Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เทคนิคและวิทยาการจัดการเรียนรู้

เทคนิคและวิทยาการจัดการเรียนรู้

Published by worada ausajai, 2021-03-08 10:10:17

Description: บทที่.7 เทคนิคและวิทยาการจัดการเรียนรู้

Search

Read the Text Version

1

2

การจัดการเรียนรแู้ บบสืบสวนสอบสวน การจัดการเรยี นรู้แบบทางานรบั ผิดชอบรว่ มกนั การจัดการเรียนร้แู บบแบ่งกลุ่มทางาน การจัดการเรยี นรู้แบบระดมพลังสมอง การจัดการเรยี นรแู้ บบอุปนยั การจดั การเรียนรแู้ บบการลงมือปฏิบตั ิ การจัดการเรียนรู้แบบการสาธิต การจัดการเรยี นรแู้ บบ MIAP การจัดการเรยี นร้แู บบทมี การจดั การเรยี นรูแ้ บบใชส้ อ่ื 3

หมายถึง วิธีการ มาตรการในการจัดการเก่ียวกับ การเรียนการสอนซ่ึงมีหลากหลายวิธีด้วยกัน ผู้สอน สามารถคิดค้น พัฒนา สรรหา แลกเปลี่ยน เรียนรู้ สืบเสาะเทคนิคต่าง ๆ ซ่ึงมีอยู่มากมายสามารถเลือกใช้ ตามความเหมาะสม 4

5

6

ขนั้ ที่.2 การอธบิ าย (Explanation) ตั้งสมมตุ ฐิ านเพ่ืออธบิ ายความคดิ รูปแบบ ต่างๆ ในการแกป้ ญั หา ทบทวนความคดิ และทาความเขา้ ใจปัญหานัน้ ๆ ใหช้ ัดเจน 7

ขน้ั ท่ี.3 การทานาย (Prediction) ทานายหรือพยากรณ์ปัญหาท่อี าจเกิดขนึ้ ได้อกี ว่า เมอ่ื เกิดแลว้ จะเกดิ ผลอยา่ งไร และ แกไ้ ขอยา่ งไร 8

9

10

ขอ้ สังเกตของการจัดการเรียนรแู้ บบสบื สวนสอบสวน 1.ครูมีบทบาทสาคญั ในการจัดการเรยี นรูแ้ บบสืบสวนสอบสวน เนือ่ งจากครตู ้องปอ้ นคาถามให้กับนักเรียนเพือ่ นาไปสู่การคิดคน้ ควา้ 2.ครตู ้องใหโ้ อกาสนักเรียนทกุ คนอภิปราย วางแผน และกาหนดวิธีการแก้ปญั หาเอง 3.ปัญหาทีก่ าหนดเพื่อสืบสวนสอบสวนไมค่ วรยากเกนิ ความสามารถ ของนกั เรียนถ้าปัญหายากเกินไป ครตู อ้ งเตรียมการสาหรับ การร่วมแกป้ ญั หาไวด้ ้วย 11

2 ความมงุ่ หมายของการจดั การเรยี นรูแ้ บบแบง่ กลมุ่ ทางาน 1.เพื่อให้นกั เรยี นมีความรบั ผิดชอบรว่ มกันในการทางานน่ันคือสง่ เสรมิ การทางานเป็นทมี 2.เพอื่ สรา้ งวัฒนธรรมในการทางานร่วมกันอย่างมรี ะบบและมีระเบยี บวนิ ัย ร้จู ักทาหนา้ ทเี่ ปน็ ผนู้ าและผูต้ ามทด่ี ี 3.เพื่อฝกึ ทกั ษะในการแกป้ ัญหาตามวธิ ีการวทิ ยาศาสตร์ มีการศึกษาค้นควา้ และแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง โดยปฏบิ ัติงานทง้ั เปน็ รายบคุ คลและเปน็ กลุม่ 4.เพอ่ื ให้นกั เรียนได้ทางานตามความสนใจ ความถนดั และความสามารถ 5.เพ่อื ให้นกั เรยี นได้มีประสบการณต์ รงในการทางาน 12

ขั้นตอนการจดั การเรียนรแู้ บบแบง่ กลุ่มทางาน ในกรณีทีเ่ ป็น ของการ ครใู หส้ งั เกตพฤติกรรมของ ทางานในแต่ละกลุ่ม ข้ันตอนน้ีเป็น ขั้นที่กาหนดความมุ่งหมายและ นกั เรยี นในการปฏบิ ตั งิ านใน วธิ กี ารทางานอยา่ งละเอียด กรณีท่ีเป็นนกั เรียนให้ ได้แก่ บอกรายละเอียดของหนังสือท่ีใช้ ในการศึกษาค้นคว้านักเรียนร่วมกันวางแผน รว่ มกนั ประเมินผลการ และปฏบิ ัตงิ านตามท่ไี ด้รบั มอบหมาย ปฏบิ ัตงิ านในกลมุ่ ตนเอง โดยบอกขนั้ ตอนการ ปฏบิ ัตงิ าน ผลทไ่ี ดร้ บั และ การพัฒนางานในโอกาส ต่อไป 13

ข้อดขี องการจัดการเรยี นร้แู บบแบ่งกลมุ่ ทางาน 1.นักเรียนได้แสดงความคิดเห็นของตนเองอย่างเตม็ ท่ี 2.นักเรยี นไดท้ างานตามความถนดั ความสามารถ และความสนใจของตนเอง ขอ้ สงั เกตของการจัดการเรียนรูแ้ บบแบง่ กลมุ่ ทางาน 1.ครคู วรดูแลนกั เรียนใกลช้ ิด เช่น ตอ้ งดแู ลให้นกั เรียนทกุ คนทาหน้าที่ ตามท่ไี ด้รบั มอบหมาย 2.หนา้ ท่กี ารเป็นหัวหน้ากลมุ่ ควรหมุนเวยี นสับเปลย่ี นกนั ตามโอกาส เพือ่ ฝกึ การเป็นผนู้ า และการเปน็ ผตู้ ามทด่ี ี 3.การปฏบิ ัตกิ จิ กรรมในกลุม่ ควรปฏิบัติตามหลักเกณฑอ์ ยา่ งเคร่งครดั 14

การจดั การเรียนรู้แบบอปุ นัย 3 (Inductive Method) 15

ข้นั ตอนการจดั การเรียนร้แู บบอุปนยั 1.ขน้ั เตรยี มนกั เรยี น 2.ขน้ั เสนอตวั อยา่ งหรอื กรณีศกึ ษาตา่ ง ๆ 3.ขั้นหาองคป์ ระกอบรวม 4.ข้ันสรุปขอ้ สงั เกตตา่ ง ๆ 5.ขั้นนาข้อสรปุ หรอื กฎเกณฑ์ 16

1 นกั เรยี นได้รบั ก2ารฝึกทักษะ การคิดตามหลกั การเหตุผล นกั เรียนสามารถเขา้ ใจ และหลักวิทยาศาสตร์ รายละเอียดและหา 3 ขอ้ สรปุ ได้อยา่ งแจม่ แจง้ นักเรยี นเข้าใจวิธีการในการ แกป้ ญั หาและสามารถนาไปใช้ ทาใหจ้ ดจาได้นาน ในชวี ติ ประจาวนั ได้ดี 17

1.ในการสอนแตล่ ะขั้น ครูไม่ควรเรง่ รัดเวลาในการปฏบิ ัติกิจกรรมของ นกั เรียน ควรใหโ้ อกาสในการคดิ อย่างอิสระ 2.ครคู วรสร้างบรรยากาศในการเรียนการสอนท่ีไม่เป็นทางการบา้ ง เพ่อื ลดความเครียดและความเบ่อื หน่าย 3.การจัดการเรียนรู้แบบอุปนยั จะให้ผลสัมฤทธิส์ ูง ถ้าครูทาความเข้าใจทกุ ขนั้ ตอนอย่างดีกอ่ นจัดการเรียนรู้ 18

19

องค์ประกอบสาคญั (ท่ขี าดไม่ได)้ ของวธิ ีสอน 1. มีเรื่องหรือส่งิ ที่จะสาธิต 2. มีการแสดง/ การทา / ใหผ้ ู้เรยี นสังเกตดู 3. มผี ลการเรียนรขู้ องผูเ้ รียนท่เี กิดจากการสาธติ 20

1.ผูส้ อนแสดงการสาธติ ผเู้ รยี นสังเกตการสาธติ 2.ผสู้ อนและผู้เรยี นอภิปรายและสรปุ การเรียนรทู้ ไ่ี ด้จากการสาธติ 21

ต่อไปจึงจดั เตรยี มวัสดุอปุ กรณ์ เครอ่ื งมือ และสถานท่ี ที่จะใช้ในการสาธิต และจัดวางไวอ้ ย่างเหมาะสม สะดวกแกก่ ารใช้ นอกจากนัน้ ควรจดั เตรียมแบบ สังเกตการสาธติ และเตรยี มคาถามหรอื ประเดน็ ท่จี ะ ให้ผ้เู รียนได้รว่ มคดิ และอภิปรายดว้ ย 22

23

24

25

ขอ้ ดแี ละข้อจากัดของวิธสี อนโดยใชก้ ารสาธิต 1) เปน็ วิธีสอนท่ชี ว่ ยให้ผู้เรียนได้รบั ประสบการณ์ตรง เหน็ ส่งิ ทีเ่ รียนร้อู ย่างเปน็ รูปธรรม ทาให้เกดิ ความเข้าใจและจดจาในเรือ่ งท่ีสาธติ ไดด้ แี ละนาน 2) เปน็ วธิ สี อนทีช่ ่วยประหยดั เวลา อปุ กรณ์และค่าใชจ้ า่ ย หากใช้ทดแทนการทดลอง 3) เป็นวธิ ีที่สามารถสอนผู้เรยี นได้จานวนมาก ขอ้ จากัด 1) เป็นวธิ ีท่ีผู้เรียนอาจไมส่ ังเกตเหน็ การสาธติ อย่างชัดเจน ท่ัวถึง หากเป็นกลุ่มใหญ่ 2) เปน็ วธิ ีที่ผ้สู อนเปน็ ผสู้ าธิต จงึ อาจไม่เหน็ พฤตกิ รรมของผูเ้ รียน 3) เปน็ วิธีทผ่ี ้เู รียนอาจมสี ่วนร่วมไม่ทัว่ ถงึ และมากพอ 4) เป็นวธิ ีที่ผูเ้ รยี นไม่ไดล้ งมอื ทาเองจงึ อาจไม่เกดิ ความรูท้ ลี่ ึกซงึ้ เพยี งพอ 26

1. เร่ิมต้งั แต่กาหนดจดุ มุ่งหมาย เนื้อหาวิชา วิธสี อน สอ่ื การสอน ลงมือสอน ประเมนิ ผล 2. ได้แก่ การบรรยาย การค้นคว้าด้วยตนเอง การอภิปราย การแกป้ ัญหา การสาธิต เป็นต้น 3. ได้แก่ แบบมีผู้นาคณะ (Team Leader Type) แบบ ไม่มีผ้นู าคณะ (Associate Type) และแบบครพู ่เี ลยี้ ง 4. คณะผสู้ อนมรี ะหว่าง 2-7 คน แต่ละคนจะตอ้ งมกี ารแลกเปล่ยี นความคิดเหน็ รว่ มกนั 27

ข้อดีของการสอนเปน็ ทมี 1. ผ้สู อนแตล่ ะคนได้แสดงความสามารถในการสอนของตนอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 2. การวางแผนท่ีรว่ มกนั คิดร่วมกันทาให้ได้ผลงานท่สี มบูรณก์ ว่าคิดคนเดยี ว 3. ผเู้ รียนไดส้ ัมผัสผู้สอนในหลายลกั ษณะทาให้ไม่เบื่อหนา่ ย ข้อสงั เกตของการสอนเปน็ ทีม 1. เสยี เวลาในการเตรยี มงานมาก 2. ผสู้ อนในคณะตอ้ งมีความสามารถเพยี งพอและตอ้ งเข้าใจรปู แบบการทางานเป็นทมี 3. เครื่องอานวยความสะดวกและสื่อการสอนตอ้ งมีจานวนมากพอ 28

6 การจดั การเรียนร้แู บบทางานรบั ผดิ ชอบรว่ มกัน ( Co – operative Leanning ) การใหส้ มาชกิ ทกุ คนใชค้ วามสามารถอย่างเต็มที่ในการ ทางานกลุ่ม โดยยงั คงรักษาสัมพนั ธภาพทีด่ ีตอ่ สมาชิกกล่มุ ใน การเรยี นเปน็ กลมุ่ แบบเดมิ น้ัน 29

ข้ันตอนการสอนมี 5 ขนั้ ดงั นี้ 30

31

32

4. ผู้เชยี่ วชาญสอนเพอ่ื นในกลมุ่ ทุกคนจะผลดั กนั สอนเรอ่ื งที่ ไปศกึ ษามา ตรวจสอบความเขา้ ใจ และช่วยเพ่ือนสมาชิกในการเรยี น 33

34

35

7 การจัดการเรียนรู้แบบระดมพลงั สมอง ( Brainstorming ) 36

ขั้นตอนในการระดมสมอง 1. กาหนดปญั หา 2. แบ่งกลุ่มผู้เรียน และอาจเลือกประธานหรือเลขา เพื่อช่วยในการอภิปราย และบนั ทกึ ผล 3. สมาชิกทุกคนในกลุ่มช่วยกันคิดหาคาตอบหรือทางเลือกสาหรับปัญหาท่ี กาหนดให้มากที่สุดภายในเวลาท่ีกาหนด โดยปัญหาของแต่ละกลุ่มอาจเป็นปัญหา เดียวกันหรอื ต่างกนั ก็ได้ 4. คัดเลอื กเฉพาะทางเลือกท่ีนา่ จะเป็นไปได้ หรือเหมาะสมท่สี ดุ 5. แต่ละกล่มุ นาเสนอผลงานของตน ( ขอ้ 4 และ 5 อาจสลบั กนั ได้ ) 6. อภปิ รายและสรปุ ผลข้อดแี ละขอ้ จากดั 37

ข้อดี 1. ฝกึ กระบวนการแกป้ ัญหาและมคี ณุ คา่ มากท่ีจะใช้เพอ่ื แก้ปัญหาหน่งึ 2. ก่อให้เกดิ แรงจงู ใจในตัวผูเ้ รียนสูง และฝกึ การยอมรับความเห็นทีแ่ ตกต่างกัน 3. ได้คาตอบหรือทางเลอื กได้มาก ภายในเวลาอันสัน้ 4. สง่ เสริมการรว่ มมอื กัน 5. ประหยดั ค่าใช้จา่ ยและการจดั หาส่อื เพิ่มเตมิ อน่ื ๆ 38

ขอ้ จากัด 1. ประเมนิ ผลผูเ้ รียนแตล่ ะคนไดย้ าก 2. อาจมีผู้เรียนสว่ นน้อยเพยี งไม่ก่ีคนครอบครองการอภิปรายสว่ นใหญ่ 3. เสียงมักจะดงั รบกวนหอ้ งเรียนขา้ งเคยี ง 4. ถ้าผจู้ ดบนั ทกึ ทางานไดช้ ้า การคดิ อย่างอิสระกจ็ ะช้าและจากัดตามไปด้วย 5. หัวเรื่องตอ้ งชดั เจนรดั กุม 39

8 การจัดการเรยี นรูแ้ บบการลงมือปฏบิ ัติ ( Practice ) วธิ สี อนทีใ่ หป้ ระสบการณต์ รงกับผูเ้ รียน โดยการให้ลงมือปฏบิ ัตจิ รงิ เป็น การสอนที่มุ่งให้เกิดการผสมผสานระหว่างทฤษฎี และ ภาคปฏิบัติ วิธีปฏิบัติ ให้ผู้เรียนได้ลงมอื ฝกึ ฝนหรือปฏิบัตจิ รงิ 40

ข้นั ตอนการสอน 1.ขัน้ เตรียม 41

2.ข้ันดาเนินการ 42

3.ขน้ั สรุป 43

4.ข้นั ประเมนิ ผล ขอ้ ควรคานึง 44 ต้องใชว้ สั ดอุ ปุ กรณ์ และเครอ่ื งมือจานวนมาก และ มีคณุ ภาพ

การจดั การเรยี นรู้แบบ MIAP Motivation Information Application Progress 45

1.ขั้นสนใจปัญหา (Motivation) แสดงช้นิ งานสาเรจ็ หรือผลงานท่เี กยี่ วขอ้ งโดยตรงกับบทเรยี น แล้วถามคาถามใชส้ อื่ ช่วยสอน นาเข้าสู่บทเรียนด้วยภาพ แบบจาลอง ของตวั อย่าง หรือส่ิงที่จะชว่ ยดึงดดู ความสนใจ 46

2.ข้นั ศกึ ษาขอ้ มลู (Information) 47

3.ขน้ั พยายาม (Application) 48

4.ขน้ั สาเรจ็ ผล (Progress) 49

ความสัมพนั ธ์ของกระบวนการเรยี นการสอน การเรยี น การสอน การสนใจปญั หาหรือบทเรยี น การนาเขา้ สูบ่ ทเรยี น การรบั ข้อมูล การใหเ้ นอื้ หา การทาแบบฝกึ หดั หรอื กิจกรรม การให้แบบฝึกหดั การทราบผลของกิจกรรม การตรวจผลการฝึกหดั 50


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook