Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Jig Fixture 3

Jig Fixture 3

Published by ธีรพงษ์ เกิดบุญส่ง, 2021-10-16 09:24:55

Description: Jig Fixture 3

Search

Read the Text Version

1 การออกแบบจิ๊กฟิ กซ์เจอร์ บทท่ี 4 หลกั การของการยดึ จับชิ้นงาน 4.1 ตวั ยดึ จับชิ้นงาน คำวำ่ ตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนน้ี จะถูกนำมำใชส้ ำหรับอธิบำยถึงชิ้นส่วนของจ๊ิกหรือฟิ กซ์เจอร์ ที่ทำหนำ้ ท่ี ในกำรยดึ จบั ชิ้นงำนไม่วำ่ จะเป็นแผน่ ยดึ , ตวั จบั และแบบหนีบยดึ จบั ชิ้นงำนใหต้ ิดแน่นอยกู่ บั จ๊ิกหรือฟิ กซ์ เจอร์ใหอ้ ยใู่ นตำแหน่งที่ตอ้ งกำรอยำ่ งเที่ยงตรง และอยใู่ นตำแหน่งดงั กล่ำวโดยสำมำรถต่อตำ้ นแรงที่เกิดจำก กำรตดั ของเคร่ืองมือตดั ที่กระทำต่อชิ้นงำนไดเ้ ป็นอยำ่ งดี ในกรณีเช่นน้ีตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนจะตอ้ งถูกทำใหม้ ี ควำมแขง็ แรงเพียงพอท่ีจะตำ้ นทำนแรงเพยี งพอที่จะตำ้ นทำนแรงท่ีเกิดจำกกำรตดั ได้ แตก่ จ็ ะไมม่ ำกพอที่จะ ทำใหแ้ รงในกำรยึดจบั น้นั ไปทำใหช้ ิ้นงำนบุบสลำยหรือแตกหกั ตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนจะคลำ้ ยกนั กบั ตวั กำหนด ตำแหน่ง คือจะตอ้ งทำใหก้ ำรใส่ชิ้นงำนเขำ้ หรือถอดชิ้นงำนออกจำกจ๊ิกหรือฟิ กซ์เจอร์เป็นไปอยำ่ งรวดเร็ว ตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนท่ีจำเป็ นจะตอ้ งใชเ้ วลำอยำ่ งมำกในกำรทำงำนจะทำใหผ้ ลผลิตตกต่ำและรำคำของชิ้นงำน เพ่มิ สูงข้ึน ดงั น้นั เพอื่ ท่ีจะนำตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนมำใชใ้ หไ้ ดป้ ระโยชน์มำกท่ีสุดต่อกำรทำงำนของจิ๊กหรือฟิ กซ์ เจอร์ 4.2 กฎเกณฑ์ข้ันพนื้ ฐานของการยดึ จับชิ้นงาน กำรทำงำนปำกกำหรือตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนในกำรที่จะยดึ ชิ้นงำนใหต้ ิดแน่นกบั จิ๊กหรือฟิ กซ์เจอร์ใน ระหวำ่ งที่เคร่ืองจกั รกำลงั ทำงำนอยจู่ ะตอ้ งใหเ้ ป็นไปอยำ่ งมีประสิทธิภำพและมนั่ คงเพือ่ ใหไ้ ดผ้ ลงำนออกมำ อยำ่ งดีและถูกตอ้ ง ดงั น้นั ตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนจึงตอ้ งมีกำรคิดวำงแผนใหด้ ีท่ีสุดในระหวำ่ งกำรออกแบบจิ๊กหรือ ฟิ กซ์เจอร์ ซ่ึงนกั ออกแบบจะตอ้ งคำนึงถึงสิ่งตำ่ งๆ ดงั ต่อไปน้ี 4.2.1 ตาแหน่งของปากกาหรือตวั ยดึ จับชิ้นงาน ตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนจะตอ้ งสัมผสั กบั ชิ้นงำนตรงจุดท่ีชิ้นงำนมีควำมแขง็ แกร่งท่ีสุดเสมอไป ท้งั น้ีเพ่ือ ป้ องกนั ไมใ่ หแ้ รงท่ีเกิดจำกกำรยดึ จบั น้นั ไปทำใหช้ ิ้นงำนเกิดกำรแอ่นโคง้ หรือทำใหช้ ิ้นงำนเสียหำยชิ้นงำน จะตอ้ งถูกรองรับไวด้ ว้ ยถำ้ จุดท่ีจะถูกยดึ จบั น้นั อำจถูกแรงของกำรยดึ จบั ทำใหช้ ิ้นงำนเกิดแอน่ โคง้ ข้ึนได้ ดงั แสดงในรูปที่ 4-1ดงั น้นั ถำ้ จะทำกำรยดึ จบั ชิ้นงำนดงั กล่ำวจึงตอ้ งมีตวั รองรับชิ้นงำนดว้ ย ดงั แสดงในรูปท่ี4-2 รูป 4-2 การออกแบบจิ๊กฟิกซ์เจอร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน วทิ ยาเขตขอนแกน่ TID3R

2 การออกแบบจิ๊กฟิ กซ์เจอร์ นอกจำกน้ีตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนตอ้ งไมถ่ ูกวำงไวใ้ นตำแหน่งท่ีจะไปขดั ขวำงกำรทำงำนของเคร่ืองมือตดั ทำใหก้ ำร ทำงำนของเครื่องจกั รตอ่ ชิ้นงำนเป็นอยำ่ งยำกลำบำก ดงั น้นั จึงเป็นส่ิงที่สำคญั มำกตอ่ กำรท่ีจะตอ้ งกำหนด ท่ีต้งั ของตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนใหอ้ ยใู่ นตำแหน่งท่ีจะทำงำนต่ำง ๆ ไดอ้ ยำ่ งง่ำยดำยและปลอดภยั 4.2.2 แรงจากเครื่องมอื ตัด แรงแบบน้ีเป็นแรงท่ีเกิดจำกกำรตดั ชิ้นงำนของเคร่ืองตดั แรงเหล่ำน้ีจะถูกต่อดำ้ นจำกชิ้นงำนท่ีถูก ตดั หรือเฉือน (Sheared) ที่อยภู่ ำยในจ๊ิกหรือฟิ กซ์เจอร์ ดงั น้นั เพอ่ื ที่จะยดึ จบั ชิ้นงำนใหถ้ ูกตอ้ งนกั ออกแบบ จิ๊กหรือฟิ กซ์เจอร์จึงจำเป็นที่จะตอ้ งรู้จกั เครื่องมือ (Tool) คืออะไร ชนิดของกำรตดั เป็ นอยำ่ งไรบำ้ งและมี ทิศทำงในกำรตดั อยำ่ งไร กำรออกแบบใหไ้ ดผ้ ลดีจะตอ้ งสำมำรถใชแ้ รงท่ีเกิดจำกกำรตดั มำเป็นประโยชน์ ดว้ ย ดงั แสดงในรูปที่ 4-3 ซ่ึงเป็นรูปของจ๊ิกเจำะรูแสดงใหเ้ ห็นวำ่ แรงในกำรเจำะมีอยำ่ งไรบำ้ งและมีกำรยดึ ชิ้นงำนไวอ้ ยำ่ งไร แรงในกำรตดั ส่วนมำกจะเป็ นแบบทิศทำงกดลงและถูกตำ้ นทำนโดยฐำนของจิ๊กหรือฟิ กซ์เจอร์ นอกจำกน้ีแรงบิดที่เกิดกจ็ ะทำใหช้ ิ้นงำนที่ถูกตดั หรือถูกเจำะหมุนรอบแกนของดอกสวำ่ นได้ และอีกแรง หน่ึงคือแรงที่ทำใหเ้ กิดกำรปี นข้ึนของชิ้นงำนในระหวำ่ งกำรเจำะเมื่อดอกสวำ่ นเจำะทะลุอีกดำ้ นหน่ึงของ ชิ้นงำน สำหรับจ๊ิกเจำะรูในรูปที่ 4-3 แรงที่จะทำใหช้ ิ้นงำนหมุนรอบดอกสวำ่ นจะถูกต่อตำ้ นโดยตวั กำเนิด ตำแหน่ง (Locators) ที่อยรู่ อบชิ้นงำนท่ีทำกำรยดึ ใหช้ ิ้นงำนติดแน่นในตำแหน่งเดิม และสำหรับแรงท่ีจะทำ ใหช้ ิ้นงำนปี นข้ึนน้นั กำรใส่ตวั ยดึ จบั (Clamp) ใหย้ ดึ ชิ้นงำนก็จะเป็นกำรช่วยใหช้ ิ้นงำนติดแน่นอยใู่ น ตำแหน่งน้นั โดยไม่เกิดกำรเคลื่อนท่ีข้ึนดำ้ นบน 4.2.3 แรงในการยดึ จับชิ้นงาน แรงในกำรยดึ จบั ชิ้นงำนน้ีเป็ นแรงท่ีจำเป็นจะตอ้ งมีเพอ่ื สำหรับยดึ จบั ชิ้นงำนให้อยนู่ ่ิงตรงตำแหน่งท่ี กำหนดไวใ้ นระหวำ่ งที่เครื่องจกั รกำลงั ทำงำนและแรงน้ีจะถูกตอ่ ตำ้ นโดยกำหนดตำแหน่งเดิม หรือถูกดึง ออกจำกจิ๊กหรือฟิ กซ์เจอร์ในระหวำ่ งที่ชิ้นงำนถูกกระทำอยู่ สำหรับชนิดของตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนและปริมำณ ของแรงที่จำเป็ นตอ้ งใชใ้ นกำรยดึ จบั ชิ้นงำนน้นั จะถูกพิจำรณำจำกแรงของเคร่ืองมือท่ีจะกระทำต่อชิ้นงำน การออกแบบจ๊ิกฟิกซ์เจอร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลอสี าน วิทยาเขตขอนแก่น TID3R

3 การออกแบบจิ๊กฟิ กซ์เจอร์ และตำแหน่งของชิ้นงำนท่ีถูกกำหนดไวใ้ หอ้ ยำ่ งไรในจ๊ิกหรือฟิ กซ์เจอร์ ดงั เช่นในกรณีของชิ้นงำนรูปวง แหวนท่ีแสดงไวใ้ นรูปท่ี 4-4 ถำ้ วงแหวนถูกยดึ จบั ดงั ในรูป A และชิ้นงำนวงแหวนก็อำจจะเกิดกำรโคง้ งอ ข้ึนได้ แต่ถำ้ ชิ้นงำนถูกยดึ จบั ในรูป B แลว้ กำรโคง้ งอของชิ้นงำนกจ็ ะไมเ่ กิดข้ึน ตำมกฎทวั่ ๆ ไปแรงท่ีใชใ้ นกำรยดึ จบั ชิ้นงำนควรจะใชเ้ ป็ นปริมำณท่ีพอเพียงแคย่ ดึ จบั ชิ้นงำนและ ตำ้ นทำนกบั ตวั กำหนดตำแหน่งเท่ำน้นั ตวั กำหนดั ตำแหน่งควรจะต่อตำ้ นแรงกดลงไดเ้ ป็นอยำ่ งดี ถำ้ ชิ้นงำน ตอ้ งถูกยดึ จบั ดว้ ยแรงปริมำณมำก ๆ แลว้ จิ๊กหรือฟิ กซ์เจอร์จะตอ้ งไดร้ ับกำรออกแบบใหม่เพือ่ ใหแ้ รงกดลง น้นั กระทำหรือกดลงโดยตรงไปยงั ตวั กำหนดตำแหน่ง หรือที่ตวั ของจิ๊กหรือฟิ กซ์เจอร์เลยทีเดียว ซ่ึงน้นั กค็ ือ ตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนจะตอ้ งไมถ่ ูกนำมำพิจำรณำใหย้ ดึ จบั ชิ้นงำนเพ่ือรับแรงกดท้งั หมด 4.3 ชนิดของตวั ยดึ จับชิ้นงาน วธิ ีกำรยดึ จบั ชิ้นงำนท้งั ในจ๊ิกหรือฟิ กซ์เจอร์มีอยหู่ ลำยวธิ ีดว้ ยกนั นกั ออกแบบเครื่องมือจะเลือกใช้ ตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนชนิดน้นั กจ็ ะตอ้ งพจิ ำรณำดูจำกรูปร่ำงและขนำดของชิ้นงำน ชนิดของจิ๊กหรือฟิ กซ์เจอร์ที่ถูก นำมำใชง้ ำนและตอ้ งดูวำ่ งำนที่จะทำน้นั จะทำอยำ่ งไร นกั ออกแบบจ๊ิกหรือฟิ กซ์เจอร์จะตอ้ งเลือกตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนท่ีมีลกั ษณะธรรมดำท่ีสุด ใชง้ ำนไดง้ ่ำยที่สุด และมีประสิทธิภำพสูงที่สุดดว้ ย ต่อไปน้ีเป็นตวั อยำ่ ง ชิ้นงำนแบบตำ่ ง ๆ 4.3.1 ตวั ยดึ แบบแผ่น เป็นตวั ยดึ จบั งำนแบบท่ีธรรมดำท่ีสุดท่ีใชก้ บั จิ๊กหรือฟิ กซ์เจอร์ ดงั แสดงในรูปท่ี 4-5 สำหรับ หลกั กำรทำงำนเบ้ืองตน้ ของตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนแบบน้ีก็เป็นแบบเดียวกนั ระบบคำนงดั นนั่ เอง ตวั ยดึ จบั แบบน้ี สำมำรถแบง่ ออกไดต้ ำมชนิดของกำรทำงำนของคำนงดั เป็ น 3 กลุ่ม ดงั แสดงในรูปท่ี 4-6 สำหรับรูปท่ี 4-6A แสดงตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนกลุ่มแรกท่ีกำรทำงำนจะมีจุดหนุน (Fulcrum) อยรู่ ะหวำ่ งชิ้นงำนกนั จุดท่ีทำปฏิกิริยำ (Effort) สำหรับกลุ่มท่ี 2 รูปท่ี 4-6B จะมีกำรทำงำนของตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนโดยท่ีชิ้นงำนจะอยรู่ ะหวำ่ งจุดหมุน กดั จุดปฏิกิริยำ และกลุ่มท่ี 3 ดงั แสดงในรูปท่ี 4-6C จะมีกำรทำงำนโดยจุดปิ ฏิกิริยำอยกู่ ลำงระหวำ่ งชิ้นงำน กบั จุดหมุน การออกแบบจิ๊กฟิกซ์เจอร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน วทิ ยาเขตขอนแกน่ TID3R

4 การออกแบบจิ๊กฟิ กซ์เจอร์ ตวั ยดึ แบบแผน่ น้ีจะถูกใชง้ ำนเป็นส่วนมำกในทุก ๆ พ้ืนท่ีของจิ๊กหรือฟิ กซ์เจอร์ ยงั มีแบบอ่ืน ๆ ของ ตวั ยดึ แบบแผน่ อีกคือ แบบบำนพบั แบบเล่ือน และแบบหมุน ดงั แสดงในรูปท่ี 4-7 ในกำรทำงำนของตวั ยดึ แบบแผน่ จุดหมุน (Fulcrum) จะถูกำหนดไวโ้ ดยทำใหแ้ ผน่ ประกบ (Clamp Bar) จะตอ้ งขนำนกบั ฐำนของจ๊ิกหรือฟิ กซ์เจอร์ตลอดเวลำ แตใ่ นบำงคร้ังชิ้นงำนอำจจะมีควำมหนำแตกต่ำง กนั บำ้ งซ่ึงกไ็ มเ่ สมอไปนกั แตก่ ็อำจเป็นไปไดเ้ พื่อท่ีจะแกไ้ ขผลของกำรท่ีชิ้นงำนมีควำมหนำแตกตำ่ งกนั เล็กนอ้ ยน้ี ซ่ึงจะทำใหแ้ ผน่ ประกบไม่ขนำนกนั ฐำนของจิ๊กหรือฟิ กซ์เจอร์และจะเกิดแรงเครียด (Stresses) ข้ึน ที่เลียวที่ยดึ ดงั น้นั ในกรณีน้ีเรำจึงใชแ้ หวนและน็อตที่มีรูปทรงกลม ดงั แสดงในรูปท่ี 4-8 เพื่อที่จะลดแรง เครียดท่ีเกิดข้ึนมำดงั กล่ำว การออกแบบจิ๊กฟิกซ์เจอร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วทิ ยาเขตขอนแกน่ TID3R

5 การออกแบบจิ๊กฟิ กซ์เจอร์ ตวั ยดึ แบบแผน่ สำมำรถท่ีจะนำมำใชง้ ำนโดยกำรใชแ้ รงคนหรือใชส้ ่ิงประดิษฐ์อยำ่ งอื่นช่วย สำหรับ ส่ิงที่ตอ้ งใชแ้ รงคนช่วยไดแ้ ก่ น็อตหกเหลี่ยม (Hex Nuts) ลูกบิด (Hand Knob) และลูกบิดเบ้ียว (Cam) ดงั แสดงในรูปที่ 4-9 ส่วนรูปท่ี 4-10 เป็นแบบที่ใชส้ ่งกำลงั โดยไฮดรอลิค (Hydraulic) หรือระบบลมอดั (Pneumatic System) กำลงั (Power) ในกำรยดึ จบั ชิ้นงำนของตวั ยดึ แบบแผน่ จะถูกพจิ ำรณำจำกขนำดของเกลียวที่ใชก้ บั ตวั ยดึ แบบแผน่ สำหรับตำรำงในรูปท่ี 4-11 จะแสดงตำ่ ของแรงท่ีเกิดข้ึนระหวำ่ งกำรยดึ จบั โดยตวั ยดึ แบบ แผน่ เม่ือใชส้ กรูในขนำดต่ำง ๆ กนั และในตำรำงน้ีจะเป็ นสกรูท่ีนิยมใชก้ นั มำกที่สุด 6 ขนำด ท้งั ระบบ องั กฤษและระบบเมตริก และค่ำที่แสดงน้ีมีพ้นื ฐำนจำกสลกั เกลียว (Bolts) มำตรฐำนท่ีมีค่ำควำมแขง็ แรงทำง การออกแบบจิ๊กฟิกซ์เจอร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอสี าน วิทยาเขตขอนแกน่ TID3R

6 การออกแบบจิ๊กฟิ กซ์เจอร์ ดึงต่ำสุด 50,000 psi. (ปอนดต์ ่อตำรำงนิ้ว) สำหรับสลกั เกลียวที่มีขำยอยตู่ ำมทอ้ งตลำดทว่ั ๆ ไปจะมีคำ่ ควำม แขง็ แรงทำงดึงต่ำสุดอยรู่ ะหวำ่ ง 75,000 ถึง 100,000 ปอนดต์ ่อตำรำงนิ้ว 4.3.2 ตวั ยดึ จับแบบใช้สกรู เป็นตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนซ่ึงเป็นท่ีนิยมใชก้ นั อยำ่ งกวำ้ งขวำง สำหรับใชก้ บั จิ๊กหรือฟิ กซ์เจอร์ซ่ึงตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนแบบใชส้ กรู (Screw Clamps) จะทำใหน้ กั ออกแบบจ๊ิกหรือฟิ กซ์เจอร์สำมำรถนำไปใชเ้ ป็นประโยชน์ ไดอ้ ยำ่ งมำกโดยลดควำมยงุ่ ยำกในกำรออกแบบ, คำ่ ใชจ้ ำ่ ยและใชไ้ ดใ้ นหลำย ๆ กรณี แต่ตวั ยดึ แบบใชส้ กรูน้ี ก็มีขอ้ เสียอยอู่ ยำ่ งหน่ึงกค็ ือ ในกำรใชง้ ำนดว้ ยตวั ยดึ แบบใชส้ กรูทำงำนไดช้ ำ้ กวำ่ ตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนแบบอื่น ๆ สำหรับพ้นื ฐำนของตวั ยดึ จบั แบบน้ีจะใชแ้ รงจำกเกลียวในกำรยดึ จบั ชิ้นงำนใหอ้ ยตู่ ำมตำแหน่งของมนั ซ่ึง อำจกระทำโดยตรงหรือกระทำคู่กบั ตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนแบบอ่ืนดงั แสดงในรูปท่ี 4-12 ตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนแบบใชส้ กรูน้ีมีอยหู่ ลำยแบบดว้ ยกนั และไดม้ ีกำรผลิตมำขำยอยใู่ นทอ้ งตลำด โดยไดม้ ีกำร ปรับปรุงกำรทำงำนใหม้ ีผลดีมำที่สุดและลดขอ้ เสียตำ่ ง ๆ ลงไป สำหรับตอ่ ไปน้ีจะกล่ำวถึงตวั ยดึ จบั ชิ้นงำน แบบใชส้ กรูที่มีขำยตำมทอ้ งตลำดและไดป้ รับปรุงใหม้ ีประสิทธิภำพสูงในกำรทำงำน การออกแบบจิ๊กฟิกซ์เจอร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลอสี าน วทิ ยาเขตขอนแกน่ TID3R

7 การออกแบบจ๊ิกฟิ กซ์เจอร์ 4.3.3 ตัวยดึ จับแบบสวงิ เป็นตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนแบบท่ีใชก้ ำรทำงำนร่วมกนั ระหวำ่ งตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนแบบสำหรับหมุน (Swinging arm) ซ่ึงหมุนอยดู่ ำ้ นเดือย (Stud) โดยท่ีแรงที่ยดึ ติดกบั ชิ้นงำนน้ีจะกระทำโดยสกรูและมีกำร กระทำในที่ต่ำง ๆ ที่ตอ้ งกำรไดอ้ ยำ่ งรวดเร็วก็ได้ กำรใชแ้ ขนสำหรับหมุน ดงั รูปท่ี 4-13 4.3.4 ตวั ยดึ จับแบบตาขอ ตวั ยดึ จบั แบบตำขอ สำหรับตวั ยดึ ชิ้นงำนแบบตะขอน้ีมีลกั ษณะคลำ้ ยๆ กบั แบบสวงิ แตว่ ำ่ จะเล็กกวำ่ มำก ดงั รูปท่ี 4-14 สำหรับตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนแบบตะขอน้ีจะมีประโยชนส์ ำหรับกำรยดึ จบั ชิ้นงำนในท่ีท่ี ตอ้ งกำรใชต้ วั ยดึ จบั ชิ้นงำนเล็กหลำย ๆ อนั แทนกำรใชอ้ นั ใหญเ่ พียงอนั เดียว และสำหรับในรูป 4-15 คือตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนแบบตะขอท่ีถูกดดั แปลงแลว้ (Modified Hook Clamp) ซ่ึงจะถูกใชง้ ำนสำหรับชิ้นงำนที่จะถูก กระทำจำกดำ้ นที่อยตู่ รงขำ้ มกบั จิ๊กหรือฟิ กซ์เจอร์น้นั 4.3.5 ตัวยดึ จับแบบใช้ลกู บิดเร็วพเิ ศษ จะมีประโยชน์มำกในกำรใชง้ ำนทำใหท้ ำงำนไดร้ วดเร็วเป็นกำรลดคำ่ ใชจ้ ่ำยลง ลูกบิดแบบน้ีจะถูก ทำข้ึนมำโดยทำใหเ้ มื่อแรงดนั หรือแรงกดท่ีกระทำต่อลูกบิดลดลงแลว้ ก็สำมำรถที่จะเอียงลูกบิดกส็ ำมำรถท่ี จะเล่ือนลูกบิดออกมำจำกสลกั เกลียวไดเ้ ลย ดงั แสดงในรูปท่ี 4-16 ลูกบิดเร็วพิเศษน้ีจะถูกเอียงและเลื่อนเขำ้ ไปตำมสลกั เกลียวจนกระท้งั ไปสมั ผสั กบั ชิ้นงำน จำกน้นั กห็ มุนลูกบิดใหเ้ ขำ้ กบั เกลียวของสลกั เกลียว จนกระทงั่ ลูกบิดหมุนติดแน่นอยกู่ บั ชิ้นงำน การออกแบบจ๊ิกฟิกซ์เจอร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน วทิ ยาเขตขอนแก่น TID3R

8 การออกแบบจ๊ิกฟิ กซ์เจอร์ 4.3.6 ตัวยดึ จับชิ้นงานแบบใช้ลูกเบีย้ ว ตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนแบบลูกเบ้ียวน้ีจะถูกนำมำใชง้ ำนในกรณีที่ตอ้ งกำรควำมรวดเร็ว มีประสิทธิภำพ และยดึ จบั ชิ้นงำนแบบธรรมดำ ๆ ในรูปที่ 4-17 จะแสดงโครงสร้ำงและหลกั กำรทำงำนของลูกเบ้ียวท่ียดึ จบั ชิ้นงำน และกำรใชง้ ำนของลูกเบ้ียวน้ีจะถูกจดั ใหใ้ ชไ้ ดก้ บั งำนบำงอยำ่ งเท่ำน้นั ตวั ยดึ จบั งำนแบบลูกเบ้ียวซ่ึงส่งแรงกดโดยตรงไปยงั ชิ้นงำนเลยน้นั จะไมถ่ ูกนำไปใชก้ บั งำนท่ีมีกำร สัน่ สะเทือนอยำ่ งมำก เพรำะวำ่ กำรส่ันสะเทือนออยำ่ งแรงน้ีอำจจะทำใหต้ วั จบั ชิ้นงำนเล่ือนหลุดไปได้ ซ่ึงจะ เป็นอนั ตรำยอยำ่ งมำก นอกจำกน้ีจะตอ้ งระมดั ระวงั เวลำท่ีใชต้ วั ยดึ จบั ชิ้นงำนแบบลูกเบ้ียวที่กดลงโดยตรง กบั ชิ้นงำน เน่ืองจำกอำจจะทำใหช้ ิ้นงำนเล่ือนหรือเคลื่อนท่ีไปจำกตำแหน่งเดิมได้ ดงั น้นั จึงจำเป็ นท่ีจะตอ้ ง ป้ องกนั เหตุกำรณ์อยำ่ งน้ีโดยทำใหช้ ิ้นงำนอยใู่ นตำแหน่งที่ถูกรองรับดว้ ยตวั กำหนดตำแหน่งในขณะที่กำลงั ยดึ จบั ชิ้นงำน ตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนแบบลูกเบ้ียวที่ถูกทำขำยอยใู่ นทอ้ งตลำดน้ีส่วนมำกจะใชง้ ำนคูก่ บั ตวั ยดึ แบบแผน่ ดงั แสดงในรูปที่ 4-18 ซ่ึงในกำรใชต้ วั ยดึ จบั ชิ้นงำนแบบลูกเบ้ียว (Cam Clamp) ร่วมกบั ตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนแบบ เรียบ (Strap Clamp) น้ีจะทำใหเ้ กิดผลดีในกำรยึดจบั ชิ้นงำน คือจะช่วยลดกำรเล่ือนหรือเคลื่อนที่ออกจำก ตำแหน่งเดิมของชิ้นงำนในขณะที่ทำกำรยดึ จบั ชิ้นงำน การออกแบบจ๊ิกฟิกซ์เจอร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลอสี าน วิทยาเขตขอนแก่น TID3R

9 การออกแบบจิ๊กฟิ กซ์เจอร์ สำหรับกำรทำงำนของลูกเบ้ียวในกำรยดึ จบั ชิ้นงำนของจิ๊กหรือฟิ กซ์เจอร์น้ีจะมีกำรใชล้ ูกเบ้ียวอยุ่ 3 แบบดว้ ยกนั คือ แบบแผน่ เย้อื งศูนย์ แบบแผน่ สไปรัล และแบบทรงกระบอก ดงั มีรำยละเอียดดงั น้ี 4.3.6.1 ลูกเบยี้ วแบบแผ่นเยอื้ งศูนย์ เป็นลูกเบ้ียวแบบที่ทำไดง้ ่ำยท่ีสุด และสำมำรถท่ีจะทำงำนไดห้ ลำยทิศทำงจำกจุดศูนยก์ ลำงของลูก เบ้ียวเองกำรทำงำนของลูกเบ้ียวแบบน้ีก็คือลูกเบ้ียวจะทำกำรลอ็ คหรือทำกำรยดึ ชิ้นงำนใหแ้ น่น เม่ือลูกเบ้ียว เคลื่อนท่ีมำอยตู่ รงตำแหน่งสูงสุดวดั จำกจุดศูนยก์ ลำง ดงั แสดงในรูปท่ี 4-19 อยำ่ งไรก็ตำมกำรใชง้ ำนของลูก เบ้ียวแบบเย้อื งศูนยน์ ้ีกม็ ีขอ้ จำกดั กค็ ือ จะทำกำรยดึ ชิ้นงำนใหแ้ น่นเตม็ ที่น้นั มีช่วงกำรยึดแน่นนอ้ ยมำกถำ้ ลูก เบ้ียวเคล่ือนที่ไม่ถึงจุดสูงสุดแลว้ กอ็ ำจเล่ือนหลุดได้ ซ่ึงจำกเหตุผลน้ีทำใหล้ ูกเบ้ียวแบบเย้อื งศูนยน์ ้ียดึ จบั งำน ไดไ้ ม่ดีเท่ำกบั ลูกเบ้ียวแบบสไปรัล การออกแบบจ๊ิกฟิกซ์เจอร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอสี าน วิทยาเขตขอนแก่น TID3R

10 การออกแบบจ๊ิกฟิ กซ์เจอร์ 4.3.6.2 ลกู เบีย้ วแบบแผ่นสไปรัล เป็นลูกเบ้ียวแบบท่ีนิยมใชก้ นั มำกที่สุดในจิ๊กหรือฟิ กซ์เจอร์ ซ่ึงในทอ้ งตลำดก็มีกำรทำลูกเบ้ียว แบบสไปรัลออกมำขำยมำกกวำ่ แบบเย้อื งศนู ย์ เนื่องจำกวำ่ ลูกเบ้ียวแบบสไปรัลน้ีจะมีคุณสมบตั ิยดึ จบั ชิ้นงำนไดด้ ีกวำ่ และมีพ้นื หรือช่วงในกำรยดึ จบั ชิ้นงำนไดม้ ำกกวำ่ น้ีเอง ดงั แสดงในรูปท่ี 4-20 4.3.6.3 ลูกเบีย้ วแบบทรงกระบอก เป็นลูกเบ้ียวแบบท่ีนิยมใชก้ บั จิ๊กหรือฟิ กซ์เจอร์ เช่นกนั กำรทำงำนของลูกเบ้ียวแบบทรงกระบอกน้ี ดงั แสดงในรูปท่ี 4-21 ส่วนรูปท่ี 4-22 เป็นลูกเบ้ียวแบบทำงำนเร็วพิเศษท่ีถูกทำออกขำยในทอ้ งตลำด ซ่ึงใช้ หลกั กำรทำงำนของลูกเบ้ียวทรงกระบอกรวมกบั วธิ ีกำรกำรทำใหร้ วดเร็วในกำรยดึ จบั และคลำยชิ้นงำนหลกั ซ่ึงเป็นที่นิยมใชก้ นั ทงั่ ไป 4.3.7 ตัวยดึ จับชิ้นงานแบบลมิ่ กำรใชต้ วั ยดึ จบั ชิ้นงำนแบบล่ิมน้ีเป็นกำรนำหลกั กำรมำจำกกำรใชผ้ วิ เอียงยดึ ชิ้นงำนใหแ้ น่นคลำ้ ย ๆ กบั กำรใชล้ ูกเบ้ียว สำหรับตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนแบบใชล้ ิ่มที่พบอยทู่ วั่ ๆ ไปน้ีจะมีอยู่ 2 แบบคือ แบบลิ่มแผน่ เรียบ (Flat Wedge) และแบบลิ่มรูปกรวย (Conical Wedge) 4.3.7.1 ลมิ่ แบบแผ่นเรียบ ล่ิมแบบแผน่ เรียบน้ีจะยดึ ชิ้นงำนใหต้ ิดแน่นโดนกำรใชก้ ำรกระทำท่ีเกี่ยวพนั ระหวำ่ งลิ่มน้ีส่วนหน่ึง ของจ๊ิกหรือฟิ กซ์เจอร์ ดงั แสดงในรูปที่ 4-23 ล่ิมท่ีใชจ้ ะมีมุมเอียงเล็กนอ้ ยประมำณ 1-4 องศำ ปกติแลว้ ล่ิม การออกแบบจ๊ิกฟิกซ์เจอร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอสี าน วิทยาเขตขอนแกน่ TID3R

11 การออกแบบจ๊ิกฟิ กซ์เจอร์ แบบน้ีจะทำกำรยดึ จบั ชิ้นงำนำไดด้ ว้ ยตวั เองโดยไมต่ อ้ งสร้ำงอะไรเพ่ิมเติม แต่สำหรับล่ิมที่มีมุมขนำดใหญ่ หรือล่ิมที่ยดึ ชิ้นงำนไม่ไดด้ ว้ ยตวั เองจะถูกนำไปใชง้ ำนเมื่อมีกำรเคลื่อนที่ในระยะทำงที่มำกกวำ่ ดงั แสดงใน รูปที่ 4-24 และเน่ืองจำกล่ิมแบบน้ีไม่สำมำรถจะยดึ งำนดว้ ยตวั ของมนั เองได้ ดงั น้นั จึงตอ้ งใชล้ ูกเบ้ียวหรือสก รูช่วยยดึ ดว้ ย 4.3.7.2 ลม่ิ รูปกรวย ลิ่มรูปกรวยหรือเรียกอีกอยำ่ งหน่ึงวำ่ แมนเดล (Mandrel) ลิม้ แบบรูปกรวยน้ีจะถูกนำมำใชก้ บั ชิ้นงำน ท่ีมีรูปเพอื่ ที่อดั หรือใส่แมนเดลเขำ้ ไปในรูปน้นั ดงั แสดงในรูปท่ี 4-25 แมนเดลน้ีจะมีอยู่ 2 แบบ คือแบบท่ี ขยำยขนำดไดแ้ ละแบบท่ีมีขนำดแน่นอน สำหรับแทนเดลที่มีขนำดแน่นอนน้นั จะใชไ้ ดก้ บั ชิ้นงำนเพียง ขนำดเดียวเทำ่ น้นั ส่วนแมนเดลท่ีขยำยไดน้ ้นั จะใชไ้ ดก้ บั ชิ้นงำนที่มีขนำดอยใู่ นท่ีกำหนดช่วงหน่ึง ๆ ท่ีมี ควำมฟิ ตเดียวดนั การออกแบบจิ๊กฟิกซ์เจอร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแกน่ TID3R

12 การออกแบบจ๊ิกฟิ กซ์เจอร์ 4.3.8 ตัวยดึ จับชิ้นงานแบบใช้ทอ็ กเกลิ ตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนแบบท๊อกเกิลที่ใชก้ นั เสมอน้ีจะมีกำรทำงำนเพอ่ื ยดึ จบั ชิ้นงำนอยู่ 4 แบบ คือ Hold Down (แบบกดลง), Squeeze (แบบอดั กลำง), Pull (แบบดึงกลบั ) Straight Line (แบบดนั ไปขำ้ งหนำ้ ) ดงั ท่ี แสดงตำมรูปท่ี 4-26 สำหรับตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนแบบตวั ทอ็ กเกิลน้ีมีกำรเคลื่อนไหวทำงำนท่ีรวดเร็วมำก สำมำรถที่จะยดึ ชิ้นงำนและคลำยชิ้นงำนออกไดอ้ ยำ่ งรวดเร็วจึงทำใหส้ บั เปล่ียนชิ้นงำนไดร้ วดเร็วมำก และ ขอ้ ดีอีกอยำ่ งหน่ึงของตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนแบบทอ็ กเกิลกค็ ือมีอตั รำส่วนระหวำ่ งแรงที่ไดจ้ ำกกำรยดึ จบั ชิ้นงำน (Holding Force) ตอ่ แรงท่ีใชไ้ ป (Application Force) จะมีคำ่ สูงมำก กำรทำงำนของตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนแบบทอ็ กเกิลน้ีจะใชร้ ะบบของคนั โยกและจุดหมุนบนเดือย 3 จุด คือเมื่อตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนกำลงั ทำงำนอยหู่ รือกำลงั ล็อคชิ้นงำน เดือยท้งั 3 อนั น้ีจะอยใู่ นตำแหน่งเส้นตรง เดียวกนั ดงั แสดงในรูปท่ี 4-27A และเมื่อทำกำรถอนออกหรือคลำยล็อคเดือยและคนั โยกจะถูกอยใู่ น ตำแหน่ง ดงั แสดงในรูปท่ี 4-27B การออกแบบจ๊ิกฟิกซ์เจอร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแกน่ TID3R

13 การออกแบบจ๊ิกฟิ กซ์เจอร์ 4.3.9 ตวั ยดึ จับชิ้นงานแบบใช้กาลงั ตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนแบบน้ีไดถ้ ูกดดั แปลงมำจำกตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนแบบท่ีใชก้ ำรทำงำนจำกลม โดย เปลี่ยนมำใชก้ ำรทำงำนดว้ ยกำลงั อยำ่ งอื่นแทน เช่น ใชไ้ ฮโดรลิค (Hydraulic Power) กำลงั ลม (Pneumatic Power) หรือตวั เพิ่มกำลงั โดยใชอ้ ำกำศ และไฮโดรลิค (Air to Hydraulic Booster) ระบบที่ใชเ้ หล่ำน้ีจะถูก พิจำรณำโดยชนิดของกำลงั ท่ีสำมำรถใหป้ ระโยชน์ไดด้ ี สำหรับระบบที่ใชต้ วั เพมิ่ กำลงั โดยใชอ้ ำกำศและ ไฮโดรลิคจะถูกนำมำใชง้ ำนมำกท่ีสุด แบบตำ่ ง ๆ ของตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนโดยใชก้ ำลงั จะแสดงใหเ้ ห็น ดงั ในรูป ท่ี 4-28 สำหรับกำรใชต้ วั ยดึ จบั ชิ้นงำนแบบใชก้ ำลงั น้ีมีขอ้ ดีก็คือ ทำใหส้ ำมำรถควบคุมแรงในกำรยดึ จบั ชิ้นงำนไดด้ ีและมีกำรสึกหรอของชิ้นส่วนที่มีกำรเคลื่อนท่ีของตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนนอ้ ยมำก และในกำรทำงำน เป็นไซเคิล (Cycles) จะทำไดอ้ ยำ่ งรวดเร็ว ส่วนขอ้ เสียก็คือรำคำจะสูงมำก แตก่ ค็ ุม้ ค่ำกบั กำรใชเ้ พรำะจะมี ผลผลิตเพิ่มมำกข้ึนอีกท้งั ประสิทธิภำพกส็ ูงข้ึนดว้ ย 4.3.10 หวั จับและปากกา (Chucks and Vised) สำหรับกบั งำนและปำกกำที่ถูกผลิตข้ึนมำเพอื่ จำหน่ำยทว่ั ๆ ไปน้นั จะถูกผลิตข้ึนมำใหใ้ ชก้ บั จ๊ิกหรือ ฟิ กซ์เจอร์หลำย ๆ ชนิด หรือหลำย ๆ ขนำด ท้งั น้ีเพ่อื ใหเ้ ป็ นกำรลดค่ำใชจ้ ่ำยลงไป นกั ออกแบบจิ๊กหรือฟิ กซ์ เจอร์จึงไดด้ ดั แปลงใหป้ ำก (Jaws) ของหวั จบั ใหใ้ ชไ้ ดก้ บั งำนหลำย ๆ ชนิดหรือหลำย ๆ ขนำดโดยใหเ้ ลื่อน เขำ้ ออกเพ่ือจบั ชิ้นงำนดงั แสดงในรูปที่ 4-29 ส่วนรูปที่ 4-30 เป็นปำกของหวั จบั แผน่ กลมที่ถูกดดั แปลงอยำ่ ง ง่ำย ๆ เพอื่ ใหเ้ หมำะสมกบั กำรใชง้ ำน สำหรับตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนแบบตำ่ ง ๆ ตำมที่ตอ้ งกำร กำรใชห้ วั จบั งำน การออกแบบจ๊ิกฟิกซ์เจอร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น TID3R

14 การออกแบบจ๊ิกฟิ กซ์เจอร์ และปำกกำท่ีเป็นมำตรฐำนสำหรับเคร่ืองมือพเิ ศษต่ำง ๆ จะช่วยใหน้ กั ออกแบบจิ๊กหรือฟิ กซ์เจอร์ประหยดั ท้งั เวลำและคำ่ ใชจ้ ่ำยในขณะท่ีประสิทธิภำพของงำนกจ็ ะเพิม่ สูงข้ึน 4.3.11 การยดึ จับชิ้นงานแบบไม่ใช่ทางกล กำรยดึ จบั ชิ้นงำนแบบน้ีจะถูกออกนำมำใชเ้ มื่อชิ้นงำนไม่สำมำรถท่ีจะถูกยดึ จบั โดยวธิ ีทำงกลตำมท่ี กล่ำวมำขำ้ งตน้ ท้งั น้ีอำจจะเป็นเพรำะขนำด รูปร่ำง หรือกำรบิดตวั ของชิ้นงำน สำหรับชนิดใหญ่ ๆ ของกำร ยดึ จบั ชิ้นงำนแบบไม่ใช่คุณสมบตั ิทำงกลที่ใชก้ นั อยใู่ นงำนอุตสำหกรรมจะมีอยู่ 2 อยำ่ งคือแบบท่ีใชแ้ มเ่ หล็ก (Magnetic) และสุญญำกำศ (Vacuum) มีดงั รำยละเอียดต่อไปน้ี การออกแบบจ๊ิกฟิกซ์เจอร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอสี าน วิทยาเขตขอนแก่น TID3R

15 การออกแบบจ๊ิกฟิ กซ์เจอร์ 4.3.11.1 หวั จับแบบแม่เหลก็ สำหรับกำรยดึ จบั ชิ้นงำนโดยใชแ้ ม่เหลก็ น้ีจะถูกจำกดั วำ่ จะตอ้ งใชก้ บั ชิ้นงำนท่ีเป็ นเหล็กเทำ่ น้นั แต่ อยำ่ งไรกต็ ำมดว้ ยส่ิงประดิษฐท์ ำงกล ดงั ที่แสดงในรูปท่ี 4-32 จะเห็นวำ่ วสั ดุเกือบทุกชนิดสำมำรถท่ีจะถูกยดึ จบั โดยกำรใชแ้ ม่เหลก็ ไดเ้ ช่นกนั และสำหรับรูปท่ี 4-33 แสดงหวั จบั แบบแม่เหล็ก และอุปกรณ์ที่ใชด้ ว้ ยกนั หลำย ๆ แบบ ท่ีนิยมใชก้ นั ทวั่ ไป ส่วนในรูปที่ 4-34 แสดงกำรใชห้ วั จบั แบบแมเ่ หล็กในกำรจบั ชิ้นงำนเพอ่ื ทำ กำรกดั ร่องล่ิมบนเครื่องกด (Magnetic Keyway-Milling Fixture) การออกแบบจ๊ิกฟิกซ์เจอร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอสี าน วิทยาเขตขอนแก่น TID3R

16 การออกแบบจ๊ิกฟิ กซ์เจอร์ 4.3.11.2 หัวจับแบบสูญญากาศ กำรยดึ จบั ชิ้นงำนแบบใชส้ ุญญำกำศน้ีจะถูกใชส้ ำหรับงำนท่ีไม่มีคุณสมบตั ิทำงแมเ่ หลก็ (แมเ่ หล็ก ดูดไมต่ ิด) หรืองำนที่ตอ้ งถูกจบั ยดึ เสมอกนั กำรทำงำนของหวั จบั แบบน้ีจะคลำ้ ยกนั กบั กำรทำงำนของหวั จบั แบบแม่เหลก็ ปละหวั จบั แบบสูญญำกำศน้ีสำมำรถที่จะใชง้ ำนไดด้ ว้ ยวธิ ีกำรทำงำนของเครื่องจกั รทุกชนิด สำหรับหลกั กำรทำงำนเบ้ืองตน้ ของหวั จบั แบบน้ีจะเป็ นดงั แสดงในรูปท่ี 4-35 ส่วนในรูปท่ี 4-36 แสดงกำร ทำงำนโดยใชห้ วั จบั แบบสูญญำกำศ การออกแบบจ๊ิกฟิกซ์เจอร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลอสี าน วิทยาเขตขอนแก่น TID3R

17 การออกแบบจ๊ิกฟิ กซ์เจอร์ 4.4 การยดึ จับชิ้นงานแบบพเิ ศษ เคร่ืองมือสำหรับยดึ จบั ชิ้นงำนที่กล่ำวมำขำ้ งตน้ น้นั โดยทวั่ ๆ ไปจะยดึ จบั ชิ้นงำนโดยที่ชิ้นงำนจะมี รูปร่ำงส่วนสดั เหมือน ๆ กนั ทุกดำ้ น (Symmetrical Shapes) หรือชิ้นงำนท่ีใหค้ วำมสะดวกในกำรยดึ จบั แตก่ ็ มีกำรทำงำนบำงอยำ่ งที่นกั ออกแบบจ๊ิกหรือฟิ กซ์เจอร์จะตอ้ งพบในระหวำ่ งคิดคน้ กำรยดึ จบั ชิ้นงำน ปัญหำที่ เกิดก็คือกำรยดึ จบั ชิ้นงำนท่ีมีรูปร่ำงแปลก ๆ และกำรยดึ จบั ชิ้นงำนที่ทำกำรยดึ จบั คร้ังละหลำย ๆ ชิ้น ดงั รำยละเอียดต่อไปน้ี 4.4.1 การยดึ จับชิ้นงานทม่ี ีรูปร่างพเิ ศษ มีอยหู่ ลำยวธิ ีกำรที่สำมำรถนำมำใชใ้ นกำรยดึ จบั ชิ้นงำนที่มีรูปร่ำงลกั ษณะเป็นรูปร่ำงพิเศษสำหรับ วธิ ีท่ีดีที่สุดคือกำรทำตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนและตวั กำหนดตำแหน่งใหม้ ีเหมือนกบั รูปร่ำงของชิ้นงำนเลย โดยใช้ วธิ ีกำรหล่อ (Casting) ใหเ้ ป็นรูปร่ำงพเิ ศษสำหรับชิ้นงำนน้นั ๆ และสำหรับส่วนผสมท่ีนิยมใชก้ นั มำกท่ีสุด ในกำรหล่อใหเ้ ป็ นรูปร่ำงพเิ ศษกค็ ือ อีป็อกซี เรซิน (Epoxy Resin) และโลหะผสมหลอมอุณหภูมิต่ำ (Low- Melt Alloy) 4.4.1.1 อปี ็ อกซี เรซิน สำหรับอีป็ อกซี เรซินน้ีจะถูกนำมำใชห้ ล่อใหเ้ ป็นปำกกำพิเศษ หรือปำกของหวั จบั โดยอีป็อกซี เร ซินน้ีสำมำรถจะถูกนำมำใชไ้ ดท้ นั ที หรือจะนำมำผสมกบั วสั ดุอ่ืน เช่น ทรำย หรือแกว้ กไ็ ด้ อีป็อกซี เรซิน น้ี สำมำรถทำใหเ้ ป็นรูปร่ำงไดง้ ่ำย โดยกำรวำงชิ้นงำนไวใ้ นแบบแลว้ จึงใส่อีป็อกซี เรซิน ลงไป ดงั แสดงในรูป ที่ 4-37 และเม่ืออีป็ อกซี เรซินแขง็ ตวั แลว้ ก็สำมำรถเอำชิ้นงำนออกและนำส่วนที่หล่อไวม้ ำใชง้ ำนตอ่ ไป 4.4.1.2 โลหะจุดละลายตา่ กำรใชโ้ ลหะผสมหลอมอุณหภูมิต่ำมีโลหะผสมอยหู่ ลำยอยำ่ งท่ีนิยมใชก้ นั เป็นส่วนมำกไดแ้ ก่ตะกว่ั (Lead), ดีบุก (Tin), บิสมธั (Bismuth), และอนั ติโมนี (Antimony) โดยใชห้ ล่อใหเ้ ป็นรูปพิเศษ ดงั แสดงใน รูปที่ 4-38 โดยวธิ ีกำรน้ีชิ้นงำนจะถูกวำงต้งั ไวบ้ นแผน่ รองรับในแบบท่ีทำไว้ และก็เทโลหะผสมที่หลอม การออกแบบจิ๊กฟิกซ์เจอร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอสี าน วิทยาเขตขอนแก่น TID3R

18 การออกแบบจิ๊กฟิ กซ์เจอร์ ละลำยเป็นโลหะเหลวลงไปเตรียมไวโ้ ดยเทลงไปใหร้ อบ ๆ ชิ้นงำน และเม่ือถอดแบบออกแลว้ ก็สำมำรถนำ ส่วนท่ีหล่อไวจ้ นแขง็ ตวั ไปใชง้ ำนไดต้ ำมตอ้ งกำร 4.4.2 การยดึ จับชิ้นงานคร้ังละหลาย ๆ ชิ้น มีกำรทำงำนหลำยอยำ่ งที่มีควำมจำเป็นจะตอ้ งกระทำต่อชิ้นงำนในขณะเดียวกนั มำกกวำ่ 1 ชิ้นข้ึน ไป ดงั น้นั นกั ออกแบบจ๊ิกและฟิ กซ์เจอร์จึงจำเป็นจะตอ้ งรู้วธิ ีกำรออกแบบตวั ยดึ ชิ้นงำนท่ีสำมำรถยดึ จบั ชิ้นงำนไดห้ ลำย ๆ ชิ้นในคร้ังเดียวกนั ในกำรออกแบบตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนม่ีตอ้ งยดึ จบั ชิ้นงำนมำกกวำ่ 1 ชิ้นในครำวเดียวกนั จำเป็นตอ้ งอำศยั จินตนำกำรพอสมควร ก่อนอ่ืนก็ตอ้ งใชค้ วำมคิดและกฎเบ้ืองตน้ ของกำรยดึ จบั ชิ้นงำนเพียงชิ้นเดียว นกั ออกแบบจ๊ิกหรือฟิ กซ์เจอร์ก็สำมำรถที่จะออกแบบตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนในจำนวนเทำ่ ใดกไ็ ด้ จุดสำคญั ที่นกั ออกแบบจะตอ้ งจำไวก้ ค็ ือตรงท่ียดึ จบั ชิ้นงำนท่ีกระทำตอ่ ชิ้นงำนจะตอ้ งกระทำต่อชิ้นงำนดว้ ยแรงที่เทำ่ ๆ กนั ทุกชิ้น และตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนจะตอ้ งมรกำรทำงำนเพยี งหน่ึงคร้ัง หรือทำกำรลอ็ คเพยี งคร้ังเดียวเทำ่ น้นั ตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนที่ไมส่ ำมำรถกระทำใหม้ ีแรงกระทำต่อชิ้นงำนทุกชิ้นเทำ่ ๆ กนั และจะทำใหช้ ิ้นงำนเกิดกำร เสียหำยในระหวำ่ งกำรทำงำน และจะเป็นอนั ตรำยอยำ่ งมำกถำ้ ชิ้นงำนหลุดออกมำจำกตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนใน ระหวำ่ งที่อยใู่ นช่วงของกำรทำงำนท่ีเคร่ืองจกั รกำลงั ดำเนินอยู่ สำหรับตวั อยำ่ งของตวั ยดึ จบั ชิ้นงำนแบบน้ี ดงั แสดงในรูปท่ี 4-39 การออกแบบจิ๊กฟิกซ์เจอร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน วทิ ยาเขตขอนแก่น TID3R


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook