-ก- คำนำ การอ่านมีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์แต่เกิดจนโต และจนกระทั่งถึงวัยชราการอ่านทำ ให้รู้ ข่าวสาร ข้อมูลต่างๆทั่วโลกซึ่งปัจจุบันเป็นโลกของข้อมูลข่าวสารต่างๆ ทั่วโลกทำให้ผู้อ่านมีความสุข มีความหวัง และมีความอยากรู้อยากเห็น อันเป็นความต้องการของมนุษย์ทุกคน การอ่านมีประโยชน์ในการ พัฒนาตนเอง อยากเห็น การที่จะพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าได้ต้องอาศัยคนที่มี ความรู้ ความสามารถ ซงึ่ ความรู้ต่าง ๆ กไ็ ด้มาจากการอา่ นนน่ั เอง ในปัจจบุ นั การอา่ นของคนไทยยงั มีอตั ราท่ีไม่สูงมาก นัก แม้จะมีการส่งเสริมการอ่านอย่างจริงจัง สาเหตุที่ทำให้การอ่านยังมีอัตราที่ต่ำ เกิดจากการทำกิจกรรม อนื่ ๆ ทเี่ บยี ดบังเวลาอ่านหนังสือซึง่ จากการสำรวจ Thailand Internet User Profile 2018 จากสำนักงาน พัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) คนไทยใช้ Internet เฉลี่ยเกือบ 10 ชั่งโมงต่อวันในวันทำงาน /เรียน และ 11 ชั่วโมงในวันหยุด พูดง่ายๆคือประมาณ 1/3 ของชีวิตประจำวันนั้นอยู่กับ Internet โดย ภาพรวมคนไทยใช้เวลาบน Internet มากขึน้ ประมาณ 3 ชั่วโมงกวา่ ๆเทียบกับปีท่แี ล้ว และ ใช้เวลาในการใช้ สอื่ ผ่านชอ่ งทาง YouTube, Line, Facebook ยังคงเปน็ Top 3 Social/Chat platform ของคนไทย แต่ที่ น่าสนใจคือ คนไทยใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงครึ่งต่อวัน ไปกับการอ่านหนังสือหรือบทความออนไลน์ และที่ นา่ สนใจคือการใช้สอื่ อันดับ 1 เป็นการใช้ผ่านช่องทาง Youtube จากหลกั การและแนวโน้มการใชส้ อ่ื ออนไลน์ในการอา่ นหนังสอื หรือบทความดงั กล่าว ทำให้ กศน.อำเภอเมืองชลบุรี ซึ่งมีทิศทางการดำเนินงานของสถานศึกษาตามแนวปรัชญา “คิดเป็น ทำเป็น เน้น ICT” มีอัตลักษณ์ คือ “ก้าวไปในยุคดิจิทัล” และเอกลักษณ์ของสถานศึกษา คือ “องค์กรออนไลน์” จึงมี แนวคิดที่จะนำสื่อออนไลน์ Youtube มาช่วยในการส่งเสริมการอ่านและการเรียนการสอน เพื่อสร้าง นวัตกรรมการอ่านแนวใหม่ เป็นการกระตุ้นให้นักศึกษา กศน.อำเภอเมืองชลบุรี มีส่วนร่วมในการเพิ่มอัตรา การอ่านผ่านช่องทาง YouTube ซึ่งจะเป็นช่องทางหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการศึกษา พัฒนาครูและ นักศกึ ษา ในยุคของเทคโนโลยีทไี่ ดเ้ ข้ามามีบทบาทต่อโลกในปจั จุบันนี้ ในการใชเ้ ทคโนโลยีเพื่อการศึกษาและ การส่งเสรมิ การอา่ นเพอ่ื เพ่มิ อตั ราการอา่ น ตามแนวนโยบายของ สำนักงาน กศน. ดังนั้น กศน.อำเภอเมืองชลบุรี ได้เล็งเห็นความสำคัญดังกล่าวจึงได้จัดทำ โครงการนักอ่านผ่าน ออนไลน์ “ RPO : Reading Project Online” ข้นึ ปัณณวชิ ญ์ สขุ ทวี กรกฎาคม 2564
-ข- สารบัญ หนา้ คำนำ......................................................................................................................... ..................................ก สารบัญ......................................................................................... ...............................................................ข สารบัญตาราง.................................................................................................................. ............................ค สารบญั ภาพ.................................................................................................................................................ง บทท่ี 1 บทนำ 1 ความเปน็ มาและความสำคญั ......................................................................................................1 วตั ถปุ ระสงค์...............................................................................................................................2 เป้าหมาย....................................................................................................................................2 ระยะเวลาดำเนินงาน..................................................................................................................2 ผลลพั ธ์.......................................................................................................................................2 ดัชนีวดั ผลสำเรจ็ ของโครงการ.....................................................................................................2 บทที่ 2 เอกสารการศึกษาและบทความทเ่ี ก่ียวข้อง................................................................................3 ยุทธศาสตร์และจดุ เน้นการดำเนนิ งาน สำนกั งาน กศน.ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 .........3 แนวทางการดำเนนิ งานของ กศน.อำเภอเมืองชลบรุ ี ...................................................................15 กรอบการจัดกจิ กรรมเพ่ือพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี น..........................................................................23 แนวทางการจัดการศึกษาและการเรยี นรู้ กศน ในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรน่า ( COVID – 19 ).....................................................................................................25 เอกสาร/บทความทเ่ี กยี่ วข้อง ......................................................................................................28 บทท่ี 3 วิธดี ำเนินงาน.............................................................................................................................33 ประชุมบุคลากรกรรมการสถานศึกษา.........................................................................................33 จัดตงั้ คณะทำงาน .......................................................................................................................33 ประสานงานกับผู้เรียน/วทิ ยากรผู้สอน........................................................................................33 ดำเนนิ การตามแผนงานโครงการ ................................................................................................34 สรปุ ผลและรายงาน ....................................................................................................................34
สารบัญ(ต่อ) หน้า บทที่ 4 ผลการดำเนนิ งานและการวิเคราะหข์ ้อมูล................................................................................35 ตอนท่ี 1 ข้อมูลสว่ นตัวผ้แู บบสอบถามของผู้เข้าร่วมโครงการกจิ กรรมพฒั นาคุณภาพ ผู้เรียนนกั อ่านผ่านออนไลน์ RPO Reading project online รุ่นที่ 1................................35 ตอนที่ 2 ขอ้ มูลเก่ียวกับความคดิ เห็นท่ีมีต่อโครงการกิจกรรมพฒั นาคณุ ภาพ ผู้เรียนนกั อา่ นผ่านออนไลน์ RPO Reading project online รนุ่ ที่ 1 ……………………………38 บทที่ 5 สรุป อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ ..........................................................................................40 สรปุ ผล ................................................................................................................................40 อภปิ รายผล..........................................................................................................................41 ปญั หาและอปุ สรรค.............................................................................................................41 ขอ้ เสนอแนะ ........................................................................................................................42 บรรณานกุ รม...........................................................................................................................................43 ภาคผนวก................................................................................................................................................44 คณะผู้จดั ทำ
-ค- สารบญั ภาพ หน้า ภาพท่ี 1. การใช้ YouTube เพ่ือการเรยี นการสอนในศตวรรษที่ 21 ....................................................28 2. ช่อง DLIT Classroom ..........................................................................................................29 3. true ปลกู ปัญญา ...................................................................................................................30 4. การนำเสนองานของนกั เรียนผา่ นชองFacebook .................................................................30 5. การสอนของครผู า่ นข่อง Youtube อุปกรณ์สอื่ มัลตมิ ีเดยี .....................................................31
-ง- สารบญั ตาราง ตารางท่ี 1. แสดงคา่ รอ้ ยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามเพศ.................................................35 2. แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามอายุ ................................................35 3. แสดงคา่ ร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามอาชพี ..............................................36 4. แสดงค่ารอ้ ยละของผ้ตู อบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามการศึกษา........................................ 37 5. ผลการประเมนิ โครงการนกั อ่านผา่ นออนไลน์ RPO Reading project online ร่นุ ท1่ี ...........38
บทที่ 1 บทนำ ความเปน็ มา การอา่ นมีความสำคัญตอ่ ชวี ิตมนษุ ยแ์ ตเ่ กดิ จนโต และจนกระท่ังถงึ วัยชราการอา่ นทำ ให้รขู้ ่าวสาร ข้อมลู ตา่ งๆทัว่ โลกซึง่ ปจั จบุ นั เป็นโลกของข้อมูลขา่ วสารต่างๆ ทั่วโลกทำใหผ้ อู้ ่านมีความสุข มี ความหวงั และมี ความอยากรู้อยากเหน็ อันเป็นความต้องการของมนุษย์ทุกคน การอ่านมีประโยชนใ์ นการ พัฒนาตนเอง อยาก เหน็ การท่จี ะพัฒนาประเทศใหเ้ จรญิ รุ่งเรืองก้าวหน้าไดต้ ้องอาศยั คนทม่ี ี ความรูค้ วามสามารถ ซ่ึงความรู้ต่าง ๆ กไ็ ด้มาจากไดม้ าจากการอ่านน่นั เอง (ฉวีวรรณ คูหาภนิ นท์,2542) จะเห็นได้ว่าการอา่ นมีความสำคัญเปน็ อย่างมากในการเรียนรู้ แตใ่ นปจั จุบนั การอ่านของคนไทยยงั มี อตั ราที่ไม่สูงมากนัก แม้จะมกี ารส่งเสริมการอา่ นอย่างจริงจงั สาเหตุทท่ี ำให้การอา่ นยังมีอัตราที่ตำ่ เกิดจาก การทำกจิ กรรมอ่นื ๆ ทเ่ี บยี ดบังเวลาอา่ นหนงั สอื ซึ่งจากการสำรวจ Thailand Internet User Profile 2018 จากสำนักงานพฒั นาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) คนไทยใช้ Internet เฉลยี่ เกอื บ 10 ชัง่ โมงต่อวนั ใน วันทำงาน/เรียน และ 11 ชัว่ โมงในวันหยุด พูดง่ายๆคือประมาณ 1/3 ของชวี ิตประจำวันนน้ั อย่กู บั Internet โดยภาพรวมคนไทยใชเ้ วลาบน Internet มากข้ึนประมาณ 3 ชัว่ โมงกว่าๆเทยี บกับปที แี่ ล้ว และ ใชเ้ วลาใน การใช้ส่ือ ผา่ นชอ่ งทาง YouTube, Line, Facebook ยงั คงเป็น Top 3 Social/Chat platform ของคนไทย แตท่ ี่น่าสนใจคือ คนไทยใชเ้ วลาประมาณ ชวั่ โมงครึง่ ต่อวนั ไปกบั การอา่ นหนังสือหรอื บทความออนไลน์ และท่ี นา่ สนใจคอื การใช้สอ่ื อันดับ 1 เปน็ การใช้ผ่านช่องทาง Youtube จากหลักการและแนวโน้มการใช้สื่อออนไลน์ในการอ่านหนังสือหรือบทความดังกล่าว ทำให้ กศน.อำเภอเมืองชลบุรี ซึ่งมีทิศทางการดำเนินงานของสถานศึกษาตามแนวปรัชญา “คิดเป็น ทำเป็น เนน้ ICT” มอี ตั ลักษณ์ คอื “ก้าวไปในยุคดจิ ิทัล” และเอกลกั ษณข์ องสถานศกึ ษา คือ “องคก์ รออนไลน์” จึง มีแนวคิดที่จะนำสื่อออนไลน์ Youtube มาช่วยในการส่งเสริมการอ่านและการเรียนการสอน เพื่อสร้าง นวัตกรรมการอ่านแนวใหม่ เป็นการกระตุ้นให้นักศึกษา กศน.อำเภอเมืองชลบุรี มีส่วนร่วมในการเพิ่มอัตรา การอ่านผ่านช่องทาง YouTube ซึ่งจะเป็นช่องทางหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการศึกษา พัฒนาครูและ นักศึกษา ในยุคของเทคโนโลยีที่ได้มามีบทบาทต่อโลกในปัจจุบันน้ี ในการใช้เทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาและการ ส่งเสริมการอา่ นเพ่อื เพิม่ อตั ราการอ่าน ตามแนวนโยบายของ สำนกั งาน กศน กศน.อำเภอเมืองชลบุรี และห้องสมุดประชาชนจังหวัดชลบุรี จึงได้จัดโครงการพัฒนาคุณภาพ ผู้เรยี นนกั อา่ นผ่านออนไลน์ นกั ศกึ ษา กศน.RPO : Reading Project Online” รุน่ 1 วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพื่อเป็นการส่งเสริมการอ่าน โดยมเี ป้าหมายเปน็ การเพิม่ อัตราการอา่ นหนงั สือของนักศกึ ษา กศน.อำเภอเมืองชลบรุ ี 2. เพือ่ เปน็ การสง่ เสริมให้ นกั ศกึ ษา กศน.อำเภอเมืองชลบุรี มกี ารใช้เทคโนโลยดี จิ ทิ ลั และส่อื ออนไลน์อย่างเหมาะสม
2 เปา้ หมาย เชงิ ปริมาณ - นักศึกษา กศน.อำเภอเมืองชลบุรี จำนวน 200 คน เชิงคณุ ภาพ - นักศกึ ษา กศน.อำเภอเมืองชลบรุ ี ไดม้ กี ารสง่ เสริมการอ่าน และเพม่ิ อัตราการอ่าน - นักศกึ ษา กศน.อำเภอเมืองชลบุรี ได้มีใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ทิ ัลและสื่อออนไลนใ์ นการแสดงออกในเชิง สรา้ งสรรค์ รวมทัง้ ได้รบั ความรู้ และสร้างบรรยากาศเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง ผลลพั ธ์ - นักศกึ ษา กศน.อำเภอเมืองชลบุรี ไดร้ ับความรแู้ ละเพ่ิมอตั ราการอา่ น - นกั ศึกษา กศน.อำเภอเมืองชลบุรี มกี ารใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ทิ ัลและสือ่ ออนไลนอ์ ย่างเหมาะสม ดัชนีตวั ชีว้ ัดผลสำเรจ็ ของโครงการ ตวั ชวี้ ดั ผลผลติ - นกั ศกึ ษา กศน.อำเภอเมืองชลบรุ ี เข้าร่วมโครงการอยา่ งนอ้ ยร้อยละ 80 ของเป้าหมายท่ีได้ กำหนด - นักศกึ ษา กศน.อำเภอเมืองชลบุรี เขา้ รว่ มโครงการฯสง่ คลปิ (Clip Video) ลง Youtube อยา่ ง นอ้ ยร้อยละ 50 ตวั ชีว้ ัดผลลพั ธ์ นักศกึ ษา กศน.อำเภอเมืองชลบรุ ี มีความร้คู วามสามารถในการใช้เทคโนโลยดี จิ ิทลั และส่ือ ออนไลนน์ ำไปขยายผลอย่างน้อย รอ้ ยละ 20
บทท่ี 2 เอกสารการศึกษาและบทความทีเ่ ก่ียวข้อง ในการจัดทำรายงานโครงการพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี นนักอ่านผา่ นออนไลน์ นักศึกษา กศน. RPO : Reading Project Online”รุน่ 1 คร้ังนี้ ผ้จู ดั ทำได้ศึกษาค้นควา้ เน้อื หาเอกสารการศกึ ษาท่ีเกี่ยวข้อง ดังน้ี 1. ยทุ ธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนนิ งาน สำนกั งาน กศน.ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 2. แนวทาง/กลยทุ ธก์ ารดำเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ของ กศน. อำเภอเมืองชลบรุ ี 3. กรอบ/แนวทางการจัดกิจกรรมพฒั นาคุณภาพผู้เรยี น 4. บทความที่เกี่ยวข้อง 1. ยทุ ธศาสตรแ์ ละจุดเนน้ การดำเนนิ งาน สำนักงาน กศน.ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 วสิ ัยทัศน์ คนไทยทกุ ชว่ งวยั ได้รับโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ มีทักษะที่จําเป็น และสมรรถนะท่ีสอดรับกับทิศทางการพัฒนาประเทศ สามารถดํารงชีวติ ได้อย่างเหมาะสมบนรากฐานของหลัก ปรัชญา ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง พันธกจิ ๑. จัดและส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ทมี่ ีคุณภาพ สอดคลอ้ ง กบั หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และความเปลยี่ นแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม เพอ่ื ยกระดับการศึกษา และ พัฒนาสมรรถนะ ทักษะการเรียนรู้ของประชาชนกลุ่มเป้าหมายใหเ้ หมาะสมในแตล่ ะชว่ งวยั ให้พร้อมรบั การ เปลยี่ นแปลงและการปรับตวั ในการดาํ รงชีวิตได้อย่างเหมาะสม กา้ วส่กู ารเปน็ สังคมแหง่ การเรยี นรตู้ ลอดชีวิต อย่างยัง่ ยืน ๒. พัฒนาหลักสตู ร รปู แบบการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ สือ่ และนวตั กรรมเทคโนโลยีทางการศกึ ษา การ วัดและประเมินผลในทุกรูปแบบให้มีคุณภาพและมาตรฐานสอดคล้องกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้และบริบท ในปจั จบุ นั ๓. สง่ เสริมและพฒั นาเทคโนโลยีทางการศึกษา และนาํ เทคโนโลยีมาพัฒนาเพ่อื เพ่มิ ชอ่ งทางและโอกาส การเรียนรู้ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดและให้บริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศยั ใหก้ บั ประชาชนกลมุ่ เป้าหมายอยา่ งทว่ั ถึง ๔. ส่งเสริมสนับสนุน แสวงหา และประสานความร่วมมือเชิงรุกกับภาคีเครือข่าย ให้เข้ามามีส่วนร่วม ในการสนับสนุนและจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และการเรียนรู้ตลอดชีวิตในรูปแบบ ตา่ ง ๆ ให้กับประชาชน ๕. ฒนาระบบการบริหารจัดการภายในองค์กรให้มีเอกภาพ เพื่อการบริหารราชการที่ดี บนหลัก ของ ธรรมาภิบาล มีประสทิ ธิภาพ ประสิทธผิ ล และคลอ่ งตัวมากยง่ิ ขึ้น ๖.ยกระดับการบริหารและการพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้มีความรู้ ทักษะ สมรรถนะ คุณธรรม และ จรยิ ธรรมทีด่ ี เพอื่ เพิ่มประสิทธภิ าพของการใหบ้ ริการทางการศึกษาและการเรียนรู้ท่ีมีคุณภาพมากยิง่ ข้นึ
๔ เป้าประสงค์ 1. ประชาชนผดู้ อ้ ย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษารวมทง้ั ประชาชนทั่วไปไดร้ บั โอกาส ทาง การศึกษาในรปู แบบการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้ันพื้นฐาน การศึกษาต่อเน่ือง และการศกึ ษา ตาม อธั ยาศัยทม่ี ีคณุ ภาพอย่างเทา่ เทียมและท่วั ถึง เปน็ ไปตามบริบท สภาพปัญหาและความต้องการของแต่ละ กลมุ่ เปา้ หมาย 2. ประชาชนไดร้ บั การยกระดับการศึกษา สร้างเสรมิ และปลกู ฝงั คณุ ธรรม จริยธรรม หน้าที่ความเป็น พลเมืองทดี่ ีภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ์เปน็ ประมขุ ท่สี อดคล้องกบั หลัก ปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง อันนําไปสู่การยกระดบั คุณภาพชีวิตและเสริมสร้างความเขม้ แข็งใหช้ ุมชน เพื่อ พฒั นา ไปสคู่ วามมัน่ คงและยั่งยนื ทางดา้ นเศรษฐกิจ สังคม วฒั นธรรม ประวตั ิศาสตร์ และสิ่งแวดล้อม 3. ประชาชนไดร้ ับการพฒั นาทกั ษะการเรียนรู้และแสวงหาความรูด้ ว้ ยตนเองผ่านแหล่งเรยี นรู้ ชอ่ ง ทางการเรยี นรู้ และกจิ กรรมการเรยี นรรู้ ูปแบบต่าง ๆ รวมท้ังมเี จตคติทางสงั คม การเมือง วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยที ่ีเหมาะสม สามารถคดิ วิเคราะห์ แยกแยะอยา่ งมเี หตผุ ล และนาํ ไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั รวมถงึ การแกป้ ัญหาและพฒั นาคณุ ภาพชีวิตได้อยา่ งสรา้ งสรรค์ 4. หน่วยงานและสถานศกึ ษา กศน. มีหลักสตู ร สอื่ นวัตกรรม ช่องทางการเรียนรู้ และกระบวนการ เรยี นรใู้ นรปู แบบท่ีหลากหลาย ทนั สมยั และรองรบั กับสภาวะการเรยี นรู้ในสถานการณต์ ่าง ๆ เพอื่ แกป้ ัญหา และพัฒนาคณุ ภาพชีวติ ตามความตอ้ งการของประชาชนและชมุ ชน รวมทั้งตอบสนองกับการเปล่ยี นแปลง บริบท ด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วฒั นธรรม ประวตั ศิ าสตร์ และสิง่ แวดลอ้ ม 5. หนว่ ยงานและสถานศกึ ษา กศน. สามารถนําเทคโนโลยที างการศึกษา และเทคโนโลยดี จิ ทิ ัล มา พัฒนาเพื่อเพม่ิ ช่องทางการเรียนรู้ และนาํ มาใช้ในการยกระดบั คุณภาพในการจดั การเรยี นร้แู ละโอกาสการ เรียนรู้ ใหก้ บั ประชาชน 6. ชมุ ชนและภาคเี ครือขา่ ยทุกภาคสว่ น มีส่วนร่วมในการจดั สง่ เสรมิ และสนบั สนุนการศกึ ษา นอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รวมทงั้ การขบั เคลื่อนกิจกรรมการเรยี นรู้ของชมุ ชน 7. หน่วยงานและสถานศกึ ษามีระบบการบริหารจดั การองค์กรทที่ ันสมัย มีประสทิ ธิภาพ และเปน็ ไป ตามหลกั ธรร-มาภบิ าล 8. บุคลากร กศน. ทุกประเภททกุ ระดบั ได้รับการพัฒนาเพ่ือเพิ่มทักษะและสมรรถนะในการปฏบิ ัตงิ าน และการให้บริการทางการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รวมถึงการปฏบิ ตั ิงานตามสายงานอย่าง มี ประสทิ ธภิ าพ
๕
๖
๗ จดุ เน้นการดาํ เนินงานประจําปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 1. นอ้ มนําพระบรมราโชบายด้านการศกึ ษาสกู่ ารปฏบิ ตั ิ 1.1 สืบสานศาสตร์พระราชา โดยการสร้างและพัฒนาศูนย์สาธติ และเรียนรู้ “โคก หนอง นา โมเดล” เพื่อเป็นแนวทางในการจัดการบริหารทรัพยากรรูปแบบต่าง ๆ ทั้งดิน น้ำ ลม แดด รวมถึงพืชพันธุ์ต่าง ๆ และ สง่ เสริม การใช้พลงั งานทดแทนอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ 1.2 จัดใหม้ ี “หนึง่ ชมุ ชน หนึง่ นวตั กรรมการพัฒนาชุมชน” เพอื่ ความกนิ ดี อยูด่ ี มีงานทํา 1.3 การสร้างกลุ่มจิตอาสาพัฒนาชุมชน รวมทั้งปลูกฝังผู้เรียนให้มีหลักคิดที่ถูกต้องด้านคุณธรรม จริยธรรม มีทัศนคติที่ดีตอ่ บ้านเมือง และเป็นผู้มคี วามพอเพยี ง ระเบียบวินยั สุจริต จิตอาสา ผ่านกิจกรรมการ พฒั นา ผู้เรยี นโดยการใช้กระบวนการลูกเสอื และยวุ กาชาด 2. สง่ สรมิ การจดั การศึกษาและการเรียนร้ตู ลอดชีวติ สาํ หรบั ประชาชนท่ีเหมาะสมกับทกุ ชว่ งวัย 2.1 ส่งเสริมการจัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทํา ในรูปแบบ Re-Skill& Up-Skill และการสร้าง นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มีความหลากหลาย ทันสมัย และตอบสนองความต้องการของประชาชน ผู้รับบรกิ าร และสามารถออกใบรับรองความร้คู วามสามารถเพื่อนําไปใช้ในการพัฒนาอาชีพได้ 2.2 ส่งเสริมและยกระดบั ทกั ษะภาษาองั กฤษใหก้ บั ประชาชน (English for ALL) 2.3 ส่งเสริมการเรียนการสอนที่เหมาะสมสําหรับผู้ที่เข้าสู่สังคมสูงวัย อาทิ การฝึกอบรมอาชีพ ท่ี เหมาะสมรองรับสังคมสงู วัย หลักสูตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมสมรรถนะผู้สูงวัย และหลักสูตร การ ดูแลผูส้ งู วัย โดยเน้นการมีสว่ นร่วมกบั ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในการเตรยี มความพร้อมเขา้ สสู่ ังคมสูงวัย 3. พฒั นาหลกั สตู ร สื่อ เทคโนโลยีและนวตั กรรมทางการศกึ ษา แหล่งเรียนรู้ และรูปแบบ การจดั การศึกษา และการเรียนรู้ ในทุกระดับ ทกุ ประเภท เพ่ือประโยชน์ตอ่ การจดั การศึกษาทเี่ หมาะสม กับทุกกลุ่มเปา้ หมาย มีความทนั สมัย สอดคลอ้ งและพรอ้ มรองรับกับบริบทสภาวะสงั คมปจั จบุ ัน ความตอ้ งการ ของผเู้ รียน และ สภาวะการเรยี นรู้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ทีจ่ ะเกดิ ขึ้นในอนาคต 3.1 พ ั ฒ น า ร ะ บ บ ก า ร เ ร ี ย น ร ู ้ ONIE Digital Leaming Platform ท ี ่ ร อ ง ร ั บ DEEP ข อ ง กระทรวงศกึ ษาธกิ าร และชอ่ งทางเรยี นรูร้ ปู แบบอนื่ ๆ ทั้ง Online On-site และ On-air 3.2 พัฒนาแหล่งเรียนรู้ประเภทต่าง ๆ อาทิ Digital Science Museum/ Digital Science Center/ Digital Library ศูนย์การเรียนรู้ทุกช่วงวัย และศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ กศน. (Co-Learning Space) เพื่อให้ สามารถ “เรยี นรไู้ ดอ้ ย่างทั่วถึง ทกุ ท่ี ทุกเวลา” 3.3 พัฒนาระบบรับสมัครนักศึกษาและสมัครฝึกอบรมแบบออนไลน์ มีระบบการเทียบโอนความรู้ ระบบสะสมหน่วยการเรียนรู้ (Credit Bank System) และพัฒนา/ขยายการให้บริการระบบทดสอบ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (E-exam) 4. บรู ณาการความรว่ มมือในการสง่ เสริม สนบั สนนุ และจัดการศึกษาและการเรยี นรู้ใหก้ ับ ประชาชนอยา่ ง มีคุณภาพ 4.1 ร่วมมอื กบั ภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม และองค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น รวมท้ัง ส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชน อาทิ การส่งเสริมการฝึกอาชีพที่เป็นอัตลักษณ์และบริบทของ ชุมชน ส่งเสรมิ การตลาดและขยายชอ่ งทางการจําหน่ายเพอื่ ยกระดบั ผลติ ภณั ฑ์/สินคา้ กศน. 4.2 บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งในส่วนกลาง และ ภมู ภิ าค
๘ 5. พฒั นาศักยภาพและประสทิ ธิภาพในการทํางานของบุคลากร กศน. 5.1 พัฒนาศักยภาพและทักษะความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy & Digital Skills) ให้กับบุคลากรทุกประเภททุกระดับ รองรับความเป็นรัฐบาลดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งพัฒนา ครูให้มีทักษะ ความรู้ และความชํานาญในการใช้ภาษาอังกฤษ การผลิตสื่อการเรียนรู้และการจัดการเรียนการ สอนเพ่อื ฝกึ ทักษะ การคิดวเิ คราะห์อยา่ งเป็นระบบและมเี หตผุ ล เป็นข้ันตอน 5.2 จัดกิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์ ของบุคลากร กศน.และกิจกรรมเพิ่มประสิทธิภาพ ในการ ทํางานร่วมกันในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ การแข่งขันกีฬา การอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาประสิทธิภาพ ในการ ทาํ งาน 6. ปรบั ปรงุ และพฒั นาโครงสรา้ งและระบบบริหารจดั การองคก์ ร ปัจจัยพนื้ ฐานในการจัดการศึกษา และ การประชาสัมพันธส์ รา้ งการรับร้ตู ่อสาธารณะชน 6.1 เร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. ... ให้สําเร็จ และปรับโครงสร้าง การ บรหิ ารและอัตรากําลังใหส้ อดคลอ้ งกบั บรบิ ทการเปล่ยี นแปลง เร่งการสรรหา บรรจุ แต่งตั้งท่ีมีประสทิ ธภิ าพ 6.2 นํานวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการ พัฒนาระบบการทํางานและข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษาที่ทันสมัย รวดเร็ว และสามารถใช้งานทันที โดยจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกลาง กศน. เพ่ือ จัดทํา ข้อมลู กศน. ท้ังระบบ (ONE ONIE) 6.3 พัฒนา ปรับปรุง ซ่อมแซม ฟื้นฟูอาคารสถานที่ และสภาพแวดล้อมโดยรอบของหน่วยงาน สถานศึกษา และแหลง่ เรยี นรทู้ ุกแหง่ ใหส้ ะอาด ปลอดภัย พร้อมใหบ้ รกิ าร 6.4 ประชาสมั พันธ์/สร้างการรับรูใ้ ห้กับประชาชนทั่วไปเกยี่ วกับการบริการทางวชิ าการ/กจิ กรรม ดา้ น การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และสร้างช่องทางการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านวิชาการ ของ หนว่ ยงานและสถานศึกษาในสังกัด อาทิ ข่าวประชาสัมพนั ธ์ ผ่านสือ่ รปู แบบตา่ ง ๆ การจดั นิทรรศการ/มหกรรม วิชาการ กศน. การจดั การศกึ ษาและการเรยี นรูใ้ นสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ของสาํ นักงาน กศน. จากสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) เม่ือเดอื นธันวาคม 2562 ส่งผลกระทบต่อระบบการจัดการเรยี นการสอนของไทยในทุกระดับชั้น ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ ได้ ออกประกาศและมีมาตรการเฝ้าระวังเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเช้ือไวรสั ดังกล่าว อาทิ กําหนดให้มี การ เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ห้ามการใช้อาคารสถานทีข่ องโรงเรียนและสถาบันการศึกษา ทุก ประเภท เพื่อจัดการเรียนการสอน การสอบ ฝึกอบรม หรือการทํากิจกรรมใด ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมเป็นจํานวนมาก การปิดสถานศึกษาด้วยเหตุพิเศษ การกําหนดให้ใช้วิธีการจัดการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ อาทิ การจัดการ เรียนรู้ แบบออนไลน์ การจัดการเรียนรู้ผ่านระบบการออกอากาศทางโทรทัศน์ วิทยุ และโซเซียลมีเดีย ต่าง ๆ รวมถึง การสือ่ สารแบบทางไกลหรือด้วยวิธอี เิ ลก็ ทรอนิกส์ ในสว่ นของสํานกั งาน กศน. ได้มีการพฒั นา ปรับรปู แบบ กระบวนการ และวิธีการดําเนนิ งานในภารกิจ ต่อเนื่องต่าง ๆ ในสถานการณ์การใช้ชวี ิตประจําวัน และการจัดการเรียนรู้เพื่อรองรับการชีวิตแบบปกติวิถีใหม่ (New Normal) ซึ่งกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ ได้ให้ความสําคัญกับการดําเนินงานตามมาตรการการป้องกัน การแพรร่ ะบาดของเชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 (COMID - 19) อาทิ การจัดกิจกรรมการเรียนร้ทู กุ ประเภท หากมี ความจําเป็นต้องมาพบกลุ่ม หรอื อบรมสัมมนา ทางสถานศึกษาต้องมีมาตรการป้องกันที่เข้มงวด มีเจล แอลกอ ฮอลลา้ งมือ ผ้รู ับบรกิ ารต้องใส่หน้ากากอนามยั หรือหน้ากากผ้า ตอ้ งมีการเวน้ ระยะห่างระหวา่ งบุคคล เน้นการ ใช้ส่อื ดิจิทลั และเทคโนโลยีออนไลน์ในการจัดการเรยี นการสอน
๙ ภารกจิ ต่อเน่อื ง ๑. ด้านการจดั การศึกษาและการเรยี นรู้ 1.1 การศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน 1) สนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบตั้งแต่ปฐมวัยจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยดําเนินการ ให้ ผู้เรียนได้รับการสนับสนุนค่าจัดซื้อหนังสือเรียน ค่าจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และค่าจัดการเรียน การ สอนอย่างทว่ั ถึงและเพียงพอเพ่ือเพมิ่ โอกาสในการเข้าถงึ บริการทางการศึกษาที่มีคณุ ภาพโดยไมเ่ สยี คา่ ใชจ้ า่ ย 2) จัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานให้กับกลุ่มเป้าหมายผู้ด้อย พลาด และขาด โอกาสทางการศึกษา ผ่านการเรียนแบบเรียนรู้ด้วยตนเอง การพบกลุ่ม การเรียนแบบชั้นเรียน และการจัด การศึกษาทางไกล 3) พัฒนาประสิทธิภาพ คุณภาพ และมาตรฐานการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษา ข้ัน พื้นฐาน ทั้งด้านหลักสูตรรูปแบบ/กระบวนการเรียนการสอน สื่อและนวัตกรรม ระบบการวัดและประเมินผล การเรยี น และระบบการให้บริการนกั ศกึ ษาในรูปแบบอ่นื ๆ 4) จัดใหม้ กี ารประเมินเพ่อื เทียบระดับการศึกษา และการเทยี บโอนความรู้และประสบการณ์ ท่มี ีความ โปร่งใส ยุติธรรม ตรวจสอบได้ มีมาตรฐานตามที่กําหนด และสามารถตอบสนองความต้องการ ของ กลมุ่ เปา้ หมายได้อย่างมีประสิทธภิ าพ 5) จัดให้มีกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนที่มีคุณภาพที่ผู้เรียนต้องเรียนรู้และเข้าร่วมปฏิบัติ กิจกรรม เพือ่ เปน็ สว่ นหน่ึงของการจบหลักสูตร อาทิ กจิ กรรมเสริมสร้างความสามคั คี กิจกรรมเกยี่ วกับการป้องกัน และ แกไ้ ขปญั หายาเสพติดการแขง่ ขันกีฬา การบาํ เพ็ญสาธารณประโยชน์อย่างต่อเน่ือง การส่งเสริมการปกครอง ใน ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี และยุวกาชาด กิจกรรม จิตอาสา และการจดั ต้ังชมรม/ชมุ นมุ พรอ้ มท้ังเปิดโอกาสให้ผู้เรยี นนํากจิ กรรมการบาํ เพ็ญประโยชน์อื่น ๆ นอก หลกั สตู รมาใชเ้ พ่ิมชั่วโมงกิจกรรมใหผ้ เู้ รยี นจบตามหลักสูตรได้ 1.2 การส่งเสรมิ การรู้หนงั สอื 1) พัฒนาระบบฐานขอ้ มูลผู้ไม่รู้หนังสือ ให้มีความครบถว้ น ถกู ต้อง ทนั สมัยและเปน็ ระบบเดยี วกัน ท้ัง สว่ นกลางและส่วนภมู ภิ าค 2) พัฒนาและปรับปรุงหลักสูตร สื่อ แบบเรียนเครื่องมือวัดผลและเครื่องมือการดําเนินงานการ สง่ เสรมิ การรู้หนงั สอื ทสี่ อดคล้องกับสภาพและบริบทของแตล่ ะกล่มุ เป้าหมาย 3) พฒั นาครู กศน. และภาคีเครือข่ายที่รว่ มจดั การศึกษา ให้มคี วามรูค้ วามสามารถ และทักษะการ จัด กระบวนการเรยี นรู้ให้กับผู้ไม่รู้หนังสืออย่างมีประสิทธิภาพ และอาจจัดให้มีอาสาสมัครส่งเสริมการรู้หนังสือใน พ้นื ท่ีทมี่ ีความต้องการจําเป็นเปน็ พเิ ศษ 4) ส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษาจัดกิจกรรมส่งเสริมการรู้หนังสือ การคงสภาพการรู้หนังสือ การ พัฒนาทักษะการรู้หนังสือให้กับประชาชนเพื่อเป็นเครื่องมือในการศึกษาและเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ของประชาชน 1.3 การศึกษาต่อเน่ือง 1) จัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทาํ อย่างยั่งยืน โดยให้ความสําคัญกับการจัดการศึกษาอาชีพ เพ่ือ การมีงานทําในกลุ่มอาชีพเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม คหกรรม และอาชีพเฉพาะทางหรือการ บริการ รวมถึงการเน้นอาชีพช่างพื้นฐาน ที่สอดคล้องกับศักยภาพของผู้เรียน ความต้องการและศักยภาพของ แต่ละพื้นที่ มีคุณภาพได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับ สอดรับกับความต้องการของตลาดแรงงาน และการพัฒนา ประเทศ ตลอดจน สร้างความเข้มแข็งให้กับศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน โดยจัดให้มีการส่งเสริมการรวมกลุม่ วิสาหกิจ
๑๐ ชุมชน การพัฒนา หนึ่งตําบลหนึ่งอาชีพเด่น การประกวดสินค้าดีพรีเมี่ยม การสร้างแบรนด์ของ กศน. รวมถึง การส่งเสริมและจัดหาช่องทางการจําหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ และให้มีการกํากับ ติดตาม และรายงานผล การจัดการศึกษาอาชพี เพื่อการมงี านทําอยา่ งเปน็ ระบบและตอ่ เน่ือง 2) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตให้กับทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะคนพิการ ผู้สูงอายุ ท่ี สอดคล้องกับความต้องการจําเป็นของแต่ละบุคคล และมุ่งเน้นให้ทุกกลุ่มเป้าหมายมีทักษะการดํารงชีวิต ตลอดจน สามารถประกอบอาชีพพึ่งพาตนเองได้มีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการชีวติ ของตนเองให้ อยู่ในสังคม ได้อย่างมีความสุขสามารถเผชิญสถานการณ์ต่าง ๆ ท่ีเกิดขึ้นในชีวิตประจําวันได้อย่างมี ประสิทธิภาพ และเตรียมพร้อมสําหรับการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของข่าวสารข้อมูลและเทคโนโลยี สมัยใหม่ในอนาคต โดยจัดกิจกรรมที่มีเนื้อหาสําคัญต่าง ๆ เช่น การอบรมจิตอาสา การให้ความรู้เพื่อการป้อง การการแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COMID - 19) การอบรมพัฒนาสุขภาพกายและสุขภาพจติ การอบรมคุณธรรม และจริยธรรม การป้องกันภัยยาเสพติด เพศศึกษา การปลูกฝังและการสร้างค่านิยมที่พึง ประสงค์ ความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน ผ่านการอบรมเรียนรู้ในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ ค่ายพัฒนาทักษะ ชวี ิต การจัดต้ังชมรม/ชุมนุม การอบรมสง่ เสรมิ ความสามารถพิเศษต่าง ๆ เปน็ ต้น 3) จดั การศึกษาเพ่ือพัฒนาสงั คมและชมุ ชน โดยใช้หลักสตู รและการจัดกระบวนการเรยี นรู้ แบบบรู ณา การในรปู แบบของการฝึกอบรมการประชุม สมั มนา การจดั เวทีแลกเปลี่ยนเรยี นร้กู ารจดั กิจกรรม จติ อาสา การ สร้างชุมชนนกั ปฏบิ ัติ และรูปแบบอืน่ ๆ ที่เหมาะสมกบั กลุ่มเป้าหมาย และบริบทของชุมชน แต่ละพื้นที่ เคารพ ความคิดของผู้อื่น ยอมรับความแตกต่างและหลากหลายทางความคิดและอุดมการณ์ รวมทั้งสังคม พหุ วัฒนธรรม โดยจัดกระบวนการให้บุคคลรวมกลุม่ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันสร้างกระบวนการจิตสาธารณะ การสร้างจิตสํานึกความเป็นประชาธิปไตย การเคารพในสิทธิและเสรีภาพ และรับผิดชอบต่อหน้าที่ความเป็น พลเมือง ที่ดีภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข การส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม การเป็นจติ อาสา การบําเพญ็ ประโยชนใ์ นชุมชนการ บริหารจดั การนาํ้ การรับมอื กับสาธารณภัย การ อนรุ กั ษ์พลังงาน ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การชว่ ยเหลือซ่ึงกันและกนั ในการพัฒนาสังคมและชุมชน อย่างย่ังยนื 4) การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงผา่ นกระบวนการเรียนรตู้ ลอดชวี ิต ใน รูปแบบต่าง ๆ ให้กับประชาชน เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคง และมีการบริหาร จดั การ ความเสี่ยงอย่างเหมาะสม ตามทศิ ทางการพฒั นาประเทศสูค่ วามสมดลุ และย่ังยืน 1.4 การศึกษาตามอัธยาศัย 1) พฒั นาแหลง่ การเรียนรทู้ ม่ี ีบรรยากาศและสภาพแวดลอ้ มท่ีเอื้อต่อการอ่านและพฒั นาศกั ยภาพ การ เรียนรู้ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางและทั่วถึง เช่น การพัฒนา กศน. ตําบล ห้องสมุด ประชาชนทุกแห่งให้มีการบริการที่ทันสมัย ส่งเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน การสร้าง เครือข่าย ส่งเสริมการอ่าน จัดหน่วยบริการห้องสมุดเคลื่อนที่ ห้องสมุดชาวตลาด พร้อมหนังสือและอุปกรณ์ เพือ่ จดั กจิ กรรม ส่งเสริมการอ่านและการเรียนรทู้ ่ีหลากหลายให้บริการกับประชาชนในพ้ืนที่ต่าง ๆ อย่างท่ัวถึง สม่ำเสมอ รวมท้งั เสรมิ สรา้ งความพร้อมในดา้ นบคุ ลากร สื่ออปุ กรณ์เพ่ือสนับสนนุ การอา่ น และการจัดกจิ กรรม เพื่อส่งเสรมิ การอ่าน อยา่ งหลากหลายรปู แบบ 2) จัดสรา้ งและพฒั นาศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์เพ่ือการศึกษา ให้เป็นแหลง่ เรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ตลอดชีวิต ของ ประชาชน เป็นแหล่งสรา้ งนวตั กรรมฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเปน็ แหล่งท่องเทย่ี วเชิงศิลปะวิทยาการประจําท้องถิ่น โดยจัดทําและพัฒนานิทรรศการสื่อและกิจกรรมการศึกษาที่เน้นการเสริมสร้างความรู้และสร้างแรงบันดาลใจ ด้านวิทยาศาสตร์สอดแทรกวิธีการคิดเชิงวิเคราะห์ การคิดเชิงสร้างสรรค์ และปลูกฝังเจตคติทางวิทยาศาสตร์
๑๑ ผ่านการกระบวนการเรียนรู้ที่บูรณาการความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ควบคู่กับเทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์และ คณิตศาสตร์ รวมทั้งสอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง บริบทของชุมชน และประเทศ ร วมทั้ง ระดับภูมิภาค และระดับโลกเพื่อให้ประชาชนมีความรู้และสามารถนําความรู้และทักษะไปประยุกต์ใช้ในการ ดําเนินชีวิต การพัฒนา อาชีพ การรักษาสิ่งแวดล้อม การบรรเทาและป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติ รวมทั้งมี ความสามารถในการปรับตัวรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เป็นไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง (Disruptive Changes) ไดอ้ ยา่ ง มปี ระสิทธิภาพ 3) ประสานความร่วมมือหน่วยงาน องค์กร หรือภาคส่วนต่าง ๆ ที่มีแหล่งเรียนรู้อื่น ๆ เพื่อส่งเสริม การจัดการศึกษาตามอัธยาศัยให้มีรูปแบบที่หลากหลาย และตอบสนองความต้องการของประชาชน เช่น พพิ ิธภณั ฑ์ ศูนยเ์ รียนรู้ แหลง่ โบราณคดี วัด ศาสนาสถาน หอ้ งสมดุ รวมถงึ ภมู ปิ ัญญาท้องถนิ่ เปน็ ต้น 2. ด้านหลักสตู ร สอื รปู แบบการจัดกระบวนการเรยี นรู้ การวัดและประเมินผลงานบรกิ าร ทางวิชาการ และ การประกันคณุ ภาพการศึกษา 2.1 ส่งเสริมการพัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้และกิจกรรมเพื่อส่งเสริม การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่หลากหลาย ทันสมัย รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรฐาน สมรรถนะ และ หลักสตู รท้องถ่นิ ที่สอดคล้องกับสภาพบริบทของพ้นื ท่ีและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและ ชุมชน 2.2 ส่งเสริมการพัฒนาสื่อแบบเรียน สื่ออิเล็กทรอนิกส์และสื่ออื่น ๆ ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน กลมุ่ เป้าหมายทวั่ ไปและกลมุ่ เปา้ หมายพเิ ศษ เพอ่ื ให้ผ้เู รียนสามารถเรียนรไู้ ด้ทกุ ท่ี ทกุ เวลา 2.3 พัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาทางไกลให้มีความทันสมัย หลากหลายช่องทางการเรียนรู้ ด้วย ระบบหอ้ งเรยี นและการควบคมุ การสอบรูปแบบออนไลน์ 2.4 พัฒนาระบบการประเมินเพื่อเทียบระดับการศึกษา และการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ เพื่อให้มีคุณภาพ มาตรฐาน และสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมท้ัง มกี ารประชาสมั พันธใ์ หส้ าธารณชนไดร้ ับรูแ้ ละสามารถเข้าถงึ ระบบการประเมนิ ได้ 2.5 พัฒนาระบบการวัดและประเมินผลการศึกษานอกระบบทุกหลักสูตร โดยเฉพาะหลักสูตร ใน ระดับการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐานให้ได้มาตรฐานโดยการนาํ แบบทดสอบกลาง และระบบการสอบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (e-Exam) มาใชอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ 2.6 ส่งเสริมและสนับสนุนการศกึ ษาวิจัยเพื่อพัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกระบวนการเรยี นรู้ การ วัดและประเมินผล และเผยแพร่รูปแบบการจัด ส่งเสริม และสนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบและ การศึกษา ตามอัธยาศัย รวมทั้งให้มีการนําไปสู่การปฏิบัติอย่างกว้างขวางและมีการพัฒนาให้เหมาะสมกับ บริบทอย่างตอ่ เนื่อง 2.7 พัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาให้ได้มาตรฐาน มีการพัฒนาระบบการประกัน คุณภาพ ภายในที่สอดคล้องกับบริบทและภารกิจของ กศน. มากขึ้น เพื่อพร้อมรับการประเมินคุณภาพภายนอก โดย พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถึงความสําคัญของระบบการประกันคุณภาพ และสามารถ ดําเนินการประกนั คุณภาพภายในของสถานศึกษาได้อย่างต่อเนือ่ งโดยใช้การประเมินภายในดว้ ยตนเอง และจัด ให้มี ระบบสถานศึกษาพี่เลี้ยงเข้าไปสนับสนุนอย่างใกล้ชิด สําหรับสถานศึกษาที่ยังไม่ได้เข้ารับการประเมิน คณุ ภาพ ภายนอก ให้พฒั นาคุณภาพการจดั การศึกษาใหไ้ ดค้ ุณภาพตามมาตรฐานที่กาํ หนด
๑๒ 3. ดา้ นเทคโนโลยเี พอ่ื การศกึ ษา 3.1 ผลิตและพัฒนารายการวิทยุและรายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษาเพื่อให้เชื่อมโยงและตอบสนอง ต่อการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของสถานศึกษาเพื่อกระจายโอกาสทาง การศกึ ษา สาํ หรบั กลุ่มเป้าหมายตา่ ง ๆ ให้มที างเลือกในการเรยี นรู้ทห่ี ลากหลายและมีคุณภาพ สามารถพัฒนา ตนเองให้รู้เท่าทัน สื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสาร เช่น รายการพัฒนาอาชีพเพื่อการมีงานทํา รายการติวเขม้ เติมเต็มความรู้ รายการ รายการทํากินก็ได้ ทําขายก็ดี ฯลฯ เผยแพร่ทางสถานวี ิทยุศึกษา สถานี วิทยโุ ทรทัศนเ์ พอ่ื การศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธิการ (ETV) และทางอนิ เทอร์เนต็ 3.2 พัฒนาการเผยแพร่การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยโดยผ่านระบบ เทคโนโลยดี จิ ิทลั และชอ่ งทางออนไลนต์ ่าง ๆ เชน่ Youtube Facebook หรือ Application อื่น ๆ เพื่อสง่ เสริม ให้ครู กศน. นําเทคโนโลยดี ิจทิ ลั มาใช้ในการสรา้ งกระบวนการเรียนรดู้ ้วยตนเอง (Do It Yourself : DIY) 3.3 พัฒนาสถานีวิทยุศึกษาและสถานีโทรทัศน์เพื่อการศึกษาเพื่อเพิม่ ประสทิ ธิภาพการผลติ และการ ออกอากาศให้กลมุ่ เป้าหมายสามารถใชเ้ ปน็ ช่องทางการเรยี นรทู้ ี่มคี ุณภาพได้อย่างต่อเน่ืองตลอดชีวติ โดยขยาย เครือข่ายการรับฟังให้สามารถรับฟังได้ทุกที่ ทุกเวลา ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศและเพิ่มช่องทาง ให้สามารถ รับชมรายการโทรทัศนไ์ ด้ทั้งระบบ Ku - Band C - Band Digital TV และทางอินเทอร์เน็ต พร้อมที่จะ รองรับ การพฒั นาเป็นสถานีวทิ ยโุ ทรทศั น์เพ่อื การศึกษาสาธารณะ (Free ETV) 3.4 พัฒนาระบบการใหบ้ รกิ ารสอื่ เทคโนโลยีเพือ่ การศกึ ษาเพ่ือให้ได้หลายชอ่ งทางทั้งทาง อินเทอรเ์ น็ต และรูปแบบอืน่ ๆ อาทิ Application บนโทรศัพท์เคล่ือนท่ี และ Tablet รวมท้ังสือ่ Offline ในรูปแบบ ต่าง ๆ เพือ่ ให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเลือกใชบ้ รกิ ารเพ่ือเขา้ ถงึ โอกาสทางการศึกษาและการเรยี นรไู้ ด้ตามความต้องการ 3.5 สาํ รวจ วจิ ัย ตดิ ตามประเมินผลด้านการใชส้ ือ่ เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาอย่างต่อเน่ืองเพ่ือนําผล มา ใช้ในการพัฒนางานให้มีความถูกต้อง ทันสมัยและสามารถส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต ของ ประชาชนได้อย่างแท้จริง 4. ด้านโครงการอันเนอ่ื งมาจากพระราชดาํ ริ หรือโครงการอันเกีย่ วเนื่องจากราชวงศ์ 4.1 ส่งเสริมและสนับสนุนการดําเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริหรือโครงการ อัน เกี่ยวเนอื่ งจากราชวงศ์ 4.2 จัดทาํ ฐานขอ้ มลู โครงการและกิจกรรมของ กศน.ท่ีสนองงานโครงการอนั เนอื่ งมาจาก พระราชดําริ หรือโครงการอันเกีย่ วเนื่องจากราชวงศ์เพื่อนําไปใช้ในการวางแผน การติดตามประเมินผลและการ พัฒนางาน ได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 4.3 ส่งเสริมการสร้างเครือข่ายการดําเนินงานเพื่อสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ เพ่ือใหเ้ กดิ ความเข้มแข็งในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 4.4 พัฒนาศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”เพื่อให้มีความพร้อมในการจัดการศึกษา นอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยตามบทบาทหนา้ ท่ที ก่ี ําหนดไว้อย่างมีประสทิ ธิภาพ 4.5 จัดและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของประชาชนบนพื้นที่สูง ถ่ิน ทุรกันดาร และพื้นทช่ี ายขอบ 5. ดา้ นการศกึ ษาในจังหวดั ชายแดนภาคใต้ พ้นื ทเี่ ขตเศรษฐกจิ พเิ ศษและพื้นทบี่ รเิ วณ ชายแดน 5.1 พัฒนาการจัดการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ในจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ 1) จัดและพัฒนาหลักสูตร และกิจกรรมส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ที่ตอบสนองปัญหา และ ความตอ้ งการของกลุ่มเป้าหมายรวมทงั้ อตั ลกั ษณ์และความเปน็ พหวุ ัฒนธรรมของพ้นื ที่
๑๓ 2) พัฒนาคุณภาพการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องเพื่อให้ ผเู้ รียนสามารถนาํ ความรทู้ ีไ่ ดร้ บั ไปใช้ประโยชนไ์ ดจ้ รงิ 3) ให้หน่วยงานและสถานศึกษาจัดให้มีมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยแก่บุคลากรและ นักศึกษา กศน.ตลอดจนผมู้ าใชบ้ ริการอยา่ งทั่วถงึ 5.2 พฒั นาการจัดการศึกษาแบบบรู ณาการในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพเิ ศษ 1) ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดทําแผนการศึกษาตามยุทธศาสตร์ และ บรบิ ทของแต่ละจงั หวดั ในเขตพัฒนาเศรษฐกจิ พเิ ศษ 2) จัดทําหลักสูตรการศึกษาตามบริบทของพื้นที่ โดยเน้นสาขาที่เป็นความต้องการของตลาด ให้เกิด การพัฒนาอาชพี ไดต้ รงตามความตอ้ งการของพ้ืนท่ี 5.3 จดั การศกึ ษาเพ่ือความมั่นคงของศนู ยฝ์ ึกและพัฒนาอาชพี ราษฎรไทยบรเิ วณชายแดน(ศฝช.) 1) พัฒนาศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดน เพื่อให้เป็นศูนย์ฝึกและสาธิต การ ประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม และศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบการจัดกิจกรรมตามแนวพระราชดําริปรัชญา เศรษฐกิจพอเพยี ง สําหรับประชาชนตามแนวชายแดนด้วยวธิ กี ารเรียนรทู้ ีห่ ลากหลาย 2) มุ่งจัดและพัฒนาการศึกษาอาชีพโดยใช้วิธีการหลากหลายใช้รูปแบบเชิงรุกเพื่อการเข้าถึง กลุ่มเป้าหมาย เช่น การจัดมหกรรมอาชีพ การประสานความร่วมมือกับเครือข่าย การจัดอบรมแกนนําด้าน อาชีพ ท่ีเนน้ เรอ่ื งเกษตรธรรมชาติทส่ี อดคลอ้ งกับบริบทของชุมชนชายแดน ใหแ้ กป่ ระชาชนตามแนวชายแดน 6. ด้านบคุ ลากรระบบการบรหิ ารจดั การ และการมสี ว่ นรว่ มของทกุ ภาคสว่ น 6.1 การพัฒนาบคุ ลากร 1) พัฒนาบุคลากรทุกระดับทุกประเภทให้มีสมรรถนะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งก่อนและระหว่าง การ ดํารงตําแหน่งเพื่อให้มีเจตคติที่ดีในการปฏิบัติงานให้มีความรู้และทักษะตามมาตรฐานตําแหน่ง ให้ตรงกับสาย งาน ความชํานาญ และความต้องการของบุคลากรสามารถปฏิบัติงานและบริหารจัดการการดําเนินงานของ หน่วยงานและ สถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพรวมทั้งส่งเสริมใหข้ ้าราชการในสังกัดพัฒนาตนเองเพ่ือเลื่อน ตําแหนง่ หรอื เล่อื นวทิ ยฐานะโดยเน้นการประเมนิ วทิ ยฐานะเชงิ ประจกั ษ์ 2) พัฒนาศึกษานิเทศก์ กศน. ให้มีสมรรถนะที่จําเป็นครบถ้วน มีความเป็นมืออาชีพ สามารถ ปฏิบัติการนิเทศได้อย่างมีศักยภาพ เพื่อร่วมยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตาม อธั ยาศยั ในสถานศกึ ษา 3) พัฒนาหัวหน้า กศน.ตําบล/แขวงให้มีสมรรถนะสูงขึ้น เพื่อการบริหารจัดการ กศน.ตําบล/แขวง และการปฏิบัติงานตามบทบาทภารกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการเป็นนักจัดการความรู้และผู้อํานวย ความสะดวกในการเรียนรูเ้ พอื่ ให้ผเู้ รยี นเกิดการเรียนรู้ทีม่ ปี ระสิทธิภาพอยา่ งแทจ้ ริง 4) พัฒนาครู กศน. และบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาให้สามารถจัดรูปแบบการเรียนรู้ ได้ อย่างมีคุณภาพโดยส่งเสริมให้มีความรคู้ วามสามารถในการจัดทําแผนการสอน การจดั กระบวนการเรียนรู้ การ วัด และประเมนิ ผล และการวิจัยเบื้องต้น 5) พัฒนาศักยภาพบุคลากร ที่รับผิดชอบการบริการการศึกษาและการเรียนรู้ ให้มีความรู้ ความสามารถและมีความเปน็ มอื อาชีพในการจดั บรกิ ารส่งเสริมการเรยี นรู้ตลอดชีวติ ของประชาชน 6) สง่ เสรมิ ให้คณะกรรมการ กศน. ทุกระดบั และคณะกรรมการสถานศึกษา มีสว่ นร่วมในการ บริหาร การดําเนินงานตามบทบาทภารกิจของ กศน.อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 7) พัฒนาอาสาสมัคร กศน. ให้สามารถทาํ หน้าที่สนับสนุนการจดั การศึกษานอกระบบและ การศึกษา ตามอธั ยาศยั ไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ
๑๔ 8) พัฒนาสมรรถนะและเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากรรวมทั้งภาคีเครือข่ายทั้งใน และ ต่างประเทศในทุกระดับ โดยจัดให้มีกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างสัมพันธภาพและเพิ่มประสิทธิภาพในการทํางาน ร่วมกนั ในรูปแบบทีห่ ลากหลายอยา่ งต่อเนื่องอาทิ การแขง่ ขันกีฬา การอบรมเชิงปฏิบตั กิ ารพฒั นาประสิทธิภาพ ในการทาํ งาน 6.2 การพฒั นาโครงสรา้ งพืน้ ฐานและอัตรากําลงั 1) จัดทําแผนการพฒั นาโครงสร้างพ้ืนฐานและดําเนินการปรับปรุงสถานท่ีและวัสดุอุปกรณ์ ให้มี ความ พรอ้ มในการจัดการศกึ ษาและการเรียนรู้ 2) สรรหา บรรจุ แต่งตั้ง และบริหารอัตรากําลังที่มีอยู่ทั้งในส่วนที่เป็นข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้าง ให้เป็นไปตามโครงสร้างการบริหารและกรอบอัตรากําลัง รวมทั้งรองรับกับบทบาทภารกิจตามที่ กําหนดไว้ ให้เกดิ ประสิทธิภาพสงู สุดในการปฏบิ ัตงิ าน 3) แสวงหาความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในการระดมทรัพยากรเพื่อนํามาใช้ ในการ ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้มีความพร้อมสําหรับดําเนินกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตาม อัธยาศัย และการส่งเสริมการเรียนรูส้ าํ หรบั ประชาชน 6.3 การพัฒนาระบบบริหารจดั การ 1) พัฒนาระบบฐานข้อมลู ใหม้ ีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัย และเชื่อมโยงกันทัว่ ประเทศ อย่างเป็น ระบบเพื่อใหห้ นว่ ยงานและสถานศึกษาในสังกัดสามารถนาํ ไปใชเ้ ปน็ เคร่ืองมือสําคญั ในการบริหาร การวางแผน การปฏบิ ตั งิ าน การติดตามประเมินผล รวมท้งั จดั บรกิ ารการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อย่าง มปี ระสทิ ธิภาพ 2) เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการงบประมาณ โดยพัฒนาระบบการกํากับ ควบคุม และเร่งรัด การเบกิ จ่ายงบประมาณให้เปน็ ตามเปา้ หมายท่ีกาํ หนดไว้ 3) พฒั นาระบบฐานข้อมูลรวมของนักศึกษา กศน. ให้มีความครบถว้ น ถูกต้อง ทันสมัย และ เชื่อมโยง กนั ทั่วประเทศ สามารถสืบคน้ และสอบทานได้ทนั ความต้องการเพ่ือประโยชน์ในการจัดการศึกษาให้กับ ผู้เรียน และการบริหารจดั การอย่างมปี ระสิทธิภาพ 4) ส่งเสริมให้มีการจัดการความรู้ในหน่วยงานและสถานศึกษาทุกระดับ รวมทั้งการศึกษาวิจัย เพ่ือ สามารถนํามาใช้ในการพัฒนาประสิทธิภาพการดําเนินงานที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน และ ชมุ ชนพรอ้ มทัง้ พฒั นาขีดความสามารถเชิงการแข่งขนั ของหน่วยงานและสถานศึกษา 5) สร้างความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคมทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อสร้างความเข้าใจ และให้เกิดความ รว่ มมอื ในการส่งเสรมิ สนับสนนุ และจดั การศกึ ษาและการเรยี นรใู้ หก้ บั ประชาชนอย่างมีคณุ ภาพ 6) ส่งเสริมการใช้ระบบสํานักงานอิเล็กทรอนิกส์ (e-office) ในการบริหารจัดการ เช่น ระบบการ ลา ระบบสารบรรณอิเลก็ ทรอนิกส์ ระบบการขอใช้รถราชการ ระบบการขอใช้หอ้ งประชมุ เปน็ ต้น 7) พัฒนาและปรับระบบวิธีการปฏิบัติราชการให้ทันสมัย มีความโปร่งใส ปลอดการทุจริต และ ประพฤตมิ ิชอบ บรหิ ารจดั การบนข้อมลู และหลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ มงุ่ ผลสมั ฤทธิม์ คี วามโปรง่ ใส 6.4 การกํากับ นิเทศติดตามประเมิน และรายงานผล 1) สร้างกลไกการกํากับ นิเทศ ติดตาม ประเมิน และรายงานผลการดําเนินงานการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยให้เช่ือมโยงกบั หนว่ ยงาน สถานศกึ ษา และภาคเี ครือข่ายท้ังระบบ
๑๕ 2) ให้หน่วยงานและสถานศึกษาที่เกี่ยวข้องทุกระดับ พัฒนาระบบกลไกการกํากับ ติดตามและ รายงานผลการนํานโยบายสู่การปฏิบัติ ใหส้ ามารถตอบสนองการดําเนินงานตามนโยบายในแตล่ ะเร่ืองได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ 3) สง่ เสริมการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร และสือ่ อืน่ ๆ ทเ่ี หมาะสม เพ่ือการกํากบั นเิ ทศ ติดตาม ประเมนิ ผล และรายงานผลอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 4) พัฒนากลไกการติดตามประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคํารับรองการปฏิบัติราชการประจําปี ของหน่วยงาน สถานศึกษา เพื่อการรายงานผลตามตัวชี้วัดในคํารับรองการปฏิบัติราชการประจําปี ของ สํานกั งาน กศน.ให้ดาํ เนนิ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ เปน็ ไปตามเกณฑ์ วธิ กี าร และระยะเวลาที่กําหนด 5) ให้มีการเชื่อมโยงระบบการนิเทศในทุกระดับ ทั้งหน่วยงานภายในและภายนอกองค์กร ตั้งแต่ ส่วนกลาง ภูมิภาค กลุ่มจังหวัด จังหวัด อําเภอ/เขต และตําบล/แขวง เพื่อความเป็นเอกภาพในการใช้ข้อมูล และการพฒั นางานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย 2. แนวทาง/กลยทุ ธ์การดำเนินงานการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ของ กศน. อำเภอเมืองชลบุรี ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอเมืองชลบรุ ีได้กำหนดทิศทางการดำเนนิ งาน ตามแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา และแผนปฏบิ ตั ิการประจำปี โดยมีรายละเอียด ดงั นี้ ทิศทางการดำเนนิ งานของสถานศึกษา ปรชั ญา “คิดเปน็ ทำเปน็ เน้น ICT” วสิ ยั ทศั น์ “จัดการศึกษาตลอดชีวิต ผูกมิตรกับเครือขา่ ย กระจายความรสู้ ู่ชมุ ชน ทุกท่ที ุกเวลาด้วย ICT มี อาชีพและแข่งขนั ในประชาคมอาเซียนอยา่ งยั่งยนื ” อตั ลักษณ์ “ก้าวไปในยุคดจิ ทิ ัล” เอกลกั ษณ์ “องค์กรออนไลน์” พนั ธกิจ 1. จดั และส่งเสริมใหผ้ ู้เรียน มคี วามร้กู ารศึกษาขัน้ พืน้ ฐานอยา่ งมีคณุ ภาพ 2. จดั การศกึ ษาอาชีพใหผ้ เู้ รียนมอี าชีพทำได้ ขายเป็น และมีทักษะชวี ติ ทเ่ี หมาะสมทกุ ช่วงวัย 3. จดั และส่งเสริมให้ประชาชนนำเทคโนโลยดี จิ ทิ ัลเพื่อพัฒนาตนเองและสร้างช่องทางการจำหนา่ ย สินคา้ 4. จดั และสง่ เสรมิ การศึกษาตามอัธยาศยั ทม่ี งุ่ ใหผ้ ู้รับบริการมีนสิ ัยรักการอ่าน และพัฒนาแหลง่ เรยี นรู้ ในชมุ ชน 5. จดั และสง่ เสรมิ สนับสนุน พัฒนาแหลง่ เรียนรู้ ส่ือ และภูมปิ ัญญาท้องถิ่น 6. จดั และส่งเสริมการศึกษาตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพ่ือพฒั นาสังคมและชุมชนให้มี ความเข้มแข็งอยา่ งย่งั ยนื
๑๖ 7. จดั และส่งเสริมประชาชนใหเ้ ป็นพลเมอื งดีตามวิถีประชาธปิ ไตย 8. สง่ เสริม สนบั สนุน ภาคีเครอื ขา่ ย ใหม้ สี ว่ นรว่ มในการจัดการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตาม อธั ยาศยั เพื่อให้เกิดการเรยี นรู้ตลอดชวี ติ 9. พฒั นารูปแบบการจดั กจิ กรรมการเรยี นรใู้ หส้ อดคล้องกับพ้ืนทรี่ ะเบยี งเศรษฐกิจพิเศษภาค ตะวันออก (EEC) และความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย 10. พฒั นาบคุ ลากรใหม้ สี มรรถนะในการปฏบิ ัติงานตามบทบาทหนา้ ท่ีอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพและ ต่อเนอื่ งโดยเน้นการนำเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั มาใช้ในการบริหารจัดการ 11. สถานศึกษามรี ะบบการบรหิ ารจัดการตามหลกั ธรรมมาภิบาล 12. ปฏบิ ตั งิ านอื่น ๆ ท่ีได้รบั มอบหมาย เปา้ ประสงค์ และตัวชี้วัดความสำเร็จ เป้าประสงค์ ตัวช้ีวัดความสำเร็จ ประชาชนได้รับโอกาสทางการศกึ ษาในรูปแบบ รอ้ ยละของประชากรกลุ่มตา่ งๆ (กลมุ่ ประชากรวยั ของการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตาม แรงงานปกติทั่วไป กลุม่ ประชากรวยั แรงงานทีเ่ ปน็ ผู้ อัธยาศัยท่ีมีคุณภาพอย่างทว่ั ถึงและเป็นธรรม ยากไร้ ผู้ดอ้ ยโอกาส ผูพ้ ิการ และกล่มุ ผู้สงู อาย)ุ ท่ี ไดร้ ับบรกิ ารการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยอย่างท่วั ถงึ ครอบคลมุ และเปน็ ธรรม ผู้เรียนท่ีเขา้ รบั การฝึกอาชีพมีสมรรถนะในการ ร้อยละของผู้เรียนทเ่ี ขา้ รับการศึกษาอาชีพเพ่ือการมี ประกอบอาชีพ สามารถประกอบอาชีพทสี่ ร้าง งานทำท่ีมีสมรรถนะในการประกอบอาชีพท่ีเพิ่มขน้ึ รายได้ใหก้ ับตนเองและครอบครัวได้ องค์กรภาคส่วนต่างๆรว่ มเป็นภาคีเครือข่ายใน จำนวนของภาคีเครอื ขา่ ยในการดำเนินงานการศกึ ษา การดำเนินงานการศึกษานอกระบบและ นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั เพ่ิมมากข้นึ การศกึ ษาตามอัธยาศยั อย่างกวา้ งขวาง สถานศึกษานำเทคโนโลยีดจิ ิทลั มาใชใ้ นการเพิ่ม ร้อยละของของผู้เรยี นทมี่ คี วามพึงพอใจตอ่ การใช้ ประสิทธภิ าพการจดั การศึกษานอกระบบและ เทคโนโลยดี จิ ทิ ัลของสถานศกึ ษา การศึกษาตามอธั ยาศัยอย่างท่ัวถึง บุคลากรของสถานศึกษาไดร้ บั การพัฒนาเพ่ือเพิม่ ร้อยละของบุคลากรของสถานศกึ ษาท่ีได้รับการพัฒนา สมรรถนะในการปฏบิ ตั งิ านการศกึ ษานอกระบบ เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการปฏบิ ัตงิ านการศึกษานอก และการศกึ ษาตามอัธยาศยั อย่างทั่วถงึ ระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยโดยเนน้ การนำ เทคโนโลยีดจิ ิทลั มาใชใ้ นการบริหารจดั การ สถานศกึ ษามีการพัฒนาระบบการบรหิ าร รอ้ ยละของสถานศกึ ษามีการพฒั นาระบบการบรหิ าร จดั การเพ่ือเพิม่ ประสทิ ธภิ าพโดยเน้นการนำ จดั การเพ่ือเพิ่มประสทิ ธภิ าพโดยเน้นการนำเทคโนโลยี เทคโนโลยีดจิ ิทลั ในการดำเนินงานการศึกษา ดจิ ิทัลในการดำเนนิ งานการศึกษานอกระบบและ นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั การศกึ ษาตามอธั ยาศัย บุคลากรของหน่วยงานปฏบิ ตั ิงานตามที่ได้รับ รอ้ ยละของบุคลากรของสถานศึกษาปฏิบตั ิงานไดเ้ ตม็ มอบหมายอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ประสิทธภิ าพ
๑๗ กลยุทธ์ กลยทุ ธ์ที่ 1 ส่งเสรมิ และพฒั นาคณุ ภาพการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย ให้เป็นไป ตามนโยบายและมาตรฐานการศกึ ษาอยา่ งต่อเน่ือง กลยทุ ธท์ ่ี 2 ส่งเสริมใหผ้ รู้ บั บรกิ ารไดร้ ับการพัฒนาคณุ ภาพชวี ิตโดยใช้กระบวนการคดิ เป็นตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลยทุ ธท์ ่ี 3 ส่งเสรมิ สนบั สนนุ ใหภ้ าคเี ครอื ข่ายมีส่วนร่วมในการจัดการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอธั ยาศยั เพือ่ ให้เกดิ การเรยี นรูต้ ลอดชวี ิต กลยุทธ์ที่ 4 พฒั นาหลักสูตรและรูปแบบการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ให้สอดคล้องกบั พน้ื ที่เขตพัฒนา พเิ ศษภาคตะวันออก (EEC) และความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย โดยการมีสว่ นร่วมของภมู ิปญั ญาท้องถิ่น และแหลง่ เรยี นรู้ท้ังภาครัฐและเอกชน กลยุทธท์ ี่ 5 ส่งเสริมใหม้ กี ารประชาสัมพนั ธ์ ในรปู แบบทหี่ ลากหลาย กลยทุ ธ์ที่ 6 พฒั นาระบบการนเิ ทศภายในสถานศกึ ษาโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมจากทกุ ภาคส่วน กลยทุ ธ์ท่ี 7 พัฒนาระบบคุณภาพการศึกษาโดยใช้วงจรการพัฒนาคุณภาพ (PDCA) เปน็ หลกั ในการ จดั การศกึ ษา กลยทุ ธ์ที่ 8 พฒั นาบุคลากรของสถานศึกษาให้มีความสามารถใชเ้ ทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการจัด กระบวนการเรยี นรู้ การบรหิ ารจัดการ และสง่ เสรมิ การทำงานเปน็ ทีม เขม็ มุ่งสูค่ วามสำเรจ็ 1. มี กศน.ตำบลเปน็ หลักแหล่ง 2. มีคอมฯ/อปุ กรณ์ครบทุก กศน.ตำบล 3. ให้ทุกคนมีความรู้ ICT 4. มีระบบจัดเก็บ/รายงานผ่านออนไลน์ 5. ภายใน1-2 ปีต้องเป็น 1 ใน กศน.จงั หวัด 6. ภายใน 3 ปีต้องเป็น 1-5 ของสำนักงาน กศน. การบรหิ ารนำ ICT สู่การปฏบิ ตั ิ 1.การจดั หาคอมฯ/อปุ กรณ์ 2.ขัน้ การพัฒนา 3.การประเมินผล/รายงาน 1. การจัดหาคอมฯ/อุปกรณ์ 1.1 การเปดิ ตัว กศน.ตำบล โดย 1) เชิญสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.),สมาชิกวฒุ ิสภา (ส.ว.) เปน็ ตน้ 2) นำนักศึกษา กศน. หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ปจั จุบันมีทั้งสิ้น 4,621 คน 3) เชญิ ภาคีเครือขา่ ย อาทิเช่น โรงเรียน, อบต., เทศบาล, อบจ. , อำเภอ เป็นต้น 4) เสนอโครงการพฒั นา กศน.ตำบล ให้เปน็ แหล่งเรยี นรูด้ า้ นดจิ ิทลั 1.2 เชิญส.ส./ส.ว. เข้ารว่ มทุกกจิ กรรม 1) โครงการเขา้ คา่ ยต่าง ๆของนกั ศึกษา กศน. 2) โครงการวันวชิ าการ ของนักศึกษา กศน. 3) โครงการ อื่น ๆ
๑๘ 2. ขั้นการพฒั นา 2.1 พัฒนาระบบ จะพัฒนาระบบการจัดเก็บ/รายงานต่างๆผา่ นออนไลน์ 2.2 พฒั นาคน 1) ครู กศน./จนท.ทุกคน 2) นักศึกษา กศน.หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 ทั้ง 2 กลุ่มเป้าหมาย ต้องมีความรู้ ด้าน ICT และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ สำหรับในสว่ นของนักศึกษา กศน. หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กศน.อำเภอเมืองชลบรุ ี จะต้องประกาศเปน็ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ พร้อมท้งั ใชง้ บอดุ หนนุ (กิจกรรมพัฒนาคุณภาพผเู้ รียน) ในการ ขับเคล่ือน โดยจัดโครงการพฒั นาคุณภาพผู้เรียน ด้าน ICT พรอ้ มท้ังจัดทำสรุปเป็นรูปเล่ม ( 5 บท) 3.การประเมินผล/รายงาน 3.1 รายงานผ่านออนไลน์ โดยผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต http://118.172.227.194:7003/choncity/ และจดั ทำ Application รายงานผ่านทางสมาร์ทโฟน 3.2 รายงานสรุปผลเป็นรูปเล่ม (5 บท) จดั ทำสรุปผลโครงการ/กิจกรรม เปน็ รูปเล่ม (5บท) เพ่ือรองรับการประเมนิ คณุ ภาพโดยต้นสังกัด และภายนอก
๑๙ แผนพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา(เฉพาะปี 2564) เป้าประสงค์ กลยุทธ์ โครงการ/กิจกรรม เปา้ หมาย ตัวชว้ี ัด เกณฑค์ วามสำเร็จ ความสำเร็จ (ร้อยละ) 1. กลุ่มเปา้ หมาย กลยทุ ธท์ ่ี 1 1. โครงการยกระดับ 8,000 1. กลุ่มเป้าหมาย 1. รอ้ ยละของ ไดร้ บั โอกาสทาง สง่ เสรมิ จัดการศึกษานอก การศึกษาข้ัน และพัฒนา ระบบระดับการศกึ ษา คน ไดร้ ับโอกาสทาง กลุ่มเป้าหมายไดร้ บั พ้ืนฐาน คุณภาพ ข้นั พ้ืนฐานให้มี การศกึ ษาตอ่ เน่อื ง การศกึ ษา คุณภาพ การศึกษาแตล่ ะ โอกาสทางการศกึ ษา และการศึกษา นอกระบบ 2. โครงการพัฒนา ตามอัธยาศยั ทม่ี ี และ คณุ ภาพผเู้ รยี น กศน. ประเภทของ กศน. แต่ละประเภทของ คุณภาพใหเ้ ป็นไป การศึกษา ตามหลักสูตร ตามความต้องการ ตาม การศึกษานอกระบบ 2. ผจู้ บหลกั สตู ร กศน. และสอดคล้องกบั อัธยาศัย ให้ ระดับการศึกษาขั้น สภาพปัญหาของ เป็นไปตาม พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช การศึกษาขน้ั 2. ร้อยละของผู้จบ กล่มุ เป้าหมาย นโยบาย 2551 และ 3. โครงการส่งเสรมิ 8,000 พ้ืนฐานแตล่ ะระดับ หลักสตู รการศกึ ษาข้นั มาตรฐาน การรู้หนังสือสำหรบั การศึกษา ประชาชนอำเภอเมอื ง คน มีผลสัมฤทธ์ิ พื้นฐานแต่ละระดับมี อย่าง ชลบุรี ต่อเนื่อง 4. โครงการจดั ทางการเรียนเฉล่ยี ผลสัมฤทธิ์ทางการ การศกึ ษาเพือ่ พัฒนา อาชีพ > 2.00 เรยี นเฉลยี่ > 2.00 (ศูนย์ฝกึ อาชพี ชุมชน) 3. กลมุ่ เป้าหมาย 3. ร้อยละของ รว่ มกิจกรรมพฒั นา กลมุ่ เป้าหมายร่วม คณุ ภาพผูเ้ รยี น กจิ กรรมพัฒนา 4. กลุ่มเปา้ หมาย คณุ ภาพผ้เู รยี น 27 คน เข้าร่วมกจิ กรรม 4.รอ้ ยละของ ส่งเสรมิ การรู้ กลมุ่ เปา้ หมายเขา้ ร่วม หนังสือ กจิ กรรมส่งเสริมการรู้ 5. กลมุ่ เปา้ หมาย หนังสอื 1,020 ทกุ ประเภท 5. ร้อยละของ คน สามารถนำความรู้ กลุ่มเป้าหมายทุก ไปใช้ในการพฒั นา ประเภทสามารถนำ อาชพี หรอื คุณภาพ ความรูไ้ ปใชใ้ นการ ชีวติ ได้ พฒั นาอาชีพหรอื 6. กลุม่ เป้าหมายมี คณุ ภาพชวี ติ ได้ คุณลกั ษณะที่พึง 6. ร้อยละของ ประสงคต์ าม กลุ่มเป้าหมายมี จดุ มงุ่ หมายของ คณุ ลกั ษณะทพี่ ึง หลกั สตู ร ประสงคต์ าม 7. กลมุ่ เปา้ หมายมี จดุ ม่งุ หมายของ ความพึงพอใจตอ่ หลักสตู ร การร่วมกจิ กรรม 7. รอ้ ยละของ การเรยี นรูท้ กุ กลมุ่ เปา้ หมายมคี วาม ประเภท พึงพอใจตอ่ การรว่ ม กิจกรรมการเรยี นรู้ทกุ ประเภท
๒๐ เปา้ ประสงค์ กลยุทธ์ โครงการ/กจิ กรรม เปา้ หมาย ตัวชว้ี ดั เกณฑค์ วามสำเรจ็ 285 คน ความสำเรจ็ (รอ้ ยละ) 5.กลมุ่ เปา้ หมาย กลยุทธ์ที่ 2 1. โครงการเรยี นรู้ ได้รับการสง่ เสรมิ สง่ เสรมิ ให้ ปรัชญาของเศรษฐกิจ 1. กลมุ่ เปา้ หมาย 1. ร้อยละ 80 ของ และสนบั สนุนการ ผรู้ บั บริการ พอเพียงและเกษตร ได้รับการสง่ เสรมิ กลุ่มเปา้ หมายไดร้ บั พฒั นาคุณภาพ ไดร้ บั การ ทฤษฎีใหม่ การเรยี นรู้ทางด้าน การส่งเสริมการเรียนรู้ ชวี ิตตามหลกั พัฒนา 2.โครงการเสริมสรา้ ง หลักปรชั ญาของ ทางด้านหลักปรัชญา ปรัชญาของ คณุ ภาพ คุณภาพชวี ติ ทเี่ ปน็ มิตร เศรษฐกิจพอเพยี ง ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เศรษฐกจิ พอเพยี ง ชีวิตโดยใช้ กบั ส่ิงแวดลอ้ ม 2. กลมุ่ เปา้ หมาย 2. รอ้ ยละ 80 ของ เพอ่ื พัฒนาสังคม กระบวนกา 3.โครงการเกษตรยคุ นำความรไู้ ปใชใ้ น กลมุ่ เปา้ หมายนำ และชมุ ชนให้มี รคดิ เปน็ ใหมต่ ามวิถีความ การพัฒนาอาชพี ความรไู้ ปใช้ในการ ความเขม้ แขง็ ตามหลัก พอเพียง และพฒั นาคณุ ภาพ พฒั นาอาชพี และ อย่างยง่ั ยืน ปรัชญาของ 4.โครงการอบรมเชิง ชวี ิตได้ พฒั นาคุณภาพชีวติ ได้ เศรษฐกจิ ปฏิบัตกิ ารด้าน 3. กลมุ่ เป้าหมายมี 3. รอ้ ยละ 90 ของ พอเพียง เศรษฐกิจพอเพียง ความพงึ พอใจใน กลมุ่ เป้าหมายมคี วาม 5.โครงการปรัชญาของ ระดับดีขึ้นไป พงึ พอใจในระดบั ดขี น้ึ เศรษฐกิจพอเพียง นำ ไป วิถีพอเพียงสชู่ ุมชน 6.โครงการอบรมและ เรียนรตู้ ามรอยพระ ยุคลบาทดว้ ยหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 7.โครงการเรียนรู้ เศรษฐกิจพอเพียงและ การพฒั นาท่ีย่ังยนื \"วิถี ไทย วถิ ีพอเพยี ง\"
๒๑ เปา้ ประสงค์ กลยทุ ธ์ โครงการ/กิจกรรม เปา้ หมาย ตัวชวี้ ัด เกณฑค์ วามสำเร็จ 3.กลมุ่ เป้าหมาย ความสำเร็จ (ร้อยละ) ได้รบั การสร้าง กลยทุ ธ์ที่ 3 1. โครงการสง่ เสรมิ และสง่ เสรมิ ให้ สง่ เสริม การอ่านเพอ่ื พฒั นา 11,500 1. กลุ่มเปา้ หมาย 1. รอ้ ยละ 80 ของ เป็นผรู้ ักการอา่ น สนับสนนุ ให้ บ้านหนังสือชมุ ชน และใฝร่ ใู้ ฝเ่ รียน ภาคี 2. โครงการหอ้ งสมดุ คน ภาคเี ครอื ขา่ ยมี เปา้ หมายภาคเี ครอื ขา่ ย อย่างต่อเน่อื ง เครอื ข่ายมี เคลือ่ นทส่ี ำหรับชาว ตลอดชีวิต ส่วนรว่ มใน ตลาด ส่วนร่วมในการจดั มีสว่ นร่วมในการจดั การจดั 3.โครงการเมอื งนัก เป้าประสงค์ การศกึ ษา อา่ น การศึกษานอก การศกึ ษานอกระบบ 9.สถานศึกษา นอกระบบ 4.โครงการอา่ นสร้าง พฒั นาสือ่ แหล่ง และ งานผา่ น ระบบและการจัด และการจดั การศกึ ษา เรียนรแู้ ละภูมิ การศึกษา QRCode ปญั ญาทอ้ งถิ่น ตาม การศึกษาตาม ตามอธั ยาศัย ดว้ ยการจดั อธั ยาศัย กระบวนการ เพือ่ ให้เกดิ อัธยาศัย 2. มบี า้ นหนังสือชุมชน เรียนร้ทู ่ี การเรยี นรู้ ตอบสนองกับการ ตลอดชีวิต 2. มีบา้ นหนงั สอื ท่ีเป็นไปตามเกณฑ์ เปลี่ยนแปลง บรบิ ทด้าน กลยุทธ์ โครงการ/กิจกรรม ชมุ ชนท่ีเปน็ ไปตาม ครบทุกตำบลอยา่ ง เศรษฐกิจ สงั คม การเมอื ง ใน กลยทุ ธ์ท่ี 4 1. โครงการ English เกณฑค์ รบทุก นอ้ ยตำบลละ 1 แห่ง รปู แบบที่ พฒั นา น่ารู้ คู่ Service หลากหลาย หลกั สตู ร โรงแรม ตำบลอยา่ งน้อย 3. มมี มุ หนังสอื เพือ่ และรปู แบบ 2.โครงการ Smart การจัด ONIE เพอื่ สรา้ ง ตำบลละ 1 แหง่ ชุมชนอยา่ งน้อยตำบล กจิ กรรม Smart farmers การเรยี นรู้ 3.โครงการ 3. มมี มุ หนังสอื เพื่อ ละ 1 แหง่ ให้ Digtalteracy (เพอ่ื สอดคล้อง สรา้ งสงั คมออนไลน)์ ชุมชนอยา่ งนอ้ ย 4. รอ้ ยละ 80 ของ กับพ้ืนท่เี ขต 4.โครงการการคา้ พฒั นา ออนไลน์ สสู่ ังคม ตำบลละ 1 แห่ง กลุ่มเปา้ หมายมีความ พิเศษภาค Digital ตะวนั ออก 5.โครงการเพิ่ม 4. กลุม่ เป้าหมายมี พงึ พอใจในระดบั ดีข้นึ (EEC) ประสิทธภิ าพการ และความ บรหิ ารจดั การขยะมลู ความพึงพอใจใน ไป ตอ้ งการ ฝอย ของ 1. โครงการพัฒนา ระดบั ดีขึน้ ไป กลมุ่ เปา้ หม ระบบประชาสมั พันธ์ าย โดยการ ของสถานศกึ ษา เป้าหมาย ตวั ชี้วัด เกณฑค์ วามสำเร็จ มสี ว่ นรว่ ม ความสำเรจ็ (รอ้ ยละ) ของภูมิ 800 คน 1.กลมุ่ เปา้ หมาย 1. ร้อยละ 75 ของ ได้รับการพฒั นา กลุม่ เป้าหมายไดร้ บั ชีวติ ใหส้ อดคลอ้ ง การพัฒนาชีวิตให้ กับพ้นื ที่เขตพฒั นา สอดคลอ้ งกับพนื้ ทีเ่ ขต พิเศษภาค พัฒนาพเิ ศษภาค ตะวนั ออก (EEC) ตะวนั ออก (EEC) 4. กลุ่มเป้าหมายมี 2. ร้อยละ 80 ของ ความพงึ พอใจใน กลมุ่ เป้าหมายมีความ ระดบั ดีข้นึ ไป พึงพอใจในระดบั ดขี ึ้น ไป 17 ตำบล 1. กศน.อำเภอ 1. รอ้ ยละ 100 ของ และกศน.ตำบลมี กศน.อำเภอและ กศน. การอพั เดทข้อมลู ตำบลมีการอัพเดท การประชาสมั พนั ธ์ ข้อมูลการ กจิ กรรมทางเว็บ ประชาสมั พันธก์ จิ กรรม
๒๒ ปัญญา ไซด์เป็นประจำทกุ ทางเวบ็ ไซดเ์ ปน็ ประจำ ทอ้ งถ่ินและ เดอื น ทกุ เดือน แหล่งเรยี นรู้ ทงั้ ภาครฐั และเอกชน กลยุทธท์ ี่ 5 ส่งเสริมให้มี การ ประชาสมั พั นธ์ ใน รูปแบบท่ี หลากหลาย เป้าประสงค์ กลยทุ ธ์ โครงการ/กิจกรรม เป้าหมาย ตวั ชีว้ ดั เกณฑค์ วามสำเรจ็ ความสำเรจ็ (รอ้ ยละ) 7.ชมุ ชนและภาคี กลยทุ ธ์ท่ี 6 1. โครงการพฒั นา 17 ตำบล เครือขา่ ยร่วมจัด พัฒนา บคุ ลากรการนเิ ทศ 1. สถานศึกษามี 1. รอ้ ยละ 100 ของ สง่ เสรมิ และ ระบบการ ภายในสถานศึกษา คู่มอื ระบบการ สถานศึกษามีคมู่ ือ สนับสนุนการ นิเทศ กศน.อำเภอเมอื งชลบรุ ี นเิ ทศภายใน ระบบการนเิ ทศภายใน ดำเนนิ งาน ภายใน 2. ผ้นู ิเทศมกี าร 2. รอ้ ยละ 80 ของผู้ การศึกษานอก สถานศึกษา นเิ ทศการจดั นิเทศมีการนิเทศการ ระบบและ โดยใช้ กจิ กรรมและ จัดกิจกรรมและ การศึกษาตาม กระบวนกา รายงานผลเปน็ รายงานผลเป็นประจำ อธั ยาศัย รมสี ่วนร่วม ประจำทกุ เดอื น ทุกเดอื น จากทุกภาค สว่ น 10.สถานศกึ ษามี กลยทุ ธ์ที่ 7 1. โครงการบริหาร 39 คน 1. สถานศึกษามี 1. สถานศกึ ษามีคู่มือ ระบบการบรหิ าร พฒั นา ความเสยี่ งของ คมู่ อื การบรหิ าร การบรหิ ารความเส่ยี ง จัดการตามหลัก ระบบ สถานศกึ ษา กศน. ความเสยี่ ง 2. รายงานสถานะ ธรรมาภิบาล คุณภาพ อำเภอเมอื งชลบรุ ี 2. รายงานสถานะ ทางการเงนิ เปน็ ประจำ การศึกษา 2. โครงการพฒั นา ทางการเงนิ เปน็ ทุกเดือน โดยใชว้ งจร ระบบประกนั คณุ ภาพ ประจำทุกเดอื น การพัฒนา การศึกษา กศน.อำเภอ คุณภาพ เมอื งชลบรุ ี (PDCA) เป็นหลกั ใน การจดั การศึกษา
๒๓ 8. บคุ ลากรของ กลยุทธท์ ี่ 8 1.โครงการพฒั นา 39 คน 1.บุคลากรของ 1. ร้อยละ 80 ของ สถานศึกษาได้รับ พฒั นา บคุ ลากรดา้ น การพัฒนาเพอ่ื บคุ ลากร วิชาการ:Google สถานศึกษาทุกคน บุคลากรของ เพิ่มสมรรถนะใน ของ Form การปฏิบัติงาน สถานศึกษา 2.โครงการพัฒนา ได้รบั การพัฒนา สถานศกึ ษาทุกคน ตามบทบาท ให้มี บคุ ลากรดา้ นวิชาการ: หน้าท่ีอย่างมี ความสามาร การจัดทำสื่อการเรยี น เพอ่ื เพิ่มสมรรถนะ ไดร้ ับการพฒั นาเพ่ือ ประสิทธภิ าพและ ถใช้ การสอน Clip Video ตอ่ เนือ่ ง เทคโนโลยี 3.โครงการบรหิ าร ในการปฏิบตั งิ าน เพมิ่ สมรรถนะในการ ดจิ ิทัลเพ่อื จดั การขอ้ มลู ข่าวสาร การจดั กศน.ฝา่ กระแส Social ตามบทบาทหนา้ ที่ ปฏบิ ตั งิ านตามบทบาท กระบวนกา Network รเรียนรู้ 4.โครงการประชุม อยา่ งมี หนา้ ที่อย่างมี การบรหิ าร บคุ ลากรเพ่อื เพ่ิม จัดการ และ ประสทิ ธภิ าพในการ ประสทิ ธภิ าพและ ประสิทธภิ าพและ ส่งเสรมิ การ ปฏบิ ัติงาน ทำงานเป็น 5.โครงการประชมุ เชงิ ต่อเน่อื ง ต่อเนือ่ ง ทมี ปฏิบัตกิ ารการจดั กระบวนการเรยี นการ 2.บคุ ลากรของ 2. รอ้ ยละ 80 ของ สอนและการจดั ทำ สรุปผลโครงการ(5บท) สถานศกึ ษา บคุ ลากรของ สามารถนำความรู้ สถานศกึ ษาสามารถนำ ไปใช้ในการ ความรู้ไปใชใ้ นการ พัฒนาการ พฒั นาการปฏิบัติงาน ปฏบิ ัติงานตาม ตามบทบาทหนา้ ที่ บทบาทหนา้ ที่อยา่ ง อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ มีประสทิ ธิภาพ 3. รอ้ ยละ 90 ของ 3. บุคลากรของ บคุ ลากรของ สถานศึกษามีความ สถานศึกษามคี วามพงึ พึงพอใจในระดับดี พอใจในระดบั ดขี ึ้นไป ขนึ้ ไป 3. กรอบการจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผูเ้ รียนตามนโยบายการจัดการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขั้น พ้นื ฐานสำนกั งาน กศน. (เอกสารแนบทา้ ยหนังสือ สำนักงาน กศน. ด่วนทส่ี ุด ที่ 0210.04/475 ลงวันท่ี 2 กมุ ภาพันธ์ 2558) ----------------------------- 1. หลักการ ตามที่รัฐบาลมีนโยบายด้านการศึกษา เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาและกระจายโอกาส ทางการศึกษาในสังคมไทย โดยคำนึงถึงการสร้างความเสมอภาค ความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นแก่ประชากร ทุกกลุ่ม รวมถึงผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ ผู้บกพร่องทางกาย/ทางการเรียนรู้ ชนกลุ่มน้อย โดยสนับสนุน การจัดการศึกษาตามวัยและพัฒนาการอย่างมีคุณภาพตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ การจัดการศึกษาชุมชนเพอื่ มุ่งให้เกดิ สงั คมแห่งการเรียนรแู้ ละการศกึ ษาตลอดชีวิตน้นั สำนกั งาน กศน. ได้กำหนดนโยบายดา้ น การจดั การศกึ ษานอกระบบ แผนงานสนบั สนุนการ จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยสนับสนุน 1) ค่าเล่าเรียน 2) ค่าหนังสือเรียน 3) ค่าจัดกิจกรรมพัฒนา คุณภาพผเู้ รยี นอยา่ งท่ัวถึง เพ่ือเพิ่มโอกาสในการรับการศึกษาทม่ี ีคุณภาพโดยไมเ่ สยี ค่าใชจ้ า่ ย เพื่อให้การจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวอย่างมี ประสิทธิภาพ สำนักงาน กศน.จึงกำหนดกรอบการจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ตามนโยบายการจัด
๒๔ การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงาน กศน. ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ให้สถานศึกษาจัดเพิ่มเติม จากการเรยี นปกติ ใหก้ ับนักศึกษา กศน.ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบขน้ั พื้นฐาน 2. กรอบการจดั กิจกรรมเพ่ือพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รียน เพ่ือให้สถานศึกษาได้จัดกิจกรรมพฒั นาคุณภาพผู้เรียน เปน็ ไปในแนวทางเดยี วกนั อย่างมีประสทิ ธิภาพ ประสทิ ธผิ ล เกดิ ความคุ้มคา่ ประหยัด เกดิ ประโยชนต์ อ่ ผ้เู รียนและทางราชการสูงสุด สำนักงาน กศน. จึงได้กำหนดกรอบการจดั กจิ กรรมพฒั นาคุณภาพผเู้ รียน 2.1 กจิ กรรมพฒั นาวิชาการ เป็นการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมีพื้นฐานความรู้เพียงพอกับการศึกษาในแต่ละระดับ และพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ความสามารถทางด้านวิชาการเพิ่มมากขึ้นในรายวิชาตามหลักสูตรสถานศึกษา ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ หรือวิชาอ่ืนๆ ตามความต้องการของนักศึกษา กศน. โดยมีรูปแบบการดำเนนิ งาน ดงั นี้ 2.1.1วิทยากรหรือผู้สอน ควรเป็นผู้ที่มีความรู้หรือประสบการณ์ในการสอนวิชานั้นๆ โดยตรง ซึง่ อาจจะเปน็ บุคคลภายนอก หรอื ครู กศน. ได้ตามความเหมาะสม 2.1.2 จำนวนนกั ศึกษา กศน. ทร่ี ว่ มกจิ กรรม ให้อยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของผู้บริหารสถานศึกษา 2.2 กจิ กรรมพัฒนาทักษะชีวิต เป็นการจัดกิจกรรมเสริมเพิ่มเติมจากการเรียนปกติในสาระทักษะการดำเนินชีวิต หลักสูตร การศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน เนื่องจากสังคมปัจจบุ ันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วท้ังดา้ น เศรษฐกิจ สังคมข่าวสารข้อมูล และเทคโนโลยี มีการแข่งขันและความขัดแย้งมากขึ้น จึงมีความจำเป็นท่ี สถานศึกษาต้องจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตให้กับ นักศึกษา กศน. โดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือ เพื่อให้มี ความรู้ ความเข้าใจ มีเจตคติ ค่านิยมที่ถูกต้อง และมีทักษะ หรือความสามารถพื้นฐานที่จำเป็นในการเผชิญ ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิต เช่น ปัญหายาเสพตดิ การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ เพศสัมพันธ์ ทะเลาะวิวาท ครอบครัว แตกแยก ความรุนแรง ภัยพิบัติ ความเครียด ฯลฯ รวมทั้งมีคุณสมบัติที่พึงประสงค์ในการอยู่ร่วมกับผูอ้ ื่นใน สังคมได้อย่างมีความสุข และสามารถนำความรู้จากการเข้าร่วมกิจกรรมไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่าง เหมาะสม ทักษะชีวิต 10 ประการ (ขององค์การอนามัยโลก) ที่นักศึกษา กศน.ทุกคนจำเป็นต้องมี คือ 1) ทักษะการตัดสินใจ 2) ทักษะการแก้ปัญหา 3) ทักษะการคิดสร้างสรรค์ 4) ทักษะการคิดอย่างมี วิจารณญาณ 5) ทักษะการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ 6) ทักษะการสร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่น 7) ทักษะ การตระหนักรูแ้ ละเห็นคุณค่าในตนเอง 8) ทกั ษะการเข้าใจผู้อื่น 9) ทักษะการจดั การกบั อารมณ์ 10) ทักษะ การจดั การกบั ความเครียด
๒๕ แนวทางการจดั การศึกษาและการจดั การเรียนรู้ กศน. ในสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรค ตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19)
๒๖
๒๗
๒๘ บทความทีเ่ ก่ียวข้อง เทคนคิ การใช้ YouTube เพื่อการเรยี นการสอนในศตวรรษท่ี 21 อ่านบทความอ่ืนจาก Wilailak รูปภาพที่ 1 เทคนคิ การใช้ YouTube เพื่อการเรยี นการสอนในศตวรรษที่ 21 ภาพปกโดย : Wilaialk 1. ใช้ YouTube เพ่ือดึงดูดความสนใจก่อนเขา้ เนอ้ื หาการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นการสอนในขัน้ นำเขา้ สู่บทเรียน ครูจะตอ้ งดึงดดู ความสนใจของนักเรียนให้เกดิ ความ สนใจและอยากมสี ่วนรว่ มในเรอื่ งทจี่ ะเรียน เนือ้ หาการเรยี นในหลายเรื่องสามารถเพิ่มวดี โี อที่เหมาะสมในการ เรียนการสอนเพื่อลดความเบื่อหนา่ ยของนักเรียนได้เป็นอย่างดี การคน้ หาวดี โี อจาก YouTube เพ่ือสรา้ ง บรรยายกาศและการเรยี นให้สนุกสนานนั้นเป็นเรือ่ งง่ายเพราะใน YouTube มีวดี โี อหลากหลายใหเ้ รยี นรแู้ ละ สามารถเขา้ ใช้งานได้ฟรี แต่การแสดงวีดีโอนั้นจะต้องมีความสอดคล้องกับเนือ้ หา การค้นหาวีดโี อใน YouTube ไมใ่ ช่เร่อื งยากเพยี งแค่ใส่คยี เ์ วิร์ดทีต่ ้องการกส็ ามารถหาวีดีโอได้ง่าย ๆ โดยคดั เลือกวดี โี อที่เหมาะสมกับหัวข้อท่ี ครูจะดำเนินการสอน นอกจากวีดีโอจะชว่ ยสร้างความสนุกสนานและดึงดูดความสนใจของผู้เรยี นแล้ว ครูยงั สามารถต้งั คำถามหรือสร้างกิจกรรมทเี่ กี่ยวขอ้ งกับวดี ีโอเพื่อชว่ ยใหน้ ักเรยี นไดร้ ับความรู้และประโยชนจ์ ากวดี ีโอ มากขึ้น ยกตวั อย่าง เชน่ หากจะสอนเรือ่ ง การตลาด คน้ หาวดี ีโอท่ดี งึ ดดู ความสนใจเกี่ยวกบั การขาย อาจหา ตัวอยา่ งวีดีโอท่นี ำมาใชด้ งึ ดูดความสนใจในข้ันนำเข้าสบู่ ทเรียน เชน่ วดี ีโอจาก โครงการสานรัก เรื่อง สบั ปะรด เปน็ ต้น จากนน้ั ต้งั คำถามให้นกั เรยี นเกิดการคดิ วิเคราะห์และนำไปสกู่ ารเข้าเน้ือหาวิชาเรียน ยกตัวอย่างคำถาม ดงั น้ี 1. เด็กผหู้ ญิงในวีดีโอทำอะไร 2. เด็กผหู้ ญิงเกดิ การเรยี นรู้ไดอ้ ย่างไร 3. เด็กผหู้ ญงิ ไปเรยี นรวู้ ธิ ีการขายจากท่ีไหน 4. ถ้าเราเป็นเดก็ ในวีดีโอ เรามวี ิธกี ารเรยี นรกู้ ารขายจากท่ีไหนได้บ้าง
๒๙ 2. ใช้ YouTube เปน็ ส่อื การสอนในเน้ือหา YouTube เปน็ สอื่ ทีม่ ีความเคล่อื นไหวท่นี อกเหนือจากการบรรยายธรรมดา ดงั นั้นการนำ YouTube มา เปน็ ส่อื ในการสอนจะทำใหน้ ักเรียนเกดิ ความสนใจในเนื้อหาที่ได้ศึกษามากย่ิงขึน้ ครูสามารถเลือกวีดีโอที่มีผคู้ น ได้แลกเปล่ยี นเรยี นรู้บน YouTube มาใช้เป็นส่ือการสอนได้ฟรี การนำ YouTube มาเป็นสอ่ื การสอนในช้ัน เรียน ถอื ได้วา่ เป็นการใช้เทคโนโลยจี ัดการเรียนการสอนไดเ้ กดิ ประโยชน์สงู สุด เพราะ YouTube เป็นส่อื ที่ชว่ ย ให้นกั เรยี นมีความเขา้ ใจ และมคี วามสนใจเน้ือหามากยง่ิ ข้นึ เน่อื งจากเป็นส่ือที่มีการเคล่ือนไหว มีเสยี ง ทำให้ นกั เรยี นเหน็ สถานการณจ์ รงิ เสยี งจริง นอกจากจะเป็นส่ือที่มีความสำคญั ในช้นั เรียนแลว้ ครยู งั สามารถตั้ง คำถามหรือหัวข้อ เพ่ือให้นกั เรียนไปศึกษาค้นคว้าหาความรูด้ ว้ ยตนเองได้ทกุ เวลาและทุกสถานท่ีอกี ดว้ ย วดี โี อ จาก YouTube เป็นสือ่ การสอนนี้สามารถแกป้ ญั หาการขาดแคลนครูของโรงเรียน ยกตวั อยา่ งเช่น ให้ครกู ลุ่ม สาระอืน่ มาสอนในกล่มุ สาระภาษาต่างประเทศ กส็ ามารถใช้วดี โี อจากชอ่ งรายการต่างๆ ใน YouTube ประกอบการสอน ใชเ้ ปน็ สือ่ สร้างความรู้ให้กับนกั เรียนได้เป็นอย่างดี YouTube มชี ่องรายการมาตรฐานทาง การศกึ ษามากมายทีส่ ามารถนำวดี ีโอมาใชเ้ ปน็ สอื่ การสอนในเน้ือหาทุกกลุ่มสาระฯ เช่น TruePlookpanya Channel, DLIT PLC พฒั นาวิชาชพี ครู, DLIT Classroom ห้องเรียน DLIT, DLIT Resources คลงั สื่อการ สอน เปน็ ต้น ชอ่ งรายการตวั อยา่ งดังต่อไปน้ี มีความง่ายดายในการค้นหาสอื่ การสอนในเน้ือหามาก เพราะวา่ สรา้ ง เพลย์ลสิ ตจ์ ดั กลุม่ วดี โี อ แยกกลุ่มสาระฯ แยกชัน้ เรยี น เปน็ ระเบยี บสะดวก และใช้เวลาน้อยมากในการคน้ หาส่ือ ประกอบการสอน เชน่ ชอ่ ง DLIT Classroom ตามลงิ ค์ https://qrgo.page.link/fEik7 รปู ภาพท่ี 2 ช่อง DLIT Classroom
๓๐ นอกจากนี้ยังมีการรวมลิงค์ YouTube ฝังไวใ้ นเว็บไซตส์ ะดวกต่อการค้นหา แยกเป็นช้ันเรยี น กลมุ่ สาระฯ พรอ้ มมีใบงานประกอบการสอน เช่น ทรูปลูกปัญญา ตามลิงคน์ ้ี https://qrgo.page.link/S7EZA รูปภาพที่ 3 true ปลกู ปญั ญา 3. ให้นักเรยี น ใช้ YouTube เปน็ เครอ่ื งมอื นำเสนอหรอื อภิปรายช้นิ งาน การเรียนการสอนบางเนื้อหามีการจดั กจิ กรรมใหน้ กั เรียนสร้างผลงานและนำเสนอผลงาน เพือ่ ความ สะดวกรวดเร็ว ครสู ามารถให้นักเรียนจดั ทำผลงาน แลว้ ใช้โทรศพั ทม์ ือถืออดั วดี ีโอการนำเสนอผลงานอัพโหลด ลง YouTube จากน้นั เผยแพร่ผลงานของผ้เู รยี น นำเสนอผลงานผา่ นทาง YouTube และแบ่งปนั ใหเ้ พ่ือน สามารถเขา้ ไปดูผลงานไดง้ ่าย ๆ โดยการแชรล์ ิงค์สกู่ ลมุ่ เรียนท่คี รูไดส้ ร้างขึ้นแต่ละกลุม่ เช่น Google Classroom , Facebook เปน็ ต้น ยกตัวอย่าง เชน่ การสอนวิชาศกึ ษาคน้ คว้าดว้ ยตนเอง ท่เี ป็นการจัดการเรยี นรู้แบบโครงงาน เพ่ือ ประหยัดเวลาการนำเสนอ ให้นักเรียนอดั วีดโี อการนำเสนอผลงานของตนเองลง รปู ภาพท่ี 4 การนำเสนองานของนกั เรียนผ่านชองFacebook รูปภาพโดย : Wilailak
๓๑ 4. ครูสามารถเผยแพรเ่ นื้อหาความรู้ลง YouTube โดยการสรา้ ง Channel ครูทกุ คนสามารถถ่ายทอดความรู้ของตนเองโดยถ่ายวีดโี อลง YouTube เพ่ือให้นกั เรยี นได้รับโอกาสการ เรียนไดท้ ัว่ ถึงกัน ไม่ใชแ่ ค่เพยี งเด็กในชนั้ เรยี นท่ีได้รบั ความรู้แต่เปน็ เด็กไทยทุกคนทมี่ าเรียนรู้เพมิ่ เติมจากวดี ีโอท่ี บันทกึ ไว้ลง YouTube ครูสามารถบันทึกบทเรียนหรือบรรยากาศในช้ันเรยี นขณะทำการสอนแล้วให้ YouTube เปน็ พน้ื ที่จัดเกบ็ วีดโี อและแบ่งปนั กิจกรรมในชั้นเรียนทบ่ี ันทึกไวแ้ ก่ผู้ท่สี นใจเน้ือหาทส่ี อน นอกจากน้นั นกั เรียนท่ีเรยี นเน้ือหานนั้ ผ่านไปกส็ ามารถกลบั มาย้อนดูการเรียนการสอนในอนาคตได้ หาก นกั เรยี นคนใดขาดเรยี นครูกส็ ามารถส่งลิงคว์ ดี โี อใน YouTube ไปใหน้ กั เรียนท่พี ลาดช้ันเรียนไดเ้ รยี นรู้ในสง่ิ ที่ ครูได้สอน หรือนักเรียนต้องการทบทวนความรกู้ ่อนสอบ YouTube กส็ ามารถช่วยใหน้ กั เรยี นเขา้ ทบทวน บทเรียนไดง้ า่ ยดาย การเผยแพรเ่ นือ้ หาความรู้โดยการสรา้ ง Channel ของตนเองมวี ิธงี า่ ย ๆ ดังนี้ 1. ทำการสร้าง Account YouTube (ถ้าหากใช้ Gmail อยู่สามารถใช้ Account เดียวกับ Google เพอ่ื Login ไดเ้ ลย) 2. ครสู ร้างสื่อไฟลว์ ดี โี อของตนเอง นามสกลุ ดงั นี้ .Windows Media Video(.avi) /3GP(cell phones)/AVI(windows)/MOV(mac)/.MP4 (ipod/psp)/.MPEG/.FLV (adobeflash).SWF (shockwave flash)/.MKV (h.264) 3. เตรียมวดี ีโอให้พรอ้ ม อพั โหลดวีดโี อ 4. สร้าง Playlist เพ่อื จดั กลมุ่ วดี ีโอ 5. ตกแต่ง Channel ของตนเอง 6. นำลงิ ค์ YouTube ฝงั ในเว็บไซต์ บล็อก เพจโรงเรียน หรอื โพสลง Facebook เป็นต้น ยกตัวอยา่ ง เชน่ ชอ่ งรายการครนู กเล็ก ที่นำเนื้อหาท่ีสอนมาประกอบกับเพลงจนเขา้ จังหวะเกิดความ สนกุ สนาน นักเรียนท่ไี ด้เรียนรไู้ ม่ใชแ่ ค่ในหอ้ งเรยี นแตส่ ามารถเปน็ เดก็ ไทยทว่ั ประเทศ ดูตัวอย่างชอ่ งท่ี ลงิ ค์ https://www.youtube.com/user/selflearningthai รปู ภาพท่ี 5 การสอนของครผู ่านข่อง Youtube รปู ภาพโดย : Wilailak
๓๒ 5. ใช้ YouTube เปน็ ส่ือชว่ ยสรุปเนอ้ื หาทา้ ยบทเรยี น การสอนในแตล่ ะทา้ ยหน่วยการเรยี นรู้ ครสู ามารถนำวีดีโอสั้น ๆ จาก YouTube ตามเนอ้ื หา เปดิ ให้ นักเรยี นดูสรุปความรใู้ นภาพรวม ให้นักเรียนถอดความรู้จากวดี โี อเพื่อทบทวนความรทู้ ่ีได้เรียนรมู้ าทั้งหมดใน หนว่ ยการเรยี นรนู้ ้ัน ๆ หรือครอู าจหาหนังสนั้ ที่สอดคล้องกับเนอื้ หาตง้ั คำถามให้มีความเชือ่ มโยงสมั พนั ธ์กนั ระหว่างวดี ีโอกบั เน้ือหาวิชา เพอื่ ส่งเสรมิ ทกั ษะท่ีสำคญั ในศตวรรษที่ 21 ฝึกนกั เรยี นให้เกิดทกั ษะกระบวนการ คิดวเิ คราะห์ หรือเป็นวีดโี อสรุปความร้เู ปน็ แนวข้อสอบ O-net นักเรียนจะได้มีความเข้าใจในบทเรียนนน้ั มาก ขน้ึ โดยความยาวของวีดโี อไมเ่ กนิ 5 นาที เพราะความสนใจของผูเ้ รยี นจะอยู่ไมเ่ กิน 5 นาที ต่อ 1 วดี โี อ การใช้ วดี โี อจาก YouTube สรุปเน้ือหาให้นกั เรียนสามารถทำให้นักเรยี นเขา้ ใจมากข้นึ เพราะวีดโี อจะมภี าพ มีเสียง มี ความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ดงึ ดดู ความสนใจของผ้เู รยี น ยกตัวอย่าง เช่น การสอนหนา้ ทพี่ ลเมือง วฒั นธรรม และการดำเนินชวี ติ ในกลุ่มสาระสังคมศึกษาฯ ในชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 เม่ือจบท้ายหน่วยการเรียนรู้ สามารถนำวดี โี อจาก YouTube สรุปแนวขอ้ สอบ O-net เพราะในแต่ละข้อเมื่อเฉลยแล้วจะมสี รุปเนือ้ หาแบบกระชบั เขา้ ใจงา่ ย
บทที่ 3 วิธกี ารดำเนนิ งาน ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอเมอื งชลบุรี ไดเ้ ล็งเห็นความสำคญั ของการส่งเสริมการอ่านและการเรยี นการสอน โดยสรา้ งนวตั กรรมการอา่ นแนวใหม่ เป็นการกระตุ้นให้ นักศึกษา กศน.อำเภอเมืองชลบรุ ี มนี สิ ัยรักการอ่านและใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสมจึงไดจ้ ัดโครงการพัฒนา คณุ ภาพผูเ้ รียนนักอา่ นผา่ นออนไลน์ นกั ศกึ ษา กศน (Reading Project Online) รุ่นที่ 1 โดยมีข้ันตอน ดงั น้ี 1.ประชมุ ผูท้ เ่ี กีย่ วข้อง 2.จัดต้ังคณะทำงานเพือ่ ดำเนินการจดั โครงการ 3.ประสานงาน/ประชาสัมพันธ์ 4.ดำเนนิ งานตามแผน 5.วดั ผล/ประเมินผล/สรุปผลและรายงาน 1.ประชุมผู้ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง กศน.อำเภอเมืองชลบุรแี ละห้องสมดุ ประชาชนจังหวัดชลบุรี ไดว้ างแผนประชุมผู้ที่เก่ยี วข้องเพ่ือ หาแนวทางในการดำเนินงานและกำหนดวตั ถุประสงคร์ ว่ มกนั 2. จัดตงั้ คณะทำงานเพ่ือดำเนินการจดั โครงการ จัดทำคำส่ังแต่งต้งั คณะทำงานโครงการฯ เพื่อมอบหมายหน้าทีใ่ นการทำงานใหช้ ดั เจน อาทเิ ช่น 2.1 คณะกรรมการท่ปี รึกษา/อำนวยการ มีหน้าท่ีอำนวยความสะดวก และให้คำปรึกษาแก้ไข ปญั หา ทเี่ กดิ ขึ้น 2.2 คณะกรรมการฝ่ายจัดสถานท่ี มีหน้าท่ี จัดโต๊ะ เกา้ อี้ หอ้ งสตดู โิ อสำหรับการเรียนการสอน ผา่ นระบบ Meet ให้เรียบรอ้ ยรวมทั้งจดั หาเครื่องเสยี ง อำนวยความสะดวก ตลอดการจัดกิจกรรม 2.3 คณะกรรมการฝา่ ยบันทึกภาพและประชาสัมพนั ธ์ มีหนา้ ทบี่ ันทกึ ภาพกจิ กรรมตลอด โครงการฯ และประชาสมั พนั ธก์ ิจกรรมใหส้ าธารณชนได้ทราบ 2.4 คณะกรรมการฝ่ายรบั ลงทะเบียนและประเมนิ ผลหน้าที่จดั ทำหลกั ฐานการลงทะเบียน ผ้เู ข้าร่วม โครงการและรวบรวมการประเมินผล และรายงานผลการดำเนินการ 3.ประสานงาน/ประชาสัมพันธ์ ประสานงานกับผ้เู รยี น วิทยากร และคณะครู เชน่ ประสานเร่อื งสถานที่ใชท้ ำกจิ กรรม รูปแบบ การจดั กจิ กรรมโครงการ วนั เวลา สถานท่ี รายละเอียดการเข้าร่วมกจิ กรรม พร้อมทง้ั ประชาสมั พนั ธก์ ารจัด กจิ กรรม
๒๖ 4.ดำเนนิ งานตามแผน โครงการพัฒนาคุณภาพผู้เรยี นนักอ่านผ่านออนไลน์ นักศึกษา กศน (Reading Project Online) รุ่นที่ 1 วนั ท่ี 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 08:30 – 15:30 น.ณ กศน.อำเภอเมืองชลบรุ ี อำเภอเมือง ชลบุรี จังหวัดชลบุรี มีผู้ร่วมโครงการจำนวน 200 คนโดยจัดกิจกรรมโดยใช้กระบวนการเรียนการสอนผ่าน ระบบออนไลน์ (On-line) ผ่านโปนแกรม Meet โดยจัดการสอนเป็นกลุ่ม การนำเสนองานและการ มอบหมายงาน 5.วดั ผล/ประเมินผล/สรุปผลและรายงาน โครงการพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รียนนกั อ่านผา่ นออนไลน์ นกั ศึกษา กศน (Reading Project Online) รุ่นที่ 1 วันท่ี 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 08:30 – 15:30 น. ณ กศน.อำเภอเมืองชลบุรี อำเภอ เมอื ง-ชลบุรี จงั หวดั ชลบรุ ีจำนวน 200 คน โดยจัดกจิ กรรมโดยโดยใช้กระบวนการเรยี นการสอนผ่านระบบ ออนไลน์ (On-line) โดยจัดการสอนเป็นกลุ่ม การนำเสนองานและการมอบหมายงาน ผู้เขา้ ร่วมกจิ กรรม ความรคู้ วามเข้าใจในเรื่องการสง่ เสริมการอา่ นและการใช้สอื่ ออนไลน์ เช่น Youtube เพื่อการส่งเสรมิ การ อ่าน กศน.อำเภอเมืองชลบุรแี ละห้องสมุดประชาชนจงั หวัดชลบุรี ไดด้ ำเนนิ การตามขั้นตอนและได้ รวบรวมข้อมลู จากแบบสำรวจสถติ ทิ ่ีใช้ในการวเิ คราะห์ คือโดยกำหนดค่าลำดับความสำคัญของการ ประเมนิ ผลออกเป็น 5 ระดับ ดังนี้ มากทส่ี ุด ใหค้ ะแนน 5 มาก ใหค้ ะแนน 4 ปานกลาง ให้คะแนน 3 น้อย ให้คะแนน 2 นอ้ ยทส่ี ดุ ให้คะแนน 1 ในการแปลผล ผู้จัดทำได้ใชเ้ กณฑ์การพจิ ารณาจากคะแนนเฉลี่ยตามแนวคิดของ บญุ ชม ศรสี ะอาด และบุญสง่ นิวแก้ว (2535,หนา้ 22-25) 4.51-5.00 หมายความวา่ ดมี าก 3.51-4.50 หมายความว่า ดี 2.51-3.50 หมายความว่า ปานกลาง 1.51-2.50 หมายความว่า นอ้ ย 1.00-1.50 หมายความวา่ ต้องปรับปรุง ผ้เู ข้าร่วมโครงการ จะต้องกรอกข้อมูลตามแบบสอบถาม เพ่ือนำไปใชใ้ นการประเมนิ ผลของการ จดั กจิ กรรมดังกล่าว และจะไดน้ ำไปเป็นข้อมลู ปรับปรุง และพัฒนา ตลอดจนใช้ในการจัดทำแผนการ ดำเนินการในปตี ่อไป
บทที่ 4 ผลการดำเนินงานและการวิเคราะหข์ ้อมลู ในการจดั โครงการพฒั นาคุณภาพผูเ้ รียนนกั อ่านผ่านออนไลน์ นักศึกษา กศน (Reading Project Online) รุ่นที่ 1 วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 08:30 – 15:30 น. ณ กศน.อำเภอเมืองชลบุรี อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี ผู้เข้าร่วมโครงการ จำนวน 200 คน ซึ่งได้ สรุปผลจากแบบสอบถามและนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล จำนวน 132 ชุด จากขนาดของตัวอย่าง ประชากรทเี่ หมาะสม (ตารางของเครจซีแ่ ละมอร์แกน (Krejcie & Morgan) ตอนที่ 1 ข้อมูลส่วนตัวผู้ตอบแบบถามของผู้เข้าร่วมโครงการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนนักอ่านผ่านออนไลน์ นักศึกษา กศน (Reading Project Online) รุ่นที่ 1 ได้นำมาจำแนกตามเพศ อายุ และอาชีพ ผู้จัดทำได้ นำเสนอจำแนกตามขอ้ มูล ดังปรากฏตามตารางท่ี 1 ดังน้ี ตารางที่ 1 แสดงค่าร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามเพศ เพศ ชาย หญงิ ความคิดเห็น จำนวน รอ้ ยละ จำนวน ร้อยละ ผเู้ ขา้ ร่วมกิจกรรมโครงการพัฒนาคณุ ภาพผ้เู รยี น 52 39.4 80 60.6 นักอ่านผ่านออนไลน์ นกั ศึกษา กศน (Reading Project Online) รุ่นท่ี 1 จากตารางที่ 1 แสดงว่า ผตู้ อบแบบสอบถามของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการพัฒนาคุณภาพผเู้ รยี น นกั อา่ นผ่านออนไลน์ นักศึกษา กศน (Reading Project Online) รนุ่ ที่ 1 เปน็ ชาย 52 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 39.4 เป็นหญิง 80 คดิ เป็นร้อยละ 60.6 ตารางท่ี 2 แสดงคา่ ร้อยละของผูต้ อบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามอายุ อายุ ตำ่ กว่า 15 ปี 15-29 ปี 30-39 ปี 40-59 ปี 50-59 ปี 60 ปขี ึน้ ไป จำ รอ้ ย จำ ร้อย จำ ร้อย จำ รอ้ ย จำ ร้อย จำ รอ้ ย ความคิดเห็น นวน ละ นวน ละ นวน ละ นวน ละ นวน ละ นวน ละ ผเู้ ขา้ ร่วมกจิ กรรม 1 0.8 98 74.2 25 18.9 7 5.3 - - 1 0.8 โครงการพัฒนา คณุ ภาพผู้เรียน นกั อ่านผ่าน ออนไลน์ นกั ศึกษา กศน
๒๘ (Reading Project Online) รนุ่ ที่ 1 จากตารางที่ 2 แสดงว่า ผู้ตอบแบบสอบถามของผู้เข้าร่วมผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการพัฒนา คณุ ภาพผู้เรยี นนักอ่านผ่านออนไลน์ นักศกึ ษา กศน (Reading Project Online) รุ่นที่ 1 พบว่า ในช่วงอายุ 15-29 ปี มีจำนวนสงู สดุ 98 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 74.2 ในชว่ งอายุ 30-39 .ปี มีจำนวน 25 คน คดิ เป็น ร้อยละ 18.9 ในช่วงอายุ 40-59 ปี มีจำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 5.3 ในช่วงอายุ ต่ำกว่า 15 ปี มี จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 0.8 เท่ากันกับในช่วงอายุ 60 ปีขึ้นไป มีจำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 0.8 ตามลำดบั ตารางที่ 3 แสดงคา่ ร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามอาชีพ อาชีพ รบั จ้าง คา้ ขาย นักศกึ ษา เกษตรกรรม อ่ืนๆ จำ ร้อย จำ ร้อย จำ รอ้ ย จำ รอ้ ย ความคดิ เห็น จำ ร้อย นวน ละ นวน ละ นวน ละ นวน ละ ผเู้ ขา้ รว่ มกิจกรรม นวน ละ โครงการพัฒนา 29 22 7 5.3 43 31 23.5 คณุ ภาพผู้เรยี น 61 46. นกั อ่านผา่ น 2 ออนไลน์ นักศึกษา กศน (Reading Project Online) รนุ่ ที่ 1 จากตารางที่ 3 แสดงว่า ผู้ตอบแบบสอบถามของผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการพัฒนาคุณภาพ ผเู้ รียน นักอ่านผ่านออนไลน์ นักศึกษา กศน (Reading Project Online) รุ่นที่ 1 พบว่า มีอาชีพ รับจ้าง จำนวน 61คน คิดเป็นร้อยละ 46.2 อาชีพ อื่นๆ จำนวน 31 คน คิดเป็นร้อยละ 23.5 อาชีพ ค้าขาย จำนวน 29 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 22 อาชพี นักศึกษา จำนวน 7 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 5.3 และอาชีพ เกษตรกรรม จำนวน 4 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 3 ตามลำดบั
๒๙ ตารางท่ี 4 แสดงคา่ ร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถาม โดยจำแนกตามระดบั การศกึ ษา การศึกษา ประถมฯ ม.ตน้ ม.ปลาย สงู กวา่ ม.ปลาย ความคดิ เหน็ จำ รอ้ ย จำ ร้อย จำ ร้อย นวน ละ นวน ละ นวน ละ จำ รอ้ ย ผู้เข้าร่วมกิจกรรม 43 49 37.1 79 59.8 นวน ละ โครงการพัฒนา คณุ ภาพผูเ้ รยี น -- นักอา่ นผา่ น ออนไลน์ นกั ศึกษา กศน (Reading Project Online) รุ่นท่ี 1 จากตารางที่ 4 แสดงว่า ผู้ตอบแบบสอบถามของผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการพัฒนาคุณภาพ ผู้เรียน นักอ่านผ่านออนไลน์ นักศึกษา กศน (Reading Project Online) รุ่นที่ 1 พบว่า มีการศึกษาระดับ ประถมศึกษา จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 3 ระดับม.ต้น จำนวน 49 คน คิดเป็นร้อยละ 37.1 ระดับ ม.ปลาย จำนวน 79 คน คิดเป็นร้อยละ 59.8 และระดับสูงกว่าม.ปลาย จำนวน.......-......คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.......-.......
๓๐ ตอนที่ 2 ข้อมลู เกีย่ วกบั ความคดิ เห็นของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี น นกั อ่านผา่ นออนไลน์ นักศึกษา กศน (Reading Project Online) ร่นุ ที่ 1ดงั ปรากฏในตารางที่ 5 ตารางท่ี 5 ผลการประเมนิ ความพึงพอใจในโครงการพฒั นาคุณภาพผ้เู รยี นนักอ่านผ่านออนไลน์ นกั ศกึ ษา กศน (Reading Project Online) รุ่นท่ี 1 N = 132 รายการประเมินความพึงพอใจ x̄ S.D. อนั ดบั ระดับ ที่ ผลการ 1. เน้อื หาตรงตามความตอ้ งการ ประเมนิ 2. เน้ือหาเพียงพอตอ่ ความต้องการ 3. เนือ้ หาปจั จุบนั ทันสมยั 4.13 0.79 14 ดี 4. เนอ้ื หามีประโยชน์ต่อการนำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวติ 4.05 0.77 16 5. การเตรียมความพรอ้ มกอ่ นจดั กิจกรรม 4.35 0.70 4 ดี 6. การออกแบบกจิ กรรมเหมาะสมกบั วตั ถุประสงค์ 4.33 0.73 5 7. การจดั กจิ กรรมเหมาะสมกับเวลา 4.08 0.83 15 ดี 8. การจดั กิจกรรมเหมาะสมกับกลมุ่ เป้าหมาย 4.21 0.89 10 ดี 9. วิธกี ารวดั ผล/ประเมินผลเหมาะสมกบั วตั ถุประสงค์ 4.18 0.89 13 4.27 0.77 8 ดี 10. วทิ ยากรมคี วามรคู้ วามสามารถในเรือ่ งท่ถี า่ ยทอด 4.19 0.78 12 4.39 0.74 2 ดี 11. วิทยากรมเี ทคนคิ การถ่ายทอดใช้สื่อเหมาะสม 4.32 0.82 6 4.46 0.78 1 ดี 12. วิทยากรเปดิ โอกาสให้มสี ่วนร่วมและซักถาม 13. สถานท่ี วสั ดุ อปุ กรณแ์ ละสงิ่ อำนวยความสะดวก ดี 14. การส่อื สาร การสรา้ งบรรยากาศเพ่ือให้เกิดการเรยี นรู้ ดี 15. การบรกิ าร การชว่ ยเหลือและการแก้ปญั หา 16. ความพงึ พอใจในภาพรวมของผรู้ ับการอบรม ดี ดี ดี 4.20 0.85 11 ดี 4.27 0.84 7 ดี 4.23 0.88 9 ดี 4.37 0.83 3 ดี จากตาราง 5 พบว่า โดยเฉลย่ี แลว้ ผู้เข้ารับการอบรมในโครงการพัฒนาคุณภาพผเู้ รียนนักอ่านผา่ นออนไลน์ นักศึกษา กศน (Reading Project Online) รนุ่ ที่ 1มคี วามพงึ พอใจในภาพรวมอยู่ในระดับ ดี ( x=̄ 4.37 ) เมื่อวเิ คราะห์เป็นรายข้อพบวา่ ลำดบั ที่ 1 วทิ ยากรเปิดโอกาสใหม้ ีส่วนรว่ มและซักถาม ( x=̄ 4.46 ) ลำดับที่ 2 วทิ ยากรมีความรู้ความสามารถในเรื่องท่ถี ่ายทอด ( x=̄ 4.39 ) ลำดับท่ี 3 ความพึง
๓๑ พอใจในภาพรวมของผู้รับการอบรม ( x̄=4.37 ) ลำดบั ที่ 4 เน้อื หาปัจจบุ นั ทนั สมยั ( x̄= 4.35 ) ลำดับท่ี 5 เน้ือหามีประโยชน์ตอ่ การนำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวติ ( x=̄ 4.33 ) ลำดับท่ี 6 วทิ ยากรมีเทคนิค การถ่ายทอดใช้ส่ือเหมาะสม ( x=̄ 4.32 ) ลำดบั ท่ี 7 การส่อื สาร การสรา้ งบรรยากาศเพอ่ื ให้เกิดการเรียนรู้ ( x̄= 4.27 ) และลำดับท่ี 8 ในเรอื่ งการจดั กิจกรรมเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย มคี ่าเฉล่ียเท่ากนั ( x=̄ 4.27 ) ลำดบั ท่ี 9 การบริการ การช่วยเหลือและการแก้ปญั หา ( x=̄ 4.23 ) ลำดบั ท่ี 10 การ ออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกับวตั ถุประสงค์ ( x̄= 4.21 ) ลำดับที่ 11 สถานที่ วัสดุ อุปกรณ์และส่งิ อำนวย ความสะดวก( x̄= 4.20 ) ลำดบั ท่ี 12 วธิ ีการวัดผล/ประเมนิ ผลเหมาะสมกบั วัตถปุ ระสงค์ ( x̄= 4.19 ) ลำดบั ท่ี 13 การจดั กจิ กรรมเหมาะสมกบั เวลา ( x̄= 4.18 ) ลำดบั ที่ 14 เนือ้ หาตรงตามความต้องการ ( x̄= 4.13 )ลำดับที่ 15 การเตรียมความพรอ้ มก่อนจัดกจิ กรรม. ( x=̄ 4.08 ) ลำดบั ที่ 16 เนอ้ื หาเพยี งพอ ตอ่ ความต้องการ ( x=̄ 4.05 ) ตามลำดับ
บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ โครงการพัฒนาคุณภาพผเู้ รียนนักอ่านผ่านออนไลน์ นักศึกษา กศน (Reading Project Online) รุ่นท่ี 1 ซง่ึ มวี ัตถปุ ระสงค์เพ่ือเป็นการส่งเสริมการอา่ น โดยมีเป้าหมายเป็นการเพ่ิมอัตราการอ่านหนังสือของ นักศึกษา กศน.อำเภอเมืองชลบุรี และเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ นักศึกษา กศน.อำเภอเมืองชลบุรี มีการใช้ เทคโนโลยีดิจิทัลและสื่อออนไลน์อย่างเหมาะสม เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม เวลา 08:30 น. – 15:30 น. ณ กศน.อำเภอเมืองชลบุรี อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี ผู้เข้าร่วมโครงการฯจำนวน 200 คนและทำ การสุ่มตัวอย่างจากแบบประเมินโครงการฯ จำนวน 132 คน จากตารางการกำหนดกลุ่มประชากรท่ี เหมาะสมของเครจช่ีและมอร์แกน(Krejcie & Morgan) และทำการวิเคราะห์หาค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบน มาตรฐานจากกลุ่มตัวอย่างประชากรที่เหมาะสม จำนวน 132 คน ทั้งนี้ขอสรุปและอภิปรายผลและ ข้อเสนอแนะดังน้ี 1. สรปุ ผล 1.1 ผ้ตู อบแบบสอบถามของผูเ้ ขา้ ร่วมโครงการพฒั นาคุณภาพผูเ้ รียนนักอา่ นผ่านออนไลน์ นกั ศกึ ษา กศน (Reading Project Online) รุน่ ท่ี 1 เปน็ ชาย 52 คน คดิ เป็นร้อยละ 39.4 เปน็ หญงิ 80 คน คิดเปน็ ร้อยละ 60.6 ซงึ่ มชี ว่ งอายุ 15-29 ปี มจี ำนวนสงู สุด 98 คน คิดเป็นร้อยละ 74.2 ในช่วงอายุ 30-39 ปี มีจำนวน 25 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 18.9 ในชว่ งอายุ 40-59 ปี มจี ำนวน 7 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 5.3 ในชว่ งอายุ ต่ำกว่า 15 ปี มีจำนวน 1 คน คิดเปน็ ร้อยละ 0.8 เทา่ กันกับในช่วงอายุ 60 ปขี ้ึนไป มี จำนวน 1 คน คิดเปน็ ร้อยละ 0.8 ตามลำดับ ประกอบอาชีพ รับจ้าง จำนวน 61 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 46.2 อาชพี อื่นๆ จำนวน 31 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 23.5 อาชีพ คา้ ขาย จำนวน 29 คน คิดเปน็ ร้อยละ 22 อาชีพ นักศึกษา จำนวน 7 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 5.3 และอาชีพ เกษตรกรรม จำนวน 4 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 3 ตามลำดับ และพบวา่ มีการศึกษาระดบั ประถมศึกษา จำนวน 4 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 3 ระดับม.ตน้ จำนวน 49 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 37.1 และระดบั ม.ปลาย จำนวน 79 คน คิดเปน็ ร้อยละ 59.8 แตาม ลำดับ 1.2 ขอ้ มูลเก่ียวกับความคิดเห็นของผ้เู ข้ารับการอบรมในโครงการกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี นนกั อ่าน ผ่านออนไลน์ นักศึกษา กศน (Reading Project Online) รุ่นที่ 1 พบวา่ โดยเฉล่ียแลว้ ผเู้ ขา้ รับการอบรมใน โครงการพัฒนาคุณภาพผู้เรยี นนกั อา่ นผ่านออนไลน์ นกั ศึกษา กศน (Reading Project Online) ร่นุ ที่ 1 มี ความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ในระดับ ดี ( x=̄ 4.37 ) เมือ่ วเิ คราะหเ์ ป็นรายข้อพบว่า ลำดบั ท่ี 1 วทิ ยากรเปดิ โอกาสให้มีส่วนรว่ มและซักถาม ( x=̄ 4.46 ) ลำดบั ท่ี 2 วทิ ยากรมีความรคู้ วามสามารถในเร่อื งท่ีถา่ ยทอด ( x̄=4.39 ) ลำดบั ท่ี 3 ความพึงพอใจในภาพรวมของผรู้ บั การอบรม ( x̄=4.37 ) ลำดับท่ี 4 เน้ือหาปัจจบุ ัน ทันสมัย ( x̄= 4.35 ) ลำดบั ท่ี 5 เนือ้ หามีประโยชน์ต่อการนำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวติ ( x̄= 4.33 ) ลำดับที่ 6 วิทยากรมเี ทคนคิ การถา่ ยทอดใชส้ ่ือเหมาะสม ( x=̄ 4.32 ) ลำดับที่ 7 การสอื่ สาร การสร้าง
๓๒ บรรยากาศเพ่ือให้เกิดการเรียนรู้ ( x=̄ 4.27 ) และลำดบั ท่ี 8 ในเรื่องการจัดกจิ กรรมเหมาะสมกบั กล่มุ เป้าหมาย มีค่าเฉลีย่ เทา่ กัน ( x=̄ 4.27 ) ลำดับที่ 9 การบริการ การช่วยเหลือและการแก้ปัญหา ( x=̄ 4.23 ) ลำดับที่ 10 การ ออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ ( x̄= 4.21 ) ลำดับที่ 11 สถานที่ วัสดุ อุปกรณ์และสิ่งอำนวย ความสะดวก( x̄= 4.20 ) ลำดับที่ 12 วิธีการวัดผล/ประเมินผลเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ ( x̄= 4.19 ) ลำดับที่ 13 การจดั กจิ กรรมเหมาะสมกบั เวลา ( x̄= 4.18 ) ลำดับท่ี 14 เนอ้ื หาตรงตามความต้องการ ( x=̄ 4.13 ) ลำดับที่ 15 การเตรียมความพร้อมก่อนจัดกิจกรรม. ( x̄=4.08 ) ลำดับที่ 16 เนื้อหาเพียงพอต่อ ความตอ้ งการ ( x=̄ 4.05 ) ตามลำดับ ตามลำดบั 2. อภิปรายผล จากโครงการกิจกรรมพฒั นาผู้เรียนนกั อา่ นผ่านออนไลน์ นกั ศึกษา กศน (Reading Project Online) รุ่นที่ 1 ได้ดำเนินการเสรจ็ สน้ิ แลว้ ขออภิปรายผลเป็นหวั ขอ้ ดังน.้ี - 1. ประชุมผู้ทเ่ี กี่ยวข้อง พบวา่ ....................................................ไม่พบสภาพปัญหา............................................................. ............................................................................................................................. ............................................ ............................................................................................................................. ............................................. .......................................................................................................................................................................... ซ่งึ หากมีการจัดโครงการฯในลักษณะน้ี ควรดำเนนิ การ....................-.............................................. ....................................................................................................................................................... ................... ............................................................................................................... ........................................................... ............................................................................................................................. ............................................. 2. จดั ตงั้ คณะทำงานเพ่ือดำเนนิ การจัดโครงการฯ พบวา่ ...(สภาพปญั หาท่ีพบ)...................ไม่พบสภาพปญั หา........................................................... .................................................................................................................... ..................................................... ............................................................................................................................. ............................................. ............................................................................................................................................................ .............. ซ่ึงหากมีการจดั โครงการฯในลักษณะนี้ ควรดำเนนิ การ...............-................................................... ............................................................................................................................. ............................................. .................................................................................... ...................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................. 3.ประสานงาน/ประชาสมั พันธ์ พบว่า ...ปัญหาเน่อื งจากสถานการณ์โควิด -19...การติดตอ่ ส่ือสารต้องใช้แอปพลิเคชนั ต่างๆซ่งึ อาจทำให้เกิดการส่ือสารทผี่ ิดพลาด................................................................................................................ ............................................................................................................ ............................................................. ............................................................................................................................. ............................................. .................................................................................................................................................... ......................
๓๓ ซึง่ หากมีการจัดโครงการฯในลกั ษณะน้ี ควรดำเนินการ.....การเตรยี มการลว่ งหนา้ และส่ือสารผ่าน หลากหลายช่องทางเพ่ือทำความความเข้าใจกบั นักศึกษา........................................................... ............................................................................................................................. ............................................. .......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................. 4.ดำเนนิ งานตามแผน พบว่า ...(สภาพปญั หาทีพ่ บ)........................ไม่พบสภาพปัญหา..................................................... ............................................................................................................ ............................................................. ............................................................................................................................. ............................................. .................................................................................................................................................... ...................... ซ่งึ หากมีการจดั โครงการฯในลกั ษณะนี้ ควรดำเนนิ การ................-............................................... ............................................................................................................................. ............................................. .......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................. 5. วัดผล/ประเมนิ ผล/สรุปผลและรายงาน พบว่า ...(สภาพปัญหาทีพ่ บ)...........................................ไม่พบสภาพปัญหา................................. ............................................................................................... .......................................................................... ............................................................................................................................. ............................................. ....................................................................................................................................... ................................... ซง่ึ หากมีการจัดโครงการฯในลักษณะน้ี ควรดำเนินการ...............-.................................................. ............................................................................................................................. ............................................ .......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................. 3. ข้อเสนอแนะ (ในภาพรวม) ....................การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนในลักษณะออนไลน์ โดยผา่ นโปรแกรมตา่ งๆ ผู้สอนหรอื ผู้ให้การอบรมและผู้รับการอบรมจะต้องมีพนื้ ฐานการใช้ส่อื เทคโนโลยีคอ่ นขา้ งดีพอสมควรเพราะ การเรียนการสอนดงั กล่าวจะตอ้ งใชโ้ ทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ ในการเรียนการสอน............................... ............................................................................................................................. .............................................. ............................................................................................................................. .............................................. ........................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .............................................. ............................................................................................................................. .............................................. ........................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .............................................. .................................
บรรณานกุ รม บุญชม ศรสี ะอาด และบุญสง่ นลิ แก้ว. (2535). การอ้างอิงประชากรเมื่อใชเ้ คร่ืองมือแบบ มาตราส่วนประมาณคา่ กบั กลมุ่ ตวั อย่าง. วารสารการวดั ผลทางการศึกษา มหาวทิ ยาลัยศรนี ครินทรวิโรฒ มหาสารคาม. 3 (1) : 22 - 25. สำนักงานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย. (2551). พระราชบญั ญตั ิ การศกึ ษาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย. กรุงเทพมหานคร : สำนักงาน กศน. สง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย. (2564). นโยบายและ จดุ เน้นการดำเนนิ งานการศึกษานอระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย ประจำปี งบประมาณ 2564. กรงุ เทพมหานคร : สำนักงาน กศน. Wilailak. (2563). 5 เทคนิคการใช้ YouTube เพอื่ การเรียนการสอนในศตวรรษท่ี 21. คน้ เมือ่ กรกฎาคม 27, 2564,จาก https://intrend.trueid.net/article/5.
คณะผจู้ ัดทำ ทีป่ รึกษา ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอเมืองชลบรุ ี 1.นายไพรตั น์ เนือ่ งเกตุ ครชู ำนาญการพเิ ศษ 2.นางสาวเอมอร แกว้ กลำ่ ศรี บรรณารกั ษป์ ฏิบัติการ บรรณารักษ์อตั ราจา้ ง คณะทำงาน 1.นายปัณณวิชญ์ สุขทวี 2.นายเสกสรรค์ พรมศักด์ิ ผจู้ ดั พิมพ์/ผเู้ ขียน บรรณารักษ์ปฏิบัติการ นายปณั ณวชิ ญ์ สขุ ทวี
Search