” พระบรมราโชวาท สมเด็จพระเจา้ อย่หู วั ภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช ...เม่อื มโี อกาสและมงี านใหท้ ำ� ควรเต็มใจ ทำ�โดยไม่จำ�เปน็ ต้องตง้ั ข้อแมห้ รอื เง่อื นไขอนั ใด ไว้ใหเ้ ป็นเครื่องกดี ขวางคนทีท่ ำ�งานได้จรงิ ๆ นั้น ไม่ว่าจะจบั งานสง่ิ ใดย่อมท�ำ ไดเ้ สมอ ถ้ายิ่งมคี วามเอาใจใส่ มคี วาม ขยันและซอ่ื สตั ยส์ ุจริต ก็ย่ิงจะช่วยให้ประสบผลสำ�เร็จในงานท่ที ำ�สูง ”ขน้ึ ... ในพธิ พี ระราชทานปรญิ ญาบตั รของ วิทยาลยั เทคโนโลยแี ละอาชีวศึกษา 8 กรกฎาคม 2530
ทรงพระเจริญ
” พระราโชวาท สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ...ปัจจบุ ัน วทิ ยาการต่าง ๆ โดยเฉพาะความรู้ดา้ นเทคโนโลยนี ้นั ไดร้ บั การ พัฒนาให้เจรญิ รดุ หนา้ ไปอยา่ งรวดเรว็ ท�ำ ให้มเี ทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย. เทคโนโลยเี หล่าน้ลี ว้ นมปี ระโยชนอ์ ย่างย่ิง ทงั้ แก่ในชวี ติ ประจำ�วนั และแก่การ ประกอบกิจการงาน จึงมีผูน้ ยิ มนำ�ไปใชอ้ ย่างแพร่หลาย. อย่างไรกด็ ี คนสว่ น ใหญม่ กั จะนยิ มปรบั เปล่ยี นเทคโนโลยีทใี่ ชอ้ ยู่ให้กา้ วหนา้ ทันสมัยอยูเ่ สมอ ทงั้ ๆ ทีข่ องเดมิ กย็ ังใช้การไดด้ ี และเพียงพอตอ่ ความจำ�เปน็ ในการปฏิบัติงาน. การ ปรบั เปลี่ยนดงั กลา่ ว แม้จะมีสว่ นช่วยสนับสนนุ ใหผ้ ูใ้ ชเ้ ทคโนโลยีสามารถปฏบิ ัติ งานไดส้ ะดวกง่ายดายมากยง่ิ ขน้ึ ก็จรงิ แตเ่ มอื่ พจิ ารณาใหด้ ี กจ็ ะพบวา่ เปน็ การ สิ้นเปลืองโดยไม่จำ�เป็น.บัณฑิตในฐานะท่ีได้ศึกษามาทางด้านวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีโดยตรง จงึ ตอ้ งปฏิบตั ิตนใหเ้ ป็นแบบอย่าง รวมท้ังให้ค�ำ แนะน�ำ แกบ่ ุคคลท่วั ไป ใหเ้ ข้าใจอยา่ งถอ่ งแท้ถงึ คณุ สมบัติ วธิ ีใช้งาน วธิ ีบำ�รงุ รกั ษา ตลอดถงึ ข้อดขี อ้ เสียตา่ ง ๆ ของเทคโนโลยีทใี่ ชอ้ ยู่ เพ่ือใหแ้ ตล่ ะคนสามารถใช้ ”เทคโนโลยที ี่มอี ยไู่ ด้เตม็ ประสทิ ธภิ าพ สามารถตอบสนองตอ่ ความจ�ำ เปน็ ในการ ใช้งานและเกดิ ประโยชนค์ มุ้ คา่ อย่างแท้จรงิ ... ในพธิ พี ระราชทานปริญญาบัตรแกผ่ ปู้ ระสำ�เร็จการศึกษาจากสถาบนั เทคโนโลยปี ทมุ วัน ประจำ�ปกี ารศกึ ษา ๒๕๕๒ – ๒๕๕๔ ณ หอ้ งประชมุ ช้ัน ๗ อาคารเฉลมิ พระเกียรติ สถาบนั เทคโนโลยีปทมุ วนั วัยพธุ ที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๕
ทรงพระเจริญ
รศ.ดร ปญั ญา มนิ ยง อธิการบดสี ถาบันเทคโนโลยีปทมุ วัน ขอแสดงความยนิ ดีในโอกาส ครบรอบ ๒o ปี สาขาวิศวกรรมเมคคาทรอนกิ ส์ ขา้ พเจา้ ขอสง่ ความปรารถนาดีมายังสาขาวศิ วกรรมเมคคาทรอนกิ สใ์ นโอกาสเฉลมิ ฉลอง วาระครบ 20 ปขี องการกอ่ ตั้ง ขออวยพรให้ สาขาวิศวกรรมเมคคาทรอนกิ ส์ เจริญกา้ วหน้าร่งุ เรืองยงิ่ ๆ ข้นึ ผลิตบัณฑติ ที่มีคณุ ภาพออกส่สู ังคม แบบน้ตี ลอดไป ดว้ ยความปราถนาดอี ยา่ งย่งิ รศ.ดร ปญั ญา มนิ ยง อธิการบดีสถาบนั เทคโนโลยีปทุมวนั
สาร รศ.ดร.พงษพ์ ันธุ์ ฤกษ์ขุมทรัพย์ คณะบดคี ณะวิศวกรรมศาสตร์ ลองหลบั ตาแลว้ นึกทบทวนดสู คิ รบั ว่าระยะเวลา 20 ปที ผ่ี า่ นมามีอะไรเกิดขน้ึ กับเราหรือรอบตวั เราบ้าง ? เกอื บทงั้ หมด คงนกึ ออกได้แคบ่ างเรอ่ื ง ทั้งนเ้ี พราะมันเป็นระยะเวลาทย่ี าวนานนนั่ เอง และเป็นเวลาทีแ่ สดงให้เหน็ วา่ ตราสนิ คา้ “เมคคา ทรอนกิ สป์ ทุมวนั ” ได้ถกู ผลติ ออกสู่ตลาดจนเร่ิมหยง่ั รากลงส่วู งการอตุ สาหกรรมไทย เมลด็ พนั ธ์ุที่ผา่ นการคดั เลือก พฒั นา และหว่านส่วู งการอุตสาหกรรมท่ีให้การตอบรบั อย่างดีน้เี ปน็ ผลงานท่ีภาคภมู ิใจของ “เมคคาทรอนิกสป์ ทุมวัน” ทุกคนและ ทุกภาคส่วน ทศวรรตที่ 3 นเี้ ป็นเพยี งหลักไมคห์ น่ึงท่แี สดงให้เหน็ ว่า “เมคคาทรอนิกสป์ ทมุ วนั ” เดนิ มาไกลแลว้ และเสียงตอบ รบั จากภาคอุตสาหกรรมย�้ำ ชดั วา่ เรายังตอ้ งเดินตอ่ ไปยังหลกั ไมลข์ า้ งหน้า เพือ่ พัฒนาและผลิตสินคา้ คณุ ภาพสูงออกสูต่ ลาด อยา่ งตอ่ เนอื่ งเพือ่ ใหว้ ิศวกรของเราเป็นก�ำ ลงั ส�ำ คญั ในการพฒั นาประเทศชาติ ทุกภาคสว่ นท่เี อ่ยถึงขา้ งต้น ผมหมายถึงอยา่ งนน้ั จริงๆ นับต้ังแต่ทมี ผู้เชี่ยวชาญจาก JICA คณาจารย์ ฝ่าย สนบั สนนุ ศิษย์เก่า ศษิ ย์ปัจจุบนั และผ้มู สี ่วนชว่ ยในการด�ำ เนนิ ภารกจิ พฒั นาและสร้างชือ่ เสียงใหแ้ ก่ “เมคคาทรอนกิ ส์ ปทมุ วนั ” มาถงึ วันน้ี แม้บางองคป์ ระกอบจะออ่ นหรอื หายไปบ้างในบางช่วงบางเวลา แตผ่ มเช่ือม่ันวา่ องค์ประกอบท่เี หลอื จะตั้งใจปฏบิ ตั หิ น้าที่ของตนอย่างเต็มก�ำ ลงั เพอ่ื ชว่ ยกันผลกั ดนั ให้ “เมคคาทรอนกิ สป์ ทุมวัน” กา้ วไปสหู่ ลกั ไมล์ถัดไปอย่าง มน่ั คง และจะต้องเป็นการเดินไปข้างหนา้ อยา่ งเป่ียมไปดว้ ยคณุ ภาพและไดร้ บั การยอมรบั จากสงั คมมากกวา่ ท่ผี า่ นมา “A great civilization is not conquered from without until it has destroyed itself from within” “อารยธรรมทยี่ ่งิ ใหญไ่ ม่อาจถูกพชิ ิตได้จากภายนอก นอกเสียจากมนั จะทำ�ลายตัวมนั เองจากภายใน” จากภาพยนต์ Apocalypto # Mel Gibson ดว้ ยรักและภมู ิใจ รองศาสตราจารย์ ดร.พงษพ์ ันธุ์ ฤกษข์ มุ ทรัพย์ คณะบดคี ณะวศิ วกรรมศาสตร์
สาร อาจารยจ์ รัสศรี เสอื ทับทิม หวั หน้าสาขาวศิ วกรรมเมคคาทรอนกิ ส์ ตลอดระยะเวลา 20 ปี ท่ผี ่านมาของสาขาวชิ าเมคคาทรอนกิ ส์ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ สถาบนั เทคโนโลยปี ทุมวนั ที่ได้ ใหค้ วามรู้ ทักษะ ความสามารถ ใหแ้ ก่นักนกั ศกึ ษาได้เรยี นรจู้ ากรุ่นสู่รุ่น ต้ังแต่อดีต ในถึงปจั จุบัน ดิฉันในนามของอาจารย์ ประจำ�สาขาวชิ าฯ และศษิ ย์เกา่ เมคคาทรอนกิ ส์ คนหน่ึง ขอแสดงความยนิ ดีและขอชน่ื ชม ที่ทำ�ใหท้ กุ ๆคนเดนิ ทางมาถึงวนั น้ี พร้อมกับความสำ�เร็จในชีวติ ถงึ แมว้ ่าบางครง้ั ต้องประสบกบั ความยากลำ�บากในหลายๆดา้ น แต่ด้วยความเพียรพยายาม ความรว่ มแรงร่วมใจ ในการถา่ ยทอดความรู้ และเปน็ แบบอยา่ งทีด่ ีในดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ของคณาอาจารย์และรุ่นพ่ศี ษิ ย์ เกา่ และรุ่นปจั จุบัน ทคี่ อยดแู ลห่วงใยในตวั นอ้ งๆเมคคาทรอนกิ ส์ทกุ คน จึงท�ำ ใหเ้ มคคาทรอนิกส์ผ่านอปุ สรรคต่างๆไป ได้ดว้ ยดีและมคี วามภาคภมู ใิ จกับรากฐานท่ีช่วยกันสรา้ งจนกา้ วมาถงึ ปที ่ี 20 นี้นัน้ เอง เมคคาทรอนกิ ส์ มเี อกลกั ษณเ์ ป็นของตวั เองในเอกสาขาวิชาท่ีเรยี น เพราะเปน็ การผสมผสาน ของสายวิชาการเรียนรู้ ทห่ี ลากหลาย ทกุ วันนชี้ อื่ เสยี งของเมคคาทรอนกิ ส์ ปทมุ วนั เป็นที่รู้จักกันอยา่ งแพร่หลายในสถานประกอบการ นั้นเป็น เพราะทุกๆฝ่ายชว่ ยกันดูแล รกั ษา ปกป้องชือ่ เสยี งกนั จนท�ำ ให้พวกเรายนื อยุบ่ นสังคมได้อยา่ งม่นั คงตลอดมา ความเปน็ เมคคาทรอนกิ ส์ เปน็ สงิ่ ท่แี สดงถึงความรัก ความอบอนุ่ ความแขง็ แกร่ง ความกตัญญู การรู้จกั ใหอ้ ภัย และเปน็ ผู้มีความ อดทนในทุกๆด้าน ทกุ คนที่จบเมคคาทรอนกิ ส์ ปทุมวัน จะมีสิง่ นี้ตดิ ตวั ตลอด ไป ในโอกาสอนั เปน็ มงคลนี้ ดฉิ ันขออวยพรให้สาขาวิชาวศิ วกรรมเมคคาทรอนกิ ส์ สถาบันเทคโนโลยปี ทมุ วัน ประสบ ความสำ�เรจ็ ก้าวหน้ายงิ่ ขน้ึ ตลอดไป และขอใหค้ ณาจารย์ ศษิ ยเ์ กา่ และศิษย์ปจั จุบัน ประสบแต่ความสขุ ความเจริญ มี ความเข้มแข็ง ทง้ั ร่างกายและจิตใจ และสติปญั ญา เพอื่ ร่วมกันเป็นก�ำ ลังส�ำ คัญในการพฒั นาสาขาวิชาวิศวกรรมเมคคา ทรอนิกส์ ของพวกเราใหย้ งั่ ยนื ตลอดไป นางสาวจรัสศรี เสือทบั ทมิ อาจารย์ประจ�ำ สาขาวชิ าวิศวกรรมเมคคาทรอนกิ และศษิ ยเ์ กา่ เมคคาทรอนกิ สร์ ่นุ 12
สาร รศ.ดร. ปราโมทร์ ศรีนอ้ ย อาจารยส์ าขาวศิ วกรรมเมคคาทรอนกิ ส์ ในอันดับแรกน้ี ครขู อแสดงความยนิ ดกี ับสาขาวศิ วกรรมเมคคาทรอนกิ ส์ (ภาควิชาวศิ วกรรมเมคคาทรอนิกส์เดิม) คณะ วิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีปทมุ วนั ที่ได้ดำ�เนินกิจการมาจนครบปีที่ 20 ในปี พ.ศ. 2557 นี้ ซงึ่ สาขาวศิ วกรรม เมคคาทรอนิกส์ไดม้ วี วิ ฒั นาการอยา่ งต่อเนื่องมาโดยตลอด นบั ตง้ั แตใ่ นยุคแรก เปน็ การจัดการเรียนการสอนในระดบั ประกาศนียบัตรวิศวกรรมศาสตร์ (ป.วศ.) ตามโครงการความรว่ มมอื ระหวา่ งวทิ ยาลยั ชา่ งกลปทุมวนั (สถาบันเทคโนโลยี ปทุมวนั ) กบั JICA เพือ่ เปิดสอนหลักสตู รวศิ วกรรมเมคคาทรอนกิ ส์ในระดบั ปริญญาตรี เปน็ แห่งแรกในประเทศไทย และต่อ มาไดป้ รบั เปล่ียนเป็นหลักสตู รวศิ วกรรมศาสตรบณั ฑติ (วศ.บ.) โดยมงุ่ เน้นใหเ้ ปน็ วศิ วกรที่มที กั ษะทางดา้ นปฏิบตั ิ และ ได้ขยายโอกาสทางการศกึ ษาโดยไปเปดิ ศนู ย์การเรยี นในระดบั ภมู ภิ าค 3 แหง่ คอื ชลบุรี อยทุ ธยา และนครราชสีมา (ผลิต บัณฑิตออกมา 2 รุ่นไมน่ อ้ ยกวา่ 50 คน) ตลอดระยะเวลา 20 ปีสาขาวิศวกรรมเมคคาทรอนกิ ส์ได้ผลิตบณั ฑติ ออกสู่สังคม ไปแลว้ ไมน่ อ้ ยกวา่ 500 คน จนกระทง่ั ในปัจจบุ นั สาขาวศิ วกรรมเมคคาทรอนิกส์ขยายระดับการศึกษาสงู ข้นึ โดยมุ่งเนน้ ในเรอ่ื งการวจิ ัยควบคไู่ ปกบั การเรยี นการสอนในระดบั บณั ฑติ ศึกษา (ป.โท และ ป. เอก) สาขาวชิ าเทคโนโลยกี ารผลติ ข้นั สงู ท่ชี ่วยแก้ปญั หาให้แก่ชมุ ชนและประเทศชาติ ทง้ั นี้ เพ่ือรองรบั การพฒั นาประเทศในยุคตอ่ ไป และเพอื่ เพม่ิ ศักยภาพในการ แขง่ ขันกับนานาชาติ อย่างไรกด็ ี การพัฒนางานของสาขาวศิ วกรรมเมคคาทรอนกิ ส์ตอ่ ไปในอนาคตนั้น กเ็ ป็นเรอ่ื งท่ียากแกก่ ารทำ�นาย ดงั เชน่ ในอดีต เมือ่ มีการคดิ คน้ คอมพวิ เตอรเ์ ครื่องแรกขึน้ มาได้นนั้ ก็ไม่มีใครเช่อื วา่ โลกในยุคตอ่ มาจะมีคอมพิวเตอร์ใชก้ ันใน ทุกครวั เรอื น และโลกในปจั จบุ ันนี้ กอ็ ย่ใู นระหว่างการปฏวิ ตั ทิ างเทคโนโลยีทีม่ ีการเปลย่ี นแปลงอยา่ งรวดเร็ว ดังนน้ั ครกู ็ได้ แต่หวังวา่ ในอนาคตอันใกลน้ ี้ สาขาวศิ วกรรมเมคคาทรอนกิ ส์ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน จะสามารถ สรา้ งสรรค์ผลงานท่ีไมเ่ คยมีใครคาดคิดมากอ่ น ท้ายทส่ี ดุ น้ี ครขู อแสดงความยินดกี ับ สาขาวิศวกรรมเมคคาทรอนกิ ส์ รวมท้งั อาจารย์ ศิษย์เก่า และนกั ศึกษาปัจจบุ นั อีก คร้ังหนึ่ง ท่ีได้มีสว่ นรว่ มในการพฒั นาสังคมและประเทศชาตติ ลอดระยะเวลา 20 ปี และท่จี ะมีสว่ นรว่ มตอ่ ไปในอนาคต รองศาสตราจารย์ ดร.ปราโมทย์ ศรีนอ้ ย อาจารย์ประจ�ำ สาขาวิศวกรรมเมคคาทรอนกิ ส์ (ตง้ั แตป่ ี 2537 จนถึงปจั จุบัน) อดตี หวั หน้าสาขาวิศวกรรมเมคคาทรอนกิ ส์
สาร อาจารยบ์ ญุ เรือง วงั ศิลาบตั ร อาจารยส์ าขาวิศวกรรมการวัดและควบคมุ ถงึ ......ศษิ ยร์ ักชาววิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ทุกคน กอ่ นอ่นื ขอใช้ค�ำ แทนตัวเองว่า “ครู” ก็แล้วกนั ถงึ แมว้ า่ ทุกวนั น้ีไดย้ า้ ยมาเปน็ ครปู ระจำ�สาขาวชิ าวิศวกรรมการวดั และ ควบคุม และไม่ไดเ้ ป็นครูสอนประจ�ำ สาขาวชิ าวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์แลว้ กต็ าม แต่ก็ยังมีความสัมพนั ธ์และผูกพันกนั อยู่ และกด็ ีใจทศ่ี ิษย์เก่า ๆ ยังใหค้ วามเคารพและนบั ถือเหมือนเช่นทเ่ี คยผ่านมา ครูดีใจทศี่ ิษยร์ กั ทุกคนได้ประสบความสำ�เร็จในชวี ิต มีหน้าทีก่ ารงานท่ดี ี สมกบั ค�ำ ท่คี รเู คยพดู ไว้ “ลูกศษิ ย์ต้องไดด้ กี ว่า คร”ู เพราะพวกคณุ เปน็ คนร่นุ ใหม่ ส่วนครนู นั้ กน็ ับวันจะแกล่ งไปทุกที ความรทู้ ่ีมีอยกู่ ็ถอยหลงั ลงไปทุกทเี ชน่ เดยี วกัน และ ครูก็เชอ่ื ว่า ส่งิ ที่ครูเคยส่ังสอนเอาไว้ ยังคงอยู่ในจิตใจของศษิ ย์รักทุกคนตลอดมา....คิดไปคดิ มาแล้วน่าใจหาย วันเวลามัน ผา่ นไปไวเหลอื เกิน..... ท้ายนี้ ครูคงไม่มอี ะไรจะพดู มากนกั แต่ก็ขออวยพรใหศ้ ิษยท์ กุ คนประสบความสำ�เรจ็ คิดส่งิ ใดก็ขอให้สมความ ปรารถนาทุกประการ “เอาความดเี ปน็ แกนกลางทางชวี ติ เอาความคิดเปน็ เครอ่ื งช่วยอ�ำ นวยผล เอาแรงงานเปน็ กลไกภายในตน นค้ี อื คนมีคณุ คา่ ราคางาม” จาก...ครบู ุญเรอื ง วงั ศลิ าบัตร
สาร ผศ เพญ็ ลภัส ยม้ิ เสมอจติ อาจารย์สาขาวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ 22.23 น. ของวนั ที่ 26 กันยายน 2557 กม็ ีเสียงในไลน์ดังขึน้ ! “อาจารยค์ รับ ผมมาทวงสารครบั กลวั อาจารย์ลมื ” น่ารักมากเลยคะ นักศกึ ษาผู้ประสานงาน (ใครวะ!) ช่ือในไลน์เขาหละ กข็ ออนญุ าตเขา้ เรือ่ ง สารที่ว่าคือการครบรอบปีที่ 20 ของชาวเมคคาทรอนิกส์ กต็ อ้ งขอแสดงความยนิ ดีกับการเติบโตของสาขาวิชา รวมทั้งศษิ ยเ์ กา่ และศษิ ยป์ จั จุบนั อาจารย์บรรจุ เป็นอาจารย์ท่ีปทุมวันเมือ่ วนั ที่ 1 พฤษภาคม 2535 หากนบั การท�ำ งานกจ็ ะเรมิ่ เห็นพฒั นาการของการกอ่ ต้ังของสาขาและ เข้าใจอตั ลักษณห์ รือบคุ ลกิ นกั ศึกษาเมคคาทรอนกิ ส์เปน็ อย่างดี แมน้ ไมไ่ ดเ้ ปน็ ผู้รว่ มก่อตั้ง แต่ก็ไดช้ ว่ ยสนบั สนนุ ทงั้ ต่อหนา้ และลบั หลงั มีเร่อื งราวทอี่ ยใู่ นใจมากมายในใจตลอดระยะเวลา 20 ปีของชาวเมคคาทรอนกิ ส์ สว่ นใหญก่ ็เปน็ เรอื่ งราวของ ความนา่ ชื่นชมยินดที ่สี ามารถแสดงออกใหส้ งั คมได้รับรู้ แต่กย็ ังมีอกี หลายเรอื่ งทีเ่ ราไม่สามารถสือ่ ออกมาเปน็ ภาษาพูดเพ่ือ ใหส้ ังคมฟังได้ ก็ได้แต่แอบมองตาและให้กำ�ลงั ใจในการเรยี นและการใช้ชีวิตในรว้ั ปทมุ วัน “สงั คมของชาวเมคคาทรอนกิ ส์” อาจารย์ขอใช้ค�ำ น้มี นั หลอ่ หลอมให้มีการสร้างกระบวนการในการเรียนรู้และการตอ่ สู้ไดอ้ ยา่ งอัตโนมัติ จนทำ�ใหบ้ ัณฑติ ของ เมคคาทรอนิกส์เป็นทย่ี อมรับของวงการอตุ สาหกรรม นำ�มาซึ่งความเข้มแขง็ ของศิษยเ์ กา่ ท่ีจะยนื หยดั ยนื่ มือมาช่วย เหลอื เคยี งขา้ งรนุ่ น้อง ในทกุ ๆเรอ่ื งท่นี ่าจะเปน็ ประโยชนแ์ ละมีความถกู ต้อง ความน้อมโนม้ และมสี มั มาคารวะของนกั ศกึ ษาและ ศษิ ย์เกา่ จะเป็นเหมือนอาวธุ ที่ทรงอนุภาพในการตอ่ กับอปุ สรรคและขวากหนาม ขอฝากอกี เรือ่ งไว้ในใจและให้ได้คอื “ซอ่ื สัตย์ ชนะทุกส่ิง ความกตญั ญูคือเคร่อื งหมายของคนด”ี ขอแสดงความยินดีและชืน่ ชมกับความสำ�เร็จของนักศึกษาและศิษยเ์ กา่ สาขาวชิ าวิศวกรรมเมคคาทรอนกิ สค์ ะ่ ผศ เพญ็ ลภัส ยิม้ เสมอจิต อาจารยป์ ระจำ�สาขาวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์
สาร รศ.ดร.เสกสรร ไชยจติ อาจารย์สาขาวศิ วกรรมเมคคาทรอนกิ ส์ 20ปี เมคคาทรอนิกส์ สถาบันเทคโนโลยีปทมุ วัน 20ปขี องวศิ วกรปฏิบตั ิ เทคโนโลยีเมคคาทรอนิกส์และเปน็ 20 ปี ของศาสตร์วิศวกรรม เมคคาทรอนกิ สข์ องประเทศไทย ตลอดระยะเวลา 20ปี เมคาทรอนิกส์ ปทุมวนั ได้พฒั นาและ รว่ มสรา้ งผลงานมากมายออกสสู่ งั คมทั่งในประเทศและตา่ งประเทศ อาธิเชน่ โครงงานเมคคาทรอนกิ สร์ ่วมใจ การแขง่ ขันหุ่น ยนต์ การช่วยเหลือสงั คม น้ำ�ทว่ มป5ี 4 เปน็ ต้น จุดเด่นของเมคคาทรอนกิ ส์ ปทุมวัน นอกจากเปน็ ผ้บู ุกเบกิ แล้ว ยงั มวี ฒั ธรรมและเอกลกั ษณ์ ทโ่ี ดดเดน่ ด้าน การรรัก สมคั สมานในระบบรุน่ พ่ี รุ่นนอ้ ง ในวาระครบรอบ 20ปี พก่ี ข็ อให้ทง้ั ศษิ ย์เก่าและศษิ ย์ปัจจบุ นั รักและทะนุถนอม เกียรติ ของเมคคาทรอนิกส์ ปทมุ วนั ตลอดไป เสกสรร ไชยจิตต์ เมคคาทรอนกิ ส์ 01 อาจารยป์ ระจ�ำ สาขาวิศวกรรมเมคคาทรอนกิ ส์
สาร อาจารยป์ ัณณวิชญ์ ภทั รส์ รณส์ ริ ิ อาจารยส์ าขาวศิ วกรรมเมคคาทรอนกิ ส์ เนือ่ งในวาระครบรอบ 20 ปใี นการก่อต้งั สาขาวชิ าวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ สถาบันเทคโนโลยปี ทุมวัน ผมขอแสดง ความยนิ ดีกบั ชาวเมคคาทรอนิกสท์ กุ ทา่ น ท่ีไดท้ ุ่มเท และสร้างช่ือเสยี งท่ดี งี ามใหก้ บั สถาบันเทคโนโลยปี ทุมวัน รวมถงึ ความ รัก ความสามคั คขี องศิษย์เกา่ และนักศกึ ษาปจั จบุ นั ที่ให้ความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ และทนุ ทรัพย์ ในการช่วยเหลือกิจกรรม ของสาขา โดยตลอด เชน่ กจิ กรรมท�ำ นุบำ�รุงศลิ ปะและวฒั นธรรม และการเข้ารว่ มแขง่ ขันหุ่นยนต์ ABU เปน็ ต้น ทั้งนผ้ี มเขา้ มาสูส่ าขาวชิ าเมคคาทรอนกิ สค์ รั้งแรกในวนั ท่ี 23 กันยายน พ.ศ.2556 พบว่า สาขาเมคคาฯ เปน็ สาขาท่ี มีความพิเศษต่างจากสถานศึกษาอนื่ ๆ คือ การดแู ลและเอาใจใส่ของอาจารยแ์ ละเจ้าหนา้ ที่ตอ่ นกั ศึกษา และความเปน็ กนั เอง และความมีระเบียบวินัยของนักศึกษา ซึ่งการประชมุ ทุกวันพุธ ผมขอเรียกว่า HOME ROOM จะมีอาจารยแ์ ละเจา้ หนา้ ที่ ร่วม อยทู่ กุ ครง้ั โดยจะถามเรอ่ื งการเรียน ความเปน็ อยู่ของนกั ศกึ ษา และประชาสมั พันธ์เรอ่ื งตา่ งๆ เชน่ ทนุ การดงู าน การเรยี น ต่อในต่างประเทศ เปน็ ต้น รวมถงึ ความช่วยเหลือตา่ งๆ ที่ศิษย์เกา่ เข้ามาชว่ ยเหลือในการให้ค�ำ แนะนำ�รวมถึงการใชส้ ถานท่ี ในการท�ำ หนุ่ ยนต์ โดยผมไดม้ ีโอกาสเปน็ อาจารยผ์ ู้ดแู ลทมี รว่ มกับอาจารย์โกศล เสาน้อย และอาจารย์จรัสศรี เสือทบั ทมิ ซง่ึ ประพฤตติ นเป็นแบบอยา่ งทีด่ ีในการดูแลนกั ศึกษา และเป็นอาจารยท์ ่ีพร้อมให้ความชว่ ยเหลือตอ่ นกั ศึกษาในทุกๆ เรื่องทง้ั เรือ่ งการเรยี นและเรอ่ื งสว่ นตวั ในโอกาสนี้ผมขออัญเชิญคณุ พระศรีรัตนตรยั และสิ่งศักดสิ์ ทิ ธิ์ในสากลโลก จงดลบนั ดาลให้สมาชิกในสาขาวิชาเมคคา ทรอนกิ ส์ สถาบนั เทคโนโลยปี ทุมวัน ให้มีความสขุ ความเจรญิ และประสบผลส�ำ เร็จในหนา้ ทก่ี ารงานและครอบครัว และเป็น แรงผลกั ดนั ให้สาขาเมคคาทรอนกิ ส์ สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เจรญิ กา้ วหน้าสบื ต่อไป นายปณั ณวชิ ญ์ ภทั รส์ รณ์สิริ อาจารย์ประจ�ำ สาขาวศิ วกรรมเมคคาทรอนกิ ส์
สาร ชมรมศิษย์ศิษย์เกา่ เมคคาทรอนิกนป์ ทุมวนั 20 ปเี มคคาทรอนกิ ส์ ปทมุ วัน เมอื่ ไดย้ นิ ค�ำ นี้ มันทำ�ให้เรานกึ ถงึ เมือ่ วนั วาน วนั ที่เราเร่มิ ต้น นบั จาก หนึง่ สอง สาม สี่ จนมาถึงวนั นี้ วันทเ่ี มคคาทรอนิกส์เข้าปที ่ียีส่ บิ เรื่องราวมากมายทผี่ า่ นเขา้ มา ทเี่ ขา้ มาเป็นอปุ สรรค ให้เราได้ร่วมกนั ฝ่าฟนั น้ำ�ตาแห่งความเสยี ใจ น�ำ้ ตาแห่งชยั ชนะ รอยย้ิม เสียงหัวเราะ ทุกอยา่ งได้หล่อหลอมใหพ้ วกเราไดม้ ีวนั น้ี ในนามของตัวแทนชมรมศษิ ยเ์ กา่ เมคคาทรอนิกส์ปทมุ วนั เราพยายามรวมตัวกนั ใหเ้ ป็นหนึง่ เพือ่ สรา้ งสรรค์ กิจกรรม ดๆี เพ่อื พ่นี ้อง เพ่อื เมคคาทอรนิกส์ปทุมวนั เพื่อปทมุ วนั และเพือ่ สังคม วันนี้ เราคอื ส่วนหน่ึงที่จะช่วยกนั ผลักดนั ใหเ้ มค คาทรอนกิ ส์ปทมุ วันของเรา ก้าวต่อไปอยา่ งไม่หยดุ ย้ัง เพื่อแสดงศักยภาพของ The first of engineer ทีแ่ ท้จริงของพวกเรา ท้ายน้ี ผมขอเป็นตวั แทนศษิ ยเก่าทุกท่าน รว่ มแสดงความยนิ ดีกับ สาขาวชิ าเมคคาทรอนกิ ส์ปทุมวัน ทก่ี า้ วมาเขา้ ปที ่ี 20 และ เราจะร่วมแรงรว่ มใจกนั ผลักดนั ใหเ้ มคคาทรอนกิ ส์ปทมุ วัน กา้ วต่อไป “ ถึงเฟือง จะหมนุ ไป แต่เฟืองไม่เคยเคลื่อนไกล หมนุ ฟนั เฟอื งมันกลับมาทเี่ ดมิ เหมอื นเรา ปทมุ วนั ไมเ่ คยคดิ หนหี ่างเหิน คดิ หมางเมิน นกึ ลมื ถน่ิ ช่างกล “ ชมรมศษิ ยเ์ ก่าเมคคาทรอนิกสป์ ทมุ วัน วสุรัตน์ วรี ะชุมพล ประทานชมรมศิษยเ์ ก่าเมคคาทรอนกิ สป์ ทุมวนั
สมาคมศิษย์เก่าสถาบันเทคโนโลยปี ทมุ วัน ขอแสดงความยนิ ดีในโอกาส ครบรอบ ๒o ปี สาขาวศิ วกรรมเมคคาทรอนิกส์ ซ่ึงเปน็ หนง่ึ ในกิง่ กา้ นสาขาของสถาบันเทคโนโลยปี ทมุ วัน ด้วยความปราถนาดีอยา่ งยิง่ นายบรรจง คณุ ูจิตต์ ช.ก. 37 นายกสมาคมศิษย์เกา่ สถาบันเทคโนโลยปี ทมุ วนั
จากอดีตสู่ สถาบันเทคโนโลยีปทุมวนั ประวตั โิ รงเรยี นชา่ งกลปทมุ วัน เม่ือประเทศไทยเขา้ รว่ มสนธิสญั ญากับฝ่ายสัมพันธมติ รในสงครามโลกครัง้ ท่ี 1 ในราชกาลท่ี 6 และไดส้ ่งกองทัพไปรว่ มรบในยโุ รป เมอื่ พทุ ธศกั ราช 2460 นัน้ การเดินทางของกองทพั ไทยในสมยั นนั้ เดินทางโดยทางเรอื รบจากอา่ วไทยไปทางมหาสมทุ รอินเดีย เขา้ ทะเล เมดิเตอเรเนยี นและเขา้ สทู่ วปี ยโุ รป เหตุการณ์ครง้ั น้นั เปน็ ปัจจัยหน่ึงท่ีประเทศไทยต่นื ตวั ทจี่ ะพฒั นาการทหารใหท้ �ำ หน้าทป่ี กปอ้ งอาณา เขตางทะเลให้ม่ันคง ด้วยทะเลไทยมฝี ัง่ ทะเลท่ียาวจากทิศตะวนั ออกลงไปสภู่ าคใต้ และฝ่ังทะเลด้านตะวันตกซึง่ ยาวกวา่ พันไมล์ได้รบั งบ ประมาณสง่ั ซอื้ เรอื รบทข่ี บั เคลอ่ื นดว้ ยเครอ่ื งจกั รตา่ งประเทศเขา้ มาใชร้ าชการเครอ่ื งจกั รกลทป่ี ระจ�ำ เรอื นเ้ี องเปน็ ทมี่ าของค�ำ วา่ “ชา่ งกล” เรือรบทสี่ ่ังซ้อื จากยโุ รป จ�ำ เป็นต้องศกึ ษาวิธีใชว้ ธิ ซี อ่ มบ�ำ รงุ รกั ษาเคร่อื งจกั รกลท่ปี ระจำ�เรอื เปน็ หน้าทส่ี �ำ คญั ของทหารทป่ี ระจ�ำ เรือ การศึกษาวิธีใช้เคร่ืองกลเรอื ของทหารเรอื ในสมยั นนั้ ช่วงแรกๆ คอ่ นขา้ งจะเสยี เปรยี บประเทศผขู้ ายอยา่ งย่ิงเพราะจะสง่ ชา่ งมาสอนให้ โดยเฉพาะ หรือมฉิ ะนน้ั ฝา่ ยไทยกส็ ง่ ทหารไปศึกษายงั ประเทศท่ีสั่งซ้อื โดยตรง ซึ่งเปน็ การใหค้ วามร้เู ฉพาะบางส่วนท่ีจำ�เปน็ กับการใช้งาน เทา่ น้ัน นอกนนั้ ถือเปน็ ความลบั ท่ีไมม่ ีการเปิดเผยความรู้ให้ และเมอ่ื เครอื่ งจกั รกลมีปญั หาหรือขัดขอ้ งก็ต้องใช้ชา่ งในประเทศสง่ั ซ้อื มา ดแู ลแก้ไขหรอื ซอ่ มบ�ำ รงุ รกั ษา เป็นการเสยี งบประมาณสูงและเสียเวลานานในการรอคอยชา่ งกวา่ จะเดนิ ทางมาถงึ เมืองไทยด้วย อยา่ งไรกต็ าม กองทัพเรอื ได้มีโรงเรียนนายเรือสอนหลงั สตู รวิศวกรรมเคร่ืองเรือกล มชี อื่ เฉพาะเรียกว่า “แผนกพรรคกะลิน” มา ตง้ั แต่รัชกาลพระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยู่หัว ได้เปิดสอนมาจนถึงพุทธศกั ราช 2474 แผนกพรรคกะลินจึงยบุ การสอนเสีย นายเรอื เอกทิพย์ ประสานสุข ร.น. ตำ�แหน่งกองช่างตรวจเรอื กรมเจ้าท่า ได้เล่าวา่ ในบทความ “บนั ทึกจากอดีตช่างกล โรงเรียนชา่ งกลเกดิ ขน้ึ ได้อย่างไร” วา่ “พุทธศักราช 2474 เป็นเวลาทผ่ี มู้ ีอ�ำ นาจในวงราชการอาจเหน็ วา่ โรงเรียนนายเรอื แผนก พรรคกะลินจะไม่มีประโยชน์หรอื ได้รับประโยชน์น้อยไปไม่ทราบ ท่านจงึ สง่ั ใหย้ ุบเลกิ โรงเรียน นายเรอื แผนกพรรคกะลนิ เสีย คงเหลอื ไวแ้ ต่โรงเรยี นนายเรือแผนกพรรคนาวนิ เทา่ นั้น ฉะนนั้ นายทหารเรอื ฝ่ายพรรคกะลนิ รนุ่ ปี 2473จึงเปน็ นายทหารรุน่ สดุ ท้ายท่ีส�ำ เร็จการศึกษาจาก โรงเรียนนายเรือแผนกพรรคกะลนิ เม่อื ผลปรากฏเชน่ น้วี ิชาอาชพี ฝา่ ยชา่ งในเมืองไทยย่อม รอ่ ยหรอหมดส้ินไปทีละนอ้ ยๆเพราะการเรียนฝา่ ยชา่ งทีพ่ อจะเป็นทเ่ี ชอ่ื ถอื ได้ในเวลาน้ัน ไม่มี โรงเรียนชา่ งไหนดีกว่าท่ีน”ี่ 01
เน่อื งมาจากสาเหตุดงั กลา่ ว ท่านนาวาเอก พระประกอบกลกจิ (เจอ๋ จันทรเวคนิ ) ซึ่งขณะนั้น มยี ศเป็น นานาวาตรี หลวงประกอบกลกิจ และดำ�รงตำ�แหนง่ อาจารย์ใหญ่โรงเรียนแผนกพรรคกะ ลนิ และโรงเรียนนายเรอื ช้ันสงู แผนกพรรคกะลนิ เกดิ ความรูส้ ึกหว่ งใยว่า เรื่องวิชาชา่ งจะไมเ่ จริญ กา้ วหนา้ ตอ่ ไปในกาลขา้ งหน้า ท่านจึงเรียกขา้ พเจ้าพรอ้ มดว้ ย พลเรอื ตรีสงบ จรูณพร ร.น. ซึ่งขณะ นั้นตา่ งกเ็ ป็นยศเรอื โทในฐานะเปน็ ศษิ ย์ของท่านไปพบและชแ้ี จง้ วา่ ท่านมีความประสงค์แรงกลา้ จะ จัดตัง้ โรงเรียนอาชัพช่างกล ความประสงคเ์ พอ่ื ทีจ่ ะไดแ้ ก้ไขปัญหาดงั ตอ่ ไปน้ี 1. เพือ่ เปน็ การสนับสนุนใหอ้ าชพี ทางการช่างของเมอื งไทยด�ำ รงคงอยู่ 2. เพื่อเปน็ การช่วยเหลือบรรดานายทหารกองหนุน ซึ่งได้พ้นจากหน้าที่ราชการไปแล้วให้ไดม้ า เป็นครูและทำ�การอบรมศิษยช์ ่างกลตอ่ ไป 3. เพอ่ื เปน็ การแก้ไขปัญหาในเร่ืองโรงงานตา่ งๆ ซึ่งในขณะนนั้ บรรดาคนงานซ่ึงไดป้ ฏบิ ตั ิอยู่ ตามแผนกงานของต่างๆ ของโรงงานกรมอทู่ หารเรือ คนงานสว่ นมากล้วนเปน็ ชาวตา่ งชาตทิ งั้ ส้ิน ทั้งๆท่ีโรงงานน้ีของรัฐบาลท่านให้เหตุผลว่าถ้าหากเรามีแต่เฉพาะนายช่างเพียงอย่างเดียวเท่าน้ัน กิจการฝา่ ยชา่ งกจ็ ะด�ำ เนินไปด้วยดีไม่ได้นายช่างเมื่อเปรยี บเทียบกับรา่ งกายกเ็ ท่ากบั มันสมอง แตถ่ ้าส่วนอวยั วะต่างๆ ไมป่ ฏบิ ตั ิตาม คำ�สั่งของมนั สมองแลว้ ก็ไรป้ ระโยชน์ การท่ีทา่ นจากคิดสรา้ งโรงเรยี นอาชพี ช่างกลขนึ้ กเ็ พอื่ จะได้ชา่ งกลคน่ั กลางเพอื่ ไดม้ าประกอบเป็น อวยั วะ ในเมือ่ สำ�เร็จการศึกษาแลว้ ร่างกายน้ันจึงจะได้วา่ สมบูรณ์ทุกประการ 4. เพือ่ ใหช้ าวไทยได้รูจ้ กั รกั วชิ าชีพ ทา่ นจงึ ได้กำ�หนดวิชาทจ่ี ะอบรมศษิ ย์ โดยวิธถี อดแบบอยา่ งของการศกึ ษาในโรงเรยี นนายเรือ แผนกพรรคกะลิน มาจดั ตั้งหลักสตู รการสอนดว้ ยใหม้ กี ารศึกษาวิชาการตำ�ราในภาคครึง่ วนั เชา้ สว่ นภาคบา่ ยใหน้ ักเรียนฝึกหัดวชิ าการ ช่างทางภาคปฏบิ ัติ โดยให้ได้เขา้ ฝกึ งานในโรงงาน และตอ้ งปฏบิ ัตงิ านด้วยฝีมือของตัวเองทั้งนีเ้ พือ่ ให้นักเรียนมคี วามช�ำ นาญงานและมี ความอดทนและไมก่ ลวั ตอ่ ความสกปรกโสมม ด้วยให้อบรมในงานภาคช่าง 10 ประเภท ตามล�ำ ดบั ความส�ำ คญั คอื 1.ช่างตีเหล็ก 2.ชา่ งตะไบ 3.ชา่ งบดั กรแี ละประสาน 4.ช่างปรับ 5.ช่างยนต์ 6.ช่างไฟฟ้า 7.ช่างกลงึ 8.ช่างหลอ่ 9.ชา่ งเดนิ เคร่ืองจกั ร 10.ชา่ งออกแบบ ทง้ั น้ีเพ่อื ให้นกั เรียนได้มีความรทู้ างตำ�รา และใหม้ คี วามช�ำ นาญในหน้าทง่ี านช่างในทางปฏิบตั ดิ ้วย จึงจะจดั วา่ เป็นช่างกลท่ดี ีได้ สว่ น เรอื่ งโรงงาน เพื่อใช้เปน็ สถานทีส่ ำ�หรบั ฝกึ หดั งานซ่งึ ขณะนน้ั โรงเรียนยงั ไม่มีโรงงานของตัวเอง ท่านได้ขอความกรณุ าตอ่ ทางราชการ ทหารเรือเพอ่ื ใหน้ กั เรยี นไปฝกึ งานในโรงงานกรมอทู่ หารเรือและในโรงงานของโรงเรียนนายเรือฝา่ ยพรรคกะลนิ จากเหตผุ ล 4 ประการดังกล่าวแลว้ ทา่ นจงึ ขอรอ้ งใหข้ ้าพเจ้า และพลเรอื ตรสี งบ จรญู พร ร.น. ได้ชว่ ยชกั ชวนบรรดาเพอื่ นนายทหาร ชัน้ ผนู้ ้อย และส�ำ หรับตวั ท่านเองทา่ นจะชักชวนบรรดาเพือ่ นนายทหารช้นั ผู้ใหญ่โดยขอร้องให้ช่วยกันเสียสละเงินเดอื นเปน็ รายเดอื น คนละเล็กคนละนอ้ ยให้พอเพยี งแก่การสนับสนนุ ให้โรงเรยี นทรงตัวอยู่ได้ บรรดานายทหารทป่ี ระจ�ำ การอยู่ในปี พ.ศ. 2474 สว่ นมากได้ เหน็ ชอบดว้ ย พรอ้ มกบั บรรดาครูทีต่ ้องท�ำ หน้าทอี่ บรมส่งั สอนให้ความรแู้ ก่นกั เรยี นซึ่งเกอื บจะเรียกได้ว่า มิหวงั ผลตอบแทนใดๆ ดว้ ยแนวความคดิ ของ นายนาวาเอก พระประกอบกลกจิ ทก่ี ลา่ วมานี้ บรรดานายทหารเรอื ส่วนใหญ่เหน็ ดีด้วย ท่านจงึ มหี นังสอื เวยี น ขอความร่วมมอื เร่ียรายเงินจากบรรดานายทหารเรือคนละ 100 บาท เพ่ือจัดตั้งโรงเรยี นชา่ งกล การเก็บเงนิ ครั้งนน้ั ใชว้ ธิ ีเกบ็ เงนิ เป็นราย เดือน ๆละ 5 บาท เกบ็ จนกวา่ จะครบ 100 บาท ผู้ทีเ่ ปน็ ก�ำ ลงั ช่วยเหลือ พลเรอื ตรสี งบ จรญู พร ร.น. และพลเรอื เอก ทพิ ย์ ประสานสุข ร.น. ชักชวนบรรดาเพือ่ นๆ นายทหารเรอื ด้วยกนั จำ�นวน 100 คน 02
2475 จดุ เริม่ ต้น...โรงเรยี น อาชีพชา่ งกลแหง่ แรกของประเทศไทย เมื่อได้ทุน่ ในชน้ั แรกแลว้ กด็ ำ�เนินการหาสถานท่ีในการจัดการเรยี นการสอน โดยได้ใช้ใต้ถุนตกึ ของพระคลังข้างท่ี ในตรอกกปั ตัน บชุ สพี่ ระยา เขตบางรกั เปดิ ทำ�การสอนครง้ั แรกในวันท่ี 1 สงิ หาคม พ.ศ. 2475 โดยใช้ชอื่ ว่า โรงเรยี นอาชพี ชา่ งกล มนี ายนาวาเอก พระ ประกอบกลกิจ ร.น. เปน็ ผู้อำ�นวยการ การจัดการเรียนการสอนในชว่ งแรกนน้ั ได้นำ�ลูกหลานของนายทหารเรือ และผ้สู นใจเข้ารบั การ ศึกษา การจดั หาครู-อาจารย์ ผ้สู อน ได้ตดิ ต่อขอเชญิ นายเรือเอก หลวงสรุ ภฏั พิศิษฐ์ ร.น. เปน็ อาจารย์ใหญ่คนแรกของโรงเรยี น และ นายเรือเอกสงวน คงศิริ ร.น. เปน็ อาจารยผ์ ู้ปกครอง การรบั นกั ศึกษาในรนุ่ แรก ก�ำ หนดความร้ชู ้นั ประถมปีท่ี 3 หรอื เทียบเท่า อุปกรณ์ในการเรยี นการสอนกส็ ่งั ซอื้ เขา้ มาทีละเลก็ ทลี ะน้อยส�ำ หรับฝกึ หดั เช่นเตาเผาเหล็ก ทั่ง ฆอ้ ง ปากกาจับงาน เครื่องกลงึ นอกจากเคร่อื งมอื ประจ�ำ โรงเรยี นเหลา่ น้ี แลว้ กองทัพเรอื ยังได้ใหก้ ารอุปการะ โดยใหน้ ักเรยี นไปฝกึ งานภาคปฏิบัติทกี่ รมอูท่ หารเรอื เครื่องจักรบางชิน้ กรมอู่ทหารเรือก็มอบให้ แก่โรงเรียนเป็นเคร่ืองมือส�ำ หรบั นกั เรียนฝึกหัดงานทางโรงเรียน พ.ศ. 2477 กรมแผนท่ีทหารบก เดิมต้ังอยูท่ ี่ท่าตรงขา้ มโรงเรียนราชินลี า่ ง ได้ยา้ ยไปอยทู่ อี่ ื่น จงึ ไดถ้ ือโอกาสยา้ ยโรงเรียน อาชพี ช่างกลจากตรอกกปั ตันบุชมาอยูแ่ ทน เพราะสถานท่กี วา้ ง ใกล้นำ�้ สะดวก แก่การไปฝึกงานที่กรมอทู่ หารเรือและสะดวกแกก่ าร ควบคุมของผู้อำ�นวยการโรงเรียนดว้ ย พ.ศ. 2478 พลเรือเอก หลวงสงครามชยั ร.น. ตง้ั แต่ครง้ั เปน็ เสนาธกิ ารกองทัพเรือ ซงึ่ เป็นผู้ช่วยเหลือ ในการออกทุ่นได้สนับสนุนโรงเรียนอาชีพช่างกลด้วยผู้ หน่ึงต่อมาจนกระทั่งเป็นแม่ทัพและในปีเดียวกันท่านได้ รับตำ�แหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมการท่านได้นำ� เร่อื งของโรงเรียนอาชพี ชา่ งกลเขา้ ปรึกษาจอมพล ป. พิบูล สงครามขณะนัน้ ดำ�รงตำ�แหน่งนายกรัฐมนตรี ดว้ ยความ เมตตากรณุ าของทา่ นผู้ใหญท่ ั้งสองท่าน และดว้ ยสายตา ทมี่ องไกล ท่านไดเ้ หน็ ความสำ�คญั ในเรือ่ งวชิ าอาชีพการ ช่างกล ว่าเป็นสิ่งจ�ำ เป็นอยา่ งย่ิงทร่ี ฐั บาลควรจะตอ้ งอมุ้ ชู เพอ่ื ความเจรญิ กา้ วหน้าของประเทศชาตใิ นอนาคต และ ใหป้ ระชากรของชาตไิ ด้รบั การศึกษาเล่าเรียนวิชาช่างกลไว้ เพื่อเป็นวิชาอาชีพท่ีจะไดน้ �ำ ไปประกอบการงานใหเ้ ปน็ ประโยชนต์ ่อราชการ หรือสว่ นตวั หรือครอบครวั ให้ไดม้ ีอาชพี การงานที่เป็นปึกแผน่ และอยู่ดกี นิ ดี จึงได้ใหร้ ับโรงเรียนอาชีพชา่ งกลจากนายนาวาเอก พระ ประกอบกลกิจ ร.น. มาสังกัดอยู่ในกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศกึ ษาธิการ ตงั้ แต่วันท่ี 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2478 พรอ้ มอนุมตั เิ งนิ งบ ประมาณให้โรงเรียนไดก้ ่อต้งั รากฐานอันมนั่ คง มีโรงงานและเครื่องจักรกลตา่ งๆ เป็นสมบัตขิ องโรงเรียนปรากฏหลักฐานอยู่ในขณะน้ี และโรงเรยี นอาชพี ชา่ งกลก็ได้เปลย่ี นนามของโรงเรยี น เรยี กนามใหม่วา่ อาชพี ช่างกลปทมุ วัน ระเบียบในการรับสมคั รนกั เรียน ตอ้ งสำ�เรจ็ วิชาสามัญช้นั มัธยมปีที่ 4 เป็นอย่างต่ำ�และอายไุ ม่น้อยกวา่ 15 ปี ไมเ่ กนิ 18 ปี วางหลงั สตู รการเรียนไว้ 2 ปี ไม่เก็บคา่ เล่าเรียน สวนนายนาวาอากาศเอก พระประกอบกลกจิ ร.น.ยงั คงรบั หน้าทีเ่ ปน็ ผูอ้ ำ�นวยการโรงเรยี น ต่อมา และนายเรอื เอกหลวงสรุ ภฏั พิศิษฐ์ ร.น เป็นอาจารย์ใหญเ่ ชน่ เดิม ต่อมาเดือนมกราคม พ.ศ.2478 นายเรือเอกหลวงสรุ ภัฏพิศษิ ฐ์ ร.น ย้ายไปรบั ราชการกรมเจา้ ท่า นายเรอื โท สมบญุ กายสุต ร.น. ทำ�หนา้ ที่รักษาการแทนอาจารย์ใหญ่ 03
พ.ศ. 2479 นายนาวาตรี หลวงกลกจิ กำ�จร ร.น. ( มถยา รงั คะกะลนิ ) เป็นอาจารย์ใหญ่ ดว้ ยสาเหตุนายนาวาเอก พระ ประกอบกลกจิ ร.น. ผ้อู ำ�นวยการไปราชการประเทศญ่ีปนุ่ กองทัพเรือจึงมีค�ำ สัง่ ท่ี 42/79 ลงวันท่ี 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2479 แตง่ ตง้ั ให้ พล.ร.น. พระวิจติ รนาวี (แดง ลางคุณแสน) เป็นผอู้ �ำ นวยการแทน ปีน้นี กั ศึกษาซ่ึงเรยี นหลกั สตู ร 2 ปี เรียนจบหลกั สตู รและออกไปเปน็ รุ่นแรกจำ�นวน 67 คน ต้ังแต่ พ.ศ. 2478 เปน็ ตน้ มา กองทัพเรอื คงใหค้ วามสะดวกในการฝกึ งานที่กรมอู่ทหารเรือ และจดั อาจารยจ์ าก โรงเรยี นนายทหารเรอื เขา้ สอนภาคทฤษฎี และมีอาจารยจ์ ากท่อี ่ืนๆ อีก พ.ศ. 2480 กระทรวงศกึ ษาธกิ ารได้เปลย่ี นระเบยี บรบั นักเรยี นใหม่ รบั นกั เรยี นทีส่ อบวชิ าสามัญชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ได้ และเปล่ยี นหลังสตู รการศึกษาเปน็ 3 ปี และยังไมเ่ ก็บเงนิ ค่าเลา่ เรยี นตามเดมิ ในเดอื นในเดอื นพฤศจิกายน 2480 นายนาวาตรี หลวงกล กิจกำ�จร ร.น. (ถมยา รงั คะกะลนิ ) ย้ายไปรักษาราชการ ในตำ�แหน่งนายชา่ งใหญ่โรงงานน้ำ�ตาล จังหวดั ล�ำ ปาง นายนาวาตรี ขนุ ประพุธ พชิ ากล ร.น. (พุฒ ยม) รกั ษาราชการแทน จนกระทั่งเดือน กมุ ภาพนั ธ์ 2480 นายนาวาตรี หลวงด�ำ เนนิ นาวากล ร.น. (จันทร รชั ตชาต)ิ มารบั ราชการในต�ำ แหนง่ อาจารย์ใหญ่ พ.ศ.2481 เริม่ เก็บคา่ เล่าเรยี นปลี ะ 20 บาท แบ่งเกบ็ เปน็ 3 ภาค ภาคต้น 6 บาท ภาคกลาง 6 บาท ภาคปลาย 8 บาท กระทรวงศึกษาธิการจัดงบประมาณเป็นคา่ ใช้สอยให้แก่โรงเรยี นปลี ะ 3,500 บาท พ.ศ.2482 พลเรอื เอก หลวงสินธุสงครามชยั ร.น. รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการเห็นว่าโรงเรียนมัธยมอาชีพช่างกล มีสถานท่ีคับแคบ และเครือ่ งมือเครื่องใช้ในการฝกึ สอนก็นอ้ ย เห็นความจำ�เป็นของวิชาช่างกลที่จะจรรโลงชาติให้ก้าวหน้าต่อไป ในอนาคต ท่านจงึ ได้ว่างโครงการที่จะขยายกิจการของโรงเรยี น เป็นการใหญ่ โดยพยายามของบประมาณ 5 แสนบาทก่อสรา้ งและ จัดหาเคร่ืองมือเคร่ืองจักรในการฝึกสอนนักเรียนให้ทันสมัยย่ิงขึ้น และได้มอบหมายงานนีแ้ ก่ หม่อมเจ้า รัชฎาภิเษก โสณกุล อธบิ ดี กรมอาชีวศึกษา ซึ่งเป็นอธบิ ดคี นแรกของกรมอาชวี ศกึ ษาดำ�เนิน การเช่าท่เี ดมิ ตรงข้ามกรีฑาสถานแห่งชาติ คอื สนามกฬี าแหง่ ชาติ ในปจั จบุ ัน ของส�ำ นักงานทรพั ยส์ ินสว่ นพระมหากษตั รยิ ซ์ ึ่งเดิมเปน็ วงั ของกรมพระสวัสดิวัดนวศิ ิษฏ์ มีเนื้อท่ีประมาณ 18 ไร่ ได้กอ่ สร้าง จดั อาคารให้โรงเรียน ข้ึน 1 หลัง โรงฝกึ งานอกี 8 หลัง พร้อมทงั้ จดั หาเครอื่ งจกั รท่ที ันสมยั ใหแ้ ก่โรงเรียน ซง่ึ หลวงกิตวิ าท หัวหนา้ กองอาชีวศึกษาเทียบกับผู้อำ�นวยการกองวิทยาลัยเทคนิคใน ปจั จบุ ันเป็นผ้ดู ูแลเรอ่ื ง และดว้ ยความใสพ่ ระทยั ในกิจการโรงเรยี นนี้ ของ หมอ่ มเจา้ รัชฎาภิเษก โสณกุล อยา่ งใกลช้ ดิ เปน็ พิเศษจนการ กอ่ สร้างอาคารโรงเรยี นเสรจ็ เรยี บร้อย จึงได้ยา้ ย โรงเรียนมัธยม อาชีพช่างกล มาอยู่ที่แห่งใหมน่ ้ี เมอื่ วันที่ 17 พฤษภาคม 2482 และในการนั้นได้เปล่ยี นช่ือใหม่เปน็ โรงเรยี นช่างกลปทมุ วนั และ สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองคเ์ จ้าสวสั ดิ ไดจ้ ัดการปรับปรงุ หลักสตู ร การสอนให้เขา้ กับระดับมาตรฐานของ โสภณ กรมพระสวสั ดวิ ดั นวศิ ษิ ฎ์ กระทรวงศึกษาธกิ ารอาชีวศึกษาช้ันสูงแผนกชา่ งกล และได้แยก เรยี นวิชาชน้ั ปีท่ี 3 ออกเป็น 3 แขนง คอื ช่างยนต์ ชา่ งไอน้�ำ และ ชา่ งไฟฟ้า วันที่ 1 ตลุ าคม พ.ศ. 2483 นายนาวาตรี หลวงดำ�เนินนาวากล ร.น. อาจารย์ใหญ่ ขอลาออกจากราชการเพราะ สขุ ภาพไม่สมบูรณ์ กรมอาชีวศกึ ษาไดแ้ ต่งตง้ั ให้ นายนาวาตรหี ลวงประพรรดิจ์ ักรกจิ ร.น. (แสวง หาสตะนนั ทร์)เปน็ ผรู้ กั ษาการแทน อาจารย์ใหญ่ 04
ช่วงสงครามโลก คร้ังท่ี 2 กิจการของโรงเรยี นชา่ งกลด�ำ เนินการมาอย่างเปน็ ระบบ อปุ กรณ์การเรียนการสอน และเครอ่ื งมอื เครื่องจกั รอยู่ในระท่ีด�ำ เนินการ เรียนการสอนอยู่ในเกณฑด์ ี แต่แลว้ ในวนั ที่ 11 ธนั วาคม พ.ศ. 2464 เวลา 19.30 น. กองก�ำ ลังญี่ปุ่นประมาณ 100 คนเศษ ไดเ้ ข้ายดึ ทรพั ย์สมบตั แิ ละเครอื่ งจกั รของโรงเรยี นไวท้ ง้ั สนิ้ โรงเรยี นจงึ ต้องอพยพนักเรียนไปอาศัยเดก็ นกั เรียนมธั ยมวดั เทพศริ ินทร์ จนจบปีการ ศึกษา ปกี ารศกึ ษา 2485 น.ต. หลวงประพรรด์จิ กั รกิจ ร.น. ได้รับตำ�แหน่งเปน็ อาจารย์ใหญ่โรงเรยี น เปดิ ทำ�การสอนเมอื่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2485 ที่ตึกหอ้ งสมุดของโรงเรียนมธั ยมวดั เทพสริ นิ ทร์จนถงึ วันที่ 4 มถิ ุนายน พ.ศ. 2485 ไดย้ า้ ยไปท�ำ การสอนท่ีเชงิ สะพานเฉลมิ โลก ต�ำ บลประตนู ้ำ� ปทุมวนั ซ่งึ ปจั จบุ ันเปน็ สถานศกึ ษาของชา่ งอนิ ทราลยั วนั ที่ 12 กรกฎาคม 2485 ทางราชการกองทพั ภาคพายพั ได้ขอใหเ้ จา้ กรมพลาธิการทหารบก กระทรวง กลาโหม ตดิ ต่อของแผนกช่างยนต์ช้นั ปีที่ 3 รวม 32 คน และขอครูควบคนุ อีก 2 คน ไปชว่ ยราชกาลกองทัพพายพั โรงเรยี นช่างกลปทมุ วัน ไดจ้ ัดให้ อาจารย์สทิ ธชิ ัย คูหาแก้ว และอาจารยเ์ คลอื บ ศริ ิวัฒนกลุ ครชู า่ งยนต์เป็นผู้ควบคมุ นักเรยี นไปในการช่วยราชกาลทหารครัง้ นี้ ตราบจนกระทงั้ สนิ้ ภาวะสงครามโลก นักศึกษาของโรงเรยี นช่างกลปทุมวนั ไดเ้ สยี ชีวติ ในราชกาลทหาร 1 คน คอื นายอินทรชุบ จนั ทรนิ ทุ และครูผูค้ วบคุมอีก 1 คน คอื อาจารยส์ ิทธิชัย คหู าแก้ว ดว้ ยความไมป่ กตขิ องสถานการณ์บ้านเมือง ในปี พ.ศ. 2486 โรงเรยี นชา่ งกลปทุมวนั จงึ ไดร้ วมนักศกึ ษาช้นั ปที ี่ 3 เข้าเรียนดว้ ย กันเป็นแผนกเดยี วกันท้งั 3 ช่าง และขออนุญาตงดการสอบในปีการศกึ ษานัน้ กระทรวงศกึ ษาธกิ ารใหถ้ ือเกณฑ์เวลาเรยี น ร้อยละ่ 60 ถือเปน็ การสอบผา่ น ในชว่ งนั้นนักเรียนของโรงเรยี นชา่ งกลปทมุ วันได้ให้การชว่ ยเหลือบา้ นเมืองเปน็ อย่างมาก เช่น ช่วยทางดา้ นการ ทหารในการซ่อมอุปกรณ์ทางดา้ นการทหาร และทางสาธารณูปโภค ที่เกดิ จากการเสยี หายจากสงคราม และยงั เปน็ ก�ำ ลงั สำ�คัญใน ทางราชการในการปกกนั ใหม้ ปิ ระเทศไทยต้องตกอยู่ในฐานะผปู้ ระกาศสงครามร่วมกับฝา่ ยสัมพนั ธมิตร โดยร่วมมอื กับสถาบันชนั้ น�ำ ในขณะน้นั ในสว่ นของการเรียนการสอน โรงเรยี นชา่ งกลปทมุ วันกย็ งั เปิดการเรยี นการสอนตามปกติ ในขณะนัน้ มคี �ำ ส่งั จากกระทรวง ศกึ ษาธิการให้ยา้ ยโรงเรยี นชา่ งกลปทมุ วันไปท�ำ การสอนชั่วคราวท่ีใต้สะพานเฉลิมโลกเนือ่ งการพ้นื ที่ในส่วนนั้นเป็นพน้ื ท่ีชมุ ชน ซง่ึ อาจ จะไดร้ ับความเสียหายจากสงคราม โดยใหย้ า้ ยออกไปอยนู่ อกเขตพระนคร ในเดอื นสิงหาคม พ.ศ. 2487 โรงเรยี นได้ย้ายได้เรียนภาค ทฤษฎี ท่วี ัดธาตทุ อง พระโขนงในตอนเช้า และในตอนบา่ ยใหก้ ลับมาฝกึ งานทส่ี ถานท่ตี ั้งโรงเรยี นชว่ั คราวประตูน�้ำ การเรยี นการสอน เปน็ ไปดว้ ยความยากล�ำ บาก เน่อื งจากระยะทางระหวา่ งที่เรยี นภาคปตแิ ละภาคทฤษฎอี ยู่ไกล ลำ�บากตอ่ การเดนิ ทางของนกั เรียน ท�ำ ให้การเรียนการสอนไม่ประสบความสำ�เร็จ โดยท�ำ การเรียนการสอนอยู่เพียง 3 เดือนเศษ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2487 โรงเรียน ช่างกลปทมุ วนั ได้ไปขอท่ดี นิ ของนายทองฆ่อ เชง็ สธุ า ก่อสรา้ งสถานทเ่ี รียนชวั่ คราว ทซี่ อยสามมติ รจนส้นิ ปีการศกึ ษา 2487 พ.ศ. 2488 สงครามโลกสงบ ญปี่ ุ่นเปน็ ผู้แพส้ งคราม ในขณะประเทศไทยไดถ้ ูกพิจารณาจากฝ่ายชนะสงคราม (สหรัฐอเมริกา) ใหเ้ ปน็ ประเทศที่จ�ำ ยอมอยู่ในสภาวะประกาศสงครามโดยการถกู บงั คับ เน่ืองจากญปี่ นุ่ ตอ้ งการเอาไทยเปน็ ทางผา่ น กลุ่มคนอีกจ�ำ นวน หนึ่งท่เี รียกตวั เองวา่ เสรีไทย ก็เป็นคนกลุ่มหนงึ่ ท่ีทำ�ใหป้ ระเทศไทยไม่ตอ้ งตกเปน็ ประเทศผแู้ พ้สงครามและในการครง้ั นัน้ นักศึกษาของ ช่างกลปทมุ วันกม็ ีสว่ นร่วมในการชว่ ยเหลืออยา่ งมาก ในปีเดยี วกนั นน้ั โรงเรียนชา่ งกลปทุมวนั กย็ งั มิได้ย้ายกลบั มาทำ�การสอนอยทู่ ่ีสถานทเี่ รียน ช่ัวคราวที่บริเวณประตู้น้ำ� จนส้ินสดุ ในปีการศึกษา พ.ศ. 2488 05
วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2589 โรงเรยี นได้กลับมาเปดิ การสอนที่เดมิ คอื บริเวณหนา้ สนามกีฬาแห่งชาตหิ รอื วงั ของสมเด็จกรมพระสวัสวดิวัดนวิศษิ ฏ์โดยในปเี ดยี วกนั นน้ี กั ศึกษาชั้นปีที่ 3 ไดส้ �ำ เรจ็ การศกึ ษาเปน็ ร่นุ แรกหลังสงครามโลก โรงเรียน ช่างกลปทมุ วัน ได้ท�ำ การสอนในปกี ารศึกษา 2490 เม่อื วันท่ี 17 พฤษภาคม การกลบั มาในครัง้ น้ี โรงเรียนช่างกลปทุมวันตอ้ งพบกบั งานหนกั เน่ืองจากตอ้ งบรู ณะซอ่ มแซมในสว่ นทชี่ �ำ รุด และปรับปรงุ สถานทีเ่ คร่ืองมอื เครื่องจกั รท่ชี ำ�รุดเสยี หายเน่ืองจากการยดึ ครอง ของกองทัพทหารญป่ี ุ่น และกองทัพทหารฝ่ายสหประชาชาติเข้ายึดครอง โดยได้รบั เงินชดเชยค่าเสยี หายเปน็ เงนิ รวมทั้งสน้ิ 150,000 บาท เงินจ�ำ นวนนี้ไดจ้ ้างเหมาการทาสีตวั อาคารโรงเรียน โรงงาน และทำ�การซ่อมแซมประตหู นา้ ต่างทีช่ �ำ รดุ เป็นเงนิ 62,300 บาทส่วนท่ี เหลอื อีก 89,900 บาท โรงเรียนไดร้ บั อนุมัติจากกรมอาชีวศึกษาใหท้ �ำ การซอ่ มโรงงานและบริเวณอืน่ ๆ กิจกรรมของโรงเรยี นไดเ้ จรญิ ข้นึ มาตามลำ�ดับในความอำ�นวยการของ นายนาวาตรหี ลวงประพันธ์จักรกจิ ร.น. อาจารย์ใหญ่ โรงเรียน ได้รับงานการคา้ มาให้นกั เรยี น ไดฝ้ กึ หดั และหารายไดม้ าบ�ำ รงุ ศึกษานับแตป่ ี พ.ศ. 2490 เป็นตน้ มา โรงเรยี นไดร้ ับงานการค้าเกย่ี วกบั องคก์ ารรฐั บาล ดงั ต่อไปน้ี 1.ประกอบรถยนตพ์ อร์ตของบริษทั แองโกลไทยมอเตอร์ 450 คัน 2.ซ่อมรถยนต์ของ อ.ส.จ. 130 คัน 3.ซอ่ มเรือของ อ.ส.จ. 4.ซอ่ มการประปากรุงเทพ สร้างสบู น�ำ้ 3 เครื่อง 5.ซอ่ มการไฟฟา้ นครหลวงสามเสน โดยใชแ้ รงงานของนักเรียน 6.ซ่อมและท�ำ ส่วนประกอบสะพานพทุ ธยอดฟา้ 7.ท�ำ ส่วนประกอบรถไฟของโรงงานมักกะสัน 8.ท�ำ ส่วนประกอบรางรถไปกรงุ เทพ พ.ศ. 2497 เยาวชนใหค้ วามสนใจเกีย่ วกบั วชิ าชพี ทางการชา่ งกลเปน็ จำ�นวนมาก จนทำ�ใหจ้ ำ�นวนนักศกึ ษาเพิม่ ขน้ึ มาก ทุก ๆ ปี โรงเรยี นช่างกลปทุมวันจึงต้องขยายโรงเรยี น ได้ทำ�เรอ่ื งไปยงั กระทรวงศึกษาธิการ ขอซือ้ ท่ีดินบริเวณใกลเ้ คียงโดยซื้อในนาม กระทรวงศึกษาธิการอกี ประมาณ 7 ไร่ และสร้างอาคารไม้ 3 ชน้ั 18 ห้อง ซึง่ เป็นห้องเรยี นมาตรฐาน จากน้นั อีก 14 ปตี อ่ มา กระทรวง ศกึ ษาธิการไดเ้ ร่งรดั พัฒนาการศึกษาด้านอาชีวศกึ ษาโดยวางแผน่ พฒั นาเงินก้เู พือ่ ปรบั ปรุงโรงงาน เครือ่ งมือ เคร่ืองจักรและรวมถงึ พฒั นาบคุ ลากรโดยส่ง ครู อาจารย์ ไปศกึ ษาต่อ ณ ต่างประเทศในราวปี พ.ศ. 2511 พ.ศ. 2513 โรงเรยี นช่างกลปทมุ วันมีความพร้อมท่จี ะพฒั นายกระดับการศึกษาให้สงู ขึน้ กระทรวงศึกษาธกิ ารจงึ พจิ ารณา โดยปรบั เปล่ียนหลักสตู รใหเ้ ปดิ สอนในระดบั ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี (ปวช.) และเปิดรบั นกั ศึกษารอบบา่ ยเปน็ คร้งั แรก เปิดหลักสูตร วชิ าช่างยนต์ ชา่ งไฟฟา้ และชา่ งวิทยโุ ทรคมนาคม และต่อมา พ.ศ. 2514 ไดเ้ ปดิ รับนักศกึ ษารอบบ่ายเพมิ่ อีก 2 แผนกวิชา คอื ช่างกล โรงงาน และช่างเชอ่ื มโลหะ 06
วิทยาลยั ช่างกลปทมุ วนั พ.ศ. 2517 กระทรวงศึกษาธกิ ารให้ยกฐานะโรงเรียนช่างกลปทมุ วันเป็น วิทยาลัยชา่ งกลปทุมวนั และเปดิ สอนในระดบั ที่สงู ขน้ึ คอื เปิดสอนในระดับวชิ าชพี ชน้ั สูง (ปวส.) ครง้ั แรก เปดิ สอนระดบั ปวส. 3 แผนก คอื แผนกช่างยนต์ แผนกชา่ งไฟฟา้ และแผนกชา่ งอเิ ล็ค ทรอนกิ ส์ พรอ้ มกันนั้นยงั เปิดสอนในระดับ ปวช. ตามปกติ อีก 3 ปี ตอ่ มา พ.ศ.2519 กท็ ำ�การเปิดสอนในระดับ ปวส. เพิม่ อกี 2 แผนก วชิ า คือ ช่างกลโรงงาน และช่างโลหะแผ่น วทิ ยาลบั ช่างกลปทุมวนั มกี ารพฒั นามาเป็นลำ�ดับ และในปี พ.ศ.2524 กระทรวงศึกษาธิการ เล็งเห็นว่าวิทยาลยั ชา่ งกลปทุมวันเป็นสถานศกึ ษาแหลง่ ความรทู้ างด้านชา่ งชนั้ สงู สมควรพฒั นาระดบั การศึกษาใหส้ งู ขนึ้ เพอ่ื เปน็ แกน น�ำ ของการพัฒนาดา้ นวิชาชีพ จงึ ให้วทิ ยาลัยช่างกลปทุมวนั ทำ�การสอนเฉพาะหลกั สูตรประกาศนยี บัตรวชิ าชีพชัน้ สูงแต่เพียงหลกั สูตร เดยี ว ยุคแห่งโลกาภวิ ฒั น์ ในชว่ งปี พ.ศ. 2530 เป็นตน้ มา กระทรวงศึกษาธิการ กรมอาชวี ศึกษาต้องประสบปญั หาการขาดแคลน คร-ู อาจารย์ผู้ทำ�การสอนเป็นจ�ำ นวนมาก ในสถานศึกษาหลายแหง่ สถานศึกษาท่กี ลา่ วถึงในท่นี ี้คือสถานทเี่ ปดิ สอนหลกั สตู รดา้ น ชา่ งเหมอื นกับวิทยาลัยชา่ งกลปทุมวนั ซงึ่ กระจายอยทู่ ั่วประเทศ โดยมีชื่อน�ำ หน้าว่าวทิ ยาลัยเทคนิคและตามหลงั ดว้ ยชือ่ จังหวัด เช่น วิทยาลัยเทคนิคเพชรบรุ ี เปน็ ต้น จ�ำ เป็นตอ้ งจา้ งครูอาจารย์จ้างสอนเปน็ จ�ำ นวนมากปัญหามาจากขา้ ราชการครูจ�ำ นวนหน่งึ ลาออกไป ทำ�งานในภาคเอกชน กรมอาชวี ศกึ ษาใหว้ ิทยาลยั ช่างกลปทุมวนั เปน็ ผู้แก้ไขปญั หาน้ี โดยวิทยาลยั ช่างกลปทมุ วันผลติ ก�ำ ลงั บคุ ลากรขึ้น มาทดแทนท�ำ การเปดิ สอนหลักสตู รประกาศนยี บตั รเทคนิคครชู ้ันสงู ใชช้ ่อื ย่อวา่ ปทส. (เป็นหลักสตู รทเี่ ทียบเท่าปริญญาตรี) เคยเปดิ สอนมาสมยั หนึ่งก่อนท่จี ะมีหลกั สูตรปริญญาตรีทส่ี ถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกลา้ ธนบุรี ใช้เวลาเรียน 3 ปี เมือ่ จบหลักสตู รจะไดร้ ับอตั รา เงินเดือนสูงกวา่ ปริญญาตรี 1 ข้นั ต่อมาไดห้ นั ไปเปดิ หลักสูตรปริญญาตรีแทน วทิ ยาลัยช่างกลปทมุ วันนำ�หลกั สูตรดงั กลา่ ว มาพัฒนาให้ ตรงตามความต้องการ และเปิดสอนเปน็ ครั้งแรกเมอื่ พ.ศ.2533 ใช้เวลาในการศกึ ษา 2 ปี โดยผู้เรยี นจะต้องมคี วามรู้โดยส�ำ เร็จหลกั สตู ร ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพชน้ั สูง (ปวส.) มาแลว้ หลกั สูตร ปทส. เป็นหลกั สตู รเทยี บเท่าปริญญาตรี ไดร้ ับอนุญาตให้ใช้เปดิ สอนโดยได้การ ยอมรบั จากกระทรวงศึกษาธิการ ทบวงมหาวิทยาลยั และคณะกรรมการขา้ ราชการพลเรอื น หรอื กพ. ไดต้ คี ่าเงนิ เดอื นให้เทียบเทา่ ปรญิ ญาตรี และในปเี ดยี วกันนีย้ งั ไดส้ นองตอบตอ่ ความต้องการของภาคอตุ สาหกรรม และหนว่ ยราชการท่ตี อ้ งการผ้ทู ม่ี ีความรู้ทางด้าน พลังงาน ซง่ึ กำ�ลังเปน็ ปญั หาใหญใ่ นอนาคต และเป็นการขยายการศึกษาอีกดว้ ย เปดิ ทำ�การสอนสาขาวิชาเทคนิคเคมีอุตสาหกรรม รบั นักศกึ ษาทสี่ �ำ เร็จการศกึ ษาระดับมัธยมศึกษาปที ี่ 6 เขา้ ศกึ ษาตอ่ 2 ปี เม่ือส�ำ เรจ็ การศึกษาได้วฒุ ิประกาศนยี บตั รวิชาชพี เทคนิค (ปวท.) เปิดท�ำ การสอนได้ 1 รุน่ ประสบปญั หาขาดเเคลนครผู ู้สอน จงึ แก้ปญั หาโดยรว่ มมอื กับ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ น�ำ นักศกึ ษาทจ่ี บการ ศึกษาที่จบการศกึ ษาดงั กลา่ ว เข้าศกึ ษาต่อในระดบั ปริญญาตรี (เปน็ นกั ศกึ ษาทนุ ) พ.ศ.2535 ไดม้ ีนักศกึ ษาสำ�เรจ็ การศกึ ษาในระดับเทยี บเทา่ ปริญญาตรี หรอื หลกั สูตรประกาศนยี บัตรเทคนิคครูชั้นสูง 70 คน และได้รับการบรรจุเขา้ เป็นข้าราชการครทู ัง้ หมด ซ่ึงสามารถผ่อนเบาปญั หาหาการขาดแคลนครู-อาจารย์ไปไดส้ ่วนหนึ่ง และในปตี ่อๆ มา กม็ นี ักศึกษาส�ำ เรจ็ การศึกษาออกมาทุกๆ ปี ปญั หาการขาดแคลนครจู ึงลดลงตามล�ำ ดับ อีกทั้งยังช่วยให้การขยายการศกึ ษาทาง สายอาชพี ได้เปน็ อย่างมาก โดยที่กรมอาชีวศึกษาได้เปิดสถานศกึ ษาใหมก่ ระจายสูร่ ะดับอำ�เภออกี หลายแหลง่ ใชช้ ือ่ วา่ วิทยาลยั การ อาชพี และวทิ ยาลยั สารพดั ชา่ ง (ตอ่ ท้ายด้วยช่ืออ�ำ เภอ เช่น สารพัดชา่ งพระนคร เป็นต้น) ส่งผลดตี ่อการยกระดบั การศึกษาของไทย ในปี พ.ศ. 2535 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 7 (พ.ศ. 2535-2539) มีวตั ถปุ ระสงคด์ า้ นการพัฒนา เศรษฐกิจและสงั คมขอ้ หนง่ึ ความวา่ “ปรับปรุงและพฒั นาทรพั ยากรมนษุ ย์ และมาตรฐานการคลองชีพใหส้ ูงขึน้ ” กระทรวงศกึ ษาธิการจึง ไดม้ อบนโยบายสนองตอ่ แผนพฒั นาเศรษฐกิจให้วิทยาลัยน�ำ ไปขยายผล ในฐานะทเี่ ปน็ สถานศกึ ษาแนวหน้าวทิ ยาลยั ชา่ งกลปทมุ วันซึ่ง เปน็ สถานศกึ ษาสังกัดกรมอาชีวศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ มีหนา้ ที่ผลิตกำ�ลงั คนเขา้ สตู่ ลาดแรงงานอตุ สาหกรรม ไดร้ ับงบประมาณ จ�ำ กดั ไม่สามารถจะจัดหาเคร่อื งมือ อปุ กรณก์ ารศึกษาทม่ี คี วามก้าวหนา้ ทางเทคโนโลยีใหม่ในระดบั สูง จงึ ได้ด�ำ เนินการจดั ทำ�โครงการ ขอความช่วยเหลอื ดา้ นอปุ กรณ์การศึกษา แบบให้เปล่าจากประเทศญ่ปี นุ่ โดยรัฐบาลญ่ีปุน่ ไดส้ ่งผู้เชี่ยวชาญ มาศกึ ษาสำ�รวจขอ้ มลู 07
ความเปน็ ไปได้ของโครงการ ณ วทิ ยาลยั ช่างกลปทุมวนั เมอื่ เดือนมีนาคม และเดือนกนั ยายน 2534 จากการส�ำ รวจดังกลา่ วรฐั บาล ญี่ปนุ่ ไดอ้ นุมัตใิ ห้ความช่วยเหลือแบบให้เปล่า ด้านเครื่องมือและอปุ กรณก์ ารศกึ ษา ซึ่งมมี ลู คา่ 123.6 ล้านบาท ในปีเดยี วกัน กระทรวง ศกึ ษาธิการได้มอบงบประมาณใหก้ ับวิทยาลยั ช่างกลปทุมวันจ�ำ นวนหน่งึ เพือ่ จดั สรา้ งอาคารปฏิบตั ิการ 6 ชัน้ จำ�นวน 36 หอ้ ง ขนึ้ 1 หลัง เพอ่ื รองรับเครือ่ งมือและอุปกรณ์ที่ได้รบั ความช่วยเหลือจากรฐั บาลญป่ี ุ่น นอกจากนนั้ รฐั บาลญีป่ ุน่ ยงั ใหก้ ารสนบั สนุนทางด้านวิชาการของ วิทยาลัยชา่ งกลปทมุ วัน (Technical Cooperation) สนับสนุนให้ เปิด สาขาวิชาวศิ วกรรมเมคคาทรอนกิ ส์ เปน็ หลงั สูตรปรญิ ญาตรี ซ่ึงเปิดเป็นแห่งแรกของประเทศไทย ได้มกี ารลงนามสัญญาใหค้ วาม ชว่ ยเหลือดงั กลา่ วเม่อื วันท่ี 9 มีนาคม 2536 โดยเลง็ เห็นวา่ สาขาวิชาดงั กลา่ วเปน็ วิทยาการสมยั ใหม่ กำ�ลงั เปน็ ท่ตี ้องการของตลาด แรงงาน ศึกษาทางด้านวศิ วกรรมท่มี กี ารผสมผสานความรทู้ างดา้ นวศิ วกรรมเครอื่ งกล วิศวกรรมไฟฟา้ และอเิ ลค็ ทรอนิกส์ เขา้ ไว้ดว้ ย กนั (Mechanics + Electronics = Mechatronics) และเป็นการนำ�เอาวิทยาศาสตรท์ างดา้ นคอมพิวเตอรเ์ ขา้ มาควบคุมการทำ�งานของ ระบบ หรอื ทเ่ี รียกกนั วา่ “ระบบโรงงานอตั โนมตั ิ” (Factory Automation System) หมายถึง โรงงานทีม่ ีความเปน็ อัตโนมตั ิอยา่ งสมบูรณ์ แบบ ในดา้ นการท�ำ งานระหวา่ งคนกับเครื่องจกั รเป็นไปอย่างมปี ระสิทธภิ าพมากทีส่ ุด รับนักศึกษาครั้งแรกเมื่อปีการศึกษา 2537 และ สำ�เรจ็ การศกึ ษาเปน็ รุน่ แรกในปีการศึกษา 2540 08
เสน้ ทางสู่ สถาบันเทคโนโลยีปทมุ วัน ในปี พ.ศ.2540 วิทยาลยั ช่างกลปทุมวันได้ดำ�เนินการขอพระราชทานชื่อ วิทยาลัยช่างกลปทุมวนั ใหม่ เพอื่ ให้เปน็ สถาบนั ทเี่ ปิดสอนในระดับปรญิ ญาตรี โดยมรี ูปแบบการด�ำ เนนิ งานเป็นอสิ ระขึน้ ตรงตอ่ กรมอาชีวศึกษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั ภูมพิ ล อดลุ ยเดช ในรชั กาลปจั จบุ ันทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานชื่อวิทยาลัยช่างกลปทุมวัน เป็นสถาบันเทคโนโลยีปทมุ วัน ในปี พ.ศ.2541 กระทรวงศึกษาธิการได้เสนอรา่ งพระราชบัญญัติการจัดการศกึ ษาระดับปริญญาตรี ในสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เพ่ือยก ฐานะข้นึ เปน็ ระดบั อดุ มศกึ ษา เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรี และมีการพฒั นาตามลำ�ดับกล่าวไว้วา่ สถาบันเทคโนโลยีปทมุ วันเปน็ สถาน ศกึ ษาแห่งแรกท่สี อนงานชา่ งอุตสาหกรรมมปี ระสบการณก์ ารจดั การเรยี นการสอนพร้อมที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยสี ปู่ ระชาชน ด้วยเคร่อื ง มือทที่ นั สมยั ตามโครงการ ความรว่ มมือระหวา่ งประเทศประกอบดว้ ย เยอรมัน ญป่ี ุน่ ฯลฯ สถาบันเทคโนโลยปี ทุมวันพรอ้ มจะพัฒนาวิชา ช่างทกุ แขนง ให้ก้าวหน้าย่ิงขึ้นอย่างสมศักดศ์ิ รี พระราชบญั ญตั ิการจัดการศึกษาระดับปรญิ ญาตรีไดผ้ ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และ ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา เมอ่ื วนั ท่ี 2 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2541 แบ่งการรบั นักศกึ ษาออกเปน็ 2 ระดบั คือประกาศนียบัตรวชิ าชีพ (ปวช.) หรอื มัธยมศกึ ษาตอนปลาย (ม.6) เข้าศกึ ษาตอ่ ในระดับปรญิ ญาตรีตอ่ เนอื่ งแผนการเรียน 3 ปี โดยเปดิ สอน 2 คณะคอื คณะ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี และคณะวิศวกรรมศาสตร์ ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2547 สถาบันเทคโนโลยปี ทุมวัน ไดย้ า้ ยมาสงั กัดสำ�นกั งานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศกึ ษาธิการ และในวันที่ 21 ธนั วาคม พ.ศ. 2547 ได้มพี ระราชบัญญตั สิ ถาบนั เทคโนโลยปี ทุมวนั พ.ศ. 2547 สงั กัดคณะกรรมการ การอดุ มศึกษา กระทรวงศกึ ษาธิการ มผี ลใหส้ ถาบันเทคโนโลยปี ทุมวันมฐี านะเป็นนิตบิ ุคคล 09
ที่ รล. 00๒/๑๒๖๔๔ ส�ำ นักราชเลขาธิการ พระบรมมหาราชวงั กทม. ๑o๒๒o ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๔o เรอื่ ง ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานช่ือวิทยาลัยช่างกลปทุมวัน วา่ “ปทุมวัน” เรยี น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธกิ าร อา้ งถงึ หนงั ส อื ศธ o๙๑๑/๖๖๘๔ ลงวันท่ี ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๔o ตามท่ีท่านได้มีหนงั สอื ขอใหน้ �ำ ความกราบบังคมทลู พระกรณุ า ขอช่ือวทิ ยาลัยชา่ งกลประทุมวันใหม่ เพอ่ื จักได้ ดำ�เนินการตราพระราชบญั ญัติจัดตงั่ สถาบนั เปดิ สอนในระดับปรญิ ญาตรี โดยมรี ปู แบบการด�ำ เนินงานเป็นอิสระ ขึ้นตรง ต่อกรมอาชวี ศกึ ษา เพือ่ เฉลมิ พระเกยี รติเนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัตคิ รบ ๕0 ปี ชง่ึ คณะรฐั มนตรีไดป้ ระชุมปรึกษา ลงมติเหน็ ชอบด้วย ความแจง้ อยแู่ ล้วนัน้ ได้น�ำ ความกราบบงั คมทลู พระกรณุ าทราบฝ่าละอองธลุ ีพระบาทแล้ว ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานช่ือ วา่ “ปทมุ วนั ” (หมอ่ มหลวงพรี พงศ์ เกษมศรี) ราชเลขาธิการ กองการในพระองค์ โทร. ๒๒๕-๓๔๕๗-๖๒ ต่อ ๒๓๑o โทรสาร ๒๒๔-๓๒๔๙
โครงการร่วมมอื ไทย-ญป่ี ่นุ วิทยาลยั ช่างกลปทุมวัน ในปี พศ.2530 เทคโนโลยีใหมๆ่ ได้หลัง่ ไหล เข้าสูป่ ระเทศไทย วทิ ยาลัยช่างกลปทมุ วนั ได้พยายาม ท่ี จะก้าวใหท้ นั เทคโนโลยดี ังกล่าว แตข่ าดอุปกรณเ์ ครื่อง มือและขาดบุคลากรที่รอบรู้ในเรื่องเทคโนโลยีระดับสูง ประกอบกับงบประมาณจำ�กัดวิทยาลัยช่างกลปทุมวันได้ ดำ�เนินการจัดทำ�โครงการขอความช่วยเหลือด้านอุปกรณ์ การศกึ ษาแบบให้เปล่าจากประเทศญป่ี นุ่ โดยน�ำ เสนอ ผ่านกอง กรม และกระทรวงตามลับดบั โครงการดงั กล่าว ได้รบั การพิจารณาผา่ นกระทรวงศึกษาธิการ สง่ ไปยังกรม วเิ ทศสหการ และการเสนอรัฐบาลญ่ปี นุ่ รฐั บาลญ่ีปุน่ ได้สง่ คณะผ้เู ชี่ยวชาญมาศกึ ษาส�ำ รวจข้อมลู ความเปน็ ไปได้ของโครงการวทิ ยาลัยชา่ งกลปทมุ วนั เม่อื เดือนมีนาคม 2534 และในเดือนกนั ยายน 2534 รฐั บาลญีป่ นุ่ ได้สง่ ทมี งานชดุ ท่ี 2 มาส�ำ รวจเสนอรายงานขน้ั ตอนสุดทา้ ย ในวันพฤหสั บดีที่ 26 ธนั วาคม เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชมุ กรมวิเทศสหการส�ำ นกั นายกรัฐมนตรี ไดม้ ี การลงนามในหนังสือแลกเปล่ยี นระหว่าง นายวนั ชยั ศริ ิรัตน์ อธบิ ดกี รมวิเทศสหการ กับนายฮิซาฮิโกะ โอคาซากิ เอกอัครราชทูตญป่ี นุ่ ประจำ�ประเทศไทย ภายใต้โครงการความชว่ ยเหลือแบบให้เปล่าจากรฐั บาลญ่ปี ุน่ แก่กรมอาชีวศกึ ษา ตามโครงการ คดิ เปน็ มูลคา่ 123.6 ล้านบาท โดยวทิ ยาลัยชา่ งกลปทมุ วนั ได้รับเครอ่ื งมือและอปุ กรณท์ ที่ ันสมยั ทางด้าน 1.Mechatronics 2.Industrial Electronics 3.Instrumentations and Process Control 4.Video Program Production and Display 5.Language Learning System เพ่ือพัฒนาการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานรวมทั้งจัดตั้งให้วิทยาลัย ชา่ งกลปทุมวนั เปน็ ศนู ย์กลางฝึกอบรม ทางการศึกษา 11
สาขาวชิ าวศิ วกรรมเมคคาทรอนกิ ส์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยปี ทุมวัน “Mechatronics” มาจากการผสมค�ำ จาก“Mechanics”และ “Electronics” โดยวศิ วกรรมจากบรษิ ัท Yakawa Electric ในประเทศญ่ปี นุ่ ซ่ึงเปน็ การพฒั นา โดยการนำ�เทคโนโลยีในสาขา วศิ วกรรมเคร่ืองกล วศิ วกรรมอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอรช์ ว่ ยใน การออกแบบ (CAD/CAM/CAE) คอมพิวเตอร์โปรแกรมมิง่ และ ระบบควบคุม ผสมผสานเข้าไวก้ นั อยา่ งลงตัว เพ่ือนำ�ผลการผสม ผสานดังกล่าวไปพัฒนาในงานระบบอุตสาหกรรมอย่างสมบูรณ์ วศิ วกรรมเมคคาทรอนกิ ส์ สถาบนั เทคโนโลยปี ทมุ วนั โดยโครงการ ความรว่ มมือของรฐั บาล ไทย-ญ่ปี ุ่น (JICA) ซึ่งสถาบันเทคโนโลยี ปทุมวนั ได้จดั การศึกษาในมีเป้าหมายในการผลิตบคุ ลากรทีเ่ ป็น วิศวกรปฏิบัติ (Practical Engineer) ซงึ่ การเรียนการสอนจะ มงุ่ เน้นการศึกษาท้ังภาคทฤษฎี และภาคปฏิบตั ิ ซงึ่ ทางสถาบัน เทคโนโลยีปทุมวันได้จัดการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรี สาขาวชิ าวิศวกรรมเมคคาทรอนกิ ส์ เป็นแหง่ แรกของประเทศไทย ประวัตคิ วามเปน็ มาโดยสังเขป พ.ศ.2536 รัฐบาลญ่ีปุน่ โดย Japan international Cooperation Agency (JIJA) ไดล้ งนามขอ้ ตกลง (MOU) ใหค้ วามชว่ ยเหลอื ทาง ด้านวชิ าการตามโครงการ “The Development of Mechatronics Engineering Course at Bachelor Degree in Pathumwan Tech- nical College” ในการเปดิ สอนสาขาวชิ าวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ ระดับปรญิ ญาตรี ณ วทิ ยาลยั ชา่ งกลปทุมวัน สงั กดั กรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันท่ี 9 มีนาคม 2536 ซ่งึ ภาควชิ าวศิ วกรรมเมคคาทรอนิกส์ คณะวิศวกรรม จึงไดจ้ ัดตัง้ ขึน้ ในขณะนั้น พ.ศ.2537 ภาควิชาวิศวกรรมศาสตร์เมคคาทรอนิกส์ได้เปิดสอนหลักสูตรปรญิ ญาตรี 4 ปีหลกั สตู รประกาศนียบัตร วศิ วกรรม- ศาสตร์ สาขาวิศวกรรมเมคคาทรอนกิ ส์ (ปวศ.เมคคาทรอนกิ ส)์ พ.ศ.2541 ภาควิชาวศิ วกรรมเมคคาทรอนิกส์ไดเ้ ปดิ สอนหลักสูตรปรญิ ญาตรี 4 ปสี าขาวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ภายใตพ้ ระราช บญั ญัตกิ ารจดั การศกึ ษาในระดบั ปริญญาตรีในสถาบนั เทคโนโลยีปทุมวนั พ.ศ. 2541 พ.ศ.2545 เปิดสอนหลักสตู รปรญิ ญาตรี 4 ปี สาขาวิชาวศิ วกรรมเมคคาทรอนกิ ส์ ณ ศูนย์การเรยี นวิทยาลัยเทคนิคชลบรุ ี วทิ ยาลัย เทคนคิ พระนครศรอี ยธุ ยา และวทิ ยาลยั เทคนคิ นครราชสีมา พ.ศ.2546 สถาบนั เทคโนโลยีปทุมวนั ได้โอนยา้ ยมาสังกัดส�ำ นักงานคณะกรรมการการอุดมศกึ ษา และได้เปิดสอนหลักสตู ร วศิ วกรรมศาสตร์บัณฑิตสาขาวศิ วกรรมเมคาทรอนกิ ส์ในระบบเทียบยกเวน้ รายวิชา (ตอ่ เนือ่ ง 3 ปี รบั ปวส.) และในปีเดียวกันนี้ได้ ปรบั ปรงุ หลักสตู รวิศวกรรมศาสตร์บัณฑติ สาขาวชิ าวศิ วกรรมเมคคาทรอนิกส์ (หลกั สตู รปรับปรงุ พ.ศ. 2546) พ.ศ.2548 สาขาวชิ าวศิ วกรรมเมคคาทรอนิกส์ ไดเ้ ปดิ สอนโครงการพเิ ศษ ( เรียนเสารอ์ าทิตย์ ) ซง่ึ เป็นโครงการท่รี ับผ้สู ำ�เรจ็ การศึกษาหลกั สูตรประกาศนยี บัตรวิศวกรรมศาสตร์ ปวศ. หลักสูตรประกาศนียบตั รชัน้ สงู (ปวส) สาขาช่างอตุ สาหกรรมเพอื่ ปรับวฒุ ใิ ห้ ไดต้ ามหลกั สตู รวศิ วกรรมศาสตร์บณั ฑิตสาขาวิชา วศิ วกรรมเมคคาทรอนกิ ส์ พ.ศ.2551 สาขาวิชาวศิ วกรรมเมคคาทรอนิกส์ได้ท�ำ การปรับปรงุ หลกั สตู รวศิ วกรรมศาสตรบ์ ัณฑิต พ.ศ. 2551 พ.ศ.2555 สาขาวิชาวศิ วกรรมเมคคาทรอนกิ ส์ได้ปรบั ปรุงหลกั สูตรเพ่อื รับรองเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (AEC) เปน็ หลกั สตู ร วิศวกรรมศาสตร์บณั ฑิตสาขาวิชาวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ พ. ศ. 2555 12
โครงการรว่ มมอื ทางวิชาการระหว่าง สถาบนั เทคโนโลยีปทุมวนั และ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยนี างาโอกะ ยอ้ นกลับไปเม่ือวนั ท่ี 26 ธนั วาคม พศ. 2534 ไดม้ ีการลงนามสัญญาความรว่ มมอื ในการพฒั นาสาขา ท่ีขาดแคลนและตอ้ งการเทคโนโลยชี นั้ สงู สมทบเงินช่วยเหลือรฐั บาลญีป่ นุ่ ( Japan International Cooperation Agency :JICA) ระหว่างรัฐบาลไทย โดยนายวนั ชัย ศริ ิรัตน์ อธิบดีกรมเทศสหการ และรัฐบาลญีป่ ุ่น โดย Mr. Hisahiko Okasagi เอกอคั รราชทตู ญี่ปุ่น ประจ�ำ ประเทศไทย ซ่ึงเปน็ โครงการชว่ ยเหลือแบบให้เปล่า เพอ่ื จดั ช้อื วสั ดุครุภัณฑก์ ารศกึ ษาในการพฒั นาการเรียนการสอนสาขา วชิ าวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ อเิ ล็กทรอนกิ สอ์ ตุ สาหกรรมวัดคุม และเครือ่ งมือวัด การผลติ โปรแกรมวดี ีโอ และการพฒั นาระบบการ เรียนการสอนภาษาต่างประเทศ เพ่ือใหส้ อดคลอ้ งกับความต้องการของตลาดแรงงาน และเพื่อเปน็ ศูนย์ฝึกอบรมเทคโนโลยีระดบั สูง ส�ำ หรับภาคอุตสาหกรรมและครูผ้สู อนช่างอตุ สาหกรรม รวมมลู คา่ ทง่ั ส้นิ 123.6 ล้านบาท ดำ�เนินการโครงการประสบความสำ�เรจ็ บรรลตุ ามวัตถปุ ระสงค์ เป็นทน่ี า่ พอใจท่ังสองฝา่ ย จึงเปน็ ผลทำ�ให้สถาบนั เทคโนโลยปี ทุมวนั ได้รบั ความชว่ ยเหลอื ด้านวิชาการในการ ดำ�เนนิ โครงการปดิ การเรียนการสอนสาขาวศิ วกรรมเมคคาทรอนกิ ส์ ระดับปรญิ ญาตรี โดยมีวัตถุประสงค์ ทจี่ ะผลิตวศิ วกรปฏิบตั ทิ ่มี ี ความรู้ความสามารถป้อนตลาดแรงงานภาคอุตสาหกรรมที่ใชเ้ ทคโนโลยรี ะดับสูง และเพอื่ ใช้วัสดุครุภัณฑ์การศกึ ษาในโครงการให้เกิด ประโยชน์สงู สุด โดยได้เรม่ิ โครงการตง่ั แต่วันที่ 1 เมษายน 2536 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2541 รวมระยะเวลา 5 ปี ได้งบประมาณสนับสนนุ จากรัฐบาลญ่ปี ุ่น จำ�นาน 60 ลา้ นบาท และรัฐบาลไทยจ�ำ นวน 55 ลา้ นบาท ซึ่งสถาบนั ได้สง่ อาจารย์ผู้สอนในแตล่ ะสาขาวชิ าเขา้ รับการ ฝึกอบรมระยะสน้ั ด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวขอ้ ง ณ ประเทศญ่ปี นุ่ จำ�นวน 15 คน และไดศ้ ึกษาต่อในระดับปรญิ ญาเอกจำ�นวน 1 คน พรอ้ ม กันน้ีไดร้ ับสนับสนนุ คณะผู้เชยี วชาญระยะสัน้ 24 คน และระยะยาวจ�ำ นวน 11 คน ภายใต้การนำ�ของหวั หนา้ คณะที่ปรกึ ษา Prof.lno- suke Mori ( 2536-2539) และ Prof.Dr.Shoichi Okamoto (2539-2541) ผู้เช่ียว ชาญแต่ละทา่ นเป็นผทู้ ม่ี ีความรคู้ วามสามารถ เชยี ว ชาญเฉพาะในแตล่ ะสาขา จงึ นบั เปน็ โอกาสทีด่ ีย่งิ ส�ำ หรับคณะอาจารย์และนักศกึ ษาของสถาบนั ท่ีไดร้ ับการถ่ายทอดไม่เพยี งแตท่ ักษะ วิทยาการทก่ี ้าวหน้าทันสมยั เท่านน้ั ยังมกี ารแลกเปลย่ี นทศั นคตคิ วามคดิ เหน็ ตา่ งๆ ทงั้ ทางดา้ นภาษา และวฒั นธรรมท่ังสองฝา่ ย พร้อม ทง่ั รบั เป็นอาจารยท์ ปี่ รึกษาให้กับคณาจารยท์ ี่ก�ำ ลังศึกษาต่อในปรญิ ญาโทอกี ด้วย จงึ ทำ�ใหเ้ กดิ ความสมั พนั ธอ์ ันดกี ระชับแนน่ แฟ้นมาก ขน้ึ จากปณธิ านของสถาบันฯ ท่จี ะมุ่งมนั่ พฒั นาอยา่ งดีตอ่ เนื่อง จงึ ได้มกี ารขยายโครงการต่อไปอีก 2 ปจี นถึงปี พศ. 2543 สถาบนั ฯ ได้รับความร่วมมือความช่วยเหลอื ทางดา้ นวิชาการเปน็ อย่างดียิ่งจากคณะผ้เู ชี่ยวชาญญป่ี ่นุ ภายใตก้ ารน�ำ ของ Prof.Dr. Tsutomu Wada ได้ทุ่มเทก�ำ ลังกาย กำ�ลงั ใจ และสติปญั ญา ถ่ายทอดความรู้อย่างเตม็ ที่ ท�ำ ให้โครงการดังกล่าวประสบผลสำ�เร็จอยา่ งงดงาม และ นักศึกษาที่ส�ำ เร็จการศกึ ษาในสาขาเมคคาทรอนิกส์มงี านท�ำ จึงขอขอบพระคุณคณะผูเ้ ชยี่ วชาญ และรัฐบาลญีป่ ุ่นมา ณ ที่นด้ี ว้ ย ตอ่ มาวันที่ 6 มถิ นุ ายน 2543 สถาบันเทคโนโลยปี ทมุ วัน ได้ลงนามในบันทึกขอ้ ตกลงความรว่ มมอื ทางวชิ าการกับมหาวทิ ยาลัย เทคโนโลยนี างาโอกะ โดยมีวัตถุประสงคเ์ พื่อพัฒนาด้านวิชาการใหม้ คี ณุ ภาพสู่มาตรฐานสากลซ่ึงประกอบด้วยกิจกรรมหลัก คอื 1.การจดั ประชมุ สมั มนาทางวิชาการระหว่างผ้บู ริหารและคณาจารย์ ซึง่ จดั ขนึ้ เปน็ ประจำ�ทกุ ปีโดยสลับกันเปน็ เจ้าภาพ 2.การแลกเปลี่ยนนกั ศกึ ษา โดยมกี ารลงนามในบันทกึ ขอ้ ตกลงความร่วมมือแลกเปล่ียนนักศึกษา เมื่อ วันท่ี 26 มนี าคม 2544 เพ่ือให้นกั ศกึ ษาทางสถาบันส่งนกั ศึกษาแลกเปลย่ี นไปอบรมตามเงือ่ นไข 1 ปี 3.การแลกเปลี่ยนข้อมลู ขา่ วสาร และการร่วมกันพฒั นางานวจิ ยั 13
นายโกศล เสาน้อย (เอก) เมคคาทรอนกิ ส์ ปทมุ วัน ร่นุ 08 นกั ศกึ ษาแลกเปลยี่ นท่ี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยนี างาโอกะ (Nagaoka University of Technology, Japan) กอ่ นอ่นื ผมตอ้ งขอกราบสวัสดอี าจารย์ ทกุ ทา่ น สวสั ดพี ่ๆี เพื่อนๆ และน้องๆ เมคคา ทรอนกิ สท์ ุกคน ผมรสู้ ึกยินดเี ปน็ อยา่ งมาก ที่ ได้มีโอกาสมาแลกเปลย่ี น ประสบการณ์ทเ่ี คยไปเป็นนกั ศกึ ษาแลก เปลยี่ น ท่ีญป่ี นุ่ มาครบั ถ้านับเวลาจากวนั นัน้ จนถึงวนั น้กี เ็ ป็นเวลาเกือบ 10 ปีได้แลว้ ย้อน เวลาไปเมอ่ื 10 ปกี อ่ น การไปครงั้ น้ันของผม ถอื วา่ เปน็ ปีที่ได้รับประสบการณส์ งู มาก มีทง้ั เรอื่ งดีในสภาวะปกติ และเร่ืองดีในภาวะไมป่ กติ ด้วย เน่ืองจากชว่ งที่ผมไปนนั้ เพงิ่ เกดิ แผ่นดนิ ไหวคร้งั ใหญ่ทางตอนกลางของญี่ปุน่ “chuetsu earthquake 2004” ไดเ้ พียงไม่ก่ีวนั ซ่งึ มผี ลก ระทบโดยตรงกบั มหาวทิ ยาลัยท่ผี มไป ด้งั น้ัน ช่วงเวลา 5 เดอื นแรก จึงเป็นชว่ งท่ีต้องปรับตวั ให้เขา้ กับสภาวะไม่ปกตนิ ้นั แต่ถ้ามองในแงด่ ี กถ็ อื ว่าเปน็ การเรยี นรปู้ ระสบการณท์ ย่ี าก จะหาได้จากที่ไหน (แมจ้ ะไมม่ ีใครอยากใหเ้ กิด ขน้ึ ก็ตาม) การไปอยูต่ ่างแดนครั้งแรกของผมใน ชีวิตครั้งนั้น ได้ใหป้ ระสบการณต์ ่างๆ ที่หลาก หลายมาก ไม่วา่ จะเป็นด้านการเรียน สังคม หรือ การใช้ชวี ติ ทว่ั ไป ในครั้งนั้นผมมีโอกาสได้ไปอยู่ หอ้ งวิจยั ท่ีท�ำ งานวจิ ัยเกยี่ วกบั หนุ่ ยนต์กภู้ ัย ซ่ึง ยอมรบั เลยว่าสำ�หรบั ชว่ งเวลานั้นแลว้ ความรู้ ในเรอื่ งนนี้ ้อยมาก เพราะประเทศไทยเองกย็ ัง ไม่มีเหตุการณ์ที่มีแรงจูงใจให้ ใช้งานหุ่นยน ต์ กูภ้ ัยเหมือนกับในปจั จุบนั ซึ่งจะเห็นไดจ้ ากเหตุการณ์ความไมส่ งบใน 3 จงั หวัดชายแดนภาคใต้ มีการใช้หุน่ ยนต์เขา้ ไปช่วยในการเก็บกู้ วัตถรุ ะเบิด นอกจากการท�ำ วจิ ัยแล้วกย็ ังมีการเรียนภาษาญป่ี ุน่ ควบคู่กนั ไปดว้ ย ซ่งึ เราก็จะไดป้ ฏบิ ัตใิ ชจ้ ริงกบั เพ่ือนๆ ญ่ปี ุ่นในห้องวจิ ัย เดียวกัน และมากไปกว่าน้ันทางมหาวทิ ยาลยั ยังไดม้ ีกจิ กรรมตา่ งๆ มากมายให้เข้าร่วม เพือ่ เปิดประสบการณ์ให้กบั นกั ศึกษาตา่ งชาติ เชน่ การพาไปทรรศนะศกึ ษา ณ สถานทส่ี �ำ คญั ตา่ งๆ 17
ดงั นน้ั ส�ำ หรับผมแล้ว การได้ไปญี่ป่นุ ในคร้ังนัน้ ถอื ว่าเปน็ “อกี กา้ วหน่งึ ทม่ี ากด้วยประสบการณ์ : One Step More Experience” เลยทีเดียว แต่เหนอื สิ่งอ่นื ใดแลว้ น้ัน ผู้ที่เป็นนกั ศึกษาแลกเปลย่ี นควรพงึ ระลกึ ไว้มกี ารใชห้ ุ่นยนตเ์ ขา้ ไปชว่ ยในการเกบ็ กูว้ ัตถุระเบดิ นอกจากการทำ�วจิ ยั แล้วก็ยังมีการเรียนภาษาญี่ปุ่นควบคูก่ นั ไปด้วย ซ่ึงเรากจ็ ะไดป้ ฏบิ ตั ใิ ช้จริงกับเพอ่ื นๆ ญ่ปี นุ่ ในห้องวิจัยเดยี วกนั และ มากไปกวา่ น้นั ทางมหาวทิ ยาลยั ยงั ไดม้ ีกิจกรรมต่างๆ มากมายใหเ้ ขา้ รว่ ม เพ่อื เปิดประสบการณ์ใหก้ บั นักศึกษาต่างชาติ เชน่ การพาไป ทรรศนะศกึ ษา ณ สถานทส่ี �ำ คญั ต่างๆ ดงั น้ันส�ำ หรบั ผมแล้ว การได้ไปญี่ปุน่ ในครง้ั นั้น ถอื ว่าเปน็ “อีกกา้ วหน่งึ ทม่ี ากด้วยประสบการณ์ : One Step More Experience” เลยทีเดยี ว แต่เหนือสิง่ อืน่ ใดแลว้ นน้ั ผูท้ เี่ ป็นนักศกึ ษาแลกเปลี่ยนควรพึงระลึกไว้ “สดุ ทา้ ยน้ี ผมรู้สึกดีใจเปน็ ท่ีสดุ ที่ได้เห็นเมคคาทรอนกิ สข์ องเรา สืบทอดกันมาเป็นปที ่ี 20 แล้ว และขอใหพ้ วกเราจงรกั ษาอุดมการณ์ ความเป็นเมคคาทรอนิกสป์ ทุมวัน ของเรา สบื ไปอีกนานเทา่ นาน” 18
นายวุฒิชัย ศรีแสง (ตาวนั ) เมคคาทรอนกิ ส์ ปทมุ วัน รุน่ 16 นกั ศึกษาแลกเปล่ียนท่ี มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีนางาโอกะ (Nagaoka University of Technology, Japan) กระผม นายวฒุ ิชยั ศรีแสง นกั ศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเมคคาทรอนกิ ส์ สถาบนั เทคโนโลยีปทมุ วนั รหัสนกั ศึกษา 5301024209 ผมได้รบั โอกาสไปเป็นนักศึกษาแลกเปล่ยี น ระหว่างสถาบนั เทคโนโลยปี ทุมวนั และ Nagaoka University of Technology เม่ือปี 2556 ระหวา่ งวนั ท่ี 8 เมษายน – 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 การได้เปน็ นกั ศึกษาแลกเปลยี่ นท่ี Nagaoka University of Technology ประเทศญีป่ นุ่ ทำ�ใหผ้ มไดพ้ บเจอแตส่ ง่ิ ดๆี มากมายทีเ่ ขา้ มาในชีวติ ของผมตลอดระยะเวลา3 เดอื นเตม็ ที่ไดอ้ ยทู่ ่ปี ระเทศญ่ีปนุ่ ผมได้ไดร้ บั ความรู้ใหม่ๆ ที่ไมเ่ คยรมู้ าก่อน ทักษะด้านภาษาญ่ีปนุ่ มิตรภาพทดี่ ีจากเพือ่ นๆ และประสบการณ์ตา่ งในการใช้ชวี ติ ท่หี าที่ไหนไม่ไดอ้ กี แล้วถึงจะเปน็ ระยะเวลาท่ีสนั้ ๆ แต่จะเปน็ ช่วงเวลาท่ีผมจะ จดจำ�ไม่มีวนั ลืม ขณะทผี่ มเป็นนักศกึ ษาแลกแลกเปล่ยี นทน่ี ้ัน ผมได้รับมอบหมายงานจากอาจารย์ทปี่ รึกษาทแี่ ละตวิ เตอร์ผ้ดู แู ลผม คือเรยี นภาษา ญีป่ ่นุ และท�ำ งานวิจัยท่ีได้รับมอบหมาย ซ่งึ ติวเตอร์ได้จัดตารางเรียนให้ผม คือเรยี นภาษาญีป่ ุ่น 10.00 – 12.00 น และ เวลา 13.00 -18.00 น เข้าปฏิบตั งิ านทีห่ อ้ งแลป ในการไปแลกเปล่ียนครัง้ น้ัน ผมไมเ่ คยเรียนภาษาญป่ี ุ่นมากอ่ น เม่อื ผมไปเข้าเรียนภาษาญป่ี ่นุ วัน แรกผมรู้สกึ ตื่นเต้นมาก ในหอ้ งเรยี นนนั้ มเี พอ่ื นๆ ชาวตา่ งชาตมิ ากมายมาจากหลายประเทศ เชน่ จีน เวียดนาม ลาว ศรลี งั กา และมาเล เชีย ในการเรยี นภาษาญ่ปี ุน่ ในหอ้ งน้นั ท�ำ ใหผ้ มไดม้ ีทักษะการ ฟัง พดู อ่าน และเขยี นภาษาญป่ี ่นุ ของผมดขี ้ึน และผมยงั ไดร้ ับมอบหมาย งานจากอาจารย์ท่ีปรกึ ษาชาวญปี่ ุ่นอีกหนึ่งงาน คือให้ท�ำ งานวจิ ยั เร่อื ง Effect of Extrusion Temperature on Microstructure and Mechanical Properties of Mg – RE – Zn – Ca – Zr Alloys จากการท�ำ งานวจิ ยั ในเร่ืองนี้ ผมไดร้ บั การชว่ ยเหลือจากเพ่ือนๆ ในแลปเปน็ อยา่ งดี ตัง้ แต่วนั แรกที่ไดเ้ ร่ิมลงมือทำ�จนถึงวนั ท่ที �ำ งานวิจยั นี้ส�ำ เร็จ การไปแลกเปล่ยี นในครงั้ นั้นท�ำ ให้ผมไดเ้ รียนรู้วัฒนธรรมชาวญปี่ ่นุ เชน่ ความเป็นระเบยี บเรียบรอ้ ยของสังคมชาวญี่ปุ่น และ วัฒนธรรมการใช้ชีวิตการกินอยู่ของชาวญ่ีปุน่ ซ่งึ แรกๆ ผมกร็ ้สู กึ ไม่ชนิ กบั วัฒนธรรมการกินของชาวญ่ีปนุ่ ท่นี ยิ มกินปลาดิบ และอาหาร ทมี่ ีรสชาตจิ ืด แตผ่ มกส็ ามารถปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมเหลา่ นน้ั ได้ ในการไปแลกเปลี่ยนครง้ั นัน้ มหี ลายอยา่ งทีท่ ำ�ให้ผมประทับใจมาก เก่ยี วกบั ประเทศญปี่ นุ่ เชน่ การเรียนการสอน อาหาร และสงิ่ ทีผ่ มชอบมากท่สี ดุ คือเมอื งทผี่ มอยนู่ ัน้ เป็นเมืองที่สงบมาก ตดิ กบั ธรรมชาติ 19
มีภเู ขา แม่นำ�้ ล�ำ ธาร อากาศบรสิ ทุ ธิ์ และมีจุดชมวิวธรรมชาติที่สวยงามมาก จนทำ�ใหผ้ มไม่อยากกลับเมืองไทยเลย และผมคิดเสมอว่า สักวนั หนึ่งผมจะตอ้ งกลบั ไปประเทศญี่ปนุ่ อีกคร้งั ให้ได้ “สดุ ท้ายน้ีผมขอขอบพระคุณ อาจารย์คณะวศิ วกรรมศาสตร์ สาขาวิชาเมคคาทรอนิกส์และอาจารย์ในสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ทุกท่าน และพ่ีๆ นักศึกษาไทยท่อี ยู่ Nagaoka University of Technology ท่ีค่อยดูแลผมเป็นอย่างดีตลอดระยะเวลาท่ีอยู่ท่ี ประเทศญป่ี ุ่น” 20
นายวัชรพงษ์ วงศป์ ัสสะ (ตยุ้ ) เมคคาทรอนกิ ส์ ปทมุ วัน รุ่น 16 นักศกึ ษาแลกเปลยี่ นที่ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยนี างาโอกะ (Nagaoka University of Technology, Japan) สวสั ดีครบั พี่น้องชาวเมคคาทรอนกิ สป์ ทมุ วัน ผมนายวัชรพงษ์ วงศ์ปัสสะ ชื่อเล่น ตุ้ย รหสั 530-102-4208 เมคคาคาทรอกนิกส์ รุ่น16 ก่อนอ่นื เลยก็ตอ้ งขอแสดงความ ยนิ ดีกับภาควิชาเมคคาทรอกนกิ สท์ เ่ี ข้าสปู้ ที ี่ 20 แล้ว ซง่ึ กต็ อ้ งบอกไดเ้ ลยวา่ ครอบครวั ของเราชาวเมคคาทรอนิกส์ปทุมวนั เติบโตขึ้นไปอกี ปี สำ�หรับตัวผมกม็ ีความยินดีที่ ได้รับโอกาสมาบอกเล่าเรื่องราวและประสบการณ์ของการเป็นนักเรียนแลกเปล่ียน ระหวา่ ง THAI – NUT (JAPAN) ผา่ นหนา้ หนังสอื ของเราชาวเมคคาทรอนิกส์ในคร้งั นี้ ตัวผมเองมีโอกาสได้รับคดั เลือกใหเ้ ป็นนักเรียนเปลีย่ นระหว่าง สถาบันเทคโนโลยี ปทมุ วัน (ไทย) และ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีนากาโอกะ(ญี่ปนุ่ ) ในช่างเดอื น เมษายน – สงิ หาคม 2556 กต็ ้องบอกเลยวา่ การเปน็ ตวั แทนของสถาบันในครง้ั น้ี ท�ำ ให้ผมรู้สกึ ตนื่ เต้นมากกบั การเดินทางไปต่างแดนคร้ังแรกของผม วันแรกท่เี ดินทางไปร้สู ึกกังวง เล็กนอ้ ย ก้าวแรกที่เดินออกจากประเทศบา้ นเกิดเมืองนอนถึงประเทศญป่ี ุ่น เมอื่ ถงึ ความรสู้ กึ แรกบอกเลยว่าอากาศท่ีญ่ีปุ่นหนาวมาก ตอนนั้นน่าจะประมาณสกั 8 – 12 องศา ยังคงมหี ิมะหลงเหลอื อยแู่ ต่ก็ไมม่ ากหนกั สิง่ แรกทีป่ ระทับใจเมอื่ มาถึง ความ สะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของคนประเทศนแ้ี ละกค็ วามสะดวกสบายในเรอ่ื งคมนาคมท่ีเดินไปไหนมาสะดวก ตวั ผมเองมีโอกาส ได้เลือกใช้บรกิ ารของรถไฟฟ้าความเรว็ สงู หรอื ทีเ่ รียกกนั ว่า ซงิ กันเซ็ง (Shinkansen) เพือ่ ใช้ในการเดนิ ทางไปยัง มหาวทิ ยาลยั นากาโอ กะ ระยะทางกป็ ระมาณสามร้อยกว่ากิโลเมตรโดยประมาณ ใชเ้ วลาไม่นานมากนักมาถงึ ทเ่ี มอื งนากาโอกะ เม่อื ถึงที่หมายเมืองนากาโอ กะ ก็จะมรี ่นุ พคี่ นไทยทีเ่ รียนอยู่ท่มี หาลยั มารับและพาไปจดั การเรอื่ งท่ีอย่อู าศัยและของใช้ในการด�ำ รงชวี ิตตลอดจนอำ�นวยความสะดวก ต่างๆ ภายในมหาลยั จากนน้ั ตัวผมเองก็ไดเ้ ขา้ พบกบั อาจารย์ นากาซาวา เปน็ อาจารย์ที่ปรกึ ษาตลอดช่วงการเป็นนักเรยี นแลกเปล่ียน ในครงั้ นี้ มีโอกาสได้พดู คยุ เก่ียวกบั การท�ำ งาน, วัฒนธรรมตลอดจนการเก็บเกีย่ วประสบการณก์ ารท�ำ งานในชว่ งที่อย่ทู ่ีนี้ ตวั ผมเองได้ รับโอกาสใหท้ �ำ หวั ขอ้ เร่อื ง Finite Element Analysis of Two dimensional Deformation of AB-Double-wall Corrugated Board on Creasing Process เป็นการหารปู แบบ ของการทจำ�ลองการพับกระดาษในโปรแกรม Finite Element กจ็ ะมตี วิ เตอร์เปน็ นกั ศึกษา ปริญญาโทคอยช่วยเหลือหน่ึงคน ในระหว่างทีท่ �ำ งานกอ็ าศยั เวลาในชว่ งเช้าลงเรยี นวิชาภาษาญ่ีปนุ่ รสู้ ึกอบอุ่นดีเพราะมีคนเรียนนอ้ ย และมีโอกาสไดส้ อบถามอาจารย์ได้โดยตรง และในช่วงที่อยู่อาศยั ก็ได้มกี ารท�ำ กจิ กรรมร่วมกันท้ังคนไทยและคนญปี่ ุ่น ผมจ�ำ ได้ในช่วง แรกๆท่ผี ม มาถึง พอดีไปตรงกับเดือนเมษาท่ีญีป่ นุ่ เปน็ เทศกาลชมดอกซากุระ หรือ ฮานามิ ท่ีคนญ่ีปุ่นเรยี กกนั ซ่ึงกค็ ล้ายกบั บา้ นเราที่ ปิกนิกปิง้ ย่างกนั ท่วั ไปแต่มกี ารชมดอกซากุระพดู คยุ กันเฮฮา ก็รสู้ กึ ประทบั ใจกับการเทศกาลน้ที ที่ ำ�ให้รวู้ ่าคนญป่ี นุ่ เวลาทำ�งานก็จรงิ จงั เวลาผ่อนคลายกเ็ ตม็ ทที่ �ำ ให้รู้สึกสนกุ สนานกบั กจิ กรรมนี้ และทกุ วนั ศกุ รก์ ็จะมกี ารรวมตัวกนั ของคนไทยท่เี รียนอยู่ทีม่ หาลยั ไปทานขา้ ว ดว้ ยกันท่บี ้านป้าคนไทย (ป้าเจน) ซงึ่ ท�ำ ใหม้ ีโอกาสพูดคยุ แลกเปลย่ี นความคิดกบั เพ่อื นต่างสถาบนั และ ทกุ วนั อาทิตย์กจ็ ะนัดรวมตัวกนั กบั คนไทยบางสว่ นไปเตะบอลกับเพือ่ นชาวญี่ปุ่นและตา่ งชาติ รวมถงึ วนั หยุดเทศกาลส�ำ คัญตา่ งๆของ ญีป่ นุ่ ก็จะไปเที่ยวตามสถานท่สี ำ�คญั ๆต่างภายในเมืองและจงั หวัดใกล้เคยี ง ส�ำ หรับความประทบั ใจกับสิ่งที่ได้รบั ในชว่ งท่พี ักอาศยั อยทู่ ีป่ ระเทศญป่ี นุ่ ไมว่ า่ จะเป็นเรื่องของระเบยี บวินยั การตรงตอ่ เวลาความละเอียดรอบคอบในการทำ�งานทซี่ มึ ซับเขา้ ไปในตัวผมโดย อตั โนมัติ รวมถึงเครอ่ื งไม้เครอื่ งมอื ในการท�ำ งานท่ีทนั สมยั และมุมองความคิดทัศคติในการท�ำ งานจากทางอาจารย์และเพอ่ื นชาวญี่ปนุ่ ท่ี ท�ำ ใหผ้ มไดร้ บั ความรู้ใหม่เพมิ่ มากขน้ึ และครอบครัวชาว NUT-THAI ท่ดี แู ลกนั อบอนุ่ เหมอื นครอบครวั เดยี วกนั 21
“สุดท้ายนี้ผมก็ขอขอบพระคุณอาจารย์ ในสถาบันเทคโนโลยี ปทุมวันท่ีทำ�ให้ผมมีโอกาสได้มาบอกเล่าเร่ืองราวผ่านหน้าหนังสือ ในวันนี้และก็ขอให้ครอบครัวเราชาวเมคาทรอนิกส์ปทุมวันอยู่คู่ ประเทศไทยตราบนานเทา่ นานครับ” 22
นายชัยมงคล วงคญ์ าติ (นนท์) เมคคาทรอนิกส์ ปทุมวัน รนุ่ 16 นักศกึ ษาแลกเปลย่ี นที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนางาโอกะ (Nagaoka University of Technology, Japan) จดุ เริ่มตน้ เลยครับ ในวนั นัน้ ไดม้ ีประชุมภาค ทกุ วัน พธุ ทห่ี อ้ งสมั นา ตอนน้นั ผมเปน็ นศ. ช้ันปีที่ 1 ทเี่ พ่ิงเข้ามา เรียนในสาขาวชิ า เมคคาทรอนิกส์ แลว้ ไดเ้ ขา้ รวมประชมุ ภาคในตอนน้นั อาจารย์ในสาขาไดอ้ ธบิ ายเกยี่ วกบั นศ. ว่าทางสถาบนั ของเราได้มีการแลกเปลย่ี น นศ.เพือ่ แลก เปลี่ยนวัฒนธรรมและประเพณีของประเทศญี่ปุ่นรวมท้ัง ฝกึ ประสบการณ์ในการใชช้ ีวิตในตา่ ง ประเทศและฝึกฝน ทกั ษะด้านงานวิจัย อาจารย์ได้ใหพ้ ่ๆี ( พี่ต้า 13, พ่เี ชาว์ 14, พ่ีโอปอ 14 ) ที่ได้ไปแลกเปลย่ี นทีป่ ระเทศญ่ปี ่นุ มาเล่า ประสบการณ์ให้น้องๆฟงั ผมคนหน่งึ ท่ีไดน้ ั่งฟงั พี่ๆเล่า ประสบการณท์ มี่ าแลกเปลย่ี น ในตอนนน้ั ผมได้แค่ อมย้ิม ขำ�ๆ ทพ่ี ่ๆี เล่าใหฟ้ งั คดิ ในใจ “ น่าสนุกดนี ะ, พๆ่ี เก่งดวี ่ะ!! ” ตอนนั้นผมไม่ไดค้ ดิ อะไรเลย... ไม่คดิ ดว้ ยว่าจะได้ไปแลก เปลี่ยนดว้ ยซำ�้ ... ฮาฮา จนถงึ ปี 3 เทอม 2 ได้มที ุนไปแลก เปลี่ยนทป่ี ระเทศญปี่ นุ่ มา ตอนน้ันแหละ เกรดถึง ได้ไป แห๋ะ!! ได้ไปแลกเปลี่ยนท่ี Nagaoka University of Technology (ไปแบบงงๆ) สำ�หรบั นอ้ งๆ ที่อยากไปแลกเปล่ียนทีป่ ระเทศญปี่ ่นุ “ส่ิงแรกท่ีต้องท�ำ คือ ตงั้ ใจเรียนทำ�เกรดสูงๆ เพอ่ื ที่จะสอบ ชิงทนุ ไปแลกเปลี่ยนทีป่ ระเทศญี่ปนุ่ นอกจากนนั้ ตอ้ งทำ� กิจกรรมร่วมมือกับสาขาและสถาบันด้วยเพ่ือแสดงให้เห็น ถึงความมมี นุษยส์ ัมพันธท์ ่ีดี สามารถเข้ากบั ผู้อน่ื ได้ ” ครงั้ แรกกับการเดินทางไปต่างประเทศ ( คนเดียว ) ไปแลกเปลี่ยน ณ. ประเทศญ่ีปุ่น ก้าวแรกลงจากเคร่อื งบินทส่ี นามบนิ นารติ ะ เหงอ่ื ตก!! คดิ ในใจ “ จะไปรอดไหม จะไปถงึ ไหม จะนง่ั เลยไหม ”….. ฮาฮา ไม่มีใครมารับดว้ ย ผมต้องนั่งรถไฟไปเอง โดยมพี ่ๆี คนไทย มารบั ทปี่ ลายทาง นี้เป็นครั้งแรกทผี่ มได้นงั่ รถไฟชินคนั เซน็ ความประทับใจอย่างแรกท่ีประเทศญ่ีปุ่นเลยครบั คือ ความตรงต่อเวลา คน ญปี่ นุ่ จะมีความรบั ผดิ ชอบต่อตนเอง ต่อสังคมมาก ความตรงตอ่ เวลาเปน็ สิง่ ส�ำ คัญสำ�หรบั คนญีป่ ่นุ เช่น เวลาการนดั ประชมุ เวลาของ พาหนะในการเดนิ ทาง ( รถไฟ, รถต้,ู รถแทก็ ซ,ี่ รถบัส) ตรงต่อเวลามากๆ เลยครับ..... ถึงแล้ว ณ. Nagaoka University of Technology มาถึงมหาวิทยาลยั อยา่ งแรกตอ้ งมารายงานตัวกบั เจ้าหนา้ ท่ขี องมหาวิทยาลยั และอาจารย์ที่แลปที่ผมจะมาท�ำ งานวจิ ยั .... ฮาฮาผมได้ยิน ค�ำ ล�ำ ลอื จากพี่ๆคนไทยทเ่ี คยมาแลกเปลย่ี นท่นี ้ี อาจารย์แลปนดี้ !ุ ! นะ..... อาจารยผ์ มชือ่ Masato AKETAGAWA ผมอยากจะบอกพ่ีๆว่า อาจารยผ์ มไมด่ ุนะครบั !! คร้งั แรกทเ่ี จออาจารย์ ผมย้มิ หน้าบานเลยครับ ( ผมคยุ กบั เขาไม่รเู้ รอื่ ง ) ฮาฮา..... ผมก็ได้กล่าวแนะนำ�ตวั เอง และขอฝากเนือ้ ฝากตวั กับอาจารย์และเพื่อนๆในแลป อาจารย์ได้จัดหาพี่เล้ยี ง ( ตวิ เตอร์ ) มา เปน็ คนดูแลผม ตลอดเวลาที่ผมอาศยั อยู่ ทีญ่ ่ปี ุน่ ส�ำ หรับชว่ ยเหลือผมในเรอื่ งภาษา, การทำ�เอกสารตา่ งๆ ที่ผมไม่เขา้ ใจ ติวเตอรผ์ มชอ่ื Tomogake เขาเปน็ คน เปน็ กนั เอง และเขา 23
อยากมาเทย่ี วทป่ี ระเทศไทยมาก ในช่วงที่ผมกลบั จากประเทศไทยได้หน่ึงอาทติ ยห์ ลังเสร็จสน้ิ จากการไปแลกเปลย่ี น ติวเตอร์ผมไดม้ า เท่ียวทป่ี ระเทศไทย ผมก็ให้ความชว่ ยเหลือต่างๆ เขาประทบั ใจมากท่ีไดม้ าเที่ยวประเทศไทย ส�ำ หรับการเรยี นและงานวิจยั อาจารยข์ องผม ให้ผมเรยี นภาษาญป่ี ุน่ ( Japanese basic 1) มันเป็นเบสิกของภาษาญป่ี ุ่นเลยครับ เบสิกๆ ยากจงั !! อาจารย์บอกผมเอาไว้ใช้ในชวี ิตประจ�ำ วนั ผมไดเ้ รยี นภาษาญป่ี ุ่นในชว่ งสามเดือนแรกครับ เรยี นทกุ วัน จ – พฤ ช่วง เวลา 10.30 – 12.00 น. ชว่ งแรกบอกเลยครับ ตามคนอ่ืนไม่ทนั จริงๆ ไมม่ ีพน้ื ฐานมากอ่ น คนในช้ันเรียนเป็นพ่ีๆคนไทยและชาวตา่ งชาติ ด้วยว่าท่เี รามพี ๆ่ี คนไทยเรยี นดว้ ย ผมจงึ ให้พๆี่ คนไทยติวการบา้ นให้ ในแต่ละวนั ของตอนเยน็ ส่วนงานวิจยั ของผมไดเ้ ร่ิมท�ำ หลงั จากจบ คอร์ดเรียนภาษาญ่ีปุ่น ในแลปของผม เปน็ แลปที่วิจัยเกีย่ วกับ Nanotechnology การวจิ ัยท่วี ัดในระดบั นาโน พอๆกบั รอยหยกั ในสมอง ของผม ท่เี ล็กมาก ฮาฮา..... ในการท�ำ วิจัยทีน่ ี่ ไมม่ อี าจารยม์ าสอนเลยครบั มแี ต่ให้หวั ขอ้ มาแล้วให้ นศ. ในแลปศึกษาด้วยตนเอง ฮาฮา... ยากจงั จะรเู้ รือ่ งไหม!! ( ถามอาจารย์ได้ ถ้าไมร่ ู้เรอ่ื งจริงๆ ) มนั กม็ ีข้อดสี ำ�หรับใหเ้ รา ทำ�อะไรด้วยตนเอง ศกึ ษาดว้ ยตนเอง ทำ�ให้มีความ กระตือรอื รน้ ถ้าไมก่ ระตือรอื ร้นก็ไมม่ คี วามรู้ เรยี นไมจ่ บตามระยะเวลาทก่ี �ำ หนด จึงทำ�ให้ นศ. หรือคนญีป่ ่นุ เปน็ คนทีม่ คี วามขยนั อดทน และความเป็นระเบยี บ ความประทับใจท่สี องของประเทศญปี่ ่นุ ทช่ี าวตา่ งชาตอิ ยา่ งผมต้องทำ�ตามคนญป่ี ่นุ โดยอตั โนมัติ ตอนแรกคดิ หนักว่าผมจะท�ำ ได้ไหม ท�ำ ขนาดนเี้ ลยหรา!! คือ เรอื่ งการท้งิ ขยะครับ การทิ้งขยะใหถ้ กู ท่ี ตรงวันท่กี �ำ หนด ตรงภาชนะท่ีใส่ เปน็ ส่งิ สำ�คญั มากของคนญป่ี นุ่ เพราะคนญีป่ นุ่ ทุกคน ทุกบ้านต้องแยกขยะก่อนท่จี ะไปทิ้งทีถ่ งั ขยะครับ ขยะที่จะทิ้งตอ้ งตรงตามถังขยะนน้ั ๆแล้วต้อง ตรงตามกำ�หนดการทิ้งของขยะอีกดว้ ย ความประทับใจสุดทา้ ยไมว่ ่าจะอยทู่ ี่ไหน ก็ใหค้ วามประทับใจตลอด “ เกลียวสมั พันธ์ ” ความเปน็ พ่ีเป็นน้องของปทมุ วนั ครบั ไปเปน็ แลกเปล่ยี นถึงประเทศญ่ีปุ่น ยังเจอรนุ่ พี่อกี ฮาฮา..... “ ปทุมวนั อย่ดู ว้ ยกันทกุ ที ไมท่ ิง้ กนั อยู่แลว้ พี่ช่วยเหลือน้อง น้องชว่ ยเหลอื พ่ี ” เปน็ คำ�พูดทผ่ี มประทับใจมากเลยครบั จากพี่ๆ ( พ่มี นตรี ชก.59, พพ่ี งษ์ 03 ,พ่ธี เนตร ภาคพิเศษ รนุ่ 2 พ.ศ.2555, พ่ีวทิ ย์ 13 ) “สดุ ทา้ ยน้ี อยากขอบคุณครอบครวั ท่ีใหก้ ำ�ลังใจและสนบั สนนุ มาตลอด ขอขอบคุณพ่ีๆทเ่ี ปน็ แบบอยา่ งที่ดีใหน้ ้องๆ ขอขอบคณุ อาจารย์ทุกท่านและสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันท่ี ให้ความช่วยเหลือ ตา่ งๆ มาตลอดและมีโครงการ นศ. แลกเปลี่ยนดีๆแบบน”ี้ 24
Mr.Kai Kikuchi นกั ศกึ ษาแลกเปลยี่ นจาก ICHINOSEKI National College of Technology Kai เล่าใหฟ้ งั วา่ ผมเคยมาเมืองไทยครง้ั นงึ แล้วครับโดยมากับอาจารยจ์ ากญป่ี ่นุ มาท�ำ ความร่วมมอื และศกึ ษาเรื่องโปรเจ็คและคร้ังน้ี ผมก็มาเรียนพร้อมท�ำ โปรเจ็คและใช้ชวี ิตอยู่ในประเทศไทยอย่างเต็มตัวผมได้ไปเทีย่ วมาแล้วในหลายจงั หวดั อาทิ อยุธยา สุรนิ ทร์ แพร่ น่าน ชลบรุ ีและในอกี หลายจังหวัดได้มีโอกาสไปแลกเปลย่ี นและแนะนำ�ความรูเ้ กีย่ วกับหุ่นยนต์ให้กบั วทิ ยาลยั เทคนิคในบางคร้งั โปรเจค็ ที่ผมทำ�คือหุ่นยนต์เพ่ือการพยาบาลโดยผมจะสร้างหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์และเขียนโปรแกรมการทำ�งานและป้อนข้อมูลเข้าสู่ตัวหุ่นยนต์ จ�ำ ลองจนสามารถใชง้ านแทนการทำ�งานบางอยา่ งของพยาบาลโดยมีรองศาสตราจารย์ ดร.ปราโมทย์ ศรีน้อย และอาจารย์ชาวญ่ปี ุน่ (Prof. Kaname Sato) เป็นที่ปรึกษาการที่ไดม้ าเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนท่ปี ระเทศไทยและท่ีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันทำ�ให้ผมมีโลกทัศน์ ท่ีกว้างข้ึนเพื่อนๆน่ารักและเป็นกันเองมีนำ้�ใจช่วยเหลือผมตลอดเวลาทั้งการเรียนการใช้ชีวิตนอกจากนี้ผมยังได้รับความเมตตาจาก ครอบครวั ของท่านอาจารย์ปราโมทย์ ศรีนอ้ ย ท่ีใหท้ ่พี กั และดูแลผมเป็นอย่างดเี หมอื นลกู คนหนึง่ ผมรกั และเคารพทา่ นมาก รองศาสตราจารย์ ดร.ปราโมทย์ ศรนี ้อย กล่าวถึง Mr.Kai วา่ เป็นเด็กทีม่ คี วามใฝ่เรียนมนี �ำ้ ใจและเขา้ กบั เพื่อน สถาบันเทคโนโลยีปทุมวันได้ดีการท่ีได้รับการเรียนแลกเปลี่ยนมาดูแลทำ�ให้ผมก็ได้รับทราบถึงวัฒนธรรมญ่ีปุ่นและผมก็พยายามสอด แทรกวฒั นธรรมไทย ดา้ นนายกิตติศกั ดิ์ ทคี �ำ แก้ว (โบ้ท) นกั ศึกษาช้นั ปที ี ๔ สาขาวชิ าวศิ วกรรมเมคคาทรอนิกส์ สถาบันเทคโนโลยี ปทมุ วนั คู่หูโปรเจค็ หุ่นยนตพ์ ยาบาลเลา่ ให้ฟังว่าการท�ำ โปรเจ็คครง้ั นีจ้ ะมีการต่อยอดไปเร่ือยๆจนกว่าจะได้หุ่นยนต์ใช้จรงิ ในโรงพยาบาล โดยคาดว่าจะสำ�เร็จในกลางปีหน้าถือได้ว่าโครงการแลกเปล่ียนนักศึกษาครั้งน้ีมีผลดีคือทำ�ให้นักศึกษาได้แลกเปลี่ยนโปรเจ็คงานกัน และสามารถท�ำ งานวจิ ัยทีม่ าพัฒนาทางการแพทย์ได้ 25
Mr.Ryo Kawauchi นักศกึ ษาแลกเปล่ียนจาก Mie University ขอบคณุ ที่ใหผ้ มได้เขา้ ไปอยสู่ ถาบนั เทคโนโลยีปทุมวัน (สาขาวิศวกรรมเมคคาทรอนกิ ส)์ ผมรู้สึกประหลาดใจในการท่คี นหลายคน รสู้ ึกมีความสัมพันธก์ ับประเทศญ่ปี ุ่น และภาษาญปี่ ุน่ เพราะผคู้ นในสถาบนั นม้ี รี อยยมิ้ ที่ดีใหก้ ับผม และบางคนกย็ งั ทักทายผมด้วยค�ำ วา่ “KONNICHIWA” ซงึ่ ทำ�ให้ผมรู้สกึ มคี วามสขุ และผมใชช้ ีวิตอยา่ งสบายไมย่ งุ่ ยากถงึ แมว้ ่าผมจะไมส่ ามารถพดู ภาษาไทยได้ ผมรู้สึกมคี วามสุขกับการได้เขา้ มาเรียนท่ีสถาบนั นี้ เพราะผูค้ นในสถาบันตา่ งสอ่ื สาร พดู จากบั ผมด้วยสิง่ ทด่ี ๆี นอกจากนี้ ผมคดิ ว่า นกั ศึกษาในสถาบนั รู้สกึ ผ่อนคลาย เพราะสถาบันมคี วามรม่ ร่นื จากทผ่ี มได้กลา่ วไปขา้ งต้น ผมคดิ ว่าสาขาวิศวกรรมเมคคาทรอนกิ ส์ สถาบันเทคโนโลยปี ทมุ วนั เป็นสถาบันทนี่ ่าเรยี น สุดท้ายนี้ ผมหวังว่าการสานสัมพันธ์ระหวา่ งสถาบนั เทคโนโลยีปทมุ วันกบั Mie University จะยงั คงดำ�เนนิ ต่อไปไดด้ ว้ ยดีหลงั จากนี้ และตลอดไป ขอบคณุ ครบั 26
เปดิ บริการ 11.00 น. - 24.00 น.
ผูจ้ ุดประกายแสงเทแยี หน่งปัญญา “ใครทีจ่ ะเป็นด่ังเทยี นทีย่ อมตนละลายแทง่ เพอื่ เปล่งประกายแสงเรอื งรอง ให้คนหลงทางอยู่ ท่ามกลางความมืดมดิ ได้คิดและค้นพบเสน้ ทางที่แสวงหา ไดน้ �ำ พาชวี ิตไปส่จู ดุ หมายปลายทางแหง่ จากไมร่ ู้...จนได้รู้...ใครผูส้ อน จากเขลาอ่อน..จนกลา้ เก่ง...ก้าวเองได้ จากคิดแคบ...จนคดิ เปน็ ....เห็นกวา้ งไกล กระจ่างแจ้ง....จากสงสัย....ใครสอนมา ตราบใดท่สี งั คมของการเรยี นรู้มิเคยดับสิ้น บรรดาแมพ่ ิมพ์แห่งปญั ญาทั้งหลายก็ไมม่ วี นั สญู หายจากโลกน้ี เชน่ กนั ความงดงามแหง่ หัวใจอนั มุ่งมั่น ความอบอุ่นในดวงตาของผมู้ ากดว้ ยความปราณี ความรกั และความ ปรารถนาดีในการอบรมส่ังสอนลกู ศษิ ย์ของบรรดาคณะครูอาจารยผ์ ้เู สยี สละ เพ่อื มุ่งสรา้ งคนเพอื่ ใหค้ นได้สรา้ ง “กิจกรรมไหว้ครเู ปน็ กิจกรรมท่ีพวกเราชาวเมคคาทรอนกิ ส์ท�ำ สบื เนอ่ื งกันตลอดมา” ประมวลภาพกิจกรรมไหว้ครขู องสาขาวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ 29
30
“อดีตสร้างชือ่ ปจั จุบันสานต่อ” สภาคณะบดวี ิศวกรรมศาสตร์แหง่ ประเทศไทย สมยั ที่ 35 ไดม้ อบรางวลั นักศกึ ษาท่มี คี ุณธรรมและจรยิ ธรรมดีเดน่ ให้ไว้ ณ. วันท่ี 22 กมุ ภาพนั ธ์ 2555 จากท่ปี ระชมุ สภาคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตรแ์ หง่ ประเทศไทยตอ้ งการให้รางวลั กับนักศึกษาและ คณะวิศวกรรมศาสตร์ของประเทศไทยท่อี อกไปทำ�โครงการทเ่ี ป็นประโยชน์ ปนี ้ันคณะวศิ วกรรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีปทุมวนั จงึ สง่ โครงการไปรว่ มคัดเลือก และได้กลบั มาท้งั รางวลั ระดบั คณะวิศวกรรมศาสตร์ (รองฯ บุญชู เป็นผรู้ ับรางวลั ) และระดบั นกั ศกึ ษาทบ่ี �ำ เพ็ญประโยชน์ (นายอทิ ธพล หนองหว้า) “ผมรสู้ กึ ภาคภูมใิ จทไ่ี ด้รบั รางวลั นีแ้ ละท�ำ ให้เมคคาทรอนกิ สข์ องเราเป็นท่รี ู้จกั จากบคุ นภายนอก และมองพวกเราวา่ เปน็ คนดขี องสังคม” ไอติม เมคคาทรอนิกส์ รุ่น 17 31
Haas Factory Outlet Thailand Machine Tech Co., Ltd.
“คา่ ยอาสา โครงการทำ�นุบำ�รุงศิลปวฒั นธรรม” โรงเรยี นบ้านคลองรว่ ม ต.ลานตะเคยี น อ.กบนิ ทรบ์ ุรี จ.ปราจนี บุรี จากใจ...ของคนท�ำ คา่ ย กอ่ นอืน่ กข็ อสวัสดีครับ พีๆ่ เพอื่ นๆ และนอ้ งๆชาวเมคคาทรอนิกส์ ปทมุ วนั ทุกคนนะครับ ผมเปน็ คนหนึ่งทท่ี �ำ คา่ ยอาสาในครั้ง บทความโดย : นายกติ ตศิ ักดิ์ ทีคำ�แก้ว (เฮยี โบท๊ ) เมคคาทรอนิกส์ รนุ่ 17 น้ี การทำ�งานในครงั้ น้ี มีการประชุมเตรยี มการและแบง่ หนา้ ทขี่ องแตล่ ะคน ก่อนออกคา่ ยอาสา ตงั้ แต่กอ่ นปิดเทอม2 ปีการศึกษา 2556 งานได้เริม่ จากพี่ๆและเพือ่ นๆ ได้ไปดสู ถานที่ จากหลายๆสถานที่ จนได้ 2 ท่ี โดยให้ พๆ่ี เพอื่ นๆ และน้องๆ ทำ�การโหวต และผลท่ีโหวต ไดค้ ือโรงเรียนบ้านคลองรว่ ม ต.ลานตะเคยี น อ.กบินทรบ์ รุ ี จ.ปราจีนบุรี จากนัน้ ใหแ้ ต่ละคนไปทำ�หน้าทขี่ องตัวเอง ท่ีได้รับมอบหมาย สว่ นตวั ผมเองทำ�หนา้ ท่ี เตรียมอปุ กรณ์ในการทาสี ไมว่ ่าจะเป็น แปรงทาสี แปรงขัดสี สี เปน็ ตน้ เม่ือถงึ วันที่กำ�หนดคือวนั 30 กรกฎาคม เราได้รวมตัวเพ่อื ออกเดนิ ทางไป จ.ปราจีนบรุ ี โดยเราไดท้ ำ�การจองตั๋วรถไฟ 1 โบกี้ แตข่ า้ วของอปุ กรณ์ทเี่ ตรียมไว้ได้ท�ำ การเอาไปไว้ท่สี ถาทเ่ี รียบรอ้ ยแลว้ จงึ ท�ำ ให้เรามกี ระเป๋าคนละ 1 ใบ คอื กระเป๋าสมั ภาระสว่ นตัว ทำ�ใหก้ ารเดินทางเราสะดวก ตลอดระยะเวลาท่เี ดนิ ทาง แตล่ ะคนก็มกี จิ กรรมของตวั เอง เช่น เลน่ กตี ้าร์ ร้องเพลง นอนหลบั (บางคนก็นอนโกน แลว้ ก็โดนเพื่อนแกล้ง) ถ่ายรปู คยุ แชท บางคน ก็ไมเ่ คยขน้ึ รถไฟ ข้นึ เป็นครั้งแรกในชวี ติ กวา่ จะถึง จ.ปราจนี บุรี ผมปวดเมอื่ ยไปทัง้ ตัวเลย แต่พวกเรากเ็ ดินโดยปลอดภัย เม่ือถงึ แลว้ จ.ปราจีนบุรี แลว้ เรากเ็ ก็บของสมั ภาระตัวเองเข้าทีพ่ ัก และก็ออกมาเริ่มทำ�งาน โดยเราไดแ้ บง่ กลุ่มท�ำ งานวา่ พ้ืนทีน่ ี้ใครท�ำ ใครรับผิดชอบ โดยงานท่ีเราท�ำ ทำ�ไปได้คอ่ นข้างเร็ว แต่มีปัญหานิดหน่อย เรอ่ื งฝน เพราะสีที่ทายงั ไม่แหง้ และทอ้ งฟา้ กค็ รึม้ ไมค่ ่อยมีแสงแดด แต่งา นอื่นๆกเ็ ดนิ ไปไวม้ าก เพราะช่วยกนั เต็มที่ บางวันพ่ีศิษย์เก่าก็จะซื้อขนมซ้ือน�ำ้ มาเล้ียง และแจกเดก็ ๆทีน่ ี้ ส่วนเดก็ นกั เรียนทน่ี ีน้ ่ารกั มาก เลยครับ โดยเฉพาะเด็กผชู้ าย มีการช่วยพวกผมเตะบอล ผมเลยบอกวา่ (ถ้ายงิ เขา้ ประตูครบ 5 ลูก ผมจะให้เงนิ 20 บาท เดก็ มันยงิ แรง มากเลยครับ ตัวเล็กๆเอง ) หลังจากใช้ชวี ติ 3 คนื 4 วันที่น้ี จนงานทุกอย่างเสรจ็ สิน้ ผมได้อะไรหลายสิง่ หลายอย่าง แตผ่ มคงพดู ได้ไม่ หมดและคงอธบิ ายไมถ่ กู แน่ ส่งิ ทผ่ี มท�ำ ผมท�ำ ด้วยความต้ังใจและอยากทำ�ใหส้ ำ�เร็จ ผมรูส้ กึ เปน็ เกียรตมิ ากเลยครบั ท่ีได้รับโอกาสกลา่ ว ความรสู้ ึกดๆี ในหนังสือเล่มน้ี และขอฝากถึงรุน่ น้องๆ ตอ่ ๆไปนะครบั ไมว่ ่าจะเป็นค่ายเลก็ หรอื ค่ายใหญ่ กท็ �ำ ตามก�ำ ลังท่ีเรามี ท�ำ ดว้ ยความสามัคคี และท�ำ ให้เตม็ ท่ี 33
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160