Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงงานการเปรียบเทียบประสิทธิภาพ ของภาชนะประเภทชามที่ประดิษฐ์จากใบสักและใบตอง

โครงงานการเปรียบเทียบประสิทธิภาพ ของภาชนะประเภทชามที่ประดิษฐ์จากใบสักและใบตอง

Published by thippapasaeten, 2021-09-27 10:22:13

Description: โครงงานการเปรียบเทียบประสิทธิภาพ
ของภาชนะประเภทชามที่ประดิษฐ์จากใบสักและใบตอง

Search

Read the Text Version

โครงงานการเปรยี บเทียบประสิทธิภาพ ของภาชนะประเภทชามทป่ี ระดษิ ฐ์จากใบสกั และใบตอง รายวิชา IS-1 (I30201) คณะผจู้ ดั ทำ 1.นางสาวจันทมณี กิตตยิ ังกุล เลขท่ี5 เลขที่6 2.นางสาวพิชญ์ชญามล ตนั กรุ ะ เลขที่8 เลขท่ี12 3.นายนธิ ิกร กิตตยิ งั กลุ เลขท่ี39 4.นางสาวพสั พร ชราชิต 5.นางสาวทพิ ปภา แซเ่ ตน็ ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี5/2 ครูทีป่ รึกษา นายดำรงค์ คันธะเรศย์ โรงเรยี นปวั อำเภอปัว จงั หวัดนา่ น สังกัดเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษามัธยมศกึ ษานา่ น เขต37

1 ชอ่ื โครงงาน : การเปรยี บเทียบประสิทธิภาพของภาชนะประเภทชามทป่ี ระดิษฐจ์ ากใบสักและใบตอง ผ้จู ัดทำโครงงาน : 1. นางสาวจันทมณี กิตติยังกุล เลขท่ี5 2. นางสาวพชิ ญ์ชญามล ตนั กุระ เลขที่6 3. นายนธิ ิกร กติ ตยิ งั กลุ เลขท่ี8 4. นางสาวพัสพร ชราชติ เลขที่12 5. นางสาวทพิ ปภา แซเ่ ตน็ เลขท่ี39 ครทู ปี่ รึกษา : นายดำรงค์ คันธะเรศย์ ระดบั ชน้ั : มธั ยมศกึ ษาปที ่ี5 ปกี ารศึกษา : 2564 บทคดั ยอ่ การทำโครงงานการเปรียบเทียบประสิทธิภาพของภาชนะประเภทชามทป่ี ระดษิ ฐจ์ ากใบสักและ ใบตองคร้ังน้ี มีวตั ถุประสงค์เพือ่ เปรยี บเทียบคุณภาพของชามจากวสั ดธุ รรมชาติซ่งึ คือใบตองและใบสกั โดย สามารถนำผลการศึกษาเกี่ยวกับประสิทธภิ าพของภาชนะประเภทชามทีป่ ระดิษฐ์จากใบไมแ้ ตล่ ะชนดิ มาปรับ ใชใ้ นการเลอื กใช้ภาชนะจากวัสดุธรรมชาติได้ เพ่ือลดการใช้ภาชนะจากพลาสติกและโฟม โดยคณะผจู้ ัดได้ทำ การประดิษฐ์หรือการทดลอง โดยมีการประเมิน คือ ความสามารถในการอุ้มน้ำของชามจากวัสดุธรรมชาติ พบว่าภาชนะที่ประดิษฐ์จากใบตองไม่มีนำ้ ไหลออกหรือซมึ ผา่ นออกมาได้เลย แตภ่ าชนะทปี่ ระดิษฐ์จากใบสักมี นำ้ ไหลออกหรือซึมผ่านออกมาได้ แต่จากการสงั เกตก่อนทดลองใสน่ ำ้ ดงั นน้ั หากเปรยี บเทียบประสิทธภิ าพ จากการอมุ้ นำ้ ของภาชนะ ภาชนะทป่ี ระดิษฐจ์ ากใบตองจึงมปี ระสิทธภิ าพมากกวา่ ภาชนะทท่ี ำจากใบสัก คณะผ้จู ดั ทำ

2 กิตติกรรมประกาศ โครงงานเรื่อง “การเปรยี บเทียบประสทิ ธิภาพของภาชนะประเภทชามท่ปี ระดิษฐ์จากใบสักและ ใบตอง” นีส้ ำเร็จลุล่วงไดด้ ้วยดี ด้วยความกรุณาจากอาจารยด์ ำรงค์ คันธะเรศย์ อาจารย์ทป่ี รกึ ษาโครงงานท่ีได้ ช่วยใหค้ ำปรึกษา ชี้แนะถึงแนวทางการแก้ไขข้อบกพรอ่ งตา่ งๆจนโครงงานสำเร็จลุล่วงได้ คณะผู้จัดทำจงึ ขอขอบพระคุณอย่างยิง่ ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ทป่ี รึกษา คุณพ่อและคุณแม่ ทใ่ี หค้ ำปรึกษาในเรื่องต่างๆ รวมท้ังเป็น กำลงั ใจใหต้ ลอดการทำโครงงานและสดุ ทา้ ยขอบคุณเพ่อื นๆทชี่ ว่ ยใหค้ วามร่วมมือเปน็ อยา่ งดีตลอดการทำ โครงงาน รวมท้ังผูท้ ่ีได้มสี ่วนสนับสนุนที่ไม่อาจกลา่ วได้ทง้ั หมด ตลอดจนแหล่งเรียนรูต้ ่างๆ ทไ่ี ดน้ ำมาประกอบ คณะผู้จัดทำ

สารบญั 3 บทคดั ย่อ 1 กติ ติกรรมประกาศ 2 บทท่ี 1 บทนำ 4-6 บทที่ 2 เอกสารและงานวจิ ัยท่ีเกี่ยวข้อง 7-11 บทที่ 3 วธิ ดี ำเนนิ การศึกษาค้นควา้ 12-14 บทที่ 4 ผลการดำเนินการโครงงาน 15 บทท5ี่ สรปุ ผล อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ 16 บรรณานุกรม 17 ภาคผนวก 18-20

4 บทท่ี 1 บทนำ ความเปน็ มาและความสำคัญของปญั หา เนื่องจากปจั จบุ ันมกี ารใช้โฟมในการบรรจอุ าหารเปน็ จำนวนมากจงึ ทำให้เกิดปรมิ าณของขยะเพิม่ ขนึ้ ในทุกปแี ละมผี ลเสยี ตอ่ สุขภาพเน่อื งจากกล่องโฟมใส่อาหารท่ีปรุงสกุ ใหม่ ๆ ความรอ้ นจะทำใหส้ ารสไตรีน ท่ี เปน็ สารเคมีทใ่ี ชใ้ นขน้ั ตอนการผลติ อกี ท้งั สารชนดิ น้ียังเป็นสารก่อมะเรง็ ซง่ึ สะสมอยู่ในกล่องโฟมบรรจุอาหาร ละลายตวั ปะปนกบั อาหาร นอกจากนนั้ สารสไตรนี ยงั มีสารที่ทำใหส้ มองเสื่อมและมนึ งง หงดุ หงิดง่าย มีผลทำ ใหป้ ระจำเดือนมาไมป่ กติ และยังเปน็ สารก่อมะเรง็ ข้อมลู จากกรมควบคมุ มลพิษระบุวา่ ในช่วง5ปี ตง้ั แต่ปี 2555-2559 พบว่าปรมิ าณขยะประเภทโฟม เพ่มิ ข้ึนอยา่ งต่อเน่ืองจาก 56 ล้านใบต่อวันเป็น 61 ลา้ นใบต่อวัน เมอื่ มาดูข้อมูลล่าสดุ ในปี 2559 มปี ริมาณ ขยะประเภทโฟมเกิดขึ้น ประมาณ 1.3 ล้านตนั ต่อปี เฉล่ียวนั ละ 3,704ตนั ต่อวนั รวมประมาณ 61 ลา้ นใบต่อ วัน โดยคนไทยสรา้ งขยะประเภทโฟม 1 ใบต่อคนต่อวัน แต่เน่ืองจากโฟมมีความสะดวกและตน้ ทนุ ตำ่ จึงเป็นที่ นิยมมาก ดงั นัน้ จึงเกิดความคิดในการผลติ ถว้ ยจากวัสดุธรรมชาติท่มี ีประสิทธิภาพและต้นทุนต่ำ คณะผูจ้ ดั ทำจึงมีความคิดท่จี ะทำภาชนะทีท่ ำมาจากใบไม้ และนำมาเปรียบเทียบประสทิ ธิภาพ ระหว่างภาชนะทีท่ ำมาจากใบสัก และใบตอง โดยในอดตี ใบตองใช้ห่อส่งิ ของและใสอ่ าหารประเภทตา่ ง และ นยิ มใชก้ ันในสมยั กอ่ นจนปัจจุบันก็ยังพบเหน็ อยู่ โดยถา้ เรานำมาใบตองมาห่อขา้ ว จะทำใหข้ ้าวมกี ลิ่นหอม นา่ รบั ประทานมากยง่ิ ขน้ึ สว่ นใบสักมขี นาดใหญเ่ หมาะแก่การนำมาหอ่ อาหาร ดงั นนั้ โครงงานเรอื่ งถ้วยจากวัสดุธรรมชาติ คณะผจู้ ัดทำจงึ ต้องศึกษาหาแนวทางในการนำวัสดุ ธรรมชาติมาประยกุ ต์ใชใ้ นการประดษิ ฐภ์ าชนะเพ่ือบรรจุอาหารเพอ่ื ลดปัญหาขยะและอันตรายจากโฟมทมี่ ี ผลเสียต่อรา่ งกาย อกี ท้ังยงั ลดปัญหาการยอ่ ยสลายและทำลาย วตั ถปุ ระสงค์ 1) เพ่ือศึกษาการทำภาชนะจากใบไมโ้ ดยในท่นี ้ีคอื ใบตองและใบสัก 2) เพื่อเปรียบเทยี บประสิทธิภาพของภาชนะท่ีทำจากใบตองและใบสัก 3) เพ่ือลดขยะจากการใชภ้ าชนะจากพลาสติกและโฟม 4) เพ่ือลดอนั ตรายตอ่ สขุ ภาพร่างกายจากการใช้ภาชนะจากพลาสติกและโฟม 5) เพื่อนำส่ิงของมาแปรรูปโดยไมใ่ ช้สารเคมีให้เกดิ ผลิตภณั ฑใ์ หม่

5 สมมตุ ิฐาน ใบตองสามารถนำมาทำเป็นภาชนะได้มปี ระสทิ ธภิ าพมากกวา่ ภาชนะทที่ ำจากใบสัก ขอบเขตของการศกึ ษา 4.1 ประชากรท่ใี ช้ในการศึกษา สมาชกิ ภายในกลุ่ม จำนวน 5 คน 4.2 พนื้ ท่ีดำเนนิ การ 187 ม.7 ต.ป่ากลาง อ.ปวั จ.น่าน 4.3 เน้ือหาที่ใชใ้ นการศึกษา เนือ้ หาที่ใช้ในการศึกษาเป็นเนอื้ หาที่เลือกจากเรื่องทีส่ นใจ คอื การเปรยี บเทยี บประสทิ ธภิ าพของ ภาชนะประเภทชามทปี่ ระดษิ ฐ์จากใบสกั และใบตอง ซง่ึ เป็นการผลติ ภาชนะจากใบตองและใบสกั เพื่อ เปรียบเทียบประสิทธภิ าพของภาชนะท่ไี ด้จากการผลิต โดยทดสอบจากปริมาณน้ำท่ภี าชนะสามารถอุ้มนำ้ ไดท้ ่ี อุณหภูมิหอ้ ง 4.4 ระยะเวลา ภาคเรียนที่1 ปีการศกึ ษา2564 4.5 ตวั แปรทใ่ี ช้ในการศกึ ษา ตัวแปรตน้ : ชนดิ ของใบไม้ท่ีนำมาประดิษฐ์ ตัวแปรตาม : ประสทิ ธิภาพในการอมุ้ น้ำ ตัวแปรควบคมุ : ข้นั ตอน วธิ กี าร ปริมาณและชนิดของวัสดุอ่ืนๆทีใ่ ช้ในการประดิษฐภ์ าชนะ ประโยชนท์ ่คี าดว่าจะได้รับ 1) เพ่ือเปน็ แนวทางในการพัฒนาการใช้ภาชนะจากใบไม้ใหม้ ากข้ึน 2) เป็นแนวทางในการเลอื กใช้ใบไม้ทสี่ ามารถประดษิ ฐ์ภาชนะทีม่ ปี ระสิทธิภาพในการใชง้ านได้ 3) ผลการศึกษาท่ีพบ ช่วยส่งเสริมใหเ้ กดิ แนวทางใหมใ่ นการกำจดั ขยะภาชนะประเภทพลาสตกิ และโฟม ซงึ่ สามารถย่อยสลายได้ง่ายและรวดเร็วขนึ้

6 4) เปน็ แนวทางในการลดปญั หาตา่ งๆจากการใชภ้ าชนะโฟมและพลาสตกิ ท่ัวไปได้ 5) เปน็ แนวทางในการลดปัญหาขยะภายในชมุ ชน นิยามศัพท์ 1. ใบไม้ หมายถงึ ส่วนของพืชท่ีติดกับกง่ิ และก้าน รูปทรงแบน ๆ โดยมากมีสีเขยี วและมีหลายชนดิ เชน่ ใบเตย ใบมิ้น ใบกระเพรา ใบบอด แตใ่ นการศึกษาครง้ั น้ี หมายถงึ ใบตองและใบสักเทา่ นั้น 2. วัสดธุ รรมชาติ หมายถึง วัสดุต่างๆที่ได้จากธรรมชาติ เชน่ หิน ดิน ทราย ไม้ เปลือกหอย ขนสัตว์ เสน้ ใยจากพืช ยางธรรมชาติ เป็นตน้ ในทน่ี ้ีหมายถึงใบตองและใบสกั เท่านน้ั นยิ ามศพั ท์เชิงปฏบิ ตั กิ าร ประสิทธิภาพของภาชนะ หมายถงึ ความสามารถในการอุ้มนำ้ อณุ หภูมหิ ้องหรือการกักเกบ็ 1. ประสทิ ธิภาพดเี ยี่ยม หมายถงึ ภาชนะสามารถอุ้มได้ 5 ml 2. ประสิทธิภาพดี หมายถึง ภาชนะสามารถอ้มุ ได้ 10 ml 3. ประสทิ ธิภาพพอใช้ หมายถงึ ภาชนะสามารถอุ้มได้15 ml

7 บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยทเ่ี กยี่ วขอ้ ง การศึกษาในครงั้ นี้ ผศู้ กึ ษาได้ศกึ ษาเอกสารและงานวิจยั ทเี่ ก่ยี วขอ้ ง โดยแบ่งเน้อื หาของเอกสารและ งานวจิ ยั ออกเป็นหัวขอ้ ต่างๆ ดังน้ี 1. ความสำคัญของปัญหาภาชนะชามจากพลาสติกและโฟม ภาชนะที่ใช้สำหรับใสอ่ าหาร นอกจากจาน ชาม ยังมีโฟม (Foam) ซ่งึ เป็นภาชนะที่ผูจ้ ำหนา่ ย สว่ นมากนิยมนำมาใช้เปน็ ภาชนะบรรจุหรือหีบหอ่ อาหาร ท้ังอาหารสด ผักสด อาหารพร้อมปรุง และอาหาร ปรงุ สำเรจ็ ดว้ ยเหตผุ ลที่ว่าซอื้ หาไดง้ ่าย สะดวกในการเปิดรับประทานไดเ้ ลย แต่รหู้ รอื ไม่ว่าโฟมทีน่ ำมาบรรจุ อาหารเหล่านน้ั หากเจอความรอ้ นจัดจะหลอมละลายจนอาจเกดิ สารก่อมะเร็ง \"สไตรีน\" ออกมาปนเปื้อนใน อาหาร เปน็ อันตรายต่อสขุ ภาพและรา่ งกายอยา่ งไม่อาจหลกี เลยี่ งไดเ้ ลย การใชโ้ ฟมเปน็ ภาชนะบรรจอุ าหาร สำเร็จรูปในปจั จบุ ัน ส่วนใหญ่ผู้จำหนา่ ยมกั จะใสอ่ าหารที่มีความร้อนและไขมนั ซ่งึ อาจส่งผลใหส้ ารเคมีจากโฟ มออกมาปนเปอ้ื นกับอาหารได้ โดยเฉพาะอาหารประเภทกึ่งสำเร็จรูปทต่ี ้องนำเขา้ ไมโครเวฟ เพ่อื ทำการอุ่นให้ ความรอ้ นแก่อาหารก่อนนำมารับประทาน จึงมีความเส่ียงที่อาจสง่ ผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บรโิ ภคที่จะได้รบั สารเคมีที่เปน็ สว่ นประกอบของโฟมเขา้ สูร่ า่ งกาย และหากสะสมในปริมาณมาก อาจกอ่ ใหเ้ กดิ อันตรายต่อ สุขภาพได้ เน่ืองจากการใช้โฟมพลาสติกมาบรรจุอาหารบางชนดิ นั้นอาจจะทำให้เกดิ ปฏิกิริยาปลดปลอ่ ย สารสไตรีน (Styrene) ซึ่งเปน็ สารทีอ่ าจก่อให้เกดิ มะเร็งในมนษุ ย์และสัตว์ พลาสตกิ ทผี่ ลิตกนั ทุกวนั นี้ แบง่ ออกได้ 7 ชนดิ ดว้ ยกนั แต่ละชนดิ จะระบุเป็นตัวเลข 1-7 ภายใน เครอ่ื งหมายลูกศรสามเหล่ยี มให้คนสามารถดูได้ เชน่ หากเป็นขวดหรือน้ำดม่ื ก็จะอยูด่ า้ นล่างสุดของขวด ชนิดที่ 1 เปน็ พอี ีทอี ี (PETE) ชอ่ื เต็ม คือ polyethylene terephthalate ethylene เป็นพลาสติกใสใชบ้ รรจุ นำ้ ด่มื นำ้ อดั ลม เคร่อื งดืม่ นำ้ ผลไม้ นำ้ ยาซกั ผ้า น้ำยาทำความสะอาด และ อาหารบางชนดิ ชนดิ ท่ี 2 เป็น เอชดีพีอี (HDPE) ชอ่ื เต็มคือ high density polyethylene เป็นพลาสติกสที ึบ ใชบ้ รรจนุ มสด น้ำด่มื น้ำยาฟอกขาว นำ้ ยาซักผา้ แชมพู ขวดยา และถุงพลาสติก ชนดิ ท่ี 3 เป็นพีวีซี (PVC) เปน็ ชือ่ ยอ่ ของ polyvinyl chloride ใช้เป็นพลาสตกิ สำหรับห่อห้มุ เชือกพลาสติก เป็นขวดบรรจุชนดิ บบี มักจะใช้บรรจุน้ำมันพืช นำ้ มันซกั ผ้า น้ำยาเช็ดกระจก ทใ่ี ชก้ นั มากคือ ถงุ หิ้วที่ใชใ้ ส่ของ กนั ตามรา้ นค้า ซปุ เปอร์มาเก็ต ร้านสะดวกซื้อ ชนิดที่ 4 เปน็ แอลดีพีอี (LDPE) ชือ่ เตม็ เป็น low density polyethylene ใชเ้ ปน็ ถงุ ห้วิ ใชห้ อ่ หมุ้ ขวด พลาสตกิ บางชนิด และทีใ่ ชก้ ันมากทสี่ ดุ ก็คือ ถงุ เย็นใส่อาหาร ขนม กาแฟเยน็ ชาเย็น

8 ชนิดที่ 5 เปน็ พีพี (PP) ชอื่ เต็มคือ polypropylene ใชเ้ ปน็ ยางลบ ใช้ บรรจภุ าชนะไซรัป โยเกริ ์ต หลอดดูด ขวดนมเด็ก ถุงรอ้ นใช้สำหรับบรรจอุ าหารรอ้ น เชน่ กว๋ ยเตี๋ยว กาแฟรอ้ น เป็นถ้วยกาแฟ ชา ชนดิ ใช้แลว้ ทง้ิ ชนดิ ที่ 6 เปน็ พอลีสไตรีน (polystyrene) เปน็ พลาสติกท่ใี ชเ้ รียกท่วั ไปวา่ โฟม ใชบ้ รรจุรองรับการกระแทกพวก อุปกรณ์ ต้เู ย็น วิทยุ วิทยุ โทรทัศน์ฯลฯ ในกล่องกระดาษอีกที ใชท้ ำกล่องสำหรับบรรจอุ าหารทีเ่ รยี กวา่ ขา้ ว กล่อง ที่ใส่ไข่ ถ้วยที่ใชแ้ ลว้ ท้งิ ช้อน สอ้ ม มดี พลาสติกทใ่ี ชแ้ ลว้ ท้ิง ชนดิ ที่ 7 เป็นชนิดอน่ื ๆ เช่น พอลีคาร์บอนเนต (polycarbonate) ทำเปน็ ขวดนำ้ เหยอื กน้ำ ขวดนม ขวดนำ้ บรรจุ 5 ลิตร ขวดน้ำนักกฬี า ใชบ้ ุกระป๋องโลหะสำหรับใส่อาหาร เป็นถว้ ยใส ช้อนส้อม มีดชนิดใส มพี ลาสตกิ ชนิดท่ี 1 และ 2 เท่านัน้ ทน่ี ำมา รีไซเคิล(recycle) ได้ จะต้องไมน่ ำพลาสติกทุกชนิดกลับมาใช้ใหม่ (reuse) ในกรณีทจ่ี ะต้องใช้บรรจอุ าหาร จะตอ้ งเป็นพลาสตกิ ชนดิ ที่ 1, 2, 4 และ 5 เท่านั้น ต้องหลกี เล่ยี งพลาสติกพวก 3 , 6 และ 7 ยกเวน้ พลาสติกจากสารธรรมชาติเทา่ น้ัน หลีกเลย่ี งดมื่ นำ้ จากขวดพลาสติก ยกเวน้ การเดินทาง น้ำประปานัน้ ด่ืมไดห้ ากไม่ค่อยมน่ั ใจก็ให้กรองอีกครงั้ ดว้ ยคาร์บอนกัมมันต์ 2. แนวคดิ ในเรื่องประสทิ ธภิ าพของภาชนะจากใบไม้ ใบไม้ซ่ึงเป็นวสั ดุธรรมชาตทิ ่ีมีในท้องถ่นิ มาทำเป็นภาชนะบรรจุอาหาร สามารถใส่อาหารแห้งที่มี น้ำหนักไม่มากได้ เป็นภาชนะทใ่ี ชแ้ ลว้ ท้ิง สามารถย่อยสลายได้โดยธรรมชาติ เพม่ิ มูลค่าใหก้ ับใบไม้ได้ภาชนะใส่ อาหารจากใบไม้ทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ และสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ อาจารยจ์ ิตรลดา จากราชภฏั สวนสนุ นั ทา ยงั ไดใ้ ห้มุมมองน่าสนใจเก่ียวกบั การพัฒนาผลิตภณั ฑ์ ภาชนะทางเลือกจากวัสดุธรรมชาตทิ ีค่ น้ พบจากการวจิ ัย ผลติ ภณั ฑจ์ ากกระดาษเปลอื กมะพร้าว ดว้ ยวา่ สำหรับ ภาชนะจากวัสดุธรรมชาตกิ ำลงั เปน็ ทตี่ อ้ งการทัว่ โลก ความต้องการของตลาดภาชนะที่ย่อยสลายไดง้ า่ ยกำลัง เปน็ ท่ีจบั ตามอง และเติบโตอยา่ งรวดเรว็ ทัง้ ในประเทศและตลาดสง่ ออก ปจั จบุ นั มีการวจิ ัยพัฒนานวัตกรรม ภาชนะจากวัสดชุ ีวภาพ ไดแ้ ก่การนำใบไม้ เชน่ ใบสกั ใบบวั กาบหมาก กาบกลว้ ย เป็นต้น มาขนึ้ รปู เป็น ภาชนะอย่างท่เี ราไดเ้ หน็ กันตามรายงานข่าว ทวา่ แมว้ ัสดพุ วกนจ้ี ะสามารถนำไปขน้ึ รูปได้แตม่ ีข้อเสียคือไม่ สามารถควบคุมคณุ ภาพและปริมาณของวัตถุดิบให้สมำ่ เสมอได้ ทำความสะอาดวตั ถุดบิ ได้ยาก มีสารปนเปื้อน หลดุ ออกจากภาชนะเมือ่ นำมาใสอ่ าหาร ดงั น้นั ผ้ผู ลิตจงึ จำเป็นตอ้ งควบคุมปัจจัยในเร่ืองนี้ เพอ่ื ความปลอดภัย สูงสดุ ของผู้บริโภคด้วย 3. องคป์ ระกอบของการทำภาชนะจากใบไม้ วัสดทุ ใ่ี ช้ ใบบวั หรือใบตอง ชาม2ใบซ้อนกนั ได้ แป้งทำกาวแป้งเปยี กเป็นแปง้ ท่ีรับประทานได้ โดยวิธี ทำคือผสมแป้งกับนำ้ คนใหเ้ ข้ากนั นำต้งั ไฟเคี่ยวใหเ้ ปน็ แปง้ เปียกแว้ ยกลงจากเตา วางใบไม้ทากาวดา้ นบน 2 แผน่ นำดา้ นท่มี กี าวปะกบกนั ทำเชน่ เดียวกันแลว้ นำมาซ้อนกนั หลายๆชั้น นำแผน่ ใบไม้ท่ีไดก้ ดลงในชาม จดั ให้

9 เขา้ มมุ กับชาม นำชามอกี ใบวางซอ้ นกดบนใบไม้ นำไปตง้ั ไฟ นำวัสดุหนกั ๆกดบนชาม ตั้งไฟ ตรวจใบไมด้ า้ นใน ใหแ้ ขง็ จงึ ใช้ได้ ยกลงจากเตา นำวสั ดุมาแงะใบไมอ้ อกจากชามแลว้ ตดั ขอบ จึงจะไดภ้ าชนะจากใบไม้ ผศ.ดร.เจษฎา ส่วนกลไกการทำงานของสง่ิ ประดิษฐ์เคร่ืองขึ้นรปู จากใบไมน้ ้ีไดร้ บั การออกแบบให้ สามารถทำงานอัตโนมตั ิโดยมีวัสดุ Layer 3 ชัน้ ช้ันลา่ งสดุ คือใบไม้สด ชัน้ กลางคอื วสั ดุพลาสตกิ ชวี ภาพท่ีทำ จากแปง้ มันสำปะหลังหรอื อ้อยทจี่ ะช่วยให้ภาชนะประเภทชามทรงตวั ข้ึนรูปไดเ้ หมาะกับการใชง้ าน ส่วนช้นั บนสุดจะเป็นใบไมส้ ด และตัวเครอื่ งจะผนึกวัสดุทั้ง3ช้ันด้วยความรอ้ นสูงประมาณ200องศาเซลเซยี ส ซึ่งจะ เปน็ การทำให้แหง้ ปลอดเช้ือและถูกสขุ อนามยั 4. ชนดิ ของใบไม้ 4.1 ชนดิ ของใบตอง ใบตองกลว้ ยตานี มสี ีเขยี วเขม้ เป็นมนั เน้ือใบตองมคี วามนุ่มเหนียวไมเ่ ปราะและไม่ฉีกง่าย มีความหนา พอเหมาะ เส้นใบตองตรงดา้ นสเี ขียวมคี วามมนั ด้านนวลใบตองมสี ขี าวขนุ่ เหมาะที่จะนำไปใชท้ ำกระทงใสข่ นม ถาดใบตอง บายศรีปากชาม กระทงลอย ใบตองกลว้ ยนำ้ ว้า จะมคี วามหนานอ้ ยกวา่ ใบตองกล้วยตานี มีความเปราะบา้ งเลก็ น้อย มสี ีเขียวออ่ น มกั นำใบตองกล้วยชนดิ น้มี าห่อขนมทมี่ ีขนาดเล็ก ยอดอ่อนมีสีเขยี วอ่อน ใบเปน็ แบบขนาน มลี ักษณะแบนยาว ใหญ่ มกี า้ นใบใหญต่ รงกลาง มีใบล้อมรอบ ปลายใบปลายมน ขอบใบเรียบ แผน่ ใบเรยี บมัน ดา้ นบนมีสีเขยี วสด ด้านลา่ งมสี เี ขยี วเข้ม มีนวลสีขาว ขา้ วธรรม คัลเจอร์ 4.2 ชนดิ ของใบสัก ใบสกั ทอง ข้ึนเป็นหมู่ในปา่ เบญจพรรณทางภาคเหนือ บางส่วนในภาคกลางและภาคตะวันตก มีอยู่ บา้ งทางภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ เป็นใบเด่ยี วใหญ่มาก ออกตรงขา้ มกันเปน็ คู่ ปลายใบแหลมโคนมน ยาว 25- 30 เซนติเมตร กว้างเกือบเทา่ ยาว ใบของต้นอ่อนจะใหญ่กว่านมี้ าก ผวิ ใบมขี นสากคายสีเขียวเข้ม ขยีใ้ บสดจะมี สแี ดงเหมอื นเลือด ในช่วงแล้งใบจะแหง้ ร่วงหล่นผลัดใบรอการผลใิ บออ่ น หากเกิดไฟป่ากลายเป็นเชอ้ื ไฟท่ี ลกุ ลามขยายวงกวา้ งได้ง่ายและรวดเร็ว โดยเฉพาะใบสกั ร่วงหลน่ เป็นจำนวนมาก ท่ผี ่านมาปล่อยใหท้ ับถมและ เป็นปจั จยั เสี่ยงเกิดไฟป่าจากชมุ ชนโดยรอบสาเหตุปญั หาหมอกควันซึ่ง จ.อตุ รดติ ถ์เปน็ หนงึ่ ในจงั หวัดภาคเหนือ ที่ล่าสดุ ค่า PM.2.5 เกนิ มาตรฐาน ใบไทรใบสัก เปน็ ใบเดีย่ ว เรียงสลบั รปู รกี ว้างถงึ รูปกลม โคนใบรูปหวั ใจ ปลายใบมีต่งิ หนามสนั้ ขอบ ใบเรยี บเปน็ คล่นื เลก็ น้อย แผ่นใบสเี ขยี วเข้ม หนาเปน็ มัน เหน็ เส้นกลางใบและเสน้ ใบย่อยชดั เจน มหี ใู บห้มุ ยอด แตต่ อ้ งยอมรับวา่ เป็นพืชท่ีมีปัญหาในการดูแลมากท่ีสุดต้นหน่ึง หลายคนทซี่ อ้ื ไปเลยี้ งใหม่ๆ มักเจอปัญหาใบ ไหม้และรว่ งจนท้อใจไปตามๆกัน ต้องเข้าใจก่อนวา่ “ไทรใบสกั เปน็ ไม้ท่เี ซนซิทีฟมาก” โดยเฉพาะกบั ทีต่ ั้งและ

10 อุณหภูมิแวดลอ้ ม เกือบทุกคนท่นี ำไทรใบสกั มาเลี้ยงทบ่ี า้ นใหม่ๆ ตอ้ งเผชิญกบั ปัญหาใบไหมแ้ ละร่วง 5. งานวจิ ัยที่เกยี่ วขอ้ ง เครื่องขนึ้ รูปภาชนะจากใบไม้เป็นเครอ่ื งทนี่ ำวสั ดจุ ากธรรมชาติ เช่น ใบไม้ กาบหมาก ใบสัก ใบบวั และใบตอง เปน็ ต้น มาขน้ึ รปู เปน็ ภาชนะเพ่ือทดแทนการใช้จานชามพลาสติกโดยอาศยั แรงอัดและความร้อนใน การขนึ้ รูปภาชนะตามแบบแม่พมิ พ์ โดยความรอ้ นและแรงอัดจะทำให้ใบไมร้ วมกันเปน็ หนึ่งเดยี ว และมีความ หนาแน่นสามารถนำมาใชง้ านได้ เน่ืองจากใบไมบ้ างชนิดทีน่ ำมาขึน้ รูปเปน็ ภาชนะมีความหนา และบางตา่ งกัน ดังน้นั จงึ ตอ้ งคำนงึ ถงึ จำนวนใบทนี่ ำมาใชใ้ นการขึ้นรูป เช่นภาชนะที่ขึน้ รูปด้วยใบตองควรใชใ้ บตอง2-3ใบซ้อน กนั เพื่อให้มีความหนาเพยี งพอสำหรับการใสอ่ าหาร ในขณะทีภ่ าชนะท่ขี น้ึ รูปด้วยใบกาบหมากใช้เพียงแค่1ใบ เท่านัน้ เปน็ ต้น มติ รชาวไรเ่ หน็ วา่ ในปจั จบุ นั สง่ิ แวดลอ้ มทั่วโลกกำลงั เผชญิ ปญั หาวิกฤติจากขยะพลาสตกิ โดยเฉพาะ ปญั หาขยะลน้ เมืองจากบรรจุภณั ฑถ์ งุ และภาชนะของใช้พลาสติกนานาชนิด ในประเทศไทยเองมีปรมิ าณขยะ ในทะเลมากเป็นอันดับ6ของโลก ซึง่ เปน็ อนั ตรายต่อระบบนิเวศของสัตวท์ ะเลและหว่ งโซ่อาหารของมนุษย์ ใน แง่ของการเกษตรจะเห็นวา่ การใชว้ สั ดุชวี ภาพทีน่ ำมาผลิตเป็นภาชนะแทนจานชามพลาสติกมีหลากหลายชนิด เช่น กาบหมาก ใบตอง ใบสัก ใบบัว และใบเล็บครฑุ เปน็ ต้น วัสดุเหล่านี้ถกู ท้ิงหลงั จากเก็บผลผลติ เรียบร้อย แล้ว ซงึ่ เป็นการเพ่ิมปริมาณขยะและใช้ทรพั ยากรที่ไม่เกิดประโยชนส์ ูงสุด เช่น เกษตรกรผู้ปลูกต้นสักสามารถ ใชป้ ระโยชนจ์ ากใบสกั ไดต้ ลอดต้งั แตอ่ ายุ5ปี แทนท่ีตอ้ งรอ20ปเี พ่ือใชล้ ำตน้ เพียงอย่างเดียว ทีจ่ ะนำไปใช้ใน อุตสาหกรรมแปรรูปไม้เปน็ เฟอร์นเิ จอรห์ รืออตุ สาหกรรมอ่ืนๆ เปน็ ตน้ ดงั น้นั การนำวสั ดเุ หลอื ท้ิงเหล่านีม้ า ผลิตเป็นภาชนะแทนการใชจ้ านชามพลาสติก จงึ เปน็ การส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ประโยชน์สูงสุดและเป็นการ เพม่ิ มลู ค่า เสริมสรา้ งเศรษฐกิจหมนุ เวียนในชมุ ชน และสำคัญที่สดุ คือการชว่ ยลดการใช้ภาชนะพลาสติกทีใ่ ช้ เวลายอ่ ยสลายนานกว่า300ปี ดว้ ยภาชนะชีวภาพท่สี ามารถย่อยสลายได้ดว้ ยตวั เองภายในระยะเวลาอันสน้ั ทางคณะผจู้ ดั ทำไดเ้ ล็งเหน็ ถงึ ปญั หาของพลาสติกและโฟมที่ใช้บรรจอุ าหารในทุกวนั นม้ี ีสารอันตรายท่ี ก่อใหเ้ กิดผลเสยี ตอ่ สขุ ภาพของเรา เนื่องจากโฟมและพลาสติกนัน้ มีราคาที่ถูก หาซื้อได้งา่ ย จงึ ทำใหเ้ กิดปัญหา ขยะประเภทโฟมและพลาสตกิ เปน็ จำนวนมาก แต่ท้งั น้ีกย็ งั มพี ลาสติกบางประเภทท่ีสง่ ผลเสยี ต่อสุขภาพน้อย แต่พยายามเลี่ยงการใชง้ านจะส่งผลดที ่ีสุด ภาชนะจากใบไมน้ ้ันสามารถนำมาบรรจอุ าหารได้ ซ่ึงการนำภาชนะจากใบไมม้ าใช้แทนภาชนะจาก พลาสตกิ หรอื โฟมนั้นเป็นการลดปรมิ าณขยะท่เี พมิ่ มากข้ึนในแต่ละวนั สามารถย่อยสลายไดเ้ องโดยธรรมชาติ แล้วนน้ั อกี ทงั้ ยังเป็นการเพมิ่ มลู ค่าของใบไม้และการใชท้ รัพยากรท่ีมอี ยู่ใหเ้ กดิ ประโยชน์สงู สุดทำใหไ้ ดภ้ าชนะ จากวัสดธุ รรมชาตทิ ส่ี ามารถนำมาใชไ้ ด้อย่างปลอดภยั และมีประสทิ ธภิ าพ

11 วธิ ีการทำชามจากใบไมธ้ รรมชาติทีเ่ หมาะสมสำหรบั วยั ของกลมุ่ เรา แล้วจะต้องประหยัดงบประมาณ สูงสดุ จงึ เลอื กวิธีท่จี ะใช้แป้งมันเป็นกาวแทน แล้วใช้ชามมาทับกดใบไม้ จากน้ันรอให้ใบไม้เซ็ตตวั ตัดแต่งให้ สวยงาม การเปรียบเทยี บประสิทธภิ าพของภาชนะจากใบไม้ที่ทางคณะผู้จดั ทำเลือก สามารถหาไดง้ า่ ยซง่ึ คือ ใบตองและใบสัก แต่ใบไม้ท้ังสองนั้นมหี ลายประเภทชนิดพันธุ์ โดยใบตองแต่ละประเภทมคี วามสามารถและ คณุ สมบตั ิแตกต่างกัน ใบตองกลว้ ยตานจี ะมเี นื้อทีน่ ่มุ กว่าไม่แตกงา่ ย ใบตองกล้วยน้ำวา้ จะบางกวา่ และมีความ เปราะเล็กน้อย แตท่ ั้งนีท้ างภาคเหนือและบริเวณแวดล้อมทอ่ี ยู่อาศัยไม่มีใบตองกล้วยตานเี พ่อื ประหยดั งบประมาณสูงสดุ ดงั น้ันจึงใช้ใบตองกล้วยนำ้ ว้าในการประดิษฐช์ าม ด้วยการนำมาผา่ นความรอ้ นเลก็ น้อยเพ่อื เพิ่มความยดื หยนุ่ ให้แก่ใบตองแทนใบตองกล้วยตานีท่ีมีความยืดหย่นุ สงู กว่า และใบสักก็มีหลายประเภทและมี ลกั ษณะทต่ี า่ งกนั ใบสักทองเปน็ ใบเดย่ี วใหญ่มาก มคี วามกวา้ งเกอื บเทา่ ความยาวแตผ่ วิ ใบมีขนสากคาย หาได้ งา่ ยในบรเิ วณภาคเหนือ สว่ นใบไทรใบสักเปน็ ใบเดีย่ ว มสี ีเขียวเขม้ หนาเปน็ มนั สวยงาม แตป่ ลายใบมตี ง่ิ หนาม ส้ันและกว่าจะมใี บท่ีสวยงามน้นั ต้องมีการดูแลรกั ษาทยี่ ุ่งยาก จึงนำใบสักทองมาใช้ ซ่ึงมีขนาดทงี่ ่ายต่อการทำ ภาชนะและหาง่ายตามท้องถ่ิน แตเ่ น่อื งจากมีใบสักทองแห้งจำนวนมากที่เปน็ ภยั ต่อสงิ่ แวดลอ้ ม ดงั นน้ั จึงใช้ใบ สักทองสดเป็นชนั้ นอกประกบสว่ นชน้ั ในทีเ่ ป็นใบสักทองแห้ง

12 บทที่ 3 วิธดี ำเนินการศึกษาคน้ คว้า ในการศึกษาคร้ังน้ผี ศู้ กึ ษาไดท้ ำการศึกษา การเปรียบเทียบประสทิ ธภิ าพของภาชนะประเภทชามที่ ประดษิ ฐ์จากใบสกั และใบตอง ซึ่งมีวธิ ีการดงั น้ี 1. ระเบยี บวิธที ี่ใชใ้ นการศึกษา ในการศึกษาใชร้ ูปแบบการสบื ค้นขอ้ มลู จากหนงั สือและอนิ เตอรเ์ น็ต การสอบถามจากครูที่ปรึกษาการ ทำการทดลองตามทวี่ างแผนไว้ และหาขอ้ สรุปผลการศกึ ษา 2. ประชากร 2.1 ประชากร ประชากรทใ่ี ชใ้ นการศึกษาครั้งนเี้ ปน็ นักเรยี นระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่5 โรงเรยี นปัว ปีการ ศึกษา 2564 จำนวนภายใน 1 ห้องเรียน เปน็ นกั เรยี นท้ังสน้ิ 5 คน 2.2 ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษา ระยะเวลาทใ่ี ชใ้ นการศึกษา ในภาคการเรียนท่ี1 ปีการศึกษา 2564 3. วธิ ดี ำเนนิ การศึกษา ผศู้ ึกษาไดด้ ำเนินการตามขัน้ ตอนดังน้ี 3.1 กำหนดเรือ่ งทจ่ี ะศึกษา โดยสมาชกิ ทงั้ 5 คน ประชมุ ร่วมกนั และร่วมกนั คิดและวางแผน วา่ จะศึกษาเร่อื งใด 3.2 เลอื กเรอื่ งท่จี ะศึกษา โดยเลือกเร่ืองทีส่ มาชิกมคี วามสนใจมากทสี่ ุดเพ่ือเป็นแรงจูงใจในการคน้ หาคำตอบ 3.3 ศึกษาแนวคดิ ทเี่ ก่ยี วข้อง 3.4 ตง้ั ชอื่ เรือ่ ง

13 3.5 สมาชกิ ทั้ง 5 คนของกลุม่ พบครูผสู้ อนเพื่อปรึกษา วางแผนและรับฟังความคดิ เห็นปรับปรงุ แกไ้ ข 3.6 เขียนความสำคัญความเป็นมาของปัญหา วัตถุประสงค์ สมมุตฐิ านขอบเขตการศึกษาและประโยชน์ทค่ี าด ว่าจะไดร้ ับ โดยศกึ ษาข้อมลู จากหนังสือวิทยานิพนธ์และสืบคน้ ข้อมลู จากอนิ เตอร์เนต็ และจดบันทึกในโครงรา่ ง รายงานเชิงวชิ าการ 3.7 ทำการทดลอง/การประดิษฐ์ 3.8 บนั ทกึ ผลการทดลอง 3.9 สรปุ การศกึ ษา 4. การทดลอง/การประดิษฐ์ 4.1 วัสดุและอปุ กรณ์ 1) ใบไม้ 2) ชามสแตนเลส ขนาดเทา่ กัน 2ใบ 3) แปง้ มนั 200 กรัม 4) นำ้ 1/2 ลติ ร 5) หมอ้ 6) ทัพพี 7) เตาแกส๊ 8) วัสดทุ ม่ี ีน้ำหนักมาก 4.2 วิธีการทดลอง/การประดิษฐ์ 1.นำหมอ้ ทจี่ ะตม้ ใส่นำ้ ลงไป จากนั้นนำไปตั้งบนเตาแกส๊ ใสแ่ ป้งมันลงไปแล้วคนใหเ้ ขา้ กัน 2.กวนแปง้ ใหส้ ุกเขา้ กบั น้ำจนเปน็ เนื้อเดยี วกัน แต่ต้องพยายามไม่ให้กาวแป้งเปียกเย็นเพ่ือใหค้ งความ เหนยี วแน่นไว้ 3.นำใบไม้มาเชด็ ทำความสะอาด

14 4.ตัดใบไม้เป็นแผ่นๆ แลว้ ทากาวแปง้ เปียกใหท้ ว่ั จากนน้ั นำใบไมช้ นิดเดียวกนั ติดเขา้ ดว้ ยกนั เปน็ แผ่น ใหญ่ๆ 5.วางแผ่นใบไมแ้ ผน่ ใหญ่แต่ละชนิดลงไปในชามสแตนเลส แล้วเอาชามสแตนเลสอีกใบมากดทับ 6.นำชามสแตนเลสในข้อ5ไปตง้ั ไฟ โดยวางวสั ดทุ ม่ี ีน้ำหนักมากดทบั ตลอด ประมาณ 15 นาที หรือ จนกา่ แปง้ จะแห้ง 7.ยกลงจากเตา พกั ใหเ้ ยน็ แล้วนำภาชนะจากใบไมแ้ ต่ละชนิดทีข่ ้นึ รปู ออกจากชามสแตนเลส

15 บทที่ 4 ผลการดำเนินการโครงงาน จากการทดลองเพือ่ เปรียบเทียบประสิทธิภาพของภาชนะประเภทชามทีป่ ระดิษฐจ์ ากใบสักและใบตอง ได้ผลการทดลองดังนี้ ภาพภาชนะทีป่ ระดิษฐ์จากใบตอง ภาพภาชนะที่ประดิษฐ์จากใบสกั ตารางบันทึกผล 10 ml 15 ml ชนิดของใบไม้ / ปริมาณน้ำท่ีใส่ ไมม่ นี ้ำไหลออก ไม่มีนำ้ ไหลออก มนี ำ้ ไหลออก แตน่ ้อยกวา่ การใส่ มนี ำ้ ไหลออกมากที่สุด ใบตอง นำ้ แบบ15 ml ใบสัก

16 บทที่5 สรุปผล อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ 5.1 สรุปผลการทดลอง/การศึกษา จากการทดลองเพ่อื เปรยี บเทียบประสทิ ธิภาพในการอุ้มน้ำของภาชนะทป่ี ระดิษฐ์จากใบไม้ พบวา่ ภาชนะที่ประดิษฐ์จากใบตองมปี ระสิทธภิ าพมากกว่าภาชนะทท่ี ำจากใบสัก 5.2 อภปิ รายผลการทดลอง/การศกึ ษา จากการทดลอง เม่ือทดลองใส่นำ้ ปรมิ าณ 10 ml และ 15 ml ในภาชนะท่ปี ระดิษฐ์จากใบตอง พบวา่ ไมม่ ีนำ้ ไหลออกหรือซมึ ผ่านออกมาได้เลย และเมื่อทดลองใสน่ ำ้ ปริมาณ 10 ml และ 15 ml ในภาชนะที่ ประดษิ ฐ์จากใบสกั พบว่ามนี ำ้ ไหลออกหรือซมึ ผ่านออกมาได้ แตจ่ ากการสงั เกตกอ่ นทดลองใสน่ ำ้ ภาชนะมี ลักษณะทมี่ ่ังคง ดังนน้ั หากเปรียบเทยี บประสทิ ธิภาพจากการอุ้มนำ้ ของภาชนะ ภาชนะที่ประดษิ ฐ์จากใบตอง จงึ มปี ระสิทธภิ าพมากกว่าภาชนะทท่ี ำจากใบสัก เหมาะแก่การใชบ้ รรจอุ าหารท้ังแหง้ และน้ำได้ดี แต่หาก ต้องการใสแ่ ค่อาหารแหง้ จรงิ ๆกค็ วรทีจ่ ะเลอื กใช้ภาชนะที่ประดิษฐ์จากใบสกั 5.3 ขอ้ คิดเห็น/ข้อเสนอแนะ 1. หากประดิษฐ์จากเครื่องขึน้ รูปภาชนะจะไดภ้ าชนะจากใบไม้ (รวมทงั้ ใบตองและใบสัก) ทมี่ ีลักษณะ ที่มั่งคงกว่านี้ เนื่องจากเคร่ืองขน้ึ รปู ภาชนะใช้แรงกดและความร้อนท่ีเป็นอีกปัจจยั หน่งึ ที่สามารถเพ่ิม ประสทิ ธิภาพในการประดิษฐ์มากข้นึ ได้ 2. หากตอ้ งการใช้แค่ใส่อาหารแหง้ สามารถที่จะเลือกใชภ้ าชนะท่ปี ระดิษฐ์จากใบสักได้ เน่ืองจากมี ลกั ษณะทม่ี นั่ คงแต่ไม่สามารถอมุ้ นำ้ ได้

17 บรรณานกุ รม ขา้ วธรรม คัลเจอร์ (2559: Facebook) . สบื คน้ 29 กรกฎาคม 2564, จาก URL: https://zhort.link/bYQ ชญานิษฐ์ สุวรรณ (2555:ออนไลน์) . สบื คน้ 29 กรกฎาคม 2564, จาก URL:http://www.satitm.chula.ac.th/cudbiomap/plants_pages/teak.html ณิชากานต์ พานชิ เกษม และคณะ (2558:ออนไลน์) . สบื ค้น29 กรกฎาคม 2564, จาก URL:http://www.thai-explore.net/search_detail/result/3655 ปาลิตา พุทธประเสรฐิ . (2556) ช้ีพิษภัยโฟมบรรจอุ าหาร สะดวก-กนิ งา่ ย-ตายเรว็ . สืบค้น17 กรกฎาคม 2564, จาก https://www.tcijthai.com/news/2013/19/scoop/2397 ปรญิ ญา คุ้มสระพรหม และคณะ (2564:ออนไลน์) . สบื ค้น29 กรกฎาคม 2564, จาก URL:https://www.nationtv.tv/news/378819033) นางสาวกญั ญาพัชร ชสู ินธ์, นางสาว ขวัญฤดี พรหมมณีและนางสาวนชุ นาถ สนิ ทอง (2564:ออนไลน์) . สบื ค้น 29 กรกฎาคม 2564, จาก URL https://1th.me/rp1ff ผศ.ดร.เจษฎา (2561:ออนไลน์) . สบื คน้ 29 กรกฎาคม 2564, จาก URL:https://www.salika.co/2018/10/13/eco-friendly-plate-innovation/ ) รณรงค์ลดการใช้ถงุ พลาดรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกและโฟม เสนห่ ์ จันทรส์ ุนทร (2564:ออนไลน์) . สืบคน้ 29 กรกฎาคม 2564, จาก URL:https://www.pakkran.go.th/17232127/%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%A3%E0%B8%8 7%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3 %E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%96%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%9E% E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%81%E 0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%9F%E0%B8%A1 สุขภาพ (ออนไลน์:2564) ) . สบื คน้ 29 กรกฎาคม 2564, จาก URL:http://www.the- than.com/health/2/15.html สธุ ิมา ผดงุ ฉตั ร และคณะ ,2559:ออนไลน์ . สบื คน้ 29 กรกฎาคม 2564, จาก URL : http://thaiinvention.net/detail.php?p=cHJvamVjdF9pZD00OTI4OSZjZmdfaWQ9MzImY29tcGV0 X2lkPTE= สำนกั งานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภมู ิสารสนเทศ. (2560) เปิดข้อมูล5ปี ปริมาณขยะโฟมเพม่ิ ขึ้น 61ล้าน ใบ. สบื ค้น17 กรกฎาคม 2564, จากhttp://coastalradar.gistda.or.th/wp/?page=news- detail&id=3561 (สำนักพิมพบ์ า้ นและสวน, 2563: ออนไลน์ URL:https://www.baanlaesuan.com/plants/biennial/135601.html) Praornpit Katchwattana (2562:ออนไลน์) . สืบคน้ 29 กรกฎาคม 2564, จาก URL : https://www.salika.co/2019/11/08/3-container-models-from-natural/

18 ภาคผนวก

19

20