1 กติกาบาสเกตบอล 2020 OFFICIAL BASKETBALL 2020 กติกาบาสเกตบอลฉบับน้ี ได้กาหนด ผู้เล่น หัวหน้าผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน หรือ บุคคลอ่ืนเป็นเพศชาย (เขา) ทง้ั หมด ซ่งึ ให้ใช้รวมไปถงึ เพศหญงิ ดว้ ย ท้ังน้ีตอ้ งเขา้ ใจวา่ กตกิ าไดจ้ ดั ขึ้นเพอื่ นาไปปฏิบตั เิ ท่าน้นั กตกิ าหมวดท่ี 1 การแขง่ ขัน : Rule one - The game ขอ้ 1 คาจากัดความ 1.1 การแข่งขนั บาสเกตบอล : Basketball game บาสเกตบอลเป็นการเล่นโดยทีม 2 ทีม แต่ละทีมมีผู้เล่น 5 คน จุดมุ่งหมายของแต่ละทีม คือการทา คะแนนด้านห่วงตาขา่ ยของฝ่ายตรงข้าม และขณะเดยี วกนั ป้องกันฝ่ายตรงข้ามไม่ให้ทาคะแนนด้าน หว่ งตาข่ายของตนเอง การแขง่ ขนั ถกู ควบคมุ โดยผตู้ ดั สนิ , เจา้ หนา้ ทีโ่ ต๊ะ และ ผู้ควบคมุ การแขง่ ขนั ( ถา้ มี) 1.2 ห่วงตาข่ายฝ่ายตรงขา้ ม / หว่ งตาข่ายทมี ตนเอง : Basket - Opponents / Own ห่วงตาข่ายท่ีทีมน้ันรุกไปทาคะแนน คือห่วงตาข่ายฝ่ายตรงข้าม และ ห่วงตาข่ายท่ีทีมนั้นป้องกัน ไมใ่ ห้ฝา่ ยตรงขา้ มทาคะแนน คอื หว่ งตาขา่ ยทีมตนเอง 1.3 ผชู้ นะการแข่งขนั : Winner of a game ทมี ทมี่ ีคะแนนมากกว่าเม่ือสิ้นสุดเวลาการแขง่ ขนั จะเปน็ ผชู้ นะการแข่งขนั
2 กตกิ าหมวดที่ 2 สนามแข่งขนั และ อุปกรณ์ : Rule two -Playing court and equipment ขอ้ 2 สนามแข่งขนั : Playing court 2.1 สนามแข่งขัน : Playing court สนามแขง่ ขัน ต้องเปน็ พ้นื เรียบ แข็ง ไม่มีส่ิงกีดขวาง(ภาพที่ 1) โดยมีขนาด ยาว 28 เมตร และกว้าง 15 เมตร ซ่งึ วัดจากขอบในของเส้นขอบสนาม 2.2 แดนหลัง : Backcourt แดนหลัง ของทีม ประกอบด้วยห่วงตาข่ายของทีมตนเอง, ส่วนของกระดานหลังท่ีย่ืนเข้ามาใน สนามแข่งขัน และ ส่วนของสนามแข่งขันที่กาหนดโดยเส้นหลังที่อยู่ด้านหลังห่วงตาข่ายของทีม ตนเอง, เส้นข้าง และ เสน้ กลาง 2.3 แดนหน้า : Frontcourt แดนหน้า ของทีม ประกอบด้วย ห่วงตาข่ายของฝ่ายตรงข้าม, ส่วนของกระดานหลังท่ียื่นเข้ามาใน สนามแข่งขัน และ ส่วนของสนามแข่งขันที่กาหนดโดยเส้นหลังท่ีอยู่ด้านหลังห่วงตาข่ายของฝ่าย ตรงขา้ ม, เสน้ ข้าง และ ขอบในของเส้นกลางใกลห้ ว่ งตาข่ายของฝ่ายตรงข้าม 2.4 เสน้ : Lines เสน้ ทกุ เสน้ จะตอ้ งตีด้วยสีเดียวกนั เปน็ สีขาว หรือสีอ่ืน ที่ตัดกันกับสีของสนาม กว้าง 5 เซนติเมตร สามารถมองเห็นไดช้ ัดเจน 2.4.1 เส้นเขตสนาม : Boundary line สนามแข่งขันจะกาหนดด้วยเส้นเขตสนาม, ประกอบด้วย เสน้ หลงั และ เสน้ ข้าง เส้นดงั กล่าวไม่ใช่สว่ นของสนามแขง่ ขัน ส่ิงกีดขวางใด ๆ รวมทัง้ ทน่ี ั่งของทีมท่ีประกอบด้วย หัวหน้าผู้ฝึกสอน ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนคนท่ี 1 ผู้เล่น สารอง ผเู้ ลน่ ท่ีฟาวลค์ รบ 5 ครงั้ ผู้ติดตามทมี ต้องอยูห่ า่ งจากสนามแขง่ ขนั อยา่ งน้อย 2 เมตร 2.4.2 เสน้ กลาง , วงกลมกลาง และคร่งึ วงกลมโยนโทษ : Centre line, Centre circle and free-throw semi-circles เสน้ กลาง จะต้องตเี สน้ ขนานกบั เส้นหลงั จากจดุ กึ่งกลางของเส้นข้าง เสน้ กลางจะตอ้ งตอ่ ยนื่ ออกไป จากเส้นขา้ ง 15 เซนติเมตร ท้งั สองดา้ น เส้นกลางเปน็ ส่วนหนึง่ ของแดนหลงั วงกลมกลาง จะตอ้ งตเี ส้นวงกลมทีก่ ่งึ กลางสนามแข่งขัน และมีรัศมี 1.80 เมตร โดยวัดถึงขอบนอก ของเสน้ รอบวง
3 ครึ่งวงกลมโยนโทษ จะต้องตีเส้นครึ่งวงกลมไว้ในสนามแข่งขัน มีรัศมี 1.80 เมตร โดยวัดถึงขอบ นอกของเส้นรอบวง ซง่ึ มจี ดุ ศนู ย์กลางอย่ทู ีก่ ึ่งกลางเส้นโยนโทษ (ภาพที่ 2) 2.4.3 เสน้ โยนโทษ, เขตกาหนดเวลา และ ชอ่ งยืนเพ่อื แยง่ บอลในการโยนโทษ : Free-throw lines, restricted areas and free-throw rebound places เส้นโยนโทษ จะต้องตีเส้นขนานกับเส้นหลังของแต่ละข้าง โดยจะต้องมีขอบนอกไกลสุดห่างจาก ขอบในของเสน้ หลัง 5.80 เมตร และ มคี วามยาว 3.60 เมตร จุดก่ึงกลางของเส้นโยนโทษ จะต้องอยู่ บนเส้นสมมตทิ ่ีลากตอ่ เชื่อมกันจากจุดก่งึ กลางของเส้นหลงั ท้งั สองขา้ ง เขตกาหนดเวลา จะต้องตีเป็นรูปส่ีเหล่ียมมุมฉากอยู่ในสนามแข่งขันที่กาหนดโดยเส้นหลัง, เส้นที่ ยื่นตอ่ ของเส้นโยนโทษ และ เส้นที่ลากมาจากเส้นหลัง โดยมีขอบนอกห่างจากจุดกึ่งกลางของเส้น หลงั 2.45 เมตร และส้ินสุดที่ขอบนอกของเส้นที่ย่ืนต่อของเส้นโยนโทษ เส้นต่าง ๆ เหล่าน้ี ยกเว้น เสน้ หลัง ถอื เปน็ สว่ นหน่ึงของเขตกาหนดเวลา ช่องยนื แย่งบอลการโยนโทษตามแนวเขตกาหนดเวลา สงวนไว้เพื่อให้ผู้เล่นยืนในระหว่างการโยน โทษ ใหท้ าช่องยนื ดังกล่าวตามภาพที่ 2 2.4.4 เขตการยิงประตู 3 คะแนน : 3- point field goal area เขตยิงประตู 3 คะแนนของทีม (ภาพที่ 1 และ ภาพท่ี 3) คือพ้ืนท่ีท้ังหมดของสนามแข่งขัน ยกเว้น พื้นทีใ่ กล้ห่วงตาข่ายของฝ่ายตรงข้าม โดยมีเขตกาหนดและรวมถึงสง่ิ ตอ่ ไปน้ี : เส้นขนาน 2 เส้น ทต่ี ่อยน่ื ตง้ั ฉากออกจากเส้นหลัง โดยมีขอบนอกหา่ งจากขอบในของ เส้นข้าง 0.90 เมตร เส้นโคง้ ที่มีรศั มี 6.75 เมตร วดั จากจดุ กึ่งกลางหว่ งตาข่ายทดี่ ง่ิ ลงมาบนพ้ืนสนาม โดยวดั ถึง ขอบนอกของเส้น จุดก่ึงกลางห่วงตาข่ายบนพื้นสนามถึงขอบในของจุดกึ่งกลางของเส้น หลัง มรี ะยะ1.575 เมตร เส้นโค้งต้องเชอื่ มตอ่ กบั เสน้ ขนานท้งั สองเส้น เสน้ 3 คะแนน ไมใ่ ช่สว่ นของเขตยิงประตูเพ่ือทา 3 คะแนน
4 ภาพที่ 1 สนามแข่งขนั : Full size playing court
5 2.4.5 เขตทน่ี ัง่ ของทมี : Team bench areas เขตที่น่งั ของทมี จะต้องกาหนดไวน้ อกสนามแขง่ ขันด้วยเส้น 2 เสน้ ดงั ภาพที่ 1 ในเขตท่ีนั่งของทมี จะต้องจดั ท่ีนั่งจานวน 16 ท่ีนั่ง สาหรับบุคคลท่ีเก่ียวข้องในทีมซึ่งประกอบด้วย หัวหน้าผู้ฝึกสอน, ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนคนท่ี 1, ผู้เล่นสารอง, ผู้เล่นท่ีฟาวล์ครบ 5 ครั้ง และ ผู้ติดตามทีม บุคคลอื่นจะต้องอย่หู ลงั เขตทน่ี ่ังของทมี และห่างออกไปอยา่ งนอ้ ย 2 เมตร 2.4.6 เสน้ สง่ บอลเข้าเล่น : Throw-in lines จะต้องตีเส้น 2 เส้น ยาว 0.15 เมตร ที่เส้นข้างนอกสนามแข่งขันด้านตรงข้ามโต๊ะผู้บันทึกคะแนน โดยวดั จากขอบนอกของเส้นเหล่านี้ถึงขอบในของเสน้ หลงั ท่ีใกลท้ ส่ี ุด 8.325 เมตร 2.4.7 เขตพนื้ ที่คร่ึงวงกลมปลอดการฟาวล์ชน : No-charge semi-circle areas จะต้องตเี สน้ ครึ่งวงกลมปลอดการฟาวลช์ นในสนามแข่งขัน ตามท่ีกาหนดดังน้ี : ครึ่งวงกลมท่มี รี ศั มี 1.25 เมตร วัดจากจุดกงึ่ กลางหว่ งตาขา่ ยท่ดี ิง่ ลงมาบนพ้ืนสนามถงึ ขอบ ในของครึ่งวงกลม เสน้ ครง่ึ วงกลมเช่อื มต่อกับ : เส้นขนาน 2 เสน้ ที่ตง้ั ฉากกับเส้นหลัง วดั จากขอบในถงึ จุดกึ่งกลางหว่ งตาขา่ ยท่ีด่ิงลงมาบน พื้นสนาม 1.25 เมตร มคี วามยาว 0.375 เมตร และส้ินสุดท่ีระยะห่าง 1.20 เมตร จากขอบใน ของเสน้ หลัง เขตพื้นทคี่ ร่ึงวงกลมปลอดการฟาวล์ชน ครอบคลมุ ท้ังหมดดว้ ยเสน้ สมมตทิ ี่เชอ่ื มตอ่ กบั ปลายสดุ ของ เส้นขนานทล่ี ากตรงลงมาดา้ นลา่ งจากขอบในของกระดานหลัง เส้นเขตพนื้ ที่ครึ่งวงกลมปลอดการฟาวลช์ น เป็นส่วนหน่ึงของพ้นื ทีค่ ร่งึ วงกลมปลอดการฟาวล์ชน ภาพท่ี 2 เขตกาหนดเวลา : Restricted area
6 ภาพที่ 3 เขตยงิ ประตู 2 คะแนน / เขตยิงประตู 3 คะแนน : Two-point / Three-point field goal area 2.5 ตาแหน่งของโตะ๊ ผบู้ นั ทึกคะแนน และ ที่นั่งผ้เู ล่นขอเปล่ยี นตัว(ภาพที่ 4) ภาพที่ 4 โต๊ะผบู้ นั ทกึ คะแนน และ ที่นัง่ ผเู้ ล่นขอเปลี่ยนตัว : Scorer's table and substitution chairs
7 ขอ้ 3 อุปกรณก์ ารแขง่ ขัน : Equipment อปุ กรณก์ ารแข่งขันทตี่ ้องจดั เตรยี มมีดังนี้ : ชุดอปุ กรณก์ ระดานหลงั ประกอบด้วย : - กระดานหลงั - ชดุ หว่ งตาขา่ ย ประกอบดว้ ย หว่ งชนดิ ตา้ นแรงดึง(Pressure release) และตาขา่ ย - โครงสรา้ งเคร่ืองยึดกระดานหลงั รวมถงึ นวมห้มุ ลกู บาสเกตบอล นาฬิกาแข่งขนั ป้ายคะแนน(Scoreboard) นาฬิกายงิ ประตู(Shot clock) นาฬิกาจบั เวลา หรอื อุปกรณ์ทีเ่ หมาะสม(มองเหน็ ชัดเจน) สาหรับจบั เวลานอก (ไมใ่ ช่นาฬกิ าแข่งขัน) อปุ กรณ์ให้สญั ญาณเสยี ง 2 ชุด ท่ีให้เสียงดงั และ แตกต่างกันอยา่ งชัดเจน อุปกรณแ์ ตล่ ะชุดเพ่ือสาหรับ - ผคู้ วบคุมนาฬกิ าการยงิ ประตู - ผจู้ บั เวลา ใบบนั ทกึ คะแนน ปา้ ยแสดงจานวนการฟาวล์ของผู้เลน่ ป้ายแสดงจานวนการฟาวล์ของทมี ลูกศรแสดงการสลับการครอบครองบอล พ้ืนสนามแขง่ ขัน สนามแข่งขนั แสงสวา่ งท่พี อเหมาะ สาหรับคาอธิบายรายละเอียดของอปุ กรณ์บาสเกตบอลทมี่ ากกวา่ นี้ ใหด้ ใู นภาคผนวกของอุปกรณ์การแข่งขนั
8 กตกิ าหมวดท่ี 3 ทมี : Rule three - Teams ขอ้ 4 ทมี : Teams 4.1 คาจากัดความ 4.1.1 สมาชกิ ของทมี มคี ุณสมบัติเขา้ แข่งขัน เมอ่ื เขาได้รบั มอบอานาจให้ลงแขง่ ขันให้กับทีม ตามระเบียบ ท่ีฝา่ ยจดั การแข่งขนั กาหนด รวมถึงการกาหนดอายุ 4.1.2 สมาชกิ ของทีมมีสิทธ์ิลงแข่งขนั เมอ่ื เขามีชือ่ ในใบบันทึกคะแนนก่อนเริ่มการแข่งขัน ตราบใดท่ีเขา ไม่ถูกตดั สทิ ธก์ิ ารแข่งขนั หรือ กระทาฟาวล์ครบ 5 คร้งั 4.1.3 ในระหว่างเวลาแข่งขนั สมาชกิ ของทมี มีสถานะดังนี้ : ผเู้ ล่น เมอ่ื เขาอยู่ใสนาม และ มีสทิ ธ์แิ ขง่ ขนั ผู้เล่นสารอง เม่อื เขาไมไ่ ดอ้ ยูใ่ นสนามแข่งขนั แต่เขามสี ทิ ธล์ิ งแข่งขนั เป็นผู้เลน่ ที่ถูกให้ออก(excluded player) เมอ่ื เขาได้กระทาฟาวล์ครบ 5 ครั้ง และไม่มีสิทธิ์ ลงแขง่ ขันอกี ตอ่ ไป 4.1.4 ในระหว่างชว่ งพกั การแขง่ ขัน สมาชิกของทีมทุกคนท่ีมสี ิทธ์ิลงแขง่ ขัน มีสถานะเปน็ ผู้เล่น 4.2 หลกั เกณฑ์ 4.2.1 แตล่ ะทมี จะประกอบด้วย : สมาชกิ ท่ีมสี ิทธิ์ลงแข่งขนั จานวนไม่เกิน 12 คน รวมท้ังหวั หน้าทีม หัวหน้าผู้ฝกึ สอน 1 คน ผตู้ ิดตามทมี ไม่เกิน 8 คน รวมผู้ช่วยผู้ฝึกสอนไม่เกิน 2 คน ท่ีอาจน่ังอยู่ในเขตท่ีน่ังของทีม ในกรณีทมี มีผูช้ ่วยผู้ฝึกสอน 2 คน ผชู้ ว่ ยผ้ฝู กึ สอนคนแรกตอ้ งมชี ื่อในใบบันทกึ 4.2.2 ในเวลาแข่งขัน ผูเ้ ล่น 5 คนของแตล่ ะทีม จะอยูใ่ นสนามแขง่ ขัน และ สามารถเปลย่ี นตวั ได้ 4.2.3 ผู้เลน่ สารองกลายเป็นผ้เู ลน่ และ ผูเ้ ลน่ กลายเปน็ ผูเ้ ล่นสารอง เม่ือ : ผู้ตัดสินกวักมอื เรียกใหผ้ เู้ ลน่ สารองเขา้ ไปในสนามแขง่ ขนั ในระหวา่ งเวลานอก หรอื ช่วงพักการแข่งขัน, ผเู้ ล่นสารองขอเปล่ยี นตัวกับผู้จับเวลา 4.3 ชดุ แข่งขัน 4.3.1 ชดุ แข่งขันของสมาชิกของทีมทั้งหมด จะประกอบดว้ ย :
9 เสอ้ื แขง่ ขัน ที่มีสีเด่นชัดเหมือนกัน ทั้งด้านหน้า และ ด้านหลัง ถ้าเสื้อมีแขน แขนเส้ือต้อง ไม่เลยข้อศอก ผูเ้ ล่นทุกคนต้องเกบ็ ชายเสอ้ื ไว้ในกางเกงของตนเอง และอนญุ าตให้ใสช่ ุดท่ีมี เสอื้ ติดกบั กางเกงท่ีเป็นชิ้นเดยี วกัน(All-in-one) ได้ กางเกงแข่งขัน ที่มีสีเด่นชัดเหมือนกัน ทั้งด้านหน้า และ ด้านหลัง เหมือนกับเสื้อ ชายกางเกงตอ้ งยาวสดุ ทีเ่ หนือเขา่ ถงุ เท้าของผู้เลน่ มีสีเด่นชัดเหมอื นกันทกุ คนในทมี สามารถมองเหน็ ได้ 4.3.2 สมาชิกของทีมแต่ละคน จะต้องใสเ่ สือ้ ทมี่ ีหมายเลขท้ังด้านหน้า และ ด้านหลัง ด้วยตัวเลขท่ีมีสีเข้ม ตดั กับสขี องเสอ้ื อยา่ งเด่นชัด ตัวเลขจะต้องมองเห็นไดช้ ัดเจน และมีลักษณะดงั น้ี : ตัวเลขดา้ นหลงั ต้องสูงอย่างนอ้ ย 20 เซนติเมตร ตัวเลขด้านหนา้ ตอ้ งสงู อยา่ งนอ้ ย 10 เซนติเมตร ตวั เลขต้องมีความกวา้ งอยา่ งนอ้ ย 2 เซนตเิ มตร ทมี ตอ้ งใชห้ มายเลข 0 และ 00 และจาก 1 ถงึ 99 ผ้เู ล่นทมี เดยี วกนั ต้องไม่ใส่เสือ้ ชุดแขง่ ขันทม่ี ีหมายเลขเดยี วกนั การโฆษณา หรือ สญั ลกั ษณ์(logo) จะต้องมรี ะยะห่างจากตวั เลขอยา่ งน้อย 5 เซนติเมตร 4.3.3 ทมี ตอ้ งมีเสอ้ื ชดุ แข่งขันอยา่ งนอ้ ย 2 ชุด และ : ทีมช่ือแรกในตารางการแข่งขัน(ทีมเหยา้ ) จะต้องใสเ่ สื้อชดุ สอี อ่ น(ควรเป็นสขี าว) ทีมชื่อทีส่ องในตารางการแขง่ ขนั (ทีมเยอื น) จะต้องใส่เสื้อชดุ สเี ขม้ อยา่ งไรกต็ าม หาก 2 ทมี ตกลงกนั ได้ พวกเขาสามารถเปลี่ยนสีเสอื้ ได้ 4.4 อุปกรณ์อื่น ๆ 4.4.1 อุปกรณ์ทุกชนิดที่ผู้เล่นใช้ ต้องเป็นอุปกรณ์ท่ีจัดไว้สาหรับการเล่นบาสเกตบอล ไม่อนุญาตให้ใช้ อุปกรณ์ใด ท่ีออกแบบให้เพิ่มความสูงของผู้เล่น หรือ เอื้อมได้ไกลข้ึน หรือ วิธีใดวิธีหน่ึงท่ีทาให้ ไดเ้ ปรียบอยา่ งไมย่ ุตธิ รรม 4.4.2 ผู้เลน่ จะต้องไม่สวมใส่อปุ กรณ์(วัตถุสงิ่ ของ) ทีอ่ าจเป็นเหตทุ าให้ผู้เลน่ อ่นื ได้รบั บาดเจ็บ ไมอ่ นญุ าต ให้ใชส้ งิ่ ต่อไปนี้ : - เคร่ืองป้องกันน้ิวมือ, มือ, ข้อมือ, ข้อศอก หรือ แขนท่อนล่าง เฝือก ที่ครอบศีรษะ หรือ เครื่องร้ัง(braces) ที่ ทาด้วยหนัง, พลาสติก, พลาสติกอ่อน, โลหะ หรือ วัสดุแข็งอ่ืนใด แม้ จะหุม้ ด้วยส่ิงออ่ นนมุ่ ก็ตาม - วตั ถุทีอ่ าจจะบาด หรอื ทาใหเ้ กดิ รอยถลอก(เล็บมือต้องตดั ใหเ้ รียบรอ้ ย) - สิง่ คลมุ ศีรษะ เครอ่ื งประดับผม หรอื ประดบั เพชรพลอย
10 อนญุ าต ใหใ้ ช้สิง่ ต่อไปน้ี : - อุปกรณ์ปอ้ งกนั ไหล่, แขนท่อนบน,ขาท่อนบน,ขาทอ่ นล่าง ทท่ี าด้วยวสั ดุท่ีห่อหมุ้ อยา่ งดี - ปลอกแขนกระชบั กล้ามเนื้อ ท่ีรัดกล้ามเนอ้ื ขา - อุปกรณ์ป้องกันการบาดเจ็บที่ศีรษะ ต้องไม่มีส่วนปิดบังใบหน้าทั้งหมด หรือบางส่วน (ตา จมูก ปาก เป็นต้น) ต้องไม่เป็นอันตรายต่อผู้สวมใส่ หรือผู้เล่นอ่ืน เครื่องป้องกันการบาดเจ็บท่ีศีรษะ ตอ้ งไมม่ สี ว่ นประกอบอื่น ๆ รอบใบหนา้ หรือคอ ตอ้ งไม่มีส่วนที่ปูดออกมา - ทรี่ ดั หวั เขา่ ท่มี ีส่ิงหอ่ หุ้มอย่างดี - อปุ กรณ์ปอ้ งกนั การบาดเจ็บทจ่ี มูก, แมจ้ ะทาดว้ ยวัสดแุ ขง็ - อปุ กรณ์ปอ้ งกนั การบาดเจบ็ ที่ปาก ชนดิ โปร่งใส ไมม่ สี ี - แว่นตา, หากไมท่ าให้เกิดอันตรายกับผู้เล่นอ่นื - - ท่ีรดั ข้อมือ และท่คี าดศีรษะ มีขนาดกวา้ งไม่เกิน 10 เซนติเมตร ทาด้วยผา้ ยืด - ผา้ เทปยึดกลา้ มเน้ือแขน,ไหล่,ขา - ทร่ี ดั ข้อเท้า ผูเ้ ล่นทุกคนในทีม ทส่ี รวมใสท่ ่รี ัดกล้ามเน้อื แขน และทร่ี ดั กลา้ มเนอ้ื ขา ท่คี รอบศรี ษะ ทีร่ ัดขอ้ มือ ท่คี าดศรี ษะ และผา้ เทปยดึ กลา้ มเนื้อ ตอ้ งมีสีเดียวกนั 4.4.3 ในระหว่างการแข่งขันผู้เล่นสามารถสรวมรองเท้าให้มีสีสวยงามได้ ต้องเหมือนกันท้ังสองข้าง ไม่ให้มแี สงไฟกระพรบิ หรอื แสงสะทอ้ นออกมา 4.4.4 ในระหว่างการแข่งขัน ผู้เล่นตอ้ งไม่แสดงเครอื่ งหมายการค้า, การส่งเสริมการขาย หรือ การกุศลใด เคร่ืองหมาย หรือสญั ลกั ษณ์ใด แตไ่ มร่ วมรวมถงึ ท่แี สดงบนร่างกาย, ทรงผม หรอื ส่วนอนื่ ใดของเขา 4.4.5 อุปกรณ์อืน่ ใดทไ่ี ม่ได้กลา่ วระบไุ ว้ในกติกาข้อนี้ ตอ้ งไดร้ ับการรบั รองจากคณะกรรมการเทคนิคของ สหพนั ธบ์ าสเกตบอลนานาชาติ (FIBA Technical Commission) ขอ้ 5 ผ้เู ลน่ บาดเจ็บและการชว่ ยเหลือ : Players – Injury and assistance 5.1 ในกรณีท่ีผูเ้ ล่นเกิดการบาดเจบ็ ผู้ตัดสนิ อาจจะหยดุ การแข่งขันได้ 5.2 ถ้าการบาดเจ็บเกิดขึ้นในขณะที่บอลกาลังเป็นบอลดี ผู้ตัดสินต้องไม่เป่านกหวีดจนกว่าทีมท่ี ครอบครองบอลจะได้ยิงประตู, เสียการครอบครองบอล, ถือบอลเพ่ือหยุดการเล่น หรือ บอล กลายเปน็ บอลตาย แต่หากจาเป็นเพ่ือคุ้มครองผู้เล่นท่ีบาดเจ็บ, ผู้ตัดสินสามารถหยุดการแข่งขันได้ ทันที 5.3 ถ้าผเู้ ลน่ ท่ีบาดเจ็บไมส่ ามารถเล่นต่อไปไดใ้ นทันที(ภายในประมาณ 15 วนิ าท)ี หรือ ถ้าเขาได้รับการ ดูแลรกั ษา หรอื การชว่ ยเหลือในทมี ของเขาจากหัวหน้าผู้ฝึกสอน สมาชิกในทีม และ/หรือ ผู้ติดตาม ทีม เขาจะต้องถูกเปล่ียนตัว นอกจากทมี นั้นจะเหลือผู้เล่นในสนามแข่งขนั น้อยกวา่ 5 คน
11 5.4 หวั หนา้ ผู้ฝึกสอน ผ้ชู ่วยผู้ฝึกสอน ผเู้ ลน่ สารอง ผเู้ ลน่ ทฟ่ี าวล์ครบ 5 ครั้ง และผู้ติดตามทีม อาจจะเข้า ไปในสนามแข่งขันได้ โดยได้รับอนุญาตจากผู้ตัดสินเท่าน้ัน เพ่ือดูแลรักษาผู้เล่นที่บาดเจ็บ ก่อนท่ี เขาจะถูกเปลยี่ นตัว 5.5 แพทยอ์ าจจะเขา้ ไปในสนามแขง่ ขนั ได้ โดยไมต่ อ้ งรับการอนุญาตจากผู้ตัดสิน ถ้าแพทยพ์ ิจารณาว่าผู้ เลน่ ทบ่ี าดเจ็บต้องได้รบั การดแู ลรกั ษาอยา่ งทนั ทที ันใด 5.6 ในระหว่างการแขง่ ขัน ผู้เล่นที่มีเลือดออก หรือ แผลเปิดจะต้องถูกเปลี่ยนตัว เขาอาจจะกลับเข้าไป ในสนามแขง่ ขันได้อีก หลังจากบริเวณท่ีมีบาดแผล หรือ แผลเปิดได้รับการปิดอย่างเรียบร้อย และ เลอื ดหยดุ ไหลแล้วเท่านัน้ 5.7 ถา้ ผูเ้ ล่นท่บี าดเจ็บ หรือ ผู้เล่นท่ีมเี ลือดออก หรือ แผลเปิด มีอาการดีขึ้นในระหวา่ งเวลานอกทขี่ อโดย ทีมใดทีมหนงึ่ ก่อนทีผ่ ู้จบั เวลาจะให้สัญญาณการเปลีย่ นตวั ผ้เู ลน่ คนน้นั อาจจะเล่นต่อไปได้ 5.8 ผ้เู ลน่ ทถี่ ูกระบุโดยหัวหน้าผู้ฝึกสอนให้เล่นตอนเร่ิมต้นการแข่งขัน หรือ ผู้เล่นท่ีได้รับการรักษาใน ระหว่างการโยนโทษ อาจจะถูกเปล่ียนตัวได้ ถ้าหากมีการบาดเจ็บ ในกรณีน้ี, ฝ่ายตรงข้ามมีสิทธ์ิ เปลยี่ นตวั ตามในจานวนท่ีเท่ากันได้ดว้ ยเช่นกัน, ถา้ ต้องการ ข้อ 6 หัวหน้าทมี : อานาจ และ หนา้ ท่ี : Captain - Duties and powers 6.1 หัวหน้าทีม(CAP) คือ ผู้เล่นท่ีถูกแต่งตั้งโดยหัวหน้าผู้ฝึกสอนให้ทาหน้าที่เป็นตัวแทนของทีมใน สนามแข่งขัน ในระหว่างการแข่งขัน เขาอาจจะติดต่อกับผู้ตัดสินด้วยกริยาที่สุภาพ เพื่อขอทราบ ข้อมลู อย่างไรกต็ าม เขาจะตดิ ตอ่ ได้เฉพาะเมื่อบอลกลายเปน็ บอลตาย และ นาฬิกาแข่งขันหยุดเดิน เทา่ น้นั 6.2 หัวหน้าทีม จะต้องแจ้งต่อหัวหน้าผู้ตัดสินภายใน 15 นาที หลังจบการแข่งขัน หากทีมของเขา ต้องการประท้วงผลการแข่งขัน และ ลงลายมือช่ือในใบบันทึกคะแนนท่ีช่อง “ ลายมือช่ือหัวหน้า ทีมกรณีมีการประท้วง ” ขอ้ 7 หวั หนา้ ผฝู้ กึ สอน ผู้ช่วยผู้ฝกึ สอนคนท่ี 1 : อานาจ และ หน้าท่ี :Head coach and first assistant coach: Duties and powers 7.1 กอ่ นเริ่มการแขง่ ขนั ตามกาหนดการอย่างนอ้ ย 40 นาที หัวหนา้ ผฝู้ กึ สอน หรือ ตัวแทนของแต่ละทีม จะตอ้ งสง่ รายช่อื ผ้เู ล่น รวมท้งั หมายเลขของสมาชกิ ของทมี ที่มคี ุณสมบัติในการเข้าแข่งขัน พร้อมท้ัง ชอื่ ของหวั หนา้ ทมี , หัวหนา้ ผูฝ้ ึกสอน, ผู้ช่วยผฝู้ ึกสอนคนที่ 1 ต่อผบู้ ันทกึ คะแนน สมาชกิ ของทีมทุก คนทีมีช่ือในใบบันทึกคะแนน จะมีสิทธิ์แข่งขัน แม้ว่าผู้เล่นเหล่าน้ันจะมาถึงภายหลังการเริ่มการ แขง่ ขนั แล้วกต็ าม 7.2 ก่อนเร่ิมการแข่งขนั ตามกาหนดการอย่างนอ้ ย 10 นาที หัวหน้าผู้ฝึกสอนของแต่ละทีมจะต้องยืนยัน รับรองรายช่ือ และ หมายเลขของสมาชิกในทีมของเขา รวมท้ังช่ือหัวหน้าผู้ฝึกสอนผู้ช่วยผู้ฝึกสอน
12 คนท่ี 1 โดยการลงลายมือชื่อในใบบันทึกคะแนน ขณะเดียวกันเขาจะต้องระบุผู้เล่น 5 คนแรก ท่ีจะ เริ่มต้นการแขง่ ขัน โดยหวั หน้าผู้ฝึกสอนทมี เอ(A) จะตอ้ งเป็นฝ่ายใหข้ อ้ มูลดังกล่าวกอ่ น 7.3 หัวหน้าผู้ฝึกสอน ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน ผู้เล่นสารอง ผู้เล่นท่ีฟาวล์ครบ 5 คร้ัง และผู้ติดตามทีม คือผู้ที่ ได้รบั อนุญาตให้น่งั อยูใ่ นเขตท่นี ั่งของทมี และ อยู่ภายในบริเวณพื้นท่ีนัง่ ของทมี เทา่ นั้น ชว่ งพกั การ แข่งขันหัวหน้าผู้ฝึกสอน ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน ผู้เล่นสารอง ผู้เล่นที่ฟาวล์ครบ 5 คร้ัง และผู้ติดตามทีม จะยังคงน่ังอยใู่ นที่นัง่ ของทีม 7.4 หัวหน้าผู้ฝึกสอน หรือ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนคนท่ี 1 อาจจะไปท่ีโต๊ะผู้บันทึกคะแนนได้ในระหว่างการ แข่งขนั เพื่อขอทราบขอ้ มลู ทางสถติ ิ เฉพาะเมื่อบอลตาย และ นาฬิกาแข่งขันหยดุ เดินเทา่ น้ัน 7.5 ระหว่างเกมการแข่งขัน หัวหน้าฝึกสอนอาจจะพูดจาสื่อสารกับผู้ตัดสินได้ โดยสุภาพ แลtในขณะ บอลตาย นาฬิกาการแข่งขนั หยุดเดนิ 7.6 ในระหว่างการแข่งขัน อนุญาตให้หัวหน้าผู้ฝึกสอน หรือ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนคนท่ี 1 คนใดคนหน่ึง เทา่ นนั้ ยนื ได้ระหว่างเกมการแขง่ ขัน เขาอาจจะพูดจาติดตอ่ กับผู้เล่นได้ โดยมีข้อแม้ว่าเขาจะต้องคง อยใู่ นเขตท่ีน่งั ของทมี ผ้ชู ่วยผู้ฝกึ สอนไมส่ ามารถพูดจาสอื่ สารกบั ผู้ตดั สนิ ได้ 7.7 ถ้ามีผู้ช่วยผู้ฝึกสอนคนที่ 1 ชื่อของเขาจะต้องถูกบันทึกลงในใบบันทึกคะแนน ก่อนเร่ิมต้นการ แข่งขัน(ไม่จาเป็นต้องมีลายมือชื่อ) เขาจะต้องรับหน้าที่ และ อานาจท้ังหมดของหัวหน้าผู้ฝึกสอน ในกรณีท่ีหวั หน้าผ้ฝู ึกสอน ไมส่ ามารถทาหนา้ ที่ตอ่ ไปได้ด้วยเหตผุ ลใดกต็ าม 7.8 เม่ือหัวหน้าทีมต้องออกจากสนามแข่งขัน หัวหน้าผู้ฝึกสอนจะต้องแจ้งหมายเลขของผู้เล่นท่ีจะ ปฏิบัตหิ นา้ ท่ีหัวหน้าทีมแทน ในสนามแข่งขนั ให้ผู้ตัดสินทราบ 7.9 หัวหน้าทีมทาหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอน ถ้าทีมน้ันไม่มีหัวหน้าผู้ฝึกสอน หรือ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ไม่สามารถทาหน้าท่ีต่อไปได้ และไม่มีชื่อผู้ช่วยผู้ฝึกสอนคนท่ี 1 อยู่ในใบบันทึกคะแนน(หรือไม่ สามารถทาหน้าที่ได้) ถ้าหัวหน้าทีมต้องออกจากสนามแข่งขัน เขาอาจจะเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน ต่อไปได้ แตถ่ ้าเขาตอ้ งออกจากสนามแขง่ ขนั จากการทาฟาวล์เสียสทิ ธ์ิ หรือ เขาไม่สามารถทาหน้าที่ เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนต่อไปได้ เพราะการบาดเจ็บ ผู้เล่นท่ีเปลี่ยนมาเป็นหัวหน้าทีม สามารถเป็น หวั หนา้ ผ้ฝู ึกสอนแทนเขาได้ดว้ ย 7.10 หัวหน้าผู้ฝกึ สอนจะตอ้ งเป็นคนระบุตวั ผู้โยนโทษ ในทกุ กรณีท่ีกติกาไม่ไดร้ ะบุผู้โยนโทษไว้
13 กติกาหมวดที่ 4 ระเบยี บการแขง่ ขัน : Rule four - Playing regulations ข้อ 8 เวลาการแข่งขัน , คะแนนเทา่ กัน และ การตอ่ เวลา : Playing time, tied score and overtime 8.1 การแขง่ ขนั ตอ้ งประกอบด้วย 4 ช่วงเวลา ช่วงเวลาละ 10 นาที 8.2 จะตอ้ งมชี ่วงพกั การแข่งขัน ก่อนเรม่ิ ต้นการแข่งขนั ตามตารางการแข่งขนั 20 นาที 8.3 จะต้องมชี ว่ งพกั การแข่งขัน 2 นาที ระหว่างช่วงเวลาท่ีหนึ่ง กับ ช่วงเวลาที่สอง(คร่ึงแรก), ระหว่าง ช่วงเวลาท่ีสาม กบั ชว่ งเวลาท่ีสี่(ครึง่ หลงั ) และ กอ่ นแตล่ ะชว่ งการต่อเวลา 8.4 จะตอ้ งมชี ว่ งพกั ครึง่ เวลาการแขง่ ขนั 15 นาที 8.5 ชว่ งพกั การแขง่ ขัน เริ่มตน้ : 20 นาที กอ่ นเร่ิมการแข่งขนั ตามตารางการแขง่ ขัน เมอ่ื เสียงสญั ญาณนาฬิกาจับเวลาแขง่ ขันดงั ข้ึน เมื่อหมดทกุ ช่วงเวลา 8.6 ชว่ งพกั การแข่งขัน สน้ิ สุด : เม่ือเร่ิมต้นการแข่งขันของช่วงเวลาท่ีหน่ึง ขณะที่ลูกบอลหลุดจากมือของหัวหน้าผู้ตัดสิน ในการโยนบอล เพ่ือเลน่ ลูกกระโดด เมือ่ เร่ิมต้นการแข่งขนั ของทุกช่วงเวลา เมอ่ื ลูกบอลอยกู่ ับผเู้ ลน่ ท่ีจะสง่ บอลเขา้ เลน่ 8.7 ถ้าคะแนนเท่ากัน เมอื่ หมดเวลาการแขง่ ขันของชว่ งเวลาท่ีสี่ การแขง่ ขนั จะตอ้ งดาเนนิ ต่อไปด้วยการ ตอ่ เวลาเปน็ เวลา 5 นาที หากจาเป็นอาจต้องตอ่ เวลาหลายครง้ั กไ็ ด้ เพ่ือใหม้ ผี ลชนะ – แพ้ ถา้ ผลรวมของการแข่งขันแบบเหยา้ – เยือน 2 เกม มผี ลแพ้-ชนะอยา่ งละ 1 เกม และคะแนนรวมตาม ระบบเท่ากนั เมื่อสน้ิ สดุ เกมท่ีสอง ให้ทาการแขง่ ขนั อีก 5 นาที จนกว่าจะมผี ลแพ้ – ชนะ 8.8 ถ้ามีการกระทาฟาวล์ระหว่างช่วงพักการแข่งขัน, การโยนโทษใด ๆ ที่เกิดข้ึนในช่วงนี้ จะต้อง ดาเนินการก่อนเรม่ิ การแขง่ ขันชว่ งตอ่ ไป หรือชว่ งตอ่ เวลา ข้อ 9 การเรม่ิ ต้น และ การส้ินสดุ ของชว่ งเวลาแขง่ ขนั หรือ การแข่งขนั : Beginning and end of a quarter,overtime or the game 9.1 ช่วงเวลาท่ีหน่ึง เร่ิมต้นเมื่อลูกบอลหลุดจากมือของหัวหน้าผู้ตัดสินในขณะโยนบอล เพ่ือเล่นลูก กระโดดในวงกลมกลาง 9.2 ชว่ งเวลาอ่ืนท้งั หมด เริ่มต้นเมือ่ ลูกบอลอยูก่ บั ผู้เล่นท่ีจะสง่ บอลเขา้ เล่น
14 9.3 การแข่งขันไม่สามารถเริ่มต้นได้ ถ้าทีมใดทีมหนึ่งไม่อยู่ในสนามแข่งขัน ด้วยผู้เล่น 5 คนท่ีพร้อม จะแข่งขนั 9.4 สาหรบั การแข่งขันทุกครั้ง ให้ทีมที่มีช่ือแรกในตารางการแข่งขัน(ทีมเหย้า) จะต้องได้ที่นั่งของทีม และหว่ งตาข่ายฝ่ายตัวเองอยู่ทางด้านซ้ายของโตะ๊ ผู้บันทึกคะแนน เม่อื หนั หน้าเขา้ หาสนามแข่งขนั อย่างไรก็ตาม ถ้าท้ังสองทีมตกลงกันได้ พวกเขาสามารถสับเปล่ียนที่นั่งของทีม และ/หรือ ห่วงตา ข่ายของทีมได้ 9.5 ก่อนเร่ิมการแข่งขันช่วงเวลาท่ีหนึ่ง และช่วงเวลาที่สาม ท้ังสองทีมมีสิทธิ์อบอุ่นร่างกายในครึ่ง สนาม แขง่ ขนั ด้านห่วงตาข่ายของฝ่ายตรงขา้ มได้ 9.6 ทั้งสองทีม ต้องเปลย่ี นหว่ งตาข่ายในครึ่งเวลาหลงั 9.7 ในทุกช่วงของการต่อเวลา ทั้งสองทีมต้องเร่มิ แข่งขนั อีกครง้ั ดว้ ยการรุกไปยังห่วงตาข่ายเดิมเหมือน ในช่วงเวลาท่สี ี่ 9.8 ช่วงเวลาการแข่งขัน, ช่วงต่อเวลา หรือเกมแข่งขัน จะสิ้นสุดลงเม่ือเสียงสัญญาณนาฬิกาแข่งขันดัง ขน้ึ สาหรบั ช่วงเวลานนั้ ๆ หากกระดานหลงั ได้ติดตั้งอปุ กรณแ์ สงไฟสแี ดงรอบขอบนอกกระดาน ให้ ยึด แสงไฟเป็นหลักเหนือเสียงสัญญาณของนาฬกิ าแข่งขนั ข้อ 10 สถานภาพของลกู บอล : Status of the ball 10.1 ลกู บอลสามารถเป็นไดท้ ้ัง บอลดี หรือ บอลตาย 10.2 ลูกบอลกลายเปน็ บอลดี (ball becomes live) เม่อื : ในระหวา่ งการเล่นลูกกระโดด ลกู บอลหลดุ จากมือของหัวหนา้ ผตู้ ัดสนิ ขณะโยนบอล ในระหวา่ งการโยนโทษ ลกู บอลอยู่กบั ผเู้ ลน่ ท่จี ะโยนโทษ ในระหวา่ งการส่งบอลเขา้ เล่น ลูกบอลอยใู่ นมอื ของผู้เล่นท่ีจะส่งบอลเขา้ เล่น 10.3 ลกู บอลกลายเปน็ บอลตาย (ball becomes dead) เม่ือ : การยงิ ประตู หรอื การโยนโทษเป็นผล ผู้ตดั สินเปา่ นกหวดี ของเขา ขณะทีล่ ูกบอลเป็นบอลดี เปน็ ทแ่ี น่ชดั วา่ ลกู บอลไม่ลงหว่ งตาข่ายจากการโยนโทษ ท่ตี อ้ งดาเนินการต่อไป โดย - มกี ารโยนโทษอกี - มบี ทลงโทษเพม่ิ อีก(การโยนโทษ และ/หรือ การได้ครอบครองบอล) เสียงสญั ญาณนาฬกิ าแข่งขันดังหมดเวลา สาหรบั ชว่ งเวลาการแข่งขัน เสียงสัญญาณของนาฬิกายงิ ประตูดัง ในขณะมีทีมครอบครองบอล ลูกบอลท่ลี อยอยู่ในอากาศจากการยงิ ประตู ถกู ผ้เู ลน่ ทีมใดทมี หน่งึ หลงั จาก : - ผู้ตัดสินเปา่ นกหวีดของเขา
15 - เสยี งสญั ญาณนาฬิกาเวลาการแขง่ ขันดังหมดชว่ งเวลา - เสยี งสญั ญาณของนาฬกิ ายิงประตูดงั 10.4 ลูกบอลไม่ กลายเป็น บอลตาย และ ให้นบั เปน็ ประตู ถ้าลูกบอลลงหว่ งตาข่าย เมอ่ื : ลกู บอลลอยอยู่ในอากาศจากการยิงประตู แล้ว : - ผู้ตัดสินเปา่ นกหวดี ของเขา - เสียงสัญญาณนาฬิกาเวลาการแข่งขันดงั หมดชว่ งเวลา - เสียงสญั ญาณของนาฬกิ ายิงประตูดัง ลูกบอลลอยอยู่ในอากาศจากการโยนโทษ และผู้ตัดสินเป่านกหวีด เน่ืองจากมีการละเมิด กติกาท่ีกระทาโดยผูเ้ ลน่ อนื่ ท่ไี มใ่ ช่ผโู้ ยนโทษ ลูกบอลอยใู่ นครอบครองของผู้เล่นในขณะที่กาลังยิงประตู และ เขาได้ส้ินสุดการยิงประตู จากการเคลอ่ื นที่ตอ่ เน่อื ง ซง่ึ ได้เริ่มต้นมากอ่ นท่จี ะเกิดการฟาวล์ของผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม หรือ ผู้เก่ยี วข้องของทมี ตรงขา้ มท่ีน่งั อย่ใู นท่ีนง่ั ของทมี ขอ้ กาหนดต่อไปน้ี ไม่ใหน้ ามาใช้ และ ไมน่ ับเปน็ ประตู ถา้ - หลังจากผู้ตัดสินเป่านกหวีดของเขา แล้วได้ทาท่ากาลังยิงประตูครั้งใหม่(new act of shooting) - ในระหว่างการเคลื่อนที่ต่อเนื่องของผู้เล่นท่ีอยู่ในท่ากาลังยิงประตู มีเสียงสัญญาณ นาฬิกาเวลาการแขง่ ขัน หรือ เสยี งสัญญาณของนาฬกิ ายงิ ประตูดังข้ึน ข้อ 11 ตาแหน่งของ ผูเ้ ลน่ และ ผตู้ ัดสนิ : Location of a player and an a referee 11.1 ตาแหน่งของ ผู้เล่น ถูกกาหนดโดยพื้นที่ซ่ึงเขากาลังสัมผัสพื้นสนาม ขณะที่เขากาลังลอยตัวใน อากาศ เขายังคงอยู่ในสถานภาพเหมือนตอนที่เขาได้สัมผัสพ้ืนสนามคร้ังสุดท้าย รวมทั้งเส้นเขต สนาม, เสน้ กลาง, เสน้ เขตยงิ ประตู 3 คะแนน, เส้นโยนโทษ, เส้นเขตกาหนดเวลา และ เส้นกาหนด เขตพืน้ ที่คร่ึงวงกลมปลอดการฟาวลช์ น 11.2 ตาแหน่งของ ผตู้ ดั สนิ ถกู กาหนดในลักษณะเชน่ เดียวกนั กับผู้เล่น ถา้ ลูกบอลสัมผัสผู้ตดั สนิ ให้เปรยี บเสมือนกบั ลกู บอลถกู พนื้ สนามทตี่ าแหน่งนนั้ ของผตู้ ดั สนิ ขอ้ 12 ลูกกระโดด และ การสลบั การครอบครองบอล : Jump ball and alternating possession 12.1 คาจากัดความ : ลกู กระโดด 12.1.1 ลูกกระโดด เกดิ ขึน้ เม่ือผูต้ ดั สินโยนบอลขึน้ ระหว่างผเู้ ล่นฝา่ ยตรงข้ามกนั 2 คน 12.1.2 ลกู ยึด(held ball) เกดิ ขึ้นเมอื่ ผ้เู ล่นหน่ึงคนหรือมากกว่าจากทีมตรงข้ามกัน ใช้มือเดียว หรือ สองมือ จับบอลไว้อย่างมั่นคง โดยไม่มีผู้เล่นคนใดสามารถครอบครองบอลได้ โดยปราศจากการเล่นที่ รุนแรง
16 12.2 วธิ ีดาเนินการเลน่ ลกู กระโดด : Jump ball procedure 12.2.1 ผเู้ ล่นลกู กระโดดแตล่ ะคน จะตอ้ งยืนใหเ้ ท้าทง้ั สองขา้ งอยู่ในครึง่ วงกลมดา้ นใกล้หว่ งตาข่ายของ เขาเอง และ ต้องใหเ้ ท้าขา้ งหน่ึงอยใู่ กลเ้ ส้นกลาง 12.2.2 ผู้เลน่ ทีมเดียวกัน จะต้องไม่ยืนชิดติดกันรอบวงกลม ถ้าฝ่ายตรงข้ามต้องการเข้าไปยืน ณ ตาแหน่ง น้นั 12.2.3 ผู้ตัดสนิ จะตอ้ งโยนบอลตรงข้นึ เปน็ แนวด่ิงระหว่างผู้เล่นลูกกระโดด 2 คน ,ให้สูงกว่าท่ีผู้เล่นคนใด สามารถกระโดดเออื้ มถึง 12.2.4 ลูกบอลจะต้องถูกปัดด้วยมือเดียว(สองมือ) ของผู้เล่นลูกกระโดดอย่างน้อย 1 คน หลังจากลูกบอล ขึ้นไปถึงจุดสูงสดุ 12.2.5 ผ้เู ล่นลกู กระโดด จะต้องไม่ออกจากตาแหนง่ ของเขาจนกวา่ ลกู บอลได้ถูกปัดอยา่ งถกู กติกา 12.2.6 ผู้เลน่ ลูกกระโดด จะตอ้ งไมจ่ บั บอล หรอื ปัดบอลมากกว่าสองครั้ง จนกว่าลูกบอลได้สัมผัสผู้เล่นที่ ไม่ไดเ้ ล่นลกู กระโดด หรือ ไดส้ ัมผัสพื้น 12.2.7 หากลูกบอลไม่ได้ถูกปัดโดยผู้เล่นลูกกระโดดอย่างน้อยหนึ่งคน จะต้องดาเนินการเล่นลูกกระโดด ใหม่ 12.2.8 ผู้เล่นที่ไม่ได้เล่นลูกกระโดด จะต้องไม่ทาให้ส่วนหน่ึงส่วนใดของร่างกายอยู่บนแนวเส้นรอบวง หรอื ยนื่ ล้าข้ามเสน้ รอบวงกลม(รูปทรงกระบอก) กอ่ นทลี่ กู บอลจะถูกปัด การละเมิดกตกิ าข้อ 12.2.1, 12.2.4, 12.2.6 และ 12.2.8 เปน็ การทาผดิ ระเบยี บ 12.3 สถานการณล์ ูกกระโดด : Jump ball situations สถานการณล์ ูกกระโดดเกิดข้นึ เมอ่ื : มีการขานลูกยดึ ลกู บอลออกนอกสนาม และ ผู้ตัดสนิ ไมแ่ นใ่ จ หรอื ขดั แย้งกันว่าผู้เล่นฝ่ายใดเป็นผสู้ ัมผัสลกู บอลเปน็ คนสดุ ทา้ ย เกิดการทาผิดระเบียบการโยนโทษของทั้งสองฝ่าย ในระหว่างการโทษครั้งสุดท้าย หรือ ครัง้ เดยี วทีไ่ ม่เป็นผลสาเรจ็ บอลดี ตดิ คา้ งระหว่างห่วงกับกระดานหลัง (ยกเว้น ระหว่างมีการโยนโทษหลายคร้ัง และ หลังจากการโยนโทษครั้งสุดท้ายหรือครั้งเดียว ท่ีติดตามด้วยการส่งบอลเข้าเล่นที่แนวย่ืน ตอ่ ของเสน้ สง่ บอลแดนหนา้ ด้านตรงข้ามโตะ๊ ผู้บันทึกคะแนน) ลูกบอลกลายเป็นบอลตาย ขณะท่ีไม่มีทีมใดครอบครองบอล หรือ มีสิทธิ์ได้ครอบครอง บอล
17 ภายหลงั การยกเลิกบทลงโทษทีเ่ ทา่ กันของทง้ั สองทีม, ไมม่ ีบทลงโทษการฟาวลอ์ ่ืนเหลือให้ ดาเนนิ การต่อไป และไม่มที มี ใดได้ครอบครองบอลมากอ่ น หรือ มสี ิทธ์ไิ ด้ครอบครองบอล ก่อนมีการฟาวล์ครั้งแรก หรือ กอ่ นมีการทาผดิ ระเบียบครั้งแรก เรม่ิ ตน้ การแข่งขนั ช่วงเวลาทหี่ นง่ึ ยกเว้นช่วงเวลาอ่นื 12.4 คาจากดั ความ : การสลบั การครอบครองบอล : Alternating possession definition 12.4.1 การสลับการครอบครองบอล คือวิธีการทีท่ าใหบ้ อลกลายเป็นบอลดี ดว้ ยการสง่ บอลเข้าเล่นแทน การเลน่ ลูกกระโดด 12.4.2 การสลับการส่งบอล : Alternating possession throw-in เริม่ ตน้ เมอ่ื ลกู บอลอยใู่ นมือผู้เล่นท่ีจะสง่ บอลเขา้ เล่น ส้ินสุด เมอื่ - ลูกบอลสัมผสั หรือ ถกู ผ้เู ลน่ ในสนามสมั ผัสอย่างถกู กติกา - ทมี ทสี่ ่งบอลเขา้ เล่นทาผดิ ระเบยี บ - บอลดตี ิดค้างระหวา่ งห่วงกบั กระดานหลงั ในระหว่างการส่งบอลเขา้ เลน่ 12.5 วิธีดาเนินการ การสลับการครอบครองบอล : Alternating possession procedure 12.5.1 ในสถานการณล์ กู กระโดดท้ังหมด ทั้งสองทมี จะต้องสลับการครอบครองบอล โดยการสง่ บอลเขา้ เลน่ ณ ตาแหน่งทใ่ี กลก้ ับท่ีเกิดสถานการณล์ ูกกระโดด ยกเว้นแนวใตก้ ระดานหลัง 12.5.2 ทมี ท่ไี ม่ไดค้ รอบครองบอลดีครงั้ แรกในสนามแข่งขัน ภายหลังการเล่นลูกกระโดดเมื่อตอนเริ่มต้น การแข่งขนั ของชว่ งทีห่ นงึ่ จะได้สิทธ์กิ ารสลับการครอบครองบอลเป็นครง้ั แรก 12.5.3 ทมี ทีไ่ ด้สิทธใ์ิ นการสลับการครอบครองบอลคร้งั ต่อไป ณ ตอนสิ้นสดุ การแข่งขันของแต่ละช่วงเวลา จะเป็นฝา่ ยเร่มิ ต้นการแข่งขันในช่วงเวลาต่อไปด้วยการส่งบอลเข้าเล่น ณ แนวต่อยื่นของเส้นกลาง ด้านตรงข้ามโต๊ะผู้บันทึกคะแนน ยกเว้น จะมีการโยนโทษและการครอบครองบอล ท่ีต้อง ดาเนินการเพิม่ เตมิ 12.5.4 ทีมท่ีได้สิทธ์ิในการส่งบอลจากการสลับการครอบครองบอล จะแสดงให้เห็นด้วยลูกศรสลับการ ครอบครองบอลท่ีชีไ้ ปทางด้านหว่ งตาข่ายของคแู่ ขง่ ขนั ทิศทางของลูกศรสลับการครอบครองบอล จะช้ีกลับตรงข้ามทันที เมอื่ การสง่ บอลเขา้ เล่นจากการสลบั การครอบครองบอลส้นิ สดุ 12.5.5 การทาผิดระเบียบของทมี ในระหว่างการส่งบอลเข้าเล่นจากการสลับการครอบครองบอล จะทาให้ ทมี นัน้ สูญเสียการส่งบอลเข้าเล่นจากการสลับการครอบครองบอล ทิศทางของลูกศรการสลับการ ครอบครองบอลจะชี้กลับตรงข้ามทันที แสดงว่าฝ่ายตรงข้ามกับทีมที่ทาผิดระเบียบ จะเป็นฝ่ายได้ สิทธ์ิในการส่งบอลจากการสลับการครอบครองบอลเมื่อเกิดสถานการณ์ลูกกระโดดคร้ังต่อไป
18 จากนัน้ ให้เรมิ่ การแข่งขันใหม่ โดยให้ลูกบอลแก่ฝ่ายตรงข้ามกับทีมท่ีทาผิดระเบียบเพ่ือส่งบอลเข้า เลน่ ณ จดุ ส่งบอลเขา้ เลน่ ครง้ั แรก 12.5.6 การฟาวล์โดยทีมใดทมี หนึง่ (ที่เกดิ ข้ึน) : ก่อน เร่ิมต้นแข่งขันของช่วงเวลาอืน่ ทีน่ อกเหนือจาก ชว่ งเวลาที่หนึง่ หรอื ในระหวา่ ง การสง่ บอลเข้าเลน่ จากการสลบั การครอบครองบอล จะไมเ่ ปน็ เหตใุ ห้ ทมี ท่ไี ด้สทิ ธิ์ส่งบอลเข้าเล่น ต้องสญู เสียสิทธ์ิในการสลับการครอบครองบอล ขอ้ 13 วธิ ีการเล่นลูกบอล : How the ball is played 13.1 คาจากัดความ ในระหวา่ งการแข่งขัน ลกู บอลจะถูกเล่นดว้ ยมอื เดยี ว(สองมอื ) เท่าน้ัน และอาจถูกสง่ ,โยน, ปัด, กล้ิง หรือ เลย้ี ง ไปในทศิ ทางใดก็ได้ ภายใตข้ อ้ กาหนดของกติกาน้ี 13.2 หลักเกณฑ์ ผู้เล่นจะต้องไม่วงิ่ ไปพรอ้ มกับลูกบอล, ไม่เจตนา(deliberately) เตะ หรือ สกัดก้ันลูกบอลด้วย ส่วน ใดๆ ของขา หรือ ชกลูกบอลดว้ ยหมดั อย่างไรกต็ าม ถ้าลกู บอลบังเอิญมากระทบ หรอื สมั ผัสลกู บอลด้วยสว่ นหนง่ึ ส่วนใดของขา ถือว่าไม่ เปน็ การทาผดิ ระเบยี บ การละเมิดกติกาข้อ 13.2 เปน็ การทาผิดระเบยี บ ขอ้ 14 การครอบครองบอล : Control of the ball 14.1 คาจากัดความ 14.1.1 การครอบครองบอลของทมี เร่มิ ตน้ เมือ่ ผู้เล่นของทีมน้ันได้ครอบครองบอลดี(live ball) โดยการถือ บอล หรอื เล้ียงบอล หรอื บอลดอี ยทู่ ่ีผู้ถูกกาหนดใหเ้ ลน่ บอลของทมี เขา 14.1.2 การครอบครองบอลของทมี ยังคงต่อเนื่อง เมอ่ื : ผู้เลน่ ของทมี น้ันกาลงั ครอบครองบอลดี ลูกบอลกาลงั ถกู สง่ ระหวา่ งผูเ้ ลน่ ทีมเดยี วกัน 14.1.3 การครอบครองบอลของทมี สิ้นสุด เม่อื : ฝา่ ยตรงขา้ มไดค้ รอบครองบอล ลกู บอลกลายเป็นบอลตาย ลูกบอลปลอ่ ยจากมอื ของผูเ้ ลน่ ท่ียงิ ประตู หรอื โยนโทษ
19 ข้อ 15 ผเู้ ล่นอย่ใู นท่ากาลังยิงประตู : Player in the act of shooting 15.1 คาจากดั ความ 15.1.1 การยิงประตู (A shot for field goal) หรือ การโยนโทษ (a free throw ) คือการกระทาเมื่อลูกบอลถูก จับอย่ใู นมือ(สองมือ) ของผู้เลน่ และ ต่อจากนั้นลูกบอลถกู โยนขึ้นไปในอากาศตรงไปยังห่วงตาข่าย ของฝ่ายตรงข้าม การปัดเพื่อยงิ ประตู (A tap for field goal) คอื การกระทาเมื่อลูกบอลถูกควบคุมดว้ ยมอื เดยี ว(สองมือ) ให้ตรงไปยงั ห่วงตาข่ายของฝ่ายตรงข้าม การยัดห่วง (A dunk for field goal) คือการกระทาเมือ่ ลกู บอลถกู แรงกดลงไปในห่วงตาข่ายของฝ่าย ตรงข้ามด้วยมือเดยี ว หรอื สองมอื การเคล่อื นทอี่ ยา่ งต่อเนื่องในขณะพุ่งไปยังห่วงตาข่าย หรือการเคลื่อนที่เข้ายิงประตูในลักษณะอ่ืน คือ การทผ่ี ูเ้ ลน่ จับลูกบอลในขณะเคลอ่ื นที่อยา่ งต่อเนอ่ื ง หรอื สน้ิ สดุ การเล้ยี งบอลอย่างสมบูรณ์ แล้วยิงประตู อย่างตอ่ เน่อื ง โดยปกติจะเคล่อื นท่ขี ้ึนขา้ งบน 15.1.2 ท่ากาลงั ยงิ ประตู : The act of shooting on a shot เร่ิมตน้ เม่ือผู้เล่นเร่ิมยิง โดยผู้ตัดสินพิจารณาว่า เขาพยายามเคล่ือนท่ีอย่างต่อเนื่อง โดยนา ลกู บอลไปยังหว่ งตาข่ายของฝ่ายตรงขา้ ม สิ้นสดุ เมอ่ื ลูกบอลได้หลดุ ออกจากมือเดียว(สองมือ)หรือเกดิ ทา่ ยิงประตูใหม่ และในกรณีผู้ ยิงประตลู อยตัวในอากาศ ท่ากาลังยงิ ประตสู น้ิ สุดเมอื่ เทา้ ทั้งสองขา้ งได้ลงสพู่ ื้นแล้ว 15.1.3 การเคลือ่ นท่ีตอ่ เน่ือง ในขณะพ่งุ ไปยงั ห่วงตาขา่ ย หรอื การเคลอื่ นที่เข้ายงิ ประตูในลักษณะอน่ื เร่ิมต้น เมื่อลูกบอลได้พักอยู่ในมือเดียว(สองมือ) ,ส้ินสุดการเลี้ยงบอล หรือจับลูกบอล กลางอากาศ และผู้ตัดสินพิจารณาว่าเขาเริ่มเคล่ือนไหวยิงประตู โดยปล่อยลูกบอลเพ่ือยิง ประตู ส้ินสดุ เม่ือลกู บอลได้หลุดจากมือเดียว(สองมอื ) หรอื เรมิ่ ทา่ กาลงั ยิงประตูใหม่ทง้ั หมด 15.1.4 ไมม่ คี วามสัมพนั ธใ์ ดระหวา่ งจานวนการก้าวเท้าอย่างถกู ตอ้ งกับทา่ การยงิ ประตู 15.1.5 ระหว่างกาลงั ยงิ ประตู ผ้ยู งิ อาจถูกฝ่ายตรงขา้ มดึงแขนของเขาเพอ่ื ไม่ให้ไดค้ ะแนน ในกรณีนี้ลูกบอล ไม่จาเปน็ ตอ้ งหลุดออกจากมือ 15.1.6 เม่อื ผเู้ ลน่ อยูใ่ นทา่ กาลังประตูแล้วถูกกระทาฟาวล์ จากน้ันผู้เล่นนั้นส่งบอล พิจารณาว่าผู้เล่นนั้นไม่ อย่ใู นท่าการยงิ ประตู
20 ขอ้ 16 ประตู : การไดป้ ระตแู ละค่าของประตู : Goal - When made and its value 16.1 คาจากัดความ 16.1.1 ประตทู าได้ เม่อื บอลดีเข้าไปในหว่ งตาขา่ ยจากด้านบน แล้วคงอยู่ภายในตาขา่ ย หรอื ผ่านหว่ งตาขา่ ย ลงไป 16.1.2 ลูกบอลจะถูกพิจารณาว่าอยู่ภายในห่วงตาข่าย เมื่อส่วนเพียงเล็กน้อยของลูกบอลอยู่ภายในตาข่าย และต่ากวา่ ระดับของหว่ ง 16.2 หลักเกณฑ์ 16.2.1 ใหป้ ระตูแก่ทมี ท่ีรกุ ห่วงตาขา่ ยของฝ่ายตรงข้าม ซ่ึงลูกบอลไดล้ งห่วงตาข่าย ดงั น้ี : ประตู ทไี่ ด้ปลอ่ ยจาก การโยนโทษ นบั 1 คะแนน ประตู ท่ีไดป้ ลอ่ ยจากเขตพ้นื ที่ 2 คะแนน นบั 2 คะแนน ประตู ทไ่ี ด้ปล่อยจากเขตพ้นื ท่ี 3 คะแนน นับ 3 คะแนน หลังจากลูกบอลได้สัมผสั ห่วงจากการโยนโทษครัง้ สดุ ทา้ ยหรอื คร้ังเดยี ว แล้วลกู บอลถกู สัมผัสอย่างถูกกติกาโดยผู้เล่นฝ่ายรุก หรือ ฝ่ายป้องกัน ก่อนท่ีลูกบอลจะลงห่วง ให้นับ ประตู นน้ั เป็น 2 คะแนน 16.2.2 ถา้ ผู้เลน่ บงั เอิญ ทาคะแนนโดยการยงิ ประตูลงห่วงตาขา่ ยของทมี เขาเอง ใหน้ ับประตเู ปน็ 2 คะแนน และ จะบันทึกเป็นการทาคะแนน โดยหัวหนา้ ทมี ตรงขา้ มทอี่ ยใู่ นสนามแขง่ ขัน 16.2.3 ถ้าผ้เู ลน่ เจตนา ทาคะแนน โดยการยิงประตูลงห่วงตาข่ายของทีมเขาเอง ถือเป็นการทาผิดระเบียบ และไม่นบั เปน็ ประตู 16.2.4 ถา้ ผเู้ ลน่ ทาให้ลูกบอลทะลุผา่ นห่วงตาข่ายจากดา้ นล่างขึ้นไปท้งั ลูก ถือเป็นการทาผดิ ระเบยี บ 16.2.5 นาฬิกาแข่งขันแสดงเวลา 0.3 วินาที(เศษสามส่วนสิบของวินาที) หรือมากกว่า เพ่ือให้ผู้เล่นที่ได้ ครอบครองบอลจากการสง่ บอลเขา้ เลน่ หรอื จากการแย่งบอลหลงั จากการโยนโทษคร้ังสดุ ท้าย หรือ ครั้งเดียวได้พยายามยิงประตู ถ้านาฬิกาแข่งขันแสดงเวลา 0.2 วินาที หรือ 0.1 วินาที แล้ววิธีการยิง ประตทู ่ถี กู ต้องตามกตกิ า คือการยงิ ประตูโดยการปัดบอล หรอื การยัดลูกบอลลงหว่ งโดยตรงเท่านั้น มือของผู้เล่นน้นั ต้องไมส่ มั ผสั ลูกบอลในขณะท่ีเวลาการแขง่ ขนั หรือนาฬกิ าการยงิ ประตแู สดง 0.0 ข้อ 17 การส่งบอลเขา้ เลน่ : Throw - in 17.1 คาจากัดความ 17.1.1 การส่งบอลเข้าเล่น เกิดขึ้นเม่ือลูกบอลถูกส่งเข้าไปในสนามแข่งขัน โดยผู้เล่นที่อยู่นอกสนามเป็น ผู้สง่ เขา้ เล่น
21 17.2 วธิ ีดาเนินการ 17.2.1 ผู้ตัดสินต้องยืน่ บอล หรือ วางบอล ใหผ้ ู้เล่นที่สง่ บอลเข้าเล่น เขาอาจจะโยน หรือ ส่งบอลกรทบพ้ืน ไปให้ผู้เล่น โดยมีเงอ่ื นไข ดงั นี้ : ผู้ตดั สนิ อย่หู ่างจากจุดทผี่ เู้ ล่นท่ีสง่ บอลเขา้ เลน่ ไมเ่ กิน 4 เมตร ผูเ้ ลน่ ท่สี ง่ บอลเข้าเล่น อยู่ ณ ตาแหนง่ ที่ถกู ต้องตามที่ผตู้ ัดสนิ กาหนด 17.2.2 ผู้เล่นต้องส่งบอลเข้าเล่น ณ จุดใกล้กับท่ีมีการทาผิดระเบียบ หรือ จุดใกล้กับท่ีกรรมการตัดสินได้ หยดุ การแขง่ ขนั ยกเว้นพ้ืนท่ีใตก้ ระดานหลงั 17.2.3 เมื่อเริ่มต้นช่วงเวลาแข่งขันท่ีไม่ใช่ช่วงเวลาแข่งขันช่วงที่ 1 การส่งบอลเข้าเล่นจะต้องดาเนินการ ณ แนวยื่นต่อของเสน้ กลาง ด้านตรงขา้ มโตะ๊ ผู้บนั ทกึ คะแนน ผู้เล่นที่ส่งบอลเข้าเล่น จะต้องยืนคร่อมแนวเส้นท่ียื่นต่อของเส้นกลาง ด้านตรงข้ามโต๊ะผู้บันทึก คะแนน และ มีสิทธิ์สง่ บอลไปให้เพื่อนร่วมทีมท่ีอยู่ ณ ทใี่ ดกไ็ ด้ในสนามแขง่ ขัน 17.2.4 หากนาฬิกาแข่งขันแสดงเวลา 2:00 นาที หรือ น้อยกว่าในช่วงเวลาท่ี 4 หรือในช่วงต่อเวลา การส่ง บอลเข้าเล่นท่ีหลังจากการขอเวลานอกของทีมที่ได้สิทธิ์ส่งบอลเข้าเล่นในแดนหลัง จะต้อง ดาเนินการ ณ เส้นส่งบอลเข้าเล่น(throw-in line) ในแดนหน้าของทีม ด้านตรงข้ามโต๊ะผู้บันทึก คะแนน หรอื ในแดนหลงั ใกลก้ บั จดุ ที่หยุดเกมการแขง่ ขนั 17.2.5 การทาฟาวล์บุคคล ท่กี ระทาโดยผู้เลน่ ของทีมท่คี รอบครองบอลดี หรือ ผู้เลน่ ของทมี ท่มี ีสทิ ธ์ไิ ด้บอล การสง่ บอลเขา้ เล่น จะต้องดาเนนิ การ ณ จุดใกลก้ ับทมี่ ีการละเมิดกตกิ าทส่ี ดุ 17.2.6 หลงั จากการฟาวล์เทคนิค การส่งบอลเข้าเล่น ต้องส่งใกล้กับจุดท่ีหยุดการแข่งเมื่อมีการขานฟาวล์ เทคนิค นอกเหนอื จากกตกิ าจะระบุเปน็ อยา่ งอื่น 17.2.7 หลังจากการฟาวล์ขาดน้าใจนักกีฬา หรือการฟาวล์ไล่ออก การส่งบอลเข้าเล่น ต้องส่งที่เส้นส่งบอล แดนหนา้ นอกเหนือจากกติกาจะระบุเปน็ อย่างอื่น 17.2.8 หลังจากการฟาวลช์ กต่อยกัน เกมการแขง่ ขันต้องดาเนินการตามกตกิ าขอ้ 39 17.2.9 หลังจากลูกบอลลงห่วงประตู แต่ไม่เป็นคะแนนนับ การส่งบอลเข้าเล่นจะต้องส่งท่ีเส้นข้าง ไม่เกิน แนวเสน้ โยนโทษ 17.2.10 จากการยงิ ประตู หรือ การโยนโทษครัง้ สดุ ทา้ ยหรอื ครั้งเดยี วเปน็ ผลสาเรจ็ : ผเู้ ล่นคนใดคนหนง่ึ ของทีมที่เสยี คะแนน จะต้องส่งบอลเข้าเล่นที่เส้นหลังของทีม ณ จุดใด กไ็ ด้ การสง่ บอลดงั กล่าวให้นาไปใช้ร่วมกบั กรณีหลงั จากผูต้ ัดสินย่ืนบอล หรือ วางบอลให้ ผู้ส่งบอลเข้าเล่น ภายหลังหมดเวลานอก หรือ ภายหลังการหยุดการแข่งขันด้วยกรณีใดๆ ก็ตามหลงั จากการยิงประตู หรอื การโยนโทษครั้งสุดทา้ ย หรือ ครั้งเดียวเป็นผลสาเร็จ
22 ผู้เลน่ ที่สง่ บอลเข้าเล่น อาจเคลอื่ นทีไ่ ปทางด้านข้าง และ/หรอื ถอยหลัง เขา อาจจะส่งบอล ระหว่างเพ่อื นรว่ มทมี ทีอ่ ยู่นอกเสน้ หลัง แต่จะเริม่ นบั 5 วินาที เมอื่ ลกู บอลอยกู่ ับผู้เลน่ คน แรกทอ่ี ยนู่ อกสนาม 17.3 หลกั เกณฑ์ 17.3.1 ผู้สง่ บอลเขา้ เลน่ ตอ้ งไม่ : ใช้เวลามากกวา่ 5 วินาที ในการปล่อยบอล กา้ วเทา้ เข้าไปในสนามแข่งขนั ขณะทีถ่ อื ลกู บอลอยใู่ นมือของเขา ทาใหล้ ูกบอลสัมผสั บริเวณนอกสนาม ภายหลังท่ีได้ปลอ่ ยบอลจากการสง่ บอลเข้าเล่น สัมผัสลูกบอลในสนามแข่งขนั ก่อนท่ีลูกบอลจะได้สมั ผสั ผู้เลน่ คนอนื่ ทาใหล้ กู บอลลงห่วงตาข่ายโดยตรง เคลื่อนท่ีออกจากบริเวณที่กาหนดให้ส่งบอลเข้าเล่นนอกเส้นเขตสนาม โดยเคล่ือนที่ไป ทางด้านข้างในทิศทางเดียว หรือทั้งสองทิศทาง เป็นระยะทางรวมกันเกินกว่า 1 เมตร ก่อนท่ี จะปล่อยบอล อย่างไรก็ตาม อนุญาตให้เขาเคลื่อนที่ถอยหลังโดยตรงจากเส้นเขต สนามได้ไกลตามทสี่ ภาวะแวดล้อมจะเออ้ื อานวย 17.3.2 ในระหวา่ งการสง่ บอลเขา้ เล่น ผเู้ ลน่ อนื่ ต้องไม่ : ใหส้ ่วนหน่ึงส่วนใดของร่างกายล้าออกนอกเส้นเขตสนาม ก่อนที่ลูกบอลจะถูกส่งเข้าเล่น ผ่านเส้นเขตสนาม เข้าประชิดผู้ส่งบอลเข้าเล่นใกล้กว่า 1 เมตร เมื่อพ้ืนท่ีการส่งบอลเข้าเล่นระหว่างเส้นเขต สนามกบั สงิ่ กดี ขวางตา่ ง ๆ นอกสนาม มีระยะห่างนอ้ ยกวา่ 2 เมตร 17.3.3 เมอื่ เวลาการแข่งขันแสดง 2.00 นาที หรือน้อยกวา่ ในช่วงการเลน่ ที่ 4 หรอื ชว่ งตอ่ เวลา เม่อื มกี ารส่ง บอลเขา้ เล่น ผู้ตัดสนิ ตอ้ งแสดงสัญญาณเตอื นห้ามล้าแนวเสน้ สมมุติ กอ่ นย่ืนบอลใหก้ บั ผสู้ ง่ บอลเข้า เลน่ การละเมดิ กตกิ าขอ้ 17.3 เปน็ การทาผดิ ระเบียบ 17.4 บทลงโทษ ให้ลกู บอลแก่ฝ่ายตรงข้าม เพ่ือสง่ บอลเข้าเลน่ ณ บรเิ วณจุดที่ส่งบอลเข้าเล่นเดิม ข้อ 18 เวลานอก : Time - out 18.1 คาจากัดความ เวลานอก คอื การหยดุ การแข่งขัน โดยการร้องขอจากหวั หนา้ ผูฝ้ ึกสอน หรอื ผ้ชู ่วยผฝู้ กึ สอนที่ 1
23 18.2 หลักเกณฑ์ 18.2.1 เวลานอก แต่ละคร้ังจะตอ้ งมีช่วงเวลา 1 นาที 18.2.2 จะอนุญาตให้เวลานอกได้ ในระหว่างโอกาสการให้เวลานอกเริม่ ต้นขึน้ 18.2.3 โอกาสการให้เวลานอก เร่ิมต้นเมอื่ : สาหรับท้ังสองทีม เม่อื บอลกลายเปน็ บอลตาย นาฬิกาแข่งขันหยุดเดิน และ ผู้ตัดสินสิ้นสุด การสอื่ สารกับเจ้าหน้าท่ีโต๊ะผ้บู นั ทกึ คะแนน สาหรับทงั้ สองทีม เมือ่ บอลกลายเป็นบอลตาย ภายหลงั การโยนโทษคร้ังสดุ ทา้ ย หรือ คร้ังเดียวเปน็ ผลสาเร็จ สาหรบั ทมี ที่เสียคะแนน(non-scoring team) เม่ือมีการทาคะแนนได้จากการยิงประตู 18.2.4 โอกาสการใหเ้ วลานอก สนิ้ สดุ เมื่อลูกบอลอยใู่ นมือของผู้เล่นท่จี ะสง่ บอลเขา้ เล่น หรือ เพอื่ โยนโทษ คร้ังแรก 18.2.5 ใหแ้ ต่ละทีมขอเวลานอกได้ ดังนี้ เวลานอก 2 ครัง้ ในระหว่างครึ่งเวลาแรก เวลานอก 3 ครั้ง ในระหวา่ งครึง่ เวลาหลัง โดยให้เวลานอกได้สูงสุดไม่เกิน 2 ครั้ง เมื่อเวลา การแขง่ ขันแสดง 2 นาที หรอื นอ้ ยกวา่ ในช่วงการเลน่ ที่ 4 เวลานอก 1 ครงั้ ในแต่ละช่วงต่อเวลา 18.2.6 เวลานอกทไี่ ม่ได้ใช้ ไม่สามารถนาไปใช้ในครึ่งเวลาต่อไป หรือ ชว่ งตอ่ เวลาพเิ ศษ 18.2.7 เวลานอกจะใหก้ ับทมี ที่หวั หน้าผฝู้ กึ สอนไดร้ ้องขอไว้ก่อน ยกเวน้ เวลานอกที่ให้จากการเสยี คะแนน จากการยงิ ประตูโดยฝ่ายตรงขา้ ม และ ไมม่ ีการเรียกการทาผิดกติกา 18.2.8 ไม่อนุญาตให้เวลานอกแก่ทีมที่ทาคะแนน เม่ือนาฬิกาแข่งขันแสดงเวลา 2:00 นาที หรือ น้อยกว่า ในชว่ งเวลาท่ี 4 และ ในแตล่ ะช่วงต่อเวลา ยกเวน้ ผู้ตัดสินไดห้ ยดุ การแขง่ ขัน 18.3 วธิ ีดาเนนิ การ 18.3.1 เฉพาะหวั หน้าผ้ฝู กึ สอน หรือ ผูช้ ว่ ยผู้ฝกึ สอนที่ 1 เท่าน้นั ที่มสี ิทธร์ิ ้องขอเวลานอก เขาต้องสื่อสารให้ ผบู้ นั ทึกคะแนนมองเห็น หรือ เขาอาจไปท่ีโต๊ะผู้บันทึกคะแนน และ ขอเวลานอกให้ชัดเจนพร้อม กบั แสดงสญั ญาณตามท่ีกาหนดไว้อย่างถูกต้องด้วยมือของเขา 18.3.2 การขอเวลานอกอาจจะยกเลกิ ได้ แต่ต้องกอ่ นท่ีสญั ญาณของผู้จบั เวลาจะดังเพื่อการขอเวลานอกครั้ง นั้นเทา่ น้นั
24 18.3.3 ช่วงของเวลานอก : เร่ิมตน้ เม่ือผตู้ ดั สินเปา่ นกหวดี และ แสดงสัญญาณเวลานอก สิน้ สดุ เมื่อผู้ตดั สินเปา่ นกหวีด และกวกั มือเรียกทงั้ สองทมี กลับเข้าไปในสนามแขง่ ขัน 18.3.4 ทนั ทีที่โอกาสการขอเวลานอกเรมิ่ ตน้ ผู้จับเวลาจะต้องให้เสียงสัญญาณแจ้งให้ผู้ตัดสินทราบ ว่า ทีม ได้มกี ารร้องขอเวลานอก ทันทที โ่ี อกาสการขอเวลานอกเกิดข้ึน ผ้จู บั เวลาจะตอ้ งหยุดนาฬกิ าแขง่ ขนั และให้เสียงสัญญาณ 18.3.5 ในระหวา่ งเวลานอก และ ระหว่างช่วงพกั การแข่งขนั กอ่ นเร่มิ การแข่งขนั ช่วงเวลาทสี่ อง ชว่ งเวลาท่ี ส่ีหรือ แต่ละช่วงต่อเวลา ผู้เล่นอาจจะออกจากสนามแข่งขัน และ นั่งในเขตท่ีนั่งของทีม รวมถึง บุคคลที่เกย่ี วขอ้ งในทีมอาจเขา้ ไปในสนามแขง่ ขันได้ โดยมีข้อแมว้ า่ พวกเขาจะต้องอยู่ในบริเวณเขต พนื้ ทนี่ ั่งของทมี 18.3.6 ถ้าทีมใดทีมหนึ่งร้องขอเวลานอก หลังจากท่ีลูกบอลอยู่ในมือผู้โยนโทษในการโยนโทษครั้งแรก หรือครัง้ เดียว อนญุ าตให้เวลานอกได้ ถ้า : การโยนโทษคร้งั สุดทา้ ยเปน็ ผลสาเรจ็ การโยนโทษคร้ังสุดท้ายไมเ่ ป็นผล ที่ตามด้วยการส่งบอลเข้าเล่น ได้มีการขานฟาวล์ระหว่างการโยนโทษ ในกรณีน้ี ให้ดาเนินการโยนโทษให้เสร็จสมบูรณ์ ก่อน และ จะให้เวลานอกก่อนท่ีจะดาเนินการลงโทษการฟาวล์ครั้งใหม่ นอกเหนือจาก กตกิ าจะระบุเปน็ อย่างอนื่ ได้มกี ารขานฟาวล์ กอ่ นบอลกลายเปน็ บอลดีหลงั การโยนโทษคร้ังสุดท้าย ในกรณีน้ี จะให้ เวลานอกกอ่ นท่ีจะดาเนนิ การลงโทษการฟาวลค์ รง้ั ใหม่ ได้มีการขานการทาผิดระเบียบก่อนบอลกลายเป็นบอลดีหลังการโยนโทษคร้ังสุดท้าย ใน กรณนี ี้ จะให้เวลานอกกอ่ นทจ่ี ะดาเนนิ การสง่ บอลเข้าเล่น ในเหตุการณ์ของการโยนโทษท่ีเป็นชุดตอ่ เน่อื งกนั และ/หรือ การไดค้ รอบครองบอลจากผลของการ ฟาวล์ที่มากกว่า 1 คร้ัง บทลงโทษของแตล่ ะชุดให้ดาเนนิ การแยกจากกัน ขอ้ 19 การเปลี่ยนตัว : Substitution 19.1 คาจากดั ความ การเปลย่ี นตัว คือการหยุดการแข่งขนั ทรี่ ้องขอโดยผเู้ ล่นสารอง เพื่อเปล่ียนเป็นผ้เู ล่น 19.2 หลักเกณฑ์ 19.2.1 ทีมอาจจะเปล่ียนตวั ผเู้ ล่นคนเดยี ว(หลายคน)ได้ ในระหว่างโอกาสของการเปลย่ี นตวั 19.2.2 โอกาสของการเปล่ียนตวั เริม่ ตน้ เมื่อ :
25 สาหรับท้ังสองทมี เมื่อบอลกลายเป็นบอลตาย นาฬิกาแข่งขันหยุดเดิน และ ผู้ตัดสินส้ินสุด การส่อื สารกบั โตะ๊ ผูบ้ นั ทึกคะแนน สาหรบั ท้ังสองทีม เมอ่ื บอลกลายเปน็ บอลตาย ภายหลังการโยนโทษคร้งั สดุ ท้าย หรอื ครัง้ เดียว เป็นผลสาเร็จ สาหรบั ทมี ท่ีเสยี คะแนน(non-scoring team) เมอ่ื มกี ารเสียคะแนนจากการยิงประตู เมื่อนาฬิกาแข่งขันแสดงเวลา 2:00 นาที หรือ น้อยกว่าในช่วงเวลาที่ส่ี และในแต่ละช่วงต่อ เวลา 19.2.3 โอกาสของการเปลี่ยนตัว สิ้นสุด เมื่อลูกบอลอยู่ในมือผู้เล่นที่จะส่งบอลเข้าเล่น หรือโยนโทษครั้ง แรก 19.2.4 ผูเ้ ล่นที่เปลี่ยนตัวเป็นผู้เล่นสารอง และ ผู้เล่นสารองที่เปลี่ยนตัวเป็นผู้เล่นตามลาดับนั้น ไม่สามารถ กลับลงไปแข่งขัน หรือ ออกจากการแข่งขันได้ จนกว่าบอลจะกลายเป็นบอลตายอีกคร้ัง หลังจาก เวลาการแข่งขนั ได้เดนิ ไปแล้ว ยกเว้น : ทมี น้นั มีผเู้ ลน่ จานวนน้อยกว่า 5 คนในสนามแข่งขนั ผเู้ ล่นท่ีมีสทิ ธไ์ิ ดโ้ ยนโทษจากผลของการแกไ้ ขข้อผิดพลาด นัง่ อย่ใู นที่นั่งของทีม ภายหลัง ได้เปลย่ี นตัวอยา่ งถกู ต้องแลว้ 19.2.5 ไม่อนญุ าตใหเ้ ปลี่ยนตัวแก่ทีมที่ทาคะแนนได้ เมื่อนาฬิกาแข่งขันหยุดเดินท่ีต่อจากการยิงประตูเป็น ผลสาเร็จ เม่ือนาฬิกาแข่งขันแสดงเวลา 2:00 นาที หรือ น้อยกว่าในช่วงเวลาท่ีส่ี และ แต่ละช่วงต่อ เวลา นอกจาก ผู้ตดั สินได้หยดุ การแขง่ ขัน 19.2.6 ถ้าผู้เล่นได้รับการดูแลรักษา หรือการช่วยเหลือ เขาจะต้องถูกเปลี่ยนตัว นอกจากทีมน้ันจะเหลือผู้ เล่นในสนามแข่งขันน้อยกว่า 5 คน 19.3 วิธดี าเนินการ 19.3.1 เฉพาะผู้เล่นสารองเท่าน้ัน ท่ีมีสิทธ์ิร้องขอเพื่อเปล่ียนตัว เขา(ไม่ใช่หัวหน้าผู้ฝึกสอนหรือผู้ช่วยผู้ ฝึกสอนที่ 1) จะต้องไปท่ีโต๊ะผู้บันทึกคะแนน และ แจ้งขอเปลี่ยนตัวให้ชัดเจนพร้อมกับแสดง สญั ญาณตามท่ีกาหนดไว้อยา่ งถกู ต้องดว้ ยมือของเขา หรอื นัง่ ท่เี ก้าอ้ีสาหรับเปลี่ยนตวั เขาต้องพร้อม ทจี่ ะลงแขง่ ขันทันที 19.3.2 การร้องขอเปล่ียนตวั อาจจะยกเลิกได้ แต่ต้องก่อนท่สี ัญญาณของผู้จบั เวลาจะดงั เพอื่ การขอเปลยี่ นตัว คร้ังนน้ั เทา่ นั้น 19.3.3 ทันทที ีโ่ อกาสของการเปลีย่ นตวั เร่มิ ข้ึน ผู้จับเวลาจะต้องให้เสียงสัญญาณแจ้งให้ผู้ตัดสินทราบว่าได้ มีการขอเปลยี่ นตัว
26 19.3.4 ผู้เล่นสารอง จะต้องอยู่นอกเส้นเขตสนาม จนกว่าผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดให้สัญญาณเปลี่ยนตัว . และกวกั มอื เรยี กให้เขาเขา้ ไปในสนามแข่งขนั 19.3.5 ผเู้ ลน่ ท่ีถกู เปลีย่ นตัว ให้ออกไปยังที่น่ังของทีมโดยตรงได้ โดยไมต่ อ้ งแจ้งผู้จับเวลา หรอื ผู้ตัดสนิ 19.3.6 การเปล่ียนตัวจะต้องทาให้เสร็จสิ้นอย่างรวดเร็วเท่าที่จะทาได้ ผู้เล่นท่ีได้กระทาฟาวล์ครบ 5 คร้ัง หรอื ถูกตัดสิทธก์ิ ารแข่งขัน ตอ้ งถูกเปลยี่ นตัวออกทันท(ี ภายในเวลาประมาณ 30 วินาที) ถ้าผู้ตัดสิน เหน็ ว่า มกี ารถว่ งเวลาการแข่งขัน ให้ปรับเป็นเวลานอกกับทีมที่ทาผิด ถ้าหากทีมนั้นไม่มีเวลานอก เหลอื อยู่ อาจปรับฟาวลเ์ ทคนิคเนื่องจากการถว่ งเวลาการแข่งขันต่อหัวหน้าผู้ฝึกสอน, บันทึกอักษร เป็น “B” 19.3.7 ถ้าการขอเปลี่ยนตัวได้ร้องขอในระหว่างเวลานอก หรือ ในระหว่างช่วงพักการแข่งขันอื่น นอกเหนอื จากช่วงพกั ครง่ึ เวลา ผู้เล่นทจี่ ะเปลยี่ นตัวต้องแจ้งผู้จบั เวลา ก่อนลงแข่งขัน 19.3.8 ถ้าผู้โยนโทษตอ้ งถกู เปลย่ี นตัว เพราะเขา : ไดร้ บั บาดเจ็บ ทาฟาวลค์ รบ 5 ครง้ั ถกู ตดั สิทธกิ์ ารแข่งขัน การโยนโทษครง้ั เดียว(หลายคร้ัง) ต้องทาโดยผู้เล่นที่เปล่ียนตัวกับเขา และ ผู้เล่นท่ีเปลี่ยนตัวเข้ามา นน้ั ไม่สามารถถกู เปลี่ยนตวั ได้ จนกวา่ เขาจะไดเ้ ล่นในชว่ งเวลาการแข่งขนั ได้เดินไปแล้ว 19.3.9 ถา้ ไดม้ ีการร้องขอเปลย่ี นตวั โดยทีมใดทมี หน่ึง หลงั จากลกู บอลอยูใ่ นมอื ผู้โยนโทษเพ่ือการโยนโทษ คร้ังแรก หรอื ครง้ั เดียว ให้เปลีย่ นตัวได้ ถ้า : การโยนโทษคร้งั สุดท้ายเปน็ ผลสาเรจ็ การโยนโทษครงั้ สุดท้ายไม่เปน็ ผล แล้วตามดว้ ยการสง่ บอลเข้าเลน่ มีการขานฟาวล์ระหวา่ งการโยนโทษ ในกรณีนี้จะต้องดาเนินการโยนโทษให้เสร็จส้ินก่อน จึงให้เปลี่ยนตัวก่อนท่ีจะดาเนินการตามบทลงโทษของการฟาวล์คร้ังใหม่ นอกเหนือจาก กตกิ าจะระบุเป็นอย่างอ่ืน มีการขานฟาวล์ ก่อนบอลกลายเป็นบอลดี หลังการโยนโทษครั้งสุดท้าย ในกรณีนี้ จะให้ เปลย่ี นตัว กอ่ นดาเนินการตามบทลงโทษการฟาวล์ครัง้ ใหม่ มกี ารขานการทาผดิ ระเบียบกอ่ นบอลกลายเป็นบอลดี หลังการโยนโทษครง้ั สดุ ทา้ ย ในกรณีนี้ จะให้เปลย่ี นตวั กอ่ นทจ่ี ะดาเนนิ การสง่ บอลเขา้ เลน่ ในกรณีของการโยนโทษท่ีเป็นชุดต่อเนื่องกัน และ/หรือ การได้ครอบครองบอลจากผลของการ ฟาวล์ท่ีมากกวา่ 1 คร้งั บทลงโทษของแต่ละชดุ ใหด้ าเนินการแยกจากกัน
27 ขอ้ 20 การแพ้การแข่งขัน โดยการถกู ปรับแพ้ : Game lost by forfeit 20.1 หลกั เกณฑ์ ทีมจะแพก้ ารแข่งขนั โดยการถูกปรับแพ้ ถา้ : ทีมนน้ั ยงั ไมม่ าแสดงตน หรือ ไมส่ ามารถจัดผ้เู ลน่ ให้ครบ 5 คน ทพ่ี ร้อมจะทาการแขง่ ขัน หลังจากเวลาผ่านไปแล้ว 15 นาที จากเวลาตามตารางการแข่งขัน การกระทาใด ๆ ทข่ี ดั ขวางการแข่งขันไม่ให้สามารถเล่นต่อไปได้ ปฏเิ สธที่จะทาการแข่งขนั หลังจากหัวหนา้ ผ้ตู ดั สินได้สงั่ ใหท้ าการแขง่ ขัน 20.2 บทลงโทษ 20.2.1 ให้ฝา่ ยตรงขา้ มเป็นฝ่ายชนะการแข่งขัน และจะต้องบันทึกคะแนนเป็น 20 ต่อ 0 นอกจากน้ัน ทีมท่ี ถูกปรับแพ้จะได้ 0 คะแนน ในการจดั อนั ดบั ของทีม 20.2.2 สาหรับระบบการแขง่ ขัน 2 ครงั้ (เหย้า-เยอื น) นับคะแนนลาดบั (คะแนนรวมสะสม) และการแข่งขัน รอบคัดเลอื ก : Play-Offs( 3เกม) ทมี ที่ถูกปรับแพใ้ นเกมแรก, เกมท่ีสอง หรือ เกมท่ีสาม จะต้องเป็น ฝ่ายแพ้การแข่งขัน หรอื แพ้ในระบบรอบคดั เลอื ก : Play-Offs โดยการ “ ถูกปรับแพ้ ”(Forfeit) กรณนี ี้ จะไม่บังคบั ใช้กบั การแข่งขันระบบคดั เลือก : Play-Offs( 5 เกม และ 7 เกม ) 20.2.3 ถ้าในการแข่งขันแบบทัวร์นาเม้นท์(Tournament) ทีมท่ีถูกปรับแพ้เป็นครั้งท่ีสอง จะถูกตัดสิทธิ์ จากการแข่งขันแบบทัวร์นาเม้นท์ และ จะต้องให้ผลการแข่งขันทั้งหมดท่ีทีมนั้นเข้าร่วมแข่งขัน เปน็ โมฆะ ข้อ 21 การแพ้การแข่งขัน โดยมีผเู้ ลน่ ไมเ่ พียงพอ : Game lost by default 21.1 หลักเกณฑ์ ทีมจะแพ้การแข่งขันโดยมีจานวนผเู้ ลน่ ไม่เพียงพอ ถ้าในระหวา่ งการแขง่ ขัน ทีมนั้นมีผู้เล่นน้อยกว่า 2 คนในสนามแขง่ ขันทีพ่ ร้อมจะแขง่ ขนั 21.2 บทลงโทษ 21.2.1 ถา้ ทีมซึ่งจะเปน็ ทมี ชนะการแข่งขันมีคะแนนนา ให้ถอื ผลคะแนน ณ เวลาทไ่ี ด้หยุดการแขง่ ขนั ถา้ ทมี ซึ่งจะเป็นทีมชนะการแข่งขัน มีคะแนนตามหลัง คะแนนจะต้องถูกบันทึกเป็น 2 - 0 แก่ทีมท่ีชนะ ทีมท่ี มจี านวนผู้เล่นไมเ่ พียงพอ จะได้ 1 คะแนน ในการจัดอนั ดบั ของทีม 21.2.2 สาหรบั ระบบการแข่งขัน 2 ครั้ง(เหยา้ -เยือน) นับคะแนนลาดับ(คะแนนรวมสะสม) ทีมที่แพ้เพราะ มีผู้เล่นไม่เพียงพอ ในเกมท่ีหน่ึง หรือ เกมที่สอง จะเป็นฝ่ายแพ้ในระบบนั้น โดย “ มีผู้เล่นไม่ เพยี งพอ ” (default)
28 กติกาหมวดท่ี 5 การผดิ ระเบยี บ : Rule five - Violations ข้อ 22 การผดิ ระเบียบ : Violations 22.1 คาจากดั ความ การผดิ ระเบียบ คือการกระทาท่เี ป็นการละเมิดกติกา 22.2 บทลงโทษ ให้ลูกบอลแก่ฝ่ายตรงข้าม เพื่อส่งเข้าเล่น ณ จุดใกล้กับท่ีมีการละเมิดกติกาท่ีสุด ยกเว้น แนวใต้ กระดานหลงั เว้นแตก่ ตกิ าจะกาหนดไวเ้ ปน็ อย่างอื่น ขอ้ 23 ผ้เู ลน่ ออกนอกสนาม และ ลกู บอลออกนอกสนาม : Player out-of-bounds and ball out-of-bounds 23.1 คาจากดั ความ 23.1.1 ผเู้ ล่น ออกนอกสนาม เมอ่ื สว่ นหนง่ึ สว่ นใดของร่างกายของเขาสัมผัสพ้ืน หรอื วตั ถุอ่นื ใดทไ่ี ม่ใช่ ผเู้ ลน่ ซึง่ อยู่บน เหนอื หรือ นอกเสน้ เขตสนาม 23.1.2 ลกู บอล ออกนอกสนาม เม่ือลูกบอลสมั ผสั : ผ้เู ลน่ หรอื บุคคลอนื่ ที่อยนู่ อกสนาม พนื้ หรือ วัตถุอ่นื ใดท่อี ยู่บน, เหนือ หรอื นอกเส้นเขตสนาม เครือ่ งยึดกระดานหลงั สว่ นหลังของกระดานหลัง หรือ วตั ถุอ่นื ใดท่อี ย่เู หนอื สนามแข่งขนั 23.2 หลกั เกณฑ์ 23.2.1 ลูกบอลได้ออกนอกสนาม โดยผู้เล่นคนสุดท้ายที่สัมผัสลูกบอล หรือ ลูกบอลสัมผัสผู้เล่น ก่อนท่ี ลูกบอลจะออกนอกสนาม แมว้ ่าลูกบอลนน้ั ได้ออกนอกสนามโดยลกู บอลไปสมั ผสั สงิ่ อื่นใดทีไ่ ม่ใช่ ผูเ้ ล่น 23.2.2 ถ้าลูกบอลออกนอกสนามเพราะสัมผัสผู้เล่น หรือ ถูกสัมผัสโดยผู้เล่นท่ีอยู่บน หรือ นอกเส้นเขต สนาม ถือวา่ ผูเ้ ล่นคนนั้นเปน็ ผทู้ าให้ลูกบอลออกนอกสนาม 23.2.3 ถ้าผเู้ ลน่ คนเดียว(หลายคน) เคลอ่ื นท่ีออกนอกสนาม หรือ กลับแดนหลังของเขา ในระหว่าง เกิดลูก ยดึ ถอื วา่ เกดิ สถานการณล์ ูกกระโดด
29 ข้อ 24 การเลย้ี งบอล : Dribbling 24.1 คาจากดั ความ 24.1.1 การเล้ียงบอล คือการเคล่ือนที่ของบอลดี ท่ีกระทาโดยผู้เล่นที่ครอบครองบอล ด้วยการโยน, ปัด, กลิ้ง หรือทาบอลกระทบพนื้ สนาม 24.1.2 การเลยี้ งบอล เร่มิ ต้น เม่ือผู้เล่นที่ได้ครอบครองบอลดีในสนามแข่งขัน,โยน, ปัด, กล้ิง หรือทาบอล กระทบพ้ืนสนาม แลว้ สัมผสั ลูกบอลอีกครัง้ กอ่ นที่ลกู บอลจะสัมผสั ผูเ้ ล่นอืน่ การเล้ยี งบอล ส้นิ สุด เม่อื ผเู้ ลน่ สัมผัสบอลพร้อมกันท้ังสองมือ หรือ ทาให้ลูกบอลพักอยู่ในมือเดียว หรือสองมอื ในระหว่างการเลย้ี งบอล ลกู บอลอาจจะถูกโยนข้นึ ไปในอากาศ โดยมีเง่ือนไขว่า ลูกบอลต้องสัมผัส พื้น หรือผู้เลน่ อ่ืน ก่อนผเู้ ล่นทโ่ี ยนบอลจะไปสมั ผัสบอลดว้ ยมือของเขาอกี ครง้ั ไมม่ ขี อ้ จากัดเกี่ยวกบั จานวนก้าวของผูเ้ ลน่ ในการเคลื่อนที่ เมอ่ื ลูกบอลไม่ได้สมั ผัสมือของเขา 24.1.3 ผ้เู ลน่ ที่เสียการครอบครองบอลโดยบงั เอญิ แล้วกลบั มาครอบครองบอลดใี นสนามแข่งขันได้อีกคร้ัง ใหพ้ จิ ารณาว่าเป็นการทาบอลหลุดมือโดยไมเ่ จตนา(Fumbling the ball) 24.1.4 การกระทาตอ่ ไปนี้ไมใ่ ช่การเลี้ยงบอล : การยงิ ประตูตอ่ เนื่องกนั การทาบอลหลุดมอื โดยไม่เจตนา ขณะเรมิ่ ตน้ หรอื สิน้ สดุ การเลี้ยงบอล การพยายามเขา้ ครอบครองบอล ด้วยการปัดบอลออกจากกล่มุ ผูเ้ ล่นอ่นื การปัดบอลออกจากการครอบครองของผเู้ ล่นอืน่ การสกัดกน้ั การสง่ บอล แล้ว ครอบครองบอลได้ การโยนบอลจากมือข้างหนงึ่ ไปยงั อีกข้างหน่ึง แล้วทาให้ลกู บอลพกั อย่ใู นมือเดยี วหรือ สองมือ ก่อนท่ีลูกบอลจะสัมผัสพ้ืน โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องไม่ทาผิดระเบียบการพาบอล เคลอ่ื นที่ การสง่ บอลกระทบกระดานหลัง แล้วครอบครองบอลต่ออีกครงั้ หน่งึ 24.2 หลกั เกณฑ์ ผเู้ ลน่ จะต้องไมเ่ ลยี้ งบอลเป็นคร้ังที่ 2 หลังจากการเล้ียงบอลครั้งแรกได้สิ้นสุด นอกจากในระหว่าง การเล้ียงบอล 2 คร้ัง เขาได้เสยี การครอบครองบอลดใี นสนามแขง่ ขนั เพราะวา่ : การยงิ ประตู บอลสมั ผัสผ้เู ลน่ ฝา่ ยตรงข้าม ส่งบอล แล้วลูกบอลหลดุ มอื โดยไม่เจตนาไปสัมผัส หรอื ถูกผเู้ ลน่ คนอ่นื สมั ผัส
30 ขอ้ 25 การพาบอลเคลื่อนที่ : Travelling 25.1 คาจากดั ความ 25.1.1 การพาบอลเคลือ่ นที่ คือการเคล่ือนทไ่ี ปในทิศทางตา่ ง ๆ ที่ผิดกติกาของเท้าข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง ที่นอกเหนอื ไปจากข้อกาหนดในกติกาน้ี ในขณะกาลังถือบอลดอี ย่ใู นสนามแข่งขัน 25.1.2 การหมุนตัว (pivot ) คือการเคล่ือนท่ีไปในทิศทางต่าง ๆ อย่างถูกกติกาของผู้เล่นในขณะกาลังถือ บอลดใี นสนามแขง่ ขนั ด้วยการก้าวเท้าหนงึ่ คร้ัง หรอื มากกวา่ ดว้ ยเท้าข้างเดียวกัน ในขณะท่ีเท้าอีก ขา้ งหน่ึงเรียกว่า เทา้ หลัก(pivot foot) เป็นจดุ สัมผสั ท่ยี ังคงตดิ อยกู่ บั พนื้ สนาม 25.2 หลกั เกณฑ์ 25.2.1 การสร้างเทา้ หลกั โดยผ้เู ลน่ ที่จับบอลดใี นสนามแขง่ ขนั : ผูเ้ ลน่ ท่ีจับบอลขณะกาลงั ยืนดว้ ยเท้าทง้ั สองขา้ งบนพื้นสนาม : - ถ้ายกเท้าขา้ งหนึ่งขนึ้ เทา้ อกี ขา้ งหน่งึ จะกลายเป็นเทา้ หลัก - เมอื่ จะเล้ียงบอล ต้องปล่อยลูกบอลใหห้ ลดุ จากมือ กอ่ นยกเท้าหลัก - เม่อื จะส่งบอล หรือยงิ ประตู ผู้เล่นสามารถยกเท้าหลกั ได้ แตต่ ้องปล่อยให้ลูกบอลหลดุ จากมอื กอ่ นท่เี ทา้ ใดเทา้ หนึ่งสมั ผัสพ้นื สนาม ผู้เล่นกาลังเคล่ือนท่ี หรือสิ้นสุดการเล้ียงบอลอย่างสมบูรณ์ อาจใช้จังหวะเพื่อหยุดได้ 2 จังหวะ ต่อจากนั้น ส่งบอล หรอื ยิงประตู : - ถา้ ไดร้ ับบอล ผู้เลน่ จะต้องปล่อยบอลเพือ่ เริม่ ต้นการเลย้ี งบอลกอ่ นจะถึงจังหวะท่ี 2 - จังหวะที่ 1 เม่ือเท้าข้างหน่ึง หรือเท้าท้ังสองข้างสัมผัสพื้นภายหลังได้ครอบครองลูก บอล - จังหวะที่ 2 เกิดขึ้นภายหลงั จงั หวะท่ี 1 เม่ือเทา้ อีกข้างหนึง่ สัมผัสพื้น หรอื เท้าทั้งสองข้าง สัมผสั พ้นื ในเวลาเดียวกนั ใกลเ้ คียงกนั (simultaneously) - ถ้าผู้เล่นได้ทาการหยุดโดยจังหวะแรกใช้สองเท้าลงพ้ืน หรือเท้าถูกพื้นเวลาใกล้เคียง กัน เขาอาจจะหมุนตัวได้ โดยใช้เท้าข้างใดข้างหนึ่งเป็นเท้าหลัก (Pivot foot ) ถ้าเขา กระโดดข้ึนบนอากาศด้วยเท้าท้ังสองข้าง จะต้องไม่มีเท้าใดเท้าหนึ่งสัมผัสพ้ืนสนาม กอ่ นปลอ่ ยลกู บอลออกจากมอื - ถา้ ผู้เล่นลงส่พู นื้ ด้วยเท้าเพียงข้างเดยี ว ผูเ้ ลน่ นั้น ตอ้ งใช้เทา้ น้นั เป็นเทา้ หลัก - ถ้าผู้เลน่ กระโดดข้ึนบนอากาศด้วยเท้าข้างหน่ึงในจังหวะที่ 1 เขาอาจลงสู่พื้นด้วยเท้าคู่ ในเวลาเดียวกันเพ่ือเป็นจังหวะท่ี 2 ในสถานการณ์น้ีผู้เล่นนั้นต้องไม่ใช้เท้าใดในการ หมุนตัว ถ้าเท้าใดเท้าหน่ึง หรือทั้งสองเท้ายกข้ึนจากพื้น เท้าต้องไม่สัมผัสพื้นสนาม ก่อนท่ลี ูกบอลถูกปล่อยออกจากมือ
31 - ถ้าเท้าท้ังคู่พ้นพื้นสนามแล้ว ผู้เล่นนั้นลงสู่พ้ืนสนามด้วยเท้าคู่ในเวลาเดียวกัน เม่ือยก เทา้ ใดข้ึน เทา้ ท่ีเหลือจะกลายเปน็ เท้าหลัก - ผู้เล่นจะตอ้ งไม่ถกู พืน้ สนามอย่างตอ่ เน่อื ง ดว้ ยเทา้ ขา้ งเดยี วกนั หรอื ทั้งสองข้างภายหลัง ส้ินสุดการเล้ยี งบอล หรือครอบครองลูกบอล 25.2.2 ผู้เล่นล้มลง, นอน หรือ นัง่ อย่บู นพ้ืน : Player falling, lying or sitting on the floor เป็นการเล่นที่ ถูกกติกา เม่ือผู้เล่นล้มลง แล้วล่ืนไถลไปบนพื้นในขณะกาลังถือบอล หรือ ในขณะทน่ี อน หรอื นงั่ อยู่บนพืน้ แลว้ ไดค้ รอบครองบอล เป็นการเล่นท่ี ผิดระเบียบ ถ้าผู้เล่นคนนั้น ม้วนตัว หรือ พยายามลุกข้ึนยืน ในขณะกาลังถือ บอล ขอ้ 26 เวลา 3 วนิ าที : 3 seconds 26.1 หลักเกณฑ์ 26.1.1 ผเู้ ล่นจะต้อง ไม่ อยู่ในเขตกาหนดเวลา ของฝ่ายตรงข้ามนานเกินกว่า 3 วินาที ต่อเน่ืองกันในขณะท่ี ทมี ของเขากาลังครอบครองบอลดอี ยใู่ นแดนหน้า และ นาฬกิ าแขง่ ขนั กาลังเดิน 26.1.2 อนุโลมให้สาหรบั ผ้เู ล่นที่ : ทาให้เห็นว่าเขาพยายามทีจ่ ะออกจากเขตกาหนดเวลา อยใู่ นเขตกาหนดเวลา ในขณะที่เขา หรือ เพื่อนร่วมทีมของเขาอยู่ในท่ากาลังยิงประตู และ ลกู บอลกาลังออก หรอื เพ่งิ ออกจากมอื ของผเู้ ลน่ ที่ยงิ ประตู เล้ยี งบอลอยู่ในเขตกาหนดเวลาเพ่อื ยงิ ประตู หลังจากได้อยู่ในน้ันมาแลว้ เป็นเวลาน้อยกว่า 3 วนิ าที ต่อเนือ่ งกนั 26.1.3 การทาให้ตัวเขาออกนอกเขตกาหนดเวลา ผู้เล่นจะต้องให้เท้าทั้งสองข้างอยู่บนพ้ืนนอกเขต กาหนดเวลา ขอ้ 27 ผู้เล่นถกู ปอ้ งกันแบบประชิด : Closely guarded player 27.1 คาจากดั ความ ผเู้ ลน่ ท่ีกาลงั ถอื บอลดีในสนามแขง่ ขนั ถูกปอ้ งกนั อย่างประชิด เม่ือฝ่ายตรงข้ามอยู่ในตาแหน่งกาลัง ป้องกนั ทถ่ี กู กตกิ า อย่างรุกเร้า กระตือรือร้น ในระยะหา่ งไมเ่ กิน 1 เมตร 27.2 หลกั เกณฑ์ ผเู้ ล่นทถ่ี กู ปอ้ งกันแบบประชดิ จะต้องสง่ บอล, ยิงประตู หรือ เลย้ี งบอล ภายในเวลา 5 วินาที
32 ข้อ 28 เวลา 8 วินาที : 8 seconds 28.1.1 เมอ่ื ใดกต็ ามท่ี : ผู้เล่นในแดนหลงั ได้ครอบครองบอลดี หรือ ในการส่งบอลเข้าเลน่ ลกู บอลสัมผัส หรอื ถูกสมั ผัสอยา่ งถูกกตกิ า โดยผู้เล่นคนใดก็ตามใน แดนหลงั และ ผู้เล่นของทีมที่ส่งบอลเข้าเล่นน้ันยังคงครอบครองบอลอยู่ในแดนหลังของ ทีมตัวเอง ทีมน้ันตอ้ งทาให้ลูกบอลขึ้นไปในแดนหน้า ภายในเวลา 8 วนิ าที 28.1.2 ทีมได้ทาให้ลูกบอลขึ้นไปในแดนหนา้ ของตัวเอง เมือ่ ใดก็ตามท่ี : ลกู บอล, ไม่ได้อยใู่ นการครอบครองบอลของผเู้ ลน่ คนใด, สัมผสั กับแดนหนา้ ลูกบอลสัมผัส หรือ ถูกสัมผัสอย่างถูกกติกา โดยผู้เล่นฝ่ายรุกท่ีมีเท้าท้ังสองข้างสัมผัสกับ แดนหน้าของเขาโดยสมบรู ณ์ ลูกบอลสมั ผัส หรือ ถูกสมั ผัสอยา่ งถูกกตกิ า โดยผู้เล่นฝ่ายป้องกันที่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของ รา่ งกายสมั ผัสแดนหลังของเขา ลูกบอลสัมผัสผู้ตัดสินท่ีมีส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายของเขา สัมผัสแดนหน้าของทีมที่ ครอบครองบอล ในระหว่างการเล้ียงบอลจากแดนหลังข้ึนไปแดนหน้า ลูกบอล และ เท้าทั้งสองข้างของผู้ เลยี้ งบอลสัมผสั แดนหนา้ โดยสมบูรณ์ 28.1.3 ช่วงเวลา 8 วินาที จะนบั ตอ่ เนอื่ งจากเวลาทเี่ หลอื เมอื่ ทีมเดิมทไี่ ด้ครอบครองบอลมาก่อน เป็นฝ่ายได้ ส่งบอลเขา้ เลน่ ในแดนหลงั จากผลของ : ลูกบอลได้ออกนอกสนาม ผเู้ ลน่ ของทีมเดียวกันได้รับบาดเจบ็ ทีมน้นั ถูกขานฟาวล์เทคนิค สถานการณล์ ูกกระโดด การฟาวลค์ ู่ การยกเลกิ บทลงโทษท่ีเท่ากันของทัง้ สองทีม
33 ข้อ 29 เวลา 24 วนิ าที : 24 seconds 29.1 หลกั เกณฑ์ 29.1.1 เมือ่ ใดกต็ าม ท่ี : ผูเ้ ลน่ ได้ครอบครอง บอลดี ใน สนามแขง่ ขนั ในการส่งบอลเข้าเล่น ลูกบอลสัมผัส หรือ ถูกสัมผัสอย่างถูกกติกาโดยผู้เล่นคนใดก็ตาม ในสนามแข่งขนั และ ผเู้ ลน่ ของทีมทส่ี ่งบอลเข้าเลน่ นัน้ ยังคงครอบครองบอล ทีมนัน้ จะต้องพยายามยงิ ประตภู ายในเวลา 24 วินาที องค์ประกอบของการยิงประตภู ายในเวลา 24 วนิ าที : ลูกบอลต้องออกจากมอื ของผู้เล่น กอ่ นเสยี งสัญญาณของนาฬกิ ายิงประตูดงั ขนึ้ และ ภายหลังลกู บอลไดอ้ อกจากมือของผเู้ ลน่ ลกู บอลจะตอ้ งสมั ผัสหว่ ง หรือ ลงห่วงตาขา่ ย 29.1.2 เม่ือใดทม่ี ี การยงิ ประตูในชว่ งใกล้สิ้นสดุ เวลา 24 วินาที และ เสยี งสญั ญาณของนาฬิกายิงประตูดังขนึ้ ในขณะทล่ี กู บอลกาลังลอยอยู่ในอากาศ : ถ้าลูกบอลลงห่วงตาขา่ ย ถือวา่ ไมเ่ กิดการทาผดิ ระเบียบ ไม่ต้องสนใจเสียงสัญญาณ และให้ นบั เปน็ ประตู ถา้ ลกู บอลสมั ผัสห่วงแต่ไม่เขา้ ห่วงตาขา่ ย ถอื ว่าไม่เกิดการทาผิดระเบียบ ไม่ต้องสนใจเสียง สัญญาณ แล้วให้การแข่งขันดาเนนิ ตอ่ ไป ถ้าลูกบอลไม่สัมผัสห่วง ถือว่าเกิดการทาผิดระเบียบ อย่างไรก็ตาม ถ้าฝ่ายตรงข้ามได้ ครอบครองบอลในทนั ทีอยา่ งชัดเจน ไมต่ อ้ งสนใจเสียงสัญญาณ แล้วให้การแข่งขันดาเนิน ต่อไป เม่อื กระดานหลงั ท่ตี ิดต้ังอปุ กรณ์แสงไฟสีเหลืองอย่ดู ้านบน แสงไฟจะกระพรบิ หลัง เสียงนาฬิกายิงประตูดงั ข้อกาหนดท้ังหมด ที่เกี่ยวกับการปรับเป็นประตู(Goaltending) และ การรบกวนห่วงตาข่าย (Interference) จะต้องนามาบังคับใช้ 29.2 วธิ ีดาเนนิ การ 29.2.1 เมอ่ื ใดกต็ ามที่ผู้ตัดสินไดห้ ยุดการแขง่ ขัน นาฬิกายงิ ประตจู ะต้องต้ังเวลาใหม่ : สาหรับ การฟาวล์ หรือ การทาผิดระเบียบ(ไม่ใช่ลูกบอลออกนอกสนาม) โดยทีมที่ไม่ได้ ครอบครองบอล สาหรับ เหตผุ ลท่ถี ูกตอ้ งใด ๆ ทกี่ ระทาโดยทมี ท่ีไม่ได้ครอบครองบอล สาหรับ เหตผุ ลท่ีถูกตอ้ งใด ๆ ซ่งึ ไม่เกยี่ วขอ้ งกับทง้ั 2 ทีม ในสถานการณ์เหล่าน้ี การครอบครองบอล จะตอ้ งให้แก่ทมี เดิมทไ่ี ด้ครอบครองบอลอย่กู ่อน
34 หากการสง่ บอลเข้าเล่น ได้ใหแ้ กท่ ีมเดมิ ท่ีได้ครอบครองบอลอยูก่ อ่ นในแดนหลงั นาฬกิ ายงิ ประตู จะตอ้ งต้งั เวลาใหม่เปน็ 24 วนิ าที หากการสง่ บอลเข้าเล่นไดด้ าเนนิ การอยู่ในแดนหนา้ นาฬิกายิงประตู จะต้องตง้ั เวลาใหม่ดงั ตอ่ ไปนี้ : ถ้านาฬิกายิงประตู แสดงเวลา 14 วินาที หรือ มากกว่า เม่ือเวลาการแข่งขันได้หยุดลง นาฬิกายิงประตู จะต้องไม่ตั้งใหม่ แตจ่ ะดาเนนิ การแขง่ ขันต่อจากเวลาทีไ่ ด้หยดุ ไว้ ถา้ นาฬกิ ายิงประตู แสดงเวลา 13 วินาที หรือนอ้ ยกว่า เมอ่ื เวลาการแข่งขันไดห้ ยุดลง นาฬกิ า ยงิ ประตู จะตอ้ งตงั้ เปน็ เวลา 14 วนิ าที อย่างไรก็ตาม ถา้ การแข่งขันไดห้ ยดุ ลงโดยผตู้ ดั สนิ ด้วยเหตุผลท่ถี ูกตอ้ งตามกตกิ า ซงึ่ ไม่เกี่ยวข้องกับ ทมี ใด และภายใตก้ ารพจิ ารณาของผตู้ ดั สินวา่ การต้งั นาฬกิ ายงิ ประตูใหม่ จะทาให้ฝ่ายตรงข้ามจะอยู่ ในสถานะเสยี เปรยี บ นาฬกิ ายงิ ประตูจะตอ้ ง เดินตอ่ เนอื่ งจากเวลาท่ีได้หยดุ ไว้ 29.2.2 นาฬิกายิงประตู จะตอ้ งตัง้ เวลาใหม่ เมือ่ การสง่ บอลเข้าเลน่ ได้ให้แก่ทมี ตรงขา้ มหลงั จาก การแข่งขันได้หยุดลงโดยผู้ตัดสิน ด้วยเหตุจากการฟาวล์หรือการผิดระเบียบ ท่ีได้กระทาโดยทีม ครอบครองบอล(รวมถงึ ลูกบอลออกนอกสนาม) นาฬิกายิงประตู จะต้องต้ังเวลาใหม่ ถ้าทีมที่ได้ครอบครองบอลใหม่ได้ส่งบอลเข้าเล่น รวมถึงการ สง่ บอลเขา้ เล่นจากการสลบั การครอบครองบอล ถ้าสง่ ในแดนหลงั นาฬกิ ายิงประตู จะต้องตั้งเวลาเปน็ 24 วินาที ถ้าส่งในแดนหน้า นาฬิกายงิ ประตู จะตอ้ งต้ังเวลาเปน็ 14 วนิ าที 29.2.3 ถา้ เกมการแข่งขันหยดุ ลง เนือ่ งจากผตู้ ัดสนิ ขานฟาวลเ์ ทคนิคแกท่ มี ทคี่ รอบครองบอล หลังการโยน โทษ เกมดาเนินการโดยทมี ครอบครองบอล ส่งบอลเขา้ เล่นใกล้กับจุดท่ีหยุดเกมการแข่งขัน นาฬิกา ยงิ ประตูยงั เหลือคงเดมิ ไม่ต้งั ใหม่ 29.2.4 เมื่อเวลาการแข่งขันแสดง 2:00 นาที หรือน้อยกว่าในช่วงการเล่นท่ี 4 หรือช่วงต่อเวลา ถ้าทีมที่ได้ สง่ บอลเข้าเลน่ ในแดนหลังขอเวลานอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมน้ัน มีสิทธ์ิที่จะเลือกส่งบอลเข้าเล่นที่ เส้นส่งบอลแดนหน้า หรือเลือกส่งบอลเข้าเล่นในแดนหลังใกล้จุดเดิม ภายหลังเวลานอก,การส่ง บอลเข้าเลน่ กาหนดดงั นี้ • ถ้าการสง่ นน้ั เป็นผลจากบอลออกนอกสนาม - ในแดนหลัง นาฬิกายิงประตู จะเดนิ ต่อจากเวลาเดิมท่หี ยดุ ไว้ - ในแดนหน้า นาฬิกายิงประตูแสดง 13 วินาที หรือน้อยกว่า จะเดินต่อจากเวลาเดิมท่ี หยุดไว้ - ถ้านาฬกิ ายิงประตูแสดง 14 วินาที หรือมากกว่า จะต้องต้ังเวลาเปน็ 14 วนิ าที
35 • ถา้ การส่งน้ันเป็นผลจากการฟาวล์ หรือการผิดระเบียบ(ทีไ่ ม่ใชบ่ อลออกนอกสนาม) - ในแดนหลัง นาฬกิ ายงิ ประตู จะตงั้ เป็น 24 วินาที - ในแดนหน้า นาฬกิ ายิงประตจู ะต้ังเปน็ 14 วินาที • ถ้าการขอเวลานอก โดยทีมทคี่ รอบครองบอลใหม่ - ในแดนหลงั นาฬกิ ายงิ ประตู จะตงั้ เป็น 24 วินาที - ในแดนหนา้ นาฬิกายงิ ประตูจะต้งั เปน็ 14 วนิ าที 29.2.5 เม่อื ทมี นน้ั ไดส้ ง่ บอลเขา้ เลน่ ทเ่ี ส้นสง่ บอลแดนหน้า ซึ่งเป็นส่วนหน่ึงของบทลงโทษ การฟาวล์ขาด น้าใจนกั กีฬา หรอื การฟาวล์เสียสทิ ธิ์ นาฬิกายงิ ประตจู ะตง้ั เปน็ 14 วินาที 29.2.6 หลงั จาก ลูกบอลไดส้ มั ผัสหว่ งตาข่ายของทมี ตรงข้าม นาฬิกายงิ ประตูจะตอ้ งตง้ั เวลาใหม่ เปน็ 24 วินาที ถ้าทีมตรงข้ามได้ครอบครองบอล 14 วนิ าที ถา้ ทีมทไ่ี ด้ครอบครองบอล เปน็ ทมี เดมิ ทไ่ี ดค้ รอบครองบอล กอ่ นท่ลี ูกบอลได้ สมั ผสั ห่วง 29.2.7 หากสัญญาณนาฬิกายิงประตู ดังผิดพลาด ในขณะท่ีมีทีมกาลังครอบครองบอลหรือไม่มีทีม ครอบครองบอล ไม่ต้องสนใจเสียงสญั ญาณน้ัน และให้การแขง่ ขันดาเนนิ ตอ่ ไป อย่างไรก็ตาม หากผู้ตัดสินพิจารณาว่า ฝ่ายตรงข้ามจะอยู่ในสถานะที่เสียเปรียบ จะต้องหยุดการ แข่งขนั เวลาของนาฬกิ ายงิ ประตู จะตอ้ งแก้ไขให้ถกู ต้อง แล้วใหท้ มี เดมิ ได้ครอบครองบอล ข้อ 30 ลกู บอลกลบั ส่แู ดนหลัง : Ball returned to the backcourt 30.1 คาจากดั ความ 30.1.1 ทมี อย่ใู นการครอบครองบอลดีในแดนหน้าของเขา เมื่อ : ผู้เล่นของทีมนั้น กาลังสัมผัสแดนหน้าของเขา ด้วยเท้าทั้งสองข้างในขณะกาลังถือบอล, กาลังจับบอล หรือ กาลงั เลีย้ งบอลในแดนหนา้ ของเขา หรอื ลกู บอลถกู ส่งระหว่างผเู้ ลน่ ของทีมน้ัน ในแดนหน้าของเขา 30.1.2 ทีมอยู่ในการครอบครองบอลดีในแดนหน้าของเขา ทาลูกบอลกลับสู่แดนหลังของเขาอย่าง ผิด กตกิ า ถ้าผเู้ ลน่ ของทมี น้นั เป็นคนสดุ ท้ายท่ีสมั ผสั บอลในแดนหน้าของเขา แลว้ ลกู บอลถูกสัมผัสครั้ง แรก โดยผู้เลน่ ของทมี น้นั ผูท้ ่ีมสี ว่ นหน่ึงส่วนใดของรา่ งกายเขา สัมผัสกบั แดนหลงั หรือ หลังจากลกู บอลไดส้ ัมผัสแดนหลงั ของทีมนนั้ ขอ้ กาหนดน้ี บังคบั ใช้กับทกุ สถานการณใ์ นแดนหน้าของทีม รวมถึงการสง่ บอลเข้าเลน่
36 อย่างไรก็ตาม จะไม่บังคับใช้กับผู้เล่นท่ีกระโดดจากแดนหน้าของเขา แล้วเป็นทีมครอบครองบอล ใหม่ในขณะท่ียงั คงลอยตวั อย่ใู นอากาศ และ ลงสู่พืน้ พรอ้ มกับลกู บอลในแดนหลงั ของทมี เขา 30.2 หลักเกณฑ์ ทีมที่ครอบครองบอลดใี นแดนหน้าของเขา จะตอ้ งไม่ทาให้ลูกบอลกลับสู่แดนหลังของเขาอย่างผิด กติกา 30.3 บทลงโทษ จะต้องให้ลูกบอลแก่ฝ่ายตรงข้าม เพ่ือส่งเข้าเล่นในแดนหน้าของเขา ณ บริเวณที่ใกล้กับท่ีมีการ ละเมดิ กติกาท่ีสุด ยกเวน้ แนวใตก้ ระดานหลงั ขอ้ 31 การปรับเป็นประตู และ การรบกวนหว่ งตาข่าย : Goaltending and Interference 31.1 คาจากดั ความ 31.1.1 การยงิ ประตู หรือ การโยนโทษ : เรม่ิ ตน้ เม่อื ลูกบอลหลุดออกจากมอื ของผเู้ ล่นท่อี ยใู่ นท่ากาลังยงิ ประตู สน้ิ สุด เมอ่ื ลูกบอล : - ลงห่วงตาขา่ ยโดยตรงจากดา้ นบน และ คงอยู่ในตาข่าย หรอื ผ่านหว่ งตาขา่ ยลงมา - ไมม่ ีโอกาสท่จี ะลงหว่ งตาข่าย - กระทบหว่ ง - สัมผัสพน้ื - กลายเปน็ บอลตาย 31.2 หลักเกณฑ์ 31.2.1 การปรับเป็นประตู(Goaltending) เกิดขึ้นในระหว่าง การยิงประตู เมื่อผู้เล่นสัมผัสบอลขณะท่ีลูก บอลลอยอย่เู หนอื ระดับหว่ งอย่างสมบรู ณ์ และ : ลกู บอลลดต่ามา ท่ีหว่ งตาขา่ ย หรอื หลงั จาก ลูกบอลได้กระทบกระดานหลงั 31.2.2 การปรับเป็นประตู(Goaltending) เกิดข้ึนในระหว่าง การโยนโทษ เม่ือผู้เล่นสัมผัสบอลขณะท่ีลูก บอลลอยข้ึนไปท่หี ่วงตาขา่ ย และ ก่อนท่ีลูกบอลจะสัมผสั ห่วง 31.2.3 ขอ้ กาหนดของการปรบั เปน็ ประตู ใหบ้ ังคบั ใช้ จนกระทงั่ ลูกบอลไมม่ โี อกาสทีจ่ ะลงห่วงตาข่าย ลกู บอลไดก้ ระทบห่วง
37 31.2.4 การรบกวนห่วงตาข่าย(Interference) เกิดขนึ้ เมื่อ : ภายหลังการยิงประตู หรอื การโยนโทษคร้ังสดุ ทา้ ย เม่ือผู้เล่นสัมผัสหว่ งตาข่าย หรอื กระดานหลงั ในขณะทีล่ ูกบอลกระทบอยู่กบั ห่วง ภายหลังการโยนโทษ ท่ีติดตามด้วยการโยนโทษเพิ่มอีก ผู้เล่นสัมผัสห่วงตาข่าย หรือ กระดานหลัง ในขณะทีล่ ูกบอลยงั มโี อกาสที่จะลงห่วงตาข่าย ผูเ้ ล่นยน่ื มอื ลอดผ่านห่วงตาขา่ ยจากดา้ นล่างขน้ึ ไป และ สมั ผัสลูกบอล ผเู้ ลน่ ฝ่ายปอ้ งกนั สมั ผัสบอล หรอื สมั ผัสห่วงตาขา่ ย ในขณะที่ลูกบอลอยู่ภายในห่วงตาข่าย เพอื่ เปน็ การขดั ขวางไมใ่ หล้ กู บอลผ่านห่วงตาข่ายลงมา ผเู้ ล่นทาใหห้ ่วงตาขา่ ยสนั่ สะเทือน หรือ จบั หว่ งตาขา่ ย ซ่ึงผู้ตัดสนิ พจิ ารณาวา่ การกระทาน้ัน เปน็ การขัดขวางไม่ให้ลกู บอลลงห่วงตาข่าย หรอื เป็นเหตทุ าใหล้ ูกบอลลงห่วงตาขา่ ย ผู้เลน่ จบั หว่ งตาขา่ ยเพ่อื เลน่ บอล 31.2.5 เมื่อ : ผู้ตดั สินขานนกหวีดในขณะท่ลี กู บอลอยู่ในมือของผเู้ ล่นทอี่ ยใู่ นท่ากาลังยิงประตู หรอื ลูกบอลกาลังลอยอยู่ในอากาศจากการยงิ ประตู เสียงสัญญาณของนาฬกิ าแข่งขนั ดังหมดเวลาการแข่งขัน ในขณะที่ลูกบอลกาลังลอยอยู่ใน อากาศจากการยิงประตู หรือการโยนโทษครง้ั สุดทา้ ย หา้ มผู้เลน่ สัมผสั บอล หลังจากทล่ี กู บอลได้กระทบห่วง ในขณะที่ลูกบอลยังมีโอกาสท่ีจะลงห่วงตา ข่าย ข้อกาหนดท้ังหมด ท่ีเกี่ยวการปรับเป็นประตู(Goaltending) และ การรบกวนห่วงตาข่าย (Interference)จะตอ้ งนามาบงั คับใช้ 31.3 บทลงโทษ 31.3.1 ถา้ การผิดระเบยี บกระทาโดย ผู้เลน่ ฝา่ ยรุก จะไมใ่ ห้คะแนน และใหล้ ูกบอลแก่ฝ่ายตรงข้ามเพื่อส่งเข้า เลน่ ณ แนวย่ืนตอ่ ของเสน้ โยนโทษ เวน้ แตก่ ติกาไดก้ าหนดไวเ้ ปน็ อย่างอื่น 31.3.2 ถ้าการผิดระเบยี บกระทาโดย ผเู้ ลน่ ฝ่ายป้องกัน ให้ทีมฝ่ายรุกไดค้ ะแนน : 1 คะแนน ถ้าลกู บอลถกู ปล่อยจากการโยนโทษ 2 คะแนน ถ้าลกู บอลถูกปล่อยจากเขตพื้นท่ี 2 คะแนน 3 คะแนน ถ้าลูกบอลถกู ปลอ่ ยจากเขตพ้ืนท่ี 3 คะแนน การให้เปน็ คะแนน ให้เปรียบเสมือนลูกบอลได้ลงหว่ งตาขา่ ย 31.3.3 หากการปรับเป็นประตู(Goaltending) เป็นการกระทาผิดโดย ผู้เล่นฝ่ายป้องกันในระหว่างการโยน โทษครัง้ สุดท้าย หรอื ครงั้ เดียว จะตอ้ งให้ 1 คะแนนแก่ทีมฝ่ายรุก ติดตามด้วยปรับฟาวล์เทคนิคต่อผู้ เลน่ ฝา่ ยปอ้ งกันนัน้
38 กติกาหมวดที่ 6 การฟาวล์ : Rule Six – Foul ขอ้ 32 การฟาวล์ : Foul 32.1 คาจากดั ความ 32.1.1 การฟาวลค์ อื การละเมิดกติกาท่ีเกี่ยวกับการถูกต้องตัว(personal contact) กับฝ่ายตรงข้ามท่ีผิดกติกา และ/หรอื พฤตกิ รรมทไี่ มใ่ ช่วสิ ัยนกั กฬี า(unsportsmanlike behavior) 32.1.2 ทมี หนงึ่ ๆ อาจถูกเรียกฟาวล์จานวนเทา่ ใดกไ็ ด้ โดยไมต่ อ้ งคานงึ ถงึ การลงโทษ การปรบั เป็นฟาวล์แต่ ละครัง้ ให้บนั ทกึ ลงในใบบนั ทึกต่อผูท้ ี่กระทาผดิ และ ให้ลงโทษไปตามกตกิ า ข้อ 33 การปะทะ : หลักการทวั่ ไป : Contact - General principles 33.1 หลกั การรูปทรงกระบอก : Cylinder principles 33.1.1 หลักการรูปทรงกระบอก คือการกาหนดพื้นที่สมมติภายในรูปทรงกระบอกของผู้เล่นท่ีอยู่บนพื้น ขนาดรูปทรงกระบอกและระยะห่างของเท้า จะแตกต่างกันระหว่างความสูงและขนาดร่างกายของ ผู้เล่น รวมถึงพ้ืนท่ีว่างข้ึนไปเหนือผู้เล่นน้ันทั้งฝ่ายรับ และฝ่ายรุก ท่ีไม่มีบอล ถูกกาหนดโดย ขอบเขตตอ่ ไปนี้ : ด้านหนา้ กาหนดโดยฝ่ามอื ของมือท้งั สองข้าง ดา้ นหลัง โดยกาหนดสะโพก และ ด้านขา้ ง กาหนดโดยขอบด้านนอกของแขน และขาท้ังสองขา้ ง มือและแขนท้ังสองข้าง อาจจะย่ืนออกไปด้านหน้าของลาตัวได้ แต่ต้องไม่เลยออกไปเกินกว่า ตาแหนง่ ของเท้า และเข่า ด้วยการงอข้อศอก ทาให้แขนท่อนล่าง และ มือถูกยกขึ้นอยู่ในตาแหน่ง การป้องกันท่ถี ูกกติกา ผู้เล่นฝา่ ยปอ้ งกันต้องไมเ่ ข้าไปในทรงกระบอกของผูเ้ ล่นฝ่ายรุกที่มีลูกบอลแล้วก่อให้เกิดการปะทะ ท่ผี ดิ กตกิ า ในขณะท่ีผ้เู ล่นฝ่ายรกุ พยายามเล่นบาสเกตบอลปกติ ภายในทรงกระบอกของเขา ขอบเขตของผ้เู ล่นฝ่ายรุกในขณะทม่ี ลี ูกบอล ได้แก่ ดา้ นหนา้ กาหนดโดยเท้า เข่า และแขนงอลง ในขณะท่จี ับลกู บอลไว้ท่เี หนือสะโพก ด้านหลัง โดยกาหนดสะโพก และ ดา้ นขา้ ง กาหนดโดยขอบด้านนอกของข้อศอก และขาท้งั สองข้าง ผู้เล่นฝ่ายรุกที่มีลูกบอลจะต้องทาให้มีพื้นท่ีเพียงพอ สาหรับการเล่นบาสเกตบอลตามปกติ ภายในทรงกระบอกของเขา รวมถงึ การเรม่ิ เล้ยี งบอล การหมุนตัว การยงิ ประตู และการสง่ บอล
39 ผ้เู ลน่ ฝา่ ยรกุ ไมส่ ามารถกางแขนและขาออกนอกทรงกระบอกของเขา จนทาให้เกิดการปะทะที่ ผดิ กติกากบั ผูเ้ ล่นฝา่ ยปอ้ งกนั เพอื่ ให้ได้พ้นื ทเ่ี พม่ิ ขึน้ ภาพท่ี 5 หลักการรปู ทรงกระบอก : Cylinder principle 33.2 หลักการของแนวดิ่ง : Principle of verticality ในระหวา่ งการแข่งขัน ผเู้ ลน่ แต่ละคนมีสิทธ์ิท่จี ะอยู่ ณ ตาแหน่งใดก็ได้(รูปทรงกระบอก) ในสนาม แขง่ ขัน โดยไม่มีฝ่ายตรงขา้ มยืนอยู่ก่อน หลักการน้ี เป็นการป้องกันพ้ืนที่ว่างบนพ้ืนท่ีท่ีเขายืน และ พ้ืนท่ีว่างเหนือตัวเขาข้ึนไป เมื่อเขา กระโดดขน้ึ ในแนวด่งิ ภายในพนื้ ที่วา่ งนั้น ทันทที ี่ผูเ้ ล่นออกจากตาแหน่งแนวดงิ่ ของเขา(รปู ทรงกระบอก) และ เกิดมีการปะทะกับฝ่ายตรงข้าม ทไ่ี ด้จดั ตาแหน่งแนวดงิ่ ของเขาอยูก่ อ่ นแล้ว(รปู ทรงกระบอก) ผ้เู ลน่ ที่ออกจากตาแหนง่ แนวดงิ่ (รูป ทรงกระบอก) เป็นผู้รบั ผดิ ชอบตอ่ การปะทะนนั้ ผูเ้ ล่นฝา่ ยป้องกันตอ้ งไมถ่ กู ลงโทษ เน่ืองจากการกระโดดขึ้นจากพ้ืนในแนวดิง่ (ในรปู ทรงกระบอก ของเขา) หรือ ได้ยื่นมอื และแขนข้ึนเหนือตัวเขาภายในรปู ทรงกระบอกของเขา ผู้เล่นฝ่ายรุก ไม่ว่าอยู่บนพื้น หรือ ลอยตัวอยู่ในอากาศ จะต้องไม่ทาให้เกิดการปะทะกับผู้เล่นฝ่าย ป้องกนั ท่อี ยใู่ นตาแหน่งการป้องกันทีถ่ กู กตกิ า โดยการ : ใช้แขน ทาใหต้ วั เขามีพืน้ ทว่ี า่ งมากข้นึ (ผลักออก) กางขา หรือ แขนของเขาออกกว้าง จนทาให้เกิดมีการปะทะในระหว่างการยิงประตู หรือ ทันทีภายหลังการยงิ ประตู
40 33.3 ตาแหน่งการป้องกนั ทีถ่ กู กติกา : Legal guarding position ผูเ้ ล่นฝ่ายปอ้ งกนั ไดจ้ ัดตาแหนง่ ขัน้ ต้นของการป้องกันทถ่ี กู กติกา เม่ือ : เขายืนหันหนา้ (facing) เข้าหาฝา่ ยตรงข้าม, และ เขายนื ดว้ ยเท้าท้ังสองข้างอย่บู นพืน้ ตาแหนง่ ของการป้องกนั ท่ีถกู กตกิ า จะยนื่ ขนึ้ ไปเปน็ แนวด่ิงเหนือตวั เขา(รูปทรงกระบอก) จากพืน้ ถงึ เพดาน เขาอาจจะยกแขนและมอื ขน้ึ เหนอื ศีรษะของเขา หรอื กระโดดขึน้ ในแนวด่งิ แต่เขาจะต้องคง อยู่ในตาแหนง่ แนวด่ิงของพวกเขา ภายในกรอบรปู ทรงกระบอกสมมติ 33.4 การปอ้ งกนั ผ้เู ล่นท่คี รอบครองบอล : Guarding a player who controls the ball ขณะที่กาลังป้องกัน ผู้เล่นที่ครอบครองบอล(กาลังถือบอลหรือกาลังเล้ียงบอล) องค์ประกอบของ เวลาและระยะทาง(elements of time and distance) จะไม่นามาบงั คับใช้ ผู้เลน่ ท่ีครอบครองบอลตอ้ งคาดการณ์วา่ จะถกู ปอ้ งกัน และ ต้องเตรียมพร้อมท่ีจะหยุด หรือ เปล่ียน ทิศทางของเขาในเวลาใดก็ตามท่ี ฝ่ายตรงข้ามได้จัดตาแหน่งข้ันต้นของการป้องกันท่ีถูกกติกา ตรงหนา้ เขา แม้วา่ การปอ้ งกนั น้ันจะเกดิ ข้ึนในช่วงเสย้ี ววินาทกี ็ตาม ผู้เล่นท่ีกาลังป้องกัน(ฝ่ายป้องกัน) ต้องจัดตาแหน่งข้ันต้นของการป้องกันท่ีถูกกติกา โดยไม่ทาให้ เกิดการปะทะ ก่อนเขา้ ไปอยใู่ นตาแหน่งของเขา ทันทีท่ีผู้เล่นฝ่ายป้องกันได้จัดตาแหน่งข้ันต้นของการป้องกันท่ีถูกกติกา เขาอาจจะเคลื่อนที่เพื่อ ป้องกนั ฝ่ายตรงข้ามของเขา แตเ่ ขาตอ้ งไม่ย่ืนแขน, ไหล่, สะโพก หรือ ขา เพื่อขัดขวางผู้เลี้ยงบอลที่ กาลงั เลี้ยงผา่ นเขาไป ในการพิจารณาสถานการณ์ การชน/การสกัดก้ัน(charge/block) ท่ีเกี่ยวกับผู้เล่นที่มีบอล ผู้ตัดสิน จะต้องใช้หลกั การ ต่อไปน้ี : ผูเ้ ลน่ ฝา่ ยปอ้ งกัน ตอ้ งจัดตาแหนง่ ขั้นตน้ ของการป้องกันท่ีถูกกติกา โดยการหันหน้าเข้าหา ผู้เล่นท่ีมบี อล และ มีเท้าทัง้ สองข้างอยบู่ นพนื้ ผเู้ ลน่ ฝา่ ยป้องกนั อาจจะยืนอยู่กับที่, กระโดดข้ึนในแนวด่ิง, เคล่ือนท่ีไปทางด้านข้าง หรือ ถอยหลงั เพ่อื ใหค้ งอยใู่ นตาแหน่งข้ันต้นของการป้องกนั ท่ถี กู กตกิ า ขณะท่ีกาลังเคล่ือนที่ เพ่อื ใหค้ งอยใู่ นตาแหนง่ ข้ันตน้ ของการปอ้ งกนั ทีถ่ ูกกติกา เท้าข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้าง อาจจะยกขึ้นจากพ้ืนชั่วระยะหน่ึง ตราบที่ยังเคลื่อนที่ไปทางด้านข้างหรือ ถอยหลัง แต่ ไม่ใชเ่ คลอ่ื นท่ีเข้าไปหา ผู้เลน่ ที่ครอบครองบอล การปะทะ จะต้องเกิดข้ึนท่ีลาตัว ซึ่งในกรณีน้ี ผู้เล่นฝ่ายป้องกันจึงจะได้รับการพิจารณาว่า เขาได้อยูใ่ นตาแหนง่ ท่เี กดิ การปะทะกอ่ น
41 เมื่อได้จัดตาแหน่งข้ันต้นของการป้องกันที่ถูกกติกาแล้ว ผู้เล่นฝ่ายป้องกันอาจจะหมุนตัว ภายในรูปทรงกระบอกของเขาเพ่ือหลีกเลยี่ งการบาดเจ็บ ในทกุ สถานการณด์ ังกล่าวขา้ งต้นนี้ จะต้องพจิ ารณาวา่ การปะทะน้นั ได้เกดิ ขน้ึ เพราะผูเ้ ลน่ ท่ี ครอบครองบอล 33.5 การป้องกนั ผเู้ ล่นทไ่ี ม่ไดค้ รอบครองบอล : Guarding a player who does not control the ball ผเู้ ล่นที่ไมไ่ ด้ครอบครองบอล มีสิทธิ์เคล่ือนที่ได้โดยอิสระ และ อยู่ ณ ตาแหน่งใด ๆ ก็ได้ในสนาม แข่งขัน ท่ไี มม่ ีผู้เลน่ อน่ื ยนื อย่กู อ่ น ขณะกาลงั ปอ้ งกันผเู้ ล่นทไ่ี ม่ได้ครอบครองบอล จะต้องนา องค์ประกอบของเวลาและระยะทาง มา บังคับใช้ ผู้เล่นฝ่ายป้องกันไม่สามารถเข้าไปยืนในตาแหน่งใกล้จนเกินไป และ/หรือ รวดเร็ว จนเกนิ ไปในเส้นทางของฝ่ายตรงข้ามท่ีกาลังเคลื่อนท่ี จนทาให้เขาไม่มี เวลา หรือมีระยะทางเพียง พอที่จะหยดุ หรือ เปล่ยี นทิศทางของเขา ระยะทางเปน็ สัดส่วนโดยตรงกบั ความเรว็ ของฝ่ายตรงข้าม แต่ต้องไม่น้อยกวา่ 1 ก้าวปกติ หากผู้เล่นฝ่ายปอ้ งกนั ไมเ่ คารพตอ่ องคป์ ระกอบของเวลาและระยะทาง ในการจัดตาแหน่งขัน้ ตน้ ของ การป้องกันท่ีถกู กติกา แลว้ เกดิ การปะทะกบั ฝ่ายป้องกนั เขาตอ้ งรบั ผดิ ชอบตอ่ การปะทะนัน้ ทนั ทีท่ีผูเ้ ล่นฝา่ ยปอ้ งกนั อย่ใู นตาแหนง่ ขั้นตน้ ของการป้องกนั ท่ีถกู กติกา เขาอาจเคลื่อนที่เพื่อปอ้ งกัน ฝ่ายตรงขา้ มของเขา เขาต้องไมข่ ัดขวางฝ่ายตรงข้ามท่ีกาลังเคลื่อนที่ผ่านตัวเขาไป โดยการยื่นแขน, ไหล่, สะโพก หรอื ขา ไปในเส้นทางของฝา่ ยตรงขา้ ม เขาอาจจะหมุนตวั ภายในรูปทรงกระบอกของ เขา เพอื่ หลกี เหลีย่ งการบาดเจบ็ 33.6 ผู้เลน่ ท่ีลอยตัวอยใู่ นอากาศ : A player who is in the air ผเู้ ล่นที่ได้กระโดดจากพน้ื สนามแขง่ ขันขน้ึ ไปในอากาศ มีสทิ ธิ์ทจี่ ะลงส่พู น้ื สนาม ณ จดุ เดมิ เขามีสิทธิ์ลงสู่พ้ืนสนามแข่งขัน ณ จุดอื่นได้ โดยมีเงื่อนไขว่า บริเวณท่ีเขาลงสู่พื้น และ ระหว่าง เส้นทางจากจุดท่ีเขากระโดดขึ้นกับจุดที่เขาลงสู่พ้ืน ไม่มีฝ่ายตรงข้ามคนเดียว(หลายคน) ยืนอยู่ กอ่ นที่เขาจะกระกระโดด หากผู้เลน่ ที่ได้กระโดดข้ึน และ ลงสู่พ้ืน แต่ด้วยแรงส่งของเขา(momentum) ทาให้เขาไปปะทะกับ ฝา่ ยตรงขา้ มท่ีได้อยู่ในตาแหนง่ การป้องกนั ทีถ่ ูกกตกิ า ซงึ่ อยู่ห่างออกไปจากจุดที่ลงสู่พ้ืน ผู้กระโดด เปน็ ผรู้ บั ผิดชอบต่อการปะทะนนั้ ฝ่ายตรงข้ามต้องไมเ่ คลอ่ื นท่เี ขา้ ไปในเส้นทางของผู้เล่น หลงั จากท่ีผู้เล่นได้กระโดดข้ึนไปในอากาศ แล้ว
42 การเคลื่อนท่ีเข้าไปด้านล่างผู้เล่นที่ลอยตัวอยู่ในอากาศ แล้วทาให้เกิดการปะทะ โดยปกติเป็นการ ฟาวลผ์ ิดวิสัยนักกีฬา(unsportsmanlike foul) และ ในสภาวะที่ม่ันใจ อาจปรับเป็นฟาวล์เสียสิทธิ์ได้ (disqualifying foul) 33.7 การกาบงั : การกาบงั ท่ีถูกกติกา และ ผดิ กติกา : Screening - Legal and illegal การกาบัง คือการพยายามยับย้งั หรือ ป้องกนั ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามที่ไม่มีลูกบอล ไม่ให้ไปยังตาแหน่งที่ ต้องการในสนามแขง่ ขนั การกาบังที่ ถูกกติกา คอื การทผ่ี ู้เล่นทาการกาบงั ฝ่ายตรงขา้ ม โดย : ยนื น่งิ (ในรปู ทรงกระบอกของเขา) เมื่อเกดิ การปะทะ เท้าทงั้ สองข้างอย่บู นพ้นื เมือ่ เกดิ การปะทะ การกาบงั ท่ี ผดิ กตกิ า คือการทผี่ ู้เล่นทาการกาบังฝ่ายตรงขา้ ม โดย : กาลังเคล่อื นท่ี เม่ือเกดิ การปะทะ ไม่ได้ให้ระยะห่างเพียงพอในการทากาบังนอกสายตาของฝ่ายตรงข้ามท่ียืนนิ่ง เมื่อเกิด การปะทะ ละเมิดเรือ่ งองค์ประกอบของเวลา และ ระยะทาง ของฝา่ ยตรงข้ามที่ กาลังเคล่ือนท่ี เมื่อเกิด การปะทะ หากการกาบงั ทา อยใู่ น สายตาของฝา่ ยตรงขา้ มที่ยืนนิง่ (ดา้ นหนา้ หรอื ดา้ นข้าง) ผู้กาบังอาจจะทาการ กาบงั ในระยะใกล้กับฝ่ายตรงขา้ มได้ตามท่ีเขาต้องการ โดยมขี ้อกาหนดวา่ ต้องไม่เกดิ การปะทะ หากการกาบงั ทาอยู่ นอกสายตา ของฝ่ายตรงข้ามท่ียืนนิ่ง ผู้กาบังต้องยอมให้มีระยะห่างแก่ฝ่ายตรง ข้ามเพ่อื กา้ วเท้าได้ 1 ก้าวปกติ โดยไมม่ กี ารปะทะ หากฝา่ ยตรงข้าม กาลังเคลื่อนท่ี ให้นาองค์ประกอบของเวลาและระยะทางมาบังคับใช้ ผู้กาบังต้อง เว้นใหม้ ีระยะหา่ งเพยี งพอ เพ่ือให้ผู้เลน่ ที่ถูกกาบังสามารถหลีกเลี่ยงการถูกกาบัง ด้วยการหยุด หรือ เปล่ยี นทศิ ทาง ระยะทางท่ีกาหนดคือ ตอ้ งไมน่ ้อยกวา่ 1 ก้าว และ ไม่เกนิ กว่า 2 ก้าวปกติ ผู้เล่นที่ถูกกาบังอย่างถูกกติกา ตอ้ งรบั ผดิ ชอบต่อการปะทะกนั ใด ๆ กบั ผู้เล่นที่ได้ทากาบงั 33.8 การชน : Charging การชน คือการปะทะร่างกายท่ีผิดกติกาในขณะที่มีลูกบอลหรือไม่มีก็ตาม ด้วยการผลัก หรือ เคลอื่ นท่ีเขา้ ชนลาตัวของฝ่ายตรงขา้ ม
43 33.9 การสกดั กน้ั : Blocking การสกัดก้ัน คอื การปะทะร่างกายทผี่ ิดกตกิ า ซึ่งเป็นการขัดขวางการเคล่ือนไปข้างหน้าของฝ่ายตรง ข้ามทม่ี ีลกู บอลหรือไมม่ ีก็ตาม ผู้เล่นท่ีพยายามทากาบังจะกระทาฟาวล์สกัดกั้นได้ ถ้าการปะทะกันเกิดขึ้น เม่ือเขากาลังเคลื่อนท่ี และฝา่ ยตรงขา้ มยืนนงิ่ หรอื ถอยห่างจากเขา หากผเู้ ลน่ ไมส่ นใจท่จี ะเลน่ ลกู บอล หนั หนา้ เข้าหาฝา่ ยตรงข้าม แล้วขยับตาแหน่งของเขาไปตามการ เคลือ่ นตาแหนง่ ของฝา่ ยตรงขา้ ม ในเบ้อื งตน้ เขาต้องรับผดิ ชอบต่อการปะทะใด ๆ ที่เกดิ ขน้ึ ยกเวน้ จะ มีปัจจยั อืน่ เขา้ มาเกยี่ วข้อง ขอ้ ความ “ยกเว้นจะมปี ัจจยั อน่ื เขา้ มาเกย่ี วข้อง” หมายถึง การจงใจผลัก, เข้าชน หรือ ดึง โดยผู้เล่นท่ี ถกู กาบัง เปน็ การเลน่ ที่ถูกกตกิ า สาหรับผ้เู ล่นที่ย่นื แขน กางขอ้ ศอก ออกนอกกรอบรูปทรงกระบอก ของเขาเพ่ือการเข้าหาตาแหน่งบนพื้นสนาม แต่เขาต้องลดแขน หรือ หุบข้อศอกลงมาเข้าไปใน กรอบรูปทรง กระบอก เมื่อฝา่ ยตรงข้ามพยายามท่ีจะเคลอื่ นผา่ นไป ถ้าแขน หรือ ข้อศอกอยู่นอกรูป ทรงกระบอกของเขา และ เกดิ การปะทะ จะถือเป็นการสกดั กั้น หรอื การดงึ 33.10 เขตพ้ืนท่ีครงึ่ วงกลมปลอดการฟาวลช์ น : No charge semi-circle area เขตพ้ืนที่ครึ่งวงกลมปลอดการฟาวล์ชน ได้ทาลงไปในสนามแข่งขัน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อกาหนด เขตพืน้ ที่โดยเฉพาะสาหรับการตีความเก่ยี วกับสถานการณ์ การชน / การสกดั กน้ั ใต้หว่ งตาขา่ ย ในสถานการณ์ของการรุกเขา้ ไปในเขตพื้นท่ีครึ่งวงกลมปลอดการฟาวล์ชนแต่ละคร้ัง การปะทะใด ๆ ที่เกิดจาก ผู้เล่นฝ่ายรุกที่ลอยตัวอยู่ในอากาศต่อผู้เล่นฝ่ายป้องกันภายในครึ่งวงกลมปลอดการ ฟาวลช์ น จะตอ้ งไมเ่ รยี กเป็นการฟาวลข์ องฝา่ ยรกุ นอกจากผเู้ ล่นฝ่ายรุกใช้มือ, แขน, ขา หรอื ร่างกาย อยา่ งผดิ กติกา กตกิ าขอ้ นี้ให้บังคับใช้ เม่อื ผ้เู ลน่ ฝา่ ยรุก เป็นผคู้ รอบครองบอลขณะลอยตวั อยู่ในอากาศ และ เขาพยายามยิงประตู หรือ ส่งบอล และ ขณะปะทะกัน ผเู้ ล่นฝ่ายป้องกนั มี เทา้ ขา้ งหน่งึ หรอื เทา้ ท้งั สองขา้ งอยู่ภายใน เขตพ้ืนที่ครึ่ง วงกลมปลอดการฟาวล์ชน 33.11 การสัมผสั ฝา่ ยตรงข้ามดว้ ยมือ และ/หรือ แขน : Contacting an opponent with the hand(s) and/or arm(s) การใชม้ ือสัมผัสฝา่ ยตรงขา้ ม การกระทาในลกั ษณะน้ไี มจ่ าเป็นต้องเปน็ การฟาวล์เสมอไป ผู้ตัดสินจะต้องพิจารณาว่า ผู้เล่นท้ังสองที่ทาให้เกิดการปะทะนั้น มีการได้เปรียบหรือไม่ ถ้าการ สัมผัสโดยผู้เล่นด้วยวิธีการใด ๆ ก็ตาม เป็นการจากัดการเคลื่อนท่ีโดยอิสระของฝ่ายตรงข้าม การ สมั ผัสน้นั ถือเป็นการทาฟาวล์
44 การใช้มือ หรอื การยน่ื แขนท่ผี ิดกติกา เกิดข้นึ เม่อื ผู้เล่นฝา่ ยป้องกันทอ่ี ยูใ่ นตาแหน่งการป้องกัน และ ใช้มือ หรือ แขนของเขา วาง และคงอยู่บนร่างกายฝ่ายตรงข้ามท่ีมีบอลหรือไม่มีบอล เพื่อหน่วง เหนยี่ ว การเคล่ือนท่ีไปขา้ งหน้าของฝ่ายตรงขา้ ม การแตะสัมผัสอย่างซ้า ๆ หรือ “ แย็บ ” (jab)ฝ่ายตรงข้ามท่ีมีบอลหรือไม่มีบอล ถือเป็นการฟาวล์ เพราะอาจจะนาไปสูก่ ารเล่นที่รนุ แรง ถือเป็นการทาฟาวล์ โดย ผเู้ ล่นฝ่ายรุกท่มี ีบอล เมือ่ เขา : ใชแ้ ขน หรอื ศอก “ เก่ียว ” (Hook) หรือ โอบรอบตัวผ้เู ล่นฝ่ายตรงข้าม เพ่อื ใหไ้ ดเ้ ปรยี บ “ผลกั ออก” (Push off) เพอื่ ขดั ขวางผ้เู ลน่ ฝ่ายตรงข้ามจากการเล่นบอล หรือ พยายามจะเล่น บอล หรือ เพื่อใหม้ ีพ้ืนท่ีวา่ งมากขึน้ แก่ตัวเขาเอง ใชแ้ ขนท่อนล่าง หรือ มือย่ืนออกไป ในขณะกาลังเล้ียงบอล เพ่ือป้องกันฝ่ายตรงข้ามเข้ามา แย่งบอล ถือเป็นการกระทาฟาวล์ โดย ผ้เู ลน่ ฝา่ ยรกุ ท่ีไมม่ ีบอล ที่ใชว้ ธิ ีการ “ ผลกั ออก ” เพอ่ื : ให้มีอิสระในการรบั บอล ขัดขวางผ้เู ล่นฝา่ ยตรงข้ามออกจากการเล่น หรอื พยายามจะเล่นบอล ทาให้มีพ้ืนที่ว่างมากขน้ึ เพ่ือตวั เขาเอง 33.12 การเล่นตาแหน่งโพสต์ : Post play หลกั การของแนวด่งิ (หลกั การรูปทรงกระบอก) ใหน้ ามาบงั คับใชก้ บั การเลน่ ตาแหนง่ โพสต์ ผูเ้ ล่นฝา่ ยรกุ ในตาแหนง่ โพสต์ และ ผเู้ ล่นฝ่ายตรงข้ามทป่ี ้องกนั เขา ต้องเคารพสิทธ์ิซ่ึงกันและกันใน ตาแหน่งแนวดงิ่ (รูปทรงกระบอก) ถือเปน็ การฟาวล์โดยผู้เล่นฝ่ายรุก หรือ ผู้เล่นฝ่ายป้องกันในตาแหน่งโพสต์ ที่ใช้ไหล่ หรือ สะโพก ดันฝา่ ยตรงข้ามให้ออกจากตาแหน่ง หรือ รบกวนอิสระในการเคลือ่ นที่ของฝ่ายตรงข้าม ด้วยการย่ืน แขน, ไหล่, สะโพก, ขา หรอื สว่ นอ่ืนใดของร่างกาย 33.13 การปอ้ งกนั จากด้านหลงั ทผ่ี ดิ กตกิ า : illegal guarding from the rear การปอ้ งกันจากดา้ นหลังทผ่ี ิดกตกิ า คือการปะทะตัวฝ่ายตรงข้ามจากด้านหลังโดยผู้เล่นฝ่ายป้องกัน ในความเป็นจริง การที่ผู้เล่นฝ่ายป้องกันกาลังพยายามท่ีจะเล่นบอลน้ัน ไม่จาเป็นว่า ต้องเป็นการ ปะทะจากเขาท่เี กดิ กับฝ่ายตรงขา้ มจากดา้ นหลงั 33.14 การดึง : Holding การดึง คอื การถกู ต้องตวั ฝา่ ยตรงขา้ มทีผ่ ดิ กตกิ า ซึง่ เป็นการรบกวนอิสระในการเคลอื่ นที่ การถูกต้อง ตัว(การดงึ ) แบบนี้ สามารถเกดิ ขึน้ ได้กบั สว่ นอ่ืนใดของรา่ งกาย
45 33.15 การผลกั /ดนั : Pushing การผลกั /ดนั คอื การปะทะตัวฝ่ายตรงขา้ มท่ผี ิดกตกิ าด้วยสว่ นใด ๆ ของรา่ งกาย เมอ่ื ผู้เลน่ ออกแรงดัน หรือ พยายามดันฝ่ายตรงข้ามท่ีครอบครองบอล หรอื ปราศจากลกู บอล 33.16 การหลอกวา่ ถกู กระทาฟาวล์ : Fake being foul การหลอกเป็นการกระทาใด ๆ โดยผู้เล่นคนใดคนหนึ่งที่เปรียบเสมือนแกล้งว่าเขาได้ถูกกระ ทาฟาวล์ หรือการกระทาเหมอื นละครทแ่ี สดงเกนิ ความเปน็ จริง เหมอื นกบั ว่าถกู กระทาฟาวล์ เพอื่ ให้ ไดเ้ ปรยี บการเล่น ขอ้ 34 ฟาวลบ์ คุ คล : Personal foul 34.1 คาจากัดความ 34.1.1 การฟาวล์บุคคล คือ การปะทะทผ่ี ิดกติกาของผู้เลน่ กบั ฝา่ ยตรงข้าม ไม่วา่ จะเป็นบอลดี หรือ บอลตาย ก็ตาม ผู้เล่นจะต้อง ไม่ดึง, สกัดก้ัน, ผลัก, ชน, ทาให้เกิดการสะดุด หรือ กีดขวางการเคล่ือนท่ีไป ข้างหน้าของฝ่ายตรงข้ามด้วยการยื่นมือของเขา, แขน, ศอก, ไหล่, สะโพก, ขา, เข่า หรือ เท้า หรือ ก้มงอตัวของเขาให้อย่ใู นตาแหนง่ ทผ่ี ดิ วสิ ัย(นอกรปู ทรงกระบอกของเขา) หรอื ตอ้ งไมใ่ ช้วิธีการเล่น ทรี่ นุ แรง หรอื นอกกตกิ า 34.2 บทลงโทษ จะต้องปรบั ฟาวล์บุคคลต่อผู้ที่กระทาฟาวล์ 34.2.1 หากการฟาวลไ์ ด้กระทาตอ่ ผ้เู ลน่ ที่ไม่อย่ใู นท่ากาลังยงิ ประตู : ให้ดาเนินการแขง่ ขันต่อไป ดว้ ยการสง่ บอลเข้าเล่น โดยทีมทถี่ ูกกระทาฟาวล์ ณ บริเวณใกล้ กับทม่ี กี ารละเมดิ กตกิ า ถ้าหากว่า ทีมท่ีกระทาฟวาล์อยู่ในสถานการณ์ของการลงโทษการฟาวล์ทีม จะต้อง นา กติกาข้อ 41 (บทลงโทษการฟาวลท์ มี ) มาบงั คับใช้ 34.2.2 หากการฟาวลไ์ ด้กระทาต่อผูเ้ ลน่ ท่อี ยใู่ นท่ากาลงั ยงิ ประตู ผเู้ ล่นคนนัน้ จะตอ้ งไดโ้ ยนโทษ ดังตอ่ ไปน้ี ถ้าการยิงประตูปล่อยจากพ้ืนที่นั้นเป็นผลสาเร็จ จะต้องนับเป็นประตู และให้โยนโทษเพิ่ม อกี 1 ครงั้ ถ้าการยงิ ประตูปลอ่ ยจากเขตพืน้ ที่ 2 คะแนน และไม่เป็นผลสาเรจ็ ให้โยนโทษ 2 คร้งั ถา้ การยิงประตูปลอ่ ยจากเขตพืน้ ท่ี 3 คะแนน และไม่เปน็ ผลสาเรจ็ ให้โยนโทษ 3 ครัง้ ถ้าผ้เู ล่นถกู กระทาฟาวล์ ในขณะที่ หรือกอ่ นท่ีเสียงสัญญาณของนาฬิกาแข่งขันดังหมดเวลา ของช่วงเวลาการแข่งขัน หรือ ในขณะท่ี หรือก่อนที่เสียงสัญญาณนาฬิกายิงประตูดังข้ึน ในขณะที่ลกู บอลยงั คงอยใู่ นมอื ของผเู้ ลน่ และ การยิงประตูเป็นผลสาเร็จ จะต้องไม่นับเป็น ประตู แตจ่ ะตอ้ งใหโ้ ยนโทษ 2 คร้งั หรอื 3 คร้ัง
46 ขอ้ 35 ฟาวล์คู่ : Double foul 35.1 คาจากัดความ 35.1.1 การฟาวล์คู่ คือ สถานการณ์ที่ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามกัน 2 คน กระทาฟาวล์บุคคล หรือฟาวล์ผิดวิสัย นกั กีฬา/ฟาวล์เสียสทิ ธ์ิ ซง่ึ กันและกัน ณ ชว่ งเวลาใกล้เคยี งกัน 35.1.2 เพ่ือพิจารณาลักษณะการฟาวล์ 2 ลักษณะนี้เป็นการฟาวล์คู่ ควรจะพิจารณาเหตุการณ์ลักษณะ ดงั ตอ่ ไปนี้ - การทาฟาวลข์ องทง้ั คู่ เป็นการฟาวลบ์ ุคคล - การทาฟาวลข์ องท้งั คู่ เปน็ การปะทะกนั ดว้ ยรา่ งกาย - การทาฟาวลข์ องทั้งคู่ เกดิ ข้นึ ระหว่างคู่แขง่ ขันกัน กระทาฟาวลซ์ งึ่ กันและกนั - การทาฟาวล์ของทง้ั คู่ เป็นการฟาวล์ ชนิดเดียวกนั ไดแ้ ก่ฟาวลบ์ ุคคล ฟาวล์ผดิ วสิ ัยนักกฬี า และฟาวล์เสียสิทธิ์ 35..2 บทลงโทษ การฟาวลบ์ คุ คล หรือฟาวล์ผิดวิสัยนักกีฬา/ฟาวล์เสียสิทธิ์ จะต้องปรับเป็นฟาวล์ ต่อผู้กระทาผิดแต่ ละคน ไม่ตอ้ งมีการโยนโทษ แล้วใหด้ าเนินการแข่งขันต่อไป ดังนี้ : ถ้า ณ ชว่ งเวลาทเ่ี กิดการฟาวลค์ ู่ : มกี ารยิงประตูได้อย่างถกู ต้อง หรอื การโยนโทษคร้ังสุดท้ายเป็นคะแนน จะต้องให้ลูกบอลแก่ ทีมที่เสยี คะแนนเพือ่ ส่งเขา้ เลน่ ณ จุดใดกไ็ ด้ท่ีเส้นหลัง มีทมี ครอบครองบอล หรอื ไดส้ ิทธ์ิครอบครองบอล จะตอ้ งให้ลกู บอลแก่ทีมนั้นเพื่อส่งเข้าเล่น ณ บรเิ วณทใ่ี กล้ทส่ี ดุ กบั จุดทีล่ ะเมดิ กติกา ไม่มีทมี ใดได้ครอบครองบอล หรือ ไดส้ ิทธิ์ครอบครองบอล ถือว่าเกดิ สถานการณ์ลูกกระโดด ขอ้ 36 ฟาวลเ์ ทคนคิ : Technical foul 36.1 หลกั เกณฑข์ องการประพฤตปิ ฏิบตั ิ : Rules of conduct 36.1.1 การจดั การแข่งขนั ท่ถี ูกตอ้ งสมบรู ณ์แบบ ตอ้ งไดร้ ับความรว่ มมืออย่างจรงิ ใจและเต็มใจ จากผ้เู ล่น หัวหน้าผู้ฝึกสอน ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน ผู้เล่นสารอง ผู้เล่นที่ฟาวล์ครบ 5 ครั้ง และผู้ติดตามทีม ที่มีต่อ ผู้ตัดสนิ เจา้ หน้าทีโ่ ตะ๊ รวมถึงผู้ควบคมุ การแข่งขนั , ถา้ มี 36.1.2 แต่ละทีมต้องแข่งขันให้เต็มความสามารถเพื่อให้ได้ชัยชนะ แต่ต้องแข่งขันภายใต้จิตวิญญาณของ ความมีน้าใจนักกีฬา และ การเล่นท่ยี ุตธิ รรม 36.1.3 การเจตนา หรอื ไมใ่ ห้ความร่วมมือซา้ ๆ หรือ ไม่แขง่ ขันด้วยความมีจิตใจของนักกีฬาและไม่ปฏิบัติ ตามเจตนารมณ์ของกติกาน้ี จะถูกพิจารณาเป็นฟาวลเ์ ทคนิค
47 36.1.4 ผู้ตัดสินอาจจะป้องกันการทาฟวาล์เทคนิคด้วยการเตือน หรือ อาจจะมองข้ามการละเมิดกติกา เลก็ นอ้ ยทเ่ี ห็นได้ชัดวา่ ไมม่ เี จตนา และไมม่ ีผลโดยตรงต่อการแขง่ ขัน เว้นแต่มกี ารกระทาผิดในเรื่อง เดิมซ้า ๆ อกี หลงั จากได้ตักเตือนแล้ว 36.1.5 ถ้าการละเมิดกติกา ได้ถูกตรวจพบภายหลังบอลกลายเป็นบอลดี จะต้องหยุดการแข่งขัน และ ปรับฟาวล์เทคนิค การลงโทษจะถูกดาเนินการเสมือนว่าการฟาวล์เทคนิค ได้เกิดขึ้น ณ เวลาที่ได้ ปรับฟาวล์เทคนิคนั้น ส่ิงใดก็ตามที่เกิดข้ึนในช่วงเวลาระหว่างการละเมิดกติกาถึงการหยุดการ แข่งขนั จะต้องคงไวต้ ามกตกิ า 36.2 คาจากดั ความ 36.2.1 ฟาวล์เทคนคิ คือ การฟวาล์ของผูเ้ ล่นทีไ่ มถ่ กู ตอ้ งตวั กนั รวมถงึ พฤติกรรมการกระทาในลักษณะต่าง ๆ ทีม่ ิได้จากดั ถงึ ส่งิ ตอ่ ไปน้ี เพิกเฉยตอ่ การตกั เตือนของผู้ตัดสิน ไม่เคารพต่อการปฏิบัตหิ น้าท่ีผู้ตดั สนิ , ผู้ควบคุมการแข่งขนั , เจ้าหนา้ ท่ีโตะ๊ หรอื บุคคลอื่นที นัง่ อยใู่ นท่ีนัง่ ของทีม ใช้วาจา หรอื แสดงทา่ ทางเยาะเยย้ หรือ ย่วั ยอุ ารมณ์ผ้ชู ม หลอกล่อ หรือ ยัว่ ยุฝา่ ยตรงข้าม ขดั ขวางการมองเห็นของฝ่ายตรงข้าม โดยใช้มือโบกปดิ บงั สายตา เหวีย่ งศอกเกินเหตุจาเป็น ถ่วงเวลาการแข่งขัน โดยเจตนาสัมผัสลูกบอล หลังจากลูกบอลผ่านห่วงตาข่ายลงมา หรือ โดยการขัดขวางการส่งบอลเขา้ เลน่ อยา่ งทันท่วงที หลอกว่าถกู กระทาฟาวล์ โหนห่วงในลักษณะท่ีทาให้ห่วงต้องรับน้าหนักผู้เล่น ยกเว้น ผู้เล่นจับห่วงไว้ช่ัวขณะ ภายหลัง การยัดห่วง หรือ ผู้ตัดสินพิจารณาว่าเป็นความพยายามป้องกันตัวเขาเอง หรือ ผู้เล่นอ่ืน ไมใ่ ห้ได้รับบาดเจบ็ ทาให้เกิดการปรับเปน็ ประต(ู Goaltending) โดยผเู้ ล่นฝ่ายป้องกันในระหว่างการโยนโทษครั้ง สุดท้าย ทีมฝ่ายรุกจะได้รับ 1 คะแนน ติดตามด้วยการลงโทษผู้เล่นฝ่ายป้องกันโดยการ ปรบั ฟาวลเ์ ทคนคิ 36.2.2 การฟาวลเ์ ทคนิคของบคุ คลอน่ื ทีน่ังอยใู่ นท่นี ่ังของทีมคอื การฟาวลเ์ น่ืองจากการพดู จาด้วยกริ ิยาท่ี ไมส่ ุภาพ หรอื ถกู ตอ้ งตัวผู้ตัดสิน, ผู้ควบคุมการแข่งขัน, เจ้าหน้าท่ีโต๊ะ หรือ ฝ่ายตรงข้าม หรือการ ละเมิดกตกิ า ทเ่ี ก่ยี วกับขน้ั ตอน หรอื ลกั ษณะวธิ ีดาเนนิ การ
48 36.2.3 ผูเ้ ล่นจะถูกตัดสทิ ธ์ิให้ออกจากการแข่งขนั เมื่อเขาถูกปรับฟาวล์เทคนิค 2 ครั้ง หรือถูกขานฟาวล์ผิด วิสยั นักกฬี า 2 คร้ัง หรือ ถูกขานฟาวลผ์ ดิ วิสยั นักกีฬา 1 ครง้ั และถูกขานฟาวล์เทคนิคอีก 1 ครง้ั 36.2.4 หัวหน้าผู้ฝึกสอนจะถูกตัดสิทธิใ์ ห้ออกจากการแข่งขนั เมื่อ : เขาถูกปรับฟาวล์เทคนิค(C) 2 ครั้ง จากการแสดงพฤติกรรม การไม่มีน้าใจนักกีฬาด้วยตัว ของเขา เขาถูกปรับฟาวล์เทคนิค 3 คร้ัง โดยเป็นการฟาวล์ทั้งหมดของพวกเขา(B) หรือ เป็นการ ฟาวล์หนึ่งครั้ง(C) ของพวกเขา อันมีผลมาจากการแสดงพฤติกรรมการไม่มีน้าใจนักกีฬา ของบุคคลอนื่ ทนี งั่ อยใู่ นท่นี งั่ ของทมี 36.2.5 หากผู้เล่นหรือหัวหน้าผู้ฝึกสอนถูกตัดสิทธ์ิการแข่งขันภายใต้กติกาข้อ 36.3.3 หรือ 36.3.4 จะถูก ลงโทษเฉพาะการฟาวล์เทคนิคครั้งนัน้ เทา่ นนั้ และ ไมต่ อ้ งดาเนนิ การลงโทษเพม่ิ เตมิ จากการตดั สทิ ธ์ิ ใหอ้ อกจากการแข่งขัน 36.3 บทลงโทษ 36.3.1 หากการฟาวล์เทคนคิ กระทา : โดยผู้เล่น จะต้องปรับฟาวล์เทคนิคต่อผู้เล่นคนนั้นเหมือนการฟาวล์ของผู้เล่น และ จะ นบั เปน็ 1 ครั้งของฟาวลท์ มี โดยบุคคลอ่ืนท่ีน่ังในท่ีนั่งของทีม จะต้องปรับเป็นฟาวล์เทคนิคหัวหน้าผู้ฝึกสอน และ จะไมน่ บั เป็น 1ครัง้ ของฟาวล์ทีม 36.3.2 ให้ฝา่ ยตรงขา้ มโยนโทษ 1 ครั้ง แล้วติดตามดว้ ย : ให้ดาเนนิ การโยนโทษทันที หลังการโยนโทษ ให้ทีมท่ไี ด้ครอบครองบอล หรือ ไดส้ ิทธิค์ รอบครองบอล ในขณะท่ีการฟาวล์เทคนิคเกิดข้นึ เปน็ ผสู้ ่งบอลเขา้ เลน่ ใกล้กบั จุด ทีห่ ยุดการแข่งขัน ใหด้ าเนนิ การโยนโทษทันที ก่อนการโยนโทษตามบทลงโทษอ่ืน หรือระหว่างบทลงโทษ อื่นหลังการโยนโทษ ให้ทีมท่ีได้ครอบครองบอล หรือได้สิทธ์ิครอบครองบอล ในขณะที่ การฟาวล์เทคนคิ เกิดขน้ึ เปน็ ผู้ส่งบอลเขา้ เลน่ ใกล้กบั จุดท่หี ยุดการแข่งขัน ถ้าการยิงประตู หรือการโยนโทษครั้งสุดท้ายเป็นผล การส่งบอลเข้าเล่นจะส่งท่ี หลงั เสน้ หลัง ไมม่ ีทีมครอบครองบอล หรือไดส้ ิทธิค์ รอบครองบอล ให้เป็นสถานการณ์ลูกกระโดด การเลน่ ลูกกระโดดทีว่ งกลมกลาง เพ่ือเรมิ่ ตน้ การแขง่ ขันชว่ งเวลาที่หน่งึ
49 ข้อ 37 ฟาวล์ผดิ วสิ ัยนักกีฬา : Unsportsmanlike foul 37.1 คาจากดั ความ 37.1.1 การฟาวลผ์ ดิ วสิ ัยนกั กีฬา คือการฟาวล์ทมี่ ีการปะทะตัวของผู้เล่น ซ่ึงผตู้ ดั สินพจิ ารณา ดงั นี้ : การปะทะฝ่ายตรงข้ามซ่ึงไม่พยายามอย่างแท้จริงท่ีจะเล่นบอลโดยตรง ด้วยความมีจิตใจ เปน็ นักกฬี า และ เจตนารมณข์ องกติกา การปะทะที่รุนแรง มากเกินความจาเป็นโดยผ้เู ลน่ พยายามเลน่ บอล หรอื ปะทะกบั คู่แขง่ ขัน การปะทะที่ไม่ควรกระทาโดยผู้เล่นฝ่ายรับเพื่อหยุดการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าของผู้เล่นฝ่าย รกุ ข้อกาหนดนี้ให้พิจารณาจนกระทง่ั ผู้เล่นฝา่ ยรุกนั้นอย่ใู นท่าการยิงประตู การปะทะโดยผเู้ ลน่ ฝ่ายป้องกนั ต่อฝ่ายตรงข้าม จากดา้ นหลัง หรอื ดา้ นขา้ ง เพ่ือพยายามทีจ่ ะ หยุดการรุกไปขา้ งหนา้ ไปยงั หว่ งตาข่ายของฝา่ ยรกุ และไม่มีผเู้ ลน่ อื่นใด ระหว่างผู้เล่นฝ่าย รุก ลกู บอลกับห่วงตาขา่ ยของฝ่ายตรงข้าม ข้อกาหนดนี้ให้พิจารณาจนกระทั่งผู้เล่นฝ่ายรุก น้นั อยู่ในทา่ การยงิ ประตู การปะทะโดยผูเ้ ลน่ ฝ่ายปอ้ งกนั กับฝ่ายตรงข้ามในสนามแขง่ ขนั เมือ่ นาฬกิ ากาแข่งขันแสดง เวลา 2 นาทีสดุ ทา้ ยของช่วงการเลน่ ท่ี 4 หรอื ในชว่ งต่อเวลา เม่ือลูกบอลออกนอกสนามและ ต้องส่งบอลเข้าเล่น ในขณะที่ลูกบอลยังอยู่ในมือของผู้ตัดสินหรืออยู่ในมือของผู้เล่นท่ี สง่ บอล 37.1.2 ผู้ตัดสินต้องตีความการฟาวล์ผิดวิสัยนักกีฬาอย่างเสมอต้นเสมอปลายตลอดการแข่งขัน และ พิจารณาตดั สนิ เฉพาะการกระทาเท่านัน้ 37.2 บทลงโทษ 37.2.1 จะตอ้ งปรบั เป็นฟาวล์ผดิ วสิ ยั นกั กฬี าต่อผทู้ ่ีกระทาผดิ 37.2.2 จะตอ้ งใหผ้ ้เู ล่นทถ่ี กู กระทาฟาวล์ ไดโ้ ยนโทษ และ ตดิ ตามดว้ ย : การสง่ บอลเขา้ เลน่ ท่ีเสน้ สง่ บอลแดนหนา้ ด้านตรงข้ามโต๊ะผบู้ นั ทึกคะแนน การเลน่ ลูกกระโดดที่วงกลมกลาง เพือ่ เร่มิ ต้นการแข่งขันของชว่ งเวลาท่หี น่งึ จานวนครงั้ ของการโยนโทษ ใหเ้ ป็นดังนี้ : ถา้ การฟาวล์ได้กระทากบั ผูเ้ ลน่ ท่ไี มไ่ ด้อยใู่ นท่าการยงิ ประตู : ใหโ้ ยนโทษ 2 ครงั้ ถา้ การฟาวล์ไดก้ ระทากับผู้เล่นท่ีอยู่ในท่ากาลังยิงประตู ถ้าทาประตูได้ ให้นับเป็นคะแนน และ ใหโ้ ยนโทษเพ่ิมอีก 1 ครงั้ ถ้าการฟาวล์ไดก้ ระทากบั ผู้เล่นที่อยู่ในท่ากาลังยิงประตู และ ทาประตูไม่ได้ : ให้โยนโทษ 2 หรือ 3 ครั้ง
50 37.2.3 ผู้เล่นจะต้องถูกตัดสิทธ์ิการแข่งขัน เม่ือเขาถูกปรับฟาวล์ผิดวิสัยนักกีฬา 2 คร้ัง หรือถูกขานฟาวล์ เทคนคิ 2 คร้งั หรือ ถูกขานฟาวลผ์ ิดวสิ ยั นักกีฬา 1 ครง้ั และถกู ขานฟาวลเ์ ทคนิคอกี 1 ครั้ง 37.2.4 หากผู้เล่นถกู ตัดสิทธิก์ ารแข่งขัน(Disqualified) ตามกติกาข้อ 37.2.3 จะต้องลงโทษเฉพาะการฟาวล์ ผดิ วิสัยนักกีฬาคร้งั นน้ั เทา่ น้ัน และไมต่ อ้ งดาเนนิ การลงโทษเพม่ิ เตมิ จากการตัดสิทธกิ์ ารแขง่ ขัน ข้อ 38 ฟาวล์เสยี สิทธิ์ : Disqualifying foul 38.1 คาจากัดความ 38.1.1 ฟาวล์เสียสิทธ์ิ คือการกระทาใด ๆ ท่ีผิดวิสัยนักกีฬาที่ปรากฏชัดเจนของผู้เล่น หัวหน้าผู้ฝึกสอน ผ้ชู ว่ ยผ้ฝู กึ สอน ผเู้ ลน่ สารอง ผู้เลน่ ที่ฟาวลค์ รบ 5 คร้ัง และผู้ตดิ ตามทมี 38.1.2 หัวหน้าผู้ฝึกสอนที่ถูกปรับฟาวล์เสียสิทธ์ิ จะต้องให้ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนท่ี 1 ท่ีได้มีชื่อในใบบันทึก คะแนนปฏิบัติหน้าท่ีแทน ถ้าไม่มีชื่อผู้ช่วยผู้ฝึกสอนคนที่ 1 ในใบบันทึกคะแนน เขาจะต้องให้ หวั หนา้ ทีม(CAP) ปฏบิ ัติหนา้ ทีแ่ ทน 38.2 ความรุนแรง: Violence 38.2.1 การกระทาท่ีรุนแรงอาจเกิดข้ึนได้ในระหว่างการแข่งขัน ซ่ึงขัดต่อจิตวิญญาณของความมีน้าใจ นักกฬี าและการเล่นท่ียุติธรรม การกระทาเหล่านี้ต้องได้รับการยุติทันทีโดยผู้ตัดสิน และถ้าจาเป็น อาจใช้เจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรยี บรอ้ ยเขา้ ระงบั เหตุ 38.2.2 เม่ือใดกต็ ามท่ีเกิดการกระทาทีร่ ุนแรงซงึ่ นาไปสูผ่ ู้เลน่ หรือ บุคคลที่เกีย่ วข้องในทีมในสนามแข่งขัน หรอื ในบรเิ วณใกล้เคยี ง ผู้ตดั สนิ ต้องใชท้ กุ วิธกี ารเพ่ือยุติการกระทาน้ัน 38.2.3 บคุ คลใด ๆ ทไ่ี ดก้ ล่าวขา้ งตน้ ทมี่ คี วามผิดเนอื่ งจากการกระทาที่ก้าวร้าวอย่างชัดเจนต่อฝ่ายตรงข้าม หรอื ผู้ตดั สนิ จะต้องถูกตัดสิทธิ์การแข่งขัน หัวหน้าผู้ตัดสินต้องรายงานเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนต่อฝ่าย จดั การแขง่ ขัน 38.2.4 เจา้ หนา้ ทร่ี ักษาความสงบเรียบรอ้ ย อาจจะเข้าไปในสนามแขง่ ขนั ได้ ถ้ามีการร้องขอให้เข้าระงับเหตุ จากผู้ตัดสิน อย่างไรก็ตาม หากมีผู้ชมเข้าไปในสนามแข่งขัน โดยมีเจตนาชัดเจนว่าจะทาให้เกิด ความรุนแรง เจ้าหน้าท่รี ักษาความสงบเรยี บรอ้ ยต้องเขา้ ขดั ขวางเพื่อคุม้ ครองทมี และ ผู้ตัดสินทนั ที 38.2.5 พืน้ ที่ท้งั หมดของสนามแขง่ ขัน รวมทงั้ ทางเข้า-ออก, ทางเดินตามอาคาร, ห้องพักนกั กฬี า เปน็ ต้น จะ อยูภ่ ายใตก้ ารควบคุมดูแลของฝา่ ยจัดการแข่งขนั และ เจา้ หน้าทร่ี ักษาความสงบเรียบรอ้ ย 38.2.6 ผู้ตดั สินต้องไมอ่ นุญาตใหก้ ารกระทาใด ๆ ของผ้เู ล่น หรือ บุคคลทเี่ กย่ี วขอ้ งในทมี ที่อาจจะทาให้เกิด ความเสยี หายต่ออุปกรณก์ ารแข่งขนั เมื่อผู้ตดั สนิ สงั เกตเห็นพฤติกรรมในลกั ษณะดงั กล่าว หัวหน้าผฝู้ ึกสอนของทมี ที่กระทาผิดจะต้องถูก เตือน หากยงั มกี ารกระทาซา้ ๆ อกี จะตอ้ งเรียกฟาวล์เทคนคิ ต่อบคุ คลท่กี อ่ เหตทุ นั ที
Search