โครงการ Coaching Teams ลัทธพล ยวนยี

โครงการ Coaching Teams เพื่อยกระดับคณุ ภาพการศึกษา 1 นายลทั ธพล ยวนยี ครผู ชู้ ว่ ย โรงเรยี นบา้ นโคกกรา่ ง สานกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษานครสวรรค์ เขต ๓ ในโครงการ Coaching Teams เพ่ือยกระดบั คณุ ภาพการศกึ ษา จังหวัดนครสวรรค์

โครงการ Coaching Teams เพอ่ื ยกระดบั คณุ ภาพการศึกษา 2 บันทกึ ข้อความ ส่วนราชการ กลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ โรงเรียนบา้ นโคกกรา่ ง ท่ี / ๒๕๖3 วนั ท่ี กันยายน ๒๕๖3 เรื่อง Best Practice เร่อื ง การพฒั นาความร้คู วามสามารถด้านภาษาไทยของผูเ้ รยี นไดเ้ ตม็ ศักยภาพของนักเรยี น โรงเรียนบา้ นโคกกรา่ ง โดยใช้ ชดุ แบบฝกึ ทักษะภาษาไทย เร่อื งอา่ นวินิจสาร เพ่ือพัฒนาผลสมั ฤทธิ์ ทางการเรยี น และการทดสอบทาง การศกึ ษระดับชาติ (O-NET) ให้สูงขึน้ เรยี น ผู้อานวยการโรงเรียนบา้ นโคกกรา่ ง ตามทโ่ี รงเรยี นได้มอบหมายให้ข้าพเจ้า นายลัทธพล ยวนยี ตาแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย เข้าร่วมโครงการ Coaching Teams เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา จังหวัดนครสวรรค์ ปีงบประมาณ ๒๕๖๓ และนาเสนอ Best Practice ระดับจังหวัดในวันท่ี 10 กันยายน 2563 บัดน้ีข้าพเจ้าจัดทา Best Practice เร่ือง การพัฒนาความรู้ ความสามารถด้านภาษาไทยของผู้เรียนได้เต็มศักยภาพของนักเรียนโรงเรียนบ้านโคกกร่าง โดยใช้ ชุดแบบฝึก ทักษะภาษาไทย เรื่องอ่านวินิจสาร เพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนและการทดสอบทาง การศึกษระดับชาติ (O-NET) ให้สูงขึน้ ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 3 เป็นที่เรยี บร้อยแล้ว รายละเอยี ดดังแนบ จึงเรยี นมาเพื่อโปรดทราบและพจิ ารณา ลงช่อื ......................................................... (นายลทั ธพล ยวนยี) ตาแหน่งครูผ้ชู ว่ ย ความคดิ เหน็ ของหัวหนา้ กลุ่มงานบริหารวชิ าการ - ลงช่อื ........................................................ (นายอาทิตย์ เสบิ กล่นิ ) ความคิดเหน็ ของหวั หนา้ กลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ - ลงชอื่ ........................................................ (นางพัชนี ดาเชงิ เขา) ผอู้ านวยการโรงเรียนบา้ นโคกกร่า นายลทั ธพล ยวนยี ครผู ู้ชว่ ย โรงเรยี นบา้ นโคกกร่าง สานักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษานครสวรรค์ เขต ๓ ในโครงการ Coaching Teams เพอ่ื ยกระดบั คณุ ภาพการศึกษา จังหวัดนครสวรรค์

โครงการ Coaching Teams เพ่อื ยกระดบั คณุ ภาพการศกึ ษา 1 วธิ ปี ฏิบัตทิ ่เี ปน็ เลิศ (Best Practices) โครงการ Coaching Teams เพอ่ื ยกระดับคณุ ภาพการศึกษาจังหวดั นครสวรรค์ ปีงบประมาณ 2563 สานกั งานศึกษาธิการจังหวดั นครสวรรค์ ชอ่ื ผลงาน : การพัฒนาความรู้ความสามารถด้านภาษาไทยของผเู้ รียนไดเ้ ตม็ ศกั ยภาพของนักเรียน โรงเรียนบ้านโคกกร่าง โดยใช้ ชุดแบบฝึกทักษะภาษาไทย เรอ่ื งอา่ นวนิ จิ สาร เพ่อื พฒั นา ผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรยี นและการทดสอบทาง การศกึ ษระดับชาติ (O-NET) ให้สูงข้ึน ชือ่ ผู้เสนอผลงาน : นายลทั ธพล ยวนยี ตาแหนง่ : ครูผู้ชว่ ย ขนาดโรงเรียน : ขนาดเลก็ โรงเรียน : บ้านโคกกรา่ ง อาเภอ : ตาคลี จังหวัด : นครสวรรค์ โทรศพั ทม์ ือถือ : 085-6003033 e – mail : [email protected] สังกดั : สานักงานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษานครสวรรค์ เขต ๓ รายละเอยี ดการนาเสนอผลงาน ๑. ความสาคัญของผลงานหรือนวตั กรรมท่ีนาเสนอ แนวทางการจดั การเรียนการสอนตาม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ซึ่งมงุ่ พัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสาคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยยึดหลัก ว่า ผู้มีเรียนสาคัญที่สุด เชื่อว่าทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ ยึดประโยชน์ที่เกิดกับผู้เรียน กระบวนการจัดการเรียนรู้ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียน สามารถพัฒนาตามธรรมชาติ และเต็มศักยภาพ คานึงถึงความ แตกต่างระหว่างบุคคลและพัฒนาการทางสมอง เน้นใหค้ วามสาคญั ทั้งความรู้ และคุณธรรม มกี ระบวนการเรียนรู้ โดยจดั การเรยี นรู้ทีเ่ นน้ ผู้เรียนเปน็ สาคญั อาศัยกระบวนการเรียนรู้ทีห่ ลากหลายจากประสบการณจ์ ริง เน่ืองด้วยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย จากการสอบ O-NET (Ordinary National Education Test) ของนักเรยี นชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 โรงเรียนบ้านบ้านโคกกร่าง ในปีการศกึ ษา 2562 ลดลงจาก ปีการศกึ ษา 2561 อาจมีสาเหตุมาจากนักเรียนไม่ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ขาดการปฏิบัติจริง อีกท้ังการเรียนรู้เรื่อง การอ่านเพ่ือวเิ คราะหว์ ิจารณ์และแสดงความคิดเห็น ซึง่ เป็นเร่อื งท่ยี ากต่อการเขา้ ใจ อาจทาให้เกิดความย่อท้อเบื่อ หนา่ ย และมีเจตคตทิ ่ีไม่ดตี ่อวิชาภาษาไทย เพื่อใหผ้ ูเ้ รยี นมเี จตคติที่ดีตอ่ วชิ าภาษาไทย เป็นการยกระดบั ผลสมั ฤทธิ์ ทางการเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย และเพ่ือให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามเป้าหมายของหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ผู้สอนจึงมีความสนใจที่จะนาการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) เพ่ือมาพัฒนากิจกรรม การเรียนการสอน และเพ่ิมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้กับผู้เรียน ซึ่งการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) เป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือกระทา และได้ใช้กระบวนการคิดเก่ียวกับส่ิงท่ี ผเู้ รียนไดก้ ระทาลงไป และยังเป็นการสง่ เสริมให้ผู้เรยี นเกิดพฤติกรรมการเรียนรู้ ซง่ึ จะเนน้ วิธีการสอนและเทคนิค การสอนท่ีเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative and Collaborative Learning) เป็นการ นายลทั ธพล ยวนยี ครผู ้ชู ว่ ย โรงเรยี นบา้ นโคกกร่าง สานักงานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษานครสวรรค์ เขต ๓ ในโครงการ Coaching Teams เพอ่ื ยกระดบั คณุ ภาพการศกึ ษา จงั หวดั นครสวรรค์

โครงการ Coaching Teams เพือ่ ยกระดับคณุ ภาพการศึกษา 2 เรียนรู้ร่วมกัน ซึ่งเป็นวิธกี ารจัดการเรียนการสอนรูปแบบหน่ึง ที่เน้นให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัตงิ านเป็นกลุ่มยอ่ ย โดย มีสมาชิกกลุ่มทีม่ ีความสามารถที่แตกตา่ งกนั เพือ่ เสริมสรา้ งสมรรถภาพการเรียนรู้ของแต่ละคน สนบั สนุนให้มกี าร ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จนบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากน้ี ยังเป็นการส่งเสริมการทางานร่วมกันเป็นหมู่ คณะ หรือทีม ตามระบอบประชาธิปไตย และเป็นการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ ทาให้สามารถปรับตัวอยู่กับ ผู้อื่นได้อยา่ งมคี วามสขุ และจะสง่ ผลต่อผลสมั ฤทธก์ิ ารทดสอบทางการศึกษาในระดับชาติข้ันพื้นฐาน (O-NET) ดังน้ันผู้สอนในฐานะเป็นครูสอนรายวิชาภาษาไทย จึงสนใจท่ีจะศึกษาแนวทางการเรียนรู้และนาแนว ทางการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative and Collaborative Learning) ประยุกต์ใช้กับชุดแบบฝึกทักษะ ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านโคกกร่าง เพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการ ทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ (O-NET) ใหส้ ูงขึน้ 2. วตั ถปุ ระสงค์ 2.1 วัตถปุ ระสงค์ 2.1.1 เพ่ือจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้พัฒนาความสามารถด้านคณิตศาสตร์ของผู้เรียนให้ เตม็ ศกั ยภาพ 2.1.2 เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนและการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ (O-NET) ให้สูงข้ึน 2.2 เปา้ หมาย ๒.๒.๑ เชิงปรมิ าณ ๑. นักเรียนโรงเรยี นบา้ นโคกกรา่ งมีผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นกลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์สงู ขนึ้ ๒. นักเรยี นโรงเรียนบา้ นโคกกร่าง ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 3 จานวน ๑5 คน มีผลการ ทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาตขิ น้ั พนื้ ฐาน (O-NET) สูงข้ึน ๒.๒.๒ เชิงคุณภาพ ๑. นกั เรยี นรอ้ ยละ 7๐ มีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนกลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์สูงขน้ึ ๒. นักเรียนรอ้ ยละ 7๐ มีผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาติขั้นพ้ืนฐาน (O-NET) สูงขึ้น ๓. กระบวนการปฏบิ ตั ิงานหรอื ขัน้ ตอนการดาเนินงาน 3.1 กระบวนการผลิตผลงาน ผู้สอนได้ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพ้ืนฐาน (O-NET) ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรียนบ้านโคกกร่าง ของปีการศึกษา 2562 ที่ผ่านมา พบว่านักเรียนมี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาภาษาไทยและผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ท่ีต่า ผสู้ อนจงึ ได้หาวธิ กี ารที่จะแกป้ ัญหาโดยอาศยั หลกั การและทฤษฎีการเรยี นรูด้ ังนี้ 3.1.1 การจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) เป็นกระบวนการจดั การเรียนรู้ที่เน้นให้ ผู้เรียนได้ลงมือกระทา ซ่ึงจะเน้นวิธีการสอนและเทคนิคการสอนที่เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative and Collaborative Learning) ซึ่งเป็นการเรียนรู้ที่ต้องอาศัยหลักการแบบพ่ึงพาอาศัยกัน ทาให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน เป็นการศึกษาความแตกต่างระหว่างบุคคล (Individual Difference) ต้องคานึงอยู่ เสมอว่านักเรียนแต่ละคนมีความรู้ ความถนัด ความสามารถ ความสนใจแตกต่างกัน ในการสร้างแบบฝึกหัดจึง ควรพิจารณาให้เหมาะสม ไม่ง่ายเกินไปสาหรับเด็กที่เก่ง และไม่แยกกลุ่ม ควรให้เด็กเก่งคละกับเด็กอ่อน เพ่ือให้ เด็กเกง่ ช่วยเหลือเดก็ อ่อน นายลทั ธพล ยวนยี ครผู ู้ชว่ ย โรงเรียนบ้านโคกกรา่ ง สานักงานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษานครสวรรค์ เขต ๓ ในโครงการ Coaching Teams เพื่อยกระดับคณุ ภาพการศกึ ษา จงั หวัดนครสวรรค์

โครงการ Coaching Teams เพ่อื ยกระดบั คณุ ภาพการศกึ ษา 3 3.1.2 รูปแบบการเรียนการสอนของการเรียนรู้แบบร่วมมือ ( Instructional Models of Cooperative Learning) รูปแบบการเรียนการสอนของแนวคิดแบบร่วมมือ พัฒนาขึ้นโดยอาศัยหลักการ เรียนรู้ แบบร่วมมือของจอห์นสัน และจอห์นสัน (Johnson & Johnson, 1974: 213-240)ซ่ึงได้ชี้ให้เห็นว่า ผู้เรียนควรร่วมมือกันในการเรียนรู้มากกว่าการแข่งขันกัน เพราะการแข่งขันก่อให้เกิดสภาพการณ์แพ้ชนะ ต่าง จากการร่วมมือกนั ซึ่งกอ่ ให้เกิดสภาพการณ์ ชนะ-ชนะ อันเป็นสภาพการณ์ทีด่ กี วา่ ทงั้ ทางดา้ นจิตใจและสติปญั ญา 3.1.3 กระบวนการเรียนการสอนของรูปแบบ ซี.ไอ.อาร์.ซี. (CIRC) รูปแบบ CIRC หรือ “Cooperative Integrated Reading and Composition” เป็น รูปแบบการเรียนการสอนแบบร่วมมือที่ใช้ใน การสอนอ่านและเขียนโดยเฉพาะ รปู แบบนป้ี ระกอบด้วย กิจกรรมหลัก 3 กจิ กรรมคือ กจิ กรรมการอ่านแบบเรียน การสอนการอา่ นเพื่อความเข้าใจ และการบรู ณาการภาษากบั การเรียน (Slavin, 1995: 104-110) 3.1.5 ทฤษฎีการเช่ือมโยงของธอร์นไดค์ (Thorndike’s connectionism) ทฤษฎีสัมพันธ์ เชื่อมโยง กล่าวถึง การเช่ือมโยงระหว่างส่ิงเร้ากับการตอบสนอง โดยมีหลักพื้นฐานว่า การเรียนรู้เกิดจากการ เช่ือมโยงระหว่างส่ิงเร้ากับการตอบสนองท่ีมักจะออกมาในรูปแบบต่างๆ หลายรูปแบบ โดยการลองถูกลองผิด จนกว่าจะพบรูปแบบท่ดี ีและเหมาะสมที่สดุ กฏแหง่ การเรยี นรู้ 1. กฎแหง่ ความพร้อม (law of readiness) การเรียนร้จู ะเกิดขน้ึ ไดด้ ี ถา้ ผเู้ รียนมีความ พร้อมทงั้ ทางรา่ งกายและจิตใจ 2. กฎแห่งการฝกึ หดั (low of exercise) การฝกึ หดั หรือกระทาบ่อยๆ ดว้ ยความเข้าใจ จะทาให้การเรยี นรู้น้ันคงถาวร ถ้าไม่ได้กระทาซ้าบ่อยๆ การเรยี นร้นู นั้ จะไม่คงถาวร และในทสี่ ุดอาจจะลมื ได้ กฎการเรียนรู้ 3. กฎแหง่ ผลที่พงึ พอใจ (law of effect) เม่ือบคุ คลไดร้ บั ผลท่พี งึ พอใจย่อมอยากจะ เรยี นรูต้ ่อไป แต่ถ้าไดร้ บั ผลท่ีไมพ่ ึงพอใจ จะไมอ่ ยากเรยี นรู้ ดงั นัน้ การไดร้ บั ผลท่ีพงึ พอใจ จงึ เป็นปจั จัย สาคัญในการเรียนรู้ 3.1.๓ ทฤษฏหี มวก ๖ ใบ (Six Thing Hats) ของ ดร. เอ็ดเวิร์ด เดอ โบโน นายลัทธพล ยวนยี ครผู ู้ชว่ ย โรงเรยี นบา้ นโคกกร่าง สานกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษานครสวรรค์ เขต ๓ ในโครงการ Coaching Teams เพ่อื ยกระดับคณุ ภาพการศกึ ษา จงั หวัดนครสวรรค์

โครงการ Coaching Teams เพ่ือยกระดับคณุ ภาพการศึกษา 4 3.2 ขัน้ ตอนการดาเนินงาน ผู้สอนได้นาการวงจรการควบคุมคุณภาพ หรือวงจรเด็มมิ่ง (Deming Cycle) มาใช้ในการดาเนินการ จัดการเรียนรดู้ ังนี้ 3.2.1 ข้ันวางแผน (Plan : P) - เข้ารว่ มโครงการ Coaching Teams เพื่อยกระดับคุณภาพการศกึ ษา ของสานักงานศกึ ษาธกิ าร ภาค และสานกั งานศึกษาธกิ ารจังหวัด ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2563 - ประชุมสนทนากลุ่ม (Focus Group) ระหว่างผู้อานวยการสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ คณะครู และบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนบ้านโคกกร่าง พร้อมท้ังดาเนินกิจกรรม PLC (Professional Learning Community) เพ่ือออกแบบการจัดการเรยี นรู้ - ผู้สอนศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) หลักสตู รสถานศกึ ษา รวมทั้งศึกษาความแตกต่างระหวา่ งบุคคลของนักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 3 - ผู้สอนวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาภาษาไทยและผลการทดสอบทางการศึกษา ระดับชาติข้นั พนื้ ฐาน (O-NET) ของนกั เรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 โรงเรยี นบา้ นโคกกรา่ ง - ผู้สอนกาหนดจุดประสงค์และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ท่ีต้องการให้เกิดข้ึนกับนักเรียน โดย อาศัยแนวคดิ และทฤษฎีทางการศึกษา - ผู้สอนออกแบบการจัดการเรียนรหู้ รือนวตั กรรมให้สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์ โดยมีรายละเอียด ดงั นี้ 1. ผู้สอนนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) เป็นกระบวนการ จัดการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือกระทา ซ่ึงจะเน้นวิธีการสอนและเทคนิคการสอนที่เป็นการจัดกิจกรรม การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative and Collaborative Learning) ซ่ึงเป็นการเรียนรู้ท่ีต้องอาศัยหลักการ แบบพ่งึ พาอาศยั กนั ทาให้เกิดการเรยี นรรู้ ว่ มกนั ภายในกลมุ่ 2. ผู้สอนนาสื่อชุดแบบฝึกทักษะมาใช้ประกอบการจัดการเรียนรู้ โดยครูคอยชี้แนะ ซ่ึง นกั เรียนจะช่วยกันระดมความคิดภายในกลุ่ม เพอ่ื แก้ปัญหา ทาให้เกดิ การเรยี นรู้ 3. ผ้สู อนจะตอ้ งทาการทดสอบกอ่ นเรียน (Pre-test) และหลังเรยี น (Post-test) ทกุ ครัง้ เพ่ือดูพัฒนาการของนกั เรยี น 4. ผู้สอนวิเคราะห์วิธีการวัดประเมินผลอย่างมีประสิทธิภาพและหลากหลายรูปแบบ เพ่ือให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยา ซึ่งจะนาไปสู่การปรับปรุงและแก้ไขรูปแบบการจัดการเรียนการสอนและ พฒั นาการนานวัตกรรมไปใช้ตอ่ ไป 3.2.2 ขัน้ ปฏบิ ัตติ ามแผน (Do : D) - ผู้สอนจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative and Collaborative Learning) โดยใช้ รูปแบบ CIRC หรือ “Cooperative Integrated Reading and Composition” จับคู่นักเรียน นักเรียนระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 จานวน 15 คน แบง่ ออกเปน็ 6 คู่ ซ่งึ จะใช้เกณฑว์ ดั จากระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของภาค เรียนที่ 2/2562 โดยแตล่ ะกลมุ่ จะมีนกั เรียนทีผ่ ลการเรียนสงู ปานกลาง และออ่ น คละกนั ไป - ในคาบเรียนที่ 1 ผู้สอนให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) เรื่องการอ่านเพื่อ วิเคราะห์วิจารณ์และแสดงความคิดเห็น และศึกษาจากใบความรู้ที่ผู้สอนแจกให้และนาส่ือชุดแบบฝึกทักษะให้แต่ ละกลุ่มศึกษาแล้วทากิจกรรมส่งผู้สอน เพ่ือฝึกให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้และทางานร่วมกันเป็นกลุ่ม มีการแบ่ง หน้าที่ภายในกลุ่ม เปน็ การอยูร่ ว่ มกันในสังคม นายลทั ธพล ยวนยี ครผู ชู้ ่วย โรงเรียนบ้านโคกกร่าง สานกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษานครสวรรค์ เขต ๓ ในโครงการ Coaching Teams เพอื่ ยกระดับคณุ ภาพการศึกษา จังหวัดนครสวรรค์

โครงการ Coaching Teams เพ่อื ยกระดบั คณุ ภาพการศึกษา 5 - คาบที่ 2 ผู้สอนทบทวนความรู้เดิมให้กับนักเรียนโดยให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์วิจารณ์และ แสดงความคิดเห็น บทความที่ครูกาหนดให้ โดยใช้ ทฤษฏีหมวก ๖ ใบ (Six Thing Hats) ของ ดร. เอ็ดเวิร์ด เดอ โบโน ซึ่งความหมายของหมวกแต่ละสีจะแตกต่างกันไป นักเรียนศึกษาแต่ละกลุ่มทาใบกิจกรรม เร่ือง การอ่าน วิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความคิดเห็น โดยสรุปหัวข้อที่นักเรียนได้ตามความหมายของหมวกแต่ละสี และ ออกมานาเสนอกิจกรรมเพื่อเก็บคะแนน สะสมเป็นคะแนนกลุ่ม และให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันจับประเด็น สาคัญพร้อมทั้งสรุปความรู้ที่ได้ และนักเรียนร่วมวิเคราะห์วิจารณ์และแสดงความคิดเห็นข้อสอบโอเน็ต ปี การศึกษา ๒๕๖๒ ท่ีสอดคลอ้ งกนั 3.2.3 ข้ันตรวจสอบการปฏิบัตติ ามแผน (Check : C) - ผู้สอนตรวจสอบความเข้าใจ ความคิดรวบยอดของนักเรียนภายหลังกิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ โดยใชแ้ บบทดสอบหลังเรยี น (Post-test) เรอ่ื งการอา่ นวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และแสดงความคิดเห็น เพ่อื ตรวจสอบว่า นักเรียนเกิดการเรยี นร้ตู ามวตั ถุประสงคห์ รือไม่ 3.2.4 ข้ันปรับปรุงแก้ไข (Action : A) - ผู้สอนศึกษาข้อมูลท่ีได้จากการเก็บรวบรวมว่าผลท่ีเกิดข้ึนเป็นไปตามวัตถุประสงค์ท่ีวางไว้ หรอื ไม่ - ผู้สอนนาผลของข้อมูลไปปรับปรุงแก้ไขรูปแบบการจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับ นกั เรยี นโรงเรยี นบ้านโคกกร่าง ดงั น้ี 1. ปรับปรุงการจัดกลุ่มของนักเรียน โดยจัดกลุ่มนักเรียนที่ไม่ชอบทางานร่วมกันให้มา อยู่ด้วยกัน หรือจัดกลุ่มนักเรียนที่ไม่ชอบทางานส่งให้มาอยู่ด้วยกัน แล้วหากมีคะแนนสะสมของกลุ่มท่ีน้อย นักเรยี นกลุ่มนจี้ ะพฒั นาตนเอง เกิดความกระตอื รน้ มากขึน้ เพอ่ื ใหก้ ลมุ่ ของตนเองไดค้ ะแนน และได้รับคาช่ืนชม 2. ปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้ให้มีความเหมาะสมกับบทเรียนและการเรียนรู้ที่มี ความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคลของนักเรยี น 4. ผลการดาเนนิ การ / ผลสมั ฤทธิ์ / ประโยชน์ท่ไี ดร้ บั 4.1 ผลการดาเนงิ านและผลสมั ฤทธ์ิ จากการนารปู แบบการจัดการเรยี นรูแ้ บบเชงิ รกุ (Active Learning) โดยใชห้ ลกั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบรว่ มมอื (Cooperative and Collaborative Learning) พบว่า 4.1.1 นักเรียนสามาถทางานร่วมกับเพื่อนได้ได้ดีย่ิงข้ึน มีความรับผิดชอบ สามารถแบ่งหน้าที่ได้ อยา่ งเหมาะสมกบั ความแตกต่างระหวา่ งบุคคลของเพ่ือนในกลุม่ 4.1.2 นักเรียนให้ความร่วมมือในการดาเนินงานอย่างเต็มศักยภาพ และมีความต่อเน่ืองในการ ดาเนินงาน 4.1.3 นักเรียนมีแนวโน้มท่ีผลการทดสอบระดับชาติขั้นพ้ืนฐาน (O-NET) จะสูงข้ึนกว่าปีก่อนหน้า เน่ืองจากนักเรียนมีความสุขในการเรียนมากขึ้นและคอยช่วยเหลือเติมเต็มจุดบกพร่องของ เพ่อื น 4.2 ประโยชนท์ ี่ได้รบั 4.2.1 การจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) เป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นให้ ผู้เรียนได้ลงมือกระทา ซึ่งจะเน้นวิธีการสอนและเทคนิคการสอนท่ีเป็นการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative and Collaborative Learning) ซึ่งเป็นการเรียนรู้ที่ต้อง อาศัยหลักการแบบพึ่งพาอาศัยกัน ทาให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันน้ันได้ผลสอดคล้องกับ นายลทั ธพล ยวนยี ครผู ชู้ ่วย โรงเรยี นบ้านโคกกรา่ ง สานกั งานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษานครสวรรค์ เขต ๓ ในโครงการ Coaching Teams เพ่ือยกระดับคณุ ภาพการศึกษา จังหวดั นครสวรรค์

โครงการ Coaching Teams เพ่ือยกระดบั คณุ ภาพการศึกษา 6 วัตถุประสงค์ คือ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้พัฒนาความสามารถด้านการอ่านและ การเขียนในรายวิชาภาษาไทย ของผู้เรียนให้เต็มศักยภาพ และพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการ เรยี นของผ้เู รียนและผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาตขิ ั้นพ้นื ฐาน (O-NET) ให้สูงข้ึนได้ แนน่ อน 4.2.2 สามารถนาไปตอ่ ยอดเพือ่ พัฒนาวิจัยในชน้ั เรยี นและ PLC ร่วมกับครูในโรงเรยี นได้ 5. ปจั จัยความสาเร็จ จากการนารปู แบบการจดั การเรียนรแู้ บบเชิงรุก (Active Learning) โดยใชห้ ลักการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบร่วมมือ (Cooperative and Collaborative Learning) ผู้สอนเห็นถึงปัจจัยแห่งความสาเร็จโดยเรียง ตามลาดบั ดงั น้ี 5.1 ผูอ้ านวยการโรงเรยี นบา้ นโคกกร่าง ครูผู้สอนได้รับการสนับสนุนจากท่านผู้อานวยการโรงเรียนบ้านโคกกร่าง นางพัชนี ดาเชิงเขา ในด้าน การศกึ ษาและอานวยความสะดวกในการจัดการเรียนรอู้ ย่างเต็มที่ 5.2 นักเรยี น นกั เรยนเปน็ สว่ นสาคัญท่สี ง่ ผลต่อความสาเร็จและประสิทธภิ าพของการจัดการเรยี นรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) ใช้หลักการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative and Collaborative Learning) โดยนา รูปแบบ CIRC หรือ “Cooperative Integrated Reading and Composition” และนาทฤษฏีหมวก ๖ ใบ (Six Thing Hats) ของ ดร. เอ็ดเวิร์ด เดอ- โบโน เรื่อง การอ่านวิเคราะห์วิจารณ์และแสดงความคิดเห็น ที่ผู้สอนจัดทา ขน้ึ ถา้ นักเรยี นให้ความร่วมมอื ในการจดั การเรยี นรู้ของผู้สอน กระบวนการต่างๆท่ผี ้สู อนวางแผนไว้ สง่ ผลใหผ้ ู้สอน ได้รบั ขอ้ มูลทแี่ มน่ ยาทสี่ ุด เพ่อื ใช้ในการปรบั ปรงุ แก้ไขต่อไป 5.3 ครใู นโรงเรียน ผูส้ อนมีสว่ นสาคัญมากพอ ๆ กบั นักเรยี น เนื่องจากผสู้ อนมีประสบการณ์ตรงในการสอนนักเรียนโรงเรียน บ้านโคกกร่าง ทาให้ครูได้พบปัญหาต่าง ๆ แต่บางปัญหาอาจจะไม่ได้พบด้วยตนเอง ก็ต้องอาศัยข้อมูลจากผู้สอน ท่านอื่น ๆ ที่แลกเปลี่ยนความรู้กันในโครงการ Coaching Teams เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ของสานักงาน ศึกษาธิการภาค และสานักงานศึกษาธิการจังหวัด ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 เพ่ือนามาใช้ในการจัดทา แผนการจดั การเรียนรู้และนวตั กรรม จนได้ผลงานทส่ี ามารถนาไปใชใ้ นการแก้ปญั หาได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ 5.4 องค์กร ชุมชน ผู้ปกครอง องคก์ ร ชุมชน ผ้ปู กครองมบี ทบาทสาคัญในการระบุปญั หาท่เี กิดขึ้นกับนักเรยี น เนือ่ งจากผสู้ อนไมส่ ามารถ ติดตามนักเรียนทุกคนได้หลังจากเลิกเรียนแล้ว ผู้สอนจึงอาศัยข้อมูลจากส่วนนี้ในการกาหนดปัญหาเพ่ือนามาหา วิธีแก้ไขตอ่ ไป 6. บทเรยี นทไี่ ดร้ ับ 6.1 การทางานที่เป็นระบบและความทุ่มเทเอาใจใส่ของคณะครู ผปู้ กครอง นกั เรียน เป็นปจั จัยสาคญั ท่ี ทาให้การดาเนินงานบรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์และเปา้ หมายท่วี างไว้ 6.2 ผู้สอนควรออกแบบการจดั การเรยี นร้ทู ี่หลากหลายและตอ้ งสอดคล้องกบั การเรยี นรู้แบบเชงิ รุก (Active Learning) โดยใช้หลักการจัดกจิ กรรมการเรียนรูแ้ บบรว่ มมือ (Cooperative and Collaborative Learning) นายลัทธพล ยวนยี ครผู ู้ชว่ ย โรงเรยี นบา้ นโคกกรา่ ง สานักงานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษานครสวรรค์ เขต ๓ ในโครงการ Coaching Teams เพ่ือยกระดับคณุ ภาพการศึกษา จงั หวัดนครสวรรค์

โครงการ Coaching Teams เพอ่ื ยกระดบั คณุ ภาพการศึกษา 7 7. การเผยแพร/่ การได้รับการยอมรับ/รางวัลที่ไดร้ ับ ผู้สอนได้ศกึ ษาและนารปู แบบการจัดการเรยี นรู้แบบเชงิ รกุ (Active Learning) ใช้หลักการจดั กิจกรรม ก า ร เ รี ย น รู้ แ บ บ ร่ ว ม มื อ ( Cooperative and Collaborative Learning) โ ด ย น า รู ป แ บ บ CIRC ห รื อ “Cooperative Integrated Reading and Composition” และนาทฤษฏีหมวก ๖ ใบ (Six Thing Hats) ของ ดร. เอ็ดเวิร์ด เดอ- โบโน เร่ือง การอ่านวิเคราะห์วิจารณ์และแสดงความคิดเห็น ซึ่งใช้ส่ือเป็นชุดแบบฝึกทักษะ นามาแก้ไขปัญหาท่ีเกิดขึ้นกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านโคกกร่าง เป็นครั้งแรก และได้เผยแพร่ เพ่ือใหเ้ พ่ือนครไู ด้ศกึ ษา นาไปใช้ และแลกเปล่ียนประสบการณก์ นั ได้ โดยผา่ นชอ่ งทางดังน้ี 7.1 Google drive 7.2 เวป็ ไซต์ : https://data.bopp-obec.info/web/home.php?School_ID=1060220254 7.3 Facebook : โรงเรยี นบา้ นโคกกร่าง อ.ตาคลี นายลทั ธพล ยวนยี ครผู ชู้ ว่ ย โรงเรยี นบ้านโคกกร่าง สานักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษานครสวรรค์ เขต ๓ ในโครงการ Coaching Teams เพ่อื ยกระดับคณุ ภาพการศกึ ษา จงั หวัดนครสวรรค์

โครงการ Coaching Teams เพอื่ ยกระดบั คณุ ภาพการศึกษา 8 ภาพผนวก คะแนนเปรียบเทียบพัฒนาการการจัดการเรียนรู้ การเรยี นรแู้ บบเชงิ รุก (Active Learning) โดยใช้ หลักการจดั กจิ กรรมการเรยี นรแู้ บบรว่ มมอื (Cooperative and Collaborative Learning) คะแนนเปรียบเทียบ ลาดับที่ คะแนนกอ่ นเรยี น คะแนนหลงั เรียน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 จากตารางคะแนนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 มีผลการเรียนภายหลังการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) โดยใช้หลักการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative and Collaborative Learning) สูงกว่ากอ่ นการจัดการเรยี นรู้ นายลัทธพล ยวนยี ครผู ้ชู ่วย โรงเรียนบ้านโคกกรา่ ง สานักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษานครสวรรค์ เขต ๓ ในโครงการ Coaching Teams เพอื่ ยกระดบั คณุ ภาพการศึกษา จงั หวัดนครสวรรค์

โครงการ Coaching Teams เพ่ือยกระดบั คณุ ภาพการศึกษา 9 ชดุ แบบฝึกทักษะภาษาไทย เรอื่ งอา่ นวนิ จิ สาร กจิ กรรมเตรียมความพร้อมก่อนเรียน “ต้งั สตกิ ่อนสตาร์ท” นายลทั ธพล ยวนยี ครผู ู้ชว่ ย โรงเรียนบ้านโคกกรา่ ง สานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษานครสวรรค์ เขต ๓ ในโครงการ Coaching Teams เพ่ือยกระดับคณุ ภาพการศึกษา จังหวดั นครสวรรค์

โครงการ Coaching Teams เพ่อื ยกระดบั คณุ ภาพการศกึ ษา 10 กิจกรรม โครงการ Coaching Teams นายลทั ธพล ยวนยี ครผู ้ชู ่วย โรงเรียนบา้ นโคกกรา่ ง สานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษานครสวรรค์ เขต ๓ ในโครงการ Coaching Teams เพ่อื ยกระดบั คณุ ภาพการศึกษา จงั หวัดนครสวรรค์

โครงการ Coaching Teams เพื่อยกระดบั คณุ ภาพการศกึ ษา 11 นายลทั ธพล ยวนยี ครผู ชู้ ว่ ย โรงเรยี นบา้ นโคกกร่าง สานักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษานครสวรรค์ เขต ๓ ในโครงการ Coaching Teams เพ่ือยกระดบั คณุ ภาพการศกึ ษา จังหวัดนครสวรรค์