หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ไทยสมัยปรับปรุงและปฏิรูปประเทศ แคลวาะมปรรุ่งะวเัรตืิอศงาสตร์ สมัยปรับปรุงและ ปฏิรูปประเทศ
สาระการเรียนรู้ ปัจจัยที่ส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองของไทยสมัยปรับปรุง และปฏิรูปประเทศ พัฒนาการทางประวัติศาสตร์
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเจริญรุ่งเรือง
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเจริญรุ่งเรือง มีผู้นำที่ดี นโยบาย ภูมิศาสตร์ดี บริหารดี ต่างประเทศดี
พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ สมัยปรับปรุงและปฏิรูปประเทศ
รัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชนามเดิม \"เจ้าฟ้ามงกุฏ\" หรือ \"วชิรญาณภิกขุ\" ผู้สถาปนาพระพุทธศาสนา \"ธรรมยุติกนิกาย\" ได้รับการสนับสนุนจาก ขุนนางตระกูลบุนนาค มีกษัตริย์แห่งสยาม 2 พระองค์ คือ พระปิ่ นเกล้าเจ้าอยู่หัว ชาติตะวันตกเข้ามามีอำนาจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
การเมืองการปกครอง สมัยรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ปรับปรุงการปฏิบัติงานของกรมกองต่าง ๆ เช่น การตั้งตำรวจนครบาล หรือ \"โปลิส (Polis)\" ใช้กฎหมายบริหารประเทศอย่างจริงจัง เช่น การใช้คำว่า \"ราชกิจจานุเบกษา\" ครั้งแรก บริหารข้าราชการแบบใหม่ เช่น การดื่มน้ำพิพัฒน์ สัตยา ให้ฝรั่งยืนเข้าเฝ้ า
สภาพเศรษฐกิจ สมัยรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เซอร์จอห์น เบาว์ริง (John Bowring) ได้เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรี และทำสนธิสัญญากับไทย คือ สนธิสัญญาเบอร์นีย์ มีรายละเอียด ดังนี้ ยกเลิกการผูกขาดโดยพระคลังสินค้า เก็บภาษีขาเข้าได้แค่ร้อยละ 3 อังกฤษขอตั้งสถานกงศุลในไทย อังกฤษได้สิทธิภาพนอกอาณาเขต ค้าขายกับราษฎรไทยได้อย่างเสรี ค้าขายฝิ่นโดยไม่เสียภาษี แต่ต้องค้าขายกับเจ้าภาษีเท่านั้ น สามารถเผยแพร่ศาสนาได้อย่างเสรีและถือครองที่ดินได้
ผลกระทบของสนธิสัญญาเบาว์ริง การเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงของประเภทสินค้าหลัก แบบยังชีพเป็นระบบตลาด ข้าวมีราคาสูงขึ้น เกิดการขยายของที่นา การขยายตัวทางเศรษฐกิจ การปรับปรุงและปฏิรูปภาษี และการพัฒนาอุตสาหกรรม การจัดตั้งหอรัษฎากรพิพัฒน์
สภาพสังคมและวัฒนธรรม สมัยรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้านสังคม มีการปรับตัวให้ทันสมัยและเข้า กับขนบธรรมเนียมของตะวันตก ด้านวัฒนธรรม อนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้าเฝ้ าในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก การเปลี่ยนแปลงพระราชพิธีถือน้ำพิพัฒน์ สัตยา ทรางพยายามให้สิทธิแก่สตรีมากขึ้น (สิทธิในการศึกษา)
รัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระนามเดิม \"สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์\" ครองราชย์ต่อจากพระราชบิดาขณะพระชนมายุเพียง 15 พรรษา ยกเลิกการบริหารแบบ 6 กรม (อัครมหาเสนาบดี,จตุสมภ์) มีการปรับปรุงและปฏิรูปการปกครอง \"รวมอำนวจเข้าสู่ศูนย์กลาง\" - การปกครองส่วนกลาง - การปกครองส่วนภูมิภาค - การปกครองส่วนท้องถิ่น ทรงออกหนังสือ \"ดรุโณวาท\" การจัดตั้งหอรัชฎากรพิพัฒน์
การปฏิรูปการปกครองส่วนกลาง ยกเลิกตำแหน่ง อัครมหาเสนาดี และจตุสดมภ์ ปรับเปลี่ยนการบริหารเป็น \"กระทรวง\" ทั้งหมด 12 กระทรวง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงนครบาล ดูแลกิจการฝ่ ายพลเรือน ดูแลความสงบเรียบร้อยในพระนคร กระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรพานิชการ ดูแลกิจการทหาร ดูแลความสงบเรียบร้อยในพระนคร กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงวัง ดูแลความสัมพันธ์ต่างประเทศ ดูแลกิจการพระมหากษัตริย์
การปฏิรูปการปกครองส่วนกลาง กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ กระทรวงธรรมการ ดูแลการจัดเก็ยภาษีและอากร ดูแลเกี่ยวกับการศึกษา, พยาบาล และสงฆ์ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงโยธาธิการ ดูแลการตัดสินคดีความและศาล ดูแลการก่อสร้างต่าง ๆ โทรเลขและไปรษณีย์ กระทรวงยุทธนาธิการ กระทรวงมุธาธิการ จัดการทหารบก-เรือ ให้มันสมัยเหมือนยุโรป ดูแลรักษาเกี่ยวกับพระราชกำหนดกฎหมาย และหนังสือราชการ ต่อมาได้มีการปรับเปลี่ยนให้เหลือ 10 กระทรวง โดยทำการยกเลิก กระทรวงยุทธนาธิการ กระทรวงมุธาธิการ
การปฏิรูปการปกครองส่วนภูมิภาค ยกเลิกการปกครองแบบหัวเมืองทั้งหมด เปลี่ยนการปกครองมาเป็นแบบ \"มณฑลเทศาภิบาล\" ยกเลิกหัวเมืองเอก-โท-ตรี-จัตวา เป็นการ รวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลาง ตราพระราชบัญญัติการปกครองท้องที่ เกิดเป็น \"มณฑล เมือง อำเภอ\" ขึ้นตรงกับกระทรวงมหาดไทย
การปฏิรูปการปกครองส่วนท้องถิ่น ริเริ่มการปกครองส่วนท้องถิ่น \"สุขาภิบาล\" จัดตั้งขึ้นแห่งแรกที่ \"กรุงเทพ\" สุขาภิบาลที่หัวเมืองแห่งแรก คือ ท่าฉลอม จ.สมุทรสาคร
สภาพเศรษฐกิจ เกร็ดความรู้ : ธนาคารแห่งแรกในไทยคือ \"ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้\" สมัยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงจัดตั้ง \"หอรัษฎากรพิพัฒน์ \" โดยมุ่งหมายใช้เป็นสถานที่เก็บรวบรวมพระราช ทรัพย์ และเป็นการปรับปรุงและปฏิรูปการเก็บ ภาษีอากร โดยเก็บภาษีทุกภาคส่วนมาไว้ที่ท้อง พระคลังก่อนแจกจ่ายไปยังหน่วยงานอื่น ๆ การปฏิรูประบบเงินตราเป็น บาทและสตางค์ เลิกใช้เงินพดด้วง และใช้มาตรฐานทองคำ มีการจัดทำงบประมาณแผ่นดินครั้งแรก
สภาพสังคมและวัฒนธรรม สมัยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ยกเลิกการเกณฑ์แรงงานไพร่ เลิกทาส ยกเลิกการหมอบกราบ, ออก พ.ร.บ. การเกณฑ์ทหาร พ.ร.บ. ทาศ ร.ศ. 124 หมอบคลาน ร.ศ. 124 ขณะทำการเข้าเฝ้ าให้ยืนแทน
สภาพสังคมและวัฒนธรรม (ต่อ) สมัยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว การแต่งกายชุดราชปะแตน การนำพาความเจริญและวางรากฐาน สำคัญในการพัฒนาประเทศ
รัชกาลที่ 6 พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว พระนามเดิม \"เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ\" ทรงเป็น \"สยามมกุฎราชกุมาร\" พระองค์ที่สองของสยาม พระองค์แรก คือ \"เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ\" สวรรคต เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกที่สำเร็จการศึกษาจาก ต่างประเทศ ดำเนินนโยบายชาตินิยม \"ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์\"
การเมืองการปกครอง สมัยรัชกาลที่ 6 พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว 1. การบริหารราชการแผ่นดิน การแบ่งหน้าที่ของหน่วยงานให้ชัดเจน การปกครองที่ การเปลี่ยนจาก มณฑล เป็น ภูมิภาค, เมือง เป็น จังหวัด ข้าราชการ มีการควบคุมความประพฤติปฏิบัติ 2. การส่งเสริมอุดมการณ์ชาตินิยม จัดตั้ง \"กองเสือป่า\" ดุสิตธานี เป็นต้นกำเนิด ยุวชนทหาร เป็นเมืองทดลองการปกครองในรูปแบบ นักศึกษาวิชาทหาร ประชาธิปไตย จัดการปกครองแบบเทศบาล กองอาสารักษาดินแดน
สังคมและวัฒนธรรม สมัยรัชกาลที่ 6 พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้านสังคมและการศึกษา ออก พ.ร.บ.ประถมศึกษา เด็กที่มีอายุ 8-14 ปีบริบูรณ์ต้องเข้ารับการศึกษา สถาปนาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ให้เสรีภาพแก่สื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ในการวิพากษ์วิจารณ์การทำของรัฐได้ ด้านวัฒนธรรม ออก พ.ร.บ.สัญชาติ ให้มีการใช้ \"คำนำหน้า+นามสกุล\" กำหนดให้ใช้พุทธศักราช (พ.ศ.) ประกาศใช้ธงไตรรงค์
รัชกาลที่ 7 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ขึ้นครองราชย์ภายหลังพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 สวรรคต เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 96 ใน พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
การเมืองการปกครอง สมัยรัชกาลที่ 7 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว จัดตั้งอภิรัฐมนตรีสภา มีหน้าที่ให้คำปรึกษาราชการแผ่นดิน ประกอบด้วยเจ้านายแห่งราชวงศ์จักรีจำนวน 5 พระองค์ มีการจัดประชุมทุกวันศุกร์ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง วางรากฐานการปกครองท้องถิ่นในรูปแบบเทศบาล ร่าง พ.ร.บ. เทศบาลฉบับแรกของไทยขึ้นใน พ.ศ. 2473
การเมืองการปกครอง (ต่อ) สมัยรัชกาลที่ 7 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าร่างรัฐธรรมนูญขึ้น 2 ฉบับ 1.ฉบับแรกของพระยากัลยาณไมตรี (ดร.ฟรานซิส บี แซร์) 2.เรมอน บี สตีเวนส์ และพระยาศรีวิศาลวาจา แต่ทั้ง 2 ฉบับไม่ได้ประกาศใช้*** อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร มีสมาชิกสภาผูุ้แทน 2 ประเภท พระมหากษัตริย์แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี การแต่งตั้ง นายกรัฐมนตรีสรรหารัฐมนตรี การเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิ์ลงสมัครต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 30 ปี และอ่านออกเขียนได้
สภาพเศรษฐกิจ เกร็ดความรู้ : ธนาคารแห่งแรกในไทยคือ \"ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้\" สมัยรัชกาลที่ 6 และ 7 (พ.ศ.2453-2475) ผลกระทบจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้เศรษฐกิจ ตกต่ำทั่วโลก \"เกิดภาวะข้าวยากหมากแพง\" ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 จนกระทั่งรัชกาลที่ 7 ก็ได้มีแก้ ไปปัญหาอยู่เรื่อยมา โดยเฉพาะในรัชกาลที่ 7 ลดรายจ่ายในราชสำนัก ปลดข้าราชการ ขึ้นภาษีเงินเดือนข้าราชการ ล้วนเป็นเหตุสร้างความไม่พอใจ และกระตุ้น การปฏิวัติในปี 2475
Do you have any question ? (I guess not)
Search
Read the Text Version
- 1 - 27
Pages: