Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 335_ภาษาไทย ป4 หน่วยที่5 น้ำผึ้งหยดเดียว

335_ภาษาไทย ป4 หน่วยที่5 น้ำผึ้งหยดเดียว

Published by krupom61, 2020-05-05 09:50:48

Description: 335_ภาษาไทย ป4 หน่วยที่5 น้ำผึ้งหยดเดียว

Search

Read the Text Version

๑ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๕ เรื่อง นำ้ ผงึ้ หยดเดียว กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รายวิชา ภาษาไทย รหัส ท ๑๔๑๐๑ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔ นางอรวรรณ ปานจำรูญ ครูผูส้ อน โรงเรยี นวดั พชื นมิ ติ (คำสวสั ด์ิราษฎรบ์ ำรงุ ) ตำบลคลองหน่งึ อำเภอคลองหลวง จงั หวัดปทมุ ธานี สำนกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาปทุมธานี เขต ๑

๒ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๕ เรื่อง นำ้ ผง้ึ หยดเดยี ว กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวิชา ภาษาไทย รหสั ท ๑๔๑๐๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ เวลา ๖ ชัว่ โมง ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ัด สาระท่ี ๑ การอา่ น มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้และความคิด เพื่อนำไปใช้ตดั สินใจ แก้ปัญหาใน การดำเนินชีวติ และมีนิสยั รักการอ่าน ตวั ชวี้ ัด ท ๑.๑ ป. ๔/๑ อา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้ถูกตอ้ ง ท ๑.๑ ป. ๔/๒ อธิบายความหมายของคำ ประโยค และสำนวนจากเรอ่ื งท่ีอา่ น ท ๑.๑ ป. ๔/๓ อ่านเรอื่ งสนั้ ๆ ตามเวลาที่กำหนดและตอบคำถามจากเรื่องทอี่ ่าน ท ๑.๑ ป. ๔/๖ สรปุ ความรู้ความคดิ จากเรือ่ งทอ่ี ่านเพอื่ นำไปใช้ในชีวติ ประจำวนั ท ๑.๑ ป. ๔/๘ มมี ารยาทในการอา่ น สาระที่ ๒ การเขยี น มาตรฐานการเรยี นรู้ ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนสอื่ สาร เขยี นเรยี งความ ยอ่ ความและเขียน เรื่องราวในรปู แบบต่างๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ตวั ชวี้ ัด ท ๒.๑ ป. ๔/๒ คัดลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทดั และคร่ึงบรรทดั ท ๒.๑ ป. ๔/๓ เขยี นสอื่ สารโดยใช้ได้ถกู ต้อง ชัดเจน และเหมาะสม ท ๒.๑ ป. ๔/๗ เขยี นเร่ืองตามจินตนาการ ท ๒.๑ ป. ๔/๘ มมี ารยาทในการเขียน สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการพูด มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงั และดอู ย่างมีวิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ และความร้สู ึกในโอกาสต่างๆ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ตวั ชว้ี ัด ท ๓.๑ ป. ๔/๒ พูดสรปุ ความจากการฟงั และดู ท ๓.๑ ป. ๔/๓ พูดแสดงความรู้ ความคิดเห็นและความรู้สกึ เก่ยี วกบั เรือ่ งทีฟ่ งั และดู ท ๓.๑ ป. ๔/๔ ต้งั คำถามและตอบคำถามเชงิ เหตุผลจากเร่ืองทีฟ่ ังและดู ท ๒.๑ ป. ๔/๖ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู สาระที่ ๔ หลักการใชภ้ าษาไทย มาตรฐานการเรยี นรู้ ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของ ภาษา และพลงั ของภาษา ภมู ิปญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ขิ องชาติ ตัวช้ีวัด ท ๔.๑ ป. ๔/๑ สะกดและบอกความหมายของคำในบริบทตา่ งๆ สาระท่ี ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม มาตรฐานการเรยี นรู้ ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยา่ ง เหน็ คณุ ค่า และนำมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จรงิ ตวั ชวี้ ัด ท ๕.๑ ป. ๔/๑ ระบขุ อ้ คิดนิทานพน้ื บา้ น หรอื นทิ านคตธิ รรม ท ๕.๑ ป. ๔/๒ อธิบายขอ้ คิดจากการอ่านเพ่อื นำไปใช้ในชวี ติ จริง

๓ ๒. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การอ่านออกเสียงทช่ี ดั เจนถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น การอธิบายความหมายของคำ ประโยคและ ข้อความไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ผู้อา่ นตอ้ งรบั รู้และเข้าใจ จงึ จะสามารถสอ่ื สารกบั ผูอ้ ่นื ไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ และ การตง้ั จดุ หมายในการอา่ น อา่ นอยา่ งพนิ ิจ พิจารณา จะทำใหจ้ ับใจความสำคัญของเรือ่ งทอ่ี ่านได้ดี สามารถ ตอบคำถามลำดบั เหตุการณข์ องเร่อื ง และนำไปเขียนเป็นแผนภาพโครงเรื่อง เพอื่ เลา่ เรอื่ งและเขียนเร่ืองได้ การรหู้ ลกั เกณฑท์ างภาษาเรือ่ งการสะกดคำ ในมาตราต่างๆ และบอกความหมายของคำในบริบทตา่ งๆ ได้ สามารถแต่งประโยคได้ถกู ต้องตามหลกั เกณฑ์ ทำให้เขียนส่อื ความ เขยี นเรือ่ งตามจิตนาการและสร้างสรรค์ ถ่ายทอดเรือ่ งราวและความคดิ สู่ผ้อู ่านได้อยา่ งเหมาะสมชัดเจน การโฆษณา ผู้เขยี นตอ้ งพจิ ารณาความ น่าเชื่อถอื กอ่ นเลอื กใช้บรกิ าร ตลอดจนการฟังนทิ านคติธรรม มกี ารสอดแทรกข้อคิดให้ผู้ฟังนำไปประยกุ ตใ์ ช้ กบั ตนเองใหเ้ กิดประโยชน์สูงสุด ๓. สาระการเรียนรู้ ความรู้ (K) ๑. หลกั การศึกษาคำศพั ท์ ๒. หลักการอ่านจับใจความ ๓. หลักการเขียนแผนภาพโครงเรื่อง ๔. หลกั การอา่ นออกเสยี ง ๕. หลกั คำควบกล้ำ ๖. หลกั มาตราตัวสะกด แม่ กง กม เกย เกอว ๗. หลกั การเขียนเร่ืองตามจินตนาการ ๘. หลกั การโฆษณา ๙. หลกั การอ่านนิทานคติธรรม ทักษะ/กระบวนการ (P) ๑. ศกึ ษาคำศพั ท์ ๒. อา่ นจบั ใจความ ๓. เขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง ๔. อ่านออกเสียง ๕. อ่านคำควบกล้ำ ๖. เขียนมาตราตวั สะกด แม่ กง กม เกย เกอว ๗. เขียนเรื่องตามจนิ ตนาการ ๘. โฆษณา ๙. ฟงั นทิ านคติธรรม เจตคติ (A) ๑. รักการอ่านการเขยี น ๒. มีมารยาทในการอา่ น ๓. มีมารยาทในการเขยี น ๔. มีมารยาทในการฟงั ดู พูด

๔ ๔. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ๑. ความสามารถในการสือ่ สาร ๒. ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ ๓. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ - กระบวนการทำงานกลุ่ม - กระบวนการปฏบิ ัติ ๕. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ๑. รกั ความเปน็ ไทย ๒. ซ่อื สัตยส์ จุ รติ ๓. ใฝเ่ รยี นรู้ ๖. ช้นิ งาน/ภาระงาน ๑. การเขยี นเรอ่ื งตามจติ นาการ ๗. การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการ เคร่ืองมอื เกณฑ์ -ทดสอบก่อนเรียน -แบบทดสอบ ผ่านเกณฑ์ รอ้ ยละ ๘๐ -ตรวจชิ้นงานเขยี นเรือ่ งตามจิตนาการ -แบบประเมินการเขยี นเร่อื งตามจติ นาการ ผ่านเกณฑ์ รอ้ ยละ ๘๐ -ทดสอบหลังเรียนเรียน -แบบทดสอบ ผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ ๘๐ ๘.กิจกรรม ชั่วโมงท่ี ๑ การศึกษาคำศพั ท์ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. นกั เรยี นอ่านและเขยี นสะกดคำได้ถูกตอ้ ง ๒. อธิบายความหมายของคำศพั ทไ์ ด้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั นำ ๑. นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นเร่อื งนำ้ ผ้ึงหยดเดียว ๒. ครนู ำบทร้อยกรองทีเ่ ป็นบทนำของบทเรยี น หนา้ ๕๒ มาใหน้ กั เรยี นอ่าน ครูพดู เน้นใหน้ กั เรยี น มมี ารยาทท่ดี ีในการอ่าน โดยเน้นการอา่ นออกเสียงให้ชดั เจน แลว้ สนทนาเรอ่ื งความหมายของคำและบทรอ้ ย กรอง นำ้ ผึ้งหยดเดยี ว น้ีหนอ เกดิ กอ่ ตอ่ เนอื่ งเรือ่ งใหญ่ เหตกุ ารณ์ลกุ ลามเร็วไว นทิ านเลา่ ไว้สนกุ ครัน ข้นั สอน ๓. นักเรยี นฝกึ อา่ นบตั รคำศพั ท์จากเรอ่ื งน้ำผึง้ หยดเดียว ทคี่ รูเตรยี มไว้ติดบนกระดานดำ หรือ แผน่ กระเป๋าผนงั โดยฝึกอา่ นบัตรคำพร้อมกัน ๒ คร้งั เน้นการอ่านออกเสียงที่ถูกต้องชัดเจนตามหลักการอา่ น

๕ ๔. เม่ือนักเรยี นฝกึ อ่านแลว้ ใหต้ ัวแทนนกั เรียนเลือกหยบิ บัตรคำขน้ึ มาอา่ นและหาความหมาย ของคำศัพท์ จากพจนานกุ รม บอกความหมายใหเ้ พอื่ นทราบ โดยให้เพื่อนอา่ นบตั รคำ คำละ ๒ ครั้ง ครู อธิบายความหมายของคำศัพท์เพมิ่ เติม ๕. แบง่ กลมุ่ นักเรียนฝึกอา่ นคำจากบัตรคำอีกครงั้ จนครบ โดยให้เพ่อื นช่วยเพ่อื นจนอ่านไดห้ รอื อ่านคลอ่ งทุกคน จากนัน้ แขง่ ขนั เขยี นคำศพั ทจ์ ากบทเรยี น ฝา่ ยใดเขียนถกู ตอ้ งมากที่สุดเปน็ ฝ่ายชนะ ๖. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกนั คน้ หาความหมายของคำศัพทท์ ีม่ ีในหนังสือเรยี น ชดุ ภาษาเพื่อชีวติ วรรณคดีลำนำ เร่อื งน้ำผึ้งหยดเดยี ว จากพจนานุกรม เขียนบนั ทึกในสมดุ ๗. นกั เรียนอา่ นออกเสยี งคำศพั ทพ์ รอ้ มกันทงั้ ช้นั อีกครัง้ ครูคอยแกไ้ ข แนะนำเพ่มิ เติม ขัน้ สรปุ ๘. นักเรียนเขยี นคำศพั ทพ์ รอ้ มความหมายใส่สมดุ บันทึกคำศพั ท์ประจำตัวของนักเรยี น โดยคัด ลายมอื ด้วยตวั บรรจงครง่ึ บรรทดั ๑๐ นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัดทกั ษะภาษา ชดุ ภาษาเพือ่ ชวี ิต หนา้ ๔๑ เปน็ การบา้ น สื่อและแหลง่ เรียนรู้ ๑. บทรอ้ ยกรอง ๒. บตั รคำศัพท์จากหนังสอื เรยี น ชุดภาษาเพอื่ ชีวิต วรรณคดลี ำนำ เรื่องน้ำผ้ึงหยดเดยี ว ชั้น ประถมศึกษาปีท่ี ๔ ๓. หนังสอื เรียน ชดุ ภาษาเพ่อื ชวี ิต วรรณคดีลำนำ เรอื่ งน้ำผง้ึ หยดเดียว ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ ๔. หนงั สือพจนานกุ รม การวดั ผลประเมนิ ผล วิธกี าร เครือ่ งมอื เกณฑ์ ๑. ประเมนิ การอ่านออกเสียง ๑.แบบประเมนิ การอา่ นออกเสยี ง ๑. เกณฑ์การประเมินการอา่ นออกเสียงและ และเขียนคำศัพท์ และเขียนคำศัพท์ เขียนคำศพั ท์ ๒.เขียนคำศัพท์บันทึกลงสมดุ ๒.เกณฑ์การประเมินผลงาน ๒. เกณฑก์ ารประเมนิ ผลงานนกั เรยี น คำศัพท์ นกั เรียน สมุดบนั ทกึ คำศพั ท์ ช่ัวโมงที่ ๒ การอา่ นจบั ใจความ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อา่ นออกเสียงคำทม่ี พี ยญั ชนะควบกล้ำได้ถูกต้องตามอักขรวธิ ีและบอกความหมายของคำได้อา่ น ๒. จับใจความของเรอื่ ง ได้ถกู ตอ้ ง ๓. สรปุ ขอ้ คิดและการนำข้อคดิ ไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั จากเรือ่ งทอ่ี ่านได้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั นำ ๑. สนทนาเรอ่ื งรูปภาพในบทเรียนเรือ่ ง นำ้ ผึ้งหยดเดยี ว โดยครูชว่ ยถามนำเพื่อกระตนุ้ ให้นกั เรยี น ร่วมกนั ตอบปากเปล่าตามความเข้าใจและความนึกคดิ ของนกั เรียน ขนั้ สอน

๖ ๒. นกั เรียนอา่ นบทเรยี น เรือ่ ง “นำ้ ผ้งึ หยดเดยี วกอ่ เหตุ” เป็นรายบุคคล ๓. นักเรยี นแบง่ กลมุ่ ตามความเหมาะสม ให้แต่ละกลมุ่ ทำกิจกรรมฝึกตัง้ คำถามจากเร่อื งทีอ่ ่าน - นักเรียนตั้งคำถามจากเรอ่ื งทีอ่ า่ นใหไ้ ด้มากที่สุด เพื่อเตรียมถามกลุม่ อ่ืน - นักเรียนร่วมกนั เขยี นคำถามลงในแถบประโยค แต่ละกลุม่ จะชว่ ยกันตอบคำถามของกลมุ่ เพอื่ นโดยนำแถบคำตอบไปติดตอ่ จากคำถามน้ันๆ แลว้ อ่านประโยคคำถามและคำตอบพรอ้ มกนั ทงั้ หมดอีกครง้ั ๔. นักเรยี นแตล่ ะคนเลอื กตัง้ คำถาม ตอบคำถามลงในสมุด คนละ ๕ ขอ้ ๕. สุม่ นักเรยี น ๒ – ๓ คน นำเสนอผลงานการตัง้ คำถาม ตอบคำถาม ท่ีทำลงในสมุด ๖. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มผลัดกันตง้ั คำถามใหเ้ พอื่ นกลมุ่ อนื่ ตอบจากเรอ่ื งนำ้ ผ้ึงหยดเดียว กลมุ่ ละ ๓ – ๕ คำถาม จากนนั้ ให้แต่ละกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมาเล่าเรื่องยอ่ จากเร่ืองน้ำผงึ้ หยดเดียว ๗. นกั เรียนแต่ละกลุม่ ช่วยกนั จับใจความสำคัญจากเร่อื งน้ำผ้งึ หยดเดยี ว แลว้ เขียนเรอ่ื งย่อบันทกึ ลง สมดุ บนั ทกึ ของตนเอง ขัน้ สรุป ๘. นักเรยี นทำแบบฝึกหัดทกั ษะภาษา ชุดภาษาเพอื่ ชวี ติ หนา้ ๓๙ – ๔๐ เป็นการบา้ น ๙. ครแู ละนักเรียนช่วยกันสรุปบทเรียน โดยเขยี นสรปุ ขอ้ คิดและการนำไปใช้ในชีวติ ประจำวนั จากเร่ือง น้ำผ้งึ หยดเดยี ว ตามความคิดของตนเอง สอื่ และแหล่งเรียนรู้ ๑. หนงั สอื เรยี น ชุดภาษาเพื่อชวี ิต วรรณคดีลำนำ เร่อื งน้ำผึง้ หยดเดียว ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ ๒. หนงั สือเรยี น ชดุ ภาษาเพอื่ ชีวติ ภาษาพาที เรอ่ื งน้ำผึ้งหยดเดียว ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ ๓. แบบฝึกหดั ชุดภาษาเพอ่ื ชีวติ ทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ การวดั ผลประเมินผล วธิ กี าร เครื่องมือ เกณฑ์ ๑. การอ่านจับใจความ ๑. เกณฑ์การประเมนิ เกณฑ์การประเมินความสามารถในการอา่ นจบั ความสามารถในการอา่ นจับ ใจความ ใจความ ๑๓ – ๑๖ คะแนน หมายถึง ดี ๘ – ๑๒ คะแนน หมายถงึ พอใช้ ๑ – ๗ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง

๗ ชัว่ โมงที่ ๓ เขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื ง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. เขยี นแผนภาพโครงเร่อื งได้ ๒. มีมารยาทในการเขยี น กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นำ ๑. ครแู ละนักเรยี นช่วยกันทบทวนบทเรยี นโดยอา่ นบทรอ้ ยกรอง“น้ำผึ้งหยดเดียวก่อเหตุ” พรอ้ มกันทัง้ ชน้ั เรียน ๒. ครสู นทนาบทเรยี นโดยใหน้ กั เรยี นตอบคำถามเกีย่ วกบั เนื้อเรือ่ ง ขัน้ สอน ๓. ครนู ำเสนอแผนภมู ิแผนภาพโครงเรือ่ งบนกระดานดำ ใคร : ตัวละคร ทไ่ี หน : สถานที่ เมือ่ ไร : เวลาท่เี กิดเหตกุ ารณ์ เหตุการณ์ : เหตกุ ารณท์ ี่ ๑ เหตกุ ารณท์ ี่ ๒ เหตกุ ารณท์ ี่ ๓ เหตกุ ารณท์ ี่ ๔ เหตกุ ารณ์ที่ ๕ บทสรุป : ผลของเหตกุ ารณ์ ข้อคิด : สรปุ ขอ้ คิด ๔. นักเรียนอ่านบทเรยี นในใจ อกี ครงั้ เพ่ือจับใจความสำคัญของเร่อื งที่อา่ น ๕. นักเรียนและครูชว่ ยกันอภิปรายและตอบคำถามในแผนภาพโครงเรื่อง ว่า ใคร อะไร ที่ไหน เมอ่ื ไร มเี หตุการณ์อยา่ งไร ผลของเหตุการณเ์ ป็นอย่างบา้ ง และมีขอ้ คิดอยา่ งไร ๖. นักเรียนช่วยกนั เลา่ เร่ืองตามแผนภาพโครงเร่ืองบนกระดานดำ ครูคอยแกไ้ ข ปรบั ปรุง เพมิ่ เติม เมอื่ นักเรียนเลา่ เรื่องไม่ถกู ต้อง ข้ันสรปุ ๗. นกั เรียนและครชู ว่ ยกนั สรปุ บทเรยี นอกี ครง้ั หนงึ่ ๘. ใหน้ ักเรียนทำใบงานการเขียนแผนภาพโครงเรื่องจากนทิ าน เป็นการบ้าน สอ่ื การเรียนรู้ ๑. แผนภูมแิ ผนภาพโครงเร่ือง ๒. ใบงานการเขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื ง ๓. หนังสอื เรียน ชดุ ภาษาเพ่ือชีวติ วรรณคดีลำนำ เร่อื งน้ำผง้ึ หยดเดยี ว

การวดั และประเมินผล ๘ วิธีการ เคร่อื งมอื เกณฑ์ การเขยี นแผนภาพโครงเรือ่ ง ๑. เกณฑก์ ารประเมินการ เกณฑก์ ารประเมนิ การเขียนแผนภาพ โครงเร่ือง เขียนแผนภาพโครงเรือ่ ง ๑๐ – ๑๒ คะแนน หมายถงึ ดี ๖ – ๙ คะแนน หมายถึง พอใช้ ๑ – ๕ คะแนน หมายถึง ปรบั ปรงุ ช่ัวโมงที่ ๔ คำควบกล้ำ จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. บอกลักษณะและความหมายของคำควบกลำ้ ไดถ้ ูกต้อง ๒. อา่ น เขียนและใช้คำควบกล้ำไดถ้ กู ตอ้ ง กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั นำ ๑. นกั เรียนอ่านแผนภูมิการอา่ น ออกเสยี งคำควบกล้ำ พร้อมกัน ๓ ครง้ั คลมุ เครอื โปรดปราน คลอเคลยี ขวา้ งขวาง กราบกราน เคารพ ครบครัน ใครค่ รวญ ปราดเปรยี ว เกรงกลัว กลมเกลียว กว้างไกล ๒. สมุ่ ตัวแทนนักเรียน อา่ นออกเสียง จำนวน ๓ คน ครแู นะนำและออกเสียงเปน็ ตัวอยา่ ง แล้วให้ นกั เรยี นบอกวา่ คำเหลา่ น้ี เปน็ คำลกั ษณะใด ขนั้ สอน ๓. แบ่งนกั เรียนเป็นกลุ่ม ตามความเหมาะสม ปฏิบตั ิกจิ กรรม โดยเลือกประธานและเลขานกุ ารกลุม่ เพ่อื ศกึ ษาใบความรู้ โดยนกั เรียนแตล่ ะกล่มุ นง่ั ประจำกลุ่ม ทำกจิ กรรมตามใบงาน ตามเวลาท่กี ำหนด - ฝึกอ่านออกเสียงคำควบกลำ้ พร้อมกนั - นักเรียนร่วมกนั เขียนประโยคในแถบประโยค ให้ได้มากท่ีสุด ๔. นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ นำเสนอผลงานของกล่มุ ใหเ้ พอื่ นดพู ร้อมๆ กัน ๕. นักเรยี นอา่ นและสังเกตคำควบกล้ำจากหนังสอื เรียน ๖. นักเรยี นทำแบบฝกึ หดั จากหนงั สือแบบฝึกทกั ษะ หนา้ ๔๒ สง่ ครูเพอ่ื ตรวจผลงาน ขน้ั สรปุ ๗. นักเรยี นช่วยกันค้นควา้ คำจากหนงั สือพิมพ์นติ ยสารท่เี ป็นคำควบกลำ้ ใหม้ ากที่สดุ เพอื่ เปน็ สมดุ อา่ นประจำช้ันเรียน

๙ สอ่ื และแหล่งเรยี นรู้ ๑. แผนภูมกิ ารอา่ นคำควบกล้ำ ๒. ใบความรู้ เรอ่ื งคำควบกล้ำ ๓. แบบฝกึ หัด ชดุ ภาษาเพ่อื ชีวติ ทักษะภาษา การวดั ผลประเมนิ ผล วิธกี าร เคร่อื งมอื เกณฑ์ ๑. ประเมนิ การอา่ นออกเสียง ๑.แบบประเมนิ การอา่ นออกเสียง ๑. เกณฑ์การประเมินการอา่ นออกเสียงและ และเขยี นคำ และเขยี นคำ เขียนคำ ๑. ๑๔ - ๑๘ ระดับคุณภาพ ดี ๘ – ๑๒ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ๘ ระดับคณุ ภาพ ปรับปรงุ ๒.เขียนคำควบกลำ้ บนั ทกึ ลง ๒.เกณฑก์ ารประเมนิ ผลงาน ๒. ๑. เกณฑ์การประเมนิ ผลงานนักเรียน สมุดคำศพั ท์ นกั เรียน สมดุ บนั ทกึ คำควบกล้ำ ๑๔ - ๑๘ ระดับคุณภาพ ดี ๘ – ๑๒ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ๘ ระดับคณุ ภาพ ปรบั ปรุง ชว่ั โมงที่ ๕ มาตราตัวสะกด กม กง เกย เกอว จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. บอกหลกั เกณฑ์การสะกดคำในมาตรา กม กง เกย เกอว ได้ถูกต้อง ๒. บอกความหมายของคำในบรบิ ทตา่ งๆ ได้ถูกต้อง กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นำ ๑. ตวั แทนนักเรียนเขยี น คำว่า นำ้ ผ้ึงหยดเดยี ว บนกระดานดำ แลว้ สนทนาเร่ืองมาตราตวั สะกด โดย พจิ ารณาวา่ “น้ำผ้ึงหยดเดยี ว” สะกดอยา่ งไร ๒. นกั เรียนบอกชอ่ื ของตนเองว่าสะกดดว้ ยมาตราตวั สะกดใดบ้าง ครอู ธิบายเพ่ิมเตมิ ขั้นสอน ๓. แบ่งนักเรยี นเปน็ กล่มุ ตามความเหมาะสม ปฏิบตั กิ จิ กรรม โดยเลอื กประธานและเลขานุการกลุ่ม เพือ่ ศกึ ษาใบความรู้ ๔. นกั เรยี นแต่ละกลุ่ม น่ังประจำกลมุ่ ทำกจิ กรรมตามใบงาน ตามเวลาทีก่ ำหนด - อ่านออกเสยี งคำในมาตรา กม กง เกย เกอว พรอ้ มกัน - นักเรียนรว่ มกนั เขยี นประโยคในแถบประโยค ใหไ้ ด้มากทส่ี ุด ๕. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอผลงานของกลุ่มให้เพอื่ นฟังพรอ้ มๆ กนั ๖. นักเรียนทุกคนเขยี นคำทส่ี ะกดในมาตรา กม กง เกย เกอว ลงในสมดุ มาตราตัวสะกด ขน้ั สรุป

๑๐ ๗. ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกันสรปุ หลักเกณฑก์ ารสะกดคำในมาตรา กม กง เกย เกอว ส่อื และแหลง่ เรยี นรู้ ๑. บัตรคำศพั ท์ จากเรอ่ื งน้ำผ้ึงหยดเดียว ๒. ใบความรู้ เรอ่ื งมาตราตัวสะกด กม กง เกย เกอว ๓. หนังสอื เรยี น วรรณคดีลำนำ การวดั ผลประเมนิ ผล วิธีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์ ๑. ประเมินการอ่านออกเสยี ง ๑.แบบประเมินการอ่านออกเสียง ๑. เกณฑก์ ารประเมินการอา่ นออกเสยี งและ และเขียนคำ และเขียนคำ เขียนคำ ๒. ๑๔ - ๑๘ ระดบั คุณภาพ ดี ๘ – ๑๒ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ๘ ระดบั คณุ ภาพ ปรบั ปรุง ๒.เขียนคำบนั ทกึ ลงสมุด ๒.เกณฑ์การประเมินผลงาน ๒. ๑. เกณฑ์การประเมนิ ผลงานนกั เรยี น คำศพั ท์ นกั เรียน สมุดบันทึกคำ ๑๔ - ๑๘ ระดบั คุณภาพ ดี ๘ – ๑๒ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ๘ ระดบั คณุ ภาพ ปรบั ปรงุ ชว่ั โมงที่ ๖ นิทานคตธิ รรม วัตถุประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. สรปุ ข้อคิดนิทานคตธิ รรมได้ ๒. มีมารยาทในการฟัง ดู พดู กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ ๑. ครเู ล่านทิ านคตธิ รรม ใหน้ ักเรยี นฟงั และให้นกั เรยี นแสดงความคดิ เหน็ ว่ามขี อ้ คดิ ใดบ้าง ๒. ตวั แทนนักเรียนเล่านทิ านที่ชอบและให้เพอ่ื นๆ แสดงความคดิ เหน็ ครูอธิบายเพม่ิ เติม ถึงคณุ ธรรม และข้อคิดท่ีสามารถนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวันได้ ขั้นสอน ๓. นกั เรยี นร่วมกับครสู นทนากันถึงความหมายของคำว่า “นทิ าน” และ“ คตธิ รรม” ครตู ัง้ คำถาม เกีย่ วกบั ความหมายของนิทานและคตธิ รรมใหน้ ักเรยี นช่วยกันอธบิ ายอย่างอสิ ระ จากน้ันครูอธบิ ายเพม่ิ เตมิ ๔. แบ่งกลมุ่ นกั เรียน ตามความเหมาะสม แตล่ ะกลมุ่ แต่งต้ังประธานกล่มุ เลขานกุ ารกลมุ่ สมาชกิ ในกลุ่มทุกคนชว่ ยกันทำใบงานวเิ คราะห์และสรปุ ความจากนิทาน แตล่ ะกลุม่ สง่ ตัวแทนนำเสนอผลงาน หน้าชั้นเรียน เมอื่ เสนอครบทกุ กลุ่มแล้ว ครชู ้แี นะ ให้ขอ้ คดิ และอธิบายเพม่ิ เติม ๕. นักเรียนเลือกนทิ านคติธรรมทช่ี อบ สรปุ ข้อคดิ และสรปุ เร่ือง เพ่อื เตรยี มนำเสนอหน้าชนั้ เรียนแล้ว เตรยี มตัง้ คำถามจากเรอื่ งใหก้ ลุ่มอื่นตอบ กลมุ่ ละ ๓ คำถาม

๑๑ ขั้นสรปุ ๖. นักเรียนชว่ ยกนั รวบรวมนทิ านคตธิ รรม เพ่อื รวมเล่มเป็นหนงั สอื นิทานคติธรรมประจำห้องเรียน ๗. นักเรียนทกุ คนทำแบบทดสอบหลังเรียน ส่ือการเรยี นรู้ ๑. หนงั สือนทิ านอสี บ ๒. หนงั สอื และสอื่ สง่ิ พิมพท์ ่ัวไป ๓. ใบความรู้ การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรอง ๔. หนงั สอื เรียน ชดุ ภาษาเพือ่ ชวี ิต วรรณคดีลำนำ การวดั ผลประเมินผล วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ ๑.ตรวจผลงานการ สรุปเรอื่ งและขอ้ คิด ๑.แบบประเมนิ ผล ๑.เกณฑก์ ารประเมินการเขียนบันทึกความรู้ จากเร่อื ง งานการเขียนบนั ทึก ๘ – ๑๐ คะแนน หมายถงึ ดี ๒.การสังเกตความ สนใจในการเรียน ความรู้ ๕ – ๗ คะแนน หมายถึง พอใช้ ๑ – ๔ คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง ๒.แบบสงั เกต ๒.เกณฑก์ ารสังเกตพฤตกิ รรมความสนใจ พฤติกรรมความสนใจ ปฏบิ ตั ไิ ด้ ๕ – ๗ รายการผลการประเมินอยูใ่ นระดับ ดี ในการเรียน ปฏบิ ัติได้ ๓ – ๔ รายการผลการประเมินอยูใ่ นระดับ พอใช้ ปฏิบตั ไิ ด้ ๐ – ๒ รายการ ผลการประเมนิ ควรปรบั ปรุง

๑๒ ภาคผนวก

๑๓ หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๕ เรือ่ ง นำ้ ผึง้ หยดเดียว กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ ชั่วโมงท่ี ๑ การศึกษาคำศพั ท์ แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยที่ ๕ น้ำผง้ึ หยดเดยี ว คำชแ้ี จง เขียนเครือ่ งหมาย × ทบั อกั ษรหนา้ คำตอบที่ถูกตอ้ งท่ีสุด อา่ นพระบรมราโชวาทแลว้ ตอบคำถามข้อ ๑ แกส๊ เปน็ สงิ่ ไวไฟ ต้องตงั้ ในทมี่ อี ากาศถา่ ยเทได้สะดวก และตงั้ ห่างจากเตาประมาณ ๑ – ๒ เมตร ก่อนจดุ ไฟทุคร้งั ตอ้ งดวู าล์วใหอ้ ยใู่ นตำแหนง่ ที่ปิดทกุ คร้งั จดุ ไฟแลว้ จึงเปิดวาลว์ และเปิดสวติ ซ์หวั เตาแก๊ส เมือ่ เลกิ ใช้เตาแก๊สใหป้ ิดวาล์วถังแกส็ ปดิ สวทิ ซห์ วั เตาอีกครง้ั เม่ือไฟดับสนทิ ๑. จากขอ้ ความ ขอ้ ใดเปน็ สงิ่ ทีน่ ักเรยี นควรปฏิบัติ ๑. เปดิ วาล์วถงั แก๊สเตรยี มไว้ก่อนจดุ ไฟ ๒. เปดิ วาล์วถังแก๊สและหวั เตาแกส๊ เตรยี มไว้ ๓. จุดไฟก่อนเปดิ วาลว์ และเปิดสวติ ซ์หัวเตาแก๊ส ๔. ต้งั เตาแกส๊ ในท่มี ลี มผา่ นนอ้ ยกันไฟลกุ โหมแรงเกนิ ไป อ่านข้อความแล้วตอบคำถามขอ้ ๒ – ๓ คณุ ยายชอบอยู่เงยี บๆ ตามลำพงั เพราะต้องการสวดมนตภ์ าวนา ในพ้นื ท่ที ม่ี อี ากาศร่มรื่น เย็นสบายอากาศถา่ ยเทได้สะดวก ท่านจึงใหห้ ลานสาวพาไปน่งั ในสวนหลังบา้ น ซ่งึ มบี ้านหลงั เล็กๆ กะทัดรดั ทุกวัน หลงั จากพกั ผ่อน สวดมนต์เสรจ็ จึงกลับบ้านก่อนเวลา ทานอาหารเย็น ๒. จากขอ้ ความ ข้อใดกลา่ วถูกต้อง ๑. คณุ ยายสวดมนต์ตอนเช้าตรู่ ๒. คณุ ยายรับจ้างเฝ้าสวนผลไม้ ๓. คุณยายสวดมนตเ์ ยน็ ทกุ วัน ๔. คุณยายอยตู่ ามลำพงั ๓. จากข้อความข้างตน้ บา้ นของคุณยายอยู่ท่ีใด ๑. บา้ นพักคนชรา ๒. บา้ นพักตากอากาศ ๓. คอนโดในเมืองใหญ่ ๔. ชนบทใกลส้ วนผลไม้

๑๔ ๑. แตต่ วั ของเราก็ตัวเลก็ กระจิรดิ ๒. เราควรคดิ ใหมห่ ันมาดูแลโลกของเราเถอะ ๓. ไมน่ ่าเชอ่ื ว่าพวกเราจะทำสิ่งปฏิกูลได้มากขนาดน้ี ๔. โลกเรากวา้ งใหญ่ไพศาลเหลอื เกิน ๔. จากขอ้ ความทก่ี ำหนด ข้อใดนำมาเรียงเปน็ ข้อความท่สี ื่อสารไดเ้ หมาะสม ๑. ๑ ๒ ๓ ๔ ๒. ๔ ๑ ๓ ๒ ๓. ๒ ๓ ๑ ๔ ๔. ๓ ๔ ๑ ๒ ๕. ขอ้ ใดอา่ นออกเสยี งไม่ถูกต้อง ๑. ชลุ มุน อา่ นวา่ ชุน – ละ – มุน ๒. พิศวง อา่ นวา่ พดิ – สะ – วง ๓. สภุ าษติ อา่ นวา่ สุ – พา -สดิ ๔. ฉกรรจ์ อา่ นวา่ ฉะ – กัน ๖. ขอ้ ใดให้ความหมายของคำศพั ทไ์ ม่ถูกตอ้ ง ๑. ทิฐิ = ไม่ยอมบอกความจริงกบั ใคร ๒. ตำนาน = เรื่องเลา่ สบื ตอ่ กันมาช้านาน ๓. ชันสตู ร = ตรวจสอบหาสาเหตุ ๔. ฉุกเฉยี ว = โกรธทนั ทที นั ควัน ๗. ข้อใดไม่มีคำสะกดมาตราแมก่ ม และ มาตราแมเ่ กอว ๑. นอ้ งแมวชอบกินขนมเค้ก ๒. ลงุ ชมทาสบี า้ นพกั เปน็ สเี ขยี ว ๓. ก้อยและตม้ั ชอบเลน่ กฬี ากลางแจ้ง ๔. วนั นีห้ นูแววไปเล่นนำ้ อยา่ งมีความสขุ “เธอต้องสง่ รายงานวชิ าภาษาไทยก่อนสอบปลายภาค” ๘. จากประโยคขา้ งตน้ มีคำสะกดมาตราแมก่ ง และ มาตราแม่เกย อย่างละกี่คำ ๑. มาตราแม่กง ๒ คำ มาตราแม่เกย ๒ คำ ๒. มาตราแมก่ ง ๒ คำ มาตราแม่เกย ๓ คำ ๓. มาตราแม่กง ๓ คำ มาตราแมเ่ กย ๒ คำ ๔. มาตราแมก่ ง ๓ คำ มาตราแมเ่ กย ๓ คำ

๑๕ “คมุ้ เต็มพิกดั ด้วยบัตรเครดิตเทสโก้ โลตัส วซี า่ รับบตั รเครดิตเงนิ คืน หรือพักฟรี พร้อมลุ้นบินฟรี ๑ เม.ย. – ๓๐ ม.ิ ย. ๕๘” ๙. ข้อความนจี้ ัดเป็นขอ้ ความประเภทใด ๑. ประกาศ ๒. บทความ ๓. คำช้แี จง ๔. โฆษณา ๑๐. ขอ้ ใดไม่เหมาะสมทจ่ี ะใชเ้ ป็นคำโฆษณา ๑. ท่องเทยี่ วทัว่ ไทยไปกบั สายการบินนาโต้ ๒. อาหารปลอดสารพษิ ทำให้ชวี ิตปลอดภยั ๓. ความสขุ ของมวลมนษุ ย์คือหน้าทีข่ องเรา ฉลามบกุ ๔. ผลติ ภัณฑจ์ ากธรรมชาติ มีคุณค่า นา่ ล้ิมลอง นำ้ นมขา้ วชาวไทย

๑๖ ชัว่ โมงที่ ๒ การอา่ นจับใจความ เกณฑก์ ารประเมนิ ความสามารถในการอา่ นจบั ใจความ ประเดน็ การประเมิน ดี (๓) เกณฑ์การใหค้ ะแนน ปานกลาง(๑) ตอบคำถามถกู ต้องทุกขอ้ ๑. ตอบคำถามจาก พอใช้(๒) ตอบผดิ มากกวา่ ๓ ข้อใน เร่อื งท่อี ่าน ๕ ข้อ ตอบคำถามผดิ ไมเ่ กนิ ๓ ข้อ ใน ๕ ขอ้ ๒. บอกความสำคัญ บอกเนื้อหาสาระถกู ตอ้ งได้ บอกเน้อื หาสาระถกู ต้อง บอกเนอื้ หาสาระได้บ้าง ของเรอื่ งที่อา่ น ใจความตอ่ เนอ่ื ง ได้แต่วกวน ๓. บอกขอ้ คิดจาก บอกข้อคิดไดต้ รงประเดน็ บอกข้อคดิ ไดต้ รงประเด็น บอกขอ้ คิดไดบ้ า้ งแต่ เร่ืองทอ่ี า่ น สมบูรณ์ แต่ไมต่ อ่ เน่อื ง วกวน ๔. แสดงความคิดเหน็ เสนอความคิดเห็นด้วย เสนอความคิดเหน็ ได้ เสนอความคิดเหน็ แตไ่ ม่ จากเร่อื งที่อา่ น เหตุผลและเป็นประโยชน์ อยา่ งมีเหตุผล แสดงเหตุผล เกณฑ์การประเมิน หมายถึง ดี ๑๓ – ๑๖ คะแนน หมายถงึ พอใช้ หมายถงึ ปรบั ปรงุ ๘ – ๑๒ คะแนน ๑ – ๗ คะแนน

๑๗ ชัว่ โมงท่ี ๓ เขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง คำชแี้ จง ใบงาน อา่ นวเิ คราะห์นทิ านและเขยี นแผนภาพโครงเร่อื ง อ่านนิทานแลว้ ทำกจิ กรรมตามกำหนด นานมาแล้วมเี ศรษฐีคนหนึง่ มลี ูกชายเปน็ คนไมร่ ักดี ได้แตใ่ ชจ้ ่ายทรัพย์ เท่ียว กิน เล่น เล้ยี ง เพือ่ นฝงู ไม่นกึ ทำมาหากนิ พ่อแมจ่ ะว่ากล่าวตกั เตือนอยา่ งไรกไ็ มเ่ ชอ่ื ฟงั ในท่สี ดุ เศรษฐีกต็ รอมใจ ตาย แต่กอ่ นตายไดเ้ อาเงินกบั ทองใสต่ ุ่มอย่างละตุ่มฝงั ไว้ และด้วยความดีทไี่ ดก้ ระทำมาสง่ ผลใหเ้ ศรษฐี ไปเกิดเป็นเทวดา ฝา่ ยลูกเศรษฐีเม่อื พ่อแมต่ ายแล้วกย็ ง่ิ กำเรบิ ใช้เงนิ เล้ียงเพื่อน เทย่ี วเตรเ่ สเพล ไมน่ านเงินกห็ มด เพอ่ื น ฝูงทีเ่ คยลอ้ มหน้าลอ้ มหลงั ก็หายหน้าไปทลี ะคน อยมู่ าวันหนง่ึ เพ่อื นชวนไปกินเลีย้ งกนั ตามเคย โดยสั่ง ลกู เศรษฐีตกยากวา่ ถา้ คดิ จะไปกินเลี้ยง ก็ใหเ้ อาไก่ไปร่วมในการกินเล้ียงดว้ ยหนงึ่ ตวั ลูกเศรษฐีอยากกิน เลย้ี งมาก ถงึ แมจ้ ะไมม่ ีเงินแล้ว กย็ ังขวนขวายหาไก่ ได้ตวั หน่ึง จึงจดั การลวกนำ้ รอ้ นถอนขน แลว้ ผูกหอ่ ใบตองเตรียมท่ีจะไปร่วมงานกนิ เลย้ี งครัน้ เดินมาตามทาง เพราะความเหนื่อยจงึ แวะพกั ใต้ต้นไมข้ ้าง ทางแล้วมอ่ ยหลบั ไป บังเอญิ มอี ีกาตวั หน่ึงเกาะอยบู่ นต้นไม้นนั้ ได้กลน่ิ เน้อื โชยมา จึงบินโฉบลงมาคาบ ห่อใบตองไปเขาจงึ ตอ้ งไปงานกนิ เลยี้ งมือเปล่า กา...กา... พอถึงบ้านเพอื่ นทนี่ ดั กนิ เลีย้ งก็เลา่ ให้เพอื่ นฟัง แต่ไมม่ ใี ครเชอื่ ในคำพูดของเขาเลยตา่ งคิดว่าเขา คงไม่มีปัญญาหาไก่มา จึงกุเร่อื งแก้เกอ้ แถมยังพดู จาเยาะเยย้ ถากถางวา่ ไมม่ ีปญั ญาหาไกม่ า แล้วยังไป โทษอกี าอกี ลูกเศรษฐีทั้งเจบ็ ทัง้ อายตัดสนิ ใจไมร่ ่วมวงกนิ เลีย้ งด้วย รบี เดินทางกลับบา้ น เม่ือถงึ บา้ น แล้วก็ยงั น้อยใจไม่หาย นกึ ถึงความหลังทต่ี นมัง่ มีเงนิ ทอง ผคู้ นลอ้ มหนา้ ลอ้ มหลัง เสียใจ กินไม่ได้ นอน ไม่หลับ รา่ งกายกผ็ ่ายผอมลง ฝา่ ยเทวดาพ่อแม่เห็นอาการของลกู กอ็ ดสงสารเสยี มไิ ด้ จงึ มาเขา้ ฝันลูกวา่ \"น่ันแหละลกู เอย๋ เมื่อพอ่ แม่ยงั อยู่ก็ไดส้ อนเจา้ นกั หนาเร่ืองการใชเ้ งินทอง เมื่อยามลำบากยากจน ใครเขาจะมานับ ถอื พดู จริงกเ็ ป็นหลอกไปได้ ขอใหเ้ จา้ ร้สู ึกตัวและทำตวั เสยี ใหม่ พ่อแม่จะชว่ ย\" ในฝนั นนั้ เองลูกเศรษฐกี ็คดิ ได้ จงึ สัญญากับพอ่ แม่วา่ ต่อไปจะเลิกความประพฤติเดิม จะตงั้ ใจทำมาหากนิ เลยี้ งตวั ใหม้ ีเงินพอ จะไม่ใหใ้ ครมาดูถกู ไดอ้ ีกต่อไป เมือ่ เทวดาพ่อแม่ได้รับคำสัญญาจากลกู เชน่ นน้ั ก็ พอใจย่ิงนกั เมื่อลูกสัญญาว่าจะกลบั ตวั เป็นคนดีจึงได้บอกท่ซี อ่ นต่มุ เงินและตมุ่ ทองใหใ้ นฝนั น้ันเอง พอ ต่นื ข้ึนมาลูกเศรษฐกี ็รบี ไปขดุ หาตมุ่ เงินตุ่มทอง ก็พบจรงิ ตามฝัน จงึ นำเงนิ ในตุม่ มาทำทุนตัง้ หนา้ ตง้ั ตา ทำมาหากนิ ไม่นานก็กลบั ฟื้นตวั พอมฐี านะขึ้นอกี เพื่อนที่เคยหนีหาย ก็เร่มิ กลบั มาคบหาเพ่มิ ขึ้นทุกวนั ลกู เศรษฐยี งั จำวนั ท่ีเพอื่ นฝงู เยาะเย้ยได้ไมล่ ืม วันหน่งึ ลูกเศรษฐเี หน็ ได้โอกาส จงึ ชวนเพอื่ นมากินเลี้ยง กันอกี เหมือนเม่ือยังรำ่ รวยหนกอ่ น เพอ่ื นฝงู ตา่ งก็มากันพร้อมหน้าพร้อมตา

๑๘ ขณะที่กินเลย้ี งอยา่ งครกึ ครน้ื เฮฮาอย่นู ้นั ลกู เศรษฐีได้นำมีดเห้ยี นๆ เล่มหน่งึ มาให้เพอื่ นดูพลาง พูดขึน้ วา่ \" อัศจรรยจ์ รงิ ๆ มดี เล่มน้ีเพ่ิงซือ้ มาใหม่ๆ แท้ๆ ท้งิ ไวค้ ืนเดียวหนมู ากัดเสียจนเห้ยี นหมดเหลือ เท่านเี้ อง \" เพอ่ื นฝงู ทง้ั หลาย เม่ือได้ยินกร็ ับคำเชอื่ ตามคำพูด บางคนก็ประสมโรงพดู ว่า \" จริงเหมอื นเพอ่ื นวา่ หนมู ันร้าย นกั มดี ของเราก็เคยโดนเหมอื นกนั เหยี้ นเหมอื นอย่างนี้ไม่มีผดิ \" เพ่ือนคนอนื่ กพ็ ดู วา่ \" ใชๆ่ \" คนละคำสองคำ เช่ือๆๆๆๆๆๆๆๆๆ นห่ี นูมันกดั ลูกเศรษฐีเมอ่ื ไดย้ ิน ดงั น้ัน ก็คิดไดว้ ่า \" ยามเมื่อเรายากจนคนดถู ูก ถอ้ ยคำทีพ่ ูดไมม่ ีน้ำหนกั ถึงพดู ความจริงก็ยงั ไม่มี คนเช่อื แตเ่ ม่อื ยามมั่งมเี งินทอง จะพูดอยา่ งไรจริงหรอื เทจ็ ไม่สำคญั คนยอ่ มยอมรบั เชื่อถอื \" ยามม่ังมี มากมาย มิตรหมายมอง ยามมัวหมอง มิตรมอง เหมอื นหมหู มา ยามไมม่ ี มิตรเมนิ ไมม่ องมา ยามมอดมว้ ย หมูหมา ไมม่ ามอง

๑๙ อ่านนทิ านแลว้ ตอบคำถาม ๑. นทิ านเร่อื งน้คี วรตงั้ ขอื่ เรอ่ื งวา่ อยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. นทิ านเรอ่ื งน้ีกลา่ วถงึ เรอ่ื งใด …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. ๓. นทิ านเร่อื งนี้มีขอ้ คดิ อย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

๒๐ อา่ นนิทานแล้วเขยี นแผนภาพโครงเรือ่ ง เรือ่ ง………………………………………………………………………………………………………… ใคร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… สถานที่ .................................................................................................................................................................. เหตกุ ารณ์............................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ผลของเหตุการณ์................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อคดิ จากเรอ่ื ง....................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .

๒๑ เกณฑ์การประเมินการเขียนแผนภาพโครงเรื่อง ประเดน็ การ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ประเมิน ๓ ๒๑ ๑.ประเดน็ หัวข้อ การเขียนแผนภาพ เขยี นแผนภาพโดยแยกประเดน็ เขียนแผนภาพได้แต่ ชดั เจน โดยแยกประเดน็ หัวข้อ หัวขอ้ ชดั เจนมรี ายละเอยี ด รายละเอียดต่าง ๆ ปะปน ชดั เจนมรี ายละเอียดของแตล่ ะ ของแต่ละประเดน็ พอสมควร กนั ไมเ่ รยี งลำดบั หัวข้อ ไม่มี ประเด็นครบถ้วน รูปแบบ รูปแบบ และใช้คำเขา้ ใจงา่ ย หัวข้อ และการใช้คำเข้าใจงา่ ย ๒.ความสอดคลอ้ ง เน้ือเร่อื งแสดงถงึ ความเปน็ เหตุ เนื้อเรอื่ งแสดงถึงความเป็นเหตุ เนอ้ื หาไมแ่ สดงถงึ ความเป็น เปน็ เหตเุ ป็นผล เปน็ ผล สนับสนุนซ่งึ กนั และกัน เป็นผล สนับสนุนซึง่ กนั และกัน เหตเุ ป็นผลและไม่มีการ มีการยกตวั อย่างหรืออ้างอิง มีการยกตัวอย่างหรอื อา้ งองิ ยกตัวอยา่ งหรืออ้างอิง ประกอบได้สอดคล้อง ประกอบไดค้ อ่ นขา้ งสอดคล้อง ประกอบ ๓.ระบขุ ้อคดิ / สรุป บอกขอ้ คิด อธิบาย สรุป บอกขอ้ คิด อธิบายคณุ ค่า บอกขอ้ คดิ คุณค่า การนำไปใช้ คณุ ค่าของเรื่องทอ่ี า่ นได้ ของเรือ่ งท่ีอา่ นได้ถูกตอ้ ง เรอื่ งทีอ่ ่านได้ ในชวี ติ ถูกตอ้ งครบถว้ นสามารถนำไป ครบถ้วน ประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ติ ประจำวนั ได้ เกณฑก์ ารประเมนิ หมายถงึ ดี ๑๐ – ๑๒ คะแนน หมายถงึ พอใช้ ๖ – ๙ คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง ๑ – ๕ คะแนน

๒๒ ชั่วโมงท่ี ๔ คำควบกล้ำ ใบความรู้ เรอื่ ง คำควบกลำ้ คำควบกล้ำ หมายถงึ คำที่มพี ยญั ชนะ ๒ ตัวเขยี นเรียงติดกนั อยู่ตน้ พยางค์ และใช้สระเดียวกันโดย พยญั ชนะตัวหลงั เปน็ ร, ล หรือ ว เวลาอา่ นออกเสียงกล้ำเป็นพยางค์เดยี วกัน เสยี งวรรณยกุ ต์ของพยางคน์ น้ั จะผนั เปน็ ไปตามเสยี งพยญั ชนะตวั หน้า คำควบกลำ้ แบ่งออกเปน็ ๒ ประเภท ได้แก่ ๑. คำควบกล้ำแท้ ๒. คำควบกลำ้ ไมแ่ ท้ คำควบกล้ำแท้ เป็นคำทม่ี พี ยญั ชนะตัวหนา้ เป็น ก ข ค ต ป ผ พ และพยัญชนะตัวหลังเป็น ร ล ว ออกเสียงควบกลำ้ เช่น กวดั แกวง่ กลมเกลยี ว กวา้ งขวาง ขรขุ ระ ขวักไขว่ เคว้งคว้าง ครอบครัว ตรากตรำ ปรับปรุง พร้อมเพรยี ง พลาด พลัง้ ผลีผลาม คำควบกล้ำไมแ่ ท้ มอี ยู่ ๒ ประเภท ไดแ้ ก่ ๑. คำควบกลำ้ ไม่แท้ท่ีมีพยัญชนะตวั หน้าเป็น ซ ศ ส พยญั ชนะตัวหลังเปน็ ร ให้ออก เสยี งเฉพาะพยัญชนะ ตวั หน้า เช่น ไซร้ อ่านว่า ไซ้ ปราศรยั อ่านวา่ ปรา – ไส จริง อา่ นวา่ จงิ ๑. คำควบกล้ำไม่แท้ทม่ี ีพยญั ชนะตัวหน้าเป็น ท พยัญชนะตวั หลังเปน็ ร ใหอ้ อ เสยี ง ทร เปน็ ซ ทราย อา่ นวา่ ซาย ทราบ อา่ นว่า ซาบ ทรวง อ่านว่า ซวง ขอ้ ควรจำ ๑. คำควบกล้ำเวลาสะกดตอ้ งมีพยญั ชนะต้นสองตัว โดยจะ รวมอย่ใู นพยญั ชนะตน้ เช่น กราบ สะกดวา่ กรอ + อา + บอ อ่านว่า กราบ แปรง สะกดว่า ปรอ + แอ + งอ อ่านวา่ แปรง ๒. เมือ่ มีพยัญชนะตน้ สองตัวแลว้ แต่ตอ้ งไม่อา่ นออกเสยี ง อะ กึ่งเสียงทพ่ี ยญั ชนะต้น ถา้ ออกเสียงอะกง่ึ เสียงไมเ่ ป็นคำควบกลำ้ เช่น ตลาด สะกดวา่ ตล + อา + ด อา่ นว่า ตะ - หลาด ตลก สะกดว่า ตล + โอะ + ก อ่านวา่ ตะ - หลก ๓. ตอ้ งไม่ใช่คำท่ีมี ห นำ ถ้ามี ห นำไม่ถอื วา่ เป็นคำควบกล้ำ เชน่ หวาน สะกดว่า หว + อา + น อ่านว่า หวาน หลบ สะกดว่า หล + อะ + บ อ่านวา่ หลับ

๒๓ ใบงาน เร่ืองคำควบกลำ้ คำชีแ้ จง แยกประเภทของคำควบกลำ้ ในกรอบสีเ่ หลยี่ ม ใหถ้ กู ต้อง กลมเกลียว ศรทั ธา เกลอ่ื นกลาด ขรุขระ คลาคล้า เศร้าใจ อ่อนเพลยี ผลดั เปล่ียน สระบวั ไกวเปล เสริมสร้าง ทรพั ยส์ ิน ขวกั ไขว่ ทรุดโทรม พรวดพราด คาควบกล้า คาควบไม่แท้ ........................ ........................ ........................ ........................ ........................ ........................ ........................ ........................ ........................ ........................ ........................ ........................ ........................ ........................ ........................ ........................ ........................ ........................ ........................ ........................

๒๔ ใบงาน เรื่องคำควบกลำ้ คำช้แี จง เติมคำควบแท้ และคำควบไม่แท้ ลงในชอ่ งว่างใหไ้ ด้ใจความสมบรู ณ์ ตัวอยา่ ง ฉันชอบผลไมท้ ่มี รี ส........เปร้ยี ว........ ๑. สมชายเป็นคนขยนั อดทน เขาจึงร่ำรวยกลายเป็น........................ในบน้ั ปลาย ๒. สาย......................เสน้ นี้ หนกั ๔ บาท ๓. พนี่ ้องค่นู ้ชี า่ งรักใคร.่ ...............ดองกนั ดี ๔. เมือ่ ไปทะเล ฉันชอบก่อกอง.......................ใหเ้ ป็นปราสาทหลงั ใหญ่ ๕. ปอ๊ บกับปยุ๋ เปน็ พีน่ อ้ งทหี่ นา้ ตา........................กนั มาก ๖. เดก็ ๆเล่นกันอย่างสนกุ สานเพลิด...................... ๗. นุก๊ ร้องไห้คร่ำ.......................ไมย่ อมหยุด ๘. นกน้อยเกาะอยู่บนต้น...................หลายตัว ๙. ดาราสมยั นี้มีทรวด......................สวยงามน่ามอง ๑๐. ฉนั มอบตกุ๊ ตาหมีตัวใหญเ่ ป็น.......................วนั เกดิ ของพ่ีสาว

๒๕ ชัว่ โมงที่ ๕ มาตราตัวสะกด กม กง เกย เกอว ใบความรเู้ ร่อื ง มาตราตวั สะกดตรงตามมาตรา ตัวสะกด หมายถึง พยัญชนะที่ประกอบ อยทู่ า้ ย และ มเี สียงประสมเข้ากับสระ ทำให้เสียง ของคำแตกต่างกนั ตามตวั พยญั ชนะทีน่ ำมาประกอบ ตวั สะกดจำแนกไดเ้ ปน็ ๒ ประเภท ได้แก่ ๑. ตัวสะกดตรงมาตรา มอี ยู่ ๔ มาตรา คอื มาตรา กง กม เกย เกอว ๒. ตวั สะกดไมต่ รงมาตรา มีอยู่ ๔ มาตรา คือ มาตรา กก กด กบ กน มาตราตวั สะกดตรงตามมาตรา มาตรากง หมายถงึ คาท่ีใช้ ง เป็นตวั สะกดเพียงตวั เดียว ตัวอย่าง กางเกง ร้องเพลง แมงป่ อง มาตรากม หมายถึง คาทใ่ี ช้ ม เป็นตวั สะกดเพยี งตวั เดียว ตัวอย่าง ยิม้ แยม้ ด่ืมนม แกม้ นิ่ม มาตราเกย หมายถึง คาท่ใี ช้ ย เป็นตวั สะกดเพียงตวั เดียว ตวั อย่าง ฉุยฉาย รายจ่าย ร่ารวย มาตราเกอว หมายถงึ คาที่ใช้ ว เป็นตวั สะกดเพียงตวั เดียว ตวั อย่าง แมวขาว เก่ียวขา้ ว สีเขยี ว มาตราเกอว มาตราเกอว

ใบงานมาตราตวั สะกด ๒๖ ตรงตามมาตรา (แม่กง) คาส่ัง ให้นกั เรียนเตมิ คาในมาตราแมก่ ง ลงในช่องวา่ งให้ถกู ตอ้ ง ตัวอย่าง ...งวง... ชา้ ง ..............แสง ............. กงุ้ ............ แขง็ ............ มงุ้ ปรอง........... ..............เพลง แห้ง.......... ..............เทา้ แมง............ ว่งิ ........... งวง............ กาง............

๒๗ ใบงานมาตราตวั สะกด ตรงตามมาตรา (แมก่ ม) คำชแี้ จง นักเรียนนำคำที่กำหนดใหไ้ ปเตมิ ลงในช่องวา่ ง ด่ืมนม ออมสนิ ซ่อมแซม ซุม่ ซา่ ม หอ้ มล้อม ยมิ้ แย้ม น้ำหอม ชะลอม มะขาม กลว้ ยหอม โคมไฟ ตวั อย่าง นำ้ ฝนตวั สูงกว่าเพอ่ื นเพราะน้ำฝน...ดม่ื นม...มาก ๑. นกเปน็ คน.....................จึงมักมีบาดแผลตามร่างกาย ๒. ...........................เป็นผลไม้ท่มี คี ณุ ประโยชน์หลายอย่าง ๓. คณุ แม่.....................ต๊กุ ตาที่ขาดแลว้ ๔. ร้านของฝากเพชรบรุ ใี ช.้ .....................ใสข่ นมหลายอยา่ งดูแล้วสวยงาม ๕. นทั ต้องการเงินไปซอื้ ของเลน่ เขาจงึ ทบุ กระปกุ ........................ ๖. ฉนั ชอบกิน........................เพราะช่วยบำรงุ สายตาและทำให้ขับถ่ายง่าย ๗. คณุ ปู่เปน็ คนใจดจี ึงมกั มหี ลานๆไป.....................อยเู่ สมอ ๘. พส่ี าวชอบเปดิ ..................ไวก้ ่อนนอนเพราะเป็นคนกลวั ความมืด ๙. นานาเป็นคนรา่ เรงิ .....................แจ่มใสอยเู่ สมอ ๑๐. ดาราสาวใช้..................ย่หี อ้ ดังราคาแพง

๒๘ ใบงานมาตราตัวสะกด ตรงตามมาตรา (แม่เกย) คำชีแ้ จง นกั เรียนนำคำท่กี ำหนดให้ไปเติมลงในชอ่ งวา่ ง เฉาก๊วย ปลาสวาย สมยุ นิ้วก้อย พวงมาลยั รอ้ ยดา้ ย ปุยฝ้าย นอ้ ยหน่า มา้ ลาย คุ้ยเขี่ย กลว้ ย ตวั อยา่ ง เจ้าลิงชอบกนิ ....กลว้ ย... ๑. พวกเรายนื่ .......................ให้กันเวลาขอคืนดีกัน ๒. ...........................เป็นผลไมท้ ม่ี ีรสหวานอร่อย ๓. แมไ่ ก่สอนลูกเจ๊ยี บ.......................หาอาหาร ๔. เกาะ.....................เปน็ สถานทที่ อ่ งเท่ยี ว ท่อี ย่ทู างภาคใตข้ องประเทศไทย ๕. แกงป่า......................มรี สเผ็ดรอ้ น ๖. เมื่อเราจะข้ามถนน เราตอ้ งขา้ มทาง......................... ๗. .........................ชว่ ยดบั ร้อนและมีรสหวานชนื่ ใจ ๘. คุณยายวานใหฉ้ นั ช่วย....................ให้เพ่ือนำมาเยบ็ ผา้ เช็ดหน้า ๙. ขนม.......................มีลกั ษณะฟูน่ิม มีสีสนั อ่อนๆสวยงาม ๑๐. ออ้ มนำ........................มาไว้ขอพรคณุ แม่ในวนั แมแ่ ห่งชาติ

๒๙ ใบงานมาตราตัวสะกด ตรงตามมาตรา (แม่เกอว) คำช้ีแจง นกั เรียนนำคำท่กี ำหนดให้ไปเติมลงในช่องว่าง ว่าว เปร้ียว ค้างคาว ฤดูหนาว ถ่วั เขียว ดาวเรือง เกีย่ วข้าว ขา้ วเหนียว ก๋วยเต๋ยี ว ลูกแมว เทีย่ ว ตวั อยา่ ง พอ่ พาฉนั กบั น้องไป...เที่ยว...สวนสัตว์ ๑. .......................เป็นสตั ว์ท่ีออกหากินเวลากลางคืน ๒. แมแ่ มวคลอด......................สีขาว นา่ รกั ขนปุย ๓. เม่อื ถงึ ฤดกู าลเกบ็ เก่ยี วชาวนาก็จะไปชว่ ยกัน........................... ๔. นุ๊กชอบกิน......................เสน้ เล็กนำ้ ตกหมู ๕. คุณย่าชอบทำ..........................ตม้ น้ำตาลให้หลานๆกิน ๖. คนอสี านชอบรับประทาน........................กับสม้ ตำ ๗. .........................เปน็ ดอกไม้สเี หลอื งสดใส ๘. มะนาวมีรส........................ ๙. ฉนั มกั ปากแตกและผวิ แห้ง เมือ่ ถึง........................... ๑๐. คณุ ตากับหลานชว่ ยกันทำ.......................ปักเป้า

๓๐ ช่ัวโมงท่ี 6 นทิ านคติธรรม ใบงาน วิเคราะหแ์ ละสรปุ ความจากนิทาน คำชแ้ี จง อ่านนิทานและทำกิจกรรมต่อไปน้ี เร่อื ง กระต่ายต่ืนตูม กาลครงั้ หนง่ึ นานมาแล้ว มีกระต่ายอยตู่ วั หน่งึ อาศยั อย่ใู ตต้ ้นตาลใกล้ต้นมะตูมตน้ หนึ่ง อยมู่ าวนั หนง่ึ เจา้ กระตา่ ยออกเที่ยวหากนิ อ่มิ แลว้ กลบั มานอนพักผอ่ นอยทู่ ่ใี ตใ้ บตาลแหง้ กำลังนอนคิดเพลนิ ๆ อยู่ ว่า “ถา้ หากแผน่ ดนิ นถี้ ลม่ แล้วเราจะไปอย่ทู ่ไี หนหนอ” ทันใดนั้นเองผลมะตูมสุกลูกหน่ึงไดห้ ลดุ ออกจาก ต้นหล่นลงมาถูกใบตาลเสยี งดงั ล่ันเจา้ กระตา่ ยนึกว่าเปน็ เสียงแผ่นดนิ ถล่ม จงึ ร้องขนึ้ สดุ เสยี งวา่ “แผน่ ดนิ ถลม่ แล้ว ๆ ” พร้อมกับกระโดดวิ่งหนไี ปสดุ ชีวติ โดยไมเ่ หลยี วหลังมาดเู ลย กระตา่ ยตวั อนื่ ๆ เห็นมนั ว่ิงหนีอะไรซกั อย่างมาอย่างสดุ ชีวิต กระต่ายตัวอืน่ ๆจงึ ร้องถามมันว่า “เจ้าวิ่งหนอี ะไรมา” มนั ทั้งวง่ิ ทั้งร้องตอบวา่ “รบี หนเี รว็ แผ่นดินถล่มแล้ว ๆ” กระตา่ ยจำนวนนบั พนั ตา่ งก็ รบี ว่งิ หนีตายตามมันไปด้วย สัตว์ป่านานาชนดิ เมือ่ ทราบขา่ วน้ันเขา้ ต่างกว็ ิ่งหนตี ามกระตา่ ยตวั นั้นไป ฝูง สัตว์วงิ่ หนตี ามกันมาเปน็ ทวิ แถว ราชสีห์เห็นสัตว์นอ้ ยใหญ่วิ่งกันมาฝ่นุ ฟงุ้ กระจยุ กระจายไปทัว่ ป่า จงึ ร้อง ถามไปวา่ “พวกเจา้ ว่งิ หนอี ะไรกนั มา” ได้รับคำตอบวา่ “ท่านราชสีห์ แผ่นดนิ ท่ีโนน้ ถลม่ แลว้ พวกเราว่ิงหนี ตายกนั มา” แล้วก็วิ่งไปตอ่ บา่ ยหนา้ ไปทางหนา้ ผาสงู ชนั โดยไม่รูต้ วั ราชสีห์ดว้ ยความกรุณาในสัตว์ท้งั หลาย เกรงว่าจะตกเหวตายกนั เสียหมด จงึ วงิ่ ไปดกั ขา้ งหน้าพรอ้ มกบั คำรามดว้ ยเสยี งอนั ดงั ล่นั ขน้ึ ๓ ครัง้ สัตว์ ท้ังหลายพอไดย้ นิ เสียของราชสหี ์กพ็ ากนั ตกใจกลัว แล้วตน่ื จากภวงั ค์พร้อมกบั หยุดวิ่งลง ราชสหี ์จึงถามว่า “ใครเห็นแผ่นดินถล่มบ้าง” พวกสตั ว์บอกว่า “ช้างเหน็ ขอรบั ” ช้างบอกว่า “เสือ เห็น” เสือบอกวา่ “แรดเหน็ ” แรดบอกว่า “ควายเห็น” ควายบอกว่า “หมูปา่ เห็น” หมปู า่ บอกวา่ “กวาง เห็น” กวางบอกวา่ “กระต่ายเห็น” พวกกระต่าย จึงชีบ้ อกว่า “กระตา่ ยตัวนี้เห็นแผ่นดนิ ถล่มครบั ..นาย” ราชสหี จ์ งึ ถามกระต่ายตัวน้ันวา่ เปน็ จรงิ หรือเปล่า กระต่ายตอบว่า “ข้าพเจ้าเห็นจริง ๆ นายท่าน ขณะที่ ข้าพเจ้ากำลงั นอนพกั ผอ่ นอย่ใู ต้ใบตาลก็มีเสยี งดังสนั่นหวั่นไหวข้นึ ขา้ พเจ้าจึงวง่ิ หนีตายมานี่ละ.. นายท่าน ราชสีห์เพ่ือตรวจสอบข้อเทจ็ จริงดังกล่าวจงึ บอกให้สัตวท์ งั้ หลายรออยูก่ ่อน สว่ นตนและเจ้ากระตา่ ยได้เดนิ กลบั ไปดูสถานท่ีต้นเหตุ ตรวจดูเห็นผมมะตูมสุกลูกหนึง่ วางอยู่ก็เขา้ ใจไดท้ ันที จงึ กลับมาบอกสัตว์ทั้งหลาย วา่ “ทา่ นท้งั หลายพวกท่านเลิกกลวั ไดแ้ ล้ว เสยี งแผน่ ดนิ ถลม่ เปน็ เสยี งผลมะตมู สุกหล่นกระทบใบตาลแห่ง ดอก เลิกกลัวไดแ้ ล้ว” สัตว์ท้งั หลายอาศยั ราชสหี ์จึงเอาชีวิตรอดมาได้

๓๑ กจิ กรรมท่ี ๑ ตอบคำถามจากนทิ าน เรอ่ื ง กระต่ายตืน่ ตูม ๑. ตัวละครในเรือ่ งนม้ี ีใครบ้าง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. ทำไมกระต่าย จงึ ตอ้ งวงิ่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรียนคดิ วา่ เหตกุ ารณ์ของเร่อื งนีเ้ กิดขึน้ ทใ่ี ด ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ผลจากการกระทำของกระต่าย เปน็ อย่างไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. ทำไมฝูงสัตว์จึงพากันวิ่งตามกระต่าย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๖. นกั เรยี นคิดวา่ นทิ านเร่ืองนี้มีขอ้ คิดเตือนใจใจอยา่ งไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๗. สรปุ ใจความสำคัญ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๓๒ เกณฑ์การประเมินการเขยี นเร่ืองตามจินตนาการ ประเดน็ การ ๓ เกณฑก์ ารให้คะแนน ๑ ประเมนิ ๒ ๑.องค์ประกอบ เนือ้ หามีองคป์ ระกอบสำคญั เน้อื หาสาระขาด ๑ – ๒ ไม่มอี งค์ประกอบสำคัญ ครบถ้วน องค์ประกอบ ๒.แบบแผน เรียงลำดบั เรอื่ งราวท่แี สดง เรยี งลำดบั เร่ืองราวทแี่ สดง เรียงลำดับเรื่องราวไม่ ความคดิ ความสมั พนั ธ์เชื่อมโยงกัน ความสมั พันธ์เชอื่ มโยงกันอย่าง สมั พนั ธเ์ ชื่อมโยงกนั อย่างตอ่ เน่อื งชดั เจน ต่อเน่ือง คอ่ นข้างชดั เจน ๓.การนำเสนอ ใช้ถ้อยคำภาษาไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ใชถ้ อ้ ยคำภาษาอยา่ งถกู ตอ้ ง ไมใ่ ช้ถ้อยคำภาษาในการส่ือ เร่ือง ความหมาย สละสลวยร้อยรัดกลมกลืน สอ่ื สละสลวยรอ้ ยรัดกลมกลืน ส่ือ ความหมายได้ชดั เจนตลอด ความหมายได้ชดั เจนเป็นส่วน เร่ือง ใหญ่ ๔.ความคิด มีความคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ มีความคดิ ริเร่ิมสรา้ งสรรค์ ไม่มคี วามคิดรเิ รมิ่ สร้างสรรค์ รเิ รม่ิ สร้างสรรค์ แปลกใหม่ไม่ซำ้ ใคร คลา้ ยคลงึ กบั สิง่ ทม่ี ีอยู่ แปลกใหม่ ๕.มารยาท มีสมาธิ และมคี วามตั้งใจใน มีความตั้งใจ ไม่มคี วามตัง้ ใจ ในการเขยี น การเขียนอย่างสม่ำเสมอ ในการเขียนอย่างสม่ำเสมอ ไม่ ในการเขียน พดู คยุ เล่น ไม่พดู คยุ เล่น ระหวา่ งทำงาน พูด คยุ เล่น ระหวา่ งทำงาน ระหว่างทำงาน ผลงานความสะอาด สวยงาม ผลงานความสะอาด ไม่มรี อยลบ ตลอดเวลา ต้องคอยตกั เตือน ไม่มีรอยลบขีดฆา่ เสรจ็ ตาม ขดี ฆา่ เสร็จตามเวลาท่กี ำหนด ผลงานไมม่ รี อยลบขีดฆา่ เป็น เวลาทก่ี ำหนดผลงานเปน็ บางแห่ง เสร็จตามเวลาท่ี ตวั อย่างตอ่ ผอู้ ืน่ ได้ กำหนด เกณฑก์ ารประเมิน ๑๑ – ๑๕ คะแนน หมายถึง ดี ๖ – ๑๐ คะแนน หมายถงึ พอใช้ ๑ – ๕ คะแนน หมายถึง ปรับปรงุ

๓๓ แบบประเมนิ การอา่ นออกเสยี งและเขยี นคำ กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ โรงเรียน.................................... สำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษา........................................................ ภาคเรยี นท่ี............ปีการศกึ ษา..................วันท่ี…….........เดอื น.......................................พ.ศ.............................. คำช้แี จง ครูประเมินพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการอ่านออกเสียงและเขียนคำ ให้คะแนนลงในชอ่ งทต่ี รงกับ พฤตกิ รรมของนักเรยี น ความ ูถกต้องในการอ่าน สรุปผล ุคณ ัลกษณะ รวม การประเมนิ ( ีมความ ่ัมนใจในการใ ้ชภาษา ) เลขท่ี ชื่อ-สกุล การสะกดคำ ัศพ ์ท อธิบายความหมายของคำ ัศพ ์ท ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๒ ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ลงช่ือ............................................................ผปู้ ระเมนิ (.....................................................)

๓๔ เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบประเมนิ การอา่ นออกเสียงและเขียนคำศัพท์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๔ ประเดน็ การประเมิน ๓ เกณฑ์การให้คะแนน ๑.ความถกู ต้องในการอา่ น สามารถอ่านไดถ้ ูกตอ้ ง ๒๑ ท้งั หมด สามารถอ่านได้เกือบ พยายามอา่ นไดบ้ ้าง ถกู ต้องทัง้ หมด ผิดไม่ ผดิ มากกว่า 3 คำ เกิน 3 คำ ๒.คณุ ลักษณะ มีความม่ันใจในการอา่ น มีความมั่นใจในการอา่ น ขาดความมั่นใจใน (มีความมน่ั ใจในการอ่าน ) ดี มกี ารเตรยี มตวั มา พอใช้ เตรียมตวั มาอย่าง ตนเอง เตรียมตวั มา อยา่ งดี มน่ั ใจตนเอง ดี ยงั ประหมา่ บ้างแต่ไมม่ ากนกั ๓. การสะกดคำศพั ท์ การสะกด การสะกด สะกดคำผิดมาก คำศพั ท์ถูกต้อง คำศพั ท์ผิดเล็กน้อย ๑. อธบิ ายความหมายของ อธิบายความหมายได้ อธบิ ายความหมายได้ อธบิ ายความหมาย คำศพั ท์ ถูกต้องสมบรู ณ์ เกือบถกู ตอ้ ง ไม่ได้ เกณฑก์ ารประเมิน ๙ - ๑๒ ระดับคณุ ภาพ ดี ๕ - ๘ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ต่ำกวา่ ๕ ระดบั คุณภาพ ปรบั ปรงุ

๓๕ แบบสังเกตความสนใจและความตง้ั ใจในการทำกจิ กรรมของนกั เรยี น ชอ่ื นักเรยี น....................................................................ชนั้ ..................... กจิ กรรม......................................................................วันที่ ............................................... รายการ ปฏิบัติ ไม่ปฏบิ ตั ิ หมายเหตุ ๑. เร่ิมตน้ งานท่ไี ดร้ บั มอบหมายทันที ๒. ทำงานเสร็จเรียบร้อยตามเวลาทก่ี ำหนด ๓. ขอคำแนะนำจากครหู รือเพ่อื นเม่ือไมเ่ ขา้ ใจ ๔. ทำกจิ กรรมด้วยความสนุกสนานและเต็มใจ ๕. มสี ว่ นรว่ มในการทำกจิ กรรมอยา่ งสม่ำเสมอ ๖. ช่วยเหลือแนะนำเพอ่ื นในการทำกิจกรรมตามสมควร ๗. สนใจศึกษาหาความรเู้ พ่มิ เติมดว้ ยตนเอง รวม หมายเหตุ เกณฑก์ ารผา่ นการทำกิจกรรมจากแบบสังเกต ดังน้ี

๓๖ แบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยท่ี ๕ น้ำผง้ึ หยดเดยี ว คำชี้แจง เขยี นเครื่องหมาย × ทับอักษรหน้าคำตอบทีถ่ กู ต้องที่สุด อ่านพระบรมราโชวาทแล้วตอบคำถามข้อ ๑ แก๊สเป็นส่งิ ไวไฟ ตอ้ งตั้งในท่มี ีอากาศถา่ ยเทได้สะดวก และตง้ั หา่ งจากเตาประมาณ ๑ – ๒ เมตร ก่อนจดุ ไฟทคุ ร้ัง ตอ้ งดวู าล์วใหอ้ ย่ใู นตำแหน่งที่ปิดทกุ ครั้ง จุดไฟแลว้ จึงเปิดวาลว์ และเปิดสวติ ซห์ วั เตาแกส๊ เมือ่ เลกิ ใช้เตาแก๊สให้ปิดวาลว์ ถงั แกส็ ปดิ สวทิ ซห์ วั เตาอกี คร้ังเมอื่ ไฟดับสนทิ ๑. จากข้อความ ข้อใดเป็นสง่ิ ทีน่ กั เรียนควรปฏบิ ตั ิ ๑. เปิดวาล์วถงั แก๊สเตรยี มไวก้ ่อนจุดไฟ ๒. เปดิ วาล์วถงั แกส๊ และหวั เตาแก๊สเตรยี มไว้ ๓. จดุ ไฟกอ่ นเปิดวาล์วและเปิดสวติ ซ์หัวเตาแก๊ส ๔. ต้งั เตาแกส๊ ในทีม่ ีลมผ่านน้อยกันไฟลกุ โหมแรงเกินไป อ่านข้อความแล้วตอบคำถามขอ้ ๒ – ๓ คุณยายชอบอยู่เงยี บๆ ตามลำพัง เพราะตอ้ งการสวดมนต์ภาวนา ในพ้ืนทท่ี ี่มอี ากาศร่มรื่น เยน็ สบายอากาศถา่ ยเทได้สะดวก ท่านจงึ ใหห้ ลานสาวพาไปน่งั ในสวนหลังบ้าน ซงึ่ มบี า้ นหลงั เล็กๆ กะทดั รัด ทกุ วัน หลังจากพกั ผอ่ น สวดมนตเ์ สรจ็ จึงกลบั บ้านกอ่ นเวลา ทานอาหารเยน็ ๒. จากข้อความ ขอ้ ใดกล่าวถกู ต้อง ๑. คณุ ยายสวดมนต์เยน็ ทุกวัน ๒. คณุ ยายรบั จ้างเฝ้าสวนผลไม้ ๓. คณุ ยายสวดมนต์ตอนเชา้ ตรู่ ๔. คณุ ยายอย่ตู ามลำพงั ๓. จากขอ้ ความขา้ งต้น บ้านของคุณยายอยู่ที่ใด ๑. บา้ นพักคนชรา ๒. บา้ นพักตากอากาศ ๓. ชนบทใกลส้ วนผลไม้ ๔. คอนโดในเมอื งใหญ่

๓๗ ๑. แต่ตวั ของเรากต็ วั เลก็ กระจิรดิ ๒. เราควรคิดใหม่หันมาดูแลโลกของเราเถอะ ๓. ไม่นา่ เชื่อวา่ พวกเราจะทำส่งิ ปฏกิ ูลได้มากขนาดน้ี ๔. โลกเรากว้างใหญ่ไพศาลเหลอื เกิน ๔. จากข้อความทีก่ ำหนด ข้อใดนำมาเรยี งเป็นข้อความทส่ี อ่ื สารได้เหมาะสม ๑. ๑ ๒ ๓ ๔ ๒. ๒ ๓ ๑ ๔ ๓. ๔ ๑ ๓ ๒ ๔. ๓ ๔ ๑ ๒ ๕. ขอ้ ใดอ่านออกเสยี งไมถ่ กู ตอ้ ง ๑. ชลุ มุน อ่านว่า ชนุ – ละ – มนุ ๒. พศิ วงอ่านวา่ พดิ – สะ – วง ๓. สุภาษิต อ่านว่า สุ – พา -สิด ๔. ฉกรรจ์ อา่ นวา่ ฉะ – กนั ๖. ขอ้ ใดใหค้ วามหมายของคำศัพท์ไมถ่ ูกตอ้ ง ๑. ทิฐิ = ไม่ยอมบอกความจริงกับใคร ๒. ตำนาน = เร่อื งเล่าสืบตอ่ กนั มาชา้ นาน ๓. ชนั สตู ร = ตรวจสอบหาสาเหตุ ๔. ฉุกเฉยี ว = โกรธทนั ทีทันควัน ๗. ขอ้ ใดไม่มคี ำสะกดมาตราแม่กม และ มาตราแมเ่ กอว ๑. นอ้ งแมวชอบกินขนมเคก้ ๒. ลุงชมทาสบี ้านพกั เป็นสีเขียว ๓. กอ้ ยและตั้มชอบเลน่ กีฬากลางแจ้ง ๔. วนั น้ีหนูแววไปเลน่ น้ำอยา่ งมคี วามสขุ ๘. จากประโยคข้างต้น มีคำสะกดมาตราแม่กง และ มาตราแมเ่ กย อย่างละก่ีคำ ๑. มาตราแม่กง ๒ คำ มาตราแม่เกย ๒ คำ ๒. มาตราแม่กง ๓ คำ มาตราแม่เกย ๒ คำ ๓. มาตราแมก่ ง ๒ คำ มาตราแมเ่ กย ๓ คำ ๔. มาตราแมก่ ง ๓ คำ มาตราแมเ่ กย ๓ คำ ๙. ข้อความนจี้ ัดเป็นข้อความประเภทใด ๑. โฆษณา ๒. บทความ ๓. คำช้ีแจง ๔. ประกาศ ๑๐. ข้อใดไม่เหมาะสมทจ่ี ะใช้เปน็ คำโฆษณา ๑. ทอ่ งเทีย่ วทว่ั ไทยไปกับสายการบนิ นาโต้ ๒. อาหารปลอดสารพษิ ทำให้ชีวิตปลอดภยั ๓. ความสขุ ของมวลมนุษย์คอื หนา้ ที่ของเรา ฉลามบกุ ๔. ผลิตภัณฑจ์ ากธรรมชาติ มีคุณคา่ นา่ ล้มิ ลอง น้ำนมข้าวชาวไทย

๓๘ บนั ทึกผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 1) สรุปผลหลงั การจดั การเรียนรู้ 1. นกั เรยี นจำนวน..................คน ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้......................คน คิดเป็นร้อยละ.................. ไม่ผา่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้..................คน คิดเป็นร้อยละ.................. นักเรยี นนไี่ มผ่ ่าน มีดงั นี้ 1............................................. 2......................................................... 3............................................. 4......................................................... 1. แนวทางแก้ไขนักเรียนทไ่ี มผ่ า่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้................................................................... 2. นกั เรยี นมีความร้คู วามเข้าใจ (K).................................................................................................... 3. นักเรยี นมคี วามรเู้ กดิ ทักษะ (P)...................................................................................................... 4. นกั เรยี นมเี จตคติ ค่านยิ ม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A).......................................................................... 2) ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………… .3) ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………… . ลงชอื่ .................................................. (นางอรวรรณ ปานจำรูญ) ตำแหนง่ ครู ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรขู้ อง................................................................แลว้ มคี วามเห็น ดงั นี้ 1. เป็นแผนการจดั การเรียนรทู้ ี่  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง 2. การจดั กจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้  เน้นผู้เรยี นเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม  ยงั ไม่เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาตอ่ ไป 3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่  นำไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ ............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ .................................................. (นางสาวกันยาภทั ร ภัทรโสตถิ) ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนวดั พชื นมิ ิต (คำสวัสด์ิราษฎร์บำรุง)