Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภาษาจีนเพื่อการสื่อสารเบื้องต้น 1.1

ภาษาจีนเพื่อการสื่อสารเบื้องต้น 1.1

Published by ปิยะมาศ พันพลูวงษ์, 2022-06-21 06:57:56

Description: ภาษาจีนเพื่อการสื่อสารเบื้องต้น 1.1

Search

Read the Text Version

คำนำ หลังจากประเทศไทยได้กา้ วเข้าสูก่ ารเปน็ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซยี น (AEC) เม่ือปี พ.ศ. 2558 ท่ีผา่ น มานัน้ “ ภาษา” ถือเปน็ กญุ แจสำคัญในการสื่อสารเพ่ือก่อเกดิ การแลกเปลยี่ น ดา้ นวัฒนธรรมการคา้ การลงทนุ และการบริการอืน่ ๆ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจนี เป็นประเทศหนึง่ ที่มีบทบาทสำคัญในเวทีโลก ส่งผลให้ภาษาจีนเป็น ภาษาหนึ่งที่ทั่วโลก รวมถึงประเทศในกลุ่มอาเซียน ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้โปรแกรมวิชา ภาษาจีน คณะมนุษยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั เชยี งราย ในฐานะทีเ่ ปน็ หน่วยงานดา้ นการจัดการศึกษาจึงได้ ตะหนักถงึ ความสำคญั ดงั กล่าวและได้มกี ารจดั ทำ“ เอกสารประกอบการสอนวิชาภาษาจนี เพื่อการส่ือสาร” ข้ึน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ประกอบการเรียนการสอนในรายวิชาการศึกษาทั่วไป ซึ่งได้ออกแบบเนื้อหามาเพื่อ มุ่งพัฒนาศักยภาพทักษะการสื่อสารภาษาจีนเบื้อต้นแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ภายใต้กรอบ และประเทศไทย 4.0 สู่ศตวรรษท่ี 21 คณะผูจ้ ดั ทำหวังเป็นอย่างยิ่งวา่ เอกสารประกอบการสอนฉบบั น้ีจะสามารถชว่ ยพัฒนาศักยภาพทักษะ การสื่อสารภาษาจีนให้แก่นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เพื่อประโยชน์ในการเตรียมความพร้อม ท้ัง ในด้านการทำงานและการดำเนินชวี ิตอย่างมปี ระสทิ ธิภาพต่อไปในอนาคต คณะผู้จดั ทำ พฤษภคม 2560

สารบญั บทท่ี 1 สทั อักษรภาษาจนี กลาง…………………………………………………………………………….2 องค์ประกอบสทั อกั ษรภาษากลาง………………………………………………………………2 กฎเฉพาะสำหรบั สทั อักษรภาษาจีนกลาง…………………………………………………….5 แบบฝกึ หัด……………………………………………………………………………………………….8 บทท่ี 2 ทกั ทาย คำศัพท…์ ………………………………………………………………………………………………..10 บทสนทนา………………………………………………………………………………………………11 เรยี นภาษาจนี จากรูปภาพ…………………………………………………………………………13 รปู แบบประโยค……………………………………………………………………………………….14 แบบฝึกหัด………………………………………………………………………………………………17

หนงั สือ รหสั วิขา GNE1204 ภาษาจีนเพ่ือการ ส่อื สารเบอ้ื งต้น +อ่าน +พิมพ์ ปกหนงั สอื คำนำ สารบญั บทของเนอื้ หา บรรณานกุ รรม https://reg2.crru - ปกออ่ น - บทท่ี1-บทท3ี่ -บทท1ี่ -บทท3่ี -เชน่ บทที่ 1 .ac.th/reg/files/2 -ตัวอยา่ งมจี ดุ : องค์ประกอบสัท 0170831102409 +พลิก -อาจารยโ์ ปรแกรมวชิ า บทท่ี 1: เร่ิมตน้ . . . . อักษรภาษาจีน _43b5b75aefc0 + อ่าน ภาษาจนี คณะมนษุ ย์ กลาง 8fbf5494d480c2 +.. พลิก + อ่าน 9bc4e6.pdf +พลิก + อ่าน +พลิก + อ่าน +อ่าน หน้าหนังสอื + -เนอ้ื หาแตล่ ะหนา้ รูปภาพ -ภาพ +พลกิ +ดู +อา่ น ตวั หนงั สอื -อักขระ -สะกด



2 第一章 汉语拼音 Dì yī zhāng hànyǔ pīnyīn สทั อกั ษรภาษาจนี กลาง เนือ่ งจากตวั อักษรจนี เปน็ ตัวอกั ษรที่เร่ิมต้นมาจากวาดภาพละววิ ัฒนาการเร่ือยมาจนเป็นตัวอักษรจนี ในปัจจุบัน โดยแตล่ ะขีด แตล่ ะเส้นของตัวอักษรจีนนัน้ ไม่สามารถนำมาผสมกันแล้วออกเสยี งเปน็ ภาษาจีนได้ ด้วยเหตนุ ้เี รา จึงจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้สัทอักษรภาษาจีนกลาง (拼音Pīnyīnพินอิน) เพื่อให้การเรียนการสอนภาษาจีนมี ประสิทธิภาพและสะดวกมากขึ้น ในปีค.ศ.1958 ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนจึงได้พัฒนาและประกาศใช้ ระบบการออกเสียงหรือสัทอักษร ที่เรียกว่า 汉语拼音 (hànyǔ pīnyīn) โดยดัดปลงมาจาก Interntional Phonetic Alphabets ซึ่งเปรียบเสมือนเครื่องมือที่ใชในการเรียนภาษาจีนให้ประสบ ความสำเรจ็ 一、 汉语拼音 hànyǔ pīnyīn องค์ประกอบของสัทอักษรจีนกลาง (พนิ อนิ ) องค์ประกอบของพินอินมี 3 ส่วน ไดแ้ ก่ 声母 (พยัญชนะ) 韵母 (สระ) และ声调 (เสยี งวรรณยกุ ต์) 1.1 声母 Shēngmǔ เสียงพ(พยยัญญั ชชนนะะใน) สัทอักษรภาษาจนี กลางมี 21 เสียง โดยแบง่ ตามต้นกำเนดิ เสยี งได้ 7 กลุม่ ดงั น้ี 1 เสียงริมฝปี าก b p m เทยี บได้กบั เสียง ป พ ม 2 เสยี งฟนั แตะรมิ ฝปี าก f เทียบได้กับเสียง ฟ 3 เสยี งลน้ิ สว่ นหน้า d t n I เทยี บไดก้ บั เสียง ต ท น ล 4 เสยี งโครนลิน้ g kh เทียบได้กับเสียง ก ค ฮ 5 เสียงหนา้ ล้ิน j qx เทียบได้กับเสียง จ ช ซ 6 เสียงปลายลนิ้ -ฟัน z c s เทยี บได้กับเสยี ง จ ช ซ 7 เสยี งปลายลน้ิ -เพดานแข็ง zh ch sh r เทยี บได้กับเสียง จร ชร ซร ยร ** หมายเหตุ

3 พยัญชนะนอกจากที่กลา่ วมาขา่ งต้น 21 ตวั แล้วยังมีพยัญชนะกึง่ สระอีก 2 ตวั คือ y และ w ซ่งึ จะวาง ไว้หน้าที่ออกเสียงไดโ้ ดยไมม่ ีพยัญชนะ เชน่ yao wo 1.2 韵母 Yùnmǔ สระ เสยี งสระในสทั อักษรภาษาจีนกลางแบ่งออกเป็นเสียงสระเด่ียว เสยี งสระผสม 1.2.1 เสียงสระเดย่ี วมี 6 เสยี ง ดงั นี้ ao e i u ü - i ě er 1.2.2 เสยี งสระผสมมี 12 เสยี ง ดงั น้ี ai ei ao ou ia ie ua uo iao iu(iou) uai ui(uei) üe 1.2.3 เสียงสระนาสกิ มี 16 เสียง ดังน้ี an en ang eng ong ian in ianging iong uan un(uen) uang ueng üan ün **หมายเหตุ - พยญั ชนะ z c s Zh ch sh r เม่อื ประผสมกับเสยี ง –I ใชอ้ า่ นออกเสยี งเป็นพยัญชนะตวั เดมิ เช่น zi ci si zhi chi shi ri - ในกรณที ีส่ ระ e ตามท้ายสระใดตัวหน่งึ จะออกเสยี งเปน็ สระ ê (เอ) แต่ในตอนเขียนให้ตัวสามเหลี่ยม ด้านบนทงิ้ ตัวอย่าง I + ê = ie ü + ê = üe - สระ cr เมอ่ื ทำหน้าทเี่ ปน็ สระตอ่ ทา้ ย จะเขยี นพนิ อินแค่ r เทา่ น้นั

4 1.3 声调 Shēngdiào วรรณยกุ ต์ วรรณยกุ ต์ในระบบสัทอักษรภาษาจนี มีทงั้ หมด 4 เสยี งโดย แตล่ ะเสียงจะใช้เครอ่ื งหมายวรรณยกุ ต์และมี ชื่อเรียกเฉพาะ แต่ ณ ที่นี้ จะขอเรียกว่าเสียงที่ 1 เสียงที่ 2 เสียงที่ 3 และเสียงท่ี 4 พร้อมทั้งอธิบาย เครือ่ งหมายแทนเสียงวรรณยกุ ตท์ งั้ 4 เสียง คอื เˇสียงหนง่ึ ˉ เสียงสอง / เสียงสาม ˇ เสยี งส่ี \\ ตารางแสดงการออกเสยี งพินอิน นอกจากเสียงวรรณยุกต์ทั้ง 4 เสียง ยังมีอีกหนึ่งเสียง ซึ่งไม่มีเครื่องหมายเสียงวรรณยุกต์กำกับ(ไม่ใส่ สญั ลักษณว์ รรยุกต์) เรียกเสยี งนว้ี ่า วรรณยกุ ต์ “เสยี งเบา” และเพ่อื ความสะดวกในการเรียนการสอน เราจึงได้ ทำการเปรียบเทยี บระหวา่ งเสสียงวรรณยกุ ตใ์ นสัทอกั ษรภาษาจีนกลางและเสยี งวรรณยกุ ต์ไทย ดงั น้ี การใสว่ รรณยุกต์ วรรณยุกตเ์ สยี ง เสยี งที่ 1 2 3 4 เสียงเบา วธิ เี ขียนปกติ ā á ǎà a เทยี บเสียงกบั วรรณยุกต์ไทย อา อา๋ อา่ อา้ อะ (สามัญ) (จตั วา) (เอก) (โท) ระดับเสียง 5-5 3-5 2-1-4 5-1 ออกเสยี งเบา เมื่อเราทราบถึงองค์ประกอบของสัทธอักษรภาษาจนี กลางแล้ว การนำพยัญชนะ สระและวรรณยุกต์ มา ผสมกัน หรือที่เรียกว่า การผสมคำ เป็นอีกหนึ่งกระบวนการที่สำคัญสำหรับการเรียนภาษาจีน วิธีการผสมมี ดงั ต่อไปน้ี

5 พยัญชนะ +สระ+เสียงวรรณยุกต์=เสียงของคำศพั ท์ ตวั อยา่ งการผสมคำ ตวั อย่างการผันเสียงตามวรรณยุกต์ q + i = qi qī qí qǐ qì j + ia = jia jiā jiá jiǎ jià t + eng = teng tēng t éng těng tèng I + iang = Iiang Iiāng Iiáng Iiǎng Iiàng o= wo wō wò Iao=yao yāo wó wǒ yào yáo yǎo 二,注意事项 zhùyi shixiàng กฎสำหรับสัทอกั ษรภาษาจนี กลาง(พินอนิ ) 2.1 标注声调 biāozhù shēngdiào การเตมิ วรรณยกุ ต์ การวางเครื่องหมายวรรณยุกต์ใหว้ างไวบ้ นสระหลกั ซ่งึ มี ao e i u ü 2.1,1 ตำแหนง่ การใส่เคร่อื งหมายวรรณยกุ ต์ จะใส่ไวต้ ามลำดบั สระท่เี รยี งไว้ข้างบน ถา้ ไมม่ ี a ให้มองหา o และ e ตามลำดับ เช่น běi (วางไวบ้ นตัว e เพราะ e มาก่อน i) 2.1.2 สระผสม iu หรอื ui ใหว้ างวรรณยกุ ตไ์ วท้ ีต่ ัวหลงั สุด diū huī 2.1.3 ในการเตมิ เสยี งวรรณยุกตต์ ้องบนตวั i น้ัน ให้ตัดจดุ บนตวั I ออกด้วย เชน่ bǐ 2.1.4 ในการเตมิ เสยี งวรรณยุกต์ตอ้ งบนตวั สระ ü ใหต้ ดั จดุ บนตวั ü เชน่ กนั yū qū xū 2.1.5 ในกรณที สี่ ระ i (รวมสระเด่ยี ว i) เปน็ พยางคต์ ามลำพัง โดยไมม่ ีพยญั ชนะให้ใช้พยัญชนะกงึ่ สระ y เตมิ หรอื แทนสระ i อย่างเชน่ i→yi ia-ya iao→yao ie→ye iou→you 2.1.6 ในกรณที ีส่ ระ ü (รวมสระเดย่ี ว ü) เปน็ พยางค์ตามลำพงั โดยไม่มีพยัญชนะ ใหใ้ ชพ้ ยัญชนะกง่ึ สระ y ไว้ อยขู่ ้างหน้า โดยต้องตดั จดุ ที่อยู่ขา้ งบนของüไปอยา่ งเช่น ui→yu üle→yue Ulan→yuan Un→yun

6 2.1.7 ในกรณที ่ีสระ u (รวมสระเด่ียว u) เปน็ พยางค์ตามลำพัง โดยไม่มพี ยญั ชนะให้ใช้พยญั ชนะกึ่งสระ w เตมิ หรอื แทนสระ u อยา่ งเชน่ u→wu ua→wa uo→Wo uai→ wai uei→ wei 2.1.8 ในกรณีทส่ี ระ ü (รวมสระเด่ยี ว ü) ประสมกบั พยญั ชนะ j q x ใหต้ ัดสองจุดท่ีอยบู่ น ของ ü ไป เชน่ J q x + ü → ju qu xu 2.1.9 ในกรณีทีส่ ระ ü ประสมกบั พยัญชนะ I n จะละสองจดุ ดังกลา่ วไม่ได้ เช่น n 1 + ü → lü nü 2.1.10 การลดรปู สระ iou uei uen เปน็ iu ui un (ตัดสระตัวกลางออก)จะกระทำได้ก็ตอ่ เม่ือจะต้อง มพี ยัญชนะอยู่ข้างหน้าสระ iou uei uen เช่น g+uci – gui Zh+uci - Zhui n+iou = niu d+iou = diu I+uen = Iun c+uen = cun Hàn yǔ p ī n y ī n 汉 语拼 音

7 2.2 变调 biàndido การเปล่ียนเสยี งวรรณยกุ ต์ 2.2.1 ในกรณที เี่ สยี ง 3 อยตู่ ิดกันก็ใหผ้ นั เสียงวรรณยกุ ตข์ องคำศัพท์ตวั แรกมาเป็นเสียง 2 เชน่ nǐhǎo ให้ออกเสียงเปน็ níhǎo แต่เวลาเขยี นให้คงรูปเดิมใว้ ถ้ามีวรรณยุกต์เสียง 3 ติดกนั สามตวั ก็ใหผ้ นั ตัวท่ี 2 เป็นเสียง 2 เชน่ wǒ hěn hǎo ให้ออกเสยี งเปน็ wǒ hěn hǎo 2.2.2 คำว่า “不bù” และ” 一yī “ในภาษาจีนกล่งจะมีการกลายเสียงเฉพาะ กล่าวคือ เมื่อ“不bù” และ” 一yī “ อยู่หนา้ พยางคเ์ สยี งสีห่ รอื พยางคเ์ สียงเบาที่กลายมาจากเสียงส่ี จะตอ้ งออกเสียงว่า“bù” และ” yī “ ตามลำดับ เชน่ bù shì 不是 yī gè 一个 แต่หากสองคำนอ้ี ยูห่ น้าพยางค์เสยี งหนึง่ เสียงสองและสาม ก็คงออกเสยี งเป็นเสยี งสต่ี ามเดิม “bú” และ “Y ì “ เช่น bù shuō 不说 bù lái 不来 bù hǎo 不好 yì tiǎn 一天 yìnián 一年 yì q ǐ 一起

8 二,课后练习 kèhòu liànxi แบบฝึกหดั 2.1 声调练习 เขยี นพินอนิ และวรรณยุกตท์ ่ีถูกต้องของคำศัพทต์ ่อไปน้ีและฝกึ อา่ นเสยี ง Mangu กรุงเทพมหานคร Qinglai เชยี งราย Qingmai เชยี งใหม่ Patiya พทั ยา Puji ภูเก็ต Kongjing ขอนแก่น Beijing ปักกง่ิ Shanghai เซย่ี งไฮ้ Yunnan ยนุ นาน Taiwan ไตห้ วัน Xianggong ฮ่องกง Aomen มาเก๊า 2.2 读一读 ฝึกอ่านบทสนทนาต่อไปนี้ A: Nihǎo! B: Nihǎo! A: Qǐng jìn! qǐng zuò! qing hēchá B: Xièxie

9

10 第二课:问候 dièrkè:wènhòu การทกั ทาย 1你 nǐ คณุ /เธอ 2我 wǒ ฉัน, ผม 3好 hǎo ดี(สบายดี) 4吗 ma ไหม/หรือเปล่า 5很 hěn มาก (คำศัพท์) 6呢 ne 7也 yě ละ 8叫 jiào ก็/ก็….เหมือนกัน/ก็……..เช่นกนั 9 老师 lǎoshī 10 您 nín ชื่อว่า 11 同学 tóngxué คร/ู อาจารย์ 12 高兴 gāoxing 13 认识 rènshi ทา่ น 14 谢谢 xièxie นักเรยี น (เพื่อนร่วมช้ัน) 15 再见 zàijiàn ยินดี/ดใี จ รจู้ กั ขอบคุณ/ขอบใจ แล้วเจอกนั /ลา่ ก่อน

11 二,情景对话 qíngjing duihuà บทสนทนา 对话(一)duihuà(yī)บทสนทนาที่ 1 宋猜 :你好! Sòngcāi :Nihảo! สมชาย : สวสั ดีครับ 马妮 :嗨!宋猜 Măni : Hài!sòngcãi. มณี : Hi,สมชาย 宋猜 :你好吗? Sòngcāi : Ni hǎo ma? สมชาย : เธอสบายดไี หม 马妮 :我很好,你呢? Măni :Wõ hěn hǎo,ni ne? มณี : ฉนั สบายดี แลว้ นายละ 宋猜 :我也很好。谢谢!再见! Sòngcāi : Wǒ Yě hěn hǎo. Xiè xie!zài jiàn! สมชาย : เราก็สบายดี ขอบใจนะ แลว้ เจอกนั 马妮 :再见! Măni :Zàijiàn! มณี : Bye

12 对话(二)duihuà(èr)บทสนทนาท่ี 2 A: 有没有字幕? 我怕听不懂。 มีคำบรรยายหรือเปลา่ ดิฉนั กลัวจะฟังไม่รเู้ ร่ือง B: 不会有问题的。ไม่มปี ญั หา อ.เถยี น: 咱们 เรา เปน็ ภาษาพูดมคี วามหมายเดียวกันกับคำว่า 我们 โจว: 咱们 อ.เถียน: 把เปน็ คำบุพบท รูปประโยคในการใช้คำว่า 把 คือ ประธาน + 把+ กรรม + คำกรยิ า อย่างเชน่ 咱们把手机关了吧。 โจว: 把 อ.เถียน: 手机โทรศัพทม์ ือถอื โจว: 手机 อ.เถียน: 关ปิด โจว: 关 อ.เถียน: 咱们把手机关了吧。 โจว: 咱们把手机关了吧。เราปิดมอื ถือกันนะคะ

13 三,看图学汉语 kàntú xuvé Hànyǔ เรยี นรภู้ าษาจีนจากรูปภาพ 爸爸 妈妈 bàba พ่อ māma แม่ 哥哥 姐姐 gēge พี่ชาย jiějie 弟弟 พ่ีสาว Dìdi น้องชาย 妹妹 mèimei น้องสาว

14 四,语法句型 jù xing รปู แบบประโยค 4.1 ประโยคบอกเล่า (陈述句) เชน่ 这 是 书。 Zhè shì shū. น่ี คอื หนังสือ 他 在 教室 里。 Tā zài jiàoshì lǐ. เขา อยู่ ในห้องเรียน 爸爸 回 来 了。 Bàba huí lái le. พอ่ กลับ มา แล้ว 东西 挺 贵 的。 Dōngxi tǐng guì de. ของ แพงมาก 4.2 ประโยคคำถาม (疑问句) เชน่ 你 是 谁? Nǐ shì shuí? คณุ เป็น ใคร 现在 几 点 了? Xiànzài jǐ diǎn le? ตอนน้ี ก่ี โมง แลว้ 你 在 哪儿 工作? Nǐ zài nǎ'er gōngzuò? คุณ ทำงานที่ไหน 他 来 不 来? Tā lái bù lái? เขา มา หรอื ไม่ มา

15 外面 下 雪 了 吗? Wàimiàn xià xuě le ma? ขา้ งนอก หิมะตก แลว้ หรอื ยงั 我 回 家 ,你 呢? Wǒ huí jiā, nǐ ne? ฉัน กลบั บ้าน คุณ ละ่ 4.3 ประโยคขอร้องหรือส่งั การ (祈使句) เชน่ 请 进! Qǐng jìn! เชิญ เขา้ มา 快 起 来! Kuài qǐ lái! รีบ ลุกขน้ึ มา 好 好儿 休息! Hǎo hǎo er xiūxí! พักผอ่ นใหด้ ีๆนะ 咱们 走 吧! Zánmen zǒu ba! พวกเรา ไป กนั เถอะ 4.4 ประโยคอุทาน (感叹句)เช่น 太 好 了! Tài hǎo le! ดเี กินไป 她 心 真 好! Tā xīn zhēn hǎo! หลอ่ น ใจดีจรงิ ๆ 景色 多么 美丽 啊! Jǐngsè duōme měilì a! ทวิ ทศั น์ ชา่ งสวยงามเสยี นก่ี ระไร

16 5. ประโยคตามลกั ษณะโครงสรา้ ง แบ่งออกเปน็ 2 ประเภทดงั น้ี เอกรรถประโยค (单句) คือ ประโยคท่ีประกอบขึน้ มาด้วยคำอย่างนอ้ ยหนึง่ คำ และมีใจความสมบูรณ์ เช่น 读 下去! Dú xiàqù! อ่าน ต่อไป 农民 种地。 Nóngmín zhòng dì. ชาวนา ทำไร่ทำนา 家门口 有 一 个 水塘。 Jiā ménkǒu yǒu yīgè shuǐ táng. หนา้ บ้าน มี สระนำ้ สระหนงึ่ 明天 星期一。 Míngtiān xīngqí yī. พรุ่งน้ี วนั จนั ทร์ 那辆车真 漂亮! Nà liàng chē zhēn piàoliang! รถคนั นนั้ สวยจรงิ ๆ 6. อเนกรรถประโยค(复句 คือ ประโยคทป่ี ระกอบดว้ ยเอกรรถประโยคสองประโยคขึ้นไป เชน่ 我 读 书, 妹妹 看 电视。 Wǒ dú shū, mèimei kàn diànshì. ฉัน อา่ น หนังสือ นอ้ งสาว ดู โทรทศั น์ 车 来 了,咱们 上 车 吧! Chē lái le, zánmen shàng chē ba! รถ มา แลว้ พวกเรา ขน้ึ รถ กนั เถอะ 她 不 仅 长 得 很 漂亮, 而且 心灵手巧。 Tā bù jǐn zhǎng de hěn piàoliang, érqiě xīnlíng shǒuqiǎo. หลอ่ น ไม่เพียง หนา้ ตาสวย แตย่ ัง หวั ดีและเกง่ เร่ือง/ด้านงานฝีมืออีกด้วย

17 练 l i à n 习 แบบทดสอบก่อนเรยี น (1) 读 d ú 下 xià 面 mian 的 d e 拼 pīn 音 yīn 并 bìng 翻 fān 译 y ì 成 ché 泰 tài 语 y ǔ 。ให้อ่านพนิ อินข้างล่างนี ้ และแปลเป็นไทย ให้ถูกต้อง 1) xǐhuān 6) shànɡ wǎnɡ อ่านวา่ __________ อา่ นว่า ___________ แปลวา่ ___________ แปลวา่ ___________ 2) zàijiàn 7) liáotiān อ่านว่า ___________ อ่านวา่ ___________ แปลวา่ ___________ แปลวา่ ___________ 3) jiè shào 8) ɡuì xìnɡ อา่ นว่า ___________ อ่านวา่ ___________ แปลวา่ ___________ แปลว่า ________ 4) huān yínɡ 9) zàijiàn อา่ นวา่ ___________ อา่ นวา่ ___________ แปลวา่ ___________ แปลวา่ ___________ 5) zhènɡ zài 10) qǐnɡ wèn อา่ นว่า ___________ อ่านวา่ ___________ แปลวา่ ___________ แปลว่า _________

18 บรรณานกุ รม https://reg2.crru.ac.th/reg/files/20170831102409_43b5b75aefc08fbf5494d480c29bc 4e6.pdf?fbclid=IwAR2S7ErpY9wh0AGB5JwAnQXU1Jn-eNAZy6AtH_E2B78rvW- x41wfkLJY4Og file:///C:/Users/User/Downloads/%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8% 9D%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A0 %E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0 %B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%20%E0 %B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8 %99%202.pdf https://www.globish.co.th/blog/chinese-tips/150chinesevocabulary http://thai.cri.cn/424/2011/05/27/242s186769_1.htm https://www.facebook.com/notes/love- chinese/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8 %A7%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9 B%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E 0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B 8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99/492445880 783778/

19


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook