Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore handbook

handbook

Published by mdsharf.mas, 2020-09-07 04:20:57

Description: handbook

Search

Read the Text Version

ราชการขึ้นตรงเพื่อพิจารณาอนุญาต เว้นแต่ข้าราชการกรุงเทพมหานครให้เสนอหรือจัดส่งใบลาต่อปลัด กรงุ เทพมหานคร สำหรับหัวหน้า สว่ นราชการใหเ้ สนอหรือจัดส่งใบลาต่อปลดั กระทรวง หัวหนา้ ส่วนราชการ ข้นึ ตรงและข้าราชการ ในราชบัณฑิตยสถานให้เสนอหรอื จดั สง่ ใบลาต่อรฐั มนตรีเจา้ สังกดั ส่วนปลัดกรุงเทพมหานครให้เสนอ หรือจัดส่งใบลาต่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อพิจารณา อนญุ าต การลาไปปฏิบัติงานในองค์การระหว่างประเทศ ข้าราชการซ่ึงประสงค์จะลาไปปฏิบัติงานใน องค์การระหว่างประเทศ ให้เสนอหรือจัดส่งใบลา ต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับจนถึงรัฐมนตรีเจ้าสังกัดเพื่อ พจิ ารณา โดยถอื ปฏบิ ัตติ ามหลกั เกณฑ์ ทีก่ ำหนด การลาติดตามคู่สมรส ขา้ ราชการซึง่ ประสงคต์ ิดตามค่สู มรสให้เสนอหรอื จัดส่งใบลาต่อผู้บังคับบัญชา ตามลำดับ จนถึงปลัดกระทรวงหรือหัวหน้าส่วนราชการขึ้นตรงแล้วแต่กรณี เพื่อพิจารณาอนุญาตให้ลาได้ไม่ เกนิ สองปแี ละในกรณีจำเป็นอาจอนุญาตให้ลาไดอ้ ีกสองปี แตเ่ ม่อื รวมแล้วต้องไม่เกินสป่ี ี ถา้ เกนิ สี่ปี ให้ลาออก จากราชการสำหรับปลัดกระทรวง หัวหน้าส่วนราชการขึ้นตรง และข้าราชการ ในราชบัณฑิตยสถานให้เสนอ หรือจัดส่งใบลาต่อรัฐมนตรีเจ้าสังกัด ส่วนปลัดกรุงเทพมหานครให้เสนอ หรือจัดส่งใบลาต่อผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานครเพื่อพจิ ารณาอนุญาต วินัยและการดำเนนิ การทางวินัย วนิ ยั : การควบคมุ ความประพฤติของคนในองค์กรให้เปน็ ไปตามแบบแผนท่ีพึงประสงค์ วนิ ัยข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา : ข้อบญั ญัติท่ีกำหนดเปน็ ข้อหา้ มและ ข้อปฏิบตั ติ ามหมวด ๖ แห่งพระราชบัญญัตริ ะเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ และท่แี กไ้ ขเพ่ิมเตมิ ฉบับที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๕๑ โทษทางวนิ ยั มี ๕ สถาน คอื วนิ ัยไม่รา้ ยแรง มดี งั น้ี ๑. ภาคทณั ฑ์ ๒. ตัดเงินเดือน ๓. ลดขัน้ เงินเดือน วินยั รา้ ยแรง มีดังนี้ ๔. ปลดออก ๕. ไลอ่ อก การว่ากลา่ วตักเตือนหรือการทำทณั ฑบ์ นไมถ่ ือวา่ เปน็ โทษทางวินยั ใชใ้ นกรณีทเี่ ป็นความผิด เลก็ นอ้ ยและมเี หตุอนั ควรงดโทษ การว่ากลา่ วตกั เตอื นไม่ต้องทำเป็นหนังสอื คูม่ ือมาตรฐานการปฏิบตั งิ านของสถานศกึ ษา โรงเรียนบ้านทอน ~ 47 ~

แต่การทำทัณฑ์บนตอ้ งทำเป็นหนังสือ(มาตรา ๑๐๐ วรรคสอง) โทษภาคทณั ฑ์ ใช้ลงโทษในกรณีที่เป็นความผิดเล็กน้อยหรือมีเหตุอันควรลดหย่อน โทษภาคทัณฑ์ไม่ต้องห้ามการเลื่อนขั้น เงนิ เดอื น โทษตัดเงนิ เดือนและลดขั้นเงนิ เดือน ใชล้ งโทษในความผิดที่ไมถ่ งึ กับเป็นความผิดรา้ ยแรง และไม่ใช่กรณีที่เป็นความผิดเล็กน้อย โทษปลดออกและไลอ่ อก ใชล้ งโทษในกรณที ีเ่ ปน็ ความผดิ วินยั ร้ายแรงเทา่ นนั้ การลดโทษความผดิ วนิ ัยรา้ ยแรง ห้ามลดโทษต่ำกว่าปลดออก ผู้ถูกลงโทษปลดออกมีสทิ ธไิ ดร้ ับบำเหน็จบำนาญเสมอื นลาออก การสั่งใหอ้ อกจากราชการไมใ่ ชโ่ ทษทางวินยั วนิ ัยไม่รา้ ยแรง ไดแ้ ก่ ๑. ไมส่ นบั สนนุ การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั ริยเ์ ปน็ ประมขุ ตามรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจกั รไทยดว้ ยความบรสิ ทุ ธ์ิใจ ๒. ไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เสมอภาค และเที่ยงธรรม ต้องมีความวิริยะ อุตสาหะขยันหมั่นเพียร ดูแลเอาใจใส่ รักษาประโยชน์ของทางราชการ และต้องปฏิบัติตน ตามมาตรฐานและ จรรยาบรรณวิชาชีพ ๓. อาศยั หรือยอมใหผ้ ู้อ่ืนอาศัยอำนาจและหน้าท่รี าชการของตนไม่วา่ จะโดยทางตรง หรือ ทางอ้อมหา ประโยชนใ์ ห้แก่ตนเองและผอู้ น่ื ๔. ไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมายระเบียบแบบแผนของทางราชการและ หน่วยงาน การศึกษามติครม. หรือนโยบายของรัฐบาลโดยถือประโยชน์สูงสุดของผู้เรียน และไม่ให้ เกิดความเสียหายแก่ ราชการ ๕. ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาซึ่งสั่งในหน้าที่ราชการโดยชอบด้วยกฎหมายและ ระเบียบ ของทางราชการแต่ถ้าเห็นว่าการปฏิบัติตามคำสั่งนั้นจะทำให้เสียหายแก่ราชการ หรือจะ เป็นการไม่รักษา ประโยชน์ของทางราชการจะเสนอความเห็นเป็นหนังสอื ภายใน ๗ วัน เพื่อให้ผู้บังคับ บัญชาทบทวนคำสั่งก็ได้ และเมื่อเสนอความเห็นแล้ว ถ้าผู้บังคับบัญชายืนยันเป็นหนังสือให้ปฏิบัติ ตามคำสั่งเดิม ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา ตอ้ งปฏบิ ัตติ าม ๖. ไม่ตรงตอ่ เวลา ไม่อทุ ิศเวลาของตนใหแ้ กท่ างราชการและผเู้ รียน ละทง้ิ หรือทอดทิ้งหน้าท่ี ราชการ โดยไมม่ ีเหตผุ ลอันสมควร คู่มอื มาตรฐานการปฏบิ ัติงานของสถานศึกษา โรงเรียนบ้านทอน ~ 48 ~

๗. ไม่ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้เรียนชุมชน สังคม ไม่สุภาพเรียบร้อยและรักษา ความ สามัคคี ไมช่ ่วยเหลอื เก้ือกลู ต่อผเู้ รียนและข้าราชการดว้ ยกัน หรอื ผ้รู ่วมงานไม่ตอ้ นรบั หรือ ใหค้ วามสะดวก ให้ ความเปน็ ธรรมตอ่ ผเู้ รยี นและประชาชนผูม้ าตดิ ต่อราชการ ๘. กล่ันแกล้ง กลา่ วหา หรือร้องเรียนผู้อ่ืนโดยปราศจากความเปน็ จรงิ ๙. กระทำการหรือยอมให้ผู้อื่นกระทำการหาประโยชน์อันอาจทำให้เสื่อมเสียความเท่ียงธรรม หรือ เสอ่ื มเสียเกยี รตศิ ักดิ์ในตำแหนง่ หนา้ ทร่ี าชการของตน ๑๐. เปน็ กรรมการผูจ้ ัดการ หรือผู้จัดการ หรือดำรงตำแหนง่ อ่ืนใดทมี่ ีลักษณะงานคล้ายคลึงกนั น้ัน ใน ห้างหนุ้ สว่ นหรอื บริษทั ๑๑. ไม่วางตนเป็นกลางทางการเมืองในการปฏิบัติหน้าที่ และในการปฏิบัติการอื่นที่เกี่ยวข้อง กับ ประชาชนอาศัยอำนาจและหน้าที่ราชการของตนแสดงการฝักใฝส่ ่งเสรมิ เกื้อกูล สนับสนุนบุคคล กลุ่มบุคคล หรอื พรรคการเมืองใด ๑๒. กระทำการอันใดอนั ได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤตชิ ่ัว ๑๓. เสรมิ สร้างและพัฒนาให้ผู้อยู่ใต้บงั คบั บญั ชามีวินัย ไม่ปอ้ งกันมใิ ห้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา กระทำผิด วินัย หรือละเลย หรือมีพฤติกรรมปกป้อง ช่วยเหลือมิให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาถูกลงโทษทางวินัย หรือปฏิบัติ หนา้ ท่ีดงั กล่าวโดยไมส่ จุ ริต วนิ ยั รา้ ยแรง ได้แก่ ๑. ทจุ ริตต่อหนา้ ท่รี าชการ ๒. จงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมายระเบียบแบบแผนของทางราชการและหน่วยงานการศึกษามติครม. หรือนโยบายของรัฐบาลประมาทเลินเล่อหรือขาดการเอาใจใส่ระมัดระวังรักษาประโยชน์ ของทางราชการอัน เป็นเหตุใหเ้ กิดความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ๓. ขัดคำสงั่ หรอื หลีกเลยี่ งไมป่ ฏบิ ัติตามคำสง่ั ของผู้บังคบั บญั ชาซงึ่ สง่ั ในหน้าที่ราชการ โดยชอบดว้ ยกฎหมายและระเบียบของทางราชการอันเป็นเหตุให้เสยี หายแก่ราชการอย่างรา้ ยแรง ๔. ละทิ้งหน้าที่หรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการ อย่างร้ายแรง ๕. ละทงิ้ หนา้ ท่รี าชการตดิ ตอ่ ในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกวา่ ๑๕ วนั โดยไม่มีเหตุผลอนั สมควร ๖. กลั่นแกล้ง ดูหมิ่น เหยียดหยาม กดข่ี หรือข่มเหงผู้เรียนหรือประชาชนผู้มาติดตอ่ ราชการ อย่าง รา้ ยแรง ๗. กลั่นแกล้ง กล่าวหา หรือร้องเรียนผู้อื่นโดยปราศจากความเป็นจริง เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับ ความ เสยี หายอย่างรา้ ยแรง ค่มู อื มาตรฐานการปฏิบัตงิ านของสถานศึกษา โรงเรยี นบ้านทอน ~ 49 ~

๘. กระทำการหรือยอมให้ผู้อื่นกระทำการหาประโยชน์อันอาจทำให้เสื่อมเสียความเที่ยงธรรม หรือ เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ในตำแหน่งหน้าที่ราชการโดยมุ่งหมายจะให้เป็นการซื้อขายหรือให้ได้รับ แต่งตั้งให้ดำรง ตำแหน่งหรือวิทยฐานะใดโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเป็นการกระทำอันมีลักษณะ เป็นการให้หรือได้มาซ่ึง ทรพั ย์สนิ หรอื สิทธปิ ระโยชนอ์ ื่นเพ่ือให้ตนเองหรอื ผอู้ น่ื ไดร้ บั การบรรจแุ ละ แตง่ ตัง้ โดยมิชอบ ๙. คัดลอกหรือลอกเลียนผลงานทางวิชาการของผู้อ่ืนโดยมิชอบหรือนำเอาผลงานทางวิชาการของ ผู้อื่น หรือจ้างวาน ใช้ผู้อื่นทำผลงานทางวิชาการเพื่อไปใช้ในการเสนอขอปรับปรุงการกำหนดตำแหน่ง การ เลือ่ นตำแหน่ง การเลือ่ นวิทยฐานะ หรือการให้ไดร้ บั เงนิ เดอื นในระดับทสี่ ูงขึน้ ๑๐. ร่วมดำเนินการคัดลอกหรือลอกเลียนผลงานของผู้อื่นโดยมิชอบ หรือรับจัดทำผลงานทาง วิชาการ ไมว่ ่าจะมีค่าตอบแทนหรือไม่เพ่ือให้ผู้อ่นื นำผลงานน้ันไปใช้ประโยชนเ์ พ่ือปรบั ปรุงการกำหนดตำแหน่ง เลอ่ื นตำแหน่ง เลื่อนวทิ ยฐานะ หรือให้ไดร้ บั เงนิ เดอื นในอนั ดบั ที่สงู ข้นึ ๑๑. เข้าไปเกีย่ วขอ้ งกับการดำเนินการใด ๆ อนั มีลกั ษณะเป็นการทุจริตโดยการซื้อสิทธิหรือขายเสียง ในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่นหรือการเลือกตั้งอื่นที่มีลักษณะเป็นการ ส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตยรวมทั้งการส่งเสริม สนับสนุน หรือ ชักจูงให้ผู้อื่นกระทำการใน ลักษณะเดยี วกัน ๑๒. กระทำความผิดอาญาจนได้รับโทษจำคุก หรือโทษที่หนักกว่าจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุด ให้ จำคุกหรือให้รับโทษที่หนักกว่าจำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือลหุโทษ หรอื กระทำการอ่นื ใดอนั ได้ชือ่ วา่ เปน็ ผ้ปู ระพฤติชวั่ อยา่ งร้ายแรง ๑๓. เสพยาเสพตดิ หรอื สนับสนุนให้ผ้อู น่ื เสพยาเสพติด ๑๔. เล่นการพนนั เปน็ อาจณิ ๑๕. กระทำการลว่ งละเมิดทางเพศต่อผู้เรยี นหรือนักศึกษาไม่ว่าจะอยใู่ นความดูแลรับผิดชอบ ของตน หรอื ไม่ ค่มู อื มาตรฐานการปฏิบัตงิ านของสถานศึกษา โรงเรยี นบ้านทอน ~ 50 ~

การดำเนินการทางวินัย การดำเนินการทางวินัย กระบวนการและขั้นตอนการดำเนินการในการออกคำสั่งลงโทษ ซึ่งเป็น ขั้นตอนที่มีลำดับก่อนหลังต่อเนื่องกัน อันได้แก่ การตั้งเรื่องกล่าวหาการสืบสวนสอบสวน การพิจารณา ความผิดและกำหนดโทษและการสัง่ ลงโทษรวมท้ังการดำเนนิ การต่าง ๆ ในระหวา่ งการสอบสวนพิจารณา เชน่ การสั่งพกั การสง่ั ให้ออกไวก้ ่อน เพ่อื รอฟังผลการสอบสวนพิจารณา หลกั การดำเนินการทางวินัย ๑. กรณีที่ผู้บังคับบัญชาพบว่าผู้ใต้บังคับบัญชาผู้ใดกระทำผิดวินัยโดยมีพยานหลักฐานในเบื้องต้นอยู่ แล้วผ้บู ังคบั บญั ชาก็สามารถดำเนินการทางวนิ ัยได้ทนั ที ๒. กรณีที่มีการร้องเรียนด้วยวาจาให้จดปากคำ ให้ผู้ร้องเรียนลงลายมือชื่อและวัน เดือน ปี พร้อม รวบรวมพยานหลักฐานอื่น ๆ ประกอบการพิจารณาแล้วดำเนินการให้มีการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยตั้ง กรรมการสืบสวนหรอื ส่งั ใหบ้ คุ คลใดไปสืบสวนหากเหน็ วา่ มีมูลก็ตงั้ คณะกรรมการสอบสวน ตอ่ ไป ๓. กรณีมีการร้องเรียนเป็นหนังสือผู้บังคับบัญชาต้องสืบสวนในเบื้องต้นก่อนหากเห็นว่า ไม่มีมูลก็ส่ัง ยตุ ิเรือ่ งถา้ เห็นวา่ มีมลู ก็ตัง้ คณะกรรมการสอบสวนต่อไป กรณหี นงั สอื รอ้ งเรยี นไม่ลง ลายมือช่ือและที่อยู่ของผู้ รอ้ งเรียนหรอื ไม่ปรากฏพยานหลกั ฐานที่แน่นอนจะเข้าลักษณะของบัตร สนเท่ห์ มติครม.ห้ามมิให้รบั ฟังเพราะ จะทำให้ข้าราชการเสียขวญั ในการปฏบิ ัติหนา้ ที่ ขน้ั ตอนการดำเนนิ การทางวินยั 1. การตั้งเร่ืองกลา่ วหาเป็นการตัง้ เร่ืองดำเนินการทางวินัยแก่ขา้ ราชการ เมื่อปรากฏกรณีมมี ูลท่คี วร กล่าวหาว่า กระทำผิดวินัยมาตรา ๙๘ กำหนดให้ผู้บังคับบัญชาแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อดำเนินการ สอบสวนให้ได้ความจริงและความยุติธรรมโดยไม่ชักช้าผู้ตั้งเรื่องกล่าวหาคือ ผู้บังคับบัญชาของผู้ถูก กล่าวหาความผิดวินัยไม่ร้ายแรง ผู้บังคับบัญชาชั้นต้นคือ ผู้อำนวยการ สถานศึกษาสามารถแต่งตั้ง กรรมการสอบสวนข้าราชการในโรงเรียนทกุ คนความผิดวินัยร้ายแรง ผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจบรรจุ และแต่งตั้งตามมาตรา ๕๓ เป็นผู้มีอำนาจบรรจุและแต่งต้ัง คณะกรรมการสอบสวน ๒. การแจง้ ขอ้ กลา่ วหา มาตรา ๙๘ กำหนดไว้ว่า ในการสอบสวนจะต้องแจ้งข้อกล่าวหาและสรุป พยานหลักฐาน ทีส่ นับสนนุ ข้อกล่าวหาเทา่ ทมี่ ใี หผ้ ้ถู ูกกล่าวหาทราบ โดยระบหุ รอื ไม่ระบุช่อื พยานก็ได้เพือ่ ให้ ผู้ ถูกกล่าวหามโี อกาสช้ีแจงและนำสบื แก้ข้อกล่าวหา ๓. การสอบสวน คือ การรวบรวมพยานหลักฐานและการดำเนินการทั้งหลายอื่นเพื่อจะทราบ ข้อเท็จจริง และพฤติการณ์ต่าง ๆ หรือพิสูจน์เกี่ยวกับเรื่องท่ีกล่าวหาเพือ่ ให้ไดค้ วามจริงและยุติธรรมและ เพื่อ พิจารณาว่าผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำผิดวินัยจริงหรือไม่ถ้าผิดจริงก็จะได้ลงโทษ ข้อยกเว้น กรณีที่เป็นความผิดท่ี ปรากฏชัดแจ้งตามทก่ี ำหนดในกฎ ก.ค.ศ.จะดำเนินการ ทางวนิ ัยโดยไมส่ อบสวนก็ได้ คมู่ ือมาตรฐานการปฏบิ ตั งิ านของสถานศกึ ษา โรงเรยี นบ้านทอน ~ 51 ~

ความผดิ ท่ีปรากฏชดั แจ้งตามที่กำหนดในกฎ ก.ค.ศ. วา่ ดว้ ยกรณคี วามผดิ ท่ปี รากฏชดั แจ้ง พ.ศ. ๒๕๔๙ ก. การกระทำผิดวินยั อย่างไม่ร้ายแรงทเ่ี ป็นกรณีความผดิ ทป่ี รากฏอย่างชัดแจ้ง ได้แก่ (๑) กระทำความผิดอาญาจนต้องคำพิพากษาถงึ ทีส่ ุดวา่ ผนู้ น้ั กระทำผดิ และผู้บงั คับ บัญชาเหน็ ว่า ขอ้ เท็จจรงิ ตามคำพิพากษาประจกั ษ์ชดั (๒) กระทำผิดวนิ ัยไม่รา้ ยแรงและไดร้ บั สารภาพเป็นหนงั สอื ตอ่ ผบู้ ังคับบัญชาหรือให้ถ้อยคำรับ สารภาพต่อผูม้ หี นา้ ท่สี ืบสวนหรือคณะกรรมการสอบสวนโดยมีการบนั ทึกถ้อยคำเปน็ หนังสือ ข. การกระทำผิดวินัยอยา่ งรา้ ยแรงทเ่ี ปน็ กรณคี วามผดิ ท่ปี รากฏชดั แจ้ง ได้แก่ (๑) กระทำความผิดอาญาจนไดร้ ับโทษจำคุกหรอื โทษที่หนักกว่าจำคุกโดยคำพิพากษาถึงทีส่ ุดให้ จำคุกหรือลงโทษทีห่ นักกว่าจำคกุ (๒) ละทงิ้ หน้าทร่ี าชการติดต่อในคราวเดียวกันเปน็ เวลาเกินกว่า ๑๕ วนั ผบู้ ังคบั บัญชา สบื สวนแล้ว เหน็ ว่าไมม่ เี หตผุ ลสมควร หรือมีพฤติการณ์อันแสดงถึงความจงใจไมป่ ฏบิ ัตติ ามระเบยี บ ของทางราชการ (๓) กระทำผดิ วนิ ยั อย่างรา้ ยแรงและได้รับสารภาพเป็นหนงั สือตอ่ ผู้บังคับบัญชาหรอื ให้ ถ้อยคำรับ สารภาพตอ่ ผมู้ ีหน้าท่สี บื สวนหรอื คณะกรรมการสอบสวนโดยมกี ารบันทึกถ้อยคำเป็นหนังสือ การอทุ ธรณ์ มาตรา ๑๒๑ และมาตรา ๑๒๒ แห่งพระราชบัญญตั ิระเบียบขา้ ราชการครูและบคุ ลากร ทาง การศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๔๗ บญั ญตั ใิ ห้ผู้ถูกลงโทษทางวนิ ยั มสี ิทธอิ ุทธรณค์ ำสั่งลงโทษต่ออ.ก.ค.ศ. เขตพื้นท่ี การศกึ ษา อ.ก.ค.ศ.ท่ี ก.ค.ศ. ตงั้ แล้วแตก่ รณี ภายใน ๓๐ วนั เงอ่ื นไขในการอทุ ธรณ์ ผอู้ ุทธรณ์ ต้องเปน็ ผทู้ ่ีถูกลงโทษทางวนิ ัยและไม่พอใจผลของคำส่ังลงโทษผอู้ ทุ ธรณ์ ต้อง อทุ ธรณเ์ พือ่ ตนเองเท่าน้ัน ไม่อาจอุทธรณ์แทนผู้อ่นื ได้ ระยะเวลาอุทธรณ์ ภายใน ๓๐ วัน นบั แตว่ ันทีไ่ ดร้ ับแจ้งคำส่งั ลงโทษต้องทำเป็นหนงั สือ การอุทธรณ์โทษวินยั ไมร่ ้ายแรง การอุทธรณ์คำส่งั โทษภาคทัณฑ์ ตดั เงนิ เดือน หรือลดขน้ั เงินเดือน ท่ีผ้บู ังคบั บัญชาส่ังดว้ ยอำนาจของตนเอง ต้องอุทธรณต์ ่อ อ.ก.ค.ศ. เขตพน้ื ท่ีการศึกษาหรือ อ.ก.ค.ศ.ส่วน ราชการ เว้นแต่ การสงั่ ลงโทษตามมติใหอ้ ุทธรณ์ต่อ ก.ค.ศ. การอุทธรณ์โทษวินัยร้ายแรง การอุทธรณค์ ำสง่ั ลงโทษปลดออกหรอื ไลอ่ อกจากราชการต้องอุทธรณ์ ตอ่ ก.ค.ศ.ท้ังนี้การรอ้ งทกุ ขค์ ำสงั่ ให้ออกจากราชการหรอื คำส่ังพกั ราชการหรือให้ออกจากราชการไวก้ ่อนก็ต้อง ร้องทุกขต์ ่อก.ค.ศ.เชน่ เดียวกัน การรอ้ งทุกข์ หมายถงึ ผู้ถูกกระทบสิทธิหรือไมไ่ ด้รบั ความเปน็ ธรรมจากคำส่งั ของฝ่ายปกครอง คมู่ ือมาตรฐานการปฏบิ ัติงานของสถานศกึ ษา โรงเรียนบ้านทอน ~ 52 ~

หรอื คบั ข้องใจจากการกระทำของผู้บังคับบญั ชาใชส้ ทิ ธริ อ้ งทกุ ข์ขอความเป็นธรรมขอใหเ้ พกิ ถอนคำสงั่ หรอื ทบทวนการกระทำของฝา่ ยปกครองหรือของผบู้ ังคบั บัญชา มาตรา ๑๒๒ และมาตรา ๑๒๓ แห่งพระราชบัญญตั ริ ะเบียบขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากร ทางการศึกษา พ.ศ.๒๕๔๗บัญญัติให้ผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการมสี ิทธิร้องทุกข์ต่อก.ค.ศ.และผูซ้ ึ่งตน เห็นว่าตนไม่ได้รับความ เปน็ ธรรมหรอื มคี วามคับข้องใจเนื่องจากการกระทำของผ้บู ังคับบัญชาหรอื กรณีถูกต้ังกรรมการสอบสวนมีสิทธิ รอ้ งทกุ ข์ตอ่ อ.ก.ค.ศ.เขตพืน้ ทกี่ ารศึกษาอ.ก.ค.ศ.ทก่ี .ค.ศ.ต้ังหรือก.ค.ศ.แลว้ แต่กรณีภายใน๓๐วัน ผู้มสี ทิ ธริ อ้ งทุกข์ ได้แก่ ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา เหตทุ ่จี ะร้องทุกข์ (๑) ถกู ส่ังให้ออกจากราชการ (๒) ถูกสั่งพักราชการ (๓) ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้กอ่ น (๔) ไม่ได้รบั ความเปน็ ธรรม หรอื คับข้องใจจากการกระทำของผบู้ งั คบั บัญชา (๕) ถกู ตั้งกรรมการสอบสวน การเล่อื นข้ันเงินเดือน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจะได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนในแต่ละครั้งต้องอยู่ ในเกณฑ์ ดงั นี้ ๑. ในครึ่งปีที่แล้วมามีผลการปฏิบัติงาน ความประพฤติในการรักษาวินัย คุณธรรม จริยธรรม และ จรรยาบรรณวิชาชีพอยู่ในเกณฑ์ท่สี มควรได้เล่อื นขัน้ เงนิ เดอื น ๒. ในครึ่งปีที่แล้วมาจนถึงวันออกคำสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนไม่ถูกลงโทษทางวินัยที่หนักกว่าโทษ ภาคทณั ฑ์ หรอื ถกู ลงโทษในคดีอาญาใหล้ งโทษในความผิดที่เกย่ี วกับการปฏิบัติหน้าทร่ี าชการ หรือ ความผิดท่ี ทำให้เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตน ซึ่งไม่ไช่ความผิดที่ได้กระทำ โดยประมาทหรือ ความผิดลหุโทษ ๓. ในคร่ึงปีทแี่ ลว้ มาต้องไมถ่ ูกสัง่ พกั ราชการเกนิ กว่าสองเดือน ๔. ในครึง่ ปที ี่แลว้ มาตอ้ งไม่ขาดราชการโดยไม่มีเหตุผลอนั สมควร 5. ในครง่ึ ปีทแี่ ลว้ มาไดร้ ับการบรรจเุ ขา้ รบั ราชการมาแลว้ เปน็ เวลาไม่นอ้ ยกวา่ ส่เี ดือน 6. ในครง่ึ ปที ี่แล้วมาถา้ เปน็ ผู้ไดร้ ับอนญุ าตไปศกึ ษาในประเทศฝึกอบรมและดงู าน ณ ต่างประเทศตอ้ งได้ปฏบิ ตั หิ น้าทีร่ าชการในครึ่งปที ี่แล้วมาเปน็ เวลาไมน่ ้อยกวา่ ส่เี ดือน ๗. ในครง่ึ ปีทีแ่ ล้วมาต้องไม่ลาหรอื มาทำงานสายเกนิ จำนวนคร้ังทห่ี วั หน้าส่วนราชการกำหนด ๘. ในคร่งึ ปที แ่ี ล้วมาต้องมีเวลาปฏิบัติราชการหกเดือนโดยมีวนั ลาไม่เกินยี่สิบสามวัน แต่ไม่รวมวันลา ดงั ตอ่ ไปนี้ คู่มอื มาตรฐานการปฏบิ ตั ิงานของสถานศึกษา โรงเรียนบ้านทอน ~ 53 ~

๑) ลาอุปสมบทหรือลาไปประกอบพิธีฮจั ญ์ ๒) ลาคลอดบุตรไม่เกนิ เก้าสบิ วัน ๓) ลาป่วยซ่ึงจำเป็นตอ้ งรักษาตวั เป็นเวลานานไม่ว่าคราวเดียวหรอื หลายคราวรวมกนั ไมเ่ กนิ หกสบิ วนั ทำการ ๔) ลาป่วยเพราะประสบอันตรายในขณะปฏิบัติราชการตามหน้าที่หรือในขณะเดินทางไป หรือกลับ จากการปฏิบตั ิราชการตามหนา้ ที่ ๕) ลาพักผอ่ น ๖) ลาเข้ารับการตรวจเลือกหรือเข้ารบั การเตรียมพล ๗) ลาไปปฏบิ ตั งิ านในองคก์ ารระหวา่ งประเทศ การฝกึ อบรมและลาศกึ ษาต่อ การฝกึ อบรม หมายความวา่ การเพม่ิ พูนความร้คู วามชำนาญ หรอื ประสบการณ์ด้วยการเรียน หรือการวิจยั ตามหลกั สูตรของการฝกึ อบรม หรือการสัมมนาอบรมเชิงปฏบิ ัติการ การดำเนินงานตาม โครงการ แลกเปลยี่ นกับต่างประเทศ การไปเสนอผลงานทางวชิ าการ และการประชุมเชิงปฏิบตั ิการ ท้ังนี้โดยมิได้มี วตั ถปุ ระสงค์เพอ่ื ให้ได้มาซง่ึ ปริญญาหรอื ประกาศนยี บัตรวิชาชพี ที่ ก.พ.รบั รอง และหมายความรวมถึงการ ฝกึ ฝนภาษาและการรบั คำแนะนำก่อนฝึกอบรมหรือการดูงานท่ีเป็นสว่ นหนึ่งของการฝกึ อบรมหรอื ต่อจากการ ฝกึ อบรมนนั้ ดว้ ย การดูงาน หมายความว่า การเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ด้วยการสังเกตการณ์ และการ แลกเปลี่ยนความคดิ เห็น (การดูงานมีระยะเวลาไม่เกิน ๑๕ วัน ตามหลักสูตรหรือโครงการ หรือแผนการดงู าน ในตา่ งประเทศ หากมีระยะเวลาเกนิ กำหนดให้ดำเนินการเปน็ การฝกึ อบรม) การลาศึกษาต่อ หมายความว่า การเพิ่มพูนความรู้ด้วยการเรียนหรือการวิจัยตามหลักสูตรของ สถาบัน การศึกษา หรือสถาบันวิชาชีพ เพื่อให้ได้มาซึ่งปริญญาหรือประกาศนียบตั รวิชาชีพท่ี ก.พ.รับรองและ หมายความรวมถึงการฝึกฝนภาษาและการได้รับคำแนะนำก่อนเข้าศึกษาและการฝึกอบรม หรือการดูงานท่ี เป็นสว่ นหนง่ึ ของการศึกษาหรือตอ่ จากการศึกษานั้นดว้ ย การออกจากราชการของข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาออกจากราชการเมื่อ(มาตรา ๑๐๗ พ.ร.บ.ระเบยี บขา้ ราชการ ครฯู ) ๑) ตาย ๒) พน้ จากราชการตามกฎหมายวา่ ดว้ ยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ๓) ลาออกจากราชการและไดร้ ับอนุญาตใหล้ าออก ๔) ถูกสั่งใหอ้ อก คู่มอื มาตรฐานการปฏบิ ัตงิ านของสถานศึกษา โรงเรียนบ้านทอน ~ 54 ~

๕) ถกู ส่ังลงโทษปลดออกหรอื ไล่ออก ๖) ถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เว้นแต่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอื่นที่ไม่ต้องมี ใบอนุญาตประกอบวชิ าชพี การลาออกจากราชการ ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาผูใ้ ดประสงคจ์ ะลาออกจากราชการ ใหย้ น่ื หนงั สือลาออกต่อผู้บังคับบญั ชาเพือ่ ให้ผู้มีอำนาจตาม มาตรา ๕๓เปน็ ผู้พิจารณาอนญุ าต กรณีผู้มีอำนาจตาม มาตรา ๕๓ พิจารณาเห็นวา่ จำเป็นเพื่อประโยชน์แก่ราชการจะยับยั้งการอนุญาต ใหล้ าออกไว้เปน็ เวลาไม่เกิน ๙๐ วนั นับแต่วันขอลาออกกไ็ ด้ แตต่ ้องแจ้งการยบั ย้งั พรอ้ มเหตุผลใหผ้ ู้ขอลาออก ทราบ เมือ่ ครบกำหนดเวลาทีย่ ับยงั้ แล้วให้การลาออกมผี ลตัง้ แต่วันถดั จากวนั ครบกำหนดเวลาท่ียับยง้ั ถา้ ผูม้ อี ำนาจตามมาตรา ๕๓ ไม่ไดอ้ นญุ าตและไมไ่ ดย้ ับยัง้ การอนุญาตให้ลาออก ให้การลาออก มีผลต้ังแตว่ ันขอลาออก ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดประสงค์จะลาออกจากราชการเพื่อดำรงตำแหน่ง ทาง การเมอื งหรอื เพอ่ื สมัครรับเลือกต้ังให้ย่ืนหนังสือลาออกต่อผูบ้ ังคับบัญชาและใหก้ ารลาออกมีผลนับต้ังแต่วันที่ผู้ น้นั ขอลาออก ระเบียบ ก.ค.ศ ว่าดว้ ยการลาออกของขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ.๒๕๔๘ ขอ้ ๓ การยน่ื หนงั สอื ขอลาออกจากราชการให้ย่นื ล่วงหนา้ ก่อนวันขอลาออกไมน่ ้อยกวา่ ๓๐ วนั กรณีผู้มีอำนาจอนุญาตการลาออกเห็นว่ามีเหตุผลและความจำเป็นพิเศษ จะอนุญาตเป็นลายลักษณ์ อักษรกอ่ นวันขอลาออกใหผ้ ู้ประสงคจ์ ะลาออกยนื่ หนังสอื ขอลาออกลว่ งหนา้ นอ้ ยกวา่ ๓๐ วัน กไ็ ด้ หนังสือขอลาออกที่ยื่นล่วงหน้าก่อนวันขอลาออกน้อยกว่า ๓๐ วัน โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็น ลาย ลักษณ์อักษรจากผู้มีอำนาจอนุญาต หรือที่มิได้ระบุวันขอลาออก ให้ถือวันถัดจากวันครบกำหนด ๓๐ วัน นับ แต่วนั ยน่ื เปน็ วันขอลาออก ข้อ ๕ ผู้มีอำนาจอนุญาตการลาออกพิจารณาว่าจะสั่งอนุญาตให้ผู้นั้นลาออกจากราชการหรือจะส่ัง ยบั ย้ังการอนญุ าตให้ลาออกใหด้ ำเนนิ การ ดงั น้ี (๑) หากพิจารณาเห็นว่าควรอนุญาตให้ลาออกจากราชการได้ให้มีคำสั่งอนุญาตให้ลาออก เป็นลาย ลักษณอ์ กั ษรให้เสรจ็ สน้ิ ก่อนวนั ขอลาออกแลว้ แจ้งคำสง่ั ดงั กลา่ วใหผ้ ู้ขอลาออกทราบก่อนวัน ขอลาออกดว้ ย (๒) หากพิจารณาเหน็ ว่าควรยับยั้งการอนญุ าตให้ลาออกเนื่องจากจำเป็นเพอ่ื ประโยชน์แก่ ราชการ ให้ มีคำสั่งยับยั้งการอนุญาตให้ลาออกเป็นลายลักษณ์อักษรให้เสร็จสิ้นก่ อนวันขอลาออกแล้วแจ้งคำสั่งดังกล่าว พรอ้ มเหตผุ ลใหผ้ ู้ขอลาออกทราบก่อนวนั ขอลาออกดว้ ย ทง้ั นก้ี ารยบั ยั้งการอนุญาต ใหล้ าออกให้สั่งยับยั้งไว้ได้ เปน็ เวลาไม่เกิน ๙๐ วัน และส่งั ยบั ยงั้ ได้เพยี งคร้งั เดียวจะขยายอีกไม่ได้ เมอื่ ครบกำหนดเวลาทย่ี บั ยง้ั แลว้ ใหก้ าร ลาออกมีผลต้ังแตว่ ันถดั จากวันครบกำหนดเวลาทย่ี บั ยัง้ คู่มอื มาตรฐานการปฏบิ ัติงานของสถานศึกษา โรงเรยี นบ้านทอน ~ 55 ~

ข้อ ๖ กรณที ่ผี ูข้ อลาออกได้ออกจากราชการไปโดยผลของกฎหมาย เนอ่ื งจากผูม้ ีอำนาจ อนญุ าตมิได้มี คำสั่งอนุญาตให้ลาออกและมิได้มีคำสั่งยับยั้งการอนุญาตให้ลาออกก่อนวันขอลาออก หรือเนื่องจากครบ กำหนดเวลายับย้ังการอนุญาตให้ลาออกให้ผู้มีอำนาจอนุญาตมีหนังสือแจ้ง วันออกจากราชการให้ผู้ขอลาออก ทราบภายใน ๗ วัน นับแต่วันทผ่ี นู้ ั้นออกจากราชการและแจง้ ให้สว่ นราชการทเี่ ก่ียวข้องทราบดว้ ย ข้อ ๗ การย่ืนหนงั สือขอลาออกจากราชการเพอ่ื ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือเพื่อสมัครรับเลือกตั้งให้ยื่นต่อผู้บังคับบัญชาอย่างช้าภายในวันที่ขอลาออกและให้ผู้บังคับบัญชาดังกล่าว เสนอ หนังสือขอลาออกนั้นต่อผู้บังคับบัญชาชั้นเหนือขึ้นไปตามลำดับจนถึงผู้มีอำนาจอนุญาตการลาออก โดยเร็วเมื่อผู้มีอำนาจอนุญาตได้รับหนังสือขอลาออกแล้วให้มีคำสั่งอนุญาตออกจากราชการได้ตั้งแต่ วันที่ขอ ลาออก ๕. ครูอัตราจ้าง กรณีครูอัตราจ้างที่จ้างด้วยเงินงบประมาณให้ปฏิบัติหน้าที่ครู เช่น ปฏิบัติหน้าที่ครูผู้ช่วย ครูพ่ีเลี้ยง หรือปฏิบัติหน้าที่ครูที่เรียกชื่อย่างอื่นให้ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยลูกจ้าง ประจำของส่วน ราชการ พ.ศ. ๒๕๓๗ และแนวปฏิบัติที่ใช้เพือ่ การนน้ั ค่มู ือมาตรฐานการปฏบิ ัติงานของสถานศึกษา โรงเรียนบ้านทอน ~ 56 ~

บทที่ ๕ การบรหิ ารทั่วไป ความเปน็ มา งานด้านการบริหารทั่วไป เป็นภารกิจหนึ่งของโรงเรียนในการสนับสนุน ส่งเสริมการปฏิบัติงาน ของ โรงเรียนให้บรรลุตามนโยบาย และมาตรฐานการศึกษาที่โรงเรียนกำหนดให้มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล เช่น การดำเนินงานธุรการ งานเลขานุการคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน งานพัฒนาระบบและ เครือขา่ ย ข้อมูลสารสนเทศ การประสานและพฒั นาเครือข่ายการศึกษา การจัด ระบบการบริหารและพัฒนา องค์กร งานเทคโนโลยีสารสนเทศ การส่งเสริม สนับสนุนด้านวิชาการ งบประมาณ บุคลากรและบริหาร ทั่วไป การดูแลอาคารสถานที่และสภาพแวดล้อม การจัดทำสำมะโนผู้เรียน การรับนักเรียน การส่งเสริม และประสานงานการศึกษาในระบบ นอกระบบ และ ตามอัธยาศัย การระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษา งาน ส่งเสริมงานกิจการนักเรียน การประชาสมั พันธ์ งานการศึกษา การส่งเสริมสนับสนุน และสถาบันสังคมอืน่ ที่ จัดการศึกษา งานประสานราชการกับเขตพื้นที่การศึกษาและหน่วยงานอื่น การจัดระบบการควบคุมใน หน่วยงาน งานบรกิ ารสาธารณะ หลักการและแนวคิด ๑. ยึดหลกั ใหสถานศึกษามคี วามเป็นอสิ ระในการบรหิ ารและจัดการศึกษาดวยตนเองใหมากท่ีสุด โดยเขตพื้นที่การศึกษามีหนาที่กํากับ ดูแล สงเสริม สนับสนุน และประสานงานในเชิง นโยบายใหสถานศกึ ษาจดั การศึกษาใหเป็นไปตามนโยบายและมาตรฐานการศึกษาของชาติ ๒. มุงสงเสริมประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการบริหารและการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ตามหลกั การการบรหิ ารงานท่ีมงุ เนนผลสัมฤทธข์ิ องงานเป็นหลัก โดยเนนความโปรงใส ความ รบั ผิดชอบทตี่ รวจสอบไดตามกฎเกณฑ กตกิ า ตลอดจนการมีสวนรวมของบุคคล ชุมชน และ องคกรทเ่ี กีย่ วของ ๓. มุงพัฒนาองคกรระดับสถานศึกษาใหเป็นองคกรสมัยใหม โดยนํานวัตกรรมและเทคโนโลยี มาใชอยางเหมาะสม สามารถเชื่อมโยงติดตอสื่อสารกันไดอยางรวดเร็วดวยระบบเครือขาย และเทคโนโลยีท่ที ันสมัย บทบาทและหน้าที่ของกลมุ่ บริหารทวั่ ไป หัวหน้ากลุ่มบริหารทั่วไป มีหนา้ ที่รับผิดชอบในขอบขา่ ยตอ่ ไปน้ี 1. เปน็ ที่ปรึกษาของผู้อำนวยการโรงเรยี นเกยี่ วกับงานบรหิ ารท่ัวโรงเรียน 2. กำกับ ตดิ ตาม การดำเนนิ งานของกลมุ่ บรหิ ารท่วั ไปใหด้ ำเนินไปดว้ ยความเรียบร้อย และมี ประสิทธภิ าพ คมู่ อื มาตรฐานการปฏบิ ัตงิ านของสถานศกึ ษา โรงเรยี นบ้านทอน ~ 57 ~

3. กำหนดหนา้ ทข่ี องบุคลากรในกลมุ่ บริหารท่วั ไป และควบคุมการปฏบิ ตั งิ านของสำนักงานบริหาร ทัว่ ไป 4. บรหิ ารจัดการในสายงานตามบทบาทและหนา้ ทคี่ วามรับผิดชอบได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 5. กำกบั ติดตาม ให้งานแผนงานและบริหารทั่วไป ประสานฝา่ ยต่าง ๆ เพอ่ื ดำเนินกิจกรรม งาน โครงการ ให้เปน็ ไปตามแผนปฏิบัติการ และปฏิบตั ิการของโรงเรียน 6. กำกับ ติดตาม ประสานงานให้มีการรวบรวมขอ้ มูล สถติ ิเก่ียวกับงานบริหารท่ัวไปให้เป็นปัจจุบัน เพ่ือนำไปใชเ้ ป็นแนวทางในการพัฒนา และแกไ้ ขปัญหา 7. ควบคุม กำกับ ตดิ ตาม การดำเนินงานและประเมินผลการปฏบิ ตั ิงานของบุคลากรในกลุ่มบริหาร ท่ัวไป อย่างต่อเนื่อง 8. ตดิ ตามประสานประโยชน์ของครู ผู้ปฏิบัตหิ นา้ ทีแ่ ละปฏิบัตหิ นา้ ทพ่ี เิ ศษ เพื่อสรา้ งขวัญและ กำลังใจ 9. วินิจฉัยสั่งการงานที่รับมอบหมายไปยงั งานทเ่ี ก่ียวข้อง 10.ตดิ ตามผลสัมฤทธแ์ิ ละประเมินผลการปฏบิ ตั งิ านเพื่อสรุปปัญหา และอปุ สรรคในการดำเนนิ งาน เพอื่ หาแนวทางในการพัฒนางานให้มีประสทิ ธิภาพยงิ่ ขนึ้ 11.กำกับ ติดตาม ให้งานติดตามประเมินผล และประสานงาน ดำเนินการติดตามการปฏบิ ัติงานของ ทุกงานพร้อมรายงานผลการปฏบิ ตั ิอยา่ งต่อเน่ือง 12.ประสานงานคณะกรรมการสถานศกึ ษาขั้นพืน้ ฐานโรงเรียนวัดนางแกว้ 13.ตดิ ตอ่ ประสานงานระหว่างโรงเรียนกบั หนว่ ยงานภายนอกในส่วนที่เกี่ยวขอ้ งกบั งานบรหิ ารทว่ั ไป 14.ปฏิบัตหิ นา้ ที่อนื่ ๆ ตามที่ไดร้ ับมอบหมาย งานสำนักงานกลมุ่ บรหิ ารทั่วไป ๑. งานสารบรรณกลมุ่ บริหารบริหารทวั่ ไป มหี น้าทร่ี ับผิดชอบในขอบขา่ ยตอ่ ไปนี้ ๑.๑ จัดทำแผนพฒั นางาน/โครงการ แผนปฏิบตั ริ าชการและปฏทิ ินงานเสนอรองกลุม่ บรหิ ารทว่ั ไป เพอ่ื จดั สรรงบประมาณ ๑.๒ จดั หา จัดซอ้ื ทรัพยากรที่จำเป็นในสำนกั งานกล่มุ บริหารท่วั ไป ๑.๓ จัดทำทะเบยี นรับ – ส่ง หนังสือราชการ โดยแยกประเภทของเอกสารและหนังสอื ของสำนกั งาน ใหเ้ ป็นหมวดหมู่มรี ะบบการเก็บเอกสารท่ีสามารถคน้ หาเร่ืองได้อย่างรวดเร็ว ๑.๔ โต้ตอบหนังสอื ราชการ ตรวจสอบความถกู ต้องของเอกสาร หลักฐานให้ถูกตอ้ งตามระเบยี บ ของงานสารบรรณอย่างรวดเรว็ และทันเวลา ๑.๕ จดั สง่ หนังสอื ราชการ เอกสารของกลมุ่ บริหารทว่ั ไป ให้งานท่ีรบั ผดิ ชอบและตดิ ตามเรื่องเกบ็ คืน จัดเขา้ แฟ้มเร่อื ง ๑.๖ จดั พิมพ์เอกสารและจดั ถ่ายเอกสารตา่ ง ๆ ของกลุม่ บรหิ ารทว่ั ไป เชน่ บนั ทกึ ข้อความ แบบ สำรวจแบบสอบถาม แบบประเมินผลงานระเบยี บและคำส่ัง คู่มือมาตรฐานการปฏบิ ัตงิ านของสถานศกึ ษา โรงเรยี นบ้านทอน ~ 58 ~

๑.๗ ประสานงานดา้ นขอ้ มูลและรว่ มมือกับกลุม่ บริหารงานต่าง ๆ ในโรงเรียน เพื่อให้เกิดความเข้าใจ และร่วมมืออันดตี ่อกนั ในการดำเนนิ งานตามแผน ๑.๘ ประเมินผลและสรุปรายงานผลปฏบิ ตั ริ าชการประจำปี ๑.๙ ปฏบิ ัติหน้าทอ่ี ื่น ๆ ตามที่ไดร้ ับมอบหมาย ๒. งานพัสดกุ ลุ่มบริหารทวั่ ไป ๒.๑ ประสานงานในกล่มุ งานบริหารทว่ั ไป วางแผน จดั ซื้อ จัดหาวัสดุ ครภุ ัณฑ์ทจี่ ำเป็นในการ ซ่อมแซมอาคารสถานที่ สาธารณูปโภคและอปุ กรณ์อำนวยความสะดวกท่ีชำรุด โดยประสานงานกบั พสั ดุ โรงเรียน ๒.๒ จดั ทำบญั ชคี วบคมุ การเบกิ จ่ายวัสดุ ยืมวัสดุใหถ้ ูกต้องมีระบบและเป็นปัจจบุ ัน ๒.๓ จดั ทำระเบยี บ แนวปฏบิ ัติ แบบรายงาน แบบฟอรม์ ต่าง ๆ ที่จำเปน็ ในการใหบ้ ริการปรบั ซ่อม ๒.๔ ติดตามการปรับซ่อมและบำรงุ รกั ษาสภาพวสั ดุ ครภุ ณั ฑ์ให้มีอายุการใช้งานยาวนาน ๒.๕ ประเมนิ สรปุ ผลการดำเนนิ งานประจำปีการศึกษาและรายงานต่อผเู้ กยี่ วข้อง ๒.๖ ปฏิบตั ิหน้าทีอ่ น่ื ๆ ตามทไ่ี ด้รบั มอบหมาย ๓. งานสารสนเทศกลุ่มบรหิ ารท่ัวไป ๓.๑ วางแผนงาน/โครงการ และจัดทรัพยากรทใี่ ช้ในงานสารสนเทศของกลุ่มบริหารทวั่ ไป ๓.๒ ประสานงานด้านความร่วมมอื เกีย่ วกบั ข้อมลู กับงานต่าง ๆ เพ่ือรวบรวมและจัดระบบขอ้ มลู สารสนเทศท่ีถูกต้องเหมาะสมและทันสมัยทีจ่ ะบ่งบอกถงึ สภาพปญั หาความต้องการ ๓.๓ รวบรวมข้อมลู เก่ยี วกบั นโยบายของโรงเรยี น เกณฑ์การประเมนิ มาตรฐานแนวทางการปฏิรูป การศึกษา ๓.๔ จดั ทำเอกสารเผยแพร่ข้อมลู ให้กลุ่มงาน ได้ใชป้ ระโยชน์ในการวางแผนแกป้ ญั หาหรือพัฒนางาน ในกลุ่มงานต่อไป ๓.๕ รว่ มมือกับสารสนเทศของโรงเรยี น เผยแพรง่ านของกลมุ่ บริหารทัว่ ไป ๓.๖ ประเมิน สรปุ รายงานผลการดำเนนิ งานประจำปกี ารศึกษา ๓.๗ ปฏิบตั หิ น้าทอ่ี นื่ ๆ ตามท่ีไดร้ บั มอบหมาย ๔. งานแผนงานกล่มุ บริหารทวั่ ไป ๔.๑ ประสานงานจดั ทำแผนพฒั นางาน แผนปฏบิ ัตริ าชการ/โครงการ ปฏทิ นิ ปฏบิ ัติงานกลมุ่ บรหิ าร ทว่ั ไป เสนอผู้บรหิ ารเพ่ือจัดสรรงบประมาณ ๔.๒ พจิ ารณาจัดแผนงาน/โครงการของกลุ่มบริหารทว่ั ไป ให้สอดคล้องกับนโยบายของโรงเรยี นและ เกณฑ์ประเมนิ มาตรฐานและการปฏริ ูปการศึกษา ๔.๓ กำกบั ตรวจสอบดแู ลงาน/โครงการ ให้เกดิ การดำเนินงานให้เป็นไปตามแผน ๔.๔ ประสานงานกบั แผนงานของโรงเรยี นและกลมุ่ งานตา่ ง ๆ เพื่อนำเอาเทคโนโลยีมาใชใ้ หม้ ี ประสิทธภิ าพ คมู่ อื มาตรฐานการปฏบิ ตั งิ านของสถานศึกษา โรงเรียนบ้านทอน ~ 59 ~

๔.๕ ประเมนิ สรุป รายงานผลการดำเนินงานตามแผนงาน/โครงการ ๔.๖ ปฏบิ ตั ิงานอืน่ ๆ ทีไ่ ด้รบั มอบหมาย งานอาคารสถานท่ีและสภาพแวดลอ้ ม มหี นา้ ทีร่ ับผิดชอบในขอบข่ายต่อไปนี้ ๑. วางแผนกำหนดงาน /โครงการงบประมาณแผนปฏิบัตงิ านด้านอาคารสถานที่และสภาพแวดลอ้ ม ตลอดจนการตดิ ตามการปฏบิ ัติงานของนักการ แม่บ้านทำความสะอาด ๒. วางแผนร่วมกบั แผนงานโรงเรียน พสั ดโุ รงเรียน เพ่ือเสนอของบประมาณจัดสรา้ งอาคารเรยี น และอาคารประกอบ เช่น หอ้ งเรยี น หอ้ งบริการ ห้องพเิ ศษใหเ้ พียงพอ กบั การใชบ้ ริการของโรงเรยี น ๓. จดั ซ้ือ จัดหาโต๊ะ เก้าอ้ี อุปกรณ์การสอน อุปกรณท์ ำความสะอาดห้องเรยี น ห้องบริการหอ้ ง พเิ ศษ ให้เพียงพอและอยูใ่ นสภาพท่ีดีอยู่ตลอดเวลา ๔. จัดเครือ่ งมือรักษาความปลอดภยั ในอาคาร ติดต้ังในท่ีทใ่ี ช้งานได้สะดวกใชง้ านไดท้ ันที ๕. จัดบรรยากาศภายในอาคารเรียน ตกแต่งอยา่ งสวยงาม เปน็ ระเบยี บ ประตหู นา้ ต่างอยูใ่ นสภาพ ดี ดูแลสอี าคารตา่ ง ๆใหเ้ รยี บร้อย มีปา้ ยบอกอาคารและห้องตา่ ง ๆ ๖. ประสานงานกับพสั ดุโรงเรยี นในการซ่อมแซมอาคารสถานท่ี ครภุ ณั ฑ์ โต๊ะ เก้าอี้ และอ่ืน ๆให้ อยใู่ นสภาพทเ่ี รียบร้อย ๗. ดูแลความสะอาดท่ัวไปของอาคารเรียน ห้องน้ำ หอ้ งส้วม ใหส้ ะอาด ปราศจากกล่ินรบกวน ๘. ตดิ ตาม ดูแลให้คำแนะนำในการใชอ้ าคารสถานที่ โดยการอบรมนักเรยี นในด้านการดแู ลรักษา ทรัพย์สินสมบัติของโรงเรยี น ๙. ประสานงานกับพสั ดโุ รงเรียนในการจำหนา่ ยพสั ดุเสื่อมสภาพออกจากบัญชพี ัสดุ ๑๐. ประสานงานกับหวั หนา้ อาคาร โดยนำข้อเสนอแนะ มาปรบั ปรุงงานให้ทนั เหตกุ ารณ์และความ ตอ้ งการของบคุ ลากรในโรงเรียน ๑๑. อำนวยความสะดวกในการใชอ้ าคารสถานทแ่ี กบ่ ุคคลภายนอก รวมท้ังวสั ดอุ นื่ ๆ จัดทำสถิตกิ าร ให้บรกิ ารและรวบรวมข้อมลู ๑๒. ประเมิน สรุปและรายงานผลการดำเนินงานตามแผนงาน/โครงการประจำปกี ารศกึ ษา ๑๓. ปฏบิ ัตงิ านอน่ื ๆ ท่ีไดร้ บั มอบหมาย งานสาธารณูปโภค มหี นา้ ทีร่ ับผดิ ชอบในขอบขา่ ยตอ่ ไปนี้ ๑. จัดทำแผนงานพฒั นางาน/โครงการเพ่ือเสนอต่อผู้บริหาร เพอ่ื จดั สรรงบประมาณ ๒. จดั ซ้ือ จดั หา สาธารณปู โภคในโรงเรยี นให้เพียงพออยตู่ ลอดเวลา ๓. กำหนดขอ้ ปฏิบัติและตดิ ตามการใชน้ ้ำ ใช้ไฟฟา้ ให้เป็นไปอย่างประหยัด ๔. จดั บริการและตดิ ตามการใชส้ าธารณูปโภคให้เป็นไปอย่างประหยัดและค้มุ คา่ คูม่ อื มาตรฐานการปฏบิ ตั งิ านของสถานศกึ ษา โรงเรยี นบ้านทอน ~ 60 ~

๕. มีมาตรการตรวจสอบคุณภาพของน้ำดม่ื นำ้ ใช้ เคร่ืองกรองนำ้ หม้อแปลงไฟฟา้ ตู้โทรศัพท์และ สาธารณปู โภคอื่น ๆ ให้อย่ใู นสภาพท่ไี ด้มาตรฐาน ๖. จัดทำป้ายคำขวัญ คำเตือน เก่ียวกับการใชน้ ำ้ ใชไ้ ฟฟา้ และโทรศัพท์ ๗. รว่ มมอื กับงานกจิ กรรมนักเรียน อบรมนักเรยี นเกีย่ วกับการใช้ไฟฟ้า ใชโ้ ทรศพั ท์ ๘. สำรวจ รวบรวม ขอ้ มูลเกี่ยวกับสาธารณปู โภคที่ชำรดุ ๙. ซ่อมแซมสาธารณูปโภคท่ีชำรดุ ให้อยใู่ นสภาพทด่ี ี และปลอดภัยอยตู่ ลอดเวลา ๑๐. ประเมินผลและสรุปรายงานผลการปฏิบัตงิ านตามแผนงาน/โครงการ ๑๑. ปฏิบตั ิงานอนื่ ๆ ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย งานธุรการ และสารบรรณ มีหน้าที่รบั ผิดชอบในขอบขา่ ยต่อไปน้ี ๑. รับ-สง่ เอกสาร ลงทะเบียนหนังสือเข้า – ออก จัดส่งหนงั สอื เขา้ หรอื เอกสารใหห้ นว่ ยงานหรือ บุคคลท่ีเก่ยี วขอ้ ง ๒. จดั ทำคำส่ังและจดหมายเวยี นเรือ่ งตา่ ง ๆ เพ่ือแจ้งให้กบั ครูและผู้เก่ียวข้องไดร้ ับทราบ ๓. เกบ็ หรือทำลายหนงั สอื เอกสารต่าง ๆตามระเบยี บงานสารบรรณ ๔. รวบรวมเอกสาร หลักฐาน ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ประกาศ คำสัง่ และวิธปี ฏิบัติทเี่ กี่ยวขอ้ งใหเ้ ป็น ปัจจุบนั อยเู่ สมอ และเวยี นให้ผู้ทีเ่ กย่ี วขอ้ งทราบ ๕. ร่างและพมิ พ์หนังสือออก หนังสือโตต้ อบถงึ สว่ นราชการ และหน่วยงานอน่ื ๖. ติดตามเอกสารของฝ่ายตา่ ง ๆ ท่เี กย่ี วข้องกับทางโรงเรยี นและเก็บรวบรวมเพอ่ื ใชเ้ ป็นขอ้ มูลใน การอ้างอิง ๗. ประสานงานการจดั สง่ จดหมาย ไปรษณยี ์ พสั ดุและเอกสารตา่ ง ๆ ของโรงเรยี น ๘. เป็นท่ปี รึกษาของรองผู้อำนวยการฝา่ ยบรหิ ารทั่วไปในเร่ืองงานสารบรรณ ๙. ควบคุมการรบั – ส่ง หนังสือของโรงเรยี น (E – Office) ๑๐. บริการทางจดหมายและสิง่ ตพี มิ พ์ทม่ี ีมาถึงโรงเรยี น ๑๑. จดั หนังสือเขา้ แฟ้มเพ่ือลงนาม ๑๒. ปฏบิ ัติหน้าท่อี ืน่ ๆ ตามท่ไี ด้รบั มอบหมาย งานยานพาหนะ มีหน้าทร่ี บั ผิดชอบในขอบขา่ ยตอ่ ไปน้ี ๑. จดั ทำแผนงาน / โครงการ เกีย่ วกับการจดั หา บำรงุ รกั ษา การให้บริการยานพาหนะแก่คณะครู และบุคลากรของโรงเรยี นตลอดจนกำหนดงบประมาณเสนอขออนุมัติ ๒. กำหนดหน้าทีค่ วามรบั ผิดชอบ ใหค้ วามรู้ พนักงานขบั รถ ตลอดจนพจิ ารณา จัดและให้บริการ พาหนะแก่บุคลากร ๓. กำกบั ตดิ ตาม จัดทำข้อมูล สถติ ิ การใช้ และให้บรกิ ารยานพาหนะของโรงเรยี น ๔. กำหนดแผนตรวจสอบ ซ่อมบำรงุ เพ่ือให้พาหนะใชก้ ารได้ และปลอดภัยตลอดเวลา ใหค้ ำแนะนำ คมู่ อื มาตรฐานการปฏิบัติงานของสถานศึกษา โรงเรียนบ้านทอน ~ 61 ~

เสนอผู้มอี ำนาจอนมุ ัติ ๕. ประเมินสรุปผลการดำเนินงานประจำปี ๖. ปฏิบตั ิหนา้ ท่อี นื่ ๆ ตามท่ีผู้บังคบั บญั ชามอบหมาย งานประชาสัมพนั ธ์ มีหน้าที่รับผิดชอบในขอบขา่ ยต่อไปน้ี ๑. กำหนดนโยบาย วางแผน งานโครงการ การดำเนนิ การประชาสมั พันธใ์ หส้ อดคลอ้ งกับนโยบายและ จดุ ประสงคข์ องโรงเรียน ๒. ประสานงาน ร่วมมือกบั กลุ่มสาระฯ และงานตา่ ง ๆ ของโรงเรยี นในการดำเนินงานดา้ น ประชาสมั พันธ์ ๓. ตอ้ นรับและบริการผมู้ าเยี่ยมชมหรอื ดูงานโรงเรียน ๔. ต้อนรบั และบรกิ ารผปู้ กครองหรอื แขกผู้มาติดต่อกบั นักเรียนและทางโรงเรยี น ๕. ประกาศข่าวสารของกลมุ่ สาระฯ หรือข่าวทางราชการใหบ้ ุคลากรในโรงเรียนทราบ ๖. ประสานงานด้านประชาสัมพันธ์ท้ังในและนอกโรงเรียน ๗. เป็นหน่วยงานหลกั ในการจัดพิธีการหรอื พิธกี รในงานพธิ ีการต่าง ๆ ของโรงเรียน ๘. เผยแพร่กิจกรรมตา่ ง ๆ และช่อื เสยี งของโรงเรยี นทางสื่อมวลชน ๙. จัดทำเอกสาร – จุลสารประชาสมั พนั ธเ์ พื่อเผยแพร่ขา่ วสาร รายงานผลการปฏิบัติงานและความ เคลอ่ื นไหวของโรงเรยี นให้นักเรียนและบุคลากรทว่ั ไปทราบ ๑๐. รวบรวม สรปุ ผลและสถิติต่าง ๆ เกยี่ วกบั งานประชาสัมพันธแ์ ละจัดทำรายงานประจำปขี องงาน ประชาสัมพันธ์ ๑๑. งานเลขานกุ ารการประชุมครโู รงเรียนบรมราชนิ นี าถราชวทิ ยาลยั ๑๒. ปฏิบัติหนา้ ทอ่ี ื่น ๆ ตามท่ีได้รับมอบหมาย งานพยาบาลและอนามัย มีหนา้ ท่ีรับผิดชอบในขอบข่ายต่อไปน้ี ๑. กำหนดนโยบาย วางแผนงานโครงการ การดำเนนิ งานของงานอนามัยโรงเรียนใหส้ อดคล้องกบั นโยบายและวตั ถุประสงค์ของโรงเรียน ๒. ประสานงานกับกล่มุ สาระการเรียนรแู้ ละงานตา่ ง ๆ ของโรงเรียน ในการดำเนินงานด้านอนามยั โรงเรยี น ๓. ควบคมุ ดูแล ห้องพยาบาลให้สะอาด ถูกสุขลกั ษณะ ๔. จัดเคร่ืองมือ เคร่ืองใช้ และอปุ กรณใ์ นการปฐมพยาบาล รักษาพยาบาลใหพ้ ร้อมและใชก้ ารไดท้ ันที ๕. จดั หายาและเวชภัณฑ์ เพื่อใช้ในการรักษาพยาบาลเบื้องตน้ ๖. จัดปฐมพยาบาลนกั เรยี น ครู – อาจารย์ และคนงานภารโรงในกรณีเจบ็ ป่วย และนำส่งโรงพยาบาล ตามความจำเป็น ๗. จดั บริการตรวจสุขภาพนกั เรยี น ครู – อาจารย์ นักการภารโรงและชุมชนใกล้เคียง ค่มู อื มาตรฐานการปฏบิ ัติงานของสถานศกึ ษา โรงเรียนบ้านทอน ~ 62 ~

๘. จดั ทำบตั รสุขภาพนักเรยี น ทำสถติ ิ บันทกึ สุขภาพ สถิตินำ้ หนกั และสว่ นสงู นักเรียน ๙. ตดิ ตอ่ แพทยห์ รือเจา้ หนา้ ท่ีอนามยั ใหภ้ ูมิค้มุ กนั แก่บุคลากรของโรงเรยี นหรอื ชมุ ชนใกลเ้ คียง ๑๐. ตดิ ต่อประสานงานกับผปู้ กครองนักเรียนในกรณีนักเรียนเจบ็ ป่วย ๑๑. แนะนำผปู้ ่วย ญาติ ประชาชนถงึ การปฏิบตั ิตนให้ปลอดภัยจากโรค ให้ภูมคิ ุ้มกนั โรค ๑๒. ให้คำแนะนำปรึกษาด้านสขุ ภาพนักเรยี น ๑๓. ประสานงานกบั ครูแนะแนว ครูท่ีปรึกษาหรือครูผูส้ อนเกย่ี วกับนักเรยี นท่ีมีปัญหาด้านสุขภาพ ๑๔. ใหค้ วามร่วมมือด้านการปฐมพยาบาลแกห่ นว่ ยงานอนื่ หรือกจิ กรรมของโรงเรยี นตามควรแก่ โอกาส ๑๕. จัดกจิ กรรมส่งเสรมิ สุขภาพอนามยั เชน่ จดั นิทรรศการเก่ียวกับสุขภาพอนามยั จดั ต้ังชมรม ชุมชน อาสาสมัครสาธารณสขุ ๑๖. จัดทำสถติ ิ ข้อมูลทางดา้ นสุขภาพอนามยั และจัดทำรายงานประจำภาคเรยี น ประจำปีของงาน อนามยั ๑๗. ปฏิบตั หิ น้าทอ่ี ่นื ๆ ตามที่ได้รบั มอบหมาย งานคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพน้ื ฐาน มีหน้าท่ีรับผดิ ชอบในขอบขา่ ยตอ่ ไปน้ี ๑. รวบรวมประมวลวเิ คราะหแ์ ละสังเคราะห์ข้อมลู ที่ใชใ้ นการประชมุ คณะกรรมการสถานศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน ๒. สนับสนนุ ข้อมูล รับทราบหรือดำเนนิ การตามมติที่ประชมุ ของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้น พืน้ ฐาน ๓. ดำเนินงานดา้ นธรุ การในการจดั ประชุมคณะกรรมการสถานศกึ ษาข้นั พื้นฐาน ๔. จดั ทำรายงานการประชมุ และแจง้ มติทีป่ ระชมุ ให้ผทู้ ีเ่ ก่ียวข้องเพอ่ื ทราบดำเนนิ การหรือถือปฏิบัติ แลว้ แตก่ รณี ๕. ประสานการดำเนนิ งานตามมตกิ ารประชมุ ในเร่ืองการอนุมตั ิ อนญุ าต สง่ั การ เร่งรัด การ ดำเนนิ การและรายงานผลการดำเนินการใหค้ ณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ๖. ปฏิบัติหนา้ ทีอ่ ่นื ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย งานชุมชนสมั พนั ธ์และบริการสาธารณะ มีหน้าท่ีรบั ผดิ ชอบในขอบขา่ ยต่อไปนี้ ๑. วางแผนกำหนดงาน โครงการงบประมาณแผนปฏิบัตงิ านด้านชุมชนสัมพันธแ์ ละบริการสาธารณะ ตลอดจนการติดตามการปฏิบตั ิงาน ๒. รวบรวมวิเคราะหข์ ้อมูลของชุมชน เพอื่ นำไปใชใ้ นงานสร้างความสมั พนั ธ์ระหว่างชมุ ชนกับ โรงเรยี นและบริการสาธารณะ ๓. ใหบ้ รกิ ารชมุ ชนในด้านข่าวสาร สุขภาพอนามยั อาคารสถานท่ี วัสดุ ครภุ ณั ฑ์ และวชิ าการ ๔. จดั กิจกรรมเพ่ือพฒั นาชุมชน เช่น การบริจาควสั ดุ สง่ิ ของ อปุ โภคบรโิ ภค ใหค้ วามรแู้ ละจดั ค่มู อื มาตรฐานการปฏิบัติงานของสถานศกึ ษา โรงเรยี นบ้านทอน ~ 63 ~

นิทรรศการ ๕. การมสี ว่ นร่วมในการอนรุ ักษ์ศลิ ปวฒั นธรรมไทย ประเพณีไทย ศาสนาและงานทเ่ี ก่ยี วกับชมุ ชน ๖. สนบั สนนุ ส่งเสริมให้มกี ารจดั ตั้งองค์กรต่าง ๆ เพื่อชว่ ยเหลอื โรงเรยี น เช่น สมาคมฯ มลู นิธิ ๗. ประสานและใหบ้ ริการแก่คณะครู ผูป้ กครอง ชุมชน หนว่ ยงานต่าง ๆ ท้งั ภาครัฐและเอกชนใน ด้าน อาคารสถานที่ วัสดุ ครุภัณฑ์ บุคลากร งบประมาณ ๘. รวบรวมขอ้ มูล จดั ทำสถิติ ๙. ประเมนิ สรุป รายงาน ผลการการดำเนนิ งานตามแผนงาน/โครงการประจำปกี ารศึกษา ๑๐. ปฏิบัตงิ านอื่น ๆ ที่ไดร้ ับมอบหมาย งานปอ้ งกนั อบุ ัติเหตแุ ละอัคคีภัย มหี น้าท่ีรับผิดชอบในขอบขา่ ยตอ่ ไปน้ี ๑. จดั ทำแผนงาน / โครงการ เก่ยี วกับการให้ความรู้เกย่ี วกับการปอ้ งกนั อุบตั ิเหตุและอัคคภี ยั ของ โรงเรียน ๒. กำหนดแนวทางปฏบิ ตั ใิ นการป้องกนั อุบัติเหตุและอัคคีภัย ใหค้ วามรนู้ ักเรยี น ครู และบคุ ลากร ๓. กำกบั ติดตาม จดั ทำข้อมูล สถติ ิ ตา่ ง ๆ เกีย่ วกบั การป้องกนั อบุ ตั ิเหตแุ ละอัคคภี ยั ๔. กำหนดแผนตรวจสอบ ซ่อมบำรงุ เพ่ือให้อปุ กรณ์ปอ้ งกนั อัคคภี ยั ใช้การได้ และปลอดภัย ตลอดเวลา ใหค้ ำแนะนำ เสนอผมู้ ีอำนาจอนุมัติ ๕. ประเมนิ สรุปผลการดำเนนิ งานประจำปี คู่มอื มาตรฐานการปฏิบตั ิงานของสถานศึกษา โรงเรยี นบ้านทอน ~ 64 ~


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook