Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เรื่องที่ 2

เรื่องที่ 2

Published by KruPaTThira ChNUnTHo, 2021-03-14 19:38:31

Description: เรื่องที่ 2

Search

Read the Text Version

องคป์ ระกอบของระบบคอมพิวเตอร์ 1 รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพน้ื ฐาน องคป์ ระกอบของระบบคอมพวิ เตอร์ ประกอบดว้ ย 3 ส่วน คอื Hardware, Software และ People  Hardware คอื ตวั เครอ่ื งและอุปกรณ์ต่างๆ ของคอมพวิ เตอรท์ ุกๆชน้ิ ทเ่ี ราสามารถ จบั ตอ้ งหรอื สมั ผสั ได้ เชน่ ซพี ยี ู แรม เมนบอรด์ จอภาพ และอ่นื ๆ  Software คอื โปรแกรมหรอื ชุดขอ้ มลู คาสงั่ ต่างๆ ทส่ี งั่ งานใหค้ อมพวิ เตอรท์ างาน ซง่ึ แบ่งออกไดเ้ ป็น 2 ประเภท คอื ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software) เช่น ระบบปฏิบัติการ Window98/ME/2000/XP, Linux, Dos, UNIX, Solaris เป็นตน้ ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) เช่น โปรแกรมใช้งาน Microsoft Office, Adobe Photoshop, AutoCAD, PlaDao เป็นตน้  People คอื ผใู้ ชง้ านหรอื ผทู้ ท่ี างานอย่กู บั เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ รวมถงึ ช่าง โปรแกรมเมอร์ นักวเิ คราะหร์ ะบบ และอ่นื ๆ ความเข้าใจพื้นฐานที่สาคญั เก่ียวกบั การทางานของระบบคอมพิวเตอร์ เม่อื ขอ้ มลู ถูกส่งผ่านเขา้ มาทางหน่วยรบั ขอ้ มลู (Input Unit) กจ็ ะถูกส่งต่อเพ่อื นาไปจดั เกบ็ หรอื พกั ขอ้ มลู ไวช้ วั่ คราวท่หี น่วยความจา (Memory Unit) ก่อน จากนนั้ จงึ ค่ายๆ ทยอยจดั ส่งขอ้ มลู ต่างๆ ทถ่ี ูกนามา จดั เกบ็ ไว้ ไปใหห้ น่วยประมวลผล (Processing Unit) เพ่อื ประมวลผลขอ้ มลู ต่างๆ ทถ่ี ูกส่งเขา้ มาก่อนทจ่ี ะส่ง ขอ้ มลู ต่างๆ ทผ่ี ่านการประมวลผลแลว้ ไปยงั หน่วยสุดทา้ ย นนั่ กค็ อื หน่วยแสดงผล (Output Unit) เพ่อื ทา การแสดงผลออกทางอุปกรณ์ต่างๆ ต่อไป INPUT PROCESSING OUTPUT UNIT UNIT UNIT MEMORY UNIT รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพ้นื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

2 หน่วยรบั ข้อมูล (Input Unit) เป็นสว่ นแรกทต่ี ดิ ต่อกบั ผใู้ ช้ หน้าทห่ี ลกั คอื ตอบสนองการสงั่ งานจากผใู้ ชแ้ ลว้ รบั เป็นสญั ญาณขอ้ มลู ส่งต่อไปจดั เกบ็ หรอื พกั ไวท้ ห่ี น่วยความจา ซง่ึ อุปกรณ์ทท่ี าหน้าทเ่ี ป็นหน่วยรบั ขอ้ มลู มมี ากมายเช่น Mouse, Keyboard, Joystick, Touch Pad เป็นตน้ หน่วยประมวลผล (Processing Unit) ถือเป็นส่วนท่สี าคญั ท่สี ุดของเคร่อื งคอมพิวเตอร์ เปรยี บได้กบั สมองของมนุษย์ หน้าท่หี ลกั ของ หน่วยน้คี อื นาเอาขอ้ มลู ทถ่ี ูกจดั เกบ็ หรอื พกั ไวใ้ นหน่วยความจา มาทาการคดิ คานวณประมวลผลขอ้ มลู ทาง คณติ ศาสตร์ (Arithmetic Operation) และเปรยี บเทยี บขอ้ มลู ทางตรรกศาสตร์ (Logical Operation) จนได้ ผลลพั ธอ์ อกมาแลว้ จงึ ค่อยสง่ ขอ้ มลู ทเ่ี ป็นผลลพั ธเ์ หล่านนั้ ไปยงั หน่วยแสดงผลต่อไป อุปกรณ์ทท่ี าหน้าทเ่ี ป็น หน่วยประมวลผลในเครอ่ื งคอมพวิ เตอรก์ ค็ อื ซพี ยี ู (Central Processing Unit) หน่วยความจา (Memory Unit) เป็นหน่วยทส่ี าคญั ทจ่ี ะตอ้ งทางานร่วมกนั กบั หน่วยประมวลผลอย่โู ดยตลอด หน้าทห่ี ลกั คอื จดจา และบนั ทึกข้อมูลต่างๆท่ีถูกส่งมาจากหน่วยรับข้อมูล จัดเก็บไว้ชวั่ คราว ก่อนท่ีจะส่งต่อไปให้หน่วย ประมวลผล นากจากน้ียงั ทาหน้าท่ีเป็นเสมอื นกระดาษทด สาหรบั ให้หน่วยประมวลผลใช้คิดคานวณ ประมวลผลขอ้ มลู ต่างๆ ดว้ ย หน่วยแสดงผล (Output Unit) เป็นหน่วยทใ่ี ชใ้ นการแสดงผลลพั ธท์ ไ่ี ดอ้ อกมาในรปู แบบต่างๆ กนั ตามแต่ละอุปกรณ์ เชน่ สญั ญาณ ภาพออกส่หู น้าจอ และงานพมิ พจ์ ากเครอ่ื งพมิ พ์ เป็นตน้ INPUT PROCESSING OUTPUT UNIT UNIT UNIT MEMORY UNIT รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพ้นื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

:: Hardware :: 3 . 1. อปุ กรณ์รบั ข้อมลู หน่วยรบั ขอ้ มลู เป็นส่วนทท่ี าหน้าท่นี าขอ้ มลู จากภายนอกเขา้ สู่เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ เป็นตวั กลาง เช่อื มโยงจากมนุษยส์ เู่ ครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ เคร่อื งมอื หรอื อุปกรณ์ในหน่วยรบั ขอ้ มลู น้ี มหี น้าท่แี ปลงขอ้ มลู ท่มี นุษย์ส่งเข้าไปใหอ้ ยู่ในรูปของ สญั ญาณอเิ ลก็ ทรอนิกสท์ ค่ี อมพวิ เตอรเ์ ขา้ ใจ และนาเขา้ ส่เู คร่อื งคอมพวิ เตอร์เพ่อื การประมวลผล เคร่อื งมอื ในส่วนน้ีเรยี กว่า อุปกรณ์นาเขา้ ขอ้ มลู (Input Device) ซง่ึ มที งั้ ประเภททม่ี นุษยต์ ้องทาการป้อนขอ้ มลู ดว้ ย ตนเองในลกั ษณะการพมิ พ์ การช้ี หรอื กระทงั่ การวาดรูปดว้ ยตนเอง ซง่ึ อุปกรณ์ลกั ษณะน้ีทร่ี จู้ กั กนั ดี คอื แป้นพมิ พ์ (Keyboard) และเมาส์ (Mouse) นอกจากน้ยี งั มอี ุปกรณ์นาเขา้ ขอ้ มลู ทส่ี ่งขอ้ มลู เขา้ ส่รู ะบบโดยตรง (Source-data Automation) เพ่อื ใหก้ ารส่งขอ้ มลู เขา้ ส่รู ะบบคอมพวิ เตอรท์ าได้รวดเรว็ ยง่ิ ขน้ึ โดยอุปกรณ์ เหล่าน้ีจะอ่านขอ้ มูลจากแหล่งกาเนิดและส่งเขา้ สู่ระบบคอมพวิ เตอรโ์ ดยตรง ผูใ้ ชไ้ ม่ต้องเคล่อื นยา้ ยหรอื คดั ลอกหรอื พมิ พส์ ง่ิ ใดลงไปอกี ทาใหเ้ กดิ ความรวดเรว็ และถูกต้องแมน่ ยายง่ิ ขน้ึ ตวั อย่างของเครอ่ื งป้อน ขอ้ มลู ประเภทน้ี คอื อุปกรณ์ OCR และ สแกนเนอร์ (Scanner) เป็นตน้ ตวั อยา่ งของอุปกรณ์นาเขา้ ขอ้ มลู ไดแ้ ก่ 1.1 แป้ นพิมพ์ (Keyboard) แป้นพมิ พ์ หรอื คยี บ์ อรด์ เป็นอุปกรณ์สาหรบั นาเขา้ ขอ้ มลู ขนั้ พน้ื ฐาน ทาหน้าทเ่ี ช่อื มความสมั พนั ธร์ ะหว่างมนุษย์ กบั ระบบคอมพวิ เตอร์ โดยส่งคาสงั่ หรอื ขอ้ มูลจากผู้ใช้ไปสู่ หน่วยประมวลผลในระบบคอมพวิ เตอร์ ภายในแป้นพมิ พจ์ ะมี แผงวงจรหลกั ทจ่ี ะประกอบดว้ ยชน้ิ ส่วนอเิ ลก็ ทรอนิกสจ์ านวน มาก ซ่งึ มลี กั ษณะเป็นแผ่นบางๆ ทถ่ี ูกฉาบด้วยหมกึ ทเ่ี ป็น ตวั นาไฟฟ้า เม่อื ถูกกดจนตดิ กนั ก็จะมกี ระแสไฟฟ้าไหลในตวั รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพน้ื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

4 วงจร เมอ่ื ผใู้ ชก้ ดแป้นใดแป้นหน่ึง ขอ้ มลู ในรปู ของสญั ญาณไฟฟ้าจากแป้นกดแต่ละแป้นจะถูกเปรยี บเทยี บ รหสั (Scan Code) กบั รหสั มาตรฐานของแต่ละแป้นทก่ี ด เพอ่ื เปลย่ี นใหเ้ ป็นตวั อกั ษร ตวั เลข หรอื สญั ลกั ษณ์ ไปแสดงบนจอภาพ การจดั วางตาแหน่งของตวั อกั ษรต่างๆ บนแป้นพมิ พ์ ในส่วนของภาษาองั กฤษ แป้นพมิ พโ์ ดยทวั่ ไป จะจดั แบบ QWERTY (ตงั้ ชอ่ื ตามตวั อกั ษรบรเิ วณแถวบนดา้ นซา้ ย) ตามมาตรฐานของสหรฐั อเมรกิ า แต่กย็ งั มคี นบางกลุ่มใชแ้ บบ Dvorak โดยคดิ ว่าสามารถพมิ พไ์ ดเ้ รว็ กว่า เน่ืองจากแป้นพมิ พแ์ บบ QWERTY จงใจ ออกแบบมาเพ่อื ไม่ให้พมิ พไ์ ด้เรว็ เกนิ ไป ตงั้ แต่สมยั ของพมิ พ์ดดี ทไ่ี ม่ใชไ้ ฟฟ้าหรอื คอมพวิ เตอร์ ซง่ึ ก้าน ตวั พมิ พม์ กั จะเกดิ การขดั กนั เม่อื ผใู้ ชพ้ มิ พเ์ รว็ เกนิ ไป ในส่วนของแป้นพมิ พภ์ าษาไทยกแ็ บ่งออกได้ 2 แบบ เชน่ กนั คอื  แป้นพมิ พป์ ตั ตโชติ ซง่ึ เป็นแป้นพมิ พร์ นุ่ เดมิ  แป้นพมิ พเ์ กษมณี ซง่ึ เป็นแป้นพมิ พท์ น่ี ิยมใชใ้ นปจั จบุ นั 1.2 เมาส์ (Mouse) คือ อุ ป ก ร ณ์ น า เ ข้า ข้อ มูล ท่ีนิ ย ม ใ ช้กัน โดยทวั่ ไปอกี ชนิดหน่ึง ซง่ึ ใช้งานง่ายและสะดวกกว่า แป้นพมิ พ์มาก เน่ืองจากไม่ต้องจดจาคาสงั่ สาหรบั ป้อนเขา้ ส่เู ครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ เมาส์สามารถแบ่งออกตามโครงสร้างและ รปู แบบการใชง้ านได้ 3 แบบ คอื  เมาส์แบบลูกกล้งิ ชนิดตวั เมาส์เคล่อื นท่ี (Ball Mouse) อาศยั กาหนดจดุ X และ Y โดยกล้งิ ลูกยางทรงกลมไปบนพ้นื เรยี บ (นิยมใชแ้ ผ่นยางรอง เพอ่ื ป้องกนั การล่นื )  เมาส์แบบลูกกล้ิง ชนิดตวั เมาส์อยู่กับท่ี (Track Ball) อาศยั ลูกยางทรงกลมทถ่ี ูก กลง้ิ โดยน้วิ มอื ผใู้ ช้ เพ่อื กาหนดจดุ ตดั X และ Y  เมาสแ์ บบแสง (Optical Mouse) มลี กั ษณะการใชง้ านเช่นเดยี วกบั Ball Mouse แต่อาศยั แสง แทนลกู กลง้ิ ในการกาหนดจดุ ตดั X และ Y โดยแสงจากตวั เมาสพ์ ุ่งลงส่พู น้ื แลว้ สะทอ้ นกลบั ขน้ึ สู่ ตวั รบั แสงบนตวั เมาสอ์ กี ครงั้ (แผ่นรองเป็นแบบสะทอ้ นแสง) การใชเ้ มาสม์ กั จะใชแ้ ผ่นรองเมาส์ ซง่ึ เป็นฟองน้ารปู สเ่ี หล่ยี ม เพ่อื ป้องกนั สง่ิ สกปรกไม่ใชเ้ กาะตดิ ลูกกล้งิ หากลูกกล้งิ สกปรกจะทาให้ฝืด เมาส์เคล่อื นทล่ี าบาก การทาความสะอาด สามารถถอดลูกกล้งิ ออกมาทาความสะอาดได้ และควรทาบ่อยๆ เพอ่ื ไมใ่ หส้ กปรกมากเกนิ ไป รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพ้นื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

5 1.3 อปุ กรณ์โอซีอาร์ (OCR) อุปกรณ์โอซอี าร์ (Optical Character Recognition: OCR) เป็น อุปกรณ์ทร่ี บั ขอ้ มลู เขา้ สรู่ ะบบไดโ้ ดยตรง โดยใชเ้ ทคนิคอ่านค่าของขอ้ มลู ดว้ ยแสง โดยอุปกรณ์ชนิดน้ีจะทาหน้าทเ่ี ป็นแหล่งกาเนิดแสงและรบั แสง สะทอ้ นทส่ี ่องผ่านกลบั มาจากวตั ถุ แลว้ แปลงรหสั ขอ้ มลู ใหอ้ ย่ใู นรปู แบบ ทเ่ี คร่อื งคอมพวิ เตอรเ์ ขา้ ใจได้ ประเภทของอุปกรณ์โอซอี าร์ แบ่งไดต้ าม ลกั ษณะของขอ้ มลู ทจ่ี ะนาเขา้ ไดด้ งั น้ี โอเอม็ อาร์ (Optical Mark Readers : OMR) เป็นเครอ่ื งท่ี สามารถอ่านรอยเคร่อื งหมาย ท่เี กิดจากดนิ สอในกระดาษท่มี รี ูปแบบ เฉพาะ ซง่ึ มกั ใชใ้ นการตรวจขอ้ สอบหรอื การลงทะเบยี น โดยเคร่อื งจะ ส่องไฟผา่ นกระดาษทอ่ี ่าน และจะสะทอ้ นแสงทเ่ี กดิ จากเคร่อื งหมายทท่ี า ข้ึนโดยดินสอ เน่ืองจากรอยดินสอเกิดข้ึนจากดินสอท่ีมีตะกัว่ อ่อน (ปรมิ าณถ่านกราไฟตส์ งู ) จงึ เกดิ การสะทอ้ นแสงได้ Wand Readers เป็นอุปกรณ์ทใ่ี ชม้ อื ควบคุม โดยจะนาอุปกรณ์น้ีส่องลาแสงไปยงั ตวั อกั ษรแบบ พเิ ศษ เพ่อื ทาการแปลงตวั อกั ษรนนั้ ใหเ้ ป็นสญั ญาณไฟฟ้าและส่งไปใหค้ อมพวิ เตอรป์ ระมวลผล เคร่อื งมอื Wand Readers น้ีจะเช่อื มต่อกบั อุปกรณ์ทเ่ี รยี กว่า POS (Point-of-sale Terminal) อกี ที โดยตวั อยา่ งของ เครอ่ื ง POS น้จี ะเหน็ ไดท้ วั่ ไปในหา้ งสรรพสนิ คา้ ทใ่ี ชส้ าหรบั แสดงจานวนเงนิ ทเ่ี คาน์เตอรค์ ดิ เงนิ Hand Written Character Device เป็นอุปกรณ์ทส่ี ามารถอ่าน ขอ้ มลู ทเ่ี ขยี นดว้ ยลายมอื ได้ เพ่อื ลดขนั้ ตอนมนการพมิ พด์ ว้ ยแป้นพมิ พ์ เขา้ ส่เู คร่อื งคอมพวิ เตอร์ แต่ลายมอื ท่เี ขยี นจะต้องเป็นรปู แบบทอ่ี ่านได้ งา่ ยไมก่ ากวม Bar Code Reader มลี กั ษณะการใชง้ านเหมอื นกบั เคร่อื ง Wand Readers แต่ใชก้ บั การอ่านรหสั แท่ง (Bar Code) ทม่ี ลี กั ษณะเป็นรหสั รปู แท่งเรยี งกนั เป็นแถวในแนวตงั้ เพ่อื แปลรหสั แท่งน้ีใหก้ ลายเป็นขอ้ มลู ท่ี คอมพวิ เตอรเ์ ขา้ ใจ 1.4 สแกนเนอร์ (Scanner) เป็นอุปกรณ์นาเขา้ ขอ้ มูลประเภททไ่ี ม่สะดวกในการป้อนเขา้ เคร่อื งคอมพิวเตอร์ทางคีย์บอร์ดได้ เช่น ภาพโลโก้ วิวทิวทศั น์ ภาพถ่ายรูปคน สตั ว์ ฯลฯ เราสามารถใช้สแกนเนอรส์ แกนภาพเพ่อื แปลงเป็นข้อมูลเขา้ ไปสู่เคร่อื งได้โดยตรง หน่วยประมวลผลจะนา ขอ้ มลู ทไ่ี ดร้ บั มานนั้ แสดงเป็นภาพใหป้ รากฏอยบู่ นจอภาพ เพ่อื นามา แกไ้ ขสี รปู รา่ ง ตดั แต่ง และนาภาพไปประกอบงานพมิ พอ์ ่นื ๆ ได้ การทางานของสแกนเนอรอ์ าศยั หลกั การสะทอ้ นแสง โดยเม่อื เราวางภาพลงไปในสแกนเนอร์ ซ่งึ ขน้ึ อย่กู บั ลกั ษณะวธิ กี ารใชง้ านของสแกนเนอรแ์ ต่ละแบบว่าจะใส่ภาพเขา้ ไปอย่างไร สแกนเนอรจ์ ะทาการ ฉายแสงไปกระทบกบั วตั ถุให้สะทอ้ นไปตกบนตวั รบั แสงทลี ะแถว ขอ้ มลู ในแถวนัน้ ๆ ก็จะถูกแปลงเป็นจุด รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพ้นื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

6 เลก็ ๆ เป็นสญั ญาณดจิ ติ อลเขา้ ไปเกบ็ ในหน่วยความจา เมอ่ื ตน้ กาเนิดแสง และตวั รบั แสงเล่อื นไปยงั ภาพแถวต่อไปสญั ญาณทไ่ี ดจ้ ากแถวต่อมากจ็ ะ ถูกส่งต่อเน่ืองกนั ไปจนสุดภาพ สแกนเนอรแ์ บ่งเป็น 3 ประเภทหลกั ๆ คอื สแกนเนอรม์ อื ถอื (Hand-Held Scanner) มขี นาดเลก็ ราคาไม่ แพงนกั เกบ็ ภาพขนาดเลก็ ๆ ซง่ึ ไม่ต้องการความละเอยี ดมากนกั ได้ เช่น โลโก้ ลายเซน็ เป็นตน้ สแกนเนอรด์ งึ กระดาษ (Sheet-Fed Scanner) เป็นสแกนเนอรท์ ่ี ใหญ่กว่าสแกนเนอรม์ อื ถอื ใชห้ ลกั การดงึ กระดาษขน้ึ มาสแกนทลี ะแผ่น แต่มขี อ้ จากดั คอื ถา้ ตอ้ งการสแกน ภาพจากหนงั สอื ทเ่ี ป็นรปู เล่ม ตอ้ งฉีกกระดาษออกมาทลี ะแผ่น ทาให้ไมส่ ะดวกในการสแกน คุณภาพทไ่ี ด้ จากสแกนเนอรป์ ระเภทน้อี ยใู่ นระดบั ปานกลาง สแกนเนอรแ์ ท่นเรยี บ (Flatbed Scanner) เป็นสแกนเนอรท์ ม่ี กี ระจกใสไวส้ าหรบั วางภาพทจ่ี ะสแกน เหมอื นเคร่อื งถ่ายเอกสาร คุณภาพของงานสแกนประเภทน้ีจะดกี ว่าสแกนเนอรแ์ บบมอื ถอื หรอื สแกนเนอร์ แบบดงึ กระดาษ แต่ราคาสงู กวา่ เช่นกนั ปจั จุบนั สแกนเนอรร์ นุ่ ใหมๆ่ มขี ดี ความสามารถในการใชง้ านมากขน้ึ ทงั้ ในเรอ่ื งของความเรว็ และ ความละเอยี ดของภาพทไ่ี ด้จากการสแกน นอกจากน้ียงั สามารถสแกนจากวตั ถุอ่นื ๆ ทไ่ี ม่ใช่กระดาษเพยี ง อย่างเดยี ว เช่น วตั ถุ 3 มติ ิ ทม่ี ขี นาดและน้าหนักท่ไี ม่มากจนเกนิ ไป หรอื แมก้ ระทงั่ ฟิลม์ และสไลดข์ องภาพ ตน้ ฉบบั เขา้ สเู่ ครอ่ื งคอมพวิ เตอรไ์ ดเ้ ลย โดยทผ่ี ใู้ ชไ้ มจ่ าเป็นต้องไปอดั ขยายเป็นภาพถ่ายปกตเิ หมอื นในอดตี รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพน้ื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

7 2. ซีพียหู รือหน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit) เปรียบได้กับสมองของมนุษย์ เป็นส่วนท่ีทาหน้าท่ีควบคุมและ ประมวลผลของเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ มลี กั ษณะเป็นช้นิ ส่วนอิเลก็ ทรอนิกส์ ขนาดเลก็ มาก ภายในประกอบดว้ ยทรานซสิ เตอรป์ ระกอบกนั เป็นวงจรหลาย ลา้ นตวั 2.1 ซีพียูหรือหน่วยประมวลผลกลาง ประกอบดว้ ยส่วนประกอบ หลกั 2 สว่ น คอื 2.1.1 Control Unit หรือ ส่วนควบคมุ คอื ส่วนท่ีทาหน้าท่ีสร้างสญั ญาณและส่งสญั ญาณไปควบคุมการ ทางานของส่วนประกอบต่างๆ ในระบบคอมพวิ เตอร์ คลา้ ยการส่งสญั ญาณ ควบคุมจากสมองไปส่สู ่วนต่างๆ ของร่างกาย ส่วนควบคุมน้ีไมไ่ ดท้ าหน้าท่ี ประมวลผลขอ้ มลู แต่มหี น้าทป่ี ระสานงานใหส้ ่วนประกอบต่างๆ สามารถทางานรว่ มกนั ไดอ้ ยา่ งเป็นระบบ สญั ญาณควบคุมจานวนมาก สามารถเดนิ ทางไปยงั ส่วนประกอบต่างๆ ของระบบคอมพวิ เตอรไ์ ด้ ดว้ ยตวั ส่งสญั ญาณทเ่ี รยี กว่า บสั (Bus) ซง่ึ ประกอบดว้ ย Control Bus, Data Bus และ Address Bus ทท่ี า หน้าทส่ี ่งสญั ญาณควบคุม ส่งสญั ญาณขอ้ มูล และส่งตาแหน่งท่อี ย่ขู องขอ้ มูลในส่วนความจา ตามลาดบั ดงั นนั้ บสั จงึ เปรยี บเสมอื นพาหนะทใ่ี ชข้ นส่งขอ้ มลู ไปส่สู ว่ นประกอบต่างๆ ของระบบนนั่ เอง 2.1.2 Aritmetic and Logic Unit : ALU หรือ ส่วนคานวณและเปรียบเทียบข้อมลู ทาหน้าท่คี านวณและเปรยี บเทยี บข้อมูล โดยอาศยั หลกั การทางคณิตศาสตร์ (Arithmetic) และ ตรรกศาสตร์ (Logic) ตามลาดบั การประมวลผลดว้ ยหลกั การทางคณิตศาสตร์ คอื การคานวณทต่ี อ้ งกระทากบั ขอ้ มลู ประเภทตวั เลข (Numeric) เช่น การบวก ลบ คูณ หาร ฯลฯ ให้ผลลพั ธ์ท่หี ลากหลาย แต่การประมวลผลด้วยหลกั ตรรกศาสตร์ คอื การเปรยี บเทยี บขอ้ มลู ทก่ี ระทากบั ขอ้ มลู ตวั อกั ษร สญั ลกั ษณ์ หรอื ตวั เลข (Character) ให้ ผลลพั ธเ์ พยี งสองสภาวะ เช่น 0-1, ถกู -ผดิ หรอื จรงิ -เทจ็ เป็นตน้ คอมพวิ เตอรแ์ ต่ละเคร่อื ง มกั มี ALU เพยี งชุดเดยี ว ยกเวน้ ในกรณีเคร่อื งคอมพวิ เตอรข์ นาดใหญ่ ท่ี อาจมี ALU มากกว่าหน่ึงชุด ซง่ึ มกั พบในเครอ่ื งทม่ี กี ารประมวลผลแบบ Multi-Processing (ประมวลผลงาน เดยี ว โดยอาศยั ตวั ประมวลผลหลายตวั ) รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพน้ื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

8 2.2 ความเรว็ ของซีพียู ค่าความเรว็ ของซพี ยี นู นั้ จรงิ ๆแลว้ กค็ อื ค่าความถ่ขี องสญั ญาณนาฬกิ า ซง่ึ เป็นตวั กาหนดความเรว็ ในการทางานของซพี ยี ู และคอยใหจ้ งั หวะในการทางานแก่วงจรและอุปกรณ์ต่างๆภายในเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ ใหท้ างานได้อย่างสอดคลอ้ งกนั ความถ่ขี องสญั ญาณนาฬกิ าน้ีมหี น่วยเป็น เฮริ ตซ์ (Hertz) ซง่ึ บอกใหร้ วู้ ่า ภายในเวลา 1 วนิ าทมี สี ญั ญาณนาฬกิ าน้ีเกดิ ขน้ึ จานวนก่ลี กู คล่นื (Pulse) ดงั นนั้ ความเรว็ 1 เมกะเฮริ ตซ์ (MHz) จงึ หมายถงึ 1 ลา้ นเฮริ ตซ์ หรอื 1 ลา้ นลกู คลน่ื ต่อวนิ าที สญั ญาณนาฬกิ าทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ซพี ยี มู ี 2 สว่ นหลกั ๆ คอื  สญั ญาณนาฬกิ าภายในซพี ยี ู เป็นสญั ญาณทใ่ี หจ้ งั หวะในการทางานภายในตวั ซพี ยี เู อง  สญั ญาณนาฬกิ าภายนอกซพี ยี ู เป็นสญั ญาณทใ่ี หจ้ งั หวะในการทางานแก่บสั (Bus) ทซ่ี พี ยี ู ใชร้ บั ส่งขอ้ มูลกบั หน่วยความจา คอื เสน้ ทางลาเลยี งขอ้ มลู ระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ตงั้ แต่ 2 อุปกรณ์ขน้ึ ไป โดยบสั ทเี่ ชอื่ มต่อระหว่างซพี ยี ูกบั หน่วยความจาน้ีจะเรยี กว่า Front Side Bus (FSB) ทงั้ น้ี ความเรว็ ของสญั ญาณนาฬิกาภายนอกซพี ยี ู หรอื ความเร็วของ FSB นัน้ จะสมั พนั ธ์กับ ความเรว็ ของสญั ญาณนาฬกิ าภายในซพี ยี ู ดงั สมการน้ี ความเรว็ ของสญั ญาณนาฬกิ าภายในซพี ยี ู = ตวั คณู x ความเรว็ ของ FSB ตารางเปรยี บเทยี บความแตกต่างระหว่างโปสเซสเซอรร์ ุน่ ต่างๆท่ี Intel ผลติ ออกมาตลอดระยะเวลา 30 ปีทผ่ี ่านมา ตงั้ แต่ปี 1974 ถงึ ปี 2004 Name Date Transistors Microns Clock speed Data width MIPS 8080 1974 6,000 6 2 MHz 8088 8 bits 0.64 80286 80386 1979 29,000 3 5 MHz 16 bits 0.33 80486 8-bit bus Pentium 1982 134,000 1.5 6 MHz 16 bits 1 Pentium II 1985 275,000 1.5 16 MHz 1989 1,200,000 1 25 MHz 32 bits 5 Pentium III 32 bits 20 Pentium 4 Pentium 4 1993 3,100,000 0.8 60 MHz 32 bits 100 \"Prescott\" 64-bit bus 1997 7,500,000 0.35 233 MHz 32 bits ~300 64-bit bus 1999 9,500,000 0.25 450 MHz 32 bits ~510 64-bit bus 2000 42,000,000 0.18 1.5 GHz 32 bits ~1,700 64-bit bus 2004 125,000,000 0.09 3.6 GHz 32 bits ~7,000 64-bit bus from The Intel Microprocessor Quick Reference Guide and TSCP Benchmark Scores *MIPS คือ Millions of Instructions Per Second รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพ้นื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

9 2.3 หน่วยความจาแคช (Cache Memory) หน่วยความจาแคช (Cache Memory) คือ หน่วยความจาความเรว็ สูง ทาหน้าทเ่ี ก็บขอ้ มลู หรอื คาสงั่ ต่าง ๆ ท่ซี พี ยี ูมกั เรยี กใช้งานบ่อยๆ ไว้ชวั่ คราว เพ่อื ลด ภาระการทางานระหว่างซพี ยี กู บั หน่วยความจาแรม ทงั้ น้ี ซพี ยี ูสามารถเรยี กใช้ข้อมูลในหน่วยความจาแคชได้เลย ทนั ทโี ดยไม่ต้องเสยี เวลาตดิ ต่อกบั หน่วยความจาแรมหรอื ฮารด์ ดสิ กซ์ ง่ึ จะชา้ กวา่ มาก หน่วยความจาแคชจะใชว้ งจรแบบ Static RAM ท่ี มคี วามเรว็ สงู แต่กม็ คี วามรอ้ นสงู เชน่ กนั หน่วยความจาแคชโดยมากจะมอี ยู่ 2 ระดบั (Level) คอื แคชระดบั 1 หรอื Level 1 (L1 Cache) จะอยภู่ ายในซพี ยี ูและมขี นาดไม่ใหญ่มากนกั และแคชระดบั 2 หรอื Level 2 (L2 Cache) ซง่ึ ปจั จุบนั กจ็ ะอย่ภู ายในตวั ซพี ยี ูเช่นเดยี วกนั และในซพี ยี ูบางรนุ่ อาจมกี ารเพม่ิ แคชระดบั 3 เขา้ ไปดว้ ย 2.4 บรรจภุ ณั ฑ์ (Packaging) และฐานรอง (Socket) ของซีพียู แบบตลบั (Cartridge) สามารถแบง่ เป็น 4 แบบ แบบ BGA (ในภาพคอื ชปิ เซต็ )  แบบตลบั (Cartridge) ใชส้ าหรบั เสยี บลงในช่องเสยี บบน แบบ PGA เมนบอรด์ ทเ่ี รยี กว่า สลอ็ ต (Slot) ซง่ึ ซพี ยี แู ต่ละค่ายจะใช้ Slot ของตนเองและไมเ่ หมอื นกนั ในปจั จุบนั ไดเ้ ลกิ ผลติ แลว้ เช่น ซพี ยี ขู อง Intel รนุ่ Pentium II และซพี ยี ูของ AMD รนุ่ K7 เป็นตน้  แบบ BGA (Ball Grid Array) จะมลี กั ษณะเป็นแผ่นแบนๆ ทด่ี ้านหน่ึงจะมวี ตั ถุทรงกลมนาไฟฟ้าขนาดเลก็ เรยี งตวั กนั อยา่ งเป็นระเบยี บทาหน้าทเ่ี ป็นขาของชปิ เวลานาไปใชง้ าน ส่วนมากมักจะต้องบัดกรียึดจุดสัมผัสต่างๆ ติดกับ เมนบอร์ดเลย จงึ มกั นาไปใช้ทาเป็นชปิ ท่อี ยู่บนเมนบอร์ด ซง่ึ เปลย่ี นแปลงไม่ได้ เช่น ชปิ เซต็ และ ชปิ หน่วยความจา เป็นตน้  แบบ PGA (Pin Grid Array) จะมลี กั ษณะเป็นแผ่น แบนๆ ทด่ี า้ นหน่ึงจะมขี า (Pin) จานวนมากยน่ื ออกมา จากตวั ชปิ เป็นแบบท่นี ิยมใช้กนั มานาน ขาจานวนมาก เหล่าน้ีจะใช้เสยี บลงบนฐานรองหรอื ท่เี รยี กว่าซอ็ คเก็ต (Socket)ท่อี ย่บู นเมนบอรด์ ซ่งึ เอาไวส้ าหรบั เสยี บซพี ยี ู แบบ PGA น้ีโดยเฉพาะ โดย socket น้ีมหี ลายแบบ รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพ้นื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

10 สาหรบั ซพี ยี ูแตกต่างกนั ไปเสยี บข้าม socket กนั ไม่ได้ เพราะมจี านวนช่องท่ใี ชเ้ สยี บขาซพี ยี ู แตกต่างกนั (ดตู วั อยา่ งทห่ี วั ขอ้ 5.2.1 ชอ่ งสาหรบั ตดิ ตงั้ ซพี ยี )ู  แบบ LGA (Land Grid Array) เป็นบรรจภุ ณั ฑท์ ่ี Intel นามาใช้กบั ซีพียูรุ่นใหม่ๆ ลกั ษณะจะเป็นแผ่นแบนๆ ท่ี ดา้ นหน่งึ จะมแี ผ่นตวั นาวงกลมแบนเรยี บขนาดเลก็ จานวน มากเรยี งตวั กนั อยอู่ ย่างเป็นระเบยี บ ทาหน้าทเ่ี ป็นขาของ ชปิ ทาใหเ้ ม่อื เวลามองจากทางดา้ นขา้ งจะไม่เหน็ ส่วนใดๆ ย่นื ออกมาจากตวั ชปิ เหมอื นกบั แบบอ่นื ๆทผ่ี ่านมา ซพี ยี ูท่ี ใช้บรรจุภัณฑ์แบบน้ีจะถูกติดตัง้ ลงบนฐานรองหรือ แบบ LGA Socket แบบ Socket T หรอื ชอ่ื ทางการคอื LGA 775 โดย Socket แบบน้จี ะไมม่ ชี ่องสาหรบั เสยี บขาซพี ยี เู หมอื นกบั แบบ PGA แต่จะมขี าเลก็ ๆจานวนมาก ยน่ื ขน้ึ มาจากฐานรอง 2.5 อปุ กรณ์ช่วยระบายความรอ้ นให้ซีพียู (CPU Fan & Heat Sink) ขณะท่ีซีพียูทางานจะเกิดความร้อนค่อนข้างมาก จึงต้องมีอุปกรณ์ท่ี เรยี กวา่ ฮตี ซงิ ค์ (Heat Sink) มาช่วยพาความรอ้ นออกมาจากซพี ยี ใู หเ้ รว็ ทส่ี ุด และ จะตอ้ งใชพ้ ดั ลมเปา่ เพอ่ื รายความรอ้ นออกไปโดยเรว็ 2.6 สารเช่ือมความรอ้ น (Thermal Grease) สารเช่อื มความรอ้ น หรอื ทเ่ี รยี กกนั โดยทวั่ ไปว่า ซิลิโคน (Silicone) เป็นสารชนิดหน่ึงทท่ี ามาจาก ซลิ โิ คนผสมกบั สารนาความรอ้ นบางชนิด เช่น Zinc Oxide ซง่ึ มคี ุณสมบตั เิ ป็นตวั กลางในการนาพาความ รอ้ นไดด้ ี มกั ใชท้ าฉาบไว้บางๆ เพ่อื ไม่ให้มชี ่องว่างระหว่างซพี ยี กู บั Heat Sink และทาหน้าทช่ี ่วยในการ ถ่ายเทหรอื พาความรอ้ นจากซพี ยี ไู ปสู่ Heat Sink ไดด้ ยี งิ่ ขน้ึ รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพ้นื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

11 3. หน่วยความจาหลกั (Main Memory) หน่วยความจาหลกั เป็นหน่วยความจาพน้ื ฐานในคอมพวิ เตอรท์ ุกเคร่อื ง เป็นหวั ใจของการทางานใน รปู แบบอตั โนมตั ิ มหี น้าท่เี กบ็ ขอ้ มลู ต่างๆ ทป่ี ้อนเขา้ มาเพ่อื ใหห้ น่วยประมวลผลนาไปใช้ และเก็บขอ้ มลู ท่ี เกย่ี วกบั คุณสมบตั แิ ละระบบการทางานของเครอ่ื งคอมพวิ เตอรด์ ว้ ย หน่วยความจาหลกั ของคอมพวิ เตอรแ์ บง่ ออกเป็น 2 ประเภทหลกั ๆ ดงั น้ี 3.1 หน่วยความจาแบบถาวร (Read Only Memory - ROM) คอื หน่วยความจาทน่ี าขอ้ มลู ออกมาใชง้ านเพยี งอยา่ งเดยี ว (Read Only) โดยมกี ารบนั ทกึ ขอ้ มลู ไวล้ ว่ งหน้าแลว้ สามารถเกบ็ รกั ษาขอ้ มลู ไวไ้ ด้ โดยไม่ต้องอาศัยพลงั งานไฟฟ้าในการรกั ษาข้อมูล แม้เราจะปิดเคร่อื ง หรอื ไมม่ ไี ฟฟ้าไปหลอ่ เลย้ี ง ขอ้ มลู ทอ่ี ยใู่ นรอมกจ็ ะยงั คงอยู่ ไมส่ ญู หายไป ในปจั จุบนั หน่วยความจาถาวรน้ี เปิดโอกาสให้สามารถลบหรอื แก้ไขขอ้ มลู ได้ เช่น การปรบั ปรุง/แก้ไขขอ้ มลู เก่ยี วกบั ระบบคอมพวิ เตอร์ (System Configuration) เป็นตน้ 3.2 หน่วยความจาชวั่ คราว (Random Access Memory - RAM) คอื หน่วยความจาท่สี ามารถบนั ทกึ ขอ้ มูลหรอื อ่านขอ้ มูล ณ เวลาใดๆ ไดต้ ามต้องการ (Random Access) ตอ้ งอาศยั สญั ญาณไฟฟ้าในการเกบ็ รกั ษา ขอ้ มลู และอ่านขอ้ มลู ฉะนัน้ ขอ้ มูลท่อี ย่ใู นแรมจะสูญหายไปทนั ทที ป่ี ิดเคร่อื ง หรอื ไมม่ ไี ฟฟ้าไปหล่อเลย้ี ง แรมเป็นหน่วยความจาทใ่ี กลช้ ดิ และเกย่ี วขอ้ งกบั ผใู้ ชเ้ ครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ โดยตรง เน่อื งจากการรบั ขอ้ มลู การประมวลผล และการแสดงผลขอ้ มลู ต่างตอ้ งอาศยั พน้ื ทใ่ี นหน่วยความจา น้ีทงั้ สน้ิ กล่าวได้ว่า แรมเป็นหน่วยความจาทเ่ี ป็นตวั บ่งช้ปี ระสทิ ธภิ าพของเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ท่สี าคญั ขนาดของแรมหรอื ความจุของแรมเปรยี บเสมอื นขนาดของโต๊ะทางาน หากแรมมคี วามจุมากกเ็ หมอื นโต๊ะ ทางานทม่ี พี น้ื ทใ่ี นการทางานไดม้ ากนนั่ เอง หน่วยความจาแรม มหี น่วยวดั เป็นไบต์ ซง่ึ ถ้าเป็นเคร่อื งรนุ่ เก่า จะนิยมใชห้ น่วยความจาแรม 32 หรอื 64 เมกะไบต์ (MB) แต่ถา้ เป็นเครอ่ื งรุน่ ใหม่ๆ จะนิยมใชแ้ รมขนาด 512 MB ขน้ึ ไป ซง่ึ จะทาใหส้ ามารถ ทางานทม่ี ขี นาดใหญ่ๆ เช่น งานมลั ตมิ เิ ดยี หรอื งานกราฟิกได้ โดยหากใชห้ น่วยความจาแรมน้อย เคร่อื งอาจ ทางานชา้ มากหรอื อาจหยดุ ชะงกั ไดง้ า่ ย รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพ้นื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

12 4. หน่วยความจาสารอง เน่อื งจากหน่วยความจาหลกั ในเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ ไมส่ ามารถรกั ษาขอ้ มลู ไวไ้ ดห้ ลงั จากปิดเครอ่ื ง คอมพวิ เตอร์ ดงั นนั้ การบนั ทกึ ขอ้ มลู ลงบนหน่วยความจาสารอง จงึ มคี วามจาเป็นในการเกบ็ รกั ษาขอ้ มลู ไว้ ใช้ในอนาคต และทาให้สามารถนาข้อมูลจากเคร่อื งคอมพวิ เตอรเ์ คร่อื งหน่ึง เคล่อื นย้ายไปสู่เคร่อื ง คอมพวิ เตอรเ์ ครอ่ื งอ่นื ในระบบเดยี วกนั ไดอ้ กี ดว้ ย หน่วยความจาสารอง แบ่งออกตามความสามารถในการเขา้ ถงึ ขอ้ มลู ได้ 2 ประเภท ดงั น้ี 4.1.หน่วยความจาสารองที่เข้าถงึ ข้อมลู ได้โดยลาดบั (Sequential Access Storage) เป็นหน่วยความจาสารองทต่ี อ้ งมกี ารจดั เกบ็ และเรยี กใชข้ อ้ มลู โดยการเรยี งลาดบั การสบื คน้ หรอื เขา้ ถงึ ขอ้ มลู จงึ ล่าชา้ เพราะตอ้ งเป็นไปตามลาดบั ก่อนหลงั ของการบนั ทกึ ซง่ึ หน่วยความจา สารองประเภทน้ี ไดแ้ ก่ เทปแมเ่ หลก็ (Magnetic Tape) 4.2.หน่วยความจาสารองท่ีเข้าถึงข้อมลู ได้โดยตรง (Random/Direct Access Storage) เป็นหน่วยความจาสารองทส่ี ามารถจดั เก็บและเรยี กใชข้ อ้ มลู ท่ตี ้องการไดโ้ ดยตรง ไม่ต้อง อ่านเรยี งลาดบั เหมาะกบั งานทต่ี อ้ งอาศยั การประมวลผลแบบโต้ตอบ ตอ้ งการขอ้ มลู ทร่ี วดเรว็ ซง่ึ ไดแ้ ก่ จานแม่เหลก็ (Magnetic Disk) ประเภทต่างๆ เช่น ฟลอปป้ีดสิ ก์ (Floppy Disk) ฮารด์ ดสิ ก์ (Hard Disk) ซดี รี อม (CD-ROM) และ ดวี ดี ี (DVD) นนั่ เอง ตวั อยา่ งหน่วยความจาสารอง ไดแ้ ก่  บตั รเจาะรู (Punched Card) บตั รเจาะรูเป็นหน่วยความจาสารองแบบดงั้ เดมิ มลี กั ษณะ โครงสรา้ งเป็นบตั รกระดาษเจาะรใู ห้แสงลอดผ่าน เพ่อื กาหนดสภาวะ 0 หรอื 1 (แสงลอดผา่ น คอื 1 และแสงลอดผ่านไมไ่ ด้ คอื 0) บตั รเจาะรนู นั้ เดมิ เป็นบตั รโลหะ เรม่ิ ใชค้ รงั้ แรกราวปี พ.ศ. 2344  เทปแมเ่ หลก็ (Magnetic Tape) นิยมใชก้ บั เครอ่ื งคอมพวิ เตอรข์ นาดกลางถงึ ขนาดใหญ่ มลี กั ษณะเป็น สายเทปแบบมว้ นเปลอื ย (Open Reel) หรอื แบบตลบั (Cassette) ตวั สายเทป ทาด้วยพลาสตกิ ชนิดพเิ ศษ เคลอื บผวิ ด้วยออกไซดข์ องโลหะ (Iron Oxide) และเคลอื บอกี ชนั้ ดว้ ยสารประกอบชนิดหน่ึง เพ่อื ป้องกนั การสกึ หรอของสาย เทปและชว่ ยใหเ้ กดิ จดุ แมเ่ หลก็ (Magnetized Spot) ไดง้ า่ ยขน้ึ  ฟลอปป้ีดสิ ก์ (Floppy Disk) ฟลอปป้ีดสิ ก์ หรอื ท่เี รยี กว่า ดสิ ก์เก็ต (Diskette) มลี กั ษณะเป็น แผ่นแม่เหล็กสดี าทรงกลม ทาจากแผ่นพลาสติกไมล่า เคลือบด้วยสาร แม่เหล็ก บรรจุอยู่ในซองพลาสติกแขง็ รูปส่ีเหล่ยี ม เพ่อื ป้องกันแผ่น ดสิ กเ์ กต็ จากฝนุ่ ละออง สง่ิ สกปรก การขดู ขดี และอ่นื ๆ รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพน้ื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

13  ฮารด์ ดสิ ก์ (Hard Disk) เป็นหน่วยความจาสารองท่เี ป็นอุปกรณ์เกบ็ ขอ้ มลู ความเรว็ สูง ทาจากจานแม่เหล็กซ่ึงหมุนด้วยความเร็ว หลายพนั รอบต่อนาที และมหี วั อ่านคอยวิ่งไปอ่านหรือ บนั ทกึ ขอ้ มลู ตามคาสงั่ จากซพี ยี ู ฮาร์ดดิสก์เป็นอุปกรณ์หลักซ่ึงในปจั จุบันไม่ เพยี งแต่ใชเ้ กบ็ ขอ้ มลู เวลาท่ปี ิดเครอ่ื งเท่านนั้ แต่ยงั เป็นท่ี พักข้อมูลระหว่างการทางานในขัน้ ตอนต่างๆ ของ โปรแกรมหรอื ระบบปฏบิ ตั กิ ารดว้ ย ฮาร์ดดสิ ก์มลี กั ษณะเป็นจานแม่เหล็กหลายแผ่น วางซอ้ นกนั โดยอาจมจี านวนแผ่น 3 – 11 แผ่น ซง่ึ จะไมเ่ รยี กว่าดสิ ก์แต่จะเรยี กว่าแพลตเตอร์ (Platter) แทน ซง่ึ แต่ละแพลตเตอรจ์ ะสามารถเกบ็ ขอ้ มลู ไดท้ งั้ สองดา้ น เน่ืองจากแพลตเตอรผ์ ลติ จากสารจาพวกโลหะ หรอื แก้วบางชนิด จงึ ไมส่ ามารถงอไปงอมาไดเ้ หมอื นกบั ฟลอปป้ีดสิ ก์ ทาใหต้ อ้ งมโี ลหะปิดไวท้ ุกดา้ นเพ่อื ป้องกนั การกระทบกระเทอื น นอกจากน้ีฮารด์ ดสิ ก์ยงั มหี วั อ่าน/บนั ทกึ ขอ้ มลู อย่ภู ายในตวั เดยี วกนั ทาใหส้ ามารถอ่านและบนั ทกึ ขอ้ มลู ไดด้ ว้ ยตนเอง และเน่อื งจากฮารด์ ดสิ กม์ แี พลตเตอรห์ ลายๆ แผ่นซอ้ นกนั อยู่ ดงั นนั้ ฮารด์ ดสิ ก์ตวั หน่ึงๆ จะมหี วั อ่านเขยี นเท่ากบั จานวนแพลตเตอรพ์ อดี และหวั อ่านแต่ละหวั จะมกี ารเคล่อื นทเ่ี ขา้ ออกพรอ้ มกนั แต่ เม่อื จะทาการอ่านหรอื บนั ทกึ ขอ้ มลู ลงบนฮารด์ ดสิ ก์ ก็จะมเี พยี งหวั อ่าน 1 หวั เท่านัน้ ท่จี ะทาการอ่านหรอื บนั ทกึ ขอ้ มลู ฮารด์ ดสิ กส์ ามารถเก็บขอ้ มูลไดเ้ ป็นจานวนมาก แลว้ แต่ความจุของแต่ละรุ่น เช่น ฮารด์ ดสิ ก์ ความจุ 80 GB, 120 GB เป็นตน้ ฮารด์ ดสิ กจ์ ะถูกออกแบบมาสาหรบั บนั ทกึ ขอ้ มลู โดยขน้ึ อยกู่ บั สถาปตั ยกรรมในการออกแบบดว้ ยว่า ไดม้ กี ารกาหนดใหม้ ขี นาดความจุต่อแผ่นเท่าใดและในฮารด์ ดสิ ก์แต่ละรุ่นจะต้องใชจ้ านวนแผ่นเท่าใด มี มอเตอรส์ าหรบั ควบคุมการหมนุ ของจานดสิ ก์ (Spindle) โดยอตั ราความเรว็ ในการหมนุ จะเป็น 5400, 7200 และ 10,000 รอบต่อนาที (rpm) ซง่ึ ถ้าจานวนรอบในการหมุนของจานดสิ ก์มรี ะดบั ความถท่ี ส่ี งู กจ็ ะส่งผลให้ สามารถเขา้ ถงึ ขอ้ มลู ไดร้ วดเรว็ ยง่ิ ขน้ึ ตามไปดว้ ย รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพ้นื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

14  ซดี รี อม (CD-ROM) และ ดวี ดี ี (DVD) ซีดีรอม (CD-ROM : Compact Disk Read Only Memory) มลี กั ษณะเป็นแผ่นวงกลม มขี นาด เสน้ ผ่านศูนยก์ ลาง 12 เซนตเิ มตร (4 3/4 น้ิว) ทามาจากแผ่นโพลคี ารบ์ อเนต (Polycarbonate) ซดี รี อมน้ีใช้ หลกั ของแสงในการอ่าน/บนั ทกึ ขอ้ มลู เหมาะสาหรบั ขอ้ มลู ทไ่ี มต่ อ้ งการเปลย่ี นแปลง เพราะเม่อื ทาการบนั ทกึ ขอ้ มลู ลงไปแล้ว จะไม่สามารถนากลบั มาแกไ้ ขเปล่ยี นแปลงขอ้ มลู ใหม่ไดอ้ กี ยกเวน้ แต่จะใชแ้ ผ่นลกั ษณะ พเิ ศษทส่ี ามารถลบและบนั ทกึ ใหมไ่ ด้ ซดี รี อมสามารถเกบ็ ขอ้ มลู ไดถ้ งึ 700 MB หรอื เกบ็ ขอ้ มลู ทเ่ี ป็นภาพ และเสยี งเช่น ภาพยนตรห์ รอื เพลงไดน้ านถงึ 74 นาที ส่วนดีวีดี (Digital Video Disk) เป็นหน่วยความจาสารองอกี ชนิดหน่งึ ทม่ี ลี กั ษณะคลา้ ยกบั แผ่น ซดี รี อม แต่สามารถเกบ็ ขอ้ มลู ไดม้ ากกว่าซดี รี อม 7 เทา่ ตวั (4.7 GB) ซดี รี อมและดวี ดี ไี ม่สามารถทางานไดด้ ว้ ยตนเอง จาเป็นจะตอ้ งมตี วั อ่านข้อมูลเช่นเดยี วกบั แผ่นดสิ ก์เก็ต อุปกรณ์ท่ใี ช้ในการอ่านข้อมูลจาก ซดี รี อม เรยี กว่า ซดี รี อมไดรฟ์ (CD-ROM Drive) ส่วนอุปกรณ์ท่ใี ชส้ าหรบั อ่านดวี ดี ี เรยี กว่า ดวี ดี ไี ดรฟ์ (DVD Drive) โดยดวี ดี ไี ดรฟ์ สามารถอ่าน ขอ้ มลู ไดท้ งั้ แผ่นดวี ดี แี ละจากแผ่นซดี รี อม แต่ซดี รี อมไดรฟ์ ไมส่ ามารถอ่านขอ้ มลู จากแผ่นดวี ดี ไี ด้ ลาดบั ชนั้ ของหน่วยความจา (Memory Heirarchy) หน่วยความจามอี ย่หู ลายชนิด แต่ละชนิดต่างก็มอี ตั ราความเรว็ ทแ่ี ตกต่างกนั รวมทงั้ ขนาดความจุ และราคาทแ่ี ตกต่างกนั สาเหตุทเ่ี ป็นเชน่ นนั้ กเ็ พอ่ื ใหเ้ ราเลอื กหน่วยความจามาใชง้ านไดอ้ ย่างเหมาะสม จากรูปด้านล่าง ลาดบั บนสุดจะเป็นหน่วยความจาทม่ี คี วามเรว็ สูง และลดหลนั่ ลงมาเร่อื ยๆ กจ็ ะมี ความเรว็ ทต่ี ่าลง ในขณะทล่ี าดบั บนสุดนนั้ จะมขี นาดความจนุ ้อย และลดหลนั่ ลงมาเร่อื ยๆ กจ็ ะมคี วามจุท่ีมี ขนาดใหญ่ขน้ึ ในทานองเดยี วกนั หน่วยความจาทม่ี ขี นาดใหญ่นนั้ จะมรี าคาต่ากว่าหน่วยความจาท่มี ขี นาด เลก็ รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพน้ื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

15 5. เมนบอรด์ (Mainboard) เมนบอร์ด (Mainboard) หรอื มาเธอรบ์ อร์ด (Motherboard) เป็นแผงวงจรขนาดใหญ่ ซ่ึงมีการ เช่อื มต่อวงจรต่างๆ สาหรบั เชอ่ื มอุปกรณ์หลายๆ ตวั เขา้ ดว้ ยกนั เมนบอรด์ มคี วามแตกต่างกนั ของรปู แบบหรอื ท่ี เรยี กว่า “ฟอรม์ แฟคเตอร”์ (Form Factor) ซง่ึ กค็ อื ขนาด ของตวั เมนบอรด์ , ตาแหน่งการจดั วางชน้ิ ส่วนอุปกรณ์ และขวั้ ต่อ (Port) ต่างๆ บนเมนบอรด์ ซ่งึ จะมผี ลต่อ รปู แบบของตวั เครอ่ื งหรอื เคส (Case) 5.1 Form Factor หมายถงึ ขนาดของตวั เมนบอรด์ และตาแหน่งของขวั้ ต่ออุปกรณ์ภายนอกต่างๆ โดยจะตอ้ งเขา้ กนั ได้ กบั ชนิดของตวั เครอ่ื งหรอื เคส (Case) ทใ่ี ชด้ ว้ ย 1) AT ใน Form ของ AT นนั้ มแี บบ AT ธรรมดาและ Baby AT ซง่ึ พน้ื ฐานแลว้ ทงั้ สองแบบนนั้ ต่างกนั ทข่ี นาดของบอรด์ บอรด์ AT จะมคี วามกว้างประมาณ 12 น้ิว ซง่ึ ทาใหไ้ มส่ ามารถนามาใส่ กบั เคสในปจั จุบนั ได้ โดยทวั่ ไปแลว้ บอรด์ แบบ AT จะเป็นบอรด์ ชนิดเก่า เช่น 386 หรอื ก่อนหน้าน้ี การจดั การภายในเคสนนั้ ค่อนขา้ งจะมปี ญั หา เน่ืองจากขนาดของเมนบอรด์ มนั จะเหล่อื มล้ากบั ช่อง ใส่ Drive และสว่ นอ่นื ๆ 2) ATX รปู แบบของ ATX พฒั นาขน้ึ มาจาก AT ไดแ้ กไ้ ขขอ้ เสยี ทเ่ี กดิ ขน้ึ กบั AT ออกไป เช่น การ ออกแบบโดยยา้ ยหวั ต่อ (Connector) มาไวบ้ นเมนบอรด์ (Built in - On Board) ทาใหล้ ดความ ยงุ่ ยากในการประกอบ ลดจานวนสายแพ เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพในการส่งขอ้ มลู นอกจากน้ีส่วนทไ่ี ดร้ บั การพฒั นาเพม่ิ ขน้ึ อกี คอื ภาคจ่ายไฟของเมนบอรด์ ซง่ึ ออกแบบให้ใช้พลงั งานอย่างคุม้ ค่าและ สามารถควบคมุ โดยซอฟตแ์ วรไ์ ด้ 3) BTX (Balanced Technology Extended) เป็น Form Factor หรอื รูปแบบของเมนบอร์ดมาตรฐานของอินเทล ซ่งึ นอกจากจะ ประกอบดว้ ย Socket T หรอื LGA 775 ซง่ึ เป็นช่องสาหรบั ตดิ ตงั้ ซพี ยี ใู นตระกูล Prescott ของอนิ เทลแลว้ กย็ งั พ่วงเทคโนโลยอี ยา่ งเช่น การใชห้ น่วยความจา DDR II และมสี ลอ็ ตแบบ PCI Express ซง่ึ ถูกออกแบบมาแทนทส่ี ลอ็ ตเดมิ เชน่ PCI และ AGP เมนบอรด์ แบบ BTX ได้ปรบั ปรุงการระบายความร้อนภายในตวั เคร่อื ง(รวมถงึ ซพี ยี ูด้วย) โดยแยกจดุ ทเ่ี กดิ ความรอ้ นสงู ออกจากกนั และเพมิ่ ตวั กระจายความรอ้ น (Thermal Module) ซง่ึ อาจ มตี วั ยดึ กบั เคสหรอื SRM (Support and retention Module) ดว้ ย รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพน้ื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

16 เปรยี บเทยี บตาแหน่งของการจดั วางระหวา่ ง ATX กบั BTX 5.2 ส่วนประกอบที่สาคญั บนเมนบอรด์ เมนบอรด์ เป็นตวั กาหนดว่าเคร่อื งคอมพวิ เตอรน์ นั้ ๆ จะใชง้ านกบั ซพี ยี ูอะไรได้บา้ ง มปี ระสทิ ธภิ าพ เพยี งใด รองรบั กบั อุปกรณ์ใหมๆ่ ไดห้ รอื ไม่ มขี นาดใหญ่เลก็ เทา่ ไร ดงั นนั้ จงึ จาเป็นอย่างยง่ิ ทจ่ี ะตอ้ งทราบถงึ ส่วนประกอบหลกั ขอ้ จากดั และขดี ความสามารถของเมนบอรด์ เพ่อื ใหส้ ามารถเลอื กใชง้ านไดอ้ ย่างถูกต้อง และเหมาะสมต่อไป รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพ้นื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

17 5.2.1 ช่องสาหรบั ตดิ ตงั้ ซพี ยี ู ซพี ยี ูถอื ไดว้ ่าเป็นตวั หลกั ท่กี าหนดว่าเมนบอรด์ แต่ละรุ่นนัน้ จะนาไปใช้งานร่วมกบั ซพี ยี ูรุ่นใดหรอื แบบใดไดบ้ า้ ง ซง่ึ กจ็ ะเป็นตวั กาหนดชปิ เซต็ , ซอ็ คเกต็ และอ่นื ๆ ทเ่ี หมาะกบั ซพี ยี รู นุ่ นนั้ ๆ ตวั อย่างรปู แบบ ของช่องสาหรบั ตดิ ตงั้ ซพี ยี ู เชน่  Socket 604 ใชก้ บั ซพี ยี ู Xeon และ Xeon Nocona  Socket 603 ใชก้ บั ซพี ยี ู Xeon  Socket T หรอื LGA 775 ใชก้ บั ซพี ยี ขู อง Intel เช่น Pentium4 และ Celeron D แกน Prescott, Pentium4 Extreme Edition, Pentium D (Dual-Core)  Socket 478 ใชก้ บั ซพี ยี ู CeleronII, Celeron D (บางรนุ่ ), Pentium4 (Northwood)  Socket 940 ใชก้ บั ซพี ยี ู Athlon 64 FX และ Opteron ของ AMD  Socket 939 ใชก้ บั ซพี ยี ู Sempron , Athlon 64(0.09 ไมครอน) ของ AMD  Socket 754 ใชก้ บั ซพี ยี ู Athlon 64(0.13 ไมครอน) ของ AMD  Socket A ใชก้ บั ซพี ยี ู Duron, Athlon XP ของ AMD Socket T หรอื LGA 775 Socket 478 Socket 754 Socket A 5.2.2 ช่องสาหรบั ตดิ ตงั้ หน่วยความจา (Memory Slot) หน่วยความจา RAM จะมลี กั ษณะเป็นแผงทม่ี คี วามยาว จานวนขา (Pin) และรอยบากทแ่ี ตกต่างกนั ดงั นนั้ จงึ ตอ้ งมกี ารออกแบบชอ่ งเสยี บใหต้ รงชนิดของ RAM ทจ่ี ะนามาใช้  แบบ 30 Pin ใชใ้ นเครอ่ื งรนุ่ ตงั้ แต่ก่อนทจ่ี ะมซี พี ยี ู 486 มคี วามกวา้ งของบสั แผงละ 8 บติ  แบบ 72 Pin ใชใ้ นเครอ่ื ง ตงั้ แต่ซพี ยี ู 486 ไปจนถงึ Pentium มคี วามกวา้ งของบสั แผงละ 32 บติ  แบบ 168 Pin ใชก้ บั แผงหน่วยความจาประเภท SDRAM มกั เรยี กว่า “DIMM Slot” (Dual In-line Memory Module) มคี วามกวา้ งของบสั ขนาด 64 บติ รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพ้นื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

18  แบบ 184 Pin ช่องเสยี บแบบน้ีถูกนาไปใช้กบั RAM 2 ประเภทท่ใี ช้แทนกนั ไม่ไดค้ อื ใช้กบั RDRAM (Rambus DRAM) แบบ 16 บติ ซง่ึ เรยี กว่า “RIMM Slot” กบั ประเภท DDR- SDRAM ซง่ึ เรยี กว่า “DIMM Slot” เช่นเดยี วกบั แบบ 168 Pin แต่ต่างกนั ทจ่ี านวนขาและ ตาแหน่งบากกลางรอ่ ง  แบบ 232 Pin ใชก้ บั แผงหน่วยความจา RDRAM แบบ 32 บติ (ใชก้ บั เมนบอรด์ เพยี งไมก่ ร่ี นุ่ )  แบบ 240 Pin ใช้สาหรบั แผงหน่วยความจาประเภท DDR2-SDRAM หรอื DDR II ท่เี ป็น หน่วยความจารุ่นปจั จุบนั สาหรบั เคร่อื งพซี ี ซ่งึ นอกจากจะทางานดว้ ยความถ่ที ่สี ูงกว่าเดมิ และรองรบั เทคโนโลยี Dual-Channel ซง่ึ ให้ Bandwidth ทเ่ี พมิ่ มากขน้ึ แลว้ ยงั รองรบั ความจุ สงู สุดไดม้ ากถงึ แผงละ 4 GB 5.2.3 ชปิ เซต็ (Chipset) เป็นองคป์ ระกอบหลกั ทถ่ี ูกตดิ ตงั้ อยา่ งถาวรบนเมนบอรด์ ไมส่ ามารถถอดหรอื เปลย่ี นแปลงได้ ชปิ เซต็ มคี วามสาคญั อยา่ งมาก เน่อื งจากเป็นตวั กาหนดอุปกรณ์อ่นื ๆ บนเมนบอรด์ เช่น  กาหนดชนดิ ของซอ็ คเกต็ ซง่ึ จะเป็นตวั กาหนดวา่ เมนบอรด์ น้จี ะใชก้ บั ซพี ยี ชู นดิ ใดไดบ้ า้ ง  รองรบั หน่วยความจาชนิดใดไดบ้ า้ ง  มสี ลอ็ ตประเภทใดถกู ตดิ ตงั้ ไวบ้ นเมนบอรด์ ไดบ้ า้ ง  สามารถทางานรว่ มกบอุปกรณ์ประเภทใดไดบ้ า้ ง  ขยายความสามารถไดม้ ากน้อยเพยี งใด ดว้ ยเหตุน้ชี ปิ เซต็ จงึ เป็นหวั ขอ้ หลกั ในการพจิ ารณาเลอื กซอ้ื เมนบอรด์ ตวั อยา่ งเช่น เมนบอรด์ ใชช้ ปิ เซต็ ทส่ี นบั สนุนความเรว็ FSB ไดส้ งู สุดถงึ 800 MHz หรอื ไดเ้ พยี ง 533 MHz มแี คชไดม้ ากน้อยเพยี งใด มี หน่วยความจาสูงสุดไดเ้ ท่าไร ซง่ึ ชปิ เซต็ จะจากดั ค่าสูงสุดท่รี องรบั ได้ ส่วนเมนบอร์ดเป็นตวั จากดั จานวน สลอ็ ตทจ่ี ะใสไ่ ดจ้ รงิ เป็นตน้ แต่เดมิ ชปิ เซต็ ทาหน้าท่เี ป็นตวั กลางในการประสานงานระหว่างซพี ยี กู บั หน่วยความจาเท่านัน้ แต่ ต่อมาเมอ่ื สามารถบรรจทุ รานซสิ เตอรล์ งในชปิ ไดม้ ากขน้ึ ชปิ เซต็ กม็ หี น้าทอ่ี ่นื ๆเพมิ่ เขา้ ไปดว้ ย เชน่  ตวั ควบคมุ แคช (Cache Controller)และฮารด์ ดสิ ก์ (IDE Controller) รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพ้นื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

19  ตวั ควบคมุ บสั PCI รวมทงั้ พอรต์ ต่าง ๆ การทางานของชปิ เซต็ ปกตจิ ะแยกออกเป็นสองส่วน คอื  ทางานในส่วนของซพี ยี ูกบั องค์ประกอบต่างๆ คอื แคช, RAM และ AGP ทอ่ี ย่บู น Front Side Bus (FSB) หรอื ท่ี Intel เรยี กว่า North Bridge Chipset (สะพานฝงั่ เหนือ คอื ฝงั่ ทอ่ี ยใู่ กลซ้ พี ยี )ู โดยอาจจะมหี ลายชปิ ประกอบกนั  ทางานในส่วนท่มี ไี ว้สาหรบั ต่อเขา้ กบั อุปกรณ์ I/O ต่างๆ ไดแ้ ก่ IDE, สลอ็ ต ISA และพอรต์ ต่างๆ (ขนาน, อนุกรม, USB) ซง่ึ เป็นอกี ชปิ เลก็ ๆเพยี งชปิ เดยี ว ท่อี าจเรยี กว่าเป็น South Bridge Chipset (คอื สะพานฝงั่ ทอ่ี ย่ไู กล ออกมาจากซพี ยี นู นั่ เอง) แต่ในชปิ เซต็ รนุ่ ใหม่ๆ เช่น i810 เป็นตน้ ไป จะมกี ารนาแนวคดิ ในการออกแบบใหมม่ าใช้ โดย แทนทจ่ี ะแบ่งเป็น North และ South Bridge อย่างเดมิ กก็ ลายเป็น Accelerated Hub ทร่ี วมเอาการเช่อื มต่อ ในรปู แบบและความเรว็ ต่างๆกนั เขา้ มาดว้ ยกนั แทน โครงสรา้ งการแบง่ ชปิ เซต็ แบบเดมิ โครงสรา้ งของชปิ เซต็ รุ่นใหม่ ชปิ เซต็ แต่ละรนุ่ จะมขี ดี ความสามารถและราคาทแ่ี ตกต่างกนั ไป ตามแต่วตั ถุประสงคท์ ผ่ี ผู้ ลติ กาหนด มา ในบางครงั้ เรากไ็ ม่จาเป็นต้องใชช้ ปิ เซต็ แพงๆ โดยทไ่ี ม่ไดใ้ ช้ขดี ความสามารถท่เี พม่ิ ขน้ึ เหล่านัน้ ซง่ึ จดุ สาคญั ในการพจิ ารณาขดี ความสามารถกม็ หี ลายประการดว้ ยกนั เช่น พจิ ารณาว่าเป็นชปิ เซต็ สาหรบั ซพี ยี ู รุ่นใด รองรบั ความเรว็ ของบสั ได้เท่าใด รองรบั การทางานร่วมกนั หลายๆซพี ียูได้หรอื ไม่ ชนิดของ หน่วยความจาทท่ี างานดว้ ยไดน้ นั้ เป็นแบบใด และจานวนหน่วยความจาสงู สุด เป็นตน้ รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพ้นื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

20 5.2.4 ระบบบสั และช่องสาหรบั ตดิ ตงั้ อุปกรณ์ต่างๆ (Bus & Slot) บสั เป็นทางเช่อื มต่อระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ทงั้ ท่อี ย่บู นเมนบอรด์ และท่ตี ิดตงั้ เพม่ิ เขา้ มา ตงั้ แต่ CPU ซพี ยี ,ู หน่วยความจา, แคช, ฮารด์ ดสิ ก,์ สลอ็ ตต่างๆ แล ะ จ อ ภ า พ เ ป็ น ต้น ดัง นั้น ค ว า ม เ ร็ว แ ล ะ ประสทิ ธภิ าพในการทางานของบสั จงึ มผี ลอย่างมาก กบั ประสทิ ธภิ าพโดยรวมของเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ ระบบบสั ทเ่ี หมาะสมจะต้องมคี วามเรว็ เพยี ง พอท่จี ะให้อุปกรณ์ต่างๆ รบั ส่งขอ้ มูลระหว่างกนั ได้ อย่างเต็มศกั ยภาพความเรว็ ของอุปกรณ์นัน้ ๆ เพ่อื ไม่ใหเ้ ป็นตวั ถ่วงอุปกรณ์อ่นื ๆ อนั จะทาใหค้ วามเรว็ โดยรวมของทงั้ เครอ่ื งลดลง โ ค ร ง ส ร้า ง ข อ ง ร ะ บ บ บัส ข อ ง เ ค ร่ือ ง คอมพิวเตอร์มคี วามสลับซบั ซ้อน ทงั้ น้ีเน่ืองจาก ระบบบสั จะเชอ่ื มอุปกรณ์ต่างๆ บนเมนบอรด์ เขา้ ดว้ ยกนั อุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นซีพียู แรม ฮาร์ดดิสก์ การ์ดแสดงผล และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ ได้ถูก พฒั นาใหม้ คี วามเรว็ เพม่ิ ขน้ึ จงึ ทาใหต้ อ้ งพฒั นาชปิ เซต็ และระบบบสั ต่างๆ ตามไปดว้ ย ระบบบสั และสลอ็ ตต่างๆ มคี วามสาคญั และเกย่ี วขอ้ งกนั อยา่ งไร? 5.2.4.1 บสั และซอ็ คเกต็ ของซพี ยี ู บสั ท่สี าคญั ท่สี ุด คือ บสั ท่ใี ช้เช่อื มต่อ กบั ซพี ยี ู เรยี กว่า Front Side Bus (FSB) ซ่งึ เป็นบสั ท่ตี ้องทางานด้วยความถ่ีสูงสุด Front Side Bus ภายนอกของซพี ยี ู เช่น 100, 133, 166, 200 และ 266 MHz เป็นตน้ เน่ืองจากเป็น เสน้ ทางเช่อื มต่อระหว่างซพี ยี ู (ซง่ึ ตดิ ตงั้ อยู่ กบั ซอ็ คเกต็ ของซพี ยี )ู กบั ชปิ เซต็ ตวั หลกั รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพน้ื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

21 5.2.4.2 บสั และสลอ็ ตของอุปกรณ์ความเรว็ สงู สลอ็ ตของอุปกรณ์ความเรว็ สงู เชน่ PCI, AGP และ PCI Express เป็นตน้ Bus Type Bus Width Bus Speed MB/sec ISA 16 bits 8 MHz 16 MBps EISA 32 bits 8 MHz 32 MBps VL-bus 32 bits 25 MHz 100 MBps VL-bus 32 bits 33 MHz 132 MBps PCI 32 bits 33 MHz 132 MBps PCI 64 bits 33 MHz 264 MBps PCI 64 bits 66 MHz 512 MBps PCI 64 bits 133 MHz 1 GBps  PCI (Peripheral Component Interconnect) และ PCI-X (PCI Extended) บสั PCI เป็นบสั ความเรว็ ค่อนขา้ งสูง ใช้เช่อื มต่อระหว่างชปิ เซ็ตกบั อุปกรณ์ความเรว็ รองลงมา เช่น การด์ เสยี ง, การด์ โมเดม็ , การด์ แลน เป็นตน้ มาตรฐานของบสั PCI ปจั จุบนั จะมคี วามกวา้ งบสั 32 บติ และ 64 บติ ซง่ึ บสั แบบ 64 บติ น้ี จะเรยี กว่า PCI-X  AGP (Accelerated Graphic Port) AGP เป็นพฒั นาการทต่ี ่อจากบสั PCI โดยทางานทค่ี วามถ่ี 66 MHz บสั AGP น้ีถูกออกแบบมา สาหรบั การด์ แสดงผลโดยเฉพาะ ซง่ึ เป็นอุปกรณ์ทม่ี กี ารส่งขอ้ มลู มากทส่ี ุด และจาเป็นตอ้ งส่งผ่านขอ้ มลู ใหไ้ ด้ เรว็ ทส่ี ุด เพราะจะมผี ลต่อประสทิ ธภิ าพโดยรวมอย่างเหน็ ได้ชดั แต่กม็ ขี อ้ จากดั คอื เมนบอรด์ ส่วนใหญ่จะมี สลอ็ ต AGP อยเู่ พยี งสลอ็ ตเดยี วเท่านนั้ แต่สาหรบั มาตรฐานของระบบบสั อย่าง PCI Express จะสามารถมี ไดม้ ากกวา่ 1 ช่องบนเมนบอรด์ เดยี วกนั รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพ้นื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

22  PCI Express PCI Express นัน้ เป็นบสั ท่ที างานแบบ (2) Serial และสามารถเลอื กใช้ความเรว็ มากน้อยตาม (1) ต้อ ง ก า รไ ด้ โ ด ยแ บ่ ง อ อ ก เ ป็ น ช่ อ ง สัญ ญ า ณ (channel) หรอื lane ของ PCI ซง่ึ จะมคี วามเรว็ ใน การรบั ส่งขอ้ มลู แต่ละทศิ ทาง 250 MB/sec และรวม สองทาง (Full-Duplex) สูงถึง 500 MB/sec ซง่ึ ขนั้ ต่าสุดเรยี กว่า PCI Express x1 ถูกออกแบบใหม้ า แทนท่ี PCI Bus แบบเดมิ ประกอบด้วย 1 lane สล็อตก็จะสัน้ หน่อย ส่วนขนั้ ถัดไปจะมีความเร็ว (1) รปู ตวั อยา่ งของเมนบอรด์ ทใ่ี ช้ PCI Express x1 (สนั้ ) เพมิ่ ขน้ึ เป็น 2, 4, 8 และ 16 เท่าตามลาดบั ก็จะ และ PCI Express x16 (ยาว) บรเิ วณวงกลมสนี ้าเงนิ (ซา้ ยมอื ) ประกอบดว้ ย 2, 4, 8 และ 16 lane ทร่ี บั ส่งขอ้ มลู (2) รปู ตวั อยา่ ง Socket แบบใหม่ LGA775 หรอื Socket T พร้อมกัน สล็อตก็จะยาวข้ึน (มีขัว้ ต่อมากข้ึน) สาหรบั ซพี ยี ู Prescott บรเิ วณวงกลมสเี ขยี ว (ขวามอื ) เรยี กว่าเป็น PCI Express x2, x4, x8 และสูงสุดคอื PCI Express x16 ทเ่ี รว็ ถงึ 8 GB/sec ซง่ึ จะมาแทนทส่ี ลอ็ ตแบบ AGP 8x ทใ่ี ชก้ นั อยใู่ นปจั จบุ นั นอกจากน้ีดว้ ยขอ้ จากดั ท่มี มี านมนาน เมนบอรด์ ส่วนใหญ่จะสามารถมสี ลอ็ ต AGP ไดเ้ พยี งสลอ็ ต เดยี วเท่านนั้ แต่สาหรบั มาตรฐานใหมอ่ ยา่ ง PCI Express x16 ทจ่ี ะมาแทนทส่ี ลอ็ ต AGP แบบเดมิ นนั้ จะ สามารถมไี ดม้ ากกว่า 1 ช่องบนเมนบอรด์ เดยี วกนั 5.2.5 BIOS (Basic Input/Output System) BIOS คอื ชปิ ทถ่ี ูกตดิ ตงั้ มาบนเมนบอรด์ จากโรงงาน ภายใน บรรจุโปรแกรมหรอื ชุดคาสงั่ ขนาดเลก็ สาหรบั ควบคุมการทางานขนั้ พน้ื ฐาน เช่น การทากระบวนการ POST (Power-On Self Test) ของ เคร่อื ง รวมทงั้ โปรแกรมท่ใี ช้ตงั้ ค่าการทางานให้กบั เคร่อื ง ท่เี รยี กว่า BIOS หรอื CMOS Setup ทจ่ี ะบนั ทกึ ขอ้ มลู และค่าต่างๆ ไว้ในชปิ หน่วยความจาอีกประเภทหน่ึงท่เี รยี กว่า ซมี อส (CMOS) ซ่งึ เป็น หน่วยความจาทก่ี นิ ไฟน้อย และเกบ็ ขอ้ มลู ได้โดยใชแ้ บตเตอรท่ี อ่ี ย่บู น เมนบอร์ด ซ่งึ จะคอยจ่ายไฟเลย้ี งให้ตลอดเวลาแมใ้ นขณะท่ปี ิดเคร่อื ง ถา้ แบตเตอรก่ี อ้ นน้หี มดหรอื ถูกถอดออก คา่ ทต่ี งั้ ไวก้ จ็ ะหายและกลบั ไปใชค้ า่ เรม่ิ ตน้ แทน 5.2.6 ถ่านหรอื แบตเตอรไ่ี บออส (BIOS Battery) แบตเตอรไ่ี บออสเป็นอุปกรณ์ทอ่ี ยบู่ นเมนบอรด์ เป็นสว่ นทไ่ี มค่ อ่ ยมผี สู้ นใจนกั จนกระทงั่ เม่อื นาฬกิ า ของเคร่อื งคอมพวิ เตอรผ์ ดิ พลาดและ CMOS เรม่ิ เก็บขอ้ มูลไม่อยู่ ซ่งึ บอกให้รวู้ ่าแบตเตอร่ีไบออสใกล้จะ หมดอายแุ ลว้ ถา้ ปลอ่ ยไวเ้ ช่นน้นี านๆ กอ็ าจจะทาใหเ้ กดิ ปญั หาต่างๆ ตามมาได้ รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพน้ื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

23 แบตเตอร่ที ่ใี ช้จะเป็นแบบลเิ ธยี ม (Lithium) เน่ืองจากมคี วามคงทน และ สามารถใช้งานได้นานเป็นปี ๆ โดยมอี ายุการใช้งานเฉล่ยี จะอยู่ท่ปี ระมาณ 3 ปี ลกั ษณะจะคลา้ ยกระดมุ หรอื เหรยี ญสเี งนิ ถกู วางอยใู่ นเบา้ พลาสตกิ สดี า และอาจมแี ผ่น โลหะตดิ อยเู่ ป็นขวั้ ไฟสาหรบั ต่อเขา้ กบั เมนบอรด์ 5.2.7 ขวั้ ต่อและพอรต์ ต่างๆ 6. อปุ กรณ์แสดงผล หน่วยแสดงผลเป็นส่วนทแ่ี สดงขอ้ มูลจากคอมพวิ เตอรไ์ ปส่มู นุษย์ เป็นตวั กลางการส่อื สารระหว่าง คอมพวิ เตอรก์ บั มนุษย์ เราเรยี กเครอ่ื งมอื ในส่วนน้ีว่า อุปกรณ์แสดงผล (Output Devices) อุปกรณ์แสดงผลสามารถแบ่งออกไดเ้ ป็น 2 ประเภท ตามลกั ษณะของขอ้ มลู ทแ่ี สดงออกมา ไดแ้ ก่  อุปกรณ์แสดงผลทม่ี นุษยจ์ บั ต้องไม่ได้ (Softcopy Output Device) หมายถงึ อุปกรณ์แสดง ขอ้ มูลท่มี นุษย์ไม่สามารถจบั ต้องขอ้ มูลท่แี สดงนัน้ ได้ เช่น ขอ้ มลู ตวั อกั ษรหรอื ภาพบน จอภาพ หรอื ขอ้ มลู เสยี งจากลาโพง เรยี กขอ้ มลู ประเภทน้วี า่ Softcopy  อุปกรณ์แสดงผลทม่ี นุษยจ์ บั ตอ้ งได้ (Hardcopy Output Device) หมายถงึ อุปกรณ์แสดง ขอ้ มลู ทม่ี นุษยส์ ามารถจบั ต้องขอ้ มลู ทแ่ี สดงนนั้ ได้ เช่น ตวั อกั ษรหรอื ภาพบนกระดาษ เป็น ตน้ เราเรยี กขอ้ มลู ประเภทน้วี ่า Hardcopy ตวั อยา่ งอุปกรณ์แสดงผล ไดแ้ ก่ รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพ้นื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

24 6.1 จอภาพ (Monitor) จอภาพเป็นอุปกรณ์ท่ใี ช้ในการแสดงข้อมูลท่ีมนุษย์จบั ต้อง ไม่ได้ (Softcopy Output Device) แสดงออกมาในลกั ษณะของ ขอ้ ความและรปู ภาพ หลกั การในการแสดงภาพหรอื ข้อมูลบนจอจะคล้ายกับการ ทางานของจอโทรทศั น์ คอื เกดิ จากคอมพวิ เตอรส์ ่งสญั ญาณให้เกดิ การยงิ แสงอเิ ลก็ ตรอนไปยงั พ้นื ผวิ ของจอภาพ ซ่งึ ฉาบไว้ด้วยสาร ฟอสฟอรสั ทส่ี ามารถเรอื งแสงได้เม่อื โดนอิเลก็ ตรอนตกกระทบ แต่ ความแตกต่างท่ีสาคัญท่ีสุดระหว่างจอภาพกับจอโทรทัศน์ก็คือ คุณภาพและความละเอยี ดของภาพท่ปี รากฏขน้ึ บนจอ โดยภาพบน จอภาพของคอมพวิ เตอรจ์ ะต้องมคี ุณภาพทด่ี กี ว่า เน่ืองจากลกั ษณะ การใชง้ านทผ่ี ใู้ ชต้ อ้ งอยใู่ กลช้ ดิ จอคอมพวิ เตอรม์ ากกวา่ นนั่ เอง จอภาพสี (Color) เป็นจอภาพท่ใี ช้กนั โดยทวั่ ไปในปจั จุบนั ซ่งึ ลกั ษณะการแสดงผลจะอาศยั สญั ญาณดจิ ติ อล เช่นกนั แต่จะแยกออกเป็น 3 สญั ญาณ ตามแมส่ ขี องแสง คอื แดง เขยี ว และน้าเงนิ (Red, Green, Blue: RGB) ซง่ึ จะทาใหเ้ กดิ สตี ่างๆ มากมายตามหลกั การผสมของแมส่ นี นั่ เอง ขนาดความกวา้ งของจอภาพมหี ลายขนาด ซง่ึ กจ็ ะมคี วามละเอยี ดในการแสดงผลมากน้อยไมเ่ ท่ากนั โดยความละเอยี ดของภาพจะมหี น่วยวดั เป็นจดุ ภาพหรอื ทเ่ี รยี กว่า พิกเซล (Pixel) ในแนวตงั้ และแนวนอน ของจอภาพ เช่น 640x480, 800x600, 1,024x768 และ 1,280x1,024 เป็นตน้ ยง่ิ มขี นาดของพกิ เซลมาก ขนาดของภาพจะมคี วามละเอยี ดสงู มากข้ึน ภาพทป่ี รากฏจะมคี วามสวยงามมากขน้ึ และขนาดของภาพท่ี แสดงผลบนจอจะเลก็ ลง ทาใหม้ เี น้อื ทใ่ี ชง้ านบนจอมากขน้ึ การทางานของจอภาพต้องใชร้ ว่ มกบั แผงวงจรควบคมุ จอภาพ (Graphic Adapter Card) หรอื ท่ี เรยี กสนั้ ๆ ว่า การด์ แสดงผล ซง่ึ เป็นแผงวงจรอเิ ลก็ ทรอนิกสท์ เ่ี สยี บเขา้ ไปในเมนบอรด์ เพ่อื ทาหน้าทเ่ี ป็น ตัวรบั คาสงั่ ในการแสดงผลจากโปรแกรมต่างๆ แล้วแปลงสญั ญาณนัน้ เป็นสญั ญาณท่จี อภาพเข้าใจ ได้ จากนนั้ จงึ สง่ สญั ญาณทแ่ี ปลงแลว้ ไปยงั จอภาพ นอกจากน้ียงั มจี อภาพอกี ประเภทท่มี ลี กั ษณะพเิ ศษ นัน่ คอื จอภาพระบบสมั ผสั (Touch Screen Monitor) ซง่ึ เป็นจอภาพทม่ี ี การส่งผ่านขอ้ มลู เขา้ ส่คู อมพวิ เตอรอ์ าศยั การสมั ผสั ทจ่ี อภาพ ซง่ึ มกั ทาเป็นลกั ษณะรายการ (Menu) ใหผ้ ใู้ ชเ้ ลอื ก โดยทต่ี วั ผวิ จอจะถูก ปกคลุมดว้ ยแผ่นพลาสตกิ ทม่ี ลี าแสงอนิ ฟาเรด ซง่ึ มนุษยไ์ ม่สามารถ มองเหน็ ได้ สญั ญาณทเ่ี กิดจากการสมั ผสั กบั ลาแสงอนิ ฟาเรดจะถูกส่งเขา้ สู่ระบบเพ่อื ตคี วามหมาย และ ประมวลผล จากนัน้ จงึ แสดงผลออกมาทางจอภาพเดยี วกนั ซง่ึ ลกั ษณะเช่นน้ีก่อใหเ้ กดิ ความรวดเรว็ และ สะดวกในการสอ่ื สารระหวา่ งมนุษยก์ บั คอมพวิ เตอร์ จะเหน็ ว่า จอภาพประเภทน้ีเป็นอุปกรณ์ท่ที าหน้าทท่ี งั้ ป้อนขอ้ มูล (Input Device) เขา้ สู่ระบบ คอมพวิ เตอรแ์ ละเป็นอุปกรณ์แสดงผล (Output Devive) ออกมาส่ผู ใู้ ชใ้ นตวั เดยี วกนั รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพ้นื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

25 6.2 เคร่อื งพิมพ์ (Printer) คอื อุปกรณ์แสดงผลลพั ทใ่ี ชพ้ มิ พข์ อ้ มลู ทเ่ี ป็นเอกสาร ขอ้ ความ และรปู ภาพใหไ้ ปปรากฏบนกระดาษ เพ่อื สามารถนาไปใชใ้ นงานอ่นื ๆ ได้ เครอ่ื งพมิ พโ์ ดยทวั่ ไปแบ่งออกไดเ้ ป็น 3 ประเภท คอื  เคร่อื งพมิ พ์แบบจุด (Dot Matrix Printer) คือ เคร่อื งพมิ พท์ ่อี าศยั การใช้หวั เขม็ ไปกระแทกกระดาษ โดยผ่านผ้าหมกึ ทาให้เป็นจุดข้นึ ซ่งึ มลี กั ษณะการ ทางานคล้ายเคร่ืองพิมพ์ดีด คุณลักษณะเด่นของ เครอ่ื งพมิ พแ์ บบน้ี คอื สามารถพมิ พล์ งบนกระดาษทม่ี ี หลายสาเนาหลายชุดได้ ทาใหไ้ มต่ อ้ งเสยี เวลาพมิ พ์  เคร่อื งพมิ พ์แบบพ่นหมกึ (Ink Jet Printer) คอื เคร่อื งพมิ พ์ทใ่ี ชว้ ธิ พี ่นน้าหมกึ ลงไปบนวตั ถุงาน โดย ห มึก จ ะ ถู ก ฉี ด อ อ ก จ า ก รู ข น า ด เ ล็ ก บ น หัว พิ ม พ์ คุณลกั ษณะเด่นของเคร่อื งพมิ พ์แบบน้ี คอื สามารถ พมิ พ์ภาพสีได้ โดยมตี ลบั หมกึ สีแยกอิสระ สามารถ ถอดเปลย่ี นใหม่ได้ คุณภาพการพมิ พค์ มชดั กว่าแบบ ใชห้ วั เขม็ ใหค้ วามละเอยี ดสงู  เคร่อื งพมิ พแ์ บบเลเซอร์ (Laser Printer) มหี ลกั การ ทางานเหมอื นกบั เครอ่ื งถ่ายเอกสาร เป็นเคร่อื งพมิ พท์ ่ี พฒั นามาจากเคร่อื งพิมพ์แบบจุดและแบบพ่นหมึก สามารถพมิ พไ์ ดเ้ รว็ กวา่ แบบอ่นื และมคี วามคมชดั มาก จึงได้รบั ความนิยมนามาใช้งานในสานักงานทวั่ ไป อย่างไรก็ตามเคร่อื งพิมพ์เลเซอร์ ยงั มรี าคาสูงกว่า เครอ่ื งพมิ พแ์ บบจดุ และแบบพน่ หมกึ รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพ้นื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

26 6.3 พลอตเตอร์ (Plotter) เน่อื งจากการแสดงรปู กราฟิกทางเครอ่ื งพมิ พ์ (Printer) จะมขี อ้ จากดั ทางดา้ นคุณภาพและขนาดของ ภาพ ดงั นนั้ จงึ มกี ารผลติ พลอตเตอรข์ น้ึ มาเพ่อื ใชใ้ นงานทม่ี กี ารสรา้ งรปู ภาพทางกราฟิก เช่น การออกแบบ แผนผงั และชารต์ ต่างๆ เป็นตน้ พลอตเตอร์ คอื เคร่อื งวาดลายเสน้ ทางานโดยอาศยั แขนจบั ปากกา ลากลายเสน้ ในแนวแกน X-Y บนกระดาษ เช่นเดียวกบั การเขยี นด้วยปากกาหรอื ดนิ สอ โดยพลอตเตอร์จะรบั สญั ญาณจากเคร่อื ง คอมพวิ เตอร์ เพ่อื ใชค้ วบคุมการเล่อื นปากกาไปบนกระดาษซง่ึ สามารถเลอื กสี หรอื ปากกาทม่ี เี สน้ หนาบาง อยา่ งไรกไ็ ด้ พลอตเตอรแ์ บง่ ออกไดเ้ ป็น 3 ประเภท คอื 1. พลอตเตอรแ์ บบทรงกระบอก (Drum Plotter) จะมี ปากกามากกว่า 1 ดา้ มทม่ี ขี นาดและหลายสี ผลดั กนั เคล่อื นทไ่ี ปมาบนกระ ดาษ ภายใต้การควบคุมของเครอ่ื งคอมพวิ เตอรเ์ พ่อื สรา้ งภาพขน้ึ มา ซ่งึ การจะเลือกว่าจะใช้ปากกาด้ามไหน คอมพวิ เตอร์จะเป็นตัวจดั การเอง พลอตเตอรช์ นิดน้ี มกั เป็นแบบตงั้ พน้ื และมขี นาดใหญ่ ใชใ้ นการสรา้ งภาพ ทต่ี ่อเน่ือง เช่น สาหรบั วดั ความสนั่ สะเทอื นของแผ่นดนิ ไหว หรอื วาด ภาพกราฟิกทม่ี ขี นาดใหญ่และยาวมากๆ เช่น ภาพโครงสร้างของยาน อวกาศ เป็นตน้ 2. พลอตเตอรแ์ บบระนาบ (Flatbed Plotter) จะมปี ากกามากกว่า 1 ดา้ มเช่นกนั แต่การ เคลอ่ื นทจ่ี ะมแี ต่ปากกาเท่านนั้ ทม่ี กี ารเคล่อื นทท่ี งั้ สองแกน ในขณะทก่ี ระดาษผลลพั ธจ์ ะอยกู่ บั ท่ี พลอตเตอร์ แบบน้ี มกั มขี นาดไม่ใหญ่นัก ตงั้ บนโต๊ะคอมพวิ เตอรไ์ ด้ ภาพทว่ี าดจงึ ไมใ่ หญ่มาก เช่น รปู กราฟต่างๆ เป็น ตน้ 3. อเิ ลก็ โตรสแตตคิ พลอตเตอร์ (Electrostatic Plotter) เป็นพลอตเตอรท์ ใ่ี ชใ้ นการสรา้ งภาพ อยา่ งคร่าวๆ ไมล่ ะเอยี ดมากนกั ใชส้ าหรบั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของงาน เมอ่ื เรยี บรอ้ ยดแี ลว้ จงึ ส่งใหพ้ ลอต เตอร์ 2 แบบแรกสรา้ งภาพผลลพั ธท์ ม่ี คี วามละเอยี ดสงู ต่อไป รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพ้นื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

27 7. การด์ แสดงผล (Graphic card) ภ า พ ท่ี เ ห็ น ใ น จ อ ม อ นิ เ ต อ ร์ นั ้น ถู ก สร้างขน้ึ จากจุดเลก็ ๆ จานวนมากหลายล้าน จดุ ท่เี รยี กว่าพกิ เซล(pixels) ในการสรา้ งจุด เ ล็ ก ๆ เ ห ล่ า น้ี ข้ึน ม า เ ป็ น ภ า พ เ ค ร่ือ ง คอมพิวเตอร์ต้องการอุปกรณ์บางอย่างท่ี สามารถแปลงขอ้ มูลไบนารจี าก CPU ให้เป็น รปู ภาพ อุปกรณ์นัน้ คอื Graphics card หรอื การด์ แสดงผลนนั่ เอง การด์ แสดงผลมกี ารทางานทซ่ี บั ซอ้ น The graphics card creates a wire frame image, then fills it in and แต่หลกั การพน้ื ฐานและส่วนประกอบของมนั adds textures and shading.[2] ไมย่ ากต่อการทาความเขา้ ใจนกั ลองคดิ ว่าเคร่อื งคอมพวิ เตอรเ์ ป็นบรษิ ทั หน่ึงซง่ึ มฝี า่ ยศลิ ป์อย่ดู ว้ ย เม่อื คนในบรษิ ทั ต้องการชน้ิ งาน รปู ภาพหรอื โปสเตอรส์ กั ชน้ิ กจ็ ะเป็นหน้าทข่ี องฝา่ ยศลิ ป์ในการผลติ ชน้ิ งานนัน้ ขน้ึ มา การ์ดแสดงผลก็ใช้หลกั การเดยี วกนั เ ม่ือ ซี พี ยู ก า ลัง ป ร ะ ม ว ล ผ ล ห า ก มีข้ อ มู ล เกย่ี วกบั ภาพทต่ี ้องแสดงผล ซพี ยี จู ะส่งขอ้ มลู เก่ียวกับภาพนัน้ ไปยังการ์ดแสดงผล ซ่ึง การ์ดแสดงผลจะมหี น้าท่คี ดิ ว่าจะต้องใช้จุด (Pixels) ในการสร้างรูปภาพข้นึ มาอย่างไร ห ล ัง จ า ก นั ้น จึง ส่ ง ข้ อ มู ล ต่ อ ไ ป ย ัง จ อ ภ า พ [2] (monitor) โดยผา่ นสายเคเบลิ หรอื สายแพ การด์ แสดงผล หรอื Graphic Card การด์ แสดงผลท่ีใช้ในปจั จุบนั ได้แก่ การด์ วจิ เี อ (VGA : Video Graphics Array) สามารถแสดงผลไดต้ งั้ แต่ 16 สี ทค่ี วามละเอยี ด 640x480 พกิ เซล และต่อมาไดพ้ ฒั นาเป็นการด์ ซุปเปอรว์ จี เี อ (SVGA : Super Video Graphics Array) ซง่ึ สามารถแสดง สไี ด้ 256 สี ทค่ี วามละเอยี ด 800x600 พกิ เซล ปจั จบุ นั น้ีพฒั นาจนถงึ การด์ เอก็ จเี อ (XGA : Exchanced Graphics Array) ซ่งึ สามารถแสดงจานวนสไี ดถ้ งึ 16.7 ลา้ นสี ทค่ี วามละเอยี ด 1600x1200 พกิ เซล และ Quantum Extended Graphics Array (QXGA) ซง่ึ สามารถแสดงจานวนสที ค่ี วามละเอยี ด 2040 x 1536 พกิ เซล ซง่ึ ใหส้ ที ส่ี มจรงิ ตามธรรมชาติ เหมาะสาหรบั งานตกแต่งภาพและงานพมิ พท์ ต่ี ้องการความละเอยี ดสูง รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพ้นื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

28 8. การด์ แสดงสญั ญาณเสียง (Sound Card) Sound card หรอื การด์ เสยี งเป็นอุปกรณ์สรา้ งและจดั การกบั ระบบเสียงทัง้ หมดในเคร่ืองคอมพิวเตอร์ เช่น เล่นไฟล์เสียงใน รปู แบบต่างๆ สรา้ งเสยี งดนตรตี ามคาสงั่ แบบ MIDI บนั ทกึ และแปลง เสียงลงเป็นไฟล์แบบดิจิตอล ตลอดจนผสมเสียงจากหลายๆ แหลง่ ทม่ี าเขา้ ดว้ ยกนั เป็นตน้  เคร่ืองคอมพิวเตอรแ์ บบพกพา (Laptop) เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ PC ประกอบดว้ ย mainboard การด์ แสดงผล ฮารด์ ดสิ ก์ และอุปกรณ์อ่นื ๆ ซง่ึ จะ อยภู่ ายในเคส จอภาพ คยี บ์ อรด์ และอุปกรณ์รบั -แสดงผลอ่นื ๆจะถูกเช่อื มโยงดว้ ยสายเคเบลิ /สายแพ หรอื ใชเ้ ทคโนโลยไี รส้ าย ถงึ แมจ้ ะมอี ุปกรณ์ต่างๆมากมาย แต่ภายในเคสกย็ งั มพี น้ื ท่วี ่างสาหรบั เพมิ่ เตมิ อุปกรณ์ อ่นื ๆ และช่องวา่ งสาหรบั แต่ละอุปกรณ์อยา่ งพอเพยี ง The inside of a PC tower [2] เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ Laptop นัน้ เลก็ กว่าและเบากว่าเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ PC มากนกั จอภาพเป็น ส่วนหน่ึงของตวั เคร่อื งเช่นเดยี วกบั คยี บ์ อรด์ นอกจากน้ี laptop ยงั มชี ่องว่างภายในเคร่อื งน้อย อุปกรณ์ ภายในต่างๆ ถกู จดั วางใหใ้ ชพ้ น้ื ทอ่ี ยา่ งคุม้ ค่าทส่ี ุด รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพ้นื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

29 The inside of an IBM ThinkPad [2]  เริ่มต้นการทางานของคอมพิวเตอร์ (Boot up) ถา้ ขาดกระแสไฟฟ้า เครอ่ื งคอมพวิ เตอรก์ จ็ ะเป็นเพยี งกล่องเหลก็ ธรรมดากล่องหน่ึง แต่เม่อื เวลาทม่ี ี กระแสไฟเขา้ ไปหล่อเล้ยี งวงจรคอมพวิ เตอรแ์ ลว้ จะพบว่ากล่องเหลก็ น้ีจะกลายเป็นกล่องวเิ ศษขน้ึ มาทนั ที สามารถทาไดต้ งั้ แต่เป็นเครอ่ื งเล่นของเดก็ ไปจนถงึ เป็นอุปกรณ์ยงิ จรวดทาสงครามกนั ทงั้ น้ีความมหศั จรรย์ ต่างๆ ทค่ี อมพวิ เตอรส์ ามารถทาไดน้ นั้ มจี ดุ เรม่ิ ตน้ ตงั้ แต่ตอนกดสวทิ ชเ์ ปิดเครอ่ื งกนั เลยทเี ดยี ว เม่อื ทาการกดสวทิ ช์ Power On เคร่อื ง คอมพวิ เตอรจ์ ะอ่านสง่ิ ทต่ี ้องทามาจาก BIOS (Basic Input Output System) โดย BIOS จะสงั่ ให้ทา กระบวนการหน่ึงทเ่ี รยี กว่า POST (Power On Self Test) กระบวนการน้ีถูกบรรจุในหน่วยความจา (MEMORY) ของคอมพวิ เตอร์ แต่ปจั จุบนั มกั จะเกบ็ ใน EPROM (Erasable Programmable Read Only Memory) มากกว่า คอื เป็นหน่วยความจาท่อี ่านอยา่ ง เดียว และไม่ต้องใช้กระแสไฟเล้ียง แต่สามารถใช้ กระแสไฟฟ้ าเข้าไปลบ หรือแก้ไขโปรแกรมใน BIOS uses Flash memory, a type of ROM.[2] EPROM ได้ เรยี กว่าการแฟลช (flash) ROM รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพน้ื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์

30 NOTE: การเรม่ิ ตน้ การทางานของคอมพวิ เตอร์ (BOOT UP) แบง่ ออกเป็น 2 ประเภท คอื Cold Boot ซง่ึ เป็นการบูททเ่ี รมิ่ ต้นจากการกดสวทิ ช์ Power On ของเคร่อื งคอมพวิ เตอรใ์ หค้ อมพวิ เตอรเ์ รม่ิ การทางาน POST และบทู ตามลาดบั Warm Boot เป็นการสงั่ บทู ระบบใหม่ ดว้ ยการกดปมุ่ Reset หรอื การกดปุม่ Ctrl+Alt+Del หรอื การสงั่ Restart เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ เรยี กไดว้ ่าเป็นการสงั่ บทู ดว้ ยซอฟตแ์ วร์  กระบวนการ POST POST คอื กระบวนการทค่ี อมพวิ เตอรต์ รวจสอบความพรอ้ มของอุปกรณ์ต่างๆ ทต่ี ดิ ตงั้ อยู่ ไมว่ ่าจะ เป็นเมนบอรด์ , ซพี ยี ,ู ชนิดและขนาดของหน่วยความจา, ชนิดและขนาดของฮารด์ ดสิ ก,์ ชนิดและขนาดของ ดสิ ก์ไดรฟ์ , ชนิดของมอนิเตอร์ และพอรต์ I/O อ่นื ๆ เช่น คยี บ์ อรด์ , เมาส,์ พอรต์ อนุกรม, พอรต์ ขนาน เป็น ตน้ โดยค่า Configuration ของอุปกรณ์เหล่าน้ีจะเก็บในหน่วยความจาพิเศษท่ีเรียกว่า CMOS (Complementary Metal Oxide Semiconductor) ซง่ึ เป็นหน่วยความจาทต่ี ้องใชก้ ระแสไฟฟ้าเลย้ี ง แต่ใช้ กระแสไฟฟ้ าน้อยมาก ดังนั้นบนเมนบอร์ดของคอมพิวเตอร์จะมีถ่าน 3 โวลต์อยู่ด้วยเสมอ เพ่ือให้ คอมพวิ เตอรส์ ามารถจาค่า Hardware/System Configuration ต่างๆไวไ้ ด้ และถ้าถ่านทอ่ี ยบู่ นเมนบอรด์ มี ไฟอ่อน หรอื ถ่านหมด เครอ่ื งคอมพวิ เตอรก์ จ็ ะเขา้ ไปทเ่ี มนูการตงั้ ค่า Hardware/System Configuration ใหม่ ทุกครงั้ NOTE: สาหรบั อุปกรณ์ต่อพ่วงอ่นื ๆ BIOS จะไม่รจู้ กั เพราะจะทาให้ BIOS มขี นาดใหญ่มากในการเกบ็ ขอ้ มูลเพ่อื ใหร้ จู้ กั อุปกรณ์ ทกุ ตวั ดงั นนั้ อุปกรณ์เฉพาะดา้ น เช่น เครอ่ื งพมิ พ,์ กลอ้ งถา่ ยภาพดจิ ติ อล, สแกนเนอร์ นนั้ เราตอ้ งนาซอฟตแ์ วรท์ เ่ี รยี กวา่ Device driver ตดิ ตงั้ เขา้ ไปในระดบั ของ OS เราสามารถสงั เกตกระบวนการ POST ไดจ้ ากเสยี งสญั ญาณท่คี อมพวิ เตอรจ์ ะตอบสนองออกมาเมอ่ื สน้ิ สดุ กระบวนการ โดยปกติ ถา้ การตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ เรยี บรอ้ ย ไมม่ ปี ญั หา กจ็ ะส่งสญั ญาณป๊ีบสนั้ ๆ 1 ครงั้ ถ้ามีอาการผิดปกติใดๆ ก็จะส่งสัญญาณท่ีมีรหัสเสียงสัน้ และยาวต่างกัน แล้วแต่อาการของ ขอ้ ผดิ พลาด (Error) นนั้ ๆ ใน BIOS จะเก็บวธิ กี ารเพ่อื บอกคอมพวิ เตอรว์ ่าจะเรม่ิ ทางานอย่างไร และยงั เกบ็ วธิ กี ารพน้ื ฐานท่ี ระบบปฏบิ ตั กิ าร (Operating System: OS) ใชต้ ดิ ต่อกบั อุปกรณ์พ้นื ฐาน เช่น ฮารด์ ดสิ ก,์ การด์ แสดงผล, คยี บ์ อรด์ เป็นตน้ หลงั จากผ่านกระบวนการ POST แลว้ BIOS กจ็ ะบอกใหโ้ ปรเซสเซอร์ (ซพี ยี )ู ไปอ่านฮารด์ ดสิ ก์ เพ่อื ทาการบูท (ซง่ึ ใน BIOS รุ่นใหม่ๆ สามารถตงั้ ค่าไดว้ ่าจะใหบ้ ูทจากอุปกรณ์ตวั ใดก่อน ไม่ว่าจะเป็นจาก Floppy Disk, CD-ROM, IDE0, IDE1) ซง่ึ การบูท (Boot) กค็ อื ขนั้ ตอนทค่ี อมพวิ เตอรเ์ รม่ิ ทาการโหลดระบบ ปฏบิ ตั กิ าร (OS) เขา้ ไปในหน่วยความจา RAM นนั่ เอง References: [1] อนิรทุ ธิ ์ รชั ตะวราห,์ ค่มู อื ชา่ งคอมพวิ เตอร์ 2006, โปรวชิ นั่ , 2548. [2] http://www.howstuffworks.com [3] http://www.cybered.co.th/warnuts/wbi/wbi2/web/intro.htm รายวชิ า ง40101 เทคโนโลยสี ารสนเทศพ้นื ฐาน สาขาคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook