วชิ า ประวตั ิศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 4 ครูผู้สอน ครูอรทยั อนิ แสวง
๓หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ความเปน็ มาของชาตไิ ทย จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อธิบายพัฒนาการของอาณาจักรสโุ ขทยั โดยสังเขปได้ ๒. บอกประวัตแิ ละผลงานของบคุ คลสาคัญสมัยสุโขทัยได้ ๓. อธิบายภมู ปิ ญั ญาไทยท่สี าคญั สมยั สโุ ขทัยท่ีนา่ ภาคภูมใิ จและควรค่าแก่การอนุรกั ษ์ได้
การตั้งอาณาจกั ร • กอ่ นการสถาปนาอาณาจกั รสุโขทยั ขนึ้ ดินแดนในแถบน้ี เคยถกู อาณาจักรเขมรโบราณซึ่งมคี วามยงิ่ ใหญ่ ไดข้ ยาย สุโขทัย อิทธิพลเข้ามาปกครองชมุ ชนหลายแหง่ ในบริเวณนี้ วัดพระศรรี ัตนมหาธาตเุ ชลยี ง ตานานเรื่องพระรว่ งสง่ ส่วยน้าใหเ้ ขมร ที่อาเภอศรสี ชั นาลยั จงั หวัดสโุ ขทัย โบราณสถานศิลปะเขมรซง่ึ สรา้ งก่อนสมยั สุโขทยั • พทุ ธศตวรรษท่ี ๑๘ พอ่ ขนุ ผาเมอื งและพอ่ ขุนบางกลางหาวร่วมมือกนั ขบั ไล่ อานาจของเขมรออกไปไดส้ าเร็จ พ่อขุนผาเมอื งสถาปนาและพ่อขุนบางกลางหาวเป็นกษตั รยิ ์ ครองกรุงสุโขทัย มีพระนามวา่ พอ่ ขุนศรีอนิ ทราทิตย์ นบั เป็น กษัตริย์พระองคแ์ รกแหง่ ราชวงศพ์ ระรว่ ง • การกอ่ ตั้งอาณาจักรสุโขทยั เกดิ ข้ึนได้ก็เพราะปัจจัยหลาย ประการ เชน่ สุโขทยั แม้มปี ระชากรไม่มากนกั แต่กม็ ผี ้นู า ท่ีเขม้ แข็งบ้านเมืองมคี วามอดุ มสมบรู ณ์ ในขณะเดยี วกัน ขอมกเ็ สือ่ มอานาจลง
พระมหากษัตรยิ ์ สมัยสุโขทัย ลาดบั พระนาม ปีครองราชย์ ๑ พ่อขนุ ศรีอินทราทติ ย์ ราว พ.ศ. ๑๗๙๒-ปใี ดไมป่ รากฏ ๒ ปใี ดไม่ปรากฏ ถงึ -๑๘๒๒ ๓ พอ่ ขนุ บานเมอื ง พ.ศ. ๑๘๒๒-๑๘๔๑ ๔ พ.ศ. ๑๘๔๑-ปใี ดไม่ปรากฏ ๕ พอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราช ปใี ดไมป่ รากฏ-๑๘๙๐ ๖ พระยาเลอไทย พ.ศ. ๑๘๙๐-๑๙๑๑ ๗ พ.ศ. ๑๙๑๑-๑๙๔๒ พระยางัว่ นาถม ๘ พ.ศ. ๑๙๔๒-๑๙๖๒ พระมหาธรรมราชาท่ี ๑ (พระยาลไิ ทย) ๙ พระมหาธรรมราชาท่ี ๒ พ.ศ. ๑๙๖๒-๑๙๘๑ พระมหาธรรมราชาที่ ๓ (พระยาไสลอื ไทย หรอื ไสลไิ ทย) พระมหาธรรมราชาท่ี ๔ (บรมปาล) ครองเมืองพิษณโุ ลกซ่งึ เป็นเมอื ง หลวงของอาณาจกั รสโุ ขทยั ขณะนั้น
พฒั นาการ ดา้ นการเมอื งการปกครอง เศรษฐกจิ ด้านการเมอื งการปกครองในสุโขทยั การสรา้ งความม่ันคงของสโุ ขทัยในระยะแรก กรงุ สโุ ขทยั ยงั มดี นิ แดนไม่กว้างใหญ่มากนัก และต้องทาสงครามกับอาณาจักรใกลเ้ คยี งเพื่อขยายอานาจ เชน่ ขนุ สามชนเจา้ เมอื งฉอด ได้ยกทพั มาตีเมืองตากของสุโขทยั ในการรบนพี้ ระโอรสองคเ์ ล็กของพอ่ ขนุ ศรอี นิ ทราทติ ย์ ชนชา้ งเอาชนะขนุ สามชนไดพ้ อ่ ขนุ ศรีอนิ ทราทิตย์ทรงตั้งชื่อใหท้ า่ นวา่ “พระรามคาแหง” หมายถงึ รามผกู้ ลา้ หาญ
ในสมยั ของพอ่ ขนุ รามคาแหง สโุ ขทยั มอี านาจมนั่ คงและขยายดินแดนได้กว้างขวาง โดยพระองค์ใชว้ ิธี ผูกมติ รกบั เพ่อื นบ้านดว้ ยการสง่ ทตู ไปจีน และการทาสงคราม สุโขทัย มอญ พะเยา ผูกมติ ร ล้านนา ล้านนา พะเยา นครศรีธรรมราช มอญ สโุ ขทัย นครศรธี รรมราช
สถานะของผู้ปกครองในสมยั สโุ ขทัย ในระยะแรกกรุงสุโขทัยยังมดี นิ แดนไมก่ วา้ งใหญ่ ประชาชนมีนอ้ ย ทาใหผ้ ปู้ กครองสุโขทัยมีความใกล้ชดิ กับประชาชน เปรยี บเหมอื นพอ่ กับลูก นาหลักธรรมมาใชใ้ นการปกครองทาให้ราษฎรสมัยกรงุ สุโขทยั อยู่ร่วมกันอยา่ งสงบสขุ แนวคิดในการนา หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนามาใช้ในการปกครองในสมยั สโุ ขทยั เกดิ ขนึ้ ในชว่ งสมัยของพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย) ผู้ปกครองเรียกพอ่ ขนุ ประชาชน ศิลาจารกึ หลักที่ ๑ หรือศลิ าจารกึ พ่อขุนรามคาแหง กลา่ วถงึ วิธีทีพ่ อ่ ขนุ รามคาแหง ทรงใช้เพ่ือให้เกดิ ความสงบสขุ แก่ราษฎร เช่น ทรงใหแ้ ขวกระดง่ิ ไว้ที่หนา้ ประตูวัง เพ่ือใหป้ ระชาชนท่เี ดือดรอ้ นมาลน่ั กระดิง่ รอ้ งทกุ ข์ ทาให้ทราบปญั หาทแ่ี ท้จรงิ
๑ เมอื งหลวง รปู แบบการปกครองในสมยั สโุ ขทยั • เปน็ ศูนยก์ ลางการปกครอง และเป็นศนู ยก์ ลางวฒั นธรรม ๒ เมอื งลูกหลวง • เป็นเมืองทีบ่ รรดาลกู หลวงออกไปปกครอง ทาหน้าท่เี ปน็ เมอื งหนา้ ดา่ น เป็นที่สะสมเสบยี งอาหารและกาลังคน เมอื งลกู หลวงประกอบดว้ ย เหนอื เมอื งศรสี ชั นาลยั เมอื งสระหลวง ตก ออก เมอื งสองแคว (พษิ ณุโลก) เมืองชากังราว (กาแพงเพชร) ใต้
๓ เมอื งพระมหานคร • เป็นเมืองทต่ี ง้ั อย่หู ่างจากเมืองลกู หลวงออกไป เมืองหลวงอาจส่งคนไป เป็นเจ้าเมอื งหรือเปน็ เชื้อสายของเจา้ เมืองเดมิ • มอี านาจปกครองตนเองแตข่ ้ึนตรงต่อสุโขทยั ๔ เมืองออกหรือเมืองประเทศราช • เป็นเมืองท่มี ีกษัตริยข์ องตนปกครอง แตย่ อมอ่อนน้อมต่อสุโขทยั ดว้ ยการถวายเครอ่ื งบรรณาการ เมอื งประเทศราชอยู่หา่ งไกลจาก เมืองหลวง
ราษฎรในสมยั สุโขทยั มอี ิสระในการดารงชีวิตและการประกอบอาชพี ศลิ าจารึกหลักท่ี ๑ ระบวุ า่ “ใครจกั ใครค่ ้าช้าง ค้า ใครจักใคร่ค้ามา้ คา้ ใครจักใคร่คา้ เงนิ คา้ ทอง คา้ ” ประชาชนตอ้ งอยภู่ ายใตก้ ารปกครองทมี่ ีกฎหมาย ยามสงบ ประชาชนทาไรไ่ ถนาค้าขาย และในยามสงครามตอ้ งทาหนา้ ที่ เปน็ ทหาร
การสญู เสยี อานาจของสโุ ขทัย สาเหตุ ความอ่อนแอทางดา้ นการทหาร การแย่งชิงอานาจภายในของสุโขทยั การคา้ กบั ต่างประเทศเริม่ ตกต่า กรงุ ศรีอยธุ ยาที่อยูท่ างตอนใต้มีความเข้มแขง็ ทางดา้ นการเมอื ง การทหารเพิ่มขน้ึ และอยใู่ นทาเลทีต่ ัง้ ทีด่ ีกวา่ สโุ ขทยั
ดา้ นเศรษฐกิจ เศรษฐกิจที่สาคัญในสมัยสุโขทัยข้ึนอยู่กับอาชีพเกษตรกรรมและค้าขาย การเกษตร เกษตรกรรมแบบพึ่งตนเอง พืชหลักท่ีปลูกคือข้าว และพชื อ่ืนๆ มตี ลาดสาหรับนาสนิ ค้ามาขาย เรยี กวา่ “ปสาน”
สนิ คา้ ที่ขายที่ปสาน
การคา้ กับภายนอก ทางการได้สง่ เสริมการค้าขายใหส้ ะดวกย่ิงขน้ึ ดว้ ยการอนญุ าตให้ค้าขายอยา่ งเสรแี ละยกเว้นการเกบ็ “จงั กอบ” (จกอบ) หรอื ภาษผี ่านดา่ นให้แก่พอ่ ค้าตา่ งถ่นิ ทาใหม้ ีพ่อค้าตา่ งถิน่ เข้ามาตดิ ต่อคา้ ขายมาก ดังปรากฏในศลิ าจารกึ หลักที่ ๑ วา่ “...เมอ่ื ชั่วพ่อขนุ รามคาแหง...เจา้ เมอื งบ่เอาจกอบ ในไพร่ลูทา่ ง เพือ่ นจูงววั ไปค้า ขม่ี ้าไปขาย ใครจกั ใคร่คา้ ช้าง ค้า ใครจกั ใครค่ า้ มา้ คา้ ใครจักใคร่ค้าเงนิ ทอง คา้ ...” (ข้อความท่ีแปล) …ในสมัยพอ่ ขุนรามคาแหง…เจา้ เมอื งไม่เกบ็ ภาษผี า่ นดา่ น…ประชาชนเดนิ ทางไปค้าขาย ได้อย่างสะดวก สามารถจงู ววั จูงมา้ ไปขาย คา้ ชา้ ง คา้ ม้า ค้าแรเ่ งนิ คา้ แร่ทอง ได้ตามอสิ ระ…
การคา้ กบั ต่างประเทศ โดยมีชาวจนี อนิ เดีย และอาหรบั เดินทางเขา้ มาคา้ ขาย และมีการค้ารูปแบบใหมเ่ กดิ ขนึ้ ในสมยั น้ี คอื การค้าภายใตร้ ะบบ รัฐบรรณาการระหวา่ งไทยกับจนี สโุ ขทยั ได้ผลติ เครือ่ งปนั้ ดนิ เผาทเี่ รยี กว่า “เครอ่ื งสังคโลก” ทั้งเพ่ือขายในราชอาณาจกั รและได้สง่ ไปขายยงั รัฐใกลเ้ คียง การค้ากบั ตา่ งประเทศในสมัยสุโขทยั ไมม่ หี ลักฐานแนช่ ัดว่าเปน็ การ ดาเนินการโดยราชสานกั หรอื เอกชน
เอกลักษณข์ องไทยทเี่ กิดขน้ึ ในสมัยพ่อขนุ รามคาแหง ลายสือไทย คือ รูปแบบอกั ษรทป่ี รากฏในจารกึ พ่อขนุ รามคาแหงมหาราช หรือจารึกสโุ ขทัย หลักที่ 1 ประดิษฐ์ขึน้ ครง้ั แรกเม่อื พ.ศ. 1826 (มหาศกั ราช 1205) ขอ้ มลู นี้ปรากฏในศลิ าจารึกหลกั ท่ี 1 ด้านที่ 4 บรรทดั ท่ี 8-11 วา่ \"...เม่อื ก่อนลายสือไทยนบ้ี ม่ ี 1205 ศกปีมะแม พอ่ ขุนรามคาแหง หาใครใ่ จในใจแลใสล่ ายสอื ไทยน้ี ลายสอื ไทยนี้จึ่งมีเพอ่ื ขุนผู้นัน้ ใส่ไว้...\"
มพี ยญั ชนะ 39 ตวั และไมม่ ี 5 ตวั คอื ฌ ฑ ฒ ฬ ฮ สระ มี 20 รูป แบ่งเปน็ สระลอย 1 รปู คอื สระอี และสระจม 19 รปู ดังภาพดา้ นลา่ ง
สว่ นวรรณยุกตม์ เี พยี ง 2 รปู เท่าน้นั คอื เอก และโท
ใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยที่ 3 ควำมเป็นมำของชำติไทย บทท่ี 1 พฒั นำกำรของสมยั สุโขทยั
แลว้ พบกนั ใหม่ สวสั ดีค่ะ
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: