- ราพนั ถึงเหตุการณ์ ลมฟ้าอากาศในรอบเดือนหน่ึงๆ โดยเริ่มต้งั แต่เดือน หา้ จนถึงเดือนสี่วา่ ไปจนครบ 12 เดือน พรรณนาผสานกบั ความรัก - มีการพดู ถึงงานเทศกาลงานพธิ ีต่าง ๆ ท่ีมีในแต่ละเดือน - ตอนสุดท้ายเป็ นการถามข่าวคราวของนางจากปี เดือน วนั ยาม แลว้ ขอ พรจากเทพยาดาขอใหไ้ ดพ้ บนางอนั เป็นท่ีรัก - จบลงดว้ ยการสรรเสริญพระบารมีของพระมหากษตั ริยอ์ นั เป็นท่ีรักยง่ิ เหนือสิ่งอ่ืนใด แลว้ กบ็ อกช่ือคนแต่ง
ตวั อย่างโคลงทวาทศมาส • เดือนห้า ฤดูเดือนเจตรร้อน ทรวงธร ทุกยา่ ยามโดรดวง ด่วนน้อง จาระจาเราอร อรนิต หายแม่ อนิ ทรแลพรหมยมป้อง ไป่ คืน ฯ ** โดร = หอม, มกี ลน่ิ หอมทฟ่ี ุ้งไป
ตัวอย่างโคลงทวาทศมาส • เดือนหก ฤๅวาย เดือนหกเรียมไห้ร่า ท่องหล้า งอนง่า ยามย่อมชนบทถือ แล่นตาม ธงธวชั โบกโบยปลาย คดิ ว่ากรกวกั ข้า
• เดือนอ้าย ลมเฮย บ่าไส้ ลมพดั เผยอข่าวดว้ ย ลาญสวาดิ ลมแล่นรับขวญั บิน แม่มา ฯ เรียมรักร่ายงั เลย บินบน สารสงั่ วา่ ววานให้ วา่ วหวา้ ย ไฉนอยู่ วา่ วรับข่าวแลว้ วา่ ว แสบทรวง ฯ ลมส่งสายทรุงพา เรียมฟังข่าวนุชฉงน วา่ วบ่บอกสารหนา้ ย
• ยอพระเกยี รติพระมหากษตั ริย์ จอมกษตั ริย์ บุญญาดเิ รกเจ้า ทั่วไท้ จอมโลก ธรพ่อ ครองครอบภูดาธาร หว่านมาลย์ ฯ จงเป็ นปิ่ นจักรพรรดิ ดินหาย กด็ ี ร้อยราชถวายกรไหว้ อย่าแคล้ว ทบท่าว ลงแฮ ตราบสิ้นสุริเยศฟ้า แผ่นฟ้าภพไตร ยงั พระยศยงั สถาน ตราบเมรุครี ีทลาย คงคอบบุญท้าวแผ้ว
คุณค่าของโคลงทวาทศมาส • ในด้านอกั ษรศาสตร์ มีการใชถ้ อ้ ยคาสานวนพรรณนาถึงความรักอยา่ งซาบซ้ึง โดยใชเ้ หตุการณ์ และฤดูกาลที่เกิดข้ึนในเดือนต่างๆมาเปรียบเทียบ • ในด้านวฒั นธรรมประเพณี ทาใหร้ ู้วา่ ชาวไทยน้นั มีประเพณีหลากหลาย
ลลิ ติ พระลอ • ลิลิตพระลอ เป็นยอดวรรณคดีประเภทลิลิต • เขา้ ใจกนั วา่ เป็นเร่ืองจริงเล่ากนั เรื่อยมาจนกลายเป็นนิยายช่ือดงั ของทอ้ งถิ่นไทย ภาคเหนือ • สนั นิษฐานวา่ เมืองสรองอยแู่ ถว ๆ จงั หวดั แพร่ อาเภอร้องกวาง • ส่วนเมืองสรวง น่าจะอยจู่ งั หวดั ลาปาง ในอาเภอแจห้ ่ม
ลลิ ติ พระลอ ผู้แต่ง: ไม่ปรากฏหลกั ฐานแน่นอนวา่ ใครเป็นผแู้ ต่งและแต่งในสมยั ใด น่าจะแต่งในสมยั สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถ หรือสมเดจ็ พระนารายณ์กไ็ ม่ ทราบแน่ชดั ทานองแต่ง: แต่งเป็นลิลิตสุภาพ ซ่ึงประกอบดว้ ยร่ายสุภาพ และโคลงสี่สุภาพ อีกท้งั มีบางตอนกเ็ ป็นร่ายโบราณ และไม่สูเ้ คร่งครัดในฉนั ทลกั ษณ์มากนกั วตั ถุประสงค์ในการแต่ง: เพอ่ื ใหพ้ ระกษตั ริยท์ รงอ่านเป็นที่สาราญพระทยั
ตัวอย่างชมโฉมพระลอ รอยรูปอินทรหยาดฟ้า มาอ่าองคใ์ นหลา้ เอวอ่อนอรอรรแถง้ แหล่งใหค้ นชม แลฤๅ ฯ งามเลิศงามลว้ นแล้ พระองคก์ ลมกลอ้ งแกลง้ ทุกทว่ั คนเท่ียวคา้ ถว้ นแห่งเจา้ กงู าม บารนี ฯ โฉมผจญสามแผน่ แพ้ รูปตอ้ งติดใจ บารนี ฯ ฦๅขจรในแหล่งหลา้ เล่าลว้ นยอโฉม ท่านแล ฯ
ตวั อย่างชมโฉมพระลอ เดือนจรัสโพยมแจ่มฟ้า ผิบไดเ้ ห็นหนา้ ลอราชไซร้ดูเดือน ดุจแล ฯ ตาเหมือนตามฤคมาศ พิศคิ้วพระลอราช ประดุจแกว้ เกาทณั ฑ์ ก่งนา ฯ พศิ กรรณงามเพริศแพร้ว กลกลีบบงกชแกว้ อีกแกม้ ปรางทอง เทียบนา ฯ ทานองนาสิกไท้ คือเทพนฤมิตไว้ เปรียบดว้ ยขอกาม ฯ
ตัวอย่างชมโฉมพระเพ่ือนพระแพง ทุกเมืองมีลูกทา้ ว นบั มี มากนา บเปรียบสองกษตั รีย์ พระแพงแม่มีศรี พน่ี อ้ ง พระเพื่อนโฉมยงหยอ้ ง สวสั ด์ิยงิ่ คณนา อยเู่ พ้ยี งดวงเดือน ฯ โฉมสองเหมือนหยาดฟ้า ลงดิน งามเงื่อนอปั สรอินทร์ สู่หลา้ อยา่ คิดอยา่ ควรถวลิ ชมยะแยม้ ทวั่ หนา้ ถึงยาก แลนา หน่อทา้ วมีบุญ
ตวั อย่างตอนพระลอเส่ียงน้า มากจู ะเสี่ยงน้า นองไป ปรี่นา น้าชื่อกาหลงใหล เชี่ยวแท้ ผวิ กจู ะคลาไคล บรอด คืนนา น้าจุ่งเวียนวนแม้ รอดไส้จงไหล ฯ เวยี นวน อยนู่ า คร้ันวางพระโอษฐน้า เลือดยอ้ ม เห็นแก่ตาแดงกล ทุกขใ์ หญ่ หลวงนา หฤไทยรทดทน เท่าทา้ วทบั ทรวง ถนดั ดง่ั ไมร้ ้อยออ้ ม
ลกั ษณะไก่ทปี่ ่ ูเจ้าสมงิ พรายใส่มนต์เสน่ห์ไว ป่ ูกระสลั ถึงไก่ไพรพฤกษ์ ป่ ูลาฦกไก่ไก่กม็ า บรู้กี่คณาก่ีหมู่ ป่ ูเลือกไก่ตวั งาม ทรง ทรามไวยทรามแรง สร้อยแสงแรงพพราย ขนเขียวลายยยบั ปี กสลบั เบญจรงค์ เล่ือมลาย หงส์สิบบาท ขอบตาชาดพพริ้ง สิงคลิ้งหงอนพรายพรรณ ขนั ขานเสียงเอาใจ เดือยงอน ใสสีระรอง สองทา้ วเทียมนพมาศ เพียงฉลุชาดทารง ป่ ูกใ็ ชผ้ ลี งแก่ไก่ ไก่แกว้ ไซร้บมิกลวั ขกุ ผกหวั องอาจ ผาดผนั ตีปี กป้อง ร้องเรื่อยเฉ่ือยฉาดฉาน เสียงขนั ขานแจว้ แจว้ ป่ ูกส็ งั่ แลว้ ทุกประการ มินานผาดโผนผยอง ลงโดยคลองบหึง คร้ันถบั ถึงพระเลืองลอ ยกคอขนั ขานร้อง ตีปี กป้องผายผนั ขนั เอ้ือยเจ้ือยไจไ้ จ้ แลว้ ไซป้ ี กไซห้ าง โฉมสาอางสาอาจ
คุณค่าของลลิ ติ พระลอ 1. ในด้านอกั ษรศาสตร์ นบั เป็นวรรณคดีท่ีใชถ้ อ้ ยคาไดอ้ ยา่ งไพเราะ ปลุก อารมณ์ร่วมไดท้ ุกอารมณ์ เป็นวรรณคดีที่มีอิทธิพลต่อวรรณคดีอ่ืน ๆ มากอยา่ ง บทเสียงลือเล่าที่วา่ “เสียงลือเสียงเล่าอา้ ง อนั ใด พ่เี อย เสียงยอ่ มยอยศใคร ทวั่ หลา้ สองเขือพีห่ ลบั ใหล ลืมต่ืน ฤาพี่ สองพค่ี ิดเองอา้ อยา่ ไดถ้ ามเผือ”
คุณค่าของลลิ ติ พระลอ 2. ในด้านพระศาสนา ไดใ้ หแ้ ง่คิดทางศาสนา อยา่ งเช่น ความไม่เที่ยงแท้ แน่นอนของชีวติ ซ่ึงเป็นของแน่ยงิ่ กวา่ แน่เสียอีก อยา่ งบทที่วา่ สิ่งใดในโลกลว้ น อนิจจงั คนแต่บาปบุญยงั เที่ยงแท้ คือเงาติดตวั ตรัง ตรึงแน่นอยนู่ า ตามแต่บุญบาปแล้ ก่อเก้ือรักษา
คุณค่าของลลิ ติ พระลอ • หรือบททีว่ ่ากฎแห่งกรรม ถึงกรรมจกั อยไู่ ด้ ฉนั ใด พระเอย กรรมบ่มีมีใคร ฆ่าเขา้ กศุ ลส่งสนองไป ถึงที่ สุขนา บาปส่งจาตกชา้ ช่วยไดฉ้ นั ใด
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116