Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ผักสวนเครัว ฉบับพอเพียง

ผักสวนเครัว ฉบับพอเพียง

Published by thakuatungnfe, 2020-04-23 01:58:21

Description: ผักสวนเครัว ฉบับพอเพียง

Search

Read the Text Version

ผกั สวนครวั พอเพยี ง

บทนำ การปลูกผัก กินเองตามมีตามเกิด กับการปลูกผักสวนครัวร้ัวกินได้ แบบพอเพียง ไมเ่ หมือนกันซะทีเดียว แตก่ ไ็ มไ่ ด้หนหี ่างกันไปมากนัก เพราะความพอเพียง อยู่ท่ี ตัวเรากาหนดเองว่า แค่ไหน ระดับใด ขนาดไหนถึงจะไหว และขนาดไหนถึงจะเรียกว่า เกินตัว เพราะคาว่า พอเพียง ท่ีเปน็ หลกั เศรษฐกจิ พอเพียงหลายๆ คนก็ทราบกันดีอยู่แล้วไม่ต้องอธิบาย ซา้ ไปมา แต่การอยูร่ อดในแบบเศรษฐกจิ พอเพยี งด้วยการปลูกผักสวนครัวกินเองนั้น ไม่ง่าย แตก่ ไ็ มย่ ากเสมอไป ทุกวนั นห้ี ลายๆ ครัง้ หากมีภัยพิบตั เิ กดิ ข้นึ ไม่ว่าจะเกดิ ในแหง่ หนตาบลใด ก็มี ผลกระทบมาถึงตัวเราเสียหมด แม้ว่าแหล่งที่เกิดจะไกลออกไปอยู่คนละซีกโลก แต่กระนั้น ผลกระทบมันก็ยังตามมาหลอกมาหลอนให้เราได้ลาบากได้เจ็บช้ากันอยู่ดี ไม่ว่าจะด้วยพิษ เศรษฐกิจ หรือผู้บริหารประเทศที่ผิดพลาดในการบริหาร และปัญหาอ่ืนๆ ยังไงแล้ว ประชาชน อย่างเราๆ กย็ ังตอ้ งแบกรับภาระไม่มากกน็ ้อยอยูด่ ี ดังนั้น การไม่มีปัญหา หรือมีปัญหาเดือดร้อน ให้น้อยที่สุดอาจเป็นทางรอดสุดท้ายท่ีเราจะพอกระทาได้ ด้วยการพ่ึงพาตนเองแบบพอเพียง ตามแนวพระราชดาริของในหลวงรชั กาลท่ี 9

สำรบัญ กำรปลกู ผักสวนครัวแบบเศรษฐกิจพอเพียงในยุคฝืดเคือง 1 พืชผกั สวนครวั ที่จำเป็นอยำ่ งยง่ิ ท่ีตอ้ งมไี ว้ติดบำ้ น 2 กำรปลูกผกั บุ้งในโอง่ ปลกู ครงั้ เดยี วกนิ ไดต้ ลอดปี 11 ปลกู ผักบนต้นกลว้ ย กับความจริงทไ่ี มม่ ีใครบอก 15 มาปลกู บวบหอมยกั ษ์ ใหเ้ ป็นพชื ผักสวนครัว 20 ผกั กาดขาว ปลูกดี มปี ระโยชน์ 23

กำรปลกู ผกั สวนครัวแบบเศรษฐกิจ 1 พอเพยี งในยุคฝดื เคือง ในหลวง ร.9 ทำ่ นบอกเรำตัง้ แตป่ ี 2517 พระองคท์ รงเนน้ การมีพอกินพอใช้ของประชาชนสว่ นใหญใ่ น เบอ้ื งตน้ กอ่ นเป็นลาดบั แรก เมอ่ื มพี ืน้ ฐานความมน่ั คงพรอ้ มสมควรแลว้ จึงค่อยสรา้ งความเจริญและฐานะทางเศรษฐกจิ ให้สงู ข้ึน นน่ั หมายถึง แทนทีจ่ ะ เน้นการขยายตวั ของภาคอุตสาหกรรมเพอ่ื การพัฒนาประเทศเป็นหลกั ควรหนั มาเนน้ สรา้ งความมนั่ คงทางเศรษฐกจิ พน้ื ฐานก่อน เมอ่ื ประชาชนกนิ ดอี ย่ดู จี ึง คอ่ ยไปเน้นการพัฒนาในระดับสงู ต่อไป ฉันตอ้ งรอด ด้วยกำรพึ่งพำตนเอง ตำมหลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง ผักหลายชนดิ ไมจ่ าเปน็ ต้องซ้ือ สามารถปลูกเองได้ ทงั้ ในกระถาง หรอื ภาชนะปลูกอย่าง ขวด แกว้ ก็สามารถทาไดง้ า่ ย อาศัยดินดีผักก็โตเร็ว ได้ผลผลติ ไวก้ ินใน ครวั เรือนไดด้ ี ลดภาระคา่ ใชจ้ า่ ยได้ต่อเน่อื ง หากปลูกเป็นการคา้ จะต้องศึกษา วธิ ีการให้รดั กมุ กว่าการปลกู กินเอง เหลอื ไวข้ าย ประหยัดคำ่ ใชจ้ ่ำย หันมำปลูกสวนครวั กนิ เองกันเถอะ ผักที่ปลูกงา่ ยและโตเรว็ แบบเศรษฐกิจพอเพียงนนั้ มีเยอะมาก ยกตวั อย่างกนั ไม่ หมด แต่เท่าท่เี หน็ นี่กถ็ อื ว่าเปน็ ผกั สวนครัวที่ต้องมไี ว้ตดิ บ้าน ท่สี าคัญราคาตลาด กค็ อ่ นข้างสูง หากปลกู ไวก้ ็สามารถประหยดั ค่าใช้จ่ายในครัวเรือนไปไดม้ าก อกี ทั้ง การเล้ียงสตั วแ์ บบพ่งึ พาอาศัยกันภายในสวน จะสามารถสร้างระบบใหอ้ ยู่รอดได้ ด้วยตัวเอง โดยพ่ึงพาปจั จัยภายนอกน้อยมาก

2 พชื ผักสวนครวั ทจี่ ำเป็นอยำ่ งยิง่ ทีต่ ้องมไี วต้ ิดบ้ำน กะเพรำ ผกั ยอดฮิตของคนไทยและตา่ งชาตบิ างคน รวมท้ังผเู้ ขยี นเอง ชอบทส่ี ุดในบรรดาอาหารมผี ักเปน็ ส่วนประกอบ หลากหลายเมนูยอดฮติ จนกลายเป็นเมนูตดิ ปากสิ้นคิดไปแลว้ กะเพราเปน็ ผักสวนครัวท่ีคนนิยมบริโภค ความตอ้ งการไมม่ วี ันหมด หากปลูกไว้ รมิ รว้ั ซกั ตน้ รับรองว่า ไมน่ านก็จะมีอีกหลายๆ ตน้ ข้นึ ตามๆ กันมาเพราะเปน็ ผกั ทีข่ น้ึ งา่ ย ไม่ ตอ้ งดแู ลมาก แค่รดนา้ นานๆ ครงั้ ก็ได้ใบกะเพราอรอ่ ยๆ มาทาเมนูอาหารได้แลว้ กะเพราสามารถปลกู ได้ในดนิ เกอื บทุกชนิด บางครงั้ ไม่ได้ปลกู กข็ ้ึนมาเปน็ ดง ส่วนใหญ่นิยมปลกู ตามขา้ งทาง ริมรั้ว ใบมกี ลนิ่ หอม เป็นพันธุ์ไมต้ น้ เต้ีย สามารถปลกู ได้ทัง้ กะเพราขาว และ กะเพราแดง สรรพคณุ มากมายตงั้ แต่ ราก ใบ เมล็ด หากบารงุ ดินดๆี ใบ กะเพราจะใหญแ่ ละให้รสชาตอิ รอ่ ย นาเข้าครวั ไปทาอาหารเมนตู า่ งๆ ไดอ้ ร่อยนัก

พริกขห้ี นู 3 พริกเปน็ อีกหนงึ่ สวนครัวท่ขี าดไมไ่ ดเ้ ลยสาหรับคนไทย เรยี กวา่ อย่คู ู่ ครวั ไทยมาตง้ั แต่สมัยโบราณ แม้ไมม่ ีอะไรจะกิน ตาพริก เกลือ กะปิ กินกับขา้ วสวยรอ้ นๆ แกลม้ กบั ผกั สวนครัวชนิดอน่ื ๆ เรากอ็ ยรู่ อดกนั มาแลว้ พรกิ ข้ีหนู มหี ลายสายพนั ธุ์ แตกต่างกันทัง้ รูปร่างและความเผด็ แตก่ ารปลูกพริก ขหี้ นู ก็ไมไ่ ด้ยาก นิยมการหว่านเมลด็ ลงในแปลง กลบดินบางๆ แล้วรดน้าให้ชมุ่ ไม่นานตน้ พริก ก็งอก พรกิ ขี้หนูเปน็ พืชที่ทนแล้งไดด้ ี (แตก่ ารขาดน้า เมลด็ พรกิ จะไมค่ ่อยโต) การดูแลรักษาตน้ พริกขี้หนู ถ้ามคี วามชนื้ ในดนิ สูง ควรพรวนดนิ ใหน้ ้าระเหยออกจากดิน ไม่อย่างน้ันพริกจะไม่โต และเปน็ โรคงา่ ย หากดินแหง้ ไปและไม่อาจใหน้ ้าได้อย่างสม่าเสมอ ควรใชว้ ัสดุคลุมดนิ เพื่อชว่ ย รักษาความชืน้ เทคนิคท่ที ำใหพ้ ริกลกู ดกมี 2 วิธคี ือ กำรแกลง้ พริก และกำรเดด็ ยอด กำรแกล้งพริกคือกำรปลกู แล้วให้ยอดพรกิ ช้ีลงดิน ส่วนกำรเด็ดยอดจะทำใหพ้ รกิ แตกยอด ออ่ นออกมำมำกข้ึน ซึง่ จะทำใหไ้ ดพ้ รกิ ท่มี ีลกู ดกมำกขึน้

4 ตะไคร้ ตะไคร้ เป็นพชื ท่ขี ยายพันธุด์ ้วยการแตกหน่อ เติบโตงา่ ย น้าทว่ มก็ไม่ตาย แตเ่ ปน็ พืชทีท่ นแล้งหนกั ๆ ไมไ่ ด้ หากขาดน้า ตน้ จะลีบ เหี่ยว และแหง้ ตาย ในทส่ี ุด ตะไคร้ถือเป็นผกั สมนุ ไพรทน่ี ยิ มนามาใช้ในเคร่ืองเทศ มคี วามหอม สรรพคณุ ตา่ งๆ ล้วนดีหมด สาหรับครัวไทยจะขาดตะไครไ้ ม่ได้เลย ตะไคร้ มปี ระโยชน์ในการปอ้ งกันหนา้ ดิน ปลกู ไวข้ า้ งๆ บอ่ กันการกัดเซาะของน้าไดด้ ี ใบตะไคร้มกี ลิน่ หอม นามาเผาใหเ้ กิดควนั ใช้ไล่ยุงได้ เปน็ ผกั สวนครวั ทไ่ี มต่ อ้ งดแู ลมาก แคด่ นิ มี ความชุม่ ช้ืนก็จะแตกหน่อออกมามากมาย การปลูกก็ไม่ยาก เอาหนอ่ ตะไคร้ฝังดนิ ไว้ ไมต่ อ้ งลึกมาก รดน้าใหด้ นิ ช่มุ อย่เู สมอ ไม่นานก็แตกหนอ่ ออกมาเป็นกอ ตะไคร้เป็นพืชที่ขยายพันธด์ุ ้วยการแตกหนอ่ หากไม่ขาดน้า จะสามารถอยรู่ อดได้ช่วั ลูกหลานเลยทีเดยี ว โดยจะแตกหนอ่ ไปเรอื่ ยๆ เรียกวา่ ปลูกครงั้ เดยี วอยูไ่ ด้ยาวๆ

มะเขือเทศ 5 มะเขอื เทศมีหลายพนั ธ์ุ ทีน่ ยิ มปลูกในบ้านคือมะเขือเทศสีดา นามา ทาอาหารอรอ่ ย ทั้งส้มตา เมนผู ดั หรือแม้แต่ยา สลัด กข็ าดไม่ได้ อรอ่ ยและมคี ณุ ค่า เป็นผักสวนครวั ทก่ี ินได้ไม่มีเบ่อื หากจะปลูกมะเขอื เทศ ตอ้ งให้น้าสมา่ เสมอต้ังแต่เริม่ ปลกู ไปจนถงึ เร่ิมแก่ คอื ผลเร่ิม เปล่ยี นสีจากเขียวเป็นสแี ดง หรอื เหลอื ง (ตามสายพันธ์ุ) หลังจากนัน้ จึงลดการใหน้ า้ เพื่อป้องกนั ผลแตก การปลกู มะเขือเทศเพื่อรบั ประทานผลสด นยิ มปลูกแบบทาคา้ ง ควรตัดแตง่ กิง่ ให้ เหลอื เพียง 1-2 ก่ิงต่อต้น เพ่อื ใหม้ ะเขือเทศจะไดม้ ผี ลใหญ่ การเกบ็ ผล จะเร่ิมเมื่อมะเขือเทศมีอายุ ประมาณ 80-90 วัน (ขน้ึ อยกู่ ับสายพันธุ์) โดยอายุตงั้ แตเ่ ริม่ ปลกู ถงึ เก็บผลได้ประมาณ 4-5 เดอื น

6 ผกั คะน้ำ คะนา้ เป็นสดุ ยอดผักในเมนูอาหารทห่ี ลากหลาย อกี ทั้งมรี าคา ค่อนข้างดี เป็นทนี่ ยิ มสูง ปลูกไวไ้ มเ่ สยี ดายแน่นอน การปลูกไมต่ อ้ งขุดหลมุ ลกึ มาก เนอ่ื งจากระบบรากของคะนา้ จะแผ่ขยายออก ดา้ นขา้ ง เพยี งตากดินไว้ประมาณ 7-10 วนั แลว้ ย่อยพรวนเป็นก้อนเลก็ ๆ ก็สามารถนามาใช้ ปลูกคะนา้ ไดแ้ ลว้ การปลกู คะนา้ ใชว้ ิธหี วา่ นเมล็ดลงในแปลงไดเ้ ลย วิธีการหวา่ นเมลด็ จะหวา่ นแบบ กระจายท่วั ทง้ั แปลง หรอื จะโรยเมลด็ แบบเรียงแถวกไ็ ด้ การเลอื กปลกู วธิ ีไหน ขึ้นอยู่กบั ความ สะดวกของผปู้ ลกู เอง เสรจ็ แล้วใช้ฟางหรือเศษใบไมแ้ หง้ ปดิ คลุมทบั หน้าดนิ เพ่ือรักษาความช้นื ไมน่ านตน้ คะนา้ กจ็ ะแทงยอดออ่ นออกมาใหง้ อกงาม

7 มะระ ผักตระกูลไม้เถา ชอบเลือ้ ยเป็นเถาวัลยพ์ ันก่งิ นิยมรับประทานเป็นผักเคยี ง โดยเฉพาะมะระขน้ี ก ข้ึนงา่ ย ไมต่ ้องดูแลมาก เปน็ พืชทนแลง้ แถมมะระยังจัด อยใู่ นกลุ่มพืชสมนุ ไพร ที่มสี รรพคณุ มากมายอกี ด้วย มะระ เปน็ พชื ผกั ลม้ ลุกลาตน้ เปน็ เถา ชอบดินร่วนซยุ น้าไม่ขัง นับวา่ เป็นพืชผักทอ่ี ายสุ ั้น ซงึ่ ถ้าหากนับจากวันเริม่ ปลกู ถึงวันเก็บผล จะได้ประมาณ 45-55 วันขน้ึ อย่กู บั พนั ธท์ุ ปี่ ลกู แต่กอ่ นท่ีจะปลกู ต้องทาความเข้าใจวา่ หากตอ้ งการจะปลูกมะระเพอ่ื จาหนา่ ยผลผลติ และเลอื ก พนั ธุ์ทไ่ี มใ่ ชพ่ ันธุ์พน้ื บา้ น จะตอ้ งมกี ารเอาใจใสด่ แู ลเป็นพเิ ศษ โดยเฉพาะในเร่อื งการกาจัดแมลง ศตั รูพชื เนอ่ื งจากเมอ่ื แมลงเข้าทาลายแล้วจะทาให้ผลร่วง หรอื แคระแกรน็ ใหผ้ ลผลิตได้ คอ่ นข้างนอ้ ย แต่มะระขี้นก สามารถขน้ึ ตามรวั้ บา้ นได้โดยไม่จาเปน็ ตอ้ งปลกู เพราะสตั วอ์ ยา่ งนก กระรอก ชอบกินผลมะระสกุ มาก อาจกินแลว้ ถ่ายมูลทมี่ เี มล็ดมะระขน้ี กไว้ตามพื้นดนิ รอบขอบรว้ั ตามชานเมอื งทม่ี พี ชื ผกั ขึ้นอุดมสมบูรณ์ มะระข้ีนกแทบจะไมต่ อ้ งปลูกเลย

8 ตำลึง ผักขา้ งร้วั ที่หลายคนมองข้าม แต่รู้หรือไมว่ ่า ตาลงึ มคี ุณค่า ทางโภชนาการสงู หาไม่มอี ะไรจะกิน ออกไปริมรว้ั เดด็ ยอดตาลงึ มาผัด หรือต้มแกงก็ยงั ไดค้ ุณคา่ ทางโภชนาการ ตาลึงยังเปน็ เคร่อื งหมายของ รั้วกินไดท้ ี่หลายคนนกึ ถงึ เป็นอนั ดับแรกๆ ตำลึง โดยมากมกั เห็นขนึ้ เองตามธรรมชาติ แน่นอนว่าสามารถปลูกได้ ง่ายมากเพยี งแคด่ ินมคี วามชุ่มชน้ื เปน็ อย่างดี เหมาะแก่การปลูกริมรวั้ เป็นไม้เลื้อย ตามรวั้ บ้านได้ ตาลงึ ยังเปน็ สญั ลกั ษณข์ องผักสวนครัวรั้วกินไดท้ ่ีคนุ้ ตา เพราะส่วน ใหญก่ ็จะขน้ึ อยแู่ ถวริมรัว้ และท่รี กทวั่ ไป ลูกตาลงึ ผลออ่ นมีรสฝาด หากนามาทาอาหารต้องแช่น้าเกลือใหจ้ บั ตวั กอ่ นนาไป ปรุงเปน็ อาหาร ส่วนใหญ่จะเปน็ การเชอื่ ม ส่วนผลสกุ รบั ประทานได้ มีรสหวานอ่อนๆ

9 บวบ พืชเถา ทเี่ หมาะกบั การทาค้าง เป็นพืชสวนอายสุ น้ั แตก่ ท็ นแล้งได้อย่างดี คุณค่าทางโภชนาการสงู รสชาติอรอ่ ย ทาเมนอู าหารได้หลากหลาย บวบไทยมหี ลายชนดิ ทน่ี ยิ มปลกู เชน่ บวมเหลยี่ ม, บวมหอม หรือ บวมกลม, บวมขม (เปน็ บวบชนดิ เดยี วกบั บวบหอมแต่ผลเล็กสน้ั และมรี สขมมาก), บวบงู บวบ ลกั ษณะพเิ ศษของบวบ คือ ทนแล้ง ทนฝน ไมค่ อ่ ยมโี รคและแมลง รบกวน แต่มีข้อควรระวงั คือ เมอ่ื แรกปลูกจนถึงข้นึ คา้ งจะมแี มลงชอบกดั ยอด แตพ่ อทอดยอดข้นึ ค้างแล้วก็ไมต่ ้องกงั วลเร่ืองแมลงอีกตอ่ ไป ปลูกงา่ ยไมต่ ้องมี การดแู ลมาก ปลกู แลว้ ก็ใหข้ ้ึนเลอ้ื ยไปตามต้นไม้ทีเ่ หลอื กแ็ ค่คอยเกบ็ ผลผลิต

10 โหระพำ และ แมงลัก ผกั สวนครัวทเ่ี ปน็ อีกหนึ่งสมนุ ไพรทม่ี ีกล่ินหอมชน่ื ใจ หลายคนชอบ ทานกบั ก๋วยเต๋ียวเรือ ก๋วยเตี๋ยวเน้ือน้าตก ปลูกไว้ตดิ บ้านซักตน้ ไมต่ อ้ ง ดแู ลมาก กม็ รี ับประทานได้ทง้ั ปี โหระพำ และ แมงลัก ลักษณะของตน้ โหระพาและแมงลักมีลกั ษณะคลา้ ยคลึงกับต้น กะเพรา โดยขนาดของทรงพมุ่ กใ็ กลเ้ คียงกันคอื มคี วามสูงไม่เกิน 60 เซนตเิ มตร ลกั ษณะตน้ และใบคล้ายกนั จะต่างกันตรงกล่นิ และสไี ม่เหมือนกันใบของโหระพานนั้ ใบเปน็ มนั และหนากว่า กา้ นใบและลาต้นมสี ีมว่ งแดง สว่ นใบของแมงลกั มีสเี ขียวอ่อน กา้ นใบและลาต้นกม็ สี ีเขียวอ่อนเชน่ กนั และมขี นออ่ นอยู่ตามใบและกา้ นดอก

11 กำรปลูกผกั บุ้งในโอง่ ปลกู ครงั้ เดียวกนิ ได้ตลอดปี ผกั บุ้ง ผกั สวนครัวและผกั ท้องถนิ่ ทชี่ าวไทยเราคุ้นเคยเป็นอยา่ งดี เพราะปลูกง่าย มี ทั่วไป บางแหง่ ไมจ่ าเป็นต้องปลกู ขนึ้ เองตามธรรมชาติ แถมเปน็ ผักทคี่ ูค่ รวั ต้งั แตร่ า้ นอาหารข้าง ทางไปจนถงึ ภัตตาคารหรู ผกั บุ้งจึงมีคณุ ค่าและมีประโยชน์มากมาย เกษตรทเ่ี ลือกปลกู ผักอนิ ทรยี ์ ตัวเลือกแรก จงึ มาตกทีผ่ กั บุ้งนเี่ อง เพราะสามารถทารายได้ตอ่ เนอ่ื งและตลาดก็ตอ้ งการอยเู่ สมอ ผักบ้งุ เปน็ ผักแบบไม้เล้อื ยลม้ ลุก มีอำยหุ ลำยปี ลำตน้ กลมสเี ขียว หรอื สมี ่วงแดง มรี ำกออกตำมขอ้ ปลอ้ งของลำต้น เติบโตอยูต่ ำมดนิ ทช่ี ้นื แฉะหรือในน้ำ พบเห็นไดท้ ว่ั ไปทุก ภำคในประเทศไทย

ผกั บุ้ง เปน็ ผักปลกู งา่ ยมาก โดยทั่วไปนิยมปลูกในแปลง หรอื ปลกู ในกระถาง ตามคัน 12 ดนิ หรอื ปลกู ในนา้ กไ็ ด้ แต่ท่ีจะบอกในบทความนีค้ ือ การปลูกผกั บุ้งในโอง่ ซ่ึงวิธกี าร ปลกู ก็ไม่ตา่ งกับวิธีอ่ืน เพยี งแตก่ ารจดั การอาจซบั ซอ้ นบ้างเลก็ นอ้ ย แตผ่ ลลพั ธน์ นั้ ดี เกนิ คาด ลองมาดูวา่ ต้องทาอย่างไร ผักบงุ้ เปน็ ผักทต่ี อ้ งการแสงในการเตบิ โต จงึ มีหลายวธิ ที ี่ถกู คดิ คน้ ขนึ้ หนง่ึ ในนน้ั คอื การเรง่ ให้ผักบุง้ โตเรว็ ขนึ้ โดยดดั แปลงมาจากวิธีการปลกู ผกั บงุ้ ในนาที่มนี า้ ทว่ มสูง แต่ผกั บ้งุ ไม่ตาย และสามารถแทงยอดสงู ขน้ึ เพอ่ื หาแสง ทาให้ไดล้ าต้นท่เี ปน็ ส่วนของ ยอดสูงและอวบอม่ิ แตใ่ บน้อยและเล็ก เหมาะสาหรบั ผทู้ ่ีชอบเลือกท่ีจะรับประทานยอด ผกั บุ้งมากกวา่ รบั ประทานใบ จึงเปน็ ทมี่ าของตน้ กาเนิด การปลกู ผกั บงุ้ ในโอ่ง เพราะโอ่งถือเป็นวัสดชุ นั้ ดี อกี ทั้งกว้างและสงู พอประมาณ ใสน่ ้าได้มาก จงึ ทาให้เหมาะ ทจี่ ะนามาใช้ปลูกผกั บุง้ เปน็ ทีส่ ดุ เกษตรกรอาจใช้วัสดอุ ืน่ ๆ เชน่ กระถางทรงสูง หรอื วสั ดุที่ใสน่ ้าไดป้ ระมาณนึง เพอ่ื ทาให้ตน้ ผักบุง้ ได้ชูยอดสูงยาวได้ตามตอ้ งการ อุปกรณส์ ำหรับกำรปลูกผักบุ้งในโอง่ ให้เตรยี มดงั น้ี •โอง่ ไม่จากัดขนาด ไมต่ อ้ งเจาะกน้ โอ่ง หากไม่มีใชก้ ระถางทรงสงู หรอื วัสดทุ สี่ ามารถ ใสน่ า้ ได้ลึกอยา่ งนอ้ ย 30 ซม. •ตะกรำ้ ไวส้ าหรบั ใสด่ นิ ปลูกปลกู ใหเ้ ล็กกว่าก้นโอ่งเลก็ น้อย หากไมม่ ไี มต่ อ้ งใช้กไ็ ด้ •ดินปลกู ใช้ดนิ ปลกู ผักทว่ั ไป หรือดนิ ผสมปุ๋ยหมัก/ปยุ๋ อินทรยี แ์ ล้ว •กระสอบเกำ่ กระดาน ตาข่ายเกา่ หรอื วัสดุทบึ แสง ไวท้ าฝาปดิ ปากโอง่ สาหรบั ควบคุม แสงแดด

มำเรมิ่ ปลกู ผกั บงุ้ ในโอง่ กนั เลย 13 โดยการนาดนิ ปลูกท่ีผสมแลว้ ใส่ตะกร้าที่เตรียมไว้ หรือนาดนิ ที่ผสมไวแ้ ล้ว ใส่ลงในกน้ โอง่ ให้มีความสงู จากกน้ โอง่ ประมาณ 3-5 นว้ิ (เนื่องจากในระยะต่อไปจาเปน็ ต้องรดนา้ และเราไม่ได้เจาะกน้ โอ่งเพ่ือระบายนา้ ออก ทาให้อาจมกี ารขงั ภายในกน้ โอ่ง จึงจาเปน็ ต้องใชร้ ะดับดินสูงเล็กนอ้ ยเพือ่ ป้องกนั ดนิ กับน้าผสมกันจนตน้ ผักบงุ้ ล้ม การใชต้ ะกรา้ จะชว่ ยพยงุ ให้ตน้ ผกั บงุ้ ยนื ตน้ ไดไ้ ม่ล้มง่าย กรณีทน่ี า้ ภายในโอง่ มมี ากเกนิ ไป เม่อื นาดนิ ใสล่ งเรียบรอ้ ยจนไดร้ ะดบั ดแี ลว้ ใหท้ าการหยอดเมลด็ ผักบุ้ง สว่ นใหญ่ ใชเ้ มล็ดผกั บงุ้ แกว้ เพราะการเจรญิ เตบิ โตเร็ว ลาต้นสวย และตลาดนยิ ม จานวนเมล็ดท่ใี ช้ ตามความตอ้ งการ แตไ่ ม่ควรแนน่ จนเกินไป เมือ่ หยอดเมล็ดแล้วใหร้ ดนา้ จนดินชุม่ แตไ่ ม่แฉะ รอจนกว่าจะผักบุ้งแทงยอดอ่อน ซง่ึ ใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน แล้วจึงเริ่มใช้กระสอบเก่า หรือตาข่ายปดิ บังแสง (แตต่ ้องให้ อากาศเข้าได้) ทิง้ ไวอ้ กี ประมาณ 7-10 วัน หม่นั คอยดูจนไดร้ ะยะ ทย่ี อดผกั บ้งุ สูงเกือบถงึ ปากโอง่ จงึ สามารถตดั ยอดไปรับประทาน ได้ ช่วงเวลาประมาณ 20 วัน กส็ ามารถเกบ็ ผลผลิตไดแ้ ล้ว กรณไี ม่มีเมลด็ ผกั บ้งุ สำมำรถนำกิง่ ผักบงุ้ จำกทีซ่ ้ือตำมตลำดนัดมำปกั ชำได้เลย แต่กำรปกั ชำก่ิงผักบุง้ ขะต้องใช้ดินปลกู ท่ีแฉะน้ำ หรอื ทำให้น้ำท่วมดนิ ปลูกเล็กน้อย แล้วเริ่มทำกำรปกั ชำได้เลยตำมจำนวนทตี่ อ้ งกำร แตไ่ มค่ วรแนน่ จนเกนิ ไป รอจนผกั บุ้งมียอดออ่ นแตก ออกมำ แลว้ จงึ ใชต้ ำข่ำยปดิ ปำกโอง่ จนผักบงุ้ ชยู อดยำว ตำมต้องกำร ก็ตดั ยอดนำไปรบั ประทำนไดแ้ ลว้ หำกใช้วิธีกำรปกั ชำผกั บ้งุ ในโอง่ อย่ำปิดฝำโอง่ กอ่ นจนกว่ำจะได้เหน็ ยอดออ่ นทแ่ี ตก ข้ึนมำใหม่ออกมำ ไมเ่ ชน่ นน้ั ผกั บุ้งจะตำย และอย่ำใหด้ นิ ปลูกแหง้ จนผักบุง้ ตำย

ขอ้ ดขี องกำรปลกู ผกั บุง้ ในโอง่ คอื มำกกว่ำคำว่ำพอเพยี ง 14 ผกั บ้งุ เป็นผกั ไมเ้ ลือ้ ยและผักลม้ ลกุ แต่มอี ายกุ ารเก็บเกย่ี วที่ยาวนาน แตกยอดออ่ นไดเ้ รื่อยๆ ตราบใดทตี่ น้ หลักยงั คงไดร้ บั สารอาหารทีเ่ พยี งพอ อีกทั้งยงั สามารถแตกเปน็ ต้นใหมไ่ ดง้ ่าย การขยายพนั ธ์จุ ึงเป็นเรอ่ื งทงี่ ่ายดว้ ยเชน่ กนั ดังนน้ั เมอื่ ผกั บุง้ อย่ใู นโอ่งและมีความต้องการแสง จงึ จาเปน็ ต้องสรา้ งลาต้น ใหส้ ูงพน้ ปากโอ่งเพอ่ื ต้องการแสงมาสังเคราะหอ์ าหารอยตู่ ลอดเวลา การตัดลาตน้ ผักบุ้ง ให้ตา่ เกือบติดโคน จงึ เปน็ วธิ ีทท่ี าใหผ้ ักบ้งุ แตกยอดใหมอ่ ย่างตอ่ เนอื่ ง และยังได้ลาต้นที่ เป็นยอดที่ยาว ไมแ่ ขง็ เหมือนกับการปลกู ในแปลงทว่ั ไป ลาต้นทแ่ี ขง็ เกดิ จากการสังเคราะห์แสงท่ี เพียงพอ นจี่ งึ เปน็ ข้อดีของการปลูกผักบ้งุ ในโอง่ ทีส่ ามารถเก็บเกี่ยวยอดผักบุง้ ได้อย่างยาวนาน ตราบเท่าทส่ี ารอาหารในโอ่งจะเพยี งพอให้ผกั บ้งุ ไดแ้ ตกยอดมาใหม่ บางคนปลูกผักบุ้งในโอง่ แบบผิดวิธี คอื ปลกู แลว้ เติมน้าลงไปจนทว่ มยอดผักบ้งุ แม้วา่ ผักบุ้งจะเปน็ พชื ทที่ นน้าทว่ มได้ แตก่ ารเติมน้าและปดิ ฝาโอ่ง กเ็ ปน็ วธิ กี ารที่จะทาใหล้ าต้นเนา่ ไดง้ ่ายข้นึ อีกทั้งการไมเ่ จอแสงหรอื แสงน้อย ยงิ่ ทาใหต้ น้ ผกั บ้งุ ตายเร็วขึ้น นา้ ก็จะเน่าเรว็ ข้นึ ดว้ ย วิธที ีด่ ีทีส่ ุดในกำรปลกู ผักบงุ้ ในโอง่ คอื กำรเติมนำ้ สงู กวำ่ ดนิ ปลูกเลก็ น้อย เป็นวิธีท่เี หมำะสมท่สี ุด ทีส่ ำคัญ อย่ำลมื วำงโอง่ ไว้ในท่รี ม่ เพรำะหำกวำงไวก้ ลำงแจง้ อำจจะกลำยเป็นแปลง ผักบุ้งอบโอง่ ได้ แมโ้ อง่ จะเกบ็ ควำมเยน็ ไดด้ ีแตก่ ็ไมค่ วรวำงไวก้ ลำงแดด โดยเฉพำะโอง่ ที่มีตน้ ผกั บ้งุ อยูใ่ นนน้ั สตู รหัวเชอื้ บำรงุ ตน้ ผกั บงุ้ ในโอ่ง เพม่ิ ธำตุอำหำร เรง่ โต สตู รนา้ หมกั ชีวภาพสาหรบั บารงุ ดนิ ปลกู - ใช้เศษผกั บงุ้ 2 สว่ น - หยวกกล้วยอ่อน 3 สว่ น - กากน้าตาล 2 สว่ น หมักรวมกนั ท้งิ ไว้ประมาณ 1 เดอื นก่อนนาไปใช้ เมอื่ ครบ กาหนด นาหวั เชื้อนา้ หมัก 1 ส่วน ผสมกับน้า 10 ส่วน ใช้ ฉีดพน่ ทางใบ การใส่น้าหมกั ชีวภาพลงไปในดินปลูกก้น โอ่ง จะเป็นการชว่ ยสร้างแพลนตอนในน้า และไม่ทาให้น้า ในโอ่งเนา่ ได้

15 ปลูกผกั บนตน้ กลว้ ย กบั ความจริงที่ไมม่ ีใครบอก หลายคนสงสัยวา่ การปลกู ผัก บนต้นกลว้ ยได้ผลจริงไหม เพราะในสวนมกี ล้วยเยอะ อยากปลูกบา้ งแต่ไมอ่ ยากทาแปลง ผกั เพิ่ม ลองหนั มาปลกู บนต้น กล้วยดบู ้าง แถมได้ยินคนอน่ื บอกวา่ ทาง่าย ใหป้ ลกู บนตน้ กล้วยทแ่ี ก่ หรือตน้ ที่ตัดเครอื กลว้ ยออกไปแลว้ ไม่ตอ้ งตัดตน้ ทิ้งให้เปลอื งแรง บ้างกบ็ อกให้นาต้นกลว้ ยมา ทาเป็นทปี่ ลกู ผกั แทนการยกร่องหรือใส่กระถาง คลา้ ยกบั การปลกู ผกั ไร้ดิน ผกั ไฮโดรโพ นกิ ส์ กอ่ นทต่ี ้นกลว้ ยจะแห้งเห่ียวสลายไป หรือบา้ งก็แนะนาให้ปลกู บนตน้ กลว้ ยทีก่ าลังโต เพราะกวา่ ต้นกล้วยนนั้ จะออกผลและตาย ก็ไดผ้ กั กินแลว้ แถมในต้นกล้วยยงั มีโพแทสเซยี มเยอะ เปน็ ป๋ยุ อย่างดแี กพ่ ืชผัก…. ตา่ งๆ นาๆ เหล่าน้ี

จดุ ประสงค์ของการปลูกผักบนตน้ กลว้ ย คืออะไร 16 จากการทดลองปลูกผักบนต้นกล้วยมาแล้วนับคร้ังไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นบนต้น กล้วยชนิดไหนก็ตาม อย่างตานี ต้นกล้วยหอม ต้นกล้วยน้าว้า กล้วยไข่ กล้วยหักมุก และ กล้วยอื่นๆ ฯลฯ ทาใหไ้ ดข้ ้อสรุปดงั นี้… 1. เพือ่ ประหยดั น้า เพราะภายในตน้ กล้วยมนี า้ มากพอทจ่ี ะทาให้พืชผักเติบโตได้ อย่างเหมาะสม แต่ไม่ได้ดีมากจนครอบคลุมพืชผักทุกชนิด ข้อดีน้ีใช้ไม่ได้กับผักอายุยืน มากกว่า 30 วัน และผักท่ีต้องการน้ามากๆ นอกน้ันกม็ ีสารอ่ืนๆ เช่นโพแทสเซียม 2. เพ่ือประหยดั รายจา่ ยในการซ้ือกระถางคณุ อาจนาต้นกลว้ ยตดั แบ่งเป็นทอ่ นๆ และเจาะรูตรงกลาง ใชแ้ ทนกระถาง แต่กน็ น่ั แหละ มันไม่มีอะไรดไี ปกวา่ น้นั และท่สี าคญั กระถางแบบน้ีมอี ายสุ ้นั ไม่นานกเ็ น่า เหยี่ ว และสลายไปในท่สี ดุ 3. ประหยัดพ้ืนที่ คุณอาจปลูกผักบนต้นกล้วยแทนการปลูกลงแปลงเพ่ือ ตอ้ งการจะประหยดั พืน้ ที่ แตก่ ารปลกู ผกั บนต้นกลว้ ยจะทาใหต้ ้นกลว้ ยตายง่ายข้นึ ด้วย ธาตโุ พแทสเซียม มคี วามสาคัญในการสรา้ งและการเคลื่อนย้ายอาหารพวกแปง้ และ น้าตาลไปเลยี้ งส่วนที่กาลงั เตบิ โต และส่งไปเก็บไวเ้ ป็นเสบียงทีห่ ัวหรอื ทีล่ าต้น ดังนัน้ พชื จาพวกอ้อย มะพร้าว มัน จงึ ตอ้ งการโพแทสเซียมสูง ถ้าขาดโพแทสเซียม หัวจะลีบ มะพร้าวไมม่ นั และออ้ ยกไ็ ม่มนี า้ ตาล พชื ทขี่ าดโพแทสเซยี มจะเหย่ี วง่าย แคระแกรน็ ใบล่างเหลอื งและเกดิ เปน็ รอยไหม้ ตามขอบใบ พชื ทป่ี ลกู ในดินทรายทีเ่ ป็นกรดรนุ แรงมกั มปี ญั หาขาดโพแทสเซียม

ขอ้ ควรคานึงในการปลกู ผักบนตน้ กล้วย 17 และการประหยัดพ้ืนทดี่ ้วยการนาตน้ กลว้ ยมาเรยี งๆ เปน็ ข้ันบันไดเพือ่ ทาเป็นแปลง ผกั ควรพิจารณาจากภาพต่างๆ ทเี่ หน็ วา่ ข้อเท็จจริงเป็นอยา่ งไร ต้นกลว้ ยท่ีถกู ตัดเป็นท่อนปลอ่ ยทงิ้ ไว้ ตามปกตจิ ะเนา่ สลายลงในเวลาไมน่ าน การปลกู ผักโดย การนาตน้ กล้วยมาเรยี งกนั เป็นชน้ั ๆ ตอ้ งคานงึ วา่ พชื ผกั ท่ีปลูกจะต้องมอี ายสุ ้นั เก็บเก่ียวไดเ้ ร็ว กอ่ นทตี่ ้นกลว้ ยจะเนา่ และสลายไป ถ้าระยะเวลาเกบ็ เกีย่ วเกินกว่า 30-40 วนั รับรองวา่ ทงั้ ผักและต้นกล้วยก็จะเนา่ ตายไปพรอ้ มๆ กัน แม้อายุตน้ กล้วยจะยาวนานเกนิ 40 วนั กอ่ นจะยอ่ ยสลายลง แต่การเจาะและ ทาลายลาตน้ ใหเ้ กดิ แผล หรือมรี อยชา้ ก็จะทาให้การยอ่ ยสลายของต้นกล้วยนน้ั เกดิ เรว็ ขน้ึ ตาม ไปด้วย กล้วยนา้ ว้า ต้นอวบ ใหญ่ เหมาะสาหรับการปลกู ผักบนตน้ แต่กม็ ขี ้อเสีย การเจาะตน้ กลว้ ยทาใหเ้ กดิ รอยชา้ หรือเป็นแผลบนตน้ กล้วย จะทาใหต้ ้น กล้วยนั้นตายง่ายขนึ้ กว่าเดิม จึงเปน็ ทแ่ี น่ชัดแล้วว่า อายุผกั ที่จะนามาปลกู ไมค่ วรเกิน 30-40 วัน (นบั จากเริ่มปลกู บนต้นกล้วยจนถงึ การเก็บเกย่ี ว) ข้อแนะนากค็ ือ ควรทาให้ ผักโตกอ่ นใกลถ้ ึงระยะเกบ็ เกยี่ วแลว้ เท่านน้ั ทีจ่ ะเหมาะนามาปลกู บนตน้ กลว้ ย เพอื่ ประหยัดนา้ และค่าใช้จ่ายเรื่องตา่ งๆ

ข้อแนะนาในการปลูกผักบนตน้ กล้วย 18 •อายุผกั ตอ้ งส้ัน •ปลูกใหโ้ ตจากทอ่ี ืน่ ก่อน •ปลูกเพอื่ ความสนกุ •ปลูกเปน็ งานอดเิ รก นอกจากน้แี ลว้ ไมแ่ นะนา และไมม่ ีประโยชนใ์ ดๆ เพราะผกั จะไม่โต ขาดแร่ธาตุ อาหาร หากตอ้ งการใหผ้ ักโต ก็เปลอื งค่าใชจ้ า่ ยเพิ่ม ไมว่ ่าจะเปน็ การฉีดพน่ หัวเชอื้ การใหป้ ุ๋ยน้าแก่พชื ฯลฯ ซึ่งเปน็ วิธที ีส่ ้ินเปลอื งโดยใชเ่ หตุ การปลกู ผักบนต้นกล้วยทท่ี าแลว้ ไดผ้ ลทส่ี ุด เพาะเมล็ดผักในแปลงเพาะใหไ้ ดอ้ ายุกอ่ นเก็บเก่ยี วประมาณ 1-2 สัปดาห์ เลอื กต้นกล้วยแก่จดั อาจเปน็ ตน้ ที่ตัดเครือกลว้ ยออกแล้วก่อนต้นจะลม้ ดกี วา่ การตัดทาลายทงิ้ เพราะสามารถนามาใช้ประโยชนใ์ นการนีไ้ ด้ เจาะรูต้นกลว้ ย ความกวา้ งให้เทา่ กบั แทน่ ปลกู ของผกั เพอื่ ทจ่ี ะสามารถนาตน้ ผกั ลง รบู นต้นกล้วยไดส้ ะดวก ส่วนความลึกไมค่ วรเกนิ 40 ซม. สาหรบั กล้วยทย่ี งั ไมต่ ดั เครือ และลึก 40-50 ซม. สาหรบั กลว้ ยท่ีตดั เครือแล้ว นาดนิ หรอื วสั ดปุ ลกู อดั ลงรูบนต้นกล้วยทิ้งไว้ 1 วนั หากตน้ กล้วยต้ังตรง แนะนา ใหเ้ จาะเฉียง เพอื่ ง่ายตอ่ การปลูก และดนิ ปลูกไมร่ ่วงหลน่ ตรงนี้สาคัญมาก เพอ่ื ท่จี ะทาให้ตน้ กลว้ ยรับความเสียหายจากการเจาะ และไม่ บอบชา้ และเนา่ สลายเรว็ ขึน้ ควรนาดินปลกู หรือวัสดุปลกู อดั ใหแ้ นน่ กอ่ นนาพืชผกั ลงปลกู ในรเู จาะ การนาพืชผกั ลงปลูกทันที จะทาให้ยางกล้วยทาลายระบบราก และทาใหพ้ ชื ผกั โต ไมเ่ ตม็ ที่ ท่ีสาคญั การนาผกั ลงปลูกโดยไม่มีดนิ ปลูก หรือสารอาหารอ่ืนๆ ใส่ไว้ก่อน จะทาให้ผกั ขาดแรธ่ าตุ และผักจะไม่โต สุดท้ายก็เนา่ ตายสลายไปพรอ้ มตน้ กลว้ ย

ผกั จะโตได้กเ็ พราะแรธ่ าตุ ไมใ่ ชน่ ้าและโพแทสเซ่ียมอยา่ งเดียว ผกั จะงามได้ โ1ต9ดี และสวยงาม จาเปน็ ตอ้ งมีดินปลูกในหลุมปลกู อย่กู ่อนแล้ว หรือไมก่ ็ใช้ปุ๋ยน้าบารงุ พชื ทางใบ ไม่ใชป่ ลกู แล้วปลอ่ ย หากทาอย่างนั้น ผกั กเ็ นา่ ไปพร้อมกบั ต้นกล้วย ข้อเสียของการปลูกผักบนตน้ กลว้ ย ที่ไม่เคยมใี ครบอก - ตน้ กล้วยท่ียังไมเ่ นา่ สลาย ไม่ใช่แหล่งแร่ธาตทุ ี่ดนี กั สาหรบั พชื ผกั หากปลกู พืชทเ่ี ป็นชนดิ กาฝาก ดูดนา้ เล้ียงพืชอ่ืนเพ่อื เปล่ียนเป็นอาหารจาเป็น อาจใช้ได้ผล แตไ่ ม่เหมาะกบั การปลูกผกั สวนครัวทว่ั ไป เพราะต้นกลว้ ยท่มี ีชีวิต มีแต่น้าส่วนแรธ่ าตุอ่นื ๆ มี แต่ รากผักไมส่ ามารถนาธาตุอาหารเหล่านัน้ มาใชไ้ ดโ้ ดยตรง จาเปน็ ตอ้ งมกี ารให้เสรมิ จากภายนอก โดยการเสริมดว้ ยดินปลกู ปุย๋ น้า ปุ๋ยหมัก ฯลฯ วิธกี ารคือ การเจาะรใู ห้ลึกพอประมาณ สาหรบั ให้ พืชใช้รากยึดเกาะได้ไมล่ ม้ และรตู อ้ งกว้างพอสาหรับใส่ดนิ ปลูก หรอื สารอาหารเพมิ่ เพอ่ื เสริม การเตบิ โต - การเจาะรทู ก่ี ว้าง และลึก ทาใหเ้ กดิ แผลบนตน้ กลว้ ย ทาให้ตน้ กล้วยตายเร็วข้ึน ไม่แปลกหากต้นกลว้ ยตัดเครือแล้ว เพราะเปน็ ต้นที่รอวนั ตาย แต่กับกล้วยทย่ี งั ไม่มลี กู ยงั ไม่ออก ปลี การเจาะและทาใหล้ าตน้ ช้า ถือเป็นการทาลายต้นกล้วยให้ตายเรว็ ขึ้น - แม้จะเป็นตน้ กลว้ ยตดั เครือแลว้ รอวันเน่าสลาย การเจาะรูกจ็ ะไปเรง่ ความเรว็ ใน การสลายของตน้ กล้วยให้เกดิ เร็วขึน้ หากพชื ผกั ทจี่ ะนามาปลูกบนตน้ กลว้ ยโตและให้ผลผลติ ชา้ จะทาให้เสียทง้ั ผกั และต้นกลว้ ยไปโดยไม่ได้อะไรเลย

20 มาปลูก..บวบหอมยกั ษ์..เป็น พชื ผักสวนครัว บวบหอม เปน็ พืชเถาอายสุ ั้น มมี อื จับเกาะช่วยพยุง ลาต้น จงึ นยิ มทาค้างหรอื รา้ นใหเ้ ลอ้ื ยเชา่ เช่นเดยี วกับตน้ มะระ บวบเปน็ พชื ที่ปลุกงา่ ย เจรญิ เตบิ โตเรว็ สามารถเจรญิ เติบโตได้ในดนิ แทบทกุ ชนิด ในดนิ ควรมคี วามชนื้ สม่าเสมอ สรรพคุณทางยาของบวบหอม - ขบั ปสั สาวะ ขบั น้านม - นา้ คน้ั จากผลเปน็ ยาระบาย - ผลแก่นามาเผาใหเ้ ปน็ เถา้ ใช้เป็นยาขบั พยาธิ ขบั ลม - เมลด็ แก่เต็มที่ใชเ้ ปน็ ยาถ่าย - น้ามนั ทีบ่ บี จากเมล็ดใชท้ าผิวหนงั - นา้ จากผลแก่ และเมล็ดแกใ่ ชเ้ ปน็ ยาฆ่าเหา - เมล็ดแก่นามาผสมกบั เหล้าขาวแก้โรคหืด-หอบ

พนั ธทุ์ ใ่ี ช้ปลกู 21 บวบท่ีปลูกในประเทศไทย สว่ นใหญ่เป็นพันธุพ์ น้ื เมอื ง เพาะปลูกกนั มานานแลว้ และมี การเก็บเมล็ดพันธ์ุไว้เป็นชอ่ ตอ่ ๆกันไป บวบหอมเป็นพชื อกี ชนิหนง่ึ ท่เี ราใชบ้ รโิ ภคสว่ น ของผล นยิ มรับประทานมากเชน่ เดียวกบั บวบเหล่ียม นอกจากจะใชส้ ว่ นของผลสดแลว้ ผลบวบแห้งก็สามารถนามาแกะเปลือกเอาเส้นใย นามาใชล้ า้ งมือ ถูตวั เวลาอาบน้าได้ เป็นพืชพน้ื เมืองของเอเชยี แถบร้อนเชน่ ในอนิ เดียและไทย บวบเขามชี ่ือเสยี งในเรอ่ื ง การเรียกน้านมแมล่ กู อ่อน ตาราอาหารสาหรบั แม่ลูกออ่ นคลอดใหมจ่ ะต้องมแี กงเลียง ที่ต้องใส่บวบเปน็ อาหาร แทบทกุ วัน โบราณเช่ือว่าแกงเลียงบวบจะช่วยเรยี กน้านมแม่ แม่ลกู อ่อนยุคเก่ามกั จะตอ้ งไดก้ ินแกงเลียง แมล่ กู ออ่ นยคุ ใหม่ถา้ ทบ่ี า้ นสมยั ใหมก่ ็คงอด เพราะมักจะจดั ตารางอาหารการดูแลสุขภาพแม่หลังคลอดเป็นสไตล์ฝรงั่ มากกว่า แต่ สว่ นมากในชนบทก็ยังคงรกั ษาความเชื่อนี้อย่างเหนียวแนน่ เพราะผลบวบมีสรรพคุณ ในการขับน้านมจรงิ ผลบวบมีรสหวาน ชุ่มเย็น มสี รรพคณุ แกร้ ้อนใน ทางด้าน การแพทย์จีนจัดบวบอยูใ่ นอาหารประเภทหยนิ หรอื เยน็ เหมาะสาหรบั ฤดรู ้อนจะไดช้ ว่ ย ขบั ความรอ้ นคลายความรอ้ นในรา่ งกาย ดับร้อนถอนพิษ แต่ไม่รู้วา่ จะช่วยคลายความ รอ้ นในหมวู่ ยั ร่นุ ใจรอ้ นได้ไหม และยงั ช่วยระบายท้อง ขบั ลม ขบั น้านม แก้เลือดออก ตามทางเดินอาหาร แกท้ างเดนิ ปสั สาวะอกั เสบ ถา้ เราไม่ใชแ่ ม่ลูกออ่ นต้องกินบวบเรยี ก น้านมแลว้ ก็ต้องเชก็ ดตู วั เองกนั บ้างมอี าการรอ้ นใน มลี มจุกเสียด ระบบการขบั ถ่าย ผดิ ปกติหรือไม่ ถา้ มตี อ้ งหาเมนูอาหารจากบวบมากนิ การเตรียมดินแปลงปลกู และการปลกู บวบหอมเปน็ พืชทีม่ ีระบบรากลึกปานกลาง ควรขุดไถดนิ ลกึ ประมาณ 25-30เซนตเิ มตร ตากดนิ ไว้ 5-7 วัน ใสป่ ๋ยุ คอกหรือปุ๋ยหมกั ทส่ี ลายตัวดีแล้วให้มาก พรวนและยอ่ ยดนิ ให้ ละเอยี ดยกร่องเป็นแปลง ระยะปลูกบวบหอมท่ีเหมาะสมคอื ระยะระหว่าง ตน้ 75 เซนตเิ มตร และระยะระหว่างแถว 100 เซนตเิ มตร หลงั จากเตรียมดินดีแลว้ ให้ หยอดเมล็ดโดยตรงในแปลงหลุมละ 4-5เมล็ด ลกึ ลงไปในดินประมาณ 2-4 เซนติเมตร กลบด้วยป๋ยุ หมกั หรือปยุ๋ คอกหรอื ดนิ ละเอยี ดหนาประมาณ 1 เซนตเิ มตร รดน้าใหช้ ุ่ม แลว้ ใช้ฟางหรอื หญ้าแหง้ คลุมบางๆเพ่อื ชว่ ยรักษาความชนื้ ของดิน หลงั จากเมล็ดงอกขึ้นได้ ประมาณ 15 วัน ใหถ้ อนแยกใหเ้ หลือหลมุ ละ 3 ตน้ เมื่อบวบหอมเร่ิมเลือ้ ย ให้ทาค้างหรอื รา้ นเพือ่ ใหเ้ ลือ้ ยไปเกาะ

การดูแลรักษา 22 ควรใหน้ ้าอยา่ งเพียงพอและสม่าเสมออยา่ แฉะเกนิ ไป และอยา่ ให้ขาดนา้ ช่วงออกดอก ติดผล การเกบ็ เกีย่ ว ถา้ ต้องการเกบ็ เพ่ือบริโภคหรือขายผลออ่ น ควรเกบ็ ขณะผลยังอ่อนอยู่ แตถ่ ้าต้องการ เก็บเพื่อเอาเสน้ ใยตอ้ งเก็บผลแกๆ่ โดยท่วั ไปแลว้ อายเุ กบ็ เกย่ี วของบวบหอม ประมาณ 50-60 วัน หลงั จากหยอดเมลด็

ผกั กาดขาว ปลูกดี มีประโยชน์ 23 ผกั กาดขาว - นบั เปน็ ผักทม่ี ีความสาคญั ทางเศรษฐกิจชนดิ หนึง่ ของประเทศไทย เน่อื งจากมีผู้นยิ มบรโิ ภคอย่างแพร่หลาย ส่วนท่ีใชบ้ รโิ ภคคือ ส่วนของใบ ซึง่ มลี ักษณะ เป็นผนื เดยี วกนั ตลอด มกี า้ นใบกวา้ งและแบน ผกั กาดขาวนอกจากจะใชบ้ รโิ ภคสด และ ประกอบอาหารได้หลายอย่างแล้วยังเป็นผกั ทน่ี ามาใช้แปรรปู เป็นผักตากแห้ง และกมิ จิ ตลอดจนเปน็ ผักทใ่ี ช้ในอุตสาหกรรมรูปอืน่ ๆ พันธุผ์ ักกาดขาว - มคี วามแตกต่างกันไปตามลักษณะรูปรา่ งของปลี สาหรับพนั ธท์ุ ี่นยิ มปลกู ในประเทศไทยแบง่ ได้ 3 พวกใหญๆ่ ตามลักษณะของปลี 1. พวกปลยี าว ปลมี ลี กั ษณะทรงสงู รปู ไข่ ได้แก่ พนั ธ์ุมิชิลหี รอื ผกั กาดหางหงส์, ผักกาดโสภณ, ผักกาดขาวปลฝี ร่ัง เปน็ ตน้ 2. พวกปลกี ลม ปลี มีลกั ษณะทรงสั้นและอว้ นกลมกวา่ พวกปลียาว ได้แก่ พันธ์ุ ซาลาเดีย ไฮบริด, พนั ธุ์ทรอปคิ คอล ไพรด์ ไฮบรดิ ฯลฯ ส่วนใหญ่เปน็ พันธุเ์ บา มอี ายสุ ั้น 3. พวกปลหี ลวมหรอื ไม่หอ่ ปลี สว่ น มากเปน็ ผักพน้ื เมืองของเอเชยี ผกั กาดขาว พวกนมี้ ักไม่ห่อเป็นปลี สามารถปลกู ได้แม้อากาศไมห่ นาว ฝนตกชุก สาหรับความอรอ่ ยนา่ กนิ และการเก็บรกั ษาได้นานสผู้ ักกาดขาวพวกเข้าปลไี มไ่ ด้ ทาให้ปริมาณในปจั จบุ นั ลดลง ไดแ้ ก่ พนั ธ์ผุ กั กาดขาวใหญ่ (อายุ 45 วัน) ผกั กาดขาวธรรมดา (อายุ 40 วนั ) เปน็ ต้น พันธผ์ุ ักกาดขาวท่ีเกษตรกรนิยมใชไ้ ด้แก่ ตราดอกโบตั๋น ตราช้าง ตราเครอ่ื งบนิ ตราเคร่ืองบนิ พเิ ศษ พนั ธุเ์ ทียนจนิ และพันธ์ุเทียนจินเบอร์ 23 ซึง่ เปน็ พนั ธท์ุ ท่ี นรอ้ นไดป้ านกลาง

ผกั กาดขาว เปน็ ผกั ทีม่ ีอายปุ ีเดียว ในประเทศไทยสามารถปลกู ได้ตลอดปี แตป่ ลูกไดผ้ ลดที 2สี่ 4ุด อยูใ่ นชว่ งเดอื นตุลาคมถึงกมุ ภาพันธ์ ข้ึนไดใ้ นดนิ เกือบทกุ ชนดิ แต่ชอบดินรว่ นทม่ี กี ารระบายน้าดี และมีความอุดมสมบรู ณส์ ูง มคี วามเป็นกรดเป็นดา่ งๆ (pH) ของดนิ อยูใ่ นช่วงพอเหมาะประมาณ 6 - 6.8 ต้องการนา้ อยา่ งสมา่ เสมอและเพยี งพอเพือ่ ใหม้ ีการเจรญิ เติบโตอย่างสมา่ เสมอ และ ควรไดร้ บั แสงแดดเต็มที่ตลอดวนั อุณหภมู ิทเี่ หมาะสมอยรู่ ะหว่าง 15 - 22 องศาเซลเซยี ส การปลกู แปลงเพาะกล้า ทาการไถดนิ บนแปลง แล้วตากดินทิ้งไว้ประมาณ 5 - 7 วนั หลังจากนน้ั หวา่ นป๋ยุ คอกหรอื ปยุ๋ หมักที่สลายตัวดแี ล้วให้มาก คลกุ เคล้าให้เข้ากับดิน พรวนย่อย ดินใหล้ ะเอียดโดยเฉพาะผิวหนา้ ดนิ ทง้ั น้ีเพอ่ื ปอ้ งกันไม่ให้เมล็ดผกั กาดขาวซึง่ มีขนาดเล็กตกใน ดนิ ลึกเกนิ ไป เมอื่ ปลกู โดยวธิ ีหว่าน แปลงปลกู ทา การไถดินหรอื ขดุ ดนิ ให้ลึกประมาณ 30 เซนติเมตร ตากดินท้งิ ไว้ ประมาณ 7-10 วนั แลว้ ทาการไถพรวนดนิ อกี ครั้ง ใสป่ ุ๋ยคอกหรอื ปุย๋ หมักทสี่ ลายตัวดแี ลว้ พรอ้ ม กบั คลุกเคลา้ ให้เข้ากบั ดนิ ถา้ ดินเปน็ ดินทรายควรใส่ปยุ๋ คอกหรือปุ๋ยหมกั ให้มากข้ึน อตั ราการใช้ ประมาณ 2 ป๊ีบตอ่ ตารางเมตรหรอื ถ้าใช้มูลเปด็ ไก่ หรือสกุ ร ใหล้ ดปรมิ าณการใส่ลงมาเหลอื ตารางเมตรละ 1 ปี๊บกพ็ อ คลุกเคล้าใหเ้ ขา้ กัน ใส่กรณีท่ีดนิ เปน็ ดนิ เปรี้ยวหรอื ดินเปน็ กรดควรใส่ ปูนขาวในอัตราประมาณ 40 กโิ ลกรมั ต่อไร่ ระบบการปลูกผักกาดขาวในประเทศไทยสามารถทาได้ 3 แบบ ท้ังนขี้ นึ้ อยู่กบั พนั ธท์ุ ่นี ามาปลูกและ สภาพพืน้ ท่ี 1. แบบหว่านกระจายทัว่ แปลง การปลกู แบบนใี้ ชใ้ นกรณที ใ่ี ชพ้ ันธุผ์ สมท่วั ๆ ไปมา ปลูก เมลด็ พันธมุ์ ีราคาไม่แพง และโดยเฉพาะในทอ้ งท่ภี าคกลางทย่ี กแปลงกวา้ ง มรี ่องน้า 2. แบบแถวเดยี ว เหมาะสาหรบั การปลกู แบบโรยเป็นแถวหรือย้ายกลา้ กรณใี ช้เมล็ด พนั ธุ์ลูกผสมท่มี ีราคาแพง ในท้องทีท่ ี่ปลูกผกั แบบไร่ 3. แบบแถวคู่ เหมาะสาหรับการปลูกแบบหยอดเมล็ดหรือยา้ ยกลา้ กรณใี ช้เมล็ด พันธ์ลุ ูกผสมทีม่ ีราคาแพง เช่น ในเขตทอ้ งที่ภาคเหนอื ท่ีนิยมยกแปลงปลูกแคบ สาหรับระยะปลกู ทีเ่ หมาะสมสาหรับปลูกผกั กาดขาวในประเทศไทยกค็ ือ ระหวา่ งแถว 50 เซนติเมตร และระหวา่ งตน้ 50 เซนตเิ มตร

25 การปลกู ผกั กาดขาวสามารถทาได้ 2 วิธดี ว้ ยกันคอื การปลูกลงบนแปลงปลกู โดยตรง และการปลกู โดยการเพาะกลา้ กอ่ นแล้วยา้ ยไปปลูกในแปลงปลูก จะเลอื กใชว้ ิธีใดนน้ั ขนึ้ อยูก่ ับความ สะดวกและความเหมาะสมของปจั จยั ของ เกษตรกรเอง เช่น แรงงาน ลักษณะของแปลง และ จานวนเมล็ดพันธุ์ เป็นตน้ การปลูกลงบนแปลงปลกู โดยตรง การปลกู ผักกาดขาวดว้ ยวธิ นี มี้ ี 2 แบบ คอื 1. แบบหวานโดยตรง โดย การหว่านเมล็ดพนั ธุใ์ หก้ ระจายท่วั ท้ังแปลง ซ่ึงการปลกู แบบนเี้ หมาะสาหรับกรณีท่เี มลด็ พันธุม์ รี าคาไม่แพง และโดยเฉพาะในทอ้ งทีภ่ าคกลางที่ยกแปลง กวา้ ง มรี ่องน้า การหวา่ นควรหว่านใหเ้ มล็ดกระจายสม่าเสมอ โดยทัว่ ไปนยิ มผสมพวกทรายหรือ เมล็ดผกั ท่ีเสอ่ื มคณุ ภาพแลว้ ทีม่ ขี นาดพอๆ กนั ลงไปดว้ ย เพือ่ ใหเ้ มล็ดพันธ์ุกระจายไดส้ ม่าเสมอ ย่งิ ข้ึน จากนั้นใช้ปุ๋ยคอกหรอื ป๋ยุ หมกั หว่านทบั ลงไปหนาประมาณ 1/2 - 1 เซนตเิ มตร เพ่ือชว่ ย รักษาความชื้น เสร็จแล้วจงึ คลมุ ดว้ ยฟางแหง้ สะอาดบางๆ อกี ชั้นหนึ่งรดนา้ ด้วยบวั ฝอยละเอียดให้ ทัว่ ถึงสมา่ เสมอ หลังจากตน้ กล้างอกและมใี บจรงิ 1-2 ใบควรถอนแยกเพอ่ื จัดระยะปลูกและถอน แยกครงั้ สุดท้ายไม่ควรปล่อยใหก้ ลา้ มอี ายุ เกิน 25-30 วัน โดยจดั ระยะปลกู ระหว่างตน้ และ ระหวา่ งแถวประมาณ 50 x 50 เซนติเมตร 2. แบบปลกู เปน็ แถวหรอื หยอดเปน็ หลมุ โดย การหยอดเมลด็ ใหเ้ ป็นแถวบนแปลง ปลกู โดยใหร้ ะยะระหว่างแถวหา่ งกนั 50 เซนตเิ มตร หยอดเมลด็ ลกึ ประมาณ 1/2 - 1 เซนตเิ มตร หรือทาเป็นหลุมตนื้ ๆ หยอดเมลด็ ลงประมาณ 3-5 เมล็ด ใช้ดินกลบใหห้ นา 1/2 เซนติเมตร ใช้ หญา้ แหง้ หรือฟางคลุมบางๆ รดน้าด้วยบวั ฝอยละเอียด เมือ่ ตน้ กลา้ เร่มิ มีใบจรงิ 2 ใบให้ ทาการ ถอนแยกให้เหลอื หลมุ ละ 1 ต้น ให้ได้ระยะต้นในแต่ละแถวเท่ากบั 50 เซนตเิ มตร และถอนแยก ครง้ั สุดทา้ ยอายไุ ม่ควรเกนิ 30 วนั

การปลูกโดยการเพาะกล้าแล้วย้ายกล้าไปปลกู การปลูกผกั กาดขาวดว้ ยวิธนี ้ีจะประ2ห6ยดั เมล็ดพันธุไ์ ด้มาก โดยเฉพาะถ้าเปน็ การปลกู โดยใช้เมลด็ พนั ธ์ลุ ูกผสมทมี่ รี าคาแพง หลงั จากเตรียมดินแปลงเพาะกลา้ เรียบรอ้ ยแลว้ ใหห้ วา่ นเมล็ดใหท้ ั่วพนื้ ผวิ แปลงแลว้ ใช้ปยุ๋ คอกหรอื ปยุ๋ หมกั ท่สี ลายตัวดีแลว้ หวา่ นกลบให้หนาประมาณ 1/2 - 1 เซนติเมตร หรอื อาจใช้ วิธหี ยอดเมลด็ เป็นแถวหา่ งกันแถวละประมาณ 5-10 เซนติเมตร ลึกลงไปในดนิ ประมาณ 1/2 - 1 เซนติเมตร เมลด็ ควรโรยใหห้ า่ งกันพอสมควร แลว้ หวา่ นกลบด้วยปุ๋ยคอกหรือปยุ๋ หมกั หรือดินผสม แลว้ รดนา้ ดว้ ยบัวฝอยละเอยี ด ให้ท่ัวแปลง คลุมแปลงด้วยหญา้ แห้งหรือฟางสะอาดบางๆ เพื่อชว่ ย เก็บรกั ษาความชนื้ ในดนิ และปอ้ งกันการกระแทกของนา้ ต่อเมลด็ และตน้ กลา้ ทย่ี ังเล็กอยู่ เนอื่ งจากกลา้ ผักกาดขาวค่อนข้างออ่ นแอ ดังน้ันควรยา้ ยชาลงถุงพลาสติกหรือกระทงกอ่ นเมอ่ื กลา้ อายปุ ระมาณ 20-25 วนั จากนน้ั หมน่ั ดแู ลรกั ษาและป้องกนั โรคแมลงทอี่ าจเกิดขึน้ ก่อนการย้าย กล้าลงปลูกในแปลงควรทาใหก้ ลา้ แขง็ แรง โดยการนาตน้ กลา้ ออกตากแดดบ้าง อายกุ ล้าทเ่ี หมาะสม ในการย้ายปลกู คือ 30-35 วนั ไมค่ วรใช้กลา้ ท่ีมอี ายมุ ากเกินไป การยา้ ยกลา้ ไปปลกู ควรยา้ ยในช่วง บา่ ยๆ ถึงเยน็ หรือช่วงท่ีอากาศมืดครม้ึ นาต้นกลา้ ปลกู ในแปลงปลกู ท่ีเตรยี มไวแ้ ล้ว โดยใช้ ระยะหา่ งระหว่างตน้ และระหว่างแถว 50 x 50 เซนตเิ มตร หลงั จากปลกู เสรจ็ แลว้ ใช้ฟางหรือหญ้า แหง้ คลุมดนิ อกี ช้ันหนึง่ เพอื่ ช่วยรกั ษาความชน้ื ในดินและผักตั้งตัวได้เร็ว แลว้ รดนา้ ดว้ ยบัวฝอย ละเอยี ด การปลูกด้วยวิธกี ารเพาะกลา้ กอ่ นนาไปปลกู นจ้ี ะทุ่นค่าเมล็ดพนั ธ์ุ คา่ ปุ๋ย และปลกู ได้ เปน็ ระเบยี บสวยงาม การดแู ลและทางานได้ปราณีตขน้ึ ทาใหไ้ ด้ผลผลติ ดีขึ้น ทุน่ เวลาและแรงงานท่ี จะดแู ลรกั ษาในขณะทย่ี ังเปน็ ตน้ กลา้ อยู่ แตใ่ นเวลาย้ายปลูกจะต้องใชแ้ รงงานมากในการปลกู ให้ รวดเรว็

การใหน้ ้า 27 ผกั กาดขาวตอ้ งการนา้ มากและสม่าเสมอเพือ่ ใชใ้ นการเจริญเตบิ โตตลอดฤดปู ลกู ดังนน้ั ควร ใหน้ ้าอย่างเพยี งพอและสมา่ เสมอ โดยในระยะแรกเมอื่ ผกั กาลงั งอกควรใหน้ ้าวนั ละ 3-4 ครงั้ เพ่ือใหห้ นา้ ดินออ่ นสะดวกแกก่ ารงอกของเมลด็ เมอื่ ผักมอี ายุเกิน 7 วนั ไปแล้ว กล็ ดลง เหลอื ใหว้ นั ละ 3 คร้ัง พออายุเกิน 1 เดือนไปแล้วใหน้ า้ เพียงวนั ละ 2 ครงั้ เชา้ และเยน็ ไม่ควรให้นา้ ในเวลาสายๆ ท่แี ดดจัดเพราะน้าอาจรอ้ นทาใหผ้ ักกาดขาว ซ่ึงบางเสยี หายได้ ง่าย การใหน้ า้ ควรใชบ้ ัวรดน้าหรอื ฉดี พ่นเป็นฝอยดว้ ยเคร่อื ง แต่อยา่ ให้ฉีดแรงนกั เพราะอาจจะเปน็ อันตรายต่อผกั ได้ การให้น้าผักกาดขาวระยะท่คี วรระวงั ทส่ี ุดกค็ อื ในชว่ งที่ ผกั กาดขาวกาลงั หอ่ ปลไี มค่ วรให้ขาดน้าอย่างเด็ดขาด เพราะจะทาให้การห่อปลแี ละการ เจรญิ เติบโตไม่สมบูรณ์ การใส่ปยุ๋ เนือ่ ง จากผกั กาดขาวเปน็ ผักกนิ ใบ ดังน้ันควรเลือกใช้ ปุ๋ยเคมี-อนิ ทรีย์ตราบัวทพิ ย์ สูตรที่ 2 จงึ จะเหมาะสม โดยใหใ้ นอัตราประมาณ 80-150 กโิ ลกรัมต่อไร่ ทง้ั นี้ข้นึ อย่กู บั ความอดุ ม สมบรู ณข์ องดินและปริมาณปุ๋ยคอกทีใ่ ช้ โดยแบ่งใส่เปน็ 2 คร้งั คือ ครง้ั แรกใส่เปน็ ปุ๋ยรอง พืน้ จานวนครัง้ หน่ึง โดยใส่ตอนเตรียมดนิ ปลูก และครง้ั ท่ี 2 ใส่เมอื่ ผกั กาดขาวมอี ายุ 20 วนั สาหรบั ผักกาดขาวพนั ธุ์ปลยี าวและปลีกลมควรให้ป๋ยุ ไนโตรเจน เช่น ยเู รยี หรอื แอมโมเนยี ม ไนเตรท ในอัตรา 20-30 กิโลกรมั ตอ่ ไร่เม่ือกลา้ อายุได้ 30-40 วนั โดยการหวา่ นหรือโรย ข้างต้นก็ได้ แลว้ รดน้าตามทันที แต่ระวังอย่าใหป้ ุ๋ยตกค้างอยูท่ ีใ่ บเพราะจะทาใหใ้ บไหม้ อายกุ ารเก็บเกย่ี วของผักกาดขาวน้นั ไม่แนน่ อน ทั้งน้ีข้นึ อยู่กับลกั ษณะประจาพันธุ์ของแตล่ ะ พนั ธคุ์ ือ พนั ธทุ์ เ่ี ขา้ ปลหี ลวมๆ มีอายกุ ารเกบ็ เกี่ยวประมาณ 40-50 วนั หลงั จากหวา่ นเมลด็ โดยเลือกเกบ็ เกยี่ วต้นเรมิ่ แกเ่ ตม็ ทไี่ ด้ขนาด สาหรบั พนั ธ์ปุ ลยี าวและปลกี ลมมอี ายกุ ารเกบ็ เกี่ยวประมาณ 50-80 วันหลงั จากหวา่ นเมลด็ โดยเก็บขณะท่ปี ลีห่อแน่นเต็มท่กี อ่ นทีป่ ลจี ะ เร่ิมคลายตวั หลวมออก วิธกี ารเกบ็ เก่ยี วโดยใช้มดี คมๆ ตดั ท่ีโคนตน้ แล้วตดั แต่งใบทีเ่ ป็นโรคถกู แมลงทาลายออก บ้างพอสมควร แตไ่ ม่มากนัก ควรเหลือใบนอกๆ ไวส้ ัก 2-3 ใบ เพอ่ื ปอ้ งกนั การกระทบ กระแทกระหวา่ งการขนสง่

ขอขอบคุณ ท่มี า : https://www.kasetorganic.com/ ธีรัช ฟาร์ม http://myveget.com ทีป่ รึกษา นางจติ ราภรณ์ แก้ววสิ ยั ผู้อานวยการ กศน.อาเภอตะก่ัวทุ่ง รวบรวม/เรียบเรียง นางธีรัตม์ พลู สวสั ด์ิ บรรณารกั ษ์ หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอตะก่ัวท่งุ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook