Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่มที่ 1

เล่มที่ 1

Published by aeufo06, 2021-09-13 02:17:45

Description: เล่มที่ 1

Search

Read the Text Version

ชดุ แบบฝกึ ทักษะภาษาไทย เรื่องอา่ นวนิ ิจสาร ก กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย เลม่ ท่ี ๑ การอ่านวเิ คราะหค์ วามหมายของคา ชุดแบบฝกึ ทักษะภาษาไทย เร่ืองอ่านวินิจสาร กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จัดทาข้ึน เพ่ือใช้ใน การฝึกทักษะการอ่านเพ่ือวเิ คราะห์วิจารณ์ ให้กับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ได้เกิดการเรียนรู้และฝึกทักษะ การอา่ นคิดวิเคราะห์วจิ ารณอ์ ยา่ งเป็นขั้นตอนผ่านกระบวนการจัดการ เรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ซึ่งจะทา ให้นักเรียนสามารถคิดวิเคราะห์วิจารณ์ได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน มีเหตุผล นาความรู้ที่ได้ไประยุกต์ใช้ให้เกิด ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน ชุดแบบฝกึ ทกั ษะภาษาไทย เรื่องอ่านวินจิ สาร ประกอบดว้ ยแบบฝกึ ทักษะ จานวน ๕ เล่ม ดังน้ี เลม่ ที่ ๑ การอา่ นวิเคราะห์ความหมายของคา เล่มท่ี ๒ การอ่านจบั ใจความสาคัญ เลม่ ที่ ๓ การอ่านเพอื่ วเิ คราะหว์ ิจารณ์และแสดงความคิดเห็น เลม่ ที่ ๔ การอ่านประเมนิ คุณคา่ เล่มท่ี ๕ การแสดงความคดิ เห็นโตแ้ ยง้ แบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อวิเคราะห์วิจารณ์ เล่มท่ี ๑ การอ่านวิเคราะห์ความหมายของคา เน้นให้ ผ้เู รียนไดเ้ ขา้ ใจความหมาย ประโยชนข์ อง การอา่ นวเิ คราะห์ความหมายของคา ระบุความแตกต่างของคาที่มี ความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัยได้ เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้สาหรับการอ่านวินิจสาร ของชุด แบบฝกึ ทกั ษะเล่มต่อไป ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่า ชุดแบบฝึกทักษะภาษาไทย เร่ืองอ่านวินิจสาร สาหรับนักเรียนช้ัน มธั ยมศึกษา,ปที ี่ ๓ เล่มน้ี จะเป็นแนวทางในการพัฒนาทักษะการอ่านวินิจสาร ให้กับผู้เรียนได้ตามเจตนารมณ์ ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน และเป็นประโยชน์ต่อการจัดกระบวนการเรียนรู้สาหรับครูผู้สอน กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ใหม้ ี ประสิทธภิ าพ ดียงิ่ ข้นึ ตอ่ ไป ลัทธพล ยวนยี จดั ทาโดย นายลัทธพล ยวนยี ตาแหน่งครผู ู้ช่วย โรงเรยี นบ้านโคกกร่าง อาเภอตาคลี จังหวดั นครสวรรค์

ชดุ แบบฝกึ ทักษะภาษาไทย เรื่องอา่ นวนิ ิจสาร ก กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย เลม่ ท่ี ๑ การอ่านวเิ คราะหค์ วามหมายของคา ชุดแบบฝกึ ทักษะภาษาไทย เร่ืองอ่านวินิจสาร กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จัดทาข้ึน เพ่ือใช้ใน การฝึกทักษะการอ่านเพ่ือวเิ คราะห์วิจารณ์ ให้กับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ได้เกิดการเรียนรู้และฝึกทักษะ การอา่ นคิดวิเคราะห์วจิ ารณอ์ ยา่ งเป็นขั้นตอนผ่านกระบวนการจัดการ เรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ซึ่งจะทา ให้นักเรียนสามารถคิดวิเคราะห์วิจารณ์ได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน มีเหตุผล นาความรู้ที่ได้ไประยุกต์ใช้ให้เกิด ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน ชุดแบบฝกึ ทกั ษะภาษาไทย เรื่องอ่านวินจิ สาร ประกอบดว้ ยแบบฝกึ ทักษะ จานวน ๕ เล่ม ดังน้ี เลม่ ที่ ๑ การอา่ นวิเคราะห์ความหมายของคา เล่มท่ี ๒ การอ่านจบั ใจความสาคัญ เลม่ ที่ ๓ การอ่านเพอื่ วเิ คราะหว์ ิจารณ์และแสดงความคิดเห็น เลม่ ที่ ๔ การอ่านประเมนิ คุณคา่ เล่มท่ี ๕ การแสดงความคดิ เห็นโตแ้ ยง้ แบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อวิเคราะห์วิจารณ์ เล่มท่ี ๑ การอ่านวิเคราะห์ความหมายของคา เน้นให้ ผ้เู รียนไดเ้ ขา้ ใจความหมาย ประโยชนข์ อง การอา่ นวเิ คราะห์ความหมายของคา ระบุความแตกต่างของคาที่มี ความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัยได้ เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้สาหรับการอ่านวินิจสาร ของชุด แบบฝกึ ทกั ษะเล่มต่อไป ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่า ชุดแบบฝึกทักษะภาษาไทย เร่ืองอ่านวินิจสาร สาหรับนักเรียนช้ัน มธั ยมศึกษา,ปที ี่ ๓ เล่มน้ี จะเป็นแนวทางในการพัฒนาทักษะการอ่านวินิจสาร ให้กับผู้เรียนได้ตามเจตนารมณ์ ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน และเป็นประโยชน์ต่อการจัดกระบวนการเรียนรู้สาหรับครูผู้สอน กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ใหม้ ี ประสิทธภิ าพ ดียงิ่ ข้นึ ตอ่ ไป ลัทธพล ยวนยี จดั ทาโดย นายลัทธพล ยวนยี ตาแหน่งครผู ู้ช่วย โรงเรยี นบ้านโคกกร่าง อาเภอตาคลี จังหวดั นครสวรรค์

ชดุ แบบฝกึ ทักษะภาษาไทย เรอ่ื งอา่ นวนิ จิ สาร ข กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย เล่มท่ี ๑ การอ่านวเิ คราะห์ความหมายของคา เร่อื ง หนา้ คานา ก สารบัญ ข คาแนะนาสาหรบั ครูผู้สอน ค คาแนะนาสาหรับนกั เรียน ง มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชว้ี ัด และจดุ ประสงค์การเรียนรู้ จ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ๑ กระดาษคาตอบแบบทดสอบกอ่ นเรียน ๓ ใบความรู้ เรอ่ื ง คาทีม่ คี วามหมายโดยตรงและโดยนัย ๔ แบบฝกึ ทกั ษะที่ ๑ เรื่อง ความหมายของคา ๕ แบบฝกึ ทักษะที่ ๒ เรอ่ื ง ความหมายของคา ๖ ภาคผนวก ๘ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน ๙ เฉลยแบบฝึกทกั ษะท่ี ๑ เรอื่ ง ความหมายของคา ๑๐ เฉลยแบบฝกึ ทกั ษะที่ ๒ เรอ่ื ง ความหมายของคา ๑๑ จัดทาโดย นายลทั ธพล ยวนยี ตาแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย โรงเรียนบา้ นโคกกรา่ ง อาเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์

ชดุ แบบฝกึ ทักษะภาษาไทย เรือ่ งอา่ นวินจิ สาร ค กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย เล่มที่ ๑ การอา่ นวิเคราะหค์ วามหมายของคา ๑. ชุดแบบฝึกทักษะภาษาไทย เรือ่ งอา่ นวินิจสาร ใช้เวลา ๗ ชัว่ โมง ๒. ครผู ้สู อนจัดเตรียมแบบฝึกทักษะใหเ้ พียงพอกับจานวนนกั เรียน ๓. แจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ใหน้ ักเรียนทราบ ๔. แนะนาวิธีการใชแ้ บบฝึกเพ่อื นกั เรยี นจะไดปฏบิ ัตไิ ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ๕. ให้นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนเพอ่ื ประเมินความรเู้ ดิม ๖. ดาเนินกิจกรรมการสอนตาม ชุดแบบฝกึ ทกั ษะภาษาไทย เรือ่ งอ่านวินิจสาร ๗. ให้นักเรียนไดแ้ สดงความคดิ เหน็ อภิปรายและสรุปองคค์ วามรูด้ ว้ ยตนเอง ๘. หากนกั เรยี นมีข้อสงสยั ให้แนะนาเปน็ รายบุคคลหรอื รายกลุ่ม ๙. ใหน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น เพ่อื ประเมินความกา้ วหน้า ๑๐. ครเู ฉลยแบบฝึกทกั ษะ แบบทดสอบกอ่ นเรียน – หลังเรียน ๑๑. บันทึกคะแนนของนักเรยี นแต่ละคนเพ่อื ประเมนิ ความกา้ วหนา ๑๒. หากมีนกั เรียนไมผ่ ่านเกณฑค์ รคู วรจดั สอนซ่อมเสรมิ ให้ ขอ้ สังเกต ชุดแบบฝึกทักษะภาษาไทย เร่ืองอ่านวินิจสาร บางแบบฝึกเป็น คาถามปลายเปิด ดังน้ันแนวการเขียนตอบแสดงความคิดเห็นของนักเรียน ครูผูส้ อนควรใช้ดลุ ยพนิ ิจในการตรวจคาตอบ เมื่อตรวจแล้วควรแจ้งให้นักเรียน ทราบผลทันที เพ่ือนักเรียนจะได้มีกาลังใจและครูจะได้นาไปพัฒนาการจัดการ เรียนการสอนตอ่ ไป จัดทาโดย นายลทั ธพล ยวนยี ตาแหนง่ ครูผูช้ ่วย โรงเรยี นบา้ นโคกกรา่ ง อาเภอตาคลี จงั หวดั นครสวรรค์

ชดุ แบบฝึกทกั ษะภาษาไทย เร่อื งอา่ นวินจิ สาร ง กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย เล่มที่ ๑ การอา่ นวเิ คราะหค์ วามหมายของคา ๑. ศกึ ษาจดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๒. ทาแบบทดสอบก่อนเรียน จานวน ๑๕ ข้อ ในเวลา ๒๐ นาที ๓. ศกึ ษากรอบเนื้อหาในใบความรู้ ๔. ทากจิ กรรมทีก่ าหนดให้ครบทกุ กจิ กรรม ๕. บนั ทกึ คะแนนของตนเองเพื่อเปรียบเทยี บความก้าวหน้าในการเรยี น ๖. นกั เรยี นต้องมีความชอื่ สตั ย์ ไม่แอบดเู ฉลยกอ่ นทา ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะภาษาไทย เรื่องอ่านวินจิ สาร “ความซ่ือสต้ ย์ คอื แก่นแทข้ องความสาเรจ็ ท้ังมวล” บคั มนิ สเตอร์ ฟลู เลอร์ จัดทาโดย นายลทั ธพล ยวนยี ตาแหนง่ ครูผูช้ ่วย โรงเรยี นบ้านโคกกร่าง อาเภอตาคลี จงั หวดั นครสวรรค์

ชุดแบบฝึกทักษะภาษาไทย เรอื่ งอ่านวินิจสาร จ กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย เลม่ ที่ ๑ การอา่ นวเิ คราะหค์ วามหมายของคา มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคดิ เพื่อนาไปใชต้ ัดสินใจ แกป้ ัญหาใน การดาเนินชวี ติ และมนี ิสัยรกั การอา่ น ตัวช้ีวัด ม.3/2 ระบุความแตกตา่ งของคาท่มี คี วามหมายโดยตรงและความหมายโดยนัย สาระสาคัญ การอ่านจบั ใจความจากสารคดี ผอู้ า่ นต้องระบุความแตกตา่ งของคาท่มี ีความหมายโดยตรงและ ความหมายโดยนัย จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - ระบุความแตกต่างของคาท่มี ีความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัยได้ สาระการเรียนรู้ - การอา่ นจบั ใจความจากสื่อตา่ งๆ เชน่ - สารคดี จัดทาโดย นายลทั ธพล ยวนยี ตาแหน่งครูผู้ช่วย โรงเรยี นบ้านโคกกร่าง อาเภอตาคลี จังหวดั นครสวรรค์

ชุดแบบฝกึ ทกั ษะภาษาไทย เรื่องอา่ นวนิ ิจสาร ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย เล่มที่ ๑ การอา่ นวิเคราะห์ความหมายของคา คาช้แี จง ให้นกั เรยี นเลือกคาตอบทถี่ กู ต้องที่สดุ เพียงข้อเดยี ว ๗. ขอ้ ความใดมีคณุ คา่ ทางวรรณศลิ ป์ ๑ ข้อใดกล่าวถงึ การอ่านวิจารณไ์ ด้ถกู ตอ้ งทส่ี ดุ ก. เพลงโบราณผา่ นแผว่ ยงั แว่วหวาน ก. จบั ใจความสาคัญ ข. จบั ผิดหาข้อบกพรอ่ ง แม่ขบั ขานกานต์กลอ่ มอ้อมอกอุ่น ค. หาความร้แู ละแนวคิดของเรอ่ื ง ง. พิจารณาลกั ษณะความคดิ และประเมินคา่ ของเรอ่ื ง ในอูผ่ า้ ขาวม้าพ่อกรอการณุ ย์ ๒. บุคคลในขอ้ ใดท่ีอ่านหนังสอื แลว้ วเิ คราะห์สารของเรอื่ ง สรรเสรญิ บญุ คุณใดเทยี บเปรยี บปาน ก. แพรว อา่ นแล้วแยกส่วนตา่ งๆ ของเรื่อง ข. พรง้ิ อา่ นแล้วสรปุ ใจความสาคญั ของเร่ือง ข. แมด่ งั ธารรินใสไม่สน้ิ สาย ค. แพร อ่านเพือ่ จบั ผดิ และหาขอ้ บกพรอ่ งของเรอ่ื งที่อา่ น ง. พราว อา่ นแลว้ แสดงความคิดเห็นตอ่ เรอื่ งทีอ่ ่านทุกดา้ น อนุ่ ใจกายดวงจติ เมื่อคิดถึง ๓. ข้อใดไมใ่ ชข่ ้นั ตอนของการอ่านวเิ คราะห์ วิจารณ์ และแสดงความคดิ เหน็ แม่ก็คงห่วงใยใฝ่คะนงึ ก. บอกพมิ พลกั ษณข์ องหนังสอื ข. วเิ คราะห์เนือ้ เรือ่ งในด้านต่างๆ ต่างรดั รึงสายสัมพนั ธ์อนั งดงาม ค. บอกประเภทและจดุ ม่งุ หมายของเรอ่ื ง ง. กลา่ วถึงบริบททเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั เรอื่ งทีอ่ ่าน ค. บา้ นเรานนั้ ขัดสนแสนจนยาก ๔. ขอ้ ใดปฏบิ ัติถูกต้องตามหลักการประเมนิ คา่ ของเรอ่ื งทอี่ ่าน ถงึ ลาบากแมน่ น้ั สฟู้ ันฝ่า ก. มาลา อา่ นทาความเขา้ ใจ สรปุ ความ พจิ ารณาคณุ คา่ ข. มาลี อ่านทาความเขา้ ใจ ตคี วาม วิเคราะห์เน้ือหา เหน็ ลกู นอ้ ยมีสุขในทุกครา พจิ ารณาคุณคา่ งานเขยี น ค. มาลัย อ่านทาความเขา้ ใจ ตอบคาถาม ตีความ แม่กย็ ิม้ ปรดี าพาชื่นใจ พิจารณาคณุ ค่าของงานเขียน ง. มาดา อา่ นตคี วาม สรปุ ความ วิเคราะห์แนวคิด ง. เติบโตใหญ่ในวันนี้เพราะมแี ม่ และเนอ้ื หา พจิ ารณาคุณคา่ ของงานเขยี น หอมรกั แทก้ ร่นุ กลนิ่ ไมส่ น้ิ สาย ๕. ขอ้ ใดไม่ใชล่ ักษณะของคาที่มีความหมายโดยตรง ก. คาทใี่ ชใ้ นการส่ือสารท่วั ไป แม่สอนลกู รักลกู จวบวันตาย ข. คาท่มี ีความหมายตรงตามอักษร ค. คาทมี่ ีความหมายตามพจนานกุ รมกาหนด ประทับใจไม่คลอนคลายอยู่ชั่วกาล ง. คาท่ีมีความหมายเชือ่ มโยงจากสงิ่ หนึ่งไปหาสิง่ หน่งึ ๘. “การอ่านเพ่ืออธบิ ายว่า สารท่ีอ่านดหี รือไม่ อยา่ งไร ๖. ขอ้ ใดไมใ่ ช่หลักการวิเคราะห์ความหมายของคา ก. พจิ ารณาจากรปู คา มขี อ้ บกพร่องอย่างไร” เปน็ ลกั ษณะของการอ่านประเภทใด ข. พิจารณาจากบริบท ค. พจิ ารณาจากสานวนโวหาร ก. วเิ คราะห์ ข. วิจารณ์ ง. พจิ ารณาจากน้าเสยี งและสีหน้าประกอบ ค. ประเมนิ ค่า ง. ทาความเขา้ ใจ อ่านขอ้ ความต่อไปนี้ แล้วตอบคาถามขอ้ 9-10 คาถามท่ี 1 เก่ยี วกบั ตวั เราเอง ถามว่า ปยู่ ่าตายายเรา พ่อแม่เรา หรือหลักสตู รทโ่ี รงเรยี นเรา เคยสอนเราเกย่ี วกบั การรบั มอื ภยั ธรรมชาติ อาทิ อุทกภัย วาตภยั หรือไม่ คาตอบคือ ไมม่ ี ไม่เคย ไมค่ ่อยสอน วชิ าสังคมศกึ ษาสอนเราวา่ “เมอื งไทยของเราน้แี สนดี หนักหนา โชคดกี วา่ ภยั ธรรมชาติแบบประเทศอ่ืน ไมม่ ีแผ่นดินไหวแบบหมเู่ กาะ ญป่ี ุ่น ไมม่ นี ้าทว่ มใหญแ่ บบแมน่ า้ หวางเหอ ไมม่ เี ฮอริเคน แบบอ่าวเม็กซโิ ก” ๙. ผเู้ ขยี นข้อความนี้ตอ้ งการต้องการนาเสนอเร่ืองราวใด ก. หลักสตู ร ข. ภัยธรรมชาติ ค. การเตรยี มรบั ภัยธรรมชาติ ง. การป้องกนั ภยั ธรรมชาตทิ ่เี กดิ ขน้ึ จดั ทาโดย นายลทั ธพล ยวนยี ตาแหนง่ ครผู ชู้ ่วย โรงเรยี นบ้านโคกกร่าง อาเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์

ชุดแบบฝกึ ทักษะภาษาไทย เร่ืองอ่านวินิจสาร ๒ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย เล่มท่ี ๑ การอา่ นวิเคราะหค์ วามหมายของคา คาช้แี จง ให้นักเรยี นเลือกคาตอบทถี่ ูกตอ้ งท่ีสดุ เพยี งขอ้ เดยี ว ๑๐. ใครเปน็ ผทู้ นี่ าแนวคดิ น้ไี ปใชป้ ระโยชนม์ ากทสี่ ดุ ๑๓. ขอ้ ใดเป็นขอ้ คดิ เหน็ ก. ครู ก. เขาจะใหเ้ ราเอารปู ไปใสใ่ นแสตมปท์ ี่ระลึกของงาน ข. ผ้จู ดั ทาหลกั สูตรการศกึ ษา อภิเษกได้ด้วย ค. รัฐมนตรีกระทรวงศกึ ษาธิการ ข. เราไปอยู่ทส่ี ถานท่ที ีเ่ ขาจดั ใหส้ อื่ จากทวั่ โลกมายนื อยู่ ง. นกั วชิ าการจากทุกหนว่ ยงาน ดว้ ยกนั อ่านขอ้ ความตอ่ ไปน้ี แลว้ ตอบคาถาม ข้อ 11-13 ค. ใครอยากได้มุมไหนกย็ นื ตามอธั ยาศยั เพียงแตใ่ หอ้ ยู่ วนั น้นั ฉันและพ่ลี งิ ใส่ชดุ ประจาชาติของภูฏาน ผหู้ ญิงจะเรียกวา่ ครี ่า ในเขตทบ่ี อกเทา่ น้ัน ผู้ชายเรยี กว่า โค เราซอื้ ตั้งแตว่ ันแรกทม่ี าถงึ ทร่ี า้ นมีใหเ้ ลอื กจนลายตาไปหมด ง. เรามขี องขวัญเปน็ หุ่นกระบอกใสช่ ดุ ไทยสวยงาม วิจิตรบรรจงอยู่ คนขายกับคนมาซอ้ื ต่างมาช่วยฉันแตง่ ตวั กันใหญเ่ ลย ในใจคิดวา่ แลว้ วนั แต่ง ในตู้กระจก จรงิ ๆ ใครจะใสใ่ ห้ มองดทู ีมงานแลว้ อาการไม่ตา่ งกนั สดุ ท้ายนางเอกทม่ี าช่วย อ่านขอ้ ความต่อไปนี้ แล้วตอบคาถาม ขอ้ 14-15 เราคือ เหลา่ แม่บา้ นที่โรงแรมน่ันเอง เร่ืองของความหน้าใหญข่ องผูห้ ลกั ผใู้ หญใ่ นแดนอิเหนากส็ รา้ งความราคาญ ดพู วกเขาพึงพอใจท่เี หน็ เราใสช่ ุดประจาชาตขิ องเขา ให้กบั ชาวตา่ งชาติไมน่ ้อย ในวนั ทต่ี ะกรอ้ ทมี เด่ยี วชายไทยลงแขง่ ขันนดั ชงิ ชนะเลิศกบั อนิ โดนีเซีย ผวู้ ่าการเกาะสมุ าตราใตเ้ พง่ิ เดนิ ทางมาถงึ ทีหลังแข่งจบ ชมทกุ คนทีใ่ ส่วา่ ดดู ี ดูหลอ่ ดสู วย พอฉนั ใสไ่ ปเดนิ ถนนคนท่นี ่นั หลายๆคน คงคิด เซตแรกไปเรยี บร้อยแลว้ แทนทจ่ี ะรอให้จบการแข่งขนั แล้วคอ่ ยลงไปทกั ทาย วา่ ฉันเป็นคนภฏู าน หลังจากทพ่ี วกเราไปทาแสตมป์ท่ี Media center ซ่งึ เขาจะ นกั กฬี า แต่ฝ่ายจดั การแข่งขนั ขอหยดุ เกมแล้วใหน้ ักกฬี าตั้งแถวใหก้ ารตอ้ นรับ ใหเ้ ราเอารปู ไปใสใ่ นแสตมปท์ ี่ระลกึ ของงานอภิเษกไดด้ ว้ ย เรากเ็ ดนิ ไปตามถนน ท่านผวู้ ่า พรอ้ มทง้ั ให้ทา่ นเดินลงมาจับมือแนะนาตวั กับนักกฬี าถึงสนาม ทีท่ ง้ั สองพระองคจ์ ะเสดจ็ มา ต้องบอกเลยว่า เป็นเรือ่ งไมเ่ หมาะสมอย่างแรง เดก็ มารอเฝ้ารบั เสดจ็ เปน็ แถวยาวรวมไปถงึ ชาวบา้ นในละแวกน้นั ด้วย คลา้ ยกับบา้ นเราเวลารอเฝ้าฯ ในหลวงของเรา เราไปอยูส่ ถานทที่ ่เี ขาจัดใหส้ อื่ จากทวั่ โลกมายืนอยดู่ ้วยกนั โดยแบ่ง ๑๔. ขอ้ ความดงั กลา่ ว คาในขอ้ ใดมคี วามหมายโดยนยั ออกเป็นสองฝั่งของถนน ใครอยากไดม้ มุ ไหนกย็ นื ตามอัธยาศยั เพียงแตใ่ ห้อยูใ่ น ก. จบเซต็ – หยุดเกม เขตท่บี อกเท่าน้นั ข. หนา้ ใหญ่ – แดนอิเหนา ค. ตะกร้อทีมเดยี่ ว – แนะนาตวั ภารกิจของเรายังไมห่ มด เรามขี องขวญั เป็นหุน่ กระบอก ง. ผ้หู ลักผใู้ หญ่ – ให้การต้อนรับ ใส่ชดุ ไทยสวยงามวิจิตรบรรจงอย่ใู นตกู้ ระจกซงึ่ ทางทมี งานให้ ๑๑. ข้อความดังกล่าวจดั เปน็ งานเขียนประเภทใด ๑๕. ขอ้ ความดงั กล่าว ผูเ้ ขียนมีจดุ ม่งุ หมายในการเขยี นอยา่ งไร ก. ตารา ข. สารคดี ก. ตาหนิ ข. เสนอแนะ ค. บันเทิงคดี ง. ชวี ประวัติ ค. ใหข้ อ้ คิดเห็น ง. ชี้แจงแนวทางปฏิบตั ิ ๑๒. ขอ้ ใดเป็นข้อเทจ็ จรงิ ก. วันนัน้ ฉันและพลี่ งิ ใสช่ ดุ ประจาชาติของภูฏาน ข. ใครจะใสใ่ ห้ มองดูทมี งานแล้วอาการไม่ตา่ งกนั ค. ดพู วกเขาพงึ พอใจทีเ่ หน็ เราใสช่ ดุ ประจาชาตขิ องเขา ง. พอฉันใส่ไปเดนิ ถนนคนท่ีนนั่ หลายๆ คน คงคิดว่า ฉนั เปน็ คนภูฏาน จดั ทาโดย นายลัทธพล ยวนยี ตาแหน่งครผู ู้ช่วย โรงเรยี นบา้ นโคกกรา่ ง อาเภอตาคลี จงั หวดั นครสวรรค์

ชุดแบบฝกึ ทกั ษะภาษาไทย เรื่องอา่ นวินิจสาร ๓ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย เล่มที่ ๑ การอา่ นวิเคราะห์ความหมายของคา คาชี้แจง ให้นกั เรยี นเลือกคาตอบทถี่ ูกทสี่ ดุ และทาเครือ่ งหมายกากบาท (X) ลงในช่องทีต่ รงกบั อกั ษร ก, ข,ค,ง ตวั เลือก ข้อ ก ข ค ง ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ คะแนนเต็ม คะแนนทีไ่ ด้ ๑๕ ๑๐ คะแนนต้งั แต่ ๘ คะแนนขนึ้ ไป จงึ ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ ๘๐ ชื่อ-สกลุ _______________________________________เลขท_่ี _____ชน้ั _______ จัดทาโดย นายลทั ธพล ยวนยี ตาแหน่งครผู ้ชู ่วย โรงเรียนบา้ นโคกกร่าง อาเภอตาคลี จงั หวดั นครสวรรค์

ชดุ แบบฝกึ ทักษะภาษาไทย เรือ่ งอา่ นวินิจสาร ๔ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย เลม่ ท่ี ๑ การอ่านวเิ คราะห์ความหมายของคา จดั ทาโดย นายลทั ธพล ยวนยี ตาแหนง่ ครูผูช้ ่วย โรงเรยี นบา้ นโคกกร่าง อาเภอตาคลี จงั หวดั นครสวรรค์

ชุดแบบฝึกทกั ษะภาษาไทย เร่ืองอา่ นวินจิ สาร ๕ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย เล่มที่ ๑ การอา่ นวิเคราะห์ความหมายของคา คาช้แี จง ให้นักเรยี นตอบคาถามทกี่ าหนดให้ถูกต้อง 1. คาทม่ี ีความหมายโดยตรง มีลกั ษณะอย่างไร ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. ......................................................... 2. คาที่มีความหมายโดยนัย มลี กั ษณะอยา่ งไร ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... 3. การพิจารณาความหมายของคา มีหลกั ในการพิจารณาอยา่ งไร ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... จัดทาโดย นายลัทธพล ยวนยี ตาแหนง่ ครูผู้ชว่ ย โรงเรียนบา้ นโคกกร่าง อาเภอตาคลี จงั หวัดนครสวรรค์

ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะภาษาไทย เรอ่ื งอา่ นวนิ ิจสาร ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย เล่มที่ ๑ การอา่ นวิเคราะหค์ วามหมายของคา คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนอ่านเรื่องทีก่ าหนด แล้วรวบรวมคาที่มคี วามหมายโดยนัยว่า มีกีค่ า และมีที่มา อย่างไร ปีจอ ขอเขียนเร่ืองสขี่ า คราวน้ขี อเขยี นถงึ เจา้ สีข่ าสตั ว์สญั ลักษณ์ของปีจอกนั บา้ ง สนุ ขั ตามศพั ท์แปลว่า ผ้มู ีเล็บงาม เป็น คาสภุ าพของหมา แต่สานวนไทยสว่ นใหญใ่ ชค้ าว่า “หมา” เมอื่ กล่าวถงึ สัตว์เล้ยี งชนดิ นี้ ถา้ ใครรสู้ กึ วา่ หมา ไมส่ ภุ าพ แลว้ เปลย่ี นมาใช้คาวา่ สุนัขแทนจะฟงั ขดั หู จะมีก็เพียงสานวนหมาจนตรอกเทา่ นั้นทบี่ างครั้งใชว้ า่ สุนัขจนตรอก ซึง่ หมายถงึ คนท่จี าตอ้ งฮดึ ส้อู ยา่ งไมค่ ดิ ชีวติ เพอื่ เอาตัวรอดเพราะไม่มที างเลอื กอ่ืน เม่ือจวนตัวหมดทางกต็ อ้ งหนั มา ต่อสกู้ นั จนสุดฤทธ์ิ สานวนนม้ี าจากพฤติกรรมของสนุ ัขเม่อื ถกู ไลต่ อ้ นวนอยใู่ นตรอกท่ีตันไม่มที างหนตี อ่ ไปก็มักจะหนั มาฮดึ สู้ การที่สานวนน้ใี ชค้ าว่า สุนัข โดยไม่ขัดหู คงเป็นเพราะมกี ารใช้คกู่ บั สานวน เสอื ส้ินตวกั หมายถงึ เสอื ทเ่ี ลบ็ หักหาย เมอื่ อาวธุ สาคญั สาหรบั ใชต้ ะปบค่ตู อ่ สหู้ ายไปก็ตกอยใู่ นภาวะฮดึ สูเ้ หมือนกัน จึงเกิดสานวน เสือสนิ้ ตวกั สนุ ัข จนตรอก เพราะคาวา่ เสอื กบั สนุ ัข ข้นึ ต้นด้วยพยญั ชนะ ส เหมอื นกัน และคาว่า ตวัก ก็มี เสียงสัมผัสกบั คาว่า นขั เมอื่ ใช้ด้วยกนั จึงมเี สยี งคล้องจอง ฟงั ไพเราะ เมื่อแยกกลา่ วเฉพาะสานวนที่เกี่ยวกบั สนุ ัขจึงพบวา่ มกี ารใชท้ ั้งสานวน หมาจนตรอก และ สุนขั จนตรอก สนุ ัขเป็นสัตวเ์ ลี้ยงในบ้านท่ีใกล้ชิดคน บางคนรักและทะนุถนอมสนุ ัขมากถงึ กับนามากอดจบู อมุ้ ชู บางคนถงึ กบั ใหน้ อนด้วย คนโบราณจะรกั สุนขั มากขนาดน้ีหรอื ไม่ก็ไมอ่ าจทราบได้ แตถ่ ้าสงั เกตจากสานวนไทยจะ เหน็ วา่ พฤติกรรมและเรื่องราวตา่ งๆ ของสุนขั ที่นามาเปน็ สานวนน้นั ไมค่ ่อยจะบ่งบอกถึงความนา่ รักนา่ เอ็นดขู อง สนุ ัขสกั เทา่ ไหรเ่ ลย เช่น นสิ ยั ของสนุ ัขท่ชี อบเลีย ถ้าอมุ้ หรอื กม้ หนา้ ลงไปใกล้สนุ ัข สนุ ัขก็จะเลยี แสดงอาการรกั ใคร่ ประจบประแจง คนไทยในสมัยกอ่ นไม่ไดม้ องในทางน่าเอ็นดู แต่กล่าวเปน็ สานวนวา่ เล่นกบั หมา หมาเลียปาก บางครัง้ กต็ อ่ ด้วยสานวนวา่ เลน่ กบั สาก สากต่อยหัว โดยสงั เกตจากสากขนาดใหญท่ ่ีใชต้ าข้าวซ่งึ มักจะวางพงิ ไว้เวลา ไมใ่ ช้งาน ถ้าใครอย่ไู ม่สขุ ไปจบั เล่น สากอาจจะเลอ่ื นล้มมาทับเอาได้ สานวนไทยท่ีมกั จะใช้ตอ่ เน่ืองกนั ว่า เล่นกับหมา หมาเลียปาก เล่นกบั สาก สากต่อยหัว จงึ หมายถงึ ความว่าลดตัวลงไปพูดจาเลน่ หัวกบั บคุ คลชนั้ ต่ากว่าหรอื เดก็ กวา่ เปน็ การวางตวั ที่ไม่เหมาะสม กจ็ ะถกู ตีเสมอหรอื ถกู ลามปามได้ ปกติสนุ ขั ทถี่ กู ปล่อยให้เดินเพน่ พา่ นกลางถนน เรียกวา่ สนุ ัขจรจัด แตถ่ า้ สนุ ขั ที่มีเจ้าของเลยี้ งดูอย่างเปน็ เรอื่ งเปน็ ราว จะมปี ลอกคอ คอื สายรดั รอบคอใชส้ าหรบั ล่ามจูงใหจ้ บั ง่ายและในขณะเดยี วกันก็เป็นเครื่องหมาย วา่ สนุ ขั ตวั น้ไี ม่ใช่สุนัขกลางถนนหรือท่เี รยี กกันว่า หมากลาง ถนน แต่เป็นสุนัขทมี่ ีเจา้ ของ ดังนนั้ สานวน หมามปี ลอกคอ จึงหมายถึงคนท่ีมีผู้ทรงอทิ ธิพลหรือผมู้ ีอานาจคอย คมุ้ ครองคอยสนับสนนุ ช่วยเหลืออยู่ ธรรมชาตอิ ย่างหน่งึ ของสุนขั คือ เม่อื สนุ ขั ตัวใดตวั หน่งึ เข้าจ่โู จมคน สัตวช์ นดิ อน่ื หรือแมแ้ ต่สนุ ัขดว้ ยกันแล้ว สุนัขตวั อื่นๆ จะกรูกนั เขา้ มารว่ มเห่ารว่ มกัดดว้ ย สานวนหมาหมู่ จงึ หมายถงึ กลมุ่ คนที่ กลุ้มรุมทาร้ายคนคนเดยี วมกั ใชใ้ นกรณีของพวกนักเลงที่มีพรรคพวกมาก ร่วมกนั รมุ ทารา้ ยผมู้ กี าลงั น้อยกว่า พดู ถึง หมาหม่แู ลว้ ขอพดู ถงึ หมาท่ตี อ้ งอยู่โดดเดี่ยวบ้าง ไทยเรามสี านวน หมาหัวเนา่ หมายถึง ผ้ซู งึ่ เปน็ ท่ีรังเกยี จ จัดทาโดย นายลทั ธพล ยวนยี ตาแหน่งครผู ้ชู ่วย โรงเรียนบ้านโคกกร่าง อาเภอตาคลี จงั หวดั นครสวรรค์

ชุดแบบฝึกทกั ษะภาษาไทย เร่ืองอา่ นวินจิ สาร ๗ กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย เลม่ ท่ี ๑ การอา่ นวเิ คราะหค์ วามหมายของคา คำชีแ้ จง ให้นักเรียนอ่านเรือ่ งที่กาหนด แล้วรวบรวมคาที่มคี วามหมายโดยนยั ว่า มีกีค่ า และมีทีม่ า อย่างไร ของผ้อู น่ื เข้ากับใครไมไ่ ด้ ไมม่ ีใครคบหาด้วย ส่วนหมาหางด้วนน้ันเป็นสานวน หมายถึงผู้ที่ทาอะไรผิดพลาด จนได้รับความอับอาย แล้วพยายามชักชวนผู้อ่ืนให้เห็นว่าสิ่งท่ีตนทาไปนั้นเป็นสิ่งท่ีดีควรทาตาม เพ่ือจะได้มีพวกที่ทา ผิดอย่างเดียวกันบ้านของคนไทยสมัยก่อนมักยกพื้นสูงจึงมีใต้ถุนบ้าน ถ้าเป็นบ้านของคนธรรมดาพ้ืนกระดานจะไปู ชดิ กนั จนสนทิ จะมรี ่องอยบู่ ้าง โดยเฉพาะพ้นื ครัว ซ่ึงครวั มักจะอยู่มุมชานบ้าน เม่ือทาอาหารอาจจะมีเศษอาหารหล่น ลงรอ่ งสนุ ัข มักจะมาหาอะไรกนิ แถวๆ ใตถ้ นุ ครัว บางครง้ั สุนัขมากนั หลายตัวแย่งเศษอาหารกันกัดกันส่งเสียงเห่าน่า ราคาญ คนทาครวั อยู่กร็ าคาญ จึงเอาน้าร้อนเทราดลงไป เม่ือสุนัขถูกน้าร้อนราดก็วิ่งพล่านจึงเป็นสานวนหมาถูกน้า ร้อน ใช้กับคนท่ีมีธุระร้อนต้องด้ินรน เท่ียววิ่งพล่านไปทาธุระน้ันๆ เร่ืองของสุนัขกับน้าร้อนยังมีคนท้องถ่ินนาไปเป็น สานวนเปรียบอีกสานวนหน่ึง คือ ทางานเหมือนหมาเลียน้าร้อน เพราะปกติเวลาสุนัขกินน้าจะใช้ล้ินเลียและตวัดน้า เขา้ ปากอยา่ งรวดเร็ว แตเ่ มอื่ นา้ น้นั รอ้ นสนุ ขั จะไม่ค่อยกลา้ จะเลียบ้าง หยุดบ้างหรือหนีไปเลย สานวนทางานเหมือน สุนขั เลียนา้ ร้อน จงึ หมายถงึ คนทีท่ างานไม่เรียบร้อยไว้ใจไมไ่ ด้ รางเป็นภาชนะรูปยาวมีร่องตรงกลาง อาจจะนาไม้เป็นแผ่นยาวมาต่อกันหรือนาท่อนไม้มาขุดเป็นร่องยาว ตรงกลางก็ได้ ชาวบา้ นจะนาอาหารมาเทในรางเพ่อื ให้หมูได้กิน สุนัขท่ีวิ่งไปกินอาหารรางนั้นทีรางนี้ทีจึงเรียกว่า หมา สองราง เป็นสานวนที่หมายถึงผู้ที่ทาตัวเข้ากับท้ังสองฝ่ายบางคร้ังใช้สานวนว่า ตีสองหน้า หมาสองราง ปกติสุนัข เป็นสัตว์กินเน้ือ กินหญ้า แต่มีนิทานเล่าถึงสุนัขในรางหญ้าว่า แม้คนจะไม่กินหญ้า แต่เม่ือสัตว์กินหญ้า เช่น โค กระบือ จะเขา้ มากนิ หญ้าสุนัขจะไมย่ อม เป็นสานวน หมาในรางหญา้ หรอื หมาหวงราง หมายถึงผู้ซ่ึงหวงสิ่งท่ีไม่เป็น ประโยชน์ตอ่ ตนเอง และไมย่ อมให้ผู้อน่ื ไดใ้ ชป้ ระโยชน์คล้ายกับ หมาหวงก้าง แต่สานวน หมาหวงก้างมีนัยในทานอง กันทา่ คนอืน่ ในส่งิ ทีต่ นไดป้ ระโยชน์ไปแลว้ หรอื ใชป้ ระโยชน์ไม่ได้แล้ว เหมือนสุนัขที่กินเน้ือปลาหมดไปแล้ว แต่ยังคอย ระวังไม่ใหส้ ัตว์อืน่ มาแยง่ ก้างปลาไป จะรวมไวห้ มด ท้งั เนอื้ ปลาทั้งกา้ งปลาไมย่ อมให้ใครๆ มามสี ว่ นเก่ียวขอ้ ง ท่ีมา : http://thaiidiom.kapook.com/ จัดทาโดย นายลทั ธพล ยวนยี ตาแหน่งครูผชู้ ว่ ย โรงเรยี นบ้านโคกกรา่ ง อาเภอตาคลี จังหวดั นครสวรรค์

ชดุ แบบฝกึ ทักษะภาษาไทย เรือ่ งอา่ นวินิจสาร ๘ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย เลม่ ท่ี ๑ การอ่านวเิ คราะห์ความหมายของคา จดั ทาโดย นายลทั ธพล ยวนยี ตาแหนง่ ครูผูช้ ่วย โรงเรยี นบา้ นโคกกร่าง อาเภอตาคลี จงั หวดั นครสวรรค์

ชดุ แบบฝกึ ทกั ษะภาษาไทย เรื่องอ่านวนิ จิ สาร ๙ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย เลม่ ท่ี ๑ การอา่ นวิเคราะห์ความหมายของคา เฉลยคาตอบแบบทดสอบก่อนเรยี น คาช้ีแจง ให้นักเรยี นเลือกคาตอบท่ถี กู ท่ีสดุ และทาเครือ่ งหมายกากบาท (X) ลงในช่องทต่ี รงกับอกั ษร ก, ข,ค,ง เฉลย ขอ้ ๑ง ๒ก ๓ก ๔ข ๕ง ๖ก ๗ก ๘ค ๙ค ๑๐ ข ๑๑ ข ๑๒ ก ๑๓ ง ๑๔ ข คะแนนเต็ม คะแนนที่ได้ ๑๕ ก ๑๐ คะแนนตงั้ แต่ ๘ คะแนนขึ้นไป จึงผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ชอ่ื -สกลุ _______________________________________เลขท_่ี _____ชน้ั _______ จดั ทาโดย นายลทั ธพล ยวนยี ตาแหน่งครผู ชู้ ว่ ย โรงเรียนบา้ นโคกกร่าง อาเภอตาคลี จงั หวัดนครสวรรค์

ชุดแบบฝกึ ทกั ษะภาษาไทย เร่ืองอา่ นวินิจสาร ๑๐ กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย เลม่ ที่ ๑ การอา่ นวิเคราะหค์ วามหมายของคา เฉลยแบบฝกึ ทักษะท่ี ๑ เรือ่ งความหมายของคา คำชี้แจง ให้นกั เรียนตอบคาถามที่กาหนดให้ถกู ต้อง ๑. คาทมี่ คี วามหมายโดยตรง มลี ักษณะอย่างไร คำท่มี ีควำมหมำยตำมตัวอกั ษร ซึ่งเป็นควำมหมำยตำมที่พจนำนุกรมกำหนด เป็นควำมหมำย หลักท่ีใช้ในกำรส่ือสำรทัว่ ไป 2. คาทีม่ คี วามหมายโดยนยั มีลกั ษณะอย่างไร คำท่ีมคี วำมหมำยไม่ตรงตำมตวั อกั ษร แต่เป็นควำมหมำยแฝงหรือควำมหมำยโดยนัยออ้ ม เพอื่ เช่อื มโยงไปถงึ อีกสงิ่ หนึง่ 3. การพจิ ารณาความหมายของคา มีหลกั ในการพิจารณาอย่างไร หลกั ในกำรพจิ ำรณำควำมหมำยของคำ มีดังนี้ 1) พิจำรณำควำมหมำยตำมทพี่ จนำนุกรมกำหนด 2) พิจำรณำควำมหมำยจำกสำนวนโวหำร 3) พิจำรณำควำมหมำยจำกบรบิ ท 4) พจิ ำรณำควำมหมำยจำกนำ้ เสยี งและสีหน้ำประกอบ จัดทาโดย นายลัทธพล ยวนยี ตาแหน่งครผู ูช้ ว่ ย โรงเรียนบา้ นโคกกรา่ ง อาเภอตาคลี จังหวดั นครสวรรค์

ชดุ แบบฝกึ ทักษะภาษาไทย เรอื่ งอ่านวนิ จิ สาร ๑๑ กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย เลม่ ที่ ๑ การอา่ นวเิ คราะหค์ วามหมายของคา เฉลยแบบฝึกทกั ษะที่ ๒ เรื่องความหมายของคา คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนอ่านเรือ่ งทีก่ าหนด แล้วรวบรวมคาที่มคี วามหมายโดยนยั ว่า มีกี่คา และมีที่มา อย่างไร คำทีม่ คี วำมหมำยโดยนัย มี 14 คำ ได้แก่ หมำจนตรอก สนุ ขั จนตรอก เสอื สิ้นตวัก เลน่ กบั หมำหมำเลียปำก หมำมปี ลอกคอ หมำหมู่ หมำหัวเน่ำ หมำหำงด้วน หมำถกู น้ำร้อน หมำสองรำง หมำในรำงหญำ้ หมำหวงรำง หมำหวกำ้ ง มีทม่ี ำจำกสุภำษติ สำนวน คำพงั เพย จัดทาโดย นายลัทธพล ยวนยี ตาแหน่งครผู ชู้ ่วย โรงเรยี นบ้านโคกกรา่ ง อาเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์

ชดุ แบบฝกึ ทักษะภาษาไทย เรอื่ งอ่านวนิ จิ สาร ๑๑ กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย เลม่ ที่ ๑ การอา่ นวเิ คราะหค์ วามหมายของคา เฉลยแบบฝึกทกั ษะที่ ๒ เรื่องความหมายของคา คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนอ่านเรือ่ งทีก่ าหนด แล้วรวบรวมคาที่มคี วามหมายโดยนยั ว่า มีกี่คา และมีที่มา อย่างไร คำทีม่ คี วำมหมำยโดยนัย มี 14 คำ ได้แก่ หมำจนตรอก สนุ ขั จนตรอก เสอื สิ้นตวัก เลน่ กบั หมำหมำเลียปำก หมำมปี ลอกคอ หมำหมู่ หมำหัวเน่ำ หมำหำงด้วน หมำถกู น้ำร้อน หมำสองรำง หมำในรำงหญำ้ หมำหวงรำง หมำหวกำ้ ง มีทม่ี ำจำกสุภำษติ สำนวน คำพงั เพย จัดทาโดย นายลัทธพล ยวนยี ตาแหน่งครผู ชู้ ่วย โรงเรยี นบ้านโคกกรา่ ง อาเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook