บทที่ 1

บทที่ ๑ บทนา ๑.๑ ความเป็นมาและความสาคัญ ความเจริญก้าวหน้าของวิทยาการด้านต่างๆของโลกในปัจจุบัน มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง หลกั สูตรการศกึ ษาของชาติ ซ่ึงถือว่าเป็นกลไกสาคัญในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของประเทศเพ่ือสร้าง คนไทยให้เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข การจัดการศึกษามุ่งเน้นความสาคัญทั้งด้านความรู้ ความคิด ความสามารถ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้และรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อพัฒนาให้มีความสมดุลยึดหลัก ผู้เรียนเป็นสาคญั ท่สี ุดสง่ เสรมิ ใหผ้ ูเ้ รียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเตม็ ศักยภาพ แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10 ได้ช้ีให้เห็นถึงความจาเปน็ ในการปรบั เปลี่ยนจุดเน้นในการพฒั นาคุณภาพใน สังคมไทยให้มีคุณธรรมและมีความรอบรู้อย่างเท่ากัน ให้มีความพร้อมท้ังร่างกาย สติปัญญาอารมณ์และ ศีลธรรม สามารถก้าวทันการเปลี่ยนแปลง เพื่อนาไปสู่สังคมฐานความรู้ได้อย่างมั่นคงแนวการพัฒนาคน ดังกล่าว มุง่ เตรียมเดก็ และเยาวชนให้มีพื้นฐานจิตใจท่ีดีงามมีจิตสาธารณะพร้อมทั้งมีสมรรถนะ ทักษะและ ความรพู้ น้ื ฐานท่จี าเปน็ ในการดารงชวี ิต อนั จะสง่ ผลตอ่ การพัฒนาประเทศแบบย่ังยืน จดุ มุ่งหมายของหลกั สูตรทม่ี ุ่งเน้นให้ผูเ้ รียนสามารถใชช้ ีวิตในสังคมอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่างเป็น ปกติสขุ และมคี ณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ถอื เปน็ หนา้ ทีส่ าคัญของครผู สู้ อนทจี่ ะต้องกาหนดกระบวนการใน การพฒั นาผู้เรยี นใหไ้ ดร้ ับความรทู้ ้งั ดา้ นพุทธพสิ ยั ทักษะพิสัยและจติ พสิ ัยด้วยการจัดการเรยี นการสอนด้วย วิธีการสอนทห่ี ลากหลายและมเี ทคนิควธิ กี ารที่ดีท่ชี ว่ ยให้ผูเ้ รยี นสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ ในปัจจบุ ันนนั้ ไดม้ เี ทคนิควิธใี นการจัดการเรยี นการสอนเกดิ ขึ้นมากมายหลายเทคนิควิธีการและวิธีการสอน แบบร่วมมือก็ถือเป็นแนวทางการจัดการเรียนการสอนแนวทางหนึ่งซึ่งปัจจุบันมีครูผู้สอนหลายท่านนา วิธีการสอนแบบร่วมมือมาปรับใช้ในการเรียนการสอนเพ่ือให้ผู้เรียนมีทักษะทางการเรียนที่เพิ่มข้ึนโดยจัด กระบวนการเรยี นรู้โดยมุ่งเนน้ เปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรียนไดเ้ ลอื กเรยี นตามความถนดั ความสนใจและคานึงถงึ ความ แตกต่างระหว่างบคุ คลของผเู้ รียน ส่งเสริมให้ผ้เู รยี นมสี ่วนรว่ มในกระบวนการเรียนรู้ พฒั นาความสามารถใน การเรียนรู้เพื่อพฒั นาศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่รวมถึงปลูกฝังคุณธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะที่พึง ประสงค์ โดยรูปแบบการสอนต่างๆ มักจะมีองค์ประกอบสาคัญที่สัมพันธ์กัน บางรูปแบบอาจมี องค์ประกอบบางส่วนแตกต่างกันบ้าง รูปแบบของวิธีการสอนท่ีจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และเกิด ทักษะต่าง ๆ มีหลากหลายรูปแบบ เช่น รูปแบบการสอนแบบบรรยาย การสอนแบบสาธิต การสอนแบบ CIPPA MODEL และอีกหลากหลายรูปแบบซ่ึงการสอนในแต่ละรูปแบบจะมีความสามารถในการพัฒนา ผู้เรียนให้เกิดทักษะต่างๆ ได้ รูปแบบการเรียนการสอนแบบร่วมมือก็เป็นอีกรูปแบบการเรียนท่ีมี ความสามารถในการจัดการเรียนการสอนเพื่อให้ผู้เรียนมีโอกาสร่วมมือกันทางาน มีทักษะการทางานกลุ่ม ปฏิสัมพันธ์กันระหว่างผู้เรียน เม่ือมีการนามาบูรณาการกับสื่อการสอนท่ีเหมาะสมก็ทาให้ได้รูปแบบการ เรยี นการสอนท่ีมปี ระสิทธภิ าพมากขนึ้ เพือ่ ใช้ในการพฒั นาผูเ้ รยี นการเรยี นแบบร่วมมอื เป็นวธิ หี นึ่งท่ีส่งเสริม

ให้ผู้เรียน ได้เรียนรู้แบบมีส่วนร่วมช่วยให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ท่ีสัมพันธ์กับชีวิตจริงได้รับการฝึกฝน ทักษะกระบวนการแสวงหาความรู้ ทักษะการคิด ทักษะการจัดการกับความรู้ทักษะการแสดงออก ทักษะ การสร้างความรู้ใหม่และทักษะการทางานเป็นกลุ่มจัดว่าเป็นวิธีเรียนที่สามารถนามาประยุกต์ให้เหมาะสม กับการเรียนการสอนที่มีคุณภาพได้อีกวิธีหนึ่ง การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเป็นวิธีการจัดการเรียนที่เปิด โอกาสให้ผู้เรยี นมสี ว่ นรบั ผิดชอบในการจัดการเรียนของตนเองและกลุ่มโดยมีความสาเร็จเป็นเป้าหมายของ การเรียน จึงนับว่าเป็นวิธีเรียนท่ีควรนามาใช้กับการเรียนการสอนปัจจุบันเพื่อให้การเรียนรู้ของนักเรียน เป็นไปอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพและสามารถนาไปใชไ้ ดก้ บั การสอนในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้และสามารถนาไป ผนวกเข้ากบั เทคนิคและวิธกี ารสอนโดยใชส้ ื่อต่าง ๆ ได้การเรียนแบบร่วมมือกันหรือวิธีสอนแบบร่วมมือกัน ทาให้นักเรยี นมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นและยังช่วยส่งเสริมให้นักเรียนมีพฤติกรรมการทางานกลุ่ม มี ความสามัคคี ช่วยเหลอื เกือ้ กลู กัน ดงั การศึกษาวจิ ยั ของกอบกลุ แสงสวาสด์ิ พบว่านักเรียนที่ได้รับการสอน แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค จ๊ิกซอว์มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนสูงกว่านักเรียนกลุ่มท่ีจัดการเรียนรู้แบบปกติ ควบคุมอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 สอดคล้องกับผลการวิจัยของ สิริรัตน์ บุตรสิงห์ ท่ีพบว่า นักเรียนท่ีได้รับการสอนโดยการเรียนแบบร่วมมือด้วยวิธีจ๊ิกซอว์ 2 มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชาสังคม ศึกษา สูงกว่านักเรียนท่ีได้รับการสอนโดยใช้วิธีการเรียนแบบปกติอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 และงานวิจยั ของ พุธทติ า ดอนฟงุ้ ไพร ที่พบวา่ นักเรยี นท่ีเรียนด้วยการเรียนแบบรว่ มมือมีผลสมั ฤทธท์ิ างการ เรยี นสงู กวา่ นกั เรยี นท่เี รียนแบบปกติอยา่ งมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 ผลการวิจัยพบว่าการสอนแบบ รว่ มมือกันและใช้ทกั ษะการทางานกลุ่ม สามารถพฒั นาผูเ้ รียนใหม้ ีผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นท่ีสูงขน้ึ จากผลการวิจัยต่าง ๆ ทาให้ผู้วิจัยมีความเห็นสอดคล้องกับประเด็นปัญหาต่าง ๆ ที่กล่าว มาแล้ว ในการวิจัยคร้ังน้ี ผวู้ ิจัยจึงมคี วามต้องการในการศึกษาผลการใช้ชดุ การเรียนแบบรว่ มมือด้วยเทคนิค จ๊ิกซอว์ เรื่อง ภูมิศาสตร์ประเทศไทยที่มีต่อผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนบ้านห้วยต้มชัยยะวงศาอุปถัมภ์ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างเต็ม ตามศักยภาพ ๑.๒ วัตถุประสงค์ของการวิจยั ๑.๒.๑ พัฒนาชุดการเรียนแบบรว่ มมอื เรอ่ื งภมู ิศาสตรป์ ระเทศไทย ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ ใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพตามเกณฑ์ ๑.๒.๒ เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ภูมิศาสตร์ประเทศไทย ของ นกั เรยี นช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ กอ่ นเรียนและหลังเรียนด้วยการเรียนโดยใชช้ ุดการเรียนแบบรว่ มมือ ๑.๒.๓ ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุด การเรยี นแบบร่วมมอื เรื่อง ภูมิศาสตร์ประเทศไทย เพ่ือพฒั นาชดุ การเรียนแบบร่วมมือเร่ืองภูมิศาสตร์ ประเทศไทย ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ ใหม้ ีประสทิ ธิภาพตามเกณฑ์

๑.๓ สมมติฐานของการวิจยั 1. ชุดการเรียนแบบร่วมมือเรื่องภูมิศาสตร์ประเทศไทย ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ มี ประสทิ ธิภาพตามเกณฑ์ 2. ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน เร่อื ง ภมู ศิ าสตรป์ ระเทศไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ ก่อนเรียนและหลงั เรียนด้วยการเรียนโดยใช้ชุดการเรยี นแบบร่วมมือแตกต่างกนั 3. ความพึงพอใจของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๖ ท่ีมีต่อการเรียนด้วยชุดการเรียน แบบร่วมมือ เรือ่ ง ภูมิศาสตรป์ ระเทศไทย อยู่ในระดบั มาก ๑.๔ ขอบเขตของการวิจัย 1. ขอบเขตด้านเนือ้ หา ทาการวิจยั ในเนือ้ หาเร่ืองผลการใช้ชุดการเรียนแบบชุดการเรียน แบบร่วมมือด้วยเทคนิคจ๊ิกซอว์ เรื่อง ภูมิศาสตร์ประเทศไทย ท่ีมีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ นักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรยี นบา้ นห้วยตม้ ชัยยะวงศาอปุ ถมั ภ์ 2. ประชากรของการวิจัยคร้ังน้ีคือ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 ของโรงเรียน บ้านห้วยต้มชัยยะวงศาอุปถัมภ์ สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาลาพูน เขต 2 ในปี การศึกษา 256๒ จานวน 1๕๘ คน 3. กล่มุ ตวั อยา่ งคือ นักเรียนระดับชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6 ของโรงเรียนบ้านห้วยต้มชัยยะ วงศาอุปถัมภ์ สานักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาลาพูน เขต 2 ในปีการศึกษา 256๒ จานวน ๓๔ คน 4. ตัวแปรท่ศี ึกษาไดแ้ ก่ 4.1 ตัวแปรอสิ ระ 4.1.1 นักเรียนระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนบ้านห้วยต้มชัยยะ วงศาอุปถมั ภ์ 4.2 ตัวแปรตาม 4.2.1 ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน ๔.๒.๒ ความพึงพอใจของนักเรียน ๑.๕ นยิ ามศัพท์เฉพาะท่ีใชใ้ นการวจิ ัย ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง ผลที่เกิดจากกระบวนการเรียนการสอนที่จะทาให้ นักเรียนเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และสามารถวัดได้โดยการแสดงออกมาทั้ง 3 ด้าน คือ ด้าน พุทธิพิสยั ด้านจติ พสิ ัย และดา้ นทกั ษะพสิ ัย ความพึงพอใจของนกั เรียน หมายถงึ ความคดิ เหน็ ของนักเรียกท่ีมตี ่อการเรยี นการสอน โดยใชแ้ บบสอบถาม

นักเรียน หมายถึง นักเรียนระดบั ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนบ้านห้วยต้มชัยยะ วงศาอุปถมั ภ์ สานักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาลาพูน เขต 2 ๑.๖ ประโยชนท์ ไี่ ด้รบั จากการวจิ ัย ๑. ครูได้แก้ไขปัญหาโดยการใช้ชุดการเรียนชุดการเรียนแบบร่วมมือด้วยเทคนิคจ๊ิกซอว์ เร่ือง ภูมิศาสตร์ประเทศไทยท่ีมีต่อผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๖ โรงเรียนบ้านห้วยต้มชัยยะวงศาอุปถัมภ์นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้โครงงานคุณธรรมเป็น ฐาน ๒. นักเรียนมีส่วนร่วมการผลการใช้ชุดการเรียนชุดการเรียนแบบร่วมมือด้วยเทคนิคจิ๊ก ซอว์ เร่ือง ภูมิศาสตร์ประเทศไทยท่ีมีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนบา้ นห้วยต้มชัยยะวงศาอปุ ถัมภ์ ๓. นกั เรียนเกดิ ทกั ษะการคดิ วเิ คราะหป์ ัญหา พฒั นาทักษะการคิด มีกระบวนการคิดอย่าง อสิ ระ รวมทัง้ เกิดทกั ษะในการปฏิบตั งิ านทีเ่ ป็นระบบจากการลงมือปฏบิ ัติจริง