เรื่องเล่าคนชายขอบ Emergency Trip with Bhutanese
EMERGENCY 12 TRIP WITH BHUTANESE ท ำ ใ ห้ ต อ น นั้ น ฉั น ก ำ ลั ง พ ย ำ ย ำ ม ห ำ ส มั ค ร ง ำ น ใ ห ม่ ผ่ ำ น เ ว็ บ ไ ซ ต์ ห ำ ง ำ น ‘ ท ำ ไ ม เ ร ำ ต้ อ ง ม ำ ท ำ ง ำ น ที่ นี่ ด้ ว ย น ะ ’ เหมือนทุกครั้ง ฉันทำแบบน้ีมำตลอด ฉันบ่นคำนี้มำตลอด 3 เดือนที่มำ 3 เดอื น ตง้ั แตท่ ี่มำอยู่ที่น่ี มองนำฬิกำ ทำงำนท่ีน่ี แม้ว่ำฉันจะเลือกเข้ำมำสอบ ตอนนี้บอกเวลำเข้ำงำนแล้ว ซ่ึงเป็น ท่ีน่ีเพรำะคิดว่ำงำนนี้เป็นงำนท่ีฉันถนัด จดุ เริม่ ตน้ ของส่ิงท่ีเกดิ ขน้ึ แต่ฉันก็รู้ดีว่ำฉันเป็นคนท่ีเบ่ือง่ำย “ลูกตำล พ่ีมีงำนด่วน น้องไปช่วยพี่ ชอบแสวงหำสิ่งใหม่ๆทำ และชอบ หน่อย” พห่ี วำยเรยี กฉนั ไปคยุ ทำงำนกับชำวต่ำงชำติเป็นอย่ำงมำก “ค่ะ มีอะไรคะพ่ีหวำย งำนอะไรคะ” แต่เนื่องจำกไม่เคยทำงำนแบบน้ันมำ ฉนั ถำม ด้วยควำมสงสัย ก่อนเลยไม่กล้ำที่จะลองออกไปทำอะไร “วันนี้จะมีคนภูฏำนมำดูงำน ไปรับ ใหม่ๆ จึงต้องทนกับส่ิงที่เป็นอยู่ใน ด้วยกันเถอะ” พ่ีหวำยชวนฉัน พร้อม ตอนนั้น สงั เกตสหี นำ้ ของฉัน “ฮะ อะไรนะคะ จริงหรอ ไมเ่ คยทำเลย วันน้ีเป็นเช้ำวันจันทร์ท่ีน่ำเบื่อสำหรับ คะ่ ” ฉนั ถำมออกไปทันที ฉันเหมือนเช่นเคยฉันมำทำงำนด้วย “ตอ้ งทำยังไงบำ้ งคะ ไปท่ีไหน ต้องพูด ควำมอ่อนล้ำ ใจหนึ่งของฉันคิดจะย้ำย ยังไงคะ” ฉันถำมออกไปอีกหลำย งำนไปทำงำนท่ีสำมำรถทำให้ฉันมี คำถำม ดว้ ยควำมตื่นเตน้ ชวี ิตชีวำมำกกวำ่ น้ี
23 “ถำมเยอะแท้ ใจเย็นก่อนนะน้อง ปะ ไปกับพ่ีก่อนรอบนี้” พี่หวำยตอบ พรอ้ มจงู มือฉนั ออกไป “คะ่ ง้ันไปกนั เลยค่ะ” ฉันรับคำและเดิน ตำมพี่ไป ณ หน้ำอำคำรหนึ่งของกรม ควบคุมโรคที่ซึ่งจะมีท่ีจอดรถชั่วครำว สำหรับรับส่งแขกท่ีมำท่ีกรมควบคุม โรคแหง่ น้ี ฉันเดนิ ลงบันไดมำพร้อมกับ พ่ีหวำย เม่ือมำยืนรอได้สักพัก ไม่นำน ก็ มี ก ลุ่ ม ค น ส่ี ค น เ ดิ น ม ำ จ ำ ก ถ น น ทำงด้ำนขวำมือของฉัน ในกลุ่มนั้น มี หญิงวัยกลำงคน 2 คน ผมยำวประบ่ำ คนหนึ่งสวมเส้ือแขนส้ันคอปกสีกรมท่ำ และกำงเกงสีดำ สีหน้ำยิ้มแย้ม เป็น มิตรและมีควำมสดใสตลอดเวลำ อีก คนสวมเส้ือเช๊ิตแขนยำวสีน้ำเงินและ กำงเกงสีเทำ ใบหน้ำย้ิมแย้ม อบอุ่น เชน่ กัน และชำยวัยกลำงคน 2 คน คนหนึ่ง สีผิวค่อนข้ำงขำว สูงประมำณ 180 เซนติเมตร สวมเสื้อแขนสั้นคอปกสีขำว และกำงเกงสีเทำ ใบหน้ำเรียบนิ่ง และ สุขุม อีกคนสีผิวเข้ม เต้ียกว่ำอีกคน สวมเส้ือเชิ๊ตแขนยำวสีฟ้ำและกำงเกงสี เทำ ใบหนำ้ ยมิ้ แย้ม เป็นกันเอง ฉันและพี่หวำยไม่แน่ใจว่ำใช่กลุ่มคณะดู งำนชำวภูฏำนหรือไม่ พี่หวำยจงึ ถำมเพ่ือ ควำมแนใ่ จ
“Are you a Bhutan group and come to study visit at the 34 Department of Diseases Control?” พ่หี วำยถำม “Yes” ชำยคนหนึ่งในกลุ่มนั้นตอบหลังจำกได้รับกำรยืนยันจำกผู้มำดูงำนแล้ว พ่ีหวำยจึงกล่ำวคำทักทำย “Welcome we’re representative from office of international cooperation” พหี่ วำยพูดพรอ้ มยกมือสวัสดี ฉนั จึงยกมือสวสั ดตี ำม “Follow me please” พ่ีหวำยพูดต่อ หลังจำกน้ัน พ่ีหวำยและฉันก็พำชำวต่ำงชำติ ไปยังห้องรบั รองทไ่ี ด้จดั เตรียมไว้เพอ่ื ให้ชำวตำ่ งชำติไดร้ ับฟงั กำรบรรยำย หลังจำกน้ันได้มีกำรกล่ำวต้อนรับ โดยผู้อำนวยกำรสำนักงำนควำมร่วมมือระหว่ำง ประเทศ และมีกำรบรรยำยไปจนถึงตอนบ่ำยในระหว่ำงนั้นพ่ีหวำยได้อธิบำยถึงงำน ของเรำคร่ำวๆ “ลูกตำล พรุ่งน้ีเรำต้องพำคนภูฏำนกลุ่มนี้ไปดูงำนที่จตุจกั ร หลังจำกน้ันตอนเย็นพำ เขำไปนครพนม แตพ่ รุ่งนีพ้ ไี่ ม่ว่ำง” พี่หวำยเรม่ิ พดู ถงึ งำนทจ่ี ะเกิดข้ึนในวนั พรงุ่ นี้ “ค่ะ แล้วยังไงคะพี่หวำย หมำยควำมว่ำยังไงคะหนูต้องไปนครพนมด้วยหรอ” ฉัน ถำมดว้ ยควำมตกใจ “พ่ีจะให้เรำไปแทน หนสู ะดวกมั้ยลูกตำล” พห่ี วำยถำมตอ่ “สะดวกคะ่ พ่ีหวำย” ฉันตอบ แม้ว่ำจะมีควำมกังวลใจ เน่ืองจำกไม่เคยทำงำนแบบน้ีมำ กอ่ น
45 แล้วฉันกับพี่หวำยช่วยกันเตรียมอำหำรกลำงวันให้กับคนที่มำดูงำน ซึ่งเป็น อำหำรมังสวิรตั ิ เวลำ 12.00 น. ฉันกบั พห่ี วำยชว่ ยกนั ยกอำหำรไปเสิร์ฟ “We don’t eat meat. Is this have a meat?”คนภูฏำนถำม พร้อมช้ี ไปยงั อำหำรทว่ี ำงอยตู่ รงหน้ำ “Again Please” พี่หวำยพูดตอบ คนภูฏำนพดู ย้ำอกี คร้ัง ฉันร่วมเข้ำไปฟงั ด้วย จงึ ได้ควำมวำ่ เขำถำมว่ำในอำหำรมีเน้อื สตั วไ์ หม เพรำะเขำไมก่ ินเน้อื สัตว์ “เนยี่ แหละหนู ทำงำนแบบนี้ จะเจออะไรที่เรื่องเยอะแบบน้ีนะ หนูโอเคหรือเปล่ำ” พีห่ วำยถำมควำมรู้สึกของฉนั “ก็โอเคนะคะ แต่ก็ไม่เข้ำใจนิดหน่อยค่ะ” ฉันตอบด้วยควำมไม่มั่นใจนัก เพรำะกย็ ังไมร่ ้วู ่ำจะโอเคมั้ยหลงั จำกนี้ นอกจำกวันพร่งุ นีฉ้ นั จะตอ้ งไปกับคณะดูงำนชำวภูฏำนแล้ว ฉันยังต้องไปกับพที่ ่ีดูแล คณะดูงำนอีกสองคน ที่ไม่เคยทำงำนด้วยกันมำก่อน อีกด้วย พี่ท้ังสองคนเป็นผู้หญิง วัยกลำงคน คนหน่ึงช่ือพ่ีโบว์ ผิวขำว มวย ผมไว้ขำ้ งหลงั แตง่ หนำ้ ออ่ นๆ รปู รำ่ งทว้ ม ใบหนำ้ ยิ้มแย้มดูเป็นมิตร
ใชค้ ำพดู ทีเ่ ปน็ กนั เองและตรงไปตรงมำ 56 ส่วนพี่อีกคนช่ือพี่จันทร์เจ้ำผิวขำวเหลือง ผม ยำวประบ่ำ แต่งหน้ำบำงๆ ตัวเล็ก ดวงตำ หลังจำกฟังบรรยำยจบพี่โบว์และพ่ี สดใส ใบหน้ำย้ิมแย้ม ใช้คำพูดที่แสดง จันทร์เจ้ำมอบหมำยให้ฉันกับวิทยำกรไป ควำมเป็นตัวของตัวเอง ค่อนข้ำงไว้ตัวและ ดูแลคณะชำวภูฏำนวิทยำกรพำคนภูฏำน ระมัดระวังหลังจำกจบกำรดูแลวันน้ัน ฉันจึง เ ด ิน ล ง ชั ้น ล ่ำ ง แ ล ้ว เ ด ิน ช ม บ ร ิเ ว ณ ร อ บ ๆ ก ลั บ ม ำ เ ต รี ย ม เ ส้ื อ ผ้ ำ เ พื่ อ เ ต รี ย ม ตั ว ไ ป สถำบันฯ รวมไปถึงห้องทดลองที่อยู่ตึก นครพนมในวนั รุ่งขึน้ ถัดไปด้วย ฉันเดินตำมคณะทั้งหมดไปจน จบกำรพำชมสถำบันฯในชั้นล่ำงแล้วเรำทุก ในวันต่อมำ ฉันและพ่ีท้ังสองคน คนเดินกลบั มำยังช้นั ลำ่ งของตึกเดิมอีกครั้ง พร้อมด้วยคณะดูงำนชำวภูฏำน ออกเดินทำง หลังจำกน้ันวิทยำกรก็เดินจำกเรำไป เหลือ จำกกรมควบคุมโรคแตเ่ ช้ำ เพอ่ื เดินทำงไปยัง เพียงแคฉ่ ันและคณะชำวภฏู ำน ตลำดนัดสวนจตุจักรเพื่อพำคณะดูงำนชำว “Do you want to go there?” ฉัน ภูฏำนไปดูตลำดขำยสัตว์ปีกมีชีวิต ดูวิธีกำร ถำมพร้อมช้ีไปยังห้องเดิมที่เคยฟงั บรรยำย กำรจัดกำรตรวจสอบร้ำนค้ำสัตว์เพ่ือจัดกำร เพรำะในตอนน้ันฉันไม่รู้ว่ำต้องทำอย่ำงไร กับกำรระบำดของไข้หวัดนกในแต่ละขั้นตอน จะขึน้ ไปหอ้ งบรรยำยหรอื จะรอพ่สี องคนน้ัน ห ลั ง จ ำ ก นั้ น เ ดิ น ท ำ ง ด้ ว ย ร ถ ตู้ ไ ป ยั ง อยู่ขำ้ งลำ่ ง ฉันจึงตัดสินใจถำมออกไป สถำบันวจิ ยั วิทยำศำสตร์สำธำรณสุข “Where? Why we must to go there?” เขำถำมกลับหลังจำกฉันได้รับกำรตอบกลับ พอไปถึงสถำบันวิจัยวิทยำศำสตร์ แบบนั้น ทำให้ฉันรู้สึกรน และกังวล สำธำรณสุขเรำก็พำผู้ดูงำนชำวภูฏำนไปฟัง เน่อื งจำกไม่รู้ว่ำจะตอบคำถำมต่อไปอย่ำงไร กำรบรรยำยบนห้องที่อยู่ช้ันสอง นั่นเป็นครั้งแรกท่ีฉันต้องจัดกำรคน เป็นคร้ังแรกและเป็นชำวต่ำงชำติด้วย ใน ตอนน้ันฉันจึงรีบโทรหำพ่โี บว์ทันที
67 “พ่ีคะ ตกลงว่ำหนูต้องพำเขำข้ึนไปที่ห้องบรรยำยก่อนใช่ม้ัยคะ” ฉันถำมด้วย ควำมกงั วล เพรำะยังมคี ณะดงู ำนชำวภูฏำนรอคำตอบจำกฉนั อยู่ “ใช่จ้ะ เรำต้องรอเวลำเพื่อเดินทำงไปสนำมบินดอนเมือง เพรำะตอนนี้ยังไม่ถึง เวลำเลย อีกสักพักเรำถึงจะออกจำกที่น่ีกันจ้ะ” พี่ตอบด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง ทำใหฉ้ นั ไม่รู้สึกกงั วลเหมอื นในตอนแรก “โอเคคะ่ ถำ้ งนั้ เดย๋ี วหนูจะพำเค้ำไปนะคะ” ฉันตอบดว้ ยควำมคลำยกังวล หลังจำกนั้น ฉันก็บอกชำวภูฏำนว่ำเรำจะข้ึนไปยังห้องบรรยำยที่เดิม เพ่ือรอเวลำในกำรไปสนำมบิน พร้อมกับนำทำงขึ้นไปฉันและพี่ท้ังสองคน พร้อม กับชำวภูฏำน น่ังรอเวลำอยู่สักพัก จนเวลำประมำณ 16.00 น. หลังจำกนั้น เรำก็พำคณะ ดูงำนชำวภูฏำนไปขึ้นรถตู้ท่ีได้เตรียมไว้เพื่อไปส่งพวกเรำท่ีสนำมบินดอนเมือง หลังจำกที่เรำโดยสำรเคร่ืองบินจนมำถึงจงั หวัดนครพนม ระหว่ำงรอรับกระเป๋ำ ตรงสำยพำนน้ัน ฉนั ได้พดู คยุ กับชำวภฏู ำนเพือ่ ชว่ ยเหลอื เรอื่ งกระเป๋ำ “This is your luggage, right?” ฉันถำมพร้อมช้ีไปที่กระเป๋ำสีส้มใบหนึ่ง กอ่ นทกี่ ระเป๋ำจะวนไปทีอ่ นื่ ซะกอ่ น “No no It’s not mine.” เขำปฏิเสธ พร้อมหยิบกระเป๋ำอกี ใบจำกสำยพำน ที่เป็นของเขำเองข้ึนมำ พร้อมชี้ไปท่ีกระเป๋ำดังกล่ำวและพูดว่ำ “This one” เพือ่ แสดง ควำมเป็นเจ้ำของกระเป๋ำใบน้ัน ในควำมรู้สึกของฉันตอนน้ัน ท่ีบ่นในใจกับตัวเองว่ำ ทำพลำดอีกแล้ว เข้ำใจผิดเรื่องกระเป๋ำได้อย่ำงไรกัน แต่อีกใจนึงก็รู้สึกดีที่กล้ำ พูดออกไป ถือเป็นกำรช่วยเหลือผู้อ่ืนได้ทันก่อนที่จะสำยไปหลังจำกรับกระเป๋ำ จำกสำยพำนเสร็จแล้ว เรำมุ่งหน้ำเดินทำงด้วยรถตู้เพ่อื ไปยังสถำนท่ีสำคัญแห่งหน่ึง ทีผ่ ้คู นสว่ นใหญ่นิยมไป
78 ระหว่ำงทำงพี่ทั้งสองคนท่ีมำ ด้ ว ย กั น ก็ เ ร่ิ ม เ ล่ ำ ป ร ะ วั ติ แ ล ะ วิ ธี สักกำระบูชำสถำนท่ีที่เรำกำลังจะไป ใ ห้ กั บ ค ณ ะ ดู ง ำ น ช ำ ว ภู ฏ ำ น ฟั ง ด้ ว ย ภำษำอังกฤษท่ีคล่องแคล่วฟังเข้ำใจง่ำย ซ่ึงทำให้ฉันนึกเปรียบเทียบตอนที่ พูดคุยกับชำวภูฏำนไปเมื่อตอนกลำงวัน เรำนั่งรถตู้ไปท่ี พญำศรีสัตตนำครำช ซึ่งเป็นสถำนที่ส ำคัญของจัง หวั ด นครพนมแห่งหนึ่ง องค์พญำศรีสัตต นำครำชหล่อด้วยทองเหลือง เป็นรูป พญำนำคขดหำง 7 เศียร ประดิษฐำน บนแท่นฐำนแปดเหล่ียม สถำนที่น้ี ตั้งอยู่ริมฝ่ังแม่น้ำโขง แม้ว่ำในตอนนั้น ท้ อ ง ฟ้ ำ เ ริ่ ม มื ด จ น เ ห็ น ด ว ง จั น ท ร์ ท่ี สอดสอ่ งลงมำอยำ่ งสว่ำงชัดเจน แต่ลำน ศรีสัตตนำครำชกย็ ังมผี ู้คนนับสิบเข้ำมำ สักกำระขอพรพญำศรีสัตตนำครำช อย่ำงไม่ขำดสำย บริเวณพื้นที่สักกำระ เต็มไปด้วยดอกไม้หลำกสี และธูปเทียน มำกมำยท่ีผู้คนนำมำสักกำระ ซึ่ง สำมำรถซ้ือได้จำกพ่อค้ำแม่ค้ำที่มำต้ัง โต๊ะขำยในบริเวณน้ันคณะดูงำนชำว ภูฏำนท่ีฉันพำมำก็ซ้ือดอกไม้และธูป เทียนจำกพ่อค้ำแม่ค้ำเหล่ำนั้นเช่นกัน ซ่ึงแน่นอนว่ำฉันมีหน้ำที่ในกำรสื่อสำร ถำมรำคำและจัดกำรเรื่องกำรจ่ำยเงิน ระหว่ำงชำวภฏู ำนและพ่อค้ำคนนั้น “How much?” คนภูฏำนถำมฉันแล้ว ช้ีไปท่ีดอกไม้และธูปเทียนที่วำงอยู่บน โต๊ะ “เท่ำไหร่คะ” ฉนั ถำมพ่อค้ำคนนนั้ “20 บำทจ้ะหนู” พ่อค้ำตอบด้วยใบหน้ำ ทยี่ ม้ิ แย้ม
“Twenty baht” ฉนั ตอบคนภฏู ำน 89 หลังจำกนั้นคนภูฏำนก็ยื่นเงินมำให้ “Is it ok?”ฉันถำมพร้อมยื่นโทรศัพท์ไป ฉันเพื่อให้นำไปจ่ำยเงินหลังจำกเสร็จภำรกิจ ให้เขำดูรูปในโทรศัพท์สักพักและหันมำ กำรซื้อดอกไม้และธูปเทียน ฉันก็ต้องยืนรอ สงั เกตสหี น้ำของฉัน เขำสักกำระบูชำกันจนเสร็จ หลังจำกนั้นพวก แลว้ พดู ว่ำ “Ok, it’s ok” เมอ่ื ฉนั ไดย้ ินดังน้ัน เขำก็เดินชมบรรยำกำศแถวสิ่งสักกำระสัก ก็รู้สึกดีใจข้ึนมำทันที ฉันย้ิมให้เขำ เขำยิ้ม พัก กลับมำพร้อมกับกำรหำมุมถ่ำยรูปได้ ตอบ และบอกกบั ฉันใหช้ ว่ ยถ่ำยรปู ให้ หลงั จำกน้ัน ก็ได้เวลำข้ึนรถตู้เพื่อมุ่ง “I want to take a photo over there, หน้ำไปยังร้ำนอำหำรเวียดนำมใกล้ท่ีพัก can you take a photo for me?” ชำว เพ่ือรับประทำนอำหำรเย็นร่วมกันเรำสั่ง ภูฏำนผู้หญิงสองคนถำมฉันพร้อมช้ีน้ิวไปยัง อำหำรเย็นกันมำส่วนหน่ึง ประมำณ 5 ที่ที่ต้องกำรจะถ่ำยรูป เมนู แตแ่ ลว้ คนภูฏำนก็ขอสงั่ เมนูอืน่ เพมิ่ “I want fried rice with egg and “Yes, Give me your phone please” some chilli” ชำวภูฏำนคนหนงึ่ พูดขน้ึ ฉันตอบเขำด้วยควำมเหน่ือยล้ำ แต่ใบหน้ำ “Ok, I will order for you” พค่ี นหนึง่ ยม้ิ แยม้ ท่ีฉันไปด้วยพูดขึ้น แล้วหันไปสั่งกับ พนักงำนร้ำนให้ ว่ำต้องกำรข้ำวผัดไข่ และ “Ok, This one” เขำตอบ พร้อมย่ืนโทรศัพท์มือถือ พริกน้ำปลำ มำให้ฉัน หลงั จำกน้นั ไม่นำน ข้ำวผดั 4 จำนก็มำ ด้วยทักษะกำรถ่ำยรูปของฉันที่มีไม่ วำงอยู่ตรงหน้ำพร้อมพริกน้ำปลำ ฉันเกิด มำกนัก หรืออำจจะเป็นเพรำะเขำอยำกได้รูป ควำมสงสัยว่ำทำไมชำวภูฏำยถึงไม่ค่อยกิน ท่ีสมบูรณ์แบบท่ีสุดก็เป็นได้ ทำให้ฉันต้อง เนื้อสตั ว์นัก และตอ้ งมพี ริกอยูใ่ นอำหำร จึง ถ่ำยรูปให้เขำหลำยคร้ัง ซ่ึงก็ยังไม่เป็นที่ หำข้อมูลผ่ำนโทรศัพท์มือถือของฉัน ได้ พอใจสักที ฉันเร่ิมเหนื่อยแล้ว และก็มำถึง ควำมว่ำ ครงั้ สุดท้ำย
910 ‘พริกเป็นส่วนประกอบในอำหำร ภูฏำนเกือบทุกเมนู จนว่ำกันว่ำคนภูฏำนจะ รู้ สึ ก ไ ม่ อ ร่ อ ย ห ำ ก อ ำ ห ำ ร จ ำ น นั้ น ไ ม่ มี รสชำติเผ็ด และภูฏำนเป็นประเทศนับถือ ศำสนำพุทธที่ค่อนข้ำงเข้มงวดจึงแทบไม่มี กำรฆ่ำสัตว์ในประเทศเลย ทำให้อำหำร สดประเภทเนอ้ื สตั ว์เกือบท้ังหมดของภูฏำน จะถูกส่งมำจำกประเทศอ่ืน ทำให้อำหำร ประเภทเน้ือสัตว์มีรำคำสูง คนภูฏำนจึงไม่ นิยมรับประทำนเน้ือสัตว์แต่จะรับประทำน อำหำรเมนผู กั มำกกวำ่ ’ หลังจำกท่ีเรำรับประทำนอำหำร เย็นกันเสร็จแล้ว ก็ขึ้นรถตู้มุ่งหน้ำไปยังที่ พัก พอไปถึงที่พักก็เป็นเวลำเกือบสี่ทุ่ม แล้ว ทุกคนต่ำงเหนื่อยล้ำเป็นอย่ำงมำก จึงพำกันแยกย้ำยเข้ำห้องนอนในทันทีที่ได้ กญุ แจห้องพกั จำกพนกั งำนโรงแรม ในเช้ำวันต่อมำเรำได้พำผู้ดูงำนไป ฟังกำรบรรยำยและดูงำนสถำนที่ในกำร ทำงำนของด่ำนควบคุมโรคติดต่อระหว่ำง ประเทศ พรมแดน นครพนม สะพำน มิตรภำพ 3 นครพนม คำม่วน และเดินทำง ไปดูงำนที่โรงพยำบำลนครพนม จนถึงเวลำ 12.00 น. หลงั จำกนั้นได้พำคณะดูงำนชำว ภูฏำนไปรับประทำนอำหำรกลำงวนั ทีร่ ำ้ นอำหำร แห่งหน่ึงในจังหวดั นครพนม
1011 ร้ำนอำหำรแห่งนี้ ตั้งอยู่ริมถนน เรำจอดรถไว้อีกฝั่งของถนนซ่ึงติดกับ แม่น้ำร้ำนอำหำรแห่งน้ีมีลักษณะเป็นเพิงเก่ำๆ มีหลังคำของตัวร้ำนเป็นสังกะสี และมีหลังคำส่วนหนึ่งย่ืนออกมำจำกตัวร้ำนด้วย ร้ำนฝ่ังซ้ำยข้ำงหน้ำร้ำนมีเตำ ย่ำงไก่และปลำ ถัดไปข้ำงหลังจะเป็นส่วนที่มีไว้สำหรับทำอำหำรโดยมีตู้กระจกท่ี บรรจุวตั ถุดิบเรยี งอยู่ รวมไปถงึ มอี ปุ กรณเ์ คร่ืองครัวมำกมำย และถัดไปจะเป็น โต๊ะและเก้ำอี้ไว้สำหรับรับรองลูกค้ำ ส่วนร้ำนฝ่ังขวำจะมีทำงเดินเข้ำไปยังตัวร้ำน และจะมีโต๊ะและเกำ้ อี้เรียงรำยไวส้ ำหรับรับรองลกู ค้ำ ส่วนใหญ่อำหำรท่ีร้ำนเป็นอำหำรอสี ำนทั้งหมด เรำได้ส่ังอำหำรมำจำนวน หน่ึง และเช่นเคยคณะดูงำนชำวภูฏำนขอสั่งอำหำรเพ่ิมเอง โดยครำวนี้ส่ังเป็น ผัดผักกับข้ำวสวย ซึ่งเป็นอำหำรที่ไม่มีเนื้อสัตว์เช่มเดิม แต่ตอนน้ีในควำมคิด ของฉันได้เปล่ียนไปแล้ว เมื่อได้เรียนรู้วัฒนธรรมของเขำ ก็จะเห็นว่ำเป็นเรื่องท่ี ปกติสำหรับเขำ กอ่ นเรม่ิ รับประทำนอำหำร ฉนั ลุกขนึ้ เพอื่ บริกำรในกำรตักน้ำแข็งใส่แก้ว พร้อมเทน้ำตักแบ่งข้ำวสวยท่ีอยู่ในโถ แล้วนำไปให้ทุกคน ระหว่ำงน้ันก็มีชำว ภฏู ำนคนหนง่ึ เอย่ ชวนใหไ้ ปนง่ั ดว้ ย
1112 “You can sit here” เขำพูดด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรและยนิ ดแี บ่งปนั แตเ่ นื่องจำกฉันมีทน่ี ั่งของฉนั อยแู่ ล้วตรงอีกฝ่ัง จงึ ตอบกลับไปว่ำ “I will sit there, thank you” ฉันพูดพร้อมกับส่งย้ิมให้กับผู้ที่ชวน เม่ือบริกำรจนเสร็จ ฉัน จงึ เดินไปนง่ั ท่ขี องฉนั ตำมเดิมหลงั จำกรับประทำนอำหำรเสร็จ เรำได้พำคณะดูงำนชำวภูฏำนไปดูงำนที่ฟำร์มไก่แห่งหน่ึง และตบท้ำย ด้วยกำรพำไปซ้ือของฝำก หลังจำกน้ันก็เดินทำงไปยังสนำมบินจังหวัดนครพนม เพอื่ กลบั มำยงั กรงุ เทพฯ และดงู ำนทีก่ รมควบคุมโรคในวนั ถดั ไป ในวันต่อมำฉันไปรับผู้ดูงำนตรงหน้ำตึกของกรมควบคุมโรคเช่นเดิม และพำขึ้นมำยังห้องเพื่อรับฟังกำรบรรยำย ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้ำยแล้วท่ีมีกำรดู งำน เม่ือกำรบรรยำยจบลง ได้มีกำรกล่ำวจบและมีกำรมอบของท่ีระลึกให้กัน โดยฝั่งภฏู ำนมอบชำจำกภูฏำนให้เป็นของท่ีระลึกกับผทู้ ่ีดูแลเขำมำตลอดกำรดูงำน ด้วยและแล้วงำนต้อนรับคณะดูงำนชำวต่ำงชำติของฉันครั้งแรกก็ผ่ำนไปได้ด้วยดี ซ่ึงสุดท้ำยแล้วฉันก็พบว่ำงำนท่ีทำในตอนน้ีก็ไม่น่ำเบ่ือนัก มีส่ิงใหม่ๆเข้ำมำให้ทำ อยู่เสมอ ย่ิงไปกว่ำนั้น ฉันยังได้ค้นพบบำงอย่ำงจำกงำนนี้ จำกท่ีคิดว่ำฉันชอบ งำนแบบน้ีแต่ไม่สำมำรถทำมันได้ ตอนน้ีฉันทำได้แล้ว และกล้ำมำกข้ึนกว่ำเดิมอีก ดว้ ย
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: