สรุปผลการณ์วิเคราะห์บริบทของสถานศึกษา (SWOT Analysis)

สรปุ การฝกึ ประสบการณใ์ นสถานศึกษาต้นแบบ การพัฒนาข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา ก่อนแตง่ ต้ังให้ดารงตาแหน่ง รองผอู้ านวยการสถานศกึ ษา สงั กดั สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ของ นางสาวเยาวเรศ กรกัน กลมุ่ ๑๒ เลขท่ี ๑๒/๓ สถานท่ีฝึกประสบการณ์ แหง่ ท่ี ๑ วิทยาลยั การอาชีพนวมินทราชินีมกุ ดาหาร ระหว่างวันที่ ๒๕ – ๒๙ เมษายน ๒๕๖๕ สถานทฝี่ กึ ประสบการณ์ แหง่ ท่ี ๒ วิทยาลยั การอาชีพนิคมคาสรอ้ ย ระหว่างวนั ท่ี ๒ – ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๕

๑. ขอ้ มูลพน้ื ฐานสถานศึกษา ๑.๑ วทิ ยาลัยการอาชพี นวมินราชนิ ีมกุ ดาหาร เป็นสถานศกึ ษาขนาดใหญ่ ตง้ั อยู่เลขท่ี ๖๘ หมู่ ๖ ถนน ห้าธนั วามหาราช ตาบล มุกดาหาร อาเภอ เมืองมกุ ดาหาร จงั หวดั มุกดาหาร รหัสไปรษณยี ์ ๔๙๐๐๐ โทรศัพท์ ๐๔๒-๒๖๑๙๙๖๕ โทรสาร ๐๔๒-๒๖๑๙๙๖๔ มีบุคลากรทงั้ หมด ๑๒๗ คน โดยมีผู้บริหาร ๕ คน ขา้ ราชการ ครู ๓๓ คน พนกั งานราชการ ๑๘ คนครูพิเศษสอน ๔๓ คน และลูจ้างชั่วคราว ๓๓ คน มีนกั เรยี นนักศกึ ษา ท้ังหมด ๒,๑๔๕ คน โดยแบง่ เป็นระดับ ปวช.๑,๒๓๘ คน และระดับ ปวส. ๙๐๗ คน ๑.๒ วิทยาลัยการอาชีพนิคมคาสร้อย เปน็ สถานศึกษาขนาดเล็ก ต้ังอยู่เลขท่ี ๑๑๙ หมู่ ๑ ถนนชยางกูร ตาบลโชคชยั อาเภอนคิ มคาสร้อย จงั หวดั มุกดาหาร โทรศัพท์ ๐๔๒ – ๖๖๒๕๖๔ โทรสาร ๐๔๒ – ๖๖๒๕๒๒ มีบุคลากร ท้ังหมด ๕ คน โดยมผี ู้บริหาร ๒ คน ขา้ ราชการครู ๙ คน พนักงานราชการ (ครู) ๙ คน ครพู เิ ศษ สอน ๙ คน และลูกจ้างชวั่ คราว ๒๐ คน มจี านวนนักเรียนนักศึกษาท้งั หมด ๓๒๙ คน โดยแบง่ เป็นนักเรียน ระดบั ปวช. ๒๒๕ คน และนกั ศึกษาระดับ ปวส. ๑๐๔ คน และนกั เรียน ปวช. (ทวศิ กึ ษา) ๑๗๖ คน ๒. ค่านิยมและวัฒนธรรมท้องถน่ิ ๒.๑ วิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชนิ มี กุ ดาหาร จงั หวดั มุกดาหาร ยดึ ม่นั และสืบทอดประเพณีวัฒนธรรมอย่างเหนยี วแน่นและตอ่ เน่ืองคนมุกดาหาร เป็นคนใจดี กิริยามารยาทอ่อนน้อมถ่อมตนและเอือ้ เฟ้ือซ่ึงกันและกัน ซ่งึ จากหลักฐานท่ีได้รวบรวมไว้ มปี รากฏถึง ๘ ชนเผ่า ดงั คาขวญั ของมุกดาหารตอนหนงึ่ วา่ “แปดเผ่า ชนพื้นเมือง” อนั ได้แก่ เผ่าชาวไทยอสี าน ชาวผ้ไู ท ชาว ไทยข่า (บรู) ชาวไทยกระโซ่ ชาวไทยกะเลงิ ชาวไทยแสก ชาวไทยย้อและชาวไทยกุลา ชาวมุกดาหารสว่ นใหญ่ นบั ถอื ศาสนาพุทธ มีขนบธรรมเนียมประเพณีทสี่ าคญั และยังคงถือปฏบิ ัตสิ บื ต่อกันมา คอื ฮตี สบิ สองครองสิบส่ี นอกจากนี้ยังคงมีวัฒนธรรม ประเพณขี องชนเผ่าท่ีควรอนุรักษ์ ฟ้ืนฟแู ละยงั คงมีอยู่ในปัจจุบนั เพอื่ สง่ เสริมการ ท่องเที่ยว คือ ประเพณีส่วงเฮือ ประเพณีแห่กัณฑ์หลอน พธิ กี รรมโซ่ถัง่ บ้ัง พิธีเหยา พิธบี ายศรสี ู่ขวัญ การราเต้ย หัวดอนตาล การราวงภูไท การลาผญา เป็นตน้ ๒.๒ วิทยาลัยการอาชีพนิคมคาสร้อย อาเภอนิคมคาสร้อย ประกอบไปด้วยคนหลายชนเผ่า ท่ีเด่นชัด มากทส่ี ุด คือ ชนเผา่ ผู้ไทขา่ เดิมชนเผา่ ดัง้ เดิมซ่ึงอพยพมาจากอาเภอคาชะอี จังหวัดมกุ ดาหาร มาตงั้ ถิน่ ฐานใน เขตพืน้ ทอี่ าเภอนคิ มคาสร้อย เอกลกั ษณ์ทีเ่ ห็นเด่นชัดท่สี ดุ คอื ภาษาพดู (ภาษาภูไท) ต้งั ถ่นิ ฐานในหมูบ่ ้านม่วง ไข่ เขตตาบลกกแดง เขตตาบลร่มเกล้า นอกจากมีชนเผ่าอีสานซึ่งมีอยู่ท่ัวไป ลักษณะสังคมของอาเภอนิคม คาสร้อย เป็นสังคมเกษตรกรรม ในลักษณะเกษตรน้าฝนเป็นส่วนใหญ่ พืชที่ปลูกได้แก่ อ้อย ยางพารา ข้าว พืชไร่ ผลไม้ ได้แก่ น้อยหน่า ขนุน มะขามหวาน กระท้อน มะม่วง ฯลฯ พืชสวนได้แก่ ถั่วฝักยาว บวบ ฟักทอง ฟักเขียว ในด้านประเพณีวัฒนธรรม ประเพณีที่สาคัญของอาเภอนิคมคาสร้อย ได้แก่ 1) ประเพณี วันเข้าพรรษา (แห่เทียน) 2) ประเพณีวันสงกรานต์ 3) วันออกพรรษา 4) วันลอยกระทง 5) บุญผะเหวด 6) บุญเดือนสาม

๓. วเิ คราะห์บริบทของสถานศึกษา ๓.๑ กลยทุ ธ์ในการขบั เคลือ่ น Future Skill ของสถานศกึ ษา การวางแผน - Plan (P) จากสภาพปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (Covid-19) ในปัจจุบัน ทาให้เกิดการ แขง่ ขันทางด้านธุรกิจ และเทคโนโลยีสูง ครู บุคลากรทางการศึกษา และนกั เรียนนกั ศึกษาจงึ มคี วามจาเป็นที่ จะต้องพัฒนาตนเองให้ทันต่อโลกในยุคปัจจุบัน สถานศึกษาจึงได้กาหนดกลยุทธ์ในการผลักดันและขับเคลื่อน ให้เกดิ Future Skill กบั ครู บคุ ลากรทางการศกึ ษา และนักเรียนนักศึกษา ดงั นี้ - ประชุมช้ีแจงแนวทางการขับเคลื่อน Future Skill ของสถานศกึ ษา - แต่งตัง้ คณะกรรมการดาเนนิ งาน - ร่วมกันกาหนดทิศทาง วิธีการในการขับเคลื่อนโดยใช้ยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปีและนโยบาย ของสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา การปฏิบตั งิ าน – Do (D) การขับเคล่ือน Future Skill ของสถานศึกษาได้แบ่งออกเป็น ๒ ส่วน คือส่วนของครูและ บุคลากรทางการศกึ ษา และส่วนของผู้เรียน ดงั นี้ ๑) ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ไดด้ าเนินการขบั เคลอ่ื นทักษะใหมๆ่ ในการจัดการเรียนการสอน และทกั ษะในการ ปฏิบัติงานโดยใชเ้ ทคโนโลยี ในศตวรรษที่ ๒๑ และในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือไวรสั โคโรน่า (Covid - ๑๙) ดงั น้ี- จดั ฝึกอบรมการสร้างแฟ้มสะสมผลงานดจิ ทิ ัล (E-Port Folio) ใหก้ ับครูและบคุ ากรทาง การศกึ ษา - จัดฝึกอบรมการจดั การเรยี นการสอนออนไลน์ด้วย Google App for Education และ Applications ต่างๆ ทจี่ าเปน็ ในการจดั การเรยี นการสอนให้กบั ครูและบุคลากรทางการศึกษา- เปลยี่ นรปู แบบ การรายงานข้อมูลโดยใช้ Social Media แทนการรายงานแบบเดิม - การจัดทารายงานข้อมูลในรปู แบบ ดจิ ทิ ลั ๒) นกั เรยี นนกั ศกึ ษา ครูผู้สอนประจาวิชาได้ร่วมขับเคลื่อน Future Skill โดยการนาไปสู่ผู้เรียนโดยการเน้น ทกั ษะการใชส้ ื่อเทคโนโลยีตา่ งๆ ดงั น้ี - การเรียนออนไลน์ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าทาให้มี การปรับเปลี่ยนวิธีการจัดการเรียนการสอนท้ังแบบ Onsite, Online, On demand และ On hand ทา ใหผ้ เู้ รยี นเกิดทักษะท่จี าเปน็ ต่อกจิ กรรมการเรียนรู้ เช่น การใช้โทรศพั ท์มือถอื ในการเรยี นออนไลน์ - การเป็นผู้ประกอบการ สถานศึกษาได้สนับสนุนนักเรียนนักศึกษาให้จัดทาธุรกิจ ขนาดย่อมภายในสถานศึกษา เพื่อการฝึกทักษะในการประกอบกิจการ ภายใต้โครงการศูนย์บ่มเพาะ ผปู้ ระกอบการอาชีวศึกษา - พฒั นาตนเองจากเป็นผูช้ ม Youtube ให้เป็น Youtuber โดยให้เลือก Content ท่ีตนเองสนใจ แลว้ นาเสนอผ่านชอ่ งทาง Youtube

การตรวจสอบ - Check (C) การตรวจสอบผลการดาเนนิ งานการขับเคลอ่ื น Future Skill ของสถานศึกษา ได้ดาเนินการ ดังนี้ - ครผู ้สู อนประเมนิ ผลการปฏิบัติงานของผเู้ รยี น - ครผู ู้สอนรายงานผลการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนทกุ สัปดาห์ - ครูและบุคลากรทางการศึกษา และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกันประเมินผลการดาเนินงาน - การประเมณิ ด้านคุณธรรม จริยธรรมและคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ และด้านความสามารถ ในการประยุกตใ์ ช้และความรบั ผดิ ชอบ การติดตามและประเมนิ ผล - Action (A) - ติดตามและประเมินผลการทางานของครูและบุคลากรเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีในการ จัดการเรยี นการสอน และการรายงานข้อมลู ตา่ งๆ - ติดตามและประเมินผลผู้เรียนจากการรายงานผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน และคุณลักษระอัน พงึ ประสงค์ กลยทุ ธใ์ นการขับเคลือ่ น Future Skill ของสถานศกึ ษา

๓.๒ การสร้างความเข้มแข็งของระบบความร่วมมือกับสถานประกอบการ การวางแผน - Plan (P) สถานศึกษาได้วางแผนกาหนดแนวทางในการสร้างความเข้มแข็งของระบบความร่วมมือกับสถาน ประกอบการ และสถานศึกษามัธยมศกึ ษาในพ้ืนรับผิดชอบ ดังนี้ - ประชุมชี้แจงแนวทางในการดาเนินงานการสร้างความร่วมมือกับสถานประกอบการ และ สถานศึกษาตัวปอ้ นโดยดาเนนิ งานจากงานทิวภาคีของสถานศกึ ษา - แต่งต้ังคณะกรรมการดาเนินงานประชมุ วางแผนทกุ ภาคสว่ น - กาหนดพนื้ ท่ี กาหนดสถานประกอบการ และสถานศึกษาเป้าหมาย การปฏบิ ตั งิ าน – Do (D) สถานศกึ ษาได้ดาเนินการจัดทาความร่วมมือในการจัดการอาชีวศกึ ษาระบบทวภิ าคีกบั สถาน ประกอบการท่รี ับนักเรียนนักศึกษาเขา้ ฝกึ ประสบการณว์ ิชาชีพทัง้ ในระบบปกติ และระบบทวภิ าคี เพือ่ สรา้ ง ความเข็งแขง็ ระบบความร่วมมอื กบั ภาคเอกชนและสถานประกอบการในการพฒั นาคุณภาพการจัดการอาชีวอ ย่างเข้มข้นและมีคณุ ภาพ สถานศึกษาได้ขับเคล่ือนศนู ยบ์ ริหารเครอื ข่ายการผลติ และพัฒนากาลังคนตามบริบท เชิงพ้นื ที่เขตพฒั นาพเิ ศษร่วมกบั บรษิ ัทโตโยตา้ จากัด บรษิ ัทฮีโนจ่ ากัดและเปน็ เครือข่ายในการผลิตและพฒั นา กาลงั คนระดับจงั หวัด๑) รา้ นนิคมเครื่องเยน็ เลขท่ี ๒๔๖/๑ ม.๕ ต.นิคมคาสร้อย อ.นิคมคาสร้อย จ. มกุ ดาหาร ๒) การไฟฟ้าส่วนภมู ภิ าคอาเภอนคิ มคาสร้อย เลขที่ ๑๘๗ ม.๑๐ ต.นากอก อ.นคิ มคาสร้อย จ.มกุ ดาหาร๓) ร้าน พ.รุง่ เรอื งยนต์ เลขที่ ๒๘ ม. ๑๐ บา้ นเกษตรสมบรู ณ์ ต.นากอก อ.นิคมคาสรอ้ ย จ. มุกดาหาร๔.) บรษิ ทั ไทยสอท อาเภอเมือง มุกดาหาร และได้ดาเนนิ การจดั ทาความร่วมมอื ในการจัดการศึกษาให้ตอบรับกับนโยบายของรัฐบาลในการใช้ ทรัพยากรทางการศึกษาร่วมกัน การสรา้ งเครือข่ายทางการศึกษาและสนับสนนุ สง่ เสริมให้เกิดประโยชนส์ งู สดุ จึงไดร้ ่วมมือกับสถานศกึ ษาในเขตพนื้ ที่รบั ผิดชอบเพือ่ จัดการศึกษาในรปู แบบทวิศึกษา จานวน ๔ สถานศึกษา ดงั น้ี ๑) โรงเรียนแวงใหญพ่ ทิ ยาสรรค์ ต.หนองแวง อ.นิคมคาสรอ้ ย จ.มกุ ดาหาร ๒) โรงเรยี นนาโสกวิทยาคาร ต.นาโสก อ.นิคมคาสรอ้ ย จ.มุกดาหาร ๓) โรงเรยี นดงเยน็ วิทยาคม ต.ดงเย็น อ.เมอื ง จ.มุกดาหาร๔) โรงเรียนเลงิ นกทา อ.เลงิ นกทา จ.ยโสธร และในการศกึ ษา ๒๕๖๕ สถานศกึ ษาได้กาหนดนโยบายในการพฒั นาการร่วมมือกับสถาน ประกอบการและสถานศึกษาโดยการกาหนใหท้ ุกแผนกวิชาหาสถานประกอบการทีจ่ ะสง่ นกั เรียนนักศึกษาเขา้ ฝึกประสบการณ์ และทาบันทึกข้อตกลงความรว่ มมือเพม่ิ พรอ้ มทง้ั ความร่วมมือในการจดั การศึกษา (MOU) การจัดการอาชวี ศึกษามีเปา้ หมายในการเปิดสอนระดับปริญญาตรี สาขางานยายนยนตไ์ ฟฟา้ การตรวจสอบ - Check (C) จากที่ไดท้ าการทาความรว่ มมือในการจัดการศึกษาร่วมกบั สถานประกอบการ และสถานศกึ ษาใน เขตพืน้ ที่รับผิดชอบ สถานศึกษาได้ดาเนินการตรวจสอบและประเมินผลสัมฤทธทิ์ างการศกึ ษา ดังน้ี - สอบถามความพึงพอใจของสถานประกอบการความพึงพอใจนักเรียนนักศึกษา และผู้ปกครอง - สอบถามความพึงพอใจกับสถานศึกษามัธยมศกึ ษาในเขตพื้นทรี่ บั ผดิ ชอบ

การตดิ ตามและประเมนิ ผล - Action (A) การรายงานผลการนิเทศของครผู ู้สอนเปน็ สว่ นหนึง่ ของการทาความรว่ มมือทางวิชาการเพอื่ การ จัดการอาชวี ศึกษา ในการพัฒนาศกั ยภาพผเู้ รยี นอาชีวศกึ ษาทีต่ รงตอ่ ความต้องการของตลาดแรงงาน การ ทาบันทกึ ขอ้ ตกลงความรว่ มมือระหว่างสถานศกึ ษาและสถานประกอบการ สถานศกึ ษารายงานขอ้ มูลในระบบ ฐานข้อมลู สานกั ความรว่ มมือ เพือ่ เป็นขอ้ มลู ในการตดิ ตามและพฒั นาต่อไป การสรา้ งความเข้มแข็งของระบบความร่วมมือกบั สถานประกอบการ ๓.๓ ระบบการบรหิ ารจัดการสูค่ ณุ ภาพ การวางแผน - Plan (P) สถานศึกษาได้ประชุมคณะกรรมการวิทยาลัยคณะกรรมการบริหารสถานศึกษา และคณะครูและ บุคลากรทางการศึกษา เพ่ือกาหนดแนวทางในการบริหารสถานศึกษาสู่ระบบคุณภาพด้วยวิธีการบริหารงาน แบบมีส่วนร่วม ใช้หลักธรรมมาภิบาลในการบริหารจัดการสถานศึกษาการทางานเป็นทีม การมีส่วนร่วมทุก ภาคส่วนโดยให้บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานขององค์กร เข้ามามีบทบาท มีส่วนร่วมในการ ตัดสินใจ และร่วมกาหนดแนวทางในการบริหารงานสู่คุณภาพ โดยร่วมกาหนดแนวทางในการปฏิบัติงานใน สถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศ เพ่ือการพัฒนาและยกระดับคุณภาพองค์กรสู่ความเป็นเลิศ ก้าวทันยุคไทยแลนด์ ๔.๐ สร้างผลงานที่เป็นที่ยอมรับของชุมชนและสถานประกอบการอย่างต่อเน่ือง จึงได้กาหนดแนวทางการ ปฏิบัติราชการสู่ความเป็นเลิศ ต่อยอดความสาเร็จ คือ “เรียบร้อย เรียบง่าย คนสาราญ งานสาเร็จ เบ็ดเสรจ็ บนความพอเพยี ง”

การปฏิบัติงาน – Do (D) การลงมืปฏิบัติงานภายใต้แนวทางการปฏิบัติ ที่ว่า “เรียบร้อย เรียบง่าย คนสาราญ งาน สาเร็จ เบ็ดเสร็จบนความพอเพยี ง” ๑. เรียบรอ้ ย เรียบง่าย ๑.๑ เรียบรอ้ ย (Complete) - ถกู ระเบียบ การทางานตอ้ งระเบียบ หรือกฎหมายทีเ่ กย่ี วขอ้ ง - ถูกหลกั การ ตอ้ งยดึ หลักการ ปฏิบัติงานตามแผนทีว่ างไว้ - ถกู สุขลักษณะ ต้องยดึ หลักความปลอดภยั ความสะอาด เรียบรอ้ ย - ถกู หลักสง่ิ แวดล้อม ไม่ทาลายสง่ิ แวดล้อม เปน็ มิตรกับส่งิ แวดล้อม ๑.๒ เรียบงา่ ย (Simplicity) - ไมย่ ุ่งยาก ไม่ซบั ซ้อน ลดข้ันตอนการทางาน ทาสง่ิ ยากๆ ใหม้ นั งา่ ย - เรยี บง่ายได้มาตรฐาน ผลของงานตรงตามเกณฑ์ และมาตรฐานทีก่ าหนด - ใช้ทรัพยากรท่ีมีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด การบริหารจัดการ การลงมือทางานบน พื้นฐานของความพอเพยี ง ๒. คนสาราญ งานสาเรจ็ ๒.๑ คนสาราญ (Happy Team) - คนมีความสุข (Happy) บุคลากรทุกคนมีความสุขในการทางาน และร่วมยินดีกับ ผลงานทท่ี า และยินดีกับผอู้ ่นื - ความมั่นคงในหน้าท่ีการงาน (Job security) ความม่ันคง ม่ันใจในตาแหน่งงาน และสถานท่ีทางาน - สวัสดิการในการทางาน (Welfare) บุคลากรได้รับการจัดสรรสวัสดิการท่ีจาเป็นใน การทางาน และการดารงชพี ๒.๒ งานสาเรจ็ (Successfully) - บรรลเุ ปา้ หมายรว่ มกัน (Goal) ภาระงานบรรลตุ ามวัตถปุ ระสงคท์ ีต่ ง้ั ไว้ - งานมคี ณุ ภาพ (Quality) งานมคี ุณภาพตามท่กี าหนด - งานรวดเร็วทันเวลา (Quick) งานเสรจ็ เรว็ ถูกตอ้ ง และทนั เวลา - ครบกระบวนการ PDCA มีการสรปุ การดาเนนิ งานในรปู แบบ PDCA ๓. เบด็ เสรจ็ บนความพอเพียง - ความพอประมาณ - ความมเี หตผุ ล - มภี ูมคิ ้มุ กนั - ๒ เง่อื นไข ๔ มิติ การตรวจสอบ - Check (C) สถานศกึ ษามีการกากบั ติดตามงานอย่างเป็นระบบ ตามระยะเวลาในการดาเนนิ โครงการ กิจกรรมการเรยี นการสอน ท่ีงานและฝ่ายไดร้ ับมอบหมาย เชน่ การดาเนนิ โครงการของงานทีร่ บั ผิดชอบใช้ แบบสอบถามในการประเมินโครงการเพอ่ื วิเคราะห์ สรปุ และรายงานผลการดาเนนิ ตามแผนงานโครงการที่ วางไว้ และการจัดทาผลการผลการประเมนิ ตนเองของแผนกวชิ า (Self-Assessment Report)

การติดตามและประเมินผล - Action (A) การรายงานผลการปฏิบัตงิ านของครูและบุคลากรทางกรทางการศึกษา การรายงานผลการจัดการ เรียนการสอน ผลการดาเนนิ กิจกรรมโครงการตลอดจน การรายงานผลการประเมนิ ตนเองประจาปีการศึกษา ของวทิ ยาลัย ระบบการบริหารจดั การสู่คุณภาพ ๓.๔ การขับเคลือ่ นระบบงานวิชาการ การวางแผน - Plan (P) สถานศึกษาไดป้ ระชมุ คณะกรรมการวทิ ยาลัย คณะกรรมการบริหารสถานศกึ ษา และคณะครูและ บคุ ลากรทางการศึกษาเพ่ือวางแผนกาหนดปฎิทนิ ประชมุ วางแผนแนวทางในการขับเคลื่อนระบบงานวิชาการ รว่ มกนั โดยใหท้ ุกฝ่ายไดแ้ สดงความคดิ เหน็ และที่มสี ว่ นเกี่ยวข้องกบั การปฏิบตั งิ านขององค์กรใหท้ ุกคนเข้ามามี บทบาทมีสว่ นร่วมในการตัดสินใจและรว่ มกาหนดแนวทางในการขับเคล่ือนระบบงานวิชาการโดยร่วมกาหนด แนวทางในการปฏิบตั งิ านในสถานศึกษาสู่ความเปน็ เลศิ เพื่อการพัฒนาและยกระดับคณุ ภาพองคก์ รกา้ วทันยุค ไทยแลนด์ ๔.๐ สรา้ งผลงานทเ่ี ป็นทย่ี อมรับของชมุ ชนและสถานประกอบการอย่างต่อเน่ือง การปฏบิ ตั ิงาน – Do (D) สถานศึกษาไดด้ าเนินการขับเคลือ่ นระบบงานวิชาการตามท่ีได้ประชุมพิจารณา ดงั น้ี ๑) พฒั นาหลกั สูตรฐานสมรรถนะและกระบวนการจัดการเรยี นร้ตู ามกรอบคณุ วฒุ ิวิชาชพี และ การต่อยอดองค์ความรู้โดยกรอบคณุ วฒุ ิวิชาชพี ยดึ ตามนโยบายของสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา เปน็ เกณฑ์ในการกาหนดระดับคณุ วุฒิวชิ าชีพให้สอดคล้องกับระดับสมรรถนะตามมาตรฐานอาชีพ กรอบคุณวฒุ ิ วชิ าชพี ในแต่ละระดบั จะอธบิ ายถึงกฎเกณฑ์ความรทู้ ักษะและ คุณสมบัติที่พึงประสงค์ขอบเขตความรบั ผิดชอบ ผลผลติ ทีพ่ งึ จะไดจ้ ากการปฏิบตั ิงานนวัตกรรมและระดับความ ยากง่ายของการทางานโดยเฉพาะ กรอบคุณวุฒิ วิชาชพี ในระดบั ต้นอาจจะเน้นให้สามารถปฏบิ ตั ิงานได้ตามเกณฑ์การปฏบิ ัติการ แตใ่ นระดบั คุณวฒุ ิสูงๆจะ

สามารถสร้างนวัตกรรมใหมห่ รือวธิ ีการในการ ทางานหรือคิดคน้ เทคโนโลยใี หม่ในอาชพี ของตนเอง เกณฑแ์ ละ คาอธบิ ายในกรอบคณุ วฒุ ิวิชาชพี จะอธิบายถงึ สมรรถนะขอบเขตความรบั ผดิ ชอบผลผลิตทพี่ ึงจะได้จากการ ปฏิบตั งิ าน ระดบั ความยากงา่ ยของการทางานและนวตั กรรมท่ีเปน็ กลางไม่เฉพาะเจาะจงอาชีพใดอาชพี หนึ่ง เพอื่ ยกระดับคุณวุฒวิ ิชาชีพและการพัฒนากาลงั คนของประเทศใหส้ ามารถแขง่ ขันในประชาคม เศรษฐกิจ อาเซียนและระดับสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ๒) พฒั นาศกั ยภาพครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาด้านอาชีวศึกษาให้มีสมรรถนะในการใช้และ สรา้ งนวัตกรรมการเรยี นร้ทู ท่ี ันสมัยในโลกดจิ ทิ ัลและโลกอนาคต (Next Normal) ดงั นี้ - สร้างและบูรณาการความรู้ได้ ครูจะต้องสามารถบูรณาการความรู้ต่างๆที่มี มาใช้ใน การสร้างสรรค์และพฒั นาองค์ความรู้ใหมๆ่ - มีความคิดวิเคราะห์และสร้างสรรค์ ครูจะต้องสอนให้เด็กมีทักษะกระบวนการคิด โดย สามารถคิดวเิ คราะหใ์ นเร่ืองตา่ งๆ และมคี วามคดิ สรา้ งสรรคท์ เี่ ป็นประโยชน์ - มีวิสัยทัศน์และตกผลึกทางความคิดเพื่อแลกเปล่ียนความคิดเห็นกับผู้เรียน ครูจะต้อง เป็นคนมีวิสัยทัศน์ เน้นให้เด็กเกิดการเรียนรู้ โดยการส่งเสริมการเรียนรู้แบบผู้เรียนเป็นสาคัญ เพื่อให้เด็กตก ผลกึ ทางความคิดไดด้ ้วยตัวเอง และมีโอกาสแลกเปล่ียนความคดิ เห็นระหว่างกนั - ครตู ้องร้แู ละเข้าใจเทคโนโลยีใหม่ มที กั ษะใหม่ๆ พรอ้ มทัง้ ชี้แนะข้อดีข้อเสียใหผ้ ู้เรยี นได้ ครูจะต้องสามารถใช้เทคโนโลยีส่งเสริมการศึกษาได้หลากหลาย และสามารถช้ีให้เด็กเห็นถึงข้อดีข้อเสีย และ การใช้เทคโนโลยีตา่ งๆ อยา่ งเหมาะสม - มีทักษะกระบวนการสอนการสอนเด็กให้เติบโตเต็มศักยภาพและสร้างผลงานใหม่ๆ ครู จะต้องส่งเสริมการเรียนรู้ให้เด็กตามวัยและให้เด็กพัฒนาอย่า งเต็มที่ตามศักยภาพของผู้เรียนและเน้นให้เด็ก เปลย่ี นจากเป็นผู้รับ กลายเป็นผพู้ ัฒนาและสรา้ งสรรคส์ ่ิงใหม่ - ต้องมีจรรยาบรรณ คุณธรรม จริยธรรม และชักชวนให้คนอ่ืนๆทาเพื่อสังคม ครูจะต้อง ยึดมั่นในจรรยาบรรณวชิ าชพี รกั ษาคณุ ธรรมจริยธรรมและเป็นบุคคลหน่งึ ในสังคมท่ีชว่ ยใหส้ มาชิกในสงั คมน้ันๆ มแี นวทางในการปฏบิ ตั ิตนตอ่ ตนเองแปละสังคมท่เี หมาะสม - มีบทบาทนาดา้ นการสอนและวิชาชพี พฒั นาคุณภาพของโรงเรยี นและในวิชาชพี รว่ มกับ ผู้บริหารมากข้ึน ครูจะต้องมีบทบาทต่อการส่งเสริม พัฒนา และประเมินผลการเรียนรู้และวิชาชีพในโรงเรียน ร่วมกับบุคลากร ผบู้ รหิ ารและชุมชน ๓) ขยายโอกาสทางการศึกษาด้านอาชีวศึกษาให้กับเยาวชนผู้ด้อยโอกาสและผู้พิการ ครอบคลมุ เสมอภาค และเท่าเทียม โดยโครงการเรยี นฟรี อยปู่ ระจา มีรายได้ มจี ัดข้นึ ตามนโยบายรัฐบาล สาหรับนกั เรยี นนักศึกษากลุ่มท่ีขาดโอกาสจากปัญหาต่าง เชน่ ปัญหาเศรษกจิ ปัญหาครอบครับ ปัญหาสงั คม เป็นต้น ๔) พัฒนาคณุ ภาพผ้เู รียน ใหม้ ีทักษะท่จี าเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ ดงั นี้ - ทกั ษะการคิดวิจารณญาณ (Critical Thinking) - ทกั ษะการทางานรว่ มกนั (Collaboration Skill) - ทักษะการสือ่ สาร (Communication Skill) - ทักษะความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) - ทกั ษะทางเทคโนโลยสี ารสนเทศ (Digital Skill) - ทกั ษะทางอาชีพและการใช้ชวี ติ (Career Skill & Life Skill)

๕) พฒั นาทกั ษะอาชีพในการทางานร่วมกับผู้อ่ืน และสถานประกอบการ คุณสมบตั ิทีจ่ าเป็น ในการทางานอาชีพ ดังน้ี - ความรับผิดชอบ ผู้เรียนต้องสามารถทางานตามหน้าที่ท่ีได้รับมอบหมายเพื่อให้ งานสาเรจ็ พร้อมกบั ยอมรบั ผลดหี รือผลเสยี ทเ่ี กดิ จากการทาหน้าที่ของตนเองและหาทางปรับปรงุ แก้ไขให้ดีขึ้น - ความขยันหมั่นเพียร ผู้เรียนต้องมีความขยันหม่ันเพียร ความพยายามในการ ทางานหรอื ทาหนา้ ทขี่ องตนเองอยา่ งแข็งขนั มงุ่ มนั่ เอาใจใส่อยา่ งจรงิ จงั พยายามทาเรอื่ ยไปจนกว่างานจะสาเร็จ ไม่ปล่อยปละละเลย และไม่ยอ่ ท้อต่อความยากลาบาก - ความมีระเบียบวินัย ผู้เรียนต้องปฏิบัติตนตามแบบแผนที่วางไว้เพื่อเป็นแนวทาง ปฏิบัติและดาเนินการให้ถูกลาดับ ถูกที่ มีความเรียบร้อย ถูกต้อง และเหมาะสมกับจรรยาบรรณ ข้อตกลง กฎหมาย และศีลธรรม รวมถงึ มีระเบียบวนิ ัยสาหรบั ควบคมุ การประพฤติปฏิบตั ใิ หเ้ ปน็ แบบแผนเดียวกนั - ความซื่อสัตย์สจุ ริต การประพฤติปฏิบัติตนอย่างตรงไปตรงมาทั้งกาย วาจา และ ใจ ตามความเป็นจริงท้งั ต่อตนเองและผ้อู ่ืน โดยไมค่ ิดทรยศ ไมค่ ดโกง และไมห่ ลอกลวงผู้อน่ื - ความประหยดั การรจู้ ักใช้ รูจ้ ักเกบ็ ออม รจู้ กั ประหยดั เวลา ตามความจาเป็นและ พอเหมาะพอควร เพื่อให้ได้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าท่ีสุด ความประหยัดจะทาให้มีทรัพย์สินเงินทอง มีฐานะทาง ครอบครวั ดขี ้นึ และทาใหเ้ ศรษฐกิจของประเทศชาติดีขนึ้ ด้วย ๖) ยกระดบั ห้องเรียนอาชพี เพ่อื ให้ผู้เรยี นสามารถนาไปประกอบอาชีพได้ ตามโครงการ ขบั เคล่ือนห้องเรยี นอาชีพในโรงเรียนมัธยมศกึ ษา โดยการสะสมผลการเรียน สถานศึกษาสังกดั สานกั งาน คณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ร่วมกับ สถานศึกษาสงั กัดสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน นา รายวิชาปรับพนื้ ฐานในหลักสตู รประกาศนียบัตรวิชาชพี ชัน้ สูง(ปวส.) ไปจัดการเรียนการสอนลว่ งหน้าให้กบั นกั เรยี นมธั ยมศึกษา เพอื่ สะสมหน่วยการเรียนรู้(Credit Bank) โดยมวี ตั ถุประสงคเ์ พ่ือส่งเสรมิ และเพิ่มโอกาส ทางการศึกษาดา้ นอาชีวศกึ ษาแก่นักเรียน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและเพ่ือขยายกลุ่มเป้าหมายผ้เู รียน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในการเขา้ สู่หลักสตู รอาชีวศึกษาระดบั ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพช้ันสูง (ปวส.) การตรวจสอบ - Check (C) ๑) ไดร้ บั การรับรองมาตรฐานจากหนว่ ยงานท่ีเก่ียวข้อง ผเู้ รียนในแต่ละสาขาวิชาผ่านการทดสอบ และไดร้ บั การรบั รองมาตรฐานฝีมอื แรงงานจากหนว่ ยงานท่ีเกย่ี วข้อง ๒) ร้อยละของผสู้ าเรจ็ การศกึ ษาและมีงานทา ผ้เู รียนทส่ี าเร็จการศกึ ษามงี านทา และศึกษาต่อใน ระดับทีส่ งู ขึน้ ๓) รวบรวมขอ้ มลู และผลการดาเนนิ งานทส่ี อดคล้องกบั เปา้ หมายและระดับความสาเรจ็ ๔) วเิ คราะหป์ ญั หาและอุปสรรคในการดาเนนิ การทางานของแตล่ ะโครงการ การติดตามและประเมนิ ผล - Action (A) ๑) การรายงานผลการนิเทศการสอน ฝ่ายบริหารมีการตรวจสอบติดตามการจัดกิจกรรมการ เรยี นการสอนของครูผู้สอนโดยการนิเทศ ๒) ผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน พิจารณาผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนโดยเปรียบเทียบจาดยอดแรกเข้า กับ ผ้สู าเรจ็ การศึกษา

๓) ผลการทดสอบมาตรฐานวิชาชีพ มาตรฐานฝีมือแรงงาน ผู้เรียนทุกคนท่ีจะจบการศึกษา จะต้องผ่านการทดสอบมาตรฐานวิชาชีพ และผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานในบาง สาขาวิชาทส่ี อบ ๔) กาหนดแนวทางในการปรับปรุงงานในครั้งต่อไปให้มีคุณภาพมากข้ึน ร่วมกันพิจารณาหา ขอ้ บกพรอ่ ง ผดิ พลาด และหาแนวทางในการดาเนินการแกไ้ ข การขบั เคลื่อนระบบงานวิชาการ