Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore องค์ความรู้-เรื่องการเลี้ยงปูดำ คลองเคียน

องค์ความรู้-เรื่องการเลี้ยงปูดำ คลองเคียน

Published by thakuatungnfe, 2020-09-09 01:13:52

Description: องค์ความรู้-เรื่องการเลี้ยงปูดำ คลองเคียน

Search

Read the Text Version

โครงการครอบครัว TO BE สีขาว กศน.ตาบลคลองเคยี น อาเภอตะก่ัวทงุ่ จังหวดั พังงา กิจกรรม การเลีย้ งปูดาในบอ่ ธรรมชาต/ิ ปลูกผกั สวนครวั ครอบครัว นายเดชา ลาวยั ล์ ๑.กิจกรรมการสรา้ งความรกั ความอบอุน่ ในครอบครัว ภายในครอบครัวของ นายเดชา ลาวัลย์ ซึ่งเปน็ ครอบครวั To Be สีขาว ของ กศน.ตาบลคลองเคยี น อาเภอ ตะก่ัวทุ่ง ได้ทากจิ กรรมคือ การเลี้ยงปดู าในบ่อดนิ การปลูกผักสวนครวั ซงึ่ มีครอบครัวทีป่ ระกอบไปด้วย พ่อ แม่ ภรรยา และลกู ชาย 1 คน ลูกสาว 1 คน แต่ข้าพเจ้าได้แยกมาอย่กู ับครอบครัวในบ้านหลงั หนงึ่ ซง่ึ อยู่ใกล้ กันกับบา้ นพ่ี ๆ นอ้ ง ๆ พอ่ แม่ ความรัก ความอบอุ่นในครอบครัว ข้าพเจ้าถือว่าเปน็ ความสขุ อย่างหน่ึงทสี่ รา้ งแรง บันดาลใจใหผ้ มส้กู ับชวี ติ เพ่ือครอบครวั กจิ กรรมการเลย้ี งปดู าในบ่อธรรมชาต/ิ การปลกู ผักสวนครวั ทาใหส้ มาชิก ในครอบครวั ได้มสี ว่ นร่วมในการทากจิ กรรม เกือบทกุ ขน้ั ตอน เรมิ่ จากการปรบั พ้ืนทีบ่ ่อ การวางแนวขอบบ่อ ซ่งึ จะ มีพ่อคอยชว่ ยแนะนาระดบั การขนึ้ ลงของนา้ ลูกชาย ลกู สาว ชว่ ยในเรอ่ื งของการสร้างแนวรอบบอ่ รว่ มกันพ่ี ๆ น้อง ๆ ส่วนผมและภรรยา ก็ชว่ ยกนั ในสว่ นทส่ี ามารถทาได้ ทาให้ทกุ คนในครอบครวั มีสว่ นร่วม ไม่วา่ จะเปน็ กจิ กรรม การปลูกผักส่วนครัว เราได้มีส่วนร่วมในการจดั เตรยี มวสั ดุอุปกรณ์ จนเสรจ็ สนิ้ ทาให้เกิดความรกั ท่ีอบอ่นุ ใน ครอบครวั ทางานไปด้วยสอนลกู ไปด้วย เพ่ิมทกั ษะกันไปตลอดใหม้ ีความเข้มแข็ง และสามารถสรา้ งรายไดเ้ สรมิ ให้กบั ตนเอง และครอบครัวได้อีกดว้ ย ท่ีสาคัญคือ ทาให้ข้าพเจ้าได้มีความรับผิดชอบตอ่ ตนเอง ครอบครัว และมี กาลงั ใจในการพฒั นาสถาบันครอบครวั ให้อบอุ่นตอ่ ไป ๒.กิจกรรม การเล้ียงปูดาในบอ่ ธรรมชาติ/การปลกู ผักสวนครวั กจิ กรรมที่ทาคือ การเลี้ยงปูดาในบอ่ ธรรมชาติ/การปลูกผกั สวนครวั เม่อื ได้ทากจิ กรรมนี้แล้วสิ่งท่ไี ดค้ ือ ได้ สรา้ งความสัมพนั ธ์ ความอบอุ่น ความรับผิดชอบตอ่ ตนเอง และทส่ี าคัญคือสามารถทาเป็นรายไดเ้ สรมิ และได้ เรียนรู้วิธกี ารเลีย้ งปูดา การปลกู ผักชนิดตา่ ง ๆ ผลผลิตทีไ่ ด้จาก 2 กจิ กรรมท่ีครอบครัวทา นาไปเป็นอาหารใน ครัวเรอื น นาไปขายส่วนหน่งึ และยังสามารถนาไปแบ่งปันใหก้ ับญาติพีน่ อ้ งทอ่ี ยู่ในละแวงใกล้เคยี งไดอ้ ีกด้วย ลูก ๆ สามารถนาทักษะในการทากจิ กรรมเลย้ี งปูดา การปลูกผกั สวนครวั ไปใชใ้ นการดาเนินชีวติ ในอนาคตได้อยา่ งดี สามารถลดรายจ่าย เพิ่มรายไดอ้ ีกช่องทางหนึ่งให้กบั ครอบครวั อีกด้วย ข้าพเจ้ามคี วามสุขและดีใจเป็นอย่างมาก ท่ี กศน.ตาบลคลองเคียน ได้เลือกครอบครัวของข้าพเจา้ เปน็ ครอบครวั To Be สขี าวของตาบลคลองเคยี น อาเภอตะกัว่ ทุ่ง และขอบคุณ สานักงาน กศน.จงั หวดั พงั งา ที่มี กจิ กรรม โครงการครอบครวั To Be สขี าว น้ขี ้ึนมา ทาให้ข้าพเจา้ ได้เรยี นรู้การมีความรบั ผิดชอบตอ่ ตนเองและ ครอบครัว สรา้ งความสัมพันธ์มากย่งิ ข้นึ ได้เรยี นรู้การฝกึ อาชพี การเลีย้ งปดู าในบอ่ ธรรมชาต/ิ การปลกู ผกั สวนครวั ชนิดตา่ ง ๆ ทาให้มีรายได้เสริมใหก้ บั ตนเองและครอบครวั ได้อกี ด้วย สามารถลดรายจา่ ย เพม่ิ รายไดใ้ นครอบครัว

๓.การตดิ ตามผล ภาพกจิ กรรมการให้ความรูแ้ ละถอดองคค์ วามรู้ ภาพกิจกรรมการให้ความรู้และติดตามผลการเยยี่ มบา้ นของครอบครวั To Be สีขาวตาบลคลองเคยี น หวั หน้าประมงอาเภอตะกว่ั ทงุ่ ใหค้ วามรู/้ ตรวจดพู ื้นที่เลี้ยงปูดา

ผ้อู านวยการ สานักงาน กศน.จงั หวดั พังงา/ผู้อานวยการ กศน.อาเภอตะกวั่ ทุง่ เยี่ยมชมกจิ กรรมและให้คาแนะนาครอบครับทูบี นายอาเภอตะกั่วทุ่ง/ผูอ้ านวยการ สานกั งาน กศน.จังหวัดพังงา/ผ้อู านวยการ กศน.อาเภอตะกว่ั ทุ่ง ผนู้ าชุมชน ร่วมกจิ กรรมปล่อยพนั ธุ์ปดู าสบู่ ่อธรรมชาติ

กจิ กรรมเตรยี มสถานท่ปี ลูกผักสวนครวั

๔.การถอดบทเรียนองคค์ วามรู้ การเลยี้ งปูดาในบ่อธรรมชาติ สัตว์ที่อาศัยในป่าชายเลนน้ันมีมากมายหลายชนิด เน่ืองจากป่าชายเลนเป็นแหล่งอาหารที่มีความ อุดมสมบูรณ์สูง พบได้ท้ังสัตว์ท่ีมีขนาดเล็กมองไม่เห็น ด้วยตาเปล่า จนถึงสัตว์ขนาดใหญ่ ในที่น้ีจะกล่าวถึงสัตว์ ขนาดใหญ่ท่ีสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าที่พบในป่าชายเลนแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ใหญ่ คือ สัตว์ทะเลและสัตว์บก ใน พื้นที่ท่ีมีป่าชายเลนอยู่หนาแน่น จะมีสัตว์ที่อาศัยอยู่หน้าดินมากกว่าสัตว์ที่อาศัยอยู่ในดิน โดยจะพบสัตว์ที่มักจะ อาศัยบริเวณต้นไม้ปา่ ชายเลน เช่น ปู หอย และปลาตีน ซึ่งรวมถึงปูดาด้วย ระบบนิเวศป่าชายเลนเป็นระบบนเิ วศ ที่มีความซับซ้อน ประกอบด้วยพืชและสัตว์ท่ีแตกต่างกันหลายชนิด สัตว์และพืชเหล่าน้ีเป็นส่วนประกอบที่มี บทบาทร่วมกัน และมีความเชื่อมโยงกันในเร่ืองของความสัมพันธ์ในลาดับข้ันการกินอาหาร โดยส่วนประกอบแต่ ละส่วนจะกินส่วนประกอบอ่ืนเป็นอาหาร หรือถูกกินโดยส่วนประกอบอ่ืนๆ ในระบบนิเวศ ซึ่งสิ่งมีชีวิตต่างๆ สามารถรวมกล่มุ เข้าด้วยกนั โดยใช้ชนิดอาหารเปน็ ตัวแบง่ การจาแนกสง่ิ มีชวี ิตออกตามระดบั ชน้ั คือ 1. ผู้ผลิตข้ันต้น ป่าชายเลนและพืชอื่นๆ เป็นผู้ผลิตขั้นต้นในระบบนิเวศป่าชายเลน ส่ิงมีชีวิตกลุ่มนี้จะ เปล่ียนแสงอาทิตย์เป็นพลังงาน พวกนีจ้ ะเป็นสมาชิกช้นั สงู สดุ ของการกินอาหาร 2. ผู้ยอ่ ยสลาย สิง่ มชี ีวติ กลมุ่ น้ี ได้แก่ แบคทีเรยี และรา มนั จะกินของเสยี เชน่ พชื และสัตวท์ ่ตี ายแลว้ 3. ผูบ้ รโิ ภคขัน้ ต้น ไดแ้ ก่ herbivores ซึ่งกินพชื ที่เป็นผ้ผู ลติ ขน้ั ต้นเป็นอาหาร 4. ผู้บริโภคลาดบั ที่สอง คือ พวก carnivores ที่กินผูบ้ รโิ ภคข้นั ตน้ และผู้ยอ่ ยสลายเป็นอาหาร 5. ผู้บรโิ ภคลาดบั ทีส่ าม คอื พวก carnivores ทีก่ นิ ผ้บู ริโภคลาดับทสี่ องและผู้ย่อยสลายเป็นอาหาร หว่ งโซ่อาหารเบื้องต้นในป่าชายเลน ห่วงโซอ่ าหารในป่าชายเลนมีการถ่ายทอดพลงั งานและอาหารเช่นเดยี วกบั ระบบนเิ วศอื่น สารอาหารดงั กลา่ วคือ มีการถา่ ยทอดไปตามลาดบั ข้ันของการกนิ อาหารภายในระบบนิเวศกลา่ ว โดยผบู้ รโิ ภคไดร้ บั พลังงานจาก ผูผ้ ลิต โดยการกนิ ต่อกันเป็นทอดๆ ขบวนการน้ีมีความสาคัญมากต่อส่ิงมีชวี ติ เนอื่ งจากอาหารที่ถกู กนิ เข้าไปจะถกู นาไปใช้ ในการเจรญิ เติบโต และการสืบพันธ์ุ รวมท้งั กระบวนการทางานต่างๆ ของรา่ งกาย การถ่ายทอดพลงั งาน ทีไ่ ด้ จากอาหารจากส่งิ มีชีวติ หนงึ่ ไปยงั สิง่ มีชีวิตอีกชนิดหนึ่งใน การถ่ายทอดพลงั งานและอาหารจากผู้ ผลิตไปยังผู้ บริโภค จะไม่ ถึง 100 เปอรเซ็นเน่อื งจากพลงั งานบางสว่ นจะถกู นาไปใชใ้ นกิจกรรมตา่ งๆ ในการดารงชวี ิตทาให้ มี พลังงานเพยี ง 10% เท่าน้ันที่ถกู ส่งต่อไปยงั สิ่งมชี วี ติ หรือผู้ บรโิ ภคที่อยู่ ระดับสงู สดุ เมื่อมีหว่ งโซ่อาหารหลายๆ ห่วงโซ่อาหารก็จะเกดิ เป็นสายใยอาหารข้ึน ในธรรมชาติการถา่ ยทอดพลังงานและสารอาหารไม่เป็นสายตรงเสมอ ไป เพราะส่งิ มชี ีวิตหน่งึ อาจกินอาหารได้หลายชนิด และขณะเดียวกันอาจตกเป็นเหยื่อของผู้ลา่ ชนิดอื่นๆ อีกหลาย ชนิดเชน่ กนั ดงั นน้ั ห่วงโซ่อาหารของแต่ละระบบนเิ วศ จงึ มีความสมั พันธก์ ันโดยมีการกินขา้ มหว่ งโซอ่ าหาร การ ถา่ ยทอดพลงั งานจงึ มคี วามซับซอ้ นมากขึน้ และสัมพันธ์เกย่ี วโยงไปมาหลายหว่ งโซอ่ าหาร ความสมั พันธ์ในลกั ษณะ การกินทเ่ี ก่ยี วโยงกัน และมคี วามซบั ซ้อนน้ีเรยี กว่า สายใยอาหาร (Food Web) หรอื ข่ายใยอาหาร สายใยอาหาร

ประกอบดว้ ยห่วงโซอ่ าหารหลายสายเช่ือมโยงกนั แสดงใหเ้ ห็นถึงความสมั พันธ์ระหวา่ งสงิ่ มชี ีวติ ในชมุ ชนท่มี ตี ่อกนั อยา่ งซบั ซ้อน ขัน้ ตอนการดาเนนิ งานเลย้ี งปูดาในบ่อธรรมชาติ 1.ขน้ั ตอนในการสรา้ งบ่อตามสดั สว่ นของปา่ โกงกางในธรรมชาติ โดยดพู นื้ ท่ใี ห้เหมาะสม ระดับนา้ ข้ึน นา้ ลง มกี ารถ่ายเลของนา้ ไดห้ รือไม่ ดูลกั ษณะของดนิ ว่าเปน็ ลักษณะดินแบบไหน ต้องเลือกพ้นื ทใี่ ห้เหมาะกับการอยู่ อาศยั ของปูดา ย่ิงเปน็ พ้นื ที่ที่มีปดู าอยู่แล้วย่งิ ดี แสดงให้เห็นวา่ ปูดานนั้ สามารถอาศัยอยูไ่ ดใ้ นแหล่งน้นั ทาให้การ ปรับบ่อไมย่ งุ่ ยากเทา่ ไหร่ เหมาะสม สามารถลดต้นทนุ ไดอ้ ีกด้วย 2.การคดั หาพันธปุ์ ูดา โดยการรบั ซอ้ื จากชาวบา้ นท่ีทาอาหารหาปูดา เลอื กซื้อปทู ่ีมขี นาดเล็ก ในราคาตวั ละ 10 บาท ให้ไดจ้ านวน 200-300 ตัว โดยสะสมไวเ้ ร่ือย ๆ เพือ่ นามาเลยี้ งและขยายพันธ์ุต่อในบ่อธรรมชาติ 3.ปูดามาปลอ่ ยลงในบอ่ โดยมพี น้ื ทีป่ ระมาณ 4-5 ไร่ เล้ยี งปูดา จานวน 2 บ่อ บอ่ ละประมาณ 2 ไร่ โดย ทัง้ 2 บอ่ นี้ เปน็ บ่อเลยี้ งปดู าแบบธรรมชาติ โดยใช้อุปกรณ์ กระเบื้อง ไม้ ตาข่าย ตาอวน นามาเปน็ วสั ดุอปุ กรณใ์ น การกั้นบ่อกับป่าโกงกางในธรรมชาติ ทเ่ี ลย้ี งอยตู่ อนนี้เป็นปูดาทัง้ หมด เลย้ี งปล่อยแบบธรรมชาติไม่ไดใ้ ชอ้ าหาร พเิ ศษอะไร ปดู าเพิง่ มาลงได้ประมาณ 2 เดือน สาหรับลูกพนั ธ์ุปูที่ใชไ้ ด้มาจากคนในท้องถิ่นดักมาขาย เหมือนส่ัง 1 ครั้ง ก็แลว้ แต่เขาเอามาขายให้ จานวนทรี่ บั ซื้อลูกปูดามาเพาะต่อนน้ั ไม่แนน่ อน เหมือนตอนลงทุนทา เสยี ค่าลกู ปู ตัวละ 10-15 บาท จะมากจะนอ้ ยแล้วแตจ่ านวนทเ่ี ขาให้ บางวันอาจมมี าขายใหเ้ ปน็ 100 ตัว แตบ่ างวันก็ไม่ได้ซื้อ ลกู พันธุป์ ดู าเลยก็มี เขาไปดักมาจากในคลอง ดักธรรมชาติแลว้ จงึ นามาขายต่อใหเ้ ราการเล้ยี งแบบธรรมชาติ ปลอ่ ย ใหป้ อู ยู่ในบ่อ คอยให้แตเ่ พียงอาหารเทา่ นัน้ จงึ ทาให้สามารถประหยัดต้นทนุ ไปไดม้ าก ปูดา ในบางครง้ั เดินขนึ้ มา จากบอ่ เล้ียง เราจึงตอ้ งปล่อยให้หญา้ ขอบบอ่ สูงไว้ เพื่อกันไมใ่ ห้ปูดาเดนิ ขึน้ หากไม่มหี ญ้าบรเิ วณขอบบ่อจะทาให้ปู เดนิ ขนึ้ ได้ง่าย ปดู าทเี่ ราปล่อยมี ตัวขนาดเล็ก ประมาณ 2-3 นว้ิ ใชร้ ะยะเวลาประมาณ 2-3 เดือน ก็สามารถจับไป จาหน่ายได้แลว้ ปูดาทีเ่ ล้ยี งเป็นแบบธรรมชาติ ไม่ต้องใหเ้ หยือ่ มาก โดย 1 อาทติ ย์ จะให้อาหารปดู าเพียง 2 วนั เท่านัน้ อาหารท่ีใหน้ ัน้ เปน็ พวกปลาเปด็ ปลาเหยื่อ สาดให้ทว่ั บ่อ ไม่ได้ใช้อาหารเมด็ หรืออาหารชนดิ อ่นื ให้ การเล้ยี งปูดาในรปู แบบธรรมชาตินี้ ทาให้สรา้ งรายไดเ้ สรมิ หลังจากวา่ งจากงานหลกั ไดด้ ี แม้มีกาไร ไมส่ งู มาก แต่สามารถทดแทนรายได้ท่ีหายไปไดส้ ว่ นหน่งึ สาหรบั การจบั ปูไปจาหนา่ ยนนั้ ใชอ้ ปุ กรณ์จับปูในการจบั ปูดา โดยใสเ่ หยอื่ ไว้ แลว้ นาไปหยอ่ นลงในบ่อเล้ียงปู ซ่งึ ปจู ะเข้ามากนิ เหยอ่ื ภายในหบั แล้วติดอยู่ในนัน้ จงึ สามารถ นาปูขน้ึ จากบ่อได้ เวลามพี ่อค้ามาสั่งซื้อ เราจะดักไปขายที่เขารับซอ้ื อีกทีหนง่ึ เราไม่ได้ดูดนา้ แห้งเหมือนก้งุ แต่ใช้ อปุ กรณจ์ ับปโู ยนเอา เหมือนไปขายครั้งหน่งึ กาไรท่ีได้กแ็ ล้วแตเ่ รา กาไรไม่แน่นอน ถ้าขยันดักหนอ่ ยก็ได้กาไร มาก กาไรที่ไดป้ ระมาณ วันละ 300-400 บาท แล้วแต่จานวน ถา้ ลงปเู ยอะกไ็ ดม้ าก ถา้ ประมาณชว่ งเดอื นมนี าคม- เมษายน ปูจะมีราคาแพงมาก ปกู า้ มจะขายไดป้ ระมาณ กโิ ลกรัมละ 200 บาท ส่วนปูไข่จะมรี าคาท่ีสงู มากกว่าปู กา้ ม จงึ ขายแยกกนั ใชว้ ิธีการสังเกตทจ่ี ับปงิ้ ของปู ซ่ึงปูตวั ผจู้ ะมีจบั ป้ิงที่เรียวเป็นสามเหล่ยี มแหลม ส่วนปตู วั เมยี จะ มีจบั ป้งิ ทม่ี ลี ักษณะใหญ่เปน็ ครึ่งวงกลม ซงึ่ ภายในจะมไี ข่อยู่ ตลาดคา้ ปชู ่วงหนา้ ฝนจะไม่ค่อยดี แตถ่ ้าเปน็ ช่วงหน้า ร้อนราคาจะดีมาก ส่วนมากจะเปน็ ลูกค้าในพนื้ ที่ตาบล หรือสงั่ มาตามการบอกตอ่ ๆ กนั ไป เลย้ี งปูนั้นมคี วามเส่ียงบา้ ง ปทู ่เี ลย้ี งไว้ในบางครัง้ ติดเห็บเหาของพวกสตั ว์น้า โดยจะตายเพยี งตัว เดยี ว ไม่ได้ตายท้งั บ่อ ปูดามีความอดทนสงู แม้จะนามาเลี้ยงในบ่อกงุ้ ก็ตาม ไมต่ ้องตีนา้ ปลอ่ ยอย่างเดยี วรอวนั

เก็บ คา่ นา้ อาจจะมผี ลถ้าเราปลอ่ ยหนาแน่น ปดู า มีปัญหาการกนิ กันเองบา้ งเวลาทปี่ ลู อกคราบ ตวั เมยี จะกินตัวผู้ เราป้องกนั โดยการแยกบอ่ ตวั ผูก้ ับตวั เมยี ไวต้ ้ังแตช่ ่วงแรก เพ่ือป้องกนั ปญั หาการกินกันเอง บอ่ ปดู านจ้ี ะมีการถ่าย น้าเข้า-ออก บา้ ง ประมาณ 15 วนั ต่อคร้งั ซงึ่ จะใชช้ ่วงท่ีเป็นหัวน้า (น้าสงู ) ถ่ายนา้ ในบ่อทง้ั หมดเพอ่ื รักษาความ สะอาดภายในบ่อ การเลี้ยงปูดาในบอ่ กุ้งน้ีจึงเปน็ ตวั อยา่ งเลก็ ๆใหแ้ ก่เกษตรกรเลีย้ งกุ้งท่ีกาลังประสบปญั หากงุ้ ตดิ โรคEmsแลว้ หยุดเลย้ี งไป ปล่อยบอ่ ไวไ้ ม่ไดใ้ ช้ประโยชน์ ไดห้ นั มาเล้ียงปดู าแทนท่ีดว้ ยความเส่ยี งทน่ี อ้ ยกว่า รวมถึง ปดู าสามารถจับขายได้ทกุ วนั เพ่มิ รายไดใ้ หแ้ ก่เกษตรกร ปูดาจงึ เป็นสตั วน์ ้าชนิดหนงึ่ ท่ีนา่ สนใจเล้ยี งภายใต้วกิ ฤติโรค Ems องคค์ วามรู้เร่ืองการเลี้ยงปดู า 1.การจัดการน้าในช่วงน้าตาย(น้าขึ้นนอ้ ย)6-11 ค่าใหน้ าพลาสตกิ มารองพนื้ บ่อเพือ่ กกั เก็บนา้ ไว้ จะได้มนี ้าตลอด น้าขนึ้ นา้ ลง (อังกฤษ: tide) เกดิ ขน้ึ เนื่องจากอทิ ธิพลดงึ ดดู ระหวา่ งโลกกับดวงจนั ทรแ์ ละดวงอาทติ ย์ (อทิ ธิพลของดวงอาทติ ย์มีน้อยกว่าดวงจันทรป์ ระมาณคร่ึงหนึ่ง) (นา้ เกดิ หมายถงึ น้าข้ึนสูงมากและลงตา่ มาก ในขณะทนี่ า้ ตายหมายถึงน้าขึ้นและน้าลงนอ้ ยมาก ท้ังนี้ในบริเวณท่ีมีน้าข้นึ ลงวนั ละสองรอบ วันทน่ี ้าตายอาจเห็น น้าข้ึนสูงสดุ และน้าลงต่าสุดเพียงอย่างละครงั้ เดียว)นา้ ขึ้นเกิดใน 2 ส่วนของโลกคือ สว่ นทห่ี นั เขา้ หาดวงอาทติ ย์ หรือดวงจนั ทร์ และส่วนที่อยู่หา่ งจากซกี โลกด้านตรงขา้ ม และเกิดนา้ ขึน้ น้าลงสงู สดุ หรือน้าเกดิ (Spring tide) เม่ือโลก ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ อยู่ในแนวเดยี วกันหรอื ทกุ ๆ 2 อาทติ ย์ คือ ขึ้น 15 ค่า และ แรม 15 ค่า และ ระดบั น้าข้ึนน้าลงจะเปลยี่ นแปลงน้อยหรอื นา้ ตาย (Neap tide)เม่ือดวงอาทติ ย์ โลก ดวงจนั ทร์ อย่ใู นแนวตั้งฉาก คือ วันขนึ้ 7 คา่ และ แรม 7 คา่ 2.การใหอ้ าหารปูต้องใหต้ อนนา้ ขึน ปจู ะออกจากรตู อนนา้ ขึน และให้อาหารวนั ละ 2 มือก็พอ “ลูกปูดาทเ่ี ราซือ้ มาใส่เลยี้ งในบอ่ จะมดี ว้ ยกนั 2 ไซซ์ อย่างไซซแ์ รกอยทู่ ี่ 14-15 ตัว ต่อกิโลกรัม ใช้เวลา เลี้ยงอยู่ท่ี 3 เดอื น จงึ จะโตเต็มทพ่ี ร้อมจาหนา่ ยได้ และไซซ์ทสี่ องเป็นปูดาท่ีมีขนาดตัวใหญ่ข้ึนมาอกี ไซซ์อยูท่ ่ี 7-8 ตวั ตอ่ กโิ ลกรัม ใช้เวลาเลีย้ งอยทู่ ี่ 45 วัน กจ็ ะโตใหญส่ ามารถจับขายไดเ้ ชน่ กนั สว่ นอาหารทใ่ี ชเ้ ล้ยี งปดู าจะเปน็ ปลาเปด็ ที่ไดจ้ ากทะเลบา้ ง จากแหล่งอนื่ ๆ บา้ ง มาหน่ั ใหม้ ีขนาดท่ีเล็กเพ่ือให้ปูดากนิ ซงึ่ อาหารทใี่ ช้เลยี้ งปูดาจะให้ กินทลี ะน้อยๆ แต่ให้บ่อย เพื่ออาหารท่ีเลี้ยงจะไมไ่ ปสะสมภายในบอ่ มากจนเกนิ ไปจนทาใหน้ า้ เน่าเสยี ” 3.อาหารตอ้ งเป็นปลาสดจะดีกว่าปลาเน่า เพราะมผี ลต่อระบบขับถา่ ยระบบย่อยอาหาร และผลต่อการเตบิ โต การป้องกนั โรคอน่ื ๆ นัน้ จะมีการถ่ายนา้ เกา่ ออกและนาน้าใหมใ่ สล่ งไป กจ็ ะชว่ ยใหข้ องเสียท่อี ยใู่ นบ่อไหล ออกมาดว้ ย จงึ ทาใหภ้ ายในบ่อมีความสะอาดมากขึน้ สว่ นสตั วศ์ ตั รอู ื่นๆ ของปดู าทต่ี อ้ งระวงั คือ นก ปลากะพง ปลาชนิดอื่นๆ ท่จี ะมากินลูกปูดาได้ จงึ ต้องระวงั อย่าให้มีอยู่ภายในบริเวณบ่อ 4.ถ้ามกี ารพัฒนาเป็นปูนิ่มจะมีราคาดีกวา่ ผลก้าไรดีกวา่ ปดู าสามารถจาหนา่ ยได้ 2 แบบเป็นปูเนือ้ และปไู ข่ หรอื จะมกี ารพัฒนาใหเ้ ป็นปนู ิ่มท่รี าคาดมี าก ในเรื่อง ของการทาตลาดเพ่ือจาหน่ายปดู าน้นั ปชู นดิ นเี้ ป็นทตี่ อ้ งการของตลาดเปน็ อย่างมาก พ่อค้าแม่ค้าจงึ เข้ามาติดต่อ

ซื้อถงึ บ้าน ซ่งึ ตัวเมยี ท่ีโตเต็มทแ่ี ละมีไข่จะต้องจบั สง่ จาหน่ายทันทีเปน็ ปูไข่ ราคาอยู่ท่ีกิโลกรัมละ 350-450 บาท ส่วนตวั ผูส้ าหรับจาหน่ายเป็นปเู นอื้ ราคาจะถูกกว่าตวั เมยี อย่ทู ีก่ ิโลกรมั ละ 250-350 บาท โดยปดู าทีอ่ ย่ภู ายในบ่อ จะจับขึ้นมาจาหน่ายทกุ สปั ดาห์ เพ่ือนาเงินมาใช้จา่ ยหมุนเวียนภายในครอบครวั “ปดู าเม่ือไดร้ อบที่จบั ขายได้ต้อง ขายทนั ที จะไปรอจับขายในช่วงราคาขึน้ ไม่ได้ เพราะช่วงนัน้ เราจะไม่รู้วา่ จะมโี รคอะไรมาทาให้ปดู าภายในบ่อตาย บา้ ง ดงั นน้ั เมอ่ื มโี อกาสต้องจับขายทันที พอเห็นปูดาในบ่อเราเริ่มมจี านวนทีล่ ดนอ้ ยลงแลว้ เราก็จะมลี ูกปูดาชุด ใหม่ๆ มาปล่อยลงเลี้ยงหมนุ เวียนภายในบอ่ อย่เู สมอ ก็จะทาให้การค้าขายของเราไม่ขาดชว่ ง และมปี ูดาสง่ ให้พอ่ คา้ แมค่ า้ อยตู่ ลอด และรายไดท้ มี่ ีก็ไม่ขาดช่วงไป 5.กรณีท่ปี กู ัดกนั อาจมาจากสาเหตุขนาดของปูแตกต่างกัน อาหารไม่เพียงพอ จงึ จาเปน็ ต้องมีการแยกขนาดกอ่ น ปลอ่ ยลงบอ่ สักระยะ ก่อนจะมารวมกัน ก่อนเล้ียงควรปล่อยใหป้ ปู รบั ตวั ในสภาพบ่อเสยี ก่อนประมาณ 24 ชม. ความหนาแนน่ ควรจะอยทู่ ี่ 30- 40 ตวั /ตรม. ธรรมชาตขิ องปูนัน้ จะลอกคราบในชว่ งน้าข้ึนลงเต็มท่ีระหวา่ งขึน้ 15 ค่าและแรม 3 คา่ ใช้เวลา 1-2 เดอื นในการลอกคราบ ซ่ึงใชเ้ วลานานเกนิ ไป ดังนน้ั เทคนิคทจ่ี ะช่วยใหป้ ูลอกคราบเร็วขนึ้ วิธที ใ่ี ชไ้ ด้ผลดี คอื ตดั ระยางค์ของปทู ้งิ คือ ตดั ขาเดินทง้ั 4 คู่ ให้เหลือแต่ขาวา่ ยน้าคู่สุดทา้ ย โดยใช้คีมจบั รยางคท์ ตี่ อ้ งการตัดไวเ้ ฉย ๆ แลว้ ปล่อยให้ปูเปน็ อสิ ระ สญั ชาตญิ าณการเอาตัวรอดปูจะทง้ิ รยางค์สว่ นนั้น โดยอตั โนมัติ วิธนี ีจ้ ะชว่ ยใหป้ ูลอก คราบภายใน 20-25 วัน ปัจจัยอน่ื ๆทม่ี ีอทิ ธิพลต่อการลอกคราบเร็วข้ึนไดแ้ ก่ ฮอร์โมนทีจะกระตุ้น ความเค็มของ นา้ อณุ หภมู ิ 6.เทคนิคการเลย้ี งปูดาในรูปแบบทีแ่ ตกต่างออกไป การเลี้ยงปูดาปัจจบุ นั มรี ปู แบบการเลี้ยงอยู่หลากหลายวิธี ข้นึ อยู่กับพ้ืนท่ีและความสะดวกสบายของผู้เล้ียงเปน็ สาคัญ - การเลี้ยงปูดาในบ่อดนิ การเลยี้ งแบบนี้จะเปน็ การเล้ยี งในบอ่ กุง้ เกา่ ที่มขี นาดไม่ใหญ่มากนัก/บอ่ ธรรมชาตใิ นปา่ โกงกาง ผเู้ ล้ียงจะทาการลอ้ มอวนรอบบ่อเพื่อป้องกนั ปูดาคลานออก หรืออกี แบบจะเปน็ เลี้ยงในวงั กุ้งปนกับสัตว์น้าชนิดอ่นื ซง่ึ วังกุ้งจะมีขนาดใหญ่จงึ ไมน่ ิยมล้อมอวน ปูดาทีป่ ลอ่ ยในบ่อดินกจ็ ะนิยมนาปเู ล็กจิว๋ ปู โพรก ปไู ข่อ่อน มาลงเลย้ี งให้ได้ขนาดทตี่ ้องการจึงจะจบั ขาย -การเล้ยี งปูดาในตะกรา้ พลาสติก การเล้ียงแบบนี้นยิ มเล้ียงทาเปน็ ปนู มิ่ เป็นสว่ นใหญ่ โดยทาแพลอยนา้ อยู่ ในบอ่ พรอ้ มปล่อยปูหน่ึงตวั ต่อกลอ่ ง การเลยี้ งในตะกร้ายังสามารถเล้ียงปไู ข่และปเู นอ้ื ได้อกี ดว้ ย โดยนาปูไขอ่ ่อน มาขุนในกลอ่ งให้ได้ไข่เต็มที่ หรอื นาปูโพรกมาขุนให้แนน่ ตามทีต่ ลาดต้องการอกี ด้วย -การเลยี้ งปูดาแบบคอนโด เป็นการเลย้ี งในกล่องพลาสตกิ ซ้อนกันเป็นชั้นๆ แบบคอนโดนั่นเองเป็นการ เลี้ยงบนบก ในระบบปิด ใช้ระบบน้าหมุนเวียนตลอดการเล้ยี ง

การปลกู ผักสวนครัว ผักสวนครวั รัว้ กนิ ได้ : ผักสวนครัว ตามรอยพ่อ ตามวิถี เศรษฐกิจพอเพยี ง ปลูกทุกอย่างทกี่ นิ กนิ ทุกอย่างท่ีปลูก ใชช้ วี ิตเรียบง่าย พออยู่พอกนิ พอประมาณ มภี มู คิ ุ้มกนั ปจั จุบันเมอ่ื รูปแบบการใช้ชวี ิตของคนสว่ น ใหญเ่ ปลีย่ นไป อันเนื่องมาจากสภาพเศรษฐกิจสงั คมและวัฒนธรรมทเ่ี ปลีย่ นแปลง โดยการดาเนนิ ชีวติ อยู่บนการ แกง่ แย่งแขง่ ขนั กันเพื่อการมีชีวติ รอด ดงั นน้ั การทางานเพือ่ หาเงนิ จึงต้องเร่งรบี แต่มีเวลาจากดั เท่าเดมิ จนทาให้ คนส่วนใหญ่ ต้องอาศยั อานาจเงิน เพื่อซื้ออาหารสาเร็จรูปหรือไม่ก็ ฝากท้องอันหิวโหยไว้กับร้านอาหารนอกบา้ น ถงึ แมว้ ่าบางมือ้ อาจจะประกอบอาหารข้นึ เองเพือ่ รบั ประทานกันภายในครอบครวั บา้ ง แต่วัตถดุ บิ ประเภทผักทกุ ชนดิ ก็ต้องไปซื้อท่ีตลาด ซ่ึงไม่วา่ จะเป็นอาหารท่ีทากนิ เองหรืออาหารทีซ่ ือ้ คนอ่ืนกนิ ลักษณะรปู แบบการประกอบ อาหารแบบไทยๆ ทุกประเภท มักจะต้องใชผ้ กั สวนครัวเป็นสว่ นประกอบ แต่เราก็ไม่สามารถตรวจสอบแหล่งท่ีมา ของผักสวนครวั เหลา่ น้นั ได้ จึงไมส่ ามารถทาให้รูไ้ ดเ้ ลยว่า ผกั สวนครัวทีร่ บั ประทานเขา้ ไปนัน้ จะปลอดภยั จาก สารเคมี ยาฆา่ แมลง ยาปราบศตั รูพืชหรือไม่ เพราะทค่ี นปลูกหรอื เกษตรกรกจ็ าเปน็ ต้องใช้ยา สารเคมีตา่ งๆ เช่น ปุ๋ยเคมี ออรโ์ มนต่างๆ ในการปลกู พชื ผกั ให้เจริญเติบโตและได้ผลผลติ ทด่ี ี นอกจากนี้แล้วการเพาะปลกู ยังขนึ้ อยู่กับสภาพแวดลอ้ มเช่น อุณหภมู ิ อากาศ หากปัจจัยเหล่านี้ เกดิ การแปรปรวนหรอื แม้แตเ่ มอ่ื สารอาหารในดินลดลง จนทาใหผ้ ักสวนครวั ที่ปลูก ไดผ้ ลผลติ ท่ไี มด่ ี อาทิเช่น วัชพืชเจริญเตบิ โตเร็วกว่าพืชที่ปลกู แมลงศัตรพู ชื มจี านวนมากข้นึ เม่อื ผลผลติ ตา่ และไม่คุ้มทุน ก็จะทาให้รายได้ ของคนเพาะปลูกไมเ่ พยี งพอต่อการอยรู่ อด จึงกลายเป็นต้นเหตทุ ่ที าใหเ้ กษตรกร จาเปน็ ต้องใช้เคมภี ัณฑ์ สารเคมี ปยุ๋ เคมี ใส่สารเร่งฮอรโ์ มนในพืชและใสส่ ารกาจดั ศัตรูพืช นอกจากน้ียงั มีการวจิ ัยทางวิทยาศาสตร์เช่น การปลูกพชื GMO แทนพชื ตน้ กาเนิด ก็เพราะต้องการตอบสนองความต้องการผลผลิตพชื ผกั สวนครวั ท่ีสูงมากข้ึน จงึ กลายเปน็ ที่มาของสารเคมตี กคา้ งในผักจงึ ทาใหผ้ ้เู ขยี นฉุกคดิ ถงึ แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ทไี่ ม่จาเปน็ ตอ้ งไปซอ้ื ผักปนเป้ือน สารเคมีท่ตี ลาดมาบรโิ ภค แตใ่ ชว้ ิธีพึ่งตนเอง แบง่ เวลาหลงั จากทางานดว้ ยการปลกู ผักไว้กินเอง การปลูก ผกั สวน ครวั รวั่ กินได้ ตามรอยพ่อ อยู่แบบพอประมาณ ทาใหเ้ ราสามารถปลกู ผักสวนครัวไรส้ ารพษิ ดว้ ยการใช้ปยุ๋ คอก แทนุปย๋ เคมีและหากมคี วามจาเปน็ ต้องใช้สารเคมีบ้าง แต่ก็ยังม่ันใจได้ว่าสารเคมีในพืชผักสวนครัวท่เี ราปลูกเองนน้ั ไดส้ ลายไปกับน้าทีใ่ ช้รดพืชผักแล้ว การปลูกผักสวนครัวไมม่ ีความจาเป็นตอ้ งใช้พนื้ ท่ีมาก อาศยั เพียงพืน้ ทเี่ ล็กน้อย ตามรว่ั บา้ น ขา้ งบ้าน บา้ นใดไมม่ ีร่วั เป็นคอนโด กส็ ามารถปลูกผักสวนครวั ในกระถางได้ การปลกู ผกั สวนครัวรวั้ กินได้ ผกั สวนครัว ตามรอยพ่อ หมายถึง ผกั สวนครวั ท่ีเจริญเตบิ โตได้ดี ตามลกั ษณะภมู ิอากาศ ในท้องถนิ่ น้ันๆ เปน็ ผกั ท่ีใช้เปน็ ส่วนประกอบอาหารหลักและเป็นผกั ทนี่ ยิ มบริโภค ตาม วฒั นธรรมและประเพณีการอยูก่ ารกินของคนในท้องถ่ิน เป็นพชื ผกั สวนครวั ท่ปี ลูกได้งา่ ย ไม่จาเปน็ ต้องดูแลยาก สามารถใส่ปยุ๋ อินทรยี ท์ ี่ได้จากมลู สัตวต์ ่างๆ แทนป๋ยุ เคมีได้ ซ่งึ มีต้นทุนสาหรับการปลูกและการดูแลไม่สูง และที่ สาคญั ไมจ่ าเป็นตอ้ งใช้สารเคมี ยาฆา่ แมลง เพื่อดแู ลให้พืชเจริญเตบิ โตไดด้ ี ผักสวนครวั รว้ั กนิ ได้มปี ระโยชน์ เปน็ ได้ ทั้งรวั้ บา้ น แถมยังสามารถนามารบั ประทานได้อีกด้วย นอกจากน้ผี ักสวนครัวท่มี ีอยใู่ นไทยมปี ระโยชนม์ ากมาย เป็นผกั ท่ีใหส้ ารต้านอนมุ ลู อสิ ระสูงและผักสวนครัวบางชนิดมีสรรพคณุ ใช้เปน็ ยาสมนุ ไพรยารักษาโรค ลดอาการ เจบ็ ป่วย ขบั เสมหะ ดังนั้นการรับประทานผักสวนครวั ทีป่ ลูกเอง ดตี ่อคนรักสขุ ภาพ ชว่ ยทาให้สุขภาพรา่ งกาย แขง็ แรง สามารถสร้างภูมิต้านทานโรคได้ดี ลดการปว่ ยไข้ ไมจ่ าเป็นต้องไปหาหมอ ไมต่ ้องเสียค่ารกั ษาพยาบาลได้ อกี ด้วย

ผกั สวนครวั รว้ั กินได้ โดยสว่ นใหญ่ที่ควรปลกู มกั เป็นผักท่ีใช้ปรุงแตง่ รสชาติหรือใช้เป็น สว่ นประกอบหลกั ในการปรงุ อาหาร เพื่อทาใหร้ สชาติของอาหารกลมกล่อมและมีความอรอ่ ยย่ิงขึ้นเช่น อาหาร ประเภทต้มและแกง ต้องมีพริก ขา่ ตระไคร้ ใบโหระพา ผกั ชฝี ร่งั อาหารประเภทผดั ก็ต้องมี พริก กระเพรา วธิ ี ปลกู ผักสวนครวั รวั้ กินได้ ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง ” ผกั สวนครวั ตามรอยพ่อ ” มดี ังต่อไปน้ี 1. พริก เป็นสว่ นประกอบของอาหารสาหรับเมนูอาหารไทยแทบทุกเมนูกว็ ่าได้ วิธปี ลูก นาเมลด็ พริก จากเมด็ สุก ตากแดดให้แห้งประมาณ 1 สัปดาห์ พรวนดินข้างๆบ้านแล้วนาเมลด็ โรยบนหลมุ สกั 4-5 เมล็ด ห่าง ประมาณ 50 เซนตเิ มตร เกล่ียดนิ รดนา้ เมื่อต้นกล้าโตใหถ้ อนเหลอื ไวเ้ พียง 1 ตน้ ต่อหลุม ประมาณ 3 เดอื นจะได้ เมด็ พริกมารบั ประทาน 2.ขงิ สามารถบรโิ ภคได้ท้ังใบและหัว ใบสามารถนามาใสใ่ นแกงได้ เมื่อใสใ่ นแกงจะทาให้นา้ แกงมีกลิน่ หอมน่ารับประทาน หวั สามารถนามาผดั เป็นอาหารได้ ทานา้ ขงิ ไว้ด่ืมแก้กระหาย ขิงเกิดได้ง่าย การปลูกสามารถใช้ กิ่งย่อยจากหวั แก่ นาไปฝงั ในดินข้างๆบ้าน เม่ือขิงเกดิ 4-5 ใบใหใ้ ส่ปุย๋ คอก 3. ขา่ สาหรับเมนูยอดฮิตและเปน็ อาหารไทยที่ไดร้ บั การยอมของตา่ งชาติ ติดอนั ดบั ต้นๆของโลกเลยก็ว่า ไดน้ น้ั คือ ตม้ ยา นอกจากนี้ลาต้นอ่อนสามารถนามารบั ประทานได้ ใส่ในต้มยาได้ ตม้ จ้มิ น้าพรกิ ได้ ข่าเปน็ พชื ทีป่ ลูก ไดง้ า่ ยมากแค่นาแง่ง ข่าแกต่ ิดลาต้นตดั ใบทง้ิ ไปฝังในดิน เป็นพืชทนแลง้ ได้ดี เมื่อเกิดแลว้ สามารถรดนา้ สปั ดาหล์ ะ คร้งั กเ็ พียงพอ ถ้าจะให้ดี ทาดินรว่ นซุยไดด้ ้วยการใส่แกลบผสมกับปุ๋ยคอก 4.ตระไคร้ ใส่ในอาหารประเภทต้มยาหรอื แกงได้ ใส่ในยาต่างเป็นสมุนไพร ทานา้ สมุนไพร นอกจากนี้ใบ ตระไครย้ งั สามารถนามาใช้ในการลดกลิน่ คาวตา่ งๆ เช่นการย่างปลามักจะเอาตระไครใ้ ส่ในทอ้ งปลา ปลกู ได้ งา่ ยๆคล้ายกับการปลูกข่าโดยการแบ่งตน้ ตระไคร้จากกอใหญ่ทม่ี ีรากตดิ ตดั ใบออกให้หมด ขุดหลมุ กว้างประมาณ 15เซนตเิ มตร และลึก 5-8 เซนตเิ มตร นาปยุ๋ คอกรองก้นหลุมเล็กน้อยวางให้ลาตน้ เอียง 60 องศาวางประมาณ 5 ลาตน้ ใหร้ อบหลุม 5.โหระพา มักใสใ่ นอาหารประเภทตม้ ต้มโคลง้ ต้มแซบ กินดิบใช้กินกบั ลาบ เป็นผักให้มกี ลน่ิ หอมน่า รับประทาน วิธกี ารปลูกเหมือนปลูกพริก 6. กระเพรา ใบดบิ จะมีกล่ินฉุน เม่อื นาไปผัดใสใ่ นอาหารจะส่งกลนิ่ หอมนา่ รับประทาน มักจะถูกนามาใช้ ในการประกอบอาหารในเมนูยอดนยิ มที่ไปสั่งไดใ้ นร้านอาหารแทบทุกรา้ น ผัดกระเพรา หมูเห็ด เป็ด ไก่ กระ เพราะเป็นยาสมนุ ไพรสามารถขับเสมหะได้ วธิ ีการปลูกเหมือนปลูกพรกิ 7.ตน้ หอม ชว่ ยใหอ้ าหารมีกลิ่นนา่ รับประทาน ตน้ หอมสามารถปลูกได้ 2 วิธีคือการแบง่ จากกอใหญ่ หรอื สามารถนาเมลด็ มาปลกู ไดง้ ่ายๆเหมือนกบั การปลูกพริก ต้นหอมยงั มีสารอาหารทช่ี ่วยให้ระบบลาไส้ทางานได้ดี 8. ใบมะกรดู สารพัดประโยชน์ ได้ทง้ั การทาอาหารใส่ในต้มยา ทาอาหารประเภทยา นอกจากนี้ยงั สามารถใช้เปน็ ยาสมุนไพรเป็นสว่ นประกอบของลูกประคบ ทาน้ามันหอมระเหย ผลสกุ นาไปทายาสระผมที่มกี ลิ่น หอม การปลกู ทาไดโ้ ดยการนาเมลด็ ผลสกุ มาตากแดดให้แหง้ ประมาณ 1 สัปดาห์ แล้วนาไปเพาะในถงุ ก่อนลงดิน ขา้ งบ้านต่อไป

9. มะเขือถือเป็นพชื อกี ชนิดหน่ึงทน่ี ยิ มปลูกกันทุกภาคทัว่ ไทย เพราะมะเขือปรากฏใหเ้ ห็นอยใู่ นอาหาร ประจาภาค มะเขือปลกู ไดง้ า่ ยๆ โดยการนาผลสกุ แกะเมล็ดออกนาไปตากแดดให้แห้งประมาณ 1 สัปดาห์ การ ปลกู ทาได้ 2 รปู แบบจะเพาะตน้ กล้าก่อนปลูก หรือสามารถนาเมลด็ ไปใส่ในหลุ่มทเี่ ตรยี มไวไ้ ด้ทัน เมอ่ื ตน้ กล้าเกิดก็ ให้ถอนออกไว้ใหเ้ หลือเพียงหลมุ ละ 1 ต้นก็เพียงพอแลว้ 11. บวบ เปน็ พชื ตระกลู เถาวลั ย์ สามารถทาอาหารในรูปแบบงา่ ยๆได้เชน่ การนาไปเปน็ สว่ นประกอบ อาหารประเภทแกง ต้ม นง่ึ การขยายพันธุ์สามารถปลูกไดง้ ่าย ไมต่ ้องดูแลมาก เปน็ ผักสวนครัวท่ีสามารถปลกู กิน ไดท้ ั่วไป ปลกู โดยการใชเ้ มล็ด เมื่อเร่มิ ต้นอ่อนเลอื่ ยยอดแล้ว ตอ้ งทาการสร้างน่งั รา้ นให้ต้นบวบไตย่ อดไปตาม โครงสรา้ งนงั่ รา้ น เพื่อปอ้ งกนั ไมใ่ ห้ลูกของบวบติดกับดิน ป้องกันแมลงเจาะผลบวบ ถงึ แมว้ า่ สังคมวัฒนธรรมที่ เปลย่ี นแปลง ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การแข่งขัน เพ่ือการอยูร่ อด การยา้ ยถนิ่ ฐานคนในชนบทเข้ากรุง เขา้ สังคมเมือง แต่พืน้ ทใี่ นเมืองจากดั ท่ีอย่อู าศยั คบั แคบ ทาใหไ้ มม่ บี รเิ วณรอบบา้ น ร้ัวบ้านท่ีสามารถปลกู ผักสวน ครัวได้ แต่ก็ไมใ่ ช่ปญั หาอีกตอ่ ไป เพราะผักสวนครัวไมจ่ าเป็นต้องใชพ้ ืน้ ที่มาก สามารถปลูกไดใ้ นกระถาง ปลกู บน ชัน้ ดาดฟ้าก็ยงั ได้ แต่กค็ วรปลูกผกั สวนครัว ให้เหมาะสมกับพ้นื ท่ีทตี่ นเองมี ปลกู ในส่ิงท่ีกิน กินในสิง่ ท่ีปลกู ขัน้ ตอนการปลูก (ผกั สวนครวั ) 1. การเลอื กพน้ื ที่ พน้ื ท่ีที่สามารถปลกู ผักได้ดีควรเป็นพ้ืนทท่ี ่ีอยู่ใกล้แหลง่ น้า เชน่ บอ่ นา้ ขุด บ่อน้าธรรมชาติ แมน่ ้า คลอง อ่างเก็บนา้ คลองชลประทานหรอื แนวสง่ นา้ ชลประทาน เน่ืองจากพืชผักสว่ นใหญม่ ีความต้องการน้าสงู โดยเฉพาะ หน้าแลง้ ที่อากาศ แห้ง และอัตราการระเหยนา้ สงู กว่าฤดูอื่นๆ จึงจาเป็นต้องมีนา้ เพยี งพอเพื่อใหผ้ กั สามารถเติบโต จนถึงฤดูการเกบ็ เก่ียวได้ 2. การเตรยี มแปลง – แปลงปลกู ผกั มักเตรยี มด้วยการยกแปลงสงู ประมาณ 20-30 เซนตเิ มตร หรอื ขดุ รกร่องลกึ เนือ่ งจาก พืชผักส่วนมากมรี ะบบรากทตี่ ้องการซอนไซในดินที่รว่ นซุย หน้าดนิ ลกึ – ทาการไถพรวนแปลงทง้ิ ไว้ประมาณ 1 อาทติ ย์ เพ่ือตากแดด และฆ่าเชอ้ื โรค – หว่านปุย๋ หมกั หรือปยุ๋ คอก ร่วมด้วยปยุ๋ เคมี พร้อมไถกลบแปลง – อตั ราการใสป่ ยุ๋ ในแปลงควรให้มีปุ๋ยหมักหรือป๋ยุ คอกมากกวา่ ปุย๋ เคมี เชน่ 10:1 เน่ืองจากการใสป่ ุย๋ เคมี มากจะทาให้ดินเปน็ กรด หนา้ ดนิ แนน่ 3. การเตรยี มเมล็ดพันธุ์ – เมลด็ พันธผุ์ กั ท่ใี ชค้ วรมลี ักษณะเปน็ เมล็ดพนั ธ์ุใหม่ อายุเมล็ดพันธุ์ไมถ่ ึง 1 ปี – เมลด็ พนั ธท์ุ ี่ใชต้ อ้ งเป็นเมล็ดพนั ธทุ์ ่ตี รงตามชนดิ พืชทปี่ ลูก และไม่มีเมล็ดพนั ธุ์อืน่ ปลอมปน

– ทาความสะอาดเมล็ดพันธุ์ รวมถึงคดั แยกเมลด็ พันธ์ทุ ี่ไม่สมบูรณอ์ อกด้วยวธิ ีนาไปแชน่ ้า และนาเมลด็ ท่ี ลอยนา้ ออก – เมล็ดพันธ์สุ ่วนมาก ก่อนปลูกจะทาการแชน่ า้ เสียก่อน ซ่งึ ระยะเวลาในการแชจ่ ะแตกตา่ งกันในแตล่ ะ ชนดิ ผกั หากเมล็ดพันธทุ์ ่ีมเี ปลอื กหนา แข็ง อาจใช้เลาแชน่ าน 2-3 วนั เมลด็ พันธผุ์ ักสว่ นมากเป็นเมล็ดที่มีเปลือก คอ่ นข้างบาง ไมห่ นา แข็ง ส่วนใหญ่ใช้เวลาแช่ประมาณ 12 ชั่วโมง – 1 วนั เท่าน้ัน 4. การปลกู สามารถปลกู ได้หลายวธิ ตี ามความเหมาะสมของแตล่ ะชนิดพชื ไดแ้ ก่ การหวา่ นเมลด็ เป็นวิธีทีง่ า่ ย สะดวก รวดเร็ว และนิยมที่สุด ซง่ึ จะหว่านเมลด็ หลงั การแชน่ ้าแลว้ หรอื หว่านเมลด็ แหง้ ได้ทันที ผักทีนิยมการหวา่ นเมลด็ มักเปน็ พืชทม่ี ลี าตน้ ขนาดเลก็ ขนาดทรงพมุ่ น้อย ได้แก่ ผักชี ผักบุ้ง เป็นต้น ทัง้ นี้ การหวา่ นเมลด็ อาจเป็นวิธีการเตรียมกล้าผักกอ่ นย้ายปลูกในแปลงทเี่ ตรยี มไว้ การปลูกดว้ ยตน้ กล้า เป็นวิธีการปลกู ดว้ ยต้นกล้าผกั ทเ่ี ตรยี มได้จากแปลงเพาะกลา้ ดว้ ยวธิ ีการหวา่ น วิธีน้ี เปน็ วิธที ใ่ี ช้มากทส่ี ุดสาหรบั การปลูกผัก โดยมกั ใช้กับพชื ที่มีลาต้นใหญ่ ทรงพุ่มกว้าง เนื่องจากใชว้ ธิ ีการหว่านเมล็ด อาจไมเ่ หมาะสมเพราะไมส่ ามารถเวน้ ชว่ งห่างของต้นให้เหมาะสมกับการเตบิ โตได้ การหว่านอาจทาใหต้ น้ เจรญิ เติบโตไม่ดี หรืออาจต้องถอนต้นทิ้งบางสว่ นซง่ึ ทาให้ส้นิ เปลืองเมล็ดพันธเ์ุ สยี เปล่า ผกั ท่ีนยิ มปลกู ด้วยวิธีนี้ ได้แก่ กะหลา่ ปลี ผักกาดขาว คะน้า มะเขือ พริก เปน็ ต้น การหยอดเมลด็ เป็นวิธปี ลูกท่ีใชส้ าหรับพชื ผกั ท่ีตอ้ งการระยะห่างระหวา่ งตน้ มาก มกั เปน็ พืชทเี่ ปน็ เถาว์ หรือเครอื ตน้ กล้าออกไม่มีความแข็งแรง เหยี่ ว และตายง่ายหากแยกต้นกลา้ ปลูก เชน่ ถ่ัวฟักยาว แตงกวา ฟักทอง ฟกั มะระ เป็นตน้ ฝงั ในแปลงปลูก เป็นวธิ ปี ลูกท่ีใชก้ บั พืชผักบางชนิดที่มีการแยกหนอ่ แยกเหงา้ ออกปลกู เพื่อขยายจานวน ตน้ หรือกอ โดยฝังลงหลุมหรอื แปลงปลกู ได้ทนั ที เชน่ ผกั หอม กระเทียม ตะไคร้ ขงิ ข่า กระชาย เป็นตน้ 5. การดูแลรกั ษา – ในระยะแรกของการปลกู ช่วง 1 อาทิตยแ์ รก ท้งั การปลูกดว้ ยการใชเ้ มลด็ การปลูกดว้ ยตน้ กลา้ และ ปลูกดว้ ยการแยกหวั หรือหน่อ จาเปน็ ตอ้ งมีการใหน้ ้าอย่างสม่าเสมอ อย่างน้อยวนั ละ 2 คร้งั เช้า-เย็น จนตน้ กล้า ตั้งตัวได้ – การให้นา้ จะยงั ใหว้ ันละ 2 คร้งั ตลอดจนถึงระยะเก็บเก่ยี ว แต่อาจใหน้ ้าในปริมาณท่นี ้อยลง หรือผักบาง ชนดิ ทอ่ี าจเว้นชว่ งห่างการให้น้าเมอื่ ถงึ ระยะก่อนเก็บเกย่ี ว – การใสป่ ยุ๋ ควรใส่ในระยะหลังปลกู 1-2 อาทติ ย์ หรือระยะที่ต้นกลา้ ตงั้ ต้นได้แล้วจนถึงระยะกอ่ นการเกบ็ เกีย่ วประมาณ 1 เดอื น รวมถึงพืชบางชนิดท่สี นิ้ สดุ การให้ปุ๋ยทีร่ ะยะก่อนการตดิ ดอก และผล

6. การเกบ็ ผลผลติ พืชผักมักมีระยะการเกบ็ เก่ียวไมเ่ กิน 120 วนั สว่ นมากจะใชเ้ วลาประมาณ 40-60 วัน ขึน้ กบั ชนดิ ของผัก โดยผกั กินใบจะมีระยะเวลาการเก็บเกย่ี วสั้นกวา่ ผักกินดอก และผล ประโยชนข์ องการปลูกผักสวนครัว ปลูกเปน็ รวั้ บา้ น (รว้ั กินได้) ผักท่สี ามารถนามาปลูกทาเป็นรวั้ ไดแ้ ก่ กระถินบา้ น ชะอม ตาลึง ผักหวาน ผกั ปลัง ตน้ แค ถ่ัวพู มะระ ฯลฯ ซงึ่ เป็นผักทปี่ ลูกง่ายและให้ผลผลติ ตลอดปมี ีคุณค่าทางอาหารสงู และ ปลอดภยั จากสารเคมี สามารถใช้ประดับตกแต่งบริเวณบา้ น เชน่ จดั สวนผกั สวนครัว การปลูกตน้ แคเปน็ รว้ั กินได้ การนาผกั สวนครัวทีป่ ลูกในกระถางแบบแขวน-หอ้ ยมาตกแตง่ บรเิ วณรอบ ๆ บา้ น ใช้พ้ืนที่ส่วนท่วี ่างเปลา่ ใหเ้ กิด ประโยชน์ ลดคา่ ใชจ้ ่ายในการซื้อผกั มาประกอบอาหารประจาวนั ครอบครัวได้รับประทานผกั ทมี่ ีคุณค่าทาง อาหารครบถ้วนและปลอดภัยจากสารเคมี สรา้ งความสมั พันธแ์ ละสานสายใยรักท่ีดีในครอบครัวและใช้เวลาวา่ งให้ เปน็ ประโยชน์ องคค์ วามร้กู ารปลกู ผกั 1.ปลกู ผกั ทเ่ี รากินในครอบครัว สว่ นที่เหลือจะได้นาไปแจก ไปขาย แต่ถา้ เนน้ ขายให้ปลูกผักทไี่ ดผ้ ลผลิตเรว็ เชน่ ผกั บุ้ง ผกั กาด ผักสวนครัวท่เี จริญเตบิ โตได้ดี ตามลกั ษณะภูมิอากาศ ในท้องถน่ิ นัน้ ๆ เปน็ ผกั ทีใ่ ช้เปน็ ส่วนประกอบ อาหารหลกั และเป็นผักที่นยิ มบริโภค ตามวฒั นธรรมและประเพณกี ารอยู่การกินของคนในท้องถน่ิ เป็นพืชผักสวน ครวั ทปี่ ลกู ได้งา่ ย ไม่จาเปน็ ตอ้ งดูแลยาก สามารถใสป่ ๋ยุ อนิ ทรยี ท์ ไี่ ด้จากมลู สัตว์ต่างๆ แทนปยุ๋ เคมไี ด้ ซึง่ มตี ้นทุน สาหรบั การปลูกและการดแู ลไม่สงู และท่สี าคัญไม่จาเป็นต้องใช้สารเคมี ยาฆ่าแมลง เพื่อดูแลให้พืชเจรญิ เตบิ โตได้ ดี ผกั สวนครัวรั้วกินไดม้ ปี ระโยชน์ เปน็ ได้ทั้งร้ัวบา้ น แถมยังสามารถนามารับประทานได้อีกด้วย นอกจากนี้ผัก สวนครวั ทม่ี ีอย่ใู นไทยมีประโยชน์มากมาย เปน็ ผักท่ใี ห้สารต้านอนุมูลอสิ ระสงู และผักสวนครวั บางชนิดมีสรรพคุณ ใช้เปน็ ยาสมุนไพรยารกั ษาโรค ลดอาการเจ็บปว่ ย ขบั เสมหะ ดงั นนั้ การรับประทานผักสวนครวั ท่ีปลูกเอง ดีต่อคน รักสขุ ภาพ ช่วยทาใหส้ ขุ ภาพร่างกายแขง็ แรง สามารถสร้างภูมิตา้ นทานโรคได้ดี ลดการป่วยไข้ ไม่จาเปน็ ต้องไปหา หมอ ไม่ตอ้ งเสียคา่ รกั ษาพยาบาล 2.การใช้ยาฆา่ แมลงท่ีปลอดสารพิษ การนาขเ้ี ถ้าผสมกับเครอ่ื งดมื่ ลโิ พ แลว้ ฉดี ท่ตี น้ ผัก และมีเทคนิคการทานา้ ยา กาจัดแมลง/ไล่แมลง น้ายาก้าจัดแมลง – วธิ กี าจัดเเมลงตา่ งๆ อาทิ มด ปลวก เพลย้ี วิธที งี่ า่ ยและสะดวกทสี่ ุดคงหนีไม่พน้ ยาฉีดฆ่า แมลงหลากหลายยหี่ อ้ ทม่ี ขี ายตามห้างสรรพสินค้า แต่ผู้บริโภคกต็ ้องแบกรับปัญหาสขุ ภาพ จากละอองหรือสารเคมี ที่ไม่ได้ตัง้ ใจสดู ดมเข้าร่างกายดว้ ยเช่นกนั ส่วนผสมการทาน้ายากาจัดแมลง 1. น้าส้มสายชู 2 ชอ้ นโตะ๊

2. 2. เกลอื 2 ช้อนโต๊ะ 3. ยาเส้น 2 กามือ 4. ข่าแก่ 1 กามือ 5. นา้ เปล่า ขน้ั ตอนการทา 1.ข้นั ตอนแรก ให้นาขา่ แก่ที่เตรยี มไว้ นามาห่นั เป็นแวน่ ๆ ใสล่ งไปในหม้อ 2.จากนนั้ ก็เทน้าเปลา่ ลงไป ให้พอทว่ มข่าก็พอ แลว้ ใสย่ าเส้นตามลงไป โดยกดใหย้ าเสน้ จมลงไปในน้าให้ หมด 3.นาหม้อข้ึนตงั้ ไฟ แล้วต้มจนเดอื ด เคี่ยวส่วนผสมทั้งหมดจนนา้ กลายเป็นสนี า้ ตาล ใชเ้ วลาประมาณ 10- 15 นาที 4. เมื่อต้มเสร็จแล้ว ก็พักใหเ้ ย็นตัว จากน้นั ก็กรองเอาแต่น้ามาใช้ 5. นาน้าที่กรองไว้ใสข่ วดสเปรย์ ปริมาณ 7 ชอ้ นโตะ๊ จากน้ันกใ็ ส่เกลอื น้าส้มสายชู และตามดว้ ยนา้ 200 มิลลลิ ติ ร ผสมลงไปในขวดสเปรย์ 6. เขย่าขวดสเปรย์เพือ่ ให้สว่ นผสมท้งั หมดเข้าด้วยกัน แล้วนาไปพน่ ไปตามบรเิ วณท่มี ีตวั ปัญหาอยู่ สมุนไพรส้าหรบั ไลเ่ เมลง 1. น้ากระเทยี ม กาจัดเพลีย้ ในตน้ ไม้ ให้นากระเทยี มประมาณ 1 กามือ มาตาพอแหลกแลว้ แชใ่ นนา้ เปลา่ 3 ลติ ร ทิ้งไว้ 1 วนั จากน้ันกรองเอาแตน่ า้ ไปพน่ เพลย้ี ตามใบไมใ้ ห้หนีหาย 2. นา้ สม้ สายชูเปลี่ยนที่อยูใ่ ห้มด ใช้น้าส้มสายชเู ทลงในขวดสเปรย์ แล้วไปฉีดตามท่ีทม่ี นั ย้ายไปอยู่ มันจะ พากันหนีหายไปที่อ่ืนอย่างแน่นอน 3. หัวหอมกันเเมลงวนั ใหอ้ ยู่หา่ ง ใหห้ ่ันหัวหอมแชน่ ้าแล้วไว้ใกลๆ้ อาหารท่ีพวกมันชอบมาตอม 4. ผงกาแฟไล่มด นาผงกาแฟไปโรยตามบริเวณท่ีมมี ด เทา่ น้ีมดกจ็ ะไม่มาเข้าใกล้อีกต่อไป 5. พริกแห้งไล่มอด ออกจากขา้ วสาร นาพรกิ แหง้ มา 1 กามือ มาห่อด้วยผา้ ขาวบางแลว้ ใสล่ งไปใน ขา้ วสาร

ครอบครัว TO BE สีขาว กศน.ตาบลคลองเคยี น อาเภอตะก่ัวทุ่ง กิจกรรม การเลย้ี งปูดาในบ่อธรรมชาติ/การปลูกผักสวนครัว ช่ือ – สกลุ นายเดชา ลาวลั ย์ ช่ือเล่น หยัด ระดบั การศึกษา ประถมศกึ ษา กศน.ตาบล คลองเคียน อาเภอ ตะก่ัวทุง่ ที่อยู่ บา้ นเลขท่ี 32 หม่ทู ี่ ๗ ตาบลคลองเคยี น อาเภอตะกว่ั ท่งุ จังหวดั พงั งา รหสั ไปรษณยี ์ ๘๒๑๓๐ โทรศพั ท์ 093-5786168 ครูทปี่ รึกษา นายรฐั ศักดิ์ ปานพืช


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook