Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บท 2

บท 2

Published by นัฐพล แสงประดิษฐ์, 2023-06-13 07:49:23

Description: บท 2

Search

Read the Text Version

บทที่ 2 เพลาและกันรั่ว ร า ย วิ ช า ชิ้ น ส่ ว น เ ค รื่ อ ง ก ล ห ลั ก สู ต ร ป ร ะ ก า ศ นี ย บั ต ร วิ ช า ชี พ ความหมายของเพลาและกันรั่ว หลักการใช้งาน กรรมวิธีการผลิต 20111-2003

16 แผนการเรยี นรู้ที่ 2 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 เรอื่ ง เพลาและกนั รว่ั

แผนการเรียนรูท้ ี่ 2 17 ชื่อวิชา ช้นิ ส่วนเครื่องกล ช่วั โมงรวม 36 ชม. ชื่อหน่วย เพลาและกนั รัว่ สอนครงั้ ท่ี 2 ชอ่ื เร่อื ง เพลาและกนั รัว่ จำนวน 2 ชั่วโมง 1. หวั ข้อเรอื่ ง 1.1 เพลารองรับภาระและเพลาสง่ กำลงั 1.2 รูปร่างและลักษณะเพลาสง่ กำลงั 1.3 กนั รั่วแบบสัมผสั เพลาและไมส่ ัมผัสเพลา 1.4 เทคนคิ การถอดและประกอบซีล 2. สาระสำคัญ เข้าใจถึงประเภทเพลา รูปร่าง ลักษณะ รวมทั้งกันรั่วแบบสัมผัสและแบบไม่สัมผัสได้อย่างถูกต้อง และ อธิบายลกั ษณะการใช้งานไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 3. สมรรถนะหลกั (สมรรถนะประจำหน่วย) แสดงความร้เู กยี่ วกับหลักการใชเ้ คร่ืองมือและอปุ กรณ์ 4. สมรรถนะย่อย (สมรรถนะการเรียนรู)้ สมรรถนะทว่ั ไป (ทฤษฎี) 1) แสดงความรเู้ กย่ี วกับการตดิ ต้งั อุปกรณ์ ประกอบงาน 2) แสดงความรเู้ กยี่ วความปลอดภัยและการบำรงุ รกั ษาเครื่องมอื กลงาน สมรรถนะท่พี งึ ประสงค์ (ทฤษฎี) เม่ือผเู้ รียนได้ศึกษาเนือ้ หาในบทน้ีแลว้ ผเู้ รียนสามารถ 1) บอกหลักการใชเ้ คร่อื งมือและอปุ กรณ์ไดถ้ ูกตอ้ ง 2) บอกหลกั ความปลอดภยั และการบำรุงรักษาเครื่องมอื กลได้ถกู ต้อง 5. กิจกรรมการเรียนการสอน ในการจัดการเรียนการสอนรายวิชาทฤษฎีเครื่องกล หน่วยที่ 2 เรื่องเพลาและกันรั่ว ได้กำหนดกิจกรรม การเรียนการสอนให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะเชิงรุก (Active Learning Competency Based) ด้านเทคนิคการจัดการเรียนการสอนแบบ MAIP โดยมีขั้นตอนในการดำเนินกิจกรรม การเรยี นการสอน ดังนี้ สอนครัง้ ที่ 1 1. ขั้นนำเขา้ ส่บู ทเรียน 1.1 กิจกรรมผูส้ อน 1) ผู้สอนนำเข้าสู่บทเรียนโดยกล่าวถึงความสำคัญของเรื่องที่จะเรียน และโดยเชื่อมโยงความรู้ เดิม กับความรู้ใหม่ทผี่ ู้เรียนจะได้เรยี นรู้ โดยการใชค้ ำถาม 2) ผู้สอนชแ้ี จงจดุ ประสงค์ของการเรียนรูห้ น่วยที่ 2 ก่อนทำการเรียนการสอน

18 แผนการเรยี นรู้ท่ี 2 ชื่อวิชา ช้นิ สว่ นเครือ่ งกล ชัว่ โมงรวม 36 ชม. ชอ่ื หน่วย เพลาและกนั รวั่ สอนครั้งท่ี 2 ช่อื เร่ือง เพลาและกนั รัว่ จำนวน 2 ชั่วโมง 1.2 กจิ กรรมผ้เู รยี น 1) ผ้เู รยี นตอบคำถามทีผ่ สู้ อนกำหนดให้ 2) ผ้เู รียนรบั ฟงั พร้อมทำความเขา้ ในกับคำอธิบายของผู้สอน 2. ขน้ั ปฏบิ ัติกิจกรรมการเรยี นรู้ 2.1 กจิ กรรมผูส้ อน 1) ผ้สู อน สอนทฤษฎีหน่วยท่ี 2 เพลาและกันร่ัว 2) ผู้สอนแจกแบบฝกึ หัด หนว่ ยที่ 2 เพลาและกันรว่ั 3) ผูส้ อนแจกใบกิจกรรมการเรียนรู้กับผู้เรียนพร้อมท้ังอธบิ ายวิธีการดำเนินกิจกรรม โดยผู้สอน จะคอยเปน็ ผูแ้ นะนำ 4) ให้ผสู้ อนแจ้งให้ผู้เรยี นสรปุ ความรู้หรือประสบการณ์ใหมด่ ว้ ยตนเอง โดยการทำแบบทดสอบ 2.2 กจิ กรรมผเู้ รยี น 1) ผู้เรียนทำแบบฝึกหัด หน่วยที่ 2 2) ผู้เรียนปฏบิ ัติกิจกรรมตามท่ีได้รับมอบหมาย 3) ผเู้ รียนทำแบบทดสอบ 4) ผเู้ รียนสรปุ ความรหู้ รือประสบการณ์ใหมด่ ว้ ยตนเอง 3. ข้ันสรุปกิจกรรมการเรยี นรู้ 3.1 กิจกรรมผสู้ อน 1) ผสู้ อนตรวจสอบการสรุปความรหู้ รือประสบการณ์ใหมข่ องผู้เรยี น (ตรวจใบงาน/ใบกจิ กรรม) 2) ผูส้ อนสะทอ้ นข้อมลู เกย่ี วกับการสรุปความรู้ของผเู้ รียน เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนนำไปปรับปรุงตนเอง 3) ถ้าผเู้ รียนมีผลการสรุปความรู้ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ ให้ผสู้ อนกระตนุ้ ให้เกิดความมนั่ ใจและหากผเู้ รียนมผี ลการ เรยี นรูเ้ ปน็ ไปตามเกณฑ์ ผู้สอนกระตนุ้ ใหผ้ ู้เรยี นรูส้ กึ เกิดแรงบนั ดาลใจ 3.2 กิจกรรมผเู้ รียน 1) ผ้เู รยี นรับทราบข้อมูลสะท้อนกลับ เพื่อปรับปรุงการเรียนรขู้ องตนเอง 4. ขั้นสะท้อนความคดิ 4.1 กจิ กรรมผู้สอน 1) ผู้สอนมอบหมายให้ผ้เู รยี นสะท้อนความรู้ นำเสนอความสำเร็จ หรือความผิดพลาดของ ตนเอง (อาจมอบหมายให้คนทส่ี ำเรจ็ 1 คน และคนท่ีไมส่ ำเร็จ 1 คน เพ่อื นำเสนอ)

19 แผนการเรียนรทู้ ี่ 2 ชอื่ วิชา ชิน้ ส่วนเคร่อื งกล ชั่วโมงรวม 36 ชม. ชือ่ หน่วย เพลาและกันรว่ั สอนครัง้ ท่ี 2 ชอ่ื เรือ่ ง เพลาและกนั ร่ัว จำนวน 2 ชว่ั โมง 4.2 กจิ กรรมผ้เู รียน 1) ผเู้ รียนสะทอ้ นความรู้ นำเสนอความสำเร็จ หรือความผดิ พลาดของตนเอง 5. ข้นั สรุปผลการจดั การเรียนรู้ 5.1 กิจกรรมผูส้ อน 1) ผสู้ อนแจง้ ให้ผู้เรยี นประเมินตนเอง 2) ผู้สอนมอบหมายงานใหผ้ ูเ้ รียนศึกษาค้นควา้ หรือเรยี นรเู้ พ่มิ เตมิ 5.2 กิจกรรมผ้เู รียน 1) ผ้เู รยี นประเมนิ ตนเอง 2) ผ้เู รียนศกึ ษาคน้ ควา้ หรือเรยี นรเู้ พม่ิ เติมจากประเดน็ ทีผ่ ้สู อนได้มอบหมาย 6. ส่ือการสอน 6.1 เอกสารประกอบการสอน 6.2 เอกสารประกอบการเรยี น 6.3 ส่ือนำเสนอ PowerPoint 7. งานทม่ี อบหมาย/กจิ กรรม 7.1 แบบฝึกหดั 7.2 แบบทดสอบ 7.3 ใบงานท่ี 2.1 8. การวดั และประเมินผล สมรรถนะทพี่ ึง วธิ ีการวดั เครอื่ งมือ เกณฑ์การประเมนิ ประสงค์ 1. ด้านความจำ - ปฏบิ ัติกิจกรรม - ใบกจิ กรรมการเรยี น - ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70 (Knowledge) การเรียนรู้ - ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 70 - แบบประเมินผลการ 2. ดา้ นความเขา้ ใจ - การอธิบาย ปฏิบัตงิ าน (Skill) 3. คุณลักษณะอนั พงึ - ประเมินคณุ ลักษณะ - แบบประเมนิ คุณลักษณะ - ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 80 ประสงค์ (Attitude) อนั พึงประสงค์ อันพึงประสงค์

20 ชอ่ื เรอื่ ง ชือ่ วิชา ชิ้นส่วนเคร่อื งกล ใบความร้หู นว่ ยที่ 2 ชวั่ โมงรวม 36 ชม. ชอ่ื หน่วย เพลาและกนั ร่ัว สอนครัง้ ท่ี 2 หนว่ ยท่ี 2 เพลาและกนั รวั่ เพลาและกันร่ัว จำนวน 2 ช่วั โมง คำวา่ เพลาและชลี ตามพจนานกุ รมศัพท์ยานยนต์ ฉบับราชบัณฑติ ยสถาน กรกฎาคม 2542มีดงั ตอ่ ไปน้ี เพลา (Axal) :แกนหรอื เพลาทล่ี อ้ หมนุ รอบหรอื หมนุ ไปกบั ล้อ ซงึ่ ต่อไปจะเรียกวา่ เพลารองรับภาระ เพลา (Shaft) :เพลา คอื ช้ินสว่ นซึ่งส่วนใหญเ่ ป็นแทง่ กลมแข็งแรง ใชห้ มนุ ส่งกำลงั จากปลายขา้ งหนึ่งไปยังปลาย อกี ขา้ งหน่ึง ซ่ึงตอ่ ไปจะเรียกว่า เพลาส่งกำลงั ร่องฟนั (Spline) ร่องฟนั คือ ฟันบนเพลาหรือในกระบอก มีลกั ษณะเหมอื นลมิ่ ยาว เกดิ ข้นึ จากการตดั เน้ือโลหะ ของเพลาหรอื กระบอกออกไป เม่อื สวมเข้าดว้ ยกันจะทำใหเ้ พลาสามารถหมุนส่งกำลังและเลื่อนเขา้ ออกได้ กันรั่ว (Seal) : กันรั่ว คือ วัสดุหรือชิ้นส่วนที่ใช้ป้องกันของเหลวหรือแก๊สรั่วเข้าหรือออกจากชิ้นส่วนของ เคร่ืองจกั ร ซ่งึ จะอยู่กับทห่ี รอื เคลอ่ื นที่ก็ได้ เช่น กันรว่ั ของเพลา เกียร์ แหวนกันรว่ั สารกันรั่ว (Sealant, Sealer, Sealing Compound) : สารกันรั่ว คือ สารข้นหนีดที่ใช้ทาผิวสัมผัสของวัสดุท่ี ประกบกัน เพ่ือกนั รวั่ แทนปะเก็น ช่างยนต์นยิ มเรยี กว่าปะเก็นเหลว ส่วนประกอบกันรั่วแบบวงแหวน (Seal) กันรั่วคือปะเก็นอย่างหน่ึง ป้องกันการรั่วซีมของน้ำ น้ำมันและจาระบี งานที่มีการเคลื่อนที่สัมผัสหรือหมุนสัมผัส เช่น เพลากระปุกเกียร์ หรือเพลาปั๊มน้ำสปริง สำหรับรัดปากกันร่ัว แหวนดา้ นหน้า อัดตวั กันร่ัวไว้ในกรอบปากกันรว่ั สมั ผสั เพลากนั รั่วซึมเปลือกนอก อัดแน่นในรูเสื้อเคร่อื ง รูปที่ 2.1 ส่วนประกอบกันรัว่ แบบวงแหวน

21 ใบความร้หู น่วยที่ 2 ช่ือวิชา ชน้ิ สว่ นเครื่องกล ช่ัวโมงรวม 36 ชม. ชื่อหน่วย เพลาและกนั รั่ว สอนครั้งท่ี 2 ช่อื เร่อื ง เพลาและกันรัว่ จำนวน 2 ชั่วโมง 2.1 เพลารองรับภาระและเพลาสง่ กำลัง 2.1.1 คุณลกั ษณะเพลารองรับภาระ เพลารองรับภาระเปน็ ช้ินส่วนทม่ี ลี ักษณะเดยี วกับเพลา ขณะใชง้ านอาจหมุนหรอื อย่กู บั ทกี่ ็ได้ แต่ไมม่ กี ารส่งถ่ายโมเมนต์แรงบดิ ส่วนมากใช้เป็นตวั รองรับชน้ิ ส่วนทหี่ มุน เช่น ลกู ลอ้ รอกสายพาน ลอ้ สลิง เปน็ ตนั ภาระสว่ นใหญท่ ก่ี ระทำ เป็นน้ำหนักของอปุ กรณท์ ี่กดทับอยู่ ทำให้สภาพการเสียหาย ของแกนเกิดจากการดัดงอเปน็ หลัก โดยทัว่ ไปเพลารองรบั ภาระมีลักษณะการใช้งาน 2 ลักษณะ คือ ขณะใชง้ านอยกู่ บั ที่ และขณะใช้งานหมุนเคล่ือนท่ี เพลารองรับภาระแบบอยู่กับที่ตัวอย่างการใช้งาน เช่น เพลาของเครนหรือรอก ซึ่งขณะใช้งานจะอยู่กับที่ ส่วน ล้อจะหมุนรอบแกน ดังรูปช้ายมือ แสดงตัวอย่างเพลาของระบบเครนมีภาระ กระทำในแนวดิ่งบริเวณกึ่งกลาง ทำใหภ้ าระทเี่ กิดขึ้นสว่ นใหญเ่ ปน็ ภาระแรงดัดแบบอยู่น่งิ เพลาร่องรับภาระแบบหมุน ลักษณะการติดตั้งดุมล้อจะติดตั้งโดยตรงกับเพลารับภาระ โดยที่ขณะใช้งานเพลา จะหมุนเคลื่อนที่ไปด้วย ภาระทั้งหมดจึงส่งถ่ายมาที่เพลาซึ่งมีข้อเสีย คือ เมื่อเพลาหมุนอยู่นั้นจะเกิดภาระแรง ดดั สลับไปสลบั มาตลอดเวลา การตรวจศูนย์แกนล้อจักรยานยนต์ แกนลอ้ จักรยานยนตเ์ ปน็ เพลาแบบอยู่กับที่ แม้คดเพยี งเล็กน้อย จะมีผลต่อ การเสียศูนย์ของล้อและอายุการใช้งานของตลับลูกปืนดังนั้น หากมีการถอดเปลี่ยนตลับลูกปืนควรตรวจศูนย์ เพลาหรอื แกนลอ้ ทุกคร้ัง 2.1.2 คณุ ลกั ษณะเพลาสง่ กำลงั (Shaft) เพลาสง่ กำลงั (Shaft) เพลาส่งกำลัง เปน็ ชนิ้ สว่ นเคร่ืองกลท่สี ำคัญในการส่งถ่ายกำลังหมนุ ทีต่ ้องต้านแรงบิดเช่น เพลาขับล้อรถและเพลามอเตอร์ สว่ นใหญ่มพี น้ื ที่หนา้ ตัดเปีนวงหลมหมนุ รอบตวั เอง ทำหน้าที่สง่ ผา่ นโมเมนต์บิด และโมเมนต์ตัด ทำด้วยเหล็ก St 44, St 50 และ St 60 เพลาส่งกำลังจำแนกเป็นเพลาตัน เพลากลวง เพลา เรียวฟนั แหลม เพลามรี ่องฟนั เปน็ ตน้ เพลาตัน ใช้งานโดยทั่วไปลักษณะเป็นเพลาเกลี้ยง ไม่มีบ่าใด ๆ อาจมีลักษณะกลงึ ขึ้นรปู เป็นขั้นหรือเป็นบ่าเพอื่ ติดต้งั อปุ กรณ์สง่ ถ่ายกำลังเช่น รอกสายพาน ล้อเฟอื ง เปน็ ตน้ เพลากลวง ออกแบบใช้งานเพื่อลดน้ำหนักเพลา ซึ่งจะเบากว่าเพลาตันละประมาณ25% ใช้ทำเป็นเพลาของ เคร่อื งมือกลทัว่ ไป เช่น เพลาเคร่อื งกลงึ เคร่ืองกัด และเพลาเครื่องเจาะ

22 ใบความรูห้ นว่ ยที่ 2 ช่อื วิชา ชน้ิ สว่ นเคร่อื งกล ช่ัวโมงรวม 36 ชม. ชอ่ื หน่วย เพลาและกันร่ัว สอนครั้งท่ี 2 ช่ือเรอื่ ง เพลาและกนั ร่ัว จำนวน 2 ชัว่ โมง เพลาเรียวฟันแหลมมีฟันละเอียดกว่าเพลามีร่องฟัน จึงมีความแข็งแรงกว่า แรงกดที่ผิวฟันน้อย เพราะจำนวน ฟันมาก พื้นท่รี บั แรงมากขนาดเพลามี 8- 125 มม. จำนวนฟัน 28-81 ฟันเหมาะสำหรับงานสวมตดิ แนน่ เชน่ สวมดมุ เฟืองหรือคันส่งพวงมาลยั รถยนต์ เพราะเลอื กตำแหน่งมุมได้ละเอียด เพลามีร่องฟัน (Spline) เพลามีร่องฟันหรือเรียกทับศัพท์ว่า เพลาสปลายน์ เป็นชุดประสมเพลากับร่องฟัน คือ เพลาเป็นร่องลิ่มหลาย ๆ ร่องตามขอบรอบเพลาเพื่อให้ดุมเฟือง ซึ่งเป็นดุมร่องฟันที่สัมพันธ์เป็นชุดเดียวกัน เคลื่อนที่ไปกับร่องฟัน เพลา เพื่อเปลี่ยนเกียร์ได้ตามต้องการ ร่องฟัน เพลากระปุกเกียร์เครื่องจักรกลหรือ กระปกุ เกยี ร์รถยนต์มฟี นั สปลายน์ 6-8-10-16 และ 20 ฟนั ทั้งนี้ ขนึ้ อยกู่ ับขนาดเพลานัน้ รอ่ งฟนั หยาบและละเอยี ด ร่องฟนั หยาบ หรอื เรียกว่า ฟันอินโวลูท (Involute ) จำนวนฟันกำหนดเป็นมาตรฐาน ขนาดเพลา ซึ่งใช้เพลาตั้งแต่เส้นผ่านศูนย์กลาง 15 มม. ถึง 100 มม. ด้วยจำนวนฟัน 8 ถึง 44 ฟันสำหรับ เพลาร่องฟันละเอียดออกแบบสำหรับงานส่งกำลังที่ต้องการจำนวนฟันเฟืองมาก เช่น กรณีส่งถ่ายกำลังที่ ต้องการ กำหนดตำแหน่งโดยละเอียด และมีระยะคลอนน้อยมาก สำหรับเพลาขนาด 8 ถึง 125 มม. จำนวน ฟัน 28 ถงึ 81 ฟนั เปรียบเทียบการส่งถ่ายกำลังระหว่างลิ่มกับเพลามีร่องฟัน ลิ่มส่งถ่ายกำลังจากเพลาสู่ลิ่ม จากนั้นลิ่มจึงส่ง ถ่ายทอดสู่ดุมล้ออีกทอดหนึ่ง แรงและความเค้นจะสะสมบริเวณรอยต่อมากเพลามีร่องฟัน ส่งถ่ายกำลังออก โดยรอบตามจำนวนชีฟ่ นั ส่งกำลังได้นมุ่ นวลและมคี วามแขง็ แรงสูง 2.2 รูปร่างและคุณสมบัตเิ พลาส่งกำลัง 2.2.1 วัสดุเพลาและขนาดเพลา การออกแบบเพลาต้องให้ขนาดไม่ใหญ่โต ไมเ่ กดิ การแตกหักจากการล้าตัว มีรปู ทรงถอดประกอบงา่ ย และราคา ไม่แพง ดงั นั้นเพลาควรมรี ปู ร่างและคุณสมบัตดิ ังนี้ วสั ดุเพลา เพลาสำหรับการรับภาระปกติ ควรใช้เหล็กสร้างทั่วไป เช่น St 34 หรือ St 44ส่วนเพลาที่รับภาระสูง เช่น เพลาสำหรับงานสร้างยานยนต์ เครื่องยนต์ เครื่องมือกลหนักใช้เหล็กสำหรับชุบแข็ง เช่น 25 CrMo 4 หรือ 40Mn 4 เป็นต้น สำหรับการรับภาระที่ต้องคงทนต่อการเสียดสีควรใชเ้ หล็กสำหรับชุบผิวแข็ง เช่น C15 หรือ 18 CrNi 8 เป็นตน้ การเลือกวัสดเุ พลาไม่ควรเลอื กวัสดุทมี่ ีคุณภาพดีกวา่ ที่จำเป็น เพราะอาจไม่ประหยัดถ้าใชค้ ุณภาพดี นอกจากใน กรณที ี่มีการจำกัดเนอ้ื ท่แี ละน้ำหนัก และจำเป็นตอ้ งรับภาระสงู ซ่งึ บงั คบั ให้ตอ้ งมีขนาดเล็ก เช่น ชุดเฟืองทดรอบ ในกระปุกเกียร์รถยนต์ เป็นต้น

23 ใบความรู้หนว่ ยท่ี 2 ชื่อวิชา ช้นิ ส่วนเครอ่ื งกล ชว่ั โมงรวม 36 ชม. ชือ่ หน่วย เพลาและกันรั่ว สอนครั้งท่ี 2 ช่อื เรอ่ื ง เพลาและกนั รัว่ จำนวน 2 ชวั่ โมง กำหนดขนาดของเพลา ขนาดของเพลากำหนดให้เป็นมาตรฐานสากลได้กำหนดขนาดระบุของเพลาตั้งแต่ 6-10 มม. เพิ่มขึ้นทีละ 1 มม. เพิ่มขึ้นทีละ 2 มม. จนถึง 20 มม. เพิ่มขึ้นทีละ 5 มม. จนถึง 100 มม. และเพิ่มขึ้นทีละ 10 มม. จนถึง 200 มม.หลังจากนนั้ เพม่ิ ขึ้นทีละ 20 มม. จนถงึ 380 มม. 2.2.2 ลดบ่าเพลา การลดบ่าเพลาด้านในหรือด้านนอกของเพลา ทำไว้เพื่อป้องกันเพลาหัก โดยทำเป็นบ่าเว้าลงจากมุมช่วงลด ขนาดเพลาไม่ให้เปน็ มมุ แหลมคม แนวทางการกำหนดรูปรา่ งเพลา หน้าที่ของวิศวกรออกแบบเพลาคือออกแบบให้ชิ้นส่วนมีขนาดเล็ก ไม่เกิดการแตกหักจากการล้าตัว มีรูปทรง ง่าย ๆ รวมทั้งประหยัดค่าใช้จ่ายในการผลิตด้วย การออกแบบเพลาเพื่อให้ได้ตามแนวทางดังกล่าวควรปฏิบัติ ดงั ตอ่ ไปน้ี ควรใหร้ ะยะหา่ งระหว่างจุดรองรบั น้อยที่สดุ เท่าทจี่ ะทำได้ เพ่ือใหเ้ กิดโมเมนตด์ ัดน้อยรวมทัง้ ประหยัดราคาวัสดุ ด้วยการลดบ่าของเพลา ควรให้อตั ราสว่ นของขนาดเสน้ ผ่านศูนยก์ ลางของเพลาทง้ั 2 ส่วน D /d ไม่เกินกวา่ 1.4 ชว่ งลดบ่าควรทำเปน็ รัศมีโค้ง โดยใช้รัศมรี อ่ งลม่ิ ไมค่ วรวางใหช้ ิดเข้าไปใกลบั ริเวณลดบา่ ท้งั นี้เพื่อหลีกเล่ียง ผลของรอยเจาะที่เพิ่มขึ้นการป้องกนั การเลื่อนไปในแนวแกนของชิน้ ส่วนท่ีอยู่กลางเพลา ไม่ควรใช้แหวนล็อกท่ี ต้องกลึงตกร่องที่เพลา ควรใช้ปลอกอัดหรือแหวนบังคับช่วยในการบังคับการรองรับเพลาควรวางให้ตำแหน่ง ของจดุ รองรบั อยู่ใกล้กับล้อสายพานท่ีอยบู่ นเพลาเพื่อหลกี เล่ียงการโก่งของเพลาท่ีเกดิ จากน้ำหนกั ของล้อ 2.2.3 คุณสมบตั ขิ องเพลา 2.2.3.1 ความแขง็ แรงของเพลา เพลามีหน้าที่ส่งถ่ายกำลัง ต้องรับแรงบิด และแรงดัดพร้อมกัน เช่น เพลาปั๊มน้ำ เพลาบางอย่างรับแรงดึงและ แรงอัดด้วย เช่น เพลาขับเรือ นอกจากนี้ยังจะต้องพิจารณารกระแทก หรืออิทธิพลของการรวมจุดความเค้น (stress concentration) เนื่องมาจากขนาดเพื่อทำบ่า หรือเมื่อมีการเซาะร่องลิ่มดังนั้น เพลาที่จะใช้ต้อง แข็งแรงพอทีจ่ ะรับภาระดงั กลา่ วทั้งหมดได้ นอกจากจะตอ้ งแขง็ แรงพอแล้วในขณะทใ่ี ช้งานเพลาอาจจะโก่งหรือ บิดเบี้ยวมาก อันอาจจะทำให้ผลิตผลที่ผลิตโดยเคร่ืองจักรนั้น 1 ผิดพลาดไป การขบกันของฟันเฟืองไม่สนิท เกิดเสียงดงั และสั่นสะเทือน

24 ใบความรหู้ น่วยที่ 2 ช่อื วิชา ช้ินสว่ นเคร่ืองกล ช่ัวโมงรวม 36 ชม. ชอื่ หน่วย เพลาและกันรั่ว สอนครัง้ ที่ 2 ชื่อเรอื่ ง เพลาและกนั รวั่ จำนวน 2 ชวั่ โมง 2.2.3.2 ความเร็ววกิ ฤติ ถ้าความเร็วของเพลาเพิ่มขึ้นมาก ๆ จะพบว่าที่ความเร็วหนึ่ง เพลามีความสั่นสะเทือนมากขึ้นอย่างผิดปกติใน ทันทีทันใด ความเร็วที่เกิดการสั่นสะเทือนมากนี้เรียกว่า \"ความเร็ววิกฤติ\" อาการเช่นนี้มักเกิดกับกังหันที่หมุน ดว้ ยความเรว็ สูง เคร่อื งยนต์ มอเตอรไ์ ฟฟา้ เปน็ ต้นหากทง้ิ ไว้ที่ความเร็วนเี้ ป็นเวลานาน เพลาอาจเสยี หาย ดังนั้น สำหรับชิ้นสว่ นที่หมุนด้วยความเร็วสูง จึงตอ้ งระมดั ระวงั ให้ความเรว็ ใชง้ านต่ำกว่าความเรว็ วกิ ฤติเสมอ 2.2.3.3 การกัดกร่อน เพลาของเครอื่ งจกั รกลบางชนิด เช่นเพลาขบั ของเรือ เพลากวา้ นนอกอาคาร เพลาของป๊ัมที่สัมผสั กับของเหลวท่ี มีการกัดกร่อน หรือเพลาของเครื่องจักรที่มีช่วงที่หยุดใช้เป็นเวลานาน จะต้องเลือกทำด้วยวัสดุที่มีคุณสมบัติ ต่อต้านกับการกัดกร่อนได้ดี (รวมทั้งพลาสติกด้วย) การเลือกวัสดุที่ถูกต้องและเหมาะสมจะช่วยยืดอายุการใช้ งานของเครื่องจกั ร และลดเวลาท่ตี ้องหยุดซ่อมแชมก่อนถงึ เวลาอันสมควร 2.3 กันรัว่ แบบสมั ผสั เพลาและแบบไมส่ ัมผสั เพลา การใช้กันรั่วแบบวงแหวน (Seal) กันรั่วแบบวงแหวนหรือเรียกว่า \"ชีล\" เปลือกเป็นเหล็ก ตัวชีลเป็นยาง มีปาก สัมผัสกับเพลา ภายในมีสปริงรดั ปากกนั รวั่ ให้สัมผสั กับเพลา จึงเรยี กวา่ แบบสมั ผสั กับเพลา ความสามารถข้ึนกับ ความยดื หยนุ่ แรงกดปากกนั รั่ว คุณภาพผิวเพลาทส่ี ัมผสั และความเรว็ ขอบที่สัมผัส 2.4 เทคนคิ การถอดประกอบซลี 2.4.1 เทคนคิ การถอดกันรว่ั และการใช้ปะเกน็ เหลวประกอบกันร่ัว การถอดซีลออกจากเสื้อเพลา A - ถอดด้วยเหล็กดูดกระแทกสอดขาเหล็กดูดเข้าในเปลือกชีลปรับขาเหล็กดูดขยายออกเต็มเปลือกซีลก ระแทกปลอกเลือ่ นดา้ มเหล็กดูดให้ชลี หลุด B - ตอกซลี ออกดว้ ยเหล็กตอกซีล C – งดั ชลี ออกดว้ ยไขควง การใสป่ ะเกน็ เหลวกันร่วั ที่เปลือกซลี A - ถา้ จำเป็นตอ้ งทาปะเกน็ เหลวเพอ่ื ประกอบซีล ให้ทาบาง ๆ B - ทาปะเก็นเหลวหนา เมื่ออัดชีลเข้าที่ปะเก็นเหลวล้น อาจเลยไปเกาะปากชีลทำให้สกปรก น้ำมันรั่วได้ หรือ อดุ ตนั รูน้ำมนั เครื่อง

25 ใบความร้หู นว่ ยที่ 2 ช่อื วิชา ชนิ้ สว่ นเคร่ืองกล ช่วั โมงรวม 36 ชม. ชือ่ หน่วย เพลาและกันรวั่ สอนครัง้ ท่ี 2 ช่อื เรอื่ ง เพลาและกนั รั่ว จำนวน 2 ช่ัวโมง ข้อควรจำ A - ประกอบชลี กลับด้าน ปากชีลอย่ลู กึ ครีบกลับดา้ น มนี ำ้ มนั เครือ่ งสะสมอยู่ท่ีเพลาในตัวชลี นำ้ มนั เคร่ือง จาก 1 ไหลรวั่ ออกสู่ภายนอกได้ B - ประกอบชีลถกู ต้อง ปากชีลอยไู่ ม่ลึกไม่มีนำ้ มันเครื่องสะสมในตัวชีล ครีบปากชีลตา้ นไม่ให้น้ำมันเคร่ืองจาก 2เขา้ ส่ภู ายใน 2.4.2 เทคนคิ การประกอบซีลเข้าหัวเพลาทีร่ าบเรียบและไมร่ าบเรียบ ขอ้ ควรจำ ทำความสะอาดรเู สื้อเพลาและตรวจรอยสกึ หรอของเพลา ถา้ สกี หรอมากต้องแกไ้ ข ประกอบซลี เขา้ หัวเพลาที่ราบเรยี บ - ทอ่ ตอกชีลควรเลก็ กวา่ ขอบนอกเปลือกชลี 0.5 มม. - ทำความสะอาดหวั เพลา แล้วหลอ่ ลื่นหัวเพลาและปากชีลดว้ ยนำ้ มันเครื่องหรอื จาระบี - ดันชลี เข้าหวั เพลาทล่ี บเหล่ียม แล้วตอกชลี เขา้ ดว้ ยท่อตอกชีลและคอ้ น ประกอบซีลเข้ากบั หัวเพลาท่ีไม่ราบเรียบ - สวมปลอกประกอบชีลเข้ากับหวั เพลา - ดนั ชลี เขา้ หวั ปลอกประกอบชลี - ตอกชีลเข้าด้วยท่อตอกชลี และคอ้ น ขอ้ ควรจำ A - อยา่ ตอกชลี เข้าท่ี A เพราะเปลอื กซลี จะบิดเบย้ี ว ทำให้ปากชลี เบย้ี ว กนั นำ้ มนั รั่วไม่ได้ B - ใหต้ อกชลี เขา้ ท่ี B เสมอ การประกอบซีลเขา้ กบั ฝาป๊ัมน้ำมันเคร่อื ง - ทาน้ำมันเครื่องที่ปากชลี และเปลือกชีล - ตอกเข้าดว้ ยเหลก็ ตอกชลี เข้าที่มขี นาดพอดกี ับขอบนอกเปลอื กชีล

แบบฝกึ ทักษะหน่วยท่ี 2ชื่อวิชา ช้ินส่วนเคร่อื งกล 26 ชัว่ โมงรวม 36 ชม. สอนครง้ั ท่ี 2 ชื่อหน่วย เพลาและกันรัว่ จำนวน 2 ชว่ั โมง ชอ่ื เรอื่ ง เพลาและกันรัว่ หนว่ ยที่ 2 เพลาและกนั รวั่ แบบฝกึ หัดหน่วยท่ี 2 แบบทดสอบหนว่ ยที่ 2

27 แผนการเรยี นรู้ท่ี 2 สือ่ การสอน 2 เร่ือง เพลาและกนั ลน่ื

28

29

30


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook