เอกสารประกอบการสอน วชิ าการผลติ สอื สงิ พมิ พ์ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี 1 ความรพู้ นื ฐานเกียวกับสอื สงิ พมิ พ์ อ.ตา ุลอารฟี น เละดวุ ี วทิ ยาลัยเทคโนโลยสี นั ติวทิ ยส์ งขลา สาํ นกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา
บทท่ี 1 ความรู้เบ้อื งต้น เกีย่ วกับการผลิตสอื่ สงิ่ พิมพ์ ดว้ ยคอมพวิ เตอร์ หวั ข้อเรือ่ ง 1. ความหมายของสื่อส่ิงพมิ พ์ 2. ความสำ� คัญของสอ่ื สง่ิ พมิ พ์ 3. ประเภทของส่ือส่ิงพิมพ์ 4. คุณสมบตั ิของสอื่ ส่งิ พมิ พ์ 5. หลกั การนำ� ภาพมาใช้งานส่อื สง่ิ พมิ พ์ 6. รปู แบบของภาพและไฟล์ภาพ 7. หลักการใชส้ ีและแสงในงานพิมพ์ 8. หลกั การออกแบบสอ่ื สิ่งพิมพ์ 9. ประเภทของการออกแบบสอื่ ส่งิ พิมพ์ 10. ขั้นตอนของการออกแบบส่ือสง่ิ พิมพ์ 11. กระบวนการพมิ พ์
วชิ าการผลิตสอื่ ส่ิงพิมพ์ รหสั วชิ า 2204-2104 สาระส�ำคญั การออกแบบสอื่ สงิ่ พมิ พม์ คี วามสำ� คญั ตอ่ การพมิ พม์ ากมกี ารวางรปู แบบ ขนั้ ตอนการพมิ พเ์ พอื่ ชว่ ยใหส้ อื่ สง่ิ พมิ พ์ ดูสวยงาม มีมิติเสมือนจริงมากย่ิงข้ึน และช่วยดึงดูดความสนใจผู้ที่พบเห็น ดังน้ันในบทน่ีจะกล่าวถึงความหมาย และข้นั ตอนการเตรียมงานพิมพ์ และกระบวนการออกแบบส่อื สงิ่ พมิ พ์ ตลอดจนประเภทการออกแบบส่ือสง่ิ พมิ พ์ ใหม้ ี ความเหมาะสมต่อการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ สมรรถนะทพี่ ึงประสงค์ อธิบายความหมายและหลักการของการผลิตสอื่ ส่ิงพมิ พไ์ ด้ถูกต้องตามหลักการและมาตรฐานสากล จุดประสงค์การเรยี นรู้ เมอื่ ศกึ ษาบทที่ 1 จบแล้ว นกั เรยี นสามารถ 1. บอกความหมายของการนำ� เสนอข้อมูลได้ถูกตอ้ ง 2. บอกความสำ� คญั ของการน�ำเสนอขอ้ มลู ได้ถูกต้อง 3. อธิบายประเภทของสื่อส่ิงพิมพไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง 4. อธบิ ายหลกั การนำ� ภาพมาใชง้ านสอ่ื สิ่งพมิ พไ์ ดถ้ ูกต้อง 5. บอกรปู แบบของภาพไดถ้ กู ตอ้ ง 6. บอกรูปแบบของไฟลภ์ าพได้ถูกต้อง 7. อธบิ ายหลกั การใชส้ แี ละแสงในงานพิมพไ์ ดถ้ กู ต้อง 8. บอกหลักการออกแบบสอ่ื สงิ่ พิมพไ์ ด้ถูกตอ้ ง 9. อธบิ ายประเภทของการออกแบบสอ่ื ส่งิ พมิ พไ์ ด้ถกู ต้อง 10. อธบิ ายขนั้ ตอนของการออกแบบสอ่ื สิ่งพมิ พ์ไดถ้ ูกตอ้ ง 11. อธบิ ายกระบวนการจดั พิมพ์ไดถ้ ูกต้อง 12. บอกความหมายของค�ำศัพทค์ อมพวิ เตอร์ จ�ำนวน 10 คำ� 13. นกั เรยี นมคี วามใฝ่รู้ ใฝ่เรียน ขยัน รบั ผดิ ชอบ อดทน และมคี วามคดิ ริเรม่ิ สร้างสรรค์ 2
ความรู้เบอื้ งตน้ เก่ยี วกับการผลติ สอื่ สง่ิ พิมพ์ดว้ ยคอมพวิ เตอร์ แบบทดสอบก่อนเรียน บทที่ 1 ความรเู้ บือ้ งต้นเกี่ยวกบั การผลติ สือ่ สง่ิ พิมพ์ด้วยคอมพวิ เตอร์ คำ� สง่ั จงท�ำเครือ่ งหมาย (X ) ลงหนา้ ข้อท่ถี ูกตอ้ งทสี่ ุดเพยี งข้อเดียว เวลา 15 นาที 1. ขอ้ ใดคอื ความหมายของสอื่ สิ่งพิมพ์ ก. ไปรษณยี ภณั ฑม์ ขี ้อความ รูปภาพ ข. มกี ารชกั น�ำให้รจู้ ักกัน ค. ใชเ้ ครอื่ งจักรกดตัวหนงั สือลงบนวัตถุ ง. การทำ� ข้อมลู และภาพลงบนวัตถุหรอื กระดาษ 2. ขอ้ ใดคอื ความส�ำคญั ของสอื่ สิ่งพิมพ์ ก. นำ� ไปใชใ้ ห้เกิดประโยชนด์ ้านการสอ่ื สาร ข. น�ำไปใช้ให้เกดิ ความราบรนื่ ในการทำ� งาน ค. นำ� ไปใช้ใหใ้ นการเผยแพร่ ข้อมลู สารสนเทศ ง. ถกู ทุกข้อทกี่ ลา่ วมา 3. ประเภทของส่อื ส่งิ พิมพม์ กี ป่ี ระเภท ก. 2 ข. 3 ค. 4 ง. 6 4. ข้อใดคอื สอ่ื สิ่งพิมพ์เพอื่ เผยแพรข่ า่ วสาร ก. ใบเสรจ็ รับเงิน ข. ต๋ัวแลกเงนิ ค. วารสาร นติ ยสาร ง. ปฏิทิน 5. โฉนดทดี่ นิ เป็นส่ือสง่ิ พมิ พป์ ระเภทใด ก. ส่ิงพิมพ์หนงั สือ ข. สิ่งพมิ พล์ กั ษณะพเิ ศษ ค. ส่ิงพมิ พเ์ พอ่ื เผยแพร่ข่าวสาร ง. สิ่งพิมพ์มีค่า 3
วิชาการผลติ ส่อื สงิ่ พมิ พ์ รหัสวิชา 2204-2104 6. ขอ้ ดขี องหนงั สือพมิ พ์ ก. ผู้อา่ นเลือกเวลาอ่านไดท้ กุ เวลา ข. มีความหลากหลายของขอ้ มูลเนื้อหา ค. อา่ นแล้วทง้ิ ไดเ้ ลย ง. มคี วามจ�ำกัดดา้ นกระดาษท่พี มิ พ์ 7. ขอ้ ดีของสอื่ ทางไปรษณยี ์ ก. สรา้ งความสนใจแก่ผู้รับสาร ข. มคี า่ ใชจ้ ่ายตำ�่ ค. เกิดการสูญเปลา่ เม่ือผู้รับไม่สนใจข่าวสาร ง. ไมย่ ุ่งยากในการเผยแพร่ขา่ วสาร 8. ขอ้ ดขี องนิตยสาร ก. กลมุ่ เป้าหมายหลายหลายใคร ๆ กช็ อบอ่าน ข. อา่ นได้เฉพาะบางชว่ งเวลา ค. สวยงาม การพิมพ์ประณีต ง. มคี วามฉับไว ทนั ต่อเหตกุ ารณ์ 9. ขอ้ ใดคอื หลักการน�ำภาพมาใช้ในงานส่อื สง่ิ พิมพ์ ก. การจัดเรียงภาพ ข. การน�ำภาพทมี่ ีอยแู่ ล้วมาใชง้ าน ค. การตดั ต่อภาพใหค้ รบดว้ ยองค์ประกอบ ง. การแยกภาพขนาดเล็ก ๆ ออกจากกนั 10. ข้อใดคือรูปแบบของภาพ ก. ภาพแบบบิตแมป ข. ภาพแบบราสเตอร์ ค. ภาพแบบเวคเตอร์ ง. ถกู ทุกข้อท่ีกลา่ วมา 4
ความรเู้ บ้ืองตน้ เกีย่ วกับการผลิตสื่อส่งิ พิมพด์ ้วยคอมพวิ เตอร์ 11. องคป์ ระกอบของหลักการออกแบบสอ่ื ส่งิ พมิ พ์คอื ข้อใด ก. ทิศทางและการเคล่อื นไหว ข. เอกภาพและความกลมกลืน ค. ความสมดลุ สัดส่วน และความแตกต่าง ง. ถกู ทุกข้อท่กี ล่าวมา 12. เอกภาพและความกลมกลนื คอื ขอ้ ใด ก. การเลือกใช้องค์ประกอบอย่างสม�่ำเสมอ ข. การสร้างความตอ่ เน่ืองกนั ใหอ้ งค์ประกอบ ค. การเวน้ พื้นทีว่ า่ งรอบองค์ประกอบท้ังหมด ง. ถูกทกุ ข้อท่กี ล่าวมา 13. ความสมดลุ มี 3 ลักษณะ อะไรบ้าง ก. สมดุลแบบสมมาตร ข. สมดลุ แบบอสมมาตร ค. สมดลุ แบบรัศมี ง. ถกู ทกุ ขอ้ 14. การก�ำหนดความสมั พันธ์ของขนาดให้สอดคล้องกับสดั สว่ นองคป์ ระกอบท้งั หมดในพ้นื ทีห่ น้ากระดาษ คอื ขอ้ ใด ก. ความสมดุล ข. ความแตกตา่ ง ค. สัดสว่ น ง. เอกภาพและความกลมกลนื 15. ประเภทของการออกแบบสอื่ สิ่งพิมพ์ มกี ปี่ ระเภท ก. 3 ข. 4 ค. 5 ง. 6 5
วชิ าการผลิตสอื่ สง่ิ พมิ พ์ รหัสวชิ า 2204-2104 16. ป้ายหรอื ฉลากและตราสัญลักษณ์ อยู่ในประเภทใดของการออกแบบสือ่ สงิ่ พิมพ์ ก. สง่ิ พมิ พ์ชนดิ กระดาษทางธุรกจิ ข. ส่ิงพิมพ์เพอ่ื การสง่ เสรมิ การขาย ค. สง่ิ พมิ พเ์ พือ่ การน�ำเสนอขอ้ มลู ง. สิง่ พิมพ์ชนดิ เอกสารเฉพาะหน่วยงาน 17. ขัน้ ตอนของการออกแบบส่อื สิ่งพิมพ์มกี ข่ี ้ันตอน ก. 3 ข. 4 ค. 5 ง. 6 18. ขน้ั ศกึ ษาขอ้ มูลหรอื ขัน้ ตโี จทย์ คอื ข้อใด ก. เข้าใจความตอ้ งการของลกู คา้ ข. คัดเลือกคำ� ตอบทีม่ ีลกั ษณะใกลเ้ คยี งกนั เข้ากล่มุ เดยี วกัน ค. ประเมินและตรวจสอบรายละเอียดรปู แบบท้ังหมด ง. ตดั สินใจเลอื กชน้ิ งานใดช้ินงานหนึง่ 19. ขั้นจัดทำ� ตน้ ฉบับงานออกแบบส่ิงพมิ พห์ รอื กราฟกิ เรยี กอีกอยา่ งวา่ ขน้ั ใด ก. ขน้ั สเก็ตซ์ขนาดเล็ก ข. ข้ันตัดสนิ ใจ ค. ขนั้ สเกต็ ซ์หยาบ ง. ขนั้ คอมพรีเฮนสพี สเกต็ ซ์ 20. กระบวนการจดั พิมพม์ ีกแี่ บบ อะไรบ้าง ก. 2 ระบบ การเรียงพมิ พ์ด้วยมอื และเรียงด้วยแสง ข. 3 ระบบ การเรยี งพิมพ์ดว้ ยมอื เรยี งดว้ ยแสง และเรียงดว้ ยเครอื่ งจกั ร ค. 2 ระบบ การเรียงพมิ พด์ ว้ ยมอื และเรียงด้วยเครอ่ื งจักร ง. 3 ระบบ การเรยี งพิมพ์ด้วยมือ เรยี งด้วยเครือ่ งจกั ร และเรียงด้วยสมองกล 6
ความรู้เบอ้ื งตน้ เก่ยี วกับการผลติ สอื่ สงิ่ พมิ พ์ด้วยคอมพิวเตอร์ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน บทที่ 1 ความรูเ้ บื้องตน้ เกยี่ วกบั การผลิตสือ่ สิ่งพมิ พด์ ้วยคอมพวิ เตอร์ 1. ขอ้ ใดคือความหมายของสือ่ สิ่งพิมพ์ ก. ไปรษณียภณั ฑม์ ีข้อความ รูปภาพ ข. มีการชักนำ� ใหร้ ู้จกั กัน ค. ใช้เครือ่ งจักรกดตัวหนงั สอื ลงบนวตั ถุ ง. การทำ� ข้อมลู และภาพลงบนวัตถหุ รือกระดาษ 2. ข้อใดคือความส�ำคญั ของส่อื ส่ิงพมิ พ์ ก. น�ำไปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนด์ า้ นการส่อื สาร ข. นำ� ไปใช้ใหเ้ กดิ ความราบร่ืนในการทำ� งาน ค. นำ� ไปใช้ใหใ้ นการเผยแพร่ ขอ้ มลู สารสนเทศ ง. ถกู ทุกขอ้ ท่ีกลา่ วมา 3. ประเภทของสื่อส่งิ พมิ พม์ กี ป่ี ระเภท ก. 2 ข. 3 ค. 4 ง. 6 4. ขอ้ ใดคอื ส่อื ส่ิงพิมพเ์ พ่อื เผยแพรข่ ่าวสาร ก. ใบเสรจ็ รบั เงิน ข. ต๋วั แลกเงิน ค. วารสาร นติ ยสาร ง. ปฏทิ ิน 5. โฉนดท่ีดนิ เปน็ สอ่ื สงิ่ พมิ พป์ ระเภทใด ก. ส่ิงพมิ พ์หนงั สือ ข. ส่งิ พมิ พ์ลักษณะพิเศษ ค. ส่ิงพมิ พ์เพ่ือเผยแพรข่ า่ วสาร ง. สิง่ พิมพ์มีคา่ 7
วิชาการผลติ สือ่ สิ่งพมิ พ์ รหสั วิชา 2204-2104 6. ข้อดขี องหนงั สอื พมิ พ์ ก. ผู้อ่านเลอื กเวลาอา่ นไดท้ ุกเวลา ข. มคี วามหลากหลายของข้อมูลเน้ือหา ค. อ่านแลว้ ทิ้งได้เลย ง. มีความจ�ำกดั ดา้ นกระดาษทพ่ี ิมพ์ 7. ขอ้ ดีของสือ่ ทางไปรษณยี ์ ก. สร้างความสนใจแกผ่ รู้ บั สาร ข. มคี า่ ใชจ้ า่ ยต่�ำ ค. เกดิ การสูญเปลา่ เมอื่ ผูร้ บั ไม่สนใจขา่ วสาร ง. ไม่ย่งุ ยากในการเผยแพร่ข่าวสาร 8. ข้อดีของนิตยสาร ก. กลุม่ เปา้ หมายหลายหลายใคร ๆ กช็ อบอ่าน ข. อ่านไดเ้ ฉพาะบางชว่ งเวลา ค. สวยงาม การพิมพ์ประณีต ง. มีความฉับไว ทนั ตอ่ เหตกุ ารณ์ 9. ข้อใดคือหลกั การน�ำภาพมาใช้ในงานสอื่ ส่งิ พมิ พ์ ก. การจดั เรยี งภาพ ข. การน�ำภาพท่มี ีอยู่แล้วมาใช้งาน ค. การตัดตอ่ ภาพให้ครบด้วยองค์ประกอบ ง. การแยกภาพขนาดเลก็ ๆ ออกจากกัน 10. ขอ้ ใดคือรปู แบบของภาพ ก. ภาพแบบบิตแมป ข. ภาพแบบราสเตอร์ ค. ภาพแบบเวคเตอร์ ง. ถูกทกุ ข้อทกี่ ลา่ วมา 8
ความรู้เบ้ืองตน้ เกยี่ วกบั การผลิตส่ือส่งิ พิมพ์ดว้ ยคอมพวิ เตอร์ 11. องค์ประกอบของหลกั การออกแบบสือ่ ส่ิงพมิ พ์คอื ข้อใด ก. ทิศทางและการเคลอื่ นไหว ข. เอกภาพและความกลมกลนื ค. ความสมดุล สัดส่วน และความแตกต่าง ง. ถูกทุกขอ้ ที่กล่าวมา 12. เอกภาพและความกลมกลนื คอื ข้อใด ก. การเลอื กใช้องค์ประกอบอยา่ งสม่�ำเสมอ ข. การสร้างความต่อเนอ่ื งกันใหอ้ งคป์ ระกอบ ค. การเวน้ พนื้ ทว่ี ่างรอบองค์ประกอบทั้งหมด ง. ถูกทกุ ขอ้ ทก่ี ลา่ วมา 13. ความสมดุล มี 3 ลักษณะ อะไรบา้ ง ก. สมดุลแบบสมมาตร ข. สมดุลแบบอสมมาตร ค. สมดุลแบบรศั มี ง. ถกู ทกุ ขอ้ 14. การกำ� หนดความสัมพนั ธ์ของขนาดให้สอดคลอ้ งกับสดั สว่ นองค์ประกอบทั้งหมดในพื้นทหี่ นา้ กระดาษ คอื ขอ้ ใด ก. ความสมดลุ ข. ความแตกต่าง ค. สดั สว่ น ง. เอกภาพและความกลมกลืน 15. ประเภทของการออกแบบสือ่ สิ่งพมิ พ์ มกี ป่ี ระเภท ก. 3 ข. 4 ค. 5 ง. 6 9
วิชาการผลติ สือ่ สงิ่ พิมพ์ รหัสวชิ า 2204-2104 16. ปา้ ยหรอื ฉลากและตราสัญลักษณ์ อยู่ในประเภทใดของการออกแบบสือ่ สงิ่ พิมพ์ ก. สงิ่ พมิ พช์ นดิ กระดาษทางธุรกจิ ข. ส่ิงพมิ พเ์ พ่อื การส่งเสริมการขาย ค. สงิ่ พมิ พเ์ พ่อื การน�ำเสนอข้อมลู ง. ส่ิงพิมพ์ชนดิ เอกสารเฉพาะหนว่ ยงาน 17. ขั้นตอนของการออกแบบสือ่ สงิ่ พมิ พ์มกี ขี่ ้นั ตอน ก. 3 ข. 4 ค. 5 ง. 6 18. ข้ันศึกษาขอ้ มูลหรือข้นั ตโี จทย์ คือขอ้ ใด ก. เข้าใจความต้องการของลูกค้า ข. คดั เลือกค�ำตอบท่มี ลี กั ษณะใกลเ้ คยี งกนั เขา้ กลมุ่ เดยี วกัน ค. ประเมนิ และตรวจสอบรายละเอยี ดรปู แบบท้งั หมด ง. ตัดสนิ ใจเลอื กชิ้นงานใดช้นิ งานหนง่ึ 19. ขน้ั จัดท�ำตน้ ฉบับงานออกแบบส่งิ พิมพ์หรอื กราฟกิ เรียกอีกอยา่ งวา่ ขน้ั ใด ก. ขนั้ สเก็ตซข์ นาดเลก็ ข. ขนั้ ตดั สนิ ใจ ค. ขั้นสเกต็ ซ์หยาบ ง. ขัน้ คอมพรีเฮนสพี สเก็ตซ์ 20. กระบวนการจดั พมิ พ์มกี ่ีแบบ อะไรบา้ ง ก. 2 ระบบ การเรยี งพิมพ์ด้วยมือ และเรียงด้วยแสง ข. 3 ระบบ การเรยี งพมิ พด์ ้วยมอื เรียงด้วยแสง และเรยี งด้วยเครอื่ งจกั ร ค. 2 ระบบ การเรียงพมิ พ์ด้วยมือ และเรียงดว้ ยเคร่อื งจกั ร ง. 3 ระบบ การเรียงพมิ พด์ ้วยมอื เรยี งดว้ ยเครื่องจกั ร และเรียงด้วยสมองกล 10
ความรู้เบอ้ื งตน้ เกยี่ วกับการผลติ สือ่ ส่งิ พิมพ์ดว้ ยคอมพิวเตอร์ ความหมายของสื่อสง่ิ พิมพ์ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานได้ ให้ความหมายค�ำที่เกี่ยวกับ “ส่ือสิ่งพิมพ์” ไว้ว่า “ส่ิงพิมพ์” หมายถึง สมุด แผ่นกระดาษ หรือวัตถุใด ๆ ที่พิมพ์ขึ้น รวมตลอดท้ังบทเพลง แผนที่ แผนผัง แผนภาพ ภาพวาด ภาพระบายสี ใบประกาศ แผ่นเสียง หรอื ส่ิงอนื่ ใดอนั มีลกั ษณะเช่นเดยี วกนั ” “สิ่งตีพมิ พ์” ไปรษณยี ภัณฑ์ประเภทขอ้ ความ รูป หรือ รอยประดษิ ฐบ์ นกระดาษ กระดาษแข็ง หรือวสั ดุท่ีใช้ กนั ทัว่ ไปในกจิ การพิมพ์ ซึง่ ท�ำข้ึนเปน็ หลายสำ� เนาเหมือนกนั ทกุ ประการ ดว้ ยกระบวนการทางเครอื่ งกลไก หรอื การ ถา่ ยภาพอนั เกยี่ วข้องกับการใช้แมพ่ ิมพ์ต้นแบบ กระดาษไข เนกาทีฟ หรือส่งิ อ่ืน ๆ ทีใ่ ชก้ นั โดยทว่ั ไปในกิจการพมิ พ์ “สอ่ื หมายถงึ ก. ทำ� การตดิ ตอ่ ใหถ้ งึ กนั ชกั นำ� ใหร้ จู้ กั กนั น. ผหู้ รอื สงิ่ ทท่ี ำ� การตดิ ตอ่ ใหถ้ งึ กนั หรอื ชกั นำ� ใหร้ จู้ กั กนั ” “พิมพ์ หมายถงึ น.รปู ร่าง แบบ เชน่ หยอดวุน้ ลงในพมิ พ์ หน้าตาเปน็ พิมพ์เดยี วกัน ก.ถา่ ยแบบ, ใช้เครือ่ งจกั ร กดตัวหนังสอื หรอื ภาพ เป็นต้น ใหต้ ดิ บนวัตถุ เช่น แผน่ กระดาษ ผา้ , เช่น พิมพผ์ า้ พิมพ์ขนมเป็นรูปต่าง ๆ ดังนัน้ “สื่อสง่ิ พมิ พ”์ ตามความคิดของผู้เขยี นจงึ มคี วามหมายวา่ “การท�ำขอ้ มูลตา่ ง ๆ ในรปู แบบ สมุด หนงั สือ กระดาษ หรือวัตถุใด พร้อมกับใส่ภาพ น�ำมาสื่อสาร ให้เข้าใจตรงกัน และมีการท�ำเป็นต้นฉบับ ส่งต่อไปท�ำส�ำเนา หลาย ๆ ฉบบั แลว้ น�ำไปเผยแพร่ให้ผูอ้ ่ืนใหร้ ับทราบขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ทต่ี ้องการจะส่ือสาร” ความส�ำคญั ของส่อื ส่ิงพิมพ์ สือ่ สิง่ พมิ พ์ มีความส�ำคญั ในปจั จุบนั มาก ไมว่ า่ จะเปน็ หนว่ ยงานภาครฐั และเอกชน ตลอดจนสถาบนั การศึกษา ต่างก็น�ำสื่อสิ่งพิมพ์มาช่วยให้เกิดความราบร่ืนในการท�ำงานเพ่ือเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสาร และความรู้ สารสนเทศ ทส่ี ำ� คัญ ใหก้ บั ทกุ คน เพ่อื ใหเ้ กิดประโยชน์ในการส่ือสารไปในทิศทางเดยี วกนั ในสังคม ประเภทของสื่อสง่ิ พมิ พ์ มี 6 ประเภท ดังนี้ 1. สื่อส่ิงพิมพป์ ระเภทหนงั สอื - หนงั สอื สารคดี ตำ� รา แบบเรยี น เปน็ สอ่ื สง่ิ พมิ พท์ แ่ี สดงเนอื้ หาวชิ าการในศาสตรค์ วามรตู้ า่ ง ๆ เพอ่ื สอ่ื ใหผ้ อู้ า่ น เขา้ ใจความหมาย ด้วยความรู้ที่เป็นจรงิ จึงเปน็ สือ่ ส่ิงพิมพท์ ี่เน้นความรู้อย่างถูกตอ้ ง 11
วชิ าการผลติ สอ่ื สง่ิ พิมพ์ รหัสวชิ า 2204-2104 ภาพที่ 1.1 ตวั อยา่ งหนังสอื สารคดี ตำ� รา - หนังสือบันเทิงคดี เป็นสื่อส่ิงพิมพ์ท่ีผลิตข้ึนโดย ใช้เร่ืองราวสมมติ เพื่อให้ผู้อ่านได้รับความ เพลิดเพลิน สนุกสนาน มกั มขี นาดเลก็ เรยี กวา่ หนงั สือฉบบั กระเป๋า หรอื Pocket Book ได้ ภาพท่ี 1.2 ตวั อย่างหนังสือบันเทิงคดี 2. สอ่ื ส่งิ พมิ พเ์ พ่อื เผยแพรข่ า่ วสาร - หนังสือพิมพ์ (Newspapers) เป็นส่อื ส่งิ พมิ พท์ ่ีผลิตข้ึนโดยนำ� เสนอเรื่องราว ข่าวสารภาพและความคดิ เห็น ในลักษณะของแผ่นพิมพ์ แผ่นใหญ่ ที่ใช้วิธีการพับรวมกัน ซึ่งสื่อส่ิงพิมพ์ชนิดน้ี ได้พิมพ์ออกเผยแพร่ท้ังลักษณะ หนังสอื พิมพ์รายวัน, รายสัปดาห์ และรายเดอื น 12
ความรู้เบ้ืองต้นเก่ยี วกบั การผลติ สอ่ื สง่ิ พิมพด์ ้วยคอมพิวเตอร์ ภาพที่ 1.3 ตัวอยา่ งหนงั สอื พมิ พ์ - วารสาร, นิตยสาร เป็นส่ือส่ิงพิมพ์ที่ผลิตข้ึนโดยน�ำเสนอสาระ ข่าว ความบันเทิง ที่มีรูปแบบการน�ำเสนอ ทโี่ ดดเดน่ สะดดุ ตา และสรา้ งความสนใจใหก้ บั ผอู้ า่ น ทงั้ นกี้ ารผลติ นนั้ มกี ารกำ� หนดระยะเวลาการออกเผยแพรท่ แี่ นน่ อน ทง้ั ลักษณะวารสาร, นติ ยสารรายปักษ์ (15 วนั ) และ รายเดือน ภาพที่ 1.4 ตัวอย่างหนังสือวารสารและนิตยสาร 13
วิชาการผลิตสอ่ื ส่งิ พมิ พ์ รหัสวิชา 2204-2104 - จุลสาร เป็นส่ือสิ่งพิมพ์ท่ีผลิตขึ้นแบบไม่มุ่งหวังผลก�ำไร เป็นแบบให้เปล่าโดยให้ผู้อ่านได้ศึกษาหาความรู้ มกี �ำหนดการออกเผยแพร่เป็นคร้งั ๆ หรอื ล�ำดบั ตา่ ง ๆ ในวาระพเิ ศษ ภาพที่ 1.5 ตัวอยา่ งหนงั สอื จุลสาร ส่ิงพิมพ์โฆษณา - โบร์ชัวร์ (Brochure) เป็นส่ือสิ่งพิมพ์ท่ีมีลักษณะเป็นสมุดเล่มเล็ก ๆ เย็บติดกันเป็นเล่ม จ�ำนวน 8 หน้า เป็น อย่างน้อย มีปกหน้าและปกหลงั ซ่งึ ในการแสดงเนอื้ หาจะเกีย่ วกบั โฆษณาสินคา้ ภาพท่ี 1.6 ตวั อยา่ งโบวช์ วั ร์หรอื แผน่ พบั 14
ความรูเ้ บือ้ งตน้ เกี่ยวกบั การผลติ ส่อื ส่ิงพมิ พด์ ้วยคอมพิวเตอร์ - ใบปลวิ (Leaflet, Handbill) เปน็ สอื่ ส่งิ พิมพ์ใบเดยี ว ทเี่ น้นการประกาศหรอื โฆษณา มักมีขนาด A4 เพอ่ื งา่ ย ในการแจกจ่าย ลกั ษณะการแสดงเนอื้ หาเปน็ ขอ้ ความท่ีผู้อ่าน อ่านแลว้ เข้าใจงา่ ย ภาพที่ 1.7 ตัวอย่างใบปลิว - แผ่นพับ (Folder) เป็นส่ือส่ิงพิมพ์ที่ผลิตโดยเน้นการน�ำเสนอเนื้อหา ซึ่งเน้ือหาท่ีน�ำเสนอนั้นเป็นเน้ือหา ทีส่ รปุ ใจความส�ำคัญ ลกั ษณะมกี ารพับเปน็ รูปเล่มต่าง ๆ ภาพที่ 1.8 ตวั อย่างแผ่นพับ 15
วิชาการผลิตสือ่ สิ่งพมิ พ์ รหสั วชิ า 2204-2104 - ใบปดิ (Poster) เปน็ สอื่ สงิ่ พมิ พโ์ ฆษณา โดยใชป้ ดิ ตามสถานทตี่ า่ ง ๆ มขี นาดใหญเ่ ปน็ พเิ ศษ ซงึ่ เนน้ การนำ� เสนอ อยา่ งโดดเด่น ดงึ ดดู ความสนใจ ภาพท่ี 1.9 ตัวอย่างใบปิด 3. สิ่งพิมพเ์ พ่อื การบรรจุภัณฑ์ เป็นสอ่ื สง่ิ พิมพ์ท่ใี ชใ้ นการหอ่ หุ้มผลิตภณั ฑ์การคา้ ต่าง ๆ แยกเปน็ สิง่ พิมพห์ ลัก ไดแ้ ก่ สง่ิ พิมพ์ทใี่ ชป้ ดิ รอบขวด หรอื กระปอ๋ งผลิตภัณฑก์ ารคา้ สิง่ พมิ พร์ อง ได้แก่ สง่ิ พิมพ์ที่เปน็ กลอ่ งบรรจุ หรือลงั ภาพที่ 1.10 ตัวอย่างสง่ิ พิมพเ์ พอื่ การบรรจภุ ณั ฑ์ 16
ความรเู้ บ้ืองต้นเก่ยี วกบั การผลิตสื่อสิง่ พมิ พ์ด้วยคอมพวิ เตอร์ 4. สิ่งพิมพม์ ีค่า เป็นส่ือสิ่งพิมพ์ท่ีเน้นการน�ำไปใช้เป็นหลักฐานส�ำคัญต่าง ๆ ซ่ึงเป็นก�ำหนดตามกฎหมาย เช่น ธนาณัติ, บตั รเครดิต, เช็คธนาคาร, ต๋ัวแลกเงิน, หนังสอื เดินทาง, โฉนด เป็นต้น ภาพท่ี 1.11 ตัวอยา่ งสิ่งพมิ พม์ ีค่า 5. ส่ิงพิมพล์ ักษณะพเิ ศษ เป็นส่ือส่ิงพิมพ์มีการผลิตข้ึนตามลักษณะพิเศษแล้วแต่การใช้งาน ได้แก่ นามบัตร, บัตรอวยพร, ปฎิทิน, บตั รเชญิ , ใบส่งของ, ใบเสรจ็ รับเงิน, สง่ิ พิมพบ์ นแก้ว, สิง่ พมิ พ์บนผา้ เป็นตน้ ภาพที่ 1.12 ตวั อยา่ งสง่ิ พิมพม์ ีค่า 17
วิชาการผลิตสื่อสงิ่ พิมพ์ รหสั วิชา 2204-2104 6. สง่ิ พมิ พ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่ผลิตขึ้นเพื่อใช้งานในคอมพิวเตอร์ หรือระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ได้แก่ Document Formats, E-book for Palm/PDA เปน็ ตน้ ภาพท่ี 1.13 ตัวอยา่ งสิ่งพิมพ์อเิ ลก็ ทรอนิกส์ คุณสมบัตขิ องส่อื ส่งิ พิมพ์แต่ละประเภท 1. หนงั สอื พิมพ์ เปน็ สอื่ ทส่ี ามารถจะนำ� ขา่ วสารไปถึงกล่มุ เป้าหมายได้อย่างกว้างขวาง รวดเร็ว ฉบั ไว การส่ง ข่าวสาร การประชาสัมพันธ์หรือการโฆษณาจะส่งผลอย่างมีประสิทธิภาพอย่างมาก ข้อมูลข่าวสารจะส่งจากผู้ส่ง ผ่านหนังสือพิมพ์ไปยังผู้อ่านหรือผู้บริโภคได้อย่างทันทีทันใจ การประชาสัมพันธ์หรือการโฆษณาที่สามารถก�ำหนด ต�ำแหน่งที่เหมาะสม ออกแบบน�ำเสนอข้อมูลได้อย่างพอดี แม้จะมีส่วนดีอยู่มากแต่ความจ�ำเป็นก็ย่อมพึงมีอยู่เช่นกัน ซึง่ พอจะแยกแยะออกได้ ดังน้ี 1.1 ขอ้ ดีของหนงั สือพมิ พ์ 1.1.1 หนงั สอื พมิ พอ์ อกสมำ่� เสมอทกุ วนั การนำ� เสนอขอ้ มลู จงึ รวดเรว็ ทนั ใจ เปน็ ทยี่ อมรบั ของคนทว่ั ไป 1.1.2 ผบู้ ริโภคสามารถเลอื กเวลาอา่ นได้ และสามารถอา่ นย้อนไปยอ้ นมาไดห้ ลายคร้งั 1.1.3 สามารถเข้าถึงกล่มุ เป้าหมายไดต้ ามวตั ถุประสงค์ 1.1.4 ประหยดั งบประมาณเม่อื เทียบกบั สื่ออ่นื ๆ 1.1.5 สมารถสรา้ งสรรค์แนวข้อมลู ไดเ้ ตม็ ท่ ี 18
ความร้เู บ้ืองตน้ เก่ียวกบั การผลิตสือ่ สง่ิ พมิ พ์ดว้ ยคอมพิวเตอร์ 1.2 ขอ้ จ�ำกดั ของหนงั สือพิมพ์ 1.2.1 การเสนอข้อมูลของหนังสือพิมพ์มีความหลากหลาย บางคร้ังอาจท�ำให้กลุ่มเป้าหมายมอง ผ่านหรอื ไม่ไดใ้ หค้ วามสนใจเท่าทค่ี วร 1.2.2 มีความจ�ำกัดเก่ยี วกับการพมิ พแ์ ละกระดาษที่ใชพ้ ิมพ์ 1.2.3 ผู้อ่านส่วนมากอาจจะอ่านแล้วทิ้ง ท�ำให้ได้เห็นคร้ังเดียว ไม่ช่วยย�้ำความทรงจ�ำ ยกเว้น การนำ� เสนอแบบตอ่ เนอ่ื ง 1.2.4 ในกรณีที่เป็นคอลัมน์ขนาดเล็กมักจะสูญเปล่า เพราะถูกมองผ่านไปอันเนื่องมาจากความ หลากหลายของสาระข้อมลู 2. นิตยสาร วารสารหรือนิตยสารท่ีผลิตข้ึนเพ่ือจัดวางจ�ำหน่ายในท้องตลาดปัจจุบันมีหลายประเภท หลายขนาดและหลายรปู แบบ แล้วแตว่ ัตถุประสงค์ทจ่ี ัดท�ำข้นึ เช่น นิตยสารกีฬา นิตยสารผหู้ ญงิ นติ ยสารทางวิชาการ นิตยสารทางธรุ กจิ หรือนิตยสารท่วั ไป ถ้าพิจารณาจากชื่อนติ ยสารดังกลา่ วจะเหน็ วา่ นติ ยสารแต่ละประเภทจะมีกลุม่ เปา้ หมายท่เี ฉพาะเจาะจงมากกว่าหนังสอื พมิ พ์ ข้อดีและข้อจ�ำกดั ก็ย่อมมีความแตกต่างไปจากสัตว์อน่ื ๆ ด้วยเชน่ กัน 2.1 ขอ้ ดขี องนิตยสาร 2.1.1 นติ ยสารแตล่ ะฉบบั มกี ลมุ่ เปา้ หมายทชี่ ดั เจน การสง่ ขา่ วสารขอ้ มลู จงึ มคี วามแนน่ อนตรงทศิ ทาง ท่ีวางไว้ 2.1.2 นติ ยสารจะถกู หยบิ มาอา่ นยามวา่ ง อา่ นได้หลายคร้ัง การตอกยำ้� ข้อมูลมโี อกาสผา่ นสายตา ผอู้ ่านมากขนึ้ 2.1.3 การพิมพ์ประณีต สวยงาม ท�ำให้การเสนอข้อมูลได้เต็มท่ี การสร้างสรรค์งานไม่มีข้อจ�ำกัด จนเกนิ ไป สามารถสรา้ งความสนใจไดม้ าก 2.1.4 สมารถสรา้ งความรสู้ กึ ทดี่ แี กผ่ อู้ า่ น เพราะบคุ ลกิ ของนติ ยสารบางเลม่ มคี วามสวยงามนา่ สนใจ 2.1.5 คา่ ใชจ่ ่ายไม่สูงมากนักและได้รบั ความนยิ มดมี าก 2.2 ขอ้ เสียของนิตยสาร 2.2.1 การเผยแพรม่ คี วามจำ� กดั ตอ่ กลมุ่ ผบู้ รโิ ภค นติ ยสารแตล่ ะเลม่ จะเจาะลกึ กลมุ่ เปา้ หมาย บางครง้ั มีการเผยแพรเ่ ฉพาะในเมืองไมม่ ีในชนบท 2.2.2 ขาดความฉบั ไวและไมท่ นั ตอ่ เหตุการณท์ ันที นติ ยสารแตล่ ะเลม่ ใชเ้ วลาดำ� เนนิ การนาน 2.2.3 การพิมพอ์ ันประณีตทำ� ให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำ� ตน้ ฉบบั สงู โดยเฉพาะการพิมพห์ ลายสี 3. ส่ือโฆษณาทางไปรษณยี ์ ส่ือ สงิ่ พมิ พ์ขนาดเลก็ อนั ได้แก่ จดหมาย แผน่ พับ แผ่นปลวิ แคตาลอ็ ค โปสการด์ หรอื โชว์การ์ด นิยมใช้ประชาสัมพนั ธห์ รือการเผยแพร่ขา่ วสารขอ้ มลู ตา่ ง ๆ โดยตรงหรอื โดยทางไปรษณยี ์ สอ่ื ประเภทน้ี เน้นการเสนอข่าวสารถึงผู้รับโดยตรงโดยไม่แอบแฝงใด ๆ จึงเห็นได้ว่าส่ือนี้จะเป็นสื่อกลุ่มเดียวที่จะถึงกลุ่มเป้าหมาย อย่างแท้จริง แต่การพิจารณาเลือกใช้สื่อประเภทนี้ก็จะต้องตรวจสอบเง่ือนไขต่าง ๆ ด้วยเพ่ือให้บรรลุเป้าหมาย ตามตอ้ งการ 19
วชิ าการผลิตส่ือส่ิงพิมพ์ รหสั วิชา 2204-2104 3.1 ข้อดขี องสือ่ ทางไปรษณยี ์ 3.1.1 สามารถเลอื กสรรกลุม่ เปา้ หมายและเสนอข้อมลู โดยตรงถงึ ไดม้ ากท่ีสุด 3.1.2 สามารถตรวจสอบผลการตอบสนองตอ่ ขา่ วสารน้นั ได้อยา่ งรวดเร็ว 3.1.3 ผูร้ ับสารมีความพึงพอใจและรสู้ กึ เปน็ กนั เอง 3.1.4 สามารถสรา้ งความสนใจแกผ่ รู้ บั สารได้อยา่ งเตม็ ท่ี 3.1.5 ถา้ ไดร้ บั การออกแบบสอื่ อยา่ งประณตี สวยงาม จะทำ� ใหผ้ รู้ บั สารนนั้ เกบ็ สอ่ื นน้ั ดว้ ยความชน่ื ชม ทำ� ใหเ้ กิดการเผยแพร่ หรอื ประชาสมั พนั ธท์ ้ังทางตรงและทางออ้ ม 3.2 ข้อเสียของส่อื ทางไปรษณยี ์ 3.2.1 ต้องใช้คา่ ใชจ้ ่ายคอ่ นข้างสงู 3.2.2 มคี วามยงุ่ ยากในการเผยแพร่ให้ถึงกลุ่มเปา้ หมายท่ตี อ้ งการ 3.2.3 เกดิ การสูญเปลา่ เม่อื ผรู้ บั ไมส่ นใจขา่ วสารนน้ั 4. ป้ายโฆษณา ป้ายโฆษณามีหลายลักษณะ และหลายขนาดแล้วแต่วัตถุประสงค์ของการน�ำไปใช้ ต้ังแต่ ขนาดเลก็ ส�ำหรับตดิ ในอาคารจนขนาดใหญส่ �ำหรบั ตดิ ต้ังกลางแจง้ หรอื บรเิ วณ ทวั่ ไป งานออกแบบแผน่ ป้ายในปจั จุบนั รียกร้องความสนใจได้ดี ผอู้ อกแบบสามารถกำ� หนดรปู แบบได้อยา่ งอิสระ นยิ มน�ำเอาเทคโนโลยีทางด้านอเิ ล็กทรอนกิ ส์ เขา้ ชว่ ย ท�ำใหเ้ กิดมติ ิ เกดิ กรเคลือ่ นไหวไดด้ ว้ ย 4.1 ข้อดีของแผ่นปา้ ยโฆษณา 4.1.1 ท�ำให้ครอบคลุมพน้ื ทีส่ งู เลอื กติดต้งั เฉพาะแหลง่ ชมุ ชนได้ 4.1.2 ให้ความถี่ในการมองเห็นบ่อย เพราะจุดติดตั้งจะเป็นเส้นทางหรือบริเวณที่ต้องเดินผ่านไป มาเสมอ 4.1.3 สามารถดึงดูดความสนใจไดด้ ีมาก 4.1.4 ไม่มคี วามจำ� กดั เร่ืองเวลาทจ่ี ะนำ� เสนอข้อมลู 4.1.5 ข้อความที่กะทัดรัดกลายเป็นจุดเด่นท่ีท�ำให้เกิดการเน้นตัวอักษร และภาพลักษณ์เป็นท่ี จดจ�ำได้ง่าย 4.2 ข้อเสยี ของแผน่ ป้ายโฆษณา 4.2.1 การน�ำเสนอขอ้ มูลมคี วามจำ� กัดสูง ท�ำใหข้ าดรายละเอียดเมอ่ื เทียบกบั สอื่ อื่น ๆ 4.2.2 กรณีทมี่ ตี ำ� แหน่งการตดิ ตงั้ ไมด่ นี กั ย่อมไดร้ บั ความสนใจน้อย 4.2.3 ตอ้ งการความประณตี สงู ท�ำใหเ้ สยี ค่าใช้จ่ายมาก 4.2.4 บางครงั้ ทำ� ใหเ้ สยี บรรยากาศสภาพแวดลอ้ ม โดยเฉพาะสอ่ื บางชน้ิ ทอ่ี อกแบบไมส่ วย ไมส่ ะดดุ ตา จะเหน็ ได้วา่ สื่อแต่ละประเภทยอ่ มมีศกั ยภาพทแี่ ตกตา่ งกันไป ผอู้ อกแบบจะตอ้ งเข้าใจถึงลักษณะเฉพาะหรือ ขอ้ จ�ำกดั เพื่อทจ่ี ะได้เป็นแนวคิดในการเลือกใช้และการออกแบบใหเ้ หมาะสม สะดดุ ตาแก่ผพู้ บเหน็ ได้อยา่ งเตม็ ท่ี งาน ออกแบบจึงเปน็ เรอื่ งส�ำคัญท่ีจะช่วยสนับสนนุ ให้เกิดผลสำ� เรจ็ ดงั ท่ตี ง้ั ใจไว้ นักออกแบบจะต้องศึกษาและพิจารณาอยา่ ง ละเอียดถีถ่ ว้ นกอ่ นดำ� เนินการ 20
ความรเู้ บ้อื งตน้ เกยี่ วกบั การผลติ สื่อส่งิ พมิ พด์ ว้ ยคอมพิวเตอร์ 5. การวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายหรือผู้บริโภค องค์ประกอบสุดท้ายของวงจรการสื่อความหมายหรือ การสง่ ขา่ วสารกค็ อื ความมงุ่ หวงั ทจี่ ะใหผ้ บู้ รโิ ภคหรอื กลมุ่ เปา้ หมายไดร้ บั ขอ้ มลู ขา่ วสารอยา่ งถกู ตอ้ ง ฉบั ไว และพงึ พอใจ ดว้ ยดังไดก้ ล่าวแลว้ การจะให้เกิดผลดงั เป้าหมายท่ีก�ำหนดไว้นนั้ ผอู้ อกแบบจะต้องรจู้ กั กลมุ่ เป้าหมาย สามารถแยกแยะ รายละเอยี ดข้อมลู ตา่ ง ๆ เก่ียวกบั ผูบ้ รโิ ภคเปน็ อย่างดี ข้อมูลต่าง ๆ ทีค่ วรทราบและพิจารณา ไดแ้ ก่ เพศ วยั การศกึ ษา หรืออาชีพการงาน ฯลฯ ข้อมลู เหลา่ น้ผี ู้ออกแบบจะตอ้ งนำ� มาเปน็ แนวคดิ ในการสร้างสรรค์งานให้สอดคล้อง กับความ สนใจตามหลกั จติ วิทยาการออกแบบและเหมาะสมกับพื้นฐานความรู้ท่ีเขาพงึ จะรบั รู้ และเข้าใจได้ การศกึ ษาวเิ คราะห์ ขอ้ มลู เก่ียวกบั กลมุ่ เปา้ หมายอาจพจิ ารณาแบ่งกลุ่มเปา้ หมายออกเปน็ 3 แนวทางดว้ ยกนั คอื 5.1 การแบง่ ตามลักษณะประชากรศาสตร์ ได้แก่ อายุ เพศ ฐานทางเศรษฐกจิ พื้นฐานทางการศึกษาและ อาชพี 5.2 การแบ่งตามลักษณะทางภมู ิศาสตร์ ไดแ้ ก่ พจิ ารณาตามลักษณะถ่ินฐาน ทอี่ ยู่ และสภาพแวดลอ้ ม 5.3 การแบ่งตามลักษณะจิตวิทยา ไดแ้ ก่ แนวคดิ ทัศนคติ วธิ ีการด�ำเนินชวี ติ ความเช่อื ฯลฯ วธิ กี ารแบง่ ลกั ษณะของกลมุ่ เปา้ หมายเพอื่ ตอ้ งการศกึ ษาถงึ ราย ละเอยี ดเกย่ี วกบั องคป์ ระกอบของความสนใจ ความพงึ พอใจ หรอื การตดั สินใจ การแสดงพฤตกิ รรมที่จะด�ำเนนิ การใด ๆ ตามขอ้ มลู สาระที่นำ� เสนอ การทีไ่ ดท้ ราบถึง อิทธพิ ลของการคดิ การจงู ใจจนมผี ลการเปลยี่ นแปลงพฤตกิ รรมและอ่ืน ๆ การแยกแยะทศิ ทางการคิดอย่างถกู ต้องจึงมี ประโยชนท์ ีจ่ ะมองขา้ มเสยี มไิ ด้ 5.3.1 สภาพการณ์ที่เหมาะสมในการใช้สื่อ เมื่อเทคโนโลยีทางการพิมพ์เจริญก้าวหน้าจนถึงขั้นมี การประดิษฐ์เครื่องจักรและอุปกรณ์ทางการพิมพ์ท่ีทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตการพิมพ์จ�ำนวนมากในระยะ เวลาอันรวดเรว็ ทำ� ใหส้ ่งิ พมิ พ์ มีบทบาทมากมายในชวี ิตประจ�ำวนั ของมนุษย์ ตงั้ แต่การใชส้ งิ่ พมิ พเ์ ป็นแหล่งให้ขอ้ มลู ขา่ วสาร ความรู้ ความบนั เทงิ เปน็ แหลง่ ขอ้ มลู ทม่ี นษุ ยใ์ ชป้ ระกอบการตดั สนิ ใจ ฯลฯ สง่ิ พมิ พน์ อกจากจะมบี ทบาทอยา่ งมาก ในชีวติ ประจำ� วันระดบั บคุ คลแลว้ ยงั มีบทบาทอยา่ งมากต่อการพัฒนาบา้ นเมือง ต่อความเจริญทางเศรษฐกจิ การเมอื ง และสังคมดว้ ย 5.3.2 บอกสภาพการณท์ เี่ หมาะสมในการใชส้ อ่ื สามารถใชไ้ ดท้ กุ สภาพการ เพราะเปน็ สอ่ื ทใี่ หค้ วามรู้ และทุกคนสามารถใช้ได้ตลอดเวลา หลกั การนำ� ภาพมาใช้ในงานสื่อสงิ่ พมิ พ์ 1. การคดั เลือกภาพ เพือ่ ใช้ในการประกอบแบบน้ัน ต้องพจิ ารณาถึงเน้อื หา ข่าวสาร เน้ือความทส่ี �ำคญั และ องคอ์ ่นื ที่จะช่วยให้เกดิ การรบั รขู้ องผูอ้ า่ นไดด้ ขี ึ้น ไม่ควรค�ำนงึ ถึงความรสู้ ึกของช่างภาพมากเกินไปว่าเขาจะรสู้ กึ อย่างไร ทไี่ ม่ใชภ้ าพท่เี ขาถ่ายมา เพราะการฝนื เลือกใชภ้ าพท่ีไม่มคี วามเหมาะสมจะทำ� ใหส้ ง่ิ พิมพน์ น้ั ลดคุณค่าลงไป 2. ภาพท่ีคมชดั สวยงาม ไม่จำ� เปน็ ตอ้ งเป็นภาพที่เหมาะสมกับการ,ออกแบบเสมอไปหากไม่เข้ากบั เน้ือเรอ่ื ง ภาพทต่ี รงกับเร่อื งและสามารถอธิบายหรอื เสรมิ เนอ้ื เรอื่ งได้จะเปน็ ภาพทเ่ี หมาะสมในการน�ำมาใชม้ ากท่ีสุด แตอ่ ยา่ งไร ก็ตามในกรณีท่ีได้ภาพที่คมชัดสวยงามมาแล้วและยังไม่มีโอกาสท่ีจะใช้ก็ควรเก็บรักษาไว้และจัดระบบการจัดเก็บให้ดี เพอื่ สามารถนำ� มาใช้ได้ในโอกาสต่อไป 21
วชิ าการผลิตส่อื ส่ิงพิมพ์ รหสั วชิ า 2204-2104 3. ภาพคุณภาพต�่ำ บางคร้ังอาจมีความจ�ำเป็นที่จะต้องใช้ภาพที่มีคุณภาพต่�ำอย่างหลีกเล่ียงไม่ได้ ก็อาจใช้ เทคนิคการออกแบบมาช่วยโดยการจัดให้ภาพนั้นอยู่ทางด้านล่างของหน้าและไม่พยายามเน้นหรือท�ำให้เป็นจุดสนมาก เกินไป และใชต้ ัวอกั ษรพาดหัวทม่ี ีขนาดใหญ่ เพอื่ หันเหความสนใจออกไป หรอื ใชส้ กรนี แบบต่าง ๆ ท่ีแปลกออกไปมา ใชใ้ นการทำ� ภาพใหด้ แู ปลกตามากขึน้ 4. การบังภาพ (cropping) ในบางกรณภี าพถ่ายที่ไดม้ าเป็นภาพทถี่ ่ายในระยะไกลเกินไป ทำ� ใหค้ รอบคลมุ ส่วนอืน่ ๆ ทีไ่ ม่ต้องการตดิ ตามมาดว้ ย ฉะน้นั จงึ จ�ำเป็นตอ้ งปิดหรอื บังส่วนท่ีไม่ต้องการออกไป แล้วนำ� ภาพนนั้ มาขยาย เฉพาะส่วนทีต่ อ้ งการเท่านัน้ ซึง่ เปน็ ความจ�ำเปน็ ที่จำ� ตอ้ งทำ� เช่นนเ้ี พราะสว่ นอื่นทีไ่ มเ่ กี่ยวขอ้ งนน้ั บางครงั้ กลายเปน็ สง่ิ ท่ีลดความสนใจของผู้อา่ นลงไปเพราะเม่ือดูภาพนนั้ แลว้ หาจดุ ที่เปน้ จุดเดน่ ของภาพไมไ่ ด้ ถงึ แม้วา่ การบังภาพจะทำ� ให้ ขนาดของภาพเล็กลงแตจ่ ะได้รายละเอยี ดของภาพมากขน้ึ 5. การคัดเลือกภาพ การคัดเลือกภาพเพ่ือใช้ประกอบการออกแบบส่ือส่ิงพิมพ์น้ันจะต้องคิดอยู่เสมอว่างานท่ี เรากำ� ลงั ทำ� อยนู่ นั้ คอื การเลอื กภาพใชภ้ าพเพอ่ื ธรุ กจิ ของการพมิ พม์ ใิ ชก่ ารพจิ ารณาวา่ ภาพนน้ั มศี ลิ ปะหรอื มคี วามสวยงาม ในแงข่ องภาพนั้นมากนอ้ ยเพยี งไร น่ันคือ ภาพนั้นจะต้องให้ผลดีตอ่ เนือ้ เรอ่ื งทจี่ ะพมิ พ์เป็นสำ� คญั ถึงแม้บางคร้งั ภาพท่ี ได้จะมใิ ช่ภาพท่ีดใี นแงข่ องศิลปะการถ่ายภาพก็ตามในกรณที ีม่ ภี าพท่มี คี ณุ ภาพดใี หเ้ ลือกหลายภาพ เกณฑ์การตัดสนิ ใจ กค็ อื เลือกภาพทมี่ คี วามหมายตรงกบั เนอื้ ความ และเสริมเนือ้ หามากทส่ี ุด 6. การท�ำใหภ้ าพนา่ สนใจข้นึ โดยการจดั เรียงภาพ การใช้ภาพเดี่ยวในบางกรณีอาจดูไมน่ ่าสนใจ หากใช้ภาพ ทม่ี ีความสมั พนั ธ์ตอ่ เนื่องมาจัดเรยี งลำ� ดบั กันข้นึ จะทำ� ให้ภาพนนั้ ดสู ะดดุ ตา และน่าสนใจ ซึ่งอาจจัดเรียงในลักษณะใด กไ็ ด้ เช่น เรียงตามล�ำดับไปอย่างปกติ เรียงซ้อนเหล่อื มกนั เรยี งในแนวทแยง เปน็ ต้น 7. การจัดภาพขนาดเล็กใหร้ วมกันเป็นกลุม่ การใช้ ภาพขนาดเล็กสอดแทรกอยใู่ นเน้ือความทว่ั ไป อาจไม่ เป็นท่ีนา่ สนใจเทา่ ท่คี วร จงึ อาจพจิ ารณาจดั ให้ภาพเหล่าน้นั อยูร่ วมกนั เปน็ กลุ่ม ในรปู ทรงทนี่ า่ สนใจ ซง่ึ จะทำ� ใหเ้ รียก ความสนใจได้มากกว่า แตต่ อ้ งคำ� นงดว้ ยวา่ การจัดเปน็ กลมุ่ อาจท�ำไดห้ ลายวธิ ตี ่าง ๆ เช่น 1) จัดวางภาพทัง้ หมดไว้บนแบรกราวดเ์ ดยี วกัน 2) จดั ใหภ้ าพท้ังหมดอยู่ในกรอบทีป่ ดิ ทุกดา้ น 3) จดั วางบนเสน้ ตารางหา่ ง ๆ 4) จัดเรียงภาพใหม้ ลี ักษณะรปู ร่างเดียวกนั ซ้�ำ ๆ กนั ทัง้ กลุ่ม 5) จบั ค่ภู าพทมี่ คี วามต่อเน่ืองกันหรือใกล้เคยี งกันเข้ากัน 8. การเร้าความสนใจโดยการท�ำภาพให้มีความต่อเน่ือง บ่อยคร้ังการใช้ภาพเพียงภาพเดียวไม่สามารถ อธบิ ายเรอื่ งราวไดท้ ้ังหมด ไม่วา่ ภาพท่ีใช้จะเป็นภาพที่ดีเพียงใดก็ตาม จึงจำ� เปน็ ต้องใชภ้ าพหลายภาพมาจัดเรียงไวใ้ น ลักษณะคล้ายกับการจัดล�ำดับ เป็นระยะ ๆ แต่ไม่ต่อเนื่องบนหน้าเดียวกัน เป็นการสร้างความสัมพันธ์ให้เกิดข้ึน และพฒั นาความคดิ ของผอู้ า่ นตามลำ� ดบั ซง่ึ ในการพจิ ารณาใชภ้ าพมาประกอบมาสรา้ งความคดิ ใหเ้ กดิ เปน็ ลำ� ดบั จะตอ้ ง พิจารณาภาพให้ดีและต้องอธิบายเหตุผลของการใช้ภาพแต่ละภาพได้เสมอว่า ท�ำไมถึงได้ใช้ภาพนั้น ๆ ต้องแน่ใจว่า มีความสอดคลอ้ งและสรา้ งเสริมความเขา้ ใจเนือ้ หาไดม้ ากกวา่ และท่สี �ำคญั ตอ้ งไมใ่ ช่ภาพมากเกนิ ไป ควรใชภ้ าพให้มาก ทีส่ ุดเท่าที่จะนอ้ ยได้ 22
ความรู้เบ้อื งต้นเกย่ี วกับการผลติ ส่อื สงิ่ พิมพด์ ว้ ยคอมพวิ เตอร์ รูปแบบของภาพและไฟลภ์ าพ 1. ภาพแบบ บติ แมป (Bitmap) หรือ ราสเตอร์ (Raster) คอื ภาพทีเ่ กิดจากหนว่ ยภาพเลก็ ๆ มารวมกันจนเป็นภาพใหญ่คลา้ ยจกิ๊ ซอร์สามารถดูไดโ้ ดยการซมู ภาพเขา้ ไป กลา่ วคือภาพเหล่าน้ียง่ิ ซมู (ขยาย)ยงิ่ แตก จนดไู ม่ร้เู รือ่ ง เช่นภาพนามสกุล .JPEG, .TIFF, .GIF เปน็ ตน้ ภาพท่ี 1.14 ตัวอยา่ งภาพบิตแมพ Bitmap 2. ภาพแบบเวคเตอร์ (Vector) คอื ภาพทีเ่ กดิ จากเส้นโค้ง, เสน้ ตรง และคณุ สมบัติสีของเสน้ นัน้ ๆ ทีเ่ กดิ จากการคำ� นวณทางคณิตศาสตร์ กลา่ ว คอื ทจี่ ดุ ๆ หนง่ึ ของภาพทเ่ี ราซมู เขา้ ไปมนั จะเกดิ จากการกำ� หนดคณุ สมบตั ไิ วว้ า่ ภาพ เกดิ จากเสน้ ตรง หรอื เสน้ โคง้ ทเี่ อยี ง กี่องศา เก็บค่ารหัสสีอะไรไว้ เมื่อเราซูมขยายภาพไม่ว่าจะขนาดเท่าไหร่ก็ตาม ภาพมันจะไม่แตก หรือสูญเสียความ ละเอยี ดไป เพราะการซูมภาพเป็นการคณู จำ� นวนเท่า ลงไปที่คณุ สมบตั ิภาพนัน่ เอง ดงั นน้ั ถา้ เราแกไ้ ขภาพกค็ อื ไปแกไ้ ขคณุ สมบตั ทิ างคณติ ศาสตร์ ไมว่ า่ จะยอ่ หรอื ขยายกคี่ รง้ั ภาพแบบนจี้ ะยงั คมชดั เทา่ เดิม ภาพ Vector เหล่านี้ไดแ้ ก่ ภาพ .wmf และภาพใน Adobe Illustrator, Macromedia Freehand 23
วชิ าการผลติ สือ่ สงิ่ พิมพ์ รหัสวิชา 2204-2104 ภาพท่ี 1.15 ตัวอย่างภาพเวตเตอร์ Vector ชนิดของไฟล์ภาพสำ� หรบั งานส่ือส่งิ พิมพ์ 1. JPEG (Joint Photography’s Experts Group) จุดเดน่ - สนบั สนุนสีไดม้ ากถงึ 24 bit - สามารถก�ำหนดคณุ ภาพ และตง้ั คา่ การบีบอัดไฟล์ภาพได้ - ใชใ้ น Internet (World Wild Web) มนี ามสกลุ .jpg - มโี ปรแกรมสนบั สนุนการสร้างจ�ำนวนมาก - เรยี กดูภาพไดใ้ น Graphic Browser ทุกตัว จดุ ด้อย - ไม่สามารถท�ำใหพ้ ้ืนที่ของภาพเปน็ แบบโปรง่ ใสได้ (Transparent/Opacity) - หากกำ� หนดค่าการบบอดั ไว้สูง เม่อื สง่ ภาพจาก Server (แม่ข่าย) ---> Client (ลกู ขา่ ย) จะทำ� ให้ การแสดงผลช้าเพราะต้องเสียเวลาในการขยายไฟล์ ภาพท่ี 1.16 ตัวอยา่ งภาพ JPEG 24
ความร้เู บอื้ งตน้ เกี่ยวกบั การผลิตสื่อส่งิ พิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ 2. TIFF (Tag Image File Format) มักใชใ้ นงานส่ิงพมิ พ์-Desktop publishing, 3D application, Faxing, Medical Imaging Application โดยรูปแบบของ TIFF มหี ลายประเภทคือ -Grayscale, Color Pallete, RGB full color จดุ เดน่ - เปน็ รปู แบบทท่ี �ำให้ภาพแบบราสเตอรห์ รอื บิตแมป สามารถใช้งานร่วมกบั Application ต่าง ๆ รวมท้งั โปรแกรมจดั การภาพจาก Scanner จดุ ด้อย - ไฟลภ์ าพขนาดใหญ่ เพราะต้องเก็บรายละเอยี ดความคมชัดไวส้ ูง ภาพท่ี 1.17 ตัวอยา่ งภาพ TIFF 3. GIF (Graphics Interchange Format) จดุ เด่น - เปน็ ที่นยิ มมากที่สดุ สำ� หรับภาพทจี่ ะแสดงบน Web/Internet - มขี นาดเล็กมาก - สามารถท�ำพ้ืนใหเ้ ป็นแบบโปรง่ ใสได้ (Transparent/Opacity) - สามารถท�ำเปน็ ภาพเคลอ่ื นไหวบน Webpage ได้ โดยใชเ้ ครอ่ื งมอื ช่วยสรา้ งเช่น JAVA, Flash - มีโปรแกรมสนบั สนุนในการสรา้ งจ�ำนวนมาก - สามารถเรยี กดภู าพไดใ้ น Graphic Browser ทกุ ตัว จุดดอ้ ย - แสงภาพไดเ้ พยี ง 256 สเี ท่านน้ั ไม่เหมาะส�ำหรบั การน�ำเสนอภาพถา่ ยหรอื งานที่ตอ้ งการความคมชัดสงู 25
วิชาการผลติ สอื่ ส่งิ พมิ พ์ รหสั วิชา 2204-2104 ภาพท่ี 1.18 ตัวอย่างภาพ GIF 4. PNG (Portable Network Graphics) จดุ เด่น - เอาคณุ สมบตั ขิ อง (JPEG+GIF) มาใชค้ อื สมี ากกว่า 256สแี ละโปร่งใสได้ (Transparent) - PNG มกี ารบบี อดั ขอ้ มูลโดยไมเ่ สียคณุ ภาพ - ท�ำใหโ้ ปรง่ ใสได้ (Transparency) และยังสามารถควบคุมองศาของความโปร่งใส (Opacity)ไดด้ ว้ ย - เก็บบันทึกภาพด้วยสีจริง (True Color) ได้เช่นเดียวกับตารางสี (Pallete) และสีเทา (Grayscale) แบบ GIF จุดดอ้ ย - ไมส่ นบั สนุนภาพเคลอ่ื นไหว เพราะไม่สามารถเกบ็ ภาพหลาย ๆ ภาพไวด้ ้วยกนั ได้ ภาพที่ 1.19 ตวั อยา่ งภาพ PNG 26
ความรูเ้ บือ้ งต้นเกย่ี วกบั การผลิตสอ่ื ส่ิงพิมพด์ ้วยคอมพวิ เตอร์ หลักการใช้สีและแสงในงานพมิ พ์ งานพิมพ์ส่วนใหญ่มักประสบปัญหางานพิมพ์จริงท่ีพิมพ์จากเครื่องพิมพ์ระบบออฟเซ็ทจึงมีสีบางสีในภาพพิมพ์ ผดิ เพ้ียนไปจากภาพท่เี ห็นบนจอคอมพวิ เตอรเ์ วลาเราออกแบบ ภาพทเ่ี รามองเห็นจากจอคอมพิวเตอรน์ ั้นเป็นภาพที่เกิดจากแหล่งก�ำเนดิ แสงของแสงสี 3 สี คอื แสงสีแดง (Red) แสงสีเขียว (Green) และแสงสีน�้ำเงิน (Blue) หรือเรียกวา่ RGB ซ่ึงเปน็ แมส่ ีของแสง แสงสที ั้งสามจะส่องมาท่ี จอภาพ และเกิดการการผสมของแสงสี ณ จุดแต่ละจุดบนจอตามปรมิ าณของแสงที่ตา่ ง ๆ กัน ท�ำใหเ้ กดิ เปน็ สตี ่าง ๆ มากมายบนจอคอมพวิ เตอร ์ และเมอ่ื แสงสที งั้ สามมาผสมกนั ดว้ ยปรมิ าณแสงทเ่ี ทา่ กนั จะเกดิ เปน็ แสงสขี าว หรอื ทเี่ รยี กวา่ Additive Primary Colors ส่วนภาพพมิ พท์ ีป่ รากฏบนแผ่นกระดาษขาวเป็นภาพท่เี กิดจากการที่แสงสขี าวสอ่ งทะลชุ ั้นของหมกึ พิมพ์ 4 สี คือสีเหลอื ง (Yellow) สชี มพู (Magenta) สีฟ้า (Cyan) และสดี �ำ (Black) สะทอ้ นผวิ กระดาษขาวแล้วจงึ เขา้ สตู่ าของเรา สที ง้ั สี่เมอ่ื มปี รมิ าณของหมกึ แตล่ ะสตี า่ ง ๆ กนั ในบรเิ วณเดียวกนั จะท�ำใหเ้ กดิ เปน็ สตี า่ ง ๆ มากมาย สที ้งั ส่ี หรอื ท่เี รียกว่า CMYK ถอื เปน็ แมส่ สี ำ� หรบั งานพมิ พ์ ตามทฤษฎแี ลว้ เมอ่ื นำ� หมกึ 3 สี คอื สเี หลอื ง สชี มพู และสฟี า้ มาทบั กนั จะไดเ้ ปน็ สดี ำ� จงึ เรยี กว่า Subtractive Primary Colors แต่ในความเปน็ จรงิ เมอื่ น�ำ 3 สดี งั กลา่ วมาทับกันจะได้สเี ทาน้ำ� ตาล ซง่ึ เป็น เพราะความไม่บรสิ ุทธ์ิของสารทน่ี �ำมาทำ� หมกึ ดงั นั้นในการพมิ พจ์ ึงตอ้ งน�ำหมกึ สีที่ 4 คือสดี ำ� มาช่วย เราจึงเรยี กว่า เป็นการพมิ พ์ 4 สี 27
วิชาการผลิตสอื่ สิ่งพมิ พ์ รหัสวิชา 2204-2104 อาณาบริเวณของสี (Gamut) ในปี ค.ศ. 1928 W.D. Wright และ J. Guild ได้ประสบความส�ำเรจ็ ในการตรวจวัดคลนื่ แสง ซ่งึ ต่อมาไดม้ กี าร จัดทำ� ผงั ทเ่ี รยี กวา่ Color Spectrum Chart ผังดงั กลา่ วจะแสดงสที งั้ หมดท่ีตามนุษยส์ ามารถรับรไู้ ด้ เมอ่ื ท�ำการจัดอาณาบริเวณของสที ี่ปรากฏได้ในระบบ RGB (RGB Gamut) มาเทียบกบั อาณาบรเิ วณของสีท่ี ปรากฏไดใ้ นระบบ CMYK (CMYK Gamut) บน Color Spectrum Chart จะพบวา่ มสี ่วนที่บรเิ วณทเี่ หลือ่ มกันอยู่ น่ัน คือหากมีการแปลงค่าของสีบางสีท่ีสามารถแสดงได้ในระบบ RGB แต่อยู่นอกบริเวณของสีในระบบ CMYK จะไม่ สามารถได้ค่าของสีเดียวกันในระบบ CMYK ด้วยเหตุดังกล่าว สีบางสีของภาพที่เห็นบนจอ monitor เมื่อถูกน�ำไป พิมพบ์ นกระดาษแลว้ จะได้สที ่ีผดิ เพย้ี นไป การเลอื ก color mode ในการใช้งาน ในการท�ำงานและออกแบบโดยใช้โปรแกรมกราฟฟิคตา่ ง ๆ ทา่ นสามารถเลอื กใชไ้ ด้ทั้ง RGB color mode หรือ CMYK color mode กไ็ ด้ แตถ่ า้ ใช้ RGB color mode เมอื่ งานเสรจ็ ส้ินก่อนสง่ ให้โรงพมิ พ์ใหแ้ ปลง file งานเปน็ CMYK color mode และให้ตรวจดูคณุ ภาพของภาพและสสี ัน ประโยชนข์ องการท�ำงานในระบบ RGB คอื ขนาดของ file งานใน ระบบ RGB มขี นาดเลก็ กวา่ file งานในระบบ CMYK ดว้ ยขนาด file ที่เลก็ กวา่ จะท�ำใหก้ ารทำ� งานคลอ่ งตวั ขึ้น และอาณาบริเวณของสี ในระบบ RGB กวา้ งกวา่ ในระบบ CMYK หากท�ำงานในระบบ CMYK จะทำ� ใหส้ ญู เสยี คา่ ของสีหากน�ำไปใชง้ านอน่ื ๆ เช่นน�ำไปใช้ใน web site นอกจากน้ี filter หลาย ๆ ชุดทำ� งานได้เฉพาะในระบบ RGB เท่านนั้ หากต้องการตรวจสอบภาพในระบบ CMYK ในระหว่างท�ำงาน กส็ ามารถทำ� ได้โดยใชค้ ำ� ส่ัง CMYK preview หรอื กด ‘Ctrl’ กบั ‘Y’ หรอื ตรวจจากค�ำสั่ง ‘Gamut Warning’ ส่งิ หนึ่งท่พี ึงระวังอยา่ งย่งิ คอื ให้หลกี เล่ยี งการแปลง กลับไปมาระหว่าง ระบบ RGB กับ CMYK หลาย ๆ ครั้ง น่ันจะท�ำให้รายละเอียดของภาพสูญเสียไป สีสันของภาพ จะผิดเพยี้ นไป 28
ความรูเ้ บอ้ื งต้นเกย่ี วกบั การผลิตสอ่ื สงิ่ พมิ พด์ ้วยคอมพวิ เตอร์ หลักการออกแบบสื่อสิ่งพมิ พ์ ส่ิงพิมพ์ท่ีพบเห็นโดยท่ัวไปประกอบด้วยองค์ประกอบส�ำคัญหลายอย่าง ได้แก่ ตัวอักษรหรือข้อความภาพ ประกอบเนือ้ ท่วี ่าง และสว่ นประกอบอ่นื การออกแบบสิ่งพิมพ์ท่ตี ้องค�ำนึงถงึ การจัดวางองคป์ ระกอบตา่ ง ๆ ดงั กล่าว เขา้ ด้วยกันโดยใช้หลักการ ดังน้ี 1. ทิศทางและการเคลอื่ นไหว (Direction & Movement) เม่อื ผู้รับสารมองดสู อื่ สงิ่ พิมพ์ การรบั รู้เกดิ ขนึ้ เป็นลำ� ดบั ตามการมองเห็น กล่าวคือ เกิดตามการวาดสายตา จากองค์ประกอบหนึ่งไปยังอกี องค์ประกอบหนงึ่ จึงมีความจำ� เปน็ อย่างย่ิง ทจี่ ะตอ้ งมกี ารด�ำเนนิ การวางแผน กำ� หนด และชักจูงสายตาผู้รับสารให้เคล่ือนไหวในทิศทางท่ีถูกต้อง ตามล�ำดับขององค์ประกอบท่ีต้องการให้รับรู้ก่อนหลัง โดยท่ัวไปหากไม่มีการสร้างจุดเด่นข้ึนมา สายตาของผู้รับสารจะมองดูหน้ากระดาษท่ีเป็นส่ือส่ิงพิมพ์ในทิศทางที่เป็น ตัวอักษร (Z) ในภาษาอังกฤษ คือ จะเร่ิมที่มุมบนด้านขวาตามล�ำดับการจัดองค์ประกอบท่ีสอดคล้องกับธรรมชาติ การมองนี้ เป็นส่วนช่วยใหเ้ กิดการรับรู้ตามล�ำดบั ที่ตอ้ งการ 2. เอกภาพและความกลมกลนื (Unity & Harmony) เอกภาพคอื ความเปน็ อนั หนงึ่ อนั เดยี วกนั ซง่ึ ในการจดั ทำ� เลยเ์ อาตห์ มายถงึ การเอาองคป์ ระกอบทแี่ ตกตา่ งกนั มาวางไวใ้ นพนื้ ท่หี นา้ กระดาษเดยี วกนั อยา่ งกลมกลืน ท�ำหน้าทส่ี อดคลอ้ งและสง่ เสรมิ กนั และกนั ในการสื่อสารความคิด รวบยอด และบุคลกิ ภาพของสอื่ สิ่งพิมพน์ ัน้ ๆ การสรา้ งเอกภาพนี้สามารถทำ� ไดห้ ลายวธิ ีเชน่ - การเลอื กใชอ้ งคป์ ระกอบอยา่ งสมำ่� เสมอ เชน่ การเลอื กใชแ้ บบตวั อกั ษรเดยี วกนั การเลอื กใชภ้ าพขาว ดำ� ทั้งหมด เป็นต้น - การสร้างความต่อเน่ืองกันให้องค์ประกอบ เช่น การจัดให้พาดหัววางทับ ลงบนภาพการใช้ตัวอักษร ท่ีเป็นข้อความ ล้อตามทรวดทรงของภาพ เป็นตน้ - การเวน้ พนื้ ทวี่ า่ งรอบองคป์ ระกอบทงั้ หมด ซงึ่ จำ� ทำ� ใหพ้ นื้ ทว่ี า่ งนน้ั ทำ� หนา้ ท่ี เหมอื นกรอบสขี าวลอ้ มรอบ องคป์ ระกอบทงั้ หมดไวภ้ ายใน ชว่ ยใหอ้ งค์ประกอบทง้ั ดเู หมือนวา่ อยกู่ ันอยา่ งเปน็ กล่มุ เปน็ ก้อน 3. ความสมดลุ (Balance) หลักการเรื่องความสมดุลนเ้ี ป็นการตอบสนองธรรมชาตขิ องผรู้ บั สาร ในเรื่องของแรงโน้มถ่วง โดยการจัด วางองคป์ ระกอบทัง้ หมดในพืน้ ท่หี น้ากระดาษ จะตอ้ งไมข่ ัดกบั ความรู้สกึ นี้ คอื จะต้องไมด่ เู องเอียงหรอื หนักไปด้านใด ด้านหน่ึง โดยไม่มอี งคป์ ระกอบมาถ่วงในอกี ดา้ น การจดั องคป์ ระกอบให้เกิดความสมดลุ แงไดเ้ ป็น 3 ลกั ษณะคือ - สมดุลแบบสมมาตร (Symmetrical Balance) เป็นการจัดวางองค์โดยให้องค์ประกอบในด้านซ้าย และดา้ นขวาพน้ื ทหี่ นา้ กระดาษมลี กั ษณะเหมอื นกนั ทง้ั สองขา้ ง ซง่ึ องคป์ ระกอบทเ่ี หมอื นกนั ในแตล่ ะดา้ นนจ้ี ะถว่ งนำ�้ หนกั กนั และกนั ให้ความร้สู กึ สมดุล - สมดุลแบบอสมมาตร (Asymmetrical Balance) เป็นการจักวางองค์ประกอบโดยให้องค์ประกอบ ในดา้ นซ้ายและดา้ นขวาพน้ื ที่หนา้ กระดาษมลี กั ษณะไมเ่ หมือนกันทงั้ สองขา้ ง แม้องคป์ ระกอบจะไม่เหมือนกันในแตล่ ะ ด้านแตก่ ็จะถว่ งน้ำ� หนกั กนั และกันให้เกดิ ความสมดุล 29
วิชาการผลติ ส่อื ส่งิ พมิ พ์ รหสั วิชา 2204-2104 - สมดุลแบบรศั ม ี (Radial Balance) เป็นการจดั วางองค์ประกอบ โดยใหอ้ งคป์ ระกอบแผไ่ ปทุกทศิ ทาง จากจุดศนู ย์กลาง 4. สดั ส่วน (Proportion) การก�ำหนดสัดส่วนนี้เป็นการก�ำหนดความสัมพันธ์ในเร่ืองของขนาดซึ่งมีความสัมพันธ์โดยเฉพาะในหน้า กระดาษของสื่อสิ่งพิมพ์ที่ต้องการให้มีจุดเด่น เช่น หน้าปกหนังสือเป็นต้น เพราะองค์ประกอบท่ีมีสัดส่วนแตกต่างกัน จะดึงดูดสายตาได้ดีกว่าการใช้องค์ประกอบท้ังหมดในสัดส่วนท่ีใกล้เคียงกัน ในการก�ำหนดสัดส่วนจะต้องก�ำหนด องคป์ ระกอบทัง้ หมดในพ้ืนทีห่ น้ากระดาษไปพรอ้ ม ๆ กันว่าควรจะเพิ่มหรอื ลดองค์ประกอบใดไมใ่ ช่ค่อย ๆ ท�ำไปทีละ องค์ประกอบ 5. ความแตกต่าง (Contrast) เป็นวิธีท่ีง่ายที่สุด โดยการเน้นให้องค์ประกอบใดองค์ประกอบหน่ึงเด่นขึ้นมาด้วยการเพ่ิมขนาดใหญ่กว่า องคป์ ระกอบอืน่ ๆ โดยรอบ เช่น พาดหัวขนาดใหญ่ เปน็ ต้น ซ่งึ โดยธรรมชาติแลว้ ผู้ดูจะเลอื กดอู งคป์ ระกอบใหญ่กอ่ น - ความแตกต่างโดยขนาด เป็นวธิ กี ารที่ง่ายที่สด โดยการเน้นใหอ้ งค์ประกอบใดองค์ประกอบหน่ึง เดน่ ขึน้ มาดว้ ยการเพิม่ ขึ้นมาดว้ ยการเพมิ่ ขนาดใหญก่ ว่าองคป์ ระกอบอนื่ ๆ โดยรอบ เชน่ พาดหัวขนาดใหญ่ เป็นต้น ซ่งึ - ความแตกต่างโดยรูปร่าง เป็นวิธีท่ีเน้นองค์ประกอบใดองค์ประกอบหน่ึงเด่นข้ึนมาด้วยการใช้รูปร่างท่ี แตกตา่ งกนั ออกไปจากองคป์ ระกอบอ่ืนในหนา้ กระดาษ เช่น การไดต้ ดั ภาพคนตามรูปร่างของรา่ งกายแล้วนำ� ไปวางท่ี หนา้ กระดาษท่มี ีภาพแทรกเล็ก ๆ ทอ่ี ยู่ในกรอบสเ่ี หลีย่ ม เป็นตน้ - ความแตกต่างโดยความเขม้ เป็นวธิ ีการทเ่ี นน้ ใหอ้ งคป์ ระกอบใดองค์ประกอบหนง่ึ เด่นขนึ้ มาด้วยการใช้ เพมิ่ หรอื ลดความเขม้ หรอื นำ้� หนกั ขององคป์ ระกอบนนั้ ใหเ้ ขม้ หรอื ออ่ นกวา่ องคป์ ระกอบอน่ื ๆ ทอี่ ยรู่ วมกนั ในหนา้ กระดาษ เช่น การใชต้ วั อกั ษรทีเ่ ปน็ ตัวหนาในย่อหน้าท่ีตอ้ งการเน้นเพียงย่อหนา้ เดยี วในหนา้ กระดาษ เปน็ ต้น ขนั้ ตอนของการออกแบบส่ือสง่ิ พมิ พ์ ในการออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ถือเป็นกระบวนการส�ำคัญที่สุดในกระบวนการสร้างสรรค์ส่ิงพิมพ์ให้ปรากฏต่อ ผรู้ บั สาร เพราะในขน้ั ตอนนจี้ ะรวมสว่ นประกอบในการนำ� เสนอรปู แบบและเนอ้ื หา ชนดิ ของภาพประกอบ แบบตวั อกั ษร ชนิดกระดาษและเทคนิคการพมิ พ์ต่าง ๆ เขา้ มาดำ� เนนิ การโดยไมใ่ ห้ละเลยหรอื ละทิง้ ส่วนใดให้หลดุ หายไปจากแนวคิด ทีไ่ ดก้ �ำหนดไว้ ซึง่ การออกแบบสื่อสงิ่ พมิ พส์ ามารถแบ่งได้เปน็ 6 ข้ันตอนดังนี้ (ปราโมทย์ แสงพลสทิ ธ์ิ, 2540,หน้า 174- 175) 1. ขนั้ ศกึ ษาขอ้ มูลหรอื ขน้ั ตีโจทย์ (identify) หมายถึง ขึน้ พนิ จิ พจิ ารณาเกี่ยวกับปัญหาของโจทย์ เพ่ือให้ เข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย โดยก�ำหนดรายละเอียดปลีกย่อยที่เกี่ยวข้องกับส่ิงท่ีลูกค้าหรือ โจทย์กำ� หนด รวมทั้งข้อจ�ำกัดและวธิ กี ารในการส่ือสาร 2. ขนั้ รา่ งแบบจ๋วิ หรือขัน้ ระดมคำ� ตอบ (preliminary) หมายถงึ ข้นั ตอนในการแสวงหาค�ำตอบในหลาย ๆ หนทางและหลาย ๆ วิธีการ เพื่อขยายแนวความคิดในการตอบปัญหานั้น ๆ ให้กว้างข้ัน วิธีการหาค�ำตอบในข้ันน้ี 30
ความรู้เบอ้ื งต้นเกีย่ วกับการผลิตส่อื สง่ิ พิมพด์ ้วยคอมพวิ เตอร์ ถือเป็นขนั้ ตอนแรกที่จะปรากฏ ออกมาเป็นรปู วาดคร่าว ๆ ขนาดเลก็ (thumbnail) บางกลุ่มนิยมเรยี กวา่ “แบบสเก็ตซ์ ขนาดเล็ก” (thumbnail sketch) หรอื บางกลุ่มเรยี กวา่ “เลยเ์ อาท์ขนาดเล็ก” (thumbnail layout) 3. ขน้ั ร่างแบบหยาบ หรือข้ันจดั กลุ่มคำ� ตอบ (refinement) หมายถงึ ขนั้ ตอนคัดเลือกค�ำตอบทม่ี ีลักษณะ ใกลเ้ คยี งกนั เข้ากล่มุ เดียวกนั โดยคัดเลือกอนั ท่เี ด่นทส่ี ุดในแต่ละกลุม่ มาออกแบบใหม่เพมิ่ เตมิ เพ่ือแสดงรายละเอยี ด เพ่ิมข้ึน เช่น ขนาด การจัดวาง แบบตัวอักษรชนิดคร่าว ๆ และการใช้สี เรียกขั้นตอนการจัดกลุ่มค�ำตอบในขั้นนี้ว่า “สเกต็ ซ์หยาบ” (rough sketch) หรอื “เลยเ์ อาทแ์ บบหยาบ” (rough layout) กไ็ ด้ 4. ขน้ั ร่างแบบละเอยี ดหรือขนั้ ค�ำตอบที่สมบรู ณ์ (analyze) หมายถึง ข้นั ตอนท่ีเกยี่ วขอ้ งกับการประเมิน และตรวจสอบเกี่ยวกับรายละเอียดของรูปแบบท้ังหมด ในส่วนของรายละเอียดเก่ียวกับตัวอักษร การจัดวางภาพ ประกอบ การใช้สี การเจียนตัด และการประกอบหน้า ฯลฯ โดยนักออกแบบกราฟิก จะต้องท�ำการออกแบบให้มี ลักษณะใกล้เคียงความจริง เรียกว่า “คอมพรีเฮนสีฟ สเก็ตซ์” (comprehensive sketch) หรือ “คอมพรีเฮนสีฟ เลย์เอาท์” (comprehensive layout) เพื่อเลือกค�ำตอบท่ีดีที่สุดจากขั้นท่ีดีที่สุดจากข้ันจัดกลุ่มค�ำตอบโดยวิธีการ เปรียบเทยี บและตัดสนิ ใจเพยี งค�ำตอบเดยี ว 5. ข้ันจัดทำ� ตน้ ฉบบั งานออกแบบสิง่ พมิ พห์ รอื กราฟิก เรยี กวา่ ขั้นตดั สนิ ใจ (decide) เป็นขนั้ ตอนสุดทา้ ย ในกระบวนการออกแบบทนี่ กั ออกแบบและผเู้ กย่ี วขอ้ งตดั สนิ ใจเลอื กใชช้ นิ้ งานใดชน้ิ งานหนงึ่ ทปี่ รากฏอยตู่ รงหนา้ ชน้ิ งาน ท่ีได้รับการคดั เลอื กจะถูกนำ� ไปสกู่ ารจัดทำ� ตน้ ฉบับทางการพมิ พ์ (artwork) ทเี่ ปรยี บเสมือนคำ� ตอบทีต่ รงกบั โจทยใ์ น ขัน้ ตอนแรก 6. ขั้นงานพิมพ์ส�ำเร็จ หรือข้ันการน�ำไปใช้ (implement) เป็นขั้นตอนของการน�ำค�ำตอบซ่ึงผ่านการ พจิ ารณาและคดั เลือกแล้วอยา่ งพิถีพิถนั ว่าเป็นค�ำตอบท่ดี แี ละสมบรู ณ์ที่สุดเพื่อนำ� ออกเผยแพรด่ ว้ ยส่ือชนิดตา่ ง ๆ เช่น ใบปลิว โปสเตอร์ นิตยสาร ฯลฯ กระบวนการจัดพิมพ์ การเรียงพิมพ์ หมายถึง การนำ� ตัวพมิ พ์มาจดั เรยี งต่อกันเปน็ ค�ำ วลี ประโยค โดยมีวรรคตอน ซ่ึงจะท�ำไปตาม (Lay out) ที่ วางไวซ้ ่ึงการเรยี งพมิ พม์ ีดว้ ยกนั 2 ระบบ คอื 1. การเรียงพิมพ์ด้วยมือ 1.1 ตรวจดูขยายหน้าพิมพ์ รูปแบบการจัดหนา้ รวมและตกแตง่ 1.2 ต้ังระยะบรรทดั ในสติ๊กหรอื รางจดั ตัวพมิ พ์ ให้ยาวเทา่ ต้นฉบบั 1.3 เรยี งตัวพมิ พจ์ ากขวาไปซา้ ย 1.4 เมอื่ เรยี งเสรจ็ เอาเลตยาวเทา่ บรรทดั ตัวพมิ พ์ค่ันเพอื่ ถา่ งระยะหา่ งบรรทดั 1.5 เรยี งเสรจ็ พมิ พเ์ พ่ือพสิ ูจน์อกั ษร 31
วิชาการผลติ สอื่ ส่ิงพิมพ์ รหสั วชิ า 2204-2104 2. การเรียงพิมพ์ด้วยเคร่ืองจักร 2.1 การเรยี งแบบลุดโลว์ (Ludlow Typograph) ใช้แม่แบบหล่อตวั พมิ พ์จากทองแดงเรยี งด้วยมอื เม่ือเรยี งครองก็นำ� เขา้ เคร่อื งหลอ่ ออกเปน็ บรรทดั ตัวทองแดงจะแจกคนื เพ่ือ ใชเ้ รียงต่อใชเ้ ฉพาะหัวเรือ่ ง 2.2 การเรียงแบบโมโนไทป์ (Monotype) ประกอบด้วยเคร่ืองเรียง (Keyboard) เป็นแปน้ อักษรใช้ น้วิ กดเหมือนเครื่องพมิ พ์ดีดอีกเครอื่ ง คือ เคร่อื งหลอ่ โดยเอาม้วนกระดาษจากเคร่อื งเรียงมาหลอ่ 2.3 การเรียงแบบไลโนไทป์ (Linotype) เปน็ เครอ่ื งจกั รเสยี งและหล่อตวั พมิ พอ์ อกทลี ะบรรทดั เปน็ แทง่ เดียว โดยผสมการเรียงแบบลตุ โลวแ์ ละแบบโมโนไทปด์ ้วยกนั เรียงได้ 4,000-10,000 เอ็ม ท�ำใหไ้ มเ่ ปลืองเวลา 2.4 การเรยี งพมิ พ์ด้วยแสง (Photographic typesetting photo composition) เรียงด้วยการ ถา่ ยภาพตวั พมิ พท์ ลี ะตวั ใหแ้ สงผา่ นลงบนฟลิ ม์ หรอื แผน่ กระดาษอดั รปู เรยี กวา่ กระดาษโบรไมต์ ทลี ะตวั แลว้ ผสมเปน็ คำ� เหมาะสำ� หรบั ท�ำแม่พมิ พ์แบบออฟเซตและแบบกราววั ธ์ 2.5 การเรียงด้วยสมองกล (Computer) เป็นการสรา้ งตัวอักษรจากเครอ่ื งพิมพต์ วั อักษร (Printer) ซง่ึ มลี กั ษณะเปน็ จดุ เรยี งตอ่ กนั การเรยี งพมิ พต์ วั อกั ษรดว้ ยวธิ กี ารนส้ี ามารถเกบ็ ตน้ ฉบบั ไวใ้ นแผน่ บนั ทกึ ความจำ� คอมพวิ เตอร์ ท�ำให้สะดวกตอ่ การแก้ไขต้นฉบบั และการนำ� มาสงั่ ใหม่ ท�ำให้สามารถใช้พิสจู นอ์ กั ษรไปในตัวด้วย การท�ำรูปเล่มสื่อสิ่งพิมพ์ 1. ตัดเวียนใหไ้ ดข้ นาด 2. อาบพลาสตกิ โดยเฉพาะปกเพ่ือใหส้ วยงาม มักอาบดว้ ยนำ้� มนั วานชิ 3. ป้ัมทอง เช่น ตรา ตัวหนงั สือเพ่ือให้ดูเด่น 4. ป้มั นูน เช่น หวั จดหมายเพื่อใหด้ สู วยงาม 5. ปัม้ ขาดหรอื เจาะชอ่ งหนา้ ต่าง ๆ เช่น ซองจดหมายหรอื สตกิ๊ เกอร์ 6. การหกั สัน โดยเฉพาะสิ่งพิมพ์หนา ๆ 7. การพับ เพอื่ ใหเ้ ป็นรปู แบบและขนาดตามทีก่ ำ� หนด 8. การเกบ็ เล่มและเขา้ เล่ม แบ่งเปน็ - แบบมุงหลังคาหรือแบบเย็บอก คือ น�ำแต่ละยกมาซ้อนกันแล้วเย็บตรงกลางสันก่อนพับ หนา ไม่เกิน 100 หน้า - แบบใสสันทากาวหรือการเย็บสัน คือ เย็บแบบให้แต่ละยกซ้อนทับกันไปเร่ือง ๆ แล้วน�ำไป เข้าปกให้แข็งแรง - แบบเย็บกี่ น�ำกระดาษท่ีพับเป็นยกแล้วเย็บรวมกัน 2-3 ยกด้วยเชือกเป็นชุดแล้วเข้าเล่มอีกครั้ง - การเข้าเล่มแบบอื่น ๆ เช่น การร้อยด้วยลวดเกลียวหรือพลาสติก การเย็บด้วยด้ายและการร้อย ด้วยห่วง การพิสูจน์อักษร 1. เพ่ือท�ำให้เกิดความถูกต้องตรงกบั ตน้ ฉบบั 2. เพือ่ ดูการสะกดการนั ต์ 3. เพอื่ ดูตวั อกั ษร แบบและขนาดถูกต้อง 4. เพ่อื เชค็ ขนาดคอลัมนแ์ ละระยะบรรทดั 32
ความรู้เบอ้ื งต้นเกีย่ วกบั การผลติ สื่อส่งิ พิมพด์ ว้ ยคอมพวิ เตอร์ ข้อผิดพลาดที่เกิดจากการพิมพ์ - ผ้เู รยี งอกั ษรอาจเรียงผิดพลาด - ความผดิ พลาดจากต้นฉบบั - ใช้แบบอกั ษรผิด - ตัวสะกดหรอื ตัวการนั ต์ผดิ - ตรวจความเรยี บรอ้ ยข้นั สุดทา้ ย - ใช้ขนาดคอลัมนผ์ ิดหรอื ระยะบรรทัดไมเ่ หมาะสม 33
วิชาการผลิตส่อื สิ่งพิมพ์ รหสั วชิ า 2204-2104 สรุปสาระส�ำคัญท้ายบทที่ 1 สรปุ สาระส�ำคญั ความร้เู บอื้ งต้นเกีย่ วกับการผลติ ส่อื สงิ่ พิมพด์ ว้ ยคอมพวิ เตอร์ “สื่อสิ่งพิมพ์” ตามความคิดของผู้เขียนจึงมีความหมายว่า “การท�ำข้อมูลต่าง ๆ ในรูปแบบ สมุด หนังสือ กระดาษ หรอื วตั ถใุ ด พรอ้ มกบั ใสภ่ าพ นำ� มาสอื่ สาร ใหเ้ ขา้ ใจตรงกนั และมกี ารทำ� เปน็ ตน้ ฉบบั สง่ ตอ่ ไปทำ� สำ� เนา หลาย ๆ ฉบับ แล้วน�ำไปเผยแพรใ่ ห้ผอู้ นื่ ให้รับทราบขอ้ มูลตา่ ง ๆ ทต่ี ้องการจะสือ่ สาร” สื่อสง่ิ พิมพ์ มคี วามสำ� คญั ในปัจจุบันมาก ไมว่ ่าจะเปน็ หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ตลอดจนสถาบนั การศึกษา ต่างก็น�ำส่ือสิ่งพิมพ์มาช่วยให้เกิดความราบร่ืนในการท�ำงานเพื่อเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสาร และความรู้สารสนเทศ ที่ส�ำคัญให้กับทุกคน เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการสื่อสารไปในทิศทางเดียวกันในสังคม โดยแบ่งตามประเภทของ สือ่ สิ่งพมิ พ์ การออกแบบให้ส่ือสิ่งพิมพ์มีความสวยงามหรือมีความเหมาะสมถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของการใช้งานนั้น ถือว่าเป็นข้ันตอนท่ีส�ำคัญอีกขั้นหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ข้ันตอนโดยตรงของกระบวนการพิมพ์ก็ตาม แต่ก็นับว่ามีความ สำ� คญั มาก เพราะสง่ิ พมิ พใ์ นปจั จบุ นั มไิ ดม้ งุ่ ใหอ้ า่ นไดส้ อื่ ขอ้ ความไดเ้ พยี งอยา่ งเดยี ว แตย่ งั มงุ่ ใหม้ คี วามสวยงาม เออ้ื อำ� นวย ต่อการอ่าน จดจ�ำงา่ ยสะดุดตา และยงั มุ่งประโยชนท์ างการค้าอกี ดว้ ย การออกแบบจึงเข้ามามบี ทบาทต่อการพมิ พแ์ ละ ผลิตส่ือส่ิงพิมพ์อย่างมาก อาจกล่าวได้ว่าส่ือส่ิงพิมพ์น้ันเป็นผลผลิตของศิลปะและเทคโนโลยีในขณะเดียวกัน การวาง รูปแบบและการออกแบบที่ดีจะชว่ ยให้ส่ือสิ่งพิมพ์ดูมชี วี ติ ชีวาย่ิงข้นึ และไมน่ า่ เบือ่ หนา่ ยอกี ตอ่ ไป ดังน้ัน ขน้ั ตอนในการ ออกแบบสอ่ื สิง่ พมิ พ์เบ้อื งตน้ เคร่ืองมอื ที่เขา้ มาสมั พันธก์ ับการออกแบบสอื่ สิง่ พิมพใ์ ห้มีความสวยงามและเหมาะสมต่อ การใช้งานไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ 34
ความรู้เบอ้ื งตน้ เกย่ี วกับการผลิตสื่อสง่ิ พมิ พ์ด้วยคอมพิวเตอร์ คำ� ศพั ท์ บทที่ 1 ค�ำศพั ท์ ความหมาย Color สี Pocket Book หนังสอื ฉบับกระเป๋า Newspapers หนงั สือพิมพ์ Brochure โบวช์ วั ร์ Leaflet ใบปลวิ Folder แผ่นพับ Poster Bitmap ใบปดิ ประกาศ Raster ภาพแบบบิตแมป Vector ภาพแบบราสเตอร์ ภาพแบบเวคเตอร์ 35
วชิ าการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ รหสั วชิ า 2204-2104 ใบงานที่ 1.1 เรอื่ ง ความรู้เบอ้ื งต้นเกี่ยวกบั การผลิตสอ่ื สิง่ พิมพ์ดว้ ยคอมพวิ เตอร์ จุดประสงค์ 1. บอกความหมายของการน�ำเสนอขอ้ มูลไดถ้ ูกต้อง 2. บอกความสำ� คัญของการน�ำเสนอข้อมูลได้ถกู ต้อง 3. อธบิ ายประเภทของสอ่ื สง่ิ พิมพไ์ ด้ถูกต้อง กิจกรรม 1. ใหน้ กั เรียนหาตวั อยา่ งสอ่ื สง่ิ พิมพป์ ระเภทต่าง ๆ มาอย่างละ 1 ตวั อย่าง 2. ให้นักเรยี นน�ำตวั อย่างสื่อสง่ิ พิมพ์นำ� เสนอหน้าชั้นเรยี น เพยี ง 1 ประเภท 3. ใหน้ กั เรยี นทุกคน ประเมินผลการน�ำตวั อย่างของแตล่ ะคน ลงในแบบประเมนิ ผลท่ีครเู ตรยี มไวใ้ ห้ 36
ความรู้เบอ้ื งตน้ เก่ียวกับการผลติ สอื่ ส่งิ พมิ พด์ ว้ ยคอมพวิ เตอร์ ใบงานที่ 1.2 เร่ือง รูปแบบของภาพและไฟลภ์ าพ จุดประสงค์ 1. อธิบายหลักการน�ำภาพมาใช้งานส่อื ส่งิ พิมพไ์ ด้ถกู ต้อง 2. บอกรูปแบบของภาพไดถ้ กู ตอ้ ง 3. บอกรูปแบบของไฟลภ์ าพไดถ้ กู ต้อง กิจกรรม 1. ใหน้ ักเรยี นหาตัวอยา่ ง รปู ภาพ แบบตา่ ง ๆ มาอย่างละ 1 ตวั อยา่ ง 2. ใหน้ ักเรียนหาตวั อยา่ ง ไฟลภ์ าพ ทีม่ นี ามสกุลแตกต่างกนั มาอยา่ งละ 1 ตวั อยา่ ง 3. ใหน้ กั เรียนน�ำตัวอย่าง รูปภาพ และ ไฟล์ภาพ นำ� เสนอหนา้ ชนั้ เรียน อยา่ งละ 1 ตวั อย่าง 4. ใหน้ กั เรียนทกุ คน ประเมนิ ผลการนำ� ตัวอยา่ งของแต่ละคน ลงในแบบประเมินผลทีค่ รูเตรยี มไว้ให้ 37
วชิ าการผลติ สอื่ สิ่งพิมพ์ รหัสวชิ า 2204-2104 ใบงานที่ 1.3 เรื่อง หลักการใชส้ แี ละแสงในงานพมิ พ์ จดุ ประสงค์ 1. อธิบายหลักการใชส้ ีและแสงในงานพมิ พ์ไดถ้ ูกตอ้ ง กจิ กรรม 1. ให้นกั เรียนหาตัวอยา่ ง รปู ภาพ ที่มาจากการแสดงสี แบบ RGB และ แบบ CMYK มาอย่างละ 1 ตวั อย่าง 2. ใหน้ กั เรียนน�ำตวั อย่าง รปู ภาพ ทมี่ าจากการแสดงสี แบบ RGB และ แบบ CMYK หนา้ ชั้นเรยี น 3. ใหน้ กั เรียนทุกคน ประเมินผลการน�ำตัวอย่างของแต่ละคน ลงในแบบประเมินผลที่ครูเตรียมไว้ให้ 38
ความรเู้ บ้อื งตน้ เก่ยี วกบั การผลิตส่อื สิ่งพิมพ์ด้วยคอมพวิ เตอร์ แบบฝึกหัดท้ายบท บทที่ 1 ความรเู้ บ้ืองตน้ เกย่ี วกับการผลติ สอ่ื สิ่งพมิ พด์ ว้ ยคอมพิวเตอร์ ค�ำชี้แจง ให้นกั เรยี นตอบคำ� ถามต่อไปน้ี 1. อธิบายความหมายของสื่อสิง่ พมิ พ์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 2. อธบิ ายความสำ� คัญของสื่อส่ิงพมิ พ์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 3. บอกประเภทของสอื่ พร้อมความหมาย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 4. บอกข้อดี ข้อเสยี ของสือ่ หนังสือพิมพ์ มาอยา่ งละ 2 ขอ้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 5. บอกข้อดี ข้อเสียของส่ือทางไปรษณีย์ มาอย่างละ 2 ข้อ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 39
วชิ าการผลิตสือ่ ส่งิ พมิ พ์ รหสั วิชา 2204-2104 6. บอกขอ้ ดี ข้อเสียของสอ่ื นิตยสาร มาอยา่ งละ 2 ข้อ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 7. บอกขอ้ ดี ข้อเสียของสือ่ ปา้ ยโฆษณา มาอย่างละ 2 ขอ้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 8. บอกการวิเคราะห์กลมุ่ เป้าหมายมกี แี่ นวทางพร้อมอธบิ าย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 9. บอกจุดเดน่ จดุ ด้อยของไฟล์ภาพ มาสกั 3 ไฟล์ภาพ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 10. บอกความแตกตา่ งกันระหวา่ งโหมดสภี าพ RGB และ CMYK มาพอสังเขป ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 11. อธบิ ายองคป์ ระกอบของหลกั การออกแบบส่ือส่งิ พมิ พ์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 40
ความรูเ้ บอ้ื งตน้ เกยี่ วกับการผลติ ส่ือส่งิ พิมพด์ ้วยคอมพิวเตอร์ 12. บอกความหมายของเอกภาพและความกลมกลนื ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 13. บอกลักษณะทั้ง 3 ของความสมดุล ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 14. อธิบายความหมายของการจัดองคป์ ระกอบแบบ สัดสว่ น ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 15. บอกขน้ั ตอนของการออกแบบสอ่ื ส่งิ พิมพ์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 16. บอกความหมายของการจัดทำ� ต้นฉบบั งานออกแบบสือ่ สงิ่ พมิ พ์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 17. อธบิ ายกระบวนการจัดพิมพ์มกี ร่ี ะบบ อะไรบ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 41
วิชาการผลติ สื่อส่ิงพิมพ์ รหสั วชิ า 2204-2104 แบบทดสอบหลงั เรียน บทที่ 1 ความร้เู บอื้ งตน้ เกีย่ วกับการผลติ ส่ือสิ่งพิมพด์ ้วยคอมพิวเตอร์ คำ� สง่ั จงเลอื กค�ำตอบทถ่ี ูกที่สดุ เพยี งขอ้ เดียว 1. ข้อใดคอื สอื่ ส่งิ พมิ พ์อิเลก็ ทรอนกิ ส์ ก. บัตรเครดติ ข. Poster ค. E-Book ง. แผน่ พับ 2. ขอ้ ดีของปา้ ยโฆษณา ก. ดึงดูดความสนใจ ข. มีความจำ� กดั เรอ่ื งเวลาชดั เจน ค. มคี า่ ใช้จา่ ยตำ่� ง. ไม่มขี ้อกำ� จัดด้านความสงู 3. การวเิ คราะห์กลุ่มเปา้ หมายมกี ่แี นวทาง ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4 4. ข้อใดคอื การแบ่งตามลักษณะจิตวิทยา ก. อายุ เพศ อาชพี ข. ลักษณะถิ่นฐาน สภาพแวดล้อม ค. การศกึ ษา ทีอ่ ยูอ่ าศัย ง. ทัศนคติ ความเชื่อ 5. กรณีภาพถ่ายมรี ะยะไกลเกนิ ไป สิง่ ท่คี วรทำ� คอื ก. การบงั ภาพ ข. การปรับขนาดภาพใหเ้ ล็กลง ค. การนำ� ภาพมาขยายใหญ่ขึ้น ง. การลดความละเอียดของภาพ 42
ความร้เู บ้ืองตน้ เกี่ยวกับการผลิตสอ่ื ส่งิ พิมพด์ ว้ ยคอมพวิ เตอร์ 6. ข้อใดคอื นามสกลุ ของไฟลภ์ าพแบบบิตแมป ก. .wmf, .sav ข. .doc, xls ค. .wev, .web ง. .jpeg, .gif 7. จดุ เด่นหลัก ๆ ของไฟลภ์ าพ .TIFF คือ ก. ไฟล์ภาพขนาดใหญ่ ข. ไฟลภ์ าพมคี วามละเอียดสูง ค. สามารถนำ� ไปใชง้ านร่วมกับ Application อน่ื ๆ ได้ ง. ไฟลภ์ าพมคี วามคมชัดมาก 8. จุดด้อยของไฟลภ์ าพ GIF คอื ข้อใด ก. มขี นาดภาพเลก็ มาก ข. ท�ำภาพพืน้ ให้โปรง่ ใสได้ ค. ทำ� เป็นภาพเคลือ่ นไหวบน Web page ได้ ง. แสดงภาพไดเ้ พยี ง 256 สี 9. จุดเดน่ ของ ไฟลภ์ าพ .PNG คอื ข้อใด ก. บบี อดั ขอ้ มูลโดยไมเ่ สยี คณุ ภาพของภาพ ข. ทำ� ใหพ้ นื้ สีโปรง่ ใสได้ ค. เกบ็ บันทึกภาพสีได้ ง. ทำ� เปน็ เคลื่อนไหวได้ 10. โหมดสี CMYK คอื สใี ดบา้ ง ก. เหลอื ง เขยี ว ฟา้ ชมพู ข. เหลือง ชมพู ฟา้ ด�ำ ค. เหลือง เขียว ฟา้ ดำ� ง. เหลือง ชมพู เขยี ว ด�ำ 43
วิชาการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ รหัสวิชา 2204-2104 11. ในสายตาของผูร้ บั สารจะมองดหู นา้ กระดาษในทิศทางตัวอกั ษรใด ก. U ข. N ค. Z ง. V 12. การวางแผนกำ� หนดและชักจงู สายตาผู้รับสารคือการจดั วางองคป์ ระกอบใด ก. ทศิ ทางและการเคลอื่ นไหว ข. เอกภาพและความกลมกลนื ค. ความสมดุล ง. สัดส่วน 13. การจดั วางองค์ประกอบแบบอสมมาตรคอื ขอ้ ใด ก. ซ้ายและขวาจัดแบง่ เทา่ ๆ กัน ข. ซ้ายและขวาจดั แบ่งพนื้ ทีไ่ มเ่ ทา่ กนั ค. ถ่วงน�้ำหนักซา้ ยขวาเท่า ๆ กัน ง. ไมม่ ีขอ้ ใดถกู 14. การจัดวางองคป์ ระกอบแบบแผไ่ ปทกุ ทิศทาง คือข้อใด ก. สมดุลแบบรัศมี ข. สมดลุ แบบสมมาตร ค. สมดลุ แบบอสมมาตร ง. สมดลุ แบบสดั สว่ น 15. หวั กระดาษและซองจดหมาย ประกอบด้วย ก. ช่ือ สถานที่ ข. หมายเลขโทรศัพท์ และโทรสาร ค. ตราสัญลกั ษณ์ โลโก้ ง. ถูกทกุ ข้อทีก่ ลา่ วมา 44
ความรู้เบ้อื งต้นเกย่ี วกับการผลติ ส่ือสิง่ พมิ พด์ ้วยคอมพิวเตอร์ 16. ขอ้ ใดคอื งานออกแบบสง่ิ พิมพเ์ พื่อการน�ำเสนอขอ้ มลู ก. หนงั สือเลม่ เลก็ จดหมายข่าว ข. ไดเรคทรอรี่ หนงั สือค่มู ือ ค. บทความ สจู บิ ัตร รายการอาหาร ง. ถูกทกุ ขอ้ 17. “เลยเ์ อาท์ขนาดเล็ก” คอื ขน้ั รา่ งแบบใดในขั้นตอนการออกแบบสอ่ื ส่งิ พิมพ์ ก. ข้ันตโี จทย์ ข. ข้นั ระดมค�ำตอบ ค. ขนั้ จดั กลุม่ คำ� ตอบ ง. ขั้นคำ� ตอบทส่ี มบูรณ์ 18. “เลยเ์ อาทแ์ บบหยาบ” คอื ขอ้ ใด ก. ขน้ั ตโี จทย์ ข. ขั้นระดมคำ� ตอบ ค. ขัน้ จัดกลุ่มคำ� ตอบ ง. ขั้นคำ� ตอบทสี่ มบรู ณ์ 19. “คอมพรเี ฮนสพี สเกต็ ซ์” คอื ข้อใด ก. ขัน้ ตโี จทย์ ข. ข้ันระดมค�ำตอบ ค. ขนั้ จดั กล่มุ คำ� ตอบ ง. ขั้นคำ� ตอบที่สมบูรณ์ 20. การถ่ายภาพตัวพิมพ์ทลี่ ะตัวใหแ้ สงผา่ นลงบนฟิลม์ คอื การเรียงแบบใด ก. การเรยี งแบบลคุ โลว์ ข. การเรียงแบบโมโนไทป์ ค. การเรยี งพิมพด์ ว้ ยแสง ง. การเรียงด้วยสมองกล 45
วชิ าการผลติ สอ่ื สิ่งพมิ พ์ รหัสวิชา 2204-2104 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยที่ 1 ความรู้เบ้อื งตน้ เก่ียวกบั การผลติ สือ่ สิง่ พิมพ์ดว้ ยคอมพวิ เตอร์ 1. ขอ้ ใดคอื สือ่ สิ่งพมิ พอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์ ก. บัตรเครดิต ข. Poster ค. E-Book ง. แผน่ พับ 2. ข้อดขี องป้ายโฆษณา ก. ดึงดูดความสนใจ ข. มคี วามจ�ำกัดเรื่องเวลาชดั เจน ค. มคี ่าใชจ้ า่ ยต่�ำ ง. ไมม่ ขี อ้ ก�ำจัดดา้ นความสูง 3. การวเิ คราะห์กลุ่มเป้าหมายมีก่แี นวทาง ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4 4. ข้อใดคอื การแบง่ ตามลกั ษณะจติ วิทยา ก. อายุ เพศ อาชีพ ข. ลักษณะถน่ิ ฐาน สภาพแวดลอ้ ม ค. การศกึ ษา ท่อี ย่อู าศยั ง. ทศั นคติ ความเช่อื 5. กรณีภาพถ่ายมรี ะยะไกลเกนิ ไป สง่ิ ทคี่ วรทำ� คือ ก. การบงั ภาพ ข. การปรับขนาดภาพใหเ้ ลก็ ลง ค. การน�ำภาพมาขยายใหญข่ ้นึ ง. การลดความละเอียดของภาพ 46
ความรเู้ บ้ืองต้นเกยี่ วกบั การผลิตสอ่ื สง่ิ พมิ พ์ดว้ ยคอมพวิ เตอร์ 6. ขอ้ ใดคอื นามสกุลของไฟลภ์ าพแบบบติ แมป ก. .wmf, .sav ข. .doc, xls ค. .wev, .web ง. .jpeg, .gif 7. จดุ เดน่ หลัก ๆ ของไฟลภ์ าพ .TIFF คือ ก. ไฟลภ์ าพขนาดใหญ่ ข. ไฟล์ภาพมคี วามละเอียดสงู ค. สามารถนำ� ไปใชง้ านรว่ มกับ Application อน่ื ๆ ได้ ง. ไฟล์ภาพมีความคมชดั มาก 8. จดุ ดอ้ ยของไฟล์ภาพ GIF คอื ขอ้ ใด ก. มีขนาดภาพเล็กมาก ข. ทำ� ภาพพ้นื ให้โปร่งใสได้ ค. ท�ำเป็นภาพเคล่ือนไหวบน Web page ได้ ง. แสดงภาพไดเ้ พียง 256 สี 9. จุดเด่นของ ไฟลภ์ าพ .PNG คือข้อใด ก. บบี อัดข้อมูลโดยไมเ่ สยี คุณภาพของภาพ ข. ทำ� ให้พื้นสีโปร่งใสได้ ค. เกบ็ บันทึกภาพสีได้ ง. ท�ำเปน็ เคล่ือนไหวได้ 10. โหมดสี CMYK คอื สีใดบา้ ง ก. เหลอื ง เขียว ฟ้า ชมพู ข. เหลือง ชมพู ฟ้า ด�ำ ค. เหลือง เขียว ฟ้า ด�ำ ง. เหลอื ง ชมพู เขียว ด�ำ 47
วชิ าการผลิตสอื่ ส่งิ พมิ พ์ รหสั วิชา 2204-2104 11. ในสายตาของผู้รบั สารจะมองดูหน้ากระดาษในทิศทางตัวอกั ษรใด ก. U ข. N ค. Z ง. V 12. การวางแผนกำ� หนดและชกั จูงสายตาผู้รับสารคือการจดั วางองค์ประกอบใด ก. ทศิ ทางและการเคล่อื นไหว ข. เอกภาพและความกลมกลืน ค. ความสมดลุ ง. สดั สว่ น 13. การจดั วางองค์ประกอบแบบอสมมาตรคือข้อใด ก. ซา้ ยและขวาจดั แบง่ เทา่ ๆ กนั ข. ซา้ ยและขวาจดั แบง่ พน้ื ท่ีไม่เทา่ กนั ค. ถ่วงน�้ำหนกั ซ้ายขวาเท่า ๆ กัน ง. ไมม่ ขี อ้ ใดถูก 14. การจัดวางองค์ประกอบแบบแผไ่ ปทุกทิศทาง คือข้อใด ก. สมดุลแบบรศั มี ข. สมดุลแบบสมมาตร ค. สมดลุ แบบอสมมาตร ง. สมดลุ แบบสดั สว่ น 15. หัวกระดาษและซองจดหมาย ประกอบดว้ ย ก. ช่อื สถานที่ ข. หมายเลขโทรศพั ท์ และโทรสาร ค. ตราสัญลักษณ์ โลโก้ ง. ถกู ทกุ ข้อทก่ี ลา่ วมา 48
ความรเู้ บือ้ งต้นเกย่ี วกับการผลิตส่ือสง่ิ พิมพ์ดว้ ยคอมพวิ เตอร์ 16. ขอ้ ใดคืองานออกแบบสง่ิ พิมพ์เพอ่ื การน�ำเสนอข้อมลู ก. หนังสอื เล่มเล็ก จดหมายข่าว ข. ไดเรคทรอร่ี หนงั สือค่มู ือ ค. บทความ สจู บิ ตั ร รายการอาหาร ง. ถูกทุกขอ้ 17. “เลยเ์ อาทข์ นาดเล็ก” คือขนั้ รา่ งแบบใดในข้นั ตอนการออกแบบสือ่ สง่ิ พมิ พ์ ก. ขั้นตโี จทย์ ข. ขน้ั ระดมค�ำตอบ ค. ขน้ั จดั กลุม่ ค�ำตอบ ง. ข้ันค�ำตอบท่สี มบรู ณ์ 18. “เลยเ์ อาทแ์ บบหยาบ” คอื ข้อใด ก. ขั้นตีโจทย์ ข. ขน้ั ระดมค�ำตอบ ค. ขน้ั จัดกลมุ่ คำ� ตอบ ง. ข้นั คำ� ตอบทส่ี มบูรณ์ 19. “คอมพรีเฮนสพี สเก็ตซ”์ คือขอ้ ใด ก. ขั้นตโี จทย์ ข. ขัน้ ระดมค�ำตอบ ค. ขน้ั จดั กลุ่มคำ� ตอบ ง. ขั้นคำ� ตอบท่ีสมบูรณ์ 20. การถา่ ยภาพตัวพมิ พท์ ล่ี ะตัวใหแ้ สงผา่ นลงบนฟิล์ม คอื การเรยี งแบบใด ก. การเรียงแบบลคุ โลว์ ข. การเรียงแบบโมโนไทป์ ค. การเรยี งพิมพด์ ้วยแสง ง. การเรยี งด้วยสมองกล 49
Search