พระมหาชนก เป็ นเรอื่ งหน่ึงในทศชาติ ชาดก อนั เป็ นชาดก 10 ชาตสิ ดุ ท้าย กอ่ นทพี่ ระโพธสิ ัตวจ์ ะมาประสตู เิ ป็ น เจ้าชายสิทธตั ถะ และตรสั ร้เู ป็ นพระ สัมมาสัมพทุ ธเจ้า ชาดกเรอ่ื งนี้เป็ นการ บาเพ็ญความเพยี รเป็ นบารมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั ทรงสนพระ ราชหฤทยั จงึ ทรงค้นเรอ่ื งพระมหาชนก ในพระไตรปิฎกและทรงแปลเป็ น ภาษาองั กฤษตรงจากมหาชนกชาดก ตง้ั แตต่ ้นเรอ่ื ง โดยทรงดดั แปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ เพอ่ื ให้เข้าใจงา่ ยขนึ้ นอกจากนี้ ยงั ทรงแปลเป็ นภาษา สันสกฤตประกอบอกี ภาษา รวมทง้ั แผน ทฝี่ ีพระหตั ถ์ แสดงสถานทตี่ ง้ั ทาง ภมู ศิ าสตรข์ องเมอื งโบราณบางแหง่ และ ขอ้ มลู อตุ ุนิยมวทิ ยาเกย่ี วกบั ทศิ ทางลม กบั กาหนดวนั เดนิ ทะเลตลอดจนจุดอปั ปาง
แสดงถงึ พระปรีชาในด้านอกั ษรศาสตร์ ภมู ิศาสตร์และโหราศาสตร์ ไทย ในโอกาสเฉลมิ ฉลองกาญจนาภเิ ษกแหง่ รัชกาล เมื่อ พ.ศ. 2539 พระราชนิพนธ์ เร่ือง พระมหาชนกก็ออกจาหนา่ ย และเป็นที่ ช่ืนชมโดยทว่ั ไป แตห่ นงั สือพระราชนพิ นธ์นีก้ ็ยงั อา่ นคอ่ นข้างยาก ด้วยความซบั ซ้อนของข้อความและของภาพ ทาให้มีการวิจารณ์ และตีความกนั ในทางตา่ งๆ นานา ในปี พ.ศ. 2542 ในวโรกาสมหา มงคลเฉลมิ พระชนมพรรษาครบ 6 รอบ พระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยหู่ วั จงึ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้จดั พิมพ์พระราชนิพนธ์ เรื่อง พระมหาชนกอีกครัง้ ในรูปแบบของการ์ตนู โดยมี ชยั ราชวตั ร เป็ นผ้วู าดภาพการ์ตนู ประกอบ ในปี 2557 ได้มีการนาเสนอใน รูปแบบการ์ตนู แอนิเมชน่ั ทางโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ซีนี เพล็กซ์ และออกอากาศทางโทรทศั น์ทกุ สถานี มีทงั้ หมด 3 องก์ คือ องก์ที่ 1 กาเนดิ องก์ที่ 2 ความเพียร และองก์ที่ 3 ปัญญา รวมทงั้ มี การแสดง แสง สี เสียงในชดุ มหานาฏกรรมเฉลมิ พระเกียรติ พระ มหาชนก ปี 2549 อมิ แพค เมืองทองธานี และ“พระมหาชนก เดอะ ฟีโนมีนอน ไลฟ์ โชว์” ณ สวนเบญจกิติ ศนู ย์การประชมุ แหง่ ชาติสริ ิกิติ์
พระเจ้ามหาชนกกษตั รยิ แ์ หง่ กรงุ มถิ ลิ า มี พระราชโอรสสองพระองค์ พระนามวา่ อรฏิ ฐชนก และ โปลชนกเมอื่ สวรรคตแลว้ พระอรฏิ ชนกไดค้ รองราชสมบตั แิ ละทรงตง้ั พระโปลชนกเป็ นอุปราช อมาตยผ์ ้ใู กลช้ ดิ ไดก้ ราบทลู ใส่รา้ ยวา่ พระอุปราชโปลชนก คดิ ไมซ่ อื่ พระอรฏิ ฐชนกก็หลงเชอื่ ส่ังจอง จาพระโปลชนก แตพ่ ระโปลชนกตง้ั จติ อธษิ ฐานและหลบหนีไปได้ ภายหลงั ได้ รวบรวมพลมาทา้ รบและเอาชนะไดใ้ นทสี่ ุด พระอรฏิ ฐชนกส้ินพระชนมใ์ นทร่ี บ พระเทวี ทกี่ าลงั ทรงครรภจ์ งึ ปลอมตวั หนีออกนอกเมอื ง ดว้ ยความช่วยเหลอื ของท้าวสักกเทวราชจงึ เสดจ็ หนีไปจนถงึ เมอื งกาลจมั ปากะ ได้ พราหมณผ์ ้หู นึ่งอุปการะไว้ในฐานะน้องสาว ตอ่ มามพี ระประสตู กิ าล ตง้ั พระนามพระโอรส ตามพระอยั ยกิ าวา่ \"มหาชนก\" จวบ จนกระทง่ั มหาชนกเตบิ ใหญ่ และไดท้ ราบ ความจรงิ ก็คดิ จะไปคา้ ขายตง้ั ตวั แลว้ จะ ไปเอาราชสมบตั คิ นื จงึ นาสมบตั กิ งึ่ หนึ่งของ พระมารดาไปขาย แลกเป็ นสินคา้ ออกเรอื ไป
ระหว่างทางในมหาสมทุ ร เรือต้องพายลุ ม่ ลง ลกู เรือตายหมดยงั แต่ พระมหาชนกรอดผ้เู ดียว ทรงอดทนวา่ ยนา้ ในมหาสมทุ รด้วยความ เพียร 7 วนั 7 คืน จนได้พบนางมณีเมขลาในที่สดุ นางมณีเมขลาได้ อ้มุ พระมหาชนกไปสง่ ยงั มถิ ิลานคร ฝ่ ายมถิ ิลานคร พระโปลชนกได้ สวรรคตเหลือเพียงพระราชธิดานาม \"สีวลเี ทวี\" ก่อนสวรรคตทรงตงั้ ปริศนาเรื่องขมุ ทรัพย์ทงั ้ สบิ หกไว้สาหรับผ้จู ะขนึ ้ ครองราชย์ตอ่ ไป แตไ่ มม่ ีผ้ใู ดไขปริศนาได้ เหลา่ อมาตย์จงึ ได้ประชมุ กนั แล้วปลอ่ ย ราชรถ ราชรถก็แลน่ ไปยงั ท่ีมหาชนกบรรทมอยู่ เหลา่ อมาตย์จงึ เชญิ เสด็จขนึ ้ ครองราชย์และอภิเษกกบั สวี ลเี ทวี ทรงไขปริศนาต่างๆ ได้ และทรงครองราชสมบตั โิ ดยธรรม
วนั หนึ่ง พระมหาชนก ทรงประทบั บนคอ ช้างเพอื่ ทอดพระเนตรอุทยาน ใกลป้ ระตู อทุ ยานมมี ะมว่ ง 2 ตน้ ตน้ หน่ึงมผี ล ต้น หน่ึงไมม่ ผี ล ผลน้นั มรี สหวานเหลอื เกนิ พระมหาชนกทรงเก็บมาเสวยผลหนึ่ง แลว้ เสด็จเขา้ อุทยาน คนอน่ื ๆ ตง้ั แตพ่ ระ อปุ ราชลงมาตา่ งก็แยง่ เก็บผลมะมว่ ง จน มะมว่ งตน้ น้นั โคน่ ลง พระมหาชนก ทอดพระเนตรเห็นดงั น้นั ก็เกดิ ความสังเวช ทค่ี นทง้ั หลายหวงั แตป่ ระโยชนอ์ ยา่ งขาด ปญั ญา ราลกึ ไดว้ า่ นางมณเี มขลาเคยส่ังให้ พระองคต์ ง้ั มหาวทิ ยาลยั จงึ ไดป้ รกึ ษากบั พราหมณ์ ในทสี่ ดุ ไดต้ ง้ั มหาวทิ ยาลยั ปู ทะเลยข์ นึ้ โดยราลกึ วา่ ขณะทท่ี รงวา่ ยน้า ในมหาสมุทรทง้ั 7 วนั 7 คนื มปี ทู ะเล ยกั ษม์ าช่วยหนุนพระบาท
ข้อคดิ ทไี่ ดจ้ ากเรอื่ ง เใกปพนขนวริพร้าะ้ากะนถณงบาธงึขารตีจเ์ วทดรติ าอาื่สใงเแงมนจลเผินดะใ\"้คู็จชทหพนพวรี้เปรงติร็ะตนะแเมเง้ัพเลจหคพะอื่้าราใรอกอ่ืชนะยอ่ งทนทหู่ใเยัตกศิหวั เอ\"ืทท้ผเกนดารยดิใว้งงแกสจยพพัปมาครรรมรวะอ่พะาารยชมทาฒั า่ชาศั นงชนานะ ประเทศ ในพระราชปรารภหรอื คานาของ ดพใโกอหารรกเณุ้เะนปาร็าินนสาโชชเเปฉคนวี รรลติิพดอ่ืมิ ขนเงฉกอพธลลงจ์ิ อา้สางโคารกปธอื ณารทุ ญดาง้ั กเหจพรลนอื่ะาาหปยภรมเิ ะอ่ษโทดมกยงรัใแชนงหหพนี้ ้พง่ ใ์รรมิ นะชัพกกใ์ าานรล เทวด1า.จใะชน่วยยามผว้ทู กิ ช่ี ฤ่วตยตวัตเอ้ องงคเทดิ า่พนงึ่ ้นั ตนเอง 2. ความเพยี รอนั บรสิ ุทธิ์ หมายถงึ วเตพกิอ้ ยีฤงรพตอยนั าสบยรรา้าสิมงทุ อเศธยริา่์ ษงถฐกงึ ทจิ สจี่ ดรุ งิ ดเว้ พยอื่ งทานจ่ี ะหกร้าอื วคผวา่ านม เพม่ิ 3พ.ุนู ทสรรพั ้ายงาเศกรรษฐกจิ ดว้ ยการอนุรกั ษแ์ ละ 4. โมหภมู แิ ละมหาวชิ ชาลยั หขอมงามยนถุงษึ ยตม์ อ้นงุษหยลจ์ ดุ ะพสาน้ มจาารกถอปวฏชิ ริ ชปู าการเพเรอื่ ยี กน้ารวู้
หลกั ธรรมทไ่ี ดจ้ ากเรอ่ื ง 1.ร้จู ดั คดิ เห็นหรอื คดิ ถกู วธิ (ี โยนิโนมนสิการ) เพอ่ื เอาชนะปญั หาหรอื อุปสรรค หรอื เพอื่ ให้ การทางานบรรลคุ วามสาเร็จตามเป้ าหมายที่ วางไว้ พระพทุ ธเจ้า ตรสั สอนให้เรารจู้ กั คดิ การ รจู้ กั คดิ วเิ คราะห์ วจิ ารณอ์ ยา่ งรอบดา้ น ทาให้เกดิ ปญั ญา จนแตกฉาน เรยี กวา่ “โยนโิ สมนสิการ” โยนิโส แปลวา่ ถกู ตอ้ งแยบคาย มนสิการ (มะนะสิกาน) การกาหนดไวใ้ น ใจ แปลวา่ ทาไว้ในใจ. โยนิโสมนสิการ หมายถงึ การทาไว้ในใจ โดยแยบคาย หรอื การคดิ ถกู ตอ้ งตามความ เป็ นจรงิ มไี วพจนอ์ กี 4 คา ทโ่ี ยงเขา้ กบั โยนิโสมนสิการ คอื อุบายมนสิการ ปถมนสิการ การณมนสิการ อปุ ปาท
1. อบุ ายมนสิการ เป็ น การคดิ หรอื สหจพรภรจิ งิอืาาวถรลณกูสกัวอาษธิดโีณคดลยซะอ้อแงึ่ งบุลหกาะมบสยั าแายมนถคญัวงึ อื สลัจกั กจกษาะาณรรเคขะซดขิา้ งึ่ อถอทยงงึ าคสา่ ใ่ิงงวหมา้รวมี ู้ ธิ ี ทง้ั หลาย 2. ปถมนสิการ เป็ น การคดิ ถกู ทาง รจเรตกตะวติรอ่ ลเมะไเบดนิโทมยี ดไื่องแ้่ั บปดงควตเคไว็บปาปดิา็ตนมมมอดิ ลหาสกี พาลาเดนรักมั ไอบ่ืัใเามหงนรเ่หตถปเหรนผุ็ในอมื่ นึ่งลชงากนยน้ิ าจถี้ไเรปติมงึ ชแ็ นยย่ ตกั งุ่องุ่ คคเ่เเนัดหหววยี๋ายยาวมงมิแงิ กคนสนตลัดี้บิ ึก่ บัทสคนเี่ดิ ป็ น ไปส้ แู นวทางทถ่ี กู ต้อง ตพเ3เคหค.าวจิ ้าตมกาาผุมลารลสรหาณณัดมราบพอัื มเสปแนัืนบ็ นหธสสกลส์ิากืาง่บวาทรหทรสมี่ าอืบาสดเคซาปแน้็เงึ่นหหสตง่ ต่งาเผุกหมลาแตใรตนปุหคอ่ วจั้เดิขเจนอ้ายั ื่อยใงจา่ งถมงึ ีตน้ 4. อุปปาทกมนสิการ การคดิ การพจิ ารณา ขนใพเขหี้อจิ ม้ ้เงากเแครปดขิ ณ็วนก็งาเามศุมพทน่ลัคยี ที่ ธคดิงารงแกใรบาหมรบเ(้มปแกโ็สีสนยรตดตนริงมน้ิโลดสหกั )มี รไษนเอื ขชณสทค่นิกาะวาใดารหา้กมน้จาทตติรซง้ั ใา่ ง่ึ จงก4ๆารขอ้
วธิ โี ยนโิ สมนสิการพอประมวลเป็ นแบบ ใหญไ่ ด้ 10 วธิ ดี งั ตอ่ ไปนี้ 1. วธิ คี ดิ แบบสืบสาวเหตุปจั จยั 2. วธิ คี ดิ แบบแยกแยะส่วนประกอบ หรอื กระจายเนื้อหา 3. วธิ คี ดิ แบบสามญั ลกั ษณ์ หรอื วธิ คี ดิ แบบร้เู ทา่ ทนั ธรรมดา 4. วธิ คี ดิ แบบอรยิ สัจ หรอื คดิ แบบ แกป้ ญั หา 5. วธิ คี ดิ แบบอรรถธรรมสัมพนั ธ์ 6. วธิ คี ดิ แบบคณุ โทษและทางออก 7. วธิ คี ดิ แบบคณุ คา่ แท้-คุณคา่ เทยี ม 8. วธิ คี ดิ แบบอุบายปลกุ เร้าคุณธรรม 9. วธิ คี ดิ แบบเป็ นอยใู่ นขณะปจั จุบนั 10. วธิ คี ดิ แบบวภิ ชั ชวาทหรอื คดิ แบบ แยกแยะประเด็น
https://th.wikipedia.org/wiki https://sites.google.com http://www.thaigoodview.com
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: