Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สหราชอาณาจักร(UK)

สหราชอาณาจักร(UK)

Published by Jarasporn Konta, 2018-08-15 00:16:06

Description: 4-11-23 จรัสพร ก้อนาตา สหราชอาณาจักร

Search

Read the Text Version

คำนำ รำยงำนฉบบั บนีจ้ ัดทำขนึ้ เพ่ือกำรศึกษำวิชำโครงงำนคอมพิวเตอร์บรู ณำกำรกับวชิ ำชีววทิ ยำศำสตร์ โดยผู้จัดทำได้ศึกษำ ค้นคว้ำ และรวบรวมเนือ้ หำเร่ืองของสหรำชอำณำจกั รไว้ในรำยงำนฉบับบนีแ้ ล้ว ซ่งึเป็ นเร่ืองท่ตี ้องศกึ ษำของนักเรียน ผู้จดั ทำจงึ ได้ทำโครงงำนนีข้ นึ้ มำเพ่อืสะดวกและง่ำยต่อกำรศกึ ษำ ทำให้ผู้อ่ำนไม่เบ่อื กบั เนือ้ หำเยอะๆ ผู้จดั ทำหวงั ว่ำ รำยงำนฉบบั นีจ้ ะเป็ นประโยชน์และสำมำรถอำนวยควำมสะดวกในกำรศกึ ษำโครงงำนสหรำชอำณำจักรต่อผู้ท่สี นใจศึกษำ หรือนำไปเป็ นแนวทำงในกำรศึกษำอ่ืนๆได้ หำกรำยงำนฉบับนีม้ ีข้อผิดพลำดประกำรใด คณะผู้จดั ทำกต็ ้องขออภยั ไว้ ณ ท่นี ีด้ ้วย นำงสำว จรัสพร ก้อนตำ ผู้จัดทำ

สหราชอาณาจักร สหราชอาณาจกั รบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ (องั กฤษ: United Kingdom ofGreat Britain and Northern Ireland) หรือโดยทว่ั ไปรู้จกั กนั วา่ สหราชอาณาจกั ร (องั กฤษ: United Kingdom: UK) และ บริเตน (Britain) เป็นรัฐเอกราชตงั้ อยนู่ อกชายฝ่ังตะวนั ตกเฉียงเหนือของยโุ รปภาคพืน้ ทวีป ประเทศนีป้ ระกอบด้วยเกาะบริเตนใหญ่ สว่ นตะวนั ออกเฉียงเหนือของเกาะไอร์แลนด์ และเกาะท่ีเลก็ กวา่ จานวนมาก ไอร์แลนด์เหนือเป็นเพียงสว่ นเดยี วของสหราชอาณาจกั รท่ีมีพรมแดนทางบกติดตอ่ กบั รัฐอ่ืน คือ ประเทศไอร์แลนด์ นอกเหนือจากนีแ้ ล้ว สหราชอาณาจกั รล้อมรอบด้วยมหาสมทุ รแอตแลนติกทางทิศตะวนั ตกและเหนือ ทะเลเหนือทางทิศตะวนั ออก ช่องแคบองั กฤษทางทิศใต้ และทะเลไอร์แลนด์ทางทิศตะวนั ตก รูปแบบการปกครองเป็นแบบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนญู โดยมีระบบรัฐสภา เมืองหลวงคือ กรุงลอนดอน ประกอบด้วยส่ีประเทศ คือ ประเทศองั กฤษ สกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ[2] สามประเทศหลงั นีไ้ ด้รับการถา่ ยโอนการบริหาร โดยมีอานาจแตกตา่ งกนั [3][4] ตงั้ อยู่ในเมืองหลวงของประเทศนนั้ ๆ คือ เอดินบะระ คาร์ดฟิ ฟ์ และเบลฟัสต์ตามลาดบั สว่ นเกิร์นซีย์เจอร์ซีย์ และเกาะแมนเป็นบริติชคราวน์ดีเพนเดนซี และมิใชส่ ว่ นหนง่ึ ของสหราชอาณาจกั ร[5]สหราชอาณาจกั รมีดนิ แดนโพ้นทะเล 14 แหง่ [6] ซง่ึ เป็นสงิ่ ท่ีเหลืออยขู่ องจกั รวรรดิองั กฤษ ซง่ึขณะท่ีรุ่งเรืองที่สดุ ในชว่ งปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 และต้นคริสต์ศตวรรษท่ี 20 นนั้ ครอบคลมุพืน้ ดินของโลกเกือบหนง่ึ ในสี่ และเป็นจกั รวรรดใิ หญ่ท่ีสดุ ในประวตั ิศาสตร์ อิทธิพลขององั กฤษยงั สามารถพบเหน็ ได้จากความแพร่หลายของภาษา วฒั นธรรมและระบบกฎหมายในอดีตอาณานิคมหลายแหง่

สหราชอาณาจกั รเป็นประเทศพฒั นาแล้ว และมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอนั ดบั ท่ี 7 ของโลก ตามคา่ ผลติ ภณั ฑ์มวลรวมภายในประเทศ ณ ราคาตลาด และเศรษฐกิจใหญ่เป็นอนั ดบั ที่ 8 ของโลก ตามความเทา่ เทียมของอานาจซอื ้ สหราชอาณาจกั รเป็นประเทศอตุ สาหกรรมประเทศแรกในโลก[7] และเป็นมหาอานาจอนั ดบั หนงึ่ ของโลกระหว่างคริสต์ศตวรรษท่ี 19 และต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20[8] สหราชอาณาจกั รยงั ถกู กลา่ วขานวา่ เป็นมหาอานาจและยงั มีอทิ ธิพลทางเศรษฐกิจ วฒั นธรรม ทหาร วทิ ยาศาสตร์และการเมืองระหวา่ งประเทศคอ่ นข้างมากอย่[ู 9][10] สหราชอาณาจกั รได้รับรองว่าเป็นรัฐอาวธุ นิวเคลยี ร์และมีรายจา่ ยทางทหารมากเป็นอนั ดบั ที่ 4 ของโลก[11] สหราชอาณาจกั รเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมน่ั คงแหง่ สหประชาชาตินบั แตส่ มยั ประชมุ แรกใน พ.ศ. 2489 และยงั เป็นสมาชิกสหภาพยโุ รป และองค์การกอ่ นหน้า คอื ประชาคมเศรษฐกิจยโุ รปตงั้ แต่ พ.ศ. 2516 นอกจากนี ้สหราชอาณาจกั รยงั เป็นสมาชิกเครือจกั รภพแห่งชาติ สภายโุ รป จี7 จี8 จี20 นาโต องค์การเพ่ือความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพฒั นา (OECD) และองค์การการค้าโลก ภมู ศิ ำสตร์พืน้ ท่ีทงั้ หมดของสหราชอาณาจกั รจะอยทู่ ่ีประมาณ 243,610 ตารางกิโลเมตร (94,060ตารางไมล์) ประเทศครอบคลมุ พนื ้ ท่ีสว่ นใหญ่ของหมเู่ กาะองั กฤษ.[12] หมเู่ กาะองั กฤษ รวมถงึ เกาะบริเตนใหญ่, เกาะไอร์แลนด์ และหมเู่ กาะขนาดเลก็ รอบๆ ประเทศอยรู่ ะหวา่ งตอนเหนือของมหาสมทุ รแอตแลนติกและทะเลเหนือ ที่มีชายฝ่ังตะวนั ออกเฉียงใต้อยภู่ ายใน 22 ไมล์ (35 กิโลเมตร) จากชายฝั่งทางตอนเหนือของ ฝรั่งเศส, ซงึ่จะถกู คนั่ ด้วยชอ่ งแคบองั กฤษ.[13] ในปี 1993, 10% ของสหราชอาณาจกั รเป็นป่ า,46% เป็นทงุ่ หญ้าเลยี ้ งสตั ว์ และ 25% เพื่อการเกษตร.[14] 'เดอะรอยลั กรีนิช หอดดู าวกรุงลอนดอน' กาหนดจดุ เส้นแวงแรกท่ีพาดผา่ นตาบล Greenwich

ภมู อิ ำกำศสหราชอาณาจกั รมีภมู ิอากาศเขตหนาว ที่มีปริมาณนา้ ฝนอดุ มสมบรู ณ์ตลอดทงั้ ปี .[13] อณุ หภมู ิแตกตา่ งกนั ไปตามฤดกู าล, ไมค่ อ่ ยลดลงต่ากวา่ -11 °C (12 °F) หรือเพม่ิ ขนึ ้ สงู กวา่ 35 °C(95 °F).[25] ลมแนท่ ศิ จะพดั จากทิศตะวนั ตกเฉียงใต้ และ นาพาอากาศเย็นออ่ นๆและเปี ยกชืน้ จากมหาสมทุ รแอตแลนตกิ ,[13] แม้วา่ ภาคตะวนั ออกที่สว่ นใหญ่จะถกู กาบงั จากลมนี.้เนื่องจากสว่ นใหญ่ ฝนจะตกทว่ั ภมู ิภาคตะวนั ตก, ด้านตะวนั ออกจงึ แห้งที่สดุ . กระแสนา้ ในมหาสมทุ รแอตแลนตกิ , ถกู ทาให้อนุ่ ด้วย Gulf Stream, นาฤดหู นาวออ่ นๆ; โดยเฉพาะอยา่ งยิ่ง ในภาคตะวนั ตก ที่ฤดหู นาวจะเปี ยกและจะมากยิ่งขนึ ้ สาหรับพนื ้ ที่สงู . ฤดรู ้อนจะอนุ่ ท่ีสดุ ในทิศตะวนั ออกเฉียงใต้ของ องั กฤษ, ที่อยใู่ กล้กบั แผน่ ดนิ ใหญ่ยโุ รป และเย็นที่สดุ ในภาคเหนือ. หิมะตกหนกั อาจเกิดขนึ ้ ในฤดหู นาวและต้นฤดใู บไม้ผลใิ นพนื ้ ท่ีสงู และบางครัง้ ทบั ถมลงไปลกึ มากหา่ งจากเนินเขา ประวัตศิ ำสตร์กอ่ นปี 1707 การตงั้ ถิ่นฐานของมนษุ ย์สมยั ใหมใ่ นดนิ แดนที่กาลงั จะกลายเป็นสหราชอาณาจกั รเกิดขนึ ้ ในชว่ งเริ่มต้นประมาณ 30,000 ปี ที่ผา่ นมา.[26] ในตอนท้ายของยคุ ก่อนประวตั ิศาสตร์ของภมู ภิ าคนี ้ประชากรคดิ วา่ จะได้เป็นเจ้าของ, ในพนื ้ ที่หลกั , วฒั นธรรมที่เรียกว่า เซลตกิ ท่ีโดดเด่ยี วท่ีประกอบไปด้วย Brythonic Britain และ Gaelic Ireland.[27] ชยั ชนะของโรมนั ,เริ่มต้นในปี ค.ศ. 43, และปกครองภาคใต้ของ สหราชอาณาจกั รอยู่ 400 ปี

ตามมาด้วยการบกุ รุกของตงั้ ถ่ินฐานโดย เจอร์มานิคแองโกลแซกซอน, เป็นการลดพืน้ ที่Brythonic สว่ นใหญ่บนดินแดนที่กาลงั จะกลายเป็นเวลส์และราชอาณาจกั รStrathclyde ยคุ ประวตั ศิ าสตร์.[28] สว่ นใหญ่ของภมู ภิ าคที่ตงั้ รกรากโดยแองโกลแอกซอน กลายเป็นปึกแผน่ หนงึ่ เดียวเป็นอาณาจกั รแหง่ องั กฤษในศตวรรษท่ี 10.[29] ในขณะเดียวกนั นกั พดู แหง่ Gaelic ทางตะวนั ตกเฉียงเหนือของสหราชอาณาจกั ร (ท่ีเช่ือมตอ่ ไปยงั ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือของไอร์แลนด์และสงสยั วา่ จะมีการอพยพมาจากที่นน่ั ในศตวรรษที่ 5)[30][31] รวมตวั กบั ชาว Picts ในการสร้างอาณาจกั รแหง่สกอตแลนด์ในศตวรรษที่ 9ในปี 1066 พวกนอร์มนั ส์บกุ รุกองั กฤษจากฝรั่งเศส และหลงั จากได้รับชยั ชนะ, ได้ยดึ สว่ นใหญ่ของเวลส์, เอาชนะพนื ้ ท่ีจานวนมากของไอร์แลนด์และได้รับเชิญไปตงั้ รกรากในสกอตแลนด์, เป็นนาระบบศกั ดนิ าไปให้แตล่ ะประเทศในรูปแบบของฝร่ังเศสตอนเหนือและวฒั นธรรมนอร์แมนฝรั่งเศส.[33] พวกชนชนั้ สงู ชาวนอร์แมนมีอิทธิพลอย่างมากตอ่ ,แตใ่ นท่ีสดุ ก็หลอมรวมกบั , แตล่ ะวฒั นธรรมท้องถ่ิน.[34] ตอ่ มา กษัตริย์องั กฤษยคุ กลางก็พิชิตเวลส์ได้อยา่ งสมบรู ณ์ และได้พยายามผนวกสกอตแลนด์แตไ่ มป่ ระสบความสาเร็จหลงั จากนนั้ สก็อตแลนด์ยงั คงรักษาความเป็นอิสระ แม้จะอยใู่ นความขดั แย้งอยา่ งตอ่ เนื่องกบั องั กฤษ ราชวงค์องั กฤษ, ผา่ นการถ่ายทอดมรดกของดินแดนท่ีสาคญั ในประเทศฝร่ังเศสและอ้างสทิ ธ์สาหรับมงกฏุ กษัตริย์ฝร่ังเศส, ยงั มีสว่ นร่วมอยา่ งมากในความขดั แย้งในประเทศฝร่ังเศส, ที่สะดดุ ตาท่ีสดุ คอื 'สงครามร้อยปี ', ในขณะที่ กษัตริย์แหง่ สก็อตเป็นพนั ธมิตรกบั ฝรั่งเศสในชว่ งเวลานนั้

ช่วงระยะเวลาท่ีทนั สมยั ตอนต้นได้เหน็ ความขดั แย้งทางศาสนาท่ีเกิดจาก 'การปฏิรูป' และ การเปิ ดตวั ของ คริสตจกั รโปรเตสแตนต์ในแตล่ ะประเทศ.[36] เวลส์ถกูรวมอยา่ งเตม็ ที่เข้ากบั 'อาณาจกั รแห่งองั กฤษ'[37] และไอร์แลนด์ถกู บญั ญตั ิให้เป็นอาณาจกั รสว่ นตวั ควบรวมกบั ราชวงค์องั กฤษ.[38] ในดนิ แดนที่กาลงั จะกลายเป็นไอร์แลนด์เหนือ, ดินแดนแหง่ ขนุ นาง Catholic Gaelic อสิ ระถกู ริบและถกู ยกให้กบั ผ้ตู งั้ ถิ่นฐานชาวโปรเตสแตนต์จากองั กฤษและสกอตแลนด์.[39]ใน 1603, ราชอาณาจกั รขององั กฤษ,สกอตแลนด์และไอร์แลนด์ถกู รวมเข้าด้วยกันในการรวมสว่ นตวั เมื่อกษัตริย์เจมส์ท่ีหกแห่งสก็อต, ที่สบื ทอดมงกฎุ แหง่ องั กฤษและไอร์แลนด์และย้ายพระราชวงั จากเอดนิ เบิร์กไปยงั กรุงลอนดอน; แตล่ ะประเทศยงั คงไมม่ ากกน็ ้อยเป็นองค์กรทางการเมืองท่ีแยกตา่ งหาก และยงั คงรักษาสถาบนั ทางการเมือง, กฎหมาย, และศาสนา ท่ีแยกตา่ งหาก.[40][41]ในชว่ งกลางศตวรรษท่ี 17, ทงั้ สามอาณาจกั รมีสว่ นเก่ียวข้องในชดุ ของสงครามท่ีตอ่ เน่ือง (รวมทงั้ สงครามกลางเมืององั กฤษ) ซงึ่ นาไปสกู่ ารล้มล้างสถาบนัพระมหากษัตริย์ชว่ั คราวและการจดั ตงั้ สาธารณรัฐรวมกนั ระยะสนั้ ของเครือจกั รภพองั กฤษสกอตแลนด์และไอร์แลนด์.[42][43]แม้วา่ ราชวงค์ถกู สถาปนาขนึ ้ มาใหม่, มนั ให้ความมนั่ ใจ (ด้วย ความรุ่งโรจน์ของการปฏิวตั ปิ ี 1688) วา่ , แตกตา่ งจากสว่ นที่เหลือของยโุ รป, สมบรู ณาญาสทิ ธิราชย์จะไม่เหนือกวา่ , และผ้ปู ฏิญาณตนวา่ เป็นคาทอลกิ จะไมข่ นึ ้ สบู่ ลั ลงั ก์ รัฐธรรมนญู องั กฤษจะพฒั นาบนพืน้ ฐานของระบอบราชวงค์รัฐธรรมนญู และระบบรัฐสภา.[44] ในชว่ งเวลานนั้ , โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในองั กฤษ, การพฒั นาของกาลงั ทหารเรือ ( และความสนใจในการเดินทางเพื่อการค้นพบ) นาไปสกู่ ารเข้ายดึ และการตงั้ ถิ่นฐานของอาณานิคมในตา่ งประเทศ โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ ในทวีปอเมริกาเหนือ

กำรเมืองกำรปกครองสหราชอาณาจกั รเป็นรัฐรวมกนั ภายใต้ระบอบรัฐธรรมนญู , Queen Elizabeth IIเป็นประมขุ แหง่ รัฐของสหราชอาณาจกั ร เช่นเดียวกบั พระมหากษัตริย์ของสิบห้าประเทศอื่นๆในเครือจกั รภพอสิ ระ. พระมหากษัตริย์มี \"สทิ ธิที่จะได้รับคาปรึกษา, สทิ ธิในการสง่ เสริม และสทิ ธิที่จะเตือน\".[85] สหราชอาณาจกั รเป็นหนง่ึ ในสีป่ ระเทศในโลกท่ีจะมีรัฐธรรมนญู ที่ไมไ่ ด้ถกู จดั ให้เป็นระบบ.[86][nb 1] รัฐธรรมนญู แหง่ สหราชอาณาจกั รจงึประกอบด้วยสว่ นใหญ่ ของคอลเลกชนั ของแหลง่ ท่ีมาท่ีถกู เขียนขนึ ้ แตกตา่ งกันโดยสนิ ้ เชิง,รวมทงั้ รัฐบญั ญตั ิ, กฎหมายจากคดที ี่ผ้พู พิ ากษาทาและสนธิสญั ญาระหว่างประเทศ,ร่วมกบั การประชมุ ตามรัฐธรรมนญู . ในขณะที่ ไมม่ ีความแตกตา่ งทางเทคนิคระหวา่ งรัฐบญั ญตั ิสามญั และ\"กฎหมายรัฐธรรมนญู \", รัฐสภาของสหราชอาณาจกั รสามารถดาเนินการ \"ปฏิรูปรัฐธรรมนญู \"ได้ง่ายโดยการผา่ น Acts of Parliament, และจงึ ทาให้มีอานาจทางการเมืองในการเปล่ียนแปลงหรือ ยกเลกิ เกือบทกุ องค์ประกอบท่ีเป็นลายลกั ษณ์อกั ษร หรือไมเ่ ป็นลายลกั ษณ์อกั ษรของ รัฐธรรมนญู .อยา่ งไรก็ตาม รัฐสภาไม่สามารถผา่ นกฎหมายอะไรท่ีรัฐสภาในอนาคตไมส่ ามารถเปลยี่ นแปลงได้ รัฐบำล สหราชอาณาจกั รมีรัฐบาลตามระบบรัฐสภา ที่มีพืน้ ฐานจากระบบเวสต์มนิ สเตอร์ท่ีถกู ทาตามอยา่ งทวั่ โลก: มรดกของจกั รวรรดอิ งั กฤษ. รัฐสภาแหง่ สหราชอาณาจกั รที่พบในพระราชวงั เวสต์มนิ สเตอร์มีสองสภา; สภาผ้แู ทนราษฎรท่ีมาจากการเลอื กตงั้ และสภาขนุ นางที่มาจากการแตง่ ตงั้ . กฎหมายทงั้ หมดที่ผา่ นจากสภาจะได้รับการลงพระปรมาภิไทยกอ่ นที่จะถกู นามาใช้

ตาแหนง่ ของนายกรัฐมนตรี, หวั หน้ารัฐบาล[88] ของสหราชอาณาจกั ร เป็นของบคุ คลที่สว่ นใหญ่มีแนวโน้มท่ีจะสงั่ ความเชื่อมน่ั ของสภาผ้แู ทนราษฎร; บคุ คลนีป้ กตจิ ะเป็ นผ้นู าของพรรคการเมืองหรือกลมุ่ ท่ีรวมกนั ของพรรคการเมืองท่ีมีจานวนที่นงั่ มากท่ีสดุ ในสภา. นายกรัฐมนตรีจะเลือกคณะรัฐมนตรีและพวกเขาจะได้รับการแตง่ ตงั้ อย่างเป็นทางการโดยพระมหากษัตริย์ในรูปแบบของรัฐบาลของสมเดจ็ พระราชินีฯ. โดยการประชมุ สมเดจ็ พระราชินีจะเคารพในการตดั สนิ ใจของนายกรัฐมนตรีของรัฐบาล นิตบิ ัญญัติ สามพรรคการเมืองใหญ่ของสหราชอาณาจกั ร ได้แก่ พรรคอนรุ ักษนิยม,พรรคแรงงาน, และพรรคเสรีนิยมประชาธิปไตย. ในระหวา่ งการเลอื กตงั้ ทวั่ ไปปี 2010, ทงั้ สามฝ่ ายชนะ 622 จาก 650 ท่ีนงั่ ท่ีมีอยใู่ นสภา[93][94] ท่ีนงั่ ท่ีเหลอื สว่ นใหญ่ชนะโดยพรรคการเมืองท่ีเข้าแขง่ ขนั ในการเลอื กตงั้ เฉพาะในบางสว่ นของสหราชอาณาจกั ร ได้แก่ พรรคสก็อตแหง่ ชาติ (สกอตแลนด์เทา่ นนั้ ); Plaid Cymru (เวลส์ เทา่ นนั้ ); และพรรคสหภาพประชาธิปไตย, พรรคสงั คมประชาธิปไตยและแรงงาน, พรรคสหภาพ Ulster และพรรค SinnFéin (ไอร์แลนด์เหนือเทา่ นนั้ แม้วา่ Sinn Féin ยงั แข่งขนั การเลอื กตงั้ ในสาธารณรัฐไอร์แลนด์อีกด้วย). เพ่ือให้สอดคล้องกบั นโยบายพรรค, สมาชิก Sinn Féin ที่ได้รับการเลือกตงั้ ของรัฐสภาจะไมเ่ คยเข้าร่วมการประชมุ สภาผ้แู ทนเพื่อพดู ในนามของประชาชนในเขตเลือกตงั้ ของพวกเขาเพราะต้องทาตามระเบยี บท่ีจะต้องทาพธิ ีสาบานตนตอ่ พระมหากษัตริย์.อยา่ งไรก็ตาม ห้า ส.ส. ของ Sinn Féin ในปัจจบุ นั ได้ใช้ประโยชน์ของสานกั งานและส่ิงอานวยความสะดวก อื่นๆ ที่มีใน Westminster.[95] สาหรับการเลอื กตงั้ รัฐสภายโุ รป,สหราชอาณาจกั รขณะนีม้ ี 72 สมาชิกท่ีได้รับเลือกตงั้ ในการเลอื กตงั้ แบบ 12 multi-member

กำรบริหำรแบบมอบอำนำจปกครอง สกอตแลนด์, เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ แต่ละประเทศมีรัฐบาลหรือผ้บู ริหารที่ได้รับอานาจของตวั เอง, นาโดยรัฐมนตรีคนแรก (หรือในกรณีของไอร์แลนด์เหนือ, รัฐมนตรีคนแรกในสองคนและรองรฐมนตรีคนแรก) และสภานิติบญั ญตั ิ (ระบบสภาเดียว) ท่ีได้รับมอบอานาจ. องั กฤษ, ซงึ่ เป็นประเทศท่ีใหญ่ที่สดุ ของสหราชอาณาจกั ร, ไมม่ ีการบริหารหรือสภานิตบิ ญั ญตั ิแบบรับมอบอานาจดงั กล่าว แตม่ ีการบริหารและการออกกฎหมายโดยตรงจากรัฐบาลสหราชอาณาจกั รและ รัฐสภาในทกุ ประเดน็สถานการณ์เช่นนีไ้ ด้ก่อให้เกิดสง่ิ ที่เรียกวา่ คาถาม West Lothian ซง่ึ เกี่ยวข้องในความจริงที่วา่ สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎรที่มาจากสก็อตแลนด์, เวลส์และไอร์แลนด์เหนือ สามารถลงคะแนน, บางครัง้ อยา่ งเดด็ ขาด,[97] ในเร่ืองที่มีผลเฉพาะกบั ประเทศองั กฤษ.[98]คณะกรรมการ แมค็ เคย์ รายงานในเรื่องนีใ้ นเดอื นมีนาคม 2013 แนะนาวา่ กฎหมายทงั้ หลายท่ีมีผลกระทบตอ่ ประเทศองั กฤษเทา่ นนั้ ท่ีควรจะต้องได้รับการสนบั สนนุ จากเสยี งสว่ นใหญ่ของ ส.ส. องั กฤษ[99]รัฐบาลและรัฐสภาสกอตแลนด์ มีอานาจกว้างขวางในเร่ืองใดๆที่ยงั ไมไ่ ด้รับการสงวนไว้เฉพาะเพ่อื รัฐสภาสหราชอาณาจกั ร, รวมทงั้ การศกึ ษา, การดแู ลสขุ ภาพ, กฎหมายสกอตและรัฐบาลท้องถิ่น.[100] ในชว่ งการเลอื กตงั้ 2011, SNP ชนะเลือกตงั้ และได้คะแนนเสียงสว่ นใหญ่โดยรวมในรัฐสภาสกอ็ ต ที่มีผ้นู า อเลก็ ซ์ Salmond เป็น รัฐมนตรีคนแรกของสกอตแลนด์.[101][102] ในปี 2012 สหราชอาณาจกั รและรัฐบาลสก็อตได้ลงนามใน'ข้อตกลงเอดนิ บะระ' ในการจดั ทาวาระของการลงประชามติเกี่ยวกบั ความเป็นอสิ ระของสก็อตแลนด์ในปี 2014

เขตกำรปกครองแตล่ ะประเทศของสหราชอาณาจกั รมีระบบการบริหารและการแบง่ เขตทางภมู ศิ าสตร์ของตวั เอง ที่มีต้นกาเนิดมกั จะก่อนวนั ที่กอ่ ตงั้ ของสหราชอาณาจกั รดงั นนั้ จงึ \"ไมม่ ีชนชนั้ ท่ีเป็นอนั เดยี วกนั ของหน่วยการบริหารท่ีครอบคลมุ ทงั้ สหราชอาณาจกั ร\".[134] จนกระทง่ั ศตวรรษที่ 19 จงึ มีการเปลย่ี นแปลงเพียงเลก็ น้อยกบั การเตรียมการเหลา่ นนั้ , แต่ ตงั้ แตน่ นั้ มาได้มีวิวฒั นาการอย่างตอ่ เน่ืองของบทบาทและหน้าท่ี.[135] การเปลยี่ นไมไ่ ด้เกิดขนึ ้ ในลกั ษณะท่ีเหมือนกนั และการกระจายอานาจให้กบั รัฐบาลท้องถิ่นของสกอตแลนด์, เวลส์และไอร์แลนด์เหนือหมายความวา่ การเปลี่ยนแปลงในอนาคตจะไมน่ า่ จะ เหมือนกนั เลยองค์กรของรัฐบาลท้องถ่ินในประเทศองั กฤษมีความซบั ซ้อน ท่ีมีการกระจายของหน้าที่ท่ีแตกตา่ งกนั ไปตามการเตรียมการในท้องถิ่น การออกกฎหมายที่เก่ียวข้องกบั รัฐบาลท้องถ่ินในประเทศองั กฤษ เป็นความรับผิดชอบของรัฐสภาสหราชอาณาจกั รและรัฐบาลแหง่ สหราชอาณาจกั ร เน่ืองจากประเทศองั กฤษไมม่ ีรัฐสภาที่กระจายอานาจออกไป เขตการปกครองย่อยบนชนั้ upper-tier ขององั กฤษเป็นพืน้ ท่ีสานกั งานรัฐบาล หรือภมู ภิ าคสานกั งานรัฐบาลสหภาพยโุ รป 9แหง่ .[136] หนง่ึ ในภมู ิภาค, มหานครลอนดอน, มีสภาและนายกเทศมนตรีที่มาจากการเลือกตงั้ โดยตรงตงั้ แตป่ ี 2000 ตอ่ มาจากการสนบั สนนุ ท่ีเป็นที่นิยมสาหรับข้อเสนอในการลงประชามติ

ประชำกรจากการสารวจสามะโนครัวของสหราชอาณาจกั รในเดอื นเมษายน พ.ศ. 2544 สหราชอาณาจกั รมีประชากร 58,789,194 คน โดยมากเป็นอนั ดบั ที่ 3 ของสหภาพยโุ รป และอนั ดบั 21 ของโลก ในปีพ.ศ. 2547 สานกั งานสถิติแหง่ ชาติประมาณการจานวนประชากรที่ 59,834,300 คน[224] และเพม่ิเป็น 60.2 ล้านคนในอีกสองปี ตอ่ มา โดยการเพิ่มจานวนประชากรสว่ นใหญ่มาจากการอพยพเข้าประเทศ อตั ราการเกิดที่สงู ขนึ ้ และอายขุ ยั ที่ยาวนานขนึ ้ [225]สหราชอาณาจกั รมีความหนาแน่นของประชากรสงู เป็นอนั ดบั ต้นๆของโลก ประมาณหนงึ่ ในสี่ของประชากรทงั้ หมดอาศยั อยใู่ นเขตตะวนั ออกเฉียงใต้ขององั กฤษ ซงึ่ มีสภาพทางเศรษฐกิจท่ีดี และสว่ นใหญ่เป็นเขตเมืองหรือชานเมือง[226] ประชากรประมาณ 7.5 ล้านคนอาศบั อยใู่ นกรุงลอนดอน[227] สหราชอาณาจกั รมีอตั ราการอา่ นออกเขียนได้ของประชากรสงู ถึง 99% เป็นผลมาจากการศกึ ษาของรัฐทวั่ ประเทศ[228] การศกึ ษาภาคบงั คบั มีสาหรับเดก็ อายตุ งั้ แต่ 5 ถงึ 16 ปี

ภำษำสหราชอาณาจกั รไมม่ ีภาษาทางการ ภาษาที่พดู กนั เป็นสว่ นใหญ่คอื ภาษาองั กฤษ[229]ซงึ่ เป็นภาษากลมุ่ เจอร์มานิกตะวนั ตก พฒั นามาจากภาษาองั กฤษเก่า ภาษาท้องถิ่นอ่ืนๆ ได้แกภ่ าษาสกอต และภาษากลมุ่ แกลกิ และบริทโทนิก (เป็นกลมุ่ ภาษายอ่ ยของกลมุ่ภาษาเคลตกิ ) เชน่ ภาษาเวลส์ ภาษาคอร์นิช ภาษาไอริช และภาษาสกอตติชแกลกิภาษาองั กฤษได้แพร่กระจายไปทวั่ โลก จากอทิ ธิพลของจกั รวรรดบิ ริเตนในอดตี และสหรัฐอเมริกาในปัจจบุ นั ทาให้ภาษาองั กฤษเป็นภาษาท่ีสองที่สอนกนั มากที่สดุ ในโลก[230] ภาษากลมุ่ เคลติกของสหราชอาณาจกั รก็มีพดู กนั ในกลมุ่ เลก็ ๆหลายแห่งในโลกเช่น ภาษาแกลิกในประเทศแคนาดา และภาษาเวลส์ในประเทศอาร์เจนตนิ าในระยะหลงั นี ้ผ้อู พยพ โดยเฉพาะจากประเทศในเครือจกั รภพ ได้นาภาษาอื่นหลายภาษาเข้ามาในสหราชอาณาจกั ร เช่น ภาษาคชุ ราต ภาษาฮินดี ภาษาปัญจาบ ภาษาอรู ดู ภาษาเบงกาลี ภาษาจีนกวางต้งุ ภาษาตรุ กี และภาษาโปแลนด์ โดยสหราชอาณาจกั รมีจานวนผ้พู ดู ภาษาฮินดี ปัญจาบ และเบงกาลีสงู ท่ีสดุ นอกทวีปเอเชีย ศำสนำ คริสต์ศาสนาเข้าสเู่ กาะบริเตนครัง้ แรกโดยชาวโรมนั ปัจจบุ นั สหราชอาณาจกั รยงั คงมีสถานะเป็นประเทศคริสต์อยา่ งเป็นทางการ พระประมขุ จะต้องเป็นผู้นบั ถือคริสต์ศาสนา และสถาปนาโดยอาร์ชบชิ อปแหง่ แคนเทอร์เบอรีในเวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ ร้อยละ 72 ของประชากรในสหราชอาณาจกั รประกาศตวั เป็นคริสต์ศาสนิกชน[231] แตล่ ะชาติในสหราชอาณาจกั รมีขนบธรรมเนียมทางศาสนาของตนเอง

บรรณำนุกรมth.wikipedia.org/wiki/สหราชอาณาจกั ร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook