Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยการเรียนรู้ที่ 8 พระพุทธศาสนากับการแก้ปัญหาและการพัฒนา

หน่วยการเรียนรู้ที่ 8 พระพุทธศาสนากับการแก้ปัญหาและการพัฒนา

Description: หน่วยการเรียนรู้ที่ 8 พระพุทธศาสนากับการแก้ปัญหาและการพัฒนา

Search

Read the Text Version

หน่วยที่ 8 พระพทุ ธศาสนากับการแกป้ ัญหา และการพฒั นา

วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพือ่ เข้าใจพระพุทธศาสนากับการศึกษาที่สมบรู ณ์ 2. เพือ่ เข้าใจแนวทางการสัมมนาพระพทุ ธศาสนา 3. เพื่อเข้าใจการสัมมนาและเสนอแนะแนวทางในการธารงรักษา พระพุทธศาสนาอนั สง่ ผลถึงการพัฒนาตน

1. พระพุทธศาสนา กบั การศึกษาที่ สมบรู ณ์

1. พระพทุ ธศาสนากบั การศึกษาที่สมบูรณ์ การศึกษา หมายถึง การพัฒนาความสามารถด้านต่าง ๆ ของบคุ คล การศึกษาที่สมบรู ณ์ มีดังนี้ 1. มีความรสู้ าหรบั การประกอบอาชีพ หมายถึง มีความชานาญในอาชีพของตน 2. มีความรเู้ ข้าใจชมุ ชน หมายถึง เข้าใจความเปลย่ี นแปลงของส่งิ รอบตวั รู้กฎระเบียบ จารตี ประเพณีอนั ดีงาม 3. มีความรใู้ นหลักจรยิ ธรรม คือ หลกั ความประพฤตทิ ีถ่ ูกต้องดีงาม บคุ คลยึดถือปฏิบัติตน เพือ่ การอยรู่ ่วมกนั ในสังคม ไม่ฝ่าฝืนกฎหมายและจารตี ของสงั คม

ปญั ญา 3 ปัญญา หมายถึง ความรู้จรงิ เกย่ี วกบั เรือ่ งต่าง ๆ อย่างท่ัวถงึ หรือรู้ตลอด ▪ ปัญญาของแต่ละคนมีมากน้อยแตกต่างกัน ▪ ความรู้สามารถพฒั นาได้ โดยอาศัยความเพียร หมน่ั ศึกษา การพฒั นาปัญญาสามารถทาได้ 3 ทาง ดงั นี้ 1. จนิ ตามยะปญั ญา คือ ปัญญาหรือความรทู้ ี่เกดิ จากการคิดและพจิ ารณาหา เหตผุ ล ทบทวนหาเหตผุ ลจนเกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง 2. สุตมยปญั ญา คือ ปัญญาหรือความรทู้ ี่เกดิ จากการฟงั เชน่ การอ่านหนังสือโดย การอา่ นและฟงั ให้มากความรนู้ ้ันกจ็ ะสมบรู ณ์ 3. ภาวนามยปญั ญา คือ ปัญญาหรือความรทู้ ี่เกดิ จากการปฏิบัติ

2. แนวทางการสัมมนา พระพุทธศาสนา

2. แนวทางการสัมมนาพระพทุ ธศาสนา 2.1 คิดเปน็ ทาเป็น การศกึ ษาทีส่ มบูรณ์ คือ การพัฒนาตนใหเ้ ปน็ คนคิดเป็นทาเป็น หลกั ธรรมที่เก่ยี วข้อง คือหลักธรรม “กาลามสูตร” 1. อย่าเชือ่ ดว้ ยการฟงั ตามกนั มา 2. อย่าเชื่อดว้ ยการสืบต่อกนั มา 3. อย่าเชื่อโดยการเล่าลือ 4. อย่าเชื่อดว้ ยการอา้ งคัมภีร์ 5. อย่าเชือ่ โดยเหตผุ ลทางตรรก 6. อย่าเชือ่ ดว้ ยการอนุมาน 7. อย่าเชือ่ เพราะการตรึกตรอง 8. อย่าเชือ่ เพราะเข้ากับทฤษฏขี องตน 9. อย่าเชื่อเพราะรูปลักษณะน่าเชือ่ 10. อย่าเชื่อเพราะท่านเป็นครูของเรา

2.2 คิดชอบ ทาชอบ การศึกษาสอนให้คนคิดชอบทาชอบตรงกบั หลกั พระพทุ ธศาสนาวา่ สัมมาทิฐิ หรือรู้หลกั อรยิ สัจ 4 ไตรลักษณ์ ปัจจัยทีท่ าใหเ้ กดิ คดิ ชอบทาชอบ คือ “ปรโตโฆสะ” และ “โยนิโสมนสิการ” 1. ปรโตโฆสะ คือเสยี งจากผู้อืน่ คือ แรงชักจงู ภายนอก ได้แก่ การรับฟัง คาแนะนา การเรียนรู้ การสนทนากบั บุคคลอืน่ 2. โยนิโสมนสิการ คือ การรู้จักคิด ทาใจโดยแยบคาย มองสง่ิ ทั้งหลายดว้ ย เหตผุ ล รู้จักแยกแยะอะไรดีชั่ว มองสง่ิ ต่าง ๆ ให้ถงึ แก่น

3.การสัมมนาและเสนอแนะ แนวทางในการธารงรักษา พระพุทธศาสนาอนั ส่งผลถงึ การพฒั นาตน

3. การสัมมนาและเสนอแนะแนวทางในการธารงรักษาพระพทุ ธศาสนาอันส่งผลถึงการพฒั นาตน 1. ธารงรกั ษาพระพุทธ คือ ยุติความขัดแย้งดว้ ยสนั ติวธิ ี 2. ธารงรักษาพระธรรม คือ ช้แี จงให้คนทีไ่ ม่เข้าใจหลักธรรม ให้เขาไดเ้ ข้าใจ 3. ธารงรักษาพุทธวัฒนธรรม คือ ช่วยอธบิ ายให้คนที่ไมเ่ ข้าใจเกี่ยวกับประเพณี พธิ ีกรรมทาง พระพุทธศาสนา ให้เขาเข้าใจ

อา้ งอิง วิทย์ วิศทเวทย์ และ เสฐยี รพงษ์ วรรณปก. (2553). หนงั สือเรียน รายวิชาพื้นฐาน พระพุทธศาสนา ม. 4 : ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4. พิมพ์คร้ังที่ 7. กรงุ เทพฯ: อกั ษรเจรญิ ทัศน์. อา้ งอิงส่อื ขอบคณุ ข้อมลู ภาพประกอบทุกภาพจากสือ่ อินเทอรเ์ น็ต (ใช้เพื่อจัดกาเรียนการสอน)