Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 410_ภาษาไทย ป4 หน่วยที่1 ขนมไทยไร้เทียมทาน

410_ภาษาไทย ป4 หน่วยที่1 ขนมไทยไร้เทียมทาน

Published by krupom61, 2020-05-06 09:36:01

Description: 410_ภาษาไทย ป4 หน่วยที่1 ขนมไทยไร้เทียมทาน

Search

Read the Text Version

๑ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๑ เรื่อง ขนมไทยไร้เทยี มทาน กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท ๑๔๑๐๑ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๔ นางอรวรรณ ปานจำรญู ครผู ูส้ อน โรงเรยี นวดั พืชนมิ ติ (คำสวสั ด์ิราษฎรบ์ ำรุง) ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทมุ ธานี สำนกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต ๑

๒ หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑ เร่อื ง ขนมไทยไร้เทียมทาน กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย รายวิชา ภาษาไทย รหัสวชิ า ท ๑๔๑๐๑ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๔ เวลา 8 ชวั่ โมง ๑. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชว้ี ัด สาระที่ ๑ การอา่ น มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้ และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ัญหาในการดำเนนิ ชีวติ และมีนสิ ยั รักการอ่าน ตวั ช้วี ัด ป.๔/๑ อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกต้อง ป.๔/๒ อธบิ ายความหมายของคำ ประโยค และสำนวนจากเรอื่ งทอ่ี ่าน ป.๔/๓ อ่านเรอื่ งส้ันๆ ตามเวลาท่ีกำหนดและตอบคำถามจากเร่อื งทอ่ี า่ น ป.๔/๖ สรปุ ความรู้และขอ้ คดิ จากเรือ่ งทีอ่ ่านเพื่อนำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ป.๔/๘ มมี ารยาทในการอา่ น สาระที่ ๒ การเขยี น มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียน เรือ่ งราว ในรูปแบบต่างๆ เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ตัวชวี้ ัด ป.๔/๒ เขยี นสื่อสารโดยใช้คำได้ถกู ต้องชดั เจน และเหมาะสม ป.๔/๓ เขียนแผนภาพโครงเรอ่ื งและแผนภาพความคดิ เพอ่ื ใชพ้ ฒั นางานเขยี น ป.๔/๔ เขียนย่อความจากเร่ืองส้ัน ๆ ป.๔/๘ มีมารยาทในการเขียน สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการพดู มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดอู ย่างมีวจิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึกในโอกาสตา่ งๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์ ตัวชีว้ ัด ป.๔/๒ พดู สรปุ ความจากการฟงั และดู ป.๔/๓ พดู แสดงความรู้ ความคิดเห็นและความรู้สึกเกยี่ วกบั เรือ่ งที่ฟงั และดู ป.๔/๔ ต้งั คำถามและตอบคำถามเชิงเหตผุ ลจากเร่อื งทีฟ่ งั และดู ป.๔/๖ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู สาระท่ี ๔ หลักการใชภ้ าษาไทย มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของภาษา และพลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษาและรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัตขิ องชาติ ตวั ช้วี ัด ป.๔/๑ สะกดคำและบอกความหมายของคำในบรบิ ทต่าง ๆ

๓ สาระที่ ๕วรรณคดี และวรรณกรรม มาตรฐานการเรยี นรู้ ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคดิ เห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทย อย่างเหน็ คณุ คา่ และนำมาประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตจรงิ ตัวชว้ี ัด ป.๔/๒ อธิบายข้อคิดจากการอ่านเพอื่ นำไปใช้ในชีวิตจริง ๒. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การอ่านเน้ือหาจะต้องฝึกจับใจความสำคัญของเรื่องท่ีอ่าน การอ่านออกเสียงได้ถูกต้องตามอักขรวิธี และฉันทลักษณ์อย่างคล่องแคล่วสามารถถ่ายทอดอารมณ์ตามเร่ืองที่อ่านเป็นการสื่อความหมายไปสู่ผู้ฟัง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การศึกษาคำศัพท์ สำนวนและความหมายของคำ ทำให้เราเกิดความเข้าใจได้ถูกต้อง และชัดเจนนำใช้ได้ถูกต้องเหมาะสมกับบริบทของคำศัพท์ คำที่ไม่มีตัวสะกดทุกคำจัดเป็นคำในมาตรา ก กา คำขวัญเป็นถ้อยคำท่ีมีเสียงคล้องจอง ทำให้ไพเราะและมีความหมายกินใจสามารถจดจำได้ง่าย การรู้จักและ เข้าใจคำที่มีอักษรนำ จะทำให้สามารถเขียนสะกดคำและอ่านออกเสียงคำได้ถูกต้อง การเขียนแผนภาพ โครงเรื่องและนำแนวคิดจากเร่ืองไปใช้ในชีวิตประจำวันจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น ส่วนการเล่า ข่าวเปน็ การสอื่ สารเร่ืองราวทตี่ ้องการใหผ้ ู้ฟงั รบั รู้ ซง่ึ จะต้องอาศัยทักษะกระบวนการจึงจะสามารถเล่าขา่ วได้ดี ๓. สาระการเรยี นรู้ ความรู้ ๑. การศกึ ษาคำศัพท์ ๒. การอ่านจบั ใจความ ๓. การเขียนแผนภาพโครงเร่อื ง ๔. การอ่านออกเสียง ๕. มาตราแม่ ก กา ๖. การเขยี นคำขวญั ๗. คำท่ีมีอกั ษรนำ ๘. การเลา่ ขา่ ว ๙. บทรอ้ ยกรอง “ขนมแมเ่ อย๊ ” ทักษะกระบวนการ ๑. อ่านจบั ใจความ ๒. เขยี นแผนภาพโครงเร่อื ง ๓. อา่ นออกเสยี ง ๔. เขียนคำขวญั ๕. เลา่ ข่าว เจตคติ (A) ๑. เห็นความสำคัญและใช้ภาษาไทยไดถ้ กู ตอ้ ง ๒. รักการอ่านการเขยี น ๓. มมี ารยาทในการฟงั ดู พดู .

๔ ๔. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน ๑. มีความสามารถในการสอื่ สาร ๒. มีความสามารถในการคิด - ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ ๓. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ - กระบวนการทำงานกล่มุ - กระบวนการปฏิบตั ิ ๕. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. มวี นิ ยั ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มงุ่ มั่นในการทำงาน ๖. ชิน้ งาน/ภาระงาน ๑. แผนภาพโครงเรื่องขนมไทยไรเ้ ทียมทาน ๒. การเล่าขา่ ว ๗. การวัดและประเมินผล วธิ กี าร เคร่ืองมอื เกณฑ์การผา่ น ๑. ประเมนิ การเขียนแผนภาพ ๑. แบบประเมนิ การเขยี น ๑. เกณฑก์ ารเขียนแผนภาพโครงเรื่อง โครงเร่อื งขนมไทยไรเ้ ทียมทาน แผนภาพโครงเร่ือง ช่วงคะแนน ๑๔ – ๑๘ ระดบั คุณภาพ ดี ช่วงคะแนน ๘ – ๑๒ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ชว่ งคะแนน ต่ำกวา่ ๘ ระดับคุณภาพ ปรับปรุง ๒. การเลา่ ข่าว ๒. แบบประเมินการเลา่ ข่าว ๒. เกณฑ์การเล่าข่าว ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๗๐ ขนึ้ ไป ๘.กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงท่ี ๑ การศกึ ษาคำศพั ท์ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. สามารถอ่าน เขยี นและบอกความหมายของคำศพั ทไ์ ด้ ๒. มมี ารยาทในการอา่ น กิจกรรมการเรียนรู้ ๑. ครใู หน้ กั เรยี นทำข้อสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรียนรูเ้ ร่ือง ขนมไทยไรเ้ ทยี มทาน (ภาคผนวก) ขน้ั นำ ๒. ครใู หน้ ักเรยี นเขียนคำตามคำบอก ๑๐ คำ ได้แก่ ขนมสอดไส้ จาระไน น่งึ เชอื่ ม ห่าม ตั่ง ละมนุ บรรพบรุ ุษ ภมู ปิ ญั ญา ผิง จากน้ัน ครูเฉลยคำตอบบนกระดานดำ ถ้าหากวา่ คำไหนทีน่ กั เรียนเขียนผิดให้ แกไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ งด้านหลังของคำนั้น

๕ ขน้ั สอน ๓. ครใู ห้นกั เรยี นอ่านคำทเ่ี ขียนตามคำบอกพรอ้ มกันและฝึกอ่านทลี ะคน จากน้ันครใู ห้นกั เรียนฝึกอา่ น คำศพั ท์เร่อื งขนมไทยไรเ้ ทยี มทานจากบัตรคำพรอ้ มกันและฝกึ อา่ นทีละคนพรอ้ มบอกความหมายของคำ ๔. ครใู ห้นักเรยี นชายและนกั เรยี นหญิง ส่งตัวแทนฝา่ ยละ ๕ คน ออกมาแข่งขนั กนั เขียนคำศพั ทท์ ี่อ่านไป แล้วบนกระดานโดยครูเป็นผู้บอกคำให้เขียนครั้งละ ๕ คำ ถ้าหากว่าฝ่ายใดเขียนสะกดคำได้ถูกต้องมากที่สุด เปน็ ฝ่ายชนะ ๕. ครูให้นักเรยี นเขียนคำและความหมายคำศัพท์ลงในสมดุ แล้วอา่ นคำและความหมายพร้อมๆ กนั ข้ันสรปุ ๖. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปถึงความสำคัญและประโยชน์ของกานอ่าน การเขียนและการบอก ความหมายของคำ ๗. ครใู หน้ ักเรียนไปหาคำและความหมายตามความสนใจของนักเรยี นเอง ในเร่ืองขนมไทยไร้เทียมทาน มาคนละ ๕ คำ สอ่ื และแหลง่ เรยี นรู้ ๑. บตั รคำศพั ท์ จากเรื่อง ขนมไทยไรเ้ ทียมทาน จาก ภาษาพาทชี ัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๔ การวดั ผลประเมนิ ผล วิธกี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์ ๑. สังเกตการอ่านออกเสียง ๑.แบบสงั เกตการอ่านออก ๑. เกณฑ์การอา่ นออกเสยี งและเขยี นคำศัพท์ และเขียนคำศัพท์ เสยี งและเขียนคำศพั ท์ ช่วงคะแนน ๙ – ๑๒ ระดับคณุ ภาพ ดี ชว่ งคะแนน ๕ – ๘ ระดับคุณภาพ พอใช้ ช่วงคะแนนตำ่ กว่า ๕ ระดับคุณภาพ ปรับปรงุ

๖ ชวั่ โมงท่ี ๒ การอา่ นจบั ใจความสำคญั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. บอกความหมาย หลกั การและวธิ กี ารอา่ นจับใจความสำคญั ได้ ๒. สามารถอา่ นจับใจความสำคัญได้ กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นำ ๑. ครูกลา่ วทกั ทายนักเรียน ใหน้ ักเรยี นดภู าพในเรอ่ื งขนมไทยไร้เทยี มทานแล้วใหน้ ักเรยี นสนทนาถึง ชอื่ ขนมที่อย่ใู นเรื่องวา่ มกี ช่ี นดิ อะไรบา้ ง และนกั เรยี นรจู้ ักหรอื เคยรับประทานขนมชนดิ ใดบ้าง ขัน้ สอน ๒. ครูสนทนาซักถามกับนักเรียนถึงความหมายของการอ่านจับใจความสำคัญ หลักการและวิธีอ่าน จบั ใจความสำคญั โดยเขยี นเป็นแผนภาพความคดิ วธิ ีการเขยี น การอ่านจับใจความ หลกั การเขยี น ความหมาย ๓. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเปน็ ๔ กลุ่ม เลือกประธานและเลขากลุ่ม จากน้ันครใู ห้นักเรียนอ่านเรื่อง ขนมไทยไร้เทียมทานภายในเวลาที่กำหนดแล้วต้ังคำถาม – ตอบคำถาม โดยใช้คำถาม ใคร ทำอะไร ท่ีไหน อย่างไร ผลเป็นอยา่ งไร ได้ขอ้ คิดใดบา้ งลงในสมดุ คนละ ๕ คำถาม ๔. นักเรียนส่งตัวแทนกลุ่มออกมาสองคน คนท่ีหนึ่ง อ่านคำถามและคำตอบหน้าชั้นเรียน คนท่ีสอง เขยี นคำถามและคำตอบบนกระดานดำ ครชู ว่ ยแนะนำ เพอื่ ปรบั การใชภ้ าษาและความถกู ต้องของคำตอบ ๕. นักเรียนช่วยกันดูว่าแต่ละกลุ่มมีคำถามหรือคำตอบใดที่เหมือนกันหรือใกล้เคียงกันให้ตัดออก จากน้ันนกั เรยี นทกุ คนชว่ ยกันเรยี งลำดบั เหตุการณ์ของเรอ่ื งโดยเขยี นตวั เลขหนา้ ข้อความ ๖. ส่งตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมาเล่าเร่ืองตามลำดับเหตุการณ์หน้าช้ันเรียนครสู ังเกตความคล่องแคล่ว ในการเล่าเร่ืองของตัวแทนแตล่ ะกลุม่ ยกย่อง ชืน่ ชมการเลา่ เร่ืองของนกั เรยี น ๗. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ เขยี นเร่ืองตามลำดบั เหตุการณ์ลงในสมุดแลว้ สง่ ครูตรวจ

๗ ขั้นสรปุ ๘. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความหมาย หลักการและวิธีการอ่านจับใจความสำคัญและประโยชน์ ของการอ่านจับใจความ สื่อและแหลง่ เรยี นรู้ ๑. หนงั สอื เรียนภาษาไทยภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๔ การวดั ผลและประเมินผล วิธีการ เครอื่ งมอื เกณฑ์ ๑. ประเมินการอ่าน ๑. แบบประเมินการอา่ น ๑. เกณฑก์ ารอ่านจบั ใจความสำคญั จบั ใจความสำคัญ จับใจความสำคัญ ช่วงคะแนน ๙- ๑๒ ระดับคุณภาพ ดี ช่วงคะแนน ๕– ๘ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ชว่ งคะแนนตำ่ กว่า ๕ ระดบั คุณภาพ ปรับปรุง

๘ ชว่ั โมงที่ ๓ การเขยี นแผนภาพโครงเรือ่ ง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. บอกส่วนประกอบของแผนภาพโครงเรอื่ งและวิธกี ารเขียนแผนภาพโครงเรื่อง ๒. สามารถเขยี นแผนภาพโครงเรือ่ งได้ ๓. มีมารยาทในการเขยี น กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้ันนำ ๑. ครูพูดคยุ สนทนาซกั ถามถงึ สถานการณช์ ีวติ ประจำวันของนักเรยี นเพอื่ ให้นกั เรยี นรู้จกั สรปุ ไดว้ า่ ในแต่ละวันมีเหตุการณ์อะไรเกิดข้ึนบ้างและเป็นอย่างไร สรุปความได้ว่าอย่างไร เพื่อนำไปสู่การทำแผนภาพ ความคดิ ซ่งึ จะสามารถนำไปโยงสกู่ ารทำแผนภาพโครงเรอื่ งได้ ๒. ครแู จง้ จุดประสงค์การเรยี นรใู้ หน้ กั เรยี นทราบ ข้นั สอน ๓. ครูสนทนากับนักเรียนเก่ียวกับการเขียนแผนภาพโครงเร่ือง เช่น ส่วนประกอบของแผนภาพ โครงเรือ่ ง วธิ ีการเขียนแผนภาพโครงเร่ือง ๔. ครูให้นักเรียนศึกษาแผนภาพความคิดเรื่องขนมไทย จากหนังสือเรียนภาษาไทย ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ หน้า ๑๖ นักเรียนสังเกตรูปแบบโดยครูอธิบายหลักการเขียนแผนภาพความคิดและให้ นักเรยี นอ่านพร้อม ๆ กัน ๕. ครใู หน้ กั เรยี นศกึ ษารูปแบบการทำแผนภาพโครงเรอื่ งที่ครูแจกให้ ๖. ครูมอบหมายใหน้ กั เรยี นรว่ มอภปิ รายแลกเปล่ียนความคิดเหน็ และเขยี นสรปุ ใจความสำคญั เรือ่ ง ขนมไทยไรเ้ ทียมทานโดยเลือกประเด็นทีส่ ำคัญ ๆ จากนัน้ ครูให้นกั เรียนบันทึกผลการสรปุ ใจความสำคัญเรือ่ ง ขนมไทยไร้เทียมทาน ๗. ครูให้นักเรยี นนำขอ้ มูลจากการบันทึกผลการสรุปใจความสำคัญเรื่องขนมไทยไร้เทียมทานมาเขียน เป็นแผนภาพโครงเร่ืองเร่ืองขนมไทยไร้เทียมทาน โดยใช้คำถาม ใคร(ตัวละครในเร่ืองมีใครบ้าง) ทำอะไร (เหตุการณ์ต่าง ๆ ท่ีเกิดขึน้ ) ที่ไหน( สถานท่ีท่ีเกิดเหตุการณ)์ เมอ่ื ไร (เวลาหรือเหตกุ ารณ์เกดิ ข้นึ เมอ่ื ไร) อย่างไร (วธิ ีการหรือบรรยากาศเป็นอยา่ งไร)และหาคำตอบ ๘. ครูให้นักเรียนฝึกเล่าเร่ืองจากแผนภาพโครงเร่ืองเร่ืองขนมไทยไร้เทียมทาน โดยใช้ภาษาที่เป็น ของนกั เรียนเอง ข้ันสรปุ ๙. ครูกับนักเรียนร่วมกันอภิปรายแล้วสรุปถงึ เรอ่ื งการอ่านจับใจความเพอ่ื นำมาสรุปความรู้ในรปู แบบ การเขียนแผนภาพความคิดและการเขยี นแผนภาพโครงเร่อื งที่ถกู ต้องจากน้นั มอบหมายใหน้ ักเรียนนำไปเขียน แผนภาพโครงเรือ่ งเป็นการบ้านโดยใช้สำนวนภาษาของนกั เรยี นเอง ส่อื และแหล่งเรยี นรู้ ๑. หนังสือเรยี นภาษาไทยภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ ๒. ตัวอยา่ งแผนภาพโครงเรื่อง

๙ การวัดผลประเมินผล เคร่ืองมอื เกณฑ์ วิธกี าร ๑. แบบสงั เกตมารยาท ๑. เกณฑก์ ารทำงานกลุ่ม ๑. สังเกตมารยาทในการเขียน ในการเขียน ช่วงคะแนน ๑๔ – ๑๘ ระดบั คณุ ภาพ ดี ๒. แบบบันทึกคะแนน ชว่ งคะแนน ๘ – ๑๒ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ๒. ตรวจผลงานการเขียน การเขียนแผนภาพโครงเรือ่ ง ชว่ งคะแนนต่ำกว่า ๘ ระดบั คุณภาพ ปรับปรงุ แผนภาพโครงเรื่องขนมไทย ขนมไทยไรเ้ ทยี มทาน ๒. เกณฑก์ ารเขยี นแผนภาพโครงเรื่อง ไร้เทยี มทาน ช่วงคะแนน ๑๔ – ๑๘ ระดับคณุ ภาพ ดี ชว่ งคะแนน ๘ – ๑๒ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ช่วงคะแนนต่ำกว่า ๘ ระดับคุณภาพ ปรบั ปรุง

๑๐ ชว่ั โมงที่ ๔ การอ่านออกเสยี ง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อ่านออกเสียงได้ถูกตอ้ ง กิจกรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นำ ๑. ครูถือแถบประโยคให้นกั เรียนในช้ันเรียนดูและอ่านประโยคพร้อม ๆ กัน จากนัน้ ครูขออาสาสมัคร นกั เรียนออกมา ๒ คนอา่ นออกเสยี งประโยคทค่ี รกู ำหนดให้แลว้ ใหเ้ พื่อนนักเรียนฟงั วา่ ๒ คน ที่เป็นอาสาสมัคร ใครอ่านออกเสียงได้ถูกต้องชัดเจนกว่ากัน โดยครูช้ีแนะข้อบกพร่องการอ่านของอาสาสมัครที่อ่านไม่ถูกต้อง ชดั เจน ๒. ครแู จ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้ใหน้ กั เรยี นทราบ ขั้นสอน ๓. นักเรียนแบ่งกลุ่ม เป็น ๔ กลุ่ม จากน้ันให้แต่ละกลุ่มศึกษาหลักการอ่านออกเสียงจากใบความรู้ การอา่ นออกเสียงและหลกั การอ่านออกเสยี งรอ้ ยแกว้ ร้อยกรอง ท่คี รูแจกให้ ๔. ครูเลือกข้อความตอนหน่ึงจากเร่ืองขนมไทยไร้เทียมทานมาให้นักเรียนฝึกอ่านออกเสียงพร้อมกัน ทงั้ ห้อง แล้วใหน้ กั เรียนฝกึ อ่านออกเสียงเป็นกลุ่ม จากนน้ั กฝ็ ึกอ่านออกเสยี งทลี ะคน ๕. ครูทำการบันทึกว่านกั เรยี นอ่านออกเสียงไดถ้ กู ต้องตามอกั ขรวิธกี ีค่ น ๖. ให้นักเรียนทุกคนอ่านบทร้อยกรอง หนจู ๋าเปิดบทน้ีฯ ครสู ังเกตการเว้นวรรคตอนและแกไ้ ขการอ่าน ของนักเรียนให้ถกู ต้อง ขัน้ สรุป ๗. ครกู บั นกั เรียนร่วมกันอภปิ รายแลว้ สรุป หลกั การอา่ นออกเสยี งรอ้ ยแก้วและร้อยกรองเพอื่ สรุปองค์ ความรู้และนำไปเป็นหลักปฏิบตั ิในการอ่านออกเสียงคร้งั ต่อไป ๘. สำหรบั คนทีอ่ ่านไมถ่ ูกตอ้ งครหู าเวลาวา่ งสอนซ่อมเสรมิ ให้กับนักเรียน ส่อื และแหล่งเรยี นรู้ ๑. บทเรียนท่ี ๑ ขนมไทยไร้เทยี มทาน หนังสอื เรยี นภาษาไทยภาษาพาทีช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ ๒. แถบประโยค ๓. ใบความรเู้ ร่อื งการอา่ นออกเสียง การวัดผลประเมนิ ผล วิธกี าร เคร่ืองมอื เกณฑ์ ๑. ประเมนิ การอา่ นออกเสยี ง ๑. แบบประเมินการอา่ น ๑. เกณฑก์ ารอา่ นออกเสยี ง ๒. การสังเกตความสนใจใน ออกเสยี ง ชว่ งคะแนน ๑๔- ๑๘ ระดับคณุ ภาพ ดี ๒.แบบสังเกตพฤติกรรม ช่วงคะแนน ๘–๑๒ ระดบั คุณภาพ พอใช้ การเรียน ชว่ งคะแนนตำ่ กวา่ ๘ ระดบั คุณภาพ ปรบั ปรงุ ความสนใจในการเรียน ๒. เกณฑ์สงั เกตพฤตกิ รรมความสนใจในการเรยี น ๗ คะแนน ผลการประเมิน ดีมาก ๕-๖ คะแนน ผลการประเมิน ดี ๓-๔ คะแนน ผลการประเมิน พอใช้ ๑-๒ คะแนน ผลการประเมิน ควรปรับปรงุ

๑๑ ช่วั โมงที่ ๕ มาตราแม่ ก กา จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. นักเรยี นบอกลักษณะของคำในมาตราแม่ ก กาได้ ๒. นักเรียนอ่าน เขียนและบอกความหมายของคำท่อี ย่ใู นมาตราแม่ ก กา ได้ ๓. นักเรยี นสนใจในการเรียน กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั นำ ๑. ครสู นทนาซักถามเรือ่ งคำในมาตราตัวสะกดว่ามีกี่มาตรา และคำที่ไมม่ ีตวั สะกดเรียกว่าอะไรจากน้ัน แจ้งจุดประสงคใ์ หน้ กั เรยี นทราบ ๒. ครใู ห้นกั เรยี นดูรูปภาพท่คี รูกำหนดให้และอ่านออกเสียงคำจากรูปภาพและสังเกตคำ เชน่ มะลิ ขนั้ สอน ๓. ครสู นทนา ถาม – ตอบ กบั นกั เรยี นเกย่ี วกบั คำที่นักเรยี นอ่านไปวา่ แตล่ ะคำมตี ัวสะกดหรือไม่ ๔. ครูแจกใบความรู้เรอื่ งคำในแม่ ก กา ใหน้ ักเรียนศกึ ษา ๕. ครูอธิบายให้ความรู้เร่อื งคำใน แม่ ก กา ให้นกั เรียนได้เขา้ ใจ ๖. นักเรียนอ่าน บทรอ้ ยกรอง ไหว้ผมู้ ีพระคณุ แล้วให้นกั เรียนเลือกคำที่ประสมดว้ ยแม่ ก กา ๗. ครูใหน้ กั เรียนอ่าน บทอ่านเสริม เรอื่ ง ขนมแม่เอ๊ย สามบรรทัดแรก และให้นักเรียนบอกว่ามีคำใดท่ี เปน็ คำในแม่ ก กา บ้าง นำคำมาแต่งประโยคส่งครตู รวจ ขนั้ สรปุ ๘. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรุปลักษณะของคำในแม่ ก กา ๙. ครใู หน้ กั เรียน สบื คน้ คำในแม่ ก กา จากบทเรียนเรือ่ งขนมไทยไรเ้ ทียมทาน และเขยี นคำลงสมดุ บนั ทกึ สอื่ และแหลง่ เรียนรู้ หนังสอื เรียนภาษาไทยภาษาพาที ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ ๑. ใบความรมู้ าตราตวั สะกดแม่ก กา ๒. แผนภมู บิ ทรอ้ ยกรอง ไหวผ้ ู้มีพระคณุ การวดั ผลประเมนิ ผล วิธกี าร เครือ่ งมือ เกณฑ์ ๑. การสังเกตความสนใจ ๑. แบบสังเกตพฤตกิ รรม ๑. เกณฑส์ ังเกตพฤตกิ รรมความสนใจในการเรียน ในการเรียน ความสนใจในการเรียน ๒. ตรวจผลงาน ๒. แบบบนั ทึกคะแนน ๒. เกณฑ์การอ่านออกเสียงและเขียนคำศพั ท์ ช่วงคะแนน ๑๔ - ๑๘ ระดบั คณุ ภาพ ดี ชว่ งคะแนน ๘ – ๑๒ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ช่วงคะแนน ตำ่ กวา่ ๘ ระดับคุณภาพ ปรบั ปรุง

๑๒ ชว่ั โมงที่ ๖ เขียนคำขวัญ จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. นักเรียนบอกหลักการและวธิ ีเขียนคำขวญั ได้ ๒. นกั เรยี นอา่ นและเขียนคำขวัญงา่ ย ๆ ได้ ๓. สนใจในการเรียน กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำ ๑. ครูนำข้อความมาให้นักเรียนอ่าน เช่น เด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า แล้วให้นักเรียนสังเกต จากขอ้ ความท่ีอ่าน จากน้นั ครูสนทนาซกั ถามกบั นักเรยี นว่าขอ้ ความที่นกั เรยี นอา่ นสอนเรอื่ งอะไร ขัน้ สอน ๒. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปข้อความท่ีนักเรียนอ่านว่าเป็นถ้อยคำที่แต่งข้ึนเพื่อเตือนใจหรือเพ่ือให้ เป็นสิริมงคล มีลักษณะเป็นการเชิญชวนหรือขอร้องให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังยึดเป็นแนวปฏิบัติ เราเรียกว่า คำขวัญ พรอ้ มทั้งยกตัวอย่างใหน้ ักเรยี นฟัง และให้นักเรียนชว่ ยกันบอกความหมายของคำขวญั น้ัน ๆ ๓. ครูสนทนากับนักเรียนถึงหลักการเขียนคำขวัญ ต้องเขียนข้อความสั้น ๆ อาจแบ่งเป็นวรรคและมี เสยี งสัมผสั คล้องจองกันใหจ้ ดจำได้ง่ายและไฟเราะ ๔. ครูทดสอบความเข้าใจของนักเรียน ครูให้นักเรียนฝึกเขียนคำขวัญแล้ววาดภาพระบายสี จากข้อความที่ครูกำหนดให้ เชน่ เชิญชวนให้ทกุ คนใช้ของไทย เชิญชวนใหท้ ุกคนใช้น้ำอยา่ งประหยัด เชิญชวน ใหท้ กุ คนเห็นความสำคัญของการรกั ษาป่า ขั้นสรุป ๕. ครูกับนักเรียนร่วมกันสรุปหลักและวิธีการเขียนคำขวัญ ประโยชน์ของคำขวัญ เพ่ือนำไปปรับใช้ ในชวี ติ ประจำวนั ได้ สอื่ และแหล่งเรยี นรู้ ๑. ตวั อย่างคำขวัญ การวดั ผลประเมนิ ผล วธิ กี าร เครื่องมอื เกณฑ์ ๑. การสังเกตความ ๑. แบบสังเกตพฤตกิ รรม ๑. เกณฑส์ ังเกตพฤติกรรมความสนใจในการเรียน สนใจในการเรยี น ความสนใจในการเรียน ปฏบิ ัตไิ ด้ ๕ – ๗ รายการ ผลการประเมนิ อยู่ในระดบั ดี ปฏบิ ัติได้ ๓ – ๔ รายการ ผลการประเมินอย่ใู นระดับ พอใช้ ปฏบิ ตั ิได้ ๐ – ๒ รายการ ผลการประเมนิ ควรปรบั ปรงุ ๒. ตรวจผลงานการ ๒. แบบประเมนิ การเขยี น ๒.เกณฑก์ ารประเมินคำขวญั เขยี นคำขวัญ คำขวญั ๗ – ๙ ระดับคณุ ภาพ ดี ๔ – ๖ ระดับคุณภาพ พอใช้ ตำ่ กวา่ ๓ ระดับคุณภาพ ปรบั ปรุง

๑๓ ชว่ั โมงท่ี ๗ คำทม่ี อี ักษรนำ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. บอกความหมายและลักษณะของอกั ษรนำได้ ๒. อา่ นและเขยี นคำที่มีอักษรนำได้ ๓. นำคำอกั ษรนำไปแต่งประโยคได้ ๔. มีมารยาทในการเขยี น กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั นำ ๑. ครูกล่าวทักทายนักเรียน ทบทวนเรื่องการเขียนคำขวัญ ให้นักเรียนยกตัวอย่างคำขวัญท่ีน่าสนใจ ท่ีนักเรียนจำไดห้ รือที่นักเรียนแตง่ เอง ขัน้ สอน ๒. ครูเขียนคำที่มอี กั ษรนำบนกระดาน ใหน้ ักเรียนร่วมกันอ่านออกเสียง และแยกสว่ นประกอบของคำ ได้แก่ พยัญชนะต้น สระ ตัวสะกด วรรณยุกต์ แล้วให้นักเรียนสังเกตว่าคำเหล่านี้มีพยัญชนะต้นเรียงกัน 2 ตวั เช่นเดียวกับคำควบกล้ำ แตม่ คี วามแตกตา่ งจากคำควบกล้ำอย่างไร คำ พยญั ชนะตน้ สระ ตวั สะกด วรรณยกุ ต์ เหมือน หม เออื น - ขนม ขน โอะ ม - สนกุ สน อุ ก - อย่า อย อา - เอก ๓. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรปุ ความหมายและลักษณะของอักษรนำ เช่น - อักษรนำ คือ คำทม่ี ีพยัญชนะ ๒ ตัว ประสมสระเดียวกนั - การอ่านคำทีม่ ีอักษรนำมี 2 ลักษณะ คอื อ่านออกเสียงเปน็ พยางคเ์ ดยี วเมอื่ ห นำ อกั ษรต่ำ เชน่ หยุด หวาน หลอก หญงิ เหงา หรหู รา และ เมอ่ื อ นำ ย มี ๕ คำ คอื อย่า อยู่ อยา่ ง อยาก อ่านออกเสยี ง ๒ พยางค์ พยางคแ์ รกออกเสยี ง อะ กึง่ เสยี ง พยางค์หลงั ออกเสียงตาม สระทีป่ ระสมอยู่และออกเสียงเหมอื น ห นำ เช่น ขนม ฉลาด ผลิต กนก อรอ่ ย จรวด ๔. นกั เรยี นค้นคำอักษรนำเพ่มิ เตมิ จากหนังสอื เรียนเขยี นลงในสมุดและสนทนาถงึ ความหมายของคำ ที่ไม่เข้าใจแล้วนำไปแตง่ ประโยค ข้ันสรุป ๕. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ ความหมายและลักษณะของอกั ษรนำ สื่อและแหล่งเรยี นรู้ ๑. หนงั สอื เรยี นภาษาไทยภาษาพาที ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๔

๑๔ การวดั ผลประเมินผล วิธีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมิน ๑.ประเมินการอ่านออกเสยี ง ๒. แบบประเมินการอ่านออก ๑. เกณฑก์ ารประเมนิ การอา่ นออกเสียง เสยี ง ๑๔ – ๑๘ ระดบั คุณภาพ ดี ๘ – ๑๒ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ต่ำกว่า ๘ ระดบั คณุ ภาพ ปรบั ปรุง

๑๕ ชั่วโมงท่ี ๘ การเล่าข่าว จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. สามารถเล่าข่าวได้ ๒. มมี ารยาทในการพูด กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้ันนำ ๑. ครแู จ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้ใหน้ ักเรยี นทราบจากน้ัน ครใู หน้ กั เรยี นดูและสังเกตวดี ีทัศน์เก่ียวกับ การเลา่ ขา่ วท่ีครนู ำมาเปน็ ตัวอยา่ งให้ดู ขัน้ สอน ๒. ครสู นทนากับนกั เรียนถึงวิธกี ารเลา่ ขา่ วหลังจากดวู ดี ที ัศน์วา่ นกั เรยี นได้รับความรใู้ ดจากวิดีทศั น์บ้าง (บุคลกิ กริ ยิ าท่าทาง วิธีการเลา่ ข่าว) ๓. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น ๔ กลุ่ม ให้นักเรียนช่วยกันระดมสมองคิดวิธีการเล่าข่าว เลือกข่าวที่จะ ออกมาเล่าให้เพื่อนๆฟังกลุ่มละ ๑ ข่าว ๆ ละ ไม่เกิน ๓ นาที จากน้ันนักเรยี นแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาเล่า ขา่ วใหเ้ พ่ือนๆในหอ้ งฟัง ครกู ็ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นจากการเลา่ ข่าวของเพ่อื น เพอ่ื เปน็ การติชม และแลกเปล่ียนความคิดเห็น ครูซักถามว่าข่าวที่เพื่อนนำเสนอเป็นข่าวชนิดใด (ข่าวกีฬา ข่าวเศรษฐกิจ ข่าว การศึกษา เป็นต้น )ขา่ วนี้น่าเช่ือถอื หรือไม่ ส่วนใดนา่ เชื่อถอื ส่วนใดไมน่ า่ เช่ือถอื ๔. ครูอธบิ ายใหค้ วามรู้เกีย่ วกบั การเล่าขา่ วพร้อมทงั้ ยกตวั อย่างประกอบ และอกี ทั้งยังใหค้ วามรู้ เก่ยี วกับการรู้จกั การทำงานเป็นกลมุ่ การเปน็ ผู้นำ ผตู้ ามที่ดี ท่ีสำคญั ได้ร้จู ักวิธีการเล่าข่าวไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง เหมาะสมผ้ฟู ังตอ้ งมีมารยาทในการฟงั จงึ จะทำให้การเล่าขา่ วประสบผลสำเร็จไดย้ ิ่งข้นึ ขัน้ สรปุ ๕. ครูกับนกั เรยี นร่วมกันอภปิ รายแล้วสรุปจากเรือ่ งที่เรยี นครสู รุปเพ่ิมเติมให้นักเรยี นฟังว่า สือ่ ส่งิ พิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ หรือแหล่งข้อมูลข่าวต่าง ๆ เป็นเคร่ืองมือในการเรียนรู้อย่างหน่ึงท่ีมีคุณค่ามหาศาล สามารถ พัฒนาตนเอง ให้ความรแู้ ละนำมาใช้ประโยชนใ์ นการดำรงชีวติ ประจำวันได้แต่นักเรยี นต้องมวี ิจารณญานในการ รบั ข่าว สามารถแยกแยะข้อเทจ็ จริงได้ ส่ือและแหลง่ เรยี นรู้ ๑. ตัวอยา่ งวีดีทัศนก์ ารเล่าขา่ ว ๒. โทรทัศน์ การวัดผลประเมนิ ผล วิธกี าร เคร่ืองมอื เกณฑ์ ๑.สงั เกตมารยาทในการพูด ๑. แบบสังเกตมารยาทใน ๑. มารยาทในการพูด การพูด ๗ คะแนน ผลการประเมิน ดมี าก ๕ – ๖ คะแนน ผลการประเมนิ ดี ๓ – ๔ คะแนน ผลการประเมนิ พอใช้ ๑ - ๒ คะแนน ผลการประเมิน ปรบั ปรงุ ๒. ประเมนิ การเล่าข่าว ๒. แบบประเมินการเล่าข่าว ๒. นักเรียนผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ ๗๐ขนึ้ ไป

๑๖ ภาคผนวก

๑๗ ภาคผนวกหนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๑ เรื่อง ขนมไทยไร้เทียมทาน กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย (รหสั วิชา ท ๑๔๑๐๑) ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ ชั่วโมงที่ ๑ การศึกษาคำศพั ท์ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น – หลังเรยี นกลุ่มสาระการเรียนรุ้ภาษาไทย หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ ขนมไทยไร้เทยี มทาน ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔ คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นเลอื กคำตอบทีถ่ กู ตอ้ งทส่ี ดุ ๑. การท่ีคนไทยชอบประดิดประดอย และตกแต่งของกินให้ดูสวยงามนา่ กนิ เพราะคนไทยมีนสิ ัยอยา่ งไร ก. รกั สวยรักงาม ข. อวดเกง่ ทะเยอทะยาน ค. มีจินตนาการสงู ง. ชอบแขง่ ขันและอยากแสดงออก ๒. ขอ้ ใดใช้สจี ากธรรมชาติ ก. สดี ำ จากการเผากาบมะพรา้ วใสน่ ำ้ แล้วนำมากรอง ข. สฟี ้า จากดอกอญั ชญั ผสมมะนาว ค. สีส้มแสด จากแครอท ส้ม ง. สีเหลืองจากขม้ิน ฟกั ทอง ๓. การทำขนมไทยไม่ไดส้ ะทอ้ นให้เหน็ ถงึ สง่ิ ใด ก. ความอดทน ชา่ งสังเกตและมศี ลิ ปะความเปน็ ไทย ข. อารมณ์อนั สนุ ทรียข์ องคนทำ ค. ความใจเยน็ ของคนทำ ง. วฒั นธรรมไทย ๔. ผลไมใ้ นขอ้ ใดทำขนมได้หลากหลายท่ีสดุ ก. มะม่วง ข. ส้ม ค. มะพร้าว ง. กล้วย ๕. “จา่ มงกฎุ โสมนสั ถ้วยฟู ถว่ั ดำ สาคู ลอยแกว้ ไม่จม ตะโก้ เรไร ดซู ิ ลอดชอ่ งน้ำกะทิ ถั่วกวน ทรงกลม เสนห่ ์จนั ทน์ หยกมณี แสนสวย ข้าวต้มมดั ไส้กล้วย ของแมค่ ้าตาคม ชมิ แลว้ อรอ่ ยถูกใจ เชิญมาอดุ หนุนใหม่ ขนมไทยนา่ นิยม” คำประพนั ธข์ า้ งต้น มชี อื่ ขนมไทยท้งั หมดก่ีชนดิ ก. 12 ชนิด ข. 13 ชนดิ ค. 15 ชนดิ ง. 16 ชนดิ ๖. คำในข้อใดเป็นอกั ษรนำทุกคำ ก. หญา้ หยุด หลบั ข. ศรี หนาวหลง ค. เหมือน ไทร สรอ้ ย ง. ถนนอยา่ ตลาด

๑๘ ๗. ประโยคในขอ้ ใดมีอักษรนำมากที่สุด ข. หวั กะทิ ก. นักเรยี นอย่าแอบหลับในห้องเรยี น ง. วชั พชื ข. เขาสนกุ สนานและมีความสขุ ทกุ เวลา ข. พนาลี ค. อากาศหนาวต้องใสเ่ สอื้ แขนยาวทกุ วนั ง. นอนหลับ ง. เธอหลงใหลในความงดงามของดอกกุหลาบ ข. ปา้ และนา้ ทำนาทำสวน ๘. คำใดสะกดด้วยแม่ ก กา ท้ังหมด ง. ฉนั ปลกู ชบา ราตรแี ละยี่โถ ก. ปักเปา้ ค. ววั ตาย ๙. คำในขอ้ ใดอยใู่ นมาตราตวั สะกดเดยี วกับ กติกา ก. ฉันเพล ค. หญา้ คา ๑๐. ประโยคในขอ้ ใดมคี ำมาตราแม่ ก กามากที่สุด ก. แมซ่ ้อื ปู ไก่ ไขแ่ ละปลา ค. อาจะพาไปเทย่ี วทะเล

๑๙ ชวั่ โมงที่ ๒ การอ่านจับใจความสำคญั ความหมายของการอ่านจับใจความสำคญั คือ การอ่านเพื่อจับใจความหรอื ข้อคิด ความคิดสำคญั หลักของข้อความ หรอื เร่ืองที่อา่ น เปน็ ขอ้ ความ ท่คี ลมุ ข้อความอื่น ๆ ในย่อหนา้ หน่ึง ๆ ไว้ทงั้ หมด ใจความสำคญั หมายถึง ใจความที่สำคญั และเด่นท่สี ุดในยอ่ หน้า เป็นแกน่ ของย่อหนา้ ท่ีสามารถ ครอบคลมุ เนอ้ื ความในประโยคอื่นๆ ในย่อหน้าน้ันหรือประโยคท่สี ามารถเป็นหัวเร่อื งของยอ่ หนา้ นน้ั ได้ ถา้ ตดั เน้ือความของประโยคอนื่ ออกหมด หรอื สามารถเป็นใจความหรอื ประโยคเด่ยี วๆ ได้ โดยไมต่ ้องมีประโยคอืน่ ประกอบ ซ่งึ ในแต่ละย่อหน้าจะมีประโยคในความสำคญั เพียงประโยคเดยี ว หรอื อย่างมากไม่เกิน 2 ประโยค ใจความรอง หรอื พลความ (พน-ละ-ความ) หมายถงึ ใจความ หรือประโยคท่ีขยายความประโยค ใจความสำคัญ เป็นใจความสนบั สนุนใจความสำคัญให้ชัดเจนขนึ้ อาจเปน็ การอธิบายใหร้ ายละเอยี ด ให้คำ จำกัดความ ยกตวั อย่าง เปรียบเทยี บ หรอื แสดงเหตผุ ลอย่างถี่ถ้วน เพอ่ื สนบั สนนุ ความคิด ส่วนทมี่ ิใชใ่ จความ สำคญั และมใิ ชใ่ จความรอง แต่ช่วยขยายความให้มากข้ึน คอื รายละเอยี ด หลักการจับใจความสำคัญ ๑. ต้ังจดุ มุ่งหมายในการอ่านให้ชัดเจน ๒. อา่ นเร่ืองราวอย่างคร่าวๆ พอเข้าใจ และเกบ็ ใจความสำคญั ของแตล่ ะย่อหนา้ ๓. เม่อื อ่านจบให้ต้งั คำถามตนเองว่า เรอื่ งทีอ่ า่ น มใี คร ทำอะไร ที่ไหน เม่ือไหร่ อย่างไร ๔. นำสงิ่ ที่สรุปได้มาเรียบเรียงใจความสำคญั ใหม่ด้วยสำนวนของตนเองเพ่อื ใหเ้ กิดความสละสลวย วิธจี บั ใจความสำคัญ วิธีการจบั ใจความมหี ลายอยา่ ง ข้นึ อยกู่ บั ความชอบวา่ อย่างไร เชน่ การขีดเสน้ ใต้ การใช้สีต่างๆ กนั แสดงความสำคัญมากน้อยของข้อความ การบันทึกย่อเปน็ ส่วนหนึง่ ของการอ่านจับใจความสำคญั ที่ดี แตผ่ ู้ทย่ี ่อ ควรยอ่ ดว้ ยสำนวนภาษาและสำนวนของตนเองไมค่ วรย่อดว้ ยการตัดเอาขอ้ ความสำคญั มาเรยี งตอ่ กัน เพราะ อาจทำให้ผูอ้ ่านพลาดสาระสำคญั บางตอนไปอนั เปน็ เหตุให้การตีความผิดพลาดคลาดเคลอ่ื นได้ วิธีจับใจความ สำคญั มหี ลักดังนี้ ๑. พิจารณาทีละย่อหนา้ หาประโยคใจความสำคญั ของแต่ละย่อหน้า ๒. ตัดส่วนท่ีเป็นรายละเอียดออกได้ เชน่ ตวั อย่าง สำนวนโวหาร อปุ มาอปุ ไมย(การเปรียบเทียบ) ตวั เลข สถิติ ตลอดจนคำถามหรือคำพดู ของผเู้ ขียนซง่ึ เป็นส่วนขยายใจความสำคัญ ๓. สรปุ ใจความสำคัญด้วยสำนวนภาษาของตนเอง การพจิ ารณาตำแหน่งใจความสำคญั ใจความสำคัญของข้อความในแต่ละยอ่ หน้าจะปรากฏดังนี้ ๑. ประโยคใจความสำคญั อยูต่ อนตน้ ของยอ่ หน้า ๒. ประโยคใจความสำคญั อยตู่ อนกลางของยอ่ หนา้ ๓. ประโยคใจความสำคัญอยู่ตอนท้ายของยอ่ หน้า ๔. ประโยคใจความสำคญั อย่ตู อนต้นและตอนท้ายของย่อหน้า

๒๐ ๕. ผู้อ่านสรุปข้นึ เอง จากการอา่ นทงั้ ย่อหน้า(ในกรณใี จความสำคญั หรอื ความคดิ สำคญั อาจอย่รู วม ในความคิดยอ่ ย ๆ โดยไม่มีความคิดทเี่ ป็นประโยคหลกั ) ตวั อย่างตำแหนง่ ใจความสำคญั ใจความสำคัญอยตู่ อนตน้ ยอ่ หน้า ความสมบรู ณ์ของชีวิตมาจากความเข้าใจชวี ิตเปน็ พ้ืนฐาน คือ เข้าใจ ธรรมชาติ เข้าใจความเปน็ มนุษย์ และความสมั พนั ธ์ทเ่ี กอื้ กูลกันระหวา่ งมนุษยก์ ับมนุษย์ และมนษุ ยก์ ับ ธรรมชาติ มีความรัก ความเมตตาตอ่ เพื่อนมนษุ ยแ์ ละธรรมชาตอิ ย่างจริงใจ ใจความสำคญั อยตู่ อนทา้ ยย่อหนา้ ความเครียดทำให้เพ่มิ ฮอร์โมนอะดรนี าลนี ในเลอื ด ทำใหห้ ัวใจเตน้ เรว็ เส้นเลอื ดบบี ตัว กลา้ มเนอ้ื เขม็งตึง ระบบย่อยอาหารผดิ ปกติเกดิ อาการปวดหัว ปวดทอ้ ง ใจส่นั แขง้ ขาออ่ น แรง ความเครียดจงึ เป็นตัวการใหแ้ ก่เร็ว

๒๑ ช่ัวโมงท่ี ๓ การเขยี นแผนภาพโครงเรือ่ ง ตวั อย่างแผนภาพโครงเรอ่ื ง เรื่อง............................................................. เหตกุ ารณ์ท่ี ๑ ใคร ทาอะไร ที่ไหน เมื่อไร ผลท่ีได้รับ เหตุการณ์ที่ ๒ ใคร ทาอะไร ทไ่ี หน เม่ือไร ผลท่ไี ด้รับ เหตกุ ารณ์ท่ี ๓ ใคร ทาอะไร ที่ไหน เม่ือไร ผลท่ีได้รับ เหตกุ ารณ์ที่ ๔ ใคร ทาอะไร ท่ไี หน เมื่อไร ผลทไ่ี ด้รับ เหตกุ ารณ์ท่ี ๕ ใคร ทาอะไร ท่ไี หน เม่ือไร ผลท่ไี ด้รับ ข้อคดิ จากเร่ือง

๒๒ ช่ัวโมงที่ ๔ การอา่ นออกเสียง ใบความรู้ เรอ่ื ง แผนภาพความคิดการอา่ นออกเสยี ง จุดมุ่งหมายของการอา่ นออกเสียง ข้อปฏิบตั ิในการอา่ นออกเสยี ง การอ่านออกเสียง หลกั การอ่านออกเสียง การอา่ นออกเสียงรอ้ ยแก้ว ประโยชนใ์ นการอ่านออกเสยี ง การอ่านออกเสียงรอ้ ยกรอง จดุ มุ่งหมายการอา่ นออกเสียง เพอ่ื ใหผ้ อู้ า่ นเกิดความรู้และความเพลิดเพลิน และเพือ่ สื่อให้ผอู้ ่ืนฟัง และเปน็ การอา่ นเพื่อตอ้ งการฟงั ความไพเราะของเสยี งของถอ้ ยคำ และเพอ่ื ให้เกิดความซาบซ้งึ เช่นการอ่านบทรอ้ ย กรอง หลักการอ่านออกเสยี ง ตอ้ งอ่านใหถ้ ูกตอ้ งตามอักขรวิธี อา่ นออกเสยี งใหช้ ัดเจน มีวรรคตอนที่ถกู ต้อง และ อ่านไดค้ ล่องแคล่ว เพอ่ื ใหผ้ ู้อ่านและผู้ฟงั ได้รับร้ถู ึงความไพเราะ มีนำ้ เสียงและกริ ิยาอาการใหส้ อดคล้องกบั เร่อื ง ท่อี า่ น เพอ่ื ชว่ ยส่อื ให้เข้าใจเรอื่ งมากยิง่ ขึ้น หากยังมปี ระสบการณใ์ นการอา่ นออกเสยี งไมม่ าก ควรอ่านในใจ ล่วงหนา้ สักครง้ั กอ่ น เพื่อให้รู้เรอื่ งราวโดยตลอดของเรอื่ งที่อา่ น ฝกึ แบ่งวรรคตอน คำยาก เพือ่ ให้การอ่านออก เสยี งเปน็ ไปอยา่ งม่ันใจ ถกู ตอ้ งและชัดเจน ประโยชน์การอ่านออกเสยี ง ๑. เพอื่ ความรู้ ความเข้าใจและถกู ต้องตามอักขรวิธี และฉนั ทลกั ษณ์ ๒. เพ่อื ใหเ้ กดิ ความไพเราะ ซาบซ้ึง ๓. เพอื่ ความเพลดิ เพลนิ และรับรู้อารมณ์ ๔. เป็นการพัฒนาทกั ษะการอา่ น ใหด้ ยี ิง่ ขึน้ และสามารถนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันได้ ข้อปฏบิ ัติในการอ่านออกเสียง การอา่ นออกเสียงร้อยแก้ว ๑. การขน้ึ ต้นหรือเริม่ เร่ืองควรใช้เสยี งดงั กวา่ ปกตแิ ละจงั หวะการอา่ นชา้ กว่าปกตเิ ลก็ นอ้ ยเพ่ือใหผ้ ฟู้ ัง ตัง้ ตัว ๒. นำเสียงเปน็ เสียงธรรมดาคล้ายเสียงพดู คุย ใหม้ คี วามดังเหมาะสมกับสถานท่ี ๓. ควรเว้นวรรคตอนให้ถูกจงั หวะ ใหจ้ บคำ กลมุ่ คำ หรือประโยค

๒๓ ๔. การยนื อา่ นต้องนำสันหนงั สอื วางบนมอื ซา้ ยใช้นิ้วจบั ดา้ นบนหนังสือ มือขวานน้ั คัน่ หน้าต่อไป เตรยี มพลิกหนังสือ ๕. อา่ นให้ถูกตอ้ งตามอักขรวิธี ถูกต้องตามตัวสะกด อ่านใช้นำ้ เสียงอารมณ์ใหเ้ หมาะสมกับเนือ้ เรือ่ ง และเหตุการณ์ทอ่ี า่ น ๖. ไมอ่ ่านตกคำหรือเติมคำเกินจากบทอา่ น ๗. อา่ นได้คลอ่ งแคลว่ การอ่านออกเสยี งร้อยกรอง แบ่งออกเป็น ๒ ลักษณะคือ ๑. อา่ นออกเสียงปกติ เป็นการอ่านธรรมดาแบบอ่านขอ้ ความ ผอู้ ่านต้องอ่านเสียงสระ พยญั ชนะ วรรณยุกต์ และเวน้ วรรคตอนให้ถูกตอ้ ง ชดั เจน ๒. อ่านออกเสยี งทำนองเสนาะ เป็นการอา่ นทำนองใหม้ ีน้ำเสยี งสูง ตำ่ มกี ารเอ้อื นเสยี ง ซง่ึ การ อ่านรอ้ ยกรองมหี ลกั การอา่ นเบื้องต้นคือ ต้องอา่ นใหถ้ กู จงั หวะตามลกั ษณะคำประพันธ์แต่ละ ชนิด

๒๔ ชวั่ โมงที่ ๕ มาตราแม่ ก กา ใบความรูเ้ ร่ือง คำในมาตราแม่ ก กา มาตรา ก กา คอื คำทม่ี พี ยญั ชนะตน้ ประสมกับสระ ทง้ั สระเสยี งสนั้ และสระเสียงยาว และวรรณยกุ ต์ บางคำ อาจมีตวั การันต์ แต่ไม่มีตวั สะกด เชน่ มะลิ สละ ประชา เคหา พาหะ กะทิ วริ ยิ ะ สดุดี ราชนิ ี เจดีย์ วเิ คราะห์ สอื่ ประกอบการศกึ ษาคำในมาตรา แม่ ก กา บทรอ้ ยกรอง(กาพย์ยานี ๑๑ ) ไหว้ผู้มีพระคุณ ข้าไหว้พระบิดา ไหวบ้ าทา พระชนนี ไหวพ้ ระอาจารีย์ ใสเ่ กศีไหวบ้ าทา ขา้ ไหว้พระครูเจ้า ครผู เู้ ฒา่ ใสเ่ กศา ใหร้ ทู้ ว่ี ิชา ไหวบ้ าทาที่พระครู

๒๕ แบบสงั เกตความสนใจและความตั้งใจในการทำกจิ กรรมของนักเรยี น ช่ือนักเรยี น....................................................................ชัน้ ..................... กจิ กรรม......................................................................วนั ที่ ............................................... รายการ ปฏบิ ัติ ไมป่ ฏิบตั ิ ๑. เริม่ ตน้ งานท่ีไดร้ บั มอบหมายทนั ที ๒. ทำงานเสรจ็ เรยี บรอ้ ยตามเวลาท่ีกำหนด ๓. ขอคำแนะนำจากครหู รอื เพ่ือนเม่ือไมเ่ ขา้ ใจ ๔. ทำกจิ กรรมด้วยความสนกุ สนานและเตม็ ใจ ๕. มีสว่ นรว่ มในการทำกจิ กรรมอย่างสมำ่ เสมอ ๖. ช่วยเหลอื แนะนำเพื่อนในการทำกจิ กรรมตามสมควร ๗. สนใจศกึ ษาหาความรู้เพม่ิ เติมดว้ ยตนเอง รวมคะแนน หมายเหตุ เกณฑ์การผ่านการทำกิจกรรมจากแบบสงั เกต ดังน้ี ปฏบิ ตั ิได้ ๕ – ๗ รายการ ผลการประเมนิ อยูใ่ นระดบั ดี ปฏบิ ัตไิ ด้ ๓ – ๔ รายการ ผลการประเมินอยใู่ นระดับ พอใช้ ปฏบิ ตั ไิ ด้ ๐ – ๒ รายการ ผลการประเมิน ควรปรบั ปรุง

๒๖ รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินการอ่านออกเสียงและเขยี นคำศพั ท์(rubrics) กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ โรงเรียน.......................................................................... ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศึกษา ............ ประเด็นการประเมิน เกณฑก์ ารให้คะแนน ๑.ความถูกต้องในการอ่าน ๓ ๒๑ ๒.คณุ ลกั ษณะ สามารถอ่านไดถ้ กู ตอ้ ง สามารถอา่ นได้เกือบ พยายามอา่ นได้บ้าง (มคี วามมนั่ ใจในการอ่าน ) ๓. การสะกดคำศพั ท์ ทงั้ หมด ถูกต้องทั้งหมดผิดไมเ่ กนิ ผดิ มากกวา่ 3คำ ๔. อธบิ ายความหมายของ 3 คำ คำศัพท์ มีความมน่ั ใจในการอ่าน มีความม่นั ใจในการอ่าน ขาดความมน่ั ใจใน ดี มกี ารเตรียมตวั มา พอใช้ เตรยี มตัวมาอยา่ ง ตนเองเตรียมตวั มา อย่างดี มนั่ ใจตนเอง ดยี ังประหม่า บ้างแต่ไม่มากนกั การสะกด การสะกด สะกดคำผิดมาก คำศพั ท์ถูกต้อง คำศพั ท์ผิดเลก็ นอ้ ย อธบิ ายความหมายได้ อธิบายความหมายได้ อธบิ ายความหมาย ถกู ต้องสมบรู ณ์ เกอื บถูกตอ้ ง ไมไ่ ด้ เกณฑ์การประเมนิ ๙ - ๑๒ ระดับคุณภาพ ดี ช่วงคะแนน ๕-๘ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ๕ ระดบั คุณภาพ ปรบั ปรงุ ช่วงคะแนน ช่วงคะแนนต่ำกว่า

๒๗ ชั่วโมงท่ี ๖ เขยี นคำขวัญ แบบสังเกตความสนใจและความต้ังใจในการทำกจิ กรรมของนักเรียน ชือ่ นกั เรยี น....................................................................ชัน้ ..................... กิจกรรม......................................................................วนั ที่ ............................................... รายการ ปฏบิ ัติ ไมป่ ฏิบตั ิ ๑. เรม่ิ ต้นงานที่ได้รับมอบหมายทนั ที ๒. ทำงานเสรจ็ เรียบร้อยตามเวลาท่กี ำหนด ๓. ขอคำแนะนำจากครหู รือเพื่อนเมอ่ื ไม่เขา้ ใจ ๔. ทำกิจกรรมดว้ ยความสนุกสนานและเต็มใจ ๕. มีสว่ นรว่ มในการทำกจิ กรรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ๖. ช่วยเหลือแนะนำเพ่อื นในการทำกจิ กรรมตามสมควร ๗. สนใจศกึ ษาหาความรเู้ พม่ิ เติมดว้ ยตนเอง รวมคะแนน หมายเหตุ เกณฑ์การผ่านการทำกิจกรรมจากแบบสังเกต ดงั นี้ ปฏบิ ัติได้ ๕ – ๗ รายการ ผลการประเมินอยู่ในระดบั ดี ปฏิบัติได้ ๓ – ๔ รายการ ผลการประเมินอยใู่ นระดบั พอใช้ ปฏิบัตไิ ด้ ๐ – ๒ รายการ ผลการประเมนิ ควรปรบั ปรุง

๒๘ แบบประเมนิ การเขยี นคำขวัญ กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ โรงเรยี น.................................... สำนกั งานเขตการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน.............................. ................................ ภาคเรียนท่ี.....................ปกี ารศึกษา ........................................... เรือ่ ง ....................................................... ประเมินครั้งท่ี ……. วนั ท่ี ................... เดือน .............................................. พ.ศ...................... ___________________________________________________________ คำชแ้ี จง ครปู ระเมินพฤติกรรมของนกั เรียนในการทำงานกลุม่ ให้คะแนนลงในช่องทีต่ รงกบั พฤติกรรมของ นักเรียน การแ ่ตงคำข ัวญ สรุปผล การใ ้ชภาษาและความไพเราะ รวม การประเมิน เ ้ืนอหาสาระ เลขที่ ชื่อ-สกลุ ๓ ๓ ๓ ๙ ดี พอใช้ ปรับปรงุ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ลงชื่อ............................................................ผูป้ ระเมนิ (.....................................................)

๒๙ รายละเอียดเกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบประเมนิ การเขียนคำขวัญ (rubrics) กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๔ โรงเรยี น.......................................................................... ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ............ ประเด็นการประเมิน ๓ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๑. การแตง่ คำขวัญ คำขวญั มีเนือ้ หาชดั เจน ๒๑ ตามประเด็นทกี่ ำหนด มเี น้ือหาชดั เจนแต่ไม่ตรง เนอ้ื หาไม่ชดั เจน ประเด็น ๒. การใช้ภาษาและความไพเราะ ภาษาสละสลวย สน้ั ภาษาไมส่ ละสลวย ส้นั ยาวเกินไป กระชบั มสี มั ผัสคล้อง กระชบั สัมผัสบ้าง ภาษาไมส่ ละสลวย จอง บางส่วน มสี มั ผสั บางสว่ น ๓. เน้อื หาสาระ เนอื้ หาตรงประเด็น เนื้อหาตรงประเดน็ เนอ้ื หา ใจความไม่ ใจความเหมาะสม ใจความเหมาะสม ตรงประเด็น บางสว่ น เกณฑ์การประเมนิ ๗–๙ ระดับคุณภาพ ดี ๔–๖ ระดับคุณภาพ พอใช้ ช่วงคะแนน ต่ำกวา่ ๓ ระดบั คณุ ภาพ ปรับปรุง ชว่ งคะแนน ช่วงคะแนน

๓๐ ชั่วโมงที่ ๗ คำทีม่ อี กั ษรนำ รายละเอยี ดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบประเมินการอา่ นออกเสยี ง (rubrics) กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ โรงเรยี น.......................................................................... ภาคเรียนที่ ๑ ปกี ารศึกษา ................... ประเดน็ การประเมนิ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๑.การจบั หนงั สือ/พลกิ หนังสือ/ ทา่ ทางในการอา่ นทถี่ ูกตอ้ ง ๓ ๒๑ ๒. อา่ นถกู ตอ้ งตามอักขรวิธี ลกั ษณะท่าทาง การวาง ลกั ษณะทา่ ทาง การ ลกั ษณะท่าทาง การวาง ๓. การเวน้ วรรคตอนถูกตอ้ ง และการจบั หนงั สอื ถูกต้อง วางและการจบั หนงั สอื และการจับหนงั สอื ไม่ ๔. นำ้ เสยี งเหมาะสมกับเร่อื งที่ อ่าน ไมถ่ กู ต้อง ๑ อย่าง ถกู ตอ้ ง ๒ อย่าง ข้ึนไป ๕. ไม่อา่ นข้าม/เตมิ คำ/ตคู่ ำ อ่านถูกต้องตามอักขรวธิ ี อา่ นถูกต้องตาม อา่ นไม่ถกู ต้องตาม ๖. อ่านเสียงดังเหมาะสม ออกเสียง ร และควบกล้ำ อกั ขรวิธอี อกเสียง ร อักขรวิธอี อกเสียง ร ร ล ว ชัดเจน และควบกล้ำ ร ล ว และควบกล้ำ ร ล ว ไม่ ชัดบา้ งไมช่ ดั บ้าง ชดั เจนเลย อา่ นและเว้นวรรคตอนได้ อ่านเวน้ วรรคตอนผิด อา่ นเว้นวรรคตอนผิด ถกู ตอ้ งตลอดทั้งเรอ่ื งตั้งแต่ บา้ งเป็นบางครั้ง ตลอดทง้ั เร่ืองต้ังแต่ตน้ ต้นจนจบ จนจบเรือ่ ง อ่านเสยี งดังชดั เจน อา่ นเสียงดงั ชัดเจน อ่านเสยี งไมช่ ดั เจน นำ้ เสียงเหมาะสมกบั เรอื่ ง นำ้ เสยี งเหมาะสมบา้ ง น้ำเสียงไม่เหมาะสมกับ ท่ีอ่าน เป็นบางครง้ั เร่อื งทอ่ี า่ นตลอดทั้งเรอื่ ง อา่ นออกเสยี งไดถ้ ูกตอ้ ง อ่านออกเสียงได้ อ่านออกเสยี งไมถ่ กู ต้อง ชดั เจนทุกคำ ทกุ ข้อความ ถกู ตอ้ งชัดเจนเป็นบาง ไม่ชัดเจน อ่านขา้ มคำ ทุกประโยค คำ มีอ่านตู่คำ เพม่ิ คำ อา่ นเพม่ิ คำ และตู่คำ และต่คู ำเปน็ บางครั้ง มาก อา่ นเสยี งดัง ชัดเจน ไดย้ นิ อ่านเสียงดังบ้างเปน็ อ่านเสียงเบา ได้ยนิ ไม่ ทวั่ ถงึ กับทงั้ หอ้ ง เสียงดัง บางคร้งั เสยี งไม่ ทวั่ ถึง สม่ำเสมอ สม่ำเสมอ เกณฑ์การประเมนิ ๑๔ – ๑๘ ระดบั คุณภาพ ดี ชว่ งคะแนน ๘ – ๑๒ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ชว่ งคะแนน ตำ่ กวา่ ๘ ระดับคุณภาพ ปรับปรงุ ชว่ งคะแนน

๓๑ ช่ัวโมงที่ ๘ การเลา่ ขา่ ว แบบสงั เกตพฤติกรรมการเลา่ ข่าว คำชแ้ี จง ให้ทำเคร่ืองหมาย / ลงในชอ่ งรายการสังเกตพฤติกรรมท่ีกำหนดให้ รายการสงั เกต ชอ่ื - สกุล เลข ่ีท ้ขันตอนการนำเสนอ ่ขาว สาระสำ ัคญของข่าว ุบค ิลกภาพ ่ทาทาง ในการเ ่ลา ่ขาว สรุปผลการประเ ิมน ๓ ๒ ๑๓ ๒ ๑๓ ๒ ๑ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ระดับคุณภาพ 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรบั ปรุง เกณฑ์การผา่ น นกั เรียนต้องได้ระดับคณุ ภาพ 2 ขึ้นไป ทุกพฤตกิ รรมจึงถอื วา่ ผา่ น (ลงช่อื ) ผู้ประเมิน/ครผู สู้ อน (................................................)

๓๒ แบบบนั ทกึ การสังเกตการพูดของนกั เรียน กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียน.................................... สำนกั งานเขตการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน.............................. ................................ ภาคเรียนท่ี.....................ปกี ารศกึ ษา ........................................... เรอ่ื ง ....................................................... ประเมินครั้งที่ ……. วันที่ ................... เดือน .............................................. พ.ศ...................... ___________________________________________________________ คำช้แี จง ครูประเมินพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเขยี นแผนภาพโครงเรื่อง ใหค้ ะแนนลงในช่องทตี่ รงกบั พฤตกิ รรมของนักเรยี น ท่ี ชอื่ บุคลิกภาพ รายการสงั เกต / ระดับคุณภาพ เน้ือหา ความคดิ เหน็ 1 23 การใช้ภาษา วิธีการพดู 123 ๑ 1 2 312 3 ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ลงช่อื .......................................................ผู้ประเมิน (.....................................................................)

๓๓ รายละเอียดเกณฑก์ ารให้คะแนนแบบบนั ทกึ การสังเกตการพูดของนักเรียน (rubrics) กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ โรงเรยี น.......................................................................... ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศึกษา ............ ประเด็นการประเมนิ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๓๒๑ ๑. ด้านบุคลิกภาพ ใชร้ ะดับเสียง ลลี าท่าทาง ใชร้ ะดบั เสยี ง ลลี า ใช้ระดบั เสยี ง ลลี าท่าทาง ประกอบการพูด การแตง่ ทา่ ทางประกอบการพดู ประกอบการพดู การแตง่ กาย มคี วามสภุ าพ รกั ษา การแตง่ กาย มคี วาม กาย มคี วามสภุ าพ รักษา เวลา สภุ าพ รักษาเวลา เวลา ขาดไป 2 – 3 ขาดไป 1 ราย รายการ ๒. การใชภ้ าษา ใชภ้ าษาสุภาพ เข้าใจง่าย ใช้ภาษาสภุ าพ เข้าใจ ใชภ้ าษาสุภาพ เข้าใจง่าย ชัดเจน สละสลวย ง่าย ชัดเจน สละสลวย ชดั เจน สละสลวย ขาดไป 1 ราย ขาดไป 2 – 3 รายการ ๓. วธิ กี ารพูด ตรงประเด็น ระบุ ตรงประเด็น ระบุ ตรงประเด็น ระบุ ข้อเทจ็ จริงครอบคลุม ขอ้ เทจ็ จรงิ ครอบคลุม ข้อเทจ็ จรงิ ครอบคลุม เนื้อหา ขอ้ คิดเห็นมีความ เน้อื หา ข้อคดิ เหน็ มคี วาม เน้ือหา ขอ้ คดิ เหน็ มีความ สมเหตุสมผล สรุปชัดเจน สมเหตุสมผล สรปุ สมเหตุสมผล สรุปชัดเจน ชัดเจน ขาดไป ขาดไป 1 รายการ 2 – 3 รายการ ๔. เน้อื หา เนอื้ หาถกู ตอ้ ง ทันสมยั เนือ้ หาถูกตอ้ ง ทนั สมยั เน้อื หาถูกต้อง ทันสมัย เชือ่ ถอื ได้ เนือ้ หาไม่ เชือ่ ถือได้ เนอ้ื หาไม่ เช่อื ถือได้ เนอ้ื หาไม่ กระทบใหผ้ อู้ ื่นเดอื ดรอ้ น กระทบใหผ้ ูอ้ น่ื เดอื ดร้อน กระทบใหผ้ อู้ ่ืนเดอื ดร้อน ขาดไป 1 รายการ ขาดไป 2 – 3 รายการ เกณฑก์ ารประเมิน ช่วงคะแนน ๙ – ๑๒ ระดับคณุ ภาพ ดี ชว่ งคะแนน ๕ – ๘ ระดับคุณภาพ พอใช้ ช่วงคะแนน ตำ่ กว่า ๔ ระดบั คณุ ภาพ ปรบั ปรงุ

๓๔ แบบประเมินความสามารถในการอ่านจบั ใจความ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ โรงเรียน....................................สำนักงานเขตการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน.............................. ................................ ภาคเรียนท่ี.....................ปีการศึกษา ........................................... เร่อื ง....................................................... ประเมนิ คร้งั ที่ ……. วนั ที่ ................... เดอื น .............................................. พ.ศ...................... ___________________________________________________________ คำชแี้ จง ครูประเมินพฤติกรรมของนกั เรยี นในการอ่านจบั ใจความสำคัญ ให้คะแนนลงในช่องท่ตี รงกับ พฤติกรรมของนกั เรียน ตอบคำถามจากเรื่อง ่ีทอ่าน สรปุ ผล บอกความสำ ัคญของเร่ือง ี่ท ่อาน รวม การประเมนิ บอก ้ขอ ิคดจากเรื่อง ่ีทอ่าน เลขที่ ชื่อ-สกลุ แสดงความ ิคดเ ็หนจากเร่ือง ี่ท ่อาน ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๒ ดี พอใช้ ปรับ ปรงุ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ลงชื่อ............................................................ผ้ปู ระเมนิ (.....................................................)

๓๕ รายละเอียดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบประเมินความสามารถในการอา่ นจบั ใจความ (rubrics) กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๔ โรงเรียน.......................................................................... ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศกึ ษา ............ ประเด็นการประเมนิ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ๑.ตอบคำถามจากเร่ืองทอี่ ่าน ๓ ๒๑ ตอบคำถามถูกต้องทกุ ตอบคำถามผดิ ไมเ่ กนิ ๓ ตอบผิดมากกว่า ๓ ข้อ ข้อใน ๕ ขอ้ ข้อ ใน ๕ ข้อ ๒.บอกความสำคญั ของเรือ่ งที่ บอกเนือ้ หาสาระถกู ตอ้ ง บอกเน้อื หาสาระได้ บอกเน้อื หาสาระได้ อ่าน ได้ใจความต่อเน่อื ง ถูกต้อง แต่วกวน บา้ ง ๓. บอกข้อคิดจากเรือ่ งทีอ่ ่าน บอกขอ้ คดิ ไดต้ รง บอกขอ้ คดิ ไดต้ รง บอกข้อคดิ ไดบ้ า้ งแต่ ประเดน็ สมบรู ณ์ ประเด็นแต่ไม่ต่อเนื่อง วกวน ๔. แสดงความคดิ เหน็ จาก เสนอความคิดเห็นดว้ ย เสนอความคิดเห็นได้ เสนอความคิดเหน็ แต่ เรือ่ งทีอ่ ่าน ไม่แสดงเหตุผล เหตผุ ลและเป็น อยา่ งมีเหตุผล ประโยชน์ เกณฑก์ ารประเมนิ ๙ - ๑๒ ระดบั คณุ ภาพ ดี ช่วงคะแนน ๕-๘ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ชว่ งคะแนน ต่ำกว่า ๕ ระดับคณุ ภาพ ปรับปรุง ช่วงคะแนน

๓๖ แบบประเมนิ การอา่ นออกเสยี ง กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียน.................................... สำนกั งานเขตการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน.............................. ................................ ภาคเรียนท่ี.....................ปีการศกึ ษา ........................................... เร่อื ง ....................................................... ประเมินคร้งั ที่ ……. วนั ท่ี ................... เดอื น .............................................. พ.ศ...................... ___________________________________________________________ คำชแี้ จง ครูประเมนิ พฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการอา่ นออกเสยี ง ใหค้ ะแนนลงในชอ่ งที่ตรงกับพฤติกรรมของ นกั เรยี น การ ัจบหนัง ืสอ/พ ิลกหนัง ืสอ/ ่ทาทาง สรปุ ผล ในการอ่าน ่ีท ูถก ้ตอง รวม การประเมิน ่อาน ูถก ้ตองตาม ัอกขรวิธี เลขท่ี ช่ือ-สกุล การเว้นวรรคตอนถูก ้ตอง น้ำเ ีสยงเหมาะสมกับเร่ือง ่ีทอ่าน ไ ่ม ่อาน ้ขาม/เ ิตมคำ/ ู่ตคำ ่อานเ ีสยง ัดงเหมาะสม ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๘ ดี พอใช้ ปรับ ปรงุ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ลงชื่อ............................................................ผู้ประเมิน (.....................................................)

๓๗ รายละเอียดเกณฑก์ ารให้คะแนนแบบประเมนิ การอา่ นออกเสียง (rubrics) กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ โรงเรยี น.......................................................................... ภาคเรียนท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ................... ประเด็นการประเมนิ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๓ ๒๑ ๑.การจับหนังสอื /พลิกหนังสือ/ ลกั ษณะท่าทาง การวาง ลกั ษณะทา่ ทาง การวาง ลักษณะท่าทาง การ ทา่ ทางในการอ่านท่ีถกู ต้อง และการจบั หนังสือ และการจบั หนังสือไม่ วาง และการจบั ถูกต้อง ถูกต้อง ๑ อยา่ ง หนงั สือไม่ถูกตอ้ ง ๒ อย่าง ขึน้ ไป ๒. อา่ นถกู ต้องตามอักขรวิธี อ่านถูกต้องตามอกั ขรวิธี อ่านถูกตอ้ งตามอักขรวธิ ี อา่ นไมถ่ กู ตอ้ งตาม ออกเสียง ร และควบ ออกเสยี ง ร และควบ อกั ขรวิธีออกเสียง ร กล้ำ ร ล ว ชัดเจน กลำ้ ร ล ว ชดั บา้ งไม่ชัด และควบกล้ำ ร ล ว บ้าง ไมช่ ัดเจนเลย ๓. การเว้นวรรคตอนถูกต้อง อา่ นและเวน้ วรรคตอนได้ อ่านเว้นวรรคตอนผิด อ่านเวน้ วรรคตอนผิด ถูกตอ้ งตลอดทั้งเร่อื ง บา้ งเป็นบางครง้ั ตลอดทงั้ เรือ่ งตั้งแต่ ตง้ั แตต่ น้ จนจบ ต้นจนจบเรอ่ื ง ๔. น้ำเสียงเหมาะสมกับเรือ่ งทอ่ี ่าน อ่านเสียงดงั ชดั เจน อ่านเสยี งดังชดั เจน อา่ นเสยี งไมช่ ัดเจน น้ำเสียงเหมาะสมกับ น้ำเสยี งเหมาะสมบ้าง น้ำเสียงไม่เหมาะสม เรอ่ื งท่ีอา่ น เป็นบางคร้ัง กบั เรอ่ื งทอ่ี า่ นตลอด ทงั้ เรือ่ ง ๕. ไมอ่ ่านขา้ ม/เตมิ คำ/ต่คู ำ อา่ นออกเสียงได้ถูกต้อง อา่ นออกเสยี งได้ถูกต้อง อา่ นออกเสียงไม่ ชดั เจนทกุ คำ ทกุ ชดั เจนเป็นบางคำ มีอา่ น ถูกตอ้ ง ไม่ชดั เจน ข้อความ ทุกประโยค ตู่คำ เพ่ิมคำและตคู่ ำเปน็ อ่านข้ามคำ อ่านเพมิ่ บางครง้ั คำ และต่คู ำมาก ๖. อ่านเสยี งดังเหมาะสม อา่ นเสยี งดงั ชัดเจน ได้ อ่านเสียงดังบ้างเปน็ อ่านเสียงเบา ได้ยิน ยินทวั่ ถึงกับทง้ั ห้อง เสยี ง บางครั้ง เสยี งไม่ ไม่ทวั่ ถงึ ดงั สมำ่ เสมอ สม่ำเสมอ เกณฑก์ ารประเมนิ ๑๔- ๑๘ ระดับคณุ ภาพ ดี ช่วงคะแนน ๘–๑๒ ระดับคุณภาพ พอใช้ ชว่ งคะแนน ต่ำกว่า ๘ ระดบั คณุ ภาพ ปรบั ปรงุ ชว่ งคะแนน

๓๘ แบบสังเกตความสนใจและความต้ังใจในการทำกิจกรรมของนักเรยี น ช่อื นกั เรียน....................................................................ชนั้ ..................... กจิ กรรม......................................................................วันท่ี ............................................... รายการ ปฏิบตั ิ ไมป่ ฏิบตั ิ ๑. เริม่ ต้นงานที่ได้รบั มอบหมายทันที ๒. ทำงานเสร็จเรยี บรอ้ ยตามเวลาท่กี ำหนด ๓. ขอคำแนะนำจากครูหรอื เพอื่ นเมื่อไม่เข้าใจ ๔. ทำกิจกรรมดว้ ยความสนกุ สนานและเต็มใจ ๕. มีสว่ นรว่ มในการทำกจิ กรรมอย่างสม่ำเสมอ ๖. ช่วยเหลอื แนะนำเพ่อื นในการทำกจิ กรรมตามสมควร ๗. สนใจศกึ ษาหาความร้เู พม่ิ เตมิ ดว้ ยตนเอง รวมคะแนน หมายเหตุ เกณฑ์การผา่ นการทำกิจกรรมจากแบบสงั เกต ดังน้ี ปฏบิ ตั ไิ ด้ ๕ – ๗ รายการ ผลการประเมนิ อยู่ในระดบั ดี ปฏิบตั ไิ ด้ ๓ – ๔ รายการ ผลการประเมินอยูใ่ นระดบั พอใช้ ปฏิบัตไิ ด้ ๐ – ๒ รายการ ผลการประเมนิ ควรปรับปรุง

๓๙ รายละเอยี ดเกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบประเมินการอ่านออกเสียงและเขยี นคำศพั ท์ (rubrics) กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๔ โรงเรยี น.......................................................................... ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศึกษา ............ ประเด็นการประเมิน ๓ เกณฑ์การให้คะแนน ๑ ๑.ความถูกตอ้ งในการอา่ น สามารถอา่ นไดถ้ ูกตอ้ ง ๒ พยายามอ่านได้บ้าง ทั้งหมด ผิดมากกวา่ 3คำ สามารถอ่านไดเ้ กอื บ ถูกต้องทงั้ หมดผดิ ไม่เกนิ 3 คำ ๒.คุณลักษณะ มคี วามมน่ั ใจในการอา่ น มีความมน่ั ใจในการอ่าน ขาดความมน่ั ใจใน (มคี วามมนั่ ใจในการอ่าน ) ดี มกี ารเตรียมตัวมา พอใช้ เตรียมตวั มาอย่าง ตนเองเตรยี มตวั มา อยา่ งดี ม่ันใจตนเอง ดยี งั ประหม่า บ้างแต่ไม่มากนกั ๓. การสะกดคำศพั ท์ การสะกด การสะกด สะกดคำผิดมาก คำศพั ท์ถกู ต้อง คำศพั ท์ผิดเลก็ น้อย ๕. อธิบายความหมายของ อธิบายความหมายได้ อธิบายความหมายได้ อธบิ ายความหมาย คำศัพท์ ถกู ตอ้ งสมบรู ณ์ เกือบถูกตอ้ ง ไม่ได้ เกณฑก์ ารประเมนิ ๙ – ๑๒ ระดบั คุณภาพ ดี ชว่ งคะแนน ๕–๘ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ช่วงคะแนน ช่วงคะแนน ตำ่ กวา่ ๕ ระดบั คณุ ภาพ ปรับปรุง

๔๐ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ช่ือ-สกุล............................................................ช้นั .......เลขท่ี..... คำชี้แจง :ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี น แล้วขดี ✓ลงในช่องทตี่ รงกบั ระดับคะแนน สมรรถนะด้าน รายการประเมิน ระดบั คุณภาพ ดี (๓) พอใช้ (๒) ปรับปรงุ (๑) ๑. ความสามารถใน ๑.๑ มคี วามสามารถในการรับ – ส่งสาร การส่ือสาร ๑.๒ มคี วามสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม ๑.๓ ใช้วิธีการส่ือสารทเี่ หมาะสม ๑.๔วเิ คราะหแ์ สดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตผุ ล ๑.๕เขยี นบันทกึ เหตุการณป์ ระจำวันแล้วเล่าใหเ้ พอ่ื นฟงั ได้ สรุป ๒. ความสามารถ ๒.๑ มคี วามสามารถในการคิดวเิ คราะห์ สังเคราะห์ ในการคดิ ๒.๒ มีทกั ษะในการคิดนอกกรอบอย่างสรา้ งสรรค์ ๒.๓ สามารถคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ ๒.๔มีความสามารถในการคดิ อยา่ งมีระบบ ๒.๕ตัดสนิ ใจแก้ปัญหาเกย่ี วกับตนเองได้ สรปุ ๓. ความสามารถใน ๓.๑สามารถแกป้ ัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ทเี่ ผชญิ ได้ การแก้ปัญหา ๓.๒ใชเ้ หตผุ ลในการแกป้ ัญหา ๓.๓เขา้ ใจความสมั พันธแ์ ละการเปล่ียนแปลงในสังคม ๓.๔แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ความรู้มาใชใ้ น การปอ้ งกันและแกไ้ ขปัญหา ๓.๕สามารถตัดสินใจไดเ้ หมาะสมตามวัย สรุป ๔. ความสามารถใน ๔.๑เรียนรดู้ ้วยตนเองได้เหมาะสมตามวยั การใช้ทกั ษะ ๔.๒สามารถทำงานกล่มุ รว่ มกบั ผอู้ น่ื ได้ ชีวิต ๔.๓นำความรทู้ ีไ่ ดไ้ ปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจำวนั ๔.๔จดั การปัญหาและความขัดแยง้ ได้เหมาะสม ๔.๕หลกี เล่ียงพฤตกิ รรมไม่พึงประสงค์ท่ีสง่ ผลกระทบตอ่ ตนเอง สรุป ๕. ความสามารถ ๕.๑เลอื กและใชเ้ ทคโนโลยีไดเ้ หมาะสมตามวยั ในการใช้ ๕.๒มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เทคโนโลยี ๕.๓สามารถนำเทคโนโลยไี ปใช้พฒั นาตนเอง ๕.๔ใชเ้ ทคโนโลยีในการแก้ปญั หาอยา่ งสรา้ งสรรค์ ๕.๕มคี ุณธรรม จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี สรุป สรปุ ผลการประเมนิ **หมายเหตปุ ระเมนิ ในรายการท่ีเป็นแถบสเี ทา หรอื ประเมนิ รายการอืน่ เพิม่ เตมิ ตามความเหมาะสม

๔๑ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๘ ประการ ช่ือ-สกลุ นกั เรียน...........................................................................ห้อง..............................เลขท่ี....................... ใหผ้ ู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี น แล้วขีด ✓ ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดับคะแนน คำช้แี จง: คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อันพึงประสงค์ ๓๒๑ ๑. รกั ชาติ ศาสน์ ๑.๑ มีความรกั และภมู ใิ จในความเป็นชาติ ๑.๒ ปฏบิ ัติตนตามหลกั ของศาสนา กษัตรยิ ์ ๑.๓ แสดงออกถงึ ความจงรักภกั ดีต่อสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ ๒.ซื่อสัตยส์ จุ รติ ๒.๑ ปฏิบตั ิตามระเบียบการสอน และไมล่ อกการบา้ น ๒.๒ ประพฤติ ปฏบิ ัติ ตรงตอ่ ความเป็นจรงิ ต่อตนเอง ๒.๓ ประพฤติ ปฏิบัตติ รงตอ่ ความเป็นจรงิ ต่อผอู้ ื่น ๓. มวี ินยั ๓.๑ เขา้ เรยี นตรงเวลา ๓.๒ แตง่ กายเรียบร้อยเหมาะสมกบั กาลเทศะ ๓.๓ ปฏิบัติตามกฎระเบียบของห้อง ๔. ใฝห่ าความรู้ ๔.๑ แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งเรียนรตู้ า่ งๆ ๔.๒ มีการจดบันทกึ ความรอู้ ย่างเปน็ ระบบ ๔.๓ สรปุ ความรู้ไดอ้ ย่างมีเหตผุ ล ๕.๑ ใช้ทรัพยส์ นิ และสง่ิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยดั ๕.อยู่อยา่ งพอเพียง ๕.๒ ใช้อปุ กรณก์ ารเรยี นอย่างประหยัดและรู้คุณค่า ๕.๓ ใช้จา่ ยอย่างประหยัดและมีการเกบ็ ออมเงิน ๖. มุ่งมนั่ ในการ ๖.๑ มคี วามต้ังใจ และพยายามในการทำงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย ทำงาน ๖.๒มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพือ่ ใหง้ านสำเร็จ ๗.รกั ความเปน็ ไทย ๗.๑ มีจติ สำนกึ ในการอนรุ กั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย ๗.๒ เหน็ คุณค่าและปฏิบตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย ๘.มจี ิตสาธารณะ ๘.๑ รจู้ ักการใหเ้ พอื่ สว่ นรวม และเพอื่ ผู้อ่ืน ๘.๒ แสดงออกถงึ การมีนำ้ ใจหรือการให้ความชว่ ยเหลือผอู้ ่ืน ๘.๓ เขา้ รว่ มกจิ กรรมบำเพ็ญตนเพ่ือส่วนรวมเมื่อมีโอกาส ลงชือ่ ......................................................................ผู้ประเมิน (.....................................................................) ........... /................................/....................... เกณฑ์การใหค้ ะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏิบตั ชิ ดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ ๓ คะแนน - พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัติชดั เจนและบอ่ ยครัง้ ให้ ๒ คะแนน - พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั ิบางคร้งั ให้ ๑ คะแนน **หมายเหตุประเมินในรายการทีเ่ ปน็ แถบสเี ทา หรือประเมินรายการอื่นเพมิ่ เติมตามความเหมาะสม

๔๒ แบบประเมนิ การเขยี นแผนภาพโครงเร่อื ง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียน.................................... สำนักงานเขตการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน.............................. ................................ ภาคเรยี นท่ี.....................ปกี ารศกึ ษา ........................................... เร่ือง ....................................................... ประเมินครงั้ ท่ี ……. วนั ท่ี ................... เดอื น .............................................. พ.ศ...................... ___________________________________________________________ คำช้แี จง ครูประเมินพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเขียนแผนภาพโครงเรื่อง ใหค้ ะแนนลงในช่องทีต่ รงกับ พฤติกรรมของนักเรยี น การออกแบบแผนภาพโครงเรื่องไ ้ด ีด สรปุ ผล ลำ ัดบเ ่ืรอง/เห ุตการ ์ณไ ้ด ีด รวม การประเมนิ เ ีขยนไ ้ดครบ ้ถวน/ครอบค ุลม เลขที่ ช่อื -สกลุ ใ ้ชภาษา ื่สอสารไ ้ด ีด นำเสนอผลงานไ ้ด ีด ทำงานไ ้ด ัทนเวลา ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๘ ดี พอใช้ ปรับ ปรงุ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ลงชื่อ............................................................ผปู้ ระเมนิ (.....................................................)

๔๓ รายละเอยี ดเกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบประเมินการเขียนแผนภาพโครงเรอื่ ง (rubrics) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ โรงเรยี น.......................................................................... ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศกึ ษา ............ ประเดน็ การประเมนิ ๓ เกณฑก์ ารให้คะแนน ๑ ๑.การออกแบบแผนภาพโครงเรื่อง ออกแบบแผนภาพโครง ๒ ออกแบบแผนภาพ ได้ดี เรอ่ื งได้ดีและสร้างสรรค์ โครงเร่อื งไดไ้ มด่ ี ออกแบบแผนภาพโครง เรือ่ งไดด้ ี ๒. ลำดับเรื่อง/เหตกุ ารณไ์ ดด้ ี ลำดบั เรื่องเหตกุ ารณไ์ ด้ดี ลำดบั เรือ่ งเหตุการณ์ไดด้ ี ลำดบั เร่อื งไมด่ ี สลบั ไมส่ ลบั วกวนไปมา แต่มสี ลับที่บ้าง วกวนไปมา ๓. เขยี นไดค้ รบถว้ น/ครอบคลมุ เขียนไดค้ รบถวั นครอบ เขยี นได้ครบถ้วนแต่ไม่ เขียนไม่ครบถว้ นไม่ ๔. ใช้ภาษาสอ่ื สารได้ดี ๕. นำเสนอผลงานได้ดี คลมุ ตอ่ เน่อื ง ต้ังแตต่ ้น ตอ่ เนื่อง ตอ่ เน่ือง ๖. ทำงานได้ทนั เวลา จนจบ ใช้ภาษาสอื่ สารในการ ใชภ้ าษาเขียนส่อื สารได้ดี ใช้ภาษาส่อื สารไม่ เขียนได้ดี ทำใหเ้ ข้าใจสง่ิ แตม่ ีข้อบกพร่องในบาง ชัดเจน ทสี่ ่ือสารอยา่ งชดั เจน ประเดน็ นำเสนอผลงานไดด้ มี าก นำเสนอผลงานได้ดี แต่ นำเสนอผลงานไม่ดี มคี วามครบถว้ นทุก ไม่ครบสมบูรณ์ ประเดน็ ครบสมบูรณ์ ตั้งแต่ตน้ จนจบเรอ่ื ง ทำงานได้ทนั ตามเวลา ทำงานเกินเวลาเลก็ นอ้ ย ทำงานเกนิ เวลาไป กำหนด มาก เกณฑก์ ารประเมนิ ๑๔ – ๑๘ ระดบั คณุ ภาพ ดี ช่วงคะแนน ๘ – ๑๒ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ต่ำกวา่ ๘ ระดับคุณภาพ ปรับปรุง ช่วงคะแนน ช่วงคะแนน

๔๔ แบบสังเกตพฤติกรรมการเลา่ ขา่ ว คำช้แี จง ให้ทำเคร่ืองหมาย / ลงในช่องรายการสังเกตพฤติกรรมทีก่ ำหนดให้ รายการสงั เกต ชื่อ - สกลุ เลข ่ีท ้ขันตอนการนำเสนอ ่ขาว สาระสำ ัคญของข่าว ุบค ิลกภาพ ่ทาทาง ในการเ ่ลา ่ขาว สรุปผลการประเ ิมน ๓ ๒ ๑๓ ๒ ๑๓ ๒ ๑ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ระดับคณุ ภาพ 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรับปรงุ เกณฑ์การผา่ น นักเรียนต้องได้ระดบั คุณภาพ 2 ขน้ึ ไป ทุกพฤตกิ รรมจงึ ถอื วา่ ผา่ น (ลงชื่อ) ผูป้ ระเมิน/ครผู สู้ อน (................................................)

๔๕ บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1) สรุปผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. นักเรียนจำนวน..................คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นร.ู้ .....................คน คิดเป็นร้อยละ.................. ไม่ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู้..................คน คดิ เป็นร้อยละ.................. นักเรียนนไ่ี มผ่ า่ น มีดังน้ี 1............................................. 2......................................................... 3............................................. 4......................................................... แนวทางแก้ไขนักเรยี นทไี่ มผ่ า่ นจดุ ประสงค์การเรียนรู้................................................................... ...................................................................................................................................................... 2. นกั เรียนมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ (K) ...................................................................................................................................................... 3. นักเรยี นมคี วามร้เู กิดทักษะ (P) ...................................................................................................................................................... 4. นักเรยี นมเี จตคติ คา่ นิยม คุณธรรมจริยธรรม (A) ...................................................................................................................................................... 2) ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแกไ้ ข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 3) ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชื่อ.................................................. (นางอรวรรณ ปานจำรูญ) ตำแหน่งครู ความเหน็ ของหัวหน้าสถานศกึ ษา/ผู้ท่ีไดร้ ับมอบหมาย ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ................................................................แล้วมีความเหน็ ดังน้ี 1. เปน็ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ 2. การจดั กจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้  เนน้ ผูเ้ รยี นเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม  ยังไมเ่ นน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป 3. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ที่  นำไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้ 4. ขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื .................................................. (นางสาวกันยาภทั ร ภัทรโสตถิ) ผ้อู ำนวยการโรงเรียนวดั พชื นิมติ (คำสวสั ด์ิราษฎร์บำรงุ )

๔๖


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook