ความหมายของ(Cryptocurrency) (Cryptocurreny) คือ สกลุ เงินดิจิทลั หรือสกลุ เงินเสมือนที่ใชก้ ารเขา้ รหสั เพ่ือทาใหม้ ีความปลอดภยั ซ่ึง แทบจะเป็นไปไม่ไดเ้ ลยที่จะปลอมแปลงหรือจ่ายซ้าสกลุ เงินดิจิทลั จานวนมากเป็นระบบกระจาย อานาจบนพ้นื ฐานของเทคโนโลยบี ลอ็ กเชน (Blockchain) ท่ีเป็นบญั ชีแยกประเภทกระจายและมีการ บงั คบั ใชโ้ ดยเครือข่ายที่แตกต่างกนั ของคอมพิวเตอร์
ววิ ฒั นาการของระบบดจิ ิทลั สกลุ เงินดิจิทลั ปี ค.ศ.6000 B.C. มีการแลกเปล่ียนชองตามท่ีตกลงกนั เช่น เอาไขไ่ ปแลกกบั แอปเปิ ล ปี ค.ศ.1000 B.C. ใชเ้ หรียญโลหะและหอยเบ้ียมาเป็นสื่อกลางในการซ้ือขายหรือแลกเปล่ียนสินคา้ ระหวา่ งชุมชน ปี ค.ศ.1806 เงินกระดาษและธนบตั ร ปี ค.ศ.1816 องั กฤษเป็นประเทศแรกท่ีไดร้ ับมาตรฐานทองคาอยา่ งเป็นทางการในปี ค.ศ.1816 และต่อมาสหรัฐอเมริกาได้ ประกาศใชม้ าตรฐานทองคาในปี ค.ศ.1900 ปี ค.ศ.1950 แฟรงค์ แมคนามาราไดร้ ่วมมือกบั ทนายความ ราลฟ์ ชไนเดอร์สร้างบตั รไดเนอร์สคลบั เพื่อใชใ้ นการซ้ือสินคา้ และบริการแทนเงินสด ภายหลงั บริษทั American Express และ Visa ไดอ้ อกบตั รเครดิต เพื่ออานวยความสะดวกให้กบั นกั ท่องเที่ยว ปี ค.ศ.1994 ธนาคารต่างๆ ในสหรัฐอเมริกาไดเ้ ริ่มมีการศึกษาระบบ Online Banking และในปี ค.ศ.1995 ไดม้ ีการเปิ ด บริการบนอินเทอร์เน็ต ปี ค.ศ.2009 บิตคอยน์ คือ สกลุ เงินดิจิทลั ตวั แรกที่ถูกสร้างข้ึนในปี ค.ศ.2009
วธิ ีการทางานของ Cryptocurrency Cryptocurrency เป็นเงินสดดิจิทลั ที่ไม่มีอานาจหนา้ ท่ีของรัฐบาลกลาง หมายถึง ไม่มีบุคคลหรือ สถาบนั ควบคุมแนวคิดคลา้ ยกบั เครือข่ายแบบ Peer-to-Peer สาหรับการแชร์ไฟล์ Cryptocurrency สร้างใหม่ เช่น บิตคอยน์ จะป้อนลงในฐานขอ้ มูลที่เรียกวา่ บลอ็ กเชน สกลุ เงินถูก สร้างข้ึนเม่ือคอมพิวเตอร์ขดุ ชุดอลั กอริทึมที่ซบั ซอ้ นในกระบวนการที่เรียกวา่ เหมือนแร่ อลั กอริทึม เหล่าน้ีใชใ้ นการเขา้ รหสั เพือ่ รักษาความปลอดภยั การทาธุรกรรมและควบคุมการสร้างหน่วยงาน เพิม่ เติม
การใช้สกลุ เงนิ ดิจทิ ลั ในประเทศไทย ปัจจุบนั ระบบสกลุ เงินดิจิทลั เร่ิมใกลต้ วั คนไทยมากข้ึน โดยเฉพาะผทู้ ี่มองวา่ เป็นทางเลือกในการ ลงทุนและกลา้ รับความเสี่ยง ส่วนธนาคารแห่งประเทศไทยเริ่มเห็นประโยชนจ์ าก Wholesale CBDC ในการเพิ่มประสิทธิภาพระบบการชาระเงินระหวา่ งสถาบนั การเงิน แต่การออก CBDC ใหป้ ระชาชน ใชอ้ าจยงั ดูไกลตวั ตราบใดที่การใชค้ ริปโทยงั ไม่สร้างความเส่ียงต่อเสถียรภาพของระบบการเงิน รวมถึงคนไทยยงั ไม่มนั่ ใจในการใชส้ กลุ เงินบาท และความมนั่ คงในระบบการชาระเงินของประเทศ อยู่
1. สกลุ เงิน Dash เป็นสกลุ เงินที่ไดร้ ับความนิยมใชม้ ากที่สุดอนั ดบั ท่ี 5 เป็นสกลุ เงินดิจิทลั ตวั ใหม่ท่ีไดร้ ับความนิยม อยา่ งรวดเร็ว ดว้ ยแนวคิดส่งเงินกนั ไดอ้ ยา่ งรวดเร็วไม่ตอ้ งรอนานเหมือนอยา่ งบิตคอยน์ จึงไดร้ ับความ นิยมอยา่ งมากจากร้านคา้ ออนไลน์
2. สกลุ เงนิ Litecoin เป็นสกลุ เงินดิจิทลั ที่ใชเ้ ครือข่ายแบบ Peer-to-Peer ที่ช่วยใหก้ ารจ่ายค่าใชจ้ ่ายใกลเ้ คียงกบั ทุกคนใน โลกทนั ที โดย Litecoin เป็น Open-Source เครือข่ายการชาระเงินที่ปลอดภยั ในเชิงคณิตศาสตร์และ กระจายอานาจอยา่ งทวั่ ถึงและดว้ ยเหตุน้ีจึงไดร้ ับการสนบั สนุนอุตสาหกรรมจานวนมาก รวมถึงมี ปริมาณในการซ้ือขายและสภาพคล่องเป็นสื่อกลางในการแลกเปล่ียนที่พสิ ูจนแ์ ลว้
3. สกลุ เงนิ Ripple สกลุ เงินน้ีเป็นแพลตฟอร์มสาหรับการ Digital Asset และสามารถส่งขา้ มโลกกนั ไดภ้ ายในเวลา อนั รวดเร็ว ซ่ึงเป็นแนวคิดท่ีสามารถมาเปล่ียนโลกการเงินไดอ้ ยา่ งกวา้ งขวาง ทาใหส้ ถาบนั การเงินทว่ั โลกตื่นตวั กนั อยา่ งมาก
4. สกลุ เงนิ Ethereum(ETH) เป็นแนวคิดที่นาเอาบลอ็ กเชนมาและใส่ Business Logic ใดๆ กไ็ ดต้ ามตอ้ งการเขา้ ไปและทางาน อตั โนมตั ิไดบ้ นบลอ็ กเชน ซ่ึงทาใหม้ ีความสนใจในเทคโนโลยบี ลอ็ กเชนน้ีกนั อยา่ งกวา้ งขวาง และ เป็นผทู้ ่ีทาใหเ้ กิดแนวคิด Smart Contract เกิดข้ึน
การได้มาซ่ึงเหรียญ ETH มชี ่องทางการได้มาหลายช่องทางตามแต่ละคนจะสะดวก แต่วธิ ีการหลกั ๆ มี 3 วธิ ี ดงั นี้ 1. ขดุ เอง สาหรับผทู้ ี่มีคอมพิวเตอร์ท่ีมีคุณภาพข้นั สูงเพราะการขดุ เหมือง คือ การที่จะตอ้ งมีการนาทรัพยากรคอมพิวเตอร์ไป ประมวลผลตามสูตรใหผ้ า่ นเง่ือนไขท่ีกาหนด ซ่ึงผทู้ ี่มีคอมพิวเตอร์ช้นั สูงจะประมวลผลไดเ้ ร็วข้ึน เม่ือประมวลผลไดเ้ ร็วก็ จะมีโอกาสผา่ นเง่ือนไขท่ี Ethereum กาหนดก่อน พร้อมกบั ตอ้ งเป็นคนที่มีช่วงจงั หวะดว้ ยเหมือนกบั การเล่นหุน้
2. จ้างคนอ่ืนขุด การไปซ้ือคอมพิวเตอร์พาวเวอร์จากผใู้ หบ้ ริการมาช่วยในการขดุ เหมือง ซ่ึงวธิ ีน้ีมีโอกาสที่จะทากาไรไดพ้ อสมควร เช่น ถา้ ซ้ือคอมพิวเตอร์พาวเวอร์จากผใู้ หบ้ ริการมีระยะสญั ญา 12 เดือนแต่ผใู้ หบ้ ริการสามารถขดุ เหมืองจนทาใหส้ ามารถคืน ทุนไดช้ ่วงเดือนที่ 8 หมายความวา่ อีก 4 เดือนที่เหลือสญั ญา ETH ท่ีขดุ ไดน้ ้นั จะเป็นกาไรท้งั น้ีกข็ ้ึนอยกู่ บั ช่วงเวลาที่ ดาเนินการดว้ ยโดยวิธีการน้ีจะเรียกวา่ Cloud Mining ตวั อย่างผ้ใู ห้บริการขดุ เหมืองที่น่าเชื่อถือ
5. บติ คอยน์ (Bitcoin) สกลุ เงินดิจิทลั ท่ีไดร้ ับความรับความนิยมใชม้ ากที่สุดอนั ดบั ที่ 1 ทาใหโ้ ลกรู้จกั เทคโนโลยบี ลอ็ กเชน และปัจจุบนั ไดร้ ับความนิยมอยา่ งมาก สามารถนามาซ้ือของในโลกPhysical ไดแ้ ลว้ ในต่างประเทศ หลายๆ ประเทศ ไดร้ ับการต้งั ชื่อใหเ้ ป็น”ทอง” ในโลกดิจิทลั ถูกพฒั นาโดยผใู้ ชน้ ามแฝงวา่ ”ซาโตชิ นากาโมโตะ”
ระบบการทางานของบติ คอยน์(Bitcoin) นาระบบการทางานของอลั กอริทึมมาใช้ แลว้ กาหนดปริมาณเงินในระบบไวไ้ ม่ใหเ้ กิน 21 ลา้ นหน่วย ทาใหบ้ ิตคอยน์เร่ิมเป็นที่นิยมมากข้ึน เนื่องจากมีระบบป้องกนั เงินเฟ้อนนั่ เอง
กฎหมายกบั สกลุ เงนิ ดจิ ิทลั จากความนิยมท่ีสูงข้ึนของสกลุ เงินดิจิทลั ในประเทศไทย ทาใหเ้ ม่ือเดือนมิถุนายน พ.ศ.2561 สานกั งานคณะกรรมการกากบั หลกั ทรัพยแ์ ละตลาดหลกั ทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไดอ้ อกมาใหค้ วามชดั เจน แลว้ วา่ สามารถซ้ือ-ขายแลกเปลี่ยนสินทรัพยด์ ิจิทลั ในไทยไดอ้ ยา่ งกฎหมาย ภายใตร้ าชกาหนด (พ.ร.ก.) การประกอบธุรกิจสินทรัพยด์ ิจิทลั พ.ศ.2561 โดยตอ้ งผา่ น 7 สกลุ เงินดิจิทลั ที่กาหนดเท่าน้นั
7 สกลุ เงินดิจทิ ลั Bitcoin (BTC) Bitcoin Cash (BCH) Ethereum (ETH) Ethereum Classic (ETC) Litecoin (LTC) Ripple(XRP) Stellar (XLM)
ข้อดขี องสกลุ เงินดจิ ทิ ลั ถือเป็นสญั ญาวา่ จะทาใหก้ ารโอนเงินง่ายข้ึนระหวา่ งท้งั สองฝ่ ายเพือ่ ทาธุรกรรมไดง้ ่ายข้ึน โดยไม่ จาเป็นตอ้ งมีบุคคลที่สามท่ีเช่ือถือได้ ในระบบสกลุ เงินดิจิทลั ที่ทนั สมยั ”กระเป๋ าเงิน” หรือท่ีอยบู่ ญั ชีของผใู้ ชม้ ีรหสั สาธารณะและใชก้ ญุ แจ ส่วนตวั ในการเซ็นธุรกรรม การโอนเงินเสร็จสิ้นดว้ นค่าธรรมเนียมการดาเนินการข้นั ต่า ทาใหผ้ ใู้ ช้ สมารถหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมที่เรียกเกบ็ จากธนาคารและสถาบนั การเงินส่วนใหญส่ าหรับการโอน เงิน
ข้อเสียของสกลุ เงินดิจิทลั เน่ืองจากสกลุ เงินดิจิทลั เป็นสิ่งเสมือนจริงและไม่มีท่ีเกบ็ ส่วนกลางทาใหค้ วามสมดุลของเงินดิจิทลั จะ ถูกลบออกจากส่วนของความผดิ พลาดในคอมพิวเตอร์ หากไม่สาเนาสารองของการถือครองหรือถา้ หากผใู้ ดสูญเสียกญุ แจส่วนตวั ไป ในขณะเดียวกนั น้ีจะไม่มีหน่วยงานใดๆ ไม่วา่ จะเป็นองคก์ รกลาง รัฐบาลหรือบริษทั ใดๆที่จะสามารถเขา้ ถึงทรัพยส์ ินหรือขอ้ มูลส่วนตวั
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: