Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนวิชาคอมพิวเตอร์สารสนเทศเพื่องานอาชีพ

แผนการสอนวิชาคอมพิวเตอร์สารสนเทศเพื่องานอาชีพ

Description: แผนการสอนวิชาคอมพิวเตอร์สารสนเทศเพื่องานอาชีพ

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าคอมพวิ เตอรส์ ารสนเทศเพอื งานอาชพี ปการศึกษา 2564 จดั ทําโดย นายตา ุลอารฟี น เละดวุ ี วทิ ยาลัยเทคโนโลยสี นั ติวทิ ยส์ งขลา สาํ นกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา

แผนการจดั การเรยี นรู้ รหสั วชิ า 20001-2001 ชื่อวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพือ่ งานอาชีพ ประเภทวิชาพาณิชยกรรม กลมุ่ สมรรถนะ วชิ าชพี พนื้ ฐาน หลกั สตู รประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) พุทธศักราช 2562 จดั ทำโดย นาย ตาญุลอารีฟีน เละดวุ ี ปกี ารศึกษา 2563 วิทยาลัยเทคโนโลยีสันติวิทย์สงขลา อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา

20001-2001 ชอ่ื วิชาคอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่ืองานอาชพี 1-2-2 จุดประสงคร์ ายวชิ า 1. เพ่ือให้เข้าใจหลักการและกระบวนการด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่องานอาชีพ การใชโ้ ปรแกรมสำเรจ็ รูป การใช้อนิ เทอร์เน็ตและการสอ่ื สารขอ้ มลู สารสนเทศในงานอาชีพ 2. เพื่อให้สามารถสืบค้นและสื่อสารข้อมูลโดยใช้อินเทอร์เน็ต ใช้ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์และ โปรแกรมสำเร็จรปู ตามลักษณะงานอาชีพ 3. เพื่อใหม้ คี ุณธรรม จริยธรรมและความรบั ผดิ ชอบในการใชค้ อมพิวเตอรก์ บั ระบบสารสนเทศ สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรู้เก่ียวกับหลักการและกระบวนการใช้คอมพิวเตอร์ ระบบสารสนเทศ ระบบปฏิบัติการ โปรแกรมสำเร็จรปู และอนิ เทอรเ์ นต็ เพอื่ งานอาชีพ 2. ใช้ระบบปฏิบัติการในการจัดสภาพแวดลอ้ มและจดั สรรทรัพยากรตา่ งๆ บนเครือ่ งคอมพิวเตอร์ 3. ใช้โปรแกรมสำเรจ็ รปู ในงานอาชพี ตามลักษณะงาน 4. สบื คน้ ข้อมูลสารสนเทศในงานอาชพี โดยใช้อนิ เทอรเ์ น็ต 5. สือ่ สารขอ้ มลู สารสนเทศโดยใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ต คำอธบิ ายรายวชิ า ศึ ก ษ าแ ล ะป ฏิ บั ติ เก่ี ย วกั บ ก ารใช้ ค อ ม พิ วเต อ ร์แ ล ะระ บ บ ส ารส น เท ศ เพ่ื อ งาน อ าชี พ การใช้ระบบปฏิบัติการ (Windows หรือ Mac OS) การใช้โปรแกรมประมวลผลคำเพ่ือจัดทำเอกสารในงาน อาชีพ การใช้โปรแกรมตารางทำการเพื่อการคำนวณในงานอาชีพ การใช้โปรแกรมการนำเสนอผลงาน หรือ การใช้โปรแกรมสำเร็จรูปอ่ืนๆ ตามลักษณะงานอาชีพ การใช้อินเทอร์เน็ตสืบค้นข้อมูลเพ่ืองานอาชีพและการ ส่ือสารข้อมูลสารสนเทศ ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ จริยธรรมและความรับผิดชอบในการใช้ คอมพิวเตอร์กับระบบสารสนเทศและงานอาชพี

ตารางวิเคราะหค์ ำอธบิ ายรายวิชา ชือ่ วิชา คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพอื่ งานอาชพี รหสั วชิ า 20001-2001 จำนวน 2 หนว่ ยกิต ระยะเวลาเรียน 18 สัปดาห์ จำนวน 2 ช่ัวโมง / สัปดาห์ รวมจำนวน 36 ช่ัวโมง ลำดับ พฤตกิ รรมทค่ี าดหวังต่อการเรยี นการสอน 1 ครั้ง ท่ี ช่ือหน่วยการเรียนรู้ ความรู้ ทกั ษะ จิตพสิ ัย นำ้ หนัก รวม คะแนน (ชม.) 1 การใช้คอมพวิ เตอรแ์ ละระบบสารสนเทศเพื่องานอาชพี 14 1 6 2 2 การใช้ระบบปฏิบตั ิการ Windows 2 5 3 10 6 3 การใช้โปรแกรมประมวลผลคำเพ่อื จดั ทำเอกสารในงาน 2 5 3 10 6 อาชีพ 4 การใช้โปรแกรมตารางทำการเพอ่ื การคำนวณในงาน 1 4 3 8 4 อาชีพ 5 การใชโ้ ปรแกรมการนำเสนอผลงาน 14 3 8 4 6 การใชโ้ ปรแกรมจัดการฐานข้อมูล 14 3 8 4 7 การใช้อนิ เทอรเ์ นต็ เพ่ือสืบค้นและส่อื สารข้อมูล 14 3 8 4 สารสนเทศในงานอาชีพ 8 ผลกระทบของการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ 1 3 262 3 262 9 จริยธรรมและความรบั ผิดชอบในการใชค้ อมพิวเตอร์ 1 30 2 และสารสนเทศในงานอาชพี 100 36 การประเมินผลการเรยี น รวม

กำหนดการสอน หน่วยการ ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้/รายการสอน สัปดาห์ จำนวน เรียนรู้ที่ ที่ ช่วั โมง การใชค้ อมพวิ เตอร์และระบบสารสนเทศเพื่องานอาชพี 12 1 การใช้ระบบปฏิบตั ิการ Windows 2-4 6 2 การใช้โปรแกรมประมวลผลคำเพอ่ื จดั ทำเอกสารในงานอาชีพ 5-7 6 3 การใชโ้ ปรแกรมตารางทำการเพอ่ื การคำนวณในงานอาชีพ 8-9 4 4 การใชโ้ ปรแกรมการนำเสนอผลงาน 5 การใช้โปรแกรมจดั การฐานข้อมูล 10-11 4 6 การใชอ้ นิ เทอร์เนต็ เพอ่ื สบื ค้นและสอ่ื สารข้อมลู สารสนเทศในงานอาชีพ 12-13 4 7 ผลกระทบของการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ 14-15 4 8 จริยธรรมและความรับผดิ ชอบในการใช้คอมพิวเตอร์และสารสนเทศในงานอาชพี 9 16 2 สอบปลายภาค 17 2 18 2 รวม 18 18

แผนการสอน ชอ่ื วิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ รหัสวิชา 20001-2001 ระดับช้ัน ปวช. 1 สาขาวิชา คอมพิวเตอร์ธรุ กิจ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 การใช้คอมพิวเตอรแ์ ละระบบสารสนเทศเพอื่ งานอาชพี เวลา 2 ช้วั โมง สาระสำคัญ คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มนุษย์ใช้เป็นเคร่ืองมือช่วยในการจัดการกับข้อมูลส่วน ระบบคอมพิวเตอร์หมายถึงองค์ประกอบที่จะทำให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ประกอบด้วย ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ขอ้ มลู และบุคลากร ระบบสารสนเทศเป็นระบบท่ีประกอบด้วยส่วนต่างๆ ได้แก่ ระบบคอมพิวเตอร์ ท้ังฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ระบบเครอื ข่าย ฐานข้อมูล ผู้พัฒนาระบบ ผู้ใช้ระบบ พนักงานท่ีเกี่ยวข้อง และผู้เช่ียวชาญในสาขา ทุกองคป์ ระกอบนท้ี ำงานร่วมกนั เพอื่ สร้างสารสนเทศและส่งผลลัพธ์หรือสารสนเทศที่ไดใ้ หผ้ ้ใู ช้ ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ได้มีขนาดเล็กและราคาถูกลง คนทั่วไปสามารถหามาใช้งานได้ ในหน่วยงานทั้ง ภาครัฐบาลและเอกชนได้มีการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในหน่วยงานมากข้ึนและมีแนวโน้มการใช้งานท่ีสูงข้ึน หลากหลายลักษณะ สมรรถนะประจำหนว่ ย 1. แสดงความรเู้ กี่ยวกบั คอมพิวเตอร์ หลักการทำงาน และองค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ 2. แสดงความรู้เกยี่ วกับการใช้คอมพิวเตอรแ์ ละระบบสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกความหมายของคอมพิวเตอร์ได้ 2. อธิบายหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์ได้ 3. บอกองคป์ ระกอบระบบคอมพวิ เตอร์ได้ 4. บอกความหมายของสารสนเทศได้ 5. บอกความหมายของระบบสารสนเทศได้ 6. บอกความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศได้ 7. บอกถงึ ลกั ษณะการนำคอมพิวเตอร์มาใชใ้ นงานอาชพี ได้ สาระการเรยี นรู้ ด้านความรู้ (k) นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความหมาย หลักการทำงาน องค์ประกอบระบบ คอมพวิ เตอร์ ระบบสารสนเทศและการใชค้ อมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศเพ่ืองานอาชพี มาใชใ้ นงานอาชีพ

ด้านทักษะ (P) นักเรียนสามารถอธิบายความหมาย หลักการทำงาน องคป์ ระกอบระบบคอมพวิ เตอร์ ระบบ สารสนเทศและการใชค้ อมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศเพื่องานอาชีพมาใชใ้ นงานอาชีพได้ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พง่ึ ประสงค์ (A) นักเรยี นมีความรบั ผิดชอบในการทำงาน กจิ กรรมการเรียนรู้ ( ช้ัวโมงท่ี 1-2 ) ด้านความรู้ (k) นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความหมาย หลักการทำงาน องค์ประกอบระบบคอมพิวเตอร์ ระบบสารสนเทศและการใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศเพื่องานอาชีพมาใช้ในงานอาชพี 1. ปฐมนิเทศการเรียนเพือ่ ทำความเขา้ ใจเกยี่ วกับวธิ ีการเรียนการสอน และการวดั ประเมินผล 2. ผ้สู อนสนทนากับผูเ้ รยี นเกยี่ วกบั การใชค้ อมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศเพื่องานอาชพี ท่ีผูเ้ รียน เคยได้รับรู้จากประสบการณ์ของแต่ละคน กระตุ้นโดยใช้คำถามและเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็น อยา่ งกว้างขวาง 3. ผู้สอนแบ่งกลุ่มผู้เรียนร่วมกันศึกษาเอกสารหนังสือเรียนวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องาน อาชีพ เร่ืองความรู้เบ้ืองต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (หนังสือเรียน หน้า 3-8) ความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับระบบ สารสนเทศ (หนังสือเรียน หน้า 8-10) การใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ (หนังสือเรียน หน้า 10-13) 4. ผู้สอนตั้งคำถามให้ผู้เรียนเสนอข้อมูลจากประสบการณ์เดิมที่รับรู้ในเร่ืองการใช้คอมพิวเตอร์และ ระบบสารสนเทศเพือ่ งานอาชพี ดังตัวอยา่ ง 4.1 ความรูเ้ บ้ืองต้นเกี่ยวกบั คอมพิวเตอร์ • คอมพิวเตอรค์ ืออะไร • คอมพิวเตอร์มีหลักการทำงานอย่างไร • คอมพิวเตอร์มีองค์ประกอบอะไรบา้ ง 4.2 ความรู้เบือ้ งตน้ เกย่ี วกบั ระบบสารสนเทศ • สารสนเทศหมายถงึ อะไร • ระบบสารสนเทศหมายถงึ อะไร • เทคโนโลยสี ารสนเทศคอื อะไร 4.3 การใช้คอมพวิ เตอร์และระบบสารสนเทศเพื่องานอาชพี • จงยกตัวอย่างการใชค้ อมพวิ เตอรแ์ ละระบบสารสนเทศในงานอาชีพ 5. ผู้เรียนแตล่ ะกลุ่มบันทึกผลจากการศกึ ษาตามหวั ขอ้ ทก่ี ำหนดลงผงั กราฟกิ (เลอื กออกแบบและใช้ ผงั กราฟิกให้เหมาะสมกับลกั ษณะของข้อมูล) ดังตวั อยา่ ง

ด้านทกั ษะ (P) นักเรียนสามารถอธิบายความหมาย หลักการทำงาน องค์ประกอบระบบคอมพิวเตอร์ ระบบ สารสนเทศและการใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศเพ่ืองานอาชพี มาใชใ้ นงานอาชพี ได้ 6. ผูเ้ รยี นร่วมกันจำแนก จัดกลุม่ และโยงสัมพันธ์ข้อมูลเรื่องการใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศ เพื่องานอาชีพ โดยจัดเป็นหมวดหมู่ตามที่รวบรวมได้จากเอกสารที่ศึกษาค้นคว้าและจากความคิดเห็นของ สมาชกิ ในกลมุ่ หรอื จากประสบการณข์ องตน 7. ผู้เรียนแต่ละคนปฏิบัติตามใบงานที่ 1 (หนังสือเรียน หน้า 15) จากน้ันนำข้อสรุปความรู้ความ เข้าใจท่ีไดแ้ ลกเปล่ยี นเรียนรู้ร่วมกันในชั้นเรยี นและการค้นคว้าหาความรเู้ พ่มิ เติมจากแหลง่ การเรียนรู้ภายนอก มากำหนดแนวปฏิบัตทิ ี่เหมาะสมกับตนเองหรอื สมาชกิ ในกลมุ่ 8. ผูเ้ รยี นแต่ละคนทำกิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ (หนังสอื เรยี น หน้า 14) จากนนั้ ทำแบบทดสอบ (หนังสือเรียน หน้า 16-17) แลกเปล่ียนกันตรวจให้คะแนน พร้อมท้ังทำแบบประเมินตนเอง (หนังสือเรียน หนา้ 18) และกำหนดแนวทางการพัฒนาตนเอง 9. ผู้สอนกับผู้เรียนร่วมกันสรุปและประมวลผลความรู้เกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์และระบบ สารสนเทศเพ่ืองานอาชพี ประเมนิ ผลการทำใบงานและเฉลยกจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจเพื่อให้ผู้เรยี นเขา้ ใจ ตรงกนั ผูส้ อนเปดิ โอกาสใหผ้ ้เู รยี นซักถามขอ้ สงสยั ด้านคณุ ลกั ษณะอันพ่ึงประสงค์ (A) นกั เรยี นมคี วามรบั ผดิ ชอบในการทำงาน ส่อื การเรยี นการสอน 1. หนงั สือเรยี นวิชาคอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ 2. สไลด์ประกอบการบรรยายตามเนื้อหา 3. แบบบนั ทกึ ผังกราฟิกแบบต่างๆ 4. สือ่ จากอินเตอร์เน็ต ภาระงาน/ชิ้นงานรวบยอดในหน่วยการเรยี นรู้ 1. กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 2. การปฏบิ ตั ิงาน (ใบงาน) 3. การประเมินตนเอง การวัดผลและประเมนิ ผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธกี าร คะแนน ด้านความรู้ (k) ถาม-ตอบ 1 นักเรียนมีความรคู้ วามเข้าใจเกี่ยวกับความหมาย หลักการทำงาน องค์ประกอบระบบ 4 แบบทดสอบ 1 คอมพิวเตอร์ ระบบสารสนเทศและการใชค้ อมพิวเตอรแ์ ละระบบสารสนเทศเพอ่ื งานอาชีพมาใช้ ในงานอาชีพ แบบประเมิน การทำงาน ด้านทักษะ (P) นกั เรยี นสามารถอธิบายความหมาย หลักการทำงาน องค์ประกอบระบบคอมพวิ เตอร์ ระบบสารสนเทศและการใชค้ อมพวิ เตอร์และระบบสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพมาใช้ในงานอาชีพได้ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพ่ึงประสงค์ (A) ครปู ระเมนิ ความรับผดิ ชอบในการทำงาน

บนั ทกึ หลังการสอน ผลการใช้แผนการสอน ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ผลการเรยี นของนักเรยี น ................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... . ผลการสอนของครู ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ลงช่ือ............................................ผู้สอน ลงช่ือ............................................ฝ่ายวชิ าการ นายตาญุลอารีฟีน เละดุวี นางสาวตว่ นนรู ีฮมั ตว่ นบือซา

กจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจที่ ๑ การใชค้ อมพิวเตอรแ์ ละระบบสารสนเทศเพอ่ื งานอาชพี คําส่งั จงตอบคําถามตอ่ ไปน้ี 1. จงอธิบายความหมายของคอมพิวเตอร์โดยสังเขป คอมพวิ เตอร์ หมายถึง อุปกรณท์ างอเิ ล็กทรอนกิ ส์ทีม่ นษุ ย์ใช้เปน็ เครื่องมือชว่ ยในการจดั การ กับข้อมูล ท่อี าจเปน็ ไดท้ งั้ ตวั เลข ตวั อกั ษร หรือสัญลักษณ์ที่ใช้แทนความหมายต่างๆ และยังสามารถกาํ หนดชดุ คําสง่ั หรอื โปรแกรมล่วงหน้าได้ ทําให้สามารถทํางานได้หลายรปู แบบ และสามารถนําไปประยุกต์ใชง้ านได้อย่าง กวา้ งขวาง หรืออื่นๆ ข้ึนอยกู่ ับดลุ ยพินจิ ของผูส้ อน 2. จงอธบิ ายหลักการทํางานของคอมพิวเตอรโ์ ดยสังเขป หลักการทํางานของคอมพิวเตอร์ มี 4 ส่วน คือ 1. ส่วนรับข้อมูล ทําหน้าที่รับข้อมูลจากหน่วยรับ ข้อมูล 2. หน่วยประมวลผลขอ้ มูล ทําหน้าท่ีประมวลผลกับข้อมูลเพ่ือแปลงให้อยใู่ นรูปอื่นตามต้องการ 3. ส่วน แสดงผล จะให้ผลลัพธ์จากการประมวลผลออกมายังหน่วยแสดงผลลัพธ์ และ 4. หน่วยความจํา เครื่อง คอมพวิ เตอรจ์ ะทําการเก็บผลลพั ธจ์ ากการประมวลผลไวใ้ นหนว่ ยเก็บข้อมูล เพ่ือสามารถนำมาใช้ได้ในอนาคต 3. จงอธบิ ายการทาํ งานหนว่ ยรับขอ้ มูล พร้อมยกตัวอยา่ งอุปกรณด์ า้ นรับข้อมลู หน่วยรับข้อมูล จะทําหน้าท่ีรับข้อมูลจากอุปกรณ์การรับข้อมูล และนําไปประมวลผล ตัวอย่าง อปุ กรณ์รบั ขอ้ มลู เชน่ คยี ์บอรด์ หรอื เมาส์ เปน็ ตน้ หรืออน่ื ๆ ข้ึนอยู่กับดลุ ยพินจิ ของผู้สอน 4. แทบ็ เล็ต หมายถึงอะไร แท็บเล็ตเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล มีขนาดเล็ก พกพาง่าย น้ําหนักเบา ไม่มีฝาพับ ไม่มี คีย์บอร์ด ส่งั งานด้วยการสัมผัสหนา้ จอ ปรบั หมุนหนา้ จอได้อัตโนมัติ แบตเตอร่ใี ช้งานได้นานกวา่ คอมพวิ เตอรพ์ กพาทว่ั ไป 5. องคป์ ระกอบของระบบคอมพิวเตอร์มีอะไรบ้าง องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วย ฮาร์ดแวร์ ซอฟตแ์ วร์ บคุ ลากร และข้อมลู 6. ซอฟตแ์ วร์หมายถึงอะไร มีกี่ประเภท อะไรบา้ ง ซอฟต์แวร์ คือ ชุดคําสั่งหรือโปรแกรมท่ีควบคุมการทํางานของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ซอฟต์แวร์ระบบ เป็นโปรแกรมท่ีควบคุมการทํางานของคอมพิวเตอร์ อีกทั้งยังเป็นสื่อกลาง ระหว่างโปรแกรมประยุกต์กับเคร่ืองคอมพิวเตอร์ และซอฟต์แวร์ประยุกต์ คือชุดคําส่ังหรือโปรแกรมท่ีเขียน ขน้ึ มา เพื่อใหเ้ คร่ืองคอมพวิ เตอรท์ าํ งานตามทผ่ี ้ใู ชต้ ้องการ 7. จงอธิบายความหมายของสารสนเทศโดยสงั เขป สารสนเทศ คือ ข้อมูลท่ีเป็นประโยชน์ต่อการดําเนินชีวิตของมนุษย์ เกิดจากการนําข้อมูลมา - ผ่าน การประมวลผล คาํ นวณ วเิ คราะห์ และแปลความหมายให้เปน็ ขอ้ มูลทส่ี ามารถนาํ ไปใชป้ ระโยชน์ได้ 8. จงอธบิ ายความหมายของระบบสารสนเทศโดยสังเขป ระบบสารสนเทศ คือ ระบบที่ประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ได้แก่ ระบบคอมพิวเตอร์ท้ังฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ระบบเครือขา่ ย ฐานขอ้ มูล ผู้ใชร้ ะบบ พนกั งานที่เก่ียวข้อง และผู้เช่ียวชาญในสาขา ทุกองค์ประกอบ น้ันทํางานร่วมกันเพ่ือสร้างสารสนเทศ และส่งผลลัพธ์หรือสารสนเทศท่ีได้ให้แก่ผู้ใช้เพ่ือช่วยสนับสนุนการ ทาํ งาน การวางแผน การควบคมุ การวเิ คราะหก์ ารตดิ ตามผลการดําเนนิ การขององค์กร 9. จงอธบิ ายความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศโดยสังเขป เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง เทคโนโลยีท่ีใช้จัดการสารสนเทศด้วยการใช้เทคโนโลยีท่ีเก่ียวข้อง จัดหาวิเคราะห์ ประมวล จัดการและจัดเก็บ การพิมพ์ การสร้างรายงาน การเรียกใช้หรือแลกเปล่ียนและ เผยแพรส่ ่ือสารขอ้ มูลดว้ ยระบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 10. นกั เรียนสามารถนําเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กบั การศึกษาได้อยา่ งไร ขึ้นอยกู่ ับดลุ ยพนิ ิจของผ้สู อน

แบบทดสอบหนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 การใช้คอมพวิ เตอรแ์ ละระบบสารสนเทศเพอื่ งานอาชีพ 1. ขอ้ ใดบอกความหมายของคอมพิวเตอร์ได้ถูกต้อง 6. เราสามารถนำเทคโนโลยสี ารสนเทศมาประยุกต์ใช้กับ 1. อปุ กรณอ์ เิ ล็กทรอนกิ สท์ ี่สามารถทำงานได้เอง การศึกษาได้ตามข้อใด 2. เคร่อื งมอื ชว่ ยในการจดั เก็บข้อมลู ไดจ้ ำนวนมาก 3. เครอ่ื งมือช่วยในการจดั การกบั ข้อมูลทสี่ ามารถ 1. นกั เรยี นสามารถใช้โทรศัพทม์ อื ถอื ในโรงเรียนได้ 2. เครือขา่ ย School Net กำหนดชดุ คำสั่งล่วงหน้า 3. ระบบข้อมูลทะเบียนราษฎร์ 4. อุปกรณไ์ ฟฟ้าท่ีสามารถนำมาใช้คำนวณได้ 4. การจองต๋ัวเครอ่ื งบินผ่านระบบเครือขา่ ย 5. เครื่องคำนวณขนาดใหญ่ เกบ็ ข้อมูลได้มาก 5. ระบบ e-Office 7. www มีความหมายตรงตามข้อใด 2. ข้อใดบอกถึงหนา้ ทหี่ นว่ ยประมวลผลกลางได้ถูกต้อง 1. บรกิ ารส่ือสารขอ้ มลู ในรปู แบบจดหมายบนเครือข่าย 1. รับข้อมูลจากอปุ กรณ์อนิ พุต คอมพวิ เตอร์ 2. ประมวลผลกบั ข้อมูล เพ่ือแปลงให้อย่ใู นรปู อื่นตามที่ 2. บรกิ ารเล่นเกมออนไลน์ 3. บริการที่ให้ผู้ใช้เปิดขอ้ มลู ในลกั ษณะเวบ็ ไซต์ ต้องการ 4. บริการติดตอ่ ส่อื สารขอ้ มูลบนเครอื ข่ายสังคม 3. ส่งผลจากการทำงานไปแสดงผล ออนไลน์ 4. ส่งขอ้ มูลจากผใู้ ช้เข้าสรู่ ะบบ 5. บรกิ ารอเี มล 5. วิเคราะหข์ อ้ มูลทรี่ ับเข้ามา 8. E-Mail มคี วามหมายตรงตามข้อใด 1. บริการสอื่ สารขอ้ มลู ในรปู แบบจดหมายบนเครือข่าย 3. ขอ้ ใดบอกถงึ องคป์ ระกอบระบบคอมพวิ เตอร์ได้ถูกต้อง คอมพวิ เตอร์ 1. ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และผใู้ ช้ 2. บรกิ ารเลน่ เกมออนไลน์ 2. ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และข้อมูล 3. บรกิ ารท่ีให้ผู้ใช้เปิดข้อมูลในลักษณะเว็บไซต์ 3. ฮาร์ดแวร์ พีเพิลแวร์และข้อมูล 4. บรกิ ารตดิ ตอ่ สอื่ สารข้อมูลบนเครอื ข่ายสงั คม 4. ฮารด์ แวร์ ซอฟต์แวร์ พเี พิลแวรแ์ ละข้อมลู ออนไลน์ 5. ฮารด์ แวร์ ซอฟแวร์ และพีเพลิ แวร์ 5. บรกิ ารแลกเปล่ยี นไฟลบ์ นเครือข่าย 9. Social Network มคี วามหมายตรงตามข้อใด 4. ซอฟต์แวร์ แบง่ เป็นประเภทใดบา้ ง 1. บริการส่ือสารข้อมูลในรูปแบบจดหมายบนเครือข่าย 1. Package Program และ User Program คอมพิวเตอร์ 2. ซอฟต์แวรร์ ะบบและซอฟตแ์ วรป์ ระยุกต์ 2. บรกิ ารเล่นเกมออนไลน์ 3. ระบบปฏิบัตกิ าร และUtility Program 3. บรกิ ารท่ใี หผ้ ้ใู ช้เปดิ ข้อมูลในลกั ษณะเว็บไซต์ 4. ระบบปฏิบัตกิ าร และโปรแกรมประยุกต์ 4. กล่มุ คนท่ีรวมตัวกนั เป็นสงั คม ทำกิจกรรมบน 5. โปรแกรมทที่ ำางานด้านควบคุมและโปรแกรม อนิ เทอรเ์ นต็ อรรถประโยชน์ 5. สังคมของผคู้ นในชนบท 10. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะการนำคอมพวิ เตอรม์ าใชใ้ น 5. ขอ้ ใดบอกความหมายของระบบสารสนเทศได้ถกู ต้อง สถานศึกษา 1. องค์ประกอบท่ที ำงานร่วมกันเพ่ือสร้างสารสนเทศ 1. การใชค้ อมพวิ เตอรเ์ ล่นเกมออนไลน์ 2. สารสนเทศที่แบง่ ออกเป็นสว่ นๆ แลว้ นำมารวมกัน 2. การใชค้ อมพวิ เตอร์เกบ็ ข้อมลู ลูกคา้ เพอ่ื ใชง้ าน 3. การใชค้ อมพิวเตอร์ออกแบบผลิตภัณฑ์ 3. ข้อมลู ทผี่ ่านการประมวลผลแล้ว 4. การใช้คอมพวิ เตอร์เพื่อการลงทะเบียนเรียน 4. ขอ้ มูลดบิ จากแหล่งกำเนิดข้อมลู หลายๆ แหลง่ 5. การใชค้ อมพวิ เตอร์เพอ่ื การสนทนาออนไลน์ 5. ขอ้ มลู ดิจทิ ัล

ใบงานท่ี ๑

แผนการสอน ช่ือวิชา คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ รหสั วชิ า 20001-2001 ระดับชัน้ ปวช. 1 สาขาวชิ า คอมพวิ เตอร์ธรุ กิจ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๒ การใช้ระบบปฏบิ ตั กิ าร Windows เวลา ๖ ช้ัวโมง สาระสำคญั ระบบปฏิบัติการ เป็นซอฟต์แวร์ท่ีทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ประยุกต์ ท่ัวไป มีหน้าที่ในการจัดสรรทรัพยากรในเครื่องคอมพวิ เตอร์ เพือ่ ใหบ้ ริการซอฟต์แวรป์ ระยกุ ตใ์ นการรับสง่ และ จัดเกบ็ ข้อมูลกบั ฮาร์ดแวร์ ระบบปฏิบัติการ Windows 10 เป็นระบบปฏิบัติการของบริษัท Microsoft ท่ีมีการจัดการและ ควบคุมการทำงานเคร่ืองคอมพิวเตอร์ โดยมสี ว่ นติดต่อกบั ผู้ใช้เป็นแบบกราฟกิ ออกแบบให้ใช้เป็นไปในแนวของ Metro User Interface มีคุณสมบัติท่ีเรียกว่า Live คือส่งข้อมูลข่าวสารแบบทันที ช่วยทำให้เราได้ตรวจสอบ ข้อมูลตา่ งๆ ตามต้องการโดยไมจ่ ำเป็นตอ้ งเรยี กแอปพลเิ คชันนั้นข้นึ มาใชง้ าน การติดตั้งแอปพลิเคชันสามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บอย่างเป็นทางการของ Microsoft ที่เรียกว่า Windows Store การปรับแต่งหน้าจอ Windows ให้เปน็ ไปตามความต้องการใชง้ านในรปู แบบตา่ งๆ สามารถ จัดการได้หลายส่วน การติดตั้งหรือเพ่ิมเติมฟอนต์ในระบบ Windows สามารถทำได้ตามความต้องการ ระบบปฏิบัติการ Windows จะมีโปรแกรมสำหรับจัดการไฟล์มาให้เสมอ ท้ังน้ีเพ่ือให้ผู้ใช้สามารถจัดการกับ ไฟล์ข้อมูล ไฟล์แอปพลิเคชัน ไฟล์วิดีโอ ไฟล์เพลง ไฟล์เกมได้อย่างสะดวก ซ่ึงเม่ือเปิดใช้งาน Windows Explorer ข้นึ มา หนา้ ตา่ งโปรแกรมจะมคี วามคลา้ ยกับโปรแกรม Microsoft Office สมรรถนะประจำหน่วย 1. แสดงความรูเ้ ก่ียวกบั หลกั การของระบบปฏิบตั ิการ Windows 2. ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ในการจัดสภาพแวดล้อมและจัดสรรทรัพยากรต่างๆ บนเคร่ือง คอมพวิ เตอร์ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกสว่ นประกอบระบบปฏบิ ตั ิการ Windows 10 ได้ 2. อธิบายการติดตง้ั และการถอนการตดิ ตง้ั แอปพลิเคชนั และโปรแกรมทวั่ ไปได้ 3. อธิบายการปรบั แต่งหน้าจอของ Windows 10 ได้ 4. อธิบายการติดตัง้ ฟอนตไ์ ด้ 5. อธิบายการจัดการไฟล์และโฟลเดอรไ์ ด้ 6. อธิบายถงึ การใชโ้ ปรแกรมชว่ ยงานตา่ งๆ ได้ 7. บอกการดแู ลรักษาและตรวจสอบเครื่องคอมพวิ เตอร์ได้ 8. อธบิ ายการใชเ้ ครอื่ งมือสำหรบั ผดู้ แู ลได้ 9. อธิบายการติดต้งั เครอ่ื งพมิ พ์ได้ 10. อธิบายการเช่อื มตอ่ ระบบเครอื ข่ายได้

สาระการเรยี นรู้ ด้านความรู้ (k) นักเรียนมคี วามรู้ความเข้าใจเก่ียวกับส่วนประกอบระบบปฏิบตั ิการ การติดต้ังและการถอนการ ติดต้ังแอปพลิเคชันและโปรแกรมท่ัวไป ปรับแต่งหน้าจอ การติดต้ังฟอนต์ การจัดการไฟล์และโฟลเดอร์ การใชโ้ ปรแกรมช่วยงานต่างๆ การดูแลรักษาและตรวจสอบเครือ่ งคอมพิวเตอร์ การใช้เคร่อื งมือสำหรับผู้ดูแล การตดิ ตั้งเครื่องพิมพแ์ ละการเชือ่ มตอ่ ระบบเครือข่าย ด้านทกั ษะ (P) นักเรียนสามารถอธิบายส่วนประกอบระบบปฏิบัติการ การติดต้ังและการถอนการติดต้ังแอป พลิเคชันและโปรแกรมท่ัวไป ปรับแต่งหน้าจอ การติดต้ังฟอนต์ การจัดการไฟล์และโฟลเดอร์ การใช้ โปรแกรมช่วยงานต่างๆ การดูแลรักษาและตรวจสอบเครื่องคอมพิวเตอร์ การใชเ้ ครื่องมือสำหรบั ผดู้ ูแล การ ตดิ ตั้งเครื่องพมิ พแ์ ละการเชือ่ มต่อระบบเครือขา่ ยได้ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพ่งึ ประสงค์ (A) นักเรียนมีความรบั ผดิ ชอบในการทำงาน กิจกรรมการเรยี นรู้ ( ชั้วโมงที่ 1-๖ ) ดา้ นความรู้ (k) นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับส่วนประกอบระบบปฏิบัติการ การติดตั้งและการถอนการติดตั้ง แอปพลิเคชันและโปรแกรมทั่วไป ปรับแต่งหน้าจอ การติดต้ังฟอนต์ การจัดการไฟล์และโฟลเดอร์ การใช้ โปรแกรมช่วยงานต่างๆ การดูแลรกั ษาและตรวจสอบเคร่ืองคอมพิวเตอร์ การใชเ้ คร่ืองมอื สำหรบั ผดู้ ูแล การ ติดต้งั เคร่ืองพมิ พแ์ ละการเชอื่ มต่อระบบเครือข่าย 1. ผู้สอนสนทนากับผู้เรียนเกี่ยวกับการใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ที่ผู้เรียนเคยได้รับรู้จาก ประสบการณข์ องแต่ละคน กระตนุ้ โดยใชค้ ำถามและเปดิ โอกาสใหท้ ุกคนได้แสดงความคดิ เหน็ อย่างกว้างขวาง 2. ผู้สอนแบ่งกลุ่มผู้เรียนร่วมกันศึกษาเอกสารหนังสือเรียนวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องาน อาชีพ เร่ืองระบบปฏิบัติการ (หนังสือเรียน หน้า 21) การใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 (หนังสือเรียน หน้า 21-23) การติดต้ังแอปพลิเคชันและโปรแกรมทั่วไป (หนังสือเรียน หนา้ 24-27) การปรับแต่งค่าระบบ ของ Windows 10 (หนังสือเรียน หน้า 27-32) การจัดการไฟล์และโฟลเดอร์ (หนังสือเรียน หน้า 32-36) Windows Accessories (หนังสือเรียน หน้า 37-40) การดูแล Windows (หนังสือเรียน หน้า 41-43) เครอ่ื งมอื สำหรับผู้ดูแล (หนังสือเรยี น หน้า 43-48) การตดิ ตัง้ เคร่ืองพมิ พ์ (หนังสือเรยี น หน้า 49-51) การเชอื่ มตอ่ ระบบเครอื ข่าย (หนงั สอื เรยี น หนา้ 52-53) 3. ผู้สอนต้ังคำถามให้ผู้เรียนเสนอข้อมูลจากประสบการณ์เดิมท่ีรับรู้ในเร่ืองการใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ดังตวั อยา่ ง ๓.1 ระบบปฏิบตั ิการ • ระบบปฏบิ ตั ิการคืออะไร ทำหน้าท่อี ะไรบ้าง ๓.2 การใชร้ ะบบปฏบิ ัติการ Windows 10 • สว่ นประกอบของระบบปฏิบัตกิ าร Windows 10 มีอะไรบา้ ง ๓.3 การตดิ ต้งั แอปพลเิ คชันและโปรแกรมท่วั ไป

• การตดิ ต้ังแอปพลิเคชนั และโปรแกรมทวั่ ไป มีข้ันตอนอย่างไร ๓.4 การปรับแต่งคา่ ระบบของ Windows 10 • Windows 10 สามารถปรับแตง่ คา่ ระบบได้อยา่ งไรบ้าง จงยกตัวอย่าง ๓.5 การจัดการไฟล์และโฟลเดอร์ • จงยกตวั อยา่ งการจดั การไฟล์และโฟลเดอรใ์ นระบบปฏบิ ัติการ Windows 10 ๓.6 Windows Accessories • จงยกตัวอย่างโปรแกรม Windows Accessories ๓.7 การดแู ล Windows • จงยกตัวอย่างวิธีการดูและรักษา Windows 10 และเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ผู้เรียน รู้จกั ๓.8 เครอื่ งมอื สำหรบั ผู้ดูแล • จงยกตัวอย่างเครื่องมอื สำหรับผูด้ แู ลระบบ และวธิ ีการใช้งานมาพอสงั เขป ๓.9 การตดิ ต้งั เครอ่ื งพิมพ์ • การตดิ ตัง้ เครื่องพิมพใ์ นระบบปฏบิ ัติการ Windows 10 มขี น้ั ตอนอย่างไร ๓.10 การเชอ่ื มต่อระบบเครือข่าย • การเชอื่ มตอ่ เครือขา่ ยในระบบปฏบิ ตั กิ าร Windows 10 มีขัน้ ตอนอยา่ งไร ๔. ผเู้ รียนแตล่ ะกลุ่มบนั ทึกผลจากการศึกษาตามหวั ข้อท่ีกำหนดลงผังกราฟิก (เลือกออกแบบและใช้ ผงั กราฟิกให้เหมาะสมกบั ลกั ษณะของข้อมูล) ดังตัวอย่าง ดา้ นทักษะ (P) นกั เรียนสามารถอธบิ ายส่วนประกอบระบบปฏิบตั ิการ การติดตงั้ และการถอนการติดตั้งแอปพลิเคชัน และโปรแกรมท่ัวไป ปรับแต่งหน้าจอ การติดต้ังฟอนต์ การจัดการไฟล์และโฟลเดอร์ การใช้โปรแกรม ช่วยงานต่างๆ การดูแลรักษาและตรวจสอบเคร่ืองคอมพิวเตอร์ การใช้เคร่ืองมือสำหรับผู้ดูแล การติดต้ัง เครอ่ื งพมิ พแ์ ละการเช่ือมตอ่ ระบบเครือข่ายได้ ๕. ผู้เรียนร่วมกันจำแนก จัดกลุ่ม และโยงสัมพันธ์ข้อมูลเร่ืองการใช้ระบบปฏิบัติการ Windows โดย จัดเป็นหมวดหมู่ตามที่รวบรวมได้จากเอกสารที่ศึกษาค้นคว้าและจากความคิดเห็นของสมาชิกในกลุ่มหรือจาก ประสบการณข์ องตน ๖. ผู้เรียนแต่ละคนปฏิบัติตามใบงานที่ 2.1-2.3 (หนังสือเรียน หน้า 55-59) จากนั้นนำข้อสรุป ความรคู้ วามเข้าใจท่ไี ดแ้ ลกเปลยี่ นเรียนรู้รว่ มกันในชน้ั เรยี นและการค้นคว้าหาความรเู้ พิ่มเตมิ จากแหล่ง การเรยี นรูภ้ ายนอกมากำหนดแนวปฏบิ ัตทิ ี่เหมาะสมกบั ตนเองหรือสมาชิกในกลมุ่

๗. ผู้เรียนแต่ละคนทำกิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ (หนังสือเรียน หน้า 54) จากนั้นทำแบบทดสอบ (หนังสือเรียน หน้า 61-62) แลกเปลี่ยนกันตรวจให้คะแนน พร้อมทั้งทำแบบประเมินตนเอง (หนังสือเรียน หน้า 63) และกำหนดแนวทางการพฒั นาตนเอง ๘. ผู้สอนกับผู้เรียนร่วมกันสรุปและประมวลผลความรู้เกี่ยวกับการใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ประเมินผลการทำใบงานและเฉลยกิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจเพ่ือให้ผู้เรียนเข้าใจตรงกัน ผู้สอนเปิดโอกาส ใหผ้ เู้ รยี นซกั ถามข้อสงสัย ด้านคุณลกั ษณะอนั พึ่งประสงค์ (A) นักเรียนมคี วามรับผิดชอบในการทำงาน ส่ือการเรยี นการสอน 1. หนังสือเรียนวิชาคอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชพี 2. สไลดป์ ระกอบการบรรยายตามเนอื้ หา 3. แบบบนั ทึก ผังกราฟิกแบบตา่ งๆ 4. สอ่ื จากอินเตอร์เน็ต ภาระงาน/ชนิ้ งานรวบยอดในหน่วยการเรยี นรู้ 1. กจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ 2. การปฏบิ ัตงิ าน (ใบงาน) 3. การประเมินตนเอง การวดั ผลและประเมนิ ผล จุดประสงค์การเรยี นรู้ วิธีการ คะแนน ถาม-ตอบ 2 ดา้ นความรู้ (k) นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับส่วนประกอบระบบปฏิบัติการ การ แบบทดสอบ 5 แบบประเมิน 3 ติดต้ังและการถอนการติดต้ังแอปพลิเคชันและโปรแกรมท่ัวไป ปรับแต่งหน้าจอ การทำงาน การติดต้งั ฟอนต์ การจดั การไฟล์และโฟลเดอร์ การใชโ้ ปรแกรมช่วยงานต่างๆ การ ดูแลรักษาและตรวจสอบเคร่ืองคอมพิวเตอร์ การใช้เครื่องมือสำหรับผู้ดูแล การ ตดิ ตงั้ เครือ่ งพิมพ์และการเช่ือมต่อระบบเครือขา่ ย ดา้ นทกั ษะ (P) นักเรียนสามารถอธิบายส่วนประกอบระบบปฏิบัติการ การติดตั้งและการ ถอนการติดตั้งแอปพลิเคชนั และโปรแกรมทั่วไป ปรบั แตง่ หนา้ จอ การติดตัง้ ฟอนต์ การจัดการไฟล์และโฟลเดอร์ การใช้โปรแกรมช่วยงานต่างๆ การดูแลรักษาและ ตรวจสอบเครื่องคอมพิวเตอร์ การใช้เครื่องมือสำหรับผู้ดูแล การติดตั้งเครื่องพิมพ์ และการเช่ือมต่อระบบเครอื ข่ายได้ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึ่งประสงค์ (A) ครปู ระเมนิ ความรบั ผดิ ชอบในการทำงาน

บนั ทึกหลังการสอน ผลการใชแ้ ผนการสอน ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ผลการเรยี นของนักเรียน ................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... . ผลการสอนของครู ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ลงช่ือ............................................ผูส้ อน ลงช่อื ............................................ฝ่ายวชิ าการ นายตาญุลอารีฟีน เละดุวี นางสาวตว่ นนูรีฮมั ตว่ นบอื ซา

กิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจที่ ๒ การใช้ระบบปฏิบัตกิ าร Windows คําสงั่ จงตอบคาํ ถามต่อไปนี้ 1. จงบอกความหมายและส่วนประกอบระบบปฏิบัตกิ าร Windows 10 โดยสังเขป หมายเลข 1 ปุ่ม Start สาํ หรบั เริ่มการทํางานเป็นจุดเรมิ่ ต้นในการเรยี กใช้งานโปรแกรมหรอื เรยี กใช้ งานคําสัง่ ตา่ งๆ หมายเลข 2 รายการโปรแกรม แสดงโปรแกรมท่ตี ดิ ต้งั ไวบ้ นคอมพวิ เตอร์ หมายเลข 3 Icon สญั ลักษณ์หรอื รูปภาพท่ีใชแ้ ทนโปรแกรม หมายเลข 4 Quick Launch เป็นไอคอนโปรแกรมที่ถกู ปักหมุด (Pinned) ไวท้ ี่ Task bar เพ่ือความ สะดวกในการเรยี กใชง้ านโปรแกรมที่ใช้งานบอ่ ย ON หมายเลข 5 Task bar เป็นแถบแสดงงานไฟล์เอกสาร หรือโปรแกรม ท่ีกําลงั ทาํ งานอยู่ หมายเลข 6 Tile เปน็ แผน่ สเ่ี หลย่ี มเหมือนแผน่ กระเบ้ืองนํามาปูไวก้ ับหน้า Start Screen ใชแ้ สดง แทนแอปพลเิ คชนั หมายเลข 7 Desktop เป็นพ้ืนทีห่ น้าจอหลัก สาํ หรับทํางานเหมือนกบั โต๊ะทาํ งานจริง หมายเลข 8 Notification Area เป็นส่วนแสดงไอคอนของโปรแกรมที่กําลังทํางานอยู่เบ้ืองหลัง 2. จงอธบิ ายการตดิ ต้ังและการถอนการตดิ ตัง้ แอปพลิเคชันและโปรแกรมท่วั ไปโดยสังเขป การติดต้ังแอปพลิเคชันจาก Microsoft Store ใหค้ ลกิ เลือก Install รอให้มีการดาวน์โหลดให้เสร็จส้ิน เมอื่ ติดต้ังแอปพลิเคชันเสร็จแล้วในหน้า Start Screen จะมี Tile ของแอปพลิเคชันปรากฏอยู่ สว่ นการ ติดต้ัง โปรแกรมท่ัวไปจะดับเบิลคลิกที่ไฟล์ติดตั้งที่ดาวน์โหลดมา จากน้ันให้คลิกปุ่ม Continue เพื่ออ่านข้อตก ลง และทาํ การติดตงั้ โปรแกรม การถอนการติดตั้งแอปพลเิ คชนั จาก Microsoft Store สามารถทําได้ทันทีดว้ ยการ คลิกขวาตรง Tile ของ 0 แอปพลิเคชันท่ีต้องการถอนออก ซ่ึงจะได้แถบคําสั่งสไลด์มาจากด้านล่าง ส่วนการ ถอนการติดตั้งโปรแกรมท่ัวไป (สามารถทําได้โดยเปิดหน้าต่าง Control Panel/Program/Programs and Features แลว้ คลิกเลอื กท่ีชื่อโปรแกรมที่ตอ้ งการถอนการตดิ ต้ัง จากนน้ั จึงคลกิ คาํ ส่ัง Uninstal/Change

3. จงอธบิ ายการปรับแต่งหน้าจอของ Windows 10 โดยสงั เขป การปรับแตง่ หน้าจอ Windows ให้เป็นไปตามความต้องการใชง้ านในรปู แบบตา่ งๆ สามารถจัดการได้ หลายสว่ น ดว้ ยการคลิกขวาท่ีหน้า Desktop และเลือกคําสั่ง Personalize จากนนั้ จะปรากฎหน้าตา่ ง Setting ขน้ึ มาแลว้ ทาํ การปรับแตง่ ตามทีต่ อ้ งการ 4. จงอธบิ ายการติดตง้ั ฟอนต์โดยสังเขป เปิดหน้าต่างฟอนต์จาก C:/Windows/Fonts หรือคลิก Start แล้วเลือก Control Panel/AI Control Panel Items/Fonts จะปรากฏหน้าต่างฟอนต์ขึ้นมา จากน้ันให้ลากไฟล์ฟอนต์ต่างๆ ที่ต้องการมา วางลงในหน้าต่างฟอนต์ อีกวิธีเป็นการใช้คําสั่งในเมนูลัดเพื่อติดตั้ง ซึ่งอาจจะติดตั้งได้ทีละหลายฟอนต์ ทําได้ โดย เลือกไฟลฟ์ อนตท์ ตี่ อ้ งการ จากนั้นคลิกขวาแล้วคลกิ เลอื กเมนู Install เพ่อื ตดิ ต้งั 5. จงอธิบายการสร้างโฟลเดอร์ การคดั ลอกไฟลห์ รือโฟลเดอร์โดยสังเขป การสร้างโฟลเดอร์สามารถทําได้โดยคลิกท่ีเมนู New folder จะปรากฏไอคอนโฟลเดอร์ใหม่ข้ึน จากนั้นให้พิมพ์ชื่อโฟลเดอร์ท่ีต้องการ แล้วกด Enter หรือใช้วิธีการคลิกขวาของเม้าส์ในตําแหน่งท่ีต้องการ สรา้ ง โฟลเดอร์ แล้วคลิกเลือกคําาสั่ง New/Folder จะปรากฏผลเช่นเดยี วกัน เมื่อตอ้ งการย้ายที่เกบ็ ไฟล์ หรือ ต้องการ ทําสําเนาไฟล์ไปเกบ็ ทอี่ ื่นๆ สามารถใชว้ ิธกี าร Drag Mouse หรือการลากแล้วปลอ่ ยไฟลห์ รือโฟลเดอร์ ท่ีต้องการ คัดลอก ด้วยการเปิดหน้าต่างโฟลเดอร์ต้นทางกับปลายทางข้ึนมาท้ัง 2 หน้าต่างเพ่ือให้มองเห็น เนือ้ หาท้ังสอง หนา้ ต่างได้ จากน้ันให้ Drag Mouse ไฟล์หรือโฟลเดอร์จากโฟลเดอร์แรกไปยังโฟลเดอรท์ ี่สอง 6. จงอธิบายการใช้ Snipping Tool จับหน้าจอโดยสังเขป Snipping Tool ใช้งานได้หลายรูปแบบ โดยเลือกคําสั่ง StartWindows Accessories/Shipping Tool จะปรากฏ โดยคลิกท่ีปุ่ม New จะปรากฏเมนูย่อยดังนี้ 1) Free-form Snip หมายถึงการจับภาพโดย การกําหนดกรอบแบบอิสระ 2) Rectangular Snip หมายถึงการจับภาพแบบกรอบสี่เหล่ียม 3) Window Snip หมายถึงการจับหน้าต่างที่กําลังทํางานด้วยอยู่ 4) Full-Screen Snip หมายถึงการจับภาพแบบเต็ม หน้าจอ เมื่อจับภาพท่ีต้องการแล้ว โปรแกรมจะแสดงหน้าตา่ งเฉพาะภาพท่จี ับเพ่ือให้บันทึกไฟล์ คัดลอกสง่ เมล์ หรือ ตกแต่งภาพไดท้ นั ที 7. จงบอกการดูแลรกั ษา ตรวจสอบเครือ่ งคอมพิวเตอรท์ ี่ถูกต้องโดยสังเขป ควรทําความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพ่ือไม่ให้ส่ิงสกปรกไปรบกวนการทํางานของเครื่อง ตรวจสอบสายไฟ สายสัญญาณต่างๆ ว่าหลวมหรือชํารุดหรือไม่ ตรวจสอบพื้นที่ว่างฮาร์ดดิสก์และ สภาพ ฮาร์ดดิสกใ์ ห้พรอ้ มใช้งาน รวมไปถึงตรวจสอบและอปั เดตโปรแกรมแอนตีไ้ วรสั อยา่ งน้อยอาทติ ยล์ ะ 1 คร้งั 8. จงอธบิ ายการใช้ Device Manager โดยสงั เขป ตอบ Device Manager หรือตวั จดั การอปุ กรณส์ ามารถเปิดได้ด้วยการคลิกขวาท่ีปุ่ม Start แล้วเลือก Device Manager หรือเปดิ จากการพิมพ์คําวา่ Device Manager ในชอ่ งค้นหา Search bar จะปรากฏ หนา้ ตา่ ง Device Manager ข้นึ มา และเม่อื คลิกขวาทีอ่ ุปกรณใ์ ด ๆ จะปรากฏคําสง่ั ขนึ้ มาใหเ้ ลือกจัดการกับ อปุ กรณ์น้ันๆ 9. จงอธิบายการตดิ ตั้งเครื่องพิมพโ์ ดยสงั เขป การติดตั้งเครือ่ งพิมพ์ให้เปดิ หนา้ ตา่ งเคร่ืองพิมพ์ขนึ้ มาโดยใช้คําส่ัง StartWindows System/Control Panel จะปรากฎหน้าต่าง Control Panel ในมุมมอง Category จะปรากฎหน้าต่าง Devices and Printers ให้คลิกเมนู Add a printer จากแถบเมนู ระบบจะทําการค้นหาเครื่องพิมพ์ จากนั้นทําการเลือกยี่ห้อและรุ่น

ของ เครื่องพิมพ์ ถ้าไม่ปรากฏในรายการให้เลือกให้คลิก Have Disk... และทาํ การ Browse หาไฟล์ Driver ใน Folders Drivers Printer โดยเมื่อเลือกได้แล้วให้ทําการกด Next จากนั้นให้ตั้งชื่อเครื่องพิมพ์ตามต้องการ โดยจะทําการแชร์เคร่ืองพิมพ์หรือไม่ก็ได้ เมื่อเพ่ิมเครื่องพิมพ์เสร็จจะปรากฏข้อความ You have successfully add Printer 10. จงอธิบายการเช่อื มต่อระบบเครือขา่ ยโดยสังเขป การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับระบบเครือข่ายส่วนใหญ่จะต้องเช่ือมต่อคอมพิวเตอร์ผ่านอุปกรณ์ กระจายสัญญาณท่ีเป็น Switch/Hub หรือ Access Point ของเครือข่ายไร้สาย จากนั้นกําหนดค่าการ เชื่อมต่อท่ีคอมพิวเตอร์ให้ถูกต้องตามข้อกําหนดของเครือข่ายน้ัน ๆ โดยการคลิกขวาที่ Start แล้วคลิกเลือก คําสั่ง Network Connections จะปรากฏหน้าต่าง Settings พร้อมแสดงสถานะการเชื่อมต่อเครือข่ายคลิก เมนู Ethernet ทางด้านซ้าย จะปรากฎสถานการณ์เช่ือมต่อเครือข่ายด้วยสายขึ้นมาซึ่งเราสามารถกําหนดค่า การ เชื่อมตอ่ ตา่ ง ๆ ได้โดยคลิกท่ี Change adapter options

แบบทดสอบหนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 การใช้ระบบปฏบิ ัติการ Windows 1. Tile ในหนา้ เรม่ิ ของ Windows 10 มคี วามหมายตรงตามขอ้ 6. ขอ้ ใดเปน็ วิธกี ารยา้ ยไฟล์หรอื โฟล์เดอร์ ใด 1. Drag Mouse จากตน้ ทางพร้อมกดปุ่ม Shift ไปวางยัง 1. โปรแกรมท่ีมคี วามสามารถจัดการกบั งานเฉพาะดา้ น ปลายทาง 2. โปรแกรมทท่ี ำหนา้ ที่เป็นผปู้ ระสานระหวา่ งผใู้ ช้ 2. ใช้คำส่ัง Ctrl+V กบั ตน้ ทางแล้วใชค้ ำสงั่ Ctrl+C ใน คอมพวิ เตอร์ และเครื่องคอมพวิ เตอร์ ปลายทาง 3. แผน่ สีเ่ หล่ยี มใชแ้ สดงแทนแอพ 3. Drag Mouse จากตน้ ทางไปวางยังปลายทาง 4. โปรแกรมแปลขอ้ ความจำนวนมาก ๆ จากภาษาหนงึ่ ไป 4. ดับเบิลคลกิ ทไ่ี ฟล์หรอื โฟลเดอร์ เป็นภาษาหน่งึ 5. ถูกทุกข้อ 5. แผ่นกระเบอ้ื ง 7. ในขน้ั ตอนการตดิ ต้ังโปรแกรมสว่ นใหญ่ ข้อความ “License 2. ข้อใดบอกถึงขน้ั ตอนการติดต้งั แอพจาก Windows Store ได้ Agreement” หมายถึงขอ้ ใด ถกู ตอ้ งทีส่ ุด 1. ข้อตกลงในการใช้งานโปรแกรม 1. Windows Store /คลิกเลอื กแอพ / ดาวน์โหลดและติดตง้ั 2. ความสมบูรณใ์ นการตดิ ตงั้ 2. Start / Windows Store /คลิกเลือกแอพ / ดาวนโ์ หลด 3. ตวั เลอื กเพอ่ื การตดิ ต้งั เพม่ิ เติม และติดตง้ั 4. ตวั เลอื กในการตดิ ต้งั 3. Windows Store / ติดต้ังแอพ 5. คำสงั่ เริ่มติดตั้งโปรแกรม 4. Start / Windows Store / ติดต้ังแอพ 8. เราสามารถติดต้ังเครือ่ งพมิ พ์ ด้วยวธิ ีการในขอ้ ใด 5. Start/Accessories/Microsoft Store/ติดตัง้ แอปพลิเค 1. ใชค้ ำสั่ง Start / Connect a Printer ชัน 2. ใช้คำส่ัง Start / Install Printer 3. ข้อใดบอกถงึ ขั้นตอนการกำหนดความละเอียดของหนา้ จอ ได้ 3. ใช้คำสง่ั Start แลว้ คลกิ Add a printer ถกู ต้องทสี่ ดุ 4. ใช้คำสั่ง Start / Devices and Printers แลว้ คลิก Add 1. Start / Display Settings / Resolution a printer 2. คลิกขวาท่ี Start / Display Settings / Resolution 5. ใช้คำสั่ง Start/Accessories/Connect a Printer 3. คลิกขวาท่ีเดสทอป / Display Settings / Resolution 9. ข้อใดเปน็ วธิ ีการเชื่อมต่อระบบเครือขา่ ยท่ถี กู ต้อง 4. คลิกขวาทเี่ ดสทอป / Personalize / Resolution 1. เชือ่ มตอ่ สาย→เปิด Browser→กำหนดค่าตาม 5. คลกิ ขวาที่ Display Settings/Resolution ขอ้ กำหนดในเครอื ข่าย 4. ขอ้ ใดไม่ใช่วิธีการตดิ ตัง้ ฟอนต์ 2. เชือ่ มตอ่ สาย→เปิด Browser 1. ดับเบ้ลิ คลิกท่ีไฟลฟ์ อนต์ จากนัน้ สามารถใชง้ านไดท้ ันที 3. เชอื่ มต่อสาย→กำหนดค่าตามข้อกำหนดในเครือข่าย 2. ลากไฟลฟ์ อนต์มาวางใน Control Panel / All Control 4. เปดิ Browser→เชื่อมต่อสาย→กำหนดคา่ ตาม Panel Items / Fonts ขอ้ กำหนดในเครือขา่ ย 3. เปิดหนา้ ตา่ งไฟล์ฟอนต์ แล้วคลิก Install 5. เชอื่ มตอ่ สาย→ใชง้ านไดท้ นั ที 4. เลือกไฟล์ฟอนต์ คลิกขวาแลว้ เลอื ก Install 10. โปรแกรม Disk cleanup มีประโยชนต์ ามขอ้ ใด 5. ดบั เบิลคลกิ ทไ่ี ฟล์ Install ของฟอนต์ 1. โปรแกรมชว่ ยจัดระเบยี บข้อมูลในดิสก์ 5. คำสั่ง Free-form Snip ของโปรแกรม Snipping Tool มี 2. โปรแกรมตรวจสภาพฮารด์ ิสก์ ความหมายตรงตามขอ้ ใด 3. โปรแกรมล้างขอ้ มลู ทีอ่ ยูใ่ นฮาร์ดดิสก์ 1. การจบั ภาพแบบกรอบสีเ่ หลย่ี ม 4. การกำจัดขอ้ มลู ที่ไม่ถูกใช้งาน ทำให้เคร่อื งทำงานเร็วขน้ึ 2. การจับภาพโดยการกำหนดกรอบแบบอิสระ 5. โปรแกรมจัดการงานทีก่ ำลังทำงานอยู่ 3. การจบั หน้าตา่ งทก่ี ำลังทำงานดว้ ยอยู่ 4. การจับภาพแบบเต็มหน้าจอ 5. การจับภาพแบบกรอบวงกลม



แผนการสอน ชื่อวิชา คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ รหัสวิชา 20001-2001 ระดับช้นั ปวช. 1 สาขาวิชา คอมพวิ เตอรธ์ ุรกจิ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ การใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคำเพ่ือจัดทำเอกสารในงานอาชีพ เวลา ๖ ชัว้ โมง สาระสำคัญ Microsoft Word เป็นโปรแกรมประเภทประมวลผลคำท่ีจัดอยู่ในประเภทของการพิมพ์เอกสาร เหมาะสำหรับการพิมพ์รายงาน พิมพ์จดหมาย หรือใช้สำหรับแต่งตำราท่ีสะดวกและรวดเร็ว และยังสามารถ ตกแต่งเอกสารให้สวยงามได้ตามที่ต้องการ เป็นหน่ึงในโปรแกรม Microsoft Office ซ่ึงมีพัฒนาการอย่าง ต่อเนื่อง โดยโปรแกรมจะมีคำส่ังและเครื่องมืออำนวยความสะดวกสำหรับผู้ใช้ในการสรา้ งและตกแต่งเอกสาร ให้ดูสวยงาม โดยเฉพาะในรุ่นใหมๆ่ สามารถสร้างเอกสารประเภทเวบ็ เพจทใี่ ช้ในอนิ เทอร์เนต็ ได้อกี ดว้ ย Microsoft Word เป็นโปรแกรมประมวลผลคำแบบพิเศษช่วยให้สร้างเอกสารอย่างมีประสิทธิภาพ และประหยัดเวลา เหมาะกับงานด้านการพิมพ์เอกสารทุกชนิด สามารถพิมพ์เอกสารออกมาเป็นชุดและยัง สามารถตรวจสอบ ทบทวน แก้ไข ปรับปรุงความถูกต้องในการพิมพ์เอกสารได้อย่างง่ายดาย สามารถ ตรวจสอบ สะกดคำและหลกั ไวยากรณ์ เพมิ่ ตาราง เพม่ิ กราฟิกในเอกสาร หรือเพม่ิ เติมข้อมลู ได้ตลอดเวลา สมรรถนะประจำหนว่ ย 1. แสดงความรู้เก่ยี วกบั โปรแกรมประมวลผลคำ (Microsoft Word 2016) 2. ใช้โปรแกรมประมวลผลคำ (Microsoft Word 2016) ในงานอาชีพตามลกั ษณะงาน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายการปรับแต่งและจัดรูปแบบเอกสารได้ 2. อธิบายการแทรกรูปภาพและกราฟิกได้ 3. อธบิ ายการสรา้ งตารางได้ 4. อธบิ ายการจดั รปู แบบเอกสารแบบพิเศษได้ 5. อธบิ ายการแทรก Smart Art และ Chart ได้ 6. อธิบายการสรา้ งจดหมายเวยี นได้ 7. อธิบายการตรวจทานเอกสารได้ 8. อธบิ ายการสรา้ งรายงานได้ 9. อธบิ ายการจัดเอกสารแบบพเิ ศษได้ 10. อธิบายการพิมพ์งานได้ สาระการเรียนรู้ ด้านความรู้ (k) นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับการปรับแต่งและจัดรูปแบบเอกสาร การแทรกรูปภาพ และกราฟิก การสร้างตาราง การจัดรูปแบบเอกสารแบบพิเศษ การแทรก Smart Art และ Chart การ สรา้ งจดหมายเวยี น การตรวจทานเอกสาร การจัดเอกสารแบบพิเศษและการพิมพ์งาน

ด้านทักษะ (P) นักเรียนสามารถอธิบายการปรับแต่งและจัดรูปแบบเอกสาร การแทรกรูปภาพและกราฟิก การสร้างตาราง การจัดรูปแบบเอกสารแบบพิเศษ การแทรก Smart Art และ Chart การสร้างจดหมาย เวยี น การตรวจทานเอกสาร การจัดเอกสารแบบพเิ ศษและการพมิ พง์ านได้ ด้านคุณลกั ษณะอนั พ่งึ ประสงค์ (A) นกั เรยี นมีความรับผิดชอบในการทำงาน กิจกรรมการเรยี นรู้ ( ช้ัวโมงท่ี 1-๖ ) ด้านความรู้ (k) นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับการปรับแต่งและจัดรูปแบบเอกสาร การแทรกรูปภาพและ กราฟิก การสร้างตาราง การจัดรูปแบบเอกสารแบบพิเศษ การแทรก Smart Art และ Chart การสร้าง จดหมายเวยี น การตรวจทานเอกสาร การจดั เอกสารแบบพิเศษและการพิมพ์งาน 1. ผู้สอนสนทนากับผู้เรียนเกี่ยวกับการใช้โปรแกรมประมวลผลคําเพ่ือจัดทําเอกสารในงานอาชีพ ท่ีผู้เรียนเคยได้รับรู้จากประสบการณ์ของแต่ละคน กระตุ้นโดยใช้คำถามและเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดง ความคดิ เหน็ อย่างกว้างขวาง 2. ผู้สอนแบ่งกลุ่มผู้เรียนร่วมกันศึกษาเอกสารหนังสือเรียนวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองาน อาชีพ เร่ืองความรู้เบ้ืองต้นเกี่ยวกับโปรแกรมประมวลผลคำ (หนังสือเรียน หน้า 66-73) การปรับแต่งและ จัดรูปแบบเอกสาร (หนังสือเรียน หน้า 73-76) การแทรกวัตถุ (หนังสือเรียน หน้า 77-80) การสร้างตาราง (หนังสือเรียน หน้า 81-87) การจัดรปู แบบเอกสารแบบพเิ ศษ (หนังสือเรียน หน้า 88-91) การแทรก Smart Art และ Chart (หนังสือเรียน หน้า 91-95) การสร้างจดหมายเวียน (หนังสือเรียน หน้า 95-98) การ ตรวจทานเอกสาร (หนังสือเรียน หน้า 98-100) การสร้างรายงาน (หนังสือเรียน หน้า 100-102) การจัด เอกสารแบบพเิ ศษ (หนงั สือเรยี น หน้า 103-104) การพิมพง์ าน (หนังสือเรยี น หนา้ 105-107) ฃ 3. 2. ผสู้ อนตง้ั คำถามใหผ้ ู้เรียนเสนอข้อมูลจากประสบการณเ์ ดมิ ที่รับรูใ้ นเรอื่ งการใช้โปรแกรม ประมวลผลคําเพื่อจดั ทาํ เอกสารในงานอาชีพ ดงั ตัวอยา่ ง 2.1 ความรเู้ บ้ืองต้นเกย่ี วกับโปรแกรมประมวลผลคำ • จงบอกส่วนประกอบของโปรแกรมประมวลผลคำ 2.2 การปรบั แต่งและจัดรปู แบบเอกสาร • การปรบั แต่งและจัดรปู แบบเอกสาร มวี ิธกี ารอยา่ งไร 2.3 การแทรกวตั ถุ • การแทรกวัตถุ มีวธิ กี ารอยา่ งไร 2.4 การสรา้ งตาราง • การสรา้ งตาราง มวี ิธีการอย่างไร 2.5 การจัดรปู แบบเอกสารแบบพเิ ศษ • การจัดรปู แบบเอกสารแบบพิเศษ มวี ิธีการอย่างไร

2.6 การแทรก Smart Art และ Chart • การแทรก Smart Art และ Chart มีวิธีการอย่างไร 2.7 การสรา้ งจดหมายเวยี น • การสร้างจดหมายเวียน มวี ิธีการอยา่ งไร 2.8 การตรวจทานเอกสาร • การตวรจทานเอกสาร มวี ธิ ีการอยา่ งไร 2.9 การสรา้ งรายงาน • การสรา้ งรายงาน มวี ิธกี ารอยา่ งไร 2.10 การจัดเอกสารแบบพเิ ศษ • การจัดเอกสารแบบพิเศษ มีวิธกี ารอย่างไร 2.11 การพิมพง์ าน • การพมิ พ์งาน มวี ธิ ีการอยา่ งไร ๔. ผู้เรียนแต่ละกลมุ่ บันทึกผลจากการศกึ ษาตามหัวข้อทีก่ ำหนดลงผังกราฟิก (เลอื กออกแบบและใช้ ผังกราฟิกใหเ้ หมาะสมกับลักษณะของข้อมลู ) ดังตวั อย่าง ด้านทกั ษะ (P) นักเรียนสามารถอธบิ ายการปรบั แตง่ และจัดรปู แบบเอกสาร การแทรกรูปภาพและกราฟิก การสร้าง ตาราง การจัดรูปแบบเอกสารแบบพิเศษ การแทรก Smart Art และ Chart การสร้างจดหมายเวียน การ ตรวจทานเอกสาร การจดั เอกสารแบบพเิ ศษและการพิมพง์ านได้ ๕. ผเู้ รียนร่วมกันจำแนก จัดกลมุ่ และโยงสัมพันธข์ ้อมูลเรื่องการใช้โปรแกรมประมวลผลคําเพ่ือจัดทํา เอกสารในงานอาชีพ โดยจัดเป็นหมวดหมู่ตามที่รวบรวมได้จากเอกสารที่ศึกษาค้นคว้าและจากความคิดเห็น ของสมาชิกในกลุ่มหรอื จากประสบการณ์ของตน ๖. ผู้เรียนแต่ละคนปฏิบัติตามใบมอบหมายงานที่ 3.1-3.3 (หนังสือเรียน หน้า 109-111) จากน้ัน นำข้อสรุปความรู้ความเข้าใจท่ีได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันในชั้นเรียนและการค้นคว้าหาความรู้เพ่ิมเติมจาก แหล่งการเรียนร้ภู ายนอกมากำหนดแนวปฏบิ ัติทีเ่ หมาะสมกับตนเองหรือสมาชิกในกลุ่ม ๗. ผู้เรียนแต่ละคนทำกิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ (หนังสือเรียน หน้า 108) จากน้ันทำ แบบทดสอบ (หนังสอื เรียน หน้า 112-113) แลกเปล่ยี นกันตรวจให้คะแนน พร้อมท้ังทำแบบประเมนิ ตนเอง (หนงั สือเรียน หน้า 114) และกำหนดแนวทางการพฒั นาตนเอง

๘. ผู้สอนกับผู้เรียนร่วมกันสรุปและประมวลผลความรู้เก่ียวกับการใช้โปรแกรมประมวลผลคําเพ่ือ จัดทําเอกสารในงานอาชีพ และเฉลยกิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจเพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจตรงกัน ผู้สอนเปิด โอกาสใหผ้ ู้เรยี นซักถามข้อสงสัย ด้านคุณลกั ษณะอนั พ่ึงประสงค์ (A) นกั เรียนมีความรับผิดชอบในการทำงาน ส่ือการเรียนการสอน 1. หนงั สือเรียนวิชาคอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ 2. สไลดป์ ระกอบการบรรยายตามเนือ้ หา 3. แบบบนั ทกึ ผงั กราฟกิ แบบตา่ งๆ 4. สือ่ จากอนิ เตอรเ์ น็ต ภาระงาน/ชน้ิ งานรวบยอดในหนว่ ยการเรียนรู้ 1. กจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ 2. การปฏบิ ตั ิงาน (ใบงาน) 3. การประเมนิ ตนเอง การวดั ผลและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วธิ กี าร คะแนน ถาม-ตอบ 2 ด้านความรู้ (k) นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปรับแต่งและจัดรูปแบบเอกสาร แบบทดสอบ 5 แบบประเมิน 3 การแทรกรูปภาพและกราฟิก การสร้างตาราง การจัดรูปแบบเอกสารแบบพิเศษ การทำงาน การแทรก Smart Art และ Chart การสร้างจดหมายเวียน การตรวจทานเอกสาร การจดั เอกสารแบบพเิ ศษและการพิมพ์งาน ดา้ นทักษะ (P) นักเรียนสามารถอธิบายการปรับแต่งและจัดรูปแบบเอกสาร การแทรก รูปภาพและกราฟิก การสร้างตาราง การจัดรูปแบบเอกสารแบบพิเศษ การแทรก Smart Art และ Chart การสร้างจดหมายเวียน การตรวจทานเอกสาร การจัด เอกสารแบบพิเศษและการพมิ พ์งานได้ ดา้ นคณุ ลักษณะอันพ่ึงประสงค์ (A) ครปู ระเมนิ ความรบั ผดิ ชอบในการทำงาน

บนั ทึกหลังการสอน ผลการใชแ้ ผนการสอน ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ผลการเรยี นของนักเรียน ................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... . ผลการสอนของครู ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ลงช่ือ............................................ผูส้ อน ลงช่อื ............................................ฝ่ายวชิ าการ นายตาญุลอารีฟีน เละดุวี นางสาวตว่ นนูรีฮมั ตว่ นบอื ซา

กจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจท่ี ๓ การใช้โปรแกรมประมวลผลคำเพอ่ื จดั ทำเอกสารในงานอาชีพ คําสั่ง จงตอบคาํ ถามต่อไปน้ี 1. จงอธบิ ายการปรับแต่งและจดั รปู แบบเอกสารมาพอสงั เขป 1) การกําหนดขนาดกระดาษทําได้โดยคลิกแท็บ Layout แล้วคลิก Size จากนั้นเลือกกําหนดขนาด ของกระดาษตามตอ้ งการ 2) การจัดย่อหน้า หรือ Paragraph ถ้าไม่มีเส้นไม้บรรทัด ให้คลิกแท็บ View แล้วทําเคร่ืองหมายถูก หนา้ Ruler จากน้ันให้เลือกชว่ งข้อมลู ท่ตี ้องการจดั รูปแบบย่อหน้า แลว้ นําเมาสไ์ ปชท้ี ่สี ัญลักษณ์ Indent บนไม้ บรรทัด แล้วลากไปวางตําแหน่งทต่ี ้องการ 3) การจัดแนวหน้าเอกสาร ทําได้ด้วยการคลึกแท็บ Layout คลึกที่ Orientation แลว้ เลือก Portrait หรือLandscape 4) การเลือกรูปแบบตัวอักษร กําหนดขนาดอักษร ตัวหนา ตัวเอียง ขีดเส้นใต้ ตัวห้อย ตัวยก เน้น ขอ้ ความและกําหนดสตี วั อกั ษรต่างๆ สามารถกาํ หนดค่าในกลมุ่ คําส่งั Font ของแทบ็ Home 5) การใส่ลําดับหัวข้อสามารถทําได้โดยเลือกช่วงข้อความท่ีต้องการใส่ลําดับหัวข้อจากนั้นคลิกเลือก รูปแบบลาํ ดับหัวขอ้ จากแทบ็ Home 2. จงอธบิ ายการแทรกรปู ภาพและกราฟิกมาพอสังเขป การแทรกรูปภาพประกอบเอกสารทําได้โดยคลิกท่ีแท็บ Insert เลือกคําส่ัง Picture จะปรากฏ ไดอะล็อกบ็อกซ์ Insert Picture จากน้ันให้เลือกไดร์ฟและโฟลเดอร์ท่ีเก็บไฟล์รูปภาพ คลิกที่ช่ือไฟล์รูปภาพ และ คลิกปุ่ม Insert การแทรกรูปร่างต่าง ๆ มีหลายกลุ่มให้เลือก เช่น รูปทรงสี่เหล่ียม สามเหล่ียม วงกลม เส้น ลูกศร ผังโครงสร้างหรือกล่องคําพูด ซ่ึงเมื่อคลิกเลือกรูปทรงต่าง ๆ แล้ว จะต้องลากกรอบเพื่อวาดรปู ทรง นน้ั ๆ ตามพนื้ ทที่ ีต่ อ้ งการ 3. จงอธิบายการสรา้ งตารางมาพอสังเขป การสรา้ งตารางเพ่ือแทรกลงในเอกสารทําได้โดย 1) คลิกท่ีแท็บ Insert คลิกคําสั่ง Table แล้วเล่ือนเมาส์ตามช่องตาราง เพ่ือกําหนดพ้ืนท่ีตารางให้ได้ ขนาดตามท่ตี ้องการแลว้ จึงคลิกเมาส์ จะปรากฏตาราง 2) คลิกเมนู Insert / Insert Table... จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ Insert Table ข้ึนมา ให้ใส่ตัวเลข บอกขนาดแถวและคอลัมน์กําหนดรูปแบบการจัดพอดีอัตโนมัติ และรูปแบบการปรับพอดีอัตโนมัติของตาราง ตามท่ตี ้องการ 4. จงอธิบายการจดั รปู แบบเอกสารแบบพิเศษมาพอสงั เขป วิธกี ารจัดรปู แบบเอกสารแบบพิเศษ สามารถทาํ ไดห้ ลายวธิ ี 1) การใช้งาน Themes สามารถทําได้โดยเปิดเอกสารที่ต้องการปรับเปล่ียน Themes ขึ้นมาจากนั้น คลิกแท็บ o Design คลิก Thermes จะได้หน้าต่างรูปแบบของ Thermes ให้เลือก ทดสอบโดยเลือกรูปแบบ ใดแบบหนึง่ ท้งั นก้ี ารตกแตง่ เอกสารด้วย Themes จะครอบคลมุ ไปถงึ รปู วาด สพี นื้ ตารางดว้ ย

2) การใส่ลายน้ําสามารถทําได้โดยคลิกที่แท็บ Design แล้วคลิก Watermark จะปรากฏรูปแบบการ ใสล่ ายนํ้าขน้ึ มาให้เลือก ให้คลิกท่รี ูปแบบทต่ี อ้ งการใช้ 3) การใส่สัญลักษณ์พิเศษ ให้คลิกเลือกสัญลักษณ์พิเศษท่ีต้องการ ซึ่งสัญลักษณ์พิเศษที่ถูกเลือกจะ ปรากฏ ทีต่ ําแหนง่ ของเคอรเ์ ซอรห์ รือถ้าตอ้ งการเลือกสญั ลักษณ์พเิ ศษเพิ่มเติมใหค้ ลิก More Symbols.ซงึ่ จะปรากฏ ไดอะลอ็ กบ็อกซ์ Symbol ขึ้นมาให้เลอื ก 4) การใสข่ อบกระดาษทาํ ไดโ้ ดยคลิกทีแ่ ท็บ Design คลิก Page Borders จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ Borders and Shading 5. จงอธิบายการแทรก Smart Art และ Chart มาพอสังเขป 1) การแทรก SmartArt ลงในเอกสาร เป็นวธิ ีท่ีมีรปู แบบคล้ายกบั การแทรกวตั ถุอน่ื ๆ ลงในเอกสาร โดยคลิกแท็บ Insert คลิกท่ี SmartArt จะปรากฏไดอะล็อกบอ็ กซ์ Choose a SmartArt Graphic จากนั้นให้ คลกิ เลือกรปู แบบ SmartArt ตามประเภท SmartArt ตามที่เลอื กจะปรากฏในเอกสารตามตาํ แหนง่ เคอรเ์ ซอร์ อตั โนมัติ 2) การแทรกแผนภมู ิทําไดโ้ ดยคลกิ แทบ็ Insert และคลิกเลือก Chart จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ Insert Chart ขึ้นมาให้เลอื กรูปแบบ จากนัน้ ให้เลือกประเภทของ Chart และรูปแบบ Chart ทีต่ อ้ งการ คลิก ปมุ่ OK จากนั้น จะปรากฏหนา้ ต่างตารางขอ้ มูลของ Chart ขึ้นมาใหใ้ สข่ ้อมูลและค่าตวั เลขตา่ ง ๆ ของ Chart ทตี่ อ้ งการแสดง ค่าใส่เข้าไป 6. จงอธิบายจดหมายเวียนมาพอสังเขป จดหมายเวียนหรือ Mail Merge เปน็ ลักษณะการสรา้ งจดหมายที่มเี น้ือหาเดียวกนั แต่สง่ ไปให้ผู้รับที่มี ชอ่ื และท่ีอย่แู ตกต่างกนั จึงทําใหก้ ารสรา้ งจดหมายเวียนมีความสาํ คัญและสะดวกกว่าการจัดทํา จดหมายส่งให้ ทีละคน การกําหนดให้เน้ือหาในจดหมายเป็นจดหมายเวียน ทําได้โดยคลิกแท็บ Mailings คลิก Start Mail Merge และคลิกเลือก Step by Step Mail Merge Wizard... จะปรากฏ Mail Merge Pane ด้านขวา ให้ คลิกเลือกรปู แบบเอกสารเป็น Letters แล้วคลกิ Next: Starting document จากนั้นทาํ ตามข้นั ตอนทกี่ าํ หนด 7. จงอธบิ ายการตรวจทานเอกสารมาพอสงั เขป 1) การแก้ไขคําผดิ ท่ีเกิดจากการพิมพ์ สังเกตไดจ้ ากเสน้ หยกสีแดงใต้คําหรือข้อความน้ัน คลิกขวาเพ่ือ เลอื กคําที่ถกู ตามคําแนะนาํ ของโปรแกรมได้ทันที 2) การค้นหาและแทนท่ขี ้อความ สามารถทาํ ไดโ้ ดยการใช้คาํ สงั่ Find และ Replace 3) การแปลภาษาสามารถใช้งานได้ทันที โดยเลือกคําที่ต้องการ คลิกแท็บ Review และคลิก Translate จะปรากฏผลการแปลภาษาข้ึนมาท่ี Task Pane ด้านขวา ให้คลิกเลือกภาษาท่ีแปลออกมาท่ีช่อง To แล้วพิมพค์ าํ ที่ตอ้ งการแปลท่ชี ่อง Search for แลว้ กดปมุ่ Enter 8. จงอธิบายการสรา้ งรายงานมาพอสงั เขป การใส่หัวกระดาษ หรือท้ายกระดาษ โดยคลิกท่ีแท็บ Insert แล้วคลิก Header หรือ Footerเลือก รปู แบบ แก้ไขตามต้องการ ดับเบิลคลิกทีห่ น้าเอกสารเพ่ือกลบั มาท่ีงานพิมพ์ปกติ การใสเ่ ลขหน้าโดยคลิก แท็บ Insert เลือก Page Number เลือกตําแหน่งและรูปแบบท่ีต้องการ กําหนดค่าของเลขหน้าด้วยคําสั่ง Format page Numbers. การสร้างสารบัญ โดยจัดรูปแบบหัวข้อเอกสารแบบ Heading คลิกแท็บ References คลิก

คําสั่ง Table of Contents เลือกรูปแบบท่ีต้องการ การสร้างปกรายงาน โดยคลิกแท็บ Insert เลือก Cover Page เลือกรปู แบบปก 9. จงอธบิ ายการจัดเอกสารแบบพเิ ศษมาพอสงั เขป การใส่ Drop Cap สามารถทําได้โดยคลิกข้อความในย่อหน้าที่ต้องการใส่ Drop Cap คลิกแท็บ Insert คลิกคําส่ัง Drop Cap คลิกเลือกรูปแบบ Drop Cap ที่ต้องการหรือคลิกคําส่ัง Drop Cap Options... ซ่ึงจะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซก์ ําหนดคา่ ต่าง ๆ ของ Drop Cap ข้ึนมา การกําหนดคอลัมน์ใหค้ ลิกแท็บ Layout คลิก Column แล้วเลือกรูปแบบคอลัมน์ที่ต้องการ หรือถ้าต้องการกําหนดรายละเอียดเพิ่มเติม ให้คลิกเลือก คําส่ัง More Columns. จะปรากฏไดอะลอ็ กบอ็ กซ์ Columns ข้ึนมา 10. จงอธบิ ายการพิมพ์งานมาพอสังเขป การสั่งพิมพเ์ อกสารมลี ักษณะเดยี วกบั การสงั่ พิมพ์ในโปรแกรมอืน่ ๆ ทต่ี ้องกําหนดขนาดกระดาษ เคร่อื งพมิ พ์ ขอบเขต และลกั ษณะการพิมพ์ตา่ ง ๆ





แบบทดสอบหนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 3 การใช้โปรแกรมประมวลผลคำเพื่อจัดทำเอกสารในงานอาชพี 1. บอกถึงลกั ษณะโปรแกรมประมวลผลคำเบ้ืองต้น ได้ 5. จดหมายอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ถกู ต้อง 6. ข้อใดเป็นวธิ กี ารสร้างตาราง ท่ีถกู ต้อง 1. โปรแกรมทเี่ นน้ การจัดพิมพเ์ อกสาร 1. Insert /Table ลากเม้าส์กำหนดขนาดตาราง 2. โปรแกรมตารางคำนวณ 2. Insert / Table ใส่เลขขนาดตาราง 3. โปรแกรมนำเสนอผลงาน 3. Table ลากเม้าส์กำหนดขนาดตาราง 4. โปรแกรมตกแต่งรูปภาพ 4. คลิก Insert Table 5. โปรแกรมสร้างเว็บโดยเฉพาะ 5. ถกู ทกุ ข้อ 2. ขอ้ ใดเปน็ วิธกี ารสร้างเอกสารใหม่ ในโปรแกรม Microsoft 7. ขอ้ ใดเป็นวิธกี ารแทรก Smart Art ที่ถกู ตอ้ ง Word 1. Insert / SmartArt เลือกช่วงข้อมลู ใน Excel 1. คลิกขวาทโี่ ฟลเ์ ดอร์ใดๆ เลือกคำสั่ง New / Folder 2. Insert / SmartArt เลือกชนดิ ไดอะแกรม ใส่ 2. เปิดโปรแกรม Microsoft Word คลกิ แทบ็ File เลือก ข้อความ คำส่ัง Open 3. Insert / SmartArt เลอื กชนิดขอ้ ความ 3. เปิดโปรแกรม Microsoft Word คลกิ แท็บ File เลอื ก 4. Insert / SmartArt เลอื กรปู แบบ คำสั่ง New 5. Insert / SmartArt เลอื กรปู ภาพ 4. ดับเบิลคลกิ ทไ่ี ฟล์เอกสารใดๆ 8. ขอ้ ใดเปน็ วธิ ีการแทรกแผนภมู ิ (Chart) ท่ถี กู ต้อง 5. คลกิ ขวาที่โฟล์เดอร์ใดๆ เลือกคำส่งั New / File 1. Insert / Chart กำหนดขอ้ มูลในตาราง 3. ขอ้ ใดเป็นวิธีการเลอื กข้อมูลแบบทง้ั บรรทดั ท่ีถกู ตอ้ ง 2. Insert / Chart เลอื กชนิดไดอะแกรม ใสข่ ้อความ 1. นำเมาส์ไปวางหนา้ บรรทัดของขอ้ มลู ที่ต้องการ ใหเ้ ป็น 3. Insert / Chart เลอื กชนดิ ข้อความ รปู  แล้วลากเมา้ สล์ ง 4. Insert / Chart เลือกรูปแบบ 2. นำเมาสไ์ ปวางในข้อมลู ท่ีต้องการ เป็นรปู ตัว I แล้วลาก 5. Insert / Chart เลอื กรปู ภาพ เมา้ สค์ ลุมช่วงข้อมลู 9. การใชค้ ำส่งั “Spelling & Grammar” มีความหมาย 3. นำเมาสไ์ ปวางหนา้ บรรทดั ของข้อมลู ทต่ี ้องการ ใหเ้ ปน็ ตรงตามข้อใด รปู  แลว้ ดบั เบลิ คลกิ 1. การนบั จำนวนคำตามท่ีเลือก 4. นำเมาส์ไปวางหนา้ บรรทัดของข้อมลู ทีต่ อ้ งการ ใหเ้ ป็น 2. การค้นหาคำตามหลักไวยากรณ์ 3. การตรวจทานคำสะกดว่าถกู ต้องตามหลักไวยากรณ์ รปู  แล้วคลิก 5. นำเมาสไ์ ปวางในข้อมลู ทีต่ ้องการ เปน็ รูปตัว I แลว้ ลาก หรอื ไม่ คลกิ 4. การแปลความหมายของคำตามหลักไวยากรณ์ 5. ถกู ทกุ ข้อ 4. ขอ้ ใดเป็นวธิ ีการแทรกเลขหนา้ ที่ถกู ต้อง 10. การกำหนดการพิมพ์ ช่วงหนา้ เปน็ : 1, 3, 7-9 มี 1. Layout / Page Number เลือกรูปแบบ ความหมายตามข้อใด 2. Insert / Header เลอื กรปู แบบ 1. พมิ พห์ นา้ 1 หนา้ 3 หน้า 7 และหน้า 9 3. Insert / Page Number เลอื กรูปแบบ 2. พิมพห์ นา้ 1 ถึงหน้า 9 4. Insert / Header เลอื กรปู แบบ 3. พมิ พ์หนา้ 1 หน้า 2 หน้า 3 หนา้ 7 หน้า 8 และ 5. Design / Page Number เลอื กรปู แบบ 5. ขอ้ ใดบอกความหมายของ Mail Merge ไดถ้ กู ต้องทส่ี ดุ หนา้ 9 4. พมิ พ์หน้า 1 หน้า 3 หนา้ 7 หนา้ 8 และหนา้ 9 1. การรวมไฟล์งานเข้าดว้ ยกัน 5. ถกู ทกุ ข้อ 2. การแยกไฟล์งานออกจากกัน 3. จดหมายท่มี ีหลายข้อความ สง่ ให้ผรู้ ับคนเดยี ว 4. จดหมายทมี่ ีเนื้อหาเดียว ส่งใหผ้ รู้ บั หลายคน



วทิ ยาลัยเทคโนโลยสี นั ติวทิ ยส์ งขลา สาํ นกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา