ปญั หาวิชาเรียงความแก้กระทู้ธรรม นักธรรมช้ันเอก วันอังคาร ท่ี ๑๒ พฤศจิกายน พุทธศกั ราช ๒๕๖๒ อุฏฺฐานวโต สตีมโต สจุ กิ มมฺ สฺส นิสมฺมการโิ น สญฺญตสฺส จ ธมมฺ ชีวิโน อปปฺ มตฺตสสฺ ยโสภิวฑฺฒต.ิ เกียรตยิ ศย่อมเจรญิ แกผ่ ขู้ ยนั มสี ติ มีการงานสะอาด ใครค่ รวญแล้วจึงทำ สำรวมแล้วเปน็ อยโู่ ดยธรรม และไม่ประมาท. (พทุ ฺธ) ข.ุ ธ. ๒๕/๑๘. ------------------- แตง่ อธบิ ายเป็นทํานองเทศนาโวหาร อ้างสภุ าษิตอื่นมาประกอบ ไม่น้อย กวา่ ๓ ข้อ และบอกช่ือคมั ภีร์ทมี่ าแห่งสภุ าษติ น้ันดว้ ย ห้ามอ้างสุภาษิตซ้ำข้อกนั แต่จะซ้ำคัมภีรไ์ ด้ ไมห่ ้าม สภุ าษิตท่ีอา้ งมาน้ัน ตอ้ งเรยี งเช่ือมความให้สนิทติดต่อ สมเรอื่ งกบั กระทู้ต้ัง. ชน้ั นี้ กําหนดให้เขียนลงในใบตอบ ต้ังแต่ ๔ หนา้ (เวน้ บรรทดั ) ขึ้นไป ------------------- ให้เวลา ๓ ชวั่ โมง
ปัญหาวิชาเรียงความแก้กระทู้ธรรม นักธรรมช้ันเอก วันองั คาร ที่ ๑๒ พฤศจิกายน พุทธศกั ราช ๒๕๖๒ อนนฺ โท พลโท โหตวิ ตฺถโท โหติ วณณฺ โท ยานโท สขุ โท โหติ ทปี โท โหติ จกฺขุโท. ผใู้ ห้ขา้ ว ชอื่ วา่ ให้กาํ ลงั ผู้ให้ผ่ ชื่อวา่ ให้ผวิ พรรณ ผ้ใู ห้ยานพาหนะชื่อว่า ใหค้ วามสขุ ผใู้ ห้ประทีปโคมไฟ ชื่อว่าให้จักษุ. ( พทุ ธฺ ) ส.ํ ส. ๑๕/๔๔. ------------------- แต่งอธบิ ายเป็นทํานองเทศนาโวหาร อ้างสุภาษติ อื่นมาประกอบ ไมน่ อ้ ย กว่า ๓ ขอ้ และบอกช่ือคัมภีรท์ ม่ี าแห่งสภุ าษิตน้ันด้วย ห้ามอ้างสภุ าษติ ซ้ำขอ้ กนั แตจ่ ะซ้ำคัมภีร์ได้ ไมห่ ้าม สภุ าษติ ท่ีอ้างมาน้ัน ต้องเรยี งเชื่อมความใหส้ นทิ ติดตอ่ สมเรอื่ งกบั กระทู้ตั้ง. ชนั้ นี้ กําหนดใหเ้ ขียนลงในใบตอบ ตั้งแต่ ๔ หน้า (เวน้ บรรทดั ) ขึ้นไป ------------------- ใหเ้ วลา ๓ ชว่ั โมง ปญั หาวิชาพทุ ธ ฯ นักธรรมชัน้ เอก
สอบในสนามวดั ๑. ๑. พระพุทธองค์ทรงปฏิญาณว่า เป็นสัมมาสมั พุทธะ เพราะทรงอาศัยเหตอุ ะไร ? ๒. พระพุทธองคท์ รงสรรเสรญิ พระสาวกองคใ์ ดว่า “ไม่ทำศรัทธาและโภคทรพั ยข์ องตระกลู ใหเ้ สีย” ? และทรงอปุ มาเปรียบเทยี บวา่ อย่างไร ? ๒. ผู้ที่ได้รับการอุปสมบทโดยวิธีรับโอวาท และโดยวิธีรับครุธรรม คือใคร ? และได้รับการยกย่องว่าเป็น เอตทคั คะในทางใด ? ๓. พระวาจาทีพ่ ระมหาบรุ ุษทรงเปลง่ ครัง้ แรก เรยี กว่าอะไร ? ความว่าอย่างไร ? ๔. ๑. การทพี่ ระพทุ ธองคท์ รงเลกิ การทรมานพระวรกายแลว้ กลับมาเสวยพระกระยาหาร เพราะทรง พจิ ารณาเห็นอย่างไร ? ๒. ปญั หาวา่ “โลกคือหมู่สัตว์ อันอะไรปดิ บังไว้ จงึ หลงดจุ อย่ใู นทมี่ ดื ” ดงั นี้ ใครเป็นผูถ้ าม ? ได้รบั คำ พยากรณ์วา่ อย่างไร ? ๕. พระมหาบรุ ุษทรงทอดพระเนตรเห็นคนแก่ คนเจ็บ คนตาย แลว้ ทรงบรรเทาความเมาในอะไรได้ ? ๖. เมื่อพระเบญจวคั คียไ์ ดด้ วงตาเหน็ ธรรม ได้อปุ สมบทด้วยเอหภิ ิกขุอุปสัมปทาแล้ว พระบรมศาสดาทรง พิจารณาเห็นอย่างไรจึงทรงแสดงอนัตตลักขณสูตรโปรดพระเบญจวคั คีย์ ? ๗. ปฐมสาวกกับปจั ฉมิ สาวกคอื ใคร ? ได้ฟังพระธรรมเทศนาครัง้ แรกวา่ ดว้ ยเรื่องอะไร ? ๘. พระอัสสชเิ ถระแสดงธรรมโดยย่อแก่อปุ ตสิ สปริพาชก ความวา่ อย่างไร ? และได้ผลอยา่ งไร ? ๙. พระเถระรปู ใดไดร้ บั ยกย่องจากพระศาสดาว่าเป็นเอตทคั คะ ดังตอ่ ไปนี้ ก. ทรงทิพจักษญุ าณ ข. ยงั ตระกลู ให้เลื่อมใส ค. เปน็ ธรรมกถึก ฆ. ผทู้ รงจวี รเศร้าหมอง ง. ผูเ้ ปน็ ขิปปาภญิ ญาตรสั ร้เู รว็ ฯ ๑๐. การทีพ่ ระสารีบตุ รมชี ื่อเสียงว่าเป็นผ้กู ตญั ญูกตเวทีนัน้ มีหลกั ฐานอะไรเป็นตัวอย่าง จงแสดงมา สัก ๒ เร่อื ง ?
ปัญหาวชิ าพุทธ ฯ นกั ธรรมชั้นเอก สอบในสนามวดั ๑. ๑. พระพทุ ธองค์ทรงปฏิญาณวา่ เปน็ สมั มาสัมพุทธะ เพราะทรงอาศัยเหตุอะไร ? เฉลย ทรงอาศัยเหตทุ ต่ี รสั รอู้ ริยสัจ ๔ อย่างแจ่มแจง้ ครบถ้วนทุกประการ จงึ ทรง ปฏิญาณวา่ เป็นสัมมาสัมพทุ ธะ ฯ ๒. พระพุทธองค์ทรงสรรเสรญิ พระสาวกองคใ์ ดวา่ “ไมท่ ำศรทั ธาและโภคทรัพยข์ องตระกลู ใหเ้ สยี ” ? และทรงอปุ มาเปรยี บเทียบว่าอย่างไร ? เฉลย ทรงสรรเสริญพระโมคคลั ลานะ ฯ วา่ “ประหน่ึงแมลงผึง้ อนั เที่ยวไปในสวน ดอกไม้ ไม่ทำสีและกลนิ่ ของดอกไม้ให้ช้า ถือเอาแตร่ สบนิ ไป ฉะน้นั ” ฯ ๒. ผู้ที่ได้รับการอุปสมบทโดยวิธีรับโอวาท และโดยวิธีรับครุธรรม คือใคร ? และได้รับการยกย่องว่าเป็น เอตทคั คะในทางใด ? เฉลย โดยวธิ รี บั โอวาท คอื พระมหากัสสปะ และโดยวิธรี ับครุธรรม คือพระมหาปชาบดีโคตมี ฯ พระมหากสั สปะ ในทางผู้ทรงธดุ งคคุณ สว่ นพระมหาปชาบดี โคตมี ในทางรตั ตัญญู ฯ ๓. พระวาจาท่พี ระมหาบุรุษทรงเปล่งครั้งแรก เรียกว่าอะไร ? ความว่าอย่างไร ? ตอบ :อาสภิวาจา ฯ ความวา่ “เราเปน็ ผ้เู ลิศแห่งโลก (อคโฺ คหมสมฺ ิ โลกสสฺ ) เราเปน็ ผเู้ จรญิ แห่งโลก (เชฏฺโฐหมสมฺ โิ ลกสฺส) เราเปน็ ผปู ้ระเสริฐแห่งโลก (เสฏโฺ ฐหมสมฺ โิ ลกสฺส) ชาติน้เี ป็นชาติสุดท้าย (อยมนตฺ มิ า ชาต)ิ บดั น้ภี พใหม่ได้มี (นตฺถิทานปิ ุนพฺภโว)” ฯ ๔. ๑. การทพ่ี ระพุทธองคท์ รงเลิกการทรมานพระวรกายแล้ว กลบั มาเสวยพระกระยาหาร เพราะทรง พจิ ารณาเหน็ อย่างไร ? ตอบ : เพราะทรงพจิ ารณาเห็นวา่ คนทีไ่ ม่บริโภคอาหารจนร่างกายหมดกำลัง ไม่สามารถบำเพญ็ เพียรทาง จติ ได้ ฯ ๒. ปญั หาวา่ “โลกคือหมู่สัตว์ อนั อะไรปิดบงั ไว้ จงึ หลงดุจอย่ใู นทีม่ ืด” ดงั นี้ ใครเปน็ ผู้ถาม ? ไดร้ ับคำ พยากรณ์วา่ อย่างไร ? ตอบ :อชติ มาณพเปน็ ผ้ถู าม ฯ ไดร้ ับการพยากรณ์ว่า โลกคอื หมสู่ ตั ว์ อันอวิชชาคอื ความไมร่ ู้แจง้ ปิ ดบังไว้จึง หลงดุจอยใู่ นทมี่ ดื ฯ ๕. พระมหาบุรุษทรงทอดพระเนตรเหน็ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย แลว้ ทรงบรรเทาความเมาในอะไรได้ ? ตอบ : ทรงบรรเทาความเมาในวยั ความเมาในความไมม่ ีโรค และความเมาในชีวติ ฯ ๖. เมอ่ื พระเบญจวคั คียไ์ ด้ดวงตาเห็นธรรม ได้อุปสมบทด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทาแล้ว พระบรม
ศาสดาทรงพจิ ารณาเหน็ อย่างไรจงึ ทรงแสดงอนัตตลกั ขณสตู รโปรดพระเบญจวัคคยี ์ ? ตอบ : ทรงพจิ ารณาเห็นว่า พระเบญจวคคั ีย์ต้ังอยใู น่ ท่แี หง่ สาวก มอี นิ ทรียค์ ือศรัทธาเปน็ ตน้แก่กลา้ควรเจรญิ วิปสั สนาเพ่อื วิมตุ ไิ ดแล้ ว้ จงึ ทรงแสดงอนัตตลักขณสูตร โปรดพระเบญจวคั คยี ์ ฯ ๗. ปฐมสาวกกบั ปัจฉมิ สาวกคือใคร ? ไดฟ้ ังพระธรรมเทศนาครั้งแรกว่าด้วยเรื่องอะไร ? ตอบ : ปฐมสาวก คือ พระอญั ญาโกณฑญั ญะ ฟังพระธรรมเทศนาว่าดว้ ยทีส่ ุด ๒ อยา่ ง และมชั ฌิมาปฏิปทา ฯ ปจั ฉมิ สาวก คอื สุภทั ทปริพาชก ฟงั พระธรรมเทศนาว่าดว้ยพระอรยิ บุคคลทง้ ั ๔ ประเภท มีอยู่เฉพาะในธรรมวินยั ทีม่ มี รรคมอี งค์ ๘ ฯ ๘. พระอสั สชเิ ถระแสดงธรรมโดยย่อแกอ่ ปุ ตสิ สปรพิ าชก ความวา่ อย่างไร ? และไดผ้ ลอยา่ งไร ? ตอบ : มคี วามว่า ธรรมใดเกิดแต่เหตุ พระศาสดาทรงแสดงเหตุของธรรมน้ันและความดับแห่งธรรมนน้ั พระศาสดาทรงสง่ั สอนอย่างนฯ้ี อุปติสสปรพิ าชกได้ฟังแล้ว ไดธ้ รรมจกั ษุ ดวงตาเห็นธรรม ฯ ๙. พระเถระรูปใดไดร้ บั ยกย่องจากพระศาสดาวา่ เป็นเอตทคั คะ ดังต่อไปน้ี ก. ทรงทิพจกั ษญุ าณ ข. ยังตระกูลให้เล่อื มใส ค. เป็นธรรมกถึก ฆ. ผ้ทู รงจวี รเศร้าหมอง ง. ผ้เู ปน็ ขิปปาภิญญาตรสั รเู้ รว็ ฯ ตอบ : ก. พระอนุรุทธเถระ ข. พระกาฬทุ ายเี ถระ ค. พระปณุ ณมนั ตานบี ุตร ฆ. พระโมฆราชเถระ ง. พระพาหยิ ทารจุ รี ิยะ ฯ ๑๐. การทีพ่ ระสารีบตุ รมชี ื่อเสยี งว่าเป็นผ้กู ตัญญูกตเวทนี ้นั มหี ลักฐานอะไรเป็นตวั อย่าง จงแสดงมา สกั ๒ เรื่อง ? ตอบ : เรือ่ งท่ี ๑ ท่านไดฟ้ งั ค าสอนจากพระอัสสชโิ ดยยอ่ จนได้ดวงตาเหน็ ธรรม เมอื่ ทราบ วา่ พระอสั สชิอยทู่ างทศิ ใด เวลาจะนอนกห็ ันศรี ษะไปทางทศิ นน้ ั ดว้ยความเคารพ เร่อื งที่ ๒ ท่านระลึกถงึ อุปการะท่ีรับบิณฑบาตจากราธพราหมณเ์ พียง ๑ ทัพพี จึง รบั เป็ นภาระในการจัดการอปุ สมบทตามความประสงค์ ฯ
ปญั หาวิชาธรรม นักธรรมชั้นเอก สอบในสนามวดั ครงั้ ที่ ๕ ๑. ๑. อุทเทสว่า “สูทั้งหลายจงมาดูโลกน้ี” โลกในที่น้ีหมายถึงอะไร ? คนมีลักษณะอย่างไรชื่อว่าหมกอยู่ ในโลก ? ๒. นิพพิทาคืออะไร ? ปฏิปทาเครื่องดาํ เนนิ ใหถงึ นิพพิทาน้นั อย่างไร ๒. ๑. วิราคะ ได้แก่อะไร ? คําว่า “วฏฏูปจฺเฉโท ธรรมเข้าไปตัดเสียซึ่งวัฏฏะ” มีอธิบายอย่างไร มีอธิบาย ว่าอยา่ งไร ? ๒. ความหลุดพ้นอย่างไรเป็นสมุจเฉทวมิ ตุ ติ ? จัดเปน็ โลกยิ ะหรือโลกตุ ตระ ? ๓. ๑. ธรรมอะไรเป็นยอดแหง่ สงั ขตธรรม ? เพราะเหตุไร ? ๒. สนั ติ ความสงบเกิดขน้ึ ทใี่ ด ? มปี ฏปิ ทาท่จี ะดำเนนิ อย่างไร ? ๔. ๑. คติ คอื อะไร ? สัตวโลกที่ตายไป มีคตเิ ปน็ อยา่ งไรบา้ ง ? ๒. จงสงเคราะหม์ รรคมีองค์ ๘ เข้าในวสิ ุทธิ ๗ มาดูฯ ๕. ในพระพทุ ธคณุ ๙ ประการน้ัน ส่วนไหนเป็นเหตุ ส่วนไหนเปน็ ผล ? เพราะเหตไุ ร ? ๖. ในสมถกรรมฐาน ๔๐ ประการ มีนิมติ และภาวนาก่อี ย่าง ? อะไรบ้าง ? ๗. ผู้เจริญเมตตาเปน็ ประจำ ยอ่ มได้รบั อานิสงสอ์ ะไรบา้ ง ? ๘. ๑. สตปิ ฏั ฐาน ๔ คืออะไรบ้าง ? การพจิ ารณาผมขนเลบ็ ฟนั หนัง โดยความเป็นของปฏิกลู จดั เข้าในสติ ปัฏฐานขอ้ ไหน ? ๒. พระพทธุ องคท์ รงแสดงคิรมิ านนทสตู รที่ไหน ? แก่ใคร? วา่ ดว้ ยเร่ืองอะไร ? ๙. ท่านว่าผู้ทจ่ี ะเจริญวิปัสสนาปัญญา พงึ รฐู้ านะ ๖ ก่อน ฐานะ ๖ นัน้ มอี ะไรบ้าง ? ๑๐. ๑. อนจิ จฺ ตา ความไมเ่ ท่ียงแห่งสงั ขารกำหนดรใู้ นทางง่ายไดด้ ้วยอาการอย่างไร ? ๒. ไวพจน์แห่งวิราคะวา่ มทนิมมฺ ทโน ธรรมยังความเมาให้สร่าง ความเมาในท่ีนีห้ มายถึงความเมา อะไร ?
ปญั หาวชิ าวินัยบญั ญัติ นกั ธรรมชน้ั เอก สอบในสนามวดั ครงั้ ท่ี ๔ ๑. ๑.๑ สังฆกรรมย่อมวิบตั ิ โดยอะไรบ้าง ? สงฆ์ใหอ้ ปุ สมบทแกอ่ ภัพพบคุ คล เป็นสงั ฆกรรมวบิ ตั ิ โดยอะไร ? ๑.๒ สมี า มีกีป่ ระเภท ? อะไรบา้ ง ? ประเภทไหนสมมติเป็นติจีวราวิปปวาสไมไ่ ด้ ? ๒. ภิกษผุ ู้ควรได้รับเลอื กใหเ้ ป็นเจา้ หน้าทท่ี ำการสงฆ์ พงึ ประกอบด้วยคุณสมบัติอะไรบ้าง ? และจะปฏบิ ตั หิ นา้ ที่นั้นไดต้ ัง้ แตเ่ ม่ือไร ? ๓. ๓.๑ อานสิ งสก์ ฐินจะส้ินสดุ ลง เพราะเหตอุ ะไรบา้ ง ? ๓.๒ อภัพพบุคคลผกู้ ระทำผิดต่อพระศาสนา ถูกหา้ มอุปสมบท มกี ป่ี ระเภท ? อะไรบ้าง ? ๔. รัตตเิ ฉท คอื อะไร ? รัตติเฉทของภิกษุผู้ประพฤตมิ านัต มีเทา่ ไร ? อะไรบา้ ง ? ๕. ๕.๑ มลู เหตุท่ีทาํ ให้เกดิ สงั ฆกรรมมกี ี่อยา่ ง ? อะไรบา้ ง ? ๕.๒ ญตั ติและอนสุ าวนา หมายถงึ อะไร ? อนสุ าวนามใี ชใ้ นสังฆกรรมอะไรบา้ ง ? ๖. กรานกฐิน ไดแ้ ก่การทาํ อยา่ งไร ? จงเขยี นคาํ อนโุ มทนากฐินมาดู ? ๗. ๗.๑ การบอกนสิ สยั ๔ และอกรณยี ะ ๔ บอกในเวลาใด ? และใครเป็นผบู้ อก ? ๗.๒ อนวุ าทาธกิ รณ์ คอื อะไร ? เม่ือเกดิ ขน้ึ ใครตอ้ งขวนขวายเพ่อื ระงับ ? หากปลอ่ ยไว้จะ เกดิ ผลเสยี อยา่ งไร ? ๘. ในทางพระวนิ ัย การคว่ำบาตร หมายถึงอะไร ? และจะหงายบาตรไดเ้ มือ่ ไร ? พระราชบญั ญตั ิ ๙. ๙.๑ องคก์ รปกครองคณะสงฆส์ งู สดุ เรยี กวา่ อะไร ? มีกําหนดองคป์ ระกอบไว้อย่างไรบา้ ง ? ๙.๒ ผู้ใดใส่ความคณะสงฆ์หรือคณะสงฆ์อื่นอันอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียหรือความ แตกแยก มโี ทษอย่างไร ? ๑๐. ๑๐.๑ ที่วดั และทซี่ งึ่ ขึน้ ตอ่ วดั ตามมาตรา ๓๓ แห่งพระราชบญั ญตั ิคณะสงฆ์ มกี อี่ ยา่ ง ? อะไรบ้าง ?
๑๐.๒ พระราชบญั ญัตคิ ณะสงฆม์ าตรา ๓๗ ระบหุ นา้ ทเ่ี จา้ อาวาสไวก้ อ่ี ยา่ ง ? อะไรบ้าง ? ปัญหาวชิ าวินัยบญั ญัติ นักธรรมชนั้ เอก สอบในสนามวัด คร้ังท่ี ๒ ๑. ๑.๑ สงั ฆกรรม กับวนิ ัยกรรม มีกำหนดบุคคลและสถานท่ีตา่ งกันหรือเหมือนกันอย่างไร ? ๑.๒ นมิ ติ ทีอ่ ยรู่ อบโรงอโุ บสถ มไี ว้เพ่ือประโยชนอ์ ะไร ? จงเขียนคำทกั นิมติ ในทศิ ตะวนั ตกเฉียงใตม้ าดู ? ๒. ๒.๑ กฐนิ เปน็ สงั ฆกรรมอะไร ? การรับกฐิน ตลอดจนถึงการกราน ตอ้ งทำในสมี าเท่านั้น หรอื ทำนอก สมี ากไ็ ด้ ? ๒.๒ บุรพกจิ ทพ่ี ึงทำเปน็ เบอ้ื งต้นกอ่ นแตอ่ ุปสมบทคอื อะไรบ้าง ? ในกิจเหล่านั้นกจิ ทต่ี อ้ งทำเป็นการสงฆ์ มีอะไรบ้าง ๓. ๓.๑ อุปสมั ปทาเปกขะจะสำเร็จเปน็ พระภิกษุได้ เม่ือพระกรรมวาจาจารย์สวดถงึ บาลบี ทใด ? ๓.๒ ติณวัตถารกวินัยมีอธิบายอย่างไร ? ใช้ระงับอธกิ รณ์อะไร ? ๔. ๔.๑ ลิงคนาสนา คอื อะไร ? บุคคลที่ทรงพระอนญุ าตให้ทำลงิ คนาสนามกี ่ปี ระเภท ? ใครบา้ ง ? ๔.๒ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรสทรงประมวลเรื่องอันเนื่องด้วยวินัยที่ภิกษุผู้ เปน็ เถระพงึ เรียนรูเ้ ป็นหลกั ไวใ้ นวินยั มุขเล่ม ๓ คืออะไรบ้าง ? เม่ือเรยี นรแู้ ล้วจะอำนวยประโยชน์อะไรบา้ ง ๕. ๕.๑ สงั ฆกรรม เมอ่ื กล่าวโดยประเภท มเี ท่าไร? อะไรบา้ ง? จงยกตวั อยา่ งของสงั ฆกรรมนนั้ ๆ มาอยา่ ง ละ ๑ ตัวอย่าง ๕.๒ อันตรายกิ ธรรมที่ยกขึ้นถามอปุ สมปทาเปกขะในการอปุ สมบทน้ัน ข้อทเ่ี ปน็ อันตรายรา้ ยแรงถึงกับ ทำใหเ้ ป็นภกิ ษุไมไ่ ด้ คอื ขอ้ ใดบ้าง ? ๖. ๖.๑ อาปัตตาธกิ รณร์ ะงับในส านกั บุคคลด้วยอธิกรณสมถะอะไร ? และระงับในสำนกั สงฆด์ ้วยอธิกรณ สมถะอะไร ? ๖.๒ อนั ตราบตั ิ คอื อาบตั ิอะไร? ภิกษุจะตอ้ งอาบัตนิ ไี้ ด้ในเวลาไหนบา้ ง ? ๗. ภกิ ษเุ สียสีลสามัญญตาเพราะประพฤตอิ ยา่ งไร ? พระบรมศาสดาทรงวางโทษไวใ้ หส้ งฆท์ ำกรรมอะไร แกเ่ ธอ ? ๘. ศาสนสมบตั ิมกี ป่ี ระเภท ? อะไรบา้ ง ? การจะนำผลประโยชนจ์ ากศาสนสมบตั ไิ ปใชจ้ ่าย มีหลักเกณฑ์ อยา่ งไร ? ๙. ทีว่ ดั ท่ีธรณีสงฆ์ หรอื ทศ่ี าสนสมบัตกิ ลาง จะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้หรือไม่ ? มีหลกั ปฏบิ ัติอยา่ งไร ? ๑๐. เจา้ อาวาส หมายถงึ ใคร ? ภกิ ษผุ ูจ้ ะดำรงตำแหนง่ เจา้ อาวาสวัดท่ไี มใ่ ชพ่ ระอารามหลวงต้องมีคุณสมบัติ โดยเฉพาะอะไรบา้ ง ?
ปญั หาวิชาวนิ ัยบญั ญตั ิ นกั ธรรมช้ันเอก สอบในสนามวดั คร้งั ท่ี ๑ ๑. ๑.๑ สงั ฆกรรมจำแนกออกเปน็ ประเภท เรียกโดยชอื่ มีอะไรบา้ ง ? กรรมอะไรบ้าง ท่ีสงฆ์จตุวรรคทำได้ ? ๑.๒ สีมาสังกระคืออะไร ? สงฆจ์ ะทำสงั ฆกรรมในสีมาเช่นนั้นได้หรอื ไม่อยา่ งไร ? ๓. ๓.๑ การอปโลกน์ และ การสวดเพอื่ ใหผ้ า้ กฐิน จดั เป็นสงั ฆกรรมประเภท ใด ? การกรานกฐินดว้ ยผ้าสังฆาฏิ พงึ กล่าววา่ อยา่ งไร ? ๓.๒ บคุ คลประเภทใดบ้างท่ีถูกห้ามไม่ใหอ้ ุปสมบท ? ๔. ๔.๑ การคว่ำบาตรในทางพระวินัยหมายถงึ อะไร ? และจะหงายบาตรได้ เมอ่ื ไร ? ๔.๒ สงั ฆราชี คอื อะไร ? ๕. ภิกษุเมื่อลาสิกขา ต้องทำเป็นกิจลักษณะด้วยการกล่าวคำปฏิญญาตนเป็นผู้อ่ืน จากภกิ ษุตอ่ หน้าใครไดบ้ ้าง ? และทำอย่างไรจึงเป็นกจิ ลกั ษณะ ? ๖. ๖.๑ ตจิ วี ราวิปปวาสสมี า และ อุทกุกเขปสมี า ได้แก่สีมาเช่นไร ? ๖.๒ ผา้ ที่ไมท่ รงอนุญาตใหใ้ ชเ้ ป็นผา้ กฐนิ ไดแ้ กผ่ า้ เช่นไรบ้าง ? ๗. อภพั พบคุ คล หมายถึงใคร ? จำแนกโดยประเภทมีเท่าไร ? อะไรบา้ ง ? ๘. ๘.๑ วิวาทาธิกรณ์ คอื อะไร ? ระงับไดด้ ว้ ยอธิกรณสมถะขอ้ ใดบ้าง ? ๘.๒ รตั ติเฉท หมายถงึ อะไร ? มีอะไรบา้ ง ? พระราชบัญญัตคิ ณะสงฆ์ ๙. ๙.๑ กรรมการมหาเถรสมาคมดำรงอยใู่ นตำแหน่งคราวละกปี่ ี ?
๙.๒ ตามมาตรา ๒๑ แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ใหจ้ ัดแบง่ เขตปกครอง คณะสงฆ์สว่ นภมู ิภาคไว้อย่างไร ? ๑๐. ๑๐.๑ พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ คืออะไร ? ๑๐.๒ ผใู้ ดใสค่ วามคณะสงฆ์หรอื คณะสงฆ์อ่นื อนั อาจกอ่ ใหเ้ กิดความเส่ือมเสยี หรอื ความแตกแยก มีโทษอย่างไร ? ปัญหาวิชาธรรม นกั ธรรมช้นั เอก สอบในสนามวัด ครงั้ ท่ี ๒ ๑. ทกุ ขขันธ์ หรือทุกข์รวบยอด หมายเอาอะไร มหี ลกั ฐานอ้างองิ ในบาลวี า่ อยา่ งไร ๒. ลทั ธิบางอย่างมีหลกั การวา่ ทำปาบแล้วบริสทุ ธหิ์ มดจดได้ดว้ ยการอาบนำ้ ด้วยการ บวงสรวง ด้วยการสวดออ้ นวอน เป็นตน้ ในฝา่ ยพระพทุ ธศาสนากล่าวถงึ เรื่องนี้ว่าอยา่ งไร ๓. ขอ้ ว่า ปลงภาระอันหนกั เสียแลว้ ไม่ถอื เอาภาระอันอื่น ดังน้ี มีอธิบายอยา่ งไร ๔. สัตว์โลกตายแลว้ มีคตเิ ปน็ อย่างไร มพี ระบาลแี สดงไวอ้ ยา่ งไร ๕. อุทเทสวา่ “สูทัง้ หลายจงมาดูโลกนี้ อนั ตระการดจุ ราชรถทีพ่ วกคนเขลาหมกอยู่ แต่พวกผูร้ หู้ าขอ้ งอย่ไู ม่” จงวิจารณ์วา่ ตอนไหนแสดงปรมตั ถปฏปิ ทา ตอนไหน แสดงปรมัตถ์ ตอนไหนแสดงสังสารวฏั ฏ์ ? เพราะเหตไุ ร ? ๖. ข้อวา่ ผู้ใดจกั ระวังจิต ผนู้ ัน้ จกั พน้ จากบ่วงแหง่ มาร ดงั น้ี คำว่า มารและ บ่วงแห่ง มาร ได้แก่อะไร ? เพราะเหตไุ รจงึ ช่ืออย่างนั้น ? ๗. คำว่า สุคติ ในพระบาลวี ่า จติ เฺ ต อสงฺกลิ ิฏเฺ ฐ สุคติ ปาฏิกงขฺ าคอื อะไร ? มีอะไรบ้าง ? ๘. วิมุตติ ความหลุดพน้ นน้ั ตวั หลดุ พ้นคอื อะไร ? หลดุ พน้ จากอะไร ? ตวั รู้วา่ หลุด พน้ คืออะไร ? จงอ้างหลักฐานประกอบด้วย ๙. นวิ รณ์ คอื อะไร ? เม่อื จิตถูกนวิ รณน์ ้ัน ๆ ครอบงำ ควรใชก้ มั มัฏฐานบทใดเป็น เครื่องแก้ ?
๑๐. พระผู้มพี ระภาคเจา้ ทรงแสดงสัญญา ๑๐ กะใคร ? อนิจจสญั ญา พระผมู้ พี ระภาค เจา้ ทรงสอนให้พจิ ารณาธรรมอะไร ? ปญั หาอบรมนักธรรมเอก วิชาพุทธานุพทุ ธประวตั ิ ๑) ๑.๑ จงบอกบารมี ๑๐ ประการมาใหค้ รบ ? ๑.๒ พระพุทธเจา้ จำพรรษาแรก ณ ทีใ่ ด ๒) ๒.๑ พระอรุ ุเวลากสั สปะ ทำไมจึงออกบวช ? ๒.๒ พระอรุ เุ วลากัสสปะ บรรลพุ ระอรหตั ตเ์ พราะฟงั ธรรมอะไร และมีใจความวา่ อยา่ งไร ๓) ๓.๑ พระอคั รสาวกนพิ พานทไี่ หน ใครนิพพานก่อน ? ๓.๒ ในกาลทพ่ี ระพุทธเจา้ ปรินิพพานมพี ระเถระผู้ใหญก่ ่รี ปู ? ๔) ๔.๑ ใครทูลถามว่า “จะพจิ ารณาอย่างไร มจั จุราชจึงมองไมเ่ หน็ ” ? ๔.๒ พระพทุ ธองคท์ รงพยากรณว์ า่ อยา่ งไร ? ๕) ๕.๑ วธิ ีการสัง่ สอนของพระพทุ ธเจา้ มีกปี่ ระการ อะไรบ้าง ? ๕.๒ ผลแหง่ การทำสงั คายนา คืออะไร ? ๖) ๖.๑ ปจั บุพพนมิ ิต ๕ มอี ะไรบ้าง ? ๖.๒ พระโพธสิ ตั ว์เสด็จลงสู่ครรภม์ ารดา ตรงกับวนั อะไร ? ๗) ๗.๑ อภสิ วาจา คอื วาจาเชน่ ไร ? ๗.๒ สหชาติ คอื อะไร มอี ะไรบา้ ง ? ๘) ๘.๑ การเสดจ็ ออกบรรพชา ตามนยั แห่งบาลกี ลา่ วไวอ้ ยา่ งไร ? ๘.๒ อังครี สราชกุมาร เปน็ ชอื่ ของใคร ทำไมจึงได้ชื่อเชน่ น้ัน
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: