Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประเพณีสงกรานต์และสรงน้ำพระ

ประเพณีสงกรานต์และสรงน้ำพระ

Published by s.pannawitt, 2020-04-08 05:38:56

Description: ประเพณีสงกรานต์และสรงน้ำพระ

Search

Read the Text Version

ประวัติวนั สงกรานต์ วันมหาสงกรานต์ สงกรานต์ คือ ประเพณีของประเทศไทย ลาว กัมพชู า พมา่ ชนกลมุ่ น้อยชาวไตแถบ เวยี ดนาม และมนฑลยนู านของจนี รวมถงึ ศรลี งั กา และประเทศทางตะวนั ออกของ ประเทศอนิ เดีย สนั นิษฐานกนั ว่า ประเพณสี งกรานตน์ ้ันไดร้ ับวัฒนธรรมมาจากเทศกาล โฮลใี นอนิ เดยี แต่เทศกาลโฮลจี ะใช้การสาดสีแทน โดยจะจัดให้มขี ึ้นในทกุ วันแรม 1 ค่า เดอื น 4 ซึงกค็ ือเดือนมนี าคม สงกรานต์ เป็นค่าในภาษา สันสกฤต ทีหมายถงึ การเคลอื นย้าย โดยเป็นการอุปมา ถงึ การเคลอื นยา้ ยการประทับในจักรราศี หรือการเคลือนเขา้ สู่ปีใหมต่ ามความเชือของ ไทยและบางประเทศในแถบเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ ประเพณสี งกรานต์นน้ั มีสืบทอดกนั มาต้ังแต่โบราณคู่กับตรษุ จึงมกั เรยี กรวมกันว่า ประเพณตี รษุ สงกรานต์ หมายถึง การส่ง ท้ายปีเก่าต้อนรบั ปใี หม่ เดมิ ทวี นั ทีจัดสงกรานตน์ นี้ น้ั จะมีการคา่ นวณทางดาราศาสตร์ แต่ในปจั จุบันได้มกี ารก่าหนดวันทีแนน่ อน คอื ต้ังแต่ 13 – 15 เมษายน แตเ่ ดิม วันข้ึน ปใี หมไ่ ทย คอื วันเรมิ ปปี ฏทิ ินของไทยจนถึง พ.ศ. 2431 และได้มกี ารเปลียนแปลงมา เปน็ วนั ที 1 เมษายน เปน็ วันขนึ้ ปใี หม่จนถงึ พ.ศ. 2483

ประวตั วิ ันสงกรานต์ เมือครั้งกอ่ น พธิ ีสงกรานต์ เปน็ พธิ กี รรมทเี กดิ ข้ึนภายในครอบครวั หรอื ชุมชนบ้าน ใกลเ้ รอื นเคยี ง แตใ่ นปจั จบุ ันไดม้ กี ารเปลียนแปลงให้พธิ ีสงกรานต์นัน้ เปน็ เทศกาล สงกรานต์ โดยได้ขยายออกไปสคู่ มเป็นวงกวา้ งมากขึ้น และมีแนวโน้มทจี ะเปลยี นทัศคติ ตลอดจนความเชือไป แต่เดมิ ในพธิ สี งกรานตจ์ ะใช้ น้่า เปน็ สัญลกั ษณท์ เี ป็นองค์ประกอบ หลกั ของพธิ ี แกก้ ันกับความหมายของฤดูรอ้ น ชว่ งเวลาทีพระอาทิตยเ์ คลือนเข้าสรู่ าศี เมษ ในวนั นจี้ ะใชน้ ่้ารดใหแ้ ก่กันเพอื ความชุ่มชนื มกี ารขอพรจากผู้ใหญ่ มีการรา่ ลกึ และ กตัญญูต่อบรรพบรุ ุษทลี ว่ งลบั ต่อมาในสังคมไทยสมยั ใหมเ่ กิดเปน็ ประเพณีกลับบา้ น ในชว่ งเทศกาลสงกรานต์ นับวา่ วันสงกรานต์เปน็ วันครอบครัว อีกทัง้ ยงั มปี ระเพณีทสี ืบ ทอดมาตั้งแต่ดง้ั เดิม อยา่ ง การสรงนา่้ พระทีนา่ มาซงึ ความเป็นสริ ิมงคล เพอื ใหเ้ ปน็ การ เรมิ ตน้ ปใี หม่ทีมีความสขุ ปจั จบุ ันได้มกี ารประชาสมั พนั ธใ์ นเชงิ ทอ่ งเทยี วว่าเป็น Water Festival หรือ เทศกาล แหง่ นา่้ โดยไดต้ ัดขอ้ มูลในส่วนทีเปน็ ความเชือดง้ั เดมิ ออกไป ตานานวันสงกรานต์ การก่าเนิดวนั สงกรานต์ มีเรืองเลา่ สืบตอ่ กันมาโดยใจความจารกึ ทีวดั พระเชตุพนวิมลมัง คลารามฯ วา่ …

เมอื ต้นภทั รกัลป์ มีเศรษฐคี นหนงึ มงั มีทรพั ยม์ าก แตไ่ ม่มีบตุ ร บ้านอยใู่ กล้กับนักเลงสุรา ซึงนกั เลงสุราน้ันมบี ุตร 2 คน ทผี วิ เนือ้ ดจุ ดงั ทอง วนั หนงึ นกั เลงสรุ าเขา้ ไปในบา้ นของ เศรษฐีผูน้ น้ั แล้วด่าดว้ ยถอ้ ยคา่ ทหี ยาบคายตา่ งๆ นานๆ เศรษฐีเมอื ไดฟ้ ังแล้วจึงถามวา่ พวกเจา้ มาพูดหยาบคายดูหมิ่นเราผูเ้ ป็นเศรษฐเี พราะเหตุใด พวกนักเลงสุราจงึ ตอบวา่ ท่านมีสมบัติมากมายแตห่ ามีบุตรไม่ เมอ่ื ทา่ นตายไป สมบตั ิกจ็ ะอันตรธานไปมหด หา ประโยชนอ์ นั ใดมิได้ เพราะขาดทายาทผูป้ กครอง ขา้ พเจา้ มบี ุตรถึง 2 คน อีกทงั้ รูปรา่ ง งดงามเสยี ด้วย ข้าพเจา้ จึงดีกว่าทา่ น เศรษฐีคร้นั ไดฟ้ งั ก็เห็นจริงด้วย จึงเกดิ ความละอายตอ่ นกั เลงสรุ ายงิ นัก นกึ ใครอ่ ยากได้ บตุ รบา้ ง จากนัน้ ไดท้ ่าการบวงสรวงพระอาทิตยแ์ ละพระจันทร์ ตั้งจิตอธิษฐานเพือขอให้ มีบุตร เมืออยถู่ ึง 3 ปี กม็ ิไดม้ ีบุตรตามทีปราถนา เมอื ขอบุตรจากพระอาทิตยแ์ ละพระจนั ทร์มิไดต้ ามดงั ทีปราถนา อยมู่ าวนั หนึงเมอื ถึงฤดู คิมหันต์ จิตรมาส (เดือน 5) โลกสมมตวิ า่ เปน็ วนั มหาสงกรานต์ คือ พระอาทติ ยย์ กจาก ราศีมีนประเวสสรู่ าศเี มษ ผ้คู นทงั้ หลายตา่ งพากนั เลน่ นกั ขัตฤกษอ์ ันเป็นการรนื เริงขึ้นปี ใหมไ่ ปทัวท้งั ชมพทู วีป ขณะนัน้ เศรษฐจี ึงพาขา้ ทาสบรวิ ารไปยังตน้ ไทรรมิ ฝงั่ แมน่ ้่าอัน เปน็ ทอี ย่แู หง่ ปกั ษีชาติทง้ั หลาย เอาขา้ วสารซาวน่้า 7 ครง้ั แล้วหงุ บชู า รกุ ขพระไทร พรอ้ มด้วยสูปพยญั ชนะอนั ประณีต และประโคมด้วยดรุ ยิ างคด์ นตรตี า่ งๆ ต้ังจติ อธษิ ฐาน ขอบุตรจากรกุ ขพระไทร รกุ ขพระไทรมีความกรณุ า เหาะไปขอบุตรกบั พระอนิ ทร์ให้กับ เศรษฐี ต่อมา พระอนิ ทร์จงึ ใหธ้ รรมบาลเทวบตุ รลงไปปฏิสนธใิ นครรภ์ บดิ ามารดาจึง ขนานนามวา่ ธรรมบาลกุมาร แล้วปลูกปราสาทข้นึ ใหก้ ุมารอยใู่ ต้ตน้ ไทรริมสระฝัง่ แมน่ า้่ นัน้ ครนั้ เมอื กมุ ารเจริญข้นึ ก็ร้ภู าษานกและเรยี นจบไตรเพทเมอื มอี ายไุ ด้ 8 ขวบ อีกท้ัง ยังได้เป็นอาจารย์บอกมงคลการต่างๆ แก่มนุษยช์ าวชมพทู วีปท้งั ปวง ซงึ ขณะนนั้ โลก ทงั้ หลายนับถอื ท้าวมหาพรหม มกี บิลพรหมองคห์ นงึ ได้แสดงมงคลการแกม่ นษุ ย์ทัง้ ปวง

เมือกบลิ พรหมได้แจง้ เหตทุ ธี รรมกมุ ารเปน็ ผมู้ ชี ือเสยี ง เปน็ ทีนบั ถอื ของมนุษย์ชาวโลก ท้งั หลาย จึงได้ลงมาถามปัญหาแกธ่ รรมกุมาร 3 ข้อ ดังความว่า 1. เวลาเชา้ สริ ิ คอื ราศอี ยทู่ ีไหน 2. เวลาเทียง สิริ คอื ราศอี ย่ทู ไี หน 3. เวลาเยน็ สริ ิ คอื ราศีอย่ทู ีไหน และทา้ วกบิลพรหมไดใ้ ห้สญั ญาวา่ ถ้าท่านแกป้ ญั หา 3 ข้อนีไ้ ด้ เราจะตัดศรี ษะมาบชู า ท่าน ถ้าทา่ นแก้ไมไ่ ด้ เราจะตัดศรี ษะของทา่ นเสยี ธรรมกุมารรบั สญั ญา แตผ่ ลัดแก้ ปญั ญาไป 7 ทา้ วกบิลพรหมก็กลบั ไปยงั พรหมโลก ฝา่ ยธรรมบาลกุมารพิจารณาปญั หาน้นั ล่วงไปได้ 6 แลว้ แต่กย็ งั ไมเ่ หน็ อบุ ายทจี ะตอบ ปัญหาได้ จึงคดิ วา่ พรุ่งนแี้ ล้วหนอทเี ราจะตอ้ งตายด้วยอาญาของทา้ วกบลิ พรหม เราหา ต้องการไม่ จ่าจะหนีไปซุกซ่อนตนเสยี ดีกว่า เมอื คิดแลว้ กล็ งจากปราสาท ออกเทียวนอน ทตี น้ ตาล 2 ตน้ ซึงมีนกอินทรี 2 ตวั ผวั เมยี ทา่ รงั อยูบ่ นต้นตาลนนั้ ขณะทธี รรมบาลกุมารนอนอยใู่ ตต้ ้นตาลน้ันพลางไดย้ ินเสยี งนางนกอนิ ทรถี ามผวั ว่า พรุง่ น้ีเราจะไปหาอาหารท่ีไหน นกอินทรตี ัวผู้จงึ ตอบว่า พรุ่งน้คี รบ 7 วนั ท่ีทา้ วกบิล พรหมถามปญั หาแกธ่ รรมบางกมุ าร แต่หากธรรมบาลกมุ ารแกไ้ มไ่ ด้ ทา้ วกบลิ พรหมกจ็ ะ ตดั ศีรษะเสียตามสญั ญา เราท้งั 2 จะไดก้ นิ เนือ้ มนุษย์ คอื ธรรมบาลกุมารเป็น อาหาร นางนกอนิ ทรจี งึ ถามวา่ ทา่ นรู้ปญั หาหรอื ผู้ผวั ตอบว่ารู้ แลว้ กเ็ ลา่ ใหน้ างนกอินทรี ฟงั ต้ังแตต่ น้ จนปลายวา่ 1. เวลาเช้า ราศอี ยทู่ ี หนา้ คนทั้งหลายจึงเอาน่้าลา้ งหน้า 2. เวลาเทียง ราศอี ยทู่ ี อก คนท้ังหลายจึงเอานา่้ และแปง้ กระแจะจันทรล์ กู ไลท้ อี ก 3. เวลาเย็น ราศีอยู่ที เท้า คนทั้งหลายจึงเอาน่้าลา้ งเท้า ธรรมบาลกมุ ารทีนอนอยใู่ ต้ตน้ ไมไ้ ดย้ ินการสนทนาของทัง้ สองก็จ่าได้ จึงมีความโสมนัส ปตี ิ ยนิ ดีเปน็ อนั มาก จงึ เดินทางกลับมาทปี ราสาทของตน ครนั้ ถงึ วาระเปน็ ค่ารบ 7 วัน

ตามสัญญา ทา้ วกบลิ พรหมก็ลงมาถามปัญหาทง้ั 3 ข้อตามทีนัดหมายกนั ไว้ ธรรมบาล กมุ ารก็วสิ ัชนาแก้ปญั หาทงั้ 3 ขอ้ ตามทไี ด้ฟงั มาจากนกอินทรีน้นั ทา้ วกบิลพรหมยอมรับ ว่าถกู ตอ้ ง และยอมแพแ้ กธ่ รรมบาล จา่ ต้องตัดศีรษะของตันบชู าตามทสี ัญญาไว้ แต่ ก่อนทีจะตัดศรี ษะ ได้เรยี กธดิ าทั้ง 7 อันเปน็ บาทบรจิ ารกิ าของพระอินทร์ คอื 1. นางทงุ ษะเทวี 2. นางรากษเทวี 3. นางโคราคเทวี 4. นางกริ ิณีเทวี 5. นางมณฑาเทวี 6. นางกมิ ทิ าเทวี 7. นางมโหธรเทวี อนั โลกสมมตวิ า่ เป็นองค์มหาสงกรานตก์ ับท้งั เทพบรรษัทมาพรอ้ มกนั จึงได้บอกเรอื งราว ให้ทราบและตรสั วา่ พระเศยี รของเรานี้ ถา้ ต้ังไว้บนแผ่นดินกจ็ ะเกิดไฟไหม้ไปทัวโลกธาตุ ถา้ จะโยนขึน้ ไปบนอากาศฝนกจ็ ะแลง้ เจ้าทง้ั 7 จงเอาพานมารองรับเศียรของบดิ าไวเ้ ถิด ครั้นแลว้ ท้าวกบลิ พรหมก็ตดั พระเศยี รแค่พระศอส่งให้นางทงุ ษะเทวธี ดิ าองค์ใหญใ่ น ขณะนัน้ โลกธาตุกเ็ กดิ โกลาหลอลเวงยิงนกั

เมอื นางทงุ ษะมหาสงกรานตน์ า่ พานมารองรับพระเศยี รของทา้ วกบิลพรหม แล้วให้เทพ บรรษัทแหป่ ระทกั ษณิ เวยี นรอบเขาพระสเุ มรุ 60 นาที จากน้ันจึงเชญิ เขา้ ประดิษฐานไว้ ในมณฑป ณ ถา้่ คันธลุ ี เขาไกรลาศ กระทา่ การบูชาด้วยเครอื งทิพยต์ ่างๆ ต่อมาพระ วิษณุกรรมเทพบุตรไดเ้ นรมติ โลงแกว้ อันประกอบไปด้วยแก้ว 7 ประการ แล้วให้เทพย ดาทัง้ หลายน่ามาซึงเถาฉมนุ าตลงลา้ งน่้าในสระอโนดาต 7 คร้งั แลว้ แจกกนั สังเวยทัว ทกุ ๆ พระองค์ ครนั้ ไดว้ าระครบก่าหนด 365 วัน โลกสมมติวา่ ปหี นงึ เปน็ วนั สงกรานต์ เทพธดิ าทัง้ 7 กท็ รงเทพพาหนะตา่ งๆ ผลดั เปลียนเวยี นมาเชิญพระเศยี รท้าวกบลิ พรหม ออกแห่ พรอ้ มด้วยเทพบรรษแสนโกฏิประทักษณิ เวยี บรอบเขาพระสเุ มรุราชบรรษัทเป็น เวลา 60 นาที แลว้ จึงนา่ กลบั ไปประดิษฐานไวต้ ามเดิม ซึงในแต่ละปีกจ็ ะมนี างสงกรานต์ แต่ละนางมาทา่ หน้าทผี ลัดเปลยี นกันตามวนั มหาสงกรานต์ กิจกรรมวนั สงกรานต์ การทาบญุ ตกั บาตร นับว่าเป็นการสรา้ งบญุ สรา้ งกุศลใหก้ บั ตนเอง อกี ท้งั ยังเป็นการอทุ ศิ ส่วนกศุ ลนัน้ ให้แก่ผู้ทลี ่วงลบั ไปแลว้ การทา่ บุญในลกั ษณะนม้ี ักจะมกี ารเตรียมไวล้ ว่ งหน้า เมือถึงเวลาทา่ บุญก็จะนา่ อาหารไปตกั บาตรถวายพระภกิ ษทุ ศี าลาวดั โดยจัดเปน็ ทรี วม สา่ หรับการทา่ บุญ ในวนั เดียวกนั นหี้ ลงั จากทไี ดท้ ่าบุญเสร็จเรียบรอ้ ย ก็จะมีการก่อเจดยี ์ ทรายอนั เป็นประเพณที สี ่าคญั ในวนั สงกรานตอ์ กี ด้วย การรดนา นบั ได้ว่าเปน็ การอวยพรปีใหม่ใหแ้ กก่ ันและกนั น้่าทนี ่ามาใชร้ ดหัวในการน้มี ัก เป็นนา่้ หอมเจอื ด้วยนา่้ ธรรมดา การสรงนาพระ เปน็ การรดนา่้ พระพุทธรปู ทีบ้านและทวี ดั ซงึ ในบางทกี จ็ ะมกี ารจัดให้ สรงนา่้ พระสงฆ์เพิมเตมิ ดว้ ย การบังสุกุลอัฐิ ส่าหรับเถา้ กระดูกของญาติผ้ใู หญ่ทีได้ลว่ งลับไปแลว้ มกั ทา่ ทเี กบ็ เปน็ ลักษณะของเจดยี ์ จากน้ันจะนิมนตพ์ ระไปบังสกุ ุล การรดนาผใู้ หญ่ คือการทีเราไปอวยพรผู้ใหญ่ทใี หค้ วามเคารพนบั ถอื อย่าง ครูบา อาจารย์ มกั จะนังลงกับที จากน้ันผ้ทู ีรดก็จะเอาน้า่ หอมเจอื กบั น่า้ ธรรมดารดลงไปทมี อื ผู้

หลกั ผู้ใหญก่ ็จะใหศ้ ลี ใหพ้ รผทู้ ีไปรด หากเป็นพระกอ็ าจน่าเอาผา้ สบงไปถวายเพอื ให้ ผลดั เปลยี นดว้ ย แตห่ ากเป็นฆราวาสกจ็ ะหาผา้ ถงุ หรือผา้ ขาวมา้ ไปให้เปลยี น มี ความหมายกบั การเรมิ ตน้ สิงใหมๆ่ ในวันปีใหมไ่ ทย การด่าหวั มีจดุ ประสงคค์ ล้ายกบั การรดน่า้ ของทางภาคกลาง ส่วนใหญจ่ ะพบเห็นการด่า หวั ไดท้ างภาคเหนอื การด่าหวั ท่าเพือแสดงความเคารพต่อผูท้ อี าวโุ สวา่ ไมว่ า่ เป็น พระ ผสู้ งู อายุ ซึงจะมกี ารขอขมาในสิงทีไดล้ ว่ งเกิน หรอื เปน็ การขอพรปีใหม่จากผ้ใู หญ่ ของที ใช้ในการด่าหัวหลักๆ ประกอบดว้ ย อาภรณ์ มะพรา้ ว กลว้ ย สม้ ปอ่ ย เทียน และดอกไม้ การปลอ่ ยนกปลอ่ ยปลา ถือวา่ การล้างบาปทเี ราได้ทา่ ไว้ เป็นการสะเดาะเคราะหร์ า้ ยให้ กลายเปน็ ดี มีแต่ความสขุ ความสบายในวันขึน้ ปใี หม่ การขนททรายเขา้ วดั ในทางภาคเหนือนยิ มขนทรายเขา้ วัดเพือเป็นนมิ ติ โชคลาภใหพ้ บ แต่ความสุข ความเจรญิ เงนิ ทองไหลมาเทมาดุจทรายทีขนเขา้ วดั แตก่ ม็ บี างพ้นื ทีมคี วาม เชอื ว่า การน่าทรายทตี ดิ เทา้ ออกจากวดั เปน็ บาป จงึ ตอ้ งขนทรายเขา้ วดั เพอื ไม่ใหเ้ กดิ บาป ขอขอบคณุ ขอ้ มลู ภาพจาก http://event.sanook.com/day/songkran/

นางสงกรานต์ปี63 นาม “โคราคะเทวี” กรมสง่ เสรมิ วัฒนธรรม (สวธ.) กระทรวงวฒั นธรรม (วธ.) ได้จัดทา่ ภาพวาดนาง สงกรานต์ ประจ่าปี 2563 พรอ้ มกับรายละเอยี ดฝา่ ยโหรพราหมณ์ กองพระราชพิธี สา่ นกั พระราชวงั ได้มปี ระกาศสงกรานต์ไว้ดงั นี้ ประกาศสงกรานต์ ปพี ทุ ธศักราช 2563 ปชี วด (เทวดาผูช้ าย ธาตนุ ้า่ ) โทศก จลุ ศกั ราช 1382 ทางจันทรคติ เปน็ อธกิ วาร ทางสุ ริยคติ เป็น อธิกสุรทนิ วนั ที 13 เมษายน เป็น วันมหาสงกรานต์ ทางจันทรคติตรงกับวัน จันทร์ แรม 6 ค่า เดอื น 5 เวลา 20 นาฬกิ า 48 นาที นางสงกรานต์ ทรงนามวา่ โค ราคะเทวี ทรงพาหรุ ดั ทดั ดอกปบี อาภรณ์แกว้ มกุ ดาหาร ภักษาหาร น้่ามัน พระหัตถข์ วา ทรงธนหรือไม้เทา้ พระหตั ถซ์ ้ายทรงพระขรรค์ เสดจ็ ไสยาสนล์ ืมเนตร มาเหนอื หลงั พยคั ฆะ เปน็ พาหนะ วนั ที 16 เมษายน เวลา 09 นาฬกิ า 24 นาที 36 วินาที เปลยี นจุลศักราช ใหม่ เป็น 1382 ปีน้ี วนั พฤหสั บดี เป็น ธงชัย , วนั อาทิตย์ เปน็ อธิบดี , วันพธุ เปน็ อุบาทว์ , วันอังคาร เปน็ โลกาวนิ าศ ปีน้ี วันศกุ ร์ เปน็ อธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 500 ห่า ตกใน โลกมนุษย์ 50 หา่ ตกในมหาสมทุ ร 120 ห่า ตกในป่าหมิ พานต์ 180 ห่า ตกในเขา จักรวาล 250 หา่ นาคให้น่้า 1 ตวั เกณฑ์ธญั ญาหาร ไดเ้ ศษ ๐ ชือ ปาปะ ขา้ วกลา้ ใน ภูมินาจะไดผ้ ล 1 สว่ น เสยี 9 สว่ น มหาชนรอ้ นใจด้วยอาหารแล เกณฑธ์ าราธคิ ุณ ตก ราศีวาโย (ลม) น้่านอ้ ย

\"สรงนาพระ\" เสริมดวงในวันสงกรานต์ \"การสรงนาพระในวันสงกรานต์ อานิสงสจ์ ากการถวายเคร่ืองเถราภิเษก (สรงนา พระ) จะชว่ ยใหค้ นผ้นู ันพน้ จากทกุ ขภ์ ยั ทงั ปวง\" ในวนั สงกรานต์ สงิ หนงึ ทคี นไทยอยา่ งเรานยิ มทา่ กนั นอกจากการละเลน่ สาดน้า่ หรอื ท่าบญุ ไหวพ้ ระ รดนา่้ ดา่ หัวญาตผิ ใู้ หญแ่ ล้วนันคอื \"การสรงนาพระ\" ซึงการสรงน้่าพระ ศาสนาพทุ ธ ใช้ค่าว่า ถวายเครอื งเถราภเิ ษก (สรงน้า่ พระ) ถา้ ต้ังใจสรงน้่าพระ มีจิต ศรทั ธาให้พระวรกายของพระพทุ ธเจา้ สะอาดปราศจากมลทินแลว้ ผลบุญนอกจะทา่ ให้ เราเปน็ ผมู้ คี วาม สดชืน เย็นกาย เยน็ ใจ ไมม่ ีเรืองขุน่ ขอ้ งหมองใจแลว้ ยงั มอี านสิ งสท์ า่ ให้ ได้ไปสสู่ วรรค์ ช้นั ดุสิต เลยทีเดยี ว

เรอื งเลา่ อานสิ งส์ในสมยั พุทธกาล เล่าว่า...ในกาลครงั้ นนั้ องคส์ มเดจ็ พทุ ธเจ้า เสดจ็ ประทับอยู่ ณ เชตวนั มหาวิหาร พร้อมภกิ ษุสงฆ์ 500 รปู พระเจา้ ปัสเสนทิโกศล พร้อม ดว้ ยมหาอา่ มาตยท์ ั้งหลาย ไดน้ ่า เครอื งสกั การะทงั้ หลาย เข้าไปสู่พระเชตะวันมหาวหิ าร ถวายอภิวาท แด่องคส์ มเดจ็ พระผ้มู พี ระภาคเจา้ แล้ว ประทับนัง ณ ทคี วรส่วนข้างหนงึ แล้วทลู ถามวา่ \"ภนฺเตขา้ แตพ่ ระองค์ผู้เจรญิ อนั บคุ คลใดกระทาสกั การะบูชาสรงเถ ราภิเษก (สรงนาพระ) แก่พระสงฆด์ ้วยใจเลือ่ มใสศรทั ธาจะได้ผลอานิสงส์เป็นอย่างไร พระเจา้ ขา้ \" องคส์ มเดจ็ พระผมู้ ีพระภาคเจา้ จงึ ตรสั ว่า \"ดูกรมหาราช บุคคลใด มีความ เช่อื ในคุณพระรัตนตรัยทัง 3 ประการในเม่ือปรารถนาอนั ใด ก็จะสมความมงุ่ มาตร ปรารถนา ทุกประการ\" การทา่ เถราภิเษก (สรงนา้่ พระ) น้ีไดท้ า่ กัน สบื มาในครั้งพุทธ เจ้ากอ่ น ๆแล้วพระองคท์ รงแสดงสบื ตอ่ ไปวา่ ในกาลคร้ังนั้นเปน็ สมยั ครงั้ ศาสนาของพทุ ธ เจา้ เมธังกร ยงั มีพระยาพระองคห์ นงึ ทรงพระนามวา่ \"วชิ ัยยะ\" ไดเ้ สวยสมบตั ิ ในเมอื ง สารนครประกอบไปดว้ ยทศพธิ ราชธรรม 10 ประการ มเี ถระองค์หนึงชอื ว่า \"อสุ สา\" เปน็ อนั เตวาสิกแห่ง \"พทุ ธเจา้ เมธงั กร พระยาวชิ ัยยะ\" ไดท้ อดพระเนตร เหน็ พระมหาเถระเขา้ มาในเมือง พระยาวชิ ยั ยะกม็ ีใจศรทั ธาเลอื มใส ในอิรยิ าบถ ของ พระมหาเถระเจ้าเสร็จไปตอ้ นรบั นิมนตใ์ ห้ไปสปู่ ราสาทของพระองค์

แล้วก็จดั แจง สรงเถราภเิ ษกดว้ ยน้่าหอม เสร็จแล้วถวายภตั ตาหาร ตงั้ ความปรารถนา ว่า \"ปวงชนทงั หลายท่อี ยูใ่ น ขอบเขตขัณฑเสมา ขอจงตงั อย่ใู น โอวาทคาสอน ของ พระองค์ ทกุ เมอื่ และขอใหข้ า้ พระองคไ์ ดพ้ ้นจากทกุ ข์ภยั เวร ขา้ ศกึ ศัตรทู ังหลายดว้ ย บญุ กุศลที่ขา้ พเจา้ ไดก้ ระทาไวใ้ นอนาคตกาลโนน้ เทอญ\" พระมหาเถระเจา้ ก็ไดอ้ นโุ มทนา แห่งพระยาวชิ ยั ยะ แลว้ ถวายพระพรทิพย์ 10 ประการ ลากลับไปสู่ สา่ นักแห่งพระมหาเถระเจ้า พระยาวชิ ยั ยะไดร้ ับพร แห่งพระมหา เถระ แล้วมีจติ ยินดรี ืนเรงิ บันเทงิ ใจ ต่อบุญกศุ ลของพระองค์ทที รงกระท่าไว้ คร้นั จุติจาก โลกแลว้ ก็ไปอุบตั ิ อยูบ่ นสวรรค์ช้ันดสุ ิตพิภพ มวี ิมานทองสูง 22 โยชน์ มีนางเทพอปั สร แสนหนึงเปน็ บริวาร ครน้ั ส้นิ ชีพ เทวบุตรแลว้ ได้ไปเกดิ เปน็ เจา้ พระสริ ติ ะ เสรมิ สรา้ ง บารมใี หแ้ ก่กลา้ ขึน้ ไป ไดม้ าเกิดเปน็ องค์พระตถาคต จนเดีย๋ วน้แี ล

อานสิ งส์ การสรงนาพระ มดี งั ตอ่ ไปนี 1. เป็นการบูชาบุคคลทีควรบชู า คอื พระพทุ ธเจา้ ด้วยของหอม คอื น้า่ สะอาดและ ดอกไม้ การบูชา คือ เกดิ จากการทีเรามองเหน็ ความดขี องผอู้ นื ครับ เช่น มองเห็นวา่ พระพุทธเจา้ มดี อี ย่างไรพอเห็นความดแี ล้วเราจงึ ไดม้ าบูชาความดีของพระพทุ ธเจา้ ก็เป็น กุศโลบายในการสอนพทุ ธประวัตไิ ด้ อกี อยา่ งเปน็ การสะทอ้ นใจของผมู้ าสรงนา่้ วา่ เป็นผู้ มีใจกวา้ ง มองเหน็ ความดขี องผ้อู ืน จะท่าให้เปน็ คนทีรู้จักจบั ถกู ไม่ใช่จับผดิ ผ้อู นื 2. เปน็ การแสดงความเคารพและออ้ มนอ้ มถ่อมต้น ถือว่าเปน็ การสรา้ งเสน่ห์ในตัว ใครมี มากคนนนั้ มีเสน่ห์มาก เป็นการแสดงความเคารพจากใจไมใ่ ชว่ ่าท่าตาม ๆ กันไป 3. เปน็ ประกาศใหช้ าวต่างชาตไิ ดเ้ หน็ วา่ คนพทุ ธก็มีประเพณีวฒั นธรรมทเี ป็นแบบแผนดี งามมาชา้ นาน ขอขอบคณุ ข้อมลู จากhttps://www.sanook.com/horoscope/27437 ในชว่ งวิกฤตนี้ เราขอส่งกาลังใจให้คนไทยทุกคน ผา่ นเพลงนี้ เราจะผ่านมันไปดว้ ยกัน \"เราจะไม่ทิ้งกนั จาไว”้ รับชมคลิปวีดีโอ คลกิ ท่ีลงิ ค์ด้านล่าง https://www.youtube.com/watch?v=FGkGdhh6yqs&list=RDFGkGdhh6yqs&start_radio=1 #จะไมท่ งิ ้ กนั #ส้Cู OVID19 #TeamBoYdNoP ขอขอบคณุ BOYd KOSIYABONG - จะไมท่ งิ ้ กนั

ที่ปรกึ ษา นายไพรัตน์ เนื่องเกตุ ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอเมอื งชลบรุ ี นางสาวเอมอร แก้วกล่าศรี ครชู านาญการพิเศษ ผจู้ ัดทาและเรียบเรยี ง บรรณารกั ษป์ ฏบิ ัติการ บรรณารักษ์อตั ราจา้ ง นายปัณณวิชญ์ สุขทวี พนักงานบรกิ าร นายเสกสรรค์ พรมศกั ด์ิ นางสาวรงุ่ นภา สิงหค์ า


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook