สวนพฤกษศาสตร์ในโรงเรียน ประกอบรายวิชา ว32101 เทคโนโลย2ี เสนอ ครูผสู้ อนครูรัชชนก วงศเ์ ขียว
คานา หนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ เรื่องสวนพฤกษศาสตร์ใน โรงเรียนเล่มน้ี ใชป้ ระกอบการเรียนวชิ า ว32101 เทคโนโลยี 2 ซ่ึงเน้ือหาประกอบดว้ ย ความรู้เก่ียวกบั สวน พฤกษศาสตร์ในโรงเรียน ผจู้ ดั ทาหวงั เป็นอยา่ งยง่ิ วา่ หนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ เล่มน้ีจะเป็นประโยชน์ต่อผศู้ ึกษาเป็นอยา่ งดี นางสาวทิพกญั ญา ปัญญาผาบ นางสาวธาราทิพย์ อวดผวิ ผจู้ ดั ทา
ลกั ษณะดอกลีลาวดี ลีลาวดีเป็นไมด้ อกท่ีมีสีสนั สวยงาม ไม่หลากหลายสี ใหเ้ ลือกสรร ไม่วา่ จะเป็น ขาว เหลืองอ่อน แดง ชมพู ฯลฯ บางดอกกม็ ีมากกวา่ 1 สี นอกจากน้ีความพิเศษของลีลาวดี ท่ีหลาย ๆ คนตกหลุมรัก น่าจะเป็นกล่ินหอมนุ่ม ๆ ของมนั ท่ีไม่หอมเตะจมูกจนเกินไป แต่หอมหวานกาลงั ดี อีกท้งั บางคนยงั ช่ืนชอบลกั ษณะลาตน้ ท่ีก่ิงกา้ นกระจายไม่แน่น หนา ทาใหแ้ สงและเงาจากดวงอาทิตยส์ ่องผา่ นมาไดร้ าไร ๆ
ลกั ษณะดอกพดุ ซอ้ น เป็นพรรณไมย้ นื ตน้ ขนาดเลก็ ลกั ษณะเป็นพมุ่ เต้ีย ลา ตน้ สูง1-3 เมตร ผวิ ลาตน้ มีสีขาวเทา แตกก่ิงกา้ นออกใบ รอบตน้ ใบเป็นใบเด่ียว แตกออกเป็นคู่ตรงกนั ขา้ ม ตาม ขอ้ ของก่ิง ลกั ษณะของใบเป็นรูปมนรี ปลายใบแหลม ผวิ ใบเรียบสีเขียวยาว 8-12 ซม. ดอกเป็นดอกเดี่ยว ออก ตามปลายยอดหรือปลายกิ่ง ช่อหน่ึงมี 5-6 ดอก แลว้ แต่ ชนิดพนั ธุ์ ดอกมีกล่ินหอมสีขาวหรือเรียงเป็นช้นั เดียว แลว้ แต่ชนิดพนั ธุ์ ดอกบานมีความโต 2-5 ซม. ออกผล เป็นฝักรูปกระบอกแหลมโคง้ ภายในมีเมลด็ 3-5 เมลด็
ลกั ษณะของตน้ ตีนเป็ด ตน้ ตีนเป็ดจดั อยใู่ นวงศโ์ มก เป็นไมย้ นื ตน้ รูปทรงสูงใหญ่ ลาตน้ สามารถเจริญเติบโตสูง ไดถ้ ึง 15-35 เมตร เป็นไมเ้ น้ืออ่อนแต่เหนียวสี ขาวอมเหลืองอ่อน มีเปลือกค่อนขา้ งหนาสีเทา หรือเทาอมเหลือง ลกั ษณะตน้ มีรูปทรงพมุ่ สูง คลา้ ยฉตั ร ใบเป็นแบบเล้ียงเด่ียว ทรงรูปไข่ โคนใบสอบ มีติ่งท่ีปลายใบ ผลเป็นฝักคู่ยาว เรียว 10-20 เซนติเตร ออกดอกเป็นช่อ
ลกั ษณะดอกรัก ตน้ สูง 1.5–3 เมตร ทุกส่วนมียางขาวเหมือนน้านม ตามก่ิงมี ขน ใบเป็นใบเดี่ยวออกตรงกนั ขา้ ม รูปรีแกมขอบขนาน ปลาย แหลมโคนเวา้ กวา้ ง 6–8 เซนติเมตร ยาว 10–14 เซนติเมตร เน้ือใบหนา ใตใ้ บมีขนนุ่ม กา้ นส้นั ดอกสีขาวหรือสีม่วง ออกเป็นช่อตามซอกใบหรือปลายกิ่ง กลีบเล้ียง 5 กลีบ โคน เชื่อมติดกนั เมื่อบานเส้นผา่ ศนู ยก์ ลาง 2–3 เซนติเมตร มี รยางคเ์ ป็นคลา้ ยมงกฎุ 5 สนั มีเกสรตวั ผู้ 5 อนั ส่วนน้ีเองที่ นามาใชร้ ้อยมาลยั ผลเป็นฝักคู่ รูปรีปลายแหลมกวา้ ง 3–4 เซนติเมตร ยาว 6–8 เซนติเมตร เม่ือแก่แตกและปล่อยเมลด็ แบนสีน้าตาลจานวนมาก ที่มีขนสีขาวเป็นพกู่ ระจุกอยทู่ ่ีตรง กลางปลายดา้ นหน่ึง ใหป้ ลิวไปตามลม
ลกั ษณะคุณนายต่ืนสาย คุณนายตื่นสายเป็นไมค้ ลุมดิน ลาตน้ อวบน้าสีม่วงแดง แผท่ อด เล้ือยไปตามผวิ ดิน ใบเด่ียว เรียงสลบั ใบรูปไข่กลบั แกมรูปรี กวา้ ง 1-2 เซนติเมตร ยาว 2-3 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคน ใบสอบ ขอบใบเรียบ แผน่ ใบอวบน้า ผวิ ใบดา้ นบนสีเขียวอ่อน ถึงเขียวเขม้ บางพนั ธุม์ ีขอบใบขลิบสีแดง ดอกสีขาว ชมพู แดง เหลือง ส้ม ออกเป็นดอกเด่ียวตามซอกใบ หรือปลายกิ่ง กลีบดอกช้นั เดียว บอบบาง ขอบกลีบดอกหยกั เป็นคล่ืน บานเมื่อไดร้ ับแสงแดดตอนเชา้ ดอกบานเตม็ ท่ีกวา้ ง 1-1.5 เซนติเมตร ผลแหง้ แตก มีเมลด็ จานวนมาก
ลกั ษณะดอกราตรี ไม่มีขอ้ มูลความเป็นพิษจากการยอ่ ยของราตรี แต่กม็ ีเหตุผลที่เช่ือวา่ ควรเตือน สมาชิกท้งั หมดของวงศ์ Solanaceae มีสารพษิ กลุ่มอลั คาลอยดเ์ รียกโซลานีน แมว้ า่ พชื บางชนิดในวงศน์ ้ีสามารถ รับประทานไดโ้ ดยไม่ทาใหเ้ จบ็ ป่ วย คนที่มีอาการหอบหืดมีรายงาน วา่ หายใจลาบากเม่ือหายใจเอากลิ่นดอกที่บานพร้อมกนั จานวนมาก พชื ในสกลุ Cestrum มีกรดคลอโรเจนิก ซ่ึงสารตวั น้ีอาจจะ เก่ียวขอ้ งกบั ผลกระทบของราตรี สารสกดั จากพชื แสดงฤทธ์ิยบั ย้งั การเจริญของยงุ แต่ไม่เป็นพษิ ต่อ ปลา สารสกดั จากพืชทาใหม้ ีการเปล่ียนแปลงทางโลหิตวทิ ยาในปลา น้าจืดเมื่อไดร้ ับความเขม้ ขน้ นอ้ ยกวา่ ความเขม้ ขน้ ที่ทาใหต้ าย
มะคา่ โมง คุณลกั ษณะ เป็นไมย้ นื ตน้ ขนาดกลาง และเป็นไมเ้ น้ือแขง็ ท่ีนิยมตดั ฟันมา ก่อสร้างบา้ นเรือน และแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ต่าง อาทิ โตะ๊ ทางาน โต๊ะรับประทานอาหาร โต๊ะรับแขก และเกา้ อ้ี เป็นตน้ เพราะเน้ือไมม้ ีความทนทาน และมีสีเหลืองอมแดงสวยงาม
ชาทอง คุณลกั ษณะ ไมพ้ มุ่ สูง 1 เมตร ผวิ ลาตน้ หยาบ ขรุขระ สีเทาอ่อน ใบเดี่ยวแบบ ตรงขา้ ม ใบรูปรี กวา้ งประมาณ 1.5-2.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 5 เซนติเมตร ใบสีเขียวอ่อนอมเหลืองถึงสีเหลืองทอง ปลายใบ แหลม โคนใบสอบเรียว ขอบใบเรียบ ดอกช่อแบบช่อวงแถวเดี่ยว กล่ินหอม ออท่ีปลายยอด กลีบเล้ียง 6 กลีบ สีเขียวกลีบดอก 5 กลีบ สีม่วงอ่อน เกสรเพศผู้ 5 เกสร เกสรเพศเมีย 1 อนั ผลเดี่ยว ผลสด เมลด็ เด่ียวแขง็ ผลอ่อน
ดอกจิก คุณลกั ษณะ ตน้ จิก ช่ือวทิ ยาศาสตร์ : Barringtonia acutangula (L.) Garetn.ชื่อสามญั : Indian oak วงศ์ : Barringtoniaceae ชื่ออื่น : กระโดนทุ่ง กระโดนน้า(หนองคาย), จิกนา(ภาคใต)้ , ตอง (ภาคเหนือ), มุ่ยลาย ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไมต้ น้ ขนาดเลก็ ลาตน้ เป็นป่ ุมปมและเป็น พู ผลดั ใบ ชอบข้ึนริมน้า ใบ เด่ียว ใบอ่อนสีน้าตาลแดง ผวิ ใบมนั ใบ ออกสลบั ถ่ีตามปลายยอด รูปใบยาวเหมือนรูปใบหอก หรือรูปไข่กลบั ใบยาว 30 เซนติเมตร ขอบใบจกั ถี่ กน้ ใบสีแดง ส้นั มาก ดอก ช่อ สีแดง หอ้ ยลง บานจากโคนลงไปทางปลาย ช่อดอกยาว 30-40 เซนติเมตร กลีบเล้ียง 4 กลีบ และจะคงติดอยจู่ นเป็นผล เกสรตวั ผมู้ ีจานวนมาก มีสี ชมพถู ึงสีแดง ผล ยาวรีเป็นเหลี่ยม มีสนั ตามยาวของผล 4 สนั ผลมีกลีบ เล้ียงติดอยู่ ส่วนท่ีใช้ : ราก น้าจากใบ เปลือก ผล
กระดงั งา คุณลกั ษณะ เป็นไมย้ นื ตน้ ความสูง 8-15 เมตร เป็นพมุ่ ทรงโปร่ง ออก ดอกตลอดปี ใบเดี่ยว เรียงสลบั รูปวงรีหรือรูปใบหอก กวา้ ง 5-7 ซม. ยาว 13-20 ซม. ขอบใบเป็นคลื่น เปลือกตน้ เกล้ียงสีเทา ดอกช่อออกเป็นกระจุก ท่ีซอกใบ กระจุกละ 4-6 ดอก กลีบดอกสีเหลืองหรือเหลืองอมเขียว มีกลิ่นหอม ผลเป็นกลุ่มผล ดอกมีกล่ินหอมอ่อน ๆ ตอนเชา้ และเยน็ โดยเร่ิมออกดอกเม่ือ ปลกู ไดป้ ระมาณ 3 ปี สูง 7 - 8 เมตร จึงจะออกดอก
เยอบีร่า คุณลกั ษณะ เยอร์บีร่า เป็นไมด้ อกที่สวยงามขนิดหน่ึงเป็นที่รู้จกั และ ปลูกกนั แพร่หลายในประเทศไทยมานานหลายสิบปี แลว้ มีถ่ินกาเนิด ในอฟั ริกาใต้ ในแต่ละวนั จะมีเยอร์บีร่าส่งขายท่ีปากคลองตลาด เป็นจานวนมาก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลและวนั สาคญั ต่าง ๆ
นางสาวทิพกญั ญ ปัญญผาบ ช้นั ม.5/4 เลขท่ี 16 E-mail: [email protected] นางสาวธาราทิพย์ อวดผิว ช้นั ม.5/4 เลขท่ี 17 E-mail: [email protected]
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: