การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิ งแวดล้อมเพื่อพฒั นาทางด้าน สวัสดิการ สังคมและเศรษฐกิจย่อมมีจุดมุ่งหมายเพ่ือเป็ นหลกั ประกันถึง สมรรถภาพของโลกท่ีมีต่อการพฒั นา และเกื้อหนุนชีวิต ปัญหาส่ิงแวดล้อมส่วน ใหญ่เกิดจากการกระทาของมนุษยท์ ี่ส่งผลกระทบมายงั สิ่งแวดล้อม ได้แก่ เกิด ภาวะแห้งแล้ง การเกิดมลพิษ การสูญเสียพืน้ ท่ีเพาะปลูก การพงั ทลายของดิน เป็นต้น จงึ ทาให้มองเหน็ ความสาคญั ที่จะต้องมีการอนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ ท่ีครอบคลมุ ถึงการจดั ระบบสิ่งแวดล้อม หรือการผลิตการดารงไว้ให้คงอยู่นาน ความจาเป็นที่ต้องมีการจดั การทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม เน่ืองจาก 148
149
ความรุนแรงของปัญหาส่ิงแวดล้อมของไทย เกิดจากการใช้ทรพั ยากร ธรรมชาติ ของมนุษยท์ ่ีขาดการประเมินผลกระทบหรือการคาดคะเนผลเสียและ ผลดีท่ีจะเกิดขึน้ ก่อนใช้ทรพั ยากรธรรมชาติ นักวิทยาศาสตรส์ ิ่งแวดล้อมเชื่อว่า หากมีการต่ืนตัวในการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมในอดีตแล้ว มลพิษ สิ่งแวดลอ้ มที่ปรากฏในปัจจบุ นั อาจมีน้อยกว่านี้ หรือไม่มีเลยกไ็ ด้ จากหลกั การ ดงั กล่าว รฐั จึงได้มีมาตรการแก้ไขปัญหาส่ิงแวดล้อม คือ “การวิเคราะห์ผล กระทบส่ิงแวดล้อม” (Environment Impact Assessment: EIA) 150
การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่ งแวดล้อม หมายถึง กิจกรรมในการจาแนก และการ คาดคะเน ผลกระทบก่อนดาเนินโครงการพฒั นา โดยการวิเคราะหผ์ ลกระทบส่ิงแวดล้อมจะให้ แนวทางในการแก้ไขผลกระทบส่ิงแวดล้อมท่ีจะเกิดขึน้ ตลอดจนระบบติดตามตรวจสอบเพ่ือ การอนุรกั ษส์ ่ิงแวดล้อมให้เกิดความยงั่ ยืน การศึกษาประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มเริ่มใช้ในประเทศสหรฐั อเมริกาในปี พ.ศ. 2512 สาหรบั ประเทศไทย นโยบายด้านส่ิงแวดล้อมเริ่มกาหนดในรฐั ธรรมนูญ พ.ศ. 2517 แต่เป็ น กฎหมายท่ีเป็ นเพียงแนวทาง ต่อมามีการประกาศใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมอย่างเป็ นทางการ ฉบบั แรก คือ พระราชบญั ญตั ิส่งเสริมและรกั ษาคณุ ภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพ.ศ. 2518 และ ได้กาหนดให้มีการจดั ทารายงานการประเมินผลกระทบส่ิงแวดล้อม (EIA) อย่างจริงจงั ใน ปี 2524 โดยมีวตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ให้มีการศึกษาเก่ียวกบั ทรพั ยากรสิ่งแวดลอ้ มและคณุ ค่าต่างๆ ที่อาจจะถกู กระทบจากโครงการหรอื กิจการที่พฒั นานัน้ 151
การจดั การสิ่งแวดล้อม หมายถึง การดาเนินการต่อส่ิงแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ส่ิงแวดล้อมสามารถเอื้ออานวยประโยชน์ต่อมนุษยไ์ ด้ตลอดไปโดยไม่ขาด แคลน และไม่มีปัญหาใดๆ แนวคิดในการจดั การส่ิงแวดล้อมมีดงั นี้ 1 การสงวน (Preservation) หมายถึง การธารงไว้ซึ่ งความสมดุลของ ธรรมชาติ โดยปล่อยให้ทรพั ยากรและสิ่งแวดล้อมมีการเจริญเติบโตและมี ความสมั พนั ธ์แบบพึ่งพาอาศยั ซ่ึงกนั และกนั ตามธรรมชาติทุกประการ โดย มนุษยไ์ ม่ควรเข้าไปเก่ียวข้อง 2 การอนุรกั ษ์ (Conservation) หมายถึง การดูแล ป้องกนั รกั ษา ซ่อมแซม และการใช้ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมเพ่ือให้เกิดประโยชน์ต่อมนุษย์ มากท่ีสดุ 152
3 การพฒั นา (Development) หมายถึง การปรบั ปรงุ ฟื้ นฟู บรู ณะสิ่งแวดล้อมให้ มีสภาพที่ดีขึน้ และสามารถนามาใช้ให้เกิดประโยชน์ 4 การใช้ประโยชน์ (Utilization) หมายถึง การนาทรพั ยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมมาใช้ประโยชน์อย่างถกู หลกั วิชาการ การวางแผนจดั การส่ิงแวดล้อม ต้องเป็นไปตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วยขนั้ ตอนตามลาดบั ต่อไปนี้ 1 การสารวจเบือ้ งต้น 6 การประเมินสถานภาพของระบบ 2 การวางแผนเกบ็ และวิเคราะหข์ ้อมลู ทรพั ยากรและสิ่งแวดล้อม 3 การสารวจ/เกบ็ ข้อมลู 7 การหาปัญหา 4 การวิเคราะหข์ ้อมลู 8 การสรา้ งมาตรการ 5 เปรียบเทียบ/ประเมินผล 9 การสรา้ งแผนงาน การวิเคราะหก์ บั ค่ามาตรฐาน 153
แนวทางในการจดั การสิ่งแวดล้อมมีหลายแนวทาง แต่ละประเทศจะมีการ กาหนดกฎหมายสิ่งแวดล้อม กฎข้อบงั คบั หรือมาตรฐานการจดั การสิ่งแวดล้อม เป็นมาตรฐานของตนเอง ซึ่งอาจมีหลกั การดาเนิ นการบริหารจดั การท่ีแตกต่าง กนั ไป ซึ่งอาจทาให้เกิดความขดั แย้งและความไม่เท่าเทียมกนั ด้านการค้า ระหวา่ งประเทศ ดงั นัน้ องคก์ ารการค้าโลก (World Trade Organization: WTO) จึงได้มีการปรบั ปรงุ มาตรฐานต่างๆ ขึน้ เพื่อใช้เป็นมาตรฐานสากล (International Organization for Standardization: ISO) สาหรบั นามาเป็นมาตรฐานที่ใช้จดั การ คณุ ภาพผลิตภณั ฑ์ และการจดั การสิ่งแวดล้อม มาตรฐานสากลท่ีเกี่ยวข้องกบั การผลิต และการจดั การสิ่งแวดล้อม ท่ีสาคญั ๆ มีดงั นี้ 154
155
แผนการจดั การสิ่งแวดล้อมหมายถึง การกาหนดกระบวนการและขนั้ ตอนในการ ดาเนิ นการต่อสิ่งแวดล้อมเก่ียวกบั การใช้การป้ องกนั แก้ไข ปรบั ปรุง และการฟื้นฟูให้ เกิดผล ตอบสนองต่อมนุษยแ์ ละทรพั ยากรอ่ืนอย่างยนั่ ยืนและต่อเนื่อง มีขนาดและทิศทางที่ ชดั เจน ขนาดหรือปริมาณจะรวมไปถึงทรพั ยากรท่ีจะใช้ เช่น คน เงิน พื้นท่ี และเคร่ืองมือ ส่วนทิศทาง หมายถึง การกาหนดแนวทางการดาเนินการว่าจะไปทางใด สุดท้ายต้องนึกถึง เวลาที่ใช้ทงั้ โครงการหรือทงั้ แผนงาน การวางแผนจดั การทรพั ยากรและส่ิงแวดล้อมบางครงั้ ใช้คาว่า “สิ่งแวดล้อม” เพียงอยา่ งเดียวและบางครงั้ ใช้คาว่า “ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม” ให้เข้าใจว่า เป็ นส่ิงเดียวกนั “ทรพั ยากรธรรมชาติ” เป็ นส่วนหนึ่งของ “สิ่งแวดล้อม” ฉะนัน้ คาว่า “สิ่งแวดล้อม” จึงใช้ครอบคลมุ คาว่า “ทรพั ยากรธรรมชาติ” ด้วย 156
1 แนวคิด 2 ขอบเขตของแผน 3 องคป์ ระกอบของแผนปฏิบตั ิการ 157
การจดั การทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม เป็นการบริหารงานท่ีเป็นระบบ เพ่ือป้องกนั การ เกิดปัญหาส่ิงแวดล้อมจากการบุกรกุ ธรรมชาติของมนุษย์ ด้วยกระบวนการบริหารจดั การตามแผนงานและบงั คบั ใช้กฎหมาย และที่สาคญั จะต้องให้คนในท้องถิ่นได้มีส่วนร่วม บริหารจดั การ สร้างเครือข่ายในชมุ ชนให้ ตระหนัก ถึงความสาคัญของทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่ งแวดล้อม โดยยึดหลักการอนุรักษ์ รักษา และพัฒนา ทรพั ยากรธรรมชาติ เพ่ือให้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการแก้ปัญหา หรือเสียน้อยลง ช่วยประหยดั การใช้ทรพั ยากร และทาให้ใช้ทรพั ยากรอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทงั้ ทาให้เกิดความปลอดภยั ต่อชีวิต และสิ่งแวดลอ้ ม พระราชบญั ญตั ิส่งเสริมและรกั ษาคุณภาพส่ิงแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 กาหนดให้จงั หวดั จดั ทาแผนปฏิบตั ิการ เพื่อจดั การคณุ ภาพส่ิงแวดล้อม โดยประกอบด้วยโครงการสร้างจิตสานึกและความตระหนัก โครงการเฝ้าระวงั และป้องกนั โครงการบาบดั และฟื้ นฟู และโครงการศึกษาวิจยั ปฏิบตั ิการในการจดั ทาแผนปฏิบตั ิ การต้องดาเนินการให้สอดคลอ้ งกบั การอนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ และครอบคลมุ การจดั การส่ิงแวดล้อมในด้าน คณุ ภาพของน้า คณุ ภาพอากาศ และเสียงกากของเสีย และวตั ถอุ นั ตราย การจดั การทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มในชมุ ชนต่างๆจะดาเนิ นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถป้องกนั และแกไ้ ขปัญหาดา้ นสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่ได้นัน้ จาเป็นต้องได้รบั ความร่วมมือร่วมใจจากประชาชน ทกุ ๆคน ภายในชมุ ชนนัน้ ๆ ตลอดจนการประสานความรว่ มมอื จากภาครฐั และภาคเอกชนที่เกี่ยวขอ้ ง 158
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: