Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 3

หน่วยที่ 3

Published by pen.kaset, 2019-06-13 23:06:30

Description: เรื่องประเภทและชนิดผลิตภัณฑ์สมุนไพร

Search

Read the Text Version

หนว่ ยท่ี 3 ชนิดและประเภทผลติ ภณั ฑส์ มุนไพร โดย นางจนั ทร์เพ็ญ อนิ ทอง วิทยาลยั เกษตรและเทคโนโลยีสุพรรณบุรี

ความหมายสมุนไพร คำว่ำ สมุนไพร ตำม พระรำชบัญญัติยำ หมำยถึง \"ยำที่ได้จำกพืช สัตว์ หรือแร่ ซ่ึงยังไม่ได้ ผสม ปรุง หรือเปลี่ยนสภำพ\" เช่น พืชก็ยังเป็นส่วนของ รำก ลำต้น ใบ ดอก ผล ฯลฯ ซ่ึงยังไม่ได้ ผ่ำนข้ันตอนกำรแปรรูปใด ๆ แต่ในทำงกำรค้ำสมุนไพรมักจะถูกดัดแปลงในรูปต่ำง ๆ เข่น ถูกหั่น ให้เป็นช้ินเล็กลง บดเป็นผงละเอียด หรืออัดเป็นแท่ง อย่ำงไรก็ตำมในควำมรู้สึกของคนท่ัว ๆ ไป เม่ือกล่ำวถึงสมุนไพร มักจะนึกถึงเฉพำะต้นไม้ที่นำมำใช้เป็นยำเท่ำน้ัน ทั้งนี้อำจเป็นเพรำะว่ำสัตว์ หรือแร่ มกี ำรนำมำใชน้ ้อย และใชใ้ นโรคบำงชนิดเท่ำน้นั พืชสมนุ ไพร หมำยถึงพนั ธไุ์ ม้ตำ่ ง ๆ ท่สี ำมำรถนำมำใช้ปรุงหรือประกอบเป็นยำรักษำ โรคต่ำง ๆ ใช้ ในกำรส่งเสรมิ สุขภำพรำ่ งกำยได้ ความสาคญั ของพืชสมุนไพร 1. ควำมสำคัญในด้ำนสำธำรณสุข พืชสมุนไพร เป็นผลผลิตจำกธรรมชำติ ท่ีมนุษย์รู้จัก นำมำใช้เป็นประโยชน์ เพ่ือกำรรักษำโรคภัยไข้เจ็บต้ังแต่โบรำณกำลแล้ว เช่นในเอเชียก็มีหลักฐำน แสดงว่ำมนุษย์รู้จักใช้พืชสมุนไพรมำกว่ำ 6,000 ปี แต่หลังจำกที่ควำมรู้ด้ำนวิทยำศำสตร์ มีกำร พัฒนำเจริญก้ำวหน้ำมำกขึ้น มีกำรสังเครำะห์ และผลิตยำจำกสำรเคมี ในรูปที่ใช้ประโยชน์ได้ง่ำย สะดวกสบำยในกำรใช้มำกกว่ำสมุนไพร ทำให้ควำมนิยมใช้ยำสมุนไพรลดลงมำเป็นอันมำก เป็น เหตุให้ควำมรู้วิทยำกำรด้ำนสมุนไพรขำดกำรพัฒนำ ไม่เจริญก้ำวหน้ำเท่ำที่ควร ในปัจจุบันทั่วโลก ได้ยอมรับแล้วว่ำผลท่ีได้จำกกำรสกัดสมุนไพร ให้คุณประโยชน์ดีกว่ำยำ ท่ีได้จำกกำรสังเครำะห์ ทำงวิทยำศำสตร์ประกอบกับในประเทศไทยเป็นแหล่งทรัพยำกรธรรมชำติ อันอุดมสมบูรณ์ มีพืช ต่ำง ๆ ท่ีใช้เป็นสมุนไพรได้อย่ำงมำกมำยนับหมื่นชนิด ยังขำดก็แต่เพียงกำรค้นคว้ำวิจัยในทำงที่ เป็นวิทยำศำสตร์มำกข้ึนเท่ำนั้น ควำมตื่นตัวที่จะพัฒนำควำมรู้ด้ำนพืชสมุนไพร จึงเร่ิมขึ้นอีกคร้ัง หนึ่ง มีกำรเริ่มต้นนโยบำยสำธำรณสุขขั้นมูลฐำนอย่ำงเป็นทำงกำรของประเทศไทยในปี พ.ศ. 2522 โดยเพิ่มโครงกำรสำธำรณสุขข้ันมูลฐำนเข้ำในแผนพัฒนำกำรสำธำรณสุข ตำมแผนพัฒนำ กำรเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ ฉบับท่ี 4 (พ.ศ. 2520-2524) ต่อเนื่องจนถึงแผนพัฒนำกำร เศรษฐกิจ และสังคมแห่งชำติ ฉบับท่ี 7 (พ.ศ. 2535-2539) โดยมี กลวิธีกำรพัฒนำสมุนไพรและ กำรแพทย์แผนไทยในงำนสำธำรณสขุ มูลฐำน คือ (1) สนับสนุนและพัฒนำวิชำกำรและเทคโนโลยีพ้ืนบ้ำนอันได้แก่ กำรแพทย์แผน ไทย เภสัช กรรมแผนไทย กำรนวดไทย สมุนไพร และเทคโนโลยีพื้นบ้ำน เพ่ือใช้ประโยชน์ในกำร แกไ้ ขปญั หำ สขุ ภำพของชุมชน (2) สนับสนุนและส่งเสริมกำรดูแลรักษำสุขภำพของตนเอง โดยใช้ สมุนไพร กำรแพทย์พ้ืนบ้ำน กำรนวดไทย ในระดับบุคคล ครอบครัว และชุมชน ให้เป็นไปอย่ำงถูกต้องเป็น ระบบสำมำรถปรับประสำนกำรดูแลสุขภำพแผนปัจจุบันได้ อำจกล่ำวได้ว่ำสมุนไพรสำหรับ

สำธำรณสุขมูลฐำนคือสมุนไพรท่ีใช้ในกำรส่งเสริมสุขภำพ และกำรรักษำโรค/อำกำรเจ็บป่วย เบื้องตน้ เพื่อให้ประชำชนสำมำรถพึ่งตนเองได้มำกขนึ้ 2. ควำมสำคัญในด้ำนเศรษฐกิจ ในปัจจุบันพืชสมุนไพรจัดเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่งท่ี ต่ำงประเทศกำลงั หำทำงลงทนุ และคดั เลอื กสมุนไพรไทยไปสกัดหำตัวยำเพื่อรักษำโรคบำงโรคและ มีหลำยประเทศที่นำสมุนไพรไทยไปปลูกและทำกำรค้ำขำยแข่งกับประเทศไทย สมุนไพรหลำย ชนิดที่เรำส่งออกเป็นรูปของวัตถุดิบคือ กระวำน ขมิ้นชัน เร่ว เปล้ำน้อยและมะขำมเปียกเป็นต้น ซ่ึงสมุนไพรเหล่ำน้ีตลำดต่ำงประเทศยังคงมีควำมต้องกำรอีกมำก และในปัจจุบันกรมวิชำกำร เกษตร กรมส่งเสริมกำรเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้ควำมสนใจในกำรศึกษำเพิ่มขึ้น และมโี ครงกำรวิจยั บรรจุไว้ในแผนพัฒนำระบบกำรผลติ กำรตลำดและกำรสร้ำงงำนในแผนพฒั นำ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2530-2534) เพ่ือหำควำมเป็นไปได้ในกำรพัฒนำ คุณภำพและแหล่งปลูกสมุนไพรเพื่อส่งออก โดยกำหนดชนิดของสมุนไพรที่มีศักยภำพ 13 ชนิด คือ มะขำมแขก กำนพลู เทียนเกล็ดหอย ดองดึง เร่ว กระวำน ชะเอมเทศ ขมิ้น จันทร์เทศ ใบพลู พริกไทย ดปี ลี และน้ำผึง้ ประโยชน์ของพืชสมนุ ไพร สำมำรถรักษำโรคบำงชนิดได้ โดยไม่ต้องใช้ยำแผนปัจจุบัน ซ่ึงบำงชนิดอำจมีรำคำแพง และต้องเสียค่ำใช้จ่ำยมำก อีกท้ังอำจหำซื้อได้ยำกในท้องถิ่นนั้น ให้ผลกำรรักษำได้ดีใกล้เคียงกับ ยำแผนปัจจุบัน และให้ควำมปลอดภัยแก่ผู้ใช้มำกกว่ำแผนปัจจุบัน สำมำรถหำได้ง่ำยในท้องถิ่น เพรำะส่วนใหญไ่ ด้จำกพชื ซ่งึ มีอยู่ท่ัวไปทั้งในเมืองและ ชนบทมีรำคำถกู สำมำรถประหยัดค่ำใชจ้ ่ำย ในกำรซ้ือยำแผนปัจจุบัน ที่ต้องสั่งซ้ือจำกต่ำง ประเทศเป็นกำรลดกำรขำดดุลทำงกำรค้ำ ใช้เป็น ยำบำรุงรักษำให้ร่ำงกำยมีสุขภำพแข็งแรง ใช้เป็นอำหำรและปลูกเป็นพืชผักสวนครัวได้ เช่น กะเพรำ โหระพำ ขิง ข่ำ ตำลึง ใช้ในกำรถนอมอำหำรเช่น ลูกจันทร์ ดอกจันทร์และกำนพลู ใช้ ปรุงแต่ง กล่ิน สี รส ของอำหำร เช่น ลูกจันทร์ ใช้ปรุงแต่งกล่ินอำหำรพวก ขนมปัง เนย ไส้กรอก แฮม เบคอน สำมำรถปลูกเป็นไม้ประดับอำคำรสถำนที่ต่ำง ๆ ให้สวยงำม เช่น คูน ชุมเห็ดเทศ ใช้ ปรุงเป็นเครื่องสำอำงเพื่อเสริมควำมงำม เช่น ว่ำนหำงจระเข้ ประคำดีควำย ใช้เป็นยำฆ่ำแมลงใน สวนผัก, ผลไม้ เช่น สะเดำ ตะไคร้ หอม ยำสูบ เป็นพืชท่ีสำมำรถส่งออกทำรำยได้ให้กับประเทศ เช่น กระวำน ขมิ้นชัน แล้วเป็นกำรอนุรักษ์มรดกไทยให้ประชำชนในแต่ละท้องถิ่น รจู้ ักช่วยตนเอง ในกำร นำพืชสมุนไพรในท้องถ่ินของตนมำใช้ให้เกิดประโยชน์ตำมแบบแผนโบรำณทำให้คนเห็น คณุ ค่ำและกลับมำดำเนินชีวิตใกล้ชิดธรรมชำติย่ิงข้ึนทำให้เกิดควำมภูมิใจในวัฒนธรรม และคุณค่ำ ของควำมเป็นไทย เอกสำรอ้ำงอิง : http://www.angelfire.com/ri2/rangsan/important.html ประเภทของสมนุ ไพร

พชื สมนุ ไพรโดยท่วั ไปน้ัน แบง่ ออกเป็น 5 สว่ นสำคญั ด้วยกนั คือ 1. รำก 2. ลำตน้ 3. ใบ 4. ดอก 5. ผล 1. รำก รำกของพืชมีมำกมำยหลำยชนิดเอำมำเป็นยำสมุนไพรได้อย่ำงดี เช่น กระชำย ขมนิ้ ชนั ขิง ขำ่ เรว่ ขมิ้นอ้อย เปน็ ต้น รปู รำ่ งและลกั ษณะของรำก แบง่ ออกเปน็ 2 ชนิด คือ รำกแก้ว ตน้ พชื มำกมำยหลำยชนดิ มรี ำกแกว้ อยู่ นับวำ่ เป็นรำกทีส่ ำคัญมำกงอกออกจำกลำ ตน้ ส่วนปลำย รปู รำ่ งยำวใหญ่เป็นรูปกรวย ด้ำนข้ำงของรำกแก้ว จะแตกแยกออกเปน็ รำกเล็ก รำก น้อยและรำกฝอยออกมำเป็นจำนวนมำก เพ่ือทำกำรดูดซึมอำหำร ในดินไปบำรุงเลี้ยงส่วนต่ำงๆ ของต้นพืช ทม่ี ีรำกแกว้ ได้แก่ ต้นขเี้ หลก็ ต้นคูน เปน็ ตน้ รำกฝอย รำกฝอยเป็นส่วนที่งอกมำจำกลำต้นของพืชท่ีส่วนปลำยงอกออกมำเป็นรำกฝอย จำนวน มำกลักษณะรำกจะกลมยำว มีขนำดเท่ำๆกัน ต้นพืชท่ีมีใบเล้ียงเด่ียวจะมีรำกฝอย เช่น หญ้ำคำ ตะไคร้ เป็นตน้ 2. ลำตน้ นับว่ำเป็นโครงสร้ำงท่ีสำคัญของต้นพืชทั้งหงำยที่มีอยูส่ ำมำรถค้ำยนั เอำไว้ ได้ไม่ให้โค่น ล้มลง โดยปกติแล้วลำต้นจะอยู่บนดิน แต่บำงส่วนจะอยู่ใต้ดินพอสมควรรูปร่ำงของลำต้นนั้นแบ่ง ออกได้เป็น 3 ส่วนด้วยกัน คือ ตำ ข้อ ปล้อง บริเวณเหล่ำนี้จะมีกิ่งก้ำน ใบ ดอกเกิดขึ้นอีกด้วยซึ่ง จะทำให้พืชมีลักษณะท่แี ตกต่ำงกันออกไปชนิดของลำต้น พืช แบ่งตำมลักษณะภำยนอกของลำต้น ได้เป็น 1. ประเภทไม้ยืนตน้ 2. ประเภทไม้พุม่ 3. ประเภทหญ้ำ 4. ประเภทไม้เลอ้ื ย 3. ใบ ใบเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของต้นพืชท่ัวไป มีหน้ำท่ีทำกำรสังเครำะห์แสง ผลิตอำหำร และเป็นสว่ นท่แี ลกเปลี่ยนน้ำและอำกำศใหต้ ้นพชื ใบเกิดจำกกำรงอกของก่ิงและตำใบไม้โดยทวั่ ไป จะมีสีเขียว ( สีเขียวเกิดจำกสำรที่มีชื่อว่ำ”คอลโรฟิลล์”อยู่ในใบของพืช) ใบของพืชหลำยชนิดใช้ เป็นยำสมุนไพรได้ดีมำก รูปร่ำงและลักษณะของใบน้ันใบที่สมบูรณ์มีส่วนประกอบรวม 3 ส่วน ด้วยกนั คอื 1. ตวั ใบ 2. กำ้ นใบ

3. หูใบ ชนดิ ของใบ แบ่งออกได้เปน็ 2 ชนดิ คือ ชนิดใบเลี้ยงเดี่ยว หมำยถึง เป็นใบที่บนก้ำนใบหน่ึงมีใบเพียงใบเดียว เช่น กำนพลู ขลู่ ยอ กระวำน ชนดิ ใบประกอบ หมำยถึง ตัง้ แต่ 2 ใบข้นึ ไปที่เกดิ ขน้ึ กำ้ นใบอันเดียว เชน่ มะขำมแขก แค บำ้ น ขเ้ี หล็ก มะขำม เปน็ ต้น 4. ดอก ส่วนของดอกเป็นส่วนที่สำคัญของพืชเพื่อเป็นกำรแพร่พันธุ์ของพืช เป็นลักษณะเด่น พิเศษของต้นไม้แต่ละชนิด ส่วนประกอบของดอก มีควำมแตกต่ำงกันตำมชนิดของพันธุ์ไม้และ ลักษณะที่แตกต่ำงกันนี้ เป็นข้อมูลสำคัญในกำรจำแนกประเภทของต้นไม้รูปร่ำงลักษณะของดอก ดอกจะตอ้ งมสี ว่ นประกอบท่สี ำคญั 5 ส่วนคือ 1. ก้ำนดอก 2. กลีบรอง 3. กลบี ดอก 4. เกสรตวั ผู้ 5. เกสรตวั เมยี 5. ผล ผลคือส่วนหนึ่งของพืชท่ีเกิดจำกกำรผสมเกสรตัวผู้กับเกสรตัวเมียในดอกเดียว กันหรือคน ละดอกก็ได้ มีลักษณะรูปร่ำงท่ีแตกต่ำงกัน ออกไป ตำมประเภทและสำยพันธุ์รูปร่ำงลักษณะของ ผลมหี ลำยอยำ่ ง ตำมชนดิ ของต้นไมท้ แ่ี ตกตำ่ งกนั แบง่ ตำมลกั ษณะของกำรเกดิ ไดร้ วม 3 แบบ 1. ผลเด่ียว หมำยถึง ผลท่ีเกิดจำกรังไข่อันเดียวกัน ผลเดี่ยวแบ่งออกได้เป็น ผลสด ได้แก่ มะม่วง ฝร่งั ฟัก ผลแห้งชนิดแตกได้ เช่น ฝกั ถัว่ ผลรกั และผลเดย่ี วชนิดแห้งไม่แตก เช่น เมลด็ ข้ำว เมล็ดทำนตะวนั 2. ผลกลุ่ม หมำยถึง ผลท่ีเกิดจำกปลำยช่อของรังไข่ในดอกเดียวกัน เช่น น้อยหน่ำ กระดังงำ สตรอเบอร่ี เปน็ ตน้ 3. ผลรวม หมำยถึง ผลท่ีเกิดมำจำกดอกหลำยดอก เช่น สับปะรด ขนุน มีกำรแบ่งผล ออกเปน็ 3 ลกั ษณะคอื 3.1 ผลเน้อื 3.2 ผลแหง้ ชนดิ แตก 3.3 ผลแห้งชนิดไม่แตก พืชสมุนไพร มีมำกมำยหลำยลักษณะและหลำยประเภท สำมำรถจำแนกได้หลำยวิธี ซ่ึง พอจะทำกำรจำแนกพชื สมุนไพรพอสังเขปได้ ดงั น้ี 1. กำรจำแนกตำมลักษณะกำรใช้ประโยชน์

1.1 น้ำมันหอมระเหย ( Essential oil) พืชสมุนไพรหลำยชนิดสำมำรถนำมำสกัด น้ำมันหอมระเหยได้โดยวิธีกำรกล่ัน ซ่ึงจะได้น้ำมันหอมระเหยมีกลิ่นหอมแตกต่ำงกันไปตำมชนิด ของพืชสมุนไพร น้ำมันหอมระเหยนี้มีสำรสำคัญที่สกัดออกมำซึ่งจะใช้ประโยชน์ได้ตรงตำมวัตถุ ประสงค์มำกกว่ำ รวมท้ังกำรใช้ในปริมำณท่ีน้อยกว่ำเมื่อเทียบกับกำรนำพืชสมุนไพรมำใช้ในรูป อ่ืน ตัวอย่ำงของพืชสมุนไพรที่นำมำสกัดน้ำมันหอมระเหย เช่นน้ำมันตะไคร้หอม ใช้ใน อุตสำหกรรมผลิตสบู่ แชมพู น้ำหอมหรือใช้ทำสำรไล่แมลง น้ำมันไพล ใช้ในผลิตภัณฑ์ครีมทำ ภำยนอก ลดอำกำรอักเสบจำกกำรฟกช้ำ นำ้ มนั กระวำน ใชแ้ ตง่ กลนิ่ เหลำ้ เครอ่ื งดมื่ ต่ำง ๆ รวมท้ัง ใช้ในอุตสำหกรรมน้ำหอม น้ำมนั พลู ใช้ในอุตสำหกรรมเครื่องสำอำงหรือใช้เป็นเจลทำภำยนอกแก้ คัน 1.2 ยำรับประทำน พืชสมุนไพรหลำยชนิด สำมำรถนำมำใช้รับประทำนเพ่ือรักษำ อำกำรของโรคได้ อำจใชส้ มนุ ไพรชนิดเดียว หรือหลำยชนดิ รวมกันกไ็ ดท้ ั้งนี้ข้ึนอยู่กับสำระสำคัญที่ มีอยู่ในพืชสมุนไพร ชนิดน้ัน ๆ ที่ออกฤทธ์ิเพื่อกำรบำบัดรักษำ เช่น แก้ไข้ บอระเพ็ด ฟ้ำทะลำย โจร แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ กะเพรำ ไพล ขิง ระงับประสำท ข้ีเหล็ก ไมยรำพ ลดไขมันในเส้นเลือด คำฝอย กระเจีย๊ บแดง กระเทียม 1.3 ยำสำหรับใช้ภำยนอก เป็นพืชสมุนไพรที่สำมำรถนำมำบำบัดโรคท่ีเกิดขึ้นตำม ผิวหนัง แผลท่ีเกิดขึ้นตำมร่ำงกำยรวมท้ังแผลในปำก อำจใช้สมุนไพรชนิดเดียว หรือหลำยชนิด รวมกันก็ได้ ลักษณะของกำรนำมำใช้มีหลำยลักษณะมีท้ังใช้สด บดเป็นผง ครีม ท้ังน้ีข้ึนอยู่กับ สำรสำคัญที่มีอยู่ในพืชสมุนไพร และควำมสะดวกในกำรนำมำใช้ ตัวอย่ำงของพืชสมุนไพรที่ นำมำใช้เป็นยำสำหรบั ใช้ภำยนอก เช่น รักษำแผลในปำก บัวบก หว้ำ โทงเทง ระงบั กลิ่นปำก ฝรั่ง กำนพลู แก้แพ้ ผักบุ้งทะเล ตำลึง เท้ำยำยม่อม เสลดพังพอน รักษำแผลน้ำร้อนลวก บัวบก ยำสูบ วำ่ นหำงจระเข้ แก้งูสวัด ตำลงึ พุดตำน ว่ำนมหำกำฬ เสลดพังพอน 1.4 ผลิตภัณฑ์เสริมอำหำรและเคร่ืองดื่ม พืชสมุนไพรหลำยชนิดสำมำรถนำมำทำ เป็นผลิตภัณฑ์จำกธรรมชำติ ผู้บริโภคจึงรู้สึกปลอดภัยในกำรนำมำรับประทำน เช่น ดูดจับไขมัน จำกเส้นเลือด ลดน้ำหนัก บุก เปลี่ยนไขมันเป็นพลังงำน ลดน้ำหนัก ส้มแขก เครื่องด่ืมบำรุง สุขภำพ หญำ้ หนวดแมว คำฝอย หญำ้ หวำน 1.5 เคร่ืองสำอำง เปน็ กำรนำพืชสมุนไพรมำใช้อีกลักษณะหนึ่ง กำรนำพืชสมุนไพร มำใช้เป็นเครื่องสำอำงมีมำนำนแล้ว และในปัจจุบันได้รับกำรยอมรับมำกข้ึน เนื่องจำกปลอดภัย กว่ำกำรใชส้ ำรสงั เครำะห์ทำงเคมี ทำใหม้ ีผลิตภณั ฑ์ทผ่ี ลิตขนึ้ โดยมสี ่วนผสมของพืชสมุนไพรเกดิ ข้ึน มำกมำย เช่น แชมพู ครีมนวดผม สบู่ โลช่ัน ตัวอย่ำงพืชสมุนไพรท่ีนำมำใช้เป็นเครื่องสำอำงเช่น อญั ชนั วำ่ นหำงจระเข้ มะคำดคี วำย เห็ดหลนิ จอื เปน็ ตน้

1.6 ผลิตภัณฑ์ป้องกันกำจัดศัตรูพืช เป็นสมุนไพรท่ีมีฤทธ์ิเบื่อเมำหรือมีรสขม ซึ่งมี คุณสมบัติในกำรปรำบหรือควบคุมปริมำณกำรระบำดของแมลงศัตรูพืช โดยไม่มีพิษตกค้ำงใน ผลผลิต ไม่มีพิษต่อผู้ใช้และสภำพแวด สมุนไพรกำจัดหนอน เถำบอระเพ็ด ลูก ควินนิน เมล็ดมัน แก้ว เปลือกต้นไกรทอง เถำวัลย์ยำง เถำวัลย์แดง ต้นล้มเช้ำ หัวขม้ินชัน เมล็ดลำงลำด ใบแก่ ดำวเรือง ชะพลู พลูป่ำ กำนพลู ฝักคูนป่ำ ลูกยี่โถ ใบมะลินรก หัวกลอย ใบหนำมข้ีแรด ผล / เมล็ดฝักข้ำว สำบเสือ หำงไหลขำว / แดง เปลือกต้นจิกสน / จิกแล เมล็ดสะเดำ หนอนตำย- หยำก หัวไพล เปลือก / ผลมัง ตำล เมล็ด / ใบ / ต้นสบู่ต้น เทียนหยด ใบยอ ยำสูบ มะก ลำ ตำหนู ลกู สลอด สมุนไพรไล่แมลง ใบผกำกรอง ใบ / ดอกตมู ดำวเรอื ง ใบยอ หำงไหลขำว / แดง ใบ / เมล็ดน้อยหน่ำ ใบมะระข้ีนกต้นยำสูบ ยำฉุน เปลือกว่ำนหำงจระเข้ ใบ / เมล็ด / ต้นสบู่ต้น ใบ คำแสด เมล็ดแตงไทย ใบ / ดอก / ผลลำโพง ขิง ข่ำดีปลี โหระพำ สะระแหน่ พริกไทย กระชำย พรกิ สด ตะไคร้หอม / แกง กระเทียม ใบมะเขือเทศ ยี่หร่ำ ทุเรียนเทศหัวกลอย เมล็ดละหุ่ง เมล็ด โพธิ์ ดอกแคขำว ดอกเฟ่อื งฟ้ำ ดอกชบำ ดอกย่โี ถ มะกรดู สำบเสือ วำ่ นนำ้ ปะทดั จีน สมุนไพรกำจัดโรค (รำ แบคทีเรีย ไวรัส )ว่ำนน้ำ ลูก กะบูน ลูกค รัก ลูกเสม็ด สำบเสือ สบู่ต้น ลูกอินทนิลป่ำ ลูกตะโก ลูกมะเกลือ เปลือกว่ำนหำงจระเข้ เปลือกมะม่วง หิม พำนต์ เปลือกมังคุด เปลือกเงำะ เปลือกต้นแค ใบยูคำ ลิบตัส หัวไพล ใบ – มะรุม ต้นกระดูกไก่ ชะพลู กำนพลู หัวขมิ้นชัน ลูกกล้วยอ่อน เปลือกงวงกล้วย ลูกย่อสุก ต้นเทียนหยด ใบหูเสือ พริก สด รำก – หมอน ต้นแสยะ ใบมะเขือเทศ หน่อไมส้ ด ลกู หมำกสด สะระแหน่ สมุนไพรเครื่องเทศ เป็นสมุนไพรในกลุ่มท่ีนำมำใช้ประโยชน์ในกำรเป็น ส่วนประกอบอำหำร โดยมำกจะใชป้ ระโยชน์เพื่อกำรปรุงรสมำกกว่ำเพือ่ ตอ้ งกำรคุณค่ำทำงอำหำร ถำ้ หำกแบง่ พืชผกั สมนุ ไพรออกตำมอุณหภูมทิ ี่เหมำะสมกบั กำรเจริญเติบโต พอจะแบ่งได้ดังนี้ สมุนไพร เคร่ืองเทศ เมืองร้อน ได้แก่ สมุนไพรที่เจริญเติบโตได้ดีในภูมิอำกำศที่มี อุณหภูมอิ ยรู่ ะหวำ่ ง 20-30 องศำเซลเซยี ส เช่น กระเพรำ โหระพำ แมงลัก สะระแหน่ กระชำย ขิง ข่ำ ตะไคร้ ใบมะกรดู ซง่ึ เป็นสมนุ ไพรที่มี ปลกู แพรห่ ลำยทว่ั ไปในบ้ำนเรำ สมุนไพร เคร่ืองเทศ เมืองหนำว ได้แก่ สมุนไพรท่ีเจริญเติบโตได้ดีในภูมิอำกำศที่ ค่อนข้ำงเย็น มีอุณหภูมิระหว่ำง 15-20 องศำเซลเซียส ซ่ึงส่วนใหญ่ไม่มีปลูกทั่วไปในบ้ำนเรำ ยกเว้นในพ้ืนที่สูงที่มอี ำกำศหนำวเย็น และมีกำรสั่งเมล็ด พันธ์ุเข้ำทดลองปลูก แต่จะมีกำรปลูกกัน มำกในต่ำงประเทศ สมุนไพรพวกน้ีได้แก่ เบซิล พำร์สเร่ย์ ( ผักชีฝร่ัง) เปบเปอร์ม้ินท์ เชอร์วิล ทีม ออรกิ ำโน่ ไชฟ์ มำเจอรแ์ รม ดิล เซจ ชอเรล เลมอน-บำร์ม เอกสารอ้างอิง : https://sites.google.com/site/wimonrut2537/this-type-of-herb สมุนไพรไทยใกลต้ วั

กระเทยี ม สรรพคุณ : ฆ่ำพยำธิ ลดอำกำรอักเสบบวมแดง บำรุงกระเพำะ อำหำร ขับลม รักษำโรคบิด ท้องร่วง ไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน ไอ กรน ปอดบวม วณั โรคปอด แก้หวดั มำเลเรีย ช่องคลอดอักเสบ เนื่องจำกเช้ือรำ ข้ีกลำกท่ีหัว แผลเป็นหนอง แก้อำกำรปวดฟัน ป้องกนั โรคเสน้ เลือดหัวใจตบี ตนั ควำมดนั โลหติ สูง ขบั พยำธเิ ข็ม หมดุ ขมิน้ สรรพคุณ : ทำให้ถุงน้ำดีบีบตัวข้ึน รักษำอำกำรนิ่วในถุง น้ำดี ลดควำมดันเลือด ต้ำนเช้ือแบคทีเรีย เป็นยำ กระจำยเลอื ด กระจำยลม แก้ปวด รักษำอำกำรปวดทอ้ ง ท้องอืด ท้องเฟ้อ ประจำเดือนขำด ปวดท้องหลังคลอด บตุ ร ฟกชำ้ เนื่องจำกถกู ตี ฝหี นอง ปวดบรเิ วณหัวใจ แก้โรคกระเพำะ ปวดฟัน ค่ืนช่าย สรรพคุณ : ปรับประจำเดือนให้เป็นปกติ แก้อักเสบ ลดควำมดัน เลือด ทำให้สงบ ดับร้อน แก้ไอ บำรุงกระเพำะ ขับปัสสำวะ รักษำ ตับอักเสบ ติดเช้ือในทำงเดินปัสสำวะ เพ่ิมควำมแข็งแรงให้กระดูก และฟัน ป้องกันกำรแข็งตัวของเส้นเลือด ช่วยบำรุงครรภ์ บำรุง สมอง ชว่ ยควำมจำ ต้นหอม สรรพคุณ : ขับเหงือ่ แก้อักเสบบวมแดง ป้องกันโรค หวดั เย็น ปวดศีรษะ คัดจมูก ฝีหนองบวมปวด รักษำ อำกำรฟกช้ำเน่ืองจำกถูกตี รักษำอำกำรปวดท้อง เน่ืองจำกควำมเย็น ปัสสำวะ อุจจำระขดั บิด เป็นยำ

บำรุงไต บำรุงสำยตำ เสริมสมรรถภำพทำงเพศ กระจำยเลือดคั่ง ขับพยำธิ รักษำอำกำรเลือด กำเดำไหล ทำให้ร่ำงกำยอบอุ่น เพ่ิมอุณหภูมิร่ำงกำย บำรุงสมอง ขับพยำธิเข็มหมุด เด็กท้องอืด ทอ้ งเฟอ้ อำหำรไมย่ อ่ ย กระตุ้นใหห้ ลง่ั นำ้ นม ตะไคร้ สรรพคุณ : ต้ำนเช้อื รำ แก้หวดั ลมเย็น ปวดศรี ษะ ปวดท้อง ทอ้ งอืด ทอ้ งเฟ้อ ไขขอ้ อกั เสบ ฟกชำ้ เนือ่ งจำกถกู ตี ไอ รำ่ งกำยอ่อนเพลีย แตงกวา สรรพคุณ : เพ่ิมวิตำมินซึ่งช่วยเสริมกำรทำงำนของระบบ ประสำท ช่วยควำมจำ ลดอำกำรนอนไม่หลับ แก้กระหำยน้ำ ต้ำนมะเร็ง ขับปสั สำวะ ทำใหผ้ ิวหน้ำแจม่ ใส ลดอำกำร กะเพรา สรรพคุณ : รักษำโรคหวัด ปวดหัว ปวดเอว ปวดฟัน หลั่งน้ำกำม โดยไม่รู้ตัวเป็นประจำ ป้องกันยุงกัด รักษำบิดไทฟอยต์ เป็นยำถ่ำย ขับลมในเด็กอ่อน กระตุน้ กำรหลงั่ ของนำ้ นม ผักชี สรรพคุณ : ช่วยย่อย บำรุงกระเพำะ ช่วยเจริญอำหำร ขับ ลมขับพิษ กระตุ้นกำรหมุนเวียนของเลือด แก้หวัด ขับ เหง่ือ แก้โรคหัด ไอมำกเม่ือโดนลม ไอ เสมหะมำกเป็น ฟอง

ผักบงุ้ สรรพคุณ : ใช้รักษำผู้ป่วยโรคเบำหวำน ใช้ถอนพิษของอำหำรจำพวก เห็ดพิษ เป็นยำดับร้อน ขับปัสสำวะ รักษำอำกำรอำหำรเป็นพิษ เลือด กำเดำออก อำเจียนเป็นเลือด ปัสสำวะเป็นเลอื ด ฝีหนองบวม งูพิษกัด ไอเสมหะมีเลือด ตะขำบต่อย ระดูขำว ถูกตีฟกช้ำบวม เด็กตัวร้อน กระหำยน้ำ ปัสสำวะเหลือง เอกสารอ้างอิง: https://sites.google.com/site/smunphirbanheamiprayochn/smunphir-kil-taw การปลูกและบารงุ รกั ษาพชื สมุนไพร หลักกำรทั่วไปของกำรปลูกและบำรุงรักษำพืชทั่วไปและพืชสมุนไพร ไม่แตกต่ำงกัน แต่ ควำมอุดมสมบูรณ์ของพืชสมุนไพร จะเป็นเครื่องชี้บอกคุณภำพของสมุนไพรได้ พืชสมุนไพร ต้องกำรกำรปลูกและบำรุงรักษำใกล้เคียงกับลักษณะธรรำชำติของพืชสมุนไพรนั้นมำกที่สุด เช่น วำ่ นหำงจระเข้ ต้องกำรดินปนทรำย และอุดมสมบูรณ์ แดดพอเหมำะ หรอื ตน้ เหงอื กปลำหมอชอบ ข้ึนในท่ีดินเป็นเลน และท่ีดินกร่อยชุ่มช้ืนเป็นต้น หำกผู้ปลูกสมุนไพรเข้ำใจส่ิงเหล่ำนี้จะทำให้ สำมำรถเลือกวธิ ีปลกู และจัดสภำพแวดล้อมของต้นไม้ได้เหมำะกับพชื สมุนไพร ก็จะเจรญิ เติบโตได้ เป็นผลทำให้คณุ ภำพพืชสมุนไพรทีน่ ำมำรกั ษำโรคมีฤทธ์ดิ ีข้ึนดว้ ย กำรปลูกและกำรบำรงุ รกั ษำพืชสมุนไพร โดยอำศยั วิธีกำรทำงวิทยำศำสตร์ในประเทศไทย ไม่จริงจังเท่ำท่ีควร บำงประเทศได้ทดลองเพ่ือหำคำตอบว่ำ สภำพแวดล้อมอย่ำงไรจึงจะทำให้ สำระสำคัญในพืชสมุนไพรชนิดน้ันๆ มำกที่สุด ซึ่งต้องอำศัยควำมร่วมมือมำกกว่ำหนึ่งหน่วยงำน หรือกำรหำคำตอบว่ำวิธีกำรขยำยพันธ์ุพืชสมุนไพรแต่ละชนิด จะทำอย่ำงไรจึงจะเหมำะสมและ ประหยัดมำกที่สุด ในประเทศไทย หน่วยงำนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีงำนวิจัยด้ำนน้ีอยู่ บ้ำงและกำลงั ค้นคว้ำต่อไป การปลูก เป็นกำรนำเอำส่วนของพืช เช่น เมล็ด ก่ิง หัว ผ่ำนกำรเพำะหรือกำรชำ หรือ วธิ กี ำรอนื่ ๆ ใส่ลงในดนิ หรอื วัสดุอืน่ เพอื่ งอกหรือเจรญิ เตบิ โตต่อไป กำรปลูกทำได้หลำยวธิ ีคอื การปลูกด้วยเมล็ดโดยตรง วิธีนไ้ี ม่ต้องเพำะเป็นต้นกล้ำก่อน นำเมล็ดมำหวำ่ นลง แปลงได้เลย หลังจำกน้ันใชด้ ินร่วนหรอื ทรำยหยำบโรยทับบำงๆ รดน้ำให้ชน้ื ตลอดทกุ วัน เมื่อเมล็ด งอกเป็นต้นอ่อนจึงถอนต้นท่ีอ่อนแอออกเพื่อให้มีระยะห่ำงตำมสมควร ปกติมักใช้ในกำรปลูกผัก หรือพืชล้มลุกและพืชอำยุส้ัน เช่น กะเพรำ โหระพำ สว่ นกำรหยอดลงหลุมโดยตรงมักใชก้ ับพืชที่มี

เมล็ดใหญ่ เช่น ฟักทอง ละหุ่ง โดยหยอดในแต่ละหลุมมำกวำ่ จำนวนต้อนท่ีต้องกำร แล้วถอนออก ภำยหลงั การปลูกดว้ ยต้นกล้าหรือกิ่งชา ปลูกโดยกำรนำเมล็ด หรือกิ่งชำปลูกให้แข็งแรงดี ในถุงพลำสติกหรือในกระถำง แล้วย้ำยปลูกในพ้ืนท่ีที่ต้องกำร กำรย้ำยต้นอ่อนจำกภำชนะเดิมไป ยังพ้ืนที่ที่ต้องกำร ต้องไม่ทำลำยรำก ถ้ำเป็นถุงพลำสติกก็ใช้มีดกรีดถุงออก ถ้ำเป็นกระถำง ถอด กระถำงออกโดยใช้มือดนั รกู ลมที่ก้นกระถำง ถ้ำดินแน่นมำก ให้ใช้เสียมเซำะดินแลว้ ใช้นำ้ หลอ่ ก่อน จะทำให้ถอนง่ำยข้ึน หลุมที่เตรียมปลูกควรกว้ำงกว่ำกระถำงหรือถุงพลำสติกเล็กน้อย จึงทำให้ ต้นอ่อนเจริญเติบโตได้สะดวก วำงต้นไม้ให้ระดับรอยต่อระหว่ำงลำต้นกับรำกอยู่เสมอกับระดับ ของขอบหลุมพอดี แล้วกลบด้วยดินร่วนซุย หรือดินร่วมปนทรำย กดดินให้แน่นพอประมำณ นำ เศษไม้ใบหญ้ำมำคลุมไว้รอบโคนต้น เพ่ือรักษำควำมชุ่มชื้นและป้องกันแรงกระแทกเวลำรดน้ำ หำ ไม้หลัก ซึ่งสูงมำกกว่ำต้นไม้มำปักไว้ข้ำงๆ ผูกเชือกยึดกับต้นไม้ คอยพยุงมให้ต้นไม้ล้มหรือโยก คลอนได้ ปกติใช้กับต้นไม้ยืนต้น เช่น คูน แคบ้ำน ชุมเห็ดเทศ สะแก ข้ีเหล็ก เป็นต้น หรือใช้กับ พันธุ์ไม้ทง่ี อกยำกหรือมีรำคำแพง จึงจำเป็นต้องเพำะเมล็ดกอ่ น การปลูกด้วยหัว ปกติจะมีหัวท่ีเกิดจำกรำก และลำต้น เรียกช่ือแตกต่ำงกัน ใน ท่ีนจี้ ะรวมเรียกเป็นหวั หมด โดยไม่แยกรำยละเอียดไว้ สำหรบั กำรปลูกไม้ประเภทหัว ควรปลกู ในที่ ระบำยน้ำได้ดี มิฉะน้ันจะเน่ำได้ กำรปลูกโดยกำรฝังหัวให้ลึกพอประมำณ (ปกติลึกไม่เกิน 3 เท่ำ ของควำมกว้ำงหัว) กดดินให้แน่นพอสมควร คลมุ แปลงปลูกด้วยฟำง หรือหญ้ำแห้ง เช่น กำรปลูก หอม กระเทยี ม เอกสารอา้ งองิ : http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs1-3.htm

ใบงำนท่ี 1 เรอื่ ง ควำมหมำยสมุนไพร คาส่งั ใหน้ ักเรยี นอธบิ ำยเก่ียวกบั สมุนไพร 1. สมนุ ไพร หมำยถึงอะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. พชื สมุนไพร หมำยถึงอะไร …………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………

คาช้แี จงใหน้ ักเ ความหมายข (1)................. ..................... สมนุ ไพร ประเภทของสมุนไพร ในทอ้ งถิน่ (4)................................................................................... (5)................................................................................... (6) ................................................................................. (7) ................................................................................. (8) ................................................................................. (9) ................................................................................. ประโยชนข์ องสมนุ ไพร (10).............................................................................. (11).............................................................................. (12) ............................................................................. ใบงำนที่ 3 เรอ่ื ง ประโยชน์ของสมนุ ไพร

1. ให้นกั ศึกษำหำควำมรู้เพิ่มเตมิ เกย่ี วกบั พชื ผลไม้ทส่ี ำมำรถนำมำทำเครื่องดื่มบำรงุ สุขภำพไดว้ ำ่ มี อะไรบ้ำง แนะนำประโยชนใ์ ห้สมำชิกในครอบครัวได้ทรำบ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. นักศึกษำควรใช้เวลำว่ำงฝกึ ทำเครื่องดื่มทม่ี ปี ระโยชน์บำรุงสุขภำพบรกิ ำรสมำชกิ ในครอบครัว ขอคำแนะนำในเรื่องรสชำติ และกำรจดั บริกำร เพื่อนำประสบกำรณ์มำใช้เมอ่ื มโี อกำส ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………….………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ใบงำนที่ 4 เรือ่ ง กำรปลูกและบำรุงรกั ษำสมนุ ไพร

คาสั่ง ให้นกั เรียนอธิบำยเกีย่ วกับหลกั กำรท่ัวไปในกำรปลูกและบำรงุ รักษำสมุนไพร หลักการท่วั ไป ในการปลูกและ บารุงรักษา สมุนไพร แบบทดสอบ คำชี้แจง ให้ทำเครื่องหมำย X ทบั ตัวอกั ษรหน้ำคำตอบทถ่ี ูกต้องทส่ี ุดเพยี งข้อเดียว

1. ผสู้ ูงอายุ หรือผทู้ ี่มีน้าหนกั เกินมาตรฐาน ควร ค. มีเคร่ืองหมาย มอก. รับรอง เลือกเคร่ืองดื่มในขอ้ ใด ง. มีเคร่ืองหมาย มอผ. รับรอง 7. วตั ถุดิบจากพชื ในขอ้ ใด สามารถนามาทาเป็น ก. นมพร่องมนั เนย เครื่องด่ืมได้ ข. พนั๊ ซ์หรือคอ็ กเทล ก. องุ่น ค. เครื่องดื่มบารุงกาลงั ข. มะนาว ง. เคร่ืองด่ืมท่ีไม่มีแอลกอฮอล์ ค. ทบั ทิม ง. แกว้ มงั กร 2. ขอ้ ใด ไม่ใช่ เครื่องดื่มเพือ่ สุขภาพ 8. เบตา้ แคโรทีนเป็นคุณคา่ ทางอาหารที่มีอยใู่ น ก. น้าลาไย เคร่ืองด่ืมชนิดใด ข. น้าหวาน ก. น้าองุ่น ค. น้ากระเจี๊ยบ ข. น้ามะนาว ง. น้าตะไคร้หอม ค. น้ามะเขือเทศ ง. มะพร้าวน้าหอม 3. เคร่ืองดื่มท่ีมีประโยชนใ์ นขอ้ ใดควรเลือกด่ืม 9. ใบไมช้ นิดใดสามารถนามาใชใ้ นการตกแต่ง มากที่สุด แกว้ เครื่องดื่มได้ ก. ใบเฟิ ร์น ก. ไวน์ ข. ใบผกั ชี ข. น้าหวาน ค. ใบข่ึนฉ่าย ค. น้าอดั ลม ง. ใบสะระแหน่ ง. น้าส้มค้นั 10. ขอ้ ใดปฏิบตั ิถูกตอ้ ง 4. อุปกรณ์ในขอ้ ใดใชท้ าน้าผลไม้ ก. บริการเครื่องดื่มดา้ นซา้ ยมือของแขก ก. หมอ้ น่ึง ข. บริการเครื่องดื่มดา้ นขวามือของแขก ข. กะละมงั ค. เขา้ บริการเครื่องดื่มดา้ นหนา้ ของแขก ค. เคร่ืองค้นั ง. เขา้ บริการเคร่ืองดื่มดา้ นใดกไ็ ดข้ องแขก ง. เคร่ืองกรอง 5. ถา้ นกั เรียนตอ้ งการซ้ือน้าผลไมส้ ดรับประทาน ควรพจิ ารณาในเรื่องใดสาคญั ที่สุด ก. ราคา ข. สถานท่ี ค. สีน้าผลไม้ ง. ความสะอาด 6. ในการเลือกซ้ือเคร่ืองดื่มสาเร็จรูปท่ีบรรจุ ผลิตภณั ฑ์ มีหลกั สังเกตอยา่ งไร ก. มีเคร่ืองหมาย อย. รับรอง ข. มีเคร่ืองหมาย อยร. รับรอง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook