ประวตั ศิ าสตร์ ส 31103 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 7 เวลาและการแบง่ ยุคสมยั ทางประวตั ิศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์ เป็นการศึกษาเร่ืองราวในอดีตของมนุษย์ นกั ประวตั ิศาสตรไ์ ดก้ าหนดเวลาและยุค สมยั ทางประวตั ศิ าสตรข์ ้นึ มาเพอ่ื ศึกษาและทาความเขา้ ใจประวตั ิศาสตร์ เช่น กาหนดเวลาเป็นปีศกั ราช หรือ กาหนดเป็นสหสั วรรษ ศตวรรษ และทศวรรษ ในการกาหนดยุคสมยั นกั ประวตั ิศาสตรไ์ ดถ้ ือเอาลกั ษณะเด่นของเหตุการณ์เป็นเกณฑเ์ พ่ือให้ สามารถเขา้ ใจและจดจายุคสมยั นนั้ ๆ ได้ ประวตั ศิ าสตรจ์ งึ มคี วามสาคญั ซง่ึ จะช่วยใหผ้ ูศ้ ึกษาเกิดความเขา้ ใจ งา่ ยและตรงกนั คาถามชวนคดิ ....? ความสาคญั ของเวลาและยุคสมยั ทางประวตั ศิ าสตร์ เวลามคี วามสาคญั อยา่ งไร บอกใหร้ ูว้ า่ เหตกุ ารณต์ ่างๆ เกดิ ข้นึ และส้นิ สุดเวลาใด ............................................... ............................................... ............................................... . บอกใหร้ ูว้ า่ เหตกุ ารณต์ ่างๆ เกดิ ข้นึ มานานเทา่ ใด บอกใหร้ ูว้ ่าเหตกุ ารณต์ ่างๆ เหตกุ ารณใ์ ดเกดิ ข้นึ ก่อนหรอื หลงั เมอ่ื เปรยี บเทยี บกบั เหตกุ ารณอ์ ่นื ๆ บอกใหร้ ูถ้ งึ ความสมั พนั ธห์ รอื เกย่ี วขอ้ งของเหตกุ ารณใ์ น ประวตั ศิ าสตร์ ทาใหเ้ขา้ ใจและวเิ คราะหเ์ หตกุ ารณ์ต่างๆ ในประวตั ศิ าสตรไ์ ดด้ ขี ้นึ เวลา เป็นส่งิ ท่มี นุษยส์ มมติข้นึ เพ่อื ใชใ้ นการลาดบั เหตุการณ์ต่างๆ ท่เี กิดข้นึ ในชีวิตประจาวนั ซ่ึง ช่วยใหม้ นุษยท์ าความเขา้ ใจความแตกต่างระหว่างช่วงเหตกุ ารณ์ต่างๆ ได้ เวลาจงึ มคี วามสาคญั อย่างมากใน การแบง่ ยุคสมยั ทางประวตั ศิ าสตร์
8 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 เรือ่ ง เวลากบั ยคุ สมยั ทางประวตั ศิ าสตร์ สมยั กอ่ นประวตั ศิ าสตร์ สมยั ก่อนประวตั ศิ าสตร์ ช่วงเวลาทม่ี นุษยย์ งั ไมม่ ตี วั อกั ษร ใช้ อาศยั อยู่ตามเพงิ ผา หาของป่า ลา่ สตั ว์ สมยั ประวตั ศิ าสตร์ สมยั ประวตั ศิ าสตร์ ช่วงเวลาทม่ี นุษยเ์ ร่มิ มตี วั อกั ษรใช้ แลว้ อกั ษรรูปลมิ่ หรือ คนู ิฟอรม์ ชาวสุเมเรียนเป็นชนชนาติแรกในบาบโิ ลเนียท่รี ูจ้ กั การเขยี นหนงั สอื ตง้ั แต่ 3000 ปีก่อนคริสตก์ าล โดยการประดิษฐอ์ กั ษรรูปลม่ิ หรือท่เี รยี กว่า คูนิฟอรม์ (Cuneiform) ภายหลงั ไดด้ ดั แปลงแกไ้ ข มกี ารคิด เคร่อื งหมายต่างๆ เพอ่ื ใชแ้ ทนภาพ
ประวตั ศิ าสตร์ ส 31103 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 9 การนับและการเทียบศกั ราชในประวตั ศิ าสตรไ์ ทย การนบั ศกั ราช ในการศึกษาประวตั ศิ าสตรไ์ ทยเราจะพบว่ามกี ารใชศ้ กั ราชหลายแบบ ดงั นนั้ เพ่อื ให้ สามารถศึกษาประวตั ศิ าสตรไ์ ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง เราจงึ ควรทาความเขา้ ใจเกย่ี วกบั วธิ กี ารนบั ศกั ราชแบบต่างๆ ดงั น้ี พทุ ธศกั ราช • เป็นศกั ราชทางพระพทุ ธศาสนา จุลศกั ราช • ไทยเร่มิ ใชใ้ นสมยั สมเดจ็ พระนารายณม์ หาราช มหาศกั ราช • นามาใชเ้ป็นแบบอยา่ งของทางราชการสมยั รชั กาลท่ี 6 รตั นโกสนิ ทรศ์ ก • บปุ ผะอรหนั ตเ์ ป็นผูก้ ่อตง้ั • แพร่หลายเขา้ ไทยผา่ นอาณาจกั รลา้ นนา • นิยมใชก้ นั มากในหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตรไ์ ทย • พระเจา้ กนิษกะกษตั รยิ อ์ นิ เดยี มพี ระราชดาริข้นึ • ประเทศไทยรบั ผ่านมาทางขอมหรอื เขมร • พบในหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตรส์ มยั สุโขทยั และอยุธยาตอนตน้ • รชั กาลท่ี 5 มพี ระราชดารใิ หบ้ ญั ญตั ขิ ้นึ • เรม่ิ นบั ปีทส่ี ถาปนากรุงรตั นโกสนิ ทรเ์ ป็นราชธานี • เลกิ ใชใ้ นตน้ รชั กาลท่ี 6 หลกั เกณฑก์ ารเทยี บศกั ราช ม.ศ. + 621 = พ.ศ. พ.ศ. – 621 = ม.ศ. จ.ศ. + 1181 = พ.ศ. พ.ศ. – 1181 = จ.ศ. ร.ศ. + 2324 = พ.ศ. พ.ศ. – 2324 = ร.ศ. คาถามชวนคิด....? พ.ศ.2561 ตรงกบั ปี ร.ศ. ........................... ร.ศ.130 ตรงกบั ปี พ.ศ. ............................... พ.ศ.2558 ตรงกบั ปี จ.ศ.. ........................... ม.ศ.1148 ตรงกบั ปี จ.ศ. ...............................
10 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 เรือ่ ง เวลากบั ยคุ สมยั ทางประวตั ศิ าสตร์ การแบ่งยุคสมยั ทางประวตั ศิ าสตรไ์ ทย สมยั ลกั ษณะการแบ่ง ช่วงระยะเวลา แบง่ ตามลกั ษณะเคร่อื งมอื หนิ ยุคหนิ เก่า ยุคหนิ ใหม่ สมยั ก่อนประวตั ศิ าสตร์ ยุคสารดิ แบง่ ตามลกั ษณะเครอ่ื งมอื โลหะ ยุคเหลก็ สมยั สุโขทยั แบง่ ตามราชอาณาจกั รหรอื ราชธานี สมยั อยุธยา สมยั ประวตั ศิ าสตร์ สมยั ธนบรุ ี แบง่ ตามลกั ษณะการปกครอง สมยั รตั นโกสนิ ทร์ สมยั สมบรู ณาญาสทิ ธิราชย์ แบง่ ตามหลกั สากล สมยั ประชาธิปไตย สมยั โบราณ สมยั ใหม่ สมยั ปจั จุบนั สมยั กอ่ นประวตั ศิ าสตรใ์ นประเทศไทย ดนิ แดนประเทศไทยก่อนทจ่ี ะมกี ารตง้ั อาณาจกั รไทยในสมยั พทุ ธศตวรรษท่ี 18 หรือดนิ แดนประเทศ ไทยก่อนสมยั ประวตั ิศาสตรน์ น้ั นกั โบราณคดีชาวตะวนั ตกและชาวไทยไดแ้ บ่งยุคก่อนประวตั ิศาสตรใ์ น ดนิ แดนประเทศไทยไว้ 4 ยุค ดงั น้ี ยุคหนิ เกา่ เครือ่ งมอื หนิ กะเทาะ • มอี ายุ 700,000-10,000 มาแลว้ พบทถี่ า้ หลงั โรงเรียนทบั ปริก จ. กระบี่ • รูจ้ กั ใชเ้คร่อื งมอื หนิ กรวดกะเทาะหนา้ เดยี ว • พบท่บี า้ นแมท่ ะ และบา้ นดอนมลู จ. ลาปาง แหลง่ โบราณคดผี าบงุ้ จ. เชยี งใหม่ ทถ่ี า้ หลงั โรงเรียนทบั ปรกิ จ. กระบ่ี เป็นตน้ คาถามชวนคิด....? ในยุคหนิ เก่ามนุษยม์ กี ารดารงชีวติ แบบไหน เหมอื นกบั ในสมยั ปัจจุบนั หรือไม.่ .....
ประวตั ศิ าสตร์ ส 31103 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 11 ภาชนะดินเผา พบทโี่ คกพนมดี อ. พนสั นิคม จ. ชลบรุ ี ยคุ หนิ ใหม่ • มอี ายุระหว่าง 10,000-4,000 ปีมาแลว้ • พบเคร่อื งมอื หนิ ขดั ดา้ นหน่ึงคม ดา้ นหน่ึงมน ผวิ เรยี บ • พบภาชนะดนิ เผาแบบต่าง ๆ พบท่บี า้ นเก่า จ. กาญจนบุรี ทโ่ี คกพนมดี จ. ชลบุรี เป็นตน้ • ลกั ษณะเคร่อื งมอื ทพ่ี บจะมคี วามละเอยี ด มากกวา่ ในยุคหนิ เก่า • เร่มิ มกี ารรวมตวั กนั อยู่เป็นกลมุ่ เป็นชมุ ชน มี การจดั ระเบยี บทางสงั คม • เรม่ิ มกี ารเพาะปลูก และเล้ยี งสตั วเ์ พอ่ื ประโยชนท์ างการเกษตร ขวานหนิ ขดั พบทโี่ คกพนมดี อ. พนสั นิคม จ. ชลบรุ ี ยคุ สารดิ • มอี ายุระหว่าง 4,000-2,500 ปีล่วงมาแลว้ • รูจ้ กั นาโลหะสารดิ มาทาเคร่อื งมอื เครอ่ื งใช้ • ซง่ึ เป็นเคร่อื งมอื ทม่ี คี วามแขง็ แรงทนทาน กว่าทองแดง • พบทบ่ี า้ นโคกพลบั จ. ราชบรุ ี • ทบ่ี า้ นเชยี ง จ. อดุ รธานี หอก และขวานสาริด พบทบี่ า้ นเชยี ง จ.อดุ รธานี สบื เน่ืองมาจากยุคทองแดงทม่ี นุษยค์ น้ พบความรอ้ นจากไฟสามารถแปรรูปทรพั ยากรธรณีอีกประเภท หน่ึงได้ ทรพั ยากรประเภทน้ีกค็ ือโลหะ ในขนั้ ตน้ มนุษยพ์ บว่าเม่อื ทองแดงถกู ความรอ้ นจะอ่อนตวั และจะแปร รูปไปอยา่ งไรกไ็ ด้ ไฟจากถา่ นในทจ่ี ากดั จะใหค้ วามรอ้ นสูงพอสมควร สามารถนาไปสู่การสกดั แยกเอาโลหะใน แร่และหนิ มาใชป้ ระโยชน์ จากการทโ่ี ลหะทองแดงท่ใี ชม้ าตงั้ แต่เดิมนน้ั ไม่แขง็ แรง และทนทานต่อดนิ ฟ้าอากาศ จงึ มกี ารหาโลหะอ่นื มาผสม โดยมกี ารเอาโลหะทองแดงผสมกบั ดบี กุ ไดโ้ ลหะผสมท่เี รยี กว่า บรอนซ์ (Bronze) หรอื สารดิ ซง่ึ เป็นโลหะทม่ี คี วามแขง็ แรงและทนทานต่อการผุกร่อนดีกว่าทองแดง
12 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 เรือ่ ง เวลากบั ยคุ สมยั ทางประวตั ศิ าสตร์ ยคุ เหลก็ เครือ่ งมอื เหลก็ พบทบี่ า้ นดอนตาเพชร จ. กาญจนบรุ ี • เร่มิ เมอ่ื ประมาณ 2,500 ปีลว่ งมาแลว้ • สงั คมมคี วามซบั ซอ้ นมากข้นึ ผูค้ นมวี ถิ ชี วี ติ ทเ่ี จริญข้นึ • เป็นยุคทม่ี นุษยเ์ รม่ิ ใชเ้หลก็ ในการทา เคร่อื งมอื เคร่อื งใชต้ ่าง ๆ ในการดารงชวี ติ • ยุคต่อมาหลงั ยุคเหลก็ คอื สมยั โบราณ (ancient history) • พบทบ่ี า้ นดอนตาเพชร จ. กาญจนบรุ ี บา้ นหนองนาตูม จ. นครราชสมี า เป็นตน้ หลงั จากท่แี ร่ทองแดงและแร่ดีบุกหาไดย้ ากข้นึ และมปี ริมาณไม่มากนกั ในขณะท่แี ร่เหลก็ หาไดง้ ่าย กวา่ และมปี รมิ าณเพยี งพอทจ่ี ะนามาใชป้ ระโยชนใ์ นดา้ นต่างๆ ยุคเหลก็ จงึ มวี วิ ฒั นาการทร่ี วดเร็วและแพร่หลาย กว่าทองแดงและสาริด โดยมีการใชง้ านในหลายรูปแบบ เช่น เคร่ืองมือ เคร่ืองใช้ อาวุธ ส่ิงก่อสรา้ ง และ สถาปตั ยกรรมต่างๆ สมยั ประวตั ศิ าสตรข์ องประเทศไทย อทุ ยานประวตั ศิ าสตรส์ โุ ขทยั หลกั ศิลาจารึกหลกั ที่ 1 อาณาจกั รสุโขทยั ก่อตงั้ ข้นึ ประมาณ พ.ศ. 1780 พ่อขุนศรี อินทราทิตย์ ทรงสถาปนาสุโขทยั ข้นึ มา สรา้ งความเป็นปึกแผ่นใหก้ บั ในจารึกใหข้ อ้ มูลว่า พ่อขุน ชนชาตไิ ทย โดยขยายเขตการปกครองออกไปอย่างกวา้ งขวาง สุโขทยั รามคาแหงทรงคิดประดิษฐอ์ กั ษรไทย เป็นราชอาณาจกั รของชาตไิ ทย อยู่ประมาณ 200 ปี จึงถูกรวมเขา้ เป็น ข้นึ ในปีมหาศกั ราช 1205 ซึ่งตรงกบั ปี สว่ นหนึ่งของอาณาจกั รอยธุ ยา เมอื่ พ.ศ. 1981 พ.ศ.1826
ประวตั ศิ าสตร์ ส 31103 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 13 สมยั ประวตั ศิ าสตรข์ อง ประเทศไทย สมยั อาณาจกั ร สมยั อยธุ ยา สมยั สมยั สโุ ขทยั สมยั ธนบรุ ี โบราณ รตั นโกสนิ ทร์ แผนผงั ความคิดสมยั ประวตั ศิ าสตรใ์ นประเทศไทย สมยั อาณาจกั รโบราณ สมยั อาณาจกั รโบราณในประวตั ิศาสตรไ์ ทย เป็นสมยั ก่อนท่ไี ทยจะรวมตวั กนั เป็นปึกแผ่น ซง่ึ เป็นช่วงท่ี ผูค้ นรวมตวั กนั เป็นกลมุ่ เป็นชมุ ชน เป็นกลมุ่ ต่างๆ และสถาปนาเป็นอาณาจกั รข้นึ มา ซง่ึ สรุปไดด้ งั น้ี เหรียญเงนิ ทมี่ จี ารึกภาษาสนั สกฤตวา่ “ศรีทวารวตี อาณาจกั รทวารวดี เป็นอาณาจักรท่ีต้ังอยู่ใน ศวรปณุ ยะ” อกี ดา้ นหน่ึงเป็นลายหมอ้ นา้ บริเวณท่รี าบลุ่มแม่นา้ เจา้ พระยา ตงั้ ข้นึ ราวพุทธศตวรรษท่ี พบที่ จ. นครปฐม 12-16 มศี ูนยก์ ลางอยู่บริเวณนครปฐม สุพรรณบุรี ราชบุรี มคี วามเจริญ ทางการคา้ ศิลปวฒั นธรรม และพทุ ธศาสนา เช่น วงลอ้ พระธรรมจกั ร และกวางหมอบท่พี ระปฐมเจดีย์ จงั หวดั นครปฐม อาณาจกั รโคตรบูร เป็นอาณาจกั รอยู่ท่บี ริเวณภาค ตะวนั ออกเฉียงเหนือ ตง้ั ข้นึ ราวพุทธศตวรรษท่ี 11-15 มี ศูนยก์ ลางอยู่ท่นี ครพนมมวี ฒั นธรรมประเพณีแบบอินเดีย นบั ถอื พระพทุ ธศาสนานิกายหนิ ยาน (เถรวาท) โบราณสถาน ทางพระพทุ ธศาสนา คือ พระธาตพุ นม วดั พระธาตพุ นม วรมหาวหิ าร ณ ริมฝงั่ แมน่ า้ โขง อาเภอธาตพุ นม จงั หวดั นครพนม อาณาจกั รศรีวิชยั เป็นอาณาจกั รอยู่ในภาคใต้ ตง้ั ข้นึ ราวพุทธศตวรรษท่ี 12-17 มศี ูนยก์ ลางอยู่ท่ี อาเภอ ไชยา จงั หวดั สุราษฎรธ์ านี ลงไปจนจดแหลมมลายู เป็น อาณาจกั รท่ีเป็นศูนย์กลางการคา้ ขายทางทะเลมีความ เจรญิ รุ่งเรอื งทง้ั ทางพระพทุ ธศาสนาเป็นอยา่ งมาก วดั พระบรมธาตไุ ชยาราชวรวหิ าร ตาบลเวยี ง อาเภอไชยา จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี
14 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 เรือ่ ง เวลากบั ยคุ สมยั ทางประวตั ศิ าสตร์ อาณาจักรล้านนา เป็ นอาณาจักรอยู่ใน ภาคเหนือ ตงั้ ข้นึ ในราวพทุ ธศตวรรษท่ี 18 มคี วามเจรญิ ทางศิลปวิทยาการ มีตวั หนังสือของตนเองเรียกว่า \"อักษรไทยยวน (ไทยโยนก)\" เป็ นศู นย์กลาง พระพทุ ธศาสนาในภมู ภิ าคนนั้ พระบรมราชานุสาวรียส์ ามกษตั ริย์ หรือทมี่ กั เรียกกนั วา่ อนุสาวรียส์ ามกษตั ริย์ เป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระมหากษตั ริยไ์ ทย 3 พระองค์ ผูส้ รา้ งเวียงเชียงใหม่ คือ พญามงั ราย พญางาเมอื ง และพ่อขนุ รามคาแหงมหาราช พระปรางคส์ ามยอด จงั หวดั ลพบรุ ี อาณาจกั รละโว้ เป็นอาณาจกั รท่ตี ง้ั อยู่บริเวณ ลุม่ แมน่ า้ เจา้ พระยาตง้ั ข้นึ ราวพุทธศตวรรษท่ี 13 มคี วาม เจริญรุ่งเรืองทางดา้ นพระพุทธศาสนา ซ่ึงไดร้ บั เอา ศิลปวัฒนธรรมแบบขอมเข้าม าผสมผสานเป็ น ลกั ษณะเฉพาะของละโว้ เช่น พระปรางค์สามยอด จงั หวดั ลพบรุ ี อาณาจกั รตามพรลิงคห์ รือนครศรีธรรมราช เป็นอาณาจกั รทต่ี ง้ั อยู่ทางภาคใตข้ องประเทศไทย ตงั้ ข้นึ ในราวพทุ ธศตวรรษท่ี 13-14 เป็นศูนยก์ ลางการคา้ และ การปกครองและยังมีความเจริญรุ่งเรืองทางดา้ น พระพทุ ธศาสนา วดั พระบรมธาตวุ รมหาวหิ าร หรือ วดั พระมหาธาตวุ รมหาวหิ าร อาเภอเมอื งนครศรีธรรมราช จงั หวดั นครศรีธรรมราช อาณาจักรหริภุญชัย เป็ นอาณาจักรทาง ภาคเหนือของประเทศไทย ตง้ั ข้นึ ในราวพทุ ธศตวรรษท่ี 13-14 เป็นศูนยก์ ลางพระพทุ ธศาสนาทางภาคเหนือ พระธาตหุ ริภญุ ชยั วรมหาวหิ าร ตงั้ อย่ใู จกลางเมอื งลาพูน
ประวตั ศิ าสตร์ ส 31103 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 15 แบบฝึก...ชวนคิด : ใหน้ ักเรยี นเตมิ แผนผงั ความคดิ เร่อื ง สมยั อาณาจกั รโบราณ สมยั อาณาจกั ร โบราณ ................. ................. ................. ................. ................. ................. ................. สมยั สุโขทยั สุโขทยั ถอื กาเนิดข้นึ อย่างเรยี บงา่ ยจากการพฒั นาของหมบู่ า้ นเลก็ ๆ ท่เี ติบโตข้นึ เป็นเมอื ง กระจายตวั อยูต่ ามแนวลมุ่ นา้ ยมและน่าน ครน้ั ก่อน พ.ศ. 1700 สุโขทยั เรม่ิ มฐี านะเป็นแว่นแควน้ ข้นึ มาเป็นครงั้ แรกโดยมี พ่อขุนศรีนาวถมเป็นพ่อเมอื ง และเป็นช่วงท่อี ิทธิพลขอมเร่ิมเส่ือมลง ทาใหส้ ุโขทยั เป็นปึกแผ่นมากข้ึนโดย สามารถสรุปสาระสาคญั เป็นประเดน็ ไดด้ งั น้ี • เรม่ิ ตง้ั แต่สถาปนาอาณาจกั รสุโขทยั และสุดทา้ ยถูก ผนวกเขา้ กบั อยุธยา • มกี ารประดษิ ฐต์ วั อกั ษรไทย โดยพ่อขนุ รามคาแหง เมอ่ื พ.ศ.1826 • มกี ารนบั ถอื พระพทุ ธศาสนานิกายเถรวาท • มกี ารจดั ระเบยี บการปกครอง • มกี ารสรา้ งศิลปะแบบสุโขทยั เช่น เจดยี ท์ รงดอก บวั ตูม พระพทุ ธรูปปางลลี า เป็นตน้ เมอ่ื ส้นิ แผ่นดนิ พ่อขนุ รามคาแหง กรุงสุโขทยั เร่มิ อ่อนกาลงั ลง พรอ้ ม ๆ กบั ท่แี ว่นแควน้ อ่นื เขม้ แขง็ ข้นึ อาณาจกั รลา้ นนาขยายอานาจลงมาจนถึงลุ่มแม่นา้ ยม-น่าน แควน้ ละโวแ้ ละอยุธยาเขม้ แขง็ ข้นึ จากการ รวมตวั กบั สุพรรณบุรีทค่ี รองอานาจอยู่เหนือลุ่มแมน่ า้ ท่าจนี จนในท่สี ุดก็ก่อตง้ั กรุงศรีอยุธยาข้นึ ไดส้ าเรจ็ ในปี พ.ศ.1893 หลงั จากนน้ั ไมน่ านอาณาจกั รสุโขทยั กถ็ กู ผนวกเขา้ เป็นส่วนหน่ึงของกรุงศรอี ยุธยา แบบฝึก...ชวนคดิ : เพราะเหตใุ ดอาณาจกั รสุโขทยั จงึ เสอ่ื มอานาจลง และโดนผนวกเขา้ เป็ นสว่ นหน่ึงของอาณาจกั รอยุธยา ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ...............................................................................................................................................
16 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 เรือ่ ง เวลากบั ยคุ สมยั ทางประวตั ศิ าสตร์ สมยั อยธุ ยา สมยั การวางรากฐานอานาจและเสรมิ สรา้ งความมนั่ คง • สมยั สมเดจ็ พระรามาธบิ ดีท่ี 1 (อู่ทอง) ถงึ สมยั พระบรมราชาธริ าชท่ี 2 • อาณาจกั รมขี นาดเลก็ • สรา้ งความมนั่ คงโดยการเป็นพนั ธมติ ร กบั ขอมในระยะแรก พระบรมรูปสมเด็จพระ • มกี ารตดิ ต่อคา้ ขายกบั ต่างประเทศ รามาธิบดีที่ 1 (อู่ทอง) ปฐมกษตั ริยผ์ ูส้ ถาปนาอาณาจกั ร สมยั ท่ีมอี านาจทางการเมืองและความรุง่ เรอื งทางเศรษฐกจิ • สมยั สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถ ถงึ สมยั สมเดจ็ พระนารายณม์ หาราช • การปกครองเป็นระบบและมนั่ คงยง่ิ ข้นึ • ตดิ ต่อคา้ ขายกบั ต่างชาตอิ ยา่ งกวา้ งขวาง • แมจ้ ะเสยี กรุงครง้ั ท่ี 1 พ.ศ.2112 แต่กฟ็ ้ืนตวั อย่างรวดเรว็ • มพี ระมหากษตั ริยท์ ย่ี ง่ิ ใหญ่หลายพระองค์ เช่น สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถ สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงหลงั่ ทกั ษิโณทก ประกาศอสิ รภาพ และสมเดจ็ พระนารายณม์ หาราช เป็นตน้ สมยั เสอ่ื มอานาจ • สมยั สมเดจ็ พระเพทราชาถงึ สมยั สมเดจ็ พระทน่ี งั่ สุรยิ าศนอ์ มรนิ ทร์ • อยุธยามคี วามเขม้ แขง็ นอ้ ยลง • เกดิ การแย่งชงิ อานาจกนั หลายครงั้ • เสยี กรุงครง้ั ท่ี 2 ส้นิ สุดสมยั อยุธยา • เมอ่ื พ.ศ.2310 คาถาม...ชวนคดิ วรี กรรมของชาวบา้ นบางระจนั เป็นเหตกุ ารณส์ าคญั ในประวตั ศิ าสตรไ์ ทยทเี่ กดิ ก่อนหนา้ ที่ กรุงศรีอยธุ ยาจะสูญเสยี อสิ รภาพแก่พมา่ Q. ขอ้ ใดไม่ใช่สาเหตทุ ่ที าใหเ้ สยี กรุงศรอี ยุธยาครง้ั ท่ี 2 พ.ศ. 2310 ก. การแยง่ ชงิ อานาจในราชสานกั ข. การดอ้ ยประสทิ ธภิ าพในการรบ ค. ชาตติ ะวนั ตกไม่ใหก้ ารสนบั สนุนดา้ นอาวุธ ง. พระมหากษตั รยิ ข์ าดพระปรชี าสามารถทางการรบ
ประวตั ศิ าสตร์ ส 31103 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 17 สมยั ธนบรุ ี • เป็นสมยั กอบกเู้อกราชหลงั จากเสยี กรุง • สรา้ งบา้ นเมอื งใหเ้ป็นปึกแผน่ ข้นึ มาใหม่ • ฟ้ืนฟศู าสนา ศิลปกรรม วรรณกรรม • ฟ้ืนฟูความสมั พนั ธก์ บั จนี เพอ่ื ผลประโยชนท์ างการคา้ • ทาสงครามกบั พมา่ เกอื บตลอดเวลา • ขยายอานาจไปยงั ลา้ นนา ลา้ นชา้ ง พระเจา้ ตากสนิ สมยั รตั นโกสนิ ทร์ หลงั จากปราบดาภเิ ษกข้นึ เป็นพระมหากษตั ริย์ ในปี พ.ศ. 2325 แลว้ สมเดจ็ เจา้ พระยามหากษตั รยิ ์ ศึกทรงใชพ้ ระนามวา่ \"พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้าจุฬาโลก\" และไดย้ า้ ยราชธานีจาก กรุงธนบุรขี า้ มแมน่ า้ เจา้ พระยามายงั ฝงั่ ตรงขา้ ม และตงั้ ช่อื ราชธานีใหมน่ ้ีว่า \"กรุงเทพมหานคร\" พรอ้ ม ๆ กบั การสถาปนาราชวงศ์ จกั รขี ้นึ มา ซง่ึ สมยั รตั นโกสนิ ทรส์ ามารถแบง่ ย่อยออกเป็น 3 ยุคดงั น้ี พระบรมมหาราชวงั แห่งกรุงรตั นโกสนิ ทร์ ยคุ รตั นโกสนิ ทรต์ อนตน้ • อยู่ในช่วงสมยั รชั กาลท่ี 1-3 หรอื เรยี กวา่ สมยั การทาใหเ้หมอื นเมอ่ื ครง้ั บา้ นเมอื งดี • มกี ารตรากฎหมายตราสามดวงในสมยั รชั กาลท่ี 1 เพอ่ื ใชใ้ นการปกครองบา้ นเมอื ง • มกี ารตรากฎหมายหา้ มสูบฝ่ินในสมยั รชั กาลท่ี 2 เน่ืองจากฝ่ินระบาด • มกี ารทาสนธสิ ญั ญาทางการคา้ กบั องั กฤษในสมยั รชั กาลท่ี 3 คอื สนธสิ ญั ญาเบอรน์ ี พ.ศ.2368 ซง่ึ เป็นสนธสิ ญั ญาฉบบั สมบูรณ์ ฉบบั แรกของไทย • สรา้ งพระบรมมหาราชวงั ข้นึ มาใหม่ โดยเลยี นแบบความยง่ิ ใหญ่ใหเ้หมอื นกรุงศรอี ยุธยา
18 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 เรือ่ ง เวลากบั ยคุ สมยั ทางประวตั ศิ าสตร์ ยุคปรบั ปรุงและปฏริ ูปประเทศ • อยูใ่ นช่วงสมยั รชั กาลท่ี 4 - 7 (ถงึ พ.ศ. 2475) • สมยั ของการปฏริ ูปประเทศใหท้ นั สมยั เพอ่ื ใหท้ ดั เทยี มกบั อารยธรรมตะวนั ตก • สมยั รชั กาลท่ี 4 เป็นช่วงเรม่ิ ปรบั ปรุงประเทศ เรม่ิ วางรากฐานในทกุ ดา้ นในการพฒั นาประเทศ • สมยั รชั กาลท่ี 5 เป็นช่วงปฏริ ูปประเทศในทกุ ดา้ น หรอื เรยี กอกี อยา่ งวา่ ยุคพลกิ แผน่ ดนิ • สมยั รชั กาลท่ี 6 เป็นช่วงนาประเทศเขา้ สูส่ งั คมโลก โดยไทยไดเ้ขา้ ร่วมสงครามโลกครงั้ ท่ี 1 กบั ฝ่าย สมั พนั ธมติ ร • สมยั รชั กาลท่ี 7 เกดิ การเปลย่ี นแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธปิ ไตย ในวนั ท่ี 24 มถิ นุ ายน พ.ศ.2475 โดยคณะราษฎร ถนนเจริญกรุงเป็นถนนทตี่ ดั ข้นึ ในรชั สมยั พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อยู่หวั รชั กาลที่ 4 เมอื่ พ.ศ. 2403 สมยั ประชาธิปไตย • เร่ิมข้นึ เม่อื พ.ศ.2475 ถึงปจั จุบนั มี การปกครองระบอบประชาธิปไตย อนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมขุ • รฐั ธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของ ประเทศ • อานาจการปกครองแบ่งออกเป็น 3 ฝ่าย คอื ฝ่ายนิตบิ ญั ญตั ิ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายตลุ าการ อนุสาวรียป์ ระชาธิปไตย สญั ลกั ษณข์ องการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย
คาถาม...ชวนคิด ประวตั ศิ าสตร์ ส 31103 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 19 Q. ขอ้ ใดกลา่ วผดิ เกย่ี วสมยั รตั นโกสนิ ทรย์ ุคปรบั ปรุงและปฏริ ูปประเทศ ช่วงสมยั รชั กาลท่ี 4-7 (ถงึ พ.ศ. 2475) ก. สมยั รชั กาลท่ี 4 เป็นช่วงเร่มิ ปรบั ปรุงประเทศ ข. สมยั รชั กาลท่ี 5 เป็นช่วงปฏริ ูปประเทศในทกุ ดา้ น ค. สมยั รชั กาลท่ี 6 พระมหากษตั รยิ พ์ ระราชอานาจการปกครองใหก้ บั ประชาชน ง. สมยั รชั กาลท่ี 7 เกดิ การเปลย่ี นแปลงการปกครองเป็นระบอบ ประชาธปิ ไตย ตวั อยา่ งการใชเ้ วลา ศกั ราช และยคุ สมยั การใชเ้ วลาและศกั ราช “ศกั ราช 712 ขาลศก...แรกสถาปนากรุงศรีอยธุ ยา” ทม่ี า : พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบบั หลวงประเสรฐิ ฯ หนา้ 5 ศกั ราชทก่ี ลา่ วถงึ 712 เป็นจลุ ศกั ราช เทยี บเป็น พ.ศ.+ 1181 = 1893 การใชย้ ุคสมยั • การใชย้ ุคสมยั เป็นช่ือหนงั สอื เช่น หนงั สอื สมยั ก่อน ประวตั ศิ าสตร์ ในประเทศไทย พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบบั หลวงประเสรฐิ ฯ เป็นตน้ • การใชย้ ุคสมยั เพอ่ื อธบิ ายความ เพอ่ื ใหเ้กดิ ความเขา้ ใจงา่ ย ไม่ ตอ้ งอธบิ ายใหย้ ดื ยาว • การใชย้ ุคสมยั ประกอบบทความ เพอ่ื ใหเ้กดิ ความเขา้ ใจตรงกนั วา่ จะศึกษา วเิ คราะหป์ ระวตั ิศาสตรย์ ุคสมยั ใด
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: