ขอ้ มลู สารสนเทศสถานีอตุ นุ ยิ มวิทยา (Meteorological Station Information , Metadata) ศูนยอ์ ุตนุ ิยมวทิ ยาภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื ตอนบน (UPPER NORTHEASTERN METEOROLOGICAL CENTER) จังหวดั ขอนแกน่ เลขประจาสถานี WMO : 48381
คานา ขอ้ มลู สารสนเทศสถานีอุตุนิยมวิทยา (Meteorological Station Information , Metadata)จัดทา ขึ้นเพื่อให้เปน็ ไปตามข้อกาหนดขององค์การอตุ ุนิยมวิทยาโลก (World Meteorological Organization – WMO) และเพอื่ ใหก้ ารใชข้ ้อมลู อุตนุ ยิ มวทิ ยาของสถานอี ุตุนยิ มวิทยาต่าง ๆ ท่ไี ด้ตรวจวดั มาเปน็ เวลานานสมบูรณ์ครบถ้วน และมีประโยชน์เป็นไปตามหลกั วิชาเพิ่มขน้ึ นอกจากนย้ี งั เป็นการเผยแพรผ่ ลการปฏบิ ัติงาน ตามหนา้ ทคี่ วามรับผดิ ชอบของสถานีอุตุนิยมวิทยา โดยมีสาระสาคัญเก่ียวกับข้อมูลพนื้ ฐานประจาสถานี สภาพแวดล้อมของสถานี การตรวจวัดข้อมูลอุตุนิยมวิทยา ประวัติเครื่องมือ ลกั ษณะอากาศทวั่ ไป ค่ามาตรฐานขอ้ มลู อตุ ุนิยมวิทยาคาบ 30 ปี พ้ืนที่เส่ียงภัยธรรมชาติ สถานี ฝนอาเภอ สถานีอตุ นุ ิยมวิทยาอัตโนมตั ิ ประวัตสิ ถานแี ละอัตรากาลังข้าราชการประจาสถานีทั้งน้ี ได้นาข้อมูล สารสนเทศสถานีอุตุนิยม วิทยา เผยแพร่บนเว็บไซต์ของศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน www.khonkaen.tmd.go.th ศูนยอ์ ตุ นุ ยิ มวิทยาภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือตอนบน หวังเป็นอย่างย่ิงว่าข้อมูลพื้น ฐานสารสนเทศ สถานีอุตุนยิ มวิทยาในเอกสารฉบับนี้ จะเป็นประโยชนต์ ่อประชาชนและหน่วยงานราชการเป็นอย่างย่ิง ในการ นาไปประยุกตใ์ ชใ้ ห้เกิดประโยชนต์ ่อภารกิจไดเ้ ปน็ อยา่ งดี ส่วนเฝา้ ระวังสภาวะอากาศ ศนู ย์อตุ ุนยิ มวทิ ยาภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื ตอนบน
1 ขอ้ มูลสว่ นท่ี 1 ขอ้ มูลสารสนเทศสถานอี ตุ ุนิยมวทิ ยา (Meteorological Station Information , Metadata) ---------------------------------------------- 1.1 ประวตั ิสถานีอตุ ุนยิ มวิทยา (อดีต – ปัจจบุ นั ) /ภาพถ่ายสถานี 1.1.1 วันที่เรม่ิ กอ่ สร้างสถานีอตุ ุนยิ มวิทยา ปี พ.ศ. 2487 (วัน เดอื น ไม่มหี ลกั ฐานแน่ชัด) 1.1.2 เร่ิมทาการตรวจอากาศผวิ พนื้ ครัง้ แรก วันที่ 1 เมษายน 2487 1.1.3 รายละเอยี ดของการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด (ถา้ ม)ี พร้อมคาอธิบาย,ภาพถ่ายประกอบ เดิมช่อื ว่า สถานีตรวจอากาศขอนแกน่ ท่ีอยู่ ตัง้ อยบู่ ริเวณศนู ย์ราชการ เทพารักษ์ ตาบลในเมือง อาเภอ เมอื งขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น พิกดั สถานี ละตจิ ดู 16 26' องศาเหนือ ลองจจิ ูด 102 50' องศาตะวนั ออก ความสงู ของสถานจี ากระดบั นา้ ทะเล 165.00 เมตร ระยะอ้างอิงอยู่ห่างจากศาลากลาง 500 เมตร ห่างจาก มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ 3 กโิ ลเมตร และห่างจากสนามบนิ ขอนแกน่ 10 กโิ ลเมตร ประเภทสถานี เปน็ สถานีตรวจ อากาศผิวพืน้ (Surface) เริม่ ทาการตรวจอากาศผวิ พน้ื ตั้งแต่วันท่ี 1 เมษายน 2487 เปน็ ตน้ มา ตอ่ มา กรมฯ มนี โยบายจัดตงั้ ศูนยอ์ ตุ ุนยิ มวทิ ยาภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือตอนบน ข้ึน ณ บรเิ วณท่าอากาศ ยานขอนแกน่ จ.ขอนแกน่ จงึ ไดโ้ อนจดั สรรเงินงบประมาณให้กบั สถานีฯ เพ่อื ดาเนินการก่อสร้างอาคารที่ทาการ ศนู ย์ฯ ในปีงบประมาณ พ.ศ.2539-2540 การกอ่ สรา้ งอาคารทที่ าการไดด้ าเนินการแลว้ เสรจ็ เมื่อวันท่ี 9 กันยายน 2540 ใชเ้ งนิ งบประมาณ 6,489,000.- บาท เม่อื วันท่ี 5 กุมภาพนั ธ์ 2542 ได้ยา้ ยสถานีฯจากท่เี ดมิ ซึง่ ตั้งอยู่บริเวณ ศนู ยร์ าชการ มาตง้ั อยู่ ณ สถานทป่ี จั จบุ ัน บรเิ วณทา่ อากาศยานขอนแกน่ และเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2552 ได้ จัดตั้งศูนย์อุตุนิยมวิทยา ภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือตอนบน ขึ้น ตามกฎกร ะทรวงแบ่งส่วนร าชกา รกร ม อตุ นุ ยิ มวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร
2 รปู ถา่ ยอาคารทีท่ าการสถานีตรวจอากาศขอนแก่น (เดิม) รปู ถ่ายอาคารทีท่ าการศนู ยอ์ ตุ ุนิยมวทิ ยาภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือตอนบน (ปจั จุบนั )
3 1.2 ครภุ ณั ฑ์ส่ิงปลกู สรา้ ง (อดีต-ปจั จบุ นั ) / แผนผัง /ภาพถ่ายประกอบ 1.2.1 แผนผังที่ตัง้ อาคารภายในศนู ย์อตุ ุนิยมวิทยาภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื ตอนบน เนอ้ื ท่ี 2 ไร่ 49 ตารางวา
4 1.2.2 อาคารที่ทาการศนู ยอ์ ุตุนิยมวทิ ยาภาคตะวันออกเฉยี งเหนือตอนบน กอ่ สร้างเมอ่ื ปี พ.ศ.2539-2540 ก่อสรา้ งแล้วเสร็จเมอ่ื วันที่ 9 กันยายน 2540 ใชเ้ งินงบประมาณ คา่ กอ่ สรา้ งเปน็ เงินทง้ั สน้ิ 6,489,000.- บาท รปู ภาพท่ี 1. อาคารทีท่ าการศูนย์อตุ นุ ยิ มวทิ ยาภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือตอนบน (ปัจจุบัน) 1.2.3 อาคารหอเรดาร์ (หลังเก่า) อาคารหอเรดารห์ ลังเกา่ กอ่ สรา้ งแล้วเสรจ็ เมอ่ื 18 เมษายน พ.ศ. 2536 รปู ภาพท่ี 2. อาคารหอเรดาร์ (หลงั เกา่ ) รูปภาพที่ 3. อาคารหอเรดาร์หลงั เกา่ (สภาพปจั จุบัน)
5 1.2.4 อาคารหอเรดาร์ (หลงั ใหม)่ กอ่ สร้างแล้วเสรจ็ เมอ่ื 1 มกราคม 2558 รปู ภาพที่ 4. อาคารหอเรดาร์หลงั เก่า (สภาพปัจจบุ ัน) 1.2.5 อาคารโรงเก็บแก๊ซและอุปกรณต์ รวจอากาศชั้นบน ก่อสร้างแลว้ เสรจ็ เมือ่ 1 มกราคม 2558 รูปภาพท่ี 5. อาคารโรงเกบ็ แกซ๊ และอปุ กรณต์ รวจอากาศชนั้ บน
6 1.2.6 อาคารโรงเกบ็ เคร่ืองกาเนดิ ไฟฟา้ สารอง ก่อสร้างแล้วเสร็จเมอื่ 1 มกราคม 2538 รูปภาพท่ี 6. อาคารโรงเกบ็ เครอื่ งกาเนิดไฟฟา้ สารอง 1.2.7 อาคารโรงจอดรถยนต์ กอ่ สรา้ งแลว้ เสรจ็ เมือ่ 1 ตลุ าคม 2561 รูปภาพท่ี 7. อาคารโรงจอดรถยนต์
7 1.2.8 เสาธง ขนาดความสูง 12 เมตร 1 ต้น ก่อสรา้ งแลว้ เสร็จเมอื่ ตลุ าคม 2562 ใชเ้ งนิ งบประมาณค่าก่อสร้าง 103,500.- บาท รูปภาพท่ี 8. เสาธงขนาดความสงู 12 เมตร 1.2.9 อาคารชดุ ท่พี ักอาศยั ของขา้ ราชการศูนยอ์ ตุ ุนิยมวิทยาภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ตอนบน แบบ ค.ส.ล. สงู 4 ช้ัน จานวน 30 หนว่ ย กอ่ สรา้ งเม่อื ปงี บประมาณ พ.ศ.2558-2559 ใช้เงิน งบประมาณค่าก่อสร้าง 20,104,000.- บาท รปู ภาพท่ี 9. อาคารชดุ ทพี่ ักอาศยั ของขา้ ราชการศูนยอ์ ุตนุ ิยมวทิ ยาภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือตอนบน
8 1.3. อตั รากาลังขา้ ราชการ สว่ นเฝ้าระวังสภาวะอากาศ ศูนย์อตุ นุ ยิ มวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนอื ตอนบน 1) ผอู้ านวยการสว่ น (เจ้าพนกั งานอตุ ุนยิ มวิทยาอาวุโส) จานวน 1 อัตรา 2) เจ้าพนักงานอตุ ุนิยมวิทยา ระดับปฏบิ ัตงิ าน/ชานาญงาน จานวน 4 อัตรา 1.3.1 อตั รากาลังข้าราชการในปัจจบุ ัน ลาดบั ชื่อ-สกลุ ตาแหน่ง เรม่ิ ปฏบิ ัติงาน 1 นายสามารถ ปลอดกระโทก ผู้อานวยการสว่ น(เจ้าพนักงานอตุ ุนิยมวิทยาอาวโุ ส) 30 สงิ หาคม 2560 2 นายเสรมิ ศิริ ศรโี ย เจา้ พนักงานอตุ นุ ยิ มวทิ ยาชานาญงาน 4 มิถุนายน 2553 3 นางกัญญาณัฐ ไวโสภา เจ้าพนกั งานอุตนุ ยิ มวทิ ยาชานาญงาน 31 มกราคม 2556 4 นางสาวอทิติยา ไกรสหี ์ เจ้าพนักงานอุตุนิยมวทิ ยาชานาญงาน 20 ตลุ าคม 2559 5 นางสาวศริ ินาถ อาไพพนั ธ์ุ เจา้ พนักงานอุตนุ ิยมวิทยาชานาญงาน 20 ตลุ าคม 2559 1.3.2 ประวตั ิหวั หนา้ สถานี ลาดับ ชือ่ -สกุล ตาแหน่ง ระยะเวลาดารงตาแหน่ง 1 นายคง นาถะรตั น์ หัวหน้าสถานีตรวจอากาศขอนแกน่ 19 ม.ค. 2487 - 1 ก.พ. 2510 2 นายสะอาด วไิ ชยคามาตย์ หัวหน้าสถานตี รวจอากาศขอนแกน่ 1 ก.พ. 2510 - 1 เม.ย. 2511 3 นายคง นาถะรตั น์ หวั หนา้ สถานีตรวจอากาศขอนแก่น 1 เม.ย. 2511 - 3 เม.ย. 2518 4 นายวิชยั วชิ ัยกาญจนา หวั หนา้ สถานีตรวจอากาศขอนแก่น 12 เม.ย. 2518 - 1 เม.ย. 2521 5 ร.ต.ไพทรู ย์ สุโพธ์ิ หัวหน้าสถานตี รวจอากาศขอนแกน่ 12 พ.ย. 2521 - 1 เม.ย. 2522 6 นายสมศกั ด์ิ ไตรคุ้มดัน หัวหนา้ สถานีตรวจอากาศขอนแก่น ปี พ.ศ. 2523 - 16 ก.ย. 2526 7 นายอวยอรรถ เรอื งคงท่ี หวั หนา้ สถานตี รวจอากาศขอนแกน่ 16 ก.ย. 2526 - 1 ม.ี ค. 2528 8 นายสนาน กล่อมจินดา หวั หน้าสถานีตรวจอากาศขอนแก่น 1 ม.ี ค. 2528 - 2 ธ.ค. 2536 9 นายสมนึก ปนิ่ กมุ ภีร์ หวั หนา้ สถานีอุตนุ ิยมวทิ ยาขอนแก่น 2 ธ.ค. 2536 - ปี พ.ศ. 2544 10 นายโสฬส โสภางคกลุ หวั หน้าสถานีอตุ ุนิยมวทิ ยาขอนแก่น ปี พ.ศ. 2544 - ปี พ.ศ. 2547 11 นายอภชิ าติ สภานชุ าด หัวหน้าสถานีอุตุนยิ มวิทยาขอนแก่น ปี พ.ศ. 2547 - ปี พ.ศ 2547 12 นายสาเริง พศิ พาน หัวหนา้ สถานีอตุ ุนยิ มวทิ ยาขอนแกน่ ปี พ.ศ. 2547 - 30 ต.ค. 2549 13 นายสมพร ดวงศรี หวั หน้าสถานีอตุ นุ ิยมวิทยาขอนแก่น 15 พ.ศ.2549 - 27 พ.ค. 2552 1.3.3 ประวัตผิ ้อู านวยการส่วนเฝ้าระวังสภาวะอากาศ ลาดบั ช่อื -สกุล ระยะเวลาดารงตาแหน่ง 1 นายชดิ ชนก ผลโภค 27 พ.ค. 2552 – 15 พ.ย. 2555 2 นายไพบลู ย์ ไกรสหี ์ 25 ม.ี ค.2556 – 1 ก.พ. 2559 3 นายวนั ชยั ไชยวเิ ศษ 1 ก.พ. 2559 – 16 ก.ค.2560 4 นายสามารถ ปลอดกระโทก 30 ส.ค.2560 – ปัจจุบัน
9 1.4 แผนผงั อัตรากาลังข้าราชการสว่ นเฝ้าระวังสภาวะอากาศ (ปจั จบุ นั ) ภาพท่ี 10. แผนผงั บคุ ลาการสว่ นเฝ้าระวังสภาวะอากาศ
10 1.5 หนา้ ที่ความรับผดิ ชอบของส่วนเฝ้าระวงั สภาวะอากาศ ตามคาสั่งกรมอตุ ุนยิ มวิทยา ท่ี 475/2560 ลงวนั ที่ 7 พฤศจิกายน 2560 กาหนดหนา้ ท่คี วามรบั ผดิ ชอบ ของส่วนเฝา้ ระวงั สภาวะอากาศ ดงั น้ี ดแู ลให้การสนบั สนนุ การปฏิบัติงานของสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัด รวมท้ังสถานีตรวจวัด แผ่นดนิ ไหวในเขตพืน้ ท่ีรบั ผดิ ชอบ ตรวจ เฝา้ ระวงั ติดตาม และรายงานสภาวะอากาศด้านอากาศผิวพ้ืน อากาศชั้นบน อากาศ เกษตร และอตุ ุนยิ มวิทยาอุทก ในเขตพื้นท่รี บั ผดิ ชอบท้ังสภาวะปกตแิ ละท่ีจะเป็น อันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชน รวบรวม ตรวจสอบ การตรวจเพอ่ื ใช้ในการพยากรณอ์ ากาศในพนื้ ทรี่ บั ผดิ ชอบ จัดทาสถิตจิ ากผลการตรวจสารประกอบอุตุนิยมวิทยาตา่ ง ๆ เพ่ือใช้ประโยชน์ในการพยากรณ์ อากาศ การวจิ ัย และพัฒนางานวิชาการด้านอุตุนิยมวิทยา รวมทั้ งให้บริการข้อมูลแก่ผู้รับบริการเพื่อนาไป ประยกุ ต์ใชป้ ระโยชน์ตามความตอ้ งการ ปฏบิ ัติงานรว่ มกับหรือสนบั สนุนการปฏิบัตงิ านของหนว่ ยงานอื่นทเ่ี กี่ยวข้อง รวมทง้ั ปฏิบัติงานอื่น ตามทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย 1.6 พื้นท่ีความรับผิดชอบ 1.6.1 สว่ นเฝ้าระวังสภาวะอากาศ มีพ้ืนท่ีความรับผิดชอบให้การสนับสนุนการปฏิบัติงานของสถานี อุตนุ ิยมวทิ ยาจังหวดั รวมท้ังสถานีตรวจวัดแผ่นดินไหว ในพ้ืนท่ีความรับผิดชอบ 11 จังหวัด คือ ขอนแก่น หนองคาย บึงกาฬ เลย อดุ รธานี หนองบัวลาภู นครพนม สกลนคร กาฬสินธ์ุ มหาสารคาม และชยั ภูมิ รปู ภาพที่ 11 แผนท่ีความรับผิดชอบของศนู ยอ์ ุตุนยิ มวิทยาภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื ตอนบน
11 ข้อมลู สว่ นท่ี 2 ข้อมูลสารสนเทศสถานีอุตุนยิ มวทิ ยา (Meteorological Station Information , Metadata) ---------------------------------------------- 2.1 รายละเอยี ดของสถานี 2.1.1 ชือ่ ภาษาไทย : ศูนยอ์ ตุ นุ ยิ มวทิ ยาภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือตอนบน 2.1.2 ชอ่ื ภาษาอังกฤษ : UPPER NORTHEASTERN METEOROLOGICAL CENTER 2.1.3 ชือ่ เดมิ : สถานีตรวจอากาศขอนแกน่ 2.1.4 เลขประจาสถานี (WMO) : 48381 2.1.5 เลขประจาสถานีสถานีฝน (Local Rain Station) : 381201 2.1.6 ประเภทสถานี ตรวจอากาศผิวพ้ืน (Surface) และตรวจอากาศชน้ั บน (Upper Air) 2.1.7 เริม่ ทาการตรวจอากาศผิวพื้นครง้ั แรก วันท่ี 1 เมษายน 2487 2.1.8 เริม่ ทาการตรวจอากาศชน้ั บน วนั ท่ี 1 ธันวาคม 2559 2.2 ที่ตงั้ ของสถานี (Location) 2.2.1 ท่ีอยู่ ศูนยอ์ ุตุนยิ มวทิ ยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ต้งั อย่บู รเิ วณ ทา่ อากาศยานขอนแกน่ ตาบลบา้ นเป็ด อาเภอเมอื งขอนแก่น จงั หวัดขอนแก่น 40000 2.2.2 หมายเลขโทรศัพท/์ โทรสาร : 043-468224, 043-468130 2.2.3 E-mail [email protected],[email protected] 2.2.4 เวบ็ ไซต์ www.khonkean.tmd.go.th 2.2.5 เนอ้ื ที่ 2 ไร่ 0 งาน 49 ตารางวา 2.2.6 พกิ ดั สถานี ละติจูด 160 27' 39.7” องศาเหนอื ลองจิจดู 102 47' 22.6” องศาตะวนั ออก 2.2.7 ความสงู ของสถานีจากระดบั น้าทะเล 186.97 เมตร 2.2.8 ระยะอา้ งองิ ของศนู ยอ์ ุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉยี งเหนือตอนบน - ห่างจากสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานจงั หวดั ขอนแกน่ 2 กิโลเมตร - หา่ งจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น 7 กิโลเมตร - ห่างจากศาลากลางจังหวัดขอนแกน่ 13 กโิ ลเมตร
12 2.2.9 แผนผัง และขอบเขตสถานี รูปภาพท่ี 13 แผนผังและขอบเขตสถานี 2.3. สภาพภูมิประเทศแวดล้อมสถานี (Environment) อย่ใู นบรเิ วณท่าอากาศยานขอนแกน่ ตาบลบ้านเป็ด อาเภอเมืองขอนแกน่ ลักษณะสภาพพ้ืนที่บริเวณท่า อากาศยานขอนแกน่ พน้ื ทเ่ี ปน็ เนินสูง ชาวบา้ นเรยี กว่า โนนหมอจอก ลักษณะภูมิประเทศของ จังหวัดขอนแก่น โดยท่วั ไปมีสภาพพ้ืนที่ลาดเอียงจากทศิ ตะวนั ตกไปทศิ ตะวันออกและทิศใต้ บริเวณท่ีสูงทางด้านตะวันตกมีสภาพ พนื้ ทีเ่ ปน็ เขาหินปูนตะปุ่มตะป่าสลับกบั พ้ืนท่ีเป็นลูกคลื่นลอนลาดเล็กน้อย มีระดับความสูงประมาณ 200 -250 เมตร จากระดบั นา้ ทะเล มภี ูเขารปู แอง่ หรือภเู วยี งวางตัวอยตู่ ิดอาเภอภูเวียง บรเิ วณท่สี งู ตอนกลางและด้านเหนือมี สภาพพ้นื ที่เป็นเทือกเขา ได้แก่ ภูเก้า ภูเมง็ ภูพานคาเปน็ แนวขวางมาจากด้านเหนือ แล้ววกลงมาทางตะวันตก เฉยี งใต้ ไหลเ่ ขาด้านนอกมคี วามสูงและลาดชันมาก สูง 300 -660 เมตร ไหล่เขาด้านในมีความลาดชัน สูง ประมาณ 220-250 เมตรบริเวณแอ่งโคราช ครอบคลมุ พ้ืนทีท่ างดา้ นใต้จังหวัด สภาพพื้นที่เป็น ลูกคล่ืนลอนลาด เล็กน้อย มีควา มสูงปร ะมา ณ 1 5 0 -2 0 0 เมตร มีบา งส่วนเป็น เนิน สูงปร ะมา ณ 1 7 0 -25 0 เมตร และลาดตา่ ไปทางราบลมุ่ ท่ขี นานกับลานา้ ชี มีความสงู ประมาณ 130-150 เมตร จากน้ัน พ้ืนท่ีจะลาดชันไปทาง ตะวนั ออก มลี กั ษณะเป็นลูกคลื่นลอนลาดมีความสูงประมาณ 200 -250 เมตร และค่อนข้างราบ มีความสูง ประมาณ 170 -180 เมตร
13 2.3.1 อาณาเขตตดิ ตอ่ ตดิ ตอ่ ท่าอากาศยานขอนแก่น อาณาเขตทศิ เหนอื ตดิ ต่อ ท่ีดนิ ของเอกชน ติดตอ่ สถานวี ทิ ยุทหารอากาศ อาณาเขตทิศตะวันออก ติดต่อ ศูนยป์ ฏิบัตกิ ารฝนหลวง อาณาเขตทิศใต้ อาณาทศิ ตะวันตก รปู ภาพท่ี 14 ทางเขา้ ศูนย์อตุ ุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนอื ตอนบน อาณาเขตทิศเหนอื ตดิ ต่อ ท่าอากาศยานขอนแกน่ รูปภาพท่ี 15 แสดงอาณาเขตทศิ เหนอื ตดิ ตอ่ กบั ทา่ อากาศยานขอนแกน่
14 อาณาเขตทศิ ใต้ ติดต่อ สถานีวิทยุทหารอากาศ 020 ขอนแกน่ 107.75 Mhz รูปภาพที่ 16 แสดงอาณาเขตทศิ ใต้ ตดิ ตอ่ กบั สถานีวิทยทุ หารอากาศ 020 ขอนแกน่ 107.75 Mhz อาณาเขตทิศตะวนั ออก ติดตอ่ ท่ีดนิ ของเอกชน รูปภาพท่ี 17 แสดงอาณาเขตทิศตะวันออก ตดิ ต่อกับทด่ี ินเอกชน
15 อาณาเขตทิศตะวนั ตก ติดตอ่ ศูนย์ปฏิบตั ิการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื รปู ภาพท่ี 18 แสดงอาณาเขตทิศตะวันตก ติดต่อกบั ศูนย์ปฏิบัตกิ ารฝนหลวงภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ 2.3.2 เงาของวตั ถุ หรืออาคาร หรือตน้ ไม้ ตกกระทบสนามอุตุนิยมวิทยาหรือไม่ / กรณีมเี งาตกกระทบให้ เขยี นแผนผงั หรอื ภาพถา่ ยประกอบและอธบิ ายทิศทาง และช่วงเวลาตกกระทบตามฤดกู าล ฤดฝู น (ประมาณ 16 พฤษภาคม – 15 ตุลาคม) ภาพถ่าย/พรอ้ มอธบิ าย ฤดูหนาว (ประมาณ 16 ตุลาคม – 15 กุมภาพนั ธ์) ภาพถ่าย/พร้อมอธบิ าย ฤดูร้อน (ประมาณ 16 กมุ ภาพนั ธ์ – 15 พฤษภาคม) ภาพถ่าย/พร้อมอธบิ าย รปู ภาพท่ี 19 แสดงเงาของอาคารหอเรดารต์ กกระทบสนามอุตนุ ยิ มวทิ ยาในเวลา 09.00 น.ชว่ งฤดูหนาว (เดอื นกุมภาพนั ธ)์ โดยเงาของอาคารจะตกกระทบบดบงั ตงั้ แต่เชา้ ตรูแ่ ละเคล่ือนจากทศิ ใต้ไปทางทศิ เหนอื ไปจนถึง เวลาประมาณ 10.00 น
16 2.4 สภาพแวดล้อมโดยรอบสถานี ระยะ 5 กม. (ปัจจุบนั ) /แผนผงั บริเวณรอบสถานี / สิง่ ปลูกสร้างตา่ งๆ /พร้อมภาพถ่ายประกอบ 2.4.1 ระยะ 0.1 – 0.5 กม. รปู ภาพท่ี 20 แสดงสภาพแวดล้อมโดยรอบสถานี ระยะ 0.1 – 0.5 กม. (ปัจจบุ ัน)
17 2.4.2 ระยะ 0.5 – 1.0 กม. รปู ภาพท่ี 21 แสดงสภาพแวดลอ้ มโดยรอบสถานี ระยะ 0.5 - 1.0 กม. (ปจั จบุ นั )
18 2.4.3 ระยะ 1.0 – 2.0 กม. รปู ภาพท่ี 22 แสดงสภาพแวดลอ้ มโดยรอบสถานี ระยะ 1.0 - 2.0 กม. (ปจั จบุ นั )
19 2.4.4 ระยะ 2.0 – 3.0 กม. รปู ภาพท่ี 23 แสดงสภาพแวดลอ้ มโดยรอบสถานี ระยะ 2.0 - 3.0 กม. (ปจั จบุ นั )
20 2.4.5 ระยะ 3.0 – 4.0 กม. รปู ภาพท่ี 24 แสดงสภาพแวดลอ้ มโดยรอบสถานี ระยะ 3.0 - 4.0 กม. (ปจั จบุ นั )
21 2.4.6 ระยะ 4.0 – 5.0 กม. รปู ภาพท่ี 25 แสดงสภาพแวดลอ้ มโดยรอบสถานี ระยะ 4.0 - 5.0 กม. (ปจั จบุ นั )
22 แผนผังบรเิ วณรอบสถานี (รูปภาพประกอบ) รูปภาพท่ี 26 แผนผังบริเวณรอบสถานี ระยะ 0.1- 5.0 กม. (ปจั จบุ นั )
23 ขอ้ มูลสว่ นท่ี 3 ขอ้ มลู สารสนเทศสถานอี ุตุนยิ มวิทยา (Meteorological Station Information , Metadata) ---------------------------------------------- การตรวจอากาศ (อดตี - ปจั จบุ ัน) 3.1 การตรวจอากาศ 3.1.1 เรมิ่ ทาการตรวจอากาศผิวพ้นื คร้ังแรกเมื่อ วนั ที่ 1 เมษายน 2487 3.1.2 การตรวจสารประกอบอตุ ุนิยมวิทยา ส่วนเฝ้าระวังสภาวะอากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาค ตะวนั ออกเฉียงเหนือตอนบน มีหนา้ ทีร่ ับผิดชอบในการตรวจ เฝ้าระวงั ตดิ ตามและรายงาน อากาศผิวพ้ืน และชั้น บน โดยทาการตรวจอากาศผิวพน้ื ตลอด 24 ชวั่ โมง ตามมาตรฐานขององค์การอตุ นุ ยิ มวิทยาโลก โดยการตรวจ ขอ้ มูลสารประกอบอุตนุ ยิ มวิทยา รายงานให้กรมอตุ ุนยิ มวิทยาทุก 3 ช่ัวโมง วันละ 8 ครั้ง คือเวลา 01.00 น. , 04.00 น. , 07.00 น. , 10.00 น. , 13.00 น. , 16.00, 19.00 และ 22.00 น. และทาการตรวจอากาศชั้น บน วนั ละ 4 ครง้ั ตามมาตรฐานขององคก์ ารอตุ นุ ิยมวิทยาโลก คอื เวลา 01.00 น. , 07.00 น. , 13.00 น. และ 01.00 น. 3.1.3 รายละเอียดการตรวจสารประกอบอตุ นุ ยิ มวทิ ยา เวลาการตรวจ /ชว่ งระยะการตรวจ เวลา (น.) สารประกอบอตุ ุนิยมวิทยา 0100 0400 0700 1000 1300 1600 1900 2200 ทิศทางและความเรว็ ลม / / / / ช้ันบนในระดับต่าง ๆ ความกดอากาศ //////// อุณหภมู ิตมุ้ แห้ง //////// อุณหภูมติ มุ้ เปยี ก //////// อุณหภมู สิ งู สดุ //////// อุณหภูมติ า่ สุด //////// ความชน้ื สมั พทั ธ์ //////// ลมผวิ พน้ื (ทิศ,ความเรว็ ) / / / / / / / / ทัศนวิสัย (กม.) //////// ฝน (หยาดน้าฟา้ ) //////// การระเหยของนา้ //////// ตรวจเมฆ //////// ปรากฏการณธ์ รรมชาติ / / / / / / / /
24 3.2 การตรวจวดั เป้าทศั นวิสัยของสถานีอุตนุ ยิ มวทิ ยา / รูปภาพประกอบ /พร้อมอธิบาย 3.2.1 เป้าทศั วิสัย (1)
25 3.2.2 เปา้ ทศั นวิสัย (2)
26 3.3. เคร่ืองมอื ตรวจอากาศ 3.3.1 สนามอตุ นุ ิยมวิทยา /แบบชนิด /ขนาด (กว้าง x ยาว) /ภาพถา่ ย/พร้อมอธบิ าย สนามอุตนุ ิยมวทิ ยาแบบตรวจอากาศผิวพื้น ขนาด 12 x 12 เมตร ดา้ นทิศเหนือ ภาพที่ 27 สนามอุตุนยิ มวิทยาด้านทศิ เหนือตดิ กับเสาธง และ AWS ด้านทิศใต้ รูปภาพท่ี 28 สนามอุตนุ ยิ มวิทยาด้านทศิ ใต้ ติดกับป้ายและประตูทางเข้าศนู ย์ฯ
27 ดา้ นทิศ ตะวนั ออก รปู ภาพที่ 29 สนามอุตนุ ยิ มวทิ ยาดา้ นทศิ ตะวันออก ตดิ กับหอเรดารต์ รวจอากาศ ดา้ นทิศ ตะวันตก รูปภาพท่ี 30 สนามอตุ นุ ิยมวิทยาด้านทศิ ตะวนั ตก ตดิ กับถนนทางเข้าทา่ อากาศยานขอนแก่น
28 3.3.2 เครือ่ งมอื ตรวจอากาศ/สงู จากพืน้ ดิน (Elevation) /ภาพถ่าย / พร้อมคาอธิบาย ความสูงของกระปุกปรอทจากระดบั น้าทะเล 190.095 เมตร ความสงู ของฐานเรือนเทอร์โมมิเตอร์ 1.25 เมตร ความสงู ของศรลมจากพื้นดิน 18.75 เมตร ความสงู ของเครื่องวดั ลมจากพืน้ ดิน 18.75 เมตร ความสูงของปากเครอ่ื งวดั ฝนจากพืน้ ดนิ 0.90 เมตร 3.3.3 เครือ่ งมือตรวจอากาศทกุ ชนิด/ภาพถ่าย/พร้อมคาอธบิ าย รปู ภาพท่ี 31 เรือนเทอร์โมมเิ ตอร์ (Thermometer Screen)
29 รปู ภาพที่ 32 ไซโครมิเตอรแ์ บบตุ้มแหง้ – ตุ้มเปียก (Dry – Wet Bulbs Psychrometer) รปู ภาพท่ี 33 เครอื่ งวดั อุณหภมู สิ งู สดุ – ตา่ สุด (Maximum–Minimum Thermometers)
30 รปู ภาพที่ 34 เครื่องวดั อณุ หภมู ิต่าสุดยอดหญ้า (Grass Minimum Thermometer) รูปภาพท่ี 35 เครื่องวัดอุณหภมู ิ และความชื้นแบบกราฟ (Thermohygrograph)
31 รูปภาพที่ 36 เคร่อื งวัดฝนแบบแกว้ ตวง (Ordinary Raingauge) รปู ภาพที่ 37 เคร่อื งวัดฝนอัตโนมตั แิ บบไซฟอน (Natural Siphon Raingauge)
32 รปู ภาพที่ 38 เครอื่ งวดั การระเหยแบบถาด (Evaporation pan) เครอื่ งวดั ระยะทางลม (Windrun) รปู ภาพท่ี 39 เครอ่ื งวดั ความยาวนานแสงแดด (Compbell-stokes Sunshine Recorder)
33 รปู ภาพที่ 40 เครอื่ งวัดทิศทางและความเร็วลม (Anemometer) รปู ภาพที่ 41 เครื่องบาโรมเิ ตอร์แบบคิว(Kew Barometer)
34 รูปภาพที่ 42 เครอ่ื งวัดความกดอากาศแบบกราฟ (Barograph) เครอื่ งมอื ตรวจอากาศช้ันบน รูปภาพท่ี 43 กล้องธีโอโดไลท์ และคอมพวิ เตอรป์ ระมวลผลโปรแกรม Tebal2
35 3.3.4 ประวัติการเปล่ียนแปลงเคร่ืองมอื ตรวจวัด ลาดับท่ี เคร่อื งมือ หมายเลขครภุ ณั ฑ์ เร่ิมใชง้ าน เลกิ ใช้งาน หมายเหตุ 1 บาโรมเิ ตอรป์ รอท วศ.02-13-01 6 ก.พ.2507 2 เทอรโ์ มไฮโกรกราฟ 7 วัน วศ.09-02-293 21 พ.ย.2519 30 ม.ค.63 ได้รับเคร่ือง 3 บาโรกราฟ รายวัน ไม่มี 28 ธ.ค.2496 30 ม.ค.63 ใหม่ทดแทน 4 ไซโครมเิ ตอรต์ ุม้ แห้ง ไมม่ ี 14 มิ.ย.2555 5 ไซโครมเิ ตอร์ตมุ้ เปยี ก ไม่มี 14 ม.ิ ย.2555 30 ม.ค.63 ทดแทนถาด 6 เทอรโ์ มมิเตอร์สงู สดุ ไมม่ ี 22 ธ.ค.2523 เดมิ ทร่ี ว่ั 7 เทอรโ์ มมเิ ตอร์ต่าสดุ ไม่มี 14 ม.ิ ย.2555 8 วศ.06-02-354 11 ก.พ.2540 ได้รับเครื่อง 9 เคร่อื งวดั ลม ไม่มี 5 ก.ย.2551 ใหมท่ ดแทน 10 เคร่ืองวดั ฝนชนิดตวงวัด ไม่มี 25 ก.พ.2509 11 ไมม่ ี 3 ธ.ค.2506 12 แกว้ ตวงนา้ ฝน เครอ่ื งวัดฝนแบบชัง่ น้าหนกั ไม่มี 14 ธ.ค.2528 13 เคร่อื งวัดลมถาดน้าระเหย ไม่มี 8 ก.ค. 2563 14 ถาดวัดนา้ ระเหยพร้อมไมร้ องถาด อต.6650-012-11-102 10 ม.ค.2551 15 16 เทอร์โมมเิ ตอร์ลอยน้า วศ.0902-293 21 พ.ย.2519 จาหนายบญั ชี ขัดขอ้ ง 17 ไมม่ ี 7 เม.ย.2515 18 เทอรโ์ มไฮโกรกราฟ ไมม่ ี 25 ก.พ.2500 พ.ศ 2561 ขัดข้อง 19 เครือ่ งวัดฝนชนิดไซฟอนรายสัปดาห์ ไม่มี 23 ธ.ค.2557 พ.ศ.2561 ขอ้ งขอ้ ง 20 26 ม.ค.2531 21 เคร่ืองวัดแสงแดด วศ.20-02-53 27 เม.ย.2531 22 เทอร์โมมเิ ตอรต์ ่าสดุ ยอดหญา้ วศ.20-02-04 23 ไมโครบาร์โรกราฟ อต.6660-011-003-190 30 ม.ค.63 บารโ์ รกราฟรายสัปดาห์ อต.6660-010-003-044 30 ม.ค.63 เครื่องวัดฝนแบบไซฟอนรายวัน อต.6665-012-003-493 30 ม.ค.63 เคร่ืองวดั ระยะทางลมถาดน้าระเหย เทอร์โมมเิ ตอรล์ อยนา้
36 3.3.5 การสอบเทียบ/การบารงุ รักษา/การส่งซอ่ ม ลาดับที่ เครอ่ื งมอื การสอบเทยี บ วนั ที่ หมายเหตุ การบารุงรกั ษา การสอบเทียบ 1 บาโรมิเตอร์ปรอท การส่งซอ่ ม การบารุงรักษา รับเคร่ืองมือ 2 เทอร์โมไฮโกรกราฟ 7 วัน การสอบเทยี บ การสง่ ซ่อม 3 การสอบเทยี บ 9 ก.พ.2557 9 ก.พ.2557 4 บาโรกราฟ รายวนั การสอบเทียบ 5 ไซโครมิเตอร์ตุ้มแห้ง การสอบเทยี บ 9 ก.พ.2557 9 ก.พ.2557 6 ไซโครมเิ ตอรต์ ุม้ เปยี ก การสอบเทียบ 9 ก.พ.2557 9 ก.พ.2557 7 เทอรโ์ มมิเตอร์สงู สดุ การสอบเทยี บ 8 เทอรโ์ มมิเตอรต์ ่าสดุ การสอบเทยี บ 9 ก.พ.2557 9 ก.พ.2557 9 การสอบเทียบ 9 ก.พ.2557 9 ก.พ.2557 10 เคร่ืองวัดลม 9 ก.พ.2557 9 ก.พ.2557 11 เครื่องวดั ฝนชนิดตวงวัด การสอบเทียบ 12 9 ก.พ.2557 9 ก.พ.2557 13 แกว้ ตวงนา้ ฝน การสอบเทยี บ 9 ก.พ.2557 9 ก.พ.2557 14 เครอ่ื งวัดฝนชนดิ จดไดใ้ นตวั การสอบเทียบ 15 เครือ่ งวดั ลมถาดนา้ ระเหย การสอบเทียบ 9 ก.พ.2557 9 ก.พ.2557 16 การสอบเทยี บ 17 ถาดวดั น้าระเหย 9 ก.พ.2557 9 ก.พ.2557 18 เทอรโ์ มมเิ ตอร์ลอยนา้ การสอบเทยี บ 9 ก.พ.2557 9 ก.พ.2557 19 เทอรโ์ มไฮโกรกราฟ 9 ก.พ.2557 9 ก.พ.2557 20 เคร่ืองวดั ฝนชนดิ จดไดใ้ นตัว 9 ก.พ.2557 9 ก.พ.2557 เครือ่ งวัดแสงแดด 9 ก.พ.2557 9 ก.พ.2557 เทอรโ์ มมเิ ตอรต์ ่าสุดยอดหญา้ ไมโครบาร์โรกราฟ บาร์โรกราฟรายสปั ดาห์
37 ขอ้ มลู สว่ นท่ี 4 ข้อมูลสารสนเทศสถานอี ตุ ุนิยมวทิ ยา (Meteorological Station Information , Metadata) ---------------------------------------------- ลักษณะตามภมู ิศาสตร์ (อดีต-ปัจจบุ ัน) จังหวดั ขอนแก่น 4.1 ทต่ี ั้งและขนาด จังหวดั ขอนแกน่ ตง้ั อยู่ บรเิ วณตอนกลางของภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื หา่ งจากกรุงเทพมหานคร 445 กิโลเมตร อยรู่ ะหว่างเสน้ รุ้งท่ี 15-17 องศาเหนือ และเส้นแวงท่ี 101-103 องศาตะวนั ออก มพี ืน้ ท่ี 10,880 ตารางกิโลเมตร หรือ 6.8 ล้านไร่ 4.2 ลักษณะภูมิประเทศ ลักษณะภูมปิ ระเทศของจังหวดั ขอนแก่น มีสภาพพื้นท่ีทั้งหมดลาดเอียงจากทิศตะวันตกไปทิศ ตะวันออกและทิศใต้ โดยสามารถแบง่ สภาพพ้นื ที่ออกไดเ้ ป็น 3 สว่ น คอื (1) บริเวณทสี่ งู ทางด้านตะวันตก เริ่มตั้งแต่อาเภอภูผาม่าน ที่มีสภาพพ้ืนที่เป็นเขาหินปูน ตะปมุ่ ตะปา่ เชน่ ภผู กั หนาม ภูซาดีหมี เป็นต้น สลับกับพื้นที่เป็นลูกคลื่นลอนลาดเล็กน้อยท่ีมีระดับความสูง ประมาณ 250 เมตร จากระดบั น้าทะเลปานกลาง จากนั้นพื้นทจี่ ะมลี ักษณะเป็นลูกคลื่นลอนลาดไปทางอาเภอสี ชมพู อาเภอชมุ แพ และอาเภอหนองเรอื ทมี่ ีระดบั ความสงู ประมาณ 200-240 เมตร จากระดับน้าทะเลปานกลาง โดยมภี เู ขารูปแอ่ง หรือภเู วยี งวางตัวอย่ตู ดิ อาเภอภูเวียง (2) บริเวณท่ีสูงตอนกลางและด้านเหนอื สภาพพน้ื ทเี่ ป็นเทือกเขาของภเู กา้ ภเู ม็ง ภูพานคา เป็น แนวขวางมาจากด้านเหนอื แล้ววกลงมาทางตะวันตกเฉยี งใต้ โดยไหล่เขาด้านนอกมีความสูงและลาดชันมาก มี ความสูงประมาณ 300-660 เมตร จากระดับน้าทะเลปานกลาง ส่วนไหล่เขาด้านในมีความลาดชันน้อย มีระดับ ความสงู ประมาณ 220-250 เมตร จากระดับน้าทะเลปานกลาง สภาพพื้นท่ีนี้ครอบคลุมพ้ืนที่อาเภอกระนวน อาเภอเขาสวนกวาง อาเภอนา้ พอง อาเภออบุ ลรัตน์ อาเภอบ้านฝาง และกง่ิ อาเภอโคกโพธ์ิชยั (3) บริเวณแอ่งโคราช ครอบคลุมพ้ืนท่ีทางด้านใต้จังหวัด สภาพพื้นที่เป็นลูกคล่ืนลอนลาด เลก็ นอ้ ย มคี วามสงู ประมาณ 150-200 เมตร จากระดบั นา้ ทะเลปานกลาง มีบางส่วนเป็นเนินท่ีมีระดับความสูง ประมาณ 170-250 เมตร จากระดบั นา้ ทะเลปานกลาง และลาดตา่ ไปหาทร่ี าบลมุ่ ทข่ี นานกับลาน้าชี ซึ่งมีความสูง ประมาณ 130-150 เมตร จากระดบั นา้ ทะเลปานกลาง พื้นท่ีบริเวณนไี้ ดแ้ ก่ ด้านใตอ้ าเภอกระนวน อาเภอน้าพอง อาเภอเมือง อาเภอพระยืน อาเภอมญั จาคีรี แลว้ พน้ื ทจี่ ะลาดชนั ข้ึนไปทางตะวนั ออก เป็นพื้นที่ลูกคล่ืนลอนลาดมี ความสูงประมาณ 200-250 เมตร จากระดบั นา้ ทะเลปานกลาง และค่อนขา้ งราบ มีความสูงประมาณ 170 -180 เมตร จากระดบั นา้ ทะเลปานกลาง ไดแ้ ก่ พน้ื ทอี่ าเภอชนบท อาเภอบ้านไผ่ อาเภอแวงนอ้ ย อาเภอแวงใหญ่ อาเภอ พล อาเภอหนองสองห้อง อาเภอเปือยนอ้ ย กง่ิ อาเภอบ้านแฮด และก่งิ อาเภอโนนศิลา
38 4.3 อาณาเขต ทศิ เหนือ ติดต่อกบั จังหวัดเลย จังหวดั หนองบัวลาภู และจังหวัดอุดรธานี ทิศตะวนั ออก ติดต่อกับจังหวดั กาฬสินธุ์และจังหวัดมหาสารคาม ทิศใต้ ตดิ ต่อกับจงั หวัดนครราชสมี าและจงั หวัดบรุ รี มั ย์ ทศิ ตะวันตก ตดิ ต่อกับจังหวดั ชยั ภมู ิและจงั หวดั เพชรบรู ณ์ รปู ภาพท่ี 44 แผนท่ีแสดงลักษณะภูมปิ ระเทศของจังหวัดขอนแก่น
39 4.4 ลักษณะภมู ิอากาศ ลักษณะภูมอากาศจังหวดั ขอนแกน่ จังหวดั ขอนแก่นอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ไทย อย่ภู ายใตอ้ ิทธพิ ลของลมมรสุม 2 ชนิดคอื ลมมรสมุ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื และลมมรสุมตะวนั ตกเฉียงใต้ (1) ลมมรสมุ ตะวันตกเฉียงใต้ เร่มิ พัดปกคลุมตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม ลมนี้มีแหล่งกาเนดิ จากบริเวณความกดอากาศสูงในซีกโลกใต้ในมหาสมุทรอินเดียและทวีปออสเตรเลียเป็นลม ตะวันออกเฉยี งใต้ เมื่อพัดข้ามเส้นศูนย์สูตรจะเปล่ียนเป็นลมตะวันตกเฉียงใต้ ดังน้ันกาลังแรงของลมมรสุม ตะวันตกเฉยี งใต้ จะมีความสมั พนั ธก์ บั ความแรงของความกดอากาศสูงจากซีกโลกใต้ เนื่องจากลมนี้ได้พัดผ่าน มหาสมุทรอินเดียและทะเลอนั ดามนั จึงได้นาเอาไอน้า และความชมุ่ ช้ืนพัดเขา้ มาปกคลุมประเทศไทย ซ่ึงเป็นเขต ทีม่ คี วามกดอากาศต่ากว่า จะทาใหม้ ีเมฆมาก และมฝี นตกทั่วไป จัดเป็นช่วงฤดูฝนในประเทศไทย บริเวณท่ีมี อทิ ธพิ ลมากกวา่ บรเิ วณอื่นคอื บริเวณชายฝง่ั ทะเลและตามเทือกเขาด้านรบั ลม (ภาควิชาภูมิศาสตร์ มหาวิทยาลัย รามคาแหง, 2537) (2) ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนอื เร่มิ พดั ปกคลุมต้งั แต่กลางเดอื นตุลาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ แต่บางทีอาจจะเลยไปถึงกลางเดือนมนี าคมได้ ลมนี้มีความสัมพันธ์กับฤดูหนาวทางซีกโลกเหนือ ซึ่งพื้นดินทาง ตอนในของทวปี เอเชยี มีความหนาวเยน็ อณุ หภมู ิลดลงตา่ อากาศจมตวั ลงสู่เบ้ืองล่างกลายเป็นบริเวณความกด อากาศสงู โดยจะมีลมพัดออกจากศูนยก์ ลางนาพาอากาศหนาวเย็นและแห้งแล้งจากภาคพ้ืนทวี ปเข้ามาปกคลุม ประเทศไทยซึง่ เป็นเขตท่ีมีความกดอากาศต่ากว่า ในช่วงระยะเวลาดงั กล่าวน้ีถือว่าเป็นช่วงฤดูหนาวของประเทศ ไทยท่ีมีอากาศหนา วเย็น และแห้งแล้งโดยทั่วไป ยกเว้นทางภา คใต้ฝั่งตะวัน ออกเม่ือร ะลอกมร สุม ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื มีกาลังแรง ก็จะพัดผ่านอ่าวไทยมากอ่ นทาให้ท้องฟ้ามีเมฆมาก และมีฝนตกชุกตามชายฝ่ัง ทะเลดา้ นน้ี ระหว่างฤดหู ลกั สองฤดคู ือ ฤดมู รสุมตะวันตกเฉียงใต้กับฤดมู รสุมตะวันออกเฉยี งเหนอื จะมี ช่วงเปลยี่ นฤดู (มันทนา พฤกษะวนั , 2535) ซึ่งจะเป็นชว่ งเปลยี่ นระบบจากมรสุมชนดิ หน่งึ ไปเปน็ มรสมุ อีกชนิด หนึ่ง ในระยะนจ้ี ะมีกระแสลมแปรปรวน อาจมีลมทศิ หนึง่ ทศิ ใดพัดแทนทล่ี มประจาฤดู และในบางครั้งลมประจา ฤดยู ังพดั กลับมาอีกสลับไปมา ช่วงระหว่างกลางเดือน กุมภาพันธ์ไปถึงกลางเดือน พฤษภา คม เป็นช่วงที่ลมมรสุม ตะวันออกเฉยี งเหนอื ทีแ่ หง้ เริม่ เปลีย่ นเป็นลมมรสมุ ตะวันตกเฉยี งใต้ทชี่ ่มุ ชนื้ กว่าชว่ งร ะยะเวลาน้ี เป็นช่วงท่ีฝนใน ประเทศไทยเร่มิ เพิ่มขึ้น พนื้ ดนิ ได้รับรงั สจี ากดวงอาทติ ย์เพิม่ ข้ึนทาใหเ้ กิดหย่อมความกดอากาศต่าเน่ืองจากความ ร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและจะปรากฏอยไู่ ม่นาน อากาศในประเทศไทยระยะน้ีร้อนอบอ้าว อุณหภูมิ สูงสดุ ทเี่ คยวัดได้ในเดอื นเมษายนสูงถึง 45 องศาเซลเซยี ส แตม่ วลอากาศเย็นจากประเทศจีนยังสามารถแผ่ลง มาถึงประเทศไทยตอนบนได้บ้างเป็นบางโอกาส ทาใหเ้ กดิ พายุฝนฟ้าคะนองอยา่ งแรงได้ ทีเ่ รยี กว่า พายฤุ ดรู ้อน
40 เดือนตุลาคม เป็นช่วงที่ลมมรสุมตะวนั ออกเฉยี งเหนอื เรมิ่ พดั เข้าแทนที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียง ใต้ ฝนจะลดลงโดยทั่วไป ยกเว้นทางภาคใต้ฝ่ังตะวันออกของประเทศยังคงมีฝนชุก เดือนตุลาคมเป็นช่วง ระยะเวลาทพี่ ายดุ ีเปรสช่นั จากทะเลจนี ใต้ เคลอ่ื นตวั ผ่านภาคใตข้ องประเทศไปยังอ่าวเบงกอล ทาให้ฝนตกหนัก และน้าท่วมฉบั พลนั ได้ทางภาคใตข้ องประเทศไทย ลักษณะอากาศทั่วไปของภาคตะวันออกเฉียงเหนือจึงค่อนขา้ งแห้งแลง้ มากกวา่ ภาคอ่ืนๆ ท้ัง ๆ ที่ได้รบั อิทธิพลจากพายหุ มนุ เขตรอ้ นมากทส่ี ุดและมฝี นตกมากกว่าภาคเหนือและภาคกลาง ท่ีเป็นเช่นน้ีก็ด้วย สาเหตปุ ระการสาคญั คอื ลกั ษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบสงู ดินปนทรายและพ้นื ดนิ เป็นหินตะกอนในระดับที่ไม่สู้ลึก นกั ซ่ึงไมม่ คี ุณสมบตั ิในการดดู รับ และเก็บรักษาน้าไว้ในดนิ ประกอบกับพนื้ ทท่ี ั่วไปมตี น้ ไมป้ กคลมุ น้อย ดังนั้นใน ฤดแู ล้งเมอ่ื หมดฝนภาคน้จี ึงแหง้ แลง้ ขาดความชุ่มชน้ื มากกวา่ ภาคอ่นื ๆ ในฤดูรอ้ นกร็ อ้ นมาก ท้ังน้ีเพราะตั้งลึกเข้า ไปในแผ่นดนิ และมีภเู ขาขวางกัน้ และลมทะเลไม่สามารถเข้าถึงได้ ส่วนในฤดูหนาวก็หนาวมากกว่าภาคอื่น ๆ เพราะเป็นต้นทางท่ไี ดร้ บั ลมมรสุมตะวนั ออกเฉียงเหนือ ท่ีพัดเอาความหนาวเย็นจากแผ่นดินใหญ่จีน ซึ่งภาค ตะวันออกเฉียงเหนอื รูปภาพท่ี 45 แผนทีแ่ สดงลมมรสมุ ตะวันออกเฉยี งเหนอื และลมมรสุมตะวนั ตกเฉียงใต้
41 4.5 ฤดูกาล แบ่งฤดกู าลของภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื ได้ 3 ฤดู ดังน้ี ฤดูรอ้ น เริม่ ตงั้ แตก่ ลางเดอื นกุมภาพันธ์ส้นิ สดุ กลางเดือนพฤษภาคม ฤดฝู น เรม่ิ ตง้ั แต่กลางเดือนพฤษภาคมสน้ิ สดุ กลางเดือนตุลาคม ฤดูหนาว เร่มิ ตัง้ แต่กลางเดอื นตุลาคมสิ้นสดุ กลางเดอื นกุมภาพันธ์ 4.6 คา่ มาตรฐานขอ้ มูลอุตุนิยมวิทยาคาบ 30 ปี (พ.ศ. 2524 - 2553) สถานขี อนแกน่ ปรมิ าณฝนเฉล่ียทง้ั ปี 1242.7 มิลลิเมตร อณุ หภูมอิ ากาศเฉลย่ี ทง้ั ปี 26.9 องศาเซลเซียส อุณหภมู ิสูงสดุ เฉล่ียทัง้ ปี 32.8 องศาเซลเซียส อณุ หภมู ิต่าสดุ เฉล่ยี ทัง้ ปี 22.3 องศาเซลเซยี ส ความชื้นสมั พทั ธเ์ ฉลยี่ ท้ังปี 71.6 % 4.7 สถติ ิภมู อิ ากาศคาบ 55 ปี (พ.ศ. 2503 – 2558) สถานีขอนแกน่ อุณหภมู ิสูงทสี่ ุด 42.8 ซ. เม่ือวนั ที่ 29 เมษายน 2503 อุณหภมู ติ า่ ทสี่ ดุ 5.6 ซ. เมอ่ื วันที่ 29 ธันวาคม 2518 ความชนื้ สัมพัทธ์ตา่ ที่สดุ 19 % เมอื่ วนั ที่ 29 มนี าคม 2511 ลมแรงที่สุด ทศิ ตะวันตก 101.9 กม./ชม. เม่ือวันที่ 14 มถิ ุนายน 2504 ฝนมากทส่ี ดุ ใน 1 ชั่วโมง 90.3 มม. เมอ่ื วนั ท่ี 14 กันยายน 2504 ฝนมากทส่ี ดุ ใน 1 วนั 221.9 มม. เม่ือวนั ท่ี 28 เมษายน 2551 ฝนมากที่สดุ ใน 1 เดือน 594.3 มม. เมื่อ เดือนกันยายน 2525 ฝนมากที่สุดใน 1 ปี 1751.0 มม. เมอื่ ปี พ.ศ. 2543 ฝนนอ้ ยที่สุดใน 1 ปี 778.9 มม. เม่อื ปี พ.ศ. 2516
42 4.8 พ้ืนทีเ่ ส่ยี งภัยธรรมชาติ 4.8.1 พนื้ ท่ีเส่ยี งภยั ท่ลี ุ่มแอง่ กะทะ มี 14 อาเภอ 36 ตาบล((พน้ื ทเ่ี สี่ยงมากทีส่ ุด อ.หนองสองห้อง) ๓) อาเภอ ตาบล บ้านฝาง โนนคูณ เหลา่ พระยืน หนองแวง ชุมแพ วังโนนอดุ ม สีชมพู วงั เพม่ิ วังชยั บา้ นขาม บัวเงิน ทา่ กระเสรมิ พังทยุ อุบลรตั น์ ศรสี ขุ สาราญ ทุ่งโป่ง อาเภอเปอื ยนอ้ ย เปือยนอ้ ย วังมว่ ง ขามปอ้ ม สระแกว้ พล ตาบลเพ็กใหญ่ โคกสง่า แวงใหญ่ ใหมน่ าเพียง โนนสะอาด แวงน้อย ละหานนา ทางขวาง หนองสองหอ้ ง หนองสองห้อง คมึ ชาด โนนธาตุ ตะกวั่ ป่า หนองเพก็
43 อาเภอ ตาบล มัญจาครี ี กดุ เคา้ หนองแปน ภผู าม่าน ซาสูง วังสาบ กระนวน ห้วยเตย บา้ นโนน 4.8.2 พนื้ ท่เี สี่ยงภัยที่ลมุ่ รมิ น้า มี 23 อาเภอ 80 ตาบล (พน้ื ทเ่ี สี่ยงมากท่ีสุด อ.เมือง) อาเภอ ตาบล เมืองขอนแก่น นาสาราญ โคกสี ท่าพระ เมอื งเกา่ พระลบั ดอนชา้ ง ดอนหัน บา้ นฝาง ศลิ า บงึ เนยี ม โนนฆอ้ ง พระยนื พระบุ บา้ นโตน้ หนองแวง หนองเรือ หนองเรือ บ้านกง โนนทอง โนนทนั บา้ นผือ ชุมแพ ชมุ แพ ไชยสอ โนนอดุ ม นาเพยี ง หนองเสาเลา้ โนนสะอาด
44 อาเภอ ตาบล สชี มพู สีชมพู นา้ พอง ศรีสขุ นาจาน อบุ ลรัตน์ วงั เพิม่ บ้านไผ่ ดงลาน เปอื ยน้อย บริบรู ณ์ พล วังชัย แวงใหญ่ หนองกงุ แวงนอ้ ย ภูเวียง บ้านขาม ท่ากระเสรมิ มญั จาครี ี บ้านดง เขือ่ นอุบลรตั น์ เขตเทศบาล เมืองเพีย เปอื ยน้อย วังมว่ ง ขามปอ้ ม สระแก้ว เพ็กใหญ่ โคกสง่า โนนทอง โนนสะอาด ทา่ นางแนว ละหานนา ทางขวาง หวา้ ทอง กดุ ขอนแก่น นาหวา้ ทงุ่ ชมพู ดินดา กุดเคา้ หนองแปน ทา่ ศาลา
45 อาเภอ ตาบล ชนบท ชนบท เขาสวนกวาง วังแสง ภูผามา่ น ศรีบุญเรอื ง ซาสูง โนนพะยอม โนนสมบรู ณ์ โคกโพธิ์ไชย นางวิ้ หนองนาคา บ้านแฮด โนนคอม ศิลา นาฝาย ภผู าม่าน วงั สวาบ กระนวน คูคา หว้ ยเตย คาแมด โพธิ์ไชย นาแพง กุดธาตุ บ้านโคก ขนวน โคกสาราญ โนนสมบูรณ์ บ้านหนั 4.8.3 พื้นท่เี สย่ี งภัยท่รี าบตดิ เชงิ เขา มี 10 อาเภอ 20 ตาบล(ฐ(พ้นื ที่เส่ยี งมากท่สี ุด อ.สีชมพู)๒ อาเภอ ตาบล บา้ นฝาง ป่าหวายนั่ง ปา่ มะนาว หนองเรือ ยางคา ชมุ แพ สชี มพู ศรีสุข นาจาน วงั เพ่มิ ดงลาน บรบิ ูรณ์
46 อาเภอ ตาบล แวงใหญ่ โนนสะอาด มญั จาคีรี เขาสวนกวาง คาแคน ภผู ามา่ น โนนสมบรู ณ์ นาง้ิว หนองนาคา นาฝาย เวยี งเกา่ วังสวาบ กดุ ธาตุ เขานอ้ ย เมืองเก่าพฒั นา ในเมอื ง 4.8.4 พ้ืนทีเ่ สี่ยงภัยที่เนนิ เขา/ภูเขา มี 5 อาเภอ 6 ตาบล( (พนื้ ที่เสี่ยงมากทส่ี ดุ อ.ภูผามา่ น)) อาเภอ ตาบล บ้านฝาง ป่าหวายนั่ง หนองเรือ บา้ นกง อบุ ลรัตน์ เข่อื นอุบลรตั น์ มญั จาคีรี นางาม ภูผามา่ น ภผู ามา่ น วังสวาบ 4.8.5 พน้ื ทเ่ี สีย่ งภยั นา้ ท่วมขัง มี 16 อาเภอ 36 ตาบล(ฐ(พน้ื ทีเ่ สย่ี งมากทสี่ ดุ อ.นา้ พอง) อาเภอ ตาบล เมืองขอนแกน่ ศิลา บา้ นฝาง บา้ นเปด็ โนนฆอ้ ง พระยนื หนองแวง หนองเรอื บ้านกง ชุมแพ โนนทนั บ้านผือ หนองเสาเลา้
47 อาเภอ ตาบล นา้ พอง วงั ชัย อบุ ลรัตน์ หนองกงุ บ้านไผ่ เปอื ยน้อย บ้านขาม บวั เงิน พล ทา่ กระเสริม พงั ทยุ แวงใหญ่ บ้านดง แวงนอ้ ย เขตเทศบาล มัญจาครี ี หนองนาคา เมอื งเฟีย บ้านแฮด เปือยน้อย โนนศิลา วังมว่ ง ขามปอ้ ม สระแกว้ เพ็กใหญ่ โคกสง่า ลอมคอม คอมฉมิ โนนทอง ใหม่นาเพียง โนนสะอาด ละหานนา กุดเคา้ หนองแปน กดุ ธาตุ ขนวน โคกสาราญ โนนสมบูรณ์ บา้ นหัน
48 4.8.6 พน้ื ท่เี ส่ยี งภยั นา้ ลน้ ตล่งิ มี 22 อาเภอ 74 ตาบล( (พนื้ ทเ่ี สี่ยงมากท่สี ุด อ.เมือง)) อาเภอ ตาบล เมืองขอนแก่น นาสาราญ โคกสี บา้ นฝาง ทา่ พระ พระยืน เมืองเกา่ หนองเรือ พระลบั ชมุ แพ ดอนชา้ ง สชี มพู ดอนหัน ศิลา นา้ พอง บึงเนยี ม ปา่ หวายนงั่ โนนฆอ้ ง พระบุ บา้ นโต้น หนองแวง หนองเรือ บ้านกง โนนทอง บ้านผอื ชมุ แพ ไชยสอ โนนอดุ ม สชี มพู ศรีสุข นาจาน วังเพ่ิม ดงลาน บรบิ รู ณ์ วงั ชยั หนองกุง ท่ากระเสรมิ
Search