Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 6202120L01 หน่วย 5a

6202120L01 หน่วย 5a

Published by cup.jok2520, 2020-05-28 05:11:11

Description: 6202120L01 หน่วย 5a

Search

Read the Text Version

หนวยการเรียนรทู ี่ ๕ การเปลยี่ นแปลงของสาร 6202120L01 ����� 5a.indd 41 12/27/18 9:26 AM

ใบงาน บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๑ หน�วยย‹อยที่ ๑ การเปล่ียนแปลงของสาร เรอ�่ ง การเปลย่ี นสถานะและการละลายของสาร ๔๒ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นกั เรยี น) กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๒ ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 12/27/18 9:26 AM 6202120L01 ����� 5a.indd 42

ชือ่ -สกุล เดือน ชนั้ เลขที่ บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๑-๐๑ วนั ที่ พ.ศ. กจิ กรรมที่ ๑ การเปล่ยี นสถานะและการละลายเปนอยางไร จุดประสงค ๑. สังเกตและอธบิ ายลกั ษณะของสารทีเ่ กดิ จากการนาํ สารมาผสมกัน ๒. สงั เกตและอธบิ ายการเปลี่ยนสถานะและการละลายของสาร วสั ดุ-อุปกรณ ๖. นํา้ ๑. แปงมนั ๗. เอทิลแอลกอฮอล ๒. การบรู ๘. แกว พลาสติกใส ๓. นา้ํ ตาลทราย ๙. แทงแกว คนสาร ๔. นาํ้ มนั พชื ๑๐. หลอดฉีดยา ๕. ชอนตักสาร วิธีทาํ ๑. สงั เกตลกั ษณะของแปง มนั นาํ้ ตาลทราย การบรู เอลลิ แอลกอฮอล นาํ้ มนั พชื และบนั ทกึ ผล ๒. ตวงสารทง้ั ๕ ชนดิ อยา งละเทา ๆ กนั ลงในแกว พลาสตกิ ใสใบละ ๑ ชนดิ ๓. คาดคะเนวา จะเกดิ อะไรขน้ึ ถา เตมิ นาํ ปรมิ าณเทา ๆ กนั ลงในแกว แตล ะใบ แลว คนดว ยแทง แกวคนสารตัง้ ไว ๒ นาที และบันทึกผล ๔. ทาํ กจิ กรรมเพอ่ื ตรวจสอบการคาดคะเน สงั เกตลกั ษณะของสารทไ่ี ดห ลงั เตมิ นาํ และบันทึกผล ๕. อา นใบความรู เรอ่ื งการเปลย่ี นสถานะและการละลายของสาร รว มกนั อภปิ ราย เชอ่ื มโยงความรทู ไ่ี ดจ ากการทาํ กจิ กรรมและในใบความรเู กย่ี วกบั การเปลย่ี น สถานะและการละลายของสารกบั สมบัติของสาร และบันทกึ ผล ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นกั เรยี น) กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๒ ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๔๓ 6202120L01 ����� 5a.indd 43 12/27/18 9:26 AM

ชอ่ื -สกุล เดอื น ชน้ั เลขท่ี บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๑-๐๑ วันท่ี พ.ศ. ใบงาน ๐๑ : การเปล่ยี นสถานะและการละลายของสาร บนั ทกึ ผลการทาํ กิจกรรม ตาราง ๑ ลักษณะของสารชนดิ ตา ง ๆ สาร ลักษณะของสาร ๑. แปงมนั ๒. นํ้าตาลทราย ๓. การบรู ๔. เอทิลแอลกอฮอล ๕. น้ํามันพชื ๔๔ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นกั เรยี น) กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๒ ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 12/27/18 9:26 AM 6202120L01 ����� 5a.indd 44

ชอ่ื -สกุล เดือน ชนั้ เลขท่ี บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๑-๐๑ วันท่ี พ.ศ. ตาราง ๒ การคาดคะเนและผลการสงั เกตสารผสมชนดิ ตา ง ๆ สารผสม ลกั ษณะของสาร การคาดคะเน ผลการสังเกต ๑. แปง มนั กับน้าํ ๒. นา้ํ ตาลทรายกบั นาํ้ ๓. การบูรกับน้ํา ๔. เอทิลแอลกอฮอลกบั นา้ํ ๕. น้ํามันพืชกับนํ้า ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นกั เรยี น) กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๒ ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๔๕ 6202120L01 ����� 5a.indd 45 12/27/18 9:26 AM

ช่อื -สกุล เดอื น ชัน้ เลขที่ บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๑-๐๑ วนั ที่ พ.ศ. ตาราง ๓ การเปลีย่ นแปลงของสารชนดิ ตา ง ๆ เขยี นชื่อสถานะของสารชนิดตาง ๆ ทาํ เครือ่ งหมาย ใน ท่ีเลือก สาร สถานะของสาร การละลายกบั นา้ํ สมบัตขิ องสาร กอ นเตมิ นาํ้ หลงั เตมิ นา้ํ ๑. แปง มนั ละลาย สารเนอื้ เดยี ว ไมล ะลาย สารเนอื้ ผสม ๒. น้ําตาลทราย ละลาย สารเนอื้ เดยี ว ไมล ะลาย สารเนอื้ ผสม ๓. การบูร ละลาย สารเนอื้ เดยี ว ๔. เอทลิ แอลกอฮอล ไมล ะลาย สารเนอ้ื ผสม ๕. นา้ํ มนั พืช ละลาย สารเนอื้ เดยี ว ไมล ะลาย สารเนอื้ ผสม ละลาย สารเนอ้ื เดยี ว ไมล ะลาย สารเนอ้ื ผสม ๔๖ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นกั เรยี น) กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๒ ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 12/27/18 9:26 AM 6202120L01 ����� 5a.indd 46

ชื่อ-สกลุ เดือน ชั้น เลขท่ี บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๑-๐๑ วันที่ พ.ศ. ใบความรู เร่ืองการเปลย่ี นสถานะและการละลายของสาร สารท่ีมีสถานะของแข็ง ของเหลว และแกส สามารถเปลี่ยนสถานะหน่ึง เปนอีกสถานะหน่ึงได โดยสารยังคงเปนสารเดิม หรือมีสมบัติของสารเหมือนเดิม แตรูปราง ขนาด หรือปริมาตรท่เี ปล่ยี นไปเทาน้นั ซ่งึ เกิดเม่อื เพ่มิ หรือลดพลังงาน ความรอนแกสารถึงระดับหน่งึ โดยเม่อื เพ่ิมความรอนใหกับของแข็ง เชน นํา แข็ง จะเปล่ียนเปนของเหลว และเม่ือเพ่ิมความรอนอีกเรื่อย ๆ ของเหลวจะเปล่ียน เปนแกส ในทางกลับกันเม่อื ลดพลังงานความรอนใหกับแกส เชน ไอนํา จะเปล่ยี น กลับมาเปนของเหลว และเมื่อลดพลังงานลงอีกเร่ือย ๆ ของเหลวจะเปล่ียน กลับมาเปน นาํ การเปลี่ยนสถานะมกี ระบวนการเปลี่ยนดงั รปู รูป กระบวนการเปลย่ี นสถานะของสาร พลงั งานความรอนเพม่ิ ขึน้ การระเหิด ของแขง็ การหลอมเหลว ของเหลว การกลายเปนไอ แกส การแข็งตวั การควบแนน การระเหิดกลบั พลงั งานความรอ นลดลง ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นกั เรยี น) กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๒ ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๔๗ 6202120L01 ����� 5a.indd 47 12/27/18 9:26 AM

ช่ือ-สกุล เดือน ชั้น เลขท่ี บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๑-๐๑ วันท่ี พ.ศ. จากรูป การหลอมเหลวเปนการเปลี่ยนสถานะจากของแข็งเปนของเหลว สว นการกลายเปน ไอ เปน การเปลย่ี นสถานะจากของเหลวเปน แกส แบง เปน ๒ อยา ง คือ การระเหยและการเดือด การเปลี่ยนสถานะจากแกสเปนของเหลว เรียกวา การควบแนน และการเปลย่ี นสถานะจากของเหลวเปน ของแขง็ เรยี กวา การแขง็ ตวั ของแขง็ บางชนดิ เชน การบรู พมิ เสน ลกู เหมน็ สามารถเปลย่ี นสถานะจากของแขง็ เปน แกส ไดโ ดยไมผ า นการเปน ของเหลว เรยี กวา การระเหดิ และการเปลยี่ นสถานะ จากแกส เปน ของแขง็ เรียกวา การระเหดิ กลบั การละลายเปน การเปลย่ี นแปลงทเี่ กดิ ขนึ้ จากสารอยา งนอ ย ๒ ชนดิ รวมตวั กนั เปนเนื้อเดียว โดยสารที่ไดยังเปนสารเดิมและเรียกวา สารละลาย สารชนิดหน่ึง ในสารละลายจะเปน ตวั ทาํ ละลาย สวนสารที่เหลือจะเปน ตวั ละลาย ตวั ทาํ ละลาย เปนสารท่ีมีสถานะเดียวกับสารละลาย และมีปริมาณมากที่สุดในสารละลาย และเมื่อใสตัวละลายเพิ่มลงไปเร่ือย ๆ ในตัวทําละลายจํานวนหน่ึง ในที่สุด ตัวละลายจะเหลือและตกตะกอน เนื่องจากไมสามารถละลายในสารละลายน้ัน ไดอ ีก สารละลายทตี่ วั ละลายไมสามารถละลายไดอีก เรยี กวา สารละลายอ่มิ ตวั ๔๘ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นกั เรยี น) กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๒ ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 12/27/18 9:26 AM 6202120L01 ����� 5a.indd 48

ชอื่ -สกลุ เดือน ช้ัน เลขที่ บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๑-๐๑ วนั ที่ พ.ศ. การผสมสารบางครั้งไมมีการละลายเกิดขึ้น เน่ืองจากสารผสมไมรวมเปน เนอื้ เดยี วหรอื แยกสว นกนั สารผสมทไ่ี ดน เี้ ปน สารเนอ้ื ผสม สารเนอื้ ผสมบางชนดิ เปน สารแขวนลอย ประกอบดว ยของแขง็ กระจายตวั อยใู นของเหลว เชน นาํ้ แปง เมอื่ วางไว จะตกตะกอน สารผสมประกอบดว ยสารอยา งนอ ย ๒ ชนดิ มาผสมกนั สามารถจาํ แนกโดยใช เนื้อสารเปนเกณฑไดด ังแผนผังมโนทัศน สารผสม ประกอบดวย สารอยา งนอ ย ๒ ชนดิ ผสมกนั โดยยังคงเปน สารเดิม แบง เปน สารเนื้อเดยี ว สารเนือ้ ผสม เชน เชน สารละลาย สารแขวนลอย ประกอบดวย ประกอบดวย ตวั ทาํ ละลาย ตวั ละลาย ของแขง็ กระจายในของเหลว เมอ่ื วางไวจ ะตกตะกอน สารทเี่ ปลย่ี นสถานะและสารทลี่ ะลายยงั คงเปน สารเหมอื นเดมิ ไมเ ปลยี่ นแปลง เปน สารใหม เชน นาํ ตาลทรายเมอ่ื เตมิ นาํ แลว มกี ารเปลย่ี นสถานะจากของแขง็ เปน ของเหลว ละลายอยใู นนาํ แตส มบตั คิ วามหวานยงั เหมอื นเดมิ การเปลย่ี นสถานะ และการละลายจงึ เปน การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นกั เรยี น) กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๒ ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๔๙ 6202120L01 ����� 5a.indd 49 12/27/18 9:26 AM

ช่ือ-สกลุ เดือน ช้ัน เลขที่ บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๑-๐๑ วันที่ พ.ศ. คําถามหลงั จากทาํ กจิ กรรม ๑. เมอื่ เตมิ นา้ํ ลงในสารแตล ะชนดิ ผลทเ่ี กดิ ขนึ้ เหมอื นกบั ทคี่ าดคะเนหรอื ไม อยา งไร ๒. สารท่ีเกิดจากสาร ๒ ชนิด ผสมกันแลวรวมกันเปนเน้ือเดียวกันเรียกวาอะไร ไดแกอะไรบา ง ๓. สารทเ่ี กดิ จากสาร ๒ ชนดิ ผสมกนั แลว ไมร วมเปน เนอ้ื เดยี วกนั และแยกสว นกนั เรยี กวา อะไร ไดแ กอ ะไรบาง ๔. สารแตละชนดิ เมื่อเตมิ นํา้ แลว มีการเปลีย่ นสถานะหรอื ไม อยา งไร ๕๐ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นกั เรยี น) กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๒ ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 12/27/18 9:26 AM 6202120L01 ����� 5a.indd 50

ชื่อ-สกุล เดือน ชน้ั เลขท่ี บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๑-๐๑ วันท่ี พ.ศ. ๕. สารแตล ะชนดิ เมอื่ เตมิ นา้ํ แลว ยงั เปน สารเดมิ หรอื ไม เพราะเหตใุ ด ๖. จากกิจกรรมนี้ สรุปไดว าอยางไร ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นกั เรยี น) กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๒ ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๕๑ 6202120L01 ����� 5a.indd 51 12/27/18 9:26 AM

ชอ่ื -สกลุ เดอื น ช้ัน เลขที่ บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๑-๐๒ วนั ท่ี พ.ศ. ใบงาน ๐๒ : แบบฝกหัด เร่อื งการเปลี่ยนสถานะและการละลายของสาร พจิ ารณาขอ ความตอ ไปนวี้ า เปน การเปลยี่ นแปลงทางกายภาพหรอื ไม พรอ มบอกเหตผุ ล ๑. นาํ้ หอมระเหยไปในอากาศ ๒. แกงจดื หมสู บั ทแ่ี ชแ ขง็ ๓. แรก าํ มะถนั ในนาํ้ พรุ อ น ๔. ปยุ ละลายในนาขา ว ๕. นาํ้ สม สายชเู ขม ขน ในนา้ํ ๕๒ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นกั เรยี น) กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๒ ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 12/27/18 9:26 AM 6202120L01 ����� 5a.indd 52

ใบงาน บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๒ หนว� ยย‹อยท่ี ๑ การเปลี่ยนแปลงของสาร เร�่อง การเกิดสารใหม‹ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นกั เรยี น) กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๒ ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นกั เรยี น) กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๒ ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๕๓ 6202120L01 ����� 5a.indd 53 12/27/18 9:26 AM

ชือ่ -สกลุ เดอื น ช้นั เลขที่ บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๒-๐๑ วนั ที่ พ.ศ. กิจกรรมที่ ๑ สารมกี ารเปลี่ยนแปลงหรอื ไม อยางไร จดุ ประสงค ทดสอบและอธบิ ายการเปลยี่ นแปลงของสารตาง ๆ วัสดุ-อปุ กรณ ๑. ตะปู ๒. นํา้ ๓. ผงฟู ๔. นา้ํ สม สายชู ๕. โซดา ยาลดกรด ๖. ยาลดกรดชนดิ ผง ๗. ถา นไฟฉาย ๘ โวลต ๘. เกลือ ๙. ตะเกยี งแอลกอฮอลพรอ มทกี่ น้ั ลมและตะแกรง วิธีทาํ ๑. สงั เกตลกั ษณะของตะปู ผงฟู น้ําโซดา ยาลดกรดชนิดผง ถานไฟฉาย และบนั ทึกผล ๒. คาดคะเนและบนั ทกึ วาจะเกิดอะไรข้ึนถา ๒.๑ ตะปูแชใ นนํา้ ๑ สัปดาห ๒.๒ ผงฟูผสมน้ําสม สายชู ๒.๓ นาํ นา้ํ โซดาไปตม ๒.๔ ยาลดกรดชนิดผงผสมนํ้า ๒.๕ จมุ ถานไฟฉายลงในน้าํ ผสมเกลือเล็กนอ ย ๓. ทาํ กิจกรรมเพ่อื ตรวจสอบการคาดคะเน และบันทึกผล ๔. อา นใบความรู เรอ่ื งการเกิดสารใหม รวมกนั อภิปรายเชอ่ื มโยงความรูทีไ่ ด จากใบความรูกบั ผลการทํากิจกรรม และบันทึกผล ๕๔ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นกั เรยี น) กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๒ ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 6202120L01 ����� 5a.indd 54 12/27/18 9:26 AM

ชือ่ -สกุล เดือน ช้ัน เลขท่ี บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๒-๐๑ วันที่ พ.ศ. ใบงาน ๐๑ : การเปลย่ี นแปลงของสาร บันทกึ ผลการทาํ กิจกรรม ตาราง ๑ ผลการสังเกตสารตาง ๆ สาร ผลการผสลังกเกาตรสงั เกต ๑. ตะปู ๒. ผงฟู ๓. น้ําโซดา ๔. ยาลดกรด ๕. ถานไฟฉาย ๘ โวลต ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นกั เรยี น) กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๒ ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๕๕ 6202120L01 ����� 5a.indd 55 12/27/18 9:26 AM

ช่อื -สกุล เดือน ช้นั เลขท่ี บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๒-๐๑ วนั ที่ พ.ศ. ตาราง ๒ การคาดคะเนและผลการสังเกตการเปลี่ยนแปลงของสาร การทดสอบ การคาดคะเน ผลการสังเกต การเกดิ สารใหม ๑. ตะปแู ชในนาํ้ ไมเกดิ สารใหม เกดิ สารใหม ๑ สปั ดาห มีลักษณะ ๒. ผงฟผู สม ไมเกดิ สารใหม นา้ํ สม สายชู เกิดสารใหม มีลักษณะ ๓. นํานํา้ โซดา ไมเกิดสารใหม ไปตม เกดิ สารใหม มลี กั ษณะ ๔. ยาลดกรด ไมเกิดสารใหม ชนิดผงผสม เกิดสารใหม น้าํ มลี กั ษณะ ไมเ กิดสารใหม ๕. จมุ ถา นไฟฉาย เกดิ สารใหม ๘ โวลตล งใน มลี กั ษณะ น้าํ ผสมเกลือ เลก็ นอ ย ๕๖ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นกั เรยี น) กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๒ ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 12/27/18 9:26 AM 6202120L01 ����� 5a.indd 56

ช่ือ-สกุล เดอื น ช้นั เลขที่ บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๒-๐๑ วนั ท่ี พ.ศ. ใบความรู เร่อื งการเกิดสารใหม เมอื่ ผสมสารสองชนดิ ขนึ้ ไปเขา ดว ยกนั แลว มสี ารใหม เกดิ ขนึ้ ซง่ึ มสี มบตั แิ ตกตา งจากสารเดมิ หรอื เมอื่ สารชนดิ เดยี ว เกดิ การเปลยี่ นแปลงแลว มสี ารใหมเ กดิ ขนึ้ การเปลย่ี นแปลงนี้ เรียกวา การเปลี่ยนแปลงทางเคมี การเปล่ียนแปลงทางเคมีอาจสังเกตไดจาก การมีฟองแกส หรือมีตะกอน หรือมีสี หรือมีกล่ิน หรือมีอุณหภูมิเพ่ิมขึ้นหรือลดลง เชน การเกิดสนิม บนตะปูท่ีแชในนํ้า ๑ สัปดาห การเติมผงฟูลงใน นํ้าสมสายชูทําใหเกิดฟองแกส และมีอุณหภูมิเพิ่มข้ึน ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นกั เรยี น) กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๒ ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ่ี ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๕๗ 6202120L01 ����� 5a.indd 57 12/27/18 9:26 AM

ช่ือ-สกลุ เดอื น ชั้น เลขท่ี บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๒-๐๑ วันที่ พ.ศ. คําถามหลงั จากทํากจิ กรรม ๑. การทดสอบใดบางทท่ี ําใหเ กิดสารใหม รไู ดอ ยา งไร ๒. การเปลย่ี นแปลงของสารทเ่ี กดิ ขน้ึ เรยี กวา อะไร ๓. จากกจิ กรรมนี้ สรปุ ไดว า อยา งไร ๕๘ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นกั เรยี น) กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๒ ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 12/27/18 9:26 AM 6202120L01 ����� 5a.indd 58

ช่อื -สกลุ เดอื น ชั้น เลขท่ี บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๒-๐๒ วันที่ พ.ศ. ใบงาน ๐๒ : แบบฝก หดั เรอื่ งการเปลี่ยนแปลงของสาร ทําเครื่องหมาย X ทับคาํ ตอบทถ่ี กู ตองมากท่ีสุด ๑๑.. เมื่อท้ิงเศษอาหารลงแหลงนาํ้ จะทาํ ใหเ กดิ น้ําเนาเสยี เพราะอะไร ก. สารอาหารละลายลงในน้ํา ข. เศษอาหารมีขนาดเล็กลง ค. แกส ในน้าํ ทาํ ปฏกิ ริ ยิ าเคมกี ับเศษอาหาร ง. สารตกตะกอนทบั ถมในแหลง นา้ํ ๒๒.. กระบวนการทเี่ หลก็ รวมตวั กบั แกส ออกซเิ จนเกดิ สนมิ เปน การเปลยี่ นแปลงทางเคมี เพราะเหตใุ ด ก. น้าํ หนักเพิม่ ขน้ึ ข. เกิดการรวมตัวของน้าํ เขาไปในเน้อื เหล็ก ค. สนมิ มีสมบตั ิทแี่ ตกตา งจากเหล็กและแกสออกซิเจน ง. ไมเ ปลยี่ นแปลงทางเคมเี พราะสนมิ กย็ งั เปน เหลก็ อยู ๓๓.. สารสมชว ยใหนํา้ ขนุ ตกตะกอนไดอ ยางไร ก. สารสม ฆาเชื้อโรค ข. สารสม ทาํ ปฏิกิรยิ ากบั เศษดินทําใหเ กิดตะกอน ค. สารสม มฤี ทธิ์เปนกรดจงึ ทําปฏกิ ริ ิยากับเบสในน้าํ ขุน ทําใหน ํา้ ใสขึน้ ง. อนุภาคสารสม จะเปนแกนใหอนุภาคดนิ มาเกาะจนมีนาํ้ หนกั มากขึน้ และจมลงสกู นภาชนะ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั นกั เรยี น) กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตร ภาคเรยี นที่ ๒ ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ี่ ๖ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๕๙ 6202120L01 ����� 5a.indd 59 12/27/18 9:27 AM










Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook