Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โวหารภาพพจน์

โวหารภาพพจน์

Published by rinradanaja000, 2021-02-22 06:48:36

Description: โวหารภาพพจน์

Search

Read the Text Version

Facebook : http://www.facebook.com/sciplk/

โวหารภาพพจน์ • โวหาร คือ การใชถ้ อ้ ยคาอยา่ งมีช้นั เชิง เป็นการแสดงขอ้ ความออกมาใน ทานองต่างๆ เพือ่ ใหข้ อ้ ความไดเ้ น้ือความดี มีความหมายแจ่มแจง้ เหมาะสมน่าฟัง ในการเขียนเร่ืองราวอาจใชโ้ วหารต่างๆ กนั แลว้ แต่ ชนิดของขอ้ ความ (สมถวิล วิเศษสมบตั ิ. ๒๕๔๔ : ๑๒๙) • โวหารภาพพจน์ คือ กลวิธีการนาเสนอสารโดยการพลิกแพลงภาษาทใ่ี ช้ พดู หรือเขียนใหแ้ ปลกออกไปจากภาษาตามตวั อกั ษรทาใหผ้ อู้ ่านเกิด ภาพในใจ เกิดความประทบั ใจ เกิดความรู้สึกสะเทือนใจ เป็นการ เปรียบเทียบใหเ้ ห็นภาพอยา่ งชดั เจน (รัตนา ศรี มงคล)

ประเภทของโวหารภาพพจน์ 1. อุปมาโวหาร (Simile) อุปมา คือ การเปรียบเทียบวา่ สิ่งหน่ึงเหมือนกบั สิ่งหน่ึงโดยใช้ คาเช่ือมที่มีความหมายเช่นเดียวกบั คาวา่ \" เหมือน \" เช่น ดุจ ดง่ั ราว ราวกบั เปรียบ ประดุจ เฉก เล่ห์ ปาน ประหน่ึง เพยี ง เพ้ียง พา่ ง ปูน ถนดั ละหมา้ ย เสมอ กล อยา่ ง ฯลฯ

อปุ มาอปุ ไมย อุปมาอุปไมย “อปุ มาอุปไมย” หมายถึง การเปรียบเทียบกนั ประกอบดว้ ยคาวา่ “อุปมา” กบั “อปุ ไมย” อปุ มา คือ สิ่งหรือขอ้ ความที่ยกมาเปรียบเทียบ อุปไมย คือ ส่ิงหรือขอ้ ความที่ถกู เปรียบเทียบ ตวั อยา่ งคาอุปมาอปุ ไมย 1. สวยราวนางฟ้า อปุ มา คือ “นางฟ้า” และ อปุ ไมย คือ “สวย” 2. ขมเหมือนบอระเพด็ อุปมา คือ “บอระเพด็ ” และ อปุ ไมย คือ “ขม” 3. ดุเหมือนเสือ อปุ มา คือ “เสือ” และ อปุ ไมย คือ “ดุ” 4. โง่เหมือนควาย อุปมา คือ “ควาย” และ อปุ ไมย คือ “โง่” สังเกตไหมวา่ โครงสร้างของ “อปุ มาอปุ ไมย” คือ อุปไมย + คาระบุอปุ มา + อปุ มา คาระบุอุปมา เช่น เหมือน, ราว, ดงั , ดง่ั , เป็น, แค่ ฯลฯ *** หลกั การจา คือ จาแค่ “อุปมา” อยา่ งเดียวก็พอ วา่ คือการยกส่ิงอ่ืนมาเปรียบเทียบ ถา้ จาท้งั ๒ อยา่ ง ระวงั จะเกิดความสบั สน ไดร้ ะหวา่ ง “อุปมา” และ “อุปไมย” ที่มา : คาไทย

2. อุปลกั ษณ์ ( Metaphor ) อปุ ลกั ษณ์ กค็ ลา้ ยกบั อุปมาโวหารคือเป็นการเปรียบเทียบเหมือนกนั แต่เป็นการเปรียบเทียบส่ิง หน่ึงเป็นอีกส่ิงหน่ึง การเปรียบเทียบสิ่งหน่ึงเป็นอีกสิ่งหน่ึง 1. มีคาวา่ “คือ” “เป็น” และมีนยั เชิงเปรียบเทียบ เช่น เธอคือนางฟ้าในใจ 2. ละคาวา่ “คือ” “เป็น” เช่น ทะเลดาว, เพชรน้าคา้ ง ตวั อย่างเช่น - เธอคือดอกฟ้าแต่ฉนั น้นั คือหมาวดั - ชาวนาเป็นกระดูกสันหลงั ของชาติ - ถึงหว้ ยโป่ งเห็นธารละหานไหล คงคาใสปลาวา่ ยคลา้ ยคลา้ ยเห็น - มีกรวดแกว้ แพรวพรายรายกระเดน็ บา้ งแลเห็นเป็นสีบุษราคมั - บางคร้ังภาพพจนแ์ บบอปุ ลกั ษณ์ไม่มีคากริยา “คือ” และ “เป็น” ใหส้ งั เกต เราจะตอ้ งตีความเอาเอง เช่น กม้ เกลา้ เคารพอภิวาท พระปิ่ นภพภูวนาถนาถา ยบั ย้งั คอยฟังพระวาจา จะบญั ชาใหย้ กโยธี (อิเหนา) ในที่น้ี เปรียบพระมหากษตั ริยเ์ ป็นปิ่ นของแผน่ ดิน

3. สัญลกั ษณ์ ( symbol ) สญั ลกั ษณ์ เป็นการเรียกช่ือสิ่งๆหน่ึงโดยใชค้ าอื่นมาแทน ไม่เรียกตรงๆ ส่วนใหญ่คาที่ นามาแทนจะเป็นคาท่ีเกิดจากการเปรียบเทียบและตีความ ซ่ึงใชก้ นั มานานจนเป็นที่เขา้ ใจและรู้จกั กนั โดยทว่ั ไป ท้งั น้ีอาจเป็นเพราะผปู้ ระพนั ธ์ตอ้ งการเปรียบเทียบเพ่อื สร้างภาพพจน์หรือมิฉะน้นั กอ็ าจจะ อยใู่ นภาวะท่ีกล่าวโดยตรงไม่ได้ เพราะไม่สมควรจึงตอ้ งใชส้ ญั ลกั ษณ์แทน ตัวอย่าง เช่น -สีขาว หมายถึง ความบริ สุทธ์ ิ ความตาย ความโศกเศร้า ความชวั่ ร้าย -สีดา หมายถึง ความรัก ความตอ้ ยต่า -ดอกกหุ ลาบสีแดง หมายถึง ความบริ สุ ทธ์ ิ ความอ่อนนอ้ มถ่อมตน -ดอกหญา้ หมายถึง -ดอกมะลิ หมายถึง -รวงขา้ ว หมายถึง

4. บุคลาธิษฐาน ( Personification ) บุคลาธิษฐาน หรือ บุคคลวตั บุคคลสมมติ คือการกล่าวถึงสิ่งต่างๆ ท่ีไม่มีชีวติ ไม่มี ความคิด ไม่มีวญิ ญาณ เช่น โตะ๊ เกา้ อ้ี อิฐ ปูน หรือส่ิงมีชีวติ ท่ีไม่ใช่มนุษย์ เช่น ตน้ ไม้ สตั ว์ โดยใหส้ ่ิง ต่างๆเหล่าน้ี แสดงกิริยาอาการและความรู้สึกไดเ้ หมือนมนุษย์ ใหม้ ีคุณลกั ษณะต่างๆ เหมือนสิ่งมีชีวติ ( บุคลาธิษฐาน มาจากคาวา่ บุคคล + อธิษฐานหมายถึง อธิษฐานใหก้ ลายเป็นบุคคล ) ตวั อย่าง เช่น - ฟ้าหวั เราะเยาะขา้ ชะตาหรือ - ซุงหลายท่อนนอนร้องไหท้ ่ีชายป่ า - ดาวกะพริบตาเยาะเราหรือดาวเอ๋ย - ตก๊ั แตนโยงโย่ ผกู โบวท์ ดั ดอกจาปา - จานและชอ้ นวงิ่ กนั ขวกั ไขวไ่ ปทว่ั หอ้ งครัว - พระจนั ทร์ยมิ้ ทกั ทายกบั หมู่ดาวบนทอ้ งฟ้า

5. อธิพจน์ ( Hyperbole ) อติพจน์ หรือ อธิพจน์ คือโวหารท่ีกล่าวเกินความจริง เพ่ือสร้างและเนน้ ความรู้สึกและอารมณ์ ทาให้ผฟู้ ัง เกิดความรู้สึกท่ีลึกซ้ึง ภาพพจนช์ นิดน้ีนิยมใชก้ นั มากแมใ้ นภาษาพูด เพราะเป็นการกล่าวท่ีทาใหเ้ ห็นภาพไดง้ ่ายและแสดง ความรู้สึกของกวไี ดอ้ ยา่ งชดั เจน ตวั อย่างเช่น คิดถึงใจจะขาด ร้อนตบั แตก คอแหง้ เป็นผง หนาวกระดูกจะหลุด การบินไทยรักคุณเท่าฟ้า คิดถึงเธอทุกลมหายใจเขา้ ออก น่ีฤาบุตรีพระดาบส งามหมดหาใครจะเปรียบได้ *ในกรณที ใ่ี ช้โวหารตา่ กว่าจริง เรียกว่า อวพจน์ ตวั อย่างเช่น เลก็ เท่าข้ีตาแมว รอสกั อึดใจเดียว เพียงชว่ั ลดั นิ้วมือเดียว

6. สัทพจน์ ( Onematoboeia ) สทั พจน์ หมายถึง ภาพพจนท์ ่ีเลียนเสียงธรรมชาติ เช่น เสียงดนตรี เสียงสตั ว์ เสียงคลื่น เสียงลม เสียงฝนตก เสียงน้าไหล ฯลฯ การใชภ้ าพพจนป์ ระเภทน้ีจะทาใหเ้ หมือนไดย้ นิ เสียงน้นั จริง ๆ ตวั อยา่ ง เช่น -ฝนตกแปะ ๆ -เปร้ียง ๆ ดงั เสียงฟ้าฟาด -ไผซ่ อออ้ เอียดเบียดออด -บดั เดี๋ยวดงั หง่างเหง่งวงั เวงแวว่ - เครื่องบินครางกระห่ึมมาแต่ไกล - เสียงคล่ืนซ่าซดั สาดท่ีหาดทราย -เสียงปื นดงั ปัง! ปัง! ข้ึนสองนดั -ยงุ บินห่ึงหึง อยขู่ า้ งหูน่าราคาญ -ออ้ ยอ๋ีเอียง ออ้ ยอี๋เอียงส่งเสียงร้อง -เจ๊กเฮงเดินลากเก๊ียะแซะ ๆ ไปตลอดทาง

7. นามนัย ( Metonymy ) นามนยั คือ การใชค้ าหรือวลีซ่ึงบ่งลกั ษณะหรือคุณสมบตั ิของสิ่งใดส่ิงหน่ึงแทนอีกส่ิงหน่ึง คลา้ ยๆ สญั ลกั ษณ์ แต่ต่างกนั ตรงที่ นามนยั น้นั จะดึงเอาลกั ษณะบางส่วนของสิ่งหน่ึงมากล่าวใหห้ มายถึงส่วนท้งั หมด หรือใชช้ ่ือ ส่วนประกอบสาคญั ของส่ิงน้นั แทนส่ิงน้นั ท้งั หมด ตวั อยา่ ง เช่น -ปากกาคมกวา่ ดาบ -เขาเป็นกระต่ายที่หมายจนั ทร์ (กระต่ายแทนชายหนุ่มฐานะต่าตอ้ ยจนั ทร์แทนผหู้ ญิงท่ีมีฐานะสูงส่ง) -เขาเป็นมือขวาของท่านนายกฯ (มือขวาแทนคนสนิทท่ีไวใ้ จ) -เขารักเกา้ อ้ียง่ิ กวา่ ชื่อเสียงเกียรติยศ (เกา้ อ้ีแทนตาแหน่ง) -คนเราจะตอ้ งต่อสูต้ ้งั อยใู่ นเปลจนไปสู่ป่ าชา้ (เปล แทนการเกิด, ป่ าชา้ แทนการตาย) -น้าตา และรอยยมิ้ อยคู่ ู่ชีวิตมนุษยเ์ สมอมา (น้าตาแทนความทุกข,์ รอยยมิ้ แทนความสุข) -เลือดของวรี ชนจะจารึกอยใู่ นประวตั ิศาสตร์ตลอดไป (เลือด แทนการต่อสู)้ -คนไทยไม่ยอมใหใ้ ครมาทาลายขวานทองได้ (ขวานทองแทนประเทศไทย) -การจดั สรรงบประมาณควรใหไ้ ดไ้ ปสู่ระดบั รากหญา้ จริง ๆ (รากหญา้ แทนประชาชนระดบั ล่าง)

8.อนุนามนัย (Syneccoche) อนุนามนยั (Syneccoche) คือ การเปรียบเทียบที่ใชค้ ุณสมบตั ิเด่น ๆ หรือ เอกลกั ษณ์ส่ิงใดส่ิงหน่ึง แทนความหมายท้งั หมด เช่น \"รอยยน่ ที่ขอบตาชายหนา้ เศร้า เหลือเพียงเงาความทรงจาเหมือนร่าไห้ เคยพร่าสาวบริสุทธ์ิดุจพรานไพร น้าตาไหลอาบรอยยน่ ตราบพน้ กรรม\" (\"อดีตราลึก\" ของวาสนา บุญสม)

9. ปรพากย์ ( Paradox ) ปฏิพากย์ หรือ ปรพากย์ คือการใชถ้ อ้ ยคาที่มีความหมายตรงกนั ขา้ มหรือขดั แยง้ กนั มา กล่าว อยา่ งกลมกลืนกนั เพ่อื เพ่มิ ความหมายใหม้ ีน้าหนกั มากยงิ่ ข้ึน ตวั อย่างเช่น เลวบริ สุ ทธ์ ิ บาปบริ สุทธ์ ิ สวยเป็ นบา้ สวยอยา่ งร้ายกาจ สนุกฉิบหาย สวรรคบ์ นดิน ยงิ่ รีบยงิ่ ชา้

ท่ีมา http://www.digitalschool.club/digitalschool/thai2_4_1/thai9_5/page_3.php


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook