Unit3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 There’s a TV roomรายวิชา ภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 1กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) เวลาเรียน 9 ชั่วโมง1. เป้ าหมายของการเรียนรู้ คาํ ถามรวบยอด How can students describe a place and give information about where something is? 1.1 ความเข้าใจทค่ี งทน Describing a place and giving information about where objects are located is necessary for dailysituation. 1.2 สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ ตวั ชี้วดั มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น อยา่ งมีเหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรู้สึก และความคดิ เห็นอยา่ งมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 1.3 นาํ เสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่างๆ โดยการ พดู และการเขียน ตัวชี้วดั ต 1.1 ม.1/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทรอ้ ยกรอง (poem) ส้นั ๆ และถูกตอ้ งตาม หลกั การอ่าน ต 1.1 ม.1/3 เลือก/ระบปุ ระโยคและขอ้ ความใหส้ มั พนั ธก์ บั ส่ือที่ไม่ใช่ความเรียง (non-text information) ที่อ่าน ต 1.2 ม.1/1 สนทนา แลกเปลี่ยนขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ตา่ งๆ ในชีวติ ประจาํ วนั ต 1.3 ม.1/1 พดู และเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาํ วนั ประสบการณ์ และ ส่ิงแวดลอ้ มใกลต้ วั สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งภาษากบั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนาํ ไปใชไ้ ด้ อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ 90

ตัวชี้วัดต 2.1 ม.1/2 บรรยายเกี่ยวกบั เทศกาล วนั สาํ คญั ชีวิตความเป็ นอยู่ และประเพณีของเจา้ ของภาษาสาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชุมชนและโลกมาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คมตวั ชี้วัดต 4.1 ม.1/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จาํ ลองท่ีเกิดข้ึนในหอ้ งเรียนและ สถานศกึ ษา1.3 สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด การรู้และเขา้ ใจความหมายของคาํ ศพั ท์ สาํ นวน ประโยค ช่วยในการพดู และเขียนบรรยายเก่ียวกบัส่ิงแวดลอ้ มใกลต้ วั รวมท้งั เขา้ ใจวา่ ความเชื่อของเจา้ ของภาษาและของไทยมีท้งั ความเหมือนและความแตกต่างกนั1.4 สาระการเรียนรู้1.4.1 ทักษะเฉพาะวชิ า1) Language Features and FunctionsVocabulary: Rooms and furniture, prepositions of place: on, in, underGrammar: Articles: a – an – the Regular and irregular plurals there is / there are (all forms)Functions: Describing a placePhonology: Giving information about where something is /h/2) Language Skills ฟังบทสนทนาส้นั ๆ Listening: พดู ถาม-ตอบเก่ียวกบั หอ้ งนอน Speaking: พดู ถาม-ตอบเก่ียวกบั ตาํ แหน่งของส่ิงของและสตั ว์ Reading: พดู แนะนาํ โรงเรียนของตนเอง Writing: อ่านบทสนทนาส้นั ๆ เขยี นบรรยายบา้ นของตนเอง เขยี นบรรยายเกี่ยวกบั ตาํ แหน่งของส่ิงตา่ งๆ ในหอ้ งเรียน 91

1.5 ทกั ษะการคดิ 1.5.2 ทกั ษะการสงั เกต 1.5.1 ทกั ษะการนาํ ความรู้ไปใช้ 1.5.3 ทกั ษะการวิเคราะห์1.6 คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1.6.1 ใฝ่ เรียนรู้ 1.6.2 มุ่งมน่ั ในการทาํ งาน2. หลักฐานการเรียนรู้ 2.1 ชิ้นงาน/ภาระงาน งานเดยี่ ว 2.1.1 เขียนบรรยายบา้ นของตนเองส้นั ๆ 2.1.2 เขียนบรรยายเก่ียวกบั ตาํ แหน่งของส่ิงต่างๆ ในหอ้ งเรียน งานกลุ่ม/คู่ 2.1.3 แสดงบทสนทนา 2.1.4 พดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั บา้ นของตนเอง 2.1.5 พดู แนะนาํ โรงเรียนของตนเอง 2.2 การวดั และประเมินผล 2.2.1 การวดั และประเมินผลระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจแบบฝึกหดั 2) ประเมินการมีส่วนร่วมในช้นั เรียน 3) ประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 2.2.2 การวัดและประเมนิ ผลเมอื่ สิ้นสุดการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1) การประเมินก่อนเรียนและหลงั เรียนหน่วยการเรียนรูท้ ่ี 3 3) การประเมินชิ้นงานและภาระงาน 92

ตวั อย่างเกณฑ์การประเมนิ การพูดโต้ตอบ ระดับคะแนน / ระดับคุณภาพ นํา้ หนัก คะแนน รายการการประเมนิ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) ความสําคัญ รวมความถกู ตอ้ งของเน้ือหา ใชค้ าํ ศพั ทส์ ่ือ ใชค้ าํ ศพั ทส์ ื่อ ใชค้ าํ ศพั ทส์ ่ือ ใชค้ าํ ศพั ทส์ ่ือ ความหมาย ความหมาย ความหมาย ความหมาย 2 8 การออกเสียง ตรงกบั ตรงกบั ตรงกบั ไมต่ รงกบั 2 8 เน้ือหาและ เน้ือหาและ เน้ือหาและ เน้ือหาและ ความคล่องแคล่ว ไวยากรณ์ ไวยากรณ์ ไวยากรณ์ ไวยากรณไ์ ม่ 2 8การแสดงทา่ ทาง น้าํ เสียง ถูกตอ้ งทกุ ถกู ตอ้ งเป็น ถกู ตอ้ งเป็น ถูกตอ้ งเป็น 1 4 ประโยค ส่วนใหญ่ บางส่วน ส่วนใหญ่ ประกอบการพดู ออกเสียง ออกเสียง ออกเสียง ออกเสียง คาํ ศพั ท์ คาํ ศพั ท์ คาํ ศพั ท์ คาํ ศพั ท์ ประโยค ประโยค ประโยค ประโยค ไดถ้ ูกตอ้ ง ไดถ้ ูกตอ้ ง ไดถ้ กู ตอ้ ง ไม่ถูกตอ้ ง ตามหลกั การ ตามหลกั การ ตามหลกั การ ทาํ ใหส้ ื่อสาร ออกเสียง ออกเสียง ออกเสียง ไม่ได้ เนน้ หนกั คาํ / เนน้ หนกั คาํ / แต่ส่วนใหญ่ ประโยคได้ ประโยคเป็น ขาดการ สมบรู ณ์ ส่วนใหญ่ ออกเสียง เนน้ หนกั พดู ต่อเน่ือง พดู พดู เป็นคาํ ๆ พดู ไดบ้ างคาํ ไม่ติดขดั ตะกุกตะกกั หยดุ เป็น ทาํ ใหส้ ื่อ พดู ชดั เจน บา้ ง แต่ยงั ช่วงๆ ทาํ ให้ ความหมาย ทาํ ใหส้ ่ือสาร พอสื่อสารได้ สื่อสารได้ ไมไ่ ด้ ไดด้ ี ไมช่ ดั เจน แสดงท่าทาง พดู ดว้ ย พดู เหมอื น พดู ไดน้ อ้ ย และพดู ดว้ ย น้าํ เสียง อ่าน ไม่เป็น มาก น้าํ เสียง เหมาะสมกบั ธรรมชาติ เหมาะสมกบั สถานการณ์ ขาดความ สถานการณ์ แต่ไมม่ ี น่าสนใจ ท่าทาง ประกอบ เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 24-28 ดีมาก 19-23 ดี 14-18 พอใช้ ต่าํ กวา่ 14 ปรับปรุง 93

ตวั อย่างเกณฑ์การประเมนิ การเขยี นรายการการประเมนิ ระดับคะแนน / ระดบั คุณภาพ นํา้ หนัก คะแนนการเลือกใชค้ าํ ศพั ท์ ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) ความสําคญั รวม การใชภ้ าษา ใชค้ าํ ศพั ทส์ ่ือ ใชค้ าํ ศพั ทส์ ื่อ ใชค้ าํ ศพั ทส์ ่ือ ใชค้ าํ ศพั ทส์ ่ือ 2 8 ความหมาย ความหมาย ความหมาย ความหมาย เน้ือหา 2 8 ตรงกบั ตรงกบั ไม่ตรงกบั ไมต่ รงกบั 2 8 เน้ือหา เน้ือหาเป็น เน้ือหาบา้ ง เน้ือหาเป็น ส่วนใหญ่ จาํ นวนมาก ตวั สะกดและ ตวั สะกดและ ตวั สะกดและ ตวั สะกดและ ไวยากรณ์มี ไวยากรณม์ ี ไวยากรณ์ผดิ ไวยากรณ์ผดิ ความถกู ตอ้ ง ความถกู ตอ้ ง เล็กนอ้ ย เป็นจาํ นวน สมบรู ณ์ อ่าน เป็นส่วนใหญ่ มาก อ่าน เขา้ ใจง่าย อ่านเขา้ ใจง่าย เขา้ ใจยาก เขียนอธิบาย เขียนอธิบาย เขียนอธิบาย เขียนอธิบาย เน้ือหาไดต้ รง เน้ือหาได้ เน้ือหาไดพ้ อ เน้ือหา ประเด็นและ ค่อนขา้ งตรง เขา้ ใจ ไม่ครบและ ครบถว้ น ประเดน็ และ ไม่ตรง ครบถว้ น ประเด็น เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 20-24 ดีมาก 16-19 ดี 12-15 พอใช้ ต่าํ กวา่ 12 ปรับปรุง 94

ตวั อย่างเกณฑ์การประเมนิ การแสดงบทสนทนา รายการ ดีมาก (4) ระดับคะแนน / ระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) นํา้ หนกั คะแนนการประเมนิ ดี (3) พอใช้ (2) ความสําคญั รวม 8การมสี ่วนร่วมใน เต็มใจและ เต็มใจและ เต็มใจและ เตม็ ใจและ 2การเตรียมตวั และ สนใจในการ สนใจในการ สนใจในการ สนใจในการ 8การนาํ เสนอ ทาํ งานกลุ่มและ ทาํ งานกลุ่มและ ทาํ งานกลุ่มและ ทาํ งานกลุ่มและ 2 ในการนาํ เสนอ ในการนาํ เสนอ ในการนาํ เสนอ ในการนาํ เสนอ 8 เสมอ เป็นส่วนใหญ่ เป็นบางเวลา นอ้ ยมาก 2 8การแสดงบทบาท ส่ือสาร ส่ือสาร สื่อสาร ส่ือสาร 2 ความรู้สึก ความรู้สึก ความรู้สึก ความรู้สึก 4 สถานการณ์ สถานการณ์ สถานการณ์ สถานการณ์ 1 และแรงจงู ใจ และแรงจงู ใจ และแรงจูงใจ และแรงจูงใจ ของตวั ละครได้ ของตวั ละคร ของตวั ละคร ของตวั ละคร อยา่ งน่าเชื่อถือ ไดด้ ี ไดพ้ อใช้ ไดน้ อ้ ยความถกู ตอ้ งของ เน้ือหาสาระ เน้ือหาสาระ เน้ือหาสาระ เน้ือหาสาระเน้ือหา สาระ ถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ งเป็น ถูกตอ้ งพอใช้ ถกู ตอ้ งเป็นความรู้ ครบถว้ น ส่วนมาก ส่วนนอ้ ยการใชอ้ วจั น มกี ารใช้ มีการใช้ มกี ารใช้ มกี ารใช้ภาษา (น้าํ เสียง อวจั นภาษา อวจั นภาษา อวจั นภาษา อวจั นภาษาท่าทาง สายตา หลากหลาย หลากหลายอยู่ หลากหลาย ไมห่ ลากหลายอุปกรณป์ ระกอบ น่าประทบั ใจใน ในเกณฑท์ ่ีดี พอใชอ้ ยใู่ น อยใู่ นเกณฑท์ ่ีฉาก เคร่ืองแต่ง เกณฑท์ ่ีน่า เกณฑท์ ยี่ อมรับ ตอ้ งปรับปรุงกาย) ยกยอ่ ง ได้จินตนาการและ เป็นผลงานที่ เป็นผลงานที่ เป็นผลงานท่ี เป็นผลงานท่ีความคิด ดึงดดู ความ ดึงดดู ความ ปรับปรุง เหมอื นตวั อยา่ งสร้างสรรค์ สนใจ สนใจ เล็กนอ้ ยจาก แปลกใหม่ แปลกใหม่ ตวั อยา่ ง และคิดข้ึนเอง สอดคลอ้ งกบั สอดคลอ้ งกบั เรื่องทก่ี าํ หนด เรื่องทีก่ าํ หนด แต่บางส่วน เหมอื นตวั อยา่ ง เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 30-36 ดีมาก 24-29 ดี 18-23 พอใช้ ต่าํ กว่า 18 ปรับปรุง 95

ตวั อย่างเกณฑ์การประเมนิ การพูดแนะนาํ โรงเรียนรายการการ ระดับคะแนน / ระดบั คุณภาพ นํา้ หนกั คะแนน ประเมนิ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) ความสําคัญ รวม เน้ือหา ใชค้ าํ ศพั ทส์ ื่อ ใชค้ าํ ศพั ทส์ ื่อ ใชค้ าํ ศพั ทส์ ื่อ ใชค้ าํ ศพั ทส์ ื่อ 2 8การออกเสียง ความหมายตรงกบั ความหมายตรงกบั ความหมายตรง ความหมายไม่ตรง 8 เน้ือหาและ เน้ือหาและ กบั เน้ือหาและ กบั เน้ือหาและ ไวยากรณถ์ ูกตอ้ ง ไวยากรณ์ถกู ตอ้ ง ไวยากรณ์ ไวยากรณ์ ทุกประโยค เป็นส่วนใหญ่ ถูกตอ้ งเป็น ไมถ่ กู ตอ้ งเป็น บางส่วน ส่วนใหญ่ พดู ชดั เจนตลอด พดู ชดั เจน ตลอด พดู ชดั เจน และ พดู พมึ พาํ ไม่ 2 การนาํ เสนอ และ การนาํ เสนอเป็น ออกเสียงคาํ ผดิ ชดั เจน และ ออกเสียงคาํ ถกู ตอ้ ง ส่วนใหญ่ แต่ 3-4 คาํ ออกเสียงคาํ ผดิ ทกุ คาํ ออกเสียงคาํ ผดิ 1-2 มากกว่า 5 คาํ ข้ึนไป คาํภาษาทา่ ทาง ใชภ้ าษาทา่ ทางท่ี ใชภ้ าษาทา่ ทาง พยายามสร้าง ใชภ้ าษาท่าทางนอ้ ย 1 4 (การ แสดงถึงความ แสดงถึงความ ความมน่ั ใจและ มาก ไม่เป็น มน่ั ใจและ มน่ั ใจและ กระตือรือร้นใน ธรรมชาติ และไม่ แสดงออก กระตือรือร้นใน กระตือรือร้นใน การพดู นาํ เสนอ สบสายตาผฟู้ ัง ทางสีหนา้ การพดู นาํ เสนอ การพดู นาํ เสนอ แต่ยงั ไมเ่ ป็น การใชม้ อื และสบสายตาผฟู้ ัง และสบสายตาผฟู้ ัง ธรรมชาติประกอบการ ตลอด เป็ นส่วนใหญ่ และสบสายตาพดู ลกั ษณะ ผฟู้ ังเป็นการยนื ) และ บางคร้ ัง การสบสายตาผฟู้ ัง เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 16-20 ดีมาก 13-15 ดี 10-12 พอใช้ ต่าํ กวา่ 10 ปรับปรุง 96

แผนจัดการเรียนรู้ที่ 1 A Virtual Tour เวลา 2 ชั่วโมงจดุ ประสงค์ (Objectives) - บรรยายสถานทท่ี ่ตี นเองพกั อาศยั - เรียนรู้คาํ ศพั ทท์ ่ีเก่ียวขอ้ งกบั หอ้ งและเฟอร์นิเจอร์ในบา้ นเนือ้ เรื่อง (The story) ในหนังสือเรียน หน้า 30David พา Maria ไปเดินสาํ รวจภายในบริเวณอาคารท่ีต้งั ของ Camp และถ่ายทาํ วดิ ีโอเพอื่ ส่งไปใหพ้ อ่ แม่ของMaria ดู1. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตวั ชี้วัด มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรื่องท่ีฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เห็น อยา่ งมีเหตผุ ล มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรู้สึก และความคดิ เห็นอยา่ งมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 1.3 นาํ เสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่างๆ โดยการ พดู และการเขียน ตวั ชี้วัด ต 1.1 ม.1/3 เลือก/ระบปุ ระโยคและขอ้ ความใหส้ มั พนั ธก์ บั สื่อท่ไี ม่ใช่ความเรียง (non-text information) ทอี่ ่าน ต 1.2 ม.1/1 สนทนา แลกเปล่ียนขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ตา่ งๆ ในชีวติ ประจาํ วนั ต 1.3 ม.1/1 พดู และเขียนบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาํ วนั ประสบการณ์ และ ส่ิงแวดลอ้ มใกลต้ วั2. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด การรู้และเขา้ ใจความหมายของคาํ ศพั ท์ สาํ นวน ประโยค ช่วยในการพดู และเขยี นบรรยายเก่ียวกบัส่ิงแวดลอ้ มใกลต้ วั97

3. สาระการเรียนรู้3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า1) Language Features and FunctionsVocabulary: Rooms and furnitureFunctions:2) Language Skills Describing a placeListening: ฟังบทสนทนาส้นั ๆSpeaking: พดู ถาม-ตอบเก่ียวกบั หอ้ งนอนWriting: เขียนบรรยายบา้ นของตนเอง4. ทักษะการคดิ 4.1 ทกั ษะการนาํ ความรู้ไปใช้ – นาํ คาํ ศพั ทแ์ ละโครงสรา้ งภาษาทีเ่ รียนมาใชใ้ นการพดู และเขียนใหข้ อ้ มูล เก่ียวกบั บา้ นของตนเอง5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 5.1 ใฝ่ เรียนรู้6. กิจกรรมการเรียนรู้ข้ันที่ 1 Warm up 1. นาํ เขา้ สู่บทเรียนดว้ ยการช้ีแจงใหน้ กั เรียนทราบวา่ หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 3 There’s a TV room. น้ี นกั เรียนจะไดเ้ รียนรู้เก่ียวกบั Articles: a – an – the Regular and irregular plurals there is / there are (all forms) Rooms and furniture Technological objects Prepositions of place: on, in, under Describing a place Giving information about where something is Pronunciation: /h/ 98

2. ใหน้ กั เรียนดูภาพในหนงั สือเรียน หนา้ 30 แลว้ ครูถามคาํ ถามนกั เรียน 2-3 คาํ ถาม โดยใชภ้ าษาองั กฤษ หรือภาษาไทยก็ได้ ข้นึ อยกู่ บั ระดบั ความรูค้ วามสามารถของนกั เรียน Who are the people? (David and Maria) Where are they? (In the camp) Where are Maria’s Mum and Dad? (Probably at home, in New York) จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนลองเดาวา่ Maria กาํ ลงั ทาํ อะไรอยู่ และทาํ ไปเพอ่ื อะไร What is Maria doing? (She’s talking to the video camera and showing the camp.) Why is Maria doing this? (To send an online video to her parents in the U.S.A.)ข้ันที่ 2 Presentation 1. นกั เรียนทาํ กิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 30 Ex.1 โดยเปิ ด CD1/Track 29 ใหน้ กั เรียนฟังและอ่าน บทสนทนาในหนงั สือเรียนตามไปดว้ ย จากน้นั ครูเปิ ด CD อีกคร้งั โดยในคร้งั น้ี ครูหยดุ CD เป็น ระยะๆ เพอ่ื ตรวจเช็คความเขา้ ใจนกั เรียน 2. นกั เรียนทาํ กิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 30 Ex.2 โดยเปิ ด CD1/Track 29 ใหน้ กั เรียนฟังอีกคร้งั โดยหยดุ CD เป็นระยะๆ แลว้ ใหน้ กั เรียนในช้นั อ่านบทสนทนาพรอ้ มๆ กนั จากน้นั แบง่ นกั เรียนใน ช้นั ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกอ่านบทของ David กลุ่มที่ 2 อ่านบทของ Maria เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียน สลบั บทบาทกนั 3. นาํ เสนอโครงสร้าง There is/are ดว้ ยการบรรยายสิ่งของท่อี ยใู่ นหอ้ งเรียนใหน้ กั เรียนดูเป็นตวั อยา่ ง ดงั น้ี There is a whiteboard in the classroom. There are two doors in the classroom. จากน้นั สุ่มเรียกใหน้ กั เรียนพดู บรรยายส่ิงของต่างๆ ทีอ่ ยบู่ นโตะ๊ ของตนเอง ตอ่ มาครูนาํ เสนอโครงสร้างประโยคคาํ ถาม และการตอบแบบส้นั ดว้ ยการถามเก่ียวกบั ส่ิงของตา่ งๆ ทอ่ี ยใู่ นหอ้ งเรียน เช่น T: Is there a whiteboard in the classroom? Class: Yes, there is. T: Are there computers in the classroom? Class: No, there aren’t. 4. ครูถามนกั เรียนวา่ ในบา้ นของคนไทยส่วนใหญ่แตล่ ะหลงั จะมีหอ้ งอะไรบา้ ง ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอก แลว้ ครูเขียนคาํ ตอบของนกั เรียนบนกระดาน bedroom, bathroom, living room, kitchen 99

ครูถามนกั เรียนวา่ มีคาํ ศพั ทอ์ ะไรเก่ียวกบั บา้ นอีกทน่ี กั เรียนรูจ้ กั ครูเขียนคาํ ดงั กล่าวบนกระดาน แลว้ใหน้ กั เรียนบอกความหมาย เช่น garage, dining roomAdvanced classes: ครูทดสอบวา่ นกั เรียนจดจาํ คาํ ศพั ทเ์ ก่ียวกบั หอ้ งไดห้ รือไม่ ดว้ ยการพดู ชื่อส่ิงของ แลว้ ใหน้ กั เรียนบอกวา่ ส่ิงของดงั กล่าวอยใู่ นหอ้ งใดWeak classes: ครูใชบ้ ตั รภาพในการทดสอบวา่ นกั เรียนจดจาํ คาํ ศพั ทเ์ กี่ยวกบั หอ้ งไดห้ รือไม่ข้ันท่ี 3 Practice 1. ใหน้ กั เรียนอ่านประโยคท่ีใหม้ าในหนังสือเรียน หน้า 30 Ex.3 แลว้ ใหน้ กั เรียนระบุวา่ แต่ละประโยค น้นั กล่าวถึงหอ้ งใด จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คูเ่ พอื่ เปรียบเทียบคาํ ตอบกนั และช่วยกนั แกไ้ ขประโยคให้ ถูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาํ ตอบอีกคร้งั ดว้ ยการสุ่มเรียกนกั เรียนใหอ้ ่านประโยคและบอกคาํ ตอบAnswers 2. bathroom 3. bedroom 4. games room1. bathroom2. นกั เรียนอ่านคาํ ศพั ทใ์ นหนังสือเรียน หน้า 31 Ex.4 แลว้ ครูสาํ รวจวา่ นกั เรียนเขา้ ใจคาํ ศพั ทเ์ หล่าน้ี ทกุ คาํ หรือไม่ จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คูส่ ่ิงของต่างๆ ในบา้ นกบั คาํ ศพั ทท์ ใี่ หม้ า จากน้นั ครูใหน้ กั เรียน ทาํ กิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 31 Ex.5 โดยครูเปิ ด CD1/Track 30 ใหน้ กั เรียนฟัง เพอ่ื ตรวจ คาํ ตอบ เสร็จแลว้ ครูอาจเปิ ด CD อีกคร้งั เพอ่ื ให้นกั เรียนฝึกออกเสียงตามAudio script and answers1. bed 6. sofa2. desk 7. fridge3. bathroom 8. chair4. kitchen 9. table5. dining room 10. living roomWeak classes – นกั เรียนจดคาํ ศพั ทจ์ าก Ex.4 ลงในกระดาษ แลว้ เขียนคาํ แปลในภาษาไทย พรอ้ มท้งัวาดภาพประกอบง่ายๆAdvanced classes – นกั เรียนช่วยกนั ระดมสมองบอกคาํ ศพั ทอ์ ่นื ๆ ท่ีนกั เรียนเห็นในภาพในหนงั สือเรียน หนา้ 31 Ex.4 โดยครูเขียนตารางบนกระดาน ดงั น้ี 100

Bedroom Bathroom Kitchen แลว้ ใหน้ กั เรียนบอกคาํ ศพั ทต์ ามหมวดหมู่ในตาราง โดยครูเขยี นคาํ ตอบของนกั เรียนลงในตารางบน กระดานตามท่ีนกั เรียนบอก เช่น Bedroom: bedside table, painting, computer… Bathroom: washbasin, toilet, shower… Kitchen: cupboards, cooker… เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนคดั ลอกตารางคาํ ศพั ทล์ งในสมุด และใหน้ กั เรียนเพม่ิ เติมคาํ ศพั ทเ์ กี่ยวกบั ส่ิงของ ที่นกั เรียนมีท่บี า้ นของตนเองในแตล่ ะคอลมั น์ ครูอาจเพม่ิ หอ้ งนงั่ เล่นและหอ้ งอินเทอร์เน็ต เพอื่ เพม่ิ วงคาํ ศพั ทใ์ นการเรียนรูข้ องนกั เรียน Bedroom: bed, desk, wardrobe Bathroom: towel, mirror, bath Kitchen: sink, fridge, cupboard Living room: sofa, armchair, curtain Internet room: computer, web cam, printer 3. นกั เรียนอ่านประโยคที่ใหม้ าในหนังสือเรียน หน้า 31 หัวข้อ Look & Use ครูอธิบายวา่ โครงสร้าง ประโยคเหล่าน้ี เป็นโครงสรา้ งประโยคที่นกั เรียนจะไดฝ้ ึกฝนในการทาํ กิจกรรมต่อไป 4. นกั เรียนจบั คู่กนั ทาํ กิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 31 Ex.6 โดยใหน้ กั เรียนหน่ึงคน เลือกหอ้ งจากใน Ex.4 มาหน่ึงหอ้ ง แลว้ พดู บรรยายใหเ้ พอ่ื นฟัง เพื่อใหเ้ พอื่ นทายวา่ เป็ นหอ้ งใด โดยใหน้ กั เรียนบรรยายเหมือนดงั ตวั อยา่ งท่ีใหม้ า จากน้นั เปลี่ยนใหน้ กั เรียนท่ีเป็นผทู้ าย มาเป็ นผบู้ รรยายบา้ ง 5. ครูอาจหาภาพหอ้ งจากในนิตยสารมาใหน้ กั เรียนดู แลว้ ใหน้ กั เรียน ฝึกพดู บรรยายภาพดงั กล่าวข้ันที่ 4 Production 1. นกั เรียนทาํ กิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 31 Ex.7 โดยนกั เรียนอ่านตวั อยา่ งคาํ บรรยาย แลว้ เขยี น ขอ้ ความบรรยายบา้ นของตนเองส้นั ๆ นกั เรียนสามารถเขยี นท่โี รงเรียน หรืออาจเป็ นการบา้ นก็ได้ Extra Activity: นกั เรียนวาดแบบแปลนบา้ น (floorplan) ของตนเองและเขียนระบุชื่อหอ้ ง แต่ละหอ้ ง จากน้นั ใหจ้ บั คูก่ นั แสดงแบบแปลนบา้ นของตนเองใหเ้ พอ่ื นดูและพดู บรรยาย 101

เช่น In my house there is a living room, kitchen, a dining room, three bedrooms and two bathrooms... เพอื่ นอาจขดั จงั หวะดว้ ยคาํ ถาม เช่น Where is the bathroom? Is this your garden?2. นกั เรียนจบั คูท่ าํ กิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 31 Ex.8 โดยให้แต่ละคู่ผลดั กนั อา่ นตวั อยา่ ง บทสนทนาทใ่ี หม้ า จากน้นั ใหน้ กั เรียนพดู ถาม-ตอบเก่ียวกบั บา้ นของนกั เรียนเอง ครูเดินสงั เกตขณะ นกั เรียนปฏิบตั กิ ิจกรรม และสุ่มเลือกนกั เรียน 2-3 คู่ ออกมาสนทนาทห่ี นา้ ช้นั เรียน3. นกั เรียนทาํ กิจกรรมในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 20 Exs.1-2 และหนา้ 21 Exs.1-2 เป็ นการบา้ น4. ครูใหน้ กั เรียนฝึกอ่านบทสนทนาในหนงั สือเรียน หนา้ 30 Ex.1 เป็ นการบา้ น แลว้ ใหผ้ ปู้ กครอง เซ็นช่ือรับทราบในสมุดPersonal Toolkit  PICTIONARY 4 Moving House7. การวดั และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ วิธีการวดั แบบประเมินการพดู โตต้ อบ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ แบบประเมินการเขียนประเมินการพดู แบบฝึกหดั (Workbook) ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ประเมินการเขยี น แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ตรวจแบบฝึ กหดัสงั เกตความใฝ่เรียนรู้ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 หนงั สือเรียน Team Up in English 1 ม.1 8.2 แบบฝึกหดั Team Up in English 1 ม.1 8.3 Class Audio CDs 8.4 Student’s Audio CD 8.5 Personal Toolkit 102

แผนจัดการเรียนรู้ท่ี 2 Argh! There’s a mouse on my bed! เวลา 2 ชั่วโมงจดุ ประสงค์ (Objectives) - พดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั ตาํ แหน่งของส่ิงของ - เรียนรูก้ ารใชค้ าํ บพุ บทบอกสถานท่ี (prepositions of place) เพอื่ บอกตาํ แหน่งของส่ิงต่างๆเนือ้ เรื่อง (The story) ในหนังสือเรียน หน้า 32Maria เร่ิมกรีดรอ้ ง เพราะมีหนูอยบู่ นเตียงนอนของเธอ และ Sara ตอ้ งการท่จี ะช่วยเหลือ แต่ David เป็ นคนท่ีเขา้ ไปยงั หอ้ งของ Maria และแสดงให้ Maria เห็นวา่ เป็ นแคก่ ารแกลง้ กนั1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น อยา่ งมีเหตุผล มาตรฐาน ต 1.3 นาํ เสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่างๆ โดยการ พดู และการเขียน ตวั ชี้วัด ต 1.1 ม.1/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทร้อยกรอง (poem) ส้นั ๆ และถูกตอ้ งตาม หลกั การอ่าน ต 1.3 ม.1/1 พดู และเขียนบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาํ วนั ประสบการณ์ และ ส่ิงแวดลอ้ มใกลต้ วั2. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด การรู้และเขา้ ใจคาํ ศพั ท์ ประโยค ช่วยในการพดู และเขียนบรรยายส่ิงแวดลอ้ มใกลต้ วั3. สาระการเรียนรู้3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา1) Language Features and FunctionsVocabulary:Functions: Prepositions of place: on, in, under Describing a placePronunciation: Giving information about where something is /h/ 103

2) Language SkillsSpeaking:Reading: พดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั ตาํ แหน่งของส่ิงตา่ งๆ อ่านบทสนทนาส้นั ๆWriting: เขยี นบรรยายเกี่ยวกบั ตาํ แหน่งของส่ิงตา่ งๆ ในหอ้ งเรียน4. ทกั ษะการคดิ4.1 ทกั ษะการสงั เกต – ฟังและสงั เกตวา่ คาํ ศพั ทท์ ไ่ี ดย้ นิ คอื คาํ ศพั ทค์ าํ ใด5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 5.1 ใฝ่ เรียนรู้6. กิจกรรมการเรียนรู้ข้ันที่ 1 Warm up 1. ทบทวนคาํ ศพั ทแ์ ละโครงสรา้ งที่เรียนมาแลว้ ดว้ ยการใหน้ กั เรียนดูภาพในหนงั สือเรียน หนา้ 31 อีกคร้งั ภายในเวลา 1 นาที และพยายามจาํ รายละเอียดเกี่ยวกบั ภาพใหไ้ ดม้ ากท่สี ุด จากน้นั แบง่ นกั เรียนเป็นทีม แลว้ ใหน้ กั เรียนเล่นเกม Memory Game ดว้ ยการถามคาํ ถามและใหน้ กั เรียนตอบ คาํ ตอบเก่ียวกบั ภาพ ดงั น้ี Teacher: How many pictures are there in the bedroom? How many tables are there in the kitchen? How many beds are there in the house? How many chairs are there in the kitchen? How many baths are there in the bathroom? How many sofas are there in the living room? How many showers are there in the bathroom? How many plates are there on the table in the kitchen? ทีมใดที่ตอบคาํ ถามไดถ้ ูกตอ้ งมากท่ีสุด จะเป็ นทมี ที่ชนะ 2. นกั เรียนดูภาพในหนงั สือเรียน หนา้ 32 แลว้ ตอบคาํ ถามเป็ นภาษาองั กฤษหรือภาษาไทยข้นึ อยกู่ บั ระดบั ความสามารถของนกั เรียน เช่น Who are the people? (David and Maria) Where is Maria? (In her room) 3. ครูถามนกั เรียนวา่ รูจ้ กั คาํ ศพั ทต์ อ่ ไปน้ีหรือไม่ curtains, CD player, window, phone เพอ่ื เตรียม นกั เรียนสาํ หรบั กิจกรรมการบรรยายภาพ 104

ถา้ นกั เรียนไม่รูค้ าํ ศพั ท์ ครูพยายามอธิบายจนกระทง่ั นกั เรียนสามารถเดาความหมายได้ จากน้นั ให้ นกั เรียนปิ ดหนงั สือเรียน แลว้ ทาํ กิจกรรมวาดภาพตามคาํ บอก (dictation of the scene) T: There are two big windows. There is a CD player near the window. There’s a bed. There’s Maria on the phone. นกั เรียนฟังครู แลว้ วาดภาพฉากที่มี Maria อยใู่ นหอ้ งของตนเอง Weak classes: ใหน้ กั เรียนปิ ดหนงั สือเรียน แลว้ วาดภาพหอ้ งของ Maria จากความจาํ Advanced classes: สอนคาํ ศพั ทท์ ี่จาํ เป็ น แลว้ ใหน้ กั เรียนบรรยายรายละเอียดเกี่ยวกบั หอ้ งของ Maria There are two big windows with blue curtains. There is a CD player on the desk. There’s a phone. There’s a bed. หลงั จากน้นั ครูถามนกั เรียนวา่ ในภาพในหนงั สือเรียน หนา้ 32 นกั เรียนคดิ วา่ บทสนทนาของพวกเขา น่าจะเกี่ยวกบั เร่ืองอะไร โดยครูถามวา่ What’s the problem? ครูบอกนกั เรียนวา่ นกั เรียนจะรูค้ าํ ตอบ จากการฟังบทสนทนาใน Ex.1ข้ันท่ี 2 Presentation 1. เปิ ด CD1/Track 31 ใหน้ กั เรียนฟัง โดยไม่หยดุ พกั ขณะเดียวกนั ใหน้ กั เรียนอ่านบทสนทนาใน หนังสือเรียน หน้า 32 Ex.1 ตามไปดว้ ย ครูเปิ ด CD1/Track 31 ใหน้ กั เรียนฟังอีกคร้งั โดยหยดุ CD เป็ นระยะ เพอื่ ตรวจความเขา้ ใจของ นกั เรียน 2. ทาํ กิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 32 Ex.2 ดว้ ยการใหน้ กั เรียนฟัง CD1/Track 31 อีกคร้งั โดยครู หยดุ CD ใหน้ กั เรียนเป็นระยะ เพอ่ื ใหน้ กั เรียนฝึ กอ่านบทสนทนาตามพร้อมๆ กนั และอ่านทลี ะคน 3. นาํ อุปกรณ์ เช่น กล่องขนาดใหญ่ กบั ตุก๊ ตารูปสตั ว์ 1 ตวั เช่น กระตา่ ย จากน้นั ครูวางตุก๊ ตากระตา่ ย ไปท่ีตาํ แหน่งตา่ งๆ ของกล่อง แลว้ พดู นาํ เสนอใหน้ กั เรียนฟัง และใหน้ กั เรียนฝึกพดู ตาม เช่น There is a rabbit on the box. There is a rabbit in the box. There is a rabbit under the box. There is a rabbit in front of the box. There is a rabbit behind the box. ตอ่ มาครูตรวจสอบวา่ นกั เรียนเขา้ ใจหรือไม่ ดว้ ยการบอกใหน้ กั เรียนเก็บส่ิงของตา่ งๆ บนโตะ๊ ของ นกั เรียนออกใหห้ มด ใหเ้ หลือเพยี งหนงั สือเรียนกบั ปากกา 1 ดา้ ม 105

จากน้นั ครูพดู บอกตาํ แหน่งของปากกากบั หนงั สือเรียน แลว้ ใหน้ กั เรียนปฏบิ ตั ติ าม เช่น There is a pen under the book. ครูสงั เกตวา่ นกั เรียนส่วนใหญใ่ นหอ้ งปฏิบตั ติ ามถูกตอ้ งหรือไม่ ถา้ ไม่ ครูอธิบายการใช้ prepositions อีกคร้งัข้ันที่ 3 Practice 1. นกั เรียนทาํ กิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 32 Ex.3 ร่วมกนั โดยใหน้ กั เรียนอ่านประโยคทใ่ี หม้ า แลว้ ช่วยกนั ระบุวา่ ประโยคน้นั ๆ ถูกหรือผดิ ครูอาจใหน้ กั เรียนช่วยกนั แกไ้ ขประโยคท่ผี ดิ ใหถ้ ูกตอ้ งดว้ ย ก็ได้ แลว้ ใหน้ กั เรียนกลบั ไปเขยี นประโยคทถ่ี ูกตอ้ งที่บา้ น Answers 1. T 2. F (Maria is in room 30.) 3. F (There is a CD player on the desk.) 4. T2. นกั เรียนดูภาพประกอบในหนังสือเรียน หน้า 32 Ex.4 และสงั เกตความแตกต่างของตาํ แหน่งของ วงกลมสีแดงในแต่ละภาพ จากน้นั ใหน้ กั เรียนดูตาํ แหน่งของหนู ถา้ นกั เรียนไม่เขา้ ใจความหมายของ box (กล่อง) และ rug (พรม) ครูช่วยอธิบายความหมาย โดยช้ีใหน้ กั เรียนดูภาพกล่องและพรมท่อี ยู่ ในภาพ หลงั จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนเตมิ ประโยคใหส้ มบรู ณ์ ดว้ ยคาํ บพุ บททถี่ ูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ให้ นกั เรียนจบั คูเ่ พอื่ เปรียบเทียบคาํ ตอบกนั สุดทา้ ยครูเฉลยคาํ ตอบดว้ ยการใหน้ กั เรียนฟัง CD1/Track 32 ในกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 32 Ex.5Audio script and answersIt is under the bed.1. It is in the box. 2. It is on the table. 3. It is under the rug.3. นกั เรียนอ่านประโยคในหนังสือเรียน หน้า 33 หัวข้อ Look & Use แลว้ หาประโยคเหล่าน้ีใน บทสนทนาใน Ex.14. ครูใหน้ กั เรียนเล่มเกมแขง่ ขนั กนั โดยแบง่ นกั เรียนเป็ นคู่ จากน้นั ใหเ้ วลาแตล่ ะคู่ 3 นาที เขียนคาํ ศพั ท์ เก่ียวกบั ส่ิงของที่อยใู่ นหอ้ งในภาพในหนังสือเรียน หน้า 33 Ex.6 ใหไ้ ดม้ ากท่สี ุด เสร็จแลว้ ครูนบั จาํ นวนคาํ ศพั ทท์ ีน่ กั เรียนแต่ละคู่เขียนได้ โดยครูถามวา่ Who has written 10 words? Who has written 9?... etc. แลว้ ใหน้ กั เรียนยกมือตอบ จนไดค้ ูท่ ี่เขียนคาํ ศพั ทไ์ ดม้ ากทส่ี ุด ครูใหน้ กั เรียนคู่ ดงั กล่าวออกมาเขยี นคาํ ศพั ทบ์ นกระดาน 106

ตอ่ มาครูใหน้ กั เรียนแต่ละคูผ่ ลดั กนั พดู ถามเกี่ยวกบั ตาํ แหน่งของส่ิงของ โดยใชค้ าํ ถาม Where is / are …? และตอบโดยใชโ้ ครงสรา้ ง It’s / They’re… ครูเดินสงั เกตขณะนกั เรียนทาํ กิจกรรม เพอื่ ให้ ความช่วยเหลือ5. นกั เรียนอ่านคาํ ศพั ทแ์ ต่ละคู่ท่ีใหม้ าในหนังสือเรียน หน้า 33 Ex.7 อยา่ งชา้ ๆ เพอ่ื ทจ่ี ะไดส้ งั เกตเสียง ‘h’ (aspirated ‘h’) ครูอธิบายใหน้ กั เรียนฟังวา่ การออกเสียง h จะตอ้ งออกเสียงใหช้ ดั เจน เพอื่ ให้ ผฟู้ ังเขา้ ใจไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง เน่ืองจากมีหลายคาํ ท่ีออกเสียงคลา้ ยคลึงกนั จากน้นั ครูเปิ ด CD1/Track 33 เพอ่ื ใหน้ กั เรียนฟังและวงกลมรอบคาํ ทไ่ี ดย้ นิAudio script and answers year hateangry hair6. ทาํ กิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 33 Ex.8 ดว้ ยการเปิ ด CD1/Track 33 อีกคร้งั โดยคร้งั น้ีหยดุ CD ทีละคาํ เพอื่ ใหน้ กั เรียนฝึกพดู ตามพรอ้ มๆ กนั และทลี ะคนข้ันท่ี 4 Production 1. นกั เรียนทาํ กิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 33 Ex.9 โดยใหน้ กั เรียนเขยี นรายการคาํ ศพั ทเ์ กี่ยวกบั ส่ิงของทีม่ ีอยใู่ นหอ้ งเรียน จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คูก่ บั เพอ่ื น แลกเปลี่ยนสมุดกนั ตรวจความถูกตอ้ ง ของคาํ ศพั ทท์ เี่ พอ่ื นเขียน ตอ่ มาครูใหน้ กั เรียนนาํ คาํ ศพั ทท์ ีเ่ ขียนมาแตง่ ประโยค โดยใชโ้ ครงสรา้ ง ประโยคท่ีเรียน คือ There is/are … 2. นกั เรียนจบั คู่กนั แสดงบทสนทนาในหนงั สือเรียน หนา้ 32 Ex.1 ครูใหเ้ วลานกั เรียนฝึกซอ้ มใน หอ้ งเรียน ประมาณ 15 นาที จากน้นั ขออาสาสมคั รนกั เรียน 1-2 คู่ ออกมาแสดงบทสนทนาทห่ี นา้ ช้นั เสร็จแลว้ มอบหมายใหน้ กั เรียนไปฝึกซอ้ มดว้ ยตวั เองเพมิ่ เติม แลว้ มาแสดงบทสนทนาใหค้ รูดู นอกเวลาเรียน 3. นกั เรียนทาํ กิจกรรมในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 20 Ex.3 และหนา้ 21 Exs.3-4 เป็ นการบา้ น7. การวัดและประเมินผล เครื่องมอื เกณฑ์ วธิ ีการวดั แบบประเมินการเขียน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ประเมินการเขยี น แบบประเมินการแสดงบทสนทนา ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ประเมินการแสดงบทสนทนา แบบฝึกหดั (Workbook)ตรวจแบบฝึ กหดั แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ประเมินความใฝ่ เรียนรู้ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ 107

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 หนงั สือเรียน Team Up in English 1 ม.1 8.2 แบบฝึกหดั Team Up in English 1 ม.1 8.3 Class Audio CDs 8.4 Student’s Audio CD 108

แผนจัดการเรียนรู้ท่ี 3 Grammar Focus เวลา 2 ช่ัวโมงจดุ ประสงค์ (Objectives)รู้และเขา้ ใจการใช้ a – an – the, plural nouns (regular plurals/irregular plurals), there is / there are (allforms)1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด สาระท่ี 1 ภาษาเพ่อื การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.3 นาํ เสนอขอ้ มูลขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองตา่ งๆ โดยการ พดู และการเขียน ตัวชี้วัด ต 1.3 ม.1/1 พดู และเขยี นบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาํ วนั ประสบการณ์ และ ส่ิงแวดลอ้ มใกลต้ วั สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ท้งั ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม ตวั ชี้วัด ต 4.1 ม.1/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จาํ ลองทเ่ี กิดข้ึนในหอ้ งเรียนและ สถานศึกษา2. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด การรู้และเขา้ ใจคาํ ศพั ท์ ประโยค ช่วยในการพดู และเขียนบรรยายส่ิงแวดลอ้ มใกลต้ วั3. สาระการเรียนรู้3.1 ทักษะเฉพาะวิชา 1) Language Features and Functions Grammar: Articles: a – an – the Regular and irregular plurals there is / there are (all forms) 2) Language Skills Speaking: พดู แนะนาํ โรงเรียนของตนเอง 109

4. ทักษะการคดิ 4.1 ทกั ษะการวเิ คราะห์ – ศกึ ษาตวั อยา่ งประโยคทีใ่ หม้ า และอนุมานหลกั ไวยากรณ์ได้5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 5.1 มุ่งมน่ั ในการทาํ งาน6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 Warm up ทบทวนเกี่ยวกบั prepositions ดว้ ยการใหน้ กั เรียนทาํ กิจกรรมวาดรูปตามคาํ บอก โดยครูใหน้ กั เรียน เตรียมอุปกรณ์ คือ กระดาษ และดินสอไว้ จากน้นั ครูพดู บรรยายและใหน้ กั เรียนวาดภาพตาม T: There are a table and a chair in the room. On the table, there are 2 books. Under the table, there are shoes. ข้ันที่ 2 Presentation ครูและนกั เรียนศกึ ษาคาํ อธิบายเกี่ยวกบั การใช้ a – an – the, plural nouns (regular plurals/irregular plurals), there is / there are (all forms) รวมท้งั Hot Tip! ในหนงั สือเรียน หนา้ 34-35 ร่วมกนั โดยครู ทาํ หนา้ ทช่ี ้ีแนะ พร้อมท้งั ยกตวั อยา่ งประโยคเพมิ่ เติม เพอื่ ใหน้ กั เรียนสามารถสรุปหลกั ไวยากรณ์จาก ตวั อยา่ งประโยคท่ใี หม้ าได้ Articles: a - an - the Answers the a / an a an 110

Hot Tip!A หรือ an? ใหค้ ิดถึงเสียงของคาํ ศพั ท์เราใช้ a หนา้ คาํ นามทีข่ ้ึนตน้ ดว้ ยพยญั ชนะ h เช่น a hostelเราใช้ an หนา้ คาํ นามท่ีข้นึ ตน้ ดว้ ย h แตพ่ ยญั ชนะ h ไมอ่ อกเสียง เช่น an hourคาํ นามอยา่ ง MP3 ตวั อกั ษรตวั แรกเป็ นพยญั ชนะ แต่ในการออกเสียงน้นั ออกเสียงเป็ นเสียงสระ(em-pi-three) ดงั น้นั จึงใช้ an นาํ หนา้ คาํ วา่ MP3 ดงั น้ี an MP3 Plural nouns (2) Regular plurals Answers bedrooms CDs parties telephones We usually add s to form plural nouns. For nouns ending in consonant + y, we change the y to i and add es. We add es to nouns ending in s, ss, ch, sh, x and o. Irregular plurals Answers two mice foot - feet tooth - teeth person - people man - men woman - women child - children 111

there is…/ there are… Answers: There’s There isn’t There aren’t Is there…? / Are there…? and short answers Answers Is / Are Yes, there is. / No, there isn’t. Yes, there are. / No, there aren’t.ข้ันที่ 3 Practice ครูใหน้ กั เรียนทาํ กิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 34-35 Exs.1-5 ปากเปล่าร่วมกนั ในช้นั เรียน และอาจ ใหน้ กั เรียนกลบั ไปเขยี นลงในสมุดเป็ นการบา้ นอีกคร้งั หน่ึง เพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียน Exercise 1 Answers 1. a, the 2. a 3. an 4. the 5. anPersonal Toolkit  Grammar หน้า 13-14Exercise 2 2. knives 3. DVDsAnswers 5. matches 6. cities1. foxes4. printers 112

Exercise 3 2. The children are from America.Answers 4. Look at my feet!1. My teeth are white.3. The women are beautiful.Personal Toolkit  Grammar หน้า 15Exercise 4 2. There are 3. There aren’t 4. There isAnswers1. There isn’t 2. Are there 3. Is there 4. Is thereExercise 5Answers1. Are thereข้นั ที่ 4 Production 1. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั สรุปสิ่งท่ีไดเ้ รียนรู้ในบทเรียนน้ีร่วมกนั จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่ ช่วยกนั แตง่ ประโยคโดยใชโ้ ครงสรา้ งภาษาทเ่ี รียน อยา่ งนอ้ ยโครงสร้างละ 5 ประโยค ครูสงั เกตขณะนกั เรียน ทาํ กิจกรรม เสร็จแลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน 3-5 คู่ ออกมานาํ เสนอที่หนา้ ช้นั เรียน 2. นกั เรียนทาํ งานคู่ โดยใหเ้ วลานกั เรียนแต่งบทสนทนาเพอื่ เตรียมพดู แนะนาํ เก่ียวกบั หอ้ งตา่ งๆ ใน โรงเรียนใหผ้ ปู้ กครองของตนเองดู โดยใชบ้ ทสนทนาในหนงั สือเรียน หนา้ 30 เป็ นตน้ แบบ ถา้ ในโรงเรียนมีกลอ้ งวดิ ีโอ ครูอาจนาํ มาใหน้ กั เรียนใชถ้ ่ายทาํ การพดู นาํ เสนอของตนเองจริงๆ ดว้ ย ก็ได้ เพอื่ ใหน้ กั เรียนรูส้ ึกกระตือรือร้นและจริงจงั ในการพดู นาํ เสนอ 3. นกั เรียนทาํ กิจกรรมในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 22-23 Exs.1-7 เป็ นการบา้ น 4. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนทาํ กิจกรรมในแบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 24-25 ในหอ้ งเรียนหรือเป็ น การบา้ น 113

7. การวดั และประเมนิ ผลวธิ ีการวดั เคร่ืองมอื เกณฑ์ตรวจงานเขียน - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ประเมินการพดู แนะนาํ โรงเรียน แบบประเมินการพดู แนะนาํ โรงเรียน รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ตรวจแบบฝึ กหดั แบบฝึกหดั (Workbook) ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตความมุ่งมน่ั ในการทาํ งาน แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 หนงั สือเรียน Team Up in English 1 ม.1 8.2 แบบฝึกหดั Team Up in English 1 ม.1 8.3 Personal Toolkit 8.4 Student’s Audio CD 114

Skills (Workbook pp. 24-25)ทบทวนคาํ ศพั ทเ์ กี่ยวกบั ส่ิงของและหอ้ งทนี่ กั เรียนเคยไดเ้ รียนมาแลว้ ดว้ ยการแบ่งนกั เรียนเป็ น 2 ทมีแต่ละทมี ผลดั กนั ส่งตวั แทนออกมาเล่นเกม Spelling Bee โดยครูจะพดู คาํ ศพั ท์ แลว้ ใหน้ กั เรียนสะกดคาํ ศพั ท์ดงั กล่าวใหถ้ ูกตอ้ ง ทีมทีต่ วั แทนสามารถสะกดคาํ ศพั ทไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง จะได้ 1 คะแนน สุดทา้ ย ทีมใดท่ไี ดค้ ะแนนมากทส่ี ุดจะเป็นทมี ทีช่ นะ Wordlist: attic, bathroom, bedroom, dining room, fridge, games room, house, kitchen, knife, living room, printer, shower, wardrobeListening 1. นกั เรียนทาํ กิจกรรมในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 24 Ex.1 ซ่ึงเป็นกิจกรรมนาํ เขา้ สู่การฟัง ดว้ ย การดูภาพทใ่ี หม้ าใน Ex.2 เพอื่ ใหน้ กั เรียนเดาเน้ือหาท่นี ่าจะไดย้ นิ จากกิจกรรมการฟัง 2. นกั เรียนทาํ กิจกรรมในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 24 Ex.2 นกั เรียนฟัง Student’s Audio CD/ Track 11 อยา่ งนอ้ ย 2-3 คร้งั คร้ังแรกใหฟ้ ังเพยี งอยา่ งเดียว คร้งั ที่ 2 ใหฟ้ ังและเลือกคาํ ตอบทถี่ ูกตอ้ ง คร้งั ท่ีสามใหฟ้ ังและตรวจทานคาํ ตอบของตนเองอีกคร้ังStudy Tip นกั เรียนอ่านขอ้ มูลใน Study Tip ในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 24 ซ่ึงเป็ นเร่ืองเก่ียวกบั การใช้ แผนผงั เพอื่ ช่วยในการจดจาํ คาํ ศพั ทแ์ บบเป็ นหมวดหมู่ ซ่ึงจะทาํ ใหจ้ ดจาํ คาํ ศพั ทใ์ หม่ๆ ไดง้ ่ายข้นึReading 1. นกั เรียนทาํ กิจกรรมในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 25 Ex.3 ซ่ึงเป็ นกิจกรรมนาํ เขา้ สู่กิจกรรม การอ่าน ดว้ ยการใหน้ กั เรียนดูภาพใน Ex.4 แลว้ ตอบคาํ ถามวา่ หอ้ งของนกั เรียนเหมือนหรือแตกต่าง จากหอ้ งในภาพเหล่าน้ี 2. นกั เรียนอ่านบทอ่านในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 25 Ex.4 จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คูภ่ าพ 1-3 กบั บทอ่านที่ใหม้ า โดยนาํ ชื่อของบุคคลเตมิ ลงในภาพทส่ี มั พนั ธก์ นั ต่อมาใหน้ กั เรียนฟัง Student’s Audio CD/Track 12 และฝึกอ่านบทอ่านตาม CD ไปดว้ ย 3. นกั เรียนอ่านประโยคท่ใี หม้ าในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 25 Ex.5 แลว้ พจิ ารณาวา่ ประโยค ดงั กล่าวถูกหรือผดิ จากบทอ่านใน Ex.4 115

Writing and Speaking 1. นกั เรียนทาํ กิจกรรมในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 25 Ex.6 แตง่ ประโยคเกี่ยวกบั หอ้ งนอนของ ตนเอง 4 ประโยคลงในสมุด โดยใชโ้ ครงสร้างภาษาทเ่ี รียน 2. นกั เรียนทาํ กิจกรรมในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 25 Ex.7 โดยใหน้ กั เรียนคิดเกี่ยวกบั หอ้ งในฝัน ของตนเอง จากน้นั วาดภาพและเขยี นบรรยาย เพื่อนาํ ขอ้ มูลมาใชใ้ นการพดู นาํ เสนอใหเ้ พอื่ นฟัง ก่อนใหน้ กั เรียนพดู บรรยายหอ้ งของตนเองใหเ้ พ่ือนฟัง ครูและนกั เรียนช่วยกนั สรุปบนกระดาน เกี่ยวกบั โครงสร้างประโยคและคาํ ศพั ทท์ ่จี าํ เป็ นตอ้ งใชใ้ นการทาํ กิจกรรมน้ี ครูเขียนสรุปใหน้ กั เรียน ดูบนกระดาน 116

Curiosity Corner เวลา 2 ช่ัวโมง ครูอธิบายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจวา่ ใน Curiosity Corner นกั เรียนจะไดเ้ รียนรูเ้ ร่ืองราวแปลกๆ และ น่าสนใจของเจา้ ของภาษา เก่ียวกบั วฒั นธรรมทางภาษา ความเช่ือ คาํ กล่าว จากน้นั ครูออกเสียงคาํ วา่ curiosity ใหน้ กั เรียนออกเสียงตามหลายๆ คร้งั และใหน้ กั เรียนฝึกพดู ตาม Curiosity [ˌkjʊəriˈɒsəti]1. Rhyme Time ครูอธิบายใหน้ กั เรียนทราบวา่ เพลงกล่อมเดก็ (nursery rhyme) สมยั ก่อนมกั ใชใ้ นการสอนเด็ก ใหน้ บั เลข และคาํ วา่ rhyme คอื เสียงสมั ผสั ในบทกวี เช่น boy – toy – enjoy ข้อมูลด้านวัฒนธรรม (Culture note) เพลงกล่อมเด็กขององั กฤษ (English nursery rhymes) ก็มีความคลา้ ยคลึงกบั เพลงกล่อมเดก็ ของประเทศอื่นทว่ั โลกทสี่ ะทอ้ นใหเ้ ห็น (อยา่ งนอ้ ยบางส่วน) เหตกุ ารณ์ในประวตั ิศาสตร์ แตเ่ ม่ือเวลาผา่ นพน้ ไป ที่มาเหล่าน้ีกลบั สูญหายไป บ่อยคร้ังที่เพลงกล่อมเด็กเหล่าน้ีถูกใชเ้ พอ่ื การลอ้ เลียนชนช้นั สูงในสมยั น้นั Jack and Jill, Humpty Dumpty and Hey diddle diddle ถือไดว้ า่ เป็นเพลงกล่อมเดก็ ทม่ี ีช่ือเสียงมากทส่ี ุด เพลงกล่อมเด็กเหล่าน้ี 1 บท จะมี 2 วรรค ซ่ึงสมั ผสั จะอยทู่ คี่ าํ สุดทา้ ยของวรรค และจะมีขนาดส้นั ทาํ ใหจ้ ดจาํ ไดง้ ่าย สามารถหาขอ้ มูลเพมิ่ เตมิ ไดท้ ่ี http://www.rhymex.org.uk จากน้นั ครูอ่านคาํ ที่ใหม้ าในหนังสือเรียน หน้า 36 Ex.1 โดยเนน้ การออกเสียงใหช้ ดั เจน แลว้ จึง กระตนุ้ ใหน้ กั เรียนพยายามเดาความหมายของคาํ ศพั ทเ์ หล่าน้ี ดว้ ยการบอกนิยาม ตอ่ มาครูอา่ นบทเพลงกลอ่ มเดก็ ทใ่ี หม้ า โดยเนน้ เสียงทต่ี วั เลขทา้ ยวรรค เพอื่ ช่วยนกั เรียนในการหาคาํ ท่มี ีเสียงสมั ผสั กนั เสร็จแลว้ ครูใหเ้ วลานกั เรียนเติมคาํ ทีข่ าดหายไป เม่ือนกั เรียนทาํ เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD1/Track 34 ใหน้ กั เรียนฟัง 2 คร้ัง คร้งั แรกใหฟ้ ังเพอ่ื ตรวจคาํ ตอบ และอีกคร้งั ใหฟ้ ังเพอ่ื ฝึก ออกเสียงตาม ถา้ มีเวลามากพอ ครูอาจแบง่ นกั เรียนออกเป็ น 2 กลุม่ กลุ่มแรกใหอ้ อกเสียงวรรคแรก ของเพลงกล่อมเด็กในแตล่ ะบท (1 บท มี 2 บรรทดั ) และอีกกลุ่มอ่านวรรคท่ี 2 ของแตล่ ะบท 117

Audio script and answerOne, two,buckle my shoethree, four,shut the doorfive, six,pick up sticksseven, eight,lay them straightnine, ten,a big fat henExtra Activities: ครูเขยี นคาํ ศพั ทต์ ่อไปน้ีบนกระดาน cat, red, pig, pop, car, sing แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกคาํ ท่มี ีเสียงสมั ผสั กบั คาํ เหล่าน้ี Cat Red _______________________ _______________________ ______________________________________________Pig Pop_______________________ ______________________________________________ _______________________ Sing______________________________________________Bat: bat, rat, fat, mat Red: bed, fed, wed Pig: wig, jig, digPop: mop, top, hop Sing: ring, king, wing2. Wordsearch ครูใหน้ กั เรียนทบทวนเกี่ยวกบั ช่ือประเทศท่นี กั เรียนเคยไดเ้ รียนมาแลว้ จากน้นั ใหเ้ วลานกั เรียน คน้ หาคาํ ศพั ทเ์ ก่ียวกบั ชื่อประเทศในตาราง Wordsearch ที่ใหม้ าในหนังสือเรียน หน้า 36 Ex.2 ครูแนะนาํ นกั เรียนวา่ ใหค้ น้ หาท้งั ในแนวนอนและแนวต้งั 118

Answers AU S T R A L I A TCA N A D A G B HE N G L A N D R EG E R M A N Y A UI T A L Y D A Z SFR A N C E Y I AI R E L A N D L SPA I NMA T E Audio script and answer Australians say G’day mate! when they meet a friend.3. Joke Time ใหน้ กั เรียนอ่าน joke ในหนังสือเรียน หน้า 36 Ex.3 และใหน้ กั เรียนช่วยกนั วเิ คราะห์การเล่นคาํ ครูอาจช่วยเหลือโดยอธิบายวา่ past simple ของคาํ กริยา eat คอื ate ซ่ึงมีการออกเสียงเช่นเดียวกบั เลข 8 (eight) จากน้นั ใหน้ กั เรียนพยายามคดิ joke ท่ีคลา้ ยกนั ในภาษาไทย โดยใชล้ กั ษณะการเล่นคาํ เช่นเดียวกบั ใน หนงั สือเรียน เช่น ตน้ อะไรมี 2 กอ (กก), น้าํ อะไรที่ไม่รู้ตก (น้าํ คา้ ง), อะไรเอ่ยอยกู่ ลางบา้ น (สระอา)4. Unlucky Numbers นกั เรียนทาํ กิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 36 Ex.4 โดยใหน้ กั เรียนอ่านบทอ่านตามครู ครูอธิบายวา่ คาํ วา่ triskaideka เป็นคาํ ทมี่ าจากภาษากรีก มีความหมายวา่ thirteen (tris = “3”, kai = “and”, deka = “10”) ส่วนคาํ วา่ phobia มีความหมายวา่ fear จากน้นั ใหน้ กั เรียนบอกความหมายของคาํ วา่ triskaidekaphobia และใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกเกีย่ วกบั ความเช่ือเก่ียวกบั การกลวั หมายเลข 13 ท่ี นกั เรียนเคยไดย้ นิ มา ตอ่ มาครูและนกั เรียนสนทนากนั เกี่ยวกบั ความเช่ือท่เี กี่ยวกบั ตวั เลขโชคดี และตวั เลขโชครา้ ยของ เจา้ ของภาษาและของประเทศไทย เสร็จแลว้ ครูอาจสรุปใหน้ กั เรียนฟังวา่ ในประเทศไทย ตวั เลข โชคดี และตวั เลขโชครา้ ย อาจจะไม่เด่นชดั เทา่ กบั ของต่างประเทศนกั แต่ตวั เลข 9 อาจจะเป็ น 119

ตวั เลขที่คนไทยนิยม และถือเป็นมงคล เน่ืองจากหลายคนเช่ือวา่ เลข 9 ออกเสียงทไี่ ปพอ้ งกบั คาํ วา่กา้ ว ซ่ึงหมายถึง กา้ วไปขา้ งหนา้ ส่งผลใหต้ วั เลข 9 กลายเป็ นเลขมงคลท่ีคนไทยนิยม ดงั จะเห็นได้จากทะเบยี นรถยนต์ เป็นตน้Note: ครูสามารถเปิ ดฟังการออกเสียงคาํ วา่ triskaidekaphobia ไดท้ ่ีhttp://www.howjsay.com/index.php?word=triskaidekaphobia5. Quiz – Lucky or Unlucky? นกั เรียนทาํ กิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 37 Ex.5 โดยใหน้ กั เรียนดูภาพ แลว้ ถามนกั เรียนวา่ เคยรู้ เรื่องราวเก่ียวกบั ความเชื่อเหล่าน้ีหรือไม่ จากน้นั ใหน้ กั เรียนอ่านประโยคตามครู แลว้ ครูกระตนุ้ ให้ นกั เรียนช่วยกนั อธิบายคาํ ศพั ทท์ ีจ่ าํ เป็ น Magpie (n) a black and white bird with a long tail and a noisy cry. There is a popular belief that magpies like to steal small bright objects. จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั พจิ ารณาวา่ สิ่งเหล่าน้ีเป็ นโชคดี หรือโชครา้ ย และเป็ นความเช่ือ ทเ่ี หมือนกบั ความเช่ือในประเทศของตนหรือไม่Answers 2. unlucky 3. unlucky, lucky1. unlucky 5. unlucky 6. lucky4. unluckyข้อมูลด้านวฒั นธรรม (Culture note)- อยา่ นาํ รองเทา้ ใหม่มาวางไวบ้ นโตะ๊ เพราะเชื่อวา่ จะนาํ โชคร้ายมาสู่ครอบครวั- แมวดาํ เดินตดั หนา้ จะโชครา้ ย- พบนกกางเขน (magpie) 1 ตวั จะโชครา้ ย พบนกกางเขน 2 ตวั จะโชคดีความเชื่อน้ีมาจากเพลงกลอ่ มเด็ก โดยใชจ้ าํ นวนของนกกางเขนท่ีพบเป็ นตวั บง่ ช้ีวา่ จะโชคดีหรือไม่ One for sorrow Two for joy Three for a girl Four for a boy Five for silver Six for gold Seven for a secret, never to be told Eight for a wish Nine for a kiss Ten for a bird you must not miss 120

- เดินลอดใตบ้ นั ไดจะนาํ โชครา้ ยมาให้ ความเช่ือน้ีบางคนวา่ มาจากการท่ีในสมยั ก่อนมี การแขวนคอนกั โทษ บรรดานกั โทษจะถูกแขวนคอจากข้นั บนสุดของบนั ได เชื่อกนั วา่ วญิ ญาณของพวกนกั โทษยงั คงหอ้ ยอยตู่ รงบริเวณน้นั เอง บางคนกว็ า่ บนั ไดทพ่ี าดกบั ผนงั ก่อใหเ้ กิดช่องรูปสามเหลี่ยม ซ่ึงเป็ นท่ีสิงสถิตของวญิ ญาณบริสุทธ์ิ การเดินลอด สามเหล่ียมเป็นการตดั ขาดชีวติ อนั บริสุทธ์ิและเป็ นการเปิ ดทางให้ ความชว่ั รา้ ยเขา้ มา- ทาํ กระจกแตกจะโชครา้ ยไป 7 ปี คนสมยั ก่อนเชื่อวา่ ภาพสะทอ้ นทเี่ ราเห็นในกระจกคือ วญิ ญาณของเรา กระจกทแี่ ตกจงึ เป็นการบอกวา่ วญิ ญาณของเราหลุดลอยไปในโลก- เคาะไมไ้ ล่อนั ตราย คนสมยั โบราณเช่ือวา่ ตน้ ไมเ้ ป็ นทส่ี ิงสถิตของเทพ ซ่ึงเราจะติดต่อ ดว้ ยการสมั ผสั ตน้ ไมน้ ้นั ในยคุ กลางคนบาปจะพน้ ภยั ทนั ทีทนี่ ้ิวกระทบประตโู บสถ์ ทมี่ า http://clver4leaf.exteen.com/20080506/entry http://en.wikipedia.org/wiki/One_for_Sorrow_(nursery_rhyme)6. Did you know? อ่านคาํ ถามในหนังสือเรียน หน้า 37 Ex.6 แลว้ ใหน้ กั เรียนดูภาพและเดาความหมายของคาํ วา่ ladybird และ spots จากน้นั ใหน้ กั เรียนลองเดาคาํ ตอบ โดยครูเขียนตวั เลขทน่ี กั เรียนตอบบนกระดาน จากน้นั จงึ เฉลยคาํ ตอบ ถา้ ไม่มีใครทายถูก ดว้ ยการใหน้ กั เรียนนบั จุดของเต่าทองในภาพท่ใี หม้ าใน หนงั สือเรียนAnswersA ladybird usually has 7 spots.7. English Sayings อ่านประโยคทางฝ่ังซา้ ยในหนังสือเรียน หน้า 37 Ex.7 และช่วยอธิบายคาํ ศพั ทบ์ างคาํ ทน่ี กั เรียนไม่รู้ ความหมาย เช่น castle, heart, up, down, sweet จากน้นั อภปิ รายร่วมกนั ในช้นั เรียนเกี่ยวกบั ความหมายของแต่ละสาํ นวน ต่อมาครูอา่ นประโยค A-D และอธิบายคาํ ศพั ทย์ าก เช่น downstairs, feel safe เป็นตน้ แลว้ จึงอธิบาย ตวั อยา่ งคาํ ตอบทใี่ หม้ า เสร็จแลว้ ครูใหเ้ วลานกั เรียนจบั คูป่ ระโยคกบั ความหมายAnswers 2. A 3. D1. C 121

เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนคดิ สาํ นวนภาษาไทยทม่ี ีความหมายใกลเ้ คยี งกบั สาํ นวนใน Ex.78. Revision นกั เรียนทบทวนส่ิงทีไ่ ดเ้ รียนรู้มาแลว้ ใน Units 1-3 ดว้ ยการทาํ กิจกรรมในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 26-29 หวั ขอ้ Revision Revision:  Tests and Resources: Reinforcement Worksheet Unit 3 Formative evaluation:  Tests and Resources: Test Unit 3สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ - หนงั สือเรียน Team Up in English 1 ม.1 - แบบฝึกหดั Team Up in English 1 ม.1 - Tests and Resources CD 122

Check Your Progress (Units 1-3) 1 ช่ัวโมงหนังสือเรียน หน้า 38-39 2. is 3. Is, isn’t 4. aren’t Exercise 1 6. Is, is 7. aren’t 8. isn’t Answers 1. are 5. ’m notExercise 2 2. Canada, Canadian 3. France, FrenchAnswers 5. Spain, Spanish1. Britain, British4. Japan, JapaneseExercise 3 2. They 3. My 4. she 5. YourAnswers1. HisExercise 4 2. eight 3. eleven 4. thirty 5. nineteenAnswers1. threeExercise 5Answers1. Is there an internet room?2. No, there isn’t.3. Are there mice in my bedroom?4. Yes, there are two mice!5. There are telephones in the bedrooms. 123

Exercise 6AnswersMy name’sold are youare you fromit isExercise 7 2. happy 3. tired 4. hotAnswers1. sadExercise 8Summative evaluation: Tests and Resources: Skills Test Units 1-3Extension: Tests and Resources: Grammar Extension 1-2 Tests and Resources: Personal Toolkit Worksheets 5-6 124