้ ชน, 2. ผู้เรียนขาดความรู้ ระเทศ ภาษาที่ ความเขา้ ใจเรอ่ื งชมุ ชน, เหมาะสมและนาํ มาสรุป ความ ทอ้ งถนิ่ และประเทศ ศาสนา ไทย ใจความสาํ คญั และเลา่ เรื่อง ะเพณีใน ให้เพอื่ นฟังที่ กศน.ตาํ บล 3. ผู้เรียนขาดความรู้ 2. ใหผ้ เู้ รียนศกึ ษาคน้ ควา้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั เร่ืองการปฎบิ ตั ติ นตาม ศาสนา วฒั นธรรม วัฒนธรรม ประเพณีของ ประเพณใี นท้องถนิ่ ตนเอง ทอ้ งถิ่น จากห้องสมดุ แหล่ง 4. ผเู้ รยี นขาดความรู้ ความเข้าใจ หลกั การ เรยี นรู้ สอ่ื ออนไลน์ ส่ือ พฒั นาตนเอง ชุมชน สิ่งพมิ พ์ แลว้ สรุปทาํ เป็น สังคม

คร้งั ที่ วนั /เดือน/ ปี ตัวช้วี ัด เน้ือหาสาระการ หัวเรื่อ เรยี นรู้ - การตดั สินใจเข้าสู่ 4. ขาดความรู้ อาชพี ดว้ ยการ เข้าใจ หลกั การ วเิ คราะหศ์ ักยภาพ ตนเอง ชมุ ชน ส - ความจําเป็นใน 5. การขาดวนิ ัย การมองเหน็ ช่อง ใชช้ วี ิตประจําว ทางการประกอบ อาชพี - ความเป็นไปไดใ้ น การเข้าสู่อาชีพ - การลาํ ดับอาชีพ และเหตผุ ล - ตรวจสอบความ เป็นไปได้ในการ ประกอบอาชพี

อง ประเด็น/ปัญหา/ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ หมายเหตุ สงิ่ จาเปน็ ที่ต้องเรยี นรู้ ความ รพัฒนา 5. ผู้เรยี นการขาดวินยั รูปเลม่ รายงานและ สังคม ในการใช้ นาํ มาอธิบายแลกเปลีย่ น ยในการ ชวี ิตประจาํ วัน วัน เรียนร้กู ับเพ่อื นท่ี กศน.ตาํ บล 3. ใหผ้ ู้เรยี นคน้ ควา้ เรื่อง ศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี ในทอ้ งถ่ินตนเองและนาํ มา แสดง บทบาทสมมุติรว่ มกัน แสดงความคิดเห็นและสรุป ใจความสาํ คัญท่ี กศน.ตําบล 4. ใหผ้ ู้เรียนสัมภาษณ์ผ้นู าํ ใน ชมุ ชนเรอื่ งสทิ ธิและหนา้ ท่ี บทบาทของการเป็นผูน้ าํ นาํ มาสรปุ องคค์ วามร้แู ละ แลกเปลย่ี นความร้รู ว่ มกนั ท่ี กศน.ตําบล 5. ใหผ้ เู้ รยี นแบ่งกลุม่ ไป ศกึ ษาคน้ ควา้ เรื่องการขาด วินยั ในชวี ติ ประจําวันของคน ในชุมชนและ วธิ กี ารสรา้ งวินยั ตนเองใน

คร้งั ที่ วนั /เดือน/ ปี ตัวช้วี ัด เน้อื หาสาระการ หัวเร่ือ เรยี นรู้

อง ประเด็น/ปัญหา/ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ หมายเหตุ สิ่งจาเป็นท่ีต้องเรียนรู้ ชวี ติ ประจาํ วันแลว้ นํามา แสดงบทบาทสมมุติ พร้อม สรปุ ใจความ สําคญั ทไี่ ด้จากการ แลกเปลย่ี นเรียนร้กู ับเพ่อื น และรว่ มกันแสดงความ คิดเหน็ ที่ กศน.ตําบล

ใบความรู้ที่ 1 อาชพี ในชมุ ชน การเปล่ียนแปลงทางดานสังคมและสิ่งแวดลอม ความเจริญกาวหนาทางดานเทคโนโลยีมีผล ตอชีวิต ความเปนอยู และโดยเฉพาะการประกอบอาชีพของคนในหมูบาน ไดแก การเกิดอาชีพใหม หรือการอนุรักษ อาชพี เดมิ ใหอยใู นทองถิน่ ดงั น้ี 1. การสรางอาชีพจากชองวางระหวางอาชีพ โดยอาศัยชองวางระหวางอาชีพ 2 อาชีพ เชน อาชีพ ขยายลําไมไผ โดยซื้อจากแหลงปลูกไปขายใหกับแหลงทําเครือ่ งจกั สาน 2. การสรางอาชีพจากผลของการประกอบอาชีพ โดยอาศัยผลพลอยไดจากอาชีพเดิม เชน ทําภาชนะ ใสของจากทางมะพราว จากตนมะพราวที่ปลูกเปนอาชพี อยูแลว 3. การสรางอาชีพจากทรพั ยากรทองถน่ิ เปนการสรางอาชีพใหม โดยการนําทรัพยากรที่มีอยู ในทอง ถิ่นมาใชใหเปนประโยชน เชน ทําอฐิ จากดินเหนยี วท่มี ีอยูในทองถน่ิ 4. การสรางอาชพี จากความตองการของตลาด เปนการสรางอาชพี ใหม โดยอาศัยขอมลู ทาง การตลาด เชน เลย้ี งกบเพราะตลาดมคี วามตองการมาก หรือปลกู ผักปลอดสารพษิ 5. การสรางอาชีพที่ขาดแคลนในทองถิ่น เปนการสรางอาชีพใหม โดยอาศัยขอมูลในทองถ่ิน เชน อาชพี รับซอมมอเตอรไซคเกดิ ขนึ้ เพราะชางในหมูบานขาดแคลน 6. ประกอบอาชีพตามบรรพบุรุษ พอแม ปูยา ตายาย ทําอาชีพอะไร รุนลูก รุนหลาน ก็จะ ดําเนิน การตอ เชน อาชพี ขายกวยเตี๋ยว ถามีช่อื เสียงก็จะขายจนกระทั่งรุนลกู รุนหลาน 7. ประกอบอาชีพตามสภาพภูมิประเทศ ซ่ึงในประเทศไทยประกอบดวยสภาพพื้นที่ ท่ีเปน ภูเขา ท่ีราบลุม ท่ีดอน ดังนั้นการเพาะปลูกขึ้นอยูกับสภาพพ้ืนที่ดวย เชน ท่ีราบลุม สามารถทํานาได อยูใกลทะเล ประกอบอาชพี ดานประมง หรอื บางทาํ เลสามารถจัดเปน แหลงทองเท่ียวได การจดั การงานอาชีพ 1. ทําเลท่ีต้ัง อาชีพท่ีเก่ียวกับอาหาร เชน การเปดรานขายอาหารขายเครื่องดื่ม ขายขนม นอกจาก รสชาติอาหารยังจะตองอาศัยทาํ เลทีต่ งั้ ราน จึงจําเปนตองเลือก สถานที่ทอ่ี ยูในยานชุมชน 2. การจดั สถานที่ ควรออกแบบรานใหดูโลง จัดโตะและเกาอี้ รวมท้ังของใชภายใน รานตองมี ความ สะอาดและถูกอนามัย 3. ควรเลอื กซื้ออาหารท่มี ีคณุ ภาพ มีความสดใหม ถาเปนอาหารแหงควรหลีกเล่ียง ท่ีเก็บไวนาน ตรวจ สอบวามีเชื้อราหรือไม มีสารอื่นปนเปอนหรือไม 4. การปรุงอาหาร ควรคํานงึ ถึงคุณคาอาหาร เชน การใชความรอน การรักษา ความ สะอาด การใชผง ชูรส การคงคุณคาของอาหารทั้ง 5 หมู การจัดอาหารใหเหมาะสมกับวัย เชน วัย 19 ผูใหญเปนวัยที่ตองการ เสริมสรางเซลลตางๆ เพ่ือรักษาสมรรถภาพการทํางานในรางกายใหคงที่ จึงควรไดรับอาหารทั้ง 5 หมูใน สดั สวนท่เี หมาะสม

5. การบริการในธุรกิจขายอาหาร มีความสาํ คญั ยง่ิ ผูบริการตองใสใจกับการมีมารยาทในการ บริการ มคี วามรูเกี่ยวกับการเสริ ฟอาหารและเคร่อื งด่มื 6. การมีคุณธรรม จริยธรรม ตอลูกคา เชน การคิดราคาอาหารท่ีเปนธรรม รับผิดชอบในกรณีที่ อาหารตองมคี วามสดหรอื มีคุณคาทางอาหาร กิจวัตรประจําวันของอาชีพขายอาหารอาจไมเหมือนอาชีพอื่นๆ เชน ต่ืนเชาไปซื้อของ ที่ตลาดแลว เตรียมอาหารเพอื่ ใหทันขาย ชวงทเ่ี หน่อื ยในการบริการลกู คากค็ ือชวงเชา ชวง กลางวัน ชวงเย็น ซ่ึงเปนชวงท่ี ลูกคาสวนใหญมารบั ประทานอาหาร ชวงเวลาอ่นื ๆ อาจจะเปนงานเบา เชน ชวงที่เตรียมอาหาร มีการห่ันผัก หนั่ เนื้อ สภาพปญหา 1. ขาดการบริการท่ีดี ไมมีมนุษยสัมพันธไมสนใจลูกคาเม่ือมาใชบริการ ดังน้ัน จึงควรปรับปรุง ดาน การบรกิ ารทด่ี ีตอลูกคา เชน เมื่อลูกคาเขารานควรย้ิมแยม แจมใส พรอมจัดหาโตะใหน่ัง บริการตามลําดับที่ ลกู คาเขามาใชบรหิ าร 2. เจาของรานมกั ขาดทนุ เนือ่ งจากการขายอาหารสามารถถูกคดโกงไดหลายทาง ถาเจาของหรือ ผูไว ใจไดไมไดดูแลอยางใกลชิด เชน คนเก็บเงนิ ไมซ่อื สัตย ลูกจางมักหยบิ ฉวยสิง่ ของไปใช ในบาน 3. คุณภาพสินคาไมคงที่ เชน ไมสุก ไมสะอาด เสื่อมคุณภาพ ทําใหลูกคาไมมาใชบริการ การอนุรักษ พลังงานและสง่ิ แวดลอม อาชพี ท่ีเกีย่ วของกับงานเกษตร 1. อาชีพปลูกพืช อาจจะปลูกพืชชนิดเดียวหรือปลูกพืชหลายชนิดผสมกัน เชน ปลูกพืชผัก แตมี หลายชนดิ หรือปลกู พชื ประเภทตางๆ เชน ปลูกผัก ปลูกผลไมและทาํ นาดวย 2. อาชีพเล้ียงสัตว เปนอาชีพท่ีทําไดท่ัวประเทศ การเลี้ยงสัตวบางชนิดขึ้นอยูกับสภาพพ้ืนที่ ทรพั ยากรและส่งิ แวดลอม เชน อยูตดิ ทะเลกป็ ระกอบอาชีพประมงจบั ปลาจบั หอย 3. อาชีพเกษตรผสมผสาน เปนอาชีพเกษตรประกอบดวยหลายประเภทที่มีการ เก้ือกูลกัน เชน มกี ารปลกู พืชรวมกับการเลีย้ งสตั วโดยเอาเศษพชื มาใหสตั วกนิ เอามลู สตั วไปใสพืช หรือผสมผสาน กันระหวาง พชื เชน เก้อื กลู กันโดยอาศัยรมเงาจากตนไมที่ใหญกวา 4. อาชพี แปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตร โดยเอาผลผลิตทางการเกษตรท่ีเหลือจากการขาย หรือเปน ชวงที่มรี าคาตกต่าํ ก็นํามาแปรรปู ได เชน การตากแหง การ ดอง การรมควัน การเช่ือม 5. อาชีพพอคาคนกลาง เปนอาชีพที่รับซ้ือสินคาจากอีกท่ีหน่ึงไปยังอีกท่ีหน่ึง ซ่ึงไมตองเปนผูผลิต เอง เชน มีการรบั ซ้ือสินคาหลากหลายจากผูผลิตไปขายตลาด 1. การปลูกพชื

1.1 ประเภทของการปลูกพืช สามารถแบงพืชออกตามลกั ษณะการใชดังนี้ (1) พชื ไร คือ พชื ท่ปี ลูกโดยอาศัยสภาพดนิ ฟาอากาศในพ้ืนที่ สวนใหญอาศัย น้ําฝน เชน การ ปลกู ขาวโพด ออย ขาว มันสําปะหลัง (2) พชื สวน เชน ปลูกผกั ผลไม ไมดอกไมประดับ ตองมีการดูแลรักษาอยางใกลชิด มนุษยต องดแู ลมากกวาพืชไร เชน ใหนา้ํ การปองกันกาํ จดั ศตั รูพืช (3) พืชปา เปนพืชที่ไมตองการดูแลรกั ษา หรือมนษุ ยปลกู ขึ้นโดยอาศัยธรรมชาติท่ี สอดคลอง กับพืชชนิดที่เกิดข้ึนเองในปา เชน การปลกู สกั ปลกู ไผ (4) พืชสมนุ ไพร หมายถึง พืชท่ีมีสรรพคุณในการรักษาโรคไดท้ังหมด พืชและสัตวบาง ชนิด ยงั นํามาสกดั เปนเคร่อื งสาํ อาง เชน วานหางจระเขอัญชัญ ขม้ิน เปนอาหาร เสริม เชน กระชาย กระเทียม เป นเครอื่ งดม่ื เชน บัวบก คําฝอย ตะไคร ใชปรงุ แตง อาหาร เชน หอมแดง มะนาว 1.2 กระบวนการผลิตพชื การปลูกพืชชนิดใดก็ตาม ควรมขี ัน้ ตอนการเตรียม ดังน้ี (1) การจัดเตรียมกอนเพาะปลกู 1. จัดเตรยี มสภาพพื้นที่ เตรยี มดินใหเหมาะสมกับพืชท่จี ะปลูกจดั หานา้ํ ใชอยางเพยี งพอ 2. เตรียมวัสดอุ ุปกรณเชน เตรียมพนั ธุพชื วสั ดุในการปลูกพืช นา้ํ มัน เครื่องมือท่ี จําเปน อาจ มกี ารเตรยี มตรวจสอบเครอ่ื งจกั รทีจ่ ะใชเชน เครอื่ งสบู น้ํา อาจตองมี การเปลี่ยนอะหล่ัยบางช้ินก็ไดใหจัดหาไว ลวงหนา 3. เตรยี มทุน ในท่นี ห้ี มายถึงเงินทุนที่จะเตรียมซื้อวัสดุอุปกรณจางแรงงาน 4. เตรยี มแรงงาน แรงงานท่ีใชอาจจะเปนแรงงานในครอบครัว หรือแรงงานจางขางนอกตอง วางแผนการใชแรงงานวาชวงใดตองใชมากนอยเพียงใด 5. ศึกษาราคาของตลาดพชื ในชวงนนั้ ๆ เพ่ือวางแผนการปลกู ใหตรงกบั ชวงทมี่ ีราคาแพง 6. เตรียมพันธุพชื อาจไดพนั ธุมาจากการเพาะเมล็ด กิ่งตอน กงิ่ ทาบ การแยกหนอ การเสียบ ยอด ซ่งึ ตองพจิ ารณาขอดีขอเสยี ของแตละวธิ ี และความเหมาะสมของ พชื ทจี่ ะใชปลกู (2) การปลูกพืช เม่ือเตรียมสถานที่แลวก็ลงมือปลูก การปลูกมีหลายวิธีเชน หวานเมล็ด การขุดหลุม ปลูก ข้นึ อยูกับชนิดของพชื ดวย (3) การดูแลรักษา เม่ือปลูกแลวตองมีการดูแลรักษา มีการใหนํ้า ใหปุยบํารุง ดิน ปองกัน กําจัด ศัตรูพืช ทง้ั น้ีข้นึ อยูกับชนิด อายุของตนพชื ดวย (4) อายุการเก็บเกี่ยว มคี วามแตกตางตามชนิดของพืชขึ้นอยูกับระยะเวลา หรือใชวิธีการ สังเกต พืช อาจเกบ็ เกย่ี วดวยแรงคน เคร่ืองทุนแรง หรือเก็บเก่ียว ไดทั้งแรงคนและ เครื่องจักรก็ตองข้ึนอยูกับขนาดของ ธุรกจิ ดวย (5) การขาย พืชมีวิธีการขายไดหลายวิธี เชน มีพอคาคนกลางมาซื้อถึงบาน ไปขายเองท่ี ตลาด สงรานคาประจํา เชน สงตามหางสรรพสินคา สงกลุม สหกรณ

2. การเลี้ยงสตั ว 2.1 ประเภทของการเลย้ี งสัตว แบงตามลกั ษณะของสัตวไดดงั นี้ (1) สัตวใหญ นิยมเลี้ยงกันแพรหลาย เปนสัตวท่ีเลี้ยงไวเพื่อใชงาน ใชเปนพาหนะ เล้ียง เปนอาชพี เชน โคเน้อื โคกระบอื (2) สัตวเล็ก นิยมเล้ียงในครัวเรือนเปนอาชีพ เปนอาหารหรือเพ่ือความเพลิดเพลิน เชน สกุ ร แพะ กระตาย (3) สตั วปก เปนสัตวประเภทมปี ก เชน ไก เปด หาน นก (4) สตั วน้าํ เปนสตั วที่อาศยั ในนํา้ หรือครง่ึ บกคร่ึงนํา้ เชน ปลากุงกบ และตะพาบน้าํ 2.2 กระบวนการผลติ สัตว (1) การเตรียมการกอนการเลี้ยงสัตว คลายกับการเตรียมการปลูกพืช มีการเตรียมสถานที่ วสั ดุอปุ กรณ เตรยี มทนุ แรงงาน ศึกษาราคาตลาด เตรียมพันธุ ซึ่งส่งิ ของเคร่ืองใช อาจแตกตางกัน การเตรียม สถานท่ีตองมีการเตรียมเพิม่ เตมิ เชน เตรยี มโรงเรือน เตรยี ม บอน้าํ สาํ หรบั การเลี้ยงสตั ว บางชนดิ (2) การเล้ียงสัตว ตองจัดสถานที่ใหเหมาะสมกับสัตวชนิดนั้น ศึกษาความชอบ ชนิดและ ปรมิ าณอาหารทต่ี องการตามวัยของสัตว (3) การดูแลรักษา อาจตองมีการใหอาหารเสริม หรือบางชนิดตองใหออกกําลังกาย มีการ สงั เกตเพอื่ ปองกันโรคตางๆ (4) การขาย ขายเม่ือสัตวเจริญเติบโตเต็มที่ ถาเล้ียงตอไปจะทําใหตนทุนสูง ตองเสีย คาอาหาร คาแรงงานเล้ยี ง และอื่น ๆ อกี การขายกเ็ ชนเดียวกันกบั การจําหนายผลผลติ ท่ีเกี่ยวกับพืช เชน มีพ อคาคนกลางมาซือ้ หรอื สงตาม หางสรรพสินคา สภาพปญหา 1. พ้ืนฐานความรูของเกษตรกรรายยอยสวนใหญมีการศึกษานอย เชน จบ ป.4 ป.6 หรือลืม หนังสือไปแลว ทําใหมีปญหาในการศึกษาหาความรู โดยเฉพาะการ ศึกษาขอมูลการผลิตกับ ขอมูลทางการ ตลาด จึงเปนสาเหตุทีท่ าํ ใหการผลติ ยังคงเดมิ หรือตาม ๆ กันไป 2. ราคาพชื ผลไมแนนอน ไมมีหลักประกนั ในการรับซ้อื ผลผลิตทางการเกษตร เมื่อผลผลิตเก็บ เกี่ยว ไดแลวจงึ หาตลาด ไมมีการหาตลาดไวลวงหนา ดงั น้ัน ผลผลิตทางการเกษตรจึงถูก กําหนดราคาโดยพอคาคน กลาง เน่ืองจากผลผลติ ทาง การเกษตรมีอายสุ ั้น ทําใหเกษตรกรตอง รบี ขาย ถาไมขายทันที ตองเตรียมยุงฉาง สําหรับเก็บ เชน ขาว 3. ระบบชลประทาน การวางระบบชลประทานของภาครัฐบาลไมทั่วถึง บางแหงมีนํ้าใชทาง การเกษตรตลอดปบางแหงตองอาศยั นํ้าตามธรรมชาติ

4. การชวยเหลือในการสรางถนนเขาไปในพ้ืนท่ีของเกษตรกรยังไมท่ัวถึง ทําใหไมสะดวกในการ ขนสงผลผลติ ทางการเกษตรออกมาจากฟารม 5. การจดั การของเกษตรกรยงั ไมคมุ คากับการลงทนุ มกี ารใชทนุ มากกวาผลท่ีได ทําใหขาดทุน ทุกป จนเกดิ เปนหนีส้ นิ เพ่ิมขึน้ ๆ 6. ราคาผลผลิตตกต่า เมื่อผลผลิตออกมากจะทําใหราคาผลผลิตตกต่ํา อาจแกปญหาโดยการทําให ออกนอกฤดกู าล หรอื เพิ่มมลู คาผลผลิต โดยการแปรรูปอาหาร หรอื ถนอมผลผลติ การอนุรักษพลังงานและสิ่งแวดลอม 1. ใชพลงั งานไฟฟาทางการเกษตรอยางประหยัด เชน เครือ่ งปนไฟฟา 2. ประหยัดนา้ มันเชอ้ื เพลงิ ในการดาํ เนินงานควรวางแผนการดาํ เนินงานกอนเพอ่ื ประหยดั ใน การใช นํ้ามัน เชน วางแผนซอื้ วัสดุอปุ กรณใหนอยครง้ั 3. ไมควรเผาตอซงั ในพน้ื ทีน่ า ไร สวน นอกจากจะทาํ ใหเกิดมลพิษทางอากาศแลว ยังทําใหหนาดิน ซึ่งประกอบดวยแรธาตอุ าหารสูญเสยี ไปดวย โดยการถกู ความรอน 4. การใชผลผลติ ใหเกดิ ประโยชน ผลผลติ ทเ่ี หลือจากการจําหนายควรนํามาใชใหเกิดประโยชน ตอไป เชน มลู สตั ว ใหนาํ มาใชหมักปุย เศษพืชนํามาใหสัตวกนิ หรอื ทําปยุ หมกั

ใบงานที่ 1 สํารวจอาชีพในชมุ ชน ภูมภิ าค ภูมภิ าค 5 ทวีป ไดแก ทวีปเอเซยี ทวปี ออสเตรเลีย ทวีปอเมรกิ า ทวีปยโุ รป และทวปี อัฟรกิ า ใหผูเรียนสํารวจอาชีพในชุมชน ภูมิภาค และในโลก มา 10 อาชีพ ลงในแบบสํารวจ โดยดําเนินการ ดงั น้ี 1. ครูและผูเรียน ศึกษาวิธีการสํารวจ แลวรวมกันกําหนดแบบสํารวจ และกําหนด วิธีการที่จะใช สาํ รวจ 2. ดาํ เนินการสํารวจแลวกรอกรายละเอียด ดงั นี้ 2.1 ชื่อผูเรยี น ศรช. สถานศึกษา ช่อื ครูประจํากลุม 2.2 ช่ืออาชพี เชน เพาะเห็ด 2.3 ทําเลทต่ี ้ัง 2.4 การประกอบอาชีพ ใหมีรายละเอียดเก่ียวกับระยะเวลาการประกอบอาชีพ ต้ังแต เริ่มตน จนถึงปจจุบัน จุดเร่ิมตนหรือเหตุจูงใจในการประกอบอาชีพ วัสดุ อุปกรณ (หลัก) ที่ใช กระบวนการผลิต กระบวนการตลาด ปญหาอปุ สรรค การสรางความมัน่ คงใน

แบบสารวจ ชอ่ื ผูเ้ รียน..........................................................................................กศน.ตาํ บล................................................... วันท่ีพบกลมุ่ ..................................................................................... วันท่ี ชื่ออาชพี ทําเลท่ตี ้งั การประกอบอาชพี



ใบความรู้ที่ 2 ความเปนไปไดในการเขาสอู าชีพ ความเปนไปไดในการเขาสูอาชพี ของบคุ คลทว่ั ไป ควรคํานึงถงึ ปจจยั ตอไปนี้ 1. การจัดการการผลิต การจัดการการผลิต เปนการเตรียมความพรอมในการผลิตสินคาหรือการบริการ โดย การวางแผน เพ่อื เตรียมความพรอมในกจิ กรรมการผลติ เชน การจดั หาวัตถุดิบ แผนการใชแรงงาน แผนการใชเงินทุน เพื่อ ใหการผลิตสนิ คา/บริการตางๆ เปนไปอยางมีประสิทธิภาพ คือ ตนทุน ตํ่าและรายไดสูง ไดสินคาที่มี คุณภาพ ตรงตามความตองการของตลาด การจดั การการผลิต เนนไปที่การทําแผนตางๆ แผนที่ดีน้ันจะตองผานการทดลองหรือ ผานการปรับ เพื่อใหไดแผนท่ีดีท่สี ดุ เมอื่ ไดแผนแลวจึงนําไปผลิตสนิ คา/บรกิ าร แผนท่ีจาเปน ตอการผลิตสินคา ไดแก 1. แผนการเลือกผลิตสินคา โดยศึกษารายละเอียดตางๆ ท่ีเกี่ยวกับสินคา ไดแกความตองการของ ผูบรโิ ภค จํานวนผูขาย จาํ นวยผูผลิต เพอ่ื นาํ มาใชเปนขอมูล ในการผลิตสินคา ซ่ึงเปนสิ่งที่ ผูผลิตตองคํานึงถึง มฉิ ะนั้นสินคาท่ีผลิตออกมาจะไมเปนไปตามความตองการของลกู คา จะทาํ ใหเกดิ ความสูญเสยี ข้ึน เมื่อสินคาถูก ผลติ ขึน้ มาแลว สนิ คาบางชนิดอาจมีการทดลอง แลวนาํ ไปตรวจสอบกับลูกคาใหทดลองใชหรือทดลองชิม เพ่ือ ดูความพอใจของลกู คา 2. แผนการเลือกทาํ เลทีต่ ัง้ หมายถึง แหลงที่ต้ังที่จะประกอบอาชีพ การเลือกทําเล ควรให เหมาะสม กับลักษณะของอาชีพ อาชีพบริการ เชน รานขายอาหาร รานเสริมสวย ตองเลือก ทําเลท่ีอยูในแหลงชุมชน โรงงาน อุตสาหกรรมน้ําตาล ก็มักตั้งอยูในแหลงท่ีมีวัตถุดิบ อยางไรก็ตามการเลือกทําเลควรพิจารณาระบบ การขนสงดวย 3. แผนการใชแรงงาน แรงงานในท่ีน้ีหมายถึงท้ังกําลังคนและการใชเคร่ืองจักร เครื่องมือตาง ๆ โดย พิจารณาจากแผนการผลิต และจํานวนสินคาท่จี ะผลติ เพอื่ จะไดจดั เตรียมแรงงานไวให พรอมในชวงที่ตองการ เชน ชวงเก่ียวขาว 100 ไรในเดือนพฤศจิกายนของทุกปจะตองใชท้ัง แรงงานคนและเครื่องจักรก็ตองเตรียม แรงงานใหพรอมในชวงเดือนพฤศจิกายน 4. วางแผนการใชทนุ ในการกําหนดจํานวนสินคาน้นั ตองพิจารณาฐานทางการเงนิ ของผูผลติ ดวย แมว าจะคาดคะเนความตองการของตลาดได แตถาไมมีเงินทุน ก็ไมเกิดประโยชนอยางใด อาจ แกไขไดโดยไปกูยืม เงินทีต่ องเสียดอกเบย้ี ซงึ่ จะตองเพม่ิ เปนตนทุนของการผลิต หรือหาปจจัย การผลติ ทดแทนปจจัยที่มีราคาแพง แตตองระวังในเรอื่ งของคณุ ภาพของสนิ คาดวย

5. วางแผนกําหนดจาํ นวนการผลิต เมื่อทําแผนการผลิตเรียบรอยทุกดานแลว ใหพิจารณาวาจะ ผลิต สินคาจํานวนเทาใด แรกเร่ิมการผลิตอาจผลิตจํานวนนอยแลวคอยๆทะยอยเพิ่มจํานวนการ ผลิต โดยมีการ ปรับแผนการผลิตตลอดเวลา 6. ประมาณการผลตอบแทนท่ีไดจากการผลิตสนิ คา เม่ือวางแผนการผลิตสินคา ตั้งแตเลือกทําเล ที่ต้ัง การใชแรงงาน การใชทนุ การกาํ หนดจํานวนการผลิต เรียบรอยแลว ลองทําแผน ประมาณผลตอบแทนท่ีคาด วาจะไดจากการผลิตสินคาในคร้ังน้ี โดยอาจลองนําขอมลู ใสใน บัญชีรายรับ-รายจาย กระบวนการผลติ เปนการนําปจจยั การผลิตสูการปฏิบัติ เพื่อผลิตสินคาตามแผนการ จัดการการผลิต โดยนํามาจัดทําแผนปฏิบัติลงสู การปฏิบัติตามลําดับก อน-หลัง ซ่ึงเปนข้ันตอน สําคัญ และอาจมีการ ปรับเปลี่ยน แผนตามสถานการณนั้น ๆ เพ่ือจะหลีกเลี่ยงความเส่ียงที่อาจจะตามมา เชน อาชีพการเกษตร มกั จะเสี่ยงตอ สภาพดนิ ฟาอากาศ ราคาขนึ้ ลงของสินคา จํานวนสนิ คาที่ผลติ ออกมามจี าํ นวนมาก ดังนั้น ความ สมั พนั ธ ระหวางปจจัยการผลิตกบั ผลผลติ อาจเปนไปในทิศทางเดยี วกัน คือเมื่อเพ่ิมปจจัยการผลิตเขาไปจะทํา ใหผลผลิต เพ่มิ ขนึ้ แตบางครั้งความสัมพนั ธระหวางปจจัยการผลิตกับผลผลิตอาจไมไปในทิศทางเดียวกัน เม่ือ เพ่ิมปจจัย การผลิตหลักเขาไปจะทําใหผลผลิตลดลงนาจะเปนอาชีพการเกษตร ถึงแมจะเพิ่มปจจัยการผลิต ผลผลิตท่ีได อาจไมไดเพิ่มตามปจจัยการผลิตที่เราเพิ่มเขาไป เน่ืองจากอาชีพการเกษตรน้ัน เกษตรกรไม สามารถควบคุม สภาพดินฟาอากาศได บางปฝนตกมากทําใหน้ําทวม หรือฤดูแลงแลงมากกวาทุกป ดังนั้น แนวทางในการแกไข สาํ หรบั อาชีพเกษตร เชน 1. ศึกษาสภาพดินฟาอากาศ ศึกษาขอมูลจากพยากรณของหนวยงานท่ีเก่ียวของ เชน กระทรวง เกษตรและสหกรณ มักจะไดยินคําเตือนบอยๆ เชน ปน้ีหาม ทํานาปรังในบางพื้นที่ เน่ืองจาก น้ํานอย ดังนั้น อาจใชวิธีหลีกเลยี่ งโดยหันมา ปลูกพชื ทมี่ อี ายสุ ้ันๆ แทนการปลกู ขาว 2. เกษตรกรควรปลูกพืชหลากหลายชนิด และอายุพืชแตกตางกัน เพ่ือใหมีผลผลิตออกมาอยาง ตอเนอ่ื ง ทําใหลดการเส่ียงลงได 3. มีการประกันราคาพืชผลทางการเกษตร ซ่ึงจะทาํ ใหเกษตรกรขายผลผลิตได ในราคาท่แี นนอน 2. การจดั การการตลาด การจัดการดานตลาด หมายถึง การวิเคราะห การวางแผน การปฏิบัติงาน และการควบคุม การ ดําเนนิ งานการตลาดจากผูผลติ ถงึ ผูบรโิ ภค โดยมผี ลประโยชนจากการแลกเปลีย่ นกับกลุมผูซ้ือ หนาท่ีการตลาด เปนกิจกรรมการตลาดทีท่ าํ ใหสินคาหรอื บรกิ ารเคลื่อนยายจากผูผลิตไปยงั ผูบริโภค โดยวธิ ตี างๆ เชน 1. การแลกเปลยี่ น โดยการซอ้ื -การขาย 2. การกระจายสินคาเก่ยี วของกับการขนสง การเกบ็ รกั ษา 3. การอาํ นวยความสะดวกทางการตลาด เชน ขอมูลทางการตลาด ขอมูลเกี่ยวกบั ผูบรโิ ภค

วิวัฒนาการของการตลาด การตลาดสมัยกอนมุงการผลิตใหมีประสิทธิภาพ โดยไมสนใจผูบริโภค ไมสนใจวา ผูบริโภคจะ ตองการสินคานั้นหรือไม ซึ่งเปนสมัยท่ีมีคูแขงขันนอย จึงทําใหผูผลิตประสบ ความสาํ เร็จ แตยุคปจจบุ นั มีการ แขงขนั สงู จึงตองใหความสาํ คัญกบั ลกู คา โดยจะตองศึกษาความตองการของ ผูบริโภควา ตองการสนิ คาอะไร อยางไร ราคาเทาไหร ซ้ือสะดวกไหม แลวจึงทําการผลิตใหตรงกับความตอง การ การแขงขันทางการตลาด นอกจากจะศกึ ษาขอมูลของกลุมลูกคาและขอมูลของคูแขงแลว จะตองมีการแขงขัน ดานอ่ืนๆ ดวย ไดแก 1. สินคาหรือบรกิ าร สินคาตองมคี ุณภาพถกู ใจผูบรโิ ภค มีประโยชนตอการนาํ ไปใช 2. ราคา ราคาสินคาตองเหมาะสมกับคุณภาพ ไมตั้งราคาเกินความจริง และตองพิจารณาจาก ราคา ของคูแขงดวยไมสูงและไมตาํ่ เกินไป 3. ชองทางการจําหนาย พิจารณาวาจะจําหนายอยางไร โดยทางใดสินคาจึงจะถึงผูบริโภคได อยาง ปลอดภัยและยังคงคุณภาพ เชน บริการถึงบานผานการขายตรง หรือ ขายปลีกทาง อินเทอรเนต็ 4. การสงเสรมิ การขาย เปนกรรมวิธีการขายท่ีสามารถดึงดูดใจใหลูกคา เชน การลด แลก แจก แถม หรอื ใหลองเอาสินคาไปใชกอน หรือขายควบกับสนิ คาชนิดอนื่ ๆ การโฆษณาตาง ๆ ขอมลู ที่ใชในการตดั สนิ ใจทางการตลาด 1. ขอมูลผบู ริโภค ตองรูวาผูบริโภคมรี สนยิ มอยางไร และมีอํานาจในการซ้ือมาก นอยเพียงใด 2. ขอมูลคูแขง ตองรูวาคูแขงขันเปนใคร ขายอะไร จุดเดนของสินคา กําลังทําอะไร ถึงข้ันใด ถาสามารถมขี อมลู ผบู รโิ ภคและขอมูลคูแขงขันมากเทาไร ก็สามารถตัดสินใจไดถกู ตอง การคิดตนทุนการผลติ การคิดตนทนุ การผลิต นิยมคิดตนทุนในรอบปหรือตอรอบการผลิตข้ึนอยูกับลักษณะของผลผลิต การคิดตนทุนการผลิตให พจิ ารณาทงั้ ตนทนุ ทใ่ี ชไปในลกั ษณะเงินสดและทไี่ มเปนเงนิ สด ซ่งึ ประกอบดวย ตนทนุ ผันแปร 1. ตนทุนผนั แปรทีเ่ ปนเงินสด

1.1 คาวัสดอุ ุปกรณในการประกอบอาชีพ เชน วัสดุอุปกรณอาชีพการเกษตร เชน ปุย พันธุ พชื พนั ธุสัตว คาน้ํามัน และคาแรงซอมเครื่องจักรวัสดุอุปกรณในอาชีพรับจางซักรีด เสื้อผา เชน ผงซักฟอก น้ํายาซกั แหง 1.2 คาจางแรงงาน เปนคาจางแรงงานในการผลิต เชน คาแรงซอมเครื่องจักร คาแรงงานไถ ดนิ คาจางลูกจางในรานอาหาร 1.3 คาเชาทดี่ นิ เปนคาเชาทีด่ นิ ในการประกอบธรุ กจิ เชน คาเชานา 1.4 คาเสียโอกาสของเงินทุน หมายถึง คาชดเชยท่ีเจาของธุรกิจนําเงินสดของตนไปลงทุน แทนการไดรับเมอ่ื นาํ เงนิ น้ีไปฝากธนาคารก็จะไดดอกเบ้ียแทน ดังนั้น การคิดตนทุน ก็ใหใชอัตราดอกเบี้ยเงิน ฝากประจําของธนาคารพาณิชยปน้นั ๆ 1.5 คาใชจายอ่นื ๆ ทนี่ อกเหนือจากขอ1.1-1.4 2. ตนทนุ ผันแปรที่ไมเปนเงินสด ไดแก 2.1 คาแรงงานในครัวเรือน เปนแรงงานในครัวเรือน สวนใหญธุรกิจใน ครอบครัวไมคอย มีการนํา แรงงานมาคิดเปนตนทุน จงึ ไมทราบตนทุนที่แทจริง การคิดคาแรงในครวั เรอื น ใหคิดในอัตราคาแรงงานในทอง ถิ่น นนั้ ๆ 2.2 คาเสียโอกาสของท่ีดิน กรณีท่ีเจาของกิจการมีท่ีดินเปนของตนเอง การคิดตนทุนใหคิด ตาม อัตราคาเชาทด่ี ินในทองถน่ิ หรือบริเวณใกลเคยี ง ตนทนุ คงท่ี 1. ตนทุนคงที่ท่ีเปนเงินสด เปนจํานวนเงินที่ตอง จาย เปนคาดอกเบี้ยเงินกูเพ่ือนํามาใชในการทํา ธุรกิจ 2. ตนทุนท่ีไมมีเงินสด ไดแกคาเส่ือมราคาของอุปกรณ อาคาร โรงเรียน หมายถึงการเสื่อมของ เคร่ืองจักร อุปกรณตาง ๆ อาคาร โรงเรือน ท่ีลดลงตามอายุการ ใชงาน การคิดตนทุนจะคิด จากการเฉลี่ย จาํ นวนเงนิ ที่ซ้ือไป เชน ซื้อรถไถนามา 1 คัน ราคา 10,000 บาท ก็คิดวาจะใชได 5 ป ดังนั้นคาเสื่อมราคาเท ากับ 10,000 หาร5 ตองเสียคาเสอ่ื มราคาของรถไถนาปละ2,000 บาท ก็ใหนําไปคิดเปน ตนทุนการผลิตทุก ๆ ป ใน 5 ป รายไดจากการประกอบอาชพี เปนรายไดทเ่ี กดิ จากการขายผลผลติ /บรกิ าร อาจจะเปนรายไดท่ีทะยอยการไดรับ ควรคิดเปนรายได ในรอบปหรือชวงการผลติ เชนเดียวกบั การคดิ ตนทุน การพิจารณาจุดคุมทุน จดุ คุมทุน หมายถึง ปริมาณการขายท่ีทําใหมีรายไดท้ังหมดเทากับตนทนุ ทัง้ หมดพอดีซึ่งจะไมมี กาํ ไร หรือขาดทนุ

ใบงงานท่ี 2 อาชพี ท่ี1 1. กาํ หนดชนดิ ของสินคา .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. 2. ปจจัยท่ีใชในการผลติ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. 3. การจดั การการผลิต .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. 4. กระบวนการผลิต .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. 5. การจัดการการตลาด .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................

6. ผลกระทบตอสภาพแวดลอมในชุมชน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. 7. ความรูความสามารถของผูประกอบอาชีพ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. 8. รายไดที่คาดวาจะไดรับ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. 9. ปญหาอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................

บนั ทึกหลังการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ครงั้ ที่ ……… วนั ที่ …………. เดือน …………………………………..……….. พ.ศ. …………….. ระดบั ประถมศึกษา จํานวนนกั ศกึ ษา ทัง้ หมด....................คน ชาย................คน หญิง..................คน จํานวนนักศกึ ษาทีเ่ ขา้ เรียน ทงั้ หมด....................คน ชาย................คน หญงิ ..................คน จาํ นวนนักศกึ ษาทขี่ าดเรยี น ทงั้ หมด....................คน ชาย................คน หญงิ ..................คน ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................... สภาพการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ปัญหาที่พบและการแกไ้ ขปัญหา ........................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ การดาเนินการแกไ้ ข/พฒั นา ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ขอ้ เสนอแนะ/ความคิดเห็นผู้นเิ ทศ ……………………………………………………………………………………………………………………………….……….………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงช่อื ) ................................................... (ลงชอ่ื ) ................................................... ผ้นู ิเทศ (........................................) (........................................) ………….. /….……… /…….…… ………….. /….……… /…….…… (ลงชื่อ) ………………………………..…………............. ผอ.กศน.อาํ เภอเมืองกาญจนบรุ ี (นายศักดช์ิ ยั นาคเอ่ยี ม) ………….. /….……… /…….……

บรรณานกุ รม ที่มา : https://sites.google.com/site/kanokwanjampong40/bthth-4 ทม่ี า : https://www.m-culture.go.th/surveillance/ewt_news.php?nid=882&filename=index ที่มา : http://civicduty12345.blogspot.com/2015/08/blog-post_87.html ที่มา : file:///C:/Users/LENOVO/Downloads/116460-Article%20Text-327002-1-10-20180523.pdf ทมี่ า : http://www.sa.ku.ac.th/project/sdd241152.ppt

คณะผู้จัดทา แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ กศน. แบบบรู ณาการ ตามรูปแบบ ONIE MODEL หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี .......... ปีการศึกษา ................... ท่ีปรกึ ษา ผู้อํานวยการ กศน.อาํ เภอเมืองกาญจนบุรี นายศักดช์ิ ยั นาคเอ่ียม ครูพเี่ ลีย้ ง จนั ทนะ ครชู ํานาญการ นางสาวชมพู คณะผจู้ ดั ทา 1. ครอู าสาสมคั รการศึกษานอกโรงเรียน กศน.อาํ เภอเมืองกาญจนบรุ ี 2. ครู กศน.ตาํ บล กศน.อาํ เภอเมอื งกาญจนบุรี 3. ครู ศรช. กศน.อาํ เภอเมืองกาญจนบรุ ี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook