อัต ร า ก า ร ใ ช้ พ ลัง ง า น ข อ ง ป ร ะ ช า ค ม โ ล ก เ พ่ิ ม ขึ้น อ ย่ า ง ร ว ด เ ร็ว ในขณะที่มีการคาดการณ์ ว่านํ้ามัน และก๊าซซ่ึงเป็ นพลงั งานหลกั ของโลก จะมีใช้ต่อไปได้อีกประมาณ 20 ปี มีการศึกษาเปรียบเทียบพลงั งานท่ีผลิตได้กบั ปริมาณความต้องการ ใช้พลังงานของโลกทุกๆ 25 ปี โดยเน้ นพลงั งานจากนิ วเคลียร์ น้ํามนั ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิ น ผลการศึกษาเปรียบเทียบพลังงานทัง้ 4 ประเภท ดงั แผนภมู ิ 86
ภาพ แสดงพลงั งานทีผ่ ลิตได้และความต้องการใช้พลงั งานของโลก 87
จากรายงานของ World Energy Technology and Climate Policy Outlook 2030 (WETO) สรปุ สถานการณ์แนวโน้มในอนาคตทางด้านพลงั งาน ของโลกจนกระทงั่ ถึงปี ค.ศ. 2030 ได้ดงั นี้ 1 จาํ นวนประชากรโลกมีการเพ่ิมขนึ้ ในอตั ราท่ีลดลงทกุ ช่วงเวลาที่ พิจารณา โดยลดลงจาก 1.5% ในอดีต เหลือเพียงประมาณ 1% ในช่วงปี 2000-2030 2 ค่าผลิตภณั ฑม์ วลรวมในประเทศ (GDP) ปัจจบุ นั มีการเพิ่มขนึ้ ใน อตั ราท่ีสงู กว่าในช่วงก่อนปี 2000 โดยมีการเพ่ิมขึน้ ปี ละประมาณ 3.5% แต่มีแนวโน้มท่ีจะเพิ่มขึน้ ในอตั ราที่ชะลอตวั ลงในอนาคต โดยคาดวา่ จะเติบโตเพียง 3.2% ต่อปี ในช่วงปี 2010-2020 และ จะเติบโตเพียง 2.6% ต่อปี ในช่วงปี 2020-2030 88
ภาพ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างจานวนประชากรและผลิตภณั ฑม์ วลรวมในประเทศของโลก 89
3 ความต้องการพลังงานของโลกเพ่ิ มขึ้นอย่างต่อเน่ื องตัง้ แต่อดีตถึงปัจจุบัน และไม่มีแนวโน้ มท่ีจะลดลงในอนาคต และพลังงานทุกประเภทมีแนวโน้ ม ท่ีจะถูกใช้มากขึ้นในอนาคต โดยพลังงานท่ีมีบทบาทสําคัญท่ีสุดหรือมีสัดส่วน การใช้มากที่สดุ คือ น้ํามนั รองลงมาคือ ถา่ นหินและกา๊ ซธรรมชาติ ภาพ แนวโน้มความต้องการพลงั งานของโลก 90
4 การใช้พลงั งานในภาคเศรษฐกิจต่างๆ เมอ่ื พิจารณาแบบแบง่ ภาคใน ระบบเศรษฐกิจ และพิจารณาจากการใช้พลงั งานขนั้ สดุ ท้าย หรอื การ ใช้พลงั งานของผบู้ ริโภคลาํ ดบั สุดท้าย ภาคการคมนาคมขนส่งมีสดั ส่วน การใช้พลงั งานสงู ที่สดุ รองลงมาได้แก่ ภาคอตุ สาหกรรม และภาค ครวั เรือน ภาคบริการและเกษตรกรรม ภาพ การใช้พลงั งานในภาคเศรษฐกิจต่างๆ 91
5 แนวโน้มราคาน้ํามนั และกา๊ ซธรรมชาติ ในอดีตพบว่าราคาน้ํามนั และ กา๊ ซธรรมชาติพ่งุ สงู ขึน้ อยา่ งมากในช่วงที่เกิดวิกฤตด้านราคานํ้ามนั ในช่วงปี ค.ศ. 1975-1980 หลงั จากนัน้ ราคาได้ปรบั ตวั ลดลงในช่วง ปี 1980-1997 และค่อยๆ เพ่ิมขึน้ แบบค่อยเป็นค่อยไป ภาพ แนวโน้มราคาน้ามนั และกา๊ ซธรรมชาติ 92
ปัญหาการใช้พลงั งานของประเทศรนุ แรงขึ้น จนอาจ กล่าวได้ว่าเป็ นวิกฤตการณ์ด้านพลงั งาน ซึ่งสรปุ สาเหตุ ของวิกฤตการณ์พลงั งานได้ดงั นี้ 1. การขาดแคลนพลงั งานประเภทน้ํามนั เชือ้ เพลิง 2. ต้องพ่งึ พาการนําเข้านํ้ามนั เชื้อเพลิงจากต่างประเทศ 3. ขาดความรู้ และเทคโนโลยีในการพฒั นาพลงั งาน 4. นโยบายด้านพลงั งานของประเทศเพ่ิงเริ่มต้นอย่างจริงจงั 5. ความฟ่ มุ เฟื อย และการใช้พลงั งานอย่างขาดประสิทธิภาพ 93
กล่าวโดยสรปุ การผลิตและใช้พลงั งานของประเทศมีผลกระทบต่อ ส่ิงแวดล้อมดงั นี้ 94
95
การพฒั นาประเทศตามแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ได้มุ่งเปลี่ยนแปลงประเทศอย่างเร่งรดั และรวดเรว็ ให้ไปสู่ความทนั สมยั ใน ด้านเศรษฐกิจ สังคม โดยมุ่งหมาย “การพฒั นา” ไปที่ความก้าวหน้าทาง เทคโนโลยีการผลิต และการบริโภคตามแบบประเทศตะวนั ตก เกิดนโยบาย ส่งเสริมอุตสาหกรรม การปรบั ปรุงการคมนาคม การทําเกษตรกรรมแผน ใหม่ ซ่ึงใช้เคร่ืองจกั รกลแทนแรงงานสตั ว์และคน ช่วงของการพฒั นาไปสู่ ความทนั สมยั นี้ ทําให้เกิดความต้องการพลงั งานที่มีมากเกินกว่าปริมาณ พลงั งานที่จะจดั หาได้ภายในประเทศ จนต้องมีการนําเข้าพลงั งานจาํ นวน มหาศาล สญู เสียเงินตราและงบประมาณแผน่ ดินเป็นจาํ นวนมาก 96
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: