อารยธรรมโรมัน

Time line ราว 750 ประมาณ 600 ปี 509 ก่อน ค.ศ 450 กอ่ น ค.ศ. ปีก่อน ค.ศ. กอ่ น ค.ศ. ต้งั นครรฐั แหง่ โรม ข้ึนทเ่ี รียกวา่ อที รู เรยี เป็นทีอ่ ยขู่ อง ชาวอีทรสั กนั 510 ปีกอ่ นค.ศ 27 ปีก่อนค.ศ ศตวรรษท5ี่ ปี ค.ศ. 313 ปี ค.ศ. 330 ปี ค.ศ.476- ปีค.ศ. 401-500 -ค.ศ. 395 1453 จักรพรรดคิ อน จักรพรรดิ การแบง่ จักรวรรดโิ รมนั สแตนตนิ หนั มา กรงุ คอนส เป็นการส้ินสุด พระองคแ์ รกของ ตะวนั ตก-ตะวันออก นบั ถอื ศาสนา แตนตโิ นเปิล อาณาจกั รโรมนั จกั รวรรดิโรมัน ครสิ ต์ จักพรรดิ ออกัสตสั ชีซาร์

แหล่งท่ตี ั้ง อารยธรรมโรมัน 27 ปี ก่อนครสิ ตกาล : คาบสมุทรอิตาลี รมิ ฝ่ ังทะเลมดเิ ตอเรเนียน เปน็ อาณาจกั รใหญ่สุดในยโุ รปโบราณ

การเมืองการปกครองแรกเร่ิม ประมาณ 600 ปี กอ่ น ค.ศ. ชาวอีทรสั กนั แรกเรมิ่ อารยธรรมดงั้ เดมิ ก่อนทชี่ าวโรมนั จะยง่ิ ใหญ่คือ สมยั การปกครองโดยกษัตรยิ พ์ วกอที รสั กัน

การเมืองการปกครองสมยั สาธารณรฐั 450 กอ่ น ค.ศ. สภา Senate กฎหมาย 12 โต๊ะ ตอ่ มาเปน็ การปกครองแบบสารารณรฐั ทม่ี ีสภาซีเนตซึง่ เปน็ ชน ชัน้ สูงและเป็นพวกอภสิ ทิ ธชิ์ นเลอื กกงสุลขึ้นมาทาหน้าท่ปี ระมขุ แทน กษตั ริย์ ในสมัยน้เี กดิ ประมวลกฎหมายโรมนั หรือ \"กฎหมาย 12 โต๊ะ\"

การเมืองการปกครองสมัยจกั รวรรดิ 510 ปีกอ่ นค.ศ จูเลียส ชซี าร์ ผนู้ าทางทหารของโรมนั ผู้มีบทบาทสาคัญในเหตุการณ์นาไปสู่การสิ้นสุดสารารณรัฐไปถึงความเจริญ ของจักรวรรดิโรมันโดย จูเลียส ชีซาร์ได้ตั้งตนเป็น \"ผู้เผด็จการตลอดชีพ\" ซึ่ง ขัดกับกฎหมายท่ีตาแหน่งน้ีอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือนต่อมาจูเลียส ชีซาร์ ถูกลอบ สงั หาร โดยการวางแผนของสภาซีเนต

พฒั นาการของจักรวรรดิโรมัน และ การปกครอง 27 ปีก่อนคริสตศ์ กั ราช ข้นึ มาครองอานาจต่อจูเลยี ส ชซี าร์ (บุตรบญุ ธรรจมกั แพละรทรดายิ าอทอทกาัสงตกัสารเชมซี อื างรข์ อง จูเลียส ชีซาร์) ออกสั ตัส ชชี าร์ ไดก้ าการรวบรวมอานาจและสถาปนาตัวเองเปน็ จกั รพรรดิพระองค์แรกทาให้โรมนั กลายเปน็ ระบอบจกั รวรรดิ เศรษฐกจิ และสงั คมร่งุ เรือ่ งมาก เป็นยุคสนั ตภิ าพโรมนั \"Pax Roman\"

การแบ่งจกั รวรรดโิ รมันตะวนั ตก-ตะวันออก ค.ศ. 401-500 จักรวรรดโิ รมันตะวนั ตก จักรวรรดิโรมนั ตะวนั ออก (ต่อมาเป็นจกั รวรรดิไบเซนไทน)์ เม่อื ถงึ รชั สมัยของจกั รพรรดไิ ดโอคลเี ซียน ทรงเห็นว่าจักรวรรดิ โรมันกว้างใหญ่และมีปัญหายุ่งยากในการปกครอง จึงทรงแบ่ง จักรวรรดิโรมันออกเป็น 2 ส่วน คือจักรวรรดิตะวันตก และ ตะวันออก

จักรพรรดคิ อนสแตนติน ศาสนาครสิ ต์ และ จกั รวรรดิไบเซนไทน์ ศาสนาครสิ ต์ กรุงคอนสแตนติโนเปิล (จกั วรรดไิ บเ ซนไบทน์ต่อมา) จกั พรรดิ คอนสแตนติน ในรัชสมยั ของจกั รพรรดคิ อนสแตนตนิ พระองค์ทรงหันมานับถือ ศาสนาคริสต์ และประกาศให้เปน็ ศาสนาประจาจกั รวรรดิ พร้อมทัง้ สถาปนากรุงคอนแสตนตโิ นเปลิ (ตรุ กี)เป็นเมอื งหลวงของจกั วรรดิ โรมนั ตะวนั ออก

การส้นิ สดุ ประวัตศิ าสตร์สมัยโบราณ หลังจากท่โี รมนั แบ่งออกเป็นโรมนั ตะวนั ออก และโรมันตะวนั ตก ชนเผา่ ในยโุ รป ไดเ้ ขา้ โจมตี โรมนั ตะวนั ตก ในปี ค.ศ.476 เป็นการสน้ิ สุดโรมันตะวนั ตก และประวตั ศิ าสตรส์ มยั โบราณ แต่โรมันตะวนั ออกยังคงอยู่ตอ่ ไปในสมยั กลาง เป็นทรี่ จู้ กั ในนาม “จกั รวรรดิไบเซนไทน์” มเี มอื งหลวงชอื่ “คอนสแตนตโิ นเปลิ ” โรมันตะวนั ตก โรมนั ตะวนั ออก

อารยธรรมโรมนั ที่สาคญั

ดา้ นการปกครอง: ปกครองแบบจกั วรรดิ รว่ มอานาจไวท้ ีซ่ ซี าร์ (กษตั รยิ )์ ภายหลังการขับไล่ กษัตริย์โรมองค์ สดุ ท้ายออกไป จึงมกี ารสถาปนา \"กฎหมายหมาย 12 โตะ๊ \" ซ่ึงเปน็ แม่แบบกฎหมายของโลกตะวนั ตกปัจจุบัน และมีการปกครองแบบ สาธารณรัฐเป็นทีแ่ รก กฎหมาย 12 โต๊ะ จเู ลยี ส ซีซาร์

2 การแพทย์ :ริเริม่ การทาคลอดหน้าทอ้ ง และการใชย้ าสลบกอ่ นผ่าตดั ภาพการทาคลอดสมยั โรมนั สถาปัตยกรรม : เนน้ ความใหญโ่ ต แขง็ แรง ดัดแปลงสถาปตั ยกรรมจกกรีก เช่น ใชป้ ระตูโคง้ , ใช้หลงั คาโดม แทนจว่ั สถานทีส่ าคัญ เชน่ โคลอส เซียม , วหิ ารแพนธอี อน, ท่ีอาบนา้ สาธารณะ ประตูชัยคอนสแตนตนิ

โคลอสเซียม วหิ ารแพนธอี อน ท่ีอาบน้าสาธารณะ

ประติมากรรม วศิ วกรม : ตดั แปลงมาจากรีก เนน้ ความสมจริง เชน่ สรา้ งถนนคอนกรีต และสะพานส่งนา้ เพื่อขนส่งนา้ วนั ละ ภาพแกะสลกั ครึ่งท่อนบน และภาพสลกั นูนตา่ 300 ล้านแกลลอนจากภเู ขาไปยังเมอื ง ถนนคอนกรีต ภาพสลกั คร่ึงตวั ของ สะพานสง่ นา้ “จักรพรรดเิ ฮเดรยี น”

สงคราม : สงครามพิวนกิ (โรมนั รบกับคารเ์ ธจ) โรมันรบชนะ คาร์เธจ ไดค้ รองดินแดนอติ าลี และทะเลมดเิ ตอรเ์ รเนยี น โรมัน ประเทศตูนีเซียในปัจจบุ นั รบชนะ 7 ภาษา ฮันนิบาล (Hannibal) แมท่ พั ชาวคารเ์ ธจ แม่ทัพผูใ้ หส้ ัตย์ตอ่ บดิ าของเขาวา่ จะเกลียดชังโรมนั ตลอดไป เป็นผวู้ างแผนหน่ึงในการโจมตีท่เี ป็นตานานใน ประวตั ศิ าสตร์การทหารต่อกองทพั โรมันอันทรงพลัง โรมนั พัฒนา \"ภาษาละตนิ \" จากภาษากรกี มี 23 พยัญชนะ เปน็ รากของภาษาในยุโรป เช่น องั กฤษ ฝรงั่ เศส สเปน ภาษาละตินถกู นาไปใช้ เปน็ ชื่อทางวิทยาศาสตรเ์ ช่นเดยี วกบั ภาษากรีก ภาษาละตนิ