Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือนักศึกษาหน่วยที่ 1 คุณลักษณะสมบัติของเครื่องกลไฟฟ้ากระแสตรง

คู่มือนักศึกษาหน่วยที่ 1 คุณลักษณะสมบัติของเครื่องกลไฟฟ้ากระแสตรง

Published by beauzipannika, 2021-10-13 12:59:44

Description: เรื่องที่ 1.1 โครงสร้างของเครื่องกลไฟฟ้ากระแสตรง

Search

Read the Text Version

คู่มือนักศึกษาหน่วยที่ 1 คุณลักษณะสมบัติของเครื่องกลไฟฟ้ากระแสตรง เรื่องที่ 1.1 โครงสร้างของเครื่องกล ไฟฟ้ากระแสตรง นายคมสัน กลางแท่น วิชา เครื่องกลไฟฟ้า 1 ชุดการสอนวิชาเครื่องกลไฟฟ้า 1 (3104-2002) สำหรับนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พ.ศ. 2563

เครื่องกลไฟฟ้ากระแสตรง ความหมายของเครื่องกลไฟฟ้ากระแสตรง (Meaning of dc Machine) 1) มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง หมายถึง เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่เปลี่ยน พลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานกล 2) เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง หมายถึง เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ เปลี่ยนพลังงานกลให้เป็นพลังงานไฟฟ้า

เครื่องกลไฟฟ้ากระแสตรง เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง พลังงานไฟฟ้า มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง DC Generator พลังงานกล DC Motor

ส่วนประกอบของเครื่องกลไฟฟ้ากระแสตรง เครื่องกลไฟฟ้ากระแสตรงแบ่งได้ 2 แบบ คือ เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรงและมอเตอร์ ไฟฟ้ากระแสตรง ต่างก็มีส่วนประกอบที่เหมือน กัน อาจมีสิ่งที่แตกต่างกันบ้างเช่น กรอบโครง ภายนอก คือ ถ้าเป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าอาจมี โครงกรอบแบบเปิดเพื่อระบายความร้อน แต่ถ้า เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าโครงจะเป็นแบบปิด เพื่อกัน ฝุ่นละอองจากภายนอก แต่จำเป็นต้องมีรู ระบายความร้อนที่ฝาครอบ ทั้ง 2 ข้าง

โครงสร้างของเครื่องกล ไฟฟ้ากระแสตรง ส่วนอยู่กับที่ ส่วนเคลื่อนที่ เปลือกหรือโครง แกนเหล็กอาร์เมเจอร์ ขดลวดอาร์เมเจอร์ ขั้วแม่เหล็ก ขดลวดสนามแม่เหล็ก คอมมิวเตเตอร์ แปรงถ่านและชุดยึดแปรงถ่าน

หน้าที่ของส่วนประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง ส่วนที่อยู่กับที่ ก) เปลือกหรือโครง (Frame oryoke) เป็นส่วนที่ทำหน้าที่ยึดแกนของขั้วแม่เหล็กฝาครอบเครื่อง และส่วนที่อยู่กับที่นอกจากนั้นยังใช้เป็นทางเดินของสนามแม่เหล็กเพื่อให้เส้นแรงแม่เหล็กเดินครบ วงจร แสดงฝาครอบด้านหน้า เปลือกหรือโครง และฝาครอบด้านหลังของเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง

หน้าที่ของส่วนประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง ส่วนที่อยู่กับที่ ปลายขั้วแม่เหล็ก แผ่นเหล็กอัด ข) แกนของขั้วแม่เหล็ก (Pole core) แกนขั้วแม่เหล็ก และโปลชู (poleshoe) ทำจากแผ่นเหล็ก ลามิเนท (laminated sheetsteel) ส่วนประกอบที่สมบูรณ์ของชุดสร้าง ปั๊ มเป็นแกนของขั้วแม่เหล็กและโปลชูใน สนามแม่เหล็กและกรอบโครงของ แผ่นเดียวกันแล้วนำมาอัดติดกันเป็นแกน เครื่องกลไฟฟ้ากระแสตรง ขั้วแม่เหล็ก โปลชู คือส่วนที่ยื่นออกจาก ขอบทั้งสองบริเวณด้านหน้าของขั้วแม่ เหล็กและมีลักษณะโค้งงอตามความโค้ง ของแกนเหล็กอาร์เมเจอร์แกนของขั้วแม่ เหล็กทุกขั้วจะยึดติดกับโครงเครื่องด้วย สกรู

หน้าที่ของส่วนประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง ส่วนที่อยู่กับที่ ค) ขดลวดสนามแม่เหล็ก (Field coil or field winding) เป็นขดลวดทองแดงหุ้มฉนวน (ลวดตัวนำ) หรือ เรียกว่า ขดลวดฟิลด์คอยล์ พันรอบแกนขั้วแม่เหล็ก หลังจากพันด้วยฉนวนหรือหุ้มแถบผ้าฝ้ายอาบวานิชแล้วอบ แห้งเสร็จเรียบร้อย จึงนำไปสวมเข้ากับแกนของขั้วแม่เหล็ก

หน้าที่ของส่วนประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง ส่วนที่อยู่กับที่ ง) แปรงถ่าน (Brush) เป็นส่วนที่สัมผัสกับหน้าผิวคอมมิวเตเตอร์เพื่อต่อขดลวดอาร์เมเจอร์เข้ากับวงจร ภายนอก สามารถแบ่งออกได้ 3 ชนิด คือ แปรงถ่านคาร์บอน ใช้ในเครื่องกลไฟฟ้าขนาดเล็กและมีพิกัดกระแสต่ำ แปรงถ่านแกรไฟท์ ทำมาจากผงถ่านคาร์บอนและเพิ่มปริมาณความร้อน จึงเปลี่ยนสภาพเป็นแกรไฟท์ แปรงถ่านชนิดนี้มีคุณสมบัติที่ดีและนิยมใช้กันแพร่หลาย แปรงถ่านโลหะ ทำมาจากส่วนผสมของทองแดงและผงแกรไฟท์ แปรงถ่านชนิดใช้ได้ดีกับงานที่มีพิกัด กระแสสูงและแรงดันต่ำ แปรงถ่านคาร์บอนและสายทองแดง ฝอยตีเกลียวพร้อมขั้วต่อสาย

หน้าที่ของส่วนประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง ชุดยึดแปรงถ่าน (Brush holder spring) ทำหน้าที่ยึดแปรงถ่านให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม มีสปริง ทำหน้าที่กดแปรงถ่านให้สัมผัสกับผิวหน้าคอมมิวเตเตอร์ตลอดเวลา ชุดยึดแปรงถ่านประกอบด้วยซอง การติดตั้งชุดยึดแปรงถ่านเข้ากับ การติดตั้งชุดยึดแปรงถ่านเข้า แปรงถ่านและสปริงกดแปรงถ่าน ฝาครอบ แท่งตัวนำเครื่องกำเนิด ไฟฟ้ากระแสตรง

หน้าที่ของส่วนประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง ปริมาณกระแสต่อพื้นที่แปรงถ่านขึ้นอยู่กับชนิดของแปรงถ่านที่ใช้ ชุดยึดแปรงถ่าน แปรงถ่านคาร์บอนจะรับกระแสได้ 4 – 7 แอมแปร์ต่อตารางเซนติเมตร แปรงถ่าน แปรงถ่านแกรไฟท์จะรับกระแสได้ 8 – 12 แอมแปร์ต่อตารางเซนติเมตร เครื่องกลไฟฟ้าที่มีพิกัดสูงๆ จึงจำเป็นต้องเพิ่มจำนวนแปรงถ่านในแต่ละ ชุด โดยแปรงถ่านทุกอันจะนำมาติดตั้งเข้ากับแท่งตัวนำเดียวกันของร็อค เกอร์สามารถเลื่อนมุมได้และระหว่างแท่งตัวนำกับแขนของร็อคเกอร์จะต้อง ฉนวนไฟฟ้า มีฉนวนไฟฟ้ากั้น แท่งตัวนำ ร็อคเกอร์ติดตั้งเข้ากับแบริ่ง

หน้าที่ของส่วนประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง ก) กรณีหมุนกลับทิศทางได้ เครื่องกลไฟฟ้าที่มีการเปลี่ยนแปลงทิศการ ข) กำหนดทิศทางการหมุนทางเดียว หมุน แปรงถ่านจะต้องทำมุมตั้งฉากกับผิวหน้า คอมมิวเตเตอร์ การกำเนิดทิศทางการหมุนทาง เดียวจะต้องวางแปรงถ่านให้เอียงทำมุมกับผิว หน้าของคอมมิวเตเตอร์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ คุณลักษณะของแปรงถ่านที่ใช้โครงสร้างของ ชุดยึดแปรงถ่าน เครื่องกลไฟฟ้าหมุนในทิศทางตรงข้ามกับ ทิศทางที่กำหนดไว้ แปรงถ่านจะขยับขึ้นลง ตลอดเวลา ทำให้เกิดประกายไฟเสียงดังมากขึ้น เครื่องกลไฟฟ้ากระแสตรงจะหมุนทิศทางตาม เข็มนาฬิกามองจากด้านคอมมิวเตเตอร์

หน้าที่ของส่วนประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง ส่วนเคลื่อนที่ ก) แกนเหล็กอาร์เมเจอร์ (Armature core) ทำจากแผ่นเหล็กซิลิกอน ขนาดความหนา 0.35, 0.5 หรือ 0.7 มิลลิเมตร อาบด้วยฉนวนวานิชนำมาอัดซ้อนกันเป็นรูปทรงกระบอก เพื่อลดการสูญเสียเนื่องจากฮิสเตอรีซิส และกระแสไหลวนในแกนเหล็ก ผิวด้านนอกของทรงกระบอกจะทำเป็นร่องสล็อต (slot) เรียงตามแนวเส้นรอบ วงรอบนอกของแกนเหล็ก สำหรับพันขดลวดอาร์เมเจอร์ ภาพถ่ายของแกนเหล็กอาร์เมเจอร์ของเครื่องกล ไฟฟ้ากระแสตรง ซึ่งประกอบด้วยแกนเหล็กมีร่อง สล็อต (slot) สำหรับพันขดลวดเรียงตาม แนวเส้น รอบวงรอบนอก คอมมิวเตเตอร์ แกนเพลา และแบริ่ง

หน้าที่ของส่วนประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง ส่วนเคลื่อนที่ ข) ขดลวดอาร์เมเจอร์ (Armature winding) เป็นขดลวดทองแดงอาบฉนวนสำหรับเครื่องกลไฟฟ้าที่มีพิกัด กระแสไม่สูงนักจะใช้ลวดทองแดงที่มีพื้นที่หน้าตัดกลม สำหรับเครื่องกลไฟฟ้าที่มีพิกัดสูงๆ จะใช้ลวดทองแดงที่มี พื้นที่หน้าตัดสี่เหลี่ยมแบบแบน พันลงร่องสล็อต (slot) ของแกนเหล็กอาร์เมเจอร์ ซึ่งนิยมพันอยู่ 2 แบบ คือ แบบแลพหรือแบบเวฟ ปลายของขดลวดจะถูกต่อเข้ากับคอมมิวเตเตอร์ ขดลวดอาร์เมเจอร์

หน้าที่ของส่วนประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง ส่วนเคลื่อนที่ ภาพตัดแสดงส่วนประกอบภายในของคอมมิวเตเตอร์และภาพ แสดงซี่คอมมิวเตเตอร์ 1 ซี่ ค) คอมมิวเตเตอร์ (Commutator) เป็นส่วน สำหรับรองรับปลายสายทั้งหมดของขดลวดอาร์ เมเจอร์และทำหน้าที่เรียงกระแสหรือเปลี่ยนแรง เคลื่อนไฟฟ้ากระแสสลับที่เกิดขึ้นในขดลวดอาร์ เมเจอร์ให้เป็นแรงเคลื่อนไฟฟ้ากระแสตรง คอมมิว เตเตอร์ประกอบด้วย แท่งทองแดงหลายๆ แท่งมี ลักษณะคล้ายรูปลิ่มเพื่อให้สามารถนำมาประกอบ เข้าด้วยกันเป็นรูปทรงกระบอกโดยมีแผ่นฉนวน ไมก้า (mica) คั่นระหว่างซี่คอมมิวเตเตอร์ทุกๆซี่ ความหนาของซี่คอมมิวเตเตอร์ขึ้นอยู่กับขนาดและ พิกัดกำลังของเครื่อง การเชื่อมต่อปลายสายของ ขดลวดเข้ากับไรเซอร์ (riser) โครงสร้างภายใน ของคอมมิวเตเตอร์ และซี่คอมมิวเตเตอร์

การพันขดลวนอาร์เมเจอร์ อาร์เมเจอร์แบบวงแหวน อาร์เมเจอร์แบบดรัม (ปัจจุบันไม่นิยมใช้) แบบแลพ แบบเวฟ แบบซิมเพล็กซ์แลพ แบบซิมเพล็กซ์เวฟ แบบดูเพล็กซ์แลพ แบบดูเพล็กซ์เวฟ แบบทริพเพล็กซ์แลพ แบบทริพเพล็กซ์เวฟ

การพันขดลวดอาร์เมเจอร์ การพันขดลวดอาร์เมเจอร์ในเครื่องกลไฟฟ้ากระแสตรง แบ่งออกตาม ลักษณะอาร์เมเจอร์ได้ 2 แบบ คือ อาร์เมเจอร์แบบวงแหวน ในปัจจุบันไม่ นิยมใช้แล้ว และอาร์เมเจอร์แบบดรัม ซึ่งแบ่งได้ 2 แบบ คือ การพันแบบ แลพ (lap winding) และการพันแบบเวฟ (wave winding) ซึ่งการพัน ขดลวดอาร์เมเจอร์ทั้งสองแบบ จะให้พิกัดของแรงเคลื่อนไฟฟ้าและกระแส แตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะสมกับการนำเครื่องกลไฟฟ้าไปใช้งาน

การพันขดลวดอาร์เมเจอร์ การพันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบวงแหวน การพันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบวงแหวนในปัจจุบันไม่นิยมใช้แล้ว แต่มีไว้สำหรับศึกษาเกี่ยวกับ ทางขนานหรือทางไหลของกระแสในขดลวดอาร์เมเจอร์ซึ่งจะช่วยให้เห็นส่วนต่างๆ ของวงจร จากการพันแบบนี้ได้ชัดเจนกว่าและเข้าใจได้ง่ายกว่าการพันอาร์เมเจอร์แบบดรัม (drum armature) การพันขดลวดในอาร์เมเจอร์แบบวงแหวนใช้ลวดทองแดงหุ้มฉนวนพันรอบแก นอาร์เมเจอร์รูปวงแหวนเป็นลักษณะวงจรปิด มีจุดต่อแยกออกมาจากขดลวดเฉพาะที่จะต่อเข้า กับซี่คอมมิวเตเตอร์เท่านั้น เป็นพันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบวงแหวนชนิด 2 ขั้วเมื่อถูกขับให้ หมุนทิศทางตามเข็มนาฬิกาจะมีแรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยวนำเกิดขึ้นในขดที่มีทิศทางดังแสดงไว้ใน รูป จะมีทางไหลของกระแสจากแปรงถ่านลบผ่านขดลวดทั้งด้านซ้ายและขวาของอาร์เมเจอร์ไป ยัง แปรงถ่านบวก ทางที่กระแสไฟฟ้าไหลผ่านขดลวดอาร์เมเจอร์ จากแปรงถ่านลบไปยังแปรง ถ่านบวก เรียกว่า “ทางขนาน” (parallel path)

การพันขดลวดอาร์เมเจอร์ การพันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบวงแหวน ซึ่งมีอยู่สองทางซึ่งทางขนานทางแรกจะผ่านขดลวดทั้งหมดที่อยู่ด้านซ้ายของแปรงถ่านทั้งสอง และทางขนานที่สองจะผ่านขดลวดทั้งหมดที่อยู่ด้านขวามือของแปรงถ่านดังนั้นแรงเคลื่อน ไฟฟ้าที่เกิดขึ้นในขดลวดทั้งหมดของแต่ละทางขนานและจะไม่มีกระแสไหลวนเวียนในระหว่าง ทางขนานทั้งสองทั้งนี้เพราะว่า แรงเคลื่อนไฟฟ้าที่เกิดขึ้นในขดลวดของแต่ละทางขนานนั้นมีค่า เท่ากันและมีทิศทางตรงกันข้ามขดลวดของแต่ละทางขนานนั้นมีค่าเท่ากันและมีทิศทางตรงกัน ข้ามกันขดลวดของแต่ละทางขนานต่างก็ต่อขนานกันที่แปรงถ่านทั้งสองและมีสายไฟต่อจาก ปรงถ่านทั้งสองไปยังโหลด ถ้าสมมุติว่ามีกระแสไหลออกจากแปรงถ่านบวก 20แอมแปร์ กระแสดังกล่าวจะไหลผ่านโหลดแล้วไหลกับเข้าไปในแปรงถ่านลบ 20 แอมแปร์แล้วจะแยกไหล ผ่านขดลวดในแต่ละทางขนานเท่ากันคือ 10แอมแปร์

การพันขดลวดอาร์เมเจอร์ ก ข การพันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบวงแหวน เป็นวงจรสมมูลย์ของอาร์เมเจอร์สมมุติว่าให้เซลล์ไฟฟ้า 1 ตัวแทนแรงเคลื่อน ไฟฟ้าที่เกิดขึ้นในแต่ละตัวนำบนอาร์เมเจอร์ โดยกำหนดให้ Rs และ Rn เป็น ค่าความต้านทานภายในขดลวดอาร์เมเจอร์ในแต่ละสาขาการขนาน ค ก) การพันขดลวดรอบแกนเหล็กอาร์เมเจอร์รูปวงแหวน ข) แสดงทิศทางของแรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยวนำและกระแสในขดลวด อาร์เมเจอร์และคอมมิวเตเตอร์ของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบ 2 ขั้ว ค) วงจรสมมูลของขดลวดอาร์เมเจอร์

การพันขดลวดอาร์เมเจอร์ การพันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบดรัม การพันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบดรัมเป็นแบบที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายใน ปัจจุบันทั้งนี้เพราะว่าใช้จำนวนลวดตัวน้อยกว่าการพันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบ วงแหวนเมื่อพิกัดกำลังของเครื่องเท่ากัน การพันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบดรัม โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ แบบแลพ (lap winding) และแบบเวฟ (wave winding)ความแตกต่างของการพันทั้งสองแบบอยู่ที่การนำปลายสาย ทั้งสองข้างของขดลวดไปต่อกับซี่คอมมิวเตเตอร์

การพันขดลวดอาร์เมเจอร์ ก ข การพันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบดรัม การพันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบแลพ ก) เครื่องกลไฟฟ้ากระแสตรง มีขั้วแม่ เหล็ก 4 ขั้ว ข) แผนภาพอย่างง่ายของการพันขดลวด

การพันขดลวดอาร์เมเจอร์ การพันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบดรัม การพันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบแลพ การพันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบแลพหรือซิมเพล็กซ์แลพ ต้นสายและปลายสายของขดลวดอาร์เมเจอร์แต่ละขด จะต่อกับซี่คอมมิวเตเตอร์ที่อยู่ประชิดกัน การพันขดลวดอาร์เมเจอร์นี้แบ่งออกได้ ดังนี้ ก. แบบซิมเพล็กซ์แลพ (simplex lap winding) สรุป การพันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบแลพหรือซิมเพล็กซ์แลพ จำนวนทางขนานจะเท่าจำนวนขั้วแม่เหล็ก ข. แบบดูเพล็กซ์แลพ (duplex lap winding) สรุป การพันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบดูเพล็กซ์แลพ จำนวนทางขนานของขดลวดในอาร์เมเจอร์จะเป็นสองเท่า ของจำนวนขั้วแม่เหล็ก ค. แบบทริพเพล็กซ์แลพ (triplex lap winding) สรุป การพันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบทริพเพล็กซ์แลพ จำนวนทางขนานจะเป็นสามเท่าของจำนวนขั้วแม่เหล็ก

การพันขดลวดอาร์เมเจอร์ การพันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบดรัม การพันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบเวฟ การพันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบนี้ ยังแบ่งออกได้เช่นเดียวกันแบบแลพ คือ ก. แบบซิมเพล็กซ์เวฟ (simplxe wrvewinding) ข. แบบดูเพล็กซ์เวฟ (duplex wrvewinding) ค. แบบทริพเพล็กซ์เวฟ (triplex wrvewinding) ความแตกต่างระหว่างการพันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบแลพ และแบบเวฟอยู่ที่การต่อปลายสายทั้งสองของขด ลวดเข้ากับซี่คอมมิวเตเตอร์การพันขดลวดแบบแลพนั้นปลายทั้งสองของขดลวดจะต่อกับซี่คอมมิวเตเตอร์ที่อยู่ ใกล้กัน หรือประชิดกันแต่การพันแบบเวฟนั้นปลายทั้งสองของขดลวดจะต่อกับซี่คอมมิวเตเตอร์ที่อยู่ห่างกัน

การพันขดลวดอาร์เมเจอร์ การพันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบดรัม การพันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบเวฟ ก) เครื่องกลไฟฟ้ากระแสตรง มีขั้วแม่เหล็ก 4 ขั้ว ข) แผนภาพอย่างง่ายของการพันขดลวด เพื่อความสะดวกและเข้าใจง่ายจึงนำรูป ก. มาเขียนเป็น แผนภาพอย่างง่ายในรูป ข. จะสังเกตเห็นว่าการพันขดลวดแบบ เวฟ จะมีทางขนานเพียงสองทางเท่านั้น

สรุปการพันขดลวดอาร์เมเจอร์ A = mp สำหรับการพันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบแลพ เมื่อ A = จำนวนทางขนานขดลวดอาร์เมเจอร์ P = จำนานขั้วแม่เหล็ก m = 1 สำหรับการพันแบบซิมเพล็กซ์แลพ m = 2 สำหรับการพันแบบดูเพล็กซ์แลพ m = 3 สำหรับพันการแบบทริพเพล็กซ์แลพ

สรุปการพันขดลวดอาร์เมเจอร์ A= 2m สำหรับการพันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบเวฟ เมื่อ A ฃ= จำนวนทางขนานขดลวดอาร์เมเจอร์ m = 1 สำหรับการพันแบบซิมเพล็กซ์เวฟ m = 2 สำหรับการพันแบบดูเพล็กซ์เวฟ m = 3 สำหรับพันการแบบทริพเพล็กซ์เวฟ หมายเหตุ ทางขนานของการพันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบ เวฟไม่ต้องคำนึงถึงจำนวนขั้วแม่เหล็กของเครื่องกลไฟฟ้า

ตารางเปรียบเทียบแรงเคลื่อนไฟฟ้ากระแสและกำลังไฟฟ้าของการ พันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบต่างๆ ตารางเปรียบเทียบแรงเคลื่อนไฟฟ้า กระแสและกำลังไฟฟ้าที่เกิดขึ้นใน อาร์เมเจอร์ ของเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรงซึ่งมีจำนวนขั้วแม่เหล็ก 6 ขั้ว เมื่อพันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบซิมเพล็กซ์แลพ มีแรงเคลื่อนไฟฟ้าเกิด ขึ้น 300 โวลท์ และมีกระแสอาร์เมเจอร์ต็มพิกัด 120 แอมแปร์ มีพิกัด กำลังไฟฟ้า 36 กิโลวัตต์ โดยเปรียบเทียบกับการพันขดลวดอาร์เมเจอร์ แบบอื่นๆ รวม 6 แบบ คือ

ตารางเปรียบเทียบแรงเคลื่อนไฟฟ้ากระแสและกำลังไฟฟ้าของการ พันขดลวดอาร์เมเจอร์แบบต่างๆ